คูม่ ือครู
Teacher Script
เทคโนโลยี
ม. 2(กำรออกแบบและเทคโนโลย)ี
ชั้นมัธยมศึกษำปที่ 2
ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตัวชวี้ ดั
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560)
ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
ผู้เรียบเรียงหนงั สือเรียน ผู้ตรวจหนังสือเรยี น บรรณาธกิ ารหนังสือเรยี น
นางสาวเมษ ์ ศรีพัฒนาสกลุ ผศ. ดร.จฬุ ารัตน์ บษุ บงก์ นายฉทั ทวฒุ ิ พชี ผล
นายเอกเทศ แสงลับ
ผเู้ รยี บเรยี งคมู่ อื ครู นางสาวพนิดา พานชิ กลุ
ทีมวิชาการ STEM
บรรณาธิการคู่มอื ครู
นายสริ นั ทร เพยี รพทิ ักษ์
พมิ พคร้งั ที่ 1
สงวนลขิ สทิ ธิ์ตามพระราชบัญญัติ
รหัสสินคา 2248033
ค�ำแนะน�ำกำรใช้
คู่มอื คร ู รายวชิ าพนื้ ฐานวทิ ยาศาสตร ์ เทคโนโลยี (การออกแบบ
และเทคโนโลย)ี ม.2 จดั ทา� ขน้ึ สา� หรบั ใหค้ รูใชเ้ ปน็ แนวทางวางแผนการ
จัดการเรียนการสอน เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและประกัน
คุณภาพผู้เรียน ตามนโยบายของส�านักงานคณะกรรมการการศึกษา
ขั้นพืน้ ฐาน (สพฐ.)
Chapter Overview นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ โซน 1
โครงสรา้ งแผนและแนวทางการประเมินนักเรียน ขนั้ นาํ 1หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี เทคโนโลยกี ับชวี ติ
ประจา� หน่วยการเรยี นรู้
กระตนุ ความสนใจ
Chapter Concept Overview 1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน
สรปุ สาระสา� คญั ประจ�าหนว่ ยการเรียนรู้ หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง เทคโนโลยีกับ
ชีวิต เพื่อวัดความรูเดิมของนักเรียนกอนเขา
สูกจิ กรรม
การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี
สง ผลตอ ชวี ติ สงั คม
และสง่ิ แวดลอ ม
ตัวช้ีวัด
ว 4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดข้ึน โดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห ์
เปรียบเทยี บ ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลย ี โดยคา� นงึ ถึงผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ตอ่ ชวี ติ สงั คม และสิ่งแวดล้อม
2
โซน 1 ช่วยครูจดั เกร็ดแนะครู
กำรเรยี นกำรสอน การจดั การเรยี นการสอนในหนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 ครคู วรเตรยี มภาพตวั อยา ง
แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้แก่ครู พัฒนาการของเทคโนโลยใี นหลายๆ ดาน หรืออาจหาคลิปวดิ โี อมาใหน ักเรียน
โดยแนะน�าข้นั ตอนการสอน และการจดั กจิ กรรมอย่างละเอยี ด ไดศึกษาและเห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน และควร
เพื่อใหน้ ักเรียนบรรลผุ ลสมั ฤทธิ์ตามตวั ชว้ี ัด ติดตามขาวสารความรูดานเทคโนโลยีใหมๆ มาสอนนักเรียน และสวนสําคัญ
ที่สุด คือการฝกใหนักเรียนรูจักวิเคราะหเปรียบเทียบขอมูลเพ่ือตัดสินใจในการ
น�ำ สอน สรุป ประเมนิ เลอื กใชเ ทคโนโลยีที่คุมคา ยงั่ ยืน และเปนมติ รกับสิง่ แวดลอม
โซน 3
โซน 2
T4
โซน 2 ช่วยครูเตรยี มสอน ควำมรเู้ สรมิ (การออกแบบและเทคโนโลย)ี
ประกอบด้วยองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เป็นประโยชน์เพื่อ อธบิ ายความรูเ้ สริมท่มี ีในบทเรียนเพ่มิ เตมิ
ชว่ ยลดภาระในการสอนของครู
สื่อ Digital
เกร็ดแนะครู
การแนะน�าแหล่งคน้ ควา้ จากส่อื Digital ตา่ ง ๆ
ความรเู้ สรมิ สา� หรบั คร ู ขอ้ เสนอแนะ ขอ้ สงั เกต แนวทางการจดั
กจิ กรรม เพื่อประโยชน์ในการจัดการเรียนการสอน
นกั เรยี นควรรู้
ความรเู้ พม่ิ เตมิ จากเนอื้ หา เพอื่ ใหค้ รนู า� ไปใชอ้ ธบิ ายใหน้ กั เรยี น
โดยใช้หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐานวิทยาศาสตร เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2 ของบริษัท
อักษรเจรญิ ทัศน ์ อจท. จ�ากดั เป็นส่ือหลัก (Core Meterial) ประกอบการสอนและการจดั กจิ กรรมการเรยี นร ู้ เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ ง
กับมาตรฐานการเรยี นรู้และตวั ชวี้ ดั กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี (ฉบับปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พทุ ธศักราช 2551 ซึง่ คู่มือครูมีองคป์ ระกอบท่ีง่ายตอ่ การใช้งาน ดงั น้ี
โซน 1 นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ โซน 3 ช่วยครูเตรยี มนักเรยี น
กผาลรกเปรละีย่ ทนบแจปากลง 1 ก ารเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของ ขนั้ นาํ ประกอบด้วยแนวทางการจัดกิจกรรม และเสนอแนะ
ของเทคโนโลยี เทคโนโลยี แนวขอ้ สอบ เพือ่ อ�านวยความสะดวกให้แก่ครู
กระตนุ ความสนใจ
มีผลทาให้สังคมของมนุษย์ มนุษย์ได้พยายามศึกษาค้นคว้าความรู้ต่าง ๆ จนเกิดเป็นความรู้ 2. ครถู ามคาํ ถามสาํ คญั ประจาํ หวั ขอ วา ผลกระทบ กิจกรรม 21st Century Skills
เปน็ อยา่ งไร ใหม ่ และนา� มาสร้างเทคโนโลยใี หม่ขนึ้ มาหลากหลายรูปแบบเพอื่ ตอบสนอง
ความตอ้ งการของตนเองหรอื สังคม รวมถงึ เพอื่ แกป้ ญั หาต่าง ๆ ทีเ่ กิดขน้ึ ใน จากการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี มผี ลทาํ ให กิจกรรมท่ีให้นักเรียนได้ประยุกต์ใช้ความรู้มาสร้างช้ินงาน
สังคมให้ดีข้ึนกว่าเดิม จึงท�าให้เทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง สังคมของมนษุ ยเปนอยา งไร หรือท�ากิจกรรมรวบยอด เพื่อให้เกิดคุณลักษณะที่ระบุใน
เช่น การพัฒนาการของยานพาหนะ ซ่ึงเป็นเทคโนโลยีท่ีมีวัตถุประสงค์เพ่ือตอบสนองความต้องการเดินทาง ทกั ษะแหง่ ศตวรรษที่ 21
ทสี่ ะดวก รวดเร็ว และมีการพัฒนาอยา่ งตอ่ เน่อื งเพอ่ื เพม่ิ ความสามารถในการท�างาน ขนั้ สอน
ข้อสอบเนน้ กำรคดิ
ภาพที่ 1.1 พัฒนาการของยานพาหนะจากอดตี ถงึ ปัจจุบนั สาํ รวจคน หา
1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน หรือตาม ตัวอย่างข้อสอบท่ีมุ่งเน้นการคิด มีทั้งปรนัย-อัตนัย พร้อม
1.1 ปจั จยั ตอ่ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี เฉลยอย่างละเอียด
เทคโนโลยีท�าให้เกิดการต่อยอดพัฒนาคิดค้นส่ิงต่าง ๆ เพ่ืออ�านวยความสะดวกสบายต่อชีวิตของมนุษย์ได ้ ความเหมาะสม แลว ใหน กั เรียนรว มกนั สบื คน
อยา่ งมากมาย อกี ทง้ั ยงั เปน็ ตวั การสา� คญั ในการเขา้ มาเสรมิ ปจั จยั พน้ื ฐานในการดา� รงชวี ติ เปน็ อยา่ งด ี และตอบสนอง การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลกระทบ กิจกรรมทำ้ ทำย
ความต้องการของมนุษยใ์ นดา้ นตา่ ง ๆ เช่น เทคโนโลยดี ้านการผลิตทา� ใหส้ ามารถผลติ สนิ ค้าไดใ้ นปริมาณที่มากขึน้ ทําใหสังคมมนุษยดีขึ้นจากทางอินเทอรเน็ตที่
โดยใชร้ ะยะเวลานอ้ ยลง สง่ ผลใหส้ นิ คา้ มีราคาถูกลง เทคโนโลยีด้านการบรกิ ารได้มสี ว่ นชว่ ยเพมิ่ ความรวดเร็วในการ เคร่อื งคอมพวิ เตอรของตนเอง เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรม เพอ่ื ตอ่ ยอดสา� หรบั นกั เรยี น
ให้บริการ เทคโนโลยีด้านการส่ือสารท�าให้การติดต่อสื่อสารเช่ือมโยงกันได้ท่ัวโลก ส่งผลให้การสื่อสารเป็นไปอย่าง 2. ครสู มุ นกั เรยี น 2-3 กลมุ ออกมานาํ เสนอขอ มลู ทเี่ รยี นรไู้ ดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และตอ้ งการทา้ ทายความสามารถใน
สะดวก รวดเรว็ ตามทไ่ี ดส บื คน หนา ชน้ั เรยี น โดยครเู ปด โอกาส ระดบั ทีส่ ูงขน้ึ
ในปจั จบุ นั มนษุ ยไ์ ดค้ น้ พบและสรา้ งองคค์ วามรมู้ ากมายหลายสาขา เชน่ วทิ ยาศาสตร ์ คณติ ศาสตร ์ สงั คมศาสตร ์ ใหเพื่อนรวมชั้นสามารถซักถามขอสงสัยได
นิตศิ าสตร ์ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะอย่างยิง่ ศาสตรท์ ี่ส่งผลตอ่ การพฒั นาเทคโนโลยอี ยา่ งมาก คอื วิทยาศาสตร์และ อยางอิสระ โดยครูคอยใหคําแนะนําเพิ่มเติม กจิ กรรมสรำ้ งเสรมิ
คณติ ศาสตร ์ กลา่ วคอื วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ ศาสตรท์ เี่ กยี่ วกบั สงิ่ ตา่ ง ๆ ในธรรมชาตทิ ง้ั ทม่ี ชี วี ติ และไมม่ ชี วี ติ เชน่ กาลเิ ลโอ ตามความเหมาะสม
ได้พบวา่ ก้อนหนิ สองกอ้ นท่มี มี วลไมเ่ ทา่ กัน เมอ่ื ถูกปล่อยใหต้ กจากระดับเดยี วกันและเวลาเดียวกนั กอ้ นหินจะตก อธบิ ายความรู เสนอแนะแนวทางการจดั กจิ กรรมซอ่ มเสรมิ สา� หรบั นกั เรยี นที่
ถงึ พน้ื พรอ้ มกนั ทกุ ครง้ั ไป ตอ่ มานวิ ตนั จงึ ไดน้ า� ความรดู้ า้ นคณติ ศาสตร ์ คอื แคลคลู สั เขา้ มาพสิ จู นส์ งิ่ ทส่ี งั เกต จงึ สามารถ 1. นกั เรยี นสแกน QR Code เรอื่ ง การเปลยี่ นแปลง ควรได้รับการพัฒนาการเรียนรู้
ใชส้ มการเพอ่ื การไขความลบั การตกของวตั ถตุ า่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ดงั นน้ั การคน้ พบทางวทิ ยาศาสตรใ์ หม ่ ๆ ทมี่ กี าร เทคโนโลยี จากหนังสือเรียน โดยใหนักเรียน
อธบิ ายในรปู แบบของสมการทางคณติ ศาสตรท์ แี่ มน่ ยา� จงึ ชว่ ยใหเ้ กดิ เทคโนโลยใี หมข่ น้ึ มาอกี มากมาย เชน่ เทคโนโลยี สรุปประเด็นสําคัญที่ไดจากการดูคลิปวิดีโอ
อวกาศท่ีอาศัยแรงดันมหาศาลและความเรว็ สงู มาก ๆ ทที่ �าใหย้ านอวกาศเคลอ่ื นทีห่ ลุดออกจากแรงโน้มถว่ งของโลก ลงในสมดุ
การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี 3เทคโนโลยี แนวตอบ คําถามสาํ คญั ประจาํ หัวขอ
กบั ชีวิต นักเรียนตอบตามประสบการณของตนเอง
โดยคําตอบข้ึนอยูกับดุลยพินิจของครู เชน ทําให
วถิ ชี ีวติ ของมนษุ ยเ ปลย่ี นไป สามารถติดตอสือ่ สาร
ทางไกลไดงายขึ้น สามารถขายสินคา โดยไมตอง
มีหนารา นจรงิ ขนสงสินคาไดรวดเรว็ มากขึ้น
กิจกรรม สรางเสริม เกร็ดแนะครู
ใหน กั เรียนแบง ออกเปน 4-6 กลุม ตามความเหมาะสม และ ครูอาจหาขอมูลตัวอยางพัฒนาการของเทคโนโลยีเพื่อแกปญหาใน
ชว ยกนั สบื คน ขอ มลู การใชป ระโยชนง านเทคโนโลยโี ดรนในวงการ ประเทศไทยมาใหน กั เรยี นไดศ กึ ษาเพมิ่ เตมิ ทง้ั ในระดบั ทอ งถนิ่ และเวทโี ลก โดย
ตางๆ ในปจจุบันใหมากที่สดุ แลว มาสรุปพรอมอภิปรายรว มกนั มุง เนนการนําเสนอใหเ ห็นปญหา แนวคิดในการแกปญ หา และผลลพั ธ เพอ่ื ให
นักเรยี นไดเหน็ ภาพรวมของขั้นตอนการพัฒนาเทคโนโลยี และการแกปญหาท้งั
โซน 3 กระบวนการ
โซน 2
T5
แนวทำงกำรวัดและประเมินผล
การเสนอแนะแนวทางในการวดั และประเมนิ ผลนกั เรยี นทสี่ อดคลอ้ ง
กบั แผนการสอน
ค�ำอธิบายรายวิชา
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรียน 20 ชวั่ โมง / ปี
ศกึ ษาสาเหตหุ รอื ปจั จยั ทส่ี ง่ ผลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยตี อ่ มนษุ ย ์
และสังคม ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยตี ่อเศรษฐกจิ ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยีตอ่ ส่งิ แวดลอ้ ม
ประเภทของวัสดุ อุปกรณ์ เพือ่ ใหส้ ามารถสร้างชนิ้ งานได้ตรงกบั ความต้องการ มีความปลอดภัย และใช้ทรพั ยากรไดอ้ ยา่ ง
คุ้มค่า เครอื่ งกลในการสรา้ งช้ินงาน ไดแ้ ก่ รอก คาน ลอ้ และเพลา พ้ืนเอยี ง ลิ่ม และสกรู เครื่องมือในการสร้างช้ินงาน
เครอ่ื งมือวัด เครอ่ื งมอื ตัด เครอ่ื งมอื ยึดตดิ เคร่อื งมอื เจาะ เสยี งและอุปกรณท์ ที่ �ำให้เกดิ เสยี ง ไฟฟา้ และอปุ กรณท์ ี่ทำ� ใหเ้ กดิ
แสง วงจรไฟฟ้าและการต่อตัวต้านทาน ประเภทและการต่อวงจรไฟฟ้า ความสัมพันธ์ของกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
และวิศวกรรมศาสตร์ แนวคิดกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม ระบบเทคโนโลยี การคิด
เชิงออกแบบ แนวคิดหลักของการคดิ เชงิ ออกแบบ กระบวนการคดิ เชิงออกแบบ ความคดิ เชิงออกแบบของพระบาทสมเดจ็
พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
โดยอาศัยกระบวนการเรียนรูโ้ ดยใช้ปัญหาเปน็ ฐาน (Problem - Based Learning) และรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะ
หาความรู้ (5Es Instructional Model) เนน้ ใหผ้ เู้ รยี นไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ิ ฝกึ ทกั ษะการคดิ เผชญิ สถานการณก์ ารแกป้ ญั หา วางแผน
การเรียนรู้ และนำ� เสนอผ่านการท�ำกจิ กรรม
เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรู้ ความเขา้ ใจความสมั พนั ธข์ องความรวู้ ทิ ยาศาสตรท์ ม่ี ผี ลตอ่ การพฒั นาเทคโนโลยปี ระเภทตา่ ง ๆ
และการพัฒนาเทคโนโลยีท่ีส่งผลให้มีการคิดค้นความรู้ทางวิทยาศาสตร์ท่ีก้าวหน้า ผลของเทคโนโลยีต่อชีวิต สังคม และ
สงิ่ แวดลอ้ ม ตลอดจนนำ� ความรู้ ความเขา้ ใจในกลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยไี ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนต์ อ่ สงั คม
และการด�ำรงชีวติ จนสามารถพัฒนากระบวนการคดิ และจินตนาการ ความสามารถในการแก้ปญั หาและการจัดการทกั ษะใน
การสือ่ สาร ความสามารถในการตัดสินใจ เป็นผูท้ ี่มีจิตวิทยาศาสตร์ มคี ุณธรรม จริยธรรม คา่ นิยมในการใชว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละ
เทคโนโลยีอยา่ งสรา้ งสรรค์
ตวั ชีว้ ัด
ว 4.1 ม.2/1 คาดการณแ์ นวโน้มเทคโนโลยีทจี่ ะเกดิ ขน้ึ โดยพิจารณาจากสาเหตหุ รือปัจจัยทสี่ ง่ ผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของ
เทคโนโลยี และวิเคราะห์เปรียบเทียบ ตัดสินใจเลือกใช้เทคโนโลยี โดยค�ำนึงถึงผลกระทบที่เกิดข้ึนต่อชีวิต
สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม
ว 4.1 ม.2/2 ร ะบปุ ญั หาหรอื ความตอ้ งการในชมุ ชนหรอื ทอ้ งถนิ่ สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะหข์ อ้ มลู และแนวคดิ
ทเี่ กีย่ วขอ้ งกบั ปัญหา
ว 4.1 ม.2/3 ออกแบบวิธีการแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทียบ และตัดสินใจเลือกข้อมูลที่จ�ำเป็นภายใต้เง่ือนไขและ
ทรัพยากรที่มีอยู่ น�ำเสนอแนวทางการแก้ปัญหาให้ผู้อ่ืนเข้าใจ วางแผนขั้นตอนการท�ำงานและด�ำเนินการ
แก้ปญั หาอยา่ งเป็นขนั้ ตอน
ว 4.1 ม.2/4 ท ดสอบ ประเมินผล และอธิบายปัญหาหรอื ข้อบกพรอ่ งที่เกิดข้นึ ภายใตก้ รอบเงอื่ นไข พรอ้ มทัง้ หาแนวทาง
การปรบั ปรุงแก้ไข และน�ำเสนอผลการแกป้ ัญหา
ว 4.1 ม.2/5 ใช้ความรู้ และทักษะเก่ยี วกบั วัสดุ อปุ กรณ์ เครือ่ งมอื กลไก ไฟฟ้า และอิเลก็ ทรอนิกส์ เพือ่ แกป้ ัญหาหรือ
พัฒนางานได้อย่างถูกตอ้ ง เหมาะสม และปลอดภัย
รวม 5 ตวั ชว้ี ัด
Pedagogy
คมู่ ือครู รายวิชาพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์
เทคโนโลยี (กำรออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.2 จัดท�าขน้ึ เพ่อื ใหค้ รนู า� ไปใช้เปน็ แนวทางวางแผนการสอนเพ่ือ
พฒั นาผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของนกั เรยี น โดยครสู ามารถวางแผนการจดั การเรยี นรปู้ ระกอบการใชห้ นงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐานเทคโนโลยี
(การออกแบบและเทคโนโลย)ี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ 2 (ฉบับอนุญาต) ท่ีทางบรษิ ัท อักษรเจริญทัศน ์ อจท. จา� กัด จัดพมิ พจ์ �าหน่ายเพอ่ื ให้
สอดคล้องกบั มาตรฐานการเรยี นรูแ้ ละตัวช้ีวัดกลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลย ี (ฉบบั ปรับปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลกั สูตร
แกนกลางการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 โดยออกแบบกจิ กรรมการเรยี นร ู้ (Instructional Design) สอดคล้องตามรปู แบบการ
เรยี นร้ทู สี่ า� คญั 2 รูปแบบ คอื รูปแบบการสอนแบบ 5Es และรูปแบบการสอนแบบใช้ปญั หาเป็นฐาน (PBL) โดยมีรายละเอียด ดังนี้
รูปแบบกำรสอนแบบสบื เสำะหำควำมรู้ (5Es Instructional Model)
ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ เพ่ือช่วย กรEะeตnnggุ้นaคg1วeำmมeสnนt ใจ
ให้ผู้เรียนได้พัฒนาวิธีคิด ท้ังความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ สำ� รวeExจpแlลorะaคt้นioหnำ
คิดวิเคราะห์ วิจารณ์ มีทักษะส�าคัญในการค้นคว้าหาความรู้ และมี Elaขยำย
ความสามารถในการแกป้ ัญหาอย่างเปน็ ระบบ ผจู้ ัดท�าจึงได้เลอื กใช้
ตeEvรaวluจaสtiอoบnผล
รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความร ู้ (5Es Instructional Model) ำม ้รูtion
ซึ่งเป็นข้ันตอนการเรียนรู้ที่มุ่งให้นักเรียนได้มีโอกาสสร้างองค์ 5 5Es 2
ความรู้ด้วยตนเองผ่านกระบวนการคิดและการลงมือท�า โดยใช้
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เป็นเครื่องมือส�าคัญเพ่ือการพัฒนา ควำbมoเrขa4้ำtioใจn Exอ3pธlaิบnำaยคว
ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และทักษะการเรียนรู้แห่ง
ศตวรรษท ี่ 21
วธิ สี อน (Teaching Method)
ผู้จัดท�าเลือกใช้วิธีสอนท่ีหลากหลาย เช่น การทดลอง การสาธิต การอภิปรายกลุ่มย่อย เพ่ือส่งเสริมการเรียนรู้
รูปแบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ (5Es Instructional Model) ให้เกิดประสิทธิภาพมากท่ีสุด ซ่ึงจะเน้นใช้วิธีสอน
โดยใช้การทดลองมากเป็นพิเศษ เนื่องจากเป็นวิธีสอนท่ีมุ่งพัฒนาให้นักเรียนเกิดองค์ความรู้จากประสบการณ์ตรงโดย
การคดิ และการลงมือท�าด้วยตนเอง อันจะช่วยให้นกั เรียนมีความรแู้ ละเกิดทักษะทางวิทยาศาสตรท์ ี่คงทน
เทคนคิ กำรสอน (Teaching Technique)
ผจู้ ดั ทา� เลอื กใชเ้ ทคนคิ การสอนทห่ี ลากหลายและเหมาะสมกบั เรอื่ งทเ่ี รยี น เพอ่ื สง่ เสรมิ วธิ สี อนใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพมากขน้ึ
เช่น การใชค้ า� ถาม การเลน่ เกม เพ่อื นช่วยเพ่อื น ซงึ่ เทคนิคการสอนต่าง ๆ จะช่วยให้นักเรยี นเกดิ การเรียนรอู้ ยา่ งมคี วามสุข
ในขณะทเ่ี รยี น และสามารถปฏบิ ัตกิ จิ กรรมไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รวมทั้งได้พฒั นาทักษะในศตวรรษท่ ี 21 อกี ด้วย
รปู แบบการสอนแบบใชป้ ัญหาเป็นฐาน (Problem-Based Learning: PBL)
ด้วยจุดประสงค์ของการจัดการเรียนการสอนการ PBL 6 น�ำเสนอและ
ออกแบบและเทคโนโลยี เพื่อช่วยให้นักเรียนได้พัฒนาวิธีคิด ประเมนิ ผลงาน
ฝกึ ทกั ษะการคดิ แกป้ ญั หาอยา่ งมเี หตผุ ลและเปน็ ระบบ ผจู้ ดั ทำ�
จึงเลือกใช้รูปแบบการสอนแบบใช้ปัญหาเป็นฐาน (Problem- 5 สรุปและประเมนิ ค่า
Based Learning : PBL) ซึ่งเป็นขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ที่ ของค�ำตอบ
มงุ่ ใหน้ กั เรยี นสรา้ งความรใู้ หมจ่ ากการใชป้ ญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ จรงิ ใน
ชวี ิตประจำ� วนั โดยการจดั กจิ กรรมที่เน้นทักษะกระบวนการคิด 4 สงั เคราะหค์ วามรู้
แก้ปญั หา คดิ วิเคราะห์ คดิ สร้างสรรค์ คดิ อย่างมวี จิ ารณญาณ
การสืบค้นและรวบรวมข้อมูล บันทึกและการอภิปรายการ 3 ดำ� เนินการศึกษาค้นคว้า
เรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐานจึงเป็นผลมาจากกระบวนการ
ท�ำงานท่ีต้องอาศัยความเข้าใจและการแก้ไขปัญหาเป็นหลัก 2 ท�ำความเขา้ ใจปญั หา
ซ่ึงสอดคล้องกับธรรมชาติวิชาของวิชาการออกแบบและ
เทคโนโลยี 1 กำ� หนดปญั หา
วธิ ีสอน (Teaching Method)
การจดั การเรยี นรแู้ บบใชป้ ญั หาเปน็ ฐาน (Problem-Based Learning: PBL) เปน็ การจดั การเรยี นรทู้ เี่ นน้ ในสงิ่ ทน่ี กั เรยี น
ตอ้ งการเรยี นรู้ โดยเรม่ิ มาจากปญั หาทนี่ กั เรยี นสนใจ หรอื พบในชวี ติ ประจำ� วนั ทมี่ เี นอื้ หาเกย่ี วขอ้ งกบั บทเรยี น ซง่ึ ครจู ะตอ้ งมี
การจดั แผนการเรยี นรตู้ ามความสนใจของนกั เรยี นอยา่ งเหมาะสม เนน้ ทกี่ ระบวนการเรยี นรขู้ องนกั เรยี น ปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ ง
ผ้เู รยี นในกลมุ่ การปฏบิ ัติและการเรยี นรรู้ ่วมกนั เพ่อื น�ำไปสูก่ ารค้นควา้ หาค�ำตอบหรอื สรา้ งความรู้ใหม่บนฐานความรเู้ ดิม
เทคนคิ การสอน (Teaching Technique)
ผู้จัดท�ำเลือกใช้เทคนคิ การสอนท่หี ลากหลายเพือ่ ให้นักเรียนเกดิ ทกั ษะตา่ ง ๆ ที่จำ� เปน็ ในการด�ำรงชวี ิต โดยปัญหาท่ ี
น�ำมาใช้ในการจัดการเรียนรู้เป็นปัญหาท่ีครูเป็นผู้กระตุ้นให้นักเรียนคิดจากสถานการณ์ แนวโน้มในชีวิตประจ�ำวัน ข่าว
เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ทเ่ี กดิ ขน้ึ เป็นต้น ซึง่ เทคนิคการสอนตา่ ง ๆ จะช่วยใหน้ ักเรียนฝึกทักษะการคิดแกป้ ัญหาอยา่ งมเี หตผุ ลและ
เปน็ ระบบ รวมทงั้ ไดพ้ ัฒนาทกั ษะในศตวรรษท่ี 21 อกี ดว้ ย
Teacher Guide Overview
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ม.2
หน่วย ตัวชวี้ ัด ทักษะท่ีได้ เวลาทีใ่ ช้ การประเมนิ สอื่ ท่ใี ช้
การเรยี นรู้
- คาดการณแ์ นวโนม้ - ทักษะการสอ่ื สาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หนงั สอื เรยี น รายวิชา
1 เทคโนโลยีทจี่ ะเกิดขึน้ - ท ักษะการแลกเปลี่ยน - ตรวจใบงาน พน้ื ฐาน เทคโนโลยี
โดยพจิ ารณาจากสาเหตุ ข้อมลู - ประเมินการนำ�เสนอผลงาน (การออกแบบและ
เทคโนโลยี หรอื ปัจจัยที่สง่ ผลตอ่ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ�งาน เทคโนโลย)ี ม.2
กบั ชวี ติ การเปลีย่ นแปลงของ - ทักษะการสงั เกต รายบุคคล - ใบงาน
เทคโนโลยี และวเิ คราะห์ - ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั - สงั เกตพฤติกรรมการทำ�งานกลุม่ - PowerPoint
เปรยี บเทียบ ตัดสินใจ - ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูล 2 - สงั เกตคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์
เลือกใช้เทคโนโลยี - ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
โดยคำ� นึงถงึ ผลกระทบ ชั่วโมง
ทีเ่ กิดข้นึ ตอ่ ชวี ิต สงั คม
และสิ่งแวดลอ้ ม
(ว 4.1 ม.2/1)
2 - ใชค้ วามรู้ และทักษะ - ทกั ษะการสื่อสาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หนังสอื เรียน รายวิชา
เกี่ยวกับวสั ดุ อปุ กรณ์ - ท ักษะการแลกเปล่ียน - ตรวจใบงาน พน้ื ฐาน เทคโนโลยี
วสั ดุ อปุ กรณ์ เครอื่ งมือ กลไก ไฟฟา้ ข้อมลู - ตรวจชนิ้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) (การออกแบบและ
ทางเทคโนโลยี และอิเลก็ ทรอนิกส์ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ 8 - ประเมินการนำ�เสนอผลงาน เทคโนโลยี) ม.2
เพอื่ แกป้ ัญหาหรอื - ทักษะการสังเกต
พฒั นางานไดอ้ ยา่ ง - ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั ชว่ั โมง - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ�งาน - ใบงาน
ถกู ต้อง เหมาะสม - ทกั ษะการสืบคน้ ขอ้ มูล รายบุคคล - PowerPoint
และปลอดภัย - สงั เกตพฤติกรรมการทำ�งานกล่มุ
(ว 4.1 ม.2/5) - สังเกตคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
- ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น
3 - ระบปุ ัญหาหรือความ - ทกั ษะการสอื่ สาร - ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หนงั สอื เรียน รายวิชา
ตอ้ งการในชมุ ชนหรือ - ท ักษะการแลกเปลี่ยน - ตรวจใบงาน พืน้ ฐาน เทคโนโลยี
กระบวนการ ทอ้ งถน่ิ สรปุ กรอบของ ขอ้ มลู - ตรวจชิ้นงานการออกแบบ (การออกแบบและ
ออกแบบเชิง ปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ - ทกั ษะการคดิ วิเคราะห์ เชิงวิศวกรรม เทคโนโลยี) ม.2
วศิ วกรรม ขอ้ มูลและแนวคิด - ทกั ษะการสังเกต - ประเมินการนำ�เสนอผลงาน - ใบงาน
- สังเกตพฤติกรรมการทำ�งาน - PowerPoint
ทเี่ กี่ยวข้องกบั ปญั หา - ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั รายบุคคล
(ว 4.1 ม.2/2) - ทกั ษะการสืบค้นขอ้ มูล - สังเกตพฤติกรรมการทำ�งานกลุม่
- ออกแบบวธิ ีการ - สงั เกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
แก้ปญั หา โดยวเิ คราะห์ 6 - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
เปรยี บเทยี บ และ
ตดั สนิ ใจเลอื กขอ้ มูล ช่ัวโมง
ทีจ่ �ำเป็นภายใต้เง่อื นไข
และทรพั ยากรท่มี ีอยู่
น�ำเสนอแนวทาง
การแกป้ ัญหาใหผ้ อู้ น่ื
เขา้ ใจ วางแผนขั้นตอน
การทำ� งานและด�ำเนนิ
การแกป้ ญั หาอยา่ งเป็น
ข้นั ตอน (ว 4.1 ม.2/3
หนว่ ย ตวั ชีว้ ดั ทักษะท่ไี ด้ เวลาท่ีใช้ การประเมนิ ส่ือที่ใช้
การเรยี นรู้
- ทดสอบ ประเมินผล
3 และอธิบายปัญหาหรอื
ข้อบกพร่องท่ีเกิดข้นึ
กระบวนการ ภายใตก้ รอบเงอ่ื นไข
ออกแบบเชงิ พรอ้ มทงั้ หาแนวทาง
วิศวกรรม การปรับปรงุ แก้ไข
และน�ำเสนอผลการ
(ต่อ) แกป้ ญั หา (ว 4.1 ม.2/4)
4 - ระบปุ ัญหาหรือความ - ทักษะการสอ่ื สาร - ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น - หนังสือเรียน รายวิชา
ตอ้ งการในชุมชนหรือ - ทกั ษะการแลกเปลยี่ น - ประเมินการนำ�เสนอผลงาน พ้ืนฐาน เทคโนโลยี
การคิด ท้องถน่ิ สรุปกรอบ ขอ้ มลู - สังเกตพฤตกิ รรมการทำ�งาน (การออกแบบและ
เชิงออกแบบ ของปญั หา รวบรวม - ทกั ษะการคิดวิเคราะห์ รายบคุ คล เทคโนโลยี) ม.2
วเิ คราะห์ขอ้ มูลและ - ทกั ษะการสังเกต - สงั เกตพฤตกิ รรมการทำ�งานกลุม่ - PowerPoint
แนวคิดท่เี กี่ยวขอ้ งกับ - ทกั ษะการทำ� งานรว่ มกนั - สังเกตคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
ปัญหา (ว 4.1 ม.2/2) - ทกั ษะการสบื คน้ ข้อมูล - ตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
- ออกแบบวธิ กี ารแกป้ ญั หา
โดยวเิ คราะห์ เปรยี บเทยี บ 4
และตดั สนิ ใจเลอื กขอ้ มลู
ทจี่ �ำเปน็ ภายใตเ้ งื่อนไข ชั่วโมง
และทรัพยากรทีม่ ีอยู่
น�ำเสนอแนวทางการ
แก้ปัญหาใหผ้ อู้ ่ืนเขา้ ใจ
วางแผนขน้ั ตอนการ
ทำ� งานและด�ำเนินการ
แกป้ ัญหาอยา่ งเป็น
ขน้ั ตอน (ว 4.1 ม.2/3)
- ทดสอบ ประเมนิ ผล
และอธิบายปัญหาหรอื
ขอ้ บกพรอ่ งทเี่ กดิ ขน้ึ
ภายใตก้ รอบเงื่อนไข
พรอ้ มทัง้ หาแนวทาง
การปรบั ปรุงแกไ้ ข
และน�ำเสนอผลการ
แกป้ ญั หา (ว 4.1 ม.2/4)
สำรบัญ
Chapter Title Chapter Chapter Teacher
Overview Concept Script
หนว่ ยการเรียนรูท่ี 1 เทคโนโลยกี ับชวี ิต Overview
T2 T4
• การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี T3 T5-T10
ทา้ ยหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ ี 1 T11-T13
T14 T15
หน่วยการเรียนรทู ่ี 2 วัสดุ อปุ กรณทำงเทคโนโลยี T16
T36 T37 T17-T22
• ความรเู้ กีย่ วกบั วสั ดุ T23-T28
• เครื่องกลและเครื่องมอื ในการสร้างชิน้ งาน T54 T55 T29-T31
• เสยี งและอปุ กรณท์ ี่ทาํ ใหเ้ กดิ เสยี ง T32-T33
• ไฟฟาและอุปกรณท์ ี่ทําใหเ้ กิดแสง T34-T35
ทา้ ยหน่วยการเรยี นรู้ท ่ี 2
T38
หน่วยการเรยี นรูท่ี 3 กระบวนกำรออกแบบ
เชงิ วิศวกรรม T39
• ค วามสมั พันธข์ องกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละ T40-T42
วศิ วกรรมศาสตร์ T43-T51
T52-T53
• กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์
• กระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม T56
ทา้ ยหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 T57-T64
T65-T67
หนว่ ยการเรยี นรูที่ 4 กำรคดิ เชิงออกแบบ
T68-T71
• การคิดเชิงออกแบบ T72
ท้ายหนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 4
ภำคผนวก
บรรณำนกุ รม
Chapter Overview
แผนการจัด สอ่ื ท่ีใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คณุ ลกั ษณะ
การเรียนรู้ อนั พึงประสงค์
แผนฯ ที่ 1 - แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. บอกปจั จยั ที่มผี ลต่อ แบบสืบเสาะ - ต รวจแบบทดสอบ - ทักษะการสื่อสาร - ซ่อื สตั ย์ สุจริต
นวตั กรรม - หนงั สือเรียน รายวชิ า การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี หาความรู้ ก่อนเรยี น - ทักษะการแลกเปล่ียน - มวี นิ ัย
การเปลีย่ นแปลง พ้นื ฐาน เทคโนโลยี ไดถ้ ูกตอ้ ง (K) (5Es - ต รวจใบงาน ขอ้ มูล - ใฝเ่ รยี นรู้
และผลกระทบ ( การออกแบบและ 2. ยกตวั อย่างเทคโนโลยี Instructional - ต รวจแบบทดสอบ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - อยอู่ ย่างพอเพยี ง
ของเทคโนโลยี เทคโนโลย)ี ม.2 และวิเคราะห์ปัจจยั ต่อ Model) หลังเรียน - ทักษะการสงั เกต - มุ่งมนั่ ใน
- ใ บงาน เรอื่ ง ผลกระทบ การเปลยี่ นแปลง - ทกั ษะการท�ำงาน การทำ� งาน
2 ของเทคโนโลยี เทคโนโลยไี ดถ้ กู ต้อง (K) - ประเมนิ การ ร่วมกัน
- แ บบทดสอบหลงั เรียน 3. เ ขียนผลกระทบ นำ� เสนอผลงาน - ทักษะการสืบค้นขอ้ มลู
ช่ัวโมง ทางบวกและทางลบ
- ส งั เกตพฤตกิ รรม
ของเทคโนโลยไี ด้ (P) การท�ำงานรายบุคคล
4. เห็นถึงความสำ� คญั
ของผลกระทบทง้ั - สงั เกตพฤตกิ รรม
ทางบวกและทางลบ การท�ำงานกลุม่
ในการสรา้ งเทคโนโลยี (A)
- ส ังเกตคณุ ลักษณะ
อนั พงึ ประสงค์
T2
Chapter Concept Overview
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1
การเปลย่ี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี - ความต้องการของสังคม น�ำไปสู่การสร้างเทคโนโลยี
ข้ึนมาแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น ความปลอดภัย ความสะดวกสบาย
มนษุ ยพ์ ฒั นาองคค์ วามรใู้ หม ่ ๆ อยา่ งตอ่ เนอื่ ง และไดบ้ รู ณาการ การเดินทาง การส่ือสาร การช่วยเหลือผู้พิการ การช่วยเหลือ
องค์ความรหู้ ลาย ๆ ศาสตรเ์ ข้าดว้ ยกันสรา้ งเป็นเทคโนโลยี เพื่อแก้ ผู้สูงอายุ
ปัญหาตา่ ง ๆ ทีเ่ กดิ ขึ้นในชีวิตประจำ� วนั - ความก้าวหน้าของวิทยาการ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์
1. ปัจจยั ต่อการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี และคณิตศาสตร์ น�ำไปสู่การสร้างเคร่ืองมือใหม่ ๆ หรือพัฒนา
ในปัจจุบนั มนุษยไ์ ดค้ ้นพบและสร้างองคค์ วามรูข้ น้ึ มามากมาย ประสิทธิภาพข้ึนจากของเดิม เช่น หุ่นยนต์ส�ำรวจทะเลลึก
หลายสาขา เชน่ วทิ ยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ สงั คมศาสตร์ นติ ศิ าสตร์ โดรนส�ำรวจซากโบราณสถานใต้ดิน กล้องถ่ายภาพอวกาศ
เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ เปน็ ศาสตร์ ก�ำลงั ขยายสูง
ท่ีสง่ ผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยอี ย่างมาก และเทคโนโลยีสว่ นใหญ่ - การเปล่ยี นแปลงทางวัฒนธรรม คอื การเปลี่ยนแปลง
ในชีวิตประจำ� วันของมนุษย์นน้ั ใช้พลังงานในการทำ� งาน ในขณะท่ี วิถีการด�ำเนินชีวิต เช่น การแต่งกาย การท�ำงาน การพักผ่อน
ทรพั ยากรทเี่ ปน็ แหลง่ กำ� เนดิ พลงั งานมจี ำ� นวนจำ� กดั การแกป้ ญั หา การเดินทาง การส่ือสาร จากรูปแบบเดิมกลายเป็นรูปแบบใหม่
การขาดแคลนพลังงานโดยการสร้างทางเลือกในการใช้พลังงาน ตัวอย่างเช่น เปลี่ยนการเดินทางจากภาคพ้ืนดินเป็นทางอากาศ
ทดแทนจึงเกิดขน้ึ ดังนั้น การตอบสนองความต้องการของมนษุ ย์ เปลี่ยนการสื่อสารแบบสายสัญญาณเป็นแบบไร้สาย เปลี่ยนการ
ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ และการแกป้ ญั หาทเี่ กดิ ขน้ึ ในสงั คม เขา้ หอ้ งสมดุ หาขอ้ มลู เปน็ การสบื คน้ แบบออนไลนจ์ ากอนิ เทอรเ์ นต็
จึงเป็นปัจจัยส�ำคัญท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี เปล่ียนการวิ่งออกก�ำลังกายในท่ีโล่งกลางแจ้งเป็นบนลู่วิ่งในที่ร่ม
อยา่ งตอ่ เนือ่ ง เปล่ียนการจ่ายเงนิ สดเป็นการใช้บตั รแทนเงินสด
2. ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี 2) ดา้ นเศรษฐกจิ เปน็ การเพม่ิ ผลกำ� ไร หรอื เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพ
เทคโนโลยีมีความส�ำคัญ แต่ก็ก่อให้เกิดผลเสียหลายอย่าง การทำ� งานขององค์กร เชน่ การเพม่ิ ผลผลติ ด้วยตน้ ทนุ คงท่ี การ
ทั้งผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์และผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม ขยายตลาดจากออฟไลน์เป็นออนไลน์ การกระจายสินค้าโดยใช้
เช่น ปัญหาควันด�ำ ฝุ่นละออง มลพิษ สารเคมีตกค้าง เป็นเหตุ บรกิ ารขนสง่ ทร่ี วดเรว็ มากขน้ึ แตร่ าคาถกู ลง การเปลยี่ นแรงงานคน
ให้มนุษย์ต้องเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม ซ่ึงการ เปน็ หนุ่ ยนตแ์ ทนระบบการทำ� งานจากทบ่ี า้ นโดยไมต่ อ้ งเขา้ ออฟฟศิ
เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยีสง่ ผลกระทบโดยตรง 3 ดา้ น คือ 3) ด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการแก้ปัญหาจากพ้ืนที่ที่มีสภาพ
1) ด้านมนุษย์และสังคม ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงวิถีชีวิต แวดล้อมแตกต่างกัน เช่น ระบบโรงไฟฟ้าพลังงานลม ระบบโรง
และแนวความคิด ดังน้ี ไฟฟา้ พลงั งานแสงอาทติ ย์ การใช้รถยนต์ไฟฟ้าเพอ่ื ลดมลพษิ การ
ปลูกพืชในพื้นท่ีแห้งแล้ง ผลิตภัณฑ์ภาชนะที่ย่อยสลายได้เพ่ือลด
การใช้พลาสตกิ
T3
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั นาํ 1หน่วยการเรียนร้ทู ่ี เทคโนโลยกี ับชวี ิต
กระตนุ้ ความสนใจ
1. ครูใหนักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียน
หนวยการเรียนรูท่ี 1 เร่ือง เทคโนโลยีกับ
ชีวิต เพื่อวัดความรูเดิมของนักเรียนกอนเขา
สูกจิ กรรม
การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี
สง ผลตอ ชวี ติ สงั คม
และสง่ิ แวดลอ ม
ตวั ชว้ี ัด
ว 4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดข้ึน โดยพิจารณาจากสาเหตุหรือปัจจัยท่ีส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห ์
เปรยี บเทียบ ตัดสินใจเลือกใชเ้ ทคโนโลย ี โดยค�านงึ ถงึ ผลกระทบทเ่ี กิดข้นึ ต่อชีวิต สงั คม และสงิ่ แวดลอ้ ม
2
เกร็ดแนะครู
การจดั การเรยี นการสอนในหนว ยการเรยี นรทู ี่ 1 ครคู วรเตรยี มภาพตวั อยา ง
พัฒนาการของเทคโนโลยใี นหลายๆ ดา น หรืออาจหาคลิปวิดีโอมาใหน ักเรยี น
ไดศึกษาและเห็นวิวัฒนาการของเทคโนโลยีตั้งแตอดีตจนถึงปจจุบัน และควร
ติดตามขาวสารความรูดานเทคโนโลยีใหมๆ มาสอนนักเรียน และสวนสําคัญ
ที่สุด คือการฝกใหนักเรียนรูจักวิเคราะหเปรียบเทียบขอมูลเพ่ือตัดสินใจในการ
เลอื กใชเทคโนโลยีทีค่ ุมคา ยัง่ ยนื และเปน มิตรกับส่งิ แวดลอ ม
T4
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมนิ
ผลกระทบจาก 1 ก ารเปลีย่ นแปลงและผลกระทบของ ขนั้ นาํ
กขาอรงเปเทลคี่ยโนนแโปลลยงี เทคโนโลยี
กระตนุ้ ความสนใจ
มีผลทาให้สังคมของมนุษย์ มนุษย์ได้พยายามศึกษาค้นคว้าความรู้ต่าง ๆ จนเกิดเป็นความรู้
เป็นอยา่ งไร ใหม ่ และน�ามาสร้างเทคโนโลยใี หม่ขน้ึ มาหลากหลายรปู แบบเพือ่ ตอบสนอง 2. ครถู ามคาํ ถามสาํ คญั ประจาํ หวั ขอ วา ผลกระทบ
ความต้องการของตนเองหรือสงั คม รวมถึงเพือ่ แกป้ ญั หาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นใน จากการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี มผี ลทาํ ให
สังคมให้ดีขึ้นกว่าเดิม จึงท�าให้เทคโนโลยีพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ยกตัวอย่าง สงั คมของมนุษยเ ปน อยางไร
เช่น การพัฒนาการของยานพาหนะ ซ่ึงเป็นเทคโนโลยีที่มีวัตถุประสงค์เพ่ือตอบสนองความต้องการเดินทาง
ที่สะดวก รวดเร็ว และมีการพฒั นาอยา่ งต่อเนื่องเพื่อเพ่ิมความสามารถในการทา� งาน ขน้ั สอน
ภาพท่ี 1.1 พัฒนาการของยานพาหนะจากอดีตถึงปัจจบุ ัน สาํ รวจคน้ หา
1.1 ปจั จัยต่อการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี 1. นักเรียนแบงกลุม กลุมละ 5 คน หรือตาม
ความเหมาะสม แลวใหน กั เรยี นรว มกันสบื คน
เทคโนโลยีท�าให้เกิดการต่อยอดพัฒนาคิดค้นส่ิงต่าง ๆ เพ่ืออ�านวยความสะดวกสบายต่อชีวิตของมนุษย์ได ้ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีที่มีผลกระทบ
อยา่ งมากมาย อกี ทง้ั ยงั เปน็ ตวั การสา� คญั ในการเขา้ มาเสรมิ ปจั จยั พนื้ ฐานในการดา� รงชวี ติ เปน็ อยา่ งด ี และตอบสนอง ทําใหสังคมมนุษยดีขึ้นจากทางอินเทอรเน็ตที่
ความต้องการของมนษุ ย์ในด้านต่าง ๆ เชน่ เทคโนโลยีดา้ นการผลิตทา� ให้สามารถผลติ สนิ ค้าไดใ้ นปริมาณทีม่ ากขึน้ เครือ่ งคอมพวิ เตอรข องตนเอง
โดยใช้ระยะเวลาน้อยลง ส่งผลใหส้ ินคา้ มีราคาถกู ลง เทคโนโลยดี ้านการบรกิ ารไดม้ สี ่วนช่วยเพิ่มความรวดเร็วในการ
ให้บริการ เทคโนโลยีด้านการส่ือสารท�าให้การติดต่อสื่อสารเชื่อมโยงกันได้ท่ัวโลก ส่งผลให้การสื่อสารเป็นไปอย่าง 2. ครสู มุ นกั เรยี น 2-3 กลมุ ออกมานาํ เสนอขอ มลู
สะดวก รวดเรว็ ตามทไี่ ดส บื คน หนา ชน้ั เรยี น โดยครเู ปด โอกาส
ในปจั จบุ นั มนษุ ยไ์ ดค้ น้ พบและสรา้ งองคค์ วามรมู้ ากมายหลายสาขา เชน่ วทิ ยาศาสตร ์ คณติ ศาสตร ์ สงั คมศาสตร ์ ใหเพื่อนรวมช้ันสามารถซักถามขอสงสัยได
นติ ศิ าสตร ์ เศรษฐศาสตร์ โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ศาสตรท์ ี่ส่งผลตอ่ การพัฒนาเทคโนโลยีอย่างมาก คือ วทิ ยาศาสตรแ์ ละ อยางอิสระ โดยครูคอยใหคําแนะนําเพิ่มเติม
คณติ ศาสตร ์ กลา่ วคอื วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ ศาสตรท์ เี่ กย่ี วกบั สง่ิ ตา่ ง ๆ ในธรรมชาตทิ งั้ ทมี่ ชี วี ติ และไมม่ ชี วี ติ เชน่ กาลเิ ลโอ ตามความเหมาะสม
ไดพ้ บวา่ กอ้ นหินสองก้อนท่มี มี วลไม่เทา่ กนั เม่อื ถกู ปล่อยให้ตกจากระดับเดียวกันและเวลาเดยี วกัน ก้อนหินจะตก
ถงึ พน้ื พรอ้ มกนั ทกุ ครง้ั ไป ตอ่ มานวิ ตนั จงึ ไดน้ า� ความรดู้ า้ นคณติ ศาสตร ์ คอื แคลคลู สั เขา้ มาพสิ จู นส์ งิ่ ทส่ี งั เกต จงึ สามารถ อธบิ ายความรู้
ใชส้ มการเพอ่ื การไขความลบั การตกของวตั ถตุ า่ ง ๆ ไดอ้ ยา่ งถกู ตอ้ ง ดงั นน้ั การคน้ พบทางวทิ ยาศาสตรใ์ หม ่ ๆ ทม่ี กี าร
อธบิ ายในรปู แบบของสมการทางคณติ ศาสตรท์ แี่ มน่ ยา� จงึ ชว่ ยใหเ้ กดิ เทคโนโลยใี หมข่ นึ้ มาอกี มากมาย เชน่ เทคโนโลยี 1. นกั เรยี นสแกน QR Code เรอื่ ง การเปลยี่ นแปลง
อวกาศทีอ่ าศยั แรงดันมหาศาลและความเร็วสูงมาก ๆ ที่ท�าใหย้ านอวกาศเคลอ่ื นทีห่ ลดุ ออกจากแรงโน้มถ่วงของโลก เทคโนโลยี จากหนังสือเรียน โดยใหนักเรียน
สรุปประเด็นสําคัญท่ีไดจากการดูคลิปวิดีโอ
การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี 3เทคโนโลยี ลงในสมดุ
กับชีวิต
แนวตอบ คําถามสาํ คัญประจาํ หัวข้อ
นักเรียนตอบตามประสบการณของตนเอง
โดยคําตอบขึ้นอยูกับดุลยพินิจของครู เชน ทําให
วิถีชีวติ ของมนุษยเปล่ยี นไป สามารถตดิ ตอสื่อสาร
ทางไกลไดงายข้ึน สามารถขายสินคาโดยไมตอง
มหี นา รานจริง ขนสงสนิ คา ไดรวดเร็วมากข้นึ
กิจกรรม สรางเสรมิ เกร็ดแนะครู
ใหน ักเรียนแบง ออกเปน 4-6 กลุม ตามความเหมาะสม และ ครูอาจหาขอมูลตัวอยางพัฒนาการของเทคโนโลยีเพื่อแกปญหาใน
ชว ยกนั สบื คน ขอ มลู การใชป ระโยชนง านเทคโนโลยโี ดรนในวงการ ประเทศไทยมาใหน กั เรยี นไดศ กึ ษาเพม่ิ เตมิ ทง้ั ในระดบั ทอ งถน่ิ และเวทโี ลก โดย
ตางๆ ในปจ จุบนั ใหม ากท่ีสดุ แลว มาสรปุ พรอ มอภปิ รายรวมกัน มงุ เนนการนาํ เสนอใหเ หน็ ปญ หา แนวคดิ ในการแกปญ หา และผลลัพธ เพ่ือให
นกั เรียนไดเห็นภาพรวมของขัน้ ตอนการพฒั นาเทคโนโลยี และการแกป ญหาท้ัง
กระบวนการ
T5
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน กิจกรรมในชีวิตประจ�าวันของมนุษย์มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา และเทคโนโลยีส่วนใหญ่
ต้องใช้พลังงานในการท�างาน ความต้องการพลังงานอย่างมหาศาลจึงเกิดข้ึน ถึงแม้ว่าจะมีเชื้อเพลิงจาก
อธบิ ายความรู้ ถ่านหิน น�้ามัน และแกสธรรมชาติที่เป็นแหล่งก�าเนิดพลังงานจากธรรมชาติ แต่ทรัพยากรเหล่านี้มีจ�านวนจ�ากัด
และสามารถหมดไปในอนาคตได้ ดังนั้น ทางเลือกในการแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงาน คือ การใช้พลังงาน
2. ครูอธบิ ายกบั นกั เรียนวา การเปล่ียนแปลงของ ทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานความร้อนใต้พิภพ ซ่ึงก่อให้เกิดเทคโนโลยีของพลังงาน
เทคโนโลยเี กิดขึน้ จากหลายปจ จยั แตปจจัยที่ ทางเลอื กใหม่ ๆ ขน้ึ ยกตวั อย่างเช่น พลังงานแสงอาทิตยใ์ ชผ้ ลิตพลังงานไฟฟา้ จากเซลลแ์ สงอาทติ ย์ พลังงานลมใช้
มีผลตอการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ผลิตกระแสไฟฟ้าหรือสบู น้า� จากกงั หันลม พลงั งานความร้อนใตพ้ ภิ พใชใ้ นการนา� ความร้อนหรือท�าความรอ้ นให้บ้าน
อยา งตอ เนอ่ื ง คอื การตอบสนองความตอ งการ โดยใช้เครอ่ื งปมั ความร้อน
ของมนุษย ความกาวหนาของศาสตรตางๆ ดังน้ัน ปัจจัยท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีอย่างต่อเน่ือง คือ การตอบสนองความต้องการของ
โดยเฉพาะอยางยิ่งในดานวิทยาศาสตรและ มนุษย์ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างย่ิงศาสตร์ด้านวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ และการ
คณิตศาสตร การแกปญหาตางๆ ท่ีเกิดขึ้น แก้ปัญหาต่าง ๆ ทีเ่ กิดขนึ้ ในสังคม
ในสงั คม
ภาพท่ี 1.2 การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีทางการส่ือสารจากอดตี สปู่ ัจจบุ ัน
3. นกั เรยี นแบง กลมุ กลมุ ละ 5 คน หรอื ตามความ
เหมาะสม ดูภาพการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยี
ทางการส่ือสารและภาพการเปล่ียนแปลงของ
เทคโนโลยีโทรศัพทในรูปแบบของนวัตกรรม
พรอมวิเคราะหถึงการเปล่ียนแปลงจากอดีตสู
ปจ จุบัน
4. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั วเิ คราะหจ ากตวั อยา ง
การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยขี องแตล ะกลมุ
วา เทคโนโลยีดังกลาวเกิดขึ้นจากปจจัยใด
โดยใหนักเรียนวิเคราะหและสรุปรวมกัน
ภายในกลุม จากนั้นใหแตละกลุมสงตัวแทน
ออกมานาํ เสนอขอ มูลหนาชน้ั เรียน
โทรศพั ท์มสี ายที่ใช้ติดต่อสอื่ สารดว้ ยเสียงพดู โทรศัพท์ไรส้ าย โทรศพั ท์ไร้สาย โทรศัพท์ไร้สายท่ีใช้
ที่ใช้ติดตอ่ สือ่ สาร ท่ีใชต้ ดิ ต่อสือ่ สารดว้ ย ตดิ ตอ่ สอ่ื สารดว้ ยเสยี งพดู
เสยี งพดู และขอ้ ความ
ดว้ ยเสียงพดู ขอ้ ความ ภาพนง่ิ
และภาพเคลือ่ นไหว
ภาพท่ี 1.3 การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีโทรศพั ท์ในรปู แบบของนวตั กรรม
4
ความรูเสริม กิจกรรม ทาทาย
การผลิตไฟฟาจากพลังงานความรอนใตพิภพ ในแผนพัฒนาพลังงาน ใหนักเรียนแบงออกเปน 4-6 กลุม ตามความเหมาะสม
ทดแทนและพลงั งานทางเลอื ก 10 ป โดยกรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและอนรุ กั ษ และชวยกันสืบคนขอมูล และหาแนวทางในการใชเทคโนโลยี
พลังงาน (พพ.) ไดมีการกําหนดเปาหมายใหมีการผลิตไฟฟาจากพลังงาน เพ่ือแกปญ หาขยะในทะเล แลวมาอภิปรายรวมกนั
ความรอนใตพภิ พ 1 เมกะวัตต โดยท่ผี า นมากรมทรัพยากรธรณี มหาวิทยาลัย
เชียงใหม และการไฟฟาฝายผลิตแหงประเทศไทย ไดรวมกันศึกษาทดลอง
ผลติ ไฟฟาจากพลังงานความรอนใตพิภพท่ี อ.ฝาง จ.เชยี งใหม มกี ําลังการผลติ
300 กโิ ลวตั ต ซงึ่ พบวา ตน ทนุ การผลติ ไฟฟา ถกู กวา การผลติ ไฟฟา จากเชอื้ เพลงิ
ฟอสซลิ ถึง 8 เทา รวมถึงคาบาํ รงุ รักษาดูแลระบบยงั ถกู กวา หลายเทา และอายุ
การใชงานยาวนานกวา อกี ดวย (ขอมูลจากเว็บกรมพฒั นาพลงั งานทดแทนและ
อนุรักษพ ลังงาน)
T6
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
1.2 ผลกระทบจากการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ขนั้ สอน
เทคโนโลยีมีความส�าคัญต่อการใช้ชีวิตประจ�าวันของมนุษย์ แต่เทคโนโลยีท่ีสะดวกสบายก็ก่อให้เกิดข้อเสีย อธบิ ายความรู้
หลายอย่างต่อการใช้ชีวิตของมนุษย์เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การใช้รถยนต์ท่ีเพิ่มมากข้ึน โดยเฉพาะรถยนต์ที่ใช้
เครื่องยนต์ดีเซลที่ปล่อยเขม่า ฝุ่น ควันด�าออกมา ท�าให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองท่ีมีผลต่อสุขภาพของมนุษย์ ดังน้ัน 5. ครูอธิบายกับนักเรียนวา เทคโนโลยีท่ีอํานวย
เราควรเรยี นรใู้ นการใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสมและใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ ซงึ่ การเปลย่ี นแปลงของ ความสะดวกสบายก็กอใหเกิดขอเสียหลาย
เทคโนโลยีส่งผลกระทบโดยตรง 3 ด้าน คอื ด้านมนษุ ยแ์ ละสงั คม ดา้ นเศรษฐกจิ และดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม อยา งตอ การใชช วี ติ ของมนษุ ย ซงึ่ สง ผลกระทบ
1. ด้านมนุษย์และสังคม ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี มีผลโดยตรงต่อการด�ารงชีวิต โดยตรง 3 ดาน คือ ดานมนุษยและสังคม
ของมนุษย์ รวมถึงการปรบั เปลี่ยนวถิ ีการดา� เนินชีวิต หรือรวมไปถึงการเปล่ียนแนวความคดิ ได ้ ดังน้ี ดานเศรษฐกิจ และดา นสิ่งแวดลอ ม
1) ความต้องการของสังคม แรงขับเคล่ือน
การเปลย่ี นแปลงทสี่ า� คญั ของการเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี 6. นักเรยี นแบง กลมุ (กลมุ เดิม) รวมกนั วเิ คราะห
คือ สังคมบริเวณน้ันต้องการเทคโนโลยีในรูปแบบใด ตัวอยางการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีที่
เพื่อช่วยแก้ปัญหาหรือเพ่ือสนองความต้องการในการ แตล ะกลมุ คดั เลอื กมาวา เทคโนโลยดี งั กลา วสง
ด�ารงชีวิตประจ�าวันให้เกิดความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผลกระทบทงั้ ทางบวกและทางลบในแตล ะดา น
เชน่ นา� ไปแกป้ ญั หาทางการเกษตร การสอื่ สารของชมุ ชน อยา งไร ตามหัวขอ ดงั น้ี
ระบบรกั ษาความปลอดภยั การเดนิ ทาง เครอ่ื งชว่ ยเหลอื 1) ดา นมนุษยและสงั คม
ผสู้ งู วยั - ความตองการของสงั คม
- ความกาวหนาของวิทยาการ
ภาพท่ี 1.4 การนา� เทคโนโลยีมาใช้ทางการเกษตร - การเปลย่ี นแปลงทางวฒั นธรรม
2) ดานเศรษฐกจิ
2) ความก้าวหน้าของวิทยาการ เป็นการน�า 3) ดา นสิ่งแวดลอม
องค์ความรู้แขนงต่าง ๆ มาสร้างสรรค์หรือแก้ปัญหา
ท่ีมีความซับซ้อนเพื่อน�าไปสู่การสร้างเครื่องมือทาง
เทคโนโลยีเพ่อื น�าไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ซง่ึ ไดน้ า� ความร ู้
ใหม่หลายแขนงมาปรับเปล่ียนจากของเดิมหรือท�าขึ้น
ใหมท่ ดแทน จนทา� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยี
อยู่เสมอ ซง่ึ ความรู้จากศาสตร์ตา่ ง ๆ เปน็ องคป์ ระกอบ
ทส่ี �าคัญทผ่ี ลักดันใหเ้ กิดเทคโนโลยใี หม่ ๆ อยู่เสมอ โดย
ศาสตรท์ มี่ คี วามสา� คญั กค็ อื วทิ ยาศาสตรแ์ ละคณติ ศาสตร์
นั่นเอง
ภาพที่ 1.5 ก ารรวมองคค์ วามรู้และประสบการณม์ าสรา้ งสรรค ์
เปน็ ความคิดใหม่ ๆ
5เทคโนโลยี
กับชีวิต
ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู
ถานักเรียนเปนชาวสวนที่มีพ้ืนที่เพาะปลูกจํากัด การพัฒนา ครูควรจัดกิจกรรมการเรียนการสอนใหนักเรียนไดเปรียบเทียบขอดีและ
เทคโนโลยใี นดา นใดจะเกดิ ประโยชนค มุ คา มากทสี่ ดุ เพราะเหตใุ ด ขอเสียของเทคโนโลยี เพ่ือใหสามารถตัดสินใจเลือกใช หรือวางแผนแกปญหา
ผลกระทบที่จะเกิดจากการใชเทคโนโลยีไดอยางเหมาะสม รวมถึงยกตัวอยาง
(แนวตอบ ถามีพ้ืนท่ีเพาะปลูกจํากัด เทคโนโลยีที่ควรพัฒนา เทคโนโลยใี หมๆ ที่ถูกคดิ คน มาเพอื่ แกป ญหาของเทคโนโลยีที่มีอยเู ดมิ ดวย
อันดับแรก คือ เทคโนโลยีการเพิ่มผลผลิตในพ้ืนที่จํากัด การมี
พื้นท่ีเพาะปลูกที่จํากัดทําใหไมสามารถแกปญหาดวยการขยาย
พ้ืนท่ีเพาะปลูกได จึงจําเปนตองใชวิธีการเพ่ิมผลผลิตจากพื้นท่ี
เพาะปลกู เทาเดิมแทน)
T7
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ สอน 3) การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรม ส�านักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม
ได้ให้ความหมายของวัฒนธรรมไว้ว่าเป็น “วิถีการด�าเนินชีวิต (The Way of Life)” ของคนในสังคม นับต้ังแต ่
อธบิ ายความรู้ วิธีกนิ วิธอี ย ู่ วิธีแต่งกาย วิธีทา� งาน วธิ พี ักผอ่ น วธิ แี สดงอารมณ์ วิธสี ือ่ ความ วิธีจราจรและขนสง่ วธิ อี ยูร่ ว่ มกันเป็น
หมคู่ ณะ วธิ แี สดงความสขุ ทางใจ และหลกั เกณฑก์ ารดา� เนนิ ชวี ติ ทค่ี นสว่ นใหญใ่ นสงั คมปฏบิ ตั สิ บื ตอ่ กนั มา วฒั นธรรม
7. ครอู ธบิ ายเกรด็ เสรมิ ความรทู เี่ กย่ี วขอ งกบั เนอื้ หา มกี ารเปลย่ี นแปลงไปตามเงอ่ื นไขและกาลเวลา ยกตัวอย่างเช่น เม่อื มีการประดิษฐ์เทคโนโลยีใหม ่ ๆ ทีใ่ ช้แกป้ ัญหา
(Design Focus) เร่ือง การเปลี่ยนแปลงทาง และตอบสนองความตอ้ งการของมนุษยไ์ ดม้ ากกวา่ ก็จะถูกน�ามาใช้อย่างแพร่หลายตอ่ เน่ืองจนกลายเปน็ วฒั นธรรม
วัฒนธรรม วา วัฒนธรรมเปนสิง่ ทีเ่ ปล่ียนแปลง ดังน้ัน เทคโนโลยีทใ่ี หม่กว่า ทา� ให้ชวี ติ มนษุ ย์สะดวกสบายมากกวา่ เดิม และกจ็ ะมาแทนที่เทคโนโลยที เี่ กา่ กว่า จน
ไปตามกาลเวลา วัฒนธรรมในสังคมจะมีการ กระทั่งในที่สุดมนุษย์อาจเลิกใช้วัฒนธรรมเดิม ดังน้ัน เทคโนโลยีเป็นที่มาของวัฒนธรรมใหม่ ๆ หลายอย่าง เช่น
เปล่ียนแปลงเร็วหรือชาข้ึนอยูกับสังคมน้ัน การค้นหาข้อมูลในการเรียน ในอดีตนักเรียนต้องเข้าห้องสมุดค้นคว้าหาความรู้ ปัจจุบันนักเรียนสามารถค้นหา
มโี อกาสสมั ผสั กบั วฒั นธรรมภายนอกไดส ะดวก ความรจู้ ากอนิ เทอรเ์ นต็ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ แตข่ อ้ มลู อาจจะไมถ่ กู ตอ้ ง เนอื่ งจากบางแหลง่ ขอ้ มลู เผยแพรข่ อ้ มลู ทไี่ มถ่ กู ตอ้ ง
มากหรือนอย โอกาสที่วิทยาการตางๆ เขาสู
สังคมยอ มมีผลกระทบตอ วฒั นธรรม ปจจบุ ัน ผลกระทบจากการเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีด้านมนษุ ยแ์ ละสงั คม
วิทยาการตางๆ กาวหนา ไปมาก ประกอบกบั
มีอินเทอรเน็ตเช่ือมตอกันทั่วโลก จึงเกิดการ ผลกระทบ ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ
เปลยี่ นแปลงดานวฒั นธรรมอยา งรวดเรว็ ความตอ้ งการ ท�าให้มนุษย์มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มนุษย์ใช้คอมพิวเตอร์มากข้ึนส่งผล
ของสังคม และช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพการท�างาน ใหม้ กี ารใชไ้ ฟฟา้ มากขน้ึ และสง่ ผลตอ่
ความกา้ วหนา้ ได้สะดวกและรวดเร็ว เช่น การใช้ สายตาหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลานาน
ของวทิ ยาการ ซอฟตแ์ วรช์ ว่ ยในการทา� งาน ทา� ใหก้ าร โดยไมห่ ยดุ พกั
การเปล่ยี นแปลง ทา� งานมปี ระสทิ ธภิ าพยงิ่ ขน้ึ
ทางวฒั นธรรม การใช้เทคโนโลยีที่ชาญฉลาดแทน
การคน้ พบความรใู้ หม ่ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ทา� ให้ แรงงานมนุษย์ ท�าให้ยกเลิกการจ้าง
เกดิ เทคโนโลยใี หมท่ ม่ี คี วามชาญฉลาด แรงงานคนในการท�างานในบางด้าน
ใกลเ้ คยี งมนุษยม์ ากย่งิ ขึน้ การแลกเปล่ียนวัฒนธรรมของคนใน
โลก ซง่ึ หากไมไ่ ดเ้ รยี นรคู้ วามแตกตา่ ง
เทคโนโลยกี ารเดนิ ทาง ทา� ให้เกิดการ ของวัฒนธรรม ก็อาจท�าให้เกิดการ
แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของคนในโลก กระทบกระท่ังขึน้ ในสงั คมได้
ซง่ึ สง่ ผลตอ่ วฒั นธรรมไทยในหลายดา้ น
เชน่ ภาษา วรรณคด ี กฎหมาย ตลอดจน
ประเพณตี ่าง ๆ
Design Focus การเปลยี่ นแปลงทางวฒั นธรรม
วัฒนธรรมเป็นส่ิงท่ีเปล่ียนแปลงไปตามกาลเวลา วัฒนธรรมในสังคมจะเปล่ียนแปลงเร็วหรือช้าขึ้นอยู่กับสังคมนั้น
มีโอกาสสัมผัสกับวัฒนธรรมภายนอกได้สะดวกมากหรือน้อย โอกาสที่วิทยาการต่าง ๆ เข้าสู่สังคมย่อมมีผลกระทบต่อ
วฒั นธรรม ปจั จุบนั วิทยาการตา่ ง ๆ กา้ วหนา้ ไปมาก ประกอบกบั มอี นิ เทอรเ์ นต็ เชอื่ มตอ่ ถงึ กนั ทัว่ โลก จงึ เกดิ การเปลยี่ นแปลง
ดา้ นวัฒนธรรมอย่างรวดเรว็
6
ความรูเสริม ขอสอบเนน การคดิ
เทคโนโลยีใดที่สงผลกระทบทางดานลบตอมนุษยและสังคม
รถยนตไฟฟา (EV: Electric Vehicles) ถือเปนนวัตกรรมทางเทคโนโลยี มากท่สี ุด
ยุคใหมของวงการยานยนต ท่ีเปลี่ยนการใชพลังงานจากนํ้ามันและแกส
มาเปนพลังงานไฟฟาท่ีมีราคาถูกกวาพลังงานเชื้อเพลิงรูปแบบเกา และ 1. เทคโนโลยที ีท่ ํางานแทนมนุษย
ยงั เปน มติ รกบั สง่ิ แวดลอ มมากกวา รถยนตไ ฟฟา ในปจ จบุ นั มที ง้ั แบบใชพ ลงั งาน 2. เทคโนโลยที ร่ี กั ษาอาการปวยใหม นษุ ย
จากเช้ือเพลิงท่ัวไปรวมกับพลังงานไฟฟาจากแบตเตอรี่ และแบบท่ีใชพลังงาน 3. เทคโนโลยที ีเ่ พ่มิ ความปลอดภัยใหม นษุ ย
ไฟฟาจากแบตเตอร่ี 100% คือ ไมมีการปลอยมลพิษทางอากาศ ซ่ึงตามแผน 4. เทคโนโลยที อ่ี าํ นวยความสะดวกใหม นุษย
สงเสริมการใชยานยนตไฟฟาของสํานักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) (วิเคราะหคําตอบ จากตัวเลือกที่กําหนดให วิเคราะหไดวา
ต้ังเปาหมายใหมีรถยนตไฟฟา 1.2 ลานคัน และสถานีชารจ 690 สถานี เทคโนโลยที ส่ี ง ผลกระทบทางดา นลบตอ มนษุ ยแ ละสงั คมมากทส่ี ดุ
ภายในป ค.ศ. 2036 คอื เทคโนโลยที ที่ ํางานแทนมนุษย ทําใหเ จาของโรงงานประหยัด
คาใชจายไดมากขึ้น แตในทางกลับกันก็ทําใหการจางแรงงาน
ลดลงเชนกัน ดังน้นั ตอบขอ 1.)
T8
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
2. ด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยีท่ีเปลี่ยนแปลงไปมีผลต่อการด�าเนินธุรกิจ โดยส่งผลให้ระบบการท�างานของ ขน้ั สอน
องคก์ รดขี ึน้ และสร้างก�าไรใหธ้ รุ กิจไดม้ ากขึ้น เชน่ การผลติ การตลาดและการขาย การเงินและการบญั ชี
อธบิ ายความรู้
ผลกระทบจากการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยดี ้านเศรษฐกิจ
8. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา การเปล่ียนแปลงของ
ผลกระทบ ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ เทคโนโลยีในอดีตและปจจุบันหลายอยาง
การผลติ ผลิตสินค้าได้มากข้ึน เน่ืองจากใช้ การแข่งขันทางการผลิตในภาค สงผลกระทบท้ังทางบวกและทางลบ ในดาน
ต้นทุนในการผลิตน้อยลง ท�าให้ได้ อุตสาหกรรม อาจก่อให้เกิดการใช้ เศรษฐกิจ เพราะฉะน้ันการพัฒนาเทคโนโลยี
การตลาดและการขาย กา� ไรมากข้นึ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างส้ินเปลือง ในยุคสมัยใหม จําเปนจะตองคํานึงถึงการ
และท�าใหข้ าดแคลนในอนาคต ปองกันไมใหเกิดผลกระทบทางลบท่ีจะทําให
การเงนิ และการบญั ชี ใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ ในการขายสนิ คา้ ทา� ให้ เกิดปญหาตามมาในระยะยาว เชน การ
มีตลาดการค้ากว้างขวางข้ึน ส่งผล การขายสนิ คา้ ออนไลน ์ อาจสง่ ผลใหม้ ี ขาดแคลนทรัพยากรจนทําใหสินคาราคา
ให้ขายสินค้าได้มากข้ึน ผู้ขายมีก�าไร มจิ ฉาชพี หลอกขายสนิ คา้ ทไ่ี มม่ คี ณุ ภาพ สูงข้ึน การเกิดมลพิษในระดับที่เปนอันตราย
มากข้นึ เนอ่ื งจากลกู คา้ จะไมเ่ หน็ สนิ คา้ ของจรงิ รายแรงตอสุขภาพจนกระทบตอการทองเท่ียว
จนกวา่ ลกู คา้ จะไดร้ บั สนิ คา้ รวมถงึ การ การเกดิ ขยะทย่ี อ ยสลายไดย ากจาํ นวนมากจน
ช�าระเงินออนไลน์ได้หลายรูปแบบ จ�าหนา่ ยสนิ คา้ ทีผ่ ดิ กฎหมาย กําจัดทงิ้ ไมท ัน
ทา� ให้ลูกค้าสะดวกในการช�าระเงนิ โดย
ไมต่ ้องเดนิ ทาง องค์กรท�าระบบรักษาความปลอดภัย
ในการชา� ระเงินไมด่ ี อาจถกู โปรแกรม
ที่แอบติดตั้งดักอ่านข้อมูล และท�าให้
สูญเสียทรพั ยโ์ ดยไมร่ ู้ตวั
ภาพที่ 1.6 การคา้ ขายส่งผลตอ่ เศรษฐกิจของประเทศ
7เทคโนโลยี
กบั ชวี ิต
กจิ กรรม ทาทาย เกร็ดแนะครู
สมมติวานักเรียนกําลังจะเปดรานคาออนไลน ใหนักเรียน การศึกษาผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดานเศรษฐกิจ
สืบคน ขอ มูลการชาํ ระเงนิ ผานอนิ เทอรเ น็ต (Internet Payment) เปนเนื้อหาท่ีสามารถฝกฝนทักษะการคิดของนักเรียนในการตัดสินใจเลือกจาก
3 รูปแบบ ดังนี้ การศึกษาขอดี-ขอเสีย และความยั่งยืน จากกรณีศึกษาหลายๆ ตัวอยาง ครู
ควรออกแบบกิจกรรมการเรียนการสอนใหเกิดความรู ทักษะ และทัศนคตติ าม
1. การตัดบญั ชเี งนิ ฝากผานบรกิ าร Internet Banking ของ ทกี่ ลาวมานี้
ธนาคาร (ลักษณะเดียวกับการโอนเงนิ )
2. การชาํ ระผา นเวบ็ ไซตข องรา นคา ออนไลนด ว ยบตั รเครดติ
หรอื บตั รเดบติ
3. การชําระผานเว็บ ไซตของรานคาออนไลนดวยเงิน
อเิ ล็กทรอนิกส (e-Money)
หลงั จากนนั้ ใหพ จิ ารณเลอื กรปู แบบทค่ี ดิ วา เหมาะสมทส่ี ดุ พรอ ม
ใหเหตผุ ลประกอบ
T9
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขน้ั สอน 3. ด้านสิ่งแวดล้อม สภาพแวดล้อมแต่ละท่ีย่อม
แตกต่างกัน จึงท�าให้เกิดความต้องการหรือพัฒนา
อธบิ ายความรู้ เทคโนโลยีแตกต่างกันไป เพราะเจอปัญหาจากสภาพ
แวดลอ้ มจงึ ตอ้ งมเี ทคโนโลยใี นการปอ้ งกนั เพอ่ื ดา� รงชวี ติ
9. ครูอธิบายเพ่ิมเติมวา ในปจจุบันไดมีแนวทาง ให้ได้ แต่บางพื้นที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะกับการใช้
ในการปฏิบัติเพื่อลดปญหาผลกระทบทางลบ เทคโนโลยเี พอ่ื สรา้ งพลังงานได้เชน่ กนั เช่น พลงั งานลม
จากการใชเ ทคโนโลยใี นองคก ร เรยี กวา Green พลงั งานนา้� พลงั งานแสงอาทติ ย ์ ดงั นน้ั เมอื่ ใชเ้ ทคโนโลยี
Technology หรือเทคโนโลยีเพ่ือสิ่งแวดลอม ในการสร้างพลังงานแล้วยังต้องค�านึงถึงผลที่จะตามมา
คือ แนวคิดในการบริหารจัดการและเลือกใช จากการเปล่ียนสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมและมลพิษ
เทคโนโลยีที่เปนมิตรตอส่ิงแวดลอม เพื่อเพิ่ม ท่ีต้องมีการก�ากับดูแล เพ่ือไม่ให้มลพิษถูกปล่อยสู่
ประสิทธิภาพใหมากขึ้น แตใชพลังงานลดลง ธรรมชาต ิ หรือตอ้ งมีการบ�าบดั ใหไ้ ดต้ ามมาตรฐานกอ่ น
ลดการสรา งขยะ สง เสรมิ การนาํ กลบั มาใชใ หม ภาพท่ี 1.7 ผลกระทบจากการทา� เหมือง
และผลิตโดยไมใชสวนประกอบท่ีทําจาก
สารพิษที่เปนอันตรายตอมนุษย สัตว และ ปลอ่ ยสธู่ รรมชาติ เพราะจะสง่ ผลกระทบตอ่ ผู้คนในบริเวณนน้ั ๆ ทต่ี ้องใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการด�ารงชวี ติ ดว้ ย
สิ่งแวดลอม ซ่ึงเปนแนวคิดที่ถูกนําไปใช การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยตี อ่ สง่ิ แวดลอ้ มเกดิ ขน้ึ เพอื่ ใหม้ นษุ ยส์ ามารถจดั การหรอื ควบคมุ ธรรมชาตไิ ด้
ในองคกรตางๆ อยางแพรห ลายในปจจุบัน และเพ่ือใหม้ นุษย์สะดวกสบายหรือไดร้ ับประโยชน์มากขึ้น
ผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยดี ้านส่ิงแวดล้อม
ผลกระทบทางบวก ผลกระทบทางลบ
การควบคมุ สง่ิ แวดลอ้ มใหเ้ ปน็ ไปตามทส่ี งั คมตอ้ งการ การผลิตในอุตสาหกรรมอาจก่อให้เกิดผลผลิตท่ี
หรือแก้ปัญหาให้กับสังคม เช่น ในพ้ืนที่ที่แห้งแล้ง ไม่ต้องการ ซ่ึงถ้าปล่อยสู่ส่ิงแวดล้อมโดยขาดการ
ขาดน้�าในการเพาะปลูก จึงน�าเทคโนโลยีฝนเทียม ควบคมุ อาจกอ่ ใหเ้ กดิ ปญั หามลภาวะและเปน็ ปญั หา
มาใช้ในการดัดแปลงสภาพอากาศท�าให้เกดิ ฝนตก ท่ีนบั วันยิง่ ทวีความรนุ แรงมากขึน้ เรอื่ ย ๆ
ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีก่อให้เกิดผลกระทบได้ท้ังทางบวกและลบ ขึ้นอยู่กับว่ามนุษย์น้ันใช้
เทคโนโลยีไปในทิศทางใด มนุษย์จึงต้องตระหนักถึงผลกระทบท่ีอาจเกิดข้ึนทั้งทางบวกและทางลบก่อนท่ีจะสร้าง
เทคโนโลยใี หม ่ ๆ ขึ้นมา เพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สูงสุดแก่มนุษย์
ภาพที่ 1.8 การใช้เทคโนโลยีมาสรา้ งเขอื่ น
8
เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด
การติดตามขอมูลขาวสารเกี่ยวกับผลกระทบทางบวกและทางลบ เทคโนโลยีใดที่สง ผลกระทบตอสิง่ แวดลอมมากท่สี ุด
ของเทคโนโลยีเปนส่ิงสําคัญที่ครูควรฝกใหนักเรียนอภิปราย เพ่ือหาขอสรุป 1. เทคโนโลยีการส่อื สาร
ถึงความเหมาะสมในการตัดสินใจเลือกเทคโนโลยีมาใชงาน ซึ่งจะเปนการ 2. เทคโนโลยกี ารเกษตร
ฝกทักษะการใหเหตุผลและการคิดอยางมีวิจารณญาณท่ีดีสําหรับการเรียนรู 3. เทคโนโลยที างการแพทย
ในศตวรรษที่ 21 4. เทคโนโลยเี ซลลแสงอาทติ ย
(วเิ คราะหค าํ ตอบ จากตัวเลือกท่ีกําหนดให วิเคราะหไดวา
ในตัวเลือกท้ังหมด เทคโนโลยีที่สงผลกระทบตอสิ่งแวดลอม
มากท่ีสุด คือ เทคโนโลยีการเกษตร ไมวาจะเปนการใชปุยเคมี
หรือยาฆาแมลงในการเพ่ิมผลผลิต มักจะสงผลตอสิ่งแวดลอม
และมนุษยโ ดยตรง ดงั นั้น ตอบขอ 2.)
T10
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
Design Activity ขน้ั สอน
การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ขยายความเขา้ ใจ
1. จากภาพดา้ นลา่ ง ให้นักเรียนวเิ คราะห์ข้อดีและข้อเสยี ของเทคโนโลย ี พรอ้ มอธบิ ายถึงการท�างานของ 1. นักเรียนแตละคนทํากิจกรรมที่สอดคลองกับ
เทคโนโลยีวา่ สามารถน�าไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ ยา่ งไร เนอื้ หาโดยใหผ เู รยี นฝก ปฏบิ ตั เิ พอ่ื พฒั นาความรู
และทักษะ (Design Activity) ใหนักเรียน
Design Activity พิจารณาภาพและวิเคราะหถึงขอดี-ขอเสีย
ของเทคโนโลยี พรอมอธิบายถึงการทํางาน
การเปลยี่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ของเทคโนโลยีน้ันวาสามารถนําไปใชใหเกิด
1. จากภาพด้านลา่ ง ใหน้ ักเรียนวิเคราะหข์ ้อดีและข้อเสยี ของเทคโนโลยี พร้อมอธิบายถึงการทา� งานของ ประโยชนอ ยางไร
เทคโนโลยีวา่ สามารถนา� ไปใช้ใหเ้ กดิ ประโยชนอ์ ย่างไร 2. นักเรียนแบงกลุม (กลุมเดิม) เพื่อทําใบงาน
เรอ่ื ง ผลกระทบของเทคโนโลยี โดยใหน กั เรยี น
ภาพท่ี 1.9 โทรศพั ท์เคล่อื นที่ ภาพที่ 1.10 เคร่อื งคอมพิวเตอร์ อานและทําความเขาใจเนื้อหาพรอมตอบ
คาํ ถามลงในประเดน็ ทก่ี าํ หนดใหอ ยา งถกู ตอ ง
ภาพที่ 1.11 ปากกา ภาพท่ี 1.12 รถยนต์
3. ครูเปดโอกาสใหนักเรียนแตละกลุมออกมา
ภาพท่ี 1.13 อากาศยานไรค้ นขบั (Drone) ภาพที่ 1.14 เซลล์แสงอาทิตย์ (Solar cell) นําเสนอขอมูลหนา ชน้ั เรียน
9เทคโนโลยี
กับชีวิต
ภาพที่ 1.9 โทรศัพท์เคลอื่ นที่ ภาพท่ี 1.10 เครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
ภาพที่ 1.11 ปากกา ภาพที่ 1.12 รถยนต์
ภาพท่ี 1.13 อากาศยานไร้คนขับ (Drone) ภาพที่ 1.14 เซลลแ์ สงอาทิตย์ (Solar cell)
9เทคโนโลยี
กบั ชีวิต
กจิ กรรม ทาทาย ความรูเสริม
ใหน กั เรยี นแบง ออกเปน 4 กลมุ สมมตสิ ถานการณว า นกั เรยี น การพักหนาจอดวยโปรแกรมถนอมหนาจอ (Screen saver) ของเครื่อง
ตองมีสวนรวมในการพิจารณาจัดซ้ือโดรนมาใชงานในโรงเรียน คอมพิวเตอรเปนทางเลือกในการประหยัดพลังงานและยืดอายุการใชงานของ
ใหสืบคนขอมูลมานําเสนอประโยชนของโดรนที่จะใชงานภายใน หนาจอรนุ เกา แตก บั หนาจอ LCD และ LED ที่ใชก ันอยูในปจจุบันน้ันไมไดเกดิ
โรงเรียน โดยใหแ ตล ะกลมุ นาํ เสนอคนละหัวขอ ดังน้ี ประโยชนใ ดๆ ถา โปรแกรมถนอมหนาจอทแี่ สดงผลบนหนาจอนานกวา 5 นาที
ขน้ึ ไป จะเปน การเสยี พลงั งานไฟฟา ไปโดยเปลา ประโยชน หากตอ งการประหยดั
กลุมที่ 1 นําเสนอประโยชนในการใชงานแทนการทํางาน พลงั งานและยืดอายกุ ารใชง านหนา จอรุนใหม สามารถต้งั คาไดหลายแบบ คือ
กลุม ท่ี 2 ทม่ี ีอยูในปจ จบุ นั
กลมุ ท่ี 3 นาํ เสนอประโยชนในการใชงานเฉพาะทางของโดรน 1. ใหใ ช Turn off the display ซ่ึงเปนการปด หนาจออยางเดียว
นําเสนอประโยชนในการใชงานในการสรา งรายได 2. Sleep mode เปนการประหยัดพลังงานโดยการหยุดการทํางานของ
ใหกับโรงเรยี น คอมพวิ เตอรไวช วั่ คราวพรอ มปด หนาจอโดยเก็บขอ มลู ไวทแ่ี รม ซึ่งสามารถกลบั
กลุมท่ี 4 นําเสนอประโยชนในการใชง านในดา นอื่นๆ มาเรียกใชง านโปรแกรมท่ีปดไวไดในไมกี่วนิ าที
3. Hibernate mode เปนการประหยัดพลังงานเหมือนกับการปดเคร่ือง
โดยการเกบ็ ขอมลู ของโปรแกรมและไฟลทีเ่ ปดใชง านอยูไ วที่ฮารด ดสิ กก อนทีจ่ ะ
ปด เครอ่ื ง แตจ ะใชเ วลาในการเรยี กขอ มลู กลบั มานานกวา Sleep mode
T11
นาํ สอน สรุป ประเมิน
ขนั้ สอน 2. ถ ้านักเรียนต้องท�าความสะอาดบ้าน นักเรียนคิดว่าจะใช้เทคโนโลยีใดช่วยท�าความสะอาดบ้านได้สะดวกข้ึน
ใหน้ กั เรยี นวาดรปู ภาพของเทคโนโลยี พรอ้ มอธิบายการใชง้ าน
ขยายความเขา้ ใจ
3. เทคโนโลยที ีน่ กั เรยี นเลอื กใช้ในข้อ 2. จะสง่ ผลกระทบอย่างไรบา้ งตอ่ ชีวติ ประจ�าวนั สังคม และสิง่ แวดลอ้ ม
4. ครสู มุ นกั เรยี นออกมาตอบคาํ ถามจากกจิ กรรม 4. ใ ห้นักเรียนบอกเทคโนโลยีท่ีใช้ในชีวิตประจ�าวัน 1 อย่าง พร้อมอธิบายผลกระทบด้านบวกและด้านลบ
ฝก ปฏบิ ตั เิ พอื่ พฒั นาความรแู ละทกั ษะ (Design
Activity) ขอละ 2-3 คน ตามความเหมาะสม จากการใชเ้ ทคโนโลยดี งั กล่าว
5. ในอนาคตอีก 10 ปขี ้างหน้า นกั เรยี นคิดวา่ โทรศพั ทม์ อื ถอื จะมฟี งั กช์ นั หรอื ความสามารถพเิ ศษใหม ่ ๆ อะไรบา้ ง
ขนั้ สรปุ
เพราะเหตุใด
ตรวจสอบผล
10
1. ครูประเมินผลการนาํ เสนอของนักเรยี น
2. ครูตรวจสอบความถูกตองจากการทําใบงาน
3. นักเรียนทําแบบฝกหัดทบทวนความรู ความ
เขาใจ และพัฒนาทักษะการคิดของผูเรียน
(Unit Activity)
4. นักเรียนตรวจสอบระดับความสามารถของ
ตนเอง (Self-Check)
5. นักเรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน
ขน้ั ประเมนิ
ตรวจสอบผล
ตารางการวัดและประเมินผล
วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑก ารประเมิน
ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ ประเมนิ
กอนเรยี น กอ นเรยี น ตามสภาพจริง
ตรวจแบบทดสอบ แบบทดสอบ รอ ยละ 60
หลงั เรียน หลงั เรยี น ผา นเกณฑ
ตรวจใบงาน ใบงาน รอยละ 60
ผานเกณฑ
ประเมินการนาํ แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 2
เสนอผลงาน การนาํ เสนอ ผานเกณฑ
ผลงาน
สังเกตพฤติกรรม แบบสงั เกต ระดับคณุ ภาพ 2
การทํางาน พฤติกรรม ผานเกณฑ
รายบคุ คล
สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกต ระดับคุณภาพ 2
การทํางานกลุม พฤติกรรม ผานเกณฑ
แนวทางการวัดและประเมินผล ขอสอบเนน การคิด
ครสู ามารถสงั เกตการนาํ เสนอผลงาน พฤตกิ รรมการทาํ งานรายบคุ คลและ อานขอ ความตอไปน้ี แลวตอบคาํ ถาม
การทํางานกลุมของนักเรียน โดยศึกษาเกณฑการวัดและประเมินผลจาก เทคโนโลยีการตรวจพสิ จู นข องเหลว (Liquid Biopsy) สามารถ
แบบประเมนิ การนาํ เสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทาํ งานรายบคุ คล และ
แบบสังเกตพฤติกรรมการทํางานกลุมท่ีแนบมาทายแผนการจัดการเรียนรูท่ี 1 สกัดเซลลมะเร็งออกจากตัวอยางเลือดธรรมดาได ถือเปนการ
หนว ยการเรยี นรทู ่ี 1 ตรวจสอบโดยไมต อ งเขา ถงึ ตวั มะเรง็ โดยตรง ซง่ึ มปี ระสทิ ธภิ าพสงู
และสามารถตรวจพบอาการทรุดของโรคไดกอนทําซีทีสแกนดวย
แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม เปนแนวทางใหมในการรกั ษามะเร็ง นอกเหนอื จากการตดั ชนิ้ เนื้อ
ไปตรวจ ซ่ึงเปนภาระทางรางกายของผูปวย ขอความดังกลาว
คาช้ีแจง:ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องที่ คาช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี คาช้ีแจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ เปนการพูดถึงเทคโนโลยีในการแกปญหาดานใด และจะสง
ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ผลกระทบทางบวกอยางไร
ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ลาดับท่ี ช่อื –สกุล การแสดง การยอมรบั การทางาน ความมนี า้ ใจ การมี รวม (แนวตอบ เปน เทคโนโลยสี าํ หรบั แกป ญ หาในดา นมนษุ ยแ ละสงั คม
32 32 ของนักเรยี น ความคดิ เห็น ฟงั คนอ่ืน ตามท่ไี ด้รับ ส่วนรว่ มใน 15 จะสง ผลใหม แี นวทางในการรกั ษามะเรง็ เพมิ่ ขน้ึ และอาจจะพฒั นา
1 1 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน ประสิทธิภาพไดมากขึน้ อีกในอนาคต)
ผลงานกลมุ่
1 ความถกู ต้องของเนื้อหา 1 การแสดงความคดิ เหน็ 321321321321321
2 ความคดิ สร้างสรรค์ 2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ น่ื
3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย
4 การนาไปใชป้ ระโยชน์ 4 ความมนี าใจ
5 การตรงต่อเวลา 5 การตรงต่อเวลา
รวม
รวม
ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมิน
............/................./................... ............/.................../................
เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ลงชือ่ ...................................................ผ้ปู ระเมิน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ สมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน ............./.................../...............
ให้ 1 คะแนน ให้ 1 คะแนน
ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เปน็ ส่วนใหญ่ ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน
ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางส่วน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมบางครงั ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน
ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การตดั สนิ คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
14–15 ดีมาก 14–15 ดมี าก 14–15 ดีมาก
11–13 ดี 11–13 ดี 11–13 ดี
8–10 พอใช้ 8–10 พอใช้ 8–10 พอใช้
ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ
T12
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
แนวตอบ Self-Check
Unit Activity 1. ผดิ
2. ถูก
คา� ชแ้ี จง : ให้นักเรยี นตอบค�าถามตอ ไปน้ี 3. ผิด
4. ถูก
1 ปัจจัยหลกั ทท่ี �าใหเ้ กดิ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี มอี ะไรบ้าง พร้อมทั้งอธิบายเหตผุ ล 5. ผิด
2 Disruptive Technology มคี วามหมายว่าอยา่ งไร
3 ยกตัวอย่างผลกระทบทางเทคโนโลยตี อ่ วัฒนธรรม พรอ้ มอธบิ ายผลกระทบในด้านบวกและดา้ นลบ
4 การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยีทางการแพทย์ เกิดจากปจั จยั ใด พร้อมยกตวั อย่างเทคโนโลยที างการแพทย์
5 เขื่อนจัดเป็นเทคโนโลยีหนึ่งทมี่ ีวัตถุประสงค์ในดา้ นใดบ้าง และเขอ่ื นมผี ลกระทบต่อสงิ่ แวดลอ้ มอยา่ งไร
Self-Check
ให้นกั เรยี นตรวจสอบความเขา้ ใจ โดยพจิ ารณาข้อความวา ถกู หรือผิด แล้วบันทึกลงในสมุด หากพิจารณา
ขอ้ ความไมถกู ต้อง ใหก้ ลบั ไปทบทวนเน้อื หาตามหัวข้อทก่ี �าหนดให้
ถกู /ผดิ ทบทวนทห่ี วั ขอ
1 เทคโนโลยสี รา้ งขึน้ เพอ่ื ตอบสนองความสะดวกสบายของมนุษย์ 1.1
2 เทคโนโลยชี ว่ ยส่งเสริมท�าใหก้ ารติดต่อค้าขายมีความสะดวก รวดเร็ว จดั เป็นผลกระทบทาง 1.2
ดา้ นวฒั นธรรม
ับนทึกลงในส ุมด
3 เทคโนโลยีสว่ นใหญต่ อ้ งใช้พลังงาน 1.2
4 ความกา้ วหนา้ ทางวิทยาศาสตรเ์ ปน็ ปัจจยั ทา� ให้เกดิ การเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี 1.1
5 เทคโนโลยีไมส่ ่งผลให้วฒั นธรรมของมนุษยม์ ีการเปลีย่ นแปลง 1.2
11เทคโนโลยี
กบั ชวี ติ
แนวตอบ Unit Activity
1. 1) การตอบสนองความตอ งการของมนุษย เชน ตอ งการเดนิ ทางทสี่ ะดวกรวดเร็วมากขึ้น จึงสรางรถไฟฟาความเร็วสงู
2) ความกา วหนา ของศาสตรต า งๆ เชน ประดษิ ฐห ลอดไฟฟาสาํ เรจ็ จึงนาํ มาใชแ ทนคบไฟ
3) การแกป ญ หาตา งๆ ท่ีเกิดข้ึนในสงั คม เชน เกิดไขห วดั ใหญสายพนั ธใุ หมร ะบาด จึงมีการผลติ วัคซนี เพือ่ สรา งภมู ิคมุ กนั
2. นวัตกรรมหรือเทคโนโลยที ีถ่ ูกพฒั นาขึน้ มาแทนท่เี ทคโนโลยรี ปู แบบเดิมจนหมดสนิ้ และสงผลกระทบตอ การเปลยี่ นแปลงวถิ ชี วี ิตอยางรวดเรว็ ในวงกวา ง
เชน รถยนตไฟฟา เทคโนโลยีการพมิ พ 3 มิติ อากาศยานไรค นขบั
3. เทคโนโลยีโดรนถูกพัฒนาขึ้นมาใชงาน ทําใหเกิดผลกระทบทางบวก เชน การถายภาพจากความสูงหลายรอยเมตร การทํางานในพื้นที่อันตราย
แทนมนษุ ย มีผลกระทบในทางลบ คือ การนาํ โดรนไปใชใ นสงคราม การกออาชญากรรม
4. เกิดจากความกาวหนาของศาสตรตางๆ การคนพบองคความรูใหมๆ และการแกปญหาในชีวิตประจําวัน เชน การรักษามะเร็งแบบภูมิคุมกันบําบัด
โดยการนาํ ภมู คิ มุ กนั จากรา งกายผปู ว ยมาเพาะเพม่ิ จาํ นวน แลว คดั เลอื กจากประสทิ ธภิ าพนาํ มาฉดี กลบั เขา ไปในรา งกายเพอ่ื กาํ จดั เซลลม ะเรง็ ในรา งกาย
ผูปว ย
5. เกบ็ กักนาํ้ เอาไวใ ชใ นชว งฤดแู ลง ผลิตกระแสไฟฟา แกปญ หานาํ้ ทว ม ใชเ ปนสถานทีท่ องเทย่ี ว ผลกระทบในทางลบ คือ การสรางเขือ่ นแลกกับพน้ื ทปี่ าท่ี
เคยอดุ มสมบูรณกลายเปน พ้นื ทน่ี ํ้าทวมขงั ดนิ บรเิ วณเหนือเขอ่ื นขาดความอุดมสมบูรณ ทาํ ใหเ กิดการเปล่ยี นแปลงระบบนิเวศจากแบบนํ้าไหลกลายเปน
แบบนาํ้ นงิ่ ส่งิ มีชีวติ ทีอ่ าศยั อยูในระบบนิเวศนาํ้ ไหลจะลดจํานวนลง
T13
Chapter Overview
แผนการจัด สอ่ื ที่ใช้ จดุ ประสงค์ วธิ สี อน ประเมิน ทักษะที่ได้ คุณลักษณะ
การเรยี นรู้ อันพงึ ประสงค์
แผนฯ ท่ี 1
ความรู้ - แบบทดสอบกอ่ นเรียน 1. บอกสมบตั ขิ องวัสดแุ ตล่ ะ แบบสบื เสาะ - ตรวจแบบทดสอบ - ทกั ษะการสื่อสาร - ซื่อสัตย์ สุจริต
เก่ยี วกับวสั ดุ - หนงั สือเรยี น รายวิชา ประเภทได้ถูกต้อง (K) หาความรู้ ก่อนเรียน - ทักษะการแลกเปล่ยี น - มวี นิ ัย
พื้นฐาน เทคโนโลยี 2. เลอื กวัสดทุ ีใ่ ช้ในการสรา้ ง (5Es - ตรวจใบงาน ข้อมูล - ใฝ่เรียนรู้
2 ( การออกแบบและ ช้นิ งานแต่ละประเภท Instructional - ประเมนิ การน�ำเสนอ - ทักษะการคิดวิเคราะห์ - มุ่งมนั่ ใน
เทคโนโลยี) ม.2 ไดอ้ ย่างเหมาะสม (K) Model) ผลงาน - ทกั ษะการสังเกต การทำ� งาน
ช่ัวโมง - ใบงาน เรอ่ื ง 3. บอกความแตกตา่ งของ - สงั เกตพฤตกิ รรม - ท กั ษะการทำ� งานรว่ มกนั
น กั ออกแบบผลติ ภณั ฑ์ วัสดศุ าสตรแ์ ละวสั ดุวิศวกรรม การทำ� งานรายบคุ คล - ทักษะการสืบคน้ ข้อมลู
ได้ (K) - สงั เกตพฤติกรรม
4. วางแผนพัฒนาผลติ ภัณฑ์ได้ การท�ำงานกลุม่
อยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม - สังเกตคุณลักษณะ
และปลอดภัย (P) อันพงึ ประสงค์
5. เ ล็งเหน็ ถึงความส�ำคญั ของการ
เลอื กวัสดแุ ต่ละประเภทในการ
พัฒนาช้นิ งาน (A)
แผนฯ ที่ 2 - หนงั สอื เรียน รายวชิ า 1. บ อกความสามารถของ แบบสบื เสาะ - ตรวจใบงาน - ทักษะการสือ่ สาร - ซ่อื สัตย์ สุจรติ
เครอ่ื งกลและ พื้นฐาน เทคโนโลยี เครือ่ งกลแตล่ ะประเภทได้ (K) หาความรู้ - ป ระเมนิ การน�ำเสนอ - ทักษะการแลกเปลี่ยน - มวี ินยั
เครอ่ื งมอื ในการ ( การออกแบบและ 2. เ ลอื กใช้เครือ่ งกลและเครือ่ งมือ (5Es ผลงาน ขอ้ มลู - ใฝ่เรียนรู้
สรา้ งชน้ิ งาน ทีใ่ ชใ้ นการสร้างช้นิ งานได้อยา่ ง Instructional - สังเกตพฤติกรรม - ทักษะการคิดวเิ คราะห์ - ม ุ่งม่นั ใน
เทคโนโลย)ี ม.2 เหมาะสม (K) Model) การทำ� งานรายบคุ คล - ทกั ษะการสังเกต การท�ำงาน
2 - ใ บงาน เรอื่ ง 3. บอกวิธีการดูแลรกั ษาเครื่องมือ - สงั เกตพฤตกิ รรม - ทักษะการท�ำงาน
ได้ถกู ตอ้ ง (K) การท�ำงานกลุ่ม
ชัว่ โมง เคร่ืองมือช่าง ร่วมกนั
- ทักษะการสบื ค้นข้อมลู
4. สืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกบั เครอื่ งกล - สังเกตคุณลกั ษณะ
ในการสร้างชิน้ งานได้ถกู ต้อง อนั พงึ ประสงค์
(P)
5. ตระหนักถึงความปลอดภัย
ในการใช้เครอื่ งมอื (A)
แผนฯ ท่ี 3 - หนงั สอื เรียน รายวิชา 1. อ ธิบายการกำ� เนดิ ของเสยี ง แบบสืบเสาะ - ป ระเมนิ การน�ำเสนอ - ทกั ษะการสอ่ื สาร - ซ่ือสตั ย์ สุจริต
เสียงและ พ้ืนฐาน เทคโนโลยี ได้ถูกต้อง (K) หาความรู้ ผลงาน - ทกั ษะการแลกเปลี่ยน - มีวนิ ัย
อุปกรณ์ ( การออกแบบและ 2. เ ลือกใชอ้ ุปกรณท์ ีท่ ำ� ให้เกดิ (5Es - สงั เกตพฤตกิ รรม ข้อมูล - ใฝ่เรียนรู้
ที่ทำ� ใหเ้ กิดเสยี ง เสียงไดเ้ หมาะสมกบั งาน (K) Instructional การท�ำงานกลุ่ม - ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์ - มุง่ ม่นั ใน
เทคโนโลยี) ม.2 3. ค ำ� นวณหาอัตราความเรว็ ของ Model) - สังเกตคุณลักษณะ - ทักษะการสังเกต การท�ำงาน
2
เสียงได้ (P) อนั พงึ ประสงค์ - ทักษะการท�ำงาน
ชว่ั โมง 4. เห็นความส�ำคญั ของเสียงและ รว่ มกนั
อุปกรณท์ ่ที �ำใหเ้ กิดเสียง (A) - ทักษะการสืบค้นข้อมลู
แผนฯ ท่ี 4 - หนงั สือเรยี น รายวชิ า 1. อธิบายกระบวนการ แบบสบื เสาะ - ตรวจใบงาน - ทักษะการส่อื สาร - ซอื่ สัตย์ สจุ รติ
ไฟฟา้ และ พื้นฐาน เทคโนโลยี เกดิ แสงได้ถกู ตอ้ ง (K) หาความรู้ - ต รวจชน้ิ งาน/ - ทกั ษะการแลกเปล่ยี น - มีวินัย
อุปกรณ์ ( การออกแบบและ 2. เลอื กใช้วงจรไฟฟ้าแบบอนุกรม (5Es ภาระงาน (รวบยอด) ข้อมูล - ใฝ่เรยี นรู้
ท่ที ำ� ให้เกิดแสง เทคโนโลยี) ม.2 และแบบขนานไดเ้ หมาะสม Instructional - ประเมนิ การน�ำเสนอ - ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์ - ม ุ่งมนั่ ใน
- ใบงาน เร่อื ง ชา่ งไฟฟา้ กับงาน (K) Model) ผลงาน - ทักษะการสังเกต การท�ำงาน
2 - ชิ้นงาน/ภาระงาน 3. รา่ งแบบวงจรไฟฟา้ แบบ - ส งั เกตพฤตกิ รรม - ท กั ษะการทำ� งาน
(รวบยอด) อนุกรมและแบบขนาน การท�ำงานกล่มุ รว่ มกัน
ชว่ั โมง - แบบทดสอบหลงั เรียน ไดถ้ กู ตอ้ ง (P) - สงั เกตคุณลักษณะ - ทกั ษะการสบื ค้นข้อมูล
4. ตระหนักถึงความปลอดภยั อนั พงึ ประสงค์
ขณะท�ำงานท่ีเกีย่ วข้องกับ - ตรวจแบบทดสอบ
วงจรไฟฟ้า (A) หลังเรยี น
T14
Chapter Concept Overview
หนวยการเรียนรทู ่ี 2
ความรเู้ กี่ยวกบั วสั ดุ
มนษุ ยจ์ ะนา� วสั ดจุ ากธรรมชาตแิ ละวสั ดทุ มี่ นษุ ยส์ รา้ งขนึ้ มาใชป้ ระโยชนม์ ากมายในการดา� รงชวี ติ โดยในสมยั โบราณวสั ดสุ ว่ นใหญล่ ว้ นมา
จากธรรมชาติ เชน่ การนา� หนิ มาสร้างเปน อาวธุ การน�าหนังสัตวม์ าทา� เครือ่ งนุง่ ห่ม การน�าดนิ มาปน เปนภาชนะ แต่ในปจจบุ นั วิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีพฒั นาและกา้ วหน้าอย่างรวดเร็ว จงึ มกี ารนา� มาพัฒนาและปรบั ปรงุ วสั ด ุ เพือ่ ตอบสนองความตอ้ งการที่หลากหลายโดยผ่าน
กระบวนการทางเทคโนโลย ี ซึง่ ประเภทของวัสดุสามารถแบง่ ออกเปน 2 ประเภท ดังนี้
• โลหะ เปนวัสดุท่ไี ด้จากการถลงุ แร่ต่าง ๆ เชน่ เหลก็ ดีบกุ อะลมู ิเนยี ม นิกเกลิ โลหะทถ่ี ลงุ ได้จากสินแร่ในตอนแรกน้นั สว่ นใหญ่จะ
เปน โลหะท่คี ่อนข้างบรสิ ุทธ์ิ สมบตั ขิ องโลหะ คอื เปนตวั น�าความร้อน ตัวนา� ไฟฟ้า สามารถตเี ปนแผ่นใหบ้ างได ้ มลี ักษณะแข็ง ผวิ มันวาว
และไม่เหนียว แบ่งออกเปน 2 ประเภท ดงั นี ้ โลหะประเภทเหล็กและโลหะนอกกลุ่มเหลก็
• อโลหะ เปน วสั ดุท่ีมสี มบตั เิ ปนฉนวนไฟฟ้า (ยกเวน้ แกรไฟต์) ฉนวนความร้อน มอี ัตราการยดื ตัวต่า� ไมส่ ามารถตเี ปนแผน่ ใหบ้ างได ้
แบง่ ออกเปน 2 ประเภท ดังน ี้ วัสดุจากธรรมชาตแิ ละวสั ดุสังเคราะห์
เคร่อื งกลและเครือ่ งมอื ในการสรา้ งชิน้ งาน
เครือ่ งกลเปน เคร่อื งมือทส่ี ร้างขน้ึ มาเพอื่ ผ่อนแรงหรืออ�านวยความสะดวกในการทา� งาน โดยออกแรงเพียงเลก็ นอ้ ยก็จะสามารถยกของ
ท่ีมนี �า้ หนักมาก ๆ ได ้ ซ่ึงเครื่องกลอยา่ งง่ายมี 6 ประเภท ประกอบดว้ ย รอก คาน ล้อและเพลา พ้ืนเอยี ง ลมิ่ และสกรู
เสียงและอปุ กรณ์ท่ที าํ ใหเ้ กิดเสียง
เสยี งเกดิ จากการสนั่ ของวตั ถ ุ ทา� ใหเ้ กดิ พลงั งานทวี่ ตั ถถุ า่ ยเทไปยงั ตวั กลางแลว้ เดนิ ทางไปจนถงึ ผรู้ บั เสยี ง ดงั นน้ั การทเี่ ราสามารถคยุ กนั
ไดก้ ็เพราะมีอากาศเปน ตวั กลาง เสยี งสามารถเดนิ ทางผา่ นตวั กลางไดท้ ั้งของแข็ง ของเหลว และแกส และจะไม่ไดย้ นิ เสียงหากไม่มีตวั กลาง
เชน่ ถ้าเราอย่ใู นอวกาศท่เี ปนสญุ ญากาศจะไม่สามารถสอ่ื สารกนั ได้หากขาดอปุ กรณท์ ชี่ ว่ ยในการสือ่ สาร
ไฟฟาและอปุ กรณ์ทท่ี ําใหเ้ กิดแสง
ไฟฟ้าเปนส่ิงที่ขาดไม่ได้เลยในสังคมปจจุบัน เพราะอุปกรณ์ทุกชิ้นจ�าเปนต้องมีไฟฟ้าเปนแหล่งก�าเนิดพลังงาน ไฟฟ้ายังเกิดได้ตาม
เหตกุ ารณ์ธรรมชาติหลายเหตุการณ์ เชน่ ฟ้าแลบ ฟา้ ผา่ ซง่ึ เกิดจากประจุไฟฟา้ นน่ั เอง
วงจรไฟฟ้าอยา่ งงา่ ย เปน วงจรท่ีประกอบดว้ ยแหล่งกา� เนิดไฟฟ้า ตัวนา� ไฟฟ้า และเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ หรือโหลด เมื่อเปดสวิตชก์ ระแสไฟฟา้
จะออกจากแหลง่ กา� เนดิ ไฟฟา้ (ถา่ นไฟฉาย) ทางขวั้ บวกผา่ นอปุ กรณไ์ ฟฟา้ ในวงจรไปยงั ขวั้ ลบของแหลง่ กา� เนดิ ไฟฟา้ ตวั นา� ไฟฟา้ และเครอื่ ง
ใชไ้ ฟฟา้ หรอื โหลดเปน การเคลอ่ื นทคี่ รบวงจรของกระแสไฟฟา้ เรยี กวงจรไฟฟา้ นวี้ า่ วงจรไฟฟา้ ปด แตถ่ า้ วงจรไฟฟา้ นไี้ มม่ กี ระแสไฟฟา้ ไหล
ออกจากข้ัวบวกของแหล่งก�าเนิดไฟฟ้าผ่านอุปกรณ์ไฟฟ้าไปยังขั้วลบ ซึ่งอาจเกิดจากส่วนใดส่วนหนึ่งของวงจรไฟฟ้าขาดหรือไม่สัมผัสกัน
เรียกวงจรไฟฟ้าน้วี ่า วงจรไฟฟา้ เปด
การต่อวงจรไฟฟา้ แบบปด การต่อวงจรไฟฟา้ แบบเปด
T15
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ
ขนั้ นาํ 2หน่วยการเรียนรู้ที่ วสั ดุ อปุ กรณ์
ทางเทคโนโลยี
กระตนุ้ ความสนใจ
ความรแู ละทกั ษะความชาํ นาญ
1. นักเรียนทําแบบทดสอบกอนเรียนหนวยการ
เรียนรูที่ 2 เรื่อง วัสดุ อุปกรณท างเทคโนโลยี เกย่ี วกบั วสั ดุ อปุ กรณท างเทคโนโลยี
สามารถนาํ ไปใชใ นชวี ติ ประจาํ วนั ได
2. นกั เรยี นสงั เกตภาพผลติ ภณั ฑจ ากวสั ดปุ ระเภท อยา งมปี ระสทิ ธภิ าพและปลอดภยั
ตาง ๆ ในหนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน
เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ม.2
หนวยการเรียนรูท่ี 2 เรื่อง วัสดุ อุปกรณ
ทางเทคโนโลยี และเปดโอกาสใหนักเรียน
อภิปรายรวมกันภายในชั้นเรียนวา ภาพดัง
กลา วประกอบดว ยวัสดุประเภทใดบา ง
3. ครนู าํ เขา สบู ทเรยี นจากการอธบิ ายเพอ่ื กระตนุ
ความสนใจวา ความรแู ละทกั ษะความชาํ นาญ
เกย่ี วกบั วสั ดุ อปุ กรณท างเทคโนโลยสี ามารถนาํ
ไปใชในชีวิตประจําวันไดอยางมีประสิทธิภาพ
และปลอดภัย
ตัวชี้วดั
ว 4.1 ม.2/5 ใชค้ วำมรู้ และทกั ษะเก่ยี วกบั วัสด ุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ กลไก ไฟฟ้ำ และอเิ ล็กทรอนิกสเ์ พอื่ แกป้ ัญหำหรือพฒั นำงำนได้อย่ำงถูกตอ้ ง
เหมำะสม และปลอดภยั
12
เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด
ครูอธิบายกับนักเรียนวา ในการคิดคนเทคโนโลยีส่ิงประดิษฐนั้นจะตองมี การผลิตเครื่องใชไฟฟาในขอใดตองพิจารณาสมบัติการ
การนาํ ชนิ้ สว นทท่ี าํ มาจากวสั ดหุ ลายประเภทมาประกอบเขา ดว ยกนั เชน ขวาน นําความรอ นของวสั ดุ
ทาํ จากไมแ ละเหลก็ เพราะฉะนนั้ การมคี วามรู ความเขา ใจเกยี่ วกบั คณุ สมบตั ขิ อง
วสั ดปุ ระเภทตา ง ๆ กจ็ ะเปน พน้ื ฐานทด่ี ใี นการออกแบบและประดษิ ฐน วตั กรรม 1. เคร่อื งครวั
2. เครื่องนอน
3. ภาชนะหุงตม
4. ของตกแตงบา น
(วเิ คราะหค าํ ตอบ การผลิตภาชนะหุงตมตองพิจารณาสมบัติ
การนาํ ความรอนของวสั ดุ ดงั น้ัน ตอบขอ 3.)
T16