โวหาร

ตวิ ไทยไปด้วยกันO-NET ป.6

ฉบับ อยา่ เยอะ

โวหาร โวหาร หมายถงึ วิธีการเขียน ขอ้ สอบ
หมายถงึ อะไร ออกทกุ ปี
หรือ รปู แบบการเขยี น
แบง่ เป็น ๕ ประเภท คอื
๑. บรรยายโวหาร
๒. พรรณนาโวหาร
๓. สาธกโวหาร
๔. เทศนาโวหาร
๕. อุปมาโวหาร

บรรยายโวหาร

บรรยายโวหาร คือ โวหารท่ีใช้ในการ
เล่าเรื่อง อธิบายเรือ่ งราวโดยเขียนตามลาดบั
เหตุการณ์ ภาษาทใี ช้มคี วามชดั เจน
ตรงไปตรงมา เนน้ สาระสาคัญ มกั ใชเ้ ขยี นใน
การเขยี นทัว่ ๆ ไป เช่น การเขยี นบทความ
การเขยี นหนงั สือหรอื ตาราตา่ ง ๆ การเขยี น
เพอ่ื เล่าเร่ือง เหตุการณ์ รวมถึงการเขยี นขา่ ว ฯ

ม้าก้านกล้วยเป็นการเลน่ ทเ่ี กดิ บรรยายโวหาร
จากภูมิปัญญาพืน้ บา้ น ของเหลอื ใช้
จากการใชง้ านกน็ ามาประดิษฐเ์ ป็น ตวั อยา่ ง
ของเลน่ ใหเ้ ดก็ ๆ ได้

บรรยายโวหาร

พ่อเดนิ เข้าหากอไผป่ า่ เลอื กตัดลาเทา่ ขา ตวั อยา่ ง
มาสองปลอ้ ง ทาเปน็ กระบอก คัดเห็ดดอกใหญไ่ ป
ล้างในลาหว้ ยจนสะอาด บรรจุลงในกระบอกไมไ้ ผ่
จนแนน่ ไม่ต้องใส่น้า เตมิ เกลือและเติมนา้ พริกลง
ไปพอเหมาะ กอ่ ไฟเผากระบอกไมไ้ ผ่นั้น ไมน่ าน
นกั เหด็ กข็ บั น้าออกมาเดือดปุด ๆ…

พรรณนาโวหาร

พรรณนาโวหาร คอื โวหารทีใ่ ชภ้ าษา

ละเอียดลออ มุ่งใหผ้ ู้อา่ นเกิดภาพหรอื จนิ ตนาการ
มกี ารใชภ้ าพพจนห์ รือการเล่นเสยี ง ดังนั้น
ผูอ้ ่านจะเกิดอารมณซ์ าบซ้ึงเพลิดเพลินไปกบั
ข้อความที่อ่าน อาจกลา่ วได้ว่า ภาษาในการ
พรรณนาโวหารแตกตา่ งจากบรรยายโวหาร
ตรงทม่ี ีความไพเราะและสวยงามกว่า

พรรณนาโวหาร

“พระอาทิตยส์ แี ดงกลมโตคอ่ ย ๆ ตวั อยา่ ง
โผล่พ้นสนั เขาที่ทอดยาวทะมนึ ใหญผ่ า่ น
หมอกสีขาวหมน่ ณ เบ้ืองลา่ งมองเห็น
แมน่ ้าโขงเป็นประกายวบิ วับเม่ือมีแสงทอง
มากระทบ กระแสน้าพล้ิวเปน็ ระลอกราว
กบั มีมอื มาโบกพัดอยา่ งแผ่วเบา สายลม
พัดระเรอื่ ยผ่านผวิ กายเย็นฉา่ ชนื่ ใจ”

พรรณนาโวหาร

“...หมอกมวั ซัวทัว่ ทกุ แห่งหน ลมหนาว ตวั อยา่ ง
กรูเกรียวมาจนรา่ งเขาส่นั สะท้าน ตน้ ไม้ใบ
หญ้าท่ีพอมอี ยู่บ้างตามรมิ ทาง สัมผสั ละออง
หมอกทีพ่ ราวพรา่ งจนใบกลายเปน็ สขี าวหมน่
แล้วไหลตามร่องใบหยดลงดังเปาะแปะ
เม่อื กระทบใบไม้ทเี่ กลอื่ นตามใตต้ น้ ...”

นริ นั ศกั ดิ บญุ จันทร์ (๒๕๓๔,หน้า ๗๓)

สาธกโวหาร

สาธกโวหาร คอื โวหารที่มีการ

ยกตวั อย่างเหตกุ ารณ์ เร่อื งราวหรือส่ิงต่างๆ
เชน่ นิทาน ตานาน ประสบการณ์
ขึ้นมาเปรยี บเทียบ เพื่อสนบั สนุน
ข้อเท็จจริงหรือเหตผุ ลตา่ ง ๆ ใหม้ คี วาม
น่าเช่อื ถือและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น

สาธกโวหาร

เดก็ ทพี่ ดู โกหกเปน็ เด็กที่ไม่ดี ตวั อยา่ ง
เช่นเดียวกบั เดก็ เลยี้ งแกะท่ีพดู โกหกคกึ คะนอง
หลอกชาวบา้ นว่าหมาปา่ จะมากินแกะของตนจน
ชาวบา้ นแตกตนื่ มาชว่ ยเหลอื แตก่ พ็ บว่าถูกหลอก
เมื่อมหี มาปา่ มากินแกะจรงิ จึงไมม่ ีใครช่วยเหลอื
เพราะไม่มใี ครเชอื่ ถอื คาพูดของเด็กเล้ยี งแกะ
ทช่ี อบพดู โกหกอกี ต่อไป…

…ถ้าเธอไมอ่ ยากอยูก่ ับฉันจริง ๆ สาธกโวหาร
ยนิ ยอมทุกสง่ิ ใหเ้ ธอทง้ิ ไป ฉันขอแค่
เพียงให้เวลาหนอ่ ยได้ไหม อยากเลา่ นิทาน ตวั อยา่ ง
ให้ฟงั ชาวนาคนหน่งึ มชี วี ติ ลาพงั
ไปเจองูเหา่ กาลังใกล้ตายสงสารจึงเก็บเอามา
เลีย้ งโดยไม่รู้ สุดท้ายจะเป็นอยา่ งไร…

เทศนาโวหาร

เทศนาโวหาร คือ โวหารทม่ี ี

เรอ่ื งราวหรอื เนอ้ื หามุ่งเน้นไปในทางสัง่ สอน
ชักจงู ใหผ้ อู้ ่านคลอ้ ยตาม และนาไปปฏบิ ัติ
มกั ใชอ้ ธิบายหลกั ธรรม คติธรรม หรอื ใช้
ในการแนะนาสง่ั สอน มักแทรกอย่ใู นโวหาร
ชนิดอื่นๆ ด้วย

เทศนาโวหาร

“ การทาความดีนน้ั เมอื่ ทาแล้วกแ็ ลว้ กนั ตวั อยา่ ง
อยา่ ไดน้ ามาคิดถึงบอ่ ย ราวกบั ว่าการทาความดี
นัน้ ช่างยิง่ ใหญ่นกั ใครกท็ าไม่ได้เหมอื นเรา
ถ้าคดิ เช่นนั้นความดนี ้ันกจ็ ะเหลือเพยี งครึง่ เดียว
แตถ่ ้าทาแล้วก็ไม่นา่ นามาคิดอีก คดิ แตจ่ ะทา
อะไรต่อไปอกี จงึ จะดี จึงจะเป็นความดี
ทส่ี มบรู ณ์ ไม่ตกไม่หลน่ ”

“การคบคนดีเป็นศรแี ก่ตวั เทศนาโวหาร
แต่ท้ัง ๆ ทีพ่ ูดอย่างนี้ คนทขี่ าดปญั ญา
และขาดสตกิ ย็ ังหลงไปคบกับคนท่เี ลว ตวั อยา่ ง
คนทสี่ งั คมรังเกยี จ โดยหารู้ไมว่ ่าน่ันคอื
ทางหายนะของตน คนบางคน ทงั้ ๆ
ทรี่ ู้ว่าการพนันเปน็ บอ่ เกิดแห่งความช่วั
ก็ยังเข้าไปเกย่ี วขอ้ งอยนู่ ่ันเอง”

อปุ มาโวหาร

อุปมาโวหาร คือ โวหารทใี่ ช้ภาษา

เปรยี บเทียบเพ่ือให้เกดิ ความชัดเจน
โดยเปรียบเทียบสง่ิ หนึ่งกบั อกี สิง่ หนึง่
มักปรากฏคาวา่ ดัง ดจุ ประดจุ ราว
เฉก เช่น เหมอื น เสมอื น ปาน เปน็ ต้น

อุปมาโวหาร

อสรุ ผี เี ส้ือเหลอื จะอด ตวั อยา่ ง
เเค้นโอรสราวกับไฟไหมม้ ังสา
ช่างหลอกหลอนผอ่ นผนั จานรรจา
เเมน้ จะว่าโดยดมี ิเหน็ ฟงั

( พระอภยั มณี ตอน หนีนางผีเส้ือ ของสนุ ทรภู่)

อุปมาโวหาร

…รปู ร่างงามหาตาหนมิ ิได้ ผมดาราวกับ ตวั อยา่ ง
แมลงผึง้ หนา้ เปลง่ ปล่งั ดั่งดวงจันทร์ เนตร
ประหน่งึ ตากวาง จมกู แม้นดอกงา ฟันเทียบ
ไขม่ กุ ริมฝีปากเพยี งผลตาลึงสุก เสียงหวาน
ปานนกโกกิลา ขาคือลากลว้ ย…

(เสถียรโกเศศ : กามนติ )

ขอ้ ๑. บรรยายโวหาร ใช้ภาษาเรียบงา่ ย
แตกต่าง บรรยายหรอื เล่าตามลาดับ

๒. พรรณนาโวหาร เนน้ ความสวยงามของจดุ ใดจุดหน่ึง
กลา่ วถึงโดยละเอียด เนน้ ใหเ้ กิดภาพ
อารมณ์ และจินตนาการตาม

บรรยายโวหาร พรรณนาโวหาร
อธบิ ายเ ล่าเร่อื ง บรรยายใหเ้ ห็นภาพ
ทาใหเ้ กดิ จนิ ตนาการ
สาธกโวหาร
ยกตวั อย่าง ควรจา อปุ มาโวหาร
เปรียบเทยี บ

เทศนาโวหาร
สงั่ สอน

แบบทดสอบ

๑. ข้อใดใช้โวหารการเขียนได้เหมาะสม
๑. หากต้องการเล่าถงึ ภาพความประทับใจที่ไปเที่ยวมา
ควรใช้เทศนาโวหาร
๒. หากต้องการให้คาํ อธบิ ายประเดน็ ท่คี นสงสัยควรใช้เทศนาโวหาร
๓. หากต้องการยกตัวอย่างเพ่อื ให้ข้อคดิ ควรใช้พรรณนาโวหาร
๔. หากต้องการเล่าเรื่องกิจวัตรประจาํ วันควรใช้บรรยายโวหาร

แบบทดสอบ

๒. หากนักเรียนต้องการเตือนเพื่อนไม่ให้หลงเช่ือคนที่ไว้ใจไม่ได้ โดย

ต้องการยกตัวอย่าง นิทานเร่ืองชาวนากับงูเห่า ควรเลอื กใช้ โวหาร

ข้อใด

๑. สาธกโวหาร ๒. อุปมาโวหาร

๓. บรรยายโวหาร ๔. พรรณนาโวหาร

แบบทดสอบ

๓. การใช้เทศนาโวหารน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ใดมากที่สุด

๑. การเขียนจดหมาย ๒. การเขียนนวนยิ าย

๓. การปราศรัยหาเสียง ๔. การสอนแง่คิดในการดําเนินชีวติ

๔. โวหารการเขียนประเภทใดที่เหมาะกับการเล่าถงึ บรรยากาศ

พระอาทิตย์ตกดนิ ออกมาอย่างดีที่สุด

๑. เทศนาโวหาร ๒. พรรณนาโวหาร

๓. สาธกโวหาร ๔. อธิบายโวหาร

แบบทดสอบ

อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาํ ถามข้อ ๕ – ๗

นักเรียนได้รบั มอบหมายใหเ้ ขียนรายงาน เรื่อง “บคุ คลสาํ คัญของ
ประเทศไทย” เนื้อหาต้อง เล่าถึงประวัตชิ ีวิต ผลงาน รวมถงึ ข้อคดิ ที่บคุ คล
ดังกล่าวทาํ ประโยชน์เพื่อประเทศโดยจดุ ประสงค์ คือต้องทาํ ให้เหน็ ว่าบคุ คล
ดังกล่าวมีคณุ ความดี ให้คนรุ่นหลังเอาเป็นแบบอย่างได้

๕. โวหารใดที่เหมาะสมกับการเขียนเนอ้ื หาส่วนประวัตชิ ีวิตและผลงาน

๑. บรรยายโวหาร ๒. เทศนาโวหาร

๓. อุปมาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

๖. โวหารใดที่เหมาะสมกับการเขียนเนื้อหาเพ่ือชักจูงให้ผู้อ่านเห็น

ตัวอย่างของบคุ คลนัน้ แล้วนําไปปฏบิ ัติ

๑. บรรยายโวหาร ๒. พรรณนาโวหาร

๓. เทศนาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

๗. ถ้าต้องการแทรกตัวอย่างเพ่ือให้ข้อคดิ ในข้อ ๖. ชัดเจนมากย่ิงข้ึน

ควรใช้โวหารชนิดใด

๑. พรรณนาโวหาร ๒. บรรยายโวหาร

๓. เทศนาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคําถามข้อ ๘ – ๙

วนิดาต้องการแต่งนวนิยายเร่ืองหน่ึง โดยตั้งใจให้นวนยิ ายเรอ่ื งนีเ้ ก่ยี วกับ
เดก็ นักเรียนที่ขีเ้ กียจเรียนหนังสอื จนวันหนึ่งครอบครัวของเดก็ คนนั้นต้องเสีย
พ่อไป จึงทาํ ให้เดก็ คนนั้นต้องเปล่ยี นพฤติกรรม เพ่ือให้ข้อคิดกับเดก็ รุ่นใหม่

๘. หากวนิดาต้องการเล่าถึงฉากท่ตี ัวละครเศร้าจากการสูญเสียพ่อไปจนนํามาสู่

การเปลี่ยนแปลง ควรใช้โวหารการเขียนใดจึงเหมาะสมที่สดุ

๑. สาธกโวหาร ๒. เทศนาโวหาร

๓. บรรยายโวหาร ๔. พรรณนาโวหาร

แบบทดสอบ

๙. หากวนดิ าต้องการเน้นข้อคิดให้สามารถจูงใจความคิดของผู้อ่านได้

ควรใช้โวหารการเขียนใด

1. สาธกโวหาร 2. เทศนาโวหาร

3. บรรยายโวหาร 4. พรรณนาโวหาร

แบบทดสอบ

๑๐. ข้อใดที่ใช้โวหารการเขียนแตกต่างจากข้ออื่น
๑. ทกุ เช้า การจราจรในกรงุ เทพฯ มักติดแน่น ผู้คนใช้เวลา
เดนิ ทางไม่ต่าํ กว่าหน่งึ ชั่วโมง
๒. ขณะที่บางส่วนต้องรีบออกจากบ้านตัง้ แต่พระอาทิตยย์ ังไม่ขน้ึ
เพ่ือหลีกเลี่ยงรถตดิ
๓. รถท่ตี ิดแน่นยาวเสอ้ื ยไปอย่างเนิบช้าไม่ผิดจากงูตัวใหญ่ท่เี คล่อื นไป
อย่างอุ้ยอ้าย
๔. บางครอบครัวต้องทํากจิ ธรุ ะต่างๆ ทัง้ กินข้าว แต่งตัวบนรถยนต์
แทน

แบบทดสอบ

อ่านข้อความแล้วตอบคาํ ถามข้อ ๑๑
“ลูกว่าเส้ือตัวนีส้ ั้นไปหรอื เปล่า ตัวสีฟ้ายาวกว่าหน่อยหนึ่งน่าจะเหมาะ

กว่า คนสมัยนีน้ ่ากลัวนะลูก เมื่อวานหนังสือพมิ พ์กล็ งข่าวนักศึกษาที่น่งุ
กระโปรงสัน้ มากถูกข่มขืน แม่ว่าแต่งตัวไม่สะดดุ ตาคนน่าจะปลอดภัยกว่า”

๑๑. ข้อความข้างต้นจัดเปน็ โวหารตามข้อใด

๑. พรรณนาโวหาร ๒. บรรยายโวหาร

๓. อปุ มาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

๑๒. ข้อใดเปน็ การเขียนแบบพรรณนา
๑. แนวปะการังด้านหน้าเปน็ ที่อาศัยของฝูงปลาเลก็ ๆ หลากสี
๒. นักประดาน้ําต่างว่ายวนไปมาเพ่ือช่ืนชมความงามของปะการัง
และปลา
๓. ชายทะเลทอดเปน็ แนวยาวสุดลูกหูลูกตาทรายสีขาวตัดกับน้ํา
ทะเลสีเขียว
๔. เรอื ท่องเที่ยวขนาดกลางจอดรออยู่เหนอื นา้ํ โคลงไปมาตามแรง
กระทบของคลื่น

แบบทดสอบ

อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาํ ถาม
“ผู้ที่เข้าไปในหบุ ผาแห่งบุปผชาตจิ ะมีความรู้สกึ ว่าเดนิ อยู่ระหว่าง

ขนมชัน้ เขาปลูกดอกไม้หลากสีเป็นแถบๆ ไปบนเนนิ ตลอดทางเดิน เม่อื
มองดูจากที่สูงหรือเนินเล็กๆ จะเห็นสีชมพู สีม่วง สีเหลอื ง เป็นสายยาว
เป็นชัน้ ๆ มีสระเล็กๆ และมีต้นไม้เป็นกอๆ จัดไว้อย่างสวยงามตามทางเดิน

๑๓. ข้อความข้างต้นใช้โวหารการเขียนแบบใด

๑. บรรยายโวหาร ๒. พรรณนาโวหาร

๓. อุปมาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

๑๔. ข้อใดใช้วิธีการเขียนแตกต่างจากข้ออ่ืน
๑. อากาศเร่ิมเยน็ ลง เมฆตั้งเค้า ต่อมาไม่นานนักฝนกเ็ ร่มิ ตกลงมา
๒. พอเดินทางมาถึงพวกเราก็พากันเอาของไปเก็บและลงเล่นน้ําทะเล
ทันที
๓. พายุเริ่มพัดกระหน่ํา คล่ืนม้วนตัวเปน็ เกลียวถาโถมเข้าฝั่งอย่าง
ไม่หยดุ ยัง้
๔. ผู้หญิงกลัวเปน็ หวัดเลยรีบวิ่งมาหยบิ ร่ม ทั้ง ๆ ท่ตี ัวกเ็ ปยี กน้ําทะเล
อยู่แล้ว

แบบทดสอบ

อ่านบทประพันธต์ ่อไปนี้ แล้วตอบคาํ ถามข้อ ๑๕

ก. แม่คว้าตะกร้าว่ิงหน้าตัง้ พ่อคว้ากะละมังวิ่งตั้งหน้า

พี่คว้าเข่งลบิ ไปพรบิ ตา น้องหันซ้ายขวาพะว้าพะวน

ข. พลิกกายหมายโอบสู่อ้อมกอด พร่ําพรอดกอดจูบลูบผม

ลูกรักของแม่คงหวิ นม ตะแคงก้มปลดกระดุมเสื้อกมุ ไว้

ค. แสงอรุณไอเออ้ื เมื่อแดดแต้ม ให้เหลืองช่วงแรกแย้มแจ่มเจิดจ้า

ทั่วท้องทุ่งทิวทาบอาบทองทา ณ เถียงน้อยปลายนาจาํ เหม่อมอง

ง. เธอกค็ ือสะเกด็ ดาวที่ร้าวร่วง โซนแสงโชติช่วงก่อนลับหาย

ขีดเส้นฟ้าก่อนวูบดับลับมลาย กลับกลายเป็นอุกกาบาตอนาถนัก

๑๕. บทประพันธ์ข้างต้นข้อใดเป็นการเขียนแบบพรรณนา

๑. ข้อ ก. ๒. ข้อ ข. ๓. ข้อ ค. ๔. ข้อ ง.

เฉลย

แบบทดสอบ

๑. ข้อใดใช้โวหารการเขียนได้เหมาะสม
๑. หากต้องการเล่าถงึ ภาพความประทับใจที่ไปเที่ยวมา
ควรใช้เทศนาโวหาร
๒. หากต้องการให้คาํ อธบิ ายประเดน็ ท่คี นสงสัยควรใช้เทศนาโวหาร
๓. หากต้องการยกตัวอย่างเพ่อื ให้ข้อคดิ ควรใช้พรรณนาโวหาร
๔. หากต้องการเล่าเรื่องกิจวัตรประจาํ วันควรใช้บรรยายโวหาร

แบบทดสอบ

๒. หากนักเรียนต้องการเตือนเพื่อนไม่ให้หลงเช่ือคนที่ไว้ใจไม่ได้ โดย

ต้องการยกตัวอย่าง นิทานเร่ืองชาวนากับงูเห่า ควรเลอื กใช้ โวหาร

ข้อใด

๑. สาธกโวหาร ๒. อุปมาโวหาร

๓. บรรยายโวหาร ๔. พรรณนาโวหาร

แบบทดสอบ

๓. การใช้เทศนาโวหารน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ใดมากที่สุด

๑. การเขียนจดหมาย ๒. การเขียนนวนยิ าย

๓. การปราศรัยหาเสียง ๔. การสอนแง่คิดในการดําเนินชีวติ

๔. โวหารการเขียนประเภทใดที่เหมาะกับการเล่าถงึ บรรยากาศ

พระอาทิตย์ตกดนิ ออกมาอย่างดีที่สุด

๑. เทศนาโวหาร ๒. พรรณนาโวหาร

๓. สาธกโวหาร ๔. อธิบายโวหาร

แบบทดสอบ

อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาํ ถามข้อ ๕ – ๗

นักเรียนได้รบั มอบหมายใหเ้ ขียนรายงาน เรื่อง “บคุ คลสาํ คัญของ
ประเทศไทย” เนื้อหาต้อง เล่าถึงประวัตชิ ีวิต ผลงาน รวมถงึ ข้อคดิ ที่บคุ คล
ดังกล่าวทาํ ประโยชน์เพื่อประเทศโดยจดุ ประสงค์ คือต้องทาํ ให้เหน็ ว่าบคุ คล
ดังกล่าวมีคณุ ความดี ให้คนรุ่นหลังเอาเป็นแบบอย่างได้

๕. โวหารใดที่เหมาะสมกับการเขียนเนอ้ื หาส่วนประวัตชิ ีวิตและผลงาน

๑. บรรยายโวหาร ๒. เทศนาโวหาร

๓. อุปมาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

๖. โวหารใดที่เหมาะสมกับการเขียนเนื้อหาเพ่ือชักจูงให้ผู้อ่านเห็น

ตัวอย่างของบคุ คลนัน้ แล้วนําไปปฏบิ ัติ

๑. บรรยายโวหาร ๒. พรรณนาโวหาร

๓. เทศนาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

๗. ถ้าต้องการแทรกตัวอย่างเพ่ือให้ข้อคดิ ในข้อ ๖. ชัดเจนมากย่ิงข้ึน

ควรใช้โวหารชนิดใด

๑. พรรณนาโวหาร ๒. บรรยายโวหาร

๓. เทศนาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคําถามข้อ ๘ – ๙

วนิดาต้องการแต่งนวนิยายเร่ืองหน่ึง โดยตั้งใจให้นวนยิ ายเรอ่ื งนีเ้ ก่ยี วกับ
เดก็ นักเรียนที่ขีเ้ กียจเรียนหนังสอื จนวันหนึ่งครอบครัวของเดก็ คนนั้นต้องเสีย
พ่อไป จึงทาํ ให้เดก็ คนนั้นต้องเปล่ยี นพฤติกรรม เพ่ือให้ข้อคิดกับเดก็ รุ่นใหม่

๘. หากวนิดาต้องการเล่าถึงฉากท่ตี ัวละครเศร้าจากการสูญเสียพ่อไปจนนํามาสู่

การเปลี่ยนแปลง ควรใช้โวหารการเขียนใดจึงเหมาะสมที่สดุ

๑. สาธกโวหาร ๒. เทศนาโวหาร

๓. บรรยายโวหาร ๔. พรรณนาโวหาร

แบบทดสอบ

๙. หากวนดิ าต้องการเน้นข้อคิดให้สามารถจูงใจความคิดของผู้อ่านได้

ควรใช้โวหารการเขียนใด

1. สาธกโวหาร 2. เทศนาโวหาร

3. บรรยายโวหาร 4. พรรณนาโวหาร

แบบทดสอบ

๑๐. ข้อใดที่ใช้โวหารการเขียนแตกต่างจากข้ออื่น
๑. ทกุ เช้า การจราจรในกรงุ เทพฯ มักติดแน่น ผู้คนใช้เวลา
เดนิ ทางไม่ต่าํ กว่าหน่งึ ชั่วโมง
๒. ขณะที่บางส่วนต้องรีบออกจากบ้านตัง้ แต่พระอาทิตยย์ ังไม่ขน้ึ
เพ่ือหลีกเลี่ยงรถตดิ
๓. รถท่ตี ิดแน่นยาวเสอ้ื ยไปอย่างเนิบช้าไม่ผิดจากงูตัวใหญ่ท่เี คล่อื นไป
อย่างอุ้ยอ้าย
๔. บางครอบครัวต้องทํากจิ ธรุ ะต่างๆ ทัง้ กินข้าว แต่งตัวบนรถยนต์
แทน

แบบทดสอบ

อ่านข้อความแล้วตอบคาํ ถามข้อ ๑๑
“ลูกว่าเส้ือตัวนีส้ ั้นไปหรอื เปล่า ตัวสีฟ้ายาวกว่าหน่อยหนึ่งน่าจะเหมาะ

กว่า คนสมัยนีน้ ่ากลัวนะลูก เมื่อวานหนังสือพมิ พ์กล็ งข่าวนักศึกษาที่น่งุ
กระโปรงสัน้ มากถูกข่มขืน แม่ว่าแต่งตัวไม่สะดดุ ตาคนน่าจะปลอดภัยกว่า”

๑๑. ข้อความข้างต้นจัดเปน็ โวหารตามข้อใด

๑. พรรณนาโวหาร ๒. บรรยายโวหาร

๓. อปุ มาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

๑๒. ข้อใดเปน็ การเขียนแบบพรรณนา
๑. แนวปะการังด้านหน้าเปน็ ที่อาศัยของฝูงปลาเลก็ ๆ หลากสี
๒. นักประดาน้ําต่างว่ายวนไปมาเพ่ือช่ืนชมความงามของปะการัง
และปลา
๓. ชายทะเลทอดเปน็ แนวยาวสุดลูกหูลูกตาทรายสีขาวตัดกับน้ํา
ทะเลสีเขียว
๔. เรอื ท่องเที่ยวขนาดกลางจอดรออยู่เหนอื นา้ํ โคลงไปมาตามแรง
กระทบของคลื่น

แบบทดสอบ

อ่านข้อความต่อไปนี้ แล้วตอบคาํ ถาม
“ผู้ที่เข้าไปในหบุ ผาแห่งบุปผชาตจิ ะมีความรู้สกึ ว่าเดนิ อยู่ระหว่าง

ขนมชัน้ เขาปลูกดอกไม้หลากสีเป็นแถบๆ ไปบนเนนิ ตลอดทางเดิน เม่อื
มองดูจากที่สูงหรือเนินเล็กๆ จะเห็นสีชมพู สีม่วง สีเหลอื ง เป็นสายยาว
เป็นชัน้ ๆ มีสระเล็กๆ และมีต้นไม้เป็นกอๆ จัดไว้อย่างสวยงามตามทางเดิน

๑๓. ข้อความข้างต้นใช้โวหารการเขียนแบบใด

๑. บรรยายโวหาร ๒. พรรณนาโวหาร

๓. อุปมาโวหาร ๔. สาธกโวหาร

แบบทดสอบ

๑๔. ข้อใดใช้วิธีการเขียนแตกต่างจากข้ออ่ืน
๑. อากาศเร่ิมเยน็ ลง เมฆตั้งเค้า ต่อมาไม่นานนักฝนกเ็ ร่มิ ตกลงมา
๒. พอเดินทางมาถึงพวกเราก็พากันเอาของไปเก็บและลงเล่นน้ําทะเล
ทันที
๓. พายุเริ่มพัดกระหน่ํา คล่ืนม้วนตัวเปน็ เกลียวถาโถมเข้าฝั่งอย่าง
ไม่หยดุ ยัง้
๔. ผู้หญิงกลัวเปน็ หวัดเลยรีบวิ่งมาหยบิ ร่ม ทั้ง ๆ ท่ตี ัวกเ็ ปยี กน้ําทะเล
อยู่แล้ว

แบบทดสอบ

อ่านบทประพันธต์ ่อไปนี้ แล้วตอบคาํ ถามข้อ ๑๕

ก. แม่คว้าตะกร้าว่ิงหน้าตัง้ พ่อคว้ากะละมังวิ่งตั้งหน้า

พี่คว้าเข่งลบิ ไปพรบิ ตา น้องหันซ้ายขวาพะว้าพะวน

ข. พลิกกายหมายโอบสู่อ้อมกอด พร่ําพรอดกอดจูบลูบผม

ลูกรักของแม่คงหวิ นม ตะแคงก้มปลดกระดุมเสื้อกมุ ไว้

ค. แสงอรุณไอเออ้ื เมื่อแดดแต้ม ให้เหลืองช่วงแรกแย้มแจ่มเจิดจ้า

ทั่วท้องทุ่งทิวทาบอาบทองทา ณ เถียงน้อยปลายนาจาํ เหม่อมอง

ง. เธอกค็ ือสะเกด็ ดาวที่ร้าวร่วง โซนแสงโชติช่วงก่อนลับหาย

ขีดเส้นฟ้าก่อนวูบดับลับมลาย กลับกลายเป็นอุกกาบาตอนาถนัก

๑๕. บทประพันธ์ข้างต้นข้อใดเป็นการเขียนแบบพรรณนา

๑. ข้อ ก. ๒. ข้อ ข. ๓. ข้อ ค. ๔. ข้อ ง.