The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การผลิตสือสิ่งพิมพ์ Pup

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by chigogu, 2019-08-19 02:54:01

การผลิตสือสิ่งพิมพ์ Pup

การผลิตสือสิ่งพิมพ์ Pup

Microsoft Publisher

2

จุดประสงค์รายวชิ า
คาอธิบายรายวชิ า

ศึกษาและปฏิบัตเิ ก่ียวกบั ความรู้พ้นื ฐานของส่ือสิ่งพิมพ์ กระบวนการพิมพ์ การออกแบบสอ่ื สง่ิ พมิ พ์
เทคนคิ การใชภ้ าพถ่ายในส่ือสิ่งพมิ พ์ และการใช้โปรแกรมผลติ สอ่ื สงิ่ พิมพ์

จดุ ประสงค์รายวิชา
1.มคี วามรู้ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั การวเิ คราะห์และจาแนกประเภทของส่อื ส่ิงพมิ พ์
2.มีความรู้ความเข้าใจเก่ยี วกบั กระบวนการพมิ พ์
3.มีทักษะในการออกแบบส่อื สิง่ พิมพแ์ ละจัดองค์ประกอบศิลป์ในส่ือส่งิ พิมพ์
4.ผลติ สอ่ื ส่งิ พิมพ์ด้วยโปรแกรมผลติ ส่อื สิง่ พมิ พ์
5.มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มทดี่ ใี นการใช้คอมพิวเตอร์

สมรรถนะรายวิชา
1.แสดงความรู้เกย่ี วกบั หลกั การพืน้ ฐานของส่อื สิ่งพมิ พ์
2.การออกแบบสื่อส่งิ พมิ พ์ตามการใชง้ าน
3.ผลิตส่ือส่งิ พิมพ์ด้วยโปรแกรมผลติ ส่อื สงิ่ พิมพ์

3

เรมิ่ แรกในระบบการพิมพจ์ ะใชช้ ่างศลิ ป์ ชา่ งทาแม่พิมพ์ทมี่ ีทกั ษะและความชานาญในการผลิตสงิ่ พิมพ์เป็น
อยา่ งมาก ซง่ึ สิ่งพิมพเ์ ริม่ แรกนั้นเป็นการแกะสลักตัวอักษรลงหนิ จากนนั้ ก็เขียนลงบนผา้ ไหม หนงั สตั ว์ จากน้ัน
พัฒนาการมาเปน็ การเขยี นบนกระดาษโดยในปัจจุบันความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีคอมพวิ เตอร์ทาให้การสรา้ ง
งานสง่ิ พมิ พง์ า่ ยขน้ึ ก่อนจะเรียนรู้ถึงกระบวนการ ทาจะขอกล่างถงึ ความหมายของสง่ิ พิมพ์ ประเภทของสิ่งพิมพ์
ประเภทของโปรแกรมที่ใชใ้ นการผลิตส่ือสิ่งพิมพ์กระบวนการผลติ สิ่งพิมพ์ การเตรยี มงานพิมพก์ ่อนสง่ โรงพิมพ์
บทบาทของสง่ิ พิมพ์ในปจั จบุ ัน

1.1 ความสาคัญและประวัติของส่ือสิ่งพิมพ์
1.1.1 ความหมายและความสาคญั ของสื่อสิ่งพิมพ์
พจนานกุ รมฉบับราชบณั ฑติ ยสถานได้ให้ความหมายคาท่เี กย่ี วกับ “สื่อส่ิงพมิ พ์” ไวด้ ังนี้ คาวา่ “สงิ่ พิมพ”์
หมายถงึ สมดุ แผน่ กระดาษ หรอื วตั ถใุ ดๆ ท่ีพมิ พข์ นึ้ รวมตลอดทัง้ บทเพลง แผนท่ี แผนผัง ภาพ ภาพวาด ภาพ
ระบาย ใบประกาศ แผน่ เสียง หรอื สง่ิ อ่นื ใดอนั มีลักษณะเช่นเดยี วกนั
“ส่ิงพิมพ”์ หมายถงึ ข้อความ ขอ้ เขยี น หรอื ภาพท่เี กยี่ วกับแนวความคดิ ข้อมูล สารคดี บันเทงิ ซึ่ง
ถา่ ยทอดด้วยการสง่ิ พิมพ์ลงบนกระดาษ ฟิลม์ หรือวสั ดพุ ื้นเรยี บ
“สื่อ” หมายถึง การทาการติดตอ่ ให้ถึงกนั ชักนาให้รูจ้ กั กนั หรือตัวกลางท่ีทาการติดตอ่ ใหถ้ งึ กันชักนาให้
รจู้ กั กัน
“พมิ พ์” หมายถงึ ถ่ายแบบ ใชเ้ คร่อื งจักรกดตวั หนงั สอื หรือภาพ ให้ตดิ บนวตั ถุ เช่น แผ่นกระดาษ ผ้า ทา
ใหเ้ ป็นตวั หนังสือ หรอื รูปรอยอยา่ งใดๆ โดยการกดหรือการใชพ้ มิ พ์ หนิ เครือ่ งกลวธิ ีเคมีหรือวิธอี นื่ ใดอันอาจใหเ้ กดิ
เปน็ ส่งิ พมิ พข์ นึ้ หลายสาเนา รูปร่าง รา่ งกาย แบบ
ดังนน้ั “สื่อสิ่งพิมพ์” จงึ มีความหมายวา่ “ส่งิ ท่ีพิมพข์ ึน้ ไม่ว่าจะเป็นแผน่ กระดาษหรือวัตถุใดๆ ดว้ ย
วธิ กี ารตา่ งๆ อันเกดิ เป็นชนิ้ งานท่ีมีลกั ษณะเหมือนตน้ ฉบับข้นึ หลายสาเนา ในปริมาณมากเพ่อื เปน็ สง่ิ ทาการ
ตดิ ตอ่ หรอื ชักนาใหบ้ ุคคลอนื่ ไดเ้ ห็นทราบขอ้ ความตา่ งๆ” สง่ิ พิมพ์มีหลายชนิด ไดแ้ ก่ เอกสาร หนงั สอื เรียน หนัง
สอื่ พมิ พ์ นติ ยสาร วารสาร บนั ทึก รายงาน ฯลฯ
1.1.2 ประวตั สิ ่ือสง่ิ พิมพ์
ประวตั ิการพิมพ์ในประเทศไทย
ในสมยั สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช กรงุ ศรีอยธุ ยา ได้เร่ิมแตง่ และพมิ พ์หนงั สือคาสอนทางศาสนาคริสต์
ขึ้น และหลังจากน้ันหมอบรัดเลยเ์ ข้ามาเมืองไทย และไดเ้ ริ่มดา้ นงานพิมพ์จนสนใจเปน็ ธุรกิจด้านการพมิ พ์ ใน
เมืองไทย มาใช้กับตัวพิมพ์ภาษาไทยธนาคารแห่งประเทศได้จัดโรงพมิ พธ์ นบตั รในเมืองไทยขน้ึ ใชเ้ อง
1.2. ประเภทของสือ่ ส่ิงพิมพ์และบทบาทของสื่อส่ิงพิมพ์
1.2.1 ประเภทของสอื่ สิง่ พิมพ์
ในปัจจบุ นั สามารถแบง่ ประเภทของส่ือส่งิ พิมพ์ได้มากมายหลายประเภท โดยมีทั้งสิ่งพมิ พ์ 2 มติ ิ และ
สิ่งพมิ พ์ 3 มิติ คือ ส่งิ พิมพท์ ่ีมีลกั ษณะเปน็ แผน่ เรยี บ ใช้วัสดจุ าพวกกระดาษและมเี ป้าหมายเพ่อื นาเสนอเน้ือหา
ข่าวสารต่างๆ เช่น หนังสอื นิตยสาร จลุ สาร หนังสือพิมพ์ แผ่นพบั โบชวั ร์ ใบปลิว นามบัตร แมกกาซนี พ็อก

4

เกต็ บุค๊ เปน็ ต้น สว่ นสงิ่ พิมพ์ 3 มติ ิ คอื สิ่งพิมพท์ ม่ี ีลักษณะพเิ ศษท่ีต้องอาศัยระบบการพิมพแ์ บบพิเศษ และสว่ น
ใหญจ่ ะเปน็ การพิมพโ์ ดยตรงลงบนผลิตภัณฑ์ทีส่ รา้ งรูปทรงมาแลว้ สาหรับตัวอยา่ งการพิมพแ์ บบ 3 มติ ไิ ดแ้ ก่ การ
พิมพ์สกรีนบนภาชนะตา่ งๆ เชน่ แกว้ กระปอ๋ ง พลาสติก การพิมพร์ ะบบแพดบนภาชนท่ีมีผวิ ต่างระดับ เชน่
เครอ่ื งป้นั ดนิ เผา เครอ่ื งใชไ้ ฟฟา้ การพมิ พร์ ะบบพน่ หมึก เชน่ การพิมพ์วันหมดอายุของอาหารกระปอ๋ งต่างๆ โดย
สามารถจาแนกประเภทของสื่อสง่ิ พิมพ์ได้ ดงั นี้

ส่อื สงิ่ พมิ พ์ประเภทหนังสอื
หนงั สอื สารคดตี าราแบบเรยี น
เป็นส่อื สิง่ พิมพท์ ่ีแสดงเนอื้ หาวชิ าการในศาสตร์ความรตู้ ่างๆ เพ่ือส่ือให้ผ้อู า่ นเข้าใจความหมายดว้ ยความรู้
ทเ่ี ป็นจรงิ จึงเป็นส่ือส่ิงพิมพ์ทเ่ี น้นความรอู้ ย่างถูกต้อง
หนังสอ่ื บนั เทงิ คดี
เปน็ สอื่ สิง่ พิมพท์ ี่ผลติ ขึ้นโดยใชเ้ รอ่ื งราวสมมติ เพื่อใหผ้ ู้อ่านไดร้ บั ความเพลิดเพลิน สนุกสนาน มักมขี นาด
เล็ก เรียกวา่ หนงั สือฉบับกระเปา๋ หรือ PockerBook ได้
ส่ือสงิ่ พมิ พ์เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร
หนงั สอื พมิ พ์ (Newspapers)
เปน็ สอื่ สิ่งพมิ พ์ที่ผลิตข้ึนโดย
นาเสนอเรื่องราว ข่าวสารภาพ และความคิดเห็น ในลักษณะของแผ่พิมพ์ แผ่นใหญ่ ท่ีใชว้ ิธกี ารพบั รวมกนั
ซ่ึงสอ่ื ส่ิงพิมพ์ชนดิ น้ีไดพ้ ิมพ์ออกเผยแพร่ลักษณะหนังสือพิมพร์ ายวัน รายสัปดาห์ และรายเดอื น
วารสาร นติ ยสาร เปน็ สือ่ สงิ่ พิมพท์ ่ีผลติ ขนึ้ โดยนาเสนอสาระ
ขา่ วความบันเทงิ ทมี่ รี ปู แบบการนาเสนอ ทีโ่ ดดเดน่ สะดุดตา และสร้างความสนใจกับผู้อ่าน ท้ังนกี้ ารผลิต
นั้น มีการกาหนดระยะเวลาการอออกแบบเผยแพร่ที่แน่นอน ทั้งลกั ษณะวารสาร นติ ยสารรายปกั ษ์ (15วนั ) และ
รายเดอื น
จุลสาร เปน็ ส่ือสิ่งพิมพท์ ผ่ี ลติ ขนึ้ แบบไมม่ งุ่ หวังผลกาไร
เป็นแบบใหเ้ ปลา่ โดยให้ผู้อ่านได้ศึกษาหาความรู้ มีกาหนดการออกเผยแพรเ่ ปน็ ครง้ั ๆ หรือลาดับต่างๆ ใน
วาระพิเศษ
สง่ิ พมิ พ์โฆษณา
โบชัวร์ (Brochure) เป็นส่ือส่ิงพิมพท์ ่มี ีลักษณะเปน็ สมุด
เล็มเล็กๆ เย็บตดิ กนเปน็ ล่มจานวน 8 หน้าเปน็ อยา่ งน้อย มีปกหน้า และปกหลัง ซึ่งในการแสดงเนอื้ หาจะ
เกย่ี วกับโฆษณาสนิ ค้า
ใบปลวิ (Leaflet, Handbill) เป็นสือ่ สงิ พิมพ์ในเดียว ที่
เนน้ การประกาศหรือโฆษณา มกั มีขนาด A4 เพือ่ ง่ายในการแจกจา่ ย ลักษณะการแสดงเนื้อหาเป็น
ขอ้ ความทผี่ อู้ า่ อา่ นแล้วเข้าใจง่าย
แผน่ พบั (Folder) เปน็ สื่อส่งิ พิมพท์ ีผ่ ลติ โดยเน้นการ
นาเสนอเนอ้ื หา ซ่ึงเน้อื หาทีน่ าเสนอนัน้ เป็นเนื้อหาท่สี รุปใจความสาคญั ลักษณะมกี ารพบั เปน็ รูปเลม่ ตา่ งๆ
ใบปิด (Poster) เปน็ สอื่ ส่งิ พิมพโ์ ฆษณา โดยใช้ปดิ ตาม
สถานที่ต่างๆ มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษซง่ึ เนน้ การนาเสนออย่างโดดเดน่ ดึงดูดความสนใจ
สงิ่ พมิ พ์เพอื่ การบรรจุภณั ฑ์
เป็นสอื่ ส่ิงพิมพท์ ี่ใชใ้ นการห่อห้มุ ผลติ ภณั ฑก์ ารคาต่างๆ แยกเปน็ สิ่งพิมพห์ ลกั ได้แก่ สง่ิ พิมพท์ ี่ใช้ปิดรอบ
ขวด หรอื กระปอ๋ งผลิตภัณฑ์การค้า สิ่งพิมพร์ อง ไดแ้ ก่ สิง่ พิมพท์ เ่ี ปน็ กล่องบรรจุหรอื หลัง

5

ส่งิ พมิ พม์ คี ่า
เป็นสอ่ื ส่ิงพมิ พ์ท่ีเนน้ การนาไปใชเ้ ป็นหลักฐานสาคญั ต่างๆ ซึ่งกาหนดตามกฎหมาย เช่น ธนาณัติ บัตร
เครดติ เชค็ ธนาคาร ตว๋ั แลกเงิน หนงั สือเดินทาง โฉนด เปน็ ต้น
สง่ิ พิมพล์ กั ษณะพเิ ศษ
เปน็ สือ่ สิ่งพมิ พม์ ีการผลติ ขนึ้ ตามลักษณะพิเศษแล้วแตก่ ารใช้งาน
ได้แก่ นามบัตร บตั รอวยพร ปฏิทิน บัตรเชญิ ใบส่งของ ใบเสร็จรับเงิน สิง่ พมิ พบ์ นแก้ว สิง่ พิมพบ์ นผา้
เป็นตน้
สง่ิ พมิ พอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ ส์
เป็นสื่อสง่ิ พมิ พท์ ผี่ ลิตขนึ้ เพื่อใช้งานในคอมพวิ เตอร์ หรอื ระบบเครอื ขา่ ยอนิ เตอรเ์ นต็ ได้แก่ Document
Formats, E-book for Palm/PDA เป็นตน้
1.2.2 บทบาทของสอ่ื ส่ิงพิมพ์
บทบาทของสื่อส่งิ พิมพ์ในงานสื่อมวลชน ส่ือส่ิงพมิ พ์มคี วามสาคญั
ในด้านการนาเสนอข้อมลู ข่าวสาร สาระ และความบันเทิง ซึ่งเมื่องานสื่อมวลชนตอ้ งเผยแพร่ จึงตอ้ งผลิต
สือ่ สิง่ พมิ พเ์ ชน่ หนงั สือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร เป็นตน้
บทบาทของสอ่ื สิ่งพิมพใ์ นสถานศึกษา สอื่ ส่ิงพิมพ์ถูกนาไปใชใ้ นสถานทศ่ี กึ ษา
โดยไปซง่ึ ทาใหผ้ ้เู รียน ผูส้ อนเข้าใจในเน้ือหามากขน้ึ เช่น หนังสอื ตารา แบบเรียน แบบฝึกหดั สามารถ
พฒั นาไดเ้ ปน็ เนื้อหาในระบบเครือข่ายอนิ เทอรเ์ นต็ ได้
บทบาทของสือ่ สง่ิ พิมพ์ในงานดา้ นธุรกิจ สอื่ สิง่ พมิ พท์ ี่ถกู นาไปใช้ในงานธุรกิจ
ประเภทตา่ งๆ เช่น งานโฆษณา ไดแ้ ก่ การผลิต หวั จดหมาย/ซองจดหมาย ใบเสร็จรับเงิน/ใบสง่ ของ
โฆษณาหน้าเดยี ว นามบตั ร เป็นตน้
บทบาทของส่ือสง่ิ พิมพใ์ นงานธนาคารงานด้านการธนาคาร ซ่ึงรวมถึง งาน
การเงนิ และงานทเี่ กยี่ วกับหลักฐานทางกฎหมาย ได้นาส่ือส่งิ พิมพห์ ลายๆ ประเภทมาใช้ในการดาเนนิ
เชน่ ใบนาฝาก ใบถอน ธนบัตร เชค็ ธนาคาร ต๋ัวแลกเงนิ และหนังสือเดินทาง
บทบาทของสอ่ื สง่ิ พิมพใ์ นหา้ งสรรพสนิ คา้ และร้านค้าปลีก ส่อื ส่ิงพิมพท์ ี่ทาง
ห้างสรรพสินคา้ หรอื ร้านคา้ ปลกี ใชใ้ นการดาเนนิ ธรุ กิจ ไดแ้ ก่ ใบเปดิ โฆษณาตา่ งๆ ใบปลิว แผน่ พับ จลุ สาร
1.3 ประเภทของโปรแกรมท่ีใชใ้ นการผลิตสือ่ สิง่ พิมพแ์ ละการออกแบบจดั หน้าสอ่ื สิง่ พิมพ์
ปจั จบุ ันน่ีมีโปรแกรมสาเรจ็ รูปที่นาไปใชใ้ นการผลติ สอ่ สง่ิ พิมพม์ ากมายที่ได้รบั ความนิยมนามาใชใ้ นการ
ออกแบบหรือจดั หน้าสอื่ สง่ิ พิมพ์ ทาให้การผลิตส่ือสิง่ พมิ พ์มคี วามนา่ สนใจมากขึน้ ซ่ึงในหวั ข้อนีจ้ ะกล่าวถึง
โปรแกรมทไี่ ด้รบั ความนยิ มในการผลติ ส่อื ส่ิงพิมพเ์ ทา่ น้นั โดยมีโปรแกรมตา่ งๆ ดงั นี้
1.3.1 โปรแกรมไมโครซอฟต์เวริ ด์ (Microsoft Word)
โปรแกรมไมโครซอฟตเ์ วิรด์ เปน็ โปรแกรมทีผ่ ลิตโดยบรษิ ทั ไมโครซอฟตโ์ ดยผลิตร่นุ 2.0 มาก่อน จากนั้น
พัฒนาเปน็ รุน่ 6.0 ซึง่ ทางานระบบปฏบิ ัติการวินโดวส์ 3.1 ตอ่ มามกี ารปรับปรงุ แก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ โดยมีการ
พฒั นาโปรกรมไมโครซอฟตเ์ วิร์ดให้รองรับการใช้งานบนระบบปฏิบตั ิการต่างๆ ดังน้ี Word 95, 97, 98, 2000,
2003, XP เป็นตน้ ซง่ึ โปรแกรมไมโครซอฟต์เวิร์ดเป็นโปรแกรมทช่ี ่วยในการจัดการสง่ิ พิมพ์ซ่งึ หนว่ ยงานตา่ งๆ
มักจะนาโปรแกรมน้ีไปใชใ้ นการพมิ พเ์ อกสาร รายงานตา่ งๆ มากมาย
1.3.2 โปรแกรมโฟโต้ช้อฟ (Adobe Photoshop)

6

เป็นโปรแกรมสาหรับการจดั การกบั ภาพ หรืองานกราฟกิ ที่ต้องการความละเอยี ดสูงและเป็นโปรแกรมท่ี
ได้รบั ความนยิ มในการตกแต่งภาพสามารถเปดิ ไฟล์ไดห้ ลากหลาย เช่น JPEG, TIFF, DNG, Traga , BMP , PICI,
GIF, PICT นอกจากนย้ี งั สามารถตกแต่งสีให้กบั รปู ภาพให้คมชัดขนึ้

1.3.3 โปรแกรม Illustrator
เป็นโปรมแกรมทช่ี ่วยในการสร้างภาพกราฟกิ แบบเวกเตอรเ์ พอ่ื ใช้ในการประกอบข้อความทไี่ ด้จากการ
พมิ พ์โดยโปรแกรม Ms – word
1.3.4 โปรแกรม PageMaker
เป็นโปรแกรมแบบ Desktop Publishing เปน็ การจัดและนาข้อมูลมาประกอบลงบนหนา้ สิง่ พิมพ์
1.4 ประเภทของการออกแบบส่อื ส่ิงพิมพ์
1.4.1 การออกแบบทางสถาปตั ยกรรม (Architecture Design)
เปน็ การออกแบบเพ่ือก่อสร้าง สิง่ กอ่ สรา้ งตา่ งๆ นักออกแบบสาขานเี้ รยี กวา่ สถาปนิก (Architect) ซง่ึ
โดยทั่วไปจะต้องทางานรว่ มกับวิศวกรและมัณฑนากร โดยสถาปนิกรบั ผดิ ชอบเกีย่ วกับประโยชนใ์ ช้สอยและความ
งามของสงิ่ ก่อสร้าง งานทางสถาปตั ยกรรม ไดแ้ ก่
- สถาปตั ยกรรมทว่ั ไป เป็นการออกแบบสง่ิ ก่อสร้างทัว่ ไป เชน่ อาคาร บ้านเรอื น
ร้านคา้ โบสถ์วิหาร ฯลฯ
- สถาปัตยกรรมโครงสร้างเป็นการออกแบบเฉพาะโครงสร้างหลังของอาคาร
- สถาปตั ยกรรมภายในเป็นการออกแบบทีต่ ่อเนื่องจากงานโครงสรา้ งทเี่ ป็น
ส่วนประกอบของอาคาร
- งานออกแบบภมู ิทัศน์ เปน็ การออกแบบท่ีมบี ริเวณกว้างขวาง เป็นการจดั บรเิ วณ
พ้ืนทีต่ า่ งๆ เพื่อใหเ้ หมาะสมกับประโยชน์ใชส้ อยแความสวยงาม
งานออกแบบผงั เมือง เป็นการออกแบบที่มีขนาดใหญ่และมอี งค์ประกอบซับซอ้ น ซึง่ ประกอบไปด้วยกล่มุ
อาคารจานวนมาก ระบบภูมิทศั น์ ระบบสาธารณูปโภค ฯลฯ
1.4.2 การออกแบบผลิตภณั ฑ์ (Product Design)
เป็นการออกแบบเพื่อการผลิต ผลิตภณั ฑ์ ชนดิ ตา่ งๆ งานออกแบบสาขานี้ มีขอบเขตกวา้ งขวางมากทีส่ ดุ
และแบ่งออกได้มากมาย หลายๆ ลกั ษณะ นักออกแบบรบั ผิดชอบเกย่ี วกับประโยชนใ์ ช้สอยและความสวยงามของ
ผลติ ภณั ฑ์งานออกแบบประเภทน้ี ได้แก่
- งานออกแบบเฟอรน์ เิ จอร์
- งานออกแบบครุภัณฑ์
- งานออกแบบเครื่องสุขภัณฑ์
- งานออกแบบเคร่ืองใชส้ อยต่างๆ
- งานออกแบบเคร่ืองประดบั อัญมณี
- งานออกแบบเครื่องแต่งกาย
- งานนออกแบบภาชนะบรรจุผลิตภัณฑ์
- งานออกแบบผลติ เครื่องมือต่างๆ ฯลฯ
1.4.3 การออกแบบทางวิศวกรรม (Engineering Design)
เป็นการออกแบบเพ่ือการผลิตผลติ ภณั ฑช์ นดิ ต่างๆ เชน่ เดียวกับการออกแบบ

7

ผลิตภณั ฑ์ซึ่งมคี วามเกยี่ วข้องกนั ตอ้ งใช้ความรู้ความสามารถและเทคโนโลยใี นการผลิตสูง ผู้ออกแบบคือ
วศิ วกรซึ่งจะรบั ผิดชอบในเร่อื งของประโยชน์ใชส้ อย ความปลอดภัย และกรรมวิธใี นการผลติ บางอย่างต้องทางาน
รว่ มกันกบั นักออกแบบสาขาต่างๆ ด้วยงานออกแบบประเภทน้ี ไดแ้ ก่

- งานออกแบบเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้
- งานออกแบบเครื่องยนต์
- งานออกแบบเครื่องจักรกล
- งานออกแบบเครื่องมอื ส่ือสาร
- งานออกแบบอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ตา่ งๆ ฯลฯ
1.4.4 การออกแบบตกแต่ง (Decorative Design)
เป็นการออกแบบเพื่อการตกแต่งส่งิ ต่างๆ ให้สวยงามและเหมาะสมกับประโยชน์
ใชส้ อยมากขึ้น นกั ออกแบบเรียกว่า มณั ฑนาการ (Decorator) ซึง่ มักทางานร่วมกับสถาปนกิ งาน
ออกแบบประเภทนไี้ ด้แก่
- งานตกแต่งภายใน (Interior Design)
- งานตกแต่งภายนอก (Exterior Design)
- งานจัดสวนและบรเิ วณ (Landscape Design)
- งานตกแตง่ มุมแสดงสนิ ค้า (Display)
- การจดั นิทรรศการ (Exhibition)
- การจดั บอร์ด
- การตกแต่งบนผวิ หน้าของส่ิงต่างๆ เปน็ ตน้ ฯลฯ
1.4.5 การออกแบบสงิ่ พิมพ์ (Graphic Design)
เป็นการออกแบบเพื่อการผลิตงานสงิ่ พมิ พช์ นดิ ตา่ งๆ ได้แก่ หนังสอื
หนงั สือพิมพโ์ ปสเตอร์ นามบัตร บตั รตา่ งๆ งานพิมพ์ลวดลายผ้า งานพมิ พภ์ าพลงบนสงิ่ ของเครอ่ื งใชต้ า่ งๆ
งานออกแบบรูปสัญลักษณ์ เครื่องหมายการค้า ฯลฯ
1.5 หลักการออกแบบสิ่งพมิ พ์
สิง่ พิมพ์ทีพ่ บเห็นโดยท่วั ไปประกอบดว้ ยองค์ประกอบสาคัญหลายอยา่ งได้แก่ ตัวอักษรหรอื ข้อความ
ภาพประกอบ เนื้อท่วี ่าง และสว่ นประกอบอ่นื การออกแบบส่งิ พิมพต์ อ้ งคานึงถงึ การจดั วางองค์ประกอบตา่ งๆ
ดังกลา่ วเข้าด้วยกันโดยใชห้ ลักการดังน้ี
1.5.1 ทศิ ทางและการเคลอ่ื นไหว (Direction & Movement)
เมอ่ื ผรู้ บั สารมองดสู ื่อสง่ิ พิมพ์ การรับรูเ้ กดิ ข้ึนเป็นลาดบั ตามการมองเหน็ กลา่ วคือ เกดิ ข้ึนตามการกวาด
สายตาจากองคป์ ระกอบหนงึ่ ไปยงั อีกองค์ประกอบหนง่ึ จงึ มีความจาเป็นอย่างยง่ิ ทจี่ ะต้องมีการดาเนนิ การ
วางแผน กาหนดและชกั จูงสายตาของผู้รับสารให้เคลอื่ นไหวไปในทศิ ทางที่ถกู ต้อง ตามลาดับขององคป์ ระกอบท่ี
ต้องการใหร้ ับรู้ก่อนหลงั โดยทวั่ ไปหากไม่มีการสรา้ งจดุ เด่นขึ้นมา สายตาของผู้รับสารจะมองดูหนา้ กระดาษที่เป็น
สือ่ ส่ิงพิมพใ์ นทิศทางของตัวอักษรแซด (Z) ในภาษอังกฤษ คอื จะเริ่มมองท่ีมุมบนด้านขวา แล้วไล่ลงมายังมมุ ล่าง
ด้านซา้ ย ไปจบที่มุมล่างด้านขวาตามลาดบั การจัดองค์ประกอบท่ีสอดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของการมองน้ี เป็นส่วน
ช่วยให้เกิดการรบั รู้ตามลาดบั ท่ีต้องการ
1.5.2 เอกภาพและความกลมกลนื (Unit & Harmony)
เอกภาพคือความเป็นอนั หนง่ึ อนั เดียวกัน ซงึ่ ในการจัดทาเลย์เอาตห์ มายถึงการ

8

นาเอาองค์ประกอบท่ีแตกต่างกนั มาวางไวใ้ นพ้นื ทีห่ นา้ กระดาษเดียวกนั ได้อย่างกลมกลนื ทาหน้าที่
สอดคลอ้ งและสง่ เสรมิ กันและกนั ในการสื่อสารความคดิ รวบยอดและบุคลิกภาพของสื่อส่งิ พมิ พน์ นั้ ๆ การสรา้ ง
เอกภาพนส้ี ามารถทาได้หลายวธิ ี เช่น

- การเลอื กใช้องคป์ ระกอบอย่างสม่าเสมอ เช่น การเลือกใช้แบบตัวอกั ษรเดียวกนั การเลือกใชภ้ าพขาว
ดาท้งั หมด เปน็ ต้น

- การสร้างความต่อเน่อื งกนั ให้องคป์ ระกอบ เช่น การจดั ให้พาดหัววางทับลงบนภาพ การใช้ตวั อกั ษรที่
เป็นขอ้ ความ ล้อตามทรวดทรงของภาพ เป็นต้น

- การเวน้ พืน้ ท่ีวา่ งรอบองค์ประกอบทง้ั หมด ซ่งึ จะทาให้พื้นท่วี า่ งน้ันทาหน้าทเ่ี หมอื นกรอบสขี าวลอ้ มรอบ
องค์ประกอบทงั้ หมดไว้ภายใน ชว่ ยใหอ้ งค์ประกอบท้ังหมดดเู หมือนว่าอยกู่ นั อย่างเป็นกลมุ่ เป็นก้อน

1.5.3 ความสมดลุ (Balance)
หลักการเร่อื งความสมดุลน้เี ปน็ การตอบสนองธรรมชาติของผูร้ บั สาร ในเรอื่ งของแรงโน้มถว่ ง โดยการจดั
วางองคป์ ระกอบทั้งหมดในพ้ืนท่ีหนา้ กระดาษ จะตอ้ งไม่ขดั กับความร้สู ึกนี้ คือจะต้องไม่ดูเอนเอยี งหรือหนกั ไปดา้ น
ในดา้ นหน่งึ โดยไมม่ ีองคป์ ระกอบมาถ่วงในอกี ด้าน การจดั องคป์ ระกอบให้เกิดความสมดุลแบง่ ได้เป็น 3 ลกั ษณะ
คือ
- สมดุลแบบสมมาตร (Symmetrical Balance) เป็นการจัดวางองค์ประกอบโดยให้องคป์ ระกอบใน
ด้านซา้ ยและด้านขวาของพื้นท่ีหนา้ กระดาษมีลักษณะเหมือนกันท้ังสองข้าง ซึ่งองคป์ ระกอบท่ีเหมือนกันในแต่ละ
ด้านน้ีจะถ่วงน้าหนักกันและกันให้เกดิ ความรสู้ ึกสมดุล
- สมดลุ แบบอสมมาตร (Asymmetrical Balance) เปน็ การจดั วางองคป์ ระกอบโดยให้องค์ประกอบใน
ด้านซา้ ยและด้านขวาของพน้ื ท่หี นา้ กระดาษมีลักษณะไมเ่ หมือนกันท้ังสองขา้ ง แมอ้ งค์ประกอบจะไมเ่ หมือนกันใน
แต่ละดา้ นแต่กถ็ ว่ งน้าหนักกนั และกันให้เกดิ ความสมดุล
- สมดลุ แบบรัศมี (Radial Balance) เป็นการจัดวางองค์ประกอบ โดยใหอ้ งค์ประกอบแผ่ไปทุกทศิ ทุกทาง
จากจดุ ศนู ย์กลาง
1.5.4 สดั ส่วน (Proportion)
การกาหนดสัดส่วนนี้เป็นการกาหนดความสัมพนั ธใ์ นเรื่องของขนาดซึ่งมีความสาคัญโดยเฉพาะใน
หนา้ กระดาษของสอ่ื สงิ่ พมิ พท์ ่ีต้องการใหม้ จี ดุ เดน่ เช่น หน้าปกหนังสือเปน็ ต้น เพราะองค์ประกอบท่ีสัดส่วน
แตกต่างกนั จะดึงดูดสายตาได้ดีกวา่ การใช้องค์ประกอบทัง้ หมดในสดั ส่วนท่ีใกลเ้ คยี งกัน ในการกาหนดสัดสว่ นจึง
ตอ้ งพิจารณาองคป์ ระกอบท้ังหมดในพนื้ ท่หี นา้ กระดาษไปพร้อมๆ กันว่าควรจะเพ่ิมหรอื ลดองคป์ ระกอบใดไม่ใช่
คอ่ ยๆ ทาไปทลี ะองคป์ ระกอบ
1.5.5 ความแตกต่าง (Contrast)
เป็นวิธีการที่ง่ายที่สดุ โดยเน้นให้องคป์ ระกอบใดองค์ประกอบหน่งึ เด่นขนึ้ มาดว้ ยการเพิม่ ขนาดใหญ่กวา่
องค์ประกอบอ่ืนๆ โดยรอบ เชน่ พาดหัวขนาดใหญ่ เปน็ ต้น ซึง่ โดยธรรมชาติแลว้ ผู้ดแู ลเลือกมองดูองค์ประกอบที่
ใหญก่ ว่าก่อน
- ความแตกตา่ งโดยขนาด
เปน็ วธิ กี ารทงี่ า่ ยทีส่ ุด โดยเนน้ ให้องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง เด่นขึน้ มาด้วยการเพิม่ ขนาดใหญ่กวา่
องคป์ ระกอบอ่นื ๆ โดยรอบ เช่น พาดหัวขนาดใหญ่ เป็นต้น ซ่งึ โดยธรรมชาติแล้วผดู้ ูจะเลอื กมองดูองคป์ ระกอบที่
ใหญ่กว่าก่อน
- ความแตกต่างโดยรูปร่าง

9

เปน็ วิธที ี่เนน้ ใหอ้ งค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึงเด่นขึน้ มาดว้ ยการใชร้ ูปร่างท่ีแตกตา่ งออกไปจาก
องค์ประกอบอนื่ ในหนา้ กระดาษ เช่น การไดต้ ดั ภาพคนตามรปู ร่างของร่างกายแลว้ นาไปวางในหนา้ กระดาษที่มี
ภาพแทรกเล็กๆ ท่ีอยูใ่ นกรอบสีเ่ หล่ียม เป็นตน้

- ความแตกตา่ งโดยความเข้ม
เปน็ วิธกี ารทเี่ นน้ ใหอ้ งค์ประกอบใดองค์ประกอบหน่ึงเด่นข้ึนมาด้วยการใช้เพ่ิมหรือลดความเข้มหรือ
นา้ หนักขององคป์ ระกอบน้นั ใหเ้ ข้มหรอื อ่อนกวา่ องคป์ ระกอบอ่ืนท่ีอยู่ร่วมกันในหนา้ กระดาษ เชน่ การใชต้ ัวอักษร
ท่ีเปน็ ตัวหนาในย่อหน้าทีต่ ้องการเนน้ เพยี งย่อหน้าเดยี วในหน้ากระดาษ เป็นต้น
- ความแตกตา่ งโดยทิศทาง
ทิศทาง เปน็ วิธีการทเ่ี น้นให้องคป์ ระกอบใดองคป์ ระกอบหนึ่งเด่นขนึ้ มาด้วยการวางองค์ประกอบที่
ต้องการจะเน้นนัน้ ให้อยู่ในทศิ ทางทีแ่ ตกต่างจากองคป์ ระกอบอนื่ ๆ ที่อย่รู ว่ มกนั ในหน้ากระดาษ เชน่ การวางภาพ
เอยี ง 45 องศา ในหน้ากระดาษท่ีเตม็ ไปดว้ ยตวั อักษรทเ่ี รยี งเปน็ แนวนอน เปน็ ต้น
1.5.6 จังหวะ ลลี า และการซา้ (Rhythm & Repetition)
การจดั วางองคป์ ระกอบหลายๆ ชนิ้ โดยกาหนดตาแหน่งใหเ้ กดิ มชี อ่ งว่างเป็นช่วงๆ ตอนๆ อยา่ งมีการ
วางแผนลว่ งหนา้ จะทาใหเ้ กิดจังหวะ ลีลาขึ้น และหากว่าองคป์ ระกอบหลายๆ ชนิ้ น้นั มลี กั ษณะซา้ กันหรือใกลเ้ คียง
กัน ก็จะยงิ่ เป็นการเน้นใหเ้ กิดจงั หวะลีลา ได้ชัดเจนย่งิ ขนึ้ ลักษณะตรงกนั ข้ามกบั แบบแรก จงั หวะและลลี าลักษณะ
นีจ้ ะก่อใหเ้ กิดความรสู้ ึก ที่ต่ืนเต้นดเู คลอ่ื นไหวและมีพลงั
1.6 หลกั การใช้สแี ละแสง
สีมคี วามสาคญั อย่างมากต่อกราฟิก สีทาใหภ้ าพหรือสิง่ ต่างๆ มีความสดใส สวยงาม น่าสนใจในการใชส้ ี
เพอ่ื ส่ือความหมายในงานกราฟกิ ควรจะไดศ้ ึกษาให้มีความรู้ความเข้าใจเพ่ือทจี่ ะได้นาสีไปใช้ประกอบในงาน
กราฟิก ใหง้ านน้นั สามารถตอบสนองได้ตรงตามจดุ ประสงค์
ระบบสีของคอมพิวเตอร์เก่ียวข้องกบั การแสดงผลของแสงในเครอื่ งคอมพิวเตอร์ โดยมลี ักษณะการ
แสดงผล คือ ถ้าไม่การแสดงผลสใี ด บนจอภาพจะแสดงเป็น “สีดา” หากสีทกุ สีแสดงพร้อมกนั จะเหน็ สบี นจอภาพ
เป็น “สีขาว” สว่ นสอี นื่ ๆ เกดิ จากการแสดงสหี ลายๆ สี แต่มีคา่ แตกต่างกนั การแสดงผลลกั ษณะน้ีเรียกวา่ “การ
แสดงสีระบบ Additive”
1.6.1 การแสดงสรี ะบบ Additive
สใี นระบบ Additive ประกอบดว้ ยสีหลกั 3 สี แดง (Red) เขยี ว (Green) นา้ เงิน (Blue) เรยี กรวมกนั
ว่า RGB หรอื แมส่ ี
1.6.2 ระบบสที ่ีใชก้ บั งานสง่ิ พิมพ์
ระบบสีท่ีใช้กับงานสิ่งพิมพ์ ประกอบด้วย สีฟา้ (Cyan) สีมว่ งแดง (Magenta) และสเี หลอื ง (Yellow) คอื
ระบบ CMYK
1.6.3 สี (Color)

10

แสงสีขาวจากธรรมชาติหรอื แสงจากดวงอาทิตยเ์ กิดจากการผสมของแมส่ สี ามสี คือ แดง เขยี ว และน้า
เงิน ซ่ึงเหมอื นสีทป่ี รากฏบนจอคอมพวิ เตอร์ หากนาภาพดิจิตอลทีท่ าจากคอมพวิ เตอร์ไปแสดงผลทางเครื่องพมิ พ์
ภาพสีหรือเป็นฟิล์มสไลด์ จะได้สีที่ใกลเ้ คียงกับจอมอนเิ ตอร์ถา้ นาไปใช้ทางการพมิ พ์ เชน่ หนังสือ หรือสิง่ พิมพ์
ตา่ งๆ สีสันจะผิดเพยี้ นไป เพราะทางการพิมพ์ใชแ้ ม่สี ไวแอน มาเจนต้า และเหลือง (CMYK) ซ่งึ ผสมกนั แลว้ จะได้สี
ดา นอกจากน้ขี อบเขตของสกี ็ปรากฏแตกตา่ งกัน จอมอนเิ ตอร์สามารถแสดงสไี ด้สงู สุด 16.7 ล้านสี น้อยกวา่ ท่ตี า
คนเราสามารถมองเห็น ส่วนการพิมพอ์ ยูใ่ นระดับหมืน่ สเี ทา่ นัน้

1.7 การเตรยี มงานพมิ พ์ก่อนสง่ โรงพมิ พแ์ ละการจัดการภาพสาหรับงานพิมพ์
1.7.1 การเตรยี มงานพมิ พก์ ่อนส่งโรงพิมพ์
ปจั จบุ นั ระบบการพมิ พ์มีความก้าวหนา้ ขึ้น โดยได้นาเทคโนโลยที างคอมพวิ เตอร์มาชว่ ยจัดการกบั งาน
พิมพ์ ทาให้การสรา้ งสรรคง์ านสิ่งพิมพ์งา่ ยข้ึน แตย่ ังมปี ญั หาที่ตามมาคือ ไฟล์ต้นฉบับทส่ี ร้างขนึ้ มาจากเทคโนโลยี
สมัยใหมท่ ่สี ง่ มาไมส่ อดคล้องกบั มาตรฐานการทางานของทางโรงพมิ พ์
ดงั นั้น ผทู้ ี่สร้างสรรค์งานพิมพไ์ ว้เรยี บร้อยแลว้ ตอ้ งการจดั พมิ พ์ให้เป็นหนังสือ นิตยสารหรือส่งิ พมิ พ์
แบบอ่นื ๆ น้ัน สามารถทาได้ ดังนี้
- จดั สง่ ไฟล์งานทเ่ี ก่ียวข้องทัง้ หมดไมว่ า่ จะเปน็ ไฟลข์ ้อมูล ไฟลภ์ าพ หรือฟอนต์ใหก้ บั โรงพมิ พ์
- พจิ ารณาถงึ ความละเอยี ดและฟอรแ์ มทของไฟลภ์ าพท่ีสง่ ไป
- เลือกใช้โปรแกรมที่เหมาะสมกบั การทางาน เช่น พิมพ์ข้อความผ่าน
โปรแกรม Word สร้างภาพกราฟกิ จากโปรแกรม Illustrator ตกแตง่ ภาพดว้ ยโปรแกรม Photoshop จดั
วางขอ้ มูลประกอบลงบนหนา้ ส่ิงพิมพด์ ้วย Publisher
1.7.2 การจัดการภาพสาหรับงานพมิ พ์
การนาภาพมาประกอบลงบนส่งิ พิมพอ์ าจนามาไดจ้ ากหลายแหล่ง เชน่ สแกนเนอร์ กล้องดิจติ อล แผ่นซดี ี
อนิ เทอรเ์ นต็ ใช้โปรแกรมจับภาพ หรือแม้แตก่ ารสรา้ งภาพที่ตอ้ งการข้นึ มาเอง โดยการทางานของภาพกบั การ
สร้างสรรค์งานส่งิ พิมพ์มีความสาคัญและมขี ้อควรพิจารณามากมาย ดังรายละเอยี ดตอ่ ไปน้ี
- ความแตกตา่ งของภาพเวกเตอร์และบิตแม็พ
ก่อนท่ีจะเรียนรู้เร่ืองรปู ภาพมาเรียนรูข้ ้อแตกต่างของภาพเวกเตอร์และ
ภาพบิตแม็พ ภาพท้ัง 2 ประเภทนม้ี ขี อ้ แตกต่าง ดังนี้
- ภาพเวกเตอร์ (Vector) เกดิ จากการคานวณคา่ ทางคณติ ศาสตร์ มกั
ถูกสร้างขึน้ มาโดยอาศัยการทางานของโปรแกรม Illustrator, Core Draw ภาพท่ีได้จึงมีลกั ษณะเป็น
การ์ตูนหรอื เรียกวา่ Clip Art สาหรบั ขอ้ ดขี องภาพเวกเตอร์คือ ไฟลท์ ่ีไดจ้ ะมขี นาดเล็กผลงานมคี วามคมชดั เมื่อ
ขยายก็จะไม่ทาให้คณุ ภาพของงานลดลง

11

- ภาพบิตแมพ็ (Bitmap) เกิดจากพิกเซล ซ่ึงเปน็ ชอ่ งสีเ่ หลี่ยมเล็กๆ
ทีเ่ รยี งต่อกันดังน้นั เมื่อขยายขนาดกจ็ ะส่งผลทาใหค้ ุณภาพของงานลดลง จึงเหมาะกบั งานท่ตี ้องการความ
ละเอยี ดของสีมากๆ เชน่ รปู ถ่าย เปน็ ต้น
- ความละเอียดทีเ่ หมาะสมของภาพ

ในกรณีทนี่ าภาพจากเคร่ืองสแกนเนอรห์ รือการจบั ภาพควรมีความละเอียด 300 dpi ซง่ึ สง่ ผลทาให้
ไฟล์งานเข้าโรงพิมพ์ ภาพที่ปรากฏขึ้นมาจะมคี วามคมชัด และสว่ นภาพทีไ่ ด้จากกล้องดิจิตอลควรมคี วามละเอียด
ระดับปานกลางท่ี 2-5 ลา้ นพกิ เซล สว่ นความละเอียดสูง ควรกาหนดความละเอยี ดท่ี 6 ล้านพกิ เซล

12

ปจั จุบันการผลติ สอื่ สิ่งพิมพ์แบบ Desktop Publishing เริ่มเปน็ ทีน่ ิยมสาหรบั วงการการพิมพเ์ ปน็ อยา่ ง
มาก อนั เปน็ ผลเนื่องมาจากการนาคอมพิวเตอรเ์ ข้ามาช่วยในการออกแบบทาให้การผลิตสอื่ ส่งิ พิมพ์งา่ ยขึ้น สะดวก
รวดเร็ว รวมถึงได้สอื่ ส่งิ พิมพ์ที่มปี ระสทิ ธภิ าพ สวยงาม และโปรแกรมแบบ Desktop Publishing คือ PageMaker
7.0 มหี นา้ ทห่ี ลกั ในการจัดการเกย่ี วกับหน้าเอกสาร รวมถึงงานเอกสารที่สร้างสรรค์สื่อส่งิ พิมพ์ในรูปแบบต่างๆ โดย
ไมต่ ้องอาศัยโรงพิมพ์ แต่สามารถทาเป็นโรงพิมพ์ขนาดเล็ก และผลิตสอ่ื สิ่งพิมพ์ขนาดเลก็ ๆ ได้ เช่น วารสาร
นิตยสาร ปฏิทิน นามบตั ร ใบเสรจ็ รับเงนิ ใบปลิว แผน่ พบั ตลอดจนปา้ ยโฆษณา ในหนว่ ยนี้จะกล่าวถงึ ความหมาย
ของ Desktop Publishing ฮาร์ดแวร์สาหรบั โปรแกรมแบบ Desktop Publishing รวมถึงการใชง้ าน
โปรแกรม PageMaker 7.0 เบื้องตน้

2.1 ความหมายของ Desktop Publishing
คาวา่ Desktop Publishing หมายถึง การนาคอมพวิ เตอร์เขา้ ใช้ในการออกแบบสิ่งพิมพ์แบบครบวงจร
โดยไมต่ อ้ งใช้อปุ กรณ์อื่นเพ่ิมเตมิ โดยเปรียบเทยี บเหมือนกับโรงพิมพ์แบบสาเร็จรปู อยบู่ นโต๊ะ สามารถผลติ ส่อื
สงิ่ พิมพต์ ้งั แต่ข้นั ตอนแรกจนได้ต้นฉบบั เพ่ือนาไปสู่ข้นั ตอนการพมิ พ์ สง่ ผลใหก้ ารผลติ สอ่ื สิง่ พิมพง์ ่ายและสะดวก
รวดเร็ว
2.2 แนะนาโปรแกรมแบบ Desktop Publishing
ปัจจุบันโปรแกรมแบบ Desktop Publishing ที่มคี วามสามารถสงู และได้และไดร้ ับความนยิ มมากที่สดุ
คอื Microsoft Publishing ซ่ึงเปน็ โปรแกรมทผี่ ลติ โดยบริษัท Adobe Systems
Incorporated ได้ Adobe Publishing จากรนุ่ 6.5 เป็นรนุ่ 7.0 ในปัจจุบัน
หลกั การทางานของโรแกรม Microsoft Publishing เป็นการนาข้อความ รูปภาพและรูปวาดต่างๆ ท่ี
เตรียมไว้มาจัดแต่งเปน็ ต้นฉบับเอถา่ ยลงฟลิ ์มสง่ เขา้ โรงพิมพ์ นอกจากที่กลา่ วขา้ งตน้ โปรแกรม PageMaker ยงั
สามารถจัดการกบั ข้อความในรูปแบบตา่ งๆ เช่น การจัดระยะหา่ ง การจดั ช่องไฟ การจดั ย่อหนา้ รวมถงึ การจดั
เฟรม ฯลฯ ให้เองโดยอตั โนมัติ
2.3 ฮารด์ แวร์สาหรบั โปรแกรมแบบ Adobe Publishing
โปรแกรม Microsoft Publishing เปน็ โปรแกรมสาเรจ็ รปู เพ่ือผลติ สือ่ สง่ิ พมิ พท์ ่ีได้รับความนิยมมากในปจั จบุ ัน
เนื่องจากมตี ัวเลือกในการผลิตสง่ิ พิมพ์ได้มากมาย เพ่ิมความสะดวกรวดเร็วในการผลติ ส่ิงพมิ พ์มากขึ้นการใชง้ าน
โปรแกรม PageMaker อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพน้ัน ควรเตรียมความพร้อมให้กบั เครื่องคอมพิวเตอรโ์ ดยตอ้ งมี
คุณสมบตั ิ ดงั นี้

13

ระบบ/อุปกรณ์ คุณสมบัติ PC Windows คณุ สมบัติ Macintosh

ระบบ Intel Pentium Processor PoPerPC Processor
ระบบปฏบิ ตั กิ าร MS-Windows 98,ME,XP,NT Mac Os software8.6,9.1,X
ฮาร์ดดสิ ก์ เนื้อท่ี 175 หรือเพม่ิ ถึง 200MB เนอ้ื ท่ี 100 หรอื เพิ่มถึง 150MB
หนว่ ยความจา 32 หรอื เพิ่มถึง 200 MB 16 หรอื เพ่ิมถึง 32 MB
จอภาพ ความละเอยี ด 800x900 ความละเอียด 800x900
อุปกรณ์อ่ืนๆ มี Video Card มี Video Card
มี CD-ROM มี CD-ROM

2.4 การเรียกใช้โปรแกรม Microsoft Publishing
กอ่ นทจ่ี ะใช้งานโปรแกรม Microsoft Publishing ตอ้ งรวู้ ิธีการเรยี กใช้โปรแกรม มีขน้ั ตอนดงั นี้
1.คลิกปุ่ม Start > All Program > Microsoft Office > Microsoft Publisher

รปู ท่ี 2.1 แสดงขั้นตอนการเข้าสโู้ ปรแกรม Microsoft Publisher

14

2.5 ส่วนประกอบของโปรแกรม Microsoft Publishing
เมอ่ื เปดิ โปรแกรม Microsoft Publisher ขน้ึ มาจะปรากฏหนา้ ตา่ งโปรแกรม ลกั ษณะหน้าจอของ
โปรแกรมจะคล้ายคลงึ กบั Photoshop โดยการทางานจะใช้พื้นฐานเดยี วกันและมีสว่ นประกอบของหน้าต่าง
โปรแกรม

สว่ นประกอบของโปรแกรมประกอบด้วย
หมายเลข 1 ไตเตลิ้ บาร์ (Title bar) แสดงชอ่ื โปรแกรม และชอื่ เอกสาร
หมายเลข 2 เมนบู าร์ (Manu bar) เปน็ แถบท่ีเก็บคาสง่ั การทางานหลลกั ทั้งหมดของโปรแกรม
Microsoft Publisher เรมิ่ ทีเ่ มนู File จนกระท้งั Help
หมายเลข 3 ทูลบาร์ (Toolbar) เป็นแถบเครื่องมือท่ีประกอบไปดว้ ย ไอคอนของคาส่ังหลกั ทีใ่ ชง้ าน
บ่อย
หมายเลข 4 ปมุ่ คอนโทรล (control Buttom) ใชใ้ นการย่อ/ขยายวนิ โดวส์/ปดิ โปรแกรม
หมายเลข 5 ไมบ้ รรทัด (Ruler) เปน็ แถบทใี่ ช้สาหรบั วดั ค่าหรือกาหนดระยะตา่ งๆ จะปรากฏข้ึนทาง
ด้านบนและด้านซา้ ยของหน้าจอ หากมีไมบ้ รรทัดข้นึ มาในหนา้ เอกสาร สามารถนาไม้บรรทัดมาแสดงมขี ัน้ ตอนดังนี้
ในกรณที ่ีไม่ต้องการใหไ้ มบ้ รรทดั มาแสดงบนหน้าจอใหใ้ ช้วิธีการเหมอื นการแสดง แตเ่ ลือกคาสั่ง Hide
Rulers
โดยปกติโปรแกรมจะกาหนดหน่วยวัดของไม้บรรทัดเปน็ น้ิว (inches) ในการเปล่ียนหรือกาหนดหนว่ ยวัด
ไม้บรรทัดใหม่ มขี ้นั ตอนดงั น้ี
1. คลิกที่คาสั่ง File > Preference > General หรอื กดปุ่ม <Ctrl + k > จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์
2. กาหนดหน่วยวัดบรรทัดแนวนอนในช่อง Measurement in :
3. กาหนดหน่วยวัดไม้บรรทัดแนวตงั้ ในชอ่ ง Vertical ruler : ช่อง text box ดา้ นหลงั ใส่ตัวเลขวดั ไดเ้ อง
มหี น่วยเปน็ Points
4. กดป่มุ OK ไมบ้ รรทดั จะมีหนว่ ยวดั เปลีย่ น มิลลิเมตร
หมายเลข 6 กล่องเครอื่ งมือ (Toolbox) เป็นเครอื่ งมอื ต่างๆ ทีใ่ ช้ในการผลติ สื่อส่งิ พิมพแ์ ละการตกแต่ง
สื่อสิ่งพมิ พ์ โดยมีเคร่ืองมือต่างๆ
หมายเลข 7 สไตล์พาเลต คอนโทรลพาเลต (Styles Palette ) รปู แบบของข้อความ ย่อหน้า

15

หมายเลข 8 คอนโทรลพาเลต (Control Palette) เป็นสว่ นหนงึ่ ท่ีใช้ในการปรับแตง่ การทางานของ
เครอื่ งมอื ตา่ งๆ รายละเอียดในคอนโทรลพาเลตจะเปล่ยี นไปตามเคร่ืองมือของทลู

บ็อกซ์ทเ่ี ลอื กใชง้ านในขณะน้ันจะมคี อนโทรลพาเลตเปน็ 3 กลุ่ม คอื
1) คอนโทรลพาเลตของเครอ่ื งมือ Text tool จะมี 2 รปู แบบ คือ
· คอนโทรลพาเลตของเครอ่ื งมอื Text tool ทีใ่ ชใ้ นการจัดรูปแบบตวั อกั ษรจะมลี กั ษณะ ดงั รูป
· คอนโทรลพาเลตของเครื่องมอื Text tool จัดกับการยอ่ หน้า (paragraplh) จะปรากฏขน้ึ มาเมื่อคลิกปุ่ม
จะมลี กั ษณะ ดงั รูป
2) คอนโทรลพาเลตของวัตถุ ใชส้ าหรบั การเคลื่อนย้าย เปล่ียนขนาด หรอื การหมุนอ็อบเจก็ ตค์ อนโทรลพา
เลตจะเปล่ยี นไปตามปมุ่ ท่ีอยูใ่ นทลู บ็อกซ์ ได้แก่ เสน้ ตรง รปู วาด รปู หลายเหลี่ยม รปู สี่เหลยี่ ม รปู วงกลม
หมายเลข 9 สกรอลบ์ าร์ (Scroll Bars) เปน็ ส่วนที่เล่อื นหนา้ เอกสารไปทางซ้าย-ขวา เป็นส่วนท่ีแสดง
เพจไอคอน การเรยี กใช้งาน Scroll Bars มขี ้นั ตอนดงั น้ี
คลิกเมนู View > Show Scroll Bars ดังรปู

ในกรณีท่ีต้องการซ่อน Scroll Bars ให้คลิกเมนู View คาส่งั Show Scroll Bars จะเปลี่ยนเปน็ Hide
Scroll Bars

หมายเลข 10 เพจไอคอน
เปน็ ส่วนท่แี สดงมมุ มองหนา้ เอกสาร โดยในโปรแกรม Microsoft Publishing แบ่งหน้าเอกสาร
ออกเปน็ 2 หนา้ คอื
1) หน้า Master เป็นหน้าทใี่ ช้สาหรับวางโครงสรา้ งหลกั ของงานในการออกแบบถา้ วางรปู แบบใบหนา้
Master แลว้ ทุกหน้าเอกสารกจ็ ะมีรูปแบบเหมือนกัน
2) หน้าเอกสาร ใช้ในการออกแบบส่งิ พิมพ์
2.6 เรยี กใชพ้ าเลต (Palette)
พาเลต หมายถึง หน้าต่างย่อยๆ ทใี่ ชเ้ รียกรายละเอียดสาหรับประกอบการทางานตา่ งๆ ใน
โปรแกรม Microsoft Publishing มีพาเลตใหใ้ ช้จานวนมาก ดังนี้
พาเลต color (Ctrl + J) ใชส้ าหรบั เลอื กสี

16

พาเลต Layer (Ctrl + 8) ใชค้ วบคุมการใช้งานเลเยอร์
พาเลต Master Page (Shift + Ctrl +8) กาหนดหนา้ หลกั
พาเลต control Palette (Ctrl + ‘) เปน็ ส่วนทใี่ ช้ปรบั แตง่ การทางานของเคร่ืองมือต่างๆ
พาเลต Tools เปน็ กลอ่ งที่รวบรวมเครอ่ื งมือตา่ งๆ
พาเลต Styles(Ctrl + B) กาหนดรูปแบบอัตโนมัติให้กบั ข้อความ ตวั อกั ษร
พาเลต Hyperlinks(Ctrl + 9) การเช่ือมโยงเอกสาร
พาเลต Plug – in Palettes Library (หมวดหมู่) scripts (คาสง่ั ) DataMerge palette
(รวบรวมขอ้ มูลของพาเลต) Template (ตน้ แบบสาเรจ็ รปู ) Picture (รปู ภาพ)
การเรียกใช้พาเลต ทกุ ๆ พาเลต มีขน้ั ตอนการเรยี กใช้เหมือนกัน มีขนึ้ ตอนดงั นี้
คลกิ เมนู Windows ตามดว้ ย ชื่อพาเลต เชน่ Windows > Show Layer
2.7 การสรา้ งเอกสารใหม่
เมื่อเปิดโปรแกรมขึน้ มาจะต้องสรา้ งเอกสารใหม่เพื่อใช้ในการสร้างส่ิงพิมพ์ในรูปแบบตา่ งๆ ซ่งึ การทางาน
ดังกลา่ วจะทาให้สามารถสร้างงานส่ิงพมิ พ์ไดต้ รงต่อความต้องการมากย่ิงข้ึน การสร้างเอกสารใหมส่ ามารถทา
ได้ 2 วธิ คี อื
วธิ ีที่ 1 การสร้างเอกสารเปล่า มีขนั้ ตอนดังนี้
1. คลกิ เมนู File > new หรอื คลกิ ทีท่ ลู บาร์ หรือกดปมุ่ Ctrl + N
2. ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Document Setup ข้ึนมาโดยกกาหนด page size ขนาดกระดาษมาตรฐานท่ี
ใชใ้ นการสร้างส่งิ พิมพ์ ถ้าไม่ต้องการใช้กาหนดเองให้เลือก Coston
Dimensions ความกว้างหรอื ความยาวของขนาดกระดาษหากตอ้ งการกาหนดเองใหเ้ ลือก Custom
Orientation แนวในการวางกระดาษโดย Tall จะเป็นแนวต้ัง Wide เป็นแนวนอน
Options คา่ คุณสมบัตใิ นการแสดงหนา้ กระดาษ Double-sided เปน็ การแสดงหนา้ คู่ Facing page ให้
แสดงพร้องกันทงั้ 2 หนา้ Adjust layout ให้อ็อบเจก็ ตเ์ ปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของหนา้ Restart
page numbering เรม่ิ นบั หน้ากระดาษใหม่ Number Of Pages จานวนหนา้ กระดาษท้ังหมดท่ตี ้องการใช้
งาน Start page หมายเลขหน้ากระดาษท่ีต้องการให้เรม่ิ ต้น
Margin ระยะขอบกระดาษ ประกอบด้วย
Inside (ขอบซ้าย)
Outside (ขอบขวา)
Top (ขอบบน)
Bottom (ขอบลา่ ง)
Target output resolution คา่ ความละเอยี ดในการสั่งพมิ พ์
Compose to printer เครอื่ งพมิ พท์ ใี่ ชง้ าน
3. กดปุ่ม OK จะปรากฏหนา้ ตา่ งเอกสาร
วธิ ที ี่ 2 การสร้างเอกสารด้วยเทม็ เพลท
การสร้างเอกสารไม่เพยี งแตจ่ ะสร้างเอกสารด้วยกระดาษเปลา่ เทา่ นัน้ แตห่ ากต้องการความรวดเร็วก็สามา
รถสร้างสิ่งพมิ พ์ดว้ ยเท็มเพลทได้ โดยเทม็ เพลท เปรยี บเสมือนเป็นต้นแบบสาเรจ็ รูปในการสรา้ งสง่ิ พิมพแ์ บบตา่ งๆ
โดยมีขน้ั ตอนดังน้ี
1. คลิกเมนู Windows > plug – in palettes > Show Template Palette
2. เลือกหมวดหมูข่ องสง่ิ พิมพ์ทไ่ี ดก้ ล่าวส่วนของ Category ซ่งึ มใี หเ้ ลือกใช้งานถึง 20 หมวดหมู่

17

3. คลกิ เลอื กเท็มเพลทของสิ่งพมิ พท์ ่ตี ้องการ แลว้ ดบั เบิ้ลคลิกทีเ่ ทม็ เพลทท่ีเลอื ก หรือกด Create
Publication

4. จะปรากฏเท็มเพลทท่เี ลือกขนึ้ มา
2.8 การบนั ทึกเอกสาร
เมอื่ ต้องการบันทกึ เอกสารลงในส่อื อุปกรณ์ โดยโปรแกรม Microsoft Publishing ทาได้หลายวธิ ใี นหัวข้อ
นข้ี อกลา่ วท้ังวิธีลัดและวิธที ง่ี ่าย โดยมีขั้นตอนดงั นี้
1. คลกิ เมนู File > save หรอื คลกิ ปุ่ม รูปแผ่นดสี บนทูลบาร์ หรอื ปุ่ม <Ctrl + s> ในกรณีท่ไี มเ่ คยบนั ทึก
เลยโปรแกรมจะให้พิมพช์ ื่อใหม่ สาหรบั การบันทกึ แตใ่ นกรณที ี่ทาการบนั ทึกไวแ้ ลว้ โปรแกรมจะบนั ทกึ เพม่ิ เติมในสิง่
ท่ีแก้ไข
2. เลือกตาแหนง่ สาหรบั การบันทึก
3. กดป่มุ save เพอ่ื ทาการบันทึก
2.9 การปิดเอกสาร และเปิดเอกสาร
หลงั จากที่ทาการสรา้ งสิ่งพิมพเ์ รยี บรอ้ ย หรอื ตอ้ งการเปดิ ไฟล์งานใหม่ข้ึนมาทางาน กส็ ามารถเปิดไฟล์
งานเก่าลงไปก่อนได้ เมือ่ ต้องการแก้ไขส่งิ พิมพท์ ่ีทาการบนั ทกึ เรียบร้อยแล้วสามารถเปิดเอกสารนัน้ มาทางานหรือ
แกข้ ายละเอียดเพิ่มเติมไดต้ ามตอ้ งการ ซงึ่ การทางานดังกล่าวจะช่วยประหยดั เวลาในการสร้างงานไดม้ ากขึน้
2.9.1 การปิดเอกสาร มีข้นั ตอนดงั นี้
1. คลิกเมนู File > Close หรอื กดปุ่ม บนหน้าตา่ งโปรแกรม หรอื กดปุ่ม < Ctrl + w >
2. โปรแกรมจะปรากฏกล่องข้อความถามวา่ คุณตอ้ งการทจ่ี ะบันทึกเอกสารน้ีหรือไม่ โดยมตี วั เลือก ดงั นี้
Yes บนั ทึกก่อนท่จี ะปิดเอกสาร
No ปิดไฟลล์ งโดยไมต่ ้องบันทึก
Cancel ยกเลกิ การปิดเอกสาร
2.9.2 เปิดเอกสาร มขี น้ั ตอนดงั น้ี
1. คลิกเมนู File > Open หรือกดปุ่ม บนทลู บาร์ หรือกดปมุ่ < Ctrl + o >
2. จะปรากฏตาแหนง่ ไฟล์ให้เลือกจากนั้นคลิกเลือกไฟลท์ ่ตี ้องการปิด
3. เลือกไฟล์ท่ตี ้องการเปดิ
4. จากน้ันกดปุ่ม Open
2.10 การออกจากโปรแกรม
เมอ่ื ทางานการสรา้ งสิง่ พิมพ์เปน็ ทเี่ รียบรอ้ ยแลว้ ต้องการจะออกจากโปรแกรม Microsoft Publishing มี
ข้นั ตอนได้ ดงั น้ี
1. คลิกเลือกเมนูคาสงั่ File > Exit หรอื ป่มุ บนไตเต้ลิ บาร์ หรอื กดปุ่ม <Ctrl +F4>
2. โปรแกรมจะปิดตัวเองลงโดยอตั โนมตั ิ

18

การใชโ้ ปรแกรม Microsoft Publishing ในการสรา้ งส่อื สิ่งพิมพ์ในงานเอกสาร จาเป็นอยา่ งยิง่ ท่ีต้อง
ทราบหลักของการพิมพ์ และการแก้ไขขอ้ ความ รวมถงึ การตรวจสอบขอ้ ความใหถ้ ูกต้อง ซง่ึ ในหน่วยน้กี ล่าวถึงการ
พมิ พข์ ้อความ การกาหนดขอบเขตข้อความ การเลอื กข้อความและวตั ถุ การยกเลิกและการทาซ้า การยา้ ย การ
คัดลอกข้อความ การลบข้อความ การเขา้ ใช้งาน Edit Story การกาหนดคุณสมบัติการแสดงข้อความ การค้นหา
และแทนทขี่ ้อความ การตรวจสอบคาผดิ ผ่าน Edit Story คณุ สมบตั กิ ารแสดงข้อความ การค้นหาและแทนท่ี
ข้อความ การตรวจสอบคาผิดผา่ น Edit Story และการออกจาก Edit Story

3.1 การพิมพ์ข้อความลงบนหนา้ สงิ่ พมิ พ์
การพิมพ์ข้อความให้กบั งานเอกสารของโปรแกรม Microsoft Publishing จะมีหลกั การพมิ พ์คลา้ ย
โปรแกรม Microsoft Word จะพิมพ์ตรงตาแหน่งไหนก็ได้จะกลายเป็นวัตถุทสี่ ามารถเคลอ่ื นยา้ ยไปยงั ตาแหนง่ ไหน
กไ็ ด้ของบริเวณหน้าเอกสาร มขี ้ันตอนดงั น้ี
1. คลกิ ปุม่ Text Tool ที่ทลู บอ็ กซ์ จากนัน้ ตวั ช้เี มาสจ์ ะมลี ักษณะเปลยี่ นเป็นรปู
2. เลือ่ นเมาสไ์ ปยงั ตาแหนง่ ที่ตอ้ งการพิมพโ์ ดยสามารถเลอื กพมิ พ์บริเวณไหนก็ไดข้ องหน้าเอกสาร
3. พิมพ์ข้อความลงบนหน้าเอกสาร ถ้าตอ้ งการขึน้ บรรทดั ใหมใ่ หก้ ด Enter และหากต้องการให้ข้อความ
ต่อเนอ่ื งเป็นย่อหนา้ เดยี วกนั ให้กดปุม่ Shift + Enter
3.2 การกาหนดขอบเขตข้อความ
ในโปรแกรม Microsoft Publishing สามารถกาหนดขอบเขตข้อความทพี่ ิมพ์ลงในเอกสาร หรอื เพ่มิ
บริเวณพืน้ ท่ขี องขอ้ ความนนั้ ๆ ตามต้องการได้ ซ่งึ สามารถจัด และย้ายข้อความได้ ก่อนท่ีจะจัดข้อความ หรือ
กระทาอย่างใดอย่างหนง่ึ กับข้อความต้องกาหนดขอบเขตของข้อความกอ่ น โดยมีขน้ั ตอนดงั น้ี
1. คลิกปมุ่ Pointer Tool บนทลู บ็อกซ์
2. จากน้ันคลกิ ท่ีข้อความที่ต้องการกาหนดขอบเขตจะปรากฏจดุ ปรบั ขนาด
3. คลกิ ท่จี ดุ ปรับขนาดรูปเมาสจ์ ะเปล่ยี นเป็นรูปจากนัน้ ลากขอบออกจะปรากฏเสน้ ขอบบอกขอบเขตของ
ขอ้ ความ
4. เมอื่ ได้ขอบที่ต้องการแลว้ ใหป้ ล่อยเมาส์ข้อความกจ็ ะถกู ตดั คาตามขอบเขตข้อความ แต่ถา้ ไม่ตัดคาให้
กดปุ่ม Shift + Enter เพือ่ ทาการตัดคาใหก้ บั ข้อความ ดังรูป
3.3 การเลือกขอ้ ความ และวตั ถุ
ในการยา้ ย คัดลอก ลบ หรอื กระทาการใดๆ ทเี่ ปลี่ยนแปลงขอ้ ความ และรปู ภาพจาเป็นตอ้ งเลือกสง่ิ น้นั
ก่อน กฎโดยท่วั ไปเกี่ยวกับเร่ืองนีค้ ือ เลอื กก่อนและคอ่ ยกระทา
กฎข้อน้ีเปน็ กฎทใ่ี ช้กบั การทางานทุกๆ เรื่องในโปรแกรม Microsoft Publishing โดยการเลอื กสามารถ
กระทาได้โดยการคลกิ เมาส์ข้างนอกจ้อความหรือรูปภาพที่เลือก โดยมีวิธีการเลอื ก 4 วิธี คอื
วธิ ีที่ 1 การเลอื กข้อความโดยการใชเ้ มาส์ มขี ้นั ตอนดังนี้
1. คลกิ ปมุ่ Text Tool บนทลู บ็อกซ์

19

2. ตัวชเี้ มาสจ์ ะมีลักษณะเปลี่ยนเป็นรปู คลิกตาแหน่งเริ่มต้นท่ีต้องการเลอื กจากนั้นลากเมาส์ระบายสี
ขอ้ ความท่ีต้องการเลือกดังรูป

วธิ ที ่ี 2 การเลอื กข้อความและวตั ถุ มีขั้นตอนดังน้ี
1. คลิกปุ่ม Pointer Tool บนทูลบ็อกซ์
2. จากน้ันคลกิ ท่รี ปู ภาพ เฟรม รูปสีเ่ หล่ียม รปู หลายเหลี่ยม รปู วงกลม โดยปรากฏจุดปรบั ขนาดเปน็ รปู
ส่ีเหล่ยี ม 8 อนั ซ่งึ วิธนี ส้ี ามารถเลือกขอ้ ความได้เพ่ือใชใ้ นการย้ายขอ้ ความ ดงั จะกลา่ วในขน้ั ตอนถัดไป
วธิ ที ี่ 3 การเลอื กข้อความและวัตถดุ ้วยแปน้ พิมพ์
การเลอื กขอ้ ความโดยใช้แปน้ พมิ พ์ทาได้โดยการกดคียล์ ดั คือ Ctrl + A ข้อความหรือกราฟิกจะถกู เลอื ก
ดงั รปู ท่ี 3.3 และรูปที่ 3.4 แต่ถ้าตอ้ งการยกเลิกการเลือกให้กดปุ่มShift + Ctrl + A
วิธที ี่ 4 การเลือกขอ้ ความและวตั ถุด้วยเมนคู าสงั่
การเลอื กข้อความโดยใช้คาส่ังสามารถทาไดโ้ ดยการคลกิ คาสงั่ Edit > Select All ซ่งึ ข้อความหรอื
กราฟิกจะถูกเลอื ก ดังรูปที่ 3.3 และ 3.4 แต่ถา้ ตอ้ งการยกเลิกการเลือกใหค้ ลิกคาส่ัง Edit > Deselect All
3.4 การยกเลกิ การกระทาและการทาซา้
ในการทางานบางครงั้ อาจมีความผิดพลาดที่ไม่ได้ตง้ั ใจกระทาเกดิ ขนึ้ อยบู่ ่อยๆ เช่น การลบข้อความหรือ
รูปภาพโดยไม่ได้ตัง้ ใจ ทาให้เสียเวลาในการทาใหม่ โปรแกรม Microsoft Publishing ได้เตรยี มวิธีการยกเลกิ คาสั่ง
ทีท่ าไปแล้ว เชน่ การลบรูปภาพไปและเมื่อเรายกเลิกคาสั่งก็จะไดร้ ูปภาพนนั้ กลับมา แตโ่ ปรแกรม Microsoft
Publishing มีขอ้ จากัดในการยกเลิกการทางานบางคาสง่ั เช่น การพิมพข์ ้อความในขณะท่ีพิมพ์ผิดให้ทาการยกเลกิ
ทันที ถา้ ไมย่ กเลิกทนั ทีโปรแกรมจะไมย่ กเลกิ การทางานให้ หรือแม้แต่การวาดรูปสเ่ี หล่ยี มเมอ่ื สรา้ งแล้วก็ไม่
สามารถยกเลิกไดน้ อกจากลบอย่างเดยี ว ซึ่งในการยกเลิกการทางานน้ันสามารถยกเลกิ ได้เฉพาะคาสง่ั การลบ การ
ย้าย การคัดลอก และการตดั โดยการยกเลิกการกระทาท่ีทาไปหลังสุด มขี น้ั ตอนดงั น้ี

เมนคู าส่ัง Edit Undo หรอื กดปุ่ม Ctrl + Z และสามารถกลับมาทาคาส่งั ทีย่ กเลิกไปน้ันใหม่ไดโ้ ดยคลกิ
เมนู Edit Redo หรือกดปุม่ Ctrl + Z ดังรปู

3.5 การยา้ ย คดั ลอกข้อความ และลบข้อความ
นอกจากโปรแกรมจะสามารถเลือกข้อความแลว้ ยงั สามารถทางานเกยี่ วกับการคัดลอกข้อความหรือการ
ยา้ ยข้อความได้อีกดว้ ย ทาให้การทางานงา่ ยและรวดเรว็ ยิ่งขึ้นในโปรแกรม Microsoft Publishing นนั้ ข้อความจะ
เหมอื นกบั วัตถุ คลา้ ยกบั รปู ภาพ หรือรปู ร่างอสิ ระต่างๆ ซึ่งในเนอ้ื หาต่อไปนี้จะกล่าวถึงวิธกี ารและเครื่องมือท่ีใช้ใน
การย้ายและคดั ลอกข้อความ
3.5.1 การยา้ ยข้อความ
การย้ายขอ้ ความ เป็นการย้ายข้อความจากตาแหนง่ หน่งึ ไปยังอีกตาแหน่งหนง่ึ ภายในแฟ้มข้อมูลเดียวกัน
หรือตา่ งแฟ้ม จะใช้คาสง่ั Cut เปน็ คาสงั่ ลกั ษณะเดยี วกันกับคาสั่ง Copy แตแ่ ตกตา่ งกนั ทีข่ ้อความท่ีถกู Cut จะ
หายไปการยา้ ยข้อความมีทั้งหมด 2 วธิ ี คอื
วิธีท่ี 1 โดยเมนคู าสั่ง มีขั้นตอนดงั นี้
1. คลกิ ปมุ่ Text Tool ลากคลุมข้อความทต่ี ้องการย้าย
2. คลกิ เมนู Edit > Cut หรือกดปมุ่ Ctrl + x ข้อความจะหายไป
3. คลิกเพ่ือหาตาแหนง่ ท่ีต้องการย้าย
4. คลิกเมนู Edit > Paste หรอื กดปุ่ม Ctrl + v
5. ข้อความจะย้ายไปยงั ตาแหน่งที่ตอ้ งการ

20

วิธีที่ 2 การยา้ ยข้อความโดยเมาส์ มขี นั้ ตอนดงั น้ี
1. คลกิ ปุ่ม Pointer Tool บนทลู บ็อกซ์
2. จากนนั้ คลิกข้อความที่ต้องการยา้ ยจะปรากฏดังรูป
3. จากน้ันคลกิ เมาส์คา้ งไวแ้ ล้วลากข้อความไปยงั ตาแหนง่ ที่ตอ้ งการ โดยขณะเลอ่ื นเมาส์รูปเมาส์จะ
เปลยี่ นเปน็ รูป
4. เมื่อไดต้ าแหน่งท่ีตอ้ งการแลว้ ใหป้ ล่อยเมาส์ข้อความจะถูกยา้ ยมาตาแหนง่ ใหม่ทันที
3.5.2 การคัดลอกข้อความ
ในโปรแกรม Microsoft Publishing ในการคัดลอกขอ้ ความหรือกราฟิกต่างๆ จากทห่ี นึ่งไปยังอกี ท่ีหน่ึง
ในแฟม้ เดยี วกัน รวมถึงการคัดลอกจากแฟ้มเอกสารหน่งึ ไปยังเอกสารหน่งึ จะมีลักษณะเหมือน
โปรแกรม office โดยมีทงั้ หมด 2 วธิ ี
วธิ ีท่ี 1 โดยเมนูคาส่งั มีข้นั ตอนดังน้ี
1. คลกิ ปุ่มText Tool ลากคลุมข้อความทตี่ ้องการ
2. คลิกเมนู Edit > Copy หรอื กดปุ่ม Ctrl + C ข้อความจะถกู คดั ลอกเกบ็ ไวโ้ ดยข้อความต้นฉบบั
ยังคงอยู่
3. คลกิ เพื่อหาตาแหน่งท่ตี ้องการวาง
4. คลิกเมนู Edit > Paste หรอื กดปุ่ม Ctrl + V
5. ขอ้ ความจะปรากฏยงั ตาแหนง่ ท่ีตอ้ งการ ดังรปู
วิธีที่ 2 การคดั ลอกข้อความโดยใช้เมาส์ มีข้นั ตอนดงั นี้
1. คลกิ ปุ่ม Pointer Tool บนทลู บ็อกซ์
2. จากนน้ั คลิกข้อความที่ต้องการคดั ลอก
3. จากนัน้ กดปุม่ Ctrl + Alt ค้างไว้ แล้วลากเมาส์ไปยงั ตาแหนง่ ที่ต้องการวาง โดยขณะเลอ่ื นเมาส์รูปเมาส์
จะเปลีย่ นเปน็ รูป
4. เมือ่ ได้ตาแหนง่ ท่ีต้องการแล้วให้ปลอ่ ยเมาส์ จะปรากฏขึ้นมาดงั รูป
3.5.3 การลบขอ้ ความ
การลบข้อความสามารถทาได้โดยใช้พ้ืนฐานเดยี วกับโปรแกรมอืน่ ๆ มขี ั้นตอนดังน้ี
1. เลือกข้อความท่ตี ้องการลบ
2. คลกิ เมนู Edit > Clear หรือกดปุ่ม Delete
3. ข้อความหายไปดังรูป
3.6 การเข้าใช้งาน Edit Story และกาหนดคณุ สมบตั ิการแสดงขอ้ ความ
ในกรณที ่ีต้องการตรวจความถกู ต้องของข้อความทงั้ หมด สามารถทาไดผ้ า่ นทาง Edit Story ซง่ึ Edit
Story เปรยี บเสมอื นคาสงั่ คน้ หา และแทนที่ ( Find and Replace) ขอโปรแกรม Microsoft Word ทใี่ ช้ในการ
ค้นหา และแทนที่ข้อความ โดยการทางานดังกลา่ วจะช่วยทาให้ประหยัดเวลา และเปน็ การลดข้อผดิ พลาด
หลงั จากเขา้ ส่กู ารทางานของ Edit Story จะเห็นวา่ ข้อความเป็นภาษาไทยที่อา่ นไมไ่ ด้ ดังนัน้ สามารถกาหนด
รูปแบบตัวอกั ษร (Font) สาหรับการแสดงข้อความใน Edit Story ใหม่ โดยการกาหนดคุณสมบัติดังกล่าวไม่มีผล
ตอ่ รูปแบบอักษร (Font) ท่ีจัดไวใ้ นหนา้ เอกสาร โดยมขี ั้นตอน การเขา้ สู่การทางานของ Edit Story และการ
กาหนดคุณสมบตั ขิ องข้อความ ดงั นี้
3.6.1 การเข้าสกู่ ารทางาน Edit Story มขี น้ั ตอนดงั นี้
1. คลิกปมุ่ Pointer Tool บนทูลบ็อกซ์ คลิกข้อความทตี่ ้องการ แก้ไขหรือตรวจสอบ

21

2. จากนนั้ คลิกเมนู Edit > Story จะปรากฏหน้าตา่ ง Edit Story (Ctrl + E) ทันทีหรอื คลิกเมาส์ติดต่อ
กนั 3 ครัง้
3. จากนัน้ จะเข้าสู่การทางานของ Edit Story
3.6.2 การกาหนดคณุ สมบตั ิขอ้ ความ มีข้ันตอนดงั น้ี
1. จากรปู ที่ 3.12 ใหค้ ลิกเมนู File > Preferences > General (Ctrl + k) จะปรากฏ
ไดอะล็อกบ็อกซ์ Preferences ขึน้ มา
2. คลกิ ปุ่ม More จากนน้ั จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ More preferences ขึ้น
3. ในส่วนของ Story Edit ชอ่ ง : Font ให้เลือกรปู แบบอักษรตามต้องการช่อง : Size กาหนดขนาด
ตวั อักษร
4. คลดิ ปุ่ม OK
5. การแสดงผลของขอ้ ความใน Edit Story จะเปลี่ยนแปลงไปตามรปู แบบท่ีกาหนดไวท้ ันทีดงั รูป
3.7 การคน้ หาและแทนที่ข้อความ
3.7.1 การคน้ หาข้อความ
เม่ือทาการกาหนดให้สามารถแสดงข้อความท่ีเปน็ ภาษาไทยไดเ้ รยี บร้อยจากนหี้ ากตอ้ งการคน้ หาข้อความ
ใดๆ ก็สามารถทาได้อย่างงา่ ย มขี ้นั ตอนดังน้ี
1. ใหค้ ลกิ เมนู Utilities > Find หรอื กดปุ่ม (Ctrl + F) จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Find ข้ึนมา
2. พิมพ์คาทต่ี ้องการคน้ หาลงในช่อง Find what :
3. เลือกรูปแบบการคน้ หาของ Option โดยมีรายละเอยี ดดังนี้
Match case คน้ หาคาที่มีตัวพมิ พใ์ หญ่และตวั พมิ พ์เลก็ ตรงกบั ท่ีกาหนด
Whole word คน้ หาคาทตี่ รงกับที่กาหนดไวโ้ ดยไม่คานงึ ถงึ ตัวพิมพ์ใหญ่พิมพ์เล็ก
4. เลอื กไฟล์ทีใ่ ชใ้ นการค้นหาจากสว่ นของ Search document
Current publication คน้ หาเฉพาะไฟลท์ ี่กาลงั ทางานอยู่
All publications คน้ หาทุกไฟลท์ ่เี ปดิ ขึน้ มา
5. เลอื กข้อมลู ท่ใี ช้ในการค้นหาจากส่วนของ Search Story
Select text คน้ หาเฉพาะข้อมูลในสว่ นทเี่ ลอื กไว้อยู่
Current Story คน้ หาเฉพาะกรอบข้อความท่กี าลังทางาน
All Stories คน้ หาข้อความทั้งหมดที่อยู่ในไฟลง์ าน
6. คลกิ ปมุ่ Find เพ่อื เรม่ิ การคน้ หา
7. เมื่อโปรแกรมพบคาท่ตี ้องการค้นหา จะปรากฏแถบสีดาข้ึนมา
8. คลกิ Find Next เพ่อื ค้นหายังตาแหนง่ ถัดไป
9. เมอ่ื ไม่พบคาทีต่ ้องการแลว้ จะปรากฏข้อความ Search Complete ขนึ้ มาคลิกที่ป่มุ OK ดงั รูป
3.7.2 การแทนทดี่ ้วยข้อความใหม่
การแทนที่ดว้ ยขอ้ ความใหมจ่ ะมลี ักษณะการทางานเหมือนกบั กาคน้ หาข้อความซึ่งในการแทนท่ขี ้อความ
ใหม่ตอ้ งคน้ หาข้อความที่ต้องการแทนท่ีก่อน โดยมีขัน้ ตอนดังนี้
1. คลกิ เมนู Utilities > Change หรอื กดปุ่ม Ctrl + H
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Change พิมพค์ าที่ตอ้ งการค้นหาลงในช่อง Find what :
3. พิมพ์คาท่ีต้องการแทนท่ลี งในช่อง Change to กาหนดรายละเอยี ดอนื่ ๆ ได้เหมือนกับการค้นหา
ข้อความ (โดยในทน่ี ีเ้ ปลีย่ นจากคาว่า Edit ไมเ่ ป็น edit เพื่อจะได้อธิบายถึงการตรวจสอบคาผิดในหัวขอ้ ถัดไป)

22

4. คลกิ ปมุ่ Find เพอ่ื ค้นหา
5. จะปรากฏแถบสดี าขน้ึ มา ให้คลกิ Change & Find เพอื่ แทนทีค่ าท่พี บและคน้ หาคาถัดไป หรอื คลิก
ปุ่ม Change เพ่ือแทนทคี่ าที่พบด้วยคาใหม่ หรอื ถา้ กดปมุ่ Change All จะแทนที่คาทีต่ ้องการเปล่ยี นท้งั หมดโดย
ไม่ต้องค้นหา
6. คลกิ ป่มุ OK เพื่อสนิ้ สดุ การแทนทีข่ ้อความ ดังรปู
3.8 การตรวจสอบคาผิดผา่ น Edit Story
ในโปรแกรม Microsoft Publishing สามารถตรวจสอบคาถกู หรอื คาผิดได้เหมือนโปรแกรม Office อืน่ ๆ
มขี นั้ ตอนดงั น้ี
1. จากรูปท่ี 3.15 ใหค้ ลิกเมนู Utilities > Spelling หรอื กดปุม่ Ctrl + L
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Spelling คลิกเมนู Start เพอ่ื ตรวจสอบคาผิด
3. เม่ือโปรแกรมพบคาผดิ จะปรากฏแถบสีดาตรงคาน้นั ในชอ่ ง Change to และพิมพ์แกไ้ ขคาที่ถูกลงใน
ช่องน้ี
4. คลกิ ปุ่ม Replace เพ่ือเปลี่ยนแก้ไขคาให้ถูกต้องตามที่กาหนดไว้ ข้อความที่พบกจ็ ะถูกเปล่ียนแปลง
ทันที
5. ข้อความทพี่ บก็จะถูกแกไ้ ขเปลย่ี นแปลงไปทนั ทใี ห้คลิกปุ่ม Ignore เพื่อข้ามไปตรวจสอบคาถดั ไปหรือ
คลกิ ปุ่ม ปดิ เมอื่ สนิ้ สดุ การตรวจสอบ ดงั รูป
3.9 ออกจาก Edit Story
หลงั จากไดค้ น้ หา แทนทีห่ รือตรวจสอบคาผิดเรยี บร้อย แล้วต้องออกจาก Edit Story เพื่อกลบั สูก่ าร
ทางานปกติ โดยมีขนั้ ตอนดังนี้
1. คลกิ เมนู Edit > Edit Layout หรือกดปุ่ม หรอื กดปุ่ม Ctrl + E
2. จะกลบั สหู่ น้าจอการทางานของโปรแกรมทนั ที โดยรายละเอียดตา่ งๆ จะถกู เปลย่ี นแปลงไปตามที่
กาหนดไวใ้ น Edit Story

23

การสรา้ งผลงานโดยใช้โปรแกรม Microsoft Publishing น้ัน มีความจาเป็นอยา่ งย่ิงที่ต้องมีองคป์ ระกอบ

ตา่ งๆ มากมายไมว่ ่าจะเป็นขอ้ ความ รูปภาพ ซ่ึงในหนว่ ยนี้จะกลา่ วถึงการจดั รูปแบบ อกั ษรการตกแต่งข้อความ

การกาหนด ระยะห่างระหวา่ งตวั อกั ษร รวมถึงการจดั การกบั ย่อหน้า โดยมรี ายละเอียด ดงั ตอ่ ไปนี้

4.1 การจดั การกับรปู แบบตัวอกั ษร

เม่ือพิมพ์ขอ้ ความเรยี บร้อยแลว้ สามารถจดั รปู แบบให้กบั ข้อความได้ตามต้องการ เชน่ การเปลยี่ นรูปแบบ

ตัวอักษร การกาหนดสีตัวอักษร การปรบั ช่องไฟ ระยะห่างระหว่างตวั อักษร เปน็ ต้น เพื่อทาให้งานเอกสารมีความ

สวยงาม

4.1.1 การเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร

การเปล่ยี นรูปแบบตัวอกั ษร หรอื ฟอนต์ (Font) เป็นสว่ นชว่ ยให้เอกสารมีความสวยงาม สะดุดตา นา่

อ่าน ตัวอักษรบางแบบเปน็ ทางการ แตบ่ างแบบก็อา่ นง่ายแบบวัยร่นุ โดยมขี ้ันตอนดังน้ี

1. คลกิ คลุมข้อความท่ีต้องการ

2. คลกิ เลือกคาส่ัง Type > Font เลือกรูปแบบอักษรตามต้องการ หรือเปลย่ี นรปู แบบอักษรบน Control

Palette

3. ข้อความกจ็ ะเปลี่ยนตามรูปแบบตวั อกั ษรท่เี ลือก

4.1.2 การกาหนดขนาดตวั อักษร

1. คลิกคลมุ ข้อความทตี่ ้องการเปล่ยี น

2. คลกิ เมนู Type > Size เลือกขนาดตัวอักษรตามตอ้ งการ หรอื กาหนดที่

Control Palette

3. ขอ้ ความท่เี ลือกไว้จะมขี นาดเปลยี่ นไป ดังรปู

4.1.3 การกาหนดความแตกตา่ งของข้อความ

ในการสร้างสิง่ พมิ พ์ การจะทาใหส้ ง่ิ พิมพด์ ูน่าสนใจไดน้ ้ัน จะตอ้ งกาหนดความแตกตา่ งใหก้ บั ข้อความ

เช่น การทาใหเ้ ปน็ ตัวหนา ตวั ยก ตัวหอ้ ย ขีดเส้นใต้ เป็นต้น โดยมีข้ันตอนดงั นี้

1. คลิกคลมุ ข้อความทตี่ ้องการกาหนดให้แตกต่างจากข้อความอ่นื ๆ

2. คลิกเมนู Type > Type Style เลอื กรูปแบบข้อความที่ต้องการ (ในทีน่ ้ีเลือก ตัวเอียง) โดยมรี ปู แบบให้

เลือก ดังน้ี

Normal ขอ้ ความในรปู แบบปกติ หรือ Shift + Ctrl+ Space bar

Blod ขอ้ ความเป็นตวั หนา หรอื Shift + Ctrl+ B

Italic ข้อความเอยี ง หรือ Shift + Ctrl+ I

Underline ขดี เสน้ ใต้ข้อความ หรอื Shift + Ctrl+ U

Strikethru ขีดเสน้ ทบั ข้อความ หรือ Shift + Ctrl+ /

Reverse ข้อความไว้ด้านหลงั หรอื Shift + Ctrl+ V

24

4.1.4 การใส่สีให้กับข้อความ
การตกแต่งข้อความให้ดูสวยงาม และนา่ สนใจนนั้ จาเป็นอย่างย่ิงท่ตี ้องตกแตง่ ข้อความด้วยสี ปกติการ
พมิ พ์งานท่วั ไปจะเป็นสีดา แต่ถา้ ตอ้ งการเปลยี่ นให้เป็นสีอ่ืนๆ มีขน้ั ตอนดังน้ี
1. คลกิ คลุมข้อความทต่ี ้องการ
2. คลดิ เมนู Type > Character หรอื กดปุ่ม Ctr I + T จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Character
Specifications
3. คลิกเลอื กสที ่ีตอ้ งการเปลยี่ นในช่อง Color:
4. กดปุ่ม OK
5. ข้อความจะเปลี่ยนเป็นสีตามที่เลือก (ในที่น้เี ลือก สีเขียว)
4.1.5 การกาหนดตวั ยก และตัวห้อย
ในการจดั ข้อความนนั้ สามารถจัดให้เป็นตัวยก หรอื ตวั ห้อย ในการทางานกับข้อความดังกล่าวนัน้ มี
ขนั้ ตอนดงั นี้
1. คลิกคลมุ ข้อความทตี่ ้องการ
2. คลิกเมนู Type > Character ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Character Speciation
3. คลิกเลอื ก Position กาหนดรายละเอียดดงั นี้
Normal ข้อความปกติ
Superscript ตวั ยก
Subscript ตัวหอ้ ย
เลอื กตัวยก หรอื ตัวหอ้ ยตามต้องการ (ในท่นี ีเ้ ลือกตวั ยก)
4. คลิกปมุ่ OK
5. ขอ้ ความทเ่ี ลือกจะเปลยี่ นเปน็ ตวั ยก
4.1.6 การปรับช่องไฟของตัวอักษร
การจัดตวั อกษรนั้นถ้าหากพบวา่ ตวั อักษรมชี ่องไฟท่ีใกล้กัน สามารถขยายช่องไฟได้ซง่ึ การกระทา
ดังกลา่ วไม่ส่งผลกระทบกับขนาดตัวอักษร มีขั้นตอนดงั นี้
1. คลิกคลมุ ข้อความทต่ี ้องการปรบั ชอ่ งไฟ
2. คลกิ เมนู Type > Expert Tracking และเลอื กชอ่ งไฟ ตามทีต่ ้องการปรับช่องไฟของตัวอักษรโดยใน
ทีน่ เ้ี ลอื กVery Loose สว่ นรายละเอยี ดสว่ นอื่นๆ มีดงั นี้
No Track ไม่มชี อ่ งไฟ
Very Loose ชอ่ งไฟมีความห่างมากทส่ี ุด
Normal ชอ่ งไฟในรปู แบบปกติ
Tight ชอ่ งไฟแคบ
Very Tight ชอ่ งไฟแคบ
4.1.7 การปรับความกวา้ งใหก้ บั ตัวอักษร
ในการจดั ทาสง่ิ พิมพ์ บางครั้งจาเป็นอย่างยิ่งท่ีต้องปรบั ความกว้างของตวั อักษรเพ่ือใหต้ ัวอักษรดูอว้ น
มากขึน้ หรือให้ผอมลง มีขนั้ ตอนดังน้ี
1. คลกิ คลุมข้อความท่ตี ้องการกาหนดความกวา้ งของตวั อักษร
2. คลกิ เมนู Type > Horizontal Scale เลือกความกว้างของ ตัวอักษร โดยกาหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ หรือ
เลอื ก Other เพอ่ื กาหนดคา่ เอง คา่ มาก จะทาให้ตวั อกั ษรกว้างข้นึ

25

3. ขอ้ ความท่เี ลือกจะมีตวั อักษรที่กว้างขึ้น
4.1.8 ปรับระดับของตัวอักษร
ในกรณที ี่ต้องการปรับระดับตัวอักษรให้ลอยสูงขน้ึ หรือต่าลงจากเดิม มีขน้ั ตอนดังน้ี
1. คลิกคลมุ ข้อความทต่ี ้องการปรับระดับ
2. พิมพ์ค่าในช่อง หรือคลกิ ปุ่ม หนา้ ช่องวา่ งในการเปลีย่ นค่าจาก 0 ถงึ 22.22 in
3. ในท่นี ี้จะเปลี่ยนคา่ เป็น 0.05 in ขอ้ ความจะเปล่ยี นระดับสูงข้ึนจากเดมิ
4.2 การกาหนดรูปแบบข้อความ (Styles)
การจดั รปู แบบตวั อักษรนน้ั สามารจัดรปู แบบได้อยา่ งรวดเร็วโดยโปรแกรมได้เตรียมรปู แบบมาตรฐานไว้
ให้ใชง้ านจานวนหนง่ึ อยูแ่ ลว้ แต่เพ่ือให้สอดคล้องกบั การทางานมากยิง่ ข้นึ จึงสามารถสร้างรปู แบบขึ้นมาเพ่ือ
กาหนดข้อมลู ในแต่ละสว่ น เช่น ชอ่ื บท หวั ข้อหลัก หวั ข้อรอง หรอื เนอ้ื หา มีรปู แบบท่ีเหมือนหรอื แตกตา่ งกันไปใน
แต่ละสว่ นอีกด้วย
4.2.1 การเรยี กใชร้ ูปแบบจากโปรแกรม
เมอ่ื เรม่ิ ตน้ สรา้ งสรรคผ์ ลงานโปรแกรมได้เตรยี มรปู แบบรวม 7 แบบสาหรับกาหนดขอ้ ความเพือ่ ให้
ขอ้ ความในแต่ละส่วนมีรปู แบบทีแ่ ตกต่างกนั โดยเริ่มแรกจะตอ้ งเปิด Styles Palette ขึ้นมาก่อนมขี น้ั ตอนดังน้ี
1. คลิกเมนู Windows > Show Styles หรือปุม่ Ctrl + B
2. จะปรากฏ Styles Palette ข้ึนมาทันที ซง่ึ รูปแบบมาตรฐานท่โี ปรแกรมเตรียมไว้ให้ใชง้ านมดี งั น้ี
[No style] ยกเลิก/ไม่มกี ารกาหนดรูปแบบ
Body text กาหนดรูปแบบให้กบั เน้ือหา
Caption กาหนดรปู แบบให้กบั เนื้อหา
Hanging indent กาหนดรปู แบบใหก้ ับเน้ือหาที่มีสัญลักษณห์ รอื หมายเลขนา
Subhead 1 กาหนดรูปแบบให้กับหวั ขอ้ รอง
Subhead 2 กาหนดรปู แบบให้กบั หวั ขอ้ อันดบั 2
4.2.2 สรา้ งรูปแบบใหม่
การสร้างรูปแบบใหม่ เปน็ การสรา้ งรูปแบบขน้ึ มาใชง้ าน ซ่ึงปกติรูปแบบของดังน้ันการสร้างรูปแบบใหม่
จะช่วยใหข้ อ้ ความเป็นภาษาไทย โดยมขี น้ั ตอนดงั น้ี
1. คลิกปุ่ม คา้ งไวเ้ ลือกคาส่ัง New Style หรือคลิกทป่ี มุ่ ที่อยู่ ด้านล่าง Styles Palette
2. จะปรากฏ ไดอะล็อกบ็อกซ์ Styles Option ขึ้นมาให้พมิ พ์รูปแบบใหม่ลงในช่อง Name:
3. ท่ชี อ่ ง Based on : ให้คลิกเลือกรูปแบบท่ีตอ้ งการใหเ้ ป็นหลักในการสรา้ งรปู แบบใหม่
4. ทช่ี อ่ ง Next style :ให้คลิกเลือกรปู แบบที่ตอ้ งการใช้งานตอ่ จากรูปแบบนี้
5. กาหนดรายละเอยี ดเพ่ิมเติมเก่ียวกบั รปู แบบใหม่ท่ีสร้างขน้ึ ไมว่ า่ จะเป็นรูปแบบตัวอกั ษร ยอ่ หน้า แทบ็
หรอื เครอ่ื งหมายขดี เขยี นขอ้ ความ
6. คลกิ ปุ่ม OK เพื่อยืนยันการสรา้ งรปู แบบ
7. จะปรากฏรูปแบบใหม่ข้นึ มาตามท่ีกาหนด
4.2.3 การกาหนดข้อความด้วยรูปแบบใหม่
เมอ่ื ทาการสรา้ งรปู แบบใหม่ขน้ึ มาเรียบร้อยแลว้ หากต้องการกาหนดให้ข้อความมีรูปแบบทเี่ ปลีย่ นแปลง
ไปตามท่โี ปรแกรมไดเ้ ตรียมไว้ หรือมรี ปู แบบตามทส่ี รา้ งขึน้ มขี ั้นตอนในการกาหนด ดังนี้
1. คลิกคลุมข้อความที่ต้องการกาหนดรูปแบบ
2. เลือกรูปแบบที่ต้องการกาหนดให้ข้อความที่เลือกไว้

26

3. ข้อความทเ่ี ลือกจะมีรูปแบบเปลี่ยนแปลงไปตามทก่ี าหนด ดงั รปู

4.2.4 การแก้ไขรปู แบบทสี่ ร้างข้ึน

เมอ่ื กาหนดรปู แบบเรียบร้อยแล้วหากต้องแก้ไขสามารถทาได้ มขี ้ันตอนดงั นี้

1. ดบั เบล้ิ คลกิ เลอื กรปู แบบท่ีตอ้ งการแก้ไขรายละเอยี ด โดยในทนี่ ้เี ลอื กรปู แบบ Create

2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Styles Option ขนึ้ มา ใหป้ รับเปลี่ยนรายละเอยี ดต่างๆ ใหมต่ ามต้องการ

3. คลกิ OK เพือ่ ยนื ยนั คาสงั่

4. ข้อความทั้งหมดท่ีใช่รปู แบบดงั กลา่ วก็จะมีเปล่ยี นแปลงไปโดยอัตโนมัติ

4.2.5 การลบรปู แบบที่สร้างไว้

เมอ่ื ทาการสร้างรูปแบบขึน้ มาแล้วหากไมต่ ้องการสามารถลบไดโ้ ดย มีขนั้ ตอนดังน้ี

1. คลกิ เลอื กรูปแบบทีต่ ้องการลบโดยในที่นเี้ ลอื กรปู แบบ Create

2. คลิกปุ่ม แลว้ เลอื กคาสั่ง Delete ชือ่ รูปแบบ หรอื คลิกปุ่ม ทอ่ี ยู่ ดา้ นลา่ ง Styles Palette

3. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ถามวา่ ตอ้ งการลบสไตล์ทีเ่ ลอื กไว้หรือไม่ หากต้องการลบให้คลิกป่มุ OK

4. สไตลท์ ่เี ลือกไว้ จะถูกลบหายไปจาก Styles Palette

4.2.6 การนารูปแบบจากไฟล์อน่ื มาใช้งาน

จากการทางานเบื้อต้นเราสามารถกาหนดรูปแบบด้วยตนเองได้ แต่หากมไี ฟล์อน่ื ๆ กาหนดสามารถนา

ไฟล์รูปแบบจากที่อืน่ มาใชไ้ ด้ โดยมีขนั้ ตอนดังนี้

1. คลกิ ป่มุ ค้างไว้และเลือกคาสง่ั Import Styles จากน้นั จะปรากฏไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Import

Styles ขึ้นมา

2. เลอื กตาแหนง่ ท่ีใช้ในการจัดเก็บไฟลส์ ิ่งพิมพจ์ ากชอ่ ง Look in :

3. คลกิ ไฟล์ทต่ี ้องการนาสไตล์เข้ามาใช้งาน แลว้ กดปมุ่ Open

4. ปรากฏรูปแบบขน้ึ มาใน Styles Palette

4.3 การจัดการกบั ยอ่ หน้า

ในโปรแกรม Microsoft Publishing ไม่เพียงแตส่ ามารถจดั รูปแบบตวั อักษรเท่าน้ัน ยังสามารถกาหนด

รายละเอียดเกี่ยวกับย่อหนา้ ของข้อความได้อกี ด้วย เชน่ การจัดตาแหนง่ ข้อความ กาหนดระยะของย่อหนา้ กาหนด

ระยะหา่ งระหวา่ งย่อหน้า รวมถงึ การใส่เส้นคนั้ ระวา่ งย่อหนา้

4.3.1 การจัดตาแหนง่ ข้อความ

โดยปกติขอ้ ความท่ีพิมพจ์ ะถูกจัดให้ชดิ ด้านซา้ ยของหนา้ กระดาษ ซึง่ ถ้าหากตอ้ งการจดั ใหข้ อ้ ความเป็น

ระเบยี บเรยี บร้อย สามารถจดั ในรปู แบบตา่ งๆ รปู แบบการจัดดังกลา่ วตอ้ งเลือกขอ้ ความก่อนทกุ คร้ัง โดยมีขน้ั ตอน

ดังน้ี

1. คลกิ คลมุ ข้อความทีต่ ้องการจดั ตาแหนง่

2. คลิก Type Alignment เลือกรปู แบบของการจดั ตาแหน่งขอ้ ความดงั นี้ (ในทนี่ ี้เลือก Justify)

Align Left ชดิ ซา้ ย (Shift + L)

Align Right ชดิ ขวา (Shift + R)

Align Center กง่ึ กลาง (Shift + C)

Justify จัดขอ้ ความให้เต็มบรรทัด

Force Justify จดั ขอ้ ความกระจายออกใหช้ ิดขอบซ้าย และ (shift +F)

3. จากนัน้ ขอ้ ความจะถูกจัดเรียงให้เต็มบรรทัด ซ่ึงจะทาให้ข้อความดเู รยี บร้อยขึ้น

4.3.2 การกาหนดระยะย่อหนา้

27

การกาหนดระยะย่อหนา้ ของข้อความเพื่อระยะหา่ งจากขอบดา้ นซ้ายของกรอบข้อความ โดยมีขั้นตอน
ดังน้ี

1. คลกิ คลุมข้อความทีต่ ้องการกาหนดยอ่ หน้า
2. คลิกเมนู Type Paragraph หรอื กดปมุ่ Ctrl + M จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Paragraph
Specification
3. โดยกาหนดในส่วนของ Indents ใหก้ าหนดระยะของย่อหนา้ ไดต้ ามต้องการโดยมีรายละเอยี ด ดงั น้ี

Left ระยะหา่ งจากขอบด้านซา้ ย
First ระยะห่างจากขอบบรรทัดแรก
Right ระยะหา่ งจากขอบขวา
4. คลกิ ปุ่ม OK
5. ขอ้ ความทเ่ี ลือกจะมรี ะยะของยอ่ หน้าเปลีย่ นไปตามทก่ี าหนด
4.3.3 กาหนดระยะหา่ งระหว่างย่อหนา้
การจดั การกบั ข้อความน้นั เมื่อทาการพิมพ์ขอ้ ความแลว้ ถา้ ขอ้ ความดังกล่าว
แน่นเกินไปสามารถจัดระยะห่างระหวา่ งข้อความในแตล่ ะย่อหน้าให้เหมาะสมได้ โดยมขี ั้นตอนดังน้ี
1. คลกิ คลุมข้อความทีต่ ้องการจัดระยะห่างระหวา่ งข้อความในแต่ละย่อหนา้
2. คลิกเมนู Type Paragraph หรือกดปุ่ม Ctrl + M จะปรากฏไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Paragraph
Specification
3. จากน้นั ให้กาหนดในสว่ นของ Paragraph Pace โดยมรี ายละเอยี ดดังน้ี
4. จากนนั้ กดปมุ่ OK
5. ขอ้ ความในย่อหนา้ จะมีระยะห่างเปลี่ยนไปทันที
4.3.4 การใสเ่ ส้นคัน่ ระหว่างย่อหนา้
ในการจดั ทาหนงั สือ จะมีหวั ขอ้ มากมาย ซ่ึงแต่ละหวั ข้อน้ันสามารถกาหนดให้มีเส้นค่ันระหวา่ งยอ่ หนา้
เพือ่ เน้นความสาคญั ใหก้ ับหัวขอ้ นน้ั โดยมขี ้นั ตอนดังน้ี
1. คลกิ คลุมข้อความทต่ี ้องการใส่เสน้ ค่ันระหว่างยอ่ หนา้
2. คลิกเมน Type Paragraph หรอื กดปุ่ม Ctrl + M จะปรากฏไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Paragraph
Specification
3. คลิกปมุ่ Rules จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Paragraph Rules เพือ่ กาหนดเส้นค่นั ระหว่างย่อ
หนา้
4. คลกิ เลือกเสน้ คัน่ ทตี่ ้องการ เพอื่ ให้แสดงเส้นค่นั โดยมีให้เลอื ก ดงั นี้
Rule above paragraph ขดี เสน้ ใต้ดา้ นบน
Rule below paragraph ขีดเสน้ ใตด้ า้ นล่าง และสามารถกาหนดรายละเอียดได้ดงั น้ี
Stroke style รูปแบบของเส้น
Stroke color สีของเสน้ คั่น
Tint ความเขม็ จางของสเี ส้นคั่น
Stroke width ความกว้างของเส้นค่ัน โดยหากเลือก Width of text จะแสดงเส้นคน่ั จนสดุ ข้อความท่ี
พมิ พ์ ส่วน Width of column จะแสดงเสน้ คน่ั ทั้งยอ่ หน้าหรอื กรอบข้อความ
Indent ระยะหา่ งจากทางดา้ นซ้ายและขวา
5. คลิกปมุ่ OK จากน้นั จะกลับไปยังไดอะล็อกบ็อกซ์ Paragraph Specifications

28

6. คลิกปมุ่ OK เพ่ือยืนยันการขดี เส้นคั่น
7. จะปรากฏเส้นคนั่ ระหวา่ งย่อหน้าดังท่ีกาหนดทนั ที่
4.4 การต้งั แท็บสาหรับพิมพ์ขอ้ ความ
ในการพิมพ์ข้อความตรงกนั เปน็ แนวคอลัมน์ ใช้วิธกี ารตัง้ แท็บได้ ซึ่งการตงั้ แท็บสามารถกาหนดตาแหน่ง
ตง้ั แตก่ ารจดั เริ่มตน้ ได้ หรอื จะใช้เมาสเ์ ลอื กเฉพาะข้อความกไ็ ด้ โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. คลิกคลมุ ข้อความหรือคลิกบนตาแหน่งทีต่ ้องการตั้งแท็บ
2. คลิกเมนู Type Indents/Tabs หรอื กดปุ่ม Ctrl + L จากนนั้ จะปรากฏ
ไดอะล็อกบ็อกซ์ Indents/Tabs ข้ึนมา
3. คลกิ เลือกรูปแบบของแท็บ (ในทีน่ ้เี ลอื ก Left Tab) โดยมีใหเ้ ลือกดังน้ี
(Left Tab) จัดขอ้ ความชิดด้านซา้ ยของแท็บ
(Light Tab) จดั ขอ้ ความชิดดา้ นขวาของแท็บ
(Center Tab) จัดข้อความตรงกลางของแทบ็
(Decimal Tab) จัดตาแหน่งทศนิยมไหต้ รงกัน
4. จากน้นั คลกิ บนแถบไม้บรรทดั ตรงตาแหนง่ ท่ีตรงการ จะปรากฏแท็บที่ต้องการปรากฏไว้
· ถ้าต้องการกาหนดแท็บมาตรฐาน กดปมุ่ Reset
· ถา้ ต้องการลบแท็บไหค้ ลิกตาแหนง่ ของแท็บนั้น แล้วลากออกจากแทบ็ ไมบ้ รรทดั นน้ั แท็บท่ีเลอื กจะลบ
ออกทนั ที
5. กดป่มุ Leader เพอ่ื กาหนดรูปแบบทีต่ ้องการไหป้ รากฏดา้ นหน้าขอ้ ความเมื่อกดปุ่มแทบ็
6. ทาตามขั้นตอนท่ี 4 และ 5 จนไดแ้ ทบ็ ครบตามท่ตี อ้ งการ
7. คลิกปุ่ม OK
8. พมิ พข์ ้อความลงไปโดกดป่มุ Tab เพื่อจัดเรยี งตาแหนง่ ชอ่ งแท็บท่ีกาหนดไว้เมอื่ ครบเรียบร้อยแล้วไห้
กดปุ่ม Enter เพ่อื ข้ึนบรรทดั ใหม่ ดังรปู
4.5 การทาตัวอกั ษรข้นึ ตน้ ขนาดใหญ่
การทาตัวอักษรขึ้นต้นขนาดใหญท่ าไหเพ่ิมความโดดเด่นให้กบั ข้อความ หรอื ย่อหนา้ น้ันๆ แต่สาหรับ
ขอ้ ความภาษาไทยอาจใช้วิธีการเปล่ียนขนาดของตวั อักษรก็ได้เนอื่ งจากภาษาไทยมีสระจึงทาไห้สระถกู ขยายตาม
ไปดว้ ย โดยมขี ้นั ตอน ดังนี้
1. คลกิ คลมุ ยอ่ หน้าหรอื ตัวอักษรท่ตี อ้ งการกาหนดตัวอักษรข้นึ ต้นขนาดใหญ่
2. คลิกเมนู > Utility > Plug-ins > Drop cap จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Drop cap
3. กาหนดบรรทัดท่ีต้องการให้ตัวอกั ษรขยาย ในช่อง Size
4. คลกิ ป่มุ Apply เพ่ือทดสอบผลเมอ่ื ตรงตามต้องการคลิกปุม่ OK
5. ตวั อักษรแรกยอ่ หนา้ จะมีขนาดใหญ่ข้ึน และคลมุ ตามจานวนบรรทดั ท่กี าหนด ดังรูป
4.6 การเปล่ียนตวั พิมพใ์ หญ่/พิมพเ์ ลก็
ในกรณที ี่ขอ้ ความเป็นภาษาองั กฤษ ต้องการเปลีย่ นตวั พมิ พ์เลก็ ไห้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ หรือตัวพมิ พ์ใหเ้ ปน็
ตัวพมิ พ์เล็กทง้ั หมดรวมถึงตัวแรกของคา หรือยอ่ หน้ากลายเป็นพิมพใ์ หญ่ หรือพิมพ์เล็ก มขี นั้ ตอนดังน้ี
1. คลกิ คลมุ ข้อความทตี่ ้องการ
2. คลิกเมนู > Utility > Plug-ins >Change Case จะปรากฏไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Change Case
3. คลกิ รปู แบบตัวพิมพ์ที่ตอ้ งการ (ในที่นี้เลือก Lower case) โดยมรี ายละเอยี ดดงั นี้
Iower case ขอ้ ความเปน็ ตัวพมิ พ์เล็กท้งั หมด

29

UPPER CASE ข้อความเปน็ ตัวพิมพ์ใหญท่ ั้งหมด
Title Case ตัวอกั ษรแรกของคาเป็นตัวพิมพใ์ หญ่
Sentence case ตวั อกั ษรแรกของยอ่ หนา้ เป็นตัวใหญ่
tOGGLE cASE สลบั ตวั พมิ พ์ของขอ้ ความ
4. คลกิ ปุ่ม OK
5. ข้อความจะเปลีย่ นเป็นตัวพมิ พ์เลก็ ท้ังหมด
4.7 การใส่สญั ลกั ษณ์ และเลขลาดบั
การจดั ทาหนงั สือจาเป็นอย่างย่ิงทจี่ ะต้องมกี ารใสส่ ญั ลักษณ์ และเลขลาดบั ชว่ ยให้หนงั สือดเู ปน็ ระเบียบ
เรยี บรอ้ ย สวยงามมากขนึ้ สามารถใสร่ ูปแบบสญั ลักษณ์ตา่ ง ๆ ตามตอ้ งการ
4.7.1 การใส่เลขลาดับ มีขั้นตอนดงั น้ี
1. คลกิ คลุมข้อความทต่ี ้องการเรยี งลาดับ
2. คลกิ เมนู คลิกเมนู > Utility > Plug-ins >Bullets and numbering จะปรากฏ
ไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Bullets and numbering
3. คลกิ ปุ่ม Numbers เมือ่ ต้องการใสเ่ ลขลาดับ และคลิก Bullets เมือ่ ต้องการใส่สัญลักษณ์ (ในทนี่ ้ีจะ
เลือกใส่เลขลาดับ)
4. ในส่วนของ Numbering style ใหเ้ ลอื กรูปแบบของลาดับทตี่ ้องการ
5. ในช่อง Separator ใหเ้ ลอื กสญั ลักษณท์ ี่ต้องการไหป้ รากฏตอ่ จากเลขลาดบั
6. ในชอ่ ง Start at ใหก้ าหนดเลขเรมิ่ ต้นในการใส่เลขลาดับ
7. เลอื กรปู แบบในการใสเ่ ลขลาดบั ในสว่ น Range รายละเอยี ดดังน้ี
8. จะปรากฏเลขลาดับแสดงหน้าขอ้ ความทีเ่ ลอื ก
4.7.2 การใส่สญั ลกั ษณ์
มสี ญั ลักษณ์ รูปแบบตา่ งๆ มากมายเพ่ือไห้หนงั สือดูสวยงามขึ้น มีขัน้ ตอนดงั น้ี
1. คลิกคลมุ ข้อความทต่ี ้องการเรยี งลาดบั
2. คลกิ เมนู คลกิ เมนู > Utility > Plug-ins >Bullets and numbering จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์
Bullets and numbering
3. คลิกปุม่ Bullets โปรแกรมจะเตรยี มสญั ลักษณ์ไวไ้ ม่กี่แบบ
4. ถา้ ต้องการรปู แบบอนื่ กดปุ่ม Edit
5. เลอื กตวั อักษรท่ชี ่อง Font
6. เลือกขนาดตัวอักษรทช่ี ่อง Size
7. เลือกสัญลักษณ์ทต่ี ้องการ
8. คลิกปุ่ม OK จากนั้นจะกลับไปยงั ไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Bullets and numbering
9. คลกิ ปมุ่ OK
10. จะปรากฏสญั ลักษณ์แสดงดา้ นหนา้ ข้อความ ดังรูป
4.7.3 การลบสัญลกั ษณ์ และเลขลาดับ
หลังจากทีท่ าการใสส่ ญั ลักษณ์ หรือเลขลาดบั
1. คลุมข้อความทต่ี ้องการใส่สัญลกั ษณ์
2. คลกิ เมนู> Utility > Plug-ins >Bullets and numbering จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Bullets and
numbering ข้ึนมา

30

3. คลกิ ปุ่ม Remove ไดอะล็อกบ็อกซ์ Bullets and numbering
4. คลิกป่มุ OK
5. สัญลกั ษณ์ หรือเลขลาดับท่ีใส่ไวจ้ ะถูกลบทนั ที
4.8 นาข้อความจากโปรแกรมอื่นมาใช้งาน
การพมิ พข์ ้อความในโปรแกรม Microsoft Publishing นนั้ นอกจากสามารถพมิ พ์ข้อความโดยใช้
เครอ่ื งมือ Text tool แลว้ ยังสามารถนาไฟล์ตน้ ฉบบั ทีส่ ร้างจากโปรแกรมอื่นๆ เชน่ Microsoft Word Microsoft
Excel รวมถงึ ข้อมูลทน่ี ามาจากเวบ็ เพจ กส็ ามารถนามาจัดวางลงบนโปรแกรมได้ โดยมรี ายละเอียดดังน้ี
4.8.1 บนั ทึกข้อความจากต่างโปรแกรม
ในกรณีทนี่ าไฟล์จากโปรแกรม Microsoft Word หรอื โปรแกรมอ่ืนเขา้ มา เพ่ือใช้ประกอบเป็นผลงาน ก็
ตอ้ งบนั ทึกข้อมลู เหล่าน้นั ใหเ้ ปน็ ไฟลข์ ้อความก่อน จากนั้นจงึ นาภาพมาประกอบ หรอื ตกแต่งเพิม่ เติมในภายหลัง
ซึ่งในทน่ี จี้ ะขอยกตวั อย่างการบนั ทึกข้อมูลจากโปรแกรม Microsoft Word
1. คลกิ คาส่ัง File ( แฟ้ม ) > Save as ( บนั ทกึ แฟม้ เป็น ) จะปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Save as ขนึ้ มา
2. เลอื กตาแหนง่ ทใ่ี ชใ้ นการจัดเก็บไฟล์จากช่อง Save as ( บันทกึ ใน )
3. พมิ พ์ต้ังชื่อไฟล์ลงในช่อง File name ( ชือ่ แฟ้ม )
4. ในชอ่ ง Save as type ( เกบ็ เปน็ ชนิด ) ใหเ้ ลอื ก Plain Text ( บนั ทกึ เป็นข้อความเพียงอย่างเดียว )
5. คลิกป่มุ Save ( บนั ทกึ ) จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ File Conversion ( การแปลงแฟ้ม )
6. คลิกปุม่ OK จากน้นั เอกสารทสี่ ร้างไว้จะถูกบนั ทึกเปน็ ไฟล์ข้อความทนั ที
4.8.2 การนาขอ้ ความลงบนหนา้ สง่ิ พมิ พ์
หลังจากทีท่ าการบนั ทึกข้อมูลจากโปรแกรมตา่ งๆ ใหเ้ ปน็ ไฟลข์ อ้ ความเรียบร้อยแลว้ จากน้ันนาข้อมลู มาใช้
โปรแกรม Microsoft Publishing โดยมีข้นั ตอนดงั น้ี
1. คลิกเมนู File > Place หรอื Ctrl + D จากน้ันจะปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Place ขนึ้ มา
2. เลอื กตาแหน่งทไ่ี ฟลข์ ้อมูลท่จี ัดเกบ็ ไวใ้ ชอ่ ง Look in :
3. คลกิ ไฟล์ขอ้ ความท่ีต้องการแลว้ กดปุ่ม Open หรือดับเบิล้ คลกิ ช่อื ไฟล์
4. จะปรากฏตวั ชี้เมาส์เปล่ยี นเป็นใหค้ ลิกบนหนา้ กระดาษหรือลากเมาส์เพ่ือกาหนดขอบเขตข้อความ
5. จะปรากฏข้อความข้ึนมาบนหน้ากระดาษ ใหค้ ลิกคาสั่ง Windows > Show Control Palette จะ
ปรากฏ Control Palette ข้ึนมา จากน้นั ใหเ้ ปลย่ี นรปู แบบตัวอักษรใหม่

31

การพมิ พ์เอกสารโดยใช้โปรแกรม Microsoft Publishing น้ัน มีความจาเปน็ อยา่ งยิ่งที่ต้องรู้จกั
องค์ประกอบต่างๆ มากมายไมว่ า่ จะเปน็ ข้อความ รปู ภาพ รวมไปถึงรูปทรงต่างๆ เช่น เส้นตรง สเี่ หลี่ยม ทง้ั สิ้น ซึ่ง
ในหนว่ ยนี้จะกล่าวถงึ รปู วาดจากทลู บอ็ กซ์ การปรบั เปล่ียนรปู วาดใหเ้ หมาะสมตอ่ การทางาน การตกแต่งรปู ที่วาด
จากทูลบอ็ กซ์ การเลือกอ็อบเจ็กต์ การคัดลอกอ็อบเจก็ ต์ การเคลอื่ นยา้ ยอ็อบเจ็กต์ การเปลย่ี นขนาดอ็อบเจ็กต์
การหมุนอ็อบเจ็กต์ การกลับด้านอ็อบเจ็กต์ การจดั ลาดบั อ็อบเจก็ ต์ และการรวมกลุ่มออ็ บเจ็กต์

5.1 วาดรูปจากทูลบ็อกซ์
ในการพิมพเ์ อกสารหากมีแต่ขอ้ ความอยา่ งเดยี วเอกสารหรืองานนั้นคงไมน่ ่าสนใจ หรอื ขาดองค์
องค์ประกอบบางอยา่ งไปเอกสารของงานน้นั ไม่สมบรู ณ์ ดังน้นั ทูลบ็อกซ์เปน็ การวาดรปู ทรงตา่ งๆ มากมาย เชน่
สเ่ี หลยี่ ม รูปทรงกลม รูปอิสระ เป็นตน้
5.1.1 การวาดรปู เสน้ ตรง
การวาดเสน้ ตรงเปน็ การทางานท่ีไมซ่ บั ซ้อนและเปน็ การทางานทีง่ า่ ยท่ีสุด มีขัน้ ตอนดงั นี้
1. คลกิ ปมุ่ Line Tool ทท่ี ลู บ็อกซ์ จากน้ันตัวชีเ้ มาส์จะมีลักษณะเปลีย่ นเป็น +
2. คลกิ เมาสค์ ้างไวแ้ ล้วลากเส้นตรง จากจดุ เรม่ิ ตน้ จนถงึ จดุ สน้ิ สุดแลว้ ทาการปลอ่ ยเมาสก์ ็จะปรากฏ
เส้นตรงขึน้ มา
5.1.2 การวาดรปู ส่เี หล่ียม
ในการวาดรูปสเี หล่ียมผืนผา้ หรอื รปู สีเ่ หลี่ยมจัตรุ สั มขี นั้ ตอนดังต่อไปนี้
1. คลิกปุ่ม Rectangle Tool ทที่ ูลบ็อกซจ์ ากน้ันตวั ช้ีเมาส์จะมีลกั ษณะเปลยี่ นเป็น +
2. คลิกเมาสค์ า้ งไว้แล้วลากเมาสใ์ หเ้ ปน็ รปู ส่เี หล่ยี มเม่ือได้ขนาดทีต่ ้องการ ใหป้ ล่อยเมาส์จากนนั้ จะไดร้ ูป
สเ่ี หลย่ี มตามที่ต้องการ ดังรูป
ในการวาดรปู ส่ีเหลีย่ มปกติจะมีมมุ ต้งั ฉากซ่ึงกนั และกัน สามารถสร้างมุมใหโ้ คง้ มนได้ก่อนวาดรูปสีเ่ หลีย่ ม
ใหด้ บั เบ้ลิ คลกิ ทปี่ ุ่ม Rectangle Tool จะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ Rounded Corners ดังรปู ที่ 5.3 ให้คลิกเลือกที่
มมุ ทีต่ ้องการจากนน้ั กดป่มุ OK แล้วทาการวาดรูปส่เี หลีย่ มตามปกติ
5.1.3 การวาดรปู วงกลม หรือวงรี
การสร้างรปู วงกลม หรอื รูปวงรี มลี ักษณะของการวาดเหมอื นรปู ส่ีเหล่ยี ม สามารถวาดรูปไดโ้ ดยคลกิ
ปุ่ม Ellipse Tool เพ่ือสร้างรูปวงกลมและวงรี มีขั้นตอนดังนี้
1. คลกิ ที่ปุ่ม Ellipse Tool ท่ีทลู บ็อกซ์ จากนัน้ ตวั ชเ้ี มาสจ์ ะมีลักษณะเปลีย่ นเป็น +
2. คลกิ เมาสข์ ้างไวแ้ ลว้ ลากเมาสใ์ หเ้ ปน็ รปู วงรเี มอื่ ได้ขนาดท่ีตอ้ งการแล้ว ให้ปล่อยเมาส์จะไดร้ ูปวงรตี าม
ตอ้ งการ ซึ่งในท่ีน้ีได้วาดวงรีเปน็ 2 วงซอ้ นกนั หากตอ้ งการวาดรูปวงกลมให้กดปุ่ม shift ค้างไว้ในขณะทล่ี ากเมาส์
ดงั รปู
5.2 การเลอื กอ็อบเจก็ ต์

32

การเลือกอ็อบเจ็กต์ เปน็ การทางานกับอ็อบเจ็กตท์ ่ีสาคญั อีกรูปแบบหนง่ึ ซ่ึงก่อนการทางานอ็อบเจ็กซน์ ัน้
ต้องเลอื กก่อนว่าจะทากับอ็อบเจ็กต์ไหน ซ่ึงในหัวข้อนจี้ ะกล่าวถึง การเลอื กอ็อบเจ็กต์เดียว เลอื กหลายอ็อบเจ็กต์
หรอื เลือกอ็อบเจก็ ต์ท้งั หมด

5.2.1 การเลือกอ็อบเจ็กต์เดียว
ในการเลือกข้อความ หรืออบเจก็ ตต์ า่ ง ๆ เพยี งข้อความหรืออบเจก็ ต์เดยี ว สามารถเลอื กไดโ้ ดยใชแ้ ถบ
เคร่อื งมอื Pointer Tool ซึ่งอบเจก็ ตท์ ถ่ี ูกเลอื กจะปรากฏจุดปรับขนาดข้นึ มารอบๆอ็อบเจก็ ตท์ ่เี ลอื ก โดยมีขน้ั ตอน
ดังนี้
1. คลิกปุ่ม Pointer Tool ท่ีทลู บอ็ กซ์ จากนนั้ ตวั ชี้เมาสจ์ ะมีลักษณะเปลย่ี นเป็นรปู
2. คลกิ ออ็ บเจ็กต์ที่ต้องการ จากนั้นอ็อบเจก็ ต์นนั้ จะถูกเลือกทนั ที ดงั รูป
5.2.2 การเลือกหลายอ็อบเจ็กต์
การเลือกออ็ บเจก็ ตห์ ลายออ็ บเจ็กตท์ ่ีอย่บู ริเวณใกล้เคียงกัน ทาให้โดยการลากเมาสค์ ลุมอ็อบเจ็กตท์ ี่
ตอ้ งการ มีขั้นตอนดังน้ี
1. คลกิ ปุ่ม Pointer Tool ท่ีทูลบ็อกซ์ จากนน้ั ตัวช้ีเมาสจ์ ะมีลกั ษณะเปลย่ี นเปน็ รปู
2. กดปุ่ม Shift ค้างไว้ แลว้ คลิกเลือกออ็ บเจ็กตต์ า่ ง ๆ หรอื ลากเมาส์คมุ อ็อบเจ็กต์ท่ตี อ้ งการอ็อบเจบ็ ต์ที่
ถูกเลือกจะปรากฏจุดปรบั ขนาดขึน้ มา ดังรปู
5.2.3 การเลือกอ็อบเจก็ ตท์ ้ังหมด
การเลือกข้อความและอ็อบเจ็กตท์ ้งั หมดที่อยู่บนหนา้ กระดาษสิ่งพิมพส์ ามารถทาไดด้ ว้ ยการลากเมาส์คลมุ
ขอ้ ความและอ็อบเจก็ ต์ท้ังหมด หรอื ส่งั งานอย่างรวดเรว็ โดยมขี น้ั ตอนดังน้ี
คลกิ เมนู Edit > Select All หรอื กดปุ่ม Ctrl + A อ็อบเจก็ ตท์ ง้ั หมดจะถกู เลือกและมีจุดปรับขนาดขน้ั มา
5.2.4 การลบอ็อบเจ็กต์
ในกรณที ่ีไม่ต้องการอ็อบเจ็กต์ใด ๆ ให้คลกิ เลือกออ็ บเจ็กตท์ ี่ไมต่ ้องการตามวธิ ีการเลือกอ็อบเจ็กตท์ ี่ได้
กล่าวมาแลว้ ข้างตน้ จากน้นั ใหค้ ลกิ เมนู Edit > Clear หรอื กดปุ่ม Delete ทแ่ี ป้นพิมพ์ขนั้ ตอนการทางานจะ
เหมอื นกับโปรแกรมสาเรจ็ รปู Word หรือ Excel
5.3 การคัดลอกอ็อบเจก็ ต์
การทาสาเนาออ็ บเจก็ ตด์ ้วยโปรแกรม PageMaker จะเหมือนกับโปรแกรม Word หรอื Excel โดยไม่ตอ้ ง
มาเสียเวลาคดั ลอกอ็อบเจก็ ต์ทีละอนั สามารถทาได้ 3 วธิ ี คือ
วิธที ี่ 1 การคดั ลอกแบบปกติ
การทาสาเนาอ็อบเจ็กต์เปน็ การทาสาเนาแบบเอกสารท่สี ร้างไวเ้ หมือนตน้ แบบทุกอย่าง โดยปกตอิ ็อบ
เจ็กต์ที่ถูกคัดลอกไว้จะถูกเพ่มิ ขึ้นทลี ะ 1 อ็อบเจ็กต์ มขี น้ั ตอนดังน้ี
1. คลิกเลือกออ็ บเจ็กต์ทต่ี อ้ องการคดั ลอกในทนี่ ค้ี ลกิ เลอื ก รูปดาว
2. คลิกเมนู Edit > Copy หรอื กดปุ่ม Ctrl + C เพ่ือคัดลอก
3. คลิกเมนู Edit > Past e หรือกดปุ่ม Ctrl + V วางออ็ บเจ็กตท์ ่คี ดั ลอกไว้
4. จะปรากฏอ็อบเจก็ ต์ท่คี ัดลอกไวเ้ พมิ่ ขึน้ มาอีก 1 ชน้ิ
5.4 การวาดรูปหลายเหล่ยี ม
การสร้างรปู หลายเหลยี่ มสามารถสรา้ งได้จากเคร่ืองมือ Polygon Tool โปรแกรมจะกาหนดใหเ้ ปฯ็ รูป 6
เหล่ยี มขนึ้ มา ซ่ึงสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นรูปแบบต่าง ๆ ได้ มขี ้ันตอนดงั นี้
1. คลกิ ทีป่ ่มุ Polygon Tool ทท่ี ลู บอ็ กซ์ จากนั้นตวั ชี้เมาส์จะมลี กั ษณะเปลี่ยนเป็น +
2. คลกิ เมาส์ค้างไว้แล้วลากเมาสใ์ หเ้ ป็นรปู หกเหล่ยี มเมื่อได้ขนาดทีต่ ้องการแล้วใหป้ ล่อยเมาสด์ งั รปู

33
ในการวาดรปู หลายเหล่ยี มปกติโปรแกรมจะกาหนดใหเ้ ป็นรูป 6 เหลยี่ ม การสรา้ งอสิ ระ มีขนั้ ตอนดังน้ี

34

ในการจัดทาสิ่งพิมพ์ เช่น หนังสือ นติ ยสาร แผน่ พับ โปสเตอร์ จะมีองค์ประกอบมากมายไมว่ า่ จะเปน็
ขอ้ ความ รปู ทรงต่างๆ และที่ขาดไม่ได้คอื รูปภาพ เชน่ ภาพการ์ตนู ภาพวิว ซ่ึงในการนาภาพมาใช้น้นั สามารถทาได้
หลายทาได้หลายรปู แบบไดโ้ ดยในหน่วยนีจ้ ะกลา่ วถึงการแทรกภาพจาก Clip Art การเปดิ เทม็ เพลท รูปภาพ การ
นาภาพมาจากไฟล์ การปิดบังบางสว่ นภาพ วางภาพรว่ มกบั ขอ้ ความ ใส่กรอบใหภ้ าพ เป็นต้น
6.1 การแทรกรปู ภาพ

การนารปู ภาพจากแหลง่ อน่ื ๆ มาไว้ในงานแกสารของโปรแกรม PageMaker จะมลี ักษณะคลา้ ยกับ
โปรแกรม Office ตา่ งๆ
6.1.1 การแทรกรปู ภาพจากคลิปอารต์ (Clip Art)
การนารปู ภาพมาไวใ้ นงานเอกสารของโปรแกรม PageMaker ลกั ษณะเหมอื น Microsoft
Word หรือ Microsoft Excel เพ่ือสรา้ งสีสนั ให้กบั งานเอกสารน้นั ๆ มีขนั้ ตอนดังน้ี

1. คลิกเมนู Edit Insert Object จากนนั้ ปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ Insert Object ขึ้นมา
2. .คลกิ Microsoft Clip Gallery 3.5 เพอื่ นาภาพจากคลิปอาร์ตของ Microsoft มาใช้
3. คลกิ ปมุ่ OK จากนั้นจะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Microsoft Clip Gallery 3.5 ข้ึนมา
4. คลิกเลือกภาพทต่ี ้องการใช้ดับเบิล้ คลิกภาพนั้น เพ่อื ยืนยันการแทรกรปู ภาพ
5. จะปรากฏรปู ภาพทเ่ี ลือกมาบนหน้ากระดาน โดยสามารถเคลอ่ื นย้ายและปรบั แตง่
ตาม ตอ้ งการ
6.1.2 การแทรกรูปภาพจากพาเลต (Palette)
ในการแทรกรปู ภาพจากโปรแกรม PageMaker ในโปรแกรมจะมีไฟลภ์ าพสาเร็จรูปเชน่ กันซึ่งเปน็ พาเลตที่เกบ็
รวบรวมรูปภาพไว้ มีขั้นตอนดังน้ี
1. คลกิ เมนู Window Plug – in Palettes Show Picture Palettes
2. จะปรากฏ Palettes Picture ข้นึ มา ให้เลือกชนิดของรูปภาพ ซึ่งจะมีท้งั ภาพคลปิ อารต์ และ
ภาพถา่ ย
3. เลอื กหมายของรูปภาพได้จากสว่ นของ Category
4. คลกิ เลอื กภาพที่ต้องการใช้
5. ลากเมาสไ์ ว้หน้ากระดาน จากน้นั จะปรากฏภาพท่ีเลือก
การคน้ หารูปภาพ
เนื่องจากรูปภาพใน Picture Palette มีเป็นจานวนมาก บางครั้งเราจาเป็นต้องใช้ คาสง่ั ในการค้นหา
แทนที่จะไลด่ ูไปทลี ะรปู แตก่ ารคน้ หาด้วยคาสั่งน้ี มขี ้อจากัดอยูต่ รงที่จะค้นหาไดท้ ีละ หมวดหมู่เท่านัน้ และเป็น
การค้นหาโดยอาศัยคาสาหรับการคน้ หา (Keyword) เฉพาะรปู ภาพแต่ละหมวดหมเู่ ท่าน้ัน และเปน็ การค้นรปู ภาพ
ใน Picture Palette มีขนั้ ตอนดังนี้
1. ใน Picture Palette ใหร้ ะบุชนดิ (Type) และหมวดหมู่ (Category) ของรปู ภาพ ท่ตี ้องการ
ค้นหา

35

2. คลิกปุ่ม เลือกคาสงั่ Search หรือคลกิ ปุม่
3. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Search Picture ข้ึนมาใหร้ ะบรุ ายละเอียดเก่ยี วกับการ ค้นหา
รปู ภาพ ดังนี้
Criteria Name ระบุชอื่ ให้กบั ผลการคน้ หาเพราะในการค้นหาแตล่ ะครั้งจะได้รปู จานวนหนงึ่
ปุ่ม New ระบุช่ือใหก้ ับผลการคน้ หาครงั้ ใหม่
ปุ่ม Delete เพ่ือลบการค้นหาตามชื่อที่ปรากฏใน Criteria Name
Search for Keyword ระบเุ ง่อื นไขของการคน้ หา
Equals คน้ หารูปที่มีคาสง่ั สาหรบั การคน้ หาตรงกับคาทีอ่ ยู่ในช่องถัดไป
Does not equal ค้นหารูปภาพท่ีมคี าสาหรับการคน้ หา ไมต่ รงกับคาทรี่ ะบุในช่องถดั ไป
ปุ่ม More Choices เพอื่ ให้ไดอะลอ็ กบอ็ กซ์แสดงช่องสาหรบั การค้นหามากข้นึ
ปุ่ม Less Choices เพ่ือใหไ้ ดอะล็อกบ็อกซต์ ัดชอ่ งสาหรับการค้นหาให้น้อยลง
4. คลกิ ปุ่ม Search
5. ใน Picture Palette ปรากฏผลการค้นหา สังเกตในช่อง Category จะมีความว่า Search
Result ตามดว้ ยช่ือท่รี ะบุในช่อง Criteria Name
- การเปลย่ี นขนาดรปู ภาพใน Picture Palette
การเปลี่ยนขนาดรูปภาพใน Picture Palette คอื การเปล่ยื นขนาดรูปภาพใน Picture Palette ที่มองเห็นเท่านน้ั
จะไมส่ ง่ ส่งผลต่อขนาดจริงของรูปภาพเวลาท่ดี ึงออกมาใชง้ าน มีขนั้ ตอนดังน้ี
1. คลกิ ทปี่ มุ่ บน Picture Palette คลิกคาสัง่ Picture Palette
2. จะปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Picture Palette Option คลกิ เลือกขนาดรปู ภาพต้องการ
3. คลกิ ปมุ่ OK
4. ขนาดของรูปภาพมีขนาดเปลย่ี นไป
6.1.3 การนาภาพมาจากแฟม้ ขอ้ มลู
สาหรบั งานเฉพาะดา้ นการนาภาพจาก Cliace Art หรือ Palette มาใช้คงไมเ่ หมาะกบั การทางานดังกลา่ ว ดงั นน้ั
การนาภาพจากไฟล์อนื่ มาใช้ซ่ึงอาจเปน็ ภาพทส่ี ร้างข้นึ มาเอง หรือภาพเหมือนจริงมีข้ันตอนดงั น้ี
1. คลิกเมนู File หรอื Ctrl + D จะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ Place
2. คลกิ เลือกตาแหนง่ ท่ีใชใ้ นการเกบ็ รูปภาพ ในชอ่ ง Look in
3. ดบั เบล้ิ คลกิ ทไ่ี ฟรร์ ปู ภาพท่ีตอ้ งการ หรอื กดปุ่ม Open
4. จะปรากฏรูปภาพทเี่ ลือกข้ึนมาบนหน้ากระดาษโดยสามารถปรับเปลย่ี นภาพตามตอ้ งการ
6.2 การตกแต่งรูปภาพ
6.2.1 การปรับภาพให้ชดั เจน
หากภาพทนี่ ามาไมม่ ีความชัดเจนสามารถปรับให้มีความชดั เจนและมคี ุณภาพทดี ที ีด่ ีทสี่ ดุ ไดม้ ีข้นั ตอนดงั น้ี
1. คลิกเมนู File Preferences General หรอื Ctrl + K จะปรากฏ
ไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Preferences ข้ึนมา
2. คลกิ เลอื กในส่วนของ Graphics display ซ่ึงมีตวั เลือกสาหรบั ระบุความละเอยี ดของการแสดง
รูปภาพดั้งน้ี
Gray out แสดงรูปภาพเป็นกรอบสีเ่ ทาทบึ
Standard แสดงรปู ภาพที่ความละเอียดปานกลาง
High resolution แสดงรปู ภาพท่ีความละเอียดสูง

36

6.2.2 การปรบั แต่งรูปภาพขาว-ดา
ภาพขาว-ดา ท่จี ะปรบั แต่งได้ด้วยวธิ ีน้ี จะต้องมาจากไฟล์ภาพขาว-ดาเท่านน้ั หากไม่สามารถใช้คาสง่ั ของวธิ นี ก้ี บั
ภาพขาว-ดาภาพใด กแ็ สดงวา่ ภาพขาว-ดา น้ันมาจากไฟลภ์ าพสี โดยมีขั้นตอนดงั นี้

1. คลิกป่มุ Pointer Tool คลกิ เลือกรปู ภาพ
2. คลกิ เมนู Element Image Image Control
3. ปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ Image Control ให้ระบุค่าของลกั ษณะรูปภาพ ดังนี้
Lightness คือ คา่ ความเข้มของสขี าว-ดาในภาพ สามารถใสค่ ่าหรอื เล่ือนไดต้ ้ังแต่ -100 ถึง 100เปอร์เซ็นต์
Contrast คอื ค่าความแตกต่างระหวา่ งสขี าวกับสดี าในภาพ สามารถใสค่ ่าหรือเลื่อนได้ ตงั้ แต่ -
100 ถึง 100 เปอรเ์ ซ็นต์
4. คลิกปมุ่ Apply เพื่อดูวา่ ค่าท่รี ะบุมีผลต่อภาพอย่างไร
5. หากต้องการให้ค่าต่างๆ กลับสูค่ า่ เดิมตัง้ แตต่ น้ ใหค้ ลกิ ปุ่ม DefauIt
6. คลิกปุ่ม OK
7. ภาพขาว-ดา มลี ักษณะเปลี่ยนไป
6.2.3. การปรบั แต่งลักษณะพิเศษของรปู ภาพ
การปรับแตง่ ภาพวธิ นี ้ีจะกระทาไดก้ ับทงั้ รูปภาพทีเ่ ปน็ ขาว-ดา จากไฟลภ์ าพขาว-ดาและรูปภาพขาว-ดา จากไฟล์
ภาพสี โดยไฟล์ภาพสี ตอ้ งเป็นไฟล์ tiff เทา่ นนั้ จะแตกตา่ งจากวธิ ีการปรบั แตง่ รูปภาพขาว-ดา และไฟลภ์ าพนัน้ ตอ้ ง
มีไฟล์รปู ภาพนั้นๆ อยใู่ นเคร่ืองโดยสามารถปรับแตง่ ลกั ษณะของภาพได้ในหลายรูปแบบ เชน่ การปรบั ความสวา่ ง
ของภาพ การปรับเปน็ ภาพสโี ปสเตอร์ เปน็ ต้นการปรับแต่งภาพด้วยวิธนี ีไ้ ดม้ าจากโปรแกรม Photoshop เป็น
โปรแกรมปรับแตง่ ภาพทนี่ ิยมใช้มากที่สุดในปัจจบุ ันนี้ มขี ้ันตอนดงั้ นี้
1. คลิกปมุ่ Pointer Tool คลิกเลอื กรปู ภาพ
2. คลกิ เมนู Element Image Photoshop effects
3. ปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ Photoshop effects ใหร้ ะบุค่ารายละเอียดของเอฟเฟ็กต์ ดังน้ี
Save new file as ใหร้ ะบุชอื่ ไฟลส์ าหรับภาพใหม่ที่จะเกดิ ข้ึนเม่ือมีการใชล้ ักษณะพิเศษแต่จะ
ระบุชื่อไฟล์เดิน
ตามท่ีปรากฏตรง file เพื่อให้ไฟลใ์ หม่ทับไฟล์เดมิ หรอื กดปุ่ม Save as เพอ่ื ระบุโฟลเดอร์สาหรบั
เกบ็ ไฟลใ์ หม่
Photoshop effects เลอื กลกั ษณะพิเศษของ Photoshop มใี ห้เลือกทัง้ หมด 47 แบบ
4. คลิกปมุ่ OK
5. ปรากฏไดอะลอ็ กบอ็ กซ์ของ Photoshop effects ขนึ้ มา ระบุลักษณะพเิ ศษเดมิ โดยที่ลักษณะ
พเิ ศษแต่ละแบบจะมีรายละเอียดไม่เหมือนกนั
6. คลิกปุ่ม OK ในไดอะล็อกบ็อกซ์ ของ Photoshop effects
7. รูปภาพมีลักษณะเปล่ยี นไปตามลักษณะพเิ ศษท่รี ะบุ
6.2.4 การตัดบางส่วนของรปู ภาพ
ภาพทีน่ ามาใช้ประกอบในเอกสารสามารถตัดบางส่วนของรูปภาพทนี่ ามาใช้งาน เพอ่ื ใหเ้ หมาะสมต่อการ
ทางานมากยิ่งขนึ้ การใชง้ านจะเหมือนกับการตดภาพในโปรแกรม Microsoft Word มขี ้ันตอนดังนี้
1. คลิกป่มุ Cropping Tool ทท่ี ูลบอ็ กซ์ จากน้ันตวั ชีเ้ มาส์จะเปล่ยี นเปน็ รูป
2. คลิกเมาส์เลอื กวางบนจุดปรบั ขนาด

37

3. ลากเมาส์เพือ่ ปิดบงั ส่วนท่ไี ม่ตอ้ งการแสดง โดยขณะลากเมาส์ตัวช้เี มาสจ์ ะเปลีย่ นเป็นรูปศรสอง
ทิศ เม่ือไดภ้ าพ
ที่ต้องการแล้วปล่อยเมาส์จากนัน้ จะไดภ้ าพทีถ่ ูกปดิ บงั บางส่วนตามตอ้ งการ
6.2.5 การจดั ตาแหน่งรปู ภาพกบั ข้อความ
ภาพกับข้อความจัดเป็นองค์ประกอบต่างชนดิ กนั การท่ีจะนาภาพและข้อความมาวางรว่ มกันโดย
บรเิ วณพื้นทบี่ างสว่ นแสดงขอ้ ความและบางส่วนแสดงรปู ภาพ ซ่งึ เรยี กการทางานดงั กลา่ วว่า Text
Wrap โดยมขี ั้นตอนดังนี้
1. คลิกเลือกรูปภาพทต่ี ้องการวางรว่ มกับข้อความโยภาพที่ถกู เลอื กจะปรากฏจดุ ปบั ขนาดขน้ึ มา
2. คลกิ คาสัง่ Element Text Wrap หรือกดปุม่ Alt + Ctrl + E จะปรากฏไดอะล็อกบอ็ กซ์ Text
Wrap ขน้ึ มา
3. เลอื กรปู แบบการวางร่วมกับข้อความ ( ในท่นี เี้ ลือก ) มรี ายละเอยี ดดังน้ี
ในสว่ นของ Wrap option ใหเ้ ลือกรปู แบบการวางภาพรว่ มกับข้อความ ภาพและข้อความถกู
ซ้อนทับกัน (เปน็ การยกเลิกการทา Text Wrap) ข้อความจะถูกวางลอ้ มรอบภาพใหม้ ลี ักษณะเปน็ รูป
สเ่ี หลยี่ มจัตุรัส ข้อความถูกวางลอ้ มรอบภาพตามรูปแบบท่กี าหนด ใหข้ อ้ ความอยูด่ ้านบนของภาพสว่ น
ขอ้ ความที่เหลอื ใหข้ ้นึ หนา้ หรือคอลมั นใ์ หม่ ใหข้ ้อความอยู่ดา้ นบนและด้านลา่ งของภาพ ใหข้ ้อความถูกจดั
วางล้อมรอบภาพทงั้ 4 ดา้ น
4. ในส่วนของ Standoff in inches ให้ระบรุ ะยะห่างระหว่างขอ้ ความกับรปู ภาพทง้ั ดา้ นซ้าย ขวา
และด้านลา่ ง บน
5. คลกิ ปุ่ม OK
6.2.6 ใส่กรอบใหภ้ าพ
รูปภาพหรอื ข้อความสามารถกาหนดรอบล้อมไดอ้ ีกด้วย ซึง่ การทางานดังกล่าวสามารถกาหนดไดท้ ้ัง
รูปแบบ สี รวมท้งั ขนาดเส้นกรอบ มขี ัน้ ตอนดังน้ี
1. เลือกรปู ภาพหรือข้อความท่ีตอ้ งการใสเ่ ส้นกรอบ
2. คลิกคาสัง่ Utilities Plug - ins Keyline จะปรากฏไดอะลอ็ กบ็อกซ์ Keyline ขึ้นมา
3. ในช่อง Extends ใหก้ าหนดระยะหา่ งระหวา่ งเสน้ กรอบกับอ็อบเจก็ ต์
4. คลิกเลือก Bring Keyline to front of object เพอื่ ให้กรอบอยู่ทางดา้ นบน หรือเลือก
Send Keyline behind object เพือ่ เลือกกรอบที่อยูท่ างด้านลา่ งของอ็อบเจก็ ต์
5. คลกิ ปมุ่ Attributes จากนนั้ ปรากฏไดอะล็อกบ็อกซ์ Fill and Stroke ขน้ึ มา
6. ในส่วนของ Stroke ให้เลอื กรูปแบบและความหนาของเส้นกรอบ
7. เลือกสขี องเส้นกรอบจากช่อง Color
8. เลือกความเขม็ ของเสน้ กรอบจากช่อง Tint
9. เมอื่ กาหนดค่าเรียบร้อยแล้วใหค้ ลกิ ปมุ่ OK จากน้นั จะกลบั อยู่ไดอะล็อกบ็อกซ์ Keyline
10. ออ็ บเจ็กต์ท่ีเลือกจะปรากฏเส้นกรอบขึ้นมาตามรูปที่กาหนดไวท้ ันที
6.3 การสรา้ งเฟรม
เฟรม Frame คือ กรอบรปู วงกลม วงรี หรือรูปหลายเหลีย่ มทมี่ ไี ว้เพ่ือใส่ข้อความ หรอื รปู ภาพลงไป ในการ
สร้างเฟรมสามารถสรา้ งได้ 2 วิธี ดังน้ี
วธิ ที ี่ 1 การสร้างโดยใช้ Frame Tool
เฟรมจะมีลักษณะใกล้เคยี งกับเคร่ืองมอื ทีใ่ ชว้ าดรปู ทรงตา่ งๆ ซ่ึงมีปุ่มเครอ่ื งมือท่ีใชใ้ นการสร้างเฟรม ดังนี้

38

Rectangle Frame Tool ( สรา้ งเฟรมส่เี หลยี่ ม )
Ellipse Frame Tool ( สร้างเฟรมวงกลม )
Polygon Frame Tool ( สร้างเฟรมหลายเหลีย่ ม )
ขั้นตอนการสรา้ งเหมือนกันทั้ง 3 เฟรม ในทน่ี ี้ขอยกตวั อยา่ งการสร้างเฟรม Polygon Frame Tool ดงั น้ี

1. คลิกป่มุ Polygon Frame Tool ท่ที ลู บ็อกซ์
2. ลากเมาสส์ รา้ งเฟรมให้เป็นรปู แบบท่ีต้องการข้นึ มา โดยสงั เกตว่ารปู ทรงที่เปน็ เฟรมจะมี
เส้นกากบาทอยทู่ างดา้ นใน
6.3.1 กาหนดค่าคุณสมบตั ิให้กบั เฟรม
หลงั จากท่ีได้ทาการสร้างเฟรมเรยี บรอ้ ยสง่ิ ทีส่ าคญั อีกประการหนงึ่ ทข่ี าดไม่ไดเ้ ลนคือการกาหนดคุณสมบัตใิ หก้ ับ
เฟรม เช่น ตาแหน่งในการจดั วาง หรอื ระยะห่างระหว่างขอบเขตของเฟรมในแต่ละด้าน โดยมขี ้นั ตอนดังนี้
1. เลอื กเฟรมทตี่ ้องการ ( ในกรณีน้ีเลอื กเฟรมหลายเหล่ียม )
2. คลกิ เมนู Ellipse Frame Frame Option หรอื กดปมุ่ <Ctrl + Alt + F >
3. ในสว่ นของ Content position ให้กาหนดรายละเอียดเกย่ี วกับการวางการวางงภาพ/ข้อความ
ร่วมกับเฟรม โดยมีรายละเอียดดังน้ี

 Vertical alignment แนวการวางภาพ / ข้อความในแนวต้ัง

 Horizontal alignment แนวการวางภาพ / ข้อความในแนวนอน

 Clip content to fit frame เฟรมมีขนาดคงที่โดยจะไมเ่ ห็นภาพข้อความทเ่ี กนิ
ออกมา

 Size frame to fit content ปรบั ขนาดของเฟรมให้พอดีกับภาพ / ขอ้ ความ

 Scale content to fit frameปรับขนาดของภาพ / ข้อความใหพ้ อดกี ับเฟรม

 Maintain aspect ratio ปรบั ขนาดภาพโดยคงตามเส้นสัดสว่ นเดมิ
4. ในส่วนของ Insert ใหร้ ะบรุ ะยะหา่ งระหว่างภาพ / ขอ้ ความกบั ขอบของเฟรมทัง้ ดา้ นซ้าย
ด้านขวา ดา้ นบน และด้านล่าง
5. คลกิ ปมุ่ OK
6.3.2 การนาภาพใส่ในเฟรม
การนาภาพมาใสใ่ นเฟรมสามารถทาได้อย่างรวดเร็วดว้ ยการคลิกคาสั่ง File Place หรอื กดปมุ่ <Ctrl + D> แต่
การใส่ภาพในวิธนี ้ีไม่สามารถปรบั ขนาดของภาพได้ ดังนัน้ สามารถนาภาพมาใสใ่ นเฟรมไดอ้ ีกวหี นึง่ โดยมขี ั้นตอน
ดังนี้
1. เลอื กเฟรม และรูปภาพ ที่ตอ้ งการใสเ่ ข้าไปในเฟรม
2. คลิกเมนู Element Attach Content หรือกดปุ่ม Ctrl + F
3. ภาพและเฟรมจะถูกรวมเข้าด้วยกนั ตามท่ีได้กาหนดค่าของเฟรมได้
4. หากเห็นว่าภาพไม่แสดงในตาแหนง่ ทตี่ ้องการให้คลิกปุ่ม Cropping Tool ท่ที ูลบาร์
รูปภาพจะเคลื่อนไปยังตาแหน่งทตี่ อ้ งการ
6.3.3 การนาข้อความใส่ในเฟรม
การนาข้อความมาใสใ่ นเฟรมจะมีรปู แบบการทางานท่แี ตกต่างไปจากการนารปู ภาพมาใส่ในเฟรม หาก
ข้อความมคี วามยาวมากกว่าขนาดของเฟรม จะต้องสรา้ งและเชือ่ มโยงข้อความไปยังเฟรมถดั ไป ดังข้ันตอนตอ่ ไปนี้
1. เลอื กเฟรม และข้อความ ที่ตอ้ งการใสเ่ ข้าไปในเฟรม

39

2. คลิกเมนู Element Attach Content หรือกดปุ่ม Ctrl + F
3. ข้อความเฟรมจะถูกรวมเข้าด้วยกันตามท่ีได้กาหนดคา่ ของเฟรมไว้ ในกรณีที่เฟรมมี
ขอ้ ความยาวกว่าเฟรม ให้คลิก ทางดา้ นลา่ งของข้อความ
4. ตวั ช้เี มาส์จะเปลย่ี นเป็น ให้คลกิ ทีเ่ ฟรมถัดไป
5. จะปรากฏขอ้ ความท่ีเหลือขน้ึ มาทนั ที และหาไม่มีขอ้ ความแล้ว ทางด้านล่างจะปรากฏ
เปน็ รูปขน้ึ มาแทนที่
6.3.4 ยกเลกิ การนาภาพ / ข้อความออกจากเฟรม
ภายหลังจากนาภาพหรือข้อความเขา้ มาใส่ในเฟรมเรยี บรอ้ ยแล้ว หากต้องการแยกภาพและข้อความออก
จากกัน ก็สามารถทาไดด้ ังน้ี
1. คลิกเฟรมทีร่ วมภาพหรอื ข้อความเข้าดว้ ยกัน
2. คลิกเมนู Element Frame Separate Content หรือกดปมุ่ Ctrl + F
3. ข้อความและเฟรมที่ถูกเลือกไว้จะถูกแยกออกจากเฟรมทันที

40


Click to View FlipBook Version