วิทยากร
วิทยากร
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560
หมวด ๑
บทท่ัวไป
-------------------------
มาตรา ๑ ประเทศไทยเป็นราชอาณาจักรอนั หน่ึงอนั เดียว จะแบ่งแยกมิได้
มาตรา ๒ ประเทศไทยมีการปกครองระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข
มาตรา ๓ อานาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุข ทรงใช้อานาจนั้นทาง
รฐั สภา คณะรฐั มนตรี และศาล ตามบทบัญญัตแิ ห่งรฐั ธรรมนูญ
รัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ
กฎหมาย และหลกั นิตธิ รรม เพอื่ ประโยชนส์ ว่ นรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม
มาตรา ๔ ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง
ปวงชนชาวไทยย่อมได้รับความคมุ้ ครองตามรัฐธรรมนูญเสมอกัน
รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย 2560
หมวด ๒
พระมหากษตั ริย์
-------------------------
มาตรา ๖ องค์พระมหากษตั รยิ ท์ รงดารงอย่ใู นฐานะอนั เปน็ ทเี่ คารพสกั การะ ผูใ้ ดจะละเมิดมไิ ด้ผู้ใด
จะกลา่ วหาหรือฟ้องร้องพระมหากษตั ริย์ในทางใด ๆ มิได้
มาตรา ๗ พระมหากษัตรยิ ท์ รงเป็นพทุ ธมามกะ และทรงเป็นอคั รศาสนูปถมั ภก
มาตรา ๘ พระมหากษตั รยิ ์ทรงดารงตาแหน่งจอมทพั ไทย
มาตรา ๙ พระมหากษัตรยิ ์ทรงไวซ้ ่ึงพระราชอานาจทจี่ ะสถาปนาและถอดถอนฐานันดรศกั ดิแ์ ละ
พระราชทานและเรียกคืนเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์
รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 2560
หมวด ๔
หน้าท่ขี องปวงชนชาวไทย
-------------------------
มาตรา ๕๐ บุคคลมีหนา้ ที่ ดังต่อไปนี้
(๑) พทิ ักษร์ กั ษาไวซ้ ่ึงชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มี
พระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข
(๒) ปอ้ งกันประเทศ พทิ ักษ์รกั ษาเกยี รติภมู ิ ผลประโยชนข์ องชาติ และสาธารณสมบัตขิ องแผน่ ดนิ
รวมทงั้ ใหค้ วามร่วมมอื ในการป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัย
(๓) ปฏิบัตติ ามกฎหมายอยา่ งเคร่งครดั
(๔) เข้ารบั การศึกษาอบรมในการศึกษาภาคบงั คบั
(๕) รับราชการทหารตามท่กี ฎหมายบัญญตั ิ
รัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย 2560
หมวด ๔
หนา้ ที่ของปวงชนชาวไทย
-------------------------
มาตรา ๕๐ (ต่อ)
(๖) เคารพและไมล่ ะเมิดสทิ ธแิ ละเสรภี าพของบคุ คลอน่ื และไม่กระทาการใดท่ีอาจก่อให้เกดิ ความ
แตกแยกหรือเกลยี ดชังในสงั คม
(๗) ไปใช้สทิ ธเิ ลือกตง้ั หรือลงประชามตอิ ยา่ งอิสระโดยคานึงถงึ ประโยชนส์ ว่ นรวมของประเทศเป็นสาคญั
(๘) ร่วมมือและสนับสนนุ การอนรุ ักษแ์ ละคุ้มครองสงิ่ แวดลอ้ ม ทรพั ยากรธรรมชาติ ความหลากหลาย
ทางชวี ภาพ รวมทง้ั มรดกทางวัฒนธรรม
(๙) เสียภาษีอากรตามที่กฎหมายบัญญตั ิ
(๑๐) ไมร่ ่วมมอื หรือสนับสนนุ การทจุ รติ และประพฤติมิชอบทกุ รูปแบบ
พระราชบัญญตั ิ
ระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547
หมวด ๖
วินยั และการรกั ษาวนิ ยั
มาตรา 82 ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาต้องรกั ษาวนิ ยั ที่บญั ญัตเิ ป็นขอ้ หา้ ม
และข้อปฏบิ ตั ิไวใ้ นหมวดนี้โดยเครง่ ครดั อยูเ่ สมอ
พระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๘๓ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องสนับสนุนการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความ
บรสิ ทุ ธ์ิใจและมหี นา้ ทวี่ างรากฐานให้เกดิ ระบอบการปกครองเชน่ วา่ น้ัน
มาตรา ๘๔ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการด้วยความ
ซื่อสัตย์สุจริต เสมอภาคและเท่ียงธรรม มีความวิริยะ อุตสาหะ ขยันหมั่นเพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษา
ประโยชน์ของทางราชการ และต้องปฏบิ ตั ติ นตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชพี อย่างเครง่ ครดั
หา้ มมิให้อาศัยหรือยอมใหผ้ ู้อ่ืนอาศัยอานาจและหน้าที่ราชการของตน ไม่ว่าจะโดยทางตรงหรือ
ทางออ้ มหาประโยชน์ให้แกต่ นเองหรือผอู้ ่นื การปฏิบัติหรอื ละเว้น
การปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อ่ืนได้รับประโยชน์ที่มิควรได้เป็นการ
ทุจรติ ต่อหน้าทรี่ าชการ เปน็ ความผดิ วนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง
พระราชบญั ญัติ
ระเบยี บข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๘๕ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติหน้าที่ราชการใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบแบบ
แผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาลโดยถือประโยชน์สูงสุดของผู้เรียน และ
ไมใ่ หเ้ กดิ ความเสียหายแก่ทางราชการ
การปฏิบัติหน้าท่ีราชการโดยจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและหน่วยงานการศึกษา
มติคณะรัฐมนตรีหรือนโยบายของรัฐบาล ประมาทเลินเล่อหรือขาดการเอาใจใส่ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการ อัน
เป็นเหตุให้เกิดความเสยี หายแกร่ าชการอยา่ งรา้ ยแรงเป็นความผิดวินยั อยา่ งร้ายแรง
มาตรา ๘๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามคาสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งส่ังในหน้าที่ราชการ
โดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเลี่ยงแต่ถ้าเห็นว่าการปฏิบัติตามคาส่ังน้ันจะทาให้
เสียหายแก่ราชการ หรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการจะเสนอความเห็นเป็นหนังสือภายในเจ็ดวัน เพื่อให้
ผบู้ ังคบั บัญชาทบทวนคาสงั่ น้ันก็ไดแ้ ละเม่อื เสนอความเหน็ แล้ว ถ้าผู้บังคับบัญชายืนยันเป็นหนังสือใหป้ ฏิบัติตามคาสั่งเดิม ผู้อยู่ใต้
บังคบั บัญชาจะตอ้ งปฏิบัตติ าม
การขัดคาสั่งหรือหลีกเล่ียงไม่ปฏิบัติตามคาส่ังของผู้บังคับบัญชา ซ่ึงส่ังในหน้าที่ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและ
ระเบียบของทางราชการ อนั เปน็ เหตใุ หเ้ สียหายแกร่ าชการอย่างร้ายแรง เป็นความผดิ วนิ ัยอย่างร้ายแรง
พระราชบญั ญัติ
ระเบียบขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๘๗ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนใหแ้ ก่ทางราชการและ
ผเู้ รยี น จะละท้ิงหรือทอดทงิ้ หน้าท่รี าชการโดยไม่มีเหตผุ ลอันสมควรมิได้
การละทงิ้ หนา้ ท่ีหรอื ทอดทิง้ หน้าท่ีราชการโดยไมม่ เี หตุผลอนั สมควร เปน็ เหตใุ ห้เสียหายแกร่ าชการอย่างร้ายแรง
หรือการละทิ้งหนา้ ท่รี าชการตดิ ต่อในคราวเดยี วกนั เปน็ เวลาเกนิ กว่าสบิ ห้าวัน โดยไม่มเี หตผุ ลอันสมควรหรือโดยมีพฤติการณ์
อันแสดงถึงความจงใจไมป่ ฏบิ ตั ติ ามระเบยี บของทาราชการเปน็ ความผิดวินัยอยา่ งรา้ ยแรง
มาตรา ๘๘ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องประพฤติเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชุมชน สังคม
มคี วามสุภาพเรยี บร้อย รกั ษาความสามัคคีชว่ ยเหลือเกื้อกลู ตอ่ ผเู้ รียนและระหว่างขา้ ราชการด้วยกันหรือผู้รว่ มปฏิบัติราชการ
ต้อนรบั ใหค้ วามสะดวก ให้ความเป็นธรรมแก่ผู้เรียนและประชาชนผูม้ าตดิ ตอ่ ราชการ
การกล่ันแกล้ง ดูหมิ่น เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้เรียน หรือประชาชนผู้มาติดต่อราชการอย่างร้ายแรง
เป็นความผิดวนิ ยั อย่างรา้ ยแรง
พระราชบญั ญตั ิ
ระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๘๙ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กลั่นแกล้ง กล่าวหาหรือร้องเรียนผู้อ่ืนโดยปราศจาก
ความเปน็ จริง
การกระทาตามวรรคหนง่ึ ถา้ เป็นเหตุใหผ้ ูอ้ ืน่ ไดร้ บั ความเสยี หายอย่างรา้ ยแรงเปน็ ความผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง
มาตรา ๙๐ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่กระทาการหรือยอมให้ผู้อ่ืนกระทาการหาประโยชน์
อันอาจทาใหเ้ สอ่ื มเสียความเทยี่ งธรรมหรือเสื่อมเสยี เกยี รตศิ ักด์ิในตาแหน่งหน้าที่ราชการของตน
การกระทาตามวรรคหน่ึง ถ้าเป็นการกระทาโดยมีความมุ่งหมายจะให้เป็นการซื้อขาย หรือให้ได้รับแต่งตั้งให้ดารง
ตาแหน่งหรือวิทยฐานะใดโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการกระทาอันมีลักษณะเป็นการให้หรือได้มาซ่ึงทรัพย์สินหรือสิทธิ
ประโยชน์อนื่ เพื่อให้ตนเองหรือผู้อ่ืนได้รับการบรรจุและแต่งต้ังโดยมิชอบหรือเส่ือมเสียความเที่ยงธรรม เป็นความผิดวินัยอย่าง
ร้ายแรง
พระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๙๑ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวิชาการของผู้อื่น
โดยมิชอบ หรือนาเอาผลงานทางวิชาการของผู้อ่ืน หรือจ้าง วานใช้ผู้อื่นทาผลงานทางวิชาการเพ่ือไปใช้ในการเสนอขอ
ปรับปรุงการกาหนดตาแหน่ง การเลื่อนตาแหน่ง การเลื่อนวิทยฐานะหรือการให้ได้รับเงินเดือนในระดับที่สูงขึ้น การฝ่าฝืน
หลกั การดังกล่าวน้เี ป็นความผิดวนิ ยั อย่างร้ายแรง
ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาท่ีรว่ มดาเนินการคดั ลอกหรือลอกเลียนผลงานของผอู้ ่นื โดยมิชอบ หรือรับ
จดั ทาผลงานทางวิชาการไม่ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ เพ่อื ให้ผู้อนื่ าผลงานน้ันไปใช้ประโยชน์ในการดาเนินการตามวรรคหน่ึง
เป็นความผิดวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง
มาตรา ๙๒ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เป็นกรรมการผู้จัดการ หรือผู้จัดการ หรือดารง
ตาแหนง่ อ่นื ใดท่ีมลี กั ษณะงานคล้ายคลึงกันน้นั ในห้างหนุ้ ส่วนหรือบรษิ ัท
มาตรา ๙๓ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาตอ้ งวางตนเปน็ กลางทางการเมอื งในการปฏบิ ตั หิ น้าท่ี และ
ในการปฏิบัตกิ ารอนื่ ทเี่ กย่ี วขอ้ งกับประชาชน โดยตอ้ งไม่อาศยั อานาจและหน้าที่ราชการของตนแสดงการฝักใฝ่ สง่ เสริม
เกือ้ กลู สนบั สนนุ บคุ คล กลมุ่ บคุ คล หรือพรรคการเมืองใด
พระราชบญั ญตั ิ
ระเบียบขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547
ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาต้องไม่เข้าไปเก่ียวข้องกบั การดาเนินการใด ๆ อนั มีลกั ษณะเป็นการทจุ ริต
โดยการซอื ้ สิทธิหรือขายเสยี งในการเลือกตงั้ สมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถิ่นผ้บู ริหารท้องถิ่น หรือการเลือกตงั้ อืน่ ท่ีมีลกั ษณะ
เป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยรวมทงั้ จะต้องไมใ่ ห้การสง่ เสริม สนบั สนนุ หรือชกั จงู ให้ผู้อ่ืนกระทาการใน
ลกั ษณะเดยี วกนั การดาเนินการท่ีฝ่าฝืนหลกั การดงั กล่าวนีเ้ป็นความผิดวินยั อย่างร้ายแรง
มาตรา ๙๔ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาช่ือเสียงของตนและรักษาเกียรติศักด์ิของตาแหน่งหน้าที่
ราชการของตนมิใหเ้ สอื่ มเสีย โดยไมก่ ระทาการใด ๆ อนั ไดช้ อื่ วา่ เป็นผปู้ ระพฤติชั่ว
การกระทาความผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุก หรือโทษท่ีหนักกว่าจาคุก โดยคาพิพากษาถึงท่ีสุดให้จาคุกหรือให้รับโทษที่
หนกั กวา่ จาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดที่ได้กระทาโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ หรือกระทาการอื่นใดอนั ใดช่ือว่าเป็นผู้
ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เป็นความผิดวนิ ยั อย่างร้ายแรง
ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีเสพยาเสพติดหรือสนับสนุนให้ผู้อื่นเสพยาเสพติด เล่นการพนันเป็นอาจิณ
หรือกระทาการล่วงละเมิดทางเพศต่อผู้เรียนหรือนักศึกษาไม่ว่าจะอยู่ในความดูแลรับผิดชอบของตนหรือไม่ เป็นความผิดวินัยอย่าง
รา้ ยแรง
พระราชบัญญัติ
ระเบียบข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๙๕ ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าท่ีเสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีวินัย ป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับ
บญั ชากระทาผดิ วินยั และดาเนนิ การทางวินัยแกผ่ ู้อยใู่ ต้บังคับบญั ชาซึง่ มกี รณีอันมีมลู ที่ควรกล่าวหาว่ากระทาผดิ วินัย
การเสรมิ สรา้ งและพฒั นาให้ผ้อู ยู่ใตบ้ ังคับบัญชามีวินัย ให้กระทาโดยการปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดีการฝึกอบรม การ
สรา้ งขวัญและกาลังใจ การจงู ใจ หรือการอื่นใดในอนั ท่ีจะเสริมสร้างและพฒั นาเจตคติ จติ สานึก และพฤติกรรมของผู้อยู่ใต้บังคับ
บญั ชาใหเ้ ป็นไปในทางท่มี วี ินัย
การป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทาผิดวินัยให้กระทาโดยการเอาใจใส่สังเกตการณ์และขจดั เหตุที่อาจก่อให้เกิด
การกระทาผดิ วินัย ในเรอ่ื งอันอยใู่ นวสิ ยั ท่จี ะดาเนนิ การป้องกันตามควรแก่กรณีได้
เมอ่ื ปรากฏกรณีมมี ลู ท่ีควรกล่าวหาว่าข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาผู้ใดกระทาผิดวินัยโดยมีพยานหลักฐาน
ในเบอ้ื งต้นอยแู่ ลว้ ใหผ้ ูบ้ ังคบั บัญชาดาเนนิ การทางวนิ ัยทนั ที
เมอ่ื มีการกลา่ วหาโดยปรากฏตวั ผู้กลา่ วหาหรือกรณีเป็นท่ีสงสัยว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดกระทา
ผิดวินัยโดยยังไม่มีพยานหลักฐาน ให้ผู้บังคับบัญชารีบดาเนินการสืบสวนหรือพิจารณาในเบ้ืองต้นว่ากรณีมีมูลท่ีควรกล่าวหาว่าผู้
นั้นกระทาผิดวินัยหรือไม่ ถ้าเห็นว่ากรณีไม่มีมูลท่ีควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินยั จึงจะยุติเรื่องได้ถ้าเห็นว่ากรณีมีมูลที่ควร
กลา่ วหาวา่ กระทาผิดวินยั ก็ให้ดาเนินการทางวนิ ยั ทนั ที
พระราชบญั ญัติ
ระเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547
การดาเนินการทางวินัยแก่ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาซึ่งมีกรณีอนั มีมูลท่ีควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัยให้ดาเนินการตามท่ีบัญญัติ
ไว้ในหมวด ๗
ผู้บังคับบัญชาผู้ใดละเลยไม่ปฏิบัติหน้าท่ีตามมาตราน้ีและตามหมวด ๗ หรอื มีพฤติกรรมปกป้อง ช่วยเหลือเพื่อมิให้ผู้อยู่ใต้
บงั คบั บญั ชาถูกลงโทษทางวินัย หรือปฏบิ ัตหิ น้าท่ดี งั กล่าวโดยไม่สจุ ริตให้ถอื วา่ ผูน้ ั้นกระทาผิดวินยั
มาตรา ๙๖ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนข้อห้ามหรือไม่ปฏิบัติตามข้อปฏิบัติทางวินัยตามท่ีบัญญัติ
ไว้ในหมวดนผี้ นู้ ัน้ เปน็ ผูก้ ระทาผดิ วินยั จกั ต้องได้รับโทษทางวนิ ยั เว้นแต่มีเหตุอันควรงดโทษตามทบ่ี ัญญตั ไิ ว้ในหมวด ๗
โทษทางวินยั มี ๕ สถาน คือ
(๑) ภาคทณั ฑ์
(๒) ตดั เงินเดือน
(๓) ลดขัน้ เงินเดอื น
(๔) ปลดออก
(๕) ไล่ออก
ผูใ้ ดถกู ลงโทษปลดออก ใหผ้ ูน้ ัน้ มีสิทธิได้รบั บาเหนจ็ บานาญเสมือนวา่ เป็นผู้ลาออกจากราชการ
พระราชบัญญัติ
ระเบยี บขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ. 2547
มาตรา ๙๗ การลงโทษข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ทาเป็นคาสั่งวิธีการออกคาส่ังเก่ียวกับการ
ลงโทษให้เป็นไปตามระเบียบของ ก.ค.ศ. ผู้ส่ังลงโทษต้องส่ังลงโทษให้เหมาะสมกับความผิดและมิให้เป็นไปโดยพยาบาท
โดยอคติหรือโดยโทสะจริต หรือลงโทษผู้ท่ีไม่มีความผิด ในคาสั่งลงโทษให้แสดงว่าผู้ถูกลงโทษกระทาผิดวินัยในกรณีใด
ตามมาตราใด และมเี หตผุ ลอยา่ งใดในการกาหนดสถานโทษเชน่ น้ัน
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เรื่อง ประมวลจรยิ ธรรมของพนักงานสว่ นทอ้ งถิ่น ลูกจา้ งประจา และพนกั งานจ้าง
ด้วย ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 76 วรรคสาม
บัญญัติให้หน่วยงานของรัฐต้องมีการจัดทาประมวลจริยธรรมของผู้ดารงตาแหน่งทางการเมืองพนักงานส่วน
ท้องถิ่น ลูกจ้างประจา และพนักงานจ้าง โดยกาหนดให้ผู้ตรวจการแผ่นดินมีอานาจหน้าที่เสนอแนะหรือ
ใหค้ าแนะนาในการจัดการหรือปรับปรุงประมวลจริยธรรมดังกล่าว เพ่ือเป็นการปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจกั รไทย พทุ ธศกั ราช 2560 องคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถิ่นทุกแห่งต้องจัดทาประมวลจริยธรรมขึ้น
เป็นของตนเอง
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เร่อื ง ประมวลจรยิ ธรรมของพนักงานส่วนทอ้ งถน่ิ ลูกจา้ งประจา และพนกั งานจ้าง
ประมวลจรยิ ธรรมของพนักงานส่วนทอ้ งถนิ่ ลกู จา้ งประจา และพนกั งานจ้าง นีจ้ ดั ทาตามเจตนารมณข์ องรัฐธรรมนญู
แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕6๐ มาตรา 76 วรรคสาม โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พื่อ
หมวด ๑
บททั่วไป
ขอ้ ๑ ในประมวลจริยธรรมนี้
“ประมวลจริยธรรม” หมายถึง ประมวลจริยธรรมของพนักงานส่วนท้องถิ่น ลูกจา้ งประจา และพนักงานจ้าง เทศบาล
ตาบลปลายบาง
“ขา้ ราชการ” หมายถงึ ขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถนิ่ ขา้ ราชการสว่ นทอ้ งถ่นิ สามญั ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา
ตามที่บัญญัตไิ ว้ในพระราชบญั ญัติระเบียบข้าราชการสว่ นท้องถ่ิน รวมถงึ พนกั งานจา้ ง และลกู จ้างขององค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น
“คณะกรรมการจรยิ ธรรม” หมายถึง คณะกรรมการจรยิ ธรรมประจาเทศบาลตาบลปลายบาง
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เรอื่ ง ประมวลจริยธรรมของพนักงานสว่ นทอ้ งถน่ิ ลกู จา้ งประจา และพนักงานจา้ ง
หมวด ๒
มาตรฐานจรยิ ธรรม
สว่ นที่ ๑
มาตรฐานจรยิ ธรรมอนั เปน็ ค่านยิ มหลกั สาหรับข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง
ข้อ ๓ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบางทุกคน มีหน้าท่ีดาเนินการ ให้เป็นไปตามกฎหมาย เพ่ือรักษาประโยชน์
ส่วนรวม เป็นกลางทางการเมือง อานวยความสะดวกและให้บริการแก่ประชาชนตามหลักธรรมาภิบาล โดยจะต้องยึดม่ันในค่านิยม
หลัก 12 ประการ ดังน้ี
1. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2. ซ่ือสัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณใ์ นส่งิ ทดี่ ีงามเพอื่ ส่วนรวม
3. กตัญญูต่อพอ่ แม่ ผูป้ กครอง ครูบาอาจารย์
4. ใฝห่ าความรู้ หมั่นศึกษาเล่าเรียนท้งั ทางตรง และทางอ้อม
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เรือ่ ง ประมวลจริยธรรมของพนักงานส่วนทอ้ งถ่ิน ลูกจ้างประจา และพนกั งานจา้ ง
5. รกั ษาวฒั นธรรมประเพณไี ทยอนั งดงาม
6. มศี ีลธรรม รักษาความสตั ย์ หวงั ดตี ่อผอู้ น่ื เผ่ือแผแ่ ละแบ่งปนั
7. เข้าใจเรยี นรกู้ ารเป็นประชาธิปไตย อันมพี ระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมขุ ทถ่ี ูกตอ้ ง
8. มรี ะเบียบวินัย เคารพกฎหมาย ผูน้ อ้ ยรจู้ ักการเคารพผ้ใู หญ่
9. มีสติรูต้ วั รคู้ ดิ ร้ทู า รูป้ ฏบิ ัตติ ามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั
10. รจู้ ักดารงตนอยูโ่ ดยใชห้ ลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งตามพระราชดารสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัว
รูจ้ กั อดออมไว้ใช้เมื่อยามจาเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลอื กแ็ จกจา่ ยจาหน่าย และพร้อมท่ีจะขยายกจิ การ
เมื่อมคี วามพร้อม เมอ่ื มภี มู คิ ุ้มกนั ทดี่ ี
11. มคี วามเขม้ แข็งทั้งรา่ งกาย และจิตใจ ไมย่ อมแพต้ อ่ อานาจฝา่ ยตา่ ง ๆ หรอื กิเลส มีความละอายเกรงกลวั ตอ่ บาป
ตามหลักของศาสนา
12. คานงึ ถึงผลประโยชนข์ องสว่ นรวม และของชาติมากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เรอ่ื ง ประมวลจรยิ ธรรมของพนักงานส่วนทอ้ งถิน่ ลูกจา้ งประจา และพนกั งานจ้าง
ส่วนที่ ๒
จรรยาวชิ าชพี ขององคก์ ร
ขอ้ ๔ ขา้ ราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ต้องจงรักภกั ดีต่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตรยิ ์
ข้อ ๕ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ตอ้ งเปน็ แบบอยา่ งทดี่ ีในการรักษาไว้และปฏบิ ัตติ าม
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยทกุ ประการ
ข้อ ๖ ขา้ ราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ต้องเปน็ แบบอยา่ งท่ีดีในการเปน็ พลเมืองดี เคารพ
และปฏบิ ัติตามกฎหมายอย่างเครง่ ครัด
ข้อ ๗ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ตอ้ งไมป่ ระพฤติตนอันอาจกอ่ ใหเ้ กิดความเสือ่ มเสีย
ตอ่ เกยี รตภิ มู ิของตาแหนง่ หนา้ ท่ี
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เร่อื ง ประมวลจรยิ ธรรมของพนกั งานสว่ นทอ้ งถ่ิน ลกู จา้ งประจา และพนกั งานจา้ ง
สว่ นท่ี ๒
จรรยาวชิ าชพี ขององคก์ ร (ตอ่ )
ขอ้ ๘ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ตอ้ งปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีอยา่ งเต็มกาลงั ความสามารถด้วยความเสยี สละ
ทุ่มเทสตปิ ญั ญา ความรูค้ วามสามารถ ให้บรรลุผลสาเรจ็ และมีประสิทธภิ าพตามภาระหน้าที่ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย เพ่อื ให้เกิด
ประโยชนส์ งู สุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
ขอ้ ๙ ขา้ ราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ตอ้ งมงุ่ แกป้ ญั หาความเดือดร้อนของประชาชนดว้ ยความเปน็ ธรรม
รวดเรว็ และมงุ่ เสรมิ สร้างความเข้าใจอันดรี ะหวา่ งหน่วยงานและประชาชน
ข้อ ๑๐ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ตอ้ งปฏิบตั ิหนา้ ท่ดี ้วยความสภุ าพ เรยี บรอ้ ย มอี ัธยาศัย
ข้อ ๑๑ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ตอ้ งรักษาความลบั ที่ไดจ้ ากการปฏบิ ัตหิ น้าท่ี การเปิดเผยข้อมลู
ท่เี ป็นความลับโดยขา้ ราชการ/พนกั งานจะกระทาไดต้ อ่ เมอื่ มอี านาจหน้าท่แี ละได้รับอนุญาตจากผบู้ ังคับบญั ชา หรือเปน็ ไปตาม
กฎหมายกาหนดเทา่ นนั้
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เรอื่ ง ประมวลจริยธรรมของพนักงานส่วนทอ้ งถ่นิ ลกู จ้างประจา และพนกั งานจา้ ง
ส่วนที่ ๒
จรรยาวิชาชีพขององค์กร (ตอ่ )
ขอ้ ๑๒ ขา้ ราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ต้องรักษา และเสริมสรา้ งความสามคั คีระหว่างผ้รู ่วมงาน พร้อมกับให้
ความช่วยเหลอื เกื้อกูลซงึ่ กันและกันทางทช่ี อบ
ขอ้ ๑๓ ขา้ ราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ต้องไม่ใช้สถานะหรอื ตาแหนง่ ไปแสวงหาประโยชน์ทม่ี ิควรไดส้ าหรับ
ตนเองหรือผูอ้ นื่ ไม่ว่าจะเปน็ ประโยชน์ในทางทรพั ย์สินหรอื ไมก่ ็ตาม ตลอดจนไมร่ ับของขวญั ของกานลั หรือประโยชนอ์ น่ื ใดจากผู้
รอ้ งเรยี น หรือบุคคลทีเ่ กีย่ วขอ้ งเพือ่ ประโยชนต์ า่ ง ๆ อนั อาจเกดิ จากการปฏิบัตหิ นา้ ท่ขี องตน เวน้ แตเ่ ป็นการให้โดยธรรมจรรยาหรือ
การให้ตามประเพณี
ขอ้ ๑๔ ข้าราชการของเทศบาลตาบลปลายบาง ต้องประพฤตติ นใหส้ ามารถทางานรว่ มกบั ผู้อ่นื ดว้ ยความสภุ าพ มีนา้ ใจ
มีมนษุ ยสัมพันธ์อันดี ต้องไมป่ ิดบังข้อมูลท่ีจาเป็นในการปฏบิ ัติงานของเพอ่ื นรว่ มงาน และไมน่ าผลงานของผ้อู น่ื มาแอบอา้ งเปน็
ผลงานของตน
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เรื่อง ประมวลจริยธรรมของพนกั งานส่วนทอ้ งถ่นิ ลูกจ้างประจา และพนักงานจา้ ง
ส่วนท่ี ๓
จรรยาวชิ าชีพ
ข้อ ๑๕ บัญญัตจิ รรยาบรรณทางวิชาชีพ
จรรยาบรรณของครู
๑. ครตู ้องรกั และเมตตาศษิ ย์ โดยใหค้ วามเอาใจใสช่ ่วยเหลอื สง่ เสริมใหก้ าลงั ใจในการศกึ ษาเล่าเรียนแก่ศิษยโ์ ดยเสมอหน้า
๒. ครูต้องอบรมสงั่ สอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทกั ษะและนิสัยท่ถี กู ตอ้ งดงี ามใหเ้ กิดแกศ่ ิษย์อยา่ งเต็มความสามารถ
ดว้ ยความบริสทุ ธใิ์ จ
๓. ครตู ้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างทด่ี ีแก่ศษิ ยท์ ง้ั ทางกาย วาจา และจติ ใจ
๔. ครูต้องไมก่ ระทาคนเป็นปฏปิ กั ษต์ อ่ ความเจรญิ ทางกาย สติปัญญา จติ ใจ อารมณ์และสังคมของศษิ ย์
๕. ครตู ้องไมแ่ สวงหาประโยชนอ์ ันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ในการปฏบิ ัติหน้าท่ีตามปกติ และไม่ใชใ้ ห้ศิษย์กระทาการใด ๆ
อันเปน็ การหาประโยชนใ์ หแ้ ก่ตนโดยมิชอบ (ตอ่ )
ประกาศเทศบาลตาบลปลายบาง
เร่อื ง ประมวลจริยธรรมของพนักงานสว่ นทอ้ งถ่ิน ลกู จ้างประจา และพนกั งานจา้ ง
ส่วนท่ี ๓
จรรยาวิชาชีพ
ข้อ ๑๕ บญั ญตั จิ รรยาบรรณทางวิชาชีพ
จรรยาบรรณของครู
๖. ครยู อ่ มพัฒนาตนเองทงั้ ในดา้ นวชิ าชพี ดา้ นบคุ ลิกภาพและวิสยั ทศั นใ์ ห้ทันต่อการพฒั นาทางวิทยาการ
เศรษฐกจิ สังคมและการเมอื ง
๗. ครูย่อมรกั และศรัทธาในวิชาชีพครูและเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี ององค์กรวชิ าชีพครู
๘. ครพู ึงช่วยเหลือเกื้อกลู ครแู ละชมุ ชนในทางสร้างสรรค์
๙. ครพู งึ ประพฤตปิ ฏิบตั ติ น เปน็ ผู้นาในการอนุรกั ษ์ และพัฒนาภูมปิ ญั ญาและวฒั นธรรมไทย
พระปฐมบรมราชโองการ นบั แตต่ น้ กรงุ รัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี ินทรมหาวชริ าลงกรณ รัชกาลที่ 10 (วันที่ 4 พฤษภาคม 2562)
“เราจะสืบสาน รักษา และตอ่ ยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพ่ือประโยชนส์ ขุ แหง่ อาณาราษฎรตลอดไป”
เศรษฐกิจพอเพียง
Sufficiency Economy
ปรชั ญา
ของเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
องคป์ ระกอบเศรษฐกิจพอเพยี ง
ความพอประมาณ ความมเี หตุมผี ล การมีภูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ี
- การพูดจาพอประมาณ - ใชศ้ กั ยภาพของตนในการตัดสนิ ใจ - การผลติ ทไ่ี ม่กระทบทรพั ยากรและสิง่ แวดลอ้ ม
- การบริโภคท่ปี ระหยัดไม่ฟุ่มเฟือย - มีเหตผุ ลและขอ้ มูลสนับสนุนอดุ มการณ์และแผน - ประชาชนในชุมชนมีอาชีพ มนั่ คง
- ใชท้ รพั ยากรทส่ี มดลุ กบั ผลผลิต - มีเหตุผลทส่ี รา้ งความสัมพันธ์ภายในและภายนอก - มกี ารสะสมทรัพยากรชมุ ชนสาหรับอนาคต
- ไม่มีภาระดา้ นหนี้สนิ เกนิ ตวั ชุมชน - มปี ัจจยั สจี่ ากทรพั ยากรธรรมชาติในชมุ ชน
- หน่วยการผลิตและเทคโนโลยเี หมาะสม - มเี หตุผลในการชว่ ยเหลอื แบ่งปนั กนั ในชมุ ชน - มีอสิ ระในการเปน็ เจา้ ของทรพั ยากรชุมชน
- มีเหตุผลในการรักษาทรพั ยากรในชมุ ชน - สบื ทอดและพฒั นาภมู ปิ ญั ญาและวฒั นธรรม
- มเี หตผุ ลทล่ี ดความตอ้ งการและกเิ ลสของตน
ความรู้ คุณธรรม