1 สรุปผลการดำเนินงาน โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง วันที่ 9 เดือนมกราคม พ.ศ.2566 ณ กศน.ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดสกลนคร สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิกา
2 คำนำ รายงานผลการดำเนินงานโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอ วาริชภูมิฉบับนี้ เป็นการรวบรวมผลการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการ ประจำปีงบประมาณ 2566 จัดทำ ขึ้นเพื่อจัดทำขึ้นเพื่อให้ประชาชน กศน.อำเภอวาริชภูมิ มีความรู้ความเข้าใจหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมา ประยุกต์และมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ได้คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เอกสารผลการดำเนินโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง จะสามารถเป็นข้อมูลในการนำไป พัฒนาการดำเนินงานกิจกรรมอื่นๆของกศน.อำเภอวาริชภูมิ ตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ในโอกาสต่อไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ
3 สารบัญ บทที่ 1 บทนำ หน้า ความเป็นมาและความสำคัญ ๑ วัตถุประสงค์ 1 เครื่องมือที่ใช้ในการสรุป 1 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 3-8 หลักและแนวคิดเกี่ยวกับโครงการ บทที่ 3 วิธีการดำเนินงาน 9- 10 ขั้นตอนการดำเนินงาน - ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) - ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ ( Do) - ขั้นตอนการ่วมกันประเมิน ( Check - ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง ( Act) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล บทที่ 4 ผลการดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูล 8- 11 ผลการจัดกิจกรรมตามโครงการ บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 15- 16 วัตถุประสงค์ เป้าหมาย เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูล สรุปผลการดำเนินการ ปัญหา/ข้อเสนอแนะ บรรณานุกรม 17 ภาคผนวก 18- 29 - โครงการ - แบบสอบถามความคิดเห็น - ภาพกิจกรรม - คำรับรองคณะกรรมการสถานศึกษา
4 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิถีการดำรงชีวิตในการใช้คุณธรรมนำความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ ให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุลและมั่นคง เป็นหลักปฏิบัติที่ส่งเสริมการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข ระหว่างคน กับคน ชุมชนกับธรรมชาติ และคนกับวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตโดยคำนึงความพอดี มีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับครอบครัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมีความรู้ รอบคอบ และอยู่บน พื้นฐาน ของคุณธรรม เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการของสถานศึกษาและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้ทุกคนใน องค์กรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ได้สามารถน้อมนำหลักการของ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและอยู่ในทุกวิถีการดำเนินงานของทุกคน การพึ่งพา ตัวเองได้เป็นเพียงส่วนเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเมื่อทุกคนสามารถดูแลตัวเอง และ ครอบครัวได้แล้ว ขั้นต่อไปอาจทำการพัฒนาธุรกิจ โดยมีการรวมกลุ่มกันในวิชาชีพเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการรวมกลุ่มกันนั้น ไม่จำกัดเฉพาะการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เกษตรกร ในรูปของสหกรณ์ การทำงานในเมืองก็สามารถมีการรวมกลุ่มกันได้ เช่น การแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน การแลกเปลี่ยนแนวคิดการลงทุน เพื่อเป็นการต่อ ยอดความรู้ รวมไปจนถึงการแบ่งปันความช่วยเหลือส่งกลับคืนสู่สังคม ไปสู่กลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เช่น กิจกรรมจิตอาสา เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจะเห็นได้ว่า แนวคิดเศรษฐกิจ พอเพียงนั้น เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ด้วยการใช้ความรู้และคุณธรรม เพื่อให้เกิดการพึ่งพา ตัวเองได้ และเผื่อแผ่ไปถึงสังคม ซึ่งเราสามารถนำหลักการปฏิบัติไปปรับใช้ได้ทั้งในชีวิตการทำงาน และการ ดำรงชีวิตครับเพื่อเป็นการเผยแพร่กิจกรรม การดำเนินงานของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการน้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ได้จัดการเรียนรู้แบบฐานบูรณา การสู่วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อ นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน ชีวิต เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ เยาวชน ชุมชน สังคม และประเทศต่อไป 1.2 วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อนนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ในด้านบริหารจัดการ การจัด กิจกรรม และการจัดการเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้ ๒. เพื่อนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์และบูรณาการสู่การเรียนการสอน และกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ๓. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน ได้ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ๔. เพื่อเผยแพร่ผลงานประชาชน จากการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ 1.3 เป้าหมาย เชิงปริมาณ • นักศึกษา กศน. จำนวน................คน • ประชาชนทั่วไป จำนวน......15..........คน
5 เชิงคุณภาพ 1.ประชาชนทั่วไปอำเภอวาริชภูมิ ที่เข้าร่วมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง 1.4 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ในครั้งนี้ได้แก่ 1. แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เข้าอบรม 2. แบบบันทึกกิจกรรมการอบรม 1.5 ขอบเขตของการดำเนินโครงการ 1) ประชากรทั่วไป ได้แก่ ประชากรทั่วไป จำนวน 1๗ คน 2) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ประชากรทั่วไป จำนวน 1๗ คน 3) ระยะเวลา 9 เดือนมกราคม พ.ศ.2566 1.6ระยะเวลาการดำเนินโครงการ วันที่ 9 เดือนมกราคม พ.ศ.2566 1.7 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. ประชาชนที่เข้าร่วมโครงการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์และบูรณาการสู่การเรียนการ สอน 2. สามารถเผยแพร่ผลงานประชาชน จากการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ได้
6 บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 หลักและแนวคิดเกี่ยวกับการดำเนิน ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิถีการดำรงชีวิตในการใช้คุณธรรมนำความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ ให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุลและมั่นคง เป็นหลักปฏิบัติที่ส่งเสริมการ อยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข ระหว่างคน กับคน ชุมชนกับธรรมชาติ และคนกับวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตโดยคำนึง ความพอดีมีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับครอบครัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมีความรู้ รอบคอบ และ อยู่บนพื้นฐาน ของคุณธรรม เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการของสถานศึกษาและการจัดกิจกรรมการ เรียนรู้เพื่อให้ทุกคนใน องค์กรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ได้สามารถน้อมนำหลักการ ของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและอยู่ในทุกวิถีการดำเนินงานของทุกคน การ พึ่งพาตัวเองได้เป็นเพียงส่วนเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเมื่อทุกคนสามารถดูแลตัวเอง และ ครอบครัวได้แล้ว ขั้นต่อไปอาจทำการพัฒนาธุรกิจ โดยมีการรวมกลุ่มกันในวิชาชีพเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการรวมกลุ่มกันนั้น ไม่จำกัดเฉพาะการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เกษตรกร ในรูปของสหกรณ์ การทำงานในเมืองก็สามารถมีการรวมกลุ่มกันได้ เช่น การแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน การแลกเปลี่ยนแนวคิดการลงทุน เพื่อเป็นการต่อ ยอดความรู้ รวมไปจนถึงการแบ่งปันความช่วยเหลือส่งกลับคืนสู่สังคม ไปสู่กลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เช่น กิจกรรมจิตอาสา เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจะเห็นได้ว่า แนวคิดเศรษฐกิจ พอเพียงนั้น เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ด้วยการใช้ความรู้และคุณธรรม เพื่อให้เกิดการพึ่งพา ตัวเองได้ และเผื่อแผ่ไปถึงสังคม ซึ่งเราสามารถนำหลักการปฏิบัติไปปรับใช้ได้ทั้งในชีวิตการทำงาน และการ ดำรงชีวิตครับเพื่อเป็นการเผยแพร่กิจกรรม การดำเนินงานของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการน้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ การเลี้ยงหอยเชอรรี่เป็นแนวคิดในการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ที่เปลี่ยนศัตรูตัวฉกาจของต้นข้าวในนาให้ กลายเป็นช่องทางทำเงิน เดิมทีหอยเชอรี่เคยสร้างความเสียหายให้กับต้นข้าวจนต้องหาวิธีกำจัดสารพัด แต่มา วันนี้กลับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับอาชีพเสริมของเกษตรกรไปแล้ว หอยเชอรี่เป็นสัตว์ที่เพาะเลี้ยงได้ง่าย เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และยังมีตลาดรองรับขนาดใหญ่ รูปแบบการซื้อขายมีทั้งแบบที่ขายเฉพาะไข่หอย เชอรี่ ขายพ่อแม่พันธุ์ และขายเป็นอาหาร ซึ่งในส่วนของอาหารนั้นนับว่าเป็นตลาดที่สร้างรายได้สูงที่สุด คุณ บุญเพ็ง คำเลิศ เกษตรกรตัวอย่างที่เพาะเลี้ยงหอยเชอรี่เป็นแห่งแรกของจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่าหอยเชอรี่มี โปรตีนสูงแต่ไขมันค่อนข้างน้อย จึงนำไปปรุงอาหารได้หลายประเภท แปรรูปเป็นน้ำปลาหรือของหมักดองก็ได้ ใช้เป็นอาหารสัตว์ก็ได้เช่นกัน แม้แต่เปลือกของมันก็ยังใช้ประโยชน์เพื่อปรับคุณสมบัติของดินได้อีก ดังนั้นหาก บริหารการเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่ดีๆ ก็จะสามารถสร้างรายได้ให้กับผู้เลี้ยงได้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ได้จัดการเรียนรู้แบบฐานบูรณา การสู่วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อ นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน ชีวิต เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ เยาวชน ชุมชน สังคม และประเทศต่อไป 2.3 รายละเอียดกิจกรรมการดำเนินโครงการ
7 2.3.1. กิจกรรมการอบรมให้ความรู้ ในเรื่องต่อไปนี้ ๑) ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของหอยเชอรี่ ๒) สายพันธุ์หอยเชอรี่ในไทย ๓) ลักษณะทั่วไปของหอยเชอรี่ ๔) การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต 5) เหตุผลที่ควรเลี้ยงหอยเชอรี่ 6) การสร้างเงินจากหอยเชอรี่ 7) การเลี้ยงหอยเชอรี่ 8) เลี้ยงในวงบ่อซีเมนต์ 9) เลี้ยงในบ่อปูน 10) เลี้ยงในบ่อดิน 11) เลี้ยงในกระชังน้ำ 12) เลี้ยงในกะละมังหรือถังพลาสติก 13) วิธีฟักไข่หอยเชอรี่ให้รอดและแข็งแรง 2.4เอกสารที่เกี่ยวข้อง การดำเนินโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖การเลี้ยง หอยเชอรี่สีทอง ใช้ข้อมูลแนวคิดและข้อค้นพบจากการวิจัย และวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ หอยเชอรี่สีทองเป็นอีกหนึ่งแนวคิดในการพลิกวิกฤติเป็นโอกาส ที่เปลี่ยนศัตรูตัวฉกาจของต้นข้าวในนาให้ กลายเป็นช่องทางทำเงิน เดิมทีหอยเชอรี่เคยสร้างความเสียหายให้กับต้นข้าวจนต้องหาวิธีกำจัดสารพัด แต่มา วันนี้กลับเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับอาชีพเสริมของเกษตรกรไปแล้ว หอยเชอรี่เป็นสัตว์ที่เพาะเลี้ยงได้ง่าย เก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี และยังมีตลาดรองรับขนาดใหญ่ รูปแบบการซื้อขายมีทั้งแบบที่ขายเฉพาะไข่หอย เชอรี่ ขายพ่อแม่พันธุ์ และขายเป็นอาหาร ซึ่งในส่วนของอาหารนั้นนับว่าเป็นตลาดที่สร้างรายได้สูงที่สุด คุณ บุญเพ็ง คำเลิศ เกษตรกรตัวอย่างที่เพาะเลี้ยงหอยเชอรี่เป็นแห่งแรกของจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่าหอยเชอรี่มี โปรตีนสูงแต่ไขมันค่อนข้างน้อย จึงนำไปปรุงอาหารได้หลายประเภท แปรรูปเป็นน้ำปลาหรือของหมักดองก็ได้ ใช้เป็นอาหารสัตว์ก็ได้เช่นกัน แม้แต่เปลือกของมันก็ยังใช้ประโยชน์เพื่อปรับคุณสมบัติของดินได้อีก ดังนั้นหาก บริหารการเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่ดีๆ ก็จะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยเลยทีเดียว ข้อมูลทั่วไปของหอยเชอรี่ หอยเชอรี่ เป็นหอยน้ำจืดที่มีถิ่นกำเนิดในทวีปอเมริกาใต้ หน้าตาคล้ายกับหอยโข่งตามท้องนาที่พวก เราคุ้นเคยกันดี ในบรรดาหอยเชอรี่หลากหลายสายพันธุ์ เราสามารถแยกพวกมันได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ตาม ลักษณะภายนอก กลุ่มแรกเป็นพวกที่มีเปลือกเหลืองปนน้ำตาล อีกกลุ่มเป็นพวกมีเปลือกเขียวเข้มปนดำ จุด แข็งของหอยเชอรี่อยู่ที่การเจริญเติบโตและขยายพันธุ์อย่างรวดเร็ว หลังจากลูกหอยอายุได้ประมาณ 2-3 เดือน ก็สามารถผสมพันธุ์เพื่อเพิ่มจำนวนหอยรุ่นใหม่ได้แล้ว และในการวางไข่แต่ละครั้งก็จะได้จำนวนไข่มากถึง 3000 ฟอง ยิ่งไปกว่านั้น ไข่หอยเชอรี่ที่เป็นสีชมพูสดใสนี้ยังมีระบบป้องกันตัวเองด้วยพิษ 2 ชั้น ป้องกันไม่ให้ ไข่หอยโดนแดดเผาจนแห้งตาย ป้องกันเชื้อโรคบางชนิดได้ และยังป้องกันศัตรูที่ชอบกินไข่หอยเป็นอาหารได้อีก เคยมีทีมวิจัยของ Horacio Heras ศึกษาเกี่ยวกับสารสีชมพูในไข่หอยเชอรี่ พบว่ามันมีคุณสมบัติยับยั้งเอนไซม์ ย่อยโปรตีน ทำให้สัตว์ที่กินไข่หอยเข้าไปจะมีอาการอาหารไม่ย่อย และถ้ากินติดต่อกันก็มีผลต่อการเจริญเติบโต สายพันธุ์หอยเชอรี่ในไทย
8 แม้ว่าหอยเชอรี่ที่พบในบ้านเราจะมีลักษณะคล้ายคลึงกันหมด แต่หากสังเกตให้ดีก็จะเห็นได้ถึงความ แตกต่างของแต่ละสายพันธุ์อยู่บ้าง โดยหอยเชอรี่กลุ่มแรกๆ ที่ถูกนำมาเผยแพร่ในบ้านเรามีอยู่ 3 สายพันธุ์ ดังนี้ หอยเชอรี่พันธุ์สีทอง เปลือกหอยจะเป็นสีโทนเหลือง มีตั้งแต่สีเหลืองอ่อนไล่ไปจนถึงน้ำตาลอมส้ม ตัวที่โตเต็มวัยจะยิ่งมีสี เข้ม เนื้อหอยเป็นสีเหลืองนวล ขนาดลำตัวไม่ใหญ่มากนัก หอยเชอรี่พันธุ์สีน้ำตาล ถ้าเทียบหอยที่โตเต็มวัยแล้ว สายพันธุ์นี้จะมีขนาดใหญ่กว่าสายพันธุ์สีทองเล็กน้อย เปลือกเป็นโทนสี เข้มตั้งแต่ยังเป็นลูกหอย มองเห็นลายเส้นพาดตามแนวขวางของเปลือกเป็นชั้นๆ ชัดเจน เนื้อหอยเป็นสีน้ำตาล อมเหลือง หอยเชอรี่พันธุ์ลูกผสม สีของเปลือกหอยจะมีความผสมผสานกันระหว่างสีเหลืองอ่อน เขียวเข้ม และสีโทนน้ำตาล ไม่มี ลวดลายใดๆ และมักมีขนาดตัวใหญ่กว่าสายพันธุ์ดั้งเดิม อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ลูกผสมก็ยังมีความแตกต่างกัน ไปตามสายพันธุ์ของพ่อแม่พันธุ์ด้วย ลักษณะทั่วไปของหอยเชอรี่ หอยเชอรี่จัดเป็นหอยน้ำจืดประเภทหอยฝาเดียว มีลักษณะลำตัวเป็นทรงโค้งมนและค่อนข้างกลม คล้ายหอยโข่งนาแต่เปลือกจะบางกว่า คุณปัทมา แซ่กิม ให้ข้อมูลไว้ในวิทยานิพนธ์เรื่อง ผลของการสกัดจาก สาบเสือต่อการเปลี่ยนแปลงระดับเอนไซม์ทําลายพิษในหอยเชอรี่ว่า เปลือกหอยเชอรี่จะเรียงเป็นเกลียววนขวา โดยเริ่มจากส่วนเล็กที่สุดบริเวณก้นหอยที่เราเรียกว่ายอดเปลือก แล้วค่อยๆ วนเกลียวขยายวงให้ใหญ่ขึ้นจนไป ถึงวงปากที่เป็นจุดสิ้นสุดของเปลือกหอย บริเวณนี้ก็คือช่องเปิดที่หอยจะยื่นหัวและเท้าของมันออกมา และมีฝา ปิดซึ่งมีขนาดพอดีกับวงปากติดอยู่ด้วย เรียกว่าแผ่น operculum ฝาปิดนี้ทั้งหนาและแข็ง เป็นส่วนหนึ่งที่หอย เอาไว้ป้องกันอันตรายจากภายนอก การสืบพันธุ์และการเจริญเติบโต ถึงหอยเชอรี่จะเป็นสัตว์น้ำที่มีเปลือกแข็ง แต่การเจริญเติบโตของมันก็ไม่ได้อาศัยการลอกคราบหรือ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างร่างกายแบบ metamorphosis ลูกหอยที่ฟักออกจากไข่จะมีลักษณะเหมือนกับพ่อแม่ พันธุ์ทุกประการ แค่ขนาดเล็กกว่าหลายเท่า โดยเฉลี่ยจะมีน้ำหนักอยู่ที่ประมาณ 1.7 มิลลิกรัมเท่านั้น เมื่อเวลา ผ่านไปจึงใช้วิธีสร้างเปลือกให้วนเกลียวต่อจากของเดิม ทำให้ขนาดลำตัวใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงช่วงโตเต็ม วัยในที่สุด สามารถแยกเพศของหอยเชอรี่ได้จากขนาดลำตัวและฝาปิด operculum ตัวผู้จะมีฝาปิดที่นูนหนา มากกว่าและมีขนาดลำตัวเล็กกว่าตัวเมีย ลักษณะทั้งหมดนี้จะเห็นได้ชัดเมื่อหอยมีอายุครบ 3 เดือน ซึ่งเป็น ระยะที่เหมาะสำหรับการผสมพันธุ์ หลังจากหอยจับคู่ผสมพันธุ์กันประมาณ 1-2 วัน หอยตัวเมียจะเริ่มหาจุด วางไข่ที่อยู่เหนือน้ำ อาจเป็นตามกิ่งก้านต้นพืชหรือตามคันดินก็ได้ ไข่หอยเชอรี่สีชมพูจะเกาะรวมกันเป็นกลุ่ม ก้อนขนาดประมาณ 2-3 นิ้ว จำนวนไข่ที่ได้มีตั้งแต่ 388-3000 ฟอง มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับความอุดม สมบูรณ์ในพื้นที่หากินของหอย ช่วงแรกไข่หอยเชอรี่ทั้งหมดจะเป็นสีชมพูสดแล้วค่อยๆ ซีดจางลงก่อนจะฟักออกมาเป็นลูกหอย ระยะ นี้ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน และอัตราการฟักสูงสุดก็อยู่ที่ประมาณ 91 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนไข่ทั้งหมด เท่านั้น ลูกหอยที่พึ่งออกจากไข่จะมีลำตัวอ่อนนิ่ม ต้องรอ 2 วันถึงจะเริ่มมีเปลือกแข็งและเริ่มกินอาหารได้
9 หอยเชอรี่ที่โตเต็มวัยจะผสมพันธุ์และวางไข่ต่อเนื่องได้นาน 2-3 ปี โดยเว้นช่วงการวางไข่แต่ละครั้งประมาณ 4-10 วัน การกินอาหาร หอยเชอรี่เป็นสัตว์ที่กินได้ทั้งพืชและซากสัตว์เน่าเปื่อย แต่พืชที่ยังเป็นต้นอ่อนและพืชที่มีใบอ่อนนิ่มคือ สิ่งที่หอยเชอรี่ชื่นชอบมากเป็นพิเศษ เช่น ต้นกล้าข้าว ไข่น้ำ ผักบุ้ง แหน ต้นอ่อนผักตบชวา เป็นต้น หอยเชอรี่ จะเริ่มกัดกินจากส่วนโคนต้นพืชที่อยู่เหนือพื้นดินประมาณ 1-2 นิ้วก่อน เมื่อต้นพืชล้มลงลอยน้ำจึงไล่กัดกิน ส่วนที่เหลือ สำหรับต้นกล้าข้าว 1 ต้น หอยเชอรี่สามารถกินหมดทั้งต้นได้ภายใน 1-2 นาที คุณสมณรัตน์ จันทร์ขาว ได้กล่าวไว้ในงานวิจัยเกี่ยวกับความหลากหลายทางชีวภาพของหอยเชอรี่ว่า โดยเฉลี่ยแล้วในวันหนึ่ง หอยเชอรี่จะกินอาหารเท่ากับครึ่งหนึ่งของน้ำหนักตัว พวกมันกินตลอดเวลาทั้งกลางวันและกลางคืน หากมีแดด ร้อนจัดก็ใช้วิธีหลบใต้ร่มพืชน้ำและหากินอาหารบริเวณนั้น ส่วนกลางคืนหอยจะออกหากินได้อย่างอิสระและ กินได้ปริมาณมากกว่า การจำศีล เนื่องจากระดับความชื้นในสภาพแวดล้อมมีผลต่อการใช้ชีวิตของหอยเชอรี่อย่างมาก เมื่อพื้นที่อาศัยมี ระดับน้ำแห้งเหือดลง หอยจึงต้องเข้าสู่สภาวะจำศีลเพื่อเอาชีวิตรอด ด้วยการปิดฝาที่วงปากแล้วซุกตัวอยู่กับดิน โคลนหรือพงหญ้าที่ชุ่มชื้น และคงอยู่ในสภาวะนั้นไปจนกว่าระดับน้ำจะเพิ่มขึ้นมากพอให้สามารถออกหากินได้ ตามปกติ ตามเนื้อหาของ คุณกมลศิริ พันธนียะ ที่พูดถึงสถิติการจำศีลของหอยเชอรี่ไว้ในเอกสารเชิงวิชาการ ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีพัทลุง ระบุว่า นอกจากเนื้อดินที่อ่อนหรือแข็งและระยะเวลาที่เกิดความแห้ง แล้งจะมีผลต่อโอกาสรอดชีวิตของหอยเชอรี่แล้ว การเลือกสถานที่จำศีลก็สำคัญไม่แพ้กัน หอยที่จำศีลในดิน โคลนจะรอดชีวิตมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่การจำศีลตามพงหญ้าจะมีโอกาสรอดแค่ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทั้งนี้ก็เพราะธรรมชาติของดินโคลนจะกักเก็บความชื้นได้ยาวนานกว่านั่นเอง เหตุผลที่ควรเลี้ยงหอยเชอรี่ หอยเชอรี่ใช้ต้นทุนในการเพาะเลี้ยงน้อยมาก ทั้งเรื่องการหาพ่อแม่พันธุ์และการจัดเตรียมสถานที่ เพาะเลี้ยงหอยเชอรี่มีความทนทาน เลี้ยงง่ายและเติบโตได้รวดเร็ว แถมยังเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี หาก ดูแลดีๆ พ่อแม่พันธุ์รุ่นหนึ่งจะให้ไข่ได้มากถึง 10 ครั้งต่อเดือนความต้องการหอยเชอรี่ในท้องตลาดยังอยู่ใน ระดับสูงมาก และมีรูปแบบการซื้อขายที่หลากหลาย ตั้งแต่ไข่หอย พ่อแม่พันธุ์ อาหารสด ไปจนถึงอาหารแปร รูปเป็นหอยที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง อุดมด้วยโปรตีน วิตามินและแร่ธาตุ ทั้งยังมีไขมันค่อนข้างน้อย สามารถเริ่มต้นเพาะเลี้ยงในลักษณะของอาชีพเสริมที่ลงทุนลงแรงไม่มากนัก และต่อยอดผลผลิตจนกลายเป็น อาชีพหลักที่มั่นคงได้ การสร้างเงินจากหอยเชอรี่ สำหรับคนที่ยังนึกภาพไม่ออกว่าจะสร้างรายได้จากการเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่ในรูปแบบใดได้บ้าง และ รายได้เหล่านั้นจะคุ้มค่ากับการลงมือทำหรือไม่ นี่คือตัวอย่างที่ผู้เชี่ยวชาญจากฟาร์มหอยตาหวานได้แนะนำ เอาไว้ สามารถใช้เป็นไอเดียเพื่อพัฒนาต่อยอดเป็นแนวทางของตัวเองได้ขายไข่หอยเชอรี่เพื่อทำพันธุ์และ ขยายพันธุ์แน่นอนว่าเราไม่สามารถออกไปเก็บไข่หอยเชอรี่ตามท้องไร่ท้องนามาขายได้ เพราะมีความเสี่ยงสูง มากที่จะปนเปื้อนสารเคมีในการเกษตร ให้ทำการเพาะเลี้ยงและทยอยเก็บไข่ไปขายแทน ปกติไข่หอยเชอรี่พวง หนึ่งจะมีราคาประมาณ 20 บาท ในช่วงจำศีลที่มีไข่ออกสู่ตลาดน้อยกว่าปกติราคาก็จะพุ่งสูงขึ้นอีก เนื่องจาก
10 หอยเชอรี่ออกไข่ได้เดือนละหลายครั้ง เพียงแค่เก็บไข่ขายอย่างเดียวก็สามารถทำเงินหลักหมื่นต่อเดือนได้ไม่ ยาก เลี้ยงหอยเชอรี่ขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับฟาร์มเพาะเลี้ยงขนาดใหญ่ก็คือขายพ่อแม่พันธุ์หอยเชอรี่ เป้าหมายและวิธีการ ดูแลก็จะแตกต่างไปจากแบบแรก คือต้องบำรุงให้หอยมีความสมบูรณ์แข็งแรงและมีลักษณะสายพันธุ์ที่ดี พ่อแม่ พันธุ์คู่หนึ่งมีราคาตั้งแต่หลักสิบจนถึงหลักร้อย อาจเจรจาซื้อขายกันเป็นตัวหรือเป็นกิโลกรัมก็ได้เลี้ยงหอยเชอรี่ แปรรูปขายเป็นอาหาร ปัจจุบันหอยเชอรี่กลายเป็นวัตถุดิบในเมนูอาหารหลายชนิด ที่พบเห็นได้บ่อยคืออาหาร ประเภทยำ ส้มตำ ลาบ ปิ้ง ลวก ซึ่งหอยแปรรูปที่ขายในบ้านเราส่วนมากเป็นหอยนำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน นั่นหมายความว่ากำลังผลิตภายในประเทศยังไม่เพียงพอ เมื่อเทียบกับการบริโภคหอยเชอรี่ที่ได้รับความนิยม สูงขึ้นเรื่อยๆ ก็นับว่าเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่มองข้ามไม่ได้เลย การเลี้ยงหอยเชอรี่ เลี้ยงในวงบ่อซีเมนต์ วงบ่อซีเมนต์มักจะเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคนที่คิดจะเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่อย่างจริงจัง เนื่องจากมี มาตรฐาน แข็งแรงทนทาน และหาซื้อได้ง่ายตามท้องตลาดทั่วไป ขนาดบ่อซีเมนต์ที่เหมาะสมคือขนาดเส้นผ่าน ศูนย์กลางประมาณ 80 เซนติเมตร เมื่อได้บ่อมาแล้วให้ปรับสภาพบ่อให้พร้อมใช้งานก่อน ด้วยการแช่น้ำด่าง ทับทิมทิ้งไว้ 3-4 วัน จากนั้นแช่หยวกกล้วยสับต่ออีกประมาณ 3-7 วัน เพื่อดูดกลิ่นซีเมนต์ออกให้หมดก่อน เสร็จแล้วให้ต่อท่อ 2 จุด จุดแรกต่อด้านล่างให้เป็นท่อระบายน้ำทิ้ง อีกจุดหนึ่งต่อด้านบนให้เป็นท่อระบายน้ำ ล้น ตามด้วยใส่น้ำให้เต็มและปรับสภาพน้ำด้วย EM เพิ่มพืชน้ำตามต้องการแล้วค่อยปล่อยหอยเชอรี่ลงบ่อ โดย ปริมาณที่เหมาะสมคือประมาณ 60-100 ตัวต่อบ่อ ในส่วนของการเลี้ยงดู เราจะปล่อยให้หอยเชอรี่ดูดกิน ตะไคร้น้ำและพืชน้ำเป็นอาหาร หน้าที่ของเราแค่คอยตรวจสอบให้มีพืชน้ำในบ่ออย่างเพียงพอ ไม่น้อยและไม่ หนาแน่นจนเกินไป พร้อมกับเปลี่ยนถ่ายน้ำเป็นประจำเดือนละ 1-2 ครั้งด้วย เลี้ยงหอยเชอรี่ในวงบ่อเลี้ยงในบ่อพลาสติก บ่อพลาสติกจะใช้ต้นทุนในการจัดเตรียมน้อยกว่าบ่อซีเมนต์ แต่ความแข็งแรงทนทานก็น้อยกว่าด้วย บ่อสำเร็จรูปที่ขายตามท้องตลาดจะมีอายุโดยเฉลี่ยประมาณ 2 ปี ถ้าทำเองและเลือกใช้วัสดุคุณภาพดีก็อาจยืด อายุการใช้งานได้ยาวนานกว่านั้น โดยสถานที่ติดตั้งบ่อสามารถทำได้ทั้งบนบกและในน้ำ ขึ้นอยู่กับความสะดวก ของพื้นที่ที่เกษตรกรมีอยู่ ส่วนวิธีการเลี้ยงหอยเชอรี่ก็จะเหมือนกับการเลี้ยงในบ่อซีเมนต์ทุกประการ ทั้งวิธีให้ อาหารและการเปลี่ยนถ่ายน้ำ เลี้ยงหอยเชอรี่ในบ่อพลาสติกเลี้ยงในบ่อปูน ข้อดีของการเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่ในบ่อปูนก็คือ จัดการเรื่องความสะอาดได้ง่าย ส่งผลให้หอยเชอรี่ออก ไข่ดกตลอดทั้งปี แต่ก็มีข้อเสียตรงที่ต้องใช้ต้นทุนสูงพอสมควร โดยทำการก่อสร้างเป็นบ่อซีเมนต์ทรงสี่เหลี่ยม ขนาดใหญ่ พร้อมวางระบบระบายน้ำให้เรียบร้อย อาจจะทำเป็นหลายๆ บ่อเชื่อมต่อกันก็ได้ เหมาะสำหรับคนที่ มีประสบการณ์เลี้ยงหอยเชอรี่มาบ้างแล้ว หรือมีบ่อเก่าที่นำมาประยุกต์ใช้ได้ เลี้ยงหอยเชอรี่ในบ่อปูนเลี้ยงในบ่อดิน แน่นอนว่าการเลี้ยงในบ่อดินจะเหมาะสำหรับคนที่มีพื้นที่เพียงพอเท่านั้น จะเป็นบ่อเก่าหรือขุดบ่อ ขึ้นมาใหม่ก็ได้ แต่ก่อนปล่อยหอยเชอรี่ลงบ่อจะต้องมีการปรับสภาพด้วย EM ผสมกากน้ำตาลหรือจุลินทรีย์ สังเคราะห์แสง โดยตักสารละลายที่เลือกใช้สาดไปตามพื้นบ่อแล้วทิ้งไว้ 7 วัน จากนั้นค่อยเติมน้ำ ใส่พืชน้ำ และ
11 ปล่อยหอยเชอรี่ลงไป ข้อดีของบ่อดินคือเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่ได้ในปริมาณมาก หอยเติบโตเร็วและแข็งแรงดี เนื่องจากมีสภาพใกล้เคียงธรรมชาติที่สุด แต่ก็ทำให้จับหอยได้ยากขึ้นและมีโอกาสที่หอยจะติดพยาธิได้มากขึ้น ด้วย เลี้ยงหอยเชอรี่เลี้ยงในกระชังน้ำ ความจริงแล้วการเพาะเลี้ยงหอยเชอรี่ในกระชังน้ำ เป็นแนวทางที่ช่วยให้การเลี้ยงหอยในบ่อดิน สะดวกสบายมากขึ้น นอกจากจะช่วยให้จับหอยได้ง่ายกว่าก็ยังดูแลเรื่องความสะอาดได้ดีกว่าด้วย แต่ถ้าไม่มีบ่อ ดินเราก็สามารถติดตั้งกระชังน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติได้เหมือนกัน เลี้ยงหอยเชอรี่ในกระชังน้ำ เลี้ยงในกะละมังหรือถังพลาสติก แม้แต่การเพาะเลี้ยงในกะละมังธรรมดาๆ ก็สามารถทำรายได้หลักหมื่นให้กับผู้เพาะเลี้ยงได้เหมือนกัน แค่เลือกใช้กะละมังหรือถังพลาสติกใบใหญ่ แล้วแบ่งให้ชัดเจนว่าใบไหนใช้เป็นบ่ออนุบาล และใบไหนใช้เป็นที่ พักของพ่อแม่พันธุ์ ส่วนมากการเลี้ยงในพื้นที่จำกัดแบบนี้จะเน้นไปที่การเก็บไข่หอยเชอรี่ขายเป็นหลัก เพราะไม่ ต้องเพิ่มจำนวนหอยให้มากขึ้นจนต้องขยายพื้นที่ เลี้ยงหอยเชอรี่ในกะละมังวิธีฟักไข่หอยเชอรี่ให้รอดและแข็งแรง ก่อนอื่นต้องเข้าใจว่าอัตราการฟักไข่ของหอยเชอรี่เพาะเลี้ยงจะน้อยกว่าหอยที่อยู่ตามธรรมชาติ ในไข่ พวงหนึ่งจะฟักเป็นลูกหอยได้ประมาณ 20-40 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยวิธีการที่นิยมใช้กันจะมีอยู่ 2 รูปแบบ ดังนี้ ฟักไข่ด้วยตะแกรง หลังจากที่พวงไข่หอยเชอรี่มีอายุได้ประมาณ 14 วัน และมีสีซีดจางลงมากแล้ว ให้นำพวงไข่มาวางไว้ ในตะแกรงที่มีรูขนาดพอเหมาะ แล้วพาดตะแกรงนั้นไว้เหนือบ่ออนุบาล ลูกหอยจะเริ่มฟักแล้วร่วงผ่านช่อง ตะแกรงลงไปในบ่อ ภายในบ่อให้เติมน้ำไว้ประมาณ 10-20 เซนติเมตรพร้อมกับใส่ผักตับชวาเอาไว้ด้วย เพื่อให้ลูกหอยเกาะรากและกินตะไคร้น้ำได้ในช่วงแรก ฟักไข่ด้วยกระดาษฟาง ถ้าสามารถหากระดาษฟางสำหรับฟักไข่ได้ วิธีนี้ก็นับว่าสะดวกกว่ากรณีที่มีไข่หอยปริมาณมาก เพียง แค่นำไข่หอยที่พร้อมฟักมาไว้ในกระดาษ ทิ้งไว้ระยะหนึ่งลูกหอยจะเริ่มออกจากไข่และรวมตัวกันอยู่บน กระดาษนั้น ช่วงนี้ให้ปล่อยลูกหอยกินกระดาษฟางจนหมด ก่อนย้ายไปลงบ่ออนุบาลเพื่อให้อาหารตามปกติ ต่อไป เมนูจากหอยเชอรี่ หอยเชอรี่เป็นเนื้อสัตว์ที่กำลังได้รับความนิยมสูงขึ้น จึงมีเมนูใหม่ที่ใช้หอยเชอรี่เป็นส่วนประกอบ เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยเช่นกัน
12 บทที่ 3 วิธีดำเนินการ รายงานผลการจัดกิจกรรมตาม โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปี งบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ได้นำวงจรคุณภาพของเดมิ่ง PDCA มาใช้ในการดำเนินการ 4 ขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ ( Do) 3. ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน ( Check ) 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง ( Act) 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) 1.1 ประชุมปรึกษาร่วมกันระหว่างผู้รับผิดชอบงาน และบุคลากรครูทุกคน 1.2 จัดทำโครงการ โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง เสนอผู้บริหารเพื่อพิจารณาเห็นชอบ 1.3. เสนอโครงการอบรมฯ ที่ได้รับการอนุมัติตามขั้นตอนจากผู้บริหาร 1.4 แต่งตั้งคณะกรรมการผู้รับผิดชอบเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมแต่ละงานแต่กิจกรรมตามความ เหมาะสม 1.5 ติดต่อประสานงานนักศึกษา กศน. เพื่อเข้าอบรมตามกำหนด 1.6 ติดต่อประสานงานเตรียมความพร้อม ด้านสถานที่ 1.7 กำหนดระยะเวลาในการดำเนินการ และวิธีประเมินผล 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ ( Do) การปฏิบัติงานตามแผนงานที่วางไว้โดยมีขั้นตอนในการดำเนินงาน ดังนี้ 2.1 บันทึกเสนอผู้บริหารเพื่อขออนุญาตดำเนินการ 2.2 ดำเนินการตาม โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ในระหว่างวันที่ 9 เดือนมกราคม พ.ศ.2566 ซึ่งมีกลุ่มเป้าหมายเป็น ประชาชนทั่วไป อำเภอวาริภูมิ ให้เข้าร่วมอบรมตามกิจกรรมของโครงการที่กำหนด 3. ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน ( Check ) 3.1 ดำเนินการประเมินผลการจัดกิจกรรมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ใช้แบบประเมินความพึงพอใจ แบบประเมิน กิจกรรม และการสังเกตการร่วมกิจกรรม 3.2 ข้อมูลที่เป็นมาตราส่วนประมาณค่า ( Rating Scale ) ใช้วิธีแจกแจงความถี่ หาค่าเฉลี่ย (X) และค่าร้อยละ ทั้งในรายข้อและภาพรวมเทียบกับเกณฑ์ ดังนี้ 4.51-5.00 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับ มากที่สุด 3.51-4.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับ มาก 2.51-3.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับ ปานกลาง 1.51-2.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับ น้อย 1.00-1.50 หมายถึงมีความเหมาะสม/การปฏิบัติอยู่ในระดับ น้อยที่สุด
13 3.3 ข้อมูลที่เป็นความคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากแบบสอบถามความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดโครงการ ใช้วิธี วิเคราะห์เนื้อเรื่อง ( Content Analysis ) 3.4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. ค่าเฉลี่ย (Mean) หรือเรียกว่าค่ากลางเลขคณิต ค่าเฉลี่ย ค่ามัชฌิมเลขคณิต เป็นต้น X = x n เมื่อ X แทน ค่าเฉลี่ย X แทน ผลรวมของคะแนนทั้งหมดของกลุ่ม n แทน จำนวนของคะแนนในกลุ่ม 2) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) เป็นการวัดการกระจายที่นิยมใช้กัน มากเขียนแทนด้วย S.D. หรือ S S.D. = (X - X)2 n – 1 S.D. = nX 2 - (X)2 n(n – 1) เมื่อ S.D. แทน ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน X แทน ค่าคะแนน n แทน จำนวนคะแนนในแต่ละกลุ่ม แทน ผลรวม 3.5 รายงานผลการดำเนินงานต่อผู้บริหาร 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง ( Act) เมื่อคณะกรรมการฝ่ายประเมินผล สรุปผลการดำเนินงาน ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะกลุ่ม งานผู้รับผิดชอบจึงได้นำสารสนเทศที่ได้มาปรับปรุง พัฒนาการงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในการอบรมครั้ง ต่อไป หรือ
14 บทที่ 4 ผลการดำเนินการและวิเคราะห์ข้อมูล ผลการจัดกิจกรรมตาม โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง สามารถสรุปผลการดำเนินงาน ดังนี้ ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละ ของผู้ตอบ แบบสอบถาม จำแนกตามเพศ โดยภาพรวม จากตารางที่ 1 พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามโดยภาพรวม เป็นเพศชาย คิดเป็นร้อยละ ๒9.41 และเพศหญิง ร้อยละ 70.58 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละ อายุ แบบสอบถาม จำแนกตามช่างอายุโดยภาพรวม จากตารางที่ ๒ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามโดยภาพรวม ช่วงอายุที่มากที่สุดคือ ช่วงอายุ ๓๑ - ๔๐ ปี คิดเป็นร้อยละ 5๙ ตามด้วย ช่วงอายุ ๔๑ - ๕๐ ปีคิดเป็นร้อยละ ๒๘ และ ช่วงอายุ ๕๐ ปีขึ้นไป น้อยที่สุด คิดเป็นร้อยละ ๑๓ เพศ จำนวน ร้อยละ ชาย หญิง 5 ๑2 29.41 70.58 โดยภาพรวม 17 100 ช่างอายุ จำนวน ร้อยละ 20 - ๓๐ ปี ๓๑ - ๔๐ ปี ๔๑ - ๕๐ ปี ๕๐ ปีขึ้นไป - 10 5 2 - 59 ๒๘ ๑๓ โดยภาพรวม ๑๗ 100
15 ตารางที่ ๓ แสดงค่าร้อยละ ระดับการศึกษา แบบสอบถาม จำแนกตามระดับการศึกษา โดยภาพรวม จากตารางที่ ๓ พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามโดยภาพรวมระดับ มัธยมศึกษามีจำนวนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 52.94 และระดับประถมศึกษา น้อยสุดคิดเป็นร้อยละ 47.05 ตารางที่ ๔ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ด้านกระบวนการการดำเนินงาน ที่ รายการ X S.D. ระดับการดำเนินงาน 1. 2. 3. 4. 5. ความเหมาะสมเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ ความเหมาะสมของช่วงเวลาในการจัดโครงการ ความเหมาะสมของระยะเวลาที่จัดโครงการ ความเหมาะสมของสถานที่จัดโครงการ สื่อ- อุปกรณ์ที่ใช้เหมาะสม 4.88 4.71 4.76 4.94 4.59 0.32 0.45 0.42 0.23 0.49 มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด สรุปภาพรวมของการประเมิน 4.78 0.38 มากที่สุด จากตารางที่ ๔ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความคิดเห็นด้านกระบวนการการ ดำเนินงาน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด ( X = 4.78) เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละหน่วยการ เรียนรู้ย่อยพบว่า พบว่า ความเหมาะสมของสถานที่จัดโครงการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X = 4.94) รองลงมา ได้แก่ ความเหมาะสมเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.88) และด้านสื่อ- อุปกรณ์ที่ใช้เหมาะสม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( X =4.59) ระดับการศึกษา จำนวน ร้อยละ ประถมศึกษา มัธยมศึกษา อนุปริญญาหรือเทียบเท่า ปริญญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี 8 9 - - 47.05 52.94 - - โดยภาพรวม ๑๗ 100
16 ตารางที่ ๕ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ด้านวิทยากร/กระบวนการถ่ายทอดความรู้ ที่ รายการ X S.D. ระดับการดำเนินงาน 1. 2. 3. วิทยากรใช้เทคนิคการนำเสนอน่าสนใจ วิทยากรสามารถทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มี ความรู้/ความเข้าใจ/ปฏิบัติได้ วิทยากร/ผู้ช่วยวิทยากรให้คำแนะนำช่วยเหลือ 4.59 4.65 4.71 0.49 0.47 0.45 มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด สรุปภาพรวมของการประเมิน 4.65 0.47 มากที่สุด จากตารางที่ ๕ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความคิดเห็นต่อโครงการ ด้านวิทยากร/ กระบวนการถ่ายทอดความรู้โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด ( X = 4.65) เมื่อพิจารณา รายละเอียดในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ย่อยพบว่า พบว่า ด้านวิทยากร/ผู้ช่วยวิทยากรให้คำแนะนำช่วยเหลือ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X = 4.71) รองลงมาได้แก่ ด้านวิทยากรสามารถทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีความรู้/ความ เข้าใจ/ปฏิบัติได้( X = 4.65) และวิทยากรใช้เทคนิคการนำเสนอน่าสนใจ มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ ( X = 4.59) ตารางที่ ๖ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ด้านเนื้อหา/หลักสูตร ที่ รายการ X S.D. ระดับกาดำเนินงาน 1. 2. 3. โครงการ/กิจกรรมในหลักสูตรเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้ และพัฒนาความสามารถของท่านหรือไม่ เนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ท่านต้องการพัฒนา ภาคปฏิบัติมีความเหมาะสม 4.94 4.59 4.53 0.23 0.49 0.49 มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด สรุปภาพรวมของการประเมิน 4.69 0.40 มากที่สุด จากตารางที่ ๖ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความคิดเห็นต่อโครงการด้านเนื้อหา/ หลักสูตร โดยภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด ( X = 4.69) เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละ หน่วยการเรียนรู้ย่อยพบว่า พบว่า โครงการ/กิจกรรมในหลักสูตรเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้และพัฒนา ความสามารถของท่านหรือไม่ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X = 4.94) รองลงมาได้แก่ เนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ท่าน ต้องการพัฒนา มีค่าเฉลี่ย ( X =4.59) และภาคปฏิบัติมีความเหมาะสม มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( X = 4.53) ตารางที่ ๗ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ด้านการนำความรู้ไปใช้/ความพึงพอใจต่อโครงการ ที่ รายการ X S.D. ระดับการดำเนินงาน 1. 2. 3. 4. ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ ความรู้ที่ได้รับนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน สามารถเพิ่มความรู้ปฏิบัติงาน ท่านมีความพึงพอใจต่อโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับใด 4.88 4.82 4.94 4.59 0.32 0.38 0.23 0.49 มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด มากที่สุด สรุปภาพรวมของการประเมิน 4.81 0.35 มากที่สุด จากตารางที่ ๗ แสดงค่าเฉลี่ย ค่าความเบี่ยงเบนมาตรฐาน ความคิดเห็นต่อโครงการโดยภาพรวม มี ค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ มากที่สุด ( X = 4.81) เมื่อพิจารณารายละเอียดในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ย่อยพบว่า
17 พบว่า สามารถเพิ่มความรู้ปฏิบัติงาน มีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( X = 4.94) รองลงมาได้แก่ ความรู้ที่ได้รับจากการเข้า ร่วมโครงการ มีค่าเฉลี่ย ( X = 4.88) และท่านมีความพึงพอใจต่อโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับใด มี ค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( X = 4.59)
18 บทที่ 5 สรุปผล และข้อเสนอแนะ วัตถุประสงค์ของการประเมินโครงการ ๑. เพื่อนนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ในด้านบริหารจัดการ การจัด กิจกรรม และการจัดการเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้ ๒. เพื่อนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์และบูรณาการสู่การเรียนการสอน และ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๓. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน ได้ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ๔. เพื่อเผยแพร่ผลงานประชาชน จากการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ เป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนทั่วไป จำนวน......1๗..........คน เชิงคุณภาพ ประชาชนทั่วไปอำเภอวาริชภูมิ ที่เข้าร่วมโครงการ ร้อยละ ๘๐ ผู้เข้ารร่วมโครงการมีความรู้ในเรื่อง การอบรมการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง รูปแบบการสรุปโครงการ การสรุปโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ การ เลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ได้นำวงจรคุณภาพของเดมิ่ง PDCA มาใช้ในการดำเนินการ 4 ขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นตอนการร่วมกันวางแผน (Plan) 2. ขั้นตอนการร่วมกันปฏิบัติ ( Do) 3. ขั้นตอนการร่วมกันประเมิน ( Check ) 4. ขั้นตอนการร่วมปรับปรุง ( Act) สรุปผลการประเมินโครงการ ผลการประเมิน โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง เข้าร่วมโครงการทั้งสิ้นจำนวน ๑๗ คน เพศหญิงมากกว่าเพศชาย ร้อยละ 70.58 ช่วงอายุที่มากที่สุดคือ ๓๑ - ๔๐ ปีคิดเป็นร้อยละ ๕๙ ระดับการศึกษามากที่สุดคือระดับมัธยมศึกษาคิดเป็น ร้อยละ 52.94 โดยรวมของทุกข้อรายการมีค่าเฉลี่ย 4.73 อยู่ในระดับ มากที่สุด รายละเอียดแยกย่อย ด้าน การนำความรู้ไปใช้/ความพึงพอใจต่อโครงการ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด 4.81 อยู่ในระดับ มากที่สุด รองลงมาคือ ด้าน กระบวนการการดำเนินงาน มีค่าเฉลี่ย 4.78 อยู่ในระดับ มากที่สุด ด้านเนื้อหา/หลักสูตร มีค่าเฉลี่ย 4.69 อยู่ ในระดับมากที่สุดและ ด้านวิทยากร/กระบวนการถ่ายทอดความรู้ ที่ค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ มีค่าเฉลี่ย 4.65 อยู่ใน ระดับ มากที่สุด อภิปรายผล สรุปโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยง หอยเชอรี่สีทอง ดำเนินตามทุกขั้นตอนอย่างเป็นระบบ ผลการเป็นไปวัตถุประสงค์ที่กำหนด คือ กศน.อำเภอ วาริชภูมิ ได้ดำเนินการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 256๖ โดยดำเนินการ แล้วเสร็จและสรุปรายงานต่อผู้บริหารทั้งสิ้น ดังนี้
19 การปฏิบัติงานตามแผนงานที่วางไว้โดยมีขั้นตอนในการดำเนินงาน คือ การบันทึกเสนอผู้บริหารเพื่อ ขออนุมัติโครงการดำเนินการ พบว่า ได้รับการอนุมัติให้ดำเนินการ และผลการดำเนินการตามโครงการเรียนรู้ ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง โดยมี กลุ่มเป้าหมายเป็นประชาชนทั่วไป พบว่า ประชาชนทั่วไปอำเภอวาริชภูมิ ที่เข้าร่วมโครงการจัดการศึกษาเพื่อ พัฒนาสังคมและชุมชนได้มีประสบการณ์ที่หลากหลาย สามารถนำความรู้ไปต่อยอดได้ ปัญหา/ข้อเสนอแนะ 1. อยากลงไปดูพื้นที่เลี้ยงจริง 2. อยากให้มีหลักสูตร การปลูกทุเรียน
20 บรรณานุกรม สมหวัง พิธิยานุวัฒน์ . (2535). วิธีทางการประเมินทางการศึกษา. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ไพศาล หวังพานิช. การจัดการผลการศึกษา. กรุงเทพฯ : กรมอาชีวศึกษา, 2523. สุวิมล ติรกานันท์. (2543). การประเมินโครงการ:แนวทางสู่การปฏิบัติ. กรุงเทพมหานคร : คณะ ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคําแหง. ประชุม รอดประเสริฐ. 2539. นโยบายและการวางแผน: หลักการและทฤษฎี. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: เนติกุลการพิมพ์.
21 ภาคผนวก - โครงการ - แบบสอบถามความคิดเห็น - ภาพกิจกรรม - คำรับรองคณะกรรมการสถานศึ กษา
22 โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖การเลี้ยงหอยเชอรี่สี ทอง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ................................................................. ๑ ชื่อโครงการ เรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ๒ ความสอดคล้องกับนโยบาย 1. ด้านการจัดการเรียนรู้คุณภาพ 1.1 น้อมนำพระบรมราโชบายสู่การปฏิบัติรวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการดำเนินงานโครงการ อัน เนื่องมาจากพระราชดำริทุกโครงการ และโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ ๓.หลักการและเหตุผล ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นวิถีการดำรงชีวิตในการใช้คุณธรรมนำความรู้เพื่อพัฒนาตนเอง ครอบครัว ชุมชน และประเทศชาติ ให้ก้าวหน้าไปพร้อมกับความสมดุลและมั่นคง เป็นหลักปฏิบัติที่ส่งเสริมการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติสุข ระหว่างคน กับคน ชุมชนกับธรรมชาติ และคนกับวัฒนธรรม การดำเนินชีวิตโดยคำนึงความพอดี มีเหตุผล และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับครอบครัวเพื่อรับความเปลี่ยนแปลงอย่างมีความรู้ รอบคอบ และอยู่บน พื้นฐาน ของคุณธรรม เป็นหัวใจสำคัญในการบริหารจัดการของสถานศึกษาและการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อให้ทุกคนใน องค์กรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ได้แก่ผู้ปกครอง ชุมชน ท้องถิ่น ได้สามารถน้อมนำหลักการของ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงให้ไปใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติและอยู่ในทุกวิถีการดำเนินงานของทุกคน การพึ่งพา ตัวเองได้เป็นเพียงส่วนเริ่มต้นของการพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียง โดยเมื่อทุกคนสามารถดูแลตัวเอง และ ครอบครัวได้แล้ว ขั้นต่อไปอาจทำการพัฒนาธุรกิจ โดยมีการรวมกลุ่มกันในวิชาชีพเดียวกัน เพื่อแลกเปลี่ยน ความรู้และให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ในการรวมกลุ่มกันนั้น ไม่จำกัดเฉพาะการรวมกลุ่มของชาวบ้าน เกษตรกร ในรูปของสหกรณ์ การทำงานในเมืองก็สามารถมีการรวมกลุ่มกันได้ เช่น การแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ในการทำธุรกิจของกลุ่มอุตสาหกรรมเดียวกัน การแลกเปลี่ยนแนวคิดการลงทุน เพื่อเป็นการต่อ ยอดความรู้ รวมไปจนถึงการแบ่งปันความช่วยเหลือส่งกลับคืนสู่สังคม ไปสู่กลุ่มที่ยังต้องการความช่วยเหลืออยู่ เช่น กิจกรรมจิตอาสา เพื่อสร้างสังคมที่เข้มแข็งและอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขจะเห็นได้ว่า แนวคิดเศรษฐกิจ พอเพียงนั้น เป็นแนวคิดที่ตั้งอยู่บนความไม่ประมาท ด้วยการใช้ความรู้และคุณธรรม เพื่อให้เกิดการพึ่งพา ตัวเองได้ และเผื่อแผ่ไปถึงสังคม ซึ่งเราสามารถนำหลักการปฏิบัติไปปรับใช้ได้ทั้งในชีวิตการทำงาน และการ ดำรงชีวิตครับเพื่อเป็นการเผยแพร่กิจกรรม การดำเนินงานของโรงเรียนที่เกี่ยวข้องกับการน้อมนำหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงของทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ได้จัดการเรียนรู้แบบฐานบูรณา การสู่วิถีชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมมีความรู้ความเข้าใจ เพื่อ นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้ใน ชีวิต เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์แก่ เยาวชน ชุมชน สังคม และประเทศต่อไป ๔. วัตถุประสงค์ ๑. เพื่อนนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงสู่สถานศึกษาอย่างเป็นรูปธรรม ในด้านบริหารจัดการ การจัดกิจกรรม และการจัดการเรียนรู้ในแหล่งเรียนรู้
23 ๒.เพื่อนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์และบูรณาการสู่การเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนา ผู้เรียน ๓. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน ได้ใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นหลักในการดำเนินชีวิต ๔. เพื่อเผยแพร่ผลงานประชาชน จากการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ๕ ค่าเป้าหมาย เชิงปริมาณ ประชาชนในเขตอำเภอวาริชภูมิที่เข้าร่วมโครงการ ๑๕ คน เชิงคุณภาพ ร้อยละ ๘๐ ผู้เข้ารร่วมโครงการมีความรู้ในเรื่องการอบรมการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ๖ วิธีดำเนินการ กิจกรรมหลัก วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย พื้นที่ดำเนินการ ระยะเวลา งบประมาณ โครงการเรียนรู้ตาม หลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ การเลี้ยงหอยเชอรี่ สีทอง ๑. เพื่อนนำหลัก เศรษฐกิจพอเพียงสู่ สถานศึกษาอย่าง เป็นรูปธรรมในด้าน บริหารจัดการ การ จัดกิจกรรม และ การจัดการเรียนรู้ ในสถานศึกษา ๒.เพื่อนำหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจ พอเพียงมา ประยุกต์และบูรณา การสู่การเรียนการ สอน และกิจกรรม พัฒนาผู้เรียน ๑๕ คน สวน ผอ.วีรพงษ์ เจริญไชย บ้านธาตุ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ๙ มกราคม ๒๕๖๕ ๒,๐๐๐บาท
24 ๗ วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ การเบิกจ่ายจากเงินงบประมาณประจำปี ๒๕๖๖ แผนงาน พื้นฐานการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ ผลผลิตที่ ๔ ผู้รับบริการการศึกษานอกระบบ กิจกรรมจัดการศึกษานอกระบบ งบดำเนินงาน ค่ากิจกรรมจัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ตั้งแต่เดือน ตุลาคม ๒๕๖๕ - เดือนมีนาคม ๒๕๖๖ ) รหัสงบประมาณ ๒๐๐๐๒๓๕๐๐๐๔๐๐๒๐๐๐๐๐๐ แหล่งของเงิน ๖๖๑๑๒๐๐ โดยประมาณค่าใช้จ่ายดังนี้ ๑ ค่าอาหารหัวละ ๖๐ บาทx จำนวน ๑๕ คน x ๑ มื้อ รวมเป็นเงิน ๙๐๐ บาท ๒ ค่าอาหารว่างหัวละ ๒๐ บาท x จำนวน ๑๕ คน x ๑ มื้อ รวมเป็นเงิน ๓๐๐ บาท ๓ ค่าวิทยากร ๑ คน ช.มละ ๒๐๐ บาท x ๔ ชั่วโมง รวมเป็นเงิน ๘๐๐ บาท รวมเป็นเงิน ๒,๐๐๐ บาท รวมเป็น สองพันบาทถ้วน หมายเหตุ ขอถัวจ่ายตามที่จ่ายจริงทุกประการ ๘.แผนการใช้จ่ายงบประมาณ กิจกรรมหลัก ไตรมาสที่ ๑ ( ตค-ธค ๖๕ ) ไตรมาสที่ ๒ ( มค-มีค ๖๖ ) ไตรมาสที่ ๓ ( เมย-มิย ๖๖ ) ไตรมาสที่ ๔ (กค-กย ๖๖ ) -ค่าอาหาร -ค่าอาหารว่าง -ค่าวิทยากร ๙๐๐ บาท ๓๐๐ บาท ๘๐๐ บาท - - ๒,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงิน (สองพันบาทถ้วน ) หมายเหตุ งบประมาณ ถัวจ่ายตามความเป็นจริง ๘ หน่วยงานที่รับผิดชอบ ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ๙ เครือข่าย -เทศบาลตำบลวาริชภูมิ -ประชาชนชาวอำเภอวาริชภูมิ ๑๐ โครงการที่เกี่ยวข้อง -โครงการการศึกษาพัฒนาสังคมและชุมชน -โครงการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต ๑๑ ดัชนีชี้วัดความสำเร็จ ตัวชี้ผลผลิต ร้อยละ ๘๐ ของประชาชนที่อบรม โครงการการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ตัวชี่วัดผลลัพธ์ ผู้เข้ารับการศึกษาดูงานมีความรู้ที่สามารถนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเองและสังคมต่อไป ๑๒ ผลที่คาดว่าจะได้รับ ร้อยละ ๘๐ มีความรู้ความเข้าใจไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ ๑๓ การวัดและประเมินผล
25 -สังเกต -สุ่มตัวอย่าง สอบถาม ลงชื่อ...............................................ผู้เขียนและผู้เสนอโครงการ ( นายเจริญศิลป์ ทองธิราช) ครูอาสาสมัคร ลงชื่อ................................................ผู้เห็นชอบโครงการ ( นางสาวกฤตยาพร วรเชษฐ์ ) ครูผู้ช่วย ลงชื่อ..................................................ผู้อนุมัติโครงการ ( นางจีระนันต์ เสนเผือก ) ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอวาริชภูมิ
26 ตารางการอบรมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ณ สวนผอ.วีรพงษ์ เจริญไชย บ้านธาตุ ตำบลวาริชภูมิ อำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร วันที่ ๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ๐๗.๐๐-๐๙.๐๐ น. ๐๙.๐๐-๑๒.๐๐ น. ๑๒.๐๐-๑๓.๐๐ น. ๑๓.๐๐-๑๗.๐๐ น. ๑๗.๐๐ น. ลงทะเบียนผู้เข้า อบรม -ประธานในพิธีกล่าว เปิดการอบรม ประธานบรรยายพิเศษ วิทยากรบรรยาย นายวีรพงษ์ เจริญไชย ความเป็นมาการของ หอยเชอรี่ -การเลี้ยงหอยเชอรี่สี ทอง -การให้อาหาร -ลักษณะของน้ำ -พืชที่ปล่อยในท่อ หรือ บ่อซีเมนต์ พักรับประทาน อาหารกลางวัน วิทยากรบรรยาย -การเลี้ยงหอยเชอรี่ผ้า ตาข่ายเขียว -แบ่งกลุ่มอภิปราย -การจัดจำหน่ายหอย เชอรี่ -สรุปการอบรม ประธานกล่าวปิด การอบรม เดินทางกลับกศน. อำเภอวาริชภูมิ หมายเหตุ ตารางนี้อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
27 แบบสอบถามความพึงพอใจ โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง แบบสอบถามนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจความพึงพอใจ โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพและข้อมูลพื้นฐานของผู้ตอบแบบสอบถาม คำชี้แจง โปรดให้รายละเอียดที่เกี่ยวกับตัวท่าน โดยเขียนเครื่องหมาย ลงใน ( ) หน้าข้อความตามความเป็นจริง เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง อายุ ( ) 20 – ๓๐ ปี ( ) ๓๑ – ๔๐ ปี ( ) ๔๑ - ๕๐ ปี ( ) ๕๐ ปีขึ้นไป การศึกษา ( ) ประถมศึกษา ( ) มัธยมศึกษา ( ) อนุปริญญาหรือเทียบเท่า ( ) ปริญญาตรี ( ) สูงกว่าปริญญาตรี ตอนที่ 2 การประเมินความพึงพอใจ คำชี้แจง เขียนเครื่องหมาย ลงในช่องระดับความพึงพอใจตามความเป็นจริง หัวข้อประเมิน ระดับความพึงพอใจ มากที่สุด 5 มาก 4 ปานกลาง 3 น้อย 2 น้อยที่สุด 1 ด้านกระบวนการการดำเนินงาน 1. ความเหมาะสมเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ 2. ความเหมาะสมของช่วงเวลาในการจัดโครงการ 3. ความเหมาะสมของระยะเวลาที่จัดโครงการ 4. ความเหมาะสมของสถานที่จัดโครงการ 5. สื่อ- อุปกรณ์ที่ใช้เหมาะสม ด้านวิทยากร/กระบวนการถ่ายทอดความรู้ 1. วิทยากรใช้เทคนิคการนำเสนอน่าสนใจ 2. วิทยากรสามารถทำให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีความรู้/ความเข้าใจ/ปฏิบัติได้ 3. วิทยากร/ผู้ช่วยวิทยากรให้คำแนะนำช่วยเหลือ ด้านเนื้อหา/หลักสูตร 1. โครงการ/กิจกรรมในหลักสูตรเอื้ออำนวยต่อการเรียนรู้และพัฒนา ความสามารถของท่านหรือไม่ 2. เนื้อหาสอดคล้องกับสิ่งที่ท่านต้องการพัฒนา 3. ภาคปฏิบัติมีความเหมาะสม ด้านการนำความรู้ไปใช้/ความพึงพอใจต่อโครงการ 1. ความรู้ที่ได้รับจากการเข้าร่วมโครงการ 2. ความรู้ที่ได้รับนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน 3. สามารถเพิ่มความรู้ปฏิบัติงาน 4. องค์กรชุมชนท่านมีความพึงพอใจต่อโครงการในภาพรวม อยู่ในระดับใด ข้อเสนอแนะ…………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
28 ภาพกิจกรรมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ประชุมวางแผนก่อนการดำเนินงาน
29 โครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ นางจีระนันต์ เสนเผือก ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอวาริชภูมิ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการ
30 ภาพกิจกรรมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ นายวีระพงษ์ เจริยไชย เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรรี่สีทอง
31 ภาพกิจกรรมโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ เรื่อง การเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ นายวีระพงษ์ เจริยไชย เป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรรี่สีทอง
32 คำรับรองของคณะกรรมการสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ ****************** อาศัยอำนาจหน้าที่ตาม เจตนารมณ์ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช๒๕๕๐ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ พระราชบัญญัติ ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ และพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ กำหนดให้คณะกรรมการสถานศึกษา มีบทบาทหน้าที่ ในการมีส่วนร่วม จัดทำนโยบาย แผนพัฒนาการศึกษาของสถานศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิได้มี ส่วนร่วมในการจัดทำเอกสารการโครงการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ เรื่องการเลี้ยงหอยเชอรี่สีทอง และขอลงนามรับรองการใช้ เอกสารฉบับนี้ ลงชื่อ (นายวีรพงษ์ เจริญไชย) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษา ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอวาริชภูมิ