The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิจัยพ่อยล่าสุด 28.10.63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ณัฐนนท์ ธรรมโณ, 2020-10-28 03:51:50

วิจัยพ่อยล่าสุด 28.10.63

วิจัยพ่อยล่าสุด 28.10.63

2100-1006

ความปลอดภยั ในงานไฟฟ้ าและ
อเิลก็ ทรอนกิ ส์

รายวชิ า งานไฟฟ้ าและอเิลก็ ทรอนกิ ส์เบอ้ื ง
มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลศรวี ชิ ยั

นางสาวกรสกลุ ชูโลก และคณะ

คานา

หนงั สืออิเลก็ ทรอนกิ สเ์ ลม่ นี้ (E-Book) นี้ จดั ทำข้นึ เพอ่ื ประกอบกำร
เรยี นกำรสอนเรือ่ งควำมปลอดภัยในงำนไฟฟ้ำและอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ใน
รำยวิชำงำนไฟฟ้ำและอิเล็กทรอนกิ ส์เบือ้ งต้น รหสั 2100-1006 ผจู้ ัดทำได้
รวบรวมข้อมลู เกี่ยวกบั ควำมหมำยและสำเหตุของอบุ ตั ิเหตุ คุณสมบัติของ
ไฟฟ้ำ อนั ตรำยของไฟฟ้ำต่อร่ำงกำยมนุษย์ ข้อควรปฏิบตั ใิ นกำรใชไ้ ฟฟำ้
อยำ่ งถกู ตอ้ งปลอดภยั และวิธีกำรปฐมพยำบำลผู้ประสบอนั ตรำยจำกไฟฟ้ำ
ดูด เพื่อใหผ้ ้ศู กึ ษำไดม้ ีควำมรู้ ควำมเขำ้ ใจในเน้อื หำมำกยิง่ ข้นึ นำเสนอใน
รปู แบบท่ีน่ำสนใจ มีภำพประกอบใหผ้ ้ศู กึ ษำคน้ ควำ้ ได้เหน็ ภำพจริง
ประกอบกำรเรียนรไู้ ด้ดีย่ิงข้ึน

ผู้จัดทำหวังเปน็ อย่ำงยิ่งว่ำหนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (E-Book) เลม่ น้จี ะ
เป็นประโยชน์แก่ผูท้ ี่ศกึ ษำค้นควำ้ และผู้ท่สี นใจไมม่ ำกก็นอ้ ย

สารบญั

เร่อื ง หน้ำ

คูม่ อื การใช้งาน 1
วัตถุประสงค์ 4
แบบทดสอบก่อนเรียน 5
หนว่ ยท่ี 1 ความหมายและสาเหตขุ องอบุ ตั เิ หตุ 6
หน่วยท่ี 2 คณุ สมบัตขิ องไฟฟ้า 10
หนว่ ยที่ 3 อันตรายของไฟฟา้ ตอ่ รา่ งกายมนุษย์ 15
หนว่ ยท่ี 4 ข้อควรปฏิบัตใิ นการใชไ้ ฟฟ้าอยา่ งถูกตอ้ งปลอดภัย 17
หนว่ ยที่ 5 การปฐมพยาบาลผ้ปู ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้าดดู 22
แบบทดสอบหลงั เรยี น 27
แบบสอบถามความพึงพอใจ 28

1.

1. สแกน QR CODE ผ่ำน
Application Line

2. คลกิ เข้ำไปที่เวบ็ ไซดท์ ่ี
ได้มำเพอื่ เปดิ ลงิ ก์

2.

3. คลิกเลอื กหนังสอื ที่
ต้องกำรศึกษำ

4. แล้วคลกิ View
เพอื่ เปิดดู E-Book

3.

5. สไลดไ์ ปทำงซ้ำย
เพอื่ เปิดหนำ้ ถดั ไป
สไลด์ไปทำงขวำเพอื่
เปิดหน้ำกอ่ นหน้ำ

4.

บอกควำมหมำยและสำเหตขุ องอบุ ัตเิ หตไุ ด้
1 ถูกต้อง
2 อธบิ ำยคุณสมบตั ขิ องไฟฟำ้ ไดถ้ ูกต้อง

อธบิ ำยอนั ตรำยของไฟฟำ้ ตอ่ รำ่ งกำย
3 มนษุ ย์ได้ถูกต้อง

อธิบำยขอ้ ควรปฏบิ ัตใิ นกำรใชไ้ ฟฟำ้ อยำ่ ง
4 ถูกตอ้ งปลอดภยั ได้ถกู ตอ้ ง

บอกวิธีกำรปฐมพยำบำลผปู้ ระสบ
5 อนั ตรำยจำกไฟฟำ้ ดูดไดถ้ ูกตอ้ ง

5.

6.

7.

ควำมปลอดภยั (Safety) โดยปกตทิ ว่ั ๆ ไป
หมำยถึง กำรปรำศจำกภัย ซ่งึ ในทำง ปฏิบัตเิ ป็นไปไม่ได้
1 ทจี่ ะขจดั ภยั ทุกชนิดให้หมดไปโดยสน้ิ เชงิ ควำมปลอดภัย
จึงให้รวมถงึ กำรปรำศจำก อนั ตรำยท่มี ีโอกำสจะเกดิ ขนึ้
ด้วย

อุบตั เิ หตุ (Accident) หมำยถงึ เหตกุ ำรณ์ท่ี
เกิดขึน้ โดยมิได้วำงแผนไวล้ ว่ งหน้ำ ซึ่งกอ่ ให้เกดิ ควำม
2 บำดเจ็บ พกิ ำร หรอื ตำยและทำใหท้ รัพย์สนิ ไดร้ ับควำม
เสียหำย

ภยั (Hazard) เป็นสภำพกำรณ์ซึง่ มีแนวโน้มทจี่ ะ
ก่อให้เกิดกำรบำดเจบ็ ตอ่ บุคคล หรือควำมเสยี หำยต่อ
3 ทรพั ย์สนิ หรือวสั ดุ หรอื กระทบกระเทอื นตอ่ ขีด
ควำมสำมำรถในปฏบิ ตั ิงำน ตำมปกติของบคุ คล

8.

อนั ตรำย (Danger) หมำยถงึ ระดบั ควำมรนุ แรงที่
เป็นผลเน่อื งมำจำกภัย (Hazard) อันตรำยจำกภยั
4 อำจจะมีระดับสงู หรอื มำกน้อยกไ็ ด้ ขึน้ อยูก่ ับมำตรกำรท่ี
ใชใ้ นกำรป้องกันอบุ ตั ิเหตุ

ควำมเสียหำย (Damage) เป็นควำมรุนแรงของ
กำรบำดเจ็บหรือควำมเสยี หำย ทำงดำ้ นกำยภำพ หรอื
5 ควำมเสยี หำยที่เกดิ ขนึ้ ตอ่ กำรปฏบิ ตั งิ ำน หรือควำม
เสียหำยทีเ่ กดิ ขึน้ ทำงดำ้ น กำรเงนิ ที่เกดิ ขึน้ เนือ่ งจำกกำร
ขำดกำรควบคุมภัย

9.

สาเหตุของอบุ ตั เิ หตุ ทสี่ ําคญั มี 3 ประการ สรปุ ได้ดงั นี้

1. สำเหตุทเี่ กิดจำกคน (Human Causes) มีจำนวนสงู ทสี่ ดุ คอื
88% ของกำรเกดิ อบุ ตั เิ หตุทกุ ครัง้ ตวั อยำ่ งเช่น กำรทำงำนท่ีไม่ถกู ต้อง
ควำมพลั้งเผลอ ควำมประมำท กำรมนี ิสัยชอบเสี่ยงในกำรทำงำน เปน็
ต้น

2. สำเหตุที่เกิดจำกควำมผดิ พลำดของเครอ่ื งจกั ร (Mechanical
failure) มีจำนวน เพยี ง 10 เปอร์เซน็ ของกำรเกิดอบุ ตั เิ หตุทกุ ครงั้
ตวั อยำ่ งเชน่ ส่วนท่ีเปน็ อนั ตรำยของเครือ่ งจกั ร ไม่มเี ครือ่ งป้องกัน
เครอ่ื งจักรเคร่อื งมือหรอื อปุ กรณ์ตำ่ ง ๆ ชำรุดบกพร่อง รวมถงึ กำรวำง
ผงั โรงงำน ไมเ่ หมำะสม สภำพแวดลอ้ มในกำรทำงำนไม่ปลอดภัย เป็น
ต้น

3. สำเหตทุ เ่ี กิดจำกดวงชะตำ (Acts of God) มีจำนวนเพยี ง 2
เปอรเ์ ซ็น สำเหตุ ท่ีเกดิ ขึน้ โดยธรรมชำตินอกเหนือกำรควบคมุ ได้ เชน่
พำยุ น้ำท่วม ฟ้ำผำ่ เป็นต้น

10.

11.

คณุ สมบัตขิ องไฟฟ้ำ ไฟฟ้ำเปน็ พลงั งำนทสี่ ำมำรถเปลยี่ นแปลง
รปู พลงั งำนได้ โดยอำศัยค่ำแรงดันและกระแส จำ่ ยไปใหอ้ ปุ กรณ์
เครือ่ งมอื และเคร่ืองใช้ไฟฟำ้ ใหเ้ กิดกำรทำงำน โดยจำ่ ยไปในรูปกระแส
ไหลไฟฟ้ำ เคล่อื นทีไ่ ด้ดใี นวัตถุตัวนำจำพวกโลหะชนิดต่ำง ๆ เชน่
ทองคำ ทองแดง เงนิ เหล็ก ตะก่วั และ อลมู ิเนียม เปน็ ต้น ไฟฟำ้ ไม่
สำมำรถเคล่อื นที่ผ่ำนไปไดห้ รือเคลอื่ นทไี่ ปไดล้ ำบำกในวัตถุทเ่ี ป็นฉนวน
เชน่ พลำสติก ยำง แกว้ ไม้ และเซรำมกิ เป็นตน้ ไฟฟ้ำเปน็ ส่ิงที่มองไม่
เห็น ไม่สำมำรถรับรู้ได้ นอกจำกไปสัมผัสโดยตรง กอ่ ให้เกดิ อนั ตรำยตอ่
ผสู้ ัมผสั ถูกไฟฟำ้ จงึ มกั เรียกวำ่ ภยั มืด กำรทดสอบ ว่ำสำยไฟฟ้ำมีไฟฟำ้
หรือไม่ หรืออุปกรณ์ไฟฟ้ำที่ติดตง้ั พร้อมใชง้ ำนมีไฟฟ้ำหรอื ไม่ จะต้อง
ทดลองใช้ อุปกรณ์ไฟฟ้ำเหล่ำนั้น หรือใช้เครื่องมอื วดั ไฟฟำ้ ตรวจวัด
ทดสอบดู ไฟฟ้ำมปี ระโยชน์อนันตแ์ ละมีโทษมหนั ต์ เป็นคำกลำ่ วที่
ทันสมัยอยู่เสมอผู้ทีใ่ ช้ไฟฟ้ำทกุ คน จำเป็นต้องคำนงึ ถงึ ควำมปลอดภัย
ในกำรใชง้ ำนทุกครั้ง และใชง้ ำนดว้ ยควำมระมดั ระวงั โดยไม่ตกอยู่ ใน
ควำมประมำท

12.

1. ให้ควำมรอ้ น โดยเปล่ียนพลังงำนไฟฟำ้ ใหเ้ ป็นควำม

รอ้ น เชน่ เตำไฟฟ้ำ เตำอบ เตำรีดไฟฟำ้ หมอ้ หุงขำ้ ว
ไฟฟำ้ เคร่ืองเปำผม และหัวแร้งบัดกรี เปน็ ต้น

2 ให้ควำมเยน็ โดยเปลย่ี นพลงั งำนไฟฟำ้ ให้เปน็ ควำม
. เย็น เช่น ตู้แช่เข็ง ตเู้ ยน็ และเครอ่ื งปรบั อำกำศ เปน็ ต้น

3. ใหพ้ ลังงำนกล โดยเปล่ยี นพลงั งำนไฟฟ้ำให้เปน็

พลังงำนกล เช่น มอเตอร์ พดั ลม สวำ่ นไฟฟ้ำ เครื่องซักผำ้
และเคร่ืองดูดฝุ่น เปน็ ตน้

13.

4 ใหอ้ ำนำจแม่เหล็ก โดยเปลย่ี นพลังงำนไฟฟำ้ ให้
. เป็นสนำมแมเ่ หลก็ เช่น ลำโพง กระด่งิ ไฟฟ้ำ หมอ้ แปลง
ไฟฟำ้ และแมเ่ หลก็ ไฟฟ้ำ เปน็ ตน้

5 ให้แสงสว่ำง โดยเปล่ยี นพลังงำนไฟฟ้ำใหเ้ ปน็ แสง
. สวำ่ ง เชน่ ไฟฉำย หลอดไฟฟำ้ และกำรเกิดประกำยไฟ
จำกกำรเชือ่ มไฟฟำ้ เป็นตน้
ใหค้ วำมสะดวกสบำย โดยจำ่ ยพลังงำนไฟฟำ้ ไป

6 ให้อุปกรณ์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ทำให้ เกิดกำรทำงำนใน
. อุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสช์ นิดตำ่ ง ๆ เช่น เครื่องรับวทิ ยุ
เครื่องรบั โทรทศั น์ เครอื่ ง ขยำยเสียง คอมพิวเตอร์ และ
วทิ ยุสือ่ สำร เปน็ ต้น

14.

โทษของไฟฟ้ำ ส่วนใหญเ่ กิดจำกำรใชไ้ ฟฟำ้ อยำ่ งผดิ วธิ ี ขำดควำม
ระมัดระวัง หรือใช้ไฟฟำ้ ดว้ ยควำมประมำทเลินเล่อ ก่อให้เกิดอนั ตรำยตำมมำ
อย่ำงมำกมำยทงั้ ตอ่ ทรพั ย์สิน อันตรำยเกิดจำกไฟฟำ้ แบ่งออกไดเ้ ป็น 2
ลกั ษณะ คอื ไฟฟำ้ ซอ็ ต (Short Circuit) และไฟฟำ้ ดูด (Electric Shock)
ซงึ่ ท้งั สองลกั ษณะนม้ี สี ำเหตุ ของกำรเกดิ ท่ีตำ่ งกัน และอนั ตรำยทไ่ี ดร้ ับก็
ต่ำงกนั ดว้ ย

1 ไฟฟ้ำซอ็ ต หรอื เรียกอีกช่ือวำ่ ไฟฟำ้ ลดั วงจร คอื เกดิ จำกสภำวะที่
กระแสไฟฟ้ำไหล ไดค้ รบวงจร โดยไม่ผำ่ นอปุ กรณไ์ ฟฟำ้ เคร่ืองใช้ไฟฟ้ำ หรอื
ภำระ (Load) ผลของไฟฟำ้ ซ็อตจะทำให้ เกิดควำมร้อนสงู เม่อื ควำมร้อนถงึ
จดุ ลกุ ไหม้ ทำใหเ้ กิดเพลิงไหมข้ น้ึ ได้ กำรเกิดไฟฟ้ำซ็อต

2 ไฟฟำ้ ดูด คือ เกิดจำกสภำวะท่กี ระแสไฟฟ้ำไหลผ่ำนร่ำงกำยมนุษย์
ครบวงจร จะก่อให้เกิดอำกำรเกรง็ ของกลำ้ มเน้อื จนรำ่ งกำยมนษุ ยไ์ ม่
สำมำรถดิน้ หรอื สะบัดให้หลดุ ออกจำก ไฟฟ้ำได้ หรอื อำจถงึ เสยี ชีวติ ได้ กำร
เกิดไฟฟำ้ ดูด

15.

16.

1 กำรสมั ผัสไฟฟ้ำโดยตรง กำรสัมผสั ไฟฟำ้ โดยตรง คือ เปน็ กรณีท่ี

ส่วนของร่ำงกำยสัมผัสถูกส่วนทม่ี ีไฟฟ้ำจำ่ ยมำ โดยตรง เช่น สำยไฟฟ้ำรั่ว
เพรำะฉนวนชำรุดมีคนใชม้ ือจบั สำยไฟฟำ้ ทีร่ วั่ และจำกกำรที่ใชน้ ้วิ มอื หรอื
โลหะขนำดเลก็ เช่น ลวด ไขควง หรือโลหะอื่น ๆ แหย่เข้ำไปในรูของเต้ำรบั
ไฟฟำ้ เปน็ ต้น ลกั ษณะกำรสัมผสั ไฟฟำ้ โดยตรงน้ี จะมีผลใหเ้ กดิ กระแสจำนวน
มำกไหลผ่ำนเขำ้ สู่รำ่ งกำยคนไปลงดิน ทำใหเ้ กิดอันตรำย คนอำจพิกำรหรือถงึ
เสียชวี ติ ได้ กำรสัมผสั ไฟฟ้ำโดยตรง

2 กำรสัมผัสไฟฟำ้ โดยอ้อม กำรสัมผสั ไฟฟำ้ โดยอ้อม เป็นกำรสัมผัสท่ี

คนไม่ไดส้ ัมผสั กบั ส่วนท่มี ไี ฟฟ้ำโดยตรง แต่เกิด จำกคนสมั ผสั กบั อุปกรณ์ไฟฟ้ำ
หรือเครื่องใชไ้ ฟฟำ้ ตำมปกตซิ งึ่ โดยปกติจะไม่มีไฟฟ้ำจำ่ ยออกมำที่ ตวั ถังโลหะ
แต่ถ้ำเม่อื อปุ กรณ์ไฟฟำ้ หรอื ใชไ้ ฟฟำ้ เกิดไฟฟ้ำร่ัว จึงมีไฟฟ้ำจำ่ ยอยู่ท่ตี วั ถงั
โลหะของ อปุ กรณไ์ ฟฟำ้ หรือเครอ่ื งใชไ้ ฟฟำ้ น้นั เมือ่ คนไปสมั ผสั จงึ เกิดกระแส
ไหลผ่ำนเขำ้ สูร่ ำ่ งกำยคนไปลงดิน เช่นเดียวกบั กำรสมั ผสั สว่ นทมี่ ไี ฟฟ้ำ กำร
สัมผสั ไฟฟ้ำโดยออ้ มมอี นั ตรำยสูงมำก เพรำะเกิดจำกกำรขำดควำมระมัดระวงั
ของผู้ใช้งำน กำรสัมผัสไฟฟ้ำโดยอ้อม

17.

18.

1. ควรตรวจสอบให้แน่ชดั ก่อนจำ้ งงำนเดินสำยไฟตดิ ตง้ั ระบบไฟฟ้ำ
วำ่ เปน็ ผ้ทู ม่ี ีประสบกำรณ์ มคี วำมรคู้ วำมชำนำญเชอื่ ถอื ไดเ้ ทำ่ นนั้

2. อปุ กรณ์ในกำรตดิ ต้งั ทำงไฟฟ้ำตอ้ งเปน็ ชนดิ ทีไ่ ด้รบั กำรรบั รองจำก
มำตรฐำนต่ำง ๆ ทน่ี ำ่ เชอ่ื ถอื เชน่ สำนักงำนมำตรฐำน
ผลิตภัณฑ์อุตสำหกรรม (สมอ.) UL, VDE และ IEC เป็นตน้

3. กำรเดินสำยและกำรตดิ ตงั้ อปุ กรณไ์ ฟฟ้ำ ต้องเปน็ ไปตำมกฎกำร
เดนิ สำยและติดต้งั อุปกรณ์ไฟฟ้ำของกำรไฟฟำ้ นครหลวง หรือตำม
มำตรฐำนกำรตดิ ตง้ั ไฟฟำ้ ท่กี ำรไฟฟำ้ นครหลวงยอมรบั

4. กอ่ นใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟำ้ ผใู้ ชต้ อ้ งอำ่ น ศึกษำคู่มือแนะนำกำรใชง้ ำนให้
เขำ้ ใจ ปฏบิ ัติตำมคำแนะนำอยำ่ งเครง่ ครดั

5. ทุกครง้ั ทจ่ี ะใช้เครือ่ งใช้ไฟฟ้ำ ควรทำกำรตรวจสอบสำยไฟ และ
เตำ้ เสยี บวำ่ มรี ่องรอยของกำรชำรุดหรือไม่

19.

6. เครอื่ งใช้ไฟฟำ้ ท่ีมีเปลอื กหมุ้ ภำยนอกทำดว้ ยโลหะทุกชนดิ หรอื
เคร่อื งใชไ้ ฟฟำ้ ท่อี ำจมีไฟฟ้ำรั่วมำกับนำ้ จำเป็นต้องมกี ำรต่อสำยดนิ ของ
เครอ่ื งใช้ไฟฟ้ำเขำ้ กบั ระบบสำยดิน เพ่อื ช่วยป้องกันอันตรำยทอ่ี ำจ
เกิดข้ึน ระบบสำยดนิ เครอ่ื งใชไ้ ฟฟำ้

7. เมือ่ ร่ำงกำยเปยี กช้ืน ห้ำมแตะต้องสว่ นท่มี ไี ฟฟ้ำ หรือเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำ
โดยเดด็ ขำด

8. ในกำรเดนิ สำยไฟหรอื ลำกสำยไฟไปใชง้ ำนนอกอำคำร อุปกรณไ์ ฟฟำ้
และสำยไฟต้องเป็นชนดิ ท่ีกนั นำ้ และทนทำนตอ่ สภำวะแวดล้อม

9. ควรแยกวงจรไฟฟำ้ ทีน่ ำ้ อำจทว่ มถึง เชน่ บรเิ วณชั้นล่ำงของอำคำร
เพอื่ ใหส้ ำมำรถปลดไฟออกได้ทนั ทเี มือ่ เกิดนำ้ ทว่ ม

10. หมั่นตรวจสอบอุปกรณต์ ิดตัง้ ทำงไฟฟ้ำ และเคร่อื งใช้ไฟฟ้ำเปน็
ประจำอย่ำงนอ้ ย ปีละ 1 ครัง้

20.

11. ฝึกเปน็ คนช่ำงสงั เกตสงิ่ ผิดปกติจำกสี กลิน่ เสยี ง และกำรสัมผัส
อณุ หภูมิ

12. ไม่ควรใช้ไฟฟำ้ หรือเปดิ สวิตช์เครื่องใชไ้ ฟฟำ้ เช่น พดั ลมระบำย
อำกำศ ในบริเวณท่ีมไี อของสำรระเหยหรอื กำ๊ ซทไ่ี วไฟปกคลุมอยเู่ ตม็
พนื้ ท่ี เช่น ก๊ำซหงุ ต้ม ทนิ เนอร์ หรือไอนํำ้ มัน เบนซิน เปน็ ต้น

13. ระมดั ระวังกำรใชอ้ ปุ กรณ์ไฟฟ้ำรำคำถูกจำกบำงประเทศท่ีผลติ
แบบไมไ่ ด้มำตรฐำน นอกจำกจะมอี ำยกุ ำรใช้งำนสั้นแล้ว อำจไม่
ปลอดภัยในกำรใช้งำน

14. อุปกรณ์ท่ีมีกำรเสียบปลกั๊ ทิ้งไวน้ ำน ๆ โดยไม่มีผดู้ แู ล ให้
หลีกเลีย่ งกำรใชใ้ นบรเิ วณท่ีมีวัสดทุ ี่ติดไฟไดง้ ำ่ ยอยู่ใกลๆ้

15. ทุกคร้ังทเี่ ลิกใชเ้ คร่ืองใชไ้ ฟฟำ้ ควรปิดสวติ ช์ทเี่ ครอ่ื งใช้ไฟฟำ้ และ
ถอดเตำ้ เสียบ ออกจำกเตำ้ รบั ทุกคร้ัง เพือ่ ไมใ่ หเ้ ครือ่ งใชไ้ ฟฟ้ำชำรดุ
เสียหำยง่ำย

21.

16. อยำ่ ซอ่ มเครื่องใชไ้ ฟฟ้ำด้วยตนเอง หรือซอ่ มโดยชำ่ งทีไ่ ม่มคี วำม
ชำนำญ

17. หลกี เลยี่ งกำรใชอ้ ุปกรณอ์ ิเล็กทรอนิกสใ์ นขณะท่ฝี นตกฟ้ำคะนอง

18. เคร่ืองใชไ้ ฟฟำ้ ท่คี วบคุมกำรเปดิ ปิดดว้ ยรีโมทคอนโทรล เมอ่ื เลกิ
ใช้งำนทกุ คร้งั ควรถอดปลก๊ั หรือติดตัง้ วงจรสวิตชต์ ัดตอ่ วงจร เพ่ือตดั
ไฟออกทุกครงั้ ท่เี ลิกใชง้ ำน

19. เมือ่ ไฟฟ้ำท่ีจ่ำยมำจำกกำรไฟฟำ้ ดับ ให้ปดิ สวิตช์เคร่ืองใช้ทุกชนดิ
ทเี่ ปิดค้ำงอยทู่ ันที เพอื่ ปอ้ งกันเครื่องใชช้ ำรดุ จำกแรงดนั ไฟฟำ้ ที่
ผดิ ปกติขณะไฟฟำ้ ดบั ไม่สนิท (แรงดนั ไฟฟ้ำ ตก) หรือขณะทเ่ี รมิ่ มี
ไฟฟ้ำกลบั เขำ้ มำ (แรงดนั ไฟฟำ้ อำจเกนิ )

22.

23.

1.อยำ่ ใชม้ ือเปล่ำแตะตอ้ งตัวผูท้ ่ีกำลังตดิ อยู่กับสำยไฟฟำ้ หรือตวั นำไฟฟ้ำ
ทม่ี กี ระแสไหลผำ่ น

2. รบี หำทำงตดั ทำงเดินของไฟฟ้ำกอ่ นโดยถอดเตำ้ เสยี บ ตัดสวิตช์ตัดวงจร
อัตโนมตั ิ หรอื สวติ ช์ประธำน ถ้ำทำไมไ่ ดใ้ หใ้ ช้วัสดุทีไ่ มเ่ ปน็ สอ่ื ตวั นำไฟฟำ้ ดงึ
เอำตัวผ้ปู ระสบอันตรำยใหพ้ น้ จำกส่ิงที่มไี ฟฟำ้

3. เมอื่ ไมส่ ำมำรถทำวิธีอื่นใดไดแ้ ล้วให้ใช้มีด ขวำน หรอื ของมีคมท่มี ีดำ้ มไม้
หรอื ด้ำม ทีเ่ ป็นฉนวน ฟนั สำยไฟฟำ้ ใหข้ ำดหลดุ ออกจำกผ้ปู ระสบภัยโดยเร็ว
ทส่ี ุด

4. ในกรณีท่อี ยใู่ นบรเิ วณที่มนี ้ำขงั อย่ำลงไปในนำ้ ใหห้ ำทำงเขยี่
สำยไฟฟ้ำ ออกไปใหพ้ น้ น้ำ หรือตดั ไฟฟำ้ ออกก่อนจะลงไปช่วยผ้ปู ระสบ
อันตรำยทีอ่ ยใู่ นบรเิ วณนั้น

5. ถ้ำกรณีท่ีเป็นสำยไฟฟำ้ แรงสงู ให้พยำยำมหลีกเลยี่ งอย่ำเข้ำไปใกล้ และ
ตอ้ งรีบแจง้ กำรไฟฟำ้ ทรี่ บั ผิดชอบใหท้ รำบโดยเร็ว

24.

หยุดหำยใจต้องเป่ำปำก

ตรวจดวู ำ่ ผ้ปู ว่ ยยังหำยใจอย่หู รอื ไมแ่ ละหำกไม่
หำยใจ ใหใ้ ช้มือกดหนำ้ ผำกผ้ปู ่วยใหแ้ หงนขึน้ และใช้

มืออีกขำ้ งหน่งึ ดนั คำงผ้ปู ่วยขึ้น

ให้เอำนวิ้ ชก้ี บั น้วิ หวั แมม่ อื บีบจมูกผ้ปู ่วยให้แนน่ แล้ว
เป่ำลม หำยใจเขำ้ ปอดผู้ป่วยเตม็ ท่ี 2 คร้งั แลว้ ปลอ่ ย

ใหล้ มออก

25.

ถ้ำหวั ใจหยุดเตน้ ตอ้ งนวดหัวใจ

ตรวจกำรเต้นของหวั ใจผูป้ ว่ ย โดยกำรคลำชีพจรทีค่ อหรอื ท่ี
ข้อมอื ของผปู้ ่วยประมำณ 5 วนิ ำที

ใช้ 2 นิ้ววำงเหนอื ตำแหน่งลน้ิ ปี่วำงส้นมอื ถดั จำกตำแหน่ง
นว้ิ ทงั้ สอง

ประสำนมอื ซ้อนกัน แล้วโนม้ ตวั เขำ้ หำผปู้ ว่ ย
เหยียดแขนทั้งสองขำ้ งให้ตรง แล้วกดให้ตรงตำแหน่ง อัตรำ

กำรนวดหัวใจ 30 ครั้ง ต่อ กำรเป่ำปำก 2 ครัง้

26.

ถ้ำไมห่ ำยใจและหวั ใจหยุดเตน้

หำกผู้ป่วยไมห่ ำยใจและหวั ใจหยุดเต้น ให้เปำ่ ปำก 2 ครั้ง
สลับกับกำรนวดหัวใจ 30 ครั้ง เท่ำกบั 1 ชุด

เป่ำปำกสลบั กับกำรนวดหวั ใจครบ 4 ชุด ใหป้ ระเมนิ อำกำร
ของผู้ปว่ ย 1 คร้งั โดยกำรจบั ชพี จร

* กำรปฐมพยำบำลตอ้ งทำทนั ทีท่ชี ่วยผถู้ ูกกระแสไฟฟำ้ ดูดออกมำและควรนำผ้ปู ่วยส่งโรงพยำบำล
ขณะนำผู้ป่วยสง่ โรงพยำบำล จะต้องทำกำรปฐมพยำบำลตำมข้ันตอนดังกล่ำวตลอดเวลำจนกระทั่ง
ถงึ มือแพทย์

27.

28.

THE

END


Click to View FlipBook Version