The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ค้นคว้าเพิ่มเติมเรื่อง benchmarking
ส่ง ดร.เชาวนี แก้วมโน โดย นายปิยะวัฒน์ รักราวี 6419050006

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by krupiyawat, 2021-11-21 08:09:02

ปิยะวัฒน์ 006 benchmarking

ค้นคว้าเพิ่มเติมเรื่อง benchmarking
ส่ง ดร.เชาวนี แก้วมโน โดย นายปิยะวัฒน์ รักราวี 6419050006

ปั จ จั ย ต่ า ง ๆ ที่ มี ผ ล ต่ อ
การทำ Benchmarking

7. ความสำเร็จหรือล้มเหลวของการทำ Benchmarking
ย่อมขึ้ นอยู่กับผู้บริหารระดับสูงขององค์กรต่างๆ

โดยผู้บริหารต้องทำการสนั บสนุนในการสร้างความเข้าใจและการสร้างความตระหนั กในความ
สำคัญของการทำ Benchmarking ให้กับพนั กงานในองค์กร นอกจากนี้ ผู้บริหารต้องมีคุณสมบัติต่างๆ ดังนี้

- แสดงถึงความผูกพันและเชื่อมั่นในแนวคิดเกี่ยวกับการทำ Benchmarking โดยสนั บสนุนผู้
บริหารระดับล่างและพนั กงานทั่วๆ ไปในการทำ Benchmark เพื่อให้เกิดการพัฒนาขององค์กร
อย่างต่อเนื่ อง ผู้บริหารขององค์กรจะต้องแสดงออกถึงการสนั บสนุนต่อการทำ Benchmarking และ
ยอมรับในสิ่ งต่างๆ ที่จะเกิด ขึ้นตั้งแต่ปัญหาต่าง ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้น ต้นทุนที่อาจจะมี ผลตอบแทนที่
อาจจะได้รับ การตัดสิ นใจต่างๆ ที่ผู้บริหารจะต้องทำ

- รวมเอาการทำ Benchmarking ให้เข้าไปอยู่ในแผนขององค์กร ซึ่งรวมทั้ง
กระบวนการ และทั้งกิจกรรมต่างๆ ที่ต้องทำ

- สนั บสนุนให้ผู้บริหารและพนั กงานได้รับการฝึกอบรมที่ถูกต้องเกี่ยวกับการทำ Benchmarking
- จัดตั้งทีมผู้บริหารขึ้นมาเพื่อทำหน้ าที่ในการริเริ่มและดูแลการทำ Benchmarking
- พยายามสนั บสนุนให้เกิดความตระหนั กถึงความสำคัญในการทำ Benchmarking ทั่วทั้ง
องค์กรเพื่อให้การทำ Benchmark เป็นที่ยอมรับของพนั กงานระดับต่างๆ ผู้บริหารจะต้อง สร้างสภาพ
แวดล้อมในการทำงานและผลตอบแทนในอันที่จะดึงดูดให้พนั กงานใช้และ ปฎิบัติตามBenchmarking

จรรยาบรรณของการทำ
BENCHMARKING

(CODE OF CONDUCT)

APQC ซึ่งเป็นหน่วยงานของประเทศสหรัฐอเมริกา
ที่ทำหน้ าที่รณรงค์ส่ งเสริมการเพิ่มผลผลิตและคุณภาพ
รวมทั้งกิจกรรมการทำ BENCHMARKING ได้บัญญัติจรรยาบรรณ
ของการทำ BENCHMARKING ขึ้นมา
ประกอบด้วย 8 หัวข้อดังนี้ คือ

วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก

1.หลักการด้านกฎหมาย (Principle of Legality)

การกระทำ Benchmarking ร่วมกัน หากมีข้อสงสัยว่าการดำเนินการจะถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
ให้ปรึกษาที่ปรึกษาด้านกฎหมายก่อน โดยจะต้องหลีกเลี่ยงการสนทนาหรือกิจกรรมใดๆ ที่อาจนำไปสู่
ผลประโยชน์จากการกีดกันทางธุรกิจการวางแผนการตลาด และ/หรือการหาลูกค้า การกำหนดราคา
การตกลงซื้อขายการประมูลหรือการให้สินบน และไม่แลกเปลี่ยนข้อมูลในเรื่องต้นทุนกับคู่แข่งหากต้นทุน
ดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการกำหนดราคา นอกจากนี้ต้องละเว้นการใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมในการได้มา
ซึ่งความลับทางธุรกิจซึ่งรวมทั้งการเปิดเผยความลับ หรือการทำให้ความลับถูกเปิดเผยและจะต้อง
ไม่เปิดเผยหรือใช้ความลับทางธุรกิจที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องด้วย และในฐานะที่ปรึกษาหรือองค์กรที่ทำ
Benchmarking จะต้องปกปิดแหล่งที่มาของข้อมูลก่อนจึงจะสามารถนำข้อมูลที่ได้จาก
การทำ Benchmarking เปิดเผยให้ผู้อื่นทราบได้

2.หลักการด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล
(Principle of Exchange)

การที่จะสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้นั้นทุกๆ องค์กรที่เข้าร่วมจะต้องมีความ
เต็มใจในการแลกเปลี่ยนข้อมูลในรู ปแบบและชนิ ดเดียวกันกับที่ขอจากคู่เปรียบเทียบ
ต้องมีการชี้แจงและสื่อวัตถุประสงค์และความคาดหวังให้ชัดเจนตั้งแต่ต้นเพื่อไม่ให้เกิด
ความเข้าใจผิดและเพื่อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันในการแลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งนี้จะต้อง
แลกเปลี่ยนข้อมูลที่เป็นจริงและสมบูรณ์

วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก
วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก

3.หลักการด้านความลับ (Principle of Confidentiality)

องค์กรที่ทำ Benchmarking ร่วมกันจะต้องรักษาข้อมูลที่ได้รับจากการทำ
Benchmarking เป็นความลับและจะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลที่ได้รับให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำ
Benchmarking นั้นๆ ก่อนได้รับการยินยอมจากองค์กรที่ให้ข้อมูล และต้องไม่เปิดเผยชื่อของ
องค์กรที่ทำ Benchmarking ด้วยให้ผู้อื่นทราบโดยไม่ได้รับอนุญาตจากองค์กรนั้นๆ ก่อน

4.หลักการด้านการใช้ข้อมูล (Principle of Lese)

การจะใช้ข้อมูลที่ได้จากการทำ Benchmarking ร่วมกันได้นั้นจะต้องใช้ข้อมูลที่กำหนด
ตามวัตถุประสงค์ที่แจ้งแก่คู่เปรียบเทียบไว้ ซึ่งจะต้องไม่ละเมิดข้อมูลที่ไม่ได้ตกลงกันไว้ก่อน
ล่วงหน้า โดยการใช้หรือสื่อข้อมูลหรือวิธีปฏิบัติที่มีชื่อคู่เปรียบเทียบอยู่ด้วยนั้นจะต้องได้รับ
อนุญาตจากคู่เปรียบเทียบก่อน และนอกจากนี้นั้นไม่ควรนำรายชื่อบุคคลที่ติดต่อหรือข้อมูล
ในการติดต่อที่ได้จาก International Benchmarking Clearinghouse ไปใช้
เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากการทำ Benchmarking และสร้างเครือข่าย

วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก
วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก

5.หลักการด้านการติดต่อ (Principle of Contact)

ในการติดต่อร่วมกันระหว่างองค์กรจะต้องเคารพวัฒนธรรมองค์กรของคู่เปรียบ
เทียบและดำเนินการตามขั้นตอนที่ตกลงร่วมกัน หรือติดต่อผ่านบุคคล/ช่องทางที่คู่เปรียบ
เทียบกำหนดให้ถ้าคู่เปรียบเทียบต้องการส่วนในกรณีที่ต้องการเปลี่ยนผู้รับผิดชอบในการ
ติดต่อจะต้องได้รับการยินยอมจากคู่เปรียบเทียบด้วยนอกจากนี้ จะต้องไม่เปิดเผยชื่อของ
บุคคลที่ติดต่อก่อนได้รับการยินยอมจากบุคคลดังกล่าวและหลีกเลี่ยงการเปิดเผยชื่อบุคคล
ที่ติดต่อในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลดังกล่าว

6.หลักการด้านการเตรียมตัว (Principle of Preparation)



การทำงานร่วมกันระหว่างองค์กรนั้ นจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนติดต่อกับคู่เปรียบ
เทียบเพื่อแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการทำ Benchmarking อย่างมีประสิทธิภาพและ
ประสิทธิผล และควรเตรียมตัวให้พร้อมล่วงหน้าก่อนแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อจะได้ใช้เวลาของคู่
เปรียบเทียบอย่างคุ้มค่าที่สุดและไม่ให้เสียเวลาสำหรับองค์กรณ์ที่ร่วมทำงานด้วย นอกจากนี้
ควรส่งกำหนดการและคำถามให้คู่เปรียบเทียบก่อนการไปเยี่ยมชมเพื่อช่วยให้คู่เปรียบเทียบมี
เวลาเตรียมตัว

วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก
วิชาภาษาอังกฤษ | โรงเรียนประถมบางกอก

7.หลักการด้านการทำให้สำเร็จ (Principle of Completion)

การจะทำให้การทำ benchmarking ประสบความสำเร็จได้นั้น จะต้องปฏิบัติตามข้อ
ตกลงที่ทำกับคู่เปรียบเทียบให้ทันเวลา เพื่อให้ผลที่ออกมาทันต่อการพัฒนาด้านต่างๆ
ต่อองค์กร และทำให้เสร็จเรียบร้อยตามเวลาที่ตกลงร่วมกับคู่เปรียบเทียบ

8.หลักการด้านความเข้าใจและการปฏิบัติ
(Principle of Understanding and Action)

การทำงานร่วมกันนั้ นจะต้องเข้าใจถึงสิ่ งที่คู่เปรียบเทียบต้องการให้เราปฏิบัติต่อเขาและ
เขาปฏิบัติต่อเราโดยเราปฏิบัติต่อคู่เปรียบเทียบตามที่เขาต้องการ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาต่างๆ
ตามมาภายหลัง ทำให้งานออกมาไม่เสร็จตามระยะเวลาและข้อตกลงที่กำหนดไว้ร่วมกัน และ
จะต้องทำความเข้าใจและใช้ข้อมูลตามวิธีการที่คู่เปรียบเทียบต้องการให้ใช้

สิ่ งที่ต้องระวังในการทำ
Benchmarking.

เพราะอาจก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ยอมรับเกิดขึ้นภายในองค์กร
บางคนอาจจะรู้สึกว่าการทำ Benchmarkingนั้น เป็นเรื่องที่มีความซับซ้อนเกินกว่าจะทำความเข้าใจได้
ขณะที่บางองค์กรมักจะหาข้ออ้างให้กับตนเองว่า
"องค์กรของตนนั้นมีความเป็นเลิศอยู่แล้ว ทั้งด้านกระบวนการ และผลการดำเนินงาน
หรือมักจะอ้างว่ามีข้อมูลน้ อยไปในอุตสาหกรรมที่จะทำการเปรียบเทียบได้"
ผู้บริหารพึงระลึกอยู่เสมอว่า Benchmarking เป็นกระบวนการที่ไม่มีวันจบสิ้น
เป็นกระบวนการที่ช่วยในการพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่ องท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงต่างๆ
เป็นการปกป้องผลประโยชน์ ของผู้ถือหุ้น

ถ้าจะถามคำถามกับผู้บริหารในองค์กร

ว่าทำไมถึงต้องมีการทำ Benchmarking

คำตอบ : ต้องทำ
เนื่องจากเป็นการหาผู้ที่เก่งหรือดีที่สุด ศึกษาและเรียนรู้จากพวกเขาและนำสิ่งที่
ได้เรียนรู้ไปประยุกต์ปฎิบัติภายในองค์กรของตนเอง ซึ่งเป็นความคิดถูกต้อง
และชอบด้วยเหตุผลที่ผู้บริหารที่มีความคิดทั้งหลายพึงกระทำ เช่นเดียวกับสุภาษิต
โบราณที่ว่าคนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้ ความรู้ที่สะสมไว้
ขององค์กรต่างๆ หลายๆ แห่งจะสามารถช่วยในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ดีกว่า
การแก้ปัญหาโดยองค์กรเดียว องค์กรอื่นหลายแห่งได้พยายามที่จะแก้ไขปัญหา
หรือปรับปรุงการดำเนินงานต่างๆ ให้ดีขึ้น

คำวิพากษ์วิจารณ์ จากการทำ
Benchmarking

1. Spying ผู้บริหารบางคนมีความเชื่อว่าการทำ Benchmarking
คือการทำงานจารกรรมชนิดหนึ่ง ซึ่งเข้าไปมีความเกี่ยวข้อง
กับเรื่องของศีลธรรมและจริยธรรมของผู้บริหาร

2. Copycatting หรือการลอกเลียนแบบ ซึ่งเป็นการลอกเลียนแบบความคิด
สร้างสรรของผู้อื่น ทำให้ความสามารถในการคิดสร้างสรรของบริษัทเองลดลง
ซึ่งความจริงแล้วการทำ Benchmark ไม่ได้มีจุดมุ่งหมายให้มีการลอกเลียนแบบ
กันเกิดขึ้นแต่เป็นวิธีการช่วยให้ผู้บริหารสามารถเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
3. Not Invented Here ซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นต่อการไม่ยอบรับในสิ่งต่างๆที่
ไม่ได้เกิดขึ้นจากภายในองค์กรเอง นอกจากนี้ผู้บริหารอาจจะมีความเกรงกลัว
ว่าถ้าสิ่งที่ผู้อื่นทำสำเร็จไม่สามารถนำมาปฎิบัติได้ในองค์กรของตนแสดงว่า
องค์กรของตนเองมีความแตกต่างจากผู้อื่น

สาเหตุที่สำคัญที่ทำให้การทำ Bechnmarking

เป็นนิ ยมอย่างกว้างขวาง ได้แก่..

เป็นวิธีการที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มพูนความสามารถในการดำเนิ นงานขององค์กร
เนื่องจากผู้บริหารสามารถเลิกวิธีแบบเก่าๆ ในการเพิ่มพูนประสิทธิภารในการทำงานอัน

1 ได้แก่.. การลองผิดลองถูก โดยสามารถใช้กระบวนการหรือวิธีการที่ผู้อื่นได้ใช้

จนประสบผลสำเร็จ และนำเอาวิธีการหรือกระบวนการเหล่านี้มาประยุกต์
และพัฒนาให้เข้ากับองค์กรของตนเอง

3

ช่วยให้การเพิ่มพูนความสามารถขององค์กรต่างๆ เป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น เนื่องจากใน
ปัจจุบันเวลาได้กลายเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อสภาพการแข่งขันในด้านต่างๆ องค์กรต่างๆ

2 จึงพยายามที่จะทำสิ่งต่างๆ ภายในเวลาที่รวดเร็วยิ่งขึ้น การเรียนรู้จากความสำเร็จของ

ผู้อื่นสามารถร่นระยะเวลาในการเรียนรู้ที่องค์กรจะต้องเผชิญเมื่อเทียบกับการเรียนรู้
ด้วยตนเอง ซึ่งส่งผลให้การปรับปรุงและเพิ่มพูนความสามารถในการดำเนินงานด้าน
ต่างๆ ขององค์กรเป็นไปอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น

บทสรุป 1. UNDERSTANDING

การใช้ Benchmarking เป็นเครื่องมือในการ เป็นการสร้างความเข้าใจในหลักการ วิธีการ และผลที่จะ
พัฒนาองค์กรทำให้องค์กรสามารถตั้งเป้าหมายที่ตรง ได้รับขององค์กรและบุคลากรรวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
กับความเป็นจริงได้สามารถเพิ่มผลิตภาพขององค์กร ทั้งหมด
ทำให้องค์กรมองตัวเองได้ดีขึ้นทำให้องค์กรได้ทราบ
ถึงสมรรถนะของตนเองเมื่อเทียบกับองค์กรอื่นอีกทั้ง 2. MIRROR&FUNCTION
เป็นการกระตุ้นให้พนั กงานเกิดการปรับปรุ ง
เปลี่ยนแปลง ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรใน เป็นการสะท้อนภาพกระบวนการทั้งกระบวนการหลักและสนั บสนุน
ด้านการสร้างความพึงพอใจของลูกค้าการลด ขององค์กร ทำให้มองเห็นภาพโครงสร้างองค์กรภาพของกิจกรรม
ระยะเวลาในการผลิตหรือให้บริการ การลดของเสีย กระบวนการและข้อมูลในองค์กร ผังกระบวนการทางธุรกิจ (Business
การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานการส่งมอบ และ Process Mapping) การทำงานและหน้าที่ความรับผิดชอบในแต่ละบทบาท
การลดต้นทุน นั่นคือการนำ Benchmarking
มาใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาองค์กรต้องสามารถ 3. TIME&ANALYSIS
เข้าใจถึงกระบวนการอย่างน้อย 4 ขั้นตอน คือ
เมื่อทราบกระบวนการทางธุรกิจและกิจกรรมที่เชื่อมต่อกันในกระบวนการแล้ว
Benchmarking การวิเคราะห์องค์ประกอบต่างๆ ที่ใช้ทั้งหมดในกิจกรรมทำให้สามารถสรุปได้ว่าจุดที่
ควรปรับปรุ งหรือพัฒนาให้ดีขึ้นนั้ นอยู่ที่ใดในกระบวนการ

4. IMPROVEMENT

เป็นการปรับปรุงองค์กรโดยนำเครื่องมือการพัฒนาองค์กรต่างๆ มาใช้ เช่น
Benchmarkingโดยมองที่ประเด็นสำคัญ คือเราอยู่ที่ไหน? ใครเก่งที่สุด?
เขาทำได้อย่างไร? และทำอย่างไรให้ดีกว่าเขา?

เอกสารอ้างอิง

01 Boxwell Jr., R.J., Benchmarking for Competitive Advantage, McGraw Hill, New York, 1994.
02 Evans, Anne, What Kind of Benchamarking Should You Undertake?, Benchmarking Link-Up Australia.
03 Evans, A. and Matters, M., The Nuts and Bolts of Benchmarking, Benchmarking Link-Up Australia.
04 EFeltus, A., Exploding the Myths of Benchmarking, Continuous Journey, April 1994.
05 Watson, G.H., Strategic Benchmarking, John Wiley and Sons, New York, 1993.
06 Wargo, R.A., How to Avoid the Traps of Benchmarking Customer Satisfaction, Continuous Journey, June/July 1994.


Click to View FlipBook Version