รายงานโครงงานภูมิปัญญาท้องถิ่น-555

รายงานโครงงานภูมิปัญญาท้องถนิ่
เรื่อง พรมเช็ดเท้า
โดย

นางสาว วารุณี ตะระชู เลขท่ี 40 ช้ัน ม.5/16

เสนอ
คุณครูนางวนิดา บุญพเิ ชฐวงศ์

โรงเรียนสตรีราชินูทิศ สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษามธั ยมศึกษษอดุ รธานีเขต 20
รายงานฉบับนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของรายวชิ าการงานอาชีพ

เร่ือง พรมเช็ดเทา้
โดย

นางสาว วารุณี ตะระชู เลขที่ 40 ช้นั ม.5/16

เสนอ
คุณครูนางวนิดา บุญพิเชฐวงศ์

ชื่อโครงงาน พรมเชด็ เทา้
ผู้จดั ทาํ
ระดบั นางสาว วารุณี ตะระชู เลขท่ี 40
ครูทปี่ รึกษา
โรงเรียน ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ 5/16

คุณครูนางวนิดา บุญพิเชฐวงศ์
สตรีราชินูทิศ อาํ เภอเมือง จงั หวดั อุดรธานี
สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษามธั ยมศึกษษอุดรธานีเขต 20

บทคดั ย่อ
โครงงาน เร่ือง พรมเชด็ เทา้ น้ีมีจุดมุ่งหมายเพ่อื ศึกษาใหค้ วามรู้แก่ผทู้ ่ีสนใจเก่ียวกบั การทาํ พรมเชด็
เทา้ ท้งั เป็นการนาํ เศษผา้ ที่ไม่ใชม้ ารีไซเคิล เพอ่ื ทาํ ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ตนเองและสงั คมในดา้ นต่างๆ ไม่วา่
จะเป็นการส่งเสริมสินคา้ โอทอป การทาํ เป็นอาชีพเสริมหรือหลกั
พรมเช็ดเทา้ น้นั มีประโยชนม์ ากมายในการใชใ้ นชีวติ ประจาํ ประจาํ เช่น เช็ดทาํ ความสะอาดเทา้ ดกั
จาํ เศษฝ่ นุ ท้งั น้ียงั สามารถใชพ้ รมเชด็ เทา้ ในการในการตกแต่งหอ้ งนอน และหอ้ งอื่นๆ เพอ่ื ความสะอาดและ
การตอ้ นรับแดกไดอ้ ีกดว้ ย
การทาํ พรมเชด็ เทา้ มีมากมายหลสยรูปแบบ ในโครงงานของเราจะมานาํ เสนอวธิ ีการทาํ พรมเทา้ เช็ด
ดว้ ยการเยบ็ แบบวงกลม มีอุปกรณ์หลกั อยู่ 3 อยา่ ง 1.ผา้ ท่ีตดั เป็นเสน้ 2.เขม็ และ 3.ดา้ ย วธิ ีการ 1.นาํ ปลายผา้
3 เสน้ มาเยบ็ ติดกนั 2.จากน้นั ถกั เปี ย 3.เมื่อทกั เปี ยเสร็จนาํ มาขดเป็นวงกลม 4.ทาํ การเยบ็ ใหต้ ิดกนั เมื่อสิ้นสุด
ใหก้ ลบั ไปทาํ ข้นั ตอนท่ี 1 ไปเล่ือยๆตามลาํ ดบั จนเสร็จ เราจะไดพ้ รมเช็ดเทา้ ท่ีสามารถใชง้ านไดจ้ ริง ท้งั น้ียงั
สามารถต่อยอดปรับปล่ียนรูปแบบไดต้ ามที่ตอ้ งการ

กติ ตกิ รรมประกาศ

โครงงานพรมเชด็ เทา้ ที่นกั เรียนไดศ้ ึกษาคน้ ควา้ และทาํ พรมเช็ดเทา้ คร้ังน้ีสาํ เร็จไปไดด้ ว้ ยดีตาม
วตั ถุประสงคโ์ ดยไดร้ ับคาํ ปรึกษาการสนบั สนุนใหก้ ารอนุเคราะห์ดา้ นสถานท่ีปฎิบตั ิงานระหวา่ งดาํ เนินงาน
จนโครงงานน้ีประสบความสาํ เร็จสมบูรณ์ คณะผจู้ ดั ทาํ ขอขอบคุณคุณครูที่ปรึกษาไว้ ณ โอกาสน้ี

คระผจู้ ดั ทาํ โครงงานพรมเช็ดเทา้ หวงั วา่ โครงงานฉบบั น้ีจะมีประโยชนอ์ ยไู่ ม่นอ้ ยสาํ หรับผศู้ ึกษา
หากมีขอ้ บกพร่องประการใดที่อาจจะเกิดข้ึนน้นั ผจู้ ดั ทาํ ขออภยั ไว้ ณ ที่น้ี และยนิ ดีที่จะรับฟังคาํ แนะนาํ จาก
ทุกท่านท่ีไดเ้ ขา้ มาศึกษา เพ่ือเป็นประโยชนใ์ นการพฒั นาโครงงานต่อไป

คณะผจู้ ดั ทาํ โครงงาน

บทที่ 1

ทม่ี าและความสําคญั ของโครงงาน

จากการสาํ รวจในปัจจุบนั พบวา่ ในชุมชนมีเศษผา้ ที่เหลือจากการทาํ เส้ือผา้ เช่น เส้ือผา้ ที่ไม่ใชแลว้
กางเกง เส้ือในหมู่บา้ นเยอะแยะมากมายจึงสนใจท่ีจะศึกษาเรื่องการทาํ พรมเชด็ เทา้ ใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั โดย
การผลิตพรมเชด็ เทา้ ที่สวยงาม

จึงไดเ้ ริ่มศึกษาการทาํ พรมเช็ดเทา้ ปัจจุบนั มีการนาํ วสั ดุเหลือใชม้ าประดิษฐเ์ ป็นสิ่งของสาํ หรับใช้
สอยในชีวิตประจาํ วนั มากมาย เช่น พรมเชด็ เทา้ จากเศษผา้ ของใชท้ ี่ทุกๆครัวเรือนจะตอ้ งมีทุกๆบา้ น พรมเช็ด
เทา้ จะมีลวดลายและรูปแบบต่างๆ มากมายใหเ้ ราเลือกใช้ และรูปแบบท่ีเราทาํ น้นั ไม่ไดย้ ากอีกท้งั ยงั สามารถ
นาํ ไปประกอบเป็นอาชีพอิสระไดอ้ ีกดว้ ย ถือเป็นอาชีพท่ีน่าสนใจ ลงทุนนอ้ ย ทาํ ง่าย สร้างรายไดใ้ นบาง
ทอ้ งถิ่นสามารถนาํ พรมเชด็ เทา้ ไปสู่สินคา้ โอทอปไดด้ ว้ ย

วตั ถุประสงค์

1. เพ่ือศึกษาและใหค้ วามรู้แก่ผทู้ ี่สนใจเก่ียวกบั การทาํ พรมเช็ดเทา้
2. เพ่ือนาํ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาํ วนั และรีไซเคิลเศษผา้ ท่ีไม่ใช้
3. เพอื่ ส่งเสริมการนาํ เศษผา้ ไปทาํ พรมเชด็ เทา้ สู่สินคา้ โอทอป

ปัญหา

เราจะสามารถทาํ พรมเชด็ เทา้ ดว้ ยวิธีท่ีง่ายและประหยดั ไดอ้ ยา่ งไร

สมมุตฐิ าน

เราสามารถนาํ เน้ือผา้ ที่แตกต่างกนั มาทาํ เป็นพรมเช็ดเทา้ ผนื เดียวกนั ได้

ขอบเขตการศึกษาค้นคว้า

วิธีการทาํ พรมเช็ดเทา้ และการรีไซเคิลเศษผา้ ที่ไม่ใช่แลว้

ประโยชน์และคุณค่าของโครงงาน

1. สามารถเผยแพร่และบอกวธิ ีการท าพรมเช็ดเทา้ แก่ผทู้ ี่สนใจได้
2. สามารถนาํ พรมเชด็ เทา้ ไปใช่ในชีวติ ประจาํ วนั และยงั รีไซเคิลเศษผา้ ใหเ้ กิดประโยชนไ์ ด้
3. สามารถนาํ พรมเช็ดเทา้ ไปขายเป็นสินคา้ โอทอปได้

ระยะเวลาในการดาํ เนินงาน

ระหวา่ งวนั ท่ี 1 กนั ยายน 2563 – 30 ตุลาคม 2563

บทท่ี 2
เอกสารทเ่ี กยี่ วข้อง

ในการจดั ทาํ โครงงานพรมเชด็ เทา้ คณะผจู้ ดั ทาํ ไดศ้ ึกษาความหมาย การทาํ พรมเชด็ เทา้ เอกการ
ขอ้ มูลท่ีเก่ียวขอ้ ง เพอ่ื ใชเ้ ป็นแนวทางในการศึกษา ดงั น้ี

1.ผา้ ยดื ความหมายและคุณลกั ษณะชนิดต่างๆ
2.ดา้ ย
3.การกาํ จดั เศษผา้
1.ผ้ายืด ความหมายและคุณลกั ษณะชนิดต่างๆ
เส้ือยดื เป็นการนาํ ผา้ Knit (ผา้ ยดื ) ซ่ึงเป็นการทอจากเสน้ ดา้ ยชนิดต่างๆ โดยทว่ั ไป จะมี Cotton (ผา้
ฝ้าย) และ Polyester (ผา้ ใยสงั เคราะห์) แบ่งเป็นขนาดเสน้ ดา้ ยดว้ ยตวั เลข เช่น Cotton - 20, 32, 40 และ
Polyester - 20, 34, 40 โดยตวั เลขยง่ิ นอ้ ย เสน้ ดา้ ยจะยง่ิ มีขนาดใหญ่ตวั เลขยงิ่ มาก เสน้ ดา้ ยกจ็ ะมีขนาดเลก็ ลง
และมีความละเอียดมากข้นึ
Cotton

คือ ฝ้ายที่ไดจ้ ากธรรมชาติ คุณสมบตั ิเด่นกค็ ือ สามารถดูดซบั ในไดด้ ีและให้ ความสบายแต่จะหด
ตวั หรืออาจจะเสียทรง เน่ืองจากการหดตวั หลงั การซกั และสีของผา้ คอ๊ ตตอ้ นจะซีดไดง้ ่ายกวา่ ผา้ ชนิดอ่ืนๆ

ลกั ษณะการทอผา้ คอตตอ้ นแบ่งได้ 3 ประเภทดงั น้ี
1. Cotton OE เป็นผา้ Cotton เกรดต่าํ สุด ลกั ษณะของผา้ จะมีความกระดา้ งมากกวา่ ผา้ Cotton ชนิด
อื่นๆ
2. Cotton Semi เป็นผา้ Cotton เกรดปานกลาง ลกั ษณะผา้ จะมีความเนียนระดบั หน่ึง ไม่กระดา้ ง
ราคาไม่สูง แลคุณภาพค่อนขา้ งใชไ้ ด้

3. Cotton Comb เป็นผา้ Cotton เกรดดีท่ีสุด ลกั ษณะผา้ จะมีความเนียน และเงามาก ราคาสูงมาก
และเป็นเกรดเดียวท่ีใชท้ อลายจูติ Lacoste (ลายรูปขา้ วหลามตดั เลก็ ๆ) คุณสมบตั ิของ Cotton โดยโครงสร้าง
ที่เป็นใยธรรมชาติ ทาํ ใหม้ ีการซึมซบั ของเหลว เช่น เหงื่อไดด้ ี เน้ือผา้ นุ่มไม่มี ความกระดา้ ง เมื่อโดนความ
ร้อนหรือไฟจะกลายเป็นข้ีเถา้ แต่ปัญหาสาํ คญั ของผา้ ฝ้าย คือ การยดื หด ยว้ ย เมื่อใชง้ านไปและดูแลรักษาไม่
ดีพอ ปัจจุบนั กม็ ีเทคโนโลยใี หม่ๆเขา้ มาการยดื หด ยว้ ย ยงั มีอยแู่ ต่นอ้ ยลง และมีราคาสูง

Polyester

โครงสร้างเป็นใยสงั เคราะห์ทาํ ใหห้ าไดง้ ่ายเนื่องจากเป็นผลพลอยไดจ้ ากการกลน่ั น้าํ มนั และปิ โตร
เคมี เม่ือโดนความร้อนหรือไฟจะหดตวั ละลายเป็นลกั ษณะพลาสติดละลาย ขอ้ ดีคือ ราคาไม่แพงไม่ยดื ไม่
หด ไม่ยว้ ย แตเ่ ม่ือใชง้ านนานๆไปจะมีลกั ษณะป่ ุมปมของเสน้ ดา้ ยข้ึนมาบนตวั ผา้ ปัจจุบนั เกิดผา้ ชนิดต่างๆ
ข้ึนมามากมาย อาทิ เช่น

T/C T หมายถึง Polyester และ C หมายถึง Cotton เป็นการผสมผสานขอ้ ดีระหวา่ ง Polyester 65%
และ Cotton 35% คุณสมบตั ิเด่น คือ มีความคงทน ไม่ปัญหาเร่ืองหดตวั ยดื และ ยว้ ย ทนทานต่อการซกั
เคร่ืองไดด้ ี และสีสนั ซีดชา้ กวา่ cotton ซึมซบั เหงื่อไดด้ ี แต่ความสบาย นอ้ ยกวา่ Cotton 100% ตวั ผา้ ไม่ข้ึนเมด็
ป่ ุม ปม หากใชไ้ ปเวลานนานๆจะข้ึนขน มีราคาปานกลาง

CVC เป็นการผสมผสานระหวา่ ง Cotton และ Polyester ในอตั ราส่วนโดยประมาณ คือ Cotton
70-85% ตอ Polyester 15-30% มีความนุ่มของผา้ ฝ้าย ใส่สบาย ซึมซบั เหงื่อไดด้ ีแต่ยงั คงมี อตั ราการยดื หด
ยว้ ย อยู่ ราคาสูงใกลเ้ คียง Cotton สามารถทดแทนCottonได้

CTC คือ 70%Polyester 30%Cotton ไม่หด สามารถทดแทน Cotton ได้
TK หมายถึง ผา้ ท่ีเป็น 100% Polyester ขอ้ ดี คือ สีสนั สดใส เป็นมนั เงา ไม่มีปัญหาเรื่อง การยดื หด
ตวั และราคาถูก เพราะคา่ ยอ้ มทุกสีเท่ากนั หมด ขอ้ เสีย เกิดเมด็ ขนเร็วมาก ใส่แลว้ ร้อน ไม่คอ่ ยระบายอากาศ
และมีกล่ินง่าย

2.เส้ นด้ าย
ดา้ ย เสน้ ยนื หรือดา้ ยยนื (ในการทอผา้ ) หมายถึง เสน้ ดา้ ยชุดหน่ึง ท่ีเรียงอยใู่ นแนวขวาง โดยจะมีเสน้

พงุ่ คอยขดั สลบั ใหก้ ลายเป็นผนื ผา้

ในการทอผา้ ช่างทอจะตอ้ งเตรียมเสน้ ดา้ ยยนื เอาไวก้ ่อนเสมอ โดยอาจมีความยาวหลายสิบเมตรการ
เตรียมดา้ ยยนื เป็นเร่ืองที่ยงุ่ ยาก และใชเ้ วลามากดา้ ยเสน้ ยนื มีความสาํ คญั ในการทอผา้ ไม่นอ้ ยไปกวา่ ดา้ ยเสน้
พงุ่ เมื่อเตรียมแลว้ จะไม่สามารถเปล่ียนเสน้ ดา้ ยยนื จนกวา่ จะทอไปตลอดปื น เสน้ ยนื โดยทว่ั ไปจะมีขนาด
เลก็ กวา่ เสน้ พงุ่ มกั จะใชด้ า้ ยที่มีคุณภาพสูง มีความทนทาน และเรียบ ไม่ขรุขระการทอผา้ โดยทวั่ ไปจะใชเ้ สน้
ยนื สีเดียว หากเสน้ ยนื สีเขม้ กจ็ ะทาํ ใหเ้ น้ือผา้ มีสีเขม้ หากเสน้ ยนื มีสีอ่อน กจ็ ะทาํ ใหผ้ า้ มีสีอ่อน แต่การทอผา้
บางชนิด เช่น ผา้ ขาวมา้ หรือผา้ อนั ปรมเสน้ ยนื จะมีหลายสี ตามความตอ้ งการของช่างทอ

กรณีที่ทอผา้ มุกช่างทอจะตอ้ งเตรียมเสน้ ยนื สองชุด ชุดหน่ึงเป็นเสน้ ยนื ปกติ หรือเสน้ ยนื หลกั อีกชุด
หน่ึงเป็นเสน้ ยนื พเิ ศษ (มีจาํ นวนนอ้ ยกวา่ เสน้ ยนื หลกั ) ยกลอยเหนือเสน้ ยนื หลกั เพื่อสร้างลวดลายเสริม
ใหก้ บั ผนื ผา้ ในแนวต้งั

เบอร์เสน้ ดา้ ย แสดงใหเ้ ห็นถึงความละเอียด-หยาบของเน้ือผา้ ที่ได้ ดงั น้นั

เบอร์ดา้ ย คอ๊ ตตอ้ น ทีซี ทีเค
ใหญ่ (หยาบ) 20 20 20
กลาง 32 34 34
เลก็ ละเอียด 40 45 45

(เอ.ซี.แอล.การ์เมน้ ท,์ 2556)

คุณสมบตั ิของผา้ ยดื แต่ละชนิด เสน้ ดา้ ยท่ีใชใ้ นการทอผา้ ยดื มีอยู่ 3 ประเภท คือ
1. เสน้ ดา้ ยธรรมชาติ เรียกวา่ Cotton หรือฝ้าย
2. เสน้ ดา้ ยใยสงั เคราะห์ เรียกวา่ Polyester หรือโพลี
3. เสน้ ดา้ ยผสม มีส่วนผสมระหวา่ ง Cotton กบั Polyester

3.การกาํ จัดเศษผ้า
การกาํ จดั ขยะมูลฝอย วิธีการกาํ จดั ขยะมูลฝอยท่ีใชต้ ่อเนื่องกนั มาต้งั แตอ่ ดีตจนถึงปัจจุบนั มีหลายวธิ ี

เช่น นาํ ไปกองทิ้งบนพ้นื ดิน นาํ ไปทิ้งลงทะเล หมกั ทาํ ป๋ ุย เผากลางแจง้ เผาในเตาเผาขยะ และฝังกลบอยา่ ง
ถูกหลกั วชิ าการ เป็นตน้ การกาํ จดั ขยะมูลฝอยดงั ที่กล่าวน้นั บางวิธีกเ็ ป็นการ กาํ จดั ที่ไม่ถูกตอ้ งทาํ ใหเ้ กิด
ภาวะเป็นพษิ ต่อสภาพแวดลอ้ ม (Global Warming, 2558)

เศษผา้ ส่วนมากสามารถถูกกาํ จดั โดยการเผากลางแจง้ หรือเผาในเตาเผาขยะ หรือการฝังกลบ ซ่ึงการ
เผาขยะกลางแจง้ ก่อใหเ้ กิดควนั และสารพิษทางอากาศ ทาํ ใหเ้ กิดมลภาวะคุณภาพอากาศ เสื่อมโทรม การฝัง
กลบอาจมีปัญหากบั แหล่งน้าํ ใตด้ ินหากมีการจดั การที่ไมด่ ี

1.อุปกรณ์ บทท่ี 3
อปุ กรณ์และวธิ ีการดาํ เนินการ
1.เศษผา้
2.กรรไกร
3.เขม้
4.ดา้ ย
5.ไมบ้ รรทดั

2.วธิ ีการดาํ เนิน

1.วดั ขนาดความกวา้ งผา้ ท่ีจะตดั 4 เซนติเมตร

2.ตดั ผา้ ใหไ้ ดค้ วามกวา้ ง 4 เซนติเมตร เป็นเสน้ ยาวๆ

3.นาํ ผา้ ที่ตดั ไดม้ า 3 เสน้ ทบั กนั
4.เยบ็ ปลายผา้ ใหต้ ิดกนั
5.ถกั เปี ย

6.ค่อยๆขดผา้ เป็นวงกลมแลว้ เยบ็ ใหต้ ิดกนั
เมื่อสิ้นสุดปลสยผา้ ใหว้ นกลบั ไปทาํ ขอ้ ท่ี 3 ตามลาํ ดบั จนผา้ หมด

บทที่ 4
ผลการดาํ เนินงาน

จากการทาํ พรมเช็ดเทา้ เยบ็ แบบวงกรม ผลเป็นดงั น้ี
1.ไดศ้ ึกษาการทาํ พรมเชด็ เทา้ รูปแบบต่าง
2.ไดพ้ รมเช็ดเทา้ รูปแบบกลมที่สามารถใชง้ านได้
3.ไดศ้ ึกษาชนิดของผา้ และเสน้ ดาย

บทท่ี 5
สรุป

สรุปผลการดาํ เนินงาน

จากการดาํ เนินการโครงงานพรมเช็ดเทา้ ที่เยบ็ แบบวงกรม สรุปผลตามจุดมุ่งหมายของโครงงานได้
ดงั น้ี

1. สามารถเผยแพร่และบอกวธิ ีการท าพรมเช็ดเทา้ แก่ผทู้ ่ีสนใจไดจ้ ริง

2. สามารถนาํ พรมเชด็ เทา้ ไปใช่ในชีวิตประจาํ วนั ไดจ้ ริง และยงั สามารถรีไซเคิลเศษผา้ ท่ีไม่ไดใ้ ช่
แลว้ มาทาํ ใหเ้ กิดประโยชนส์ ูงสุดได้

3. สามารถนาํ พรมเช็ดเทา้ ไปขายไดจ้ ริง
อภิปรายผลการดําเนินการ

จากโครงงานพรมเชด็ เทา้ ทาํ ใหเ้ ราเห็นวา่ พรมเชด็ เทา้ น้นั สามารถทาํ ไดห้ ลากหลายวธิ ี และ
หลากหลายรูปแบบ ไม่วา่ จะเป็นรูปส่ีหลี่ยม วงกลม หา้ เหล่ียม และอ่ืนๆ หรือรูปแบบการเยบ็ การทอ การ
สาน การถกั และการออกแบบลวดลายท่ีแลว้ แต่จินตนาการของผทู้ าํ พรมเช็ดเทา้ ยงั ช่วยลดปัญหาผา้ เยอะ
เศษผา้ จากโรงงานเหลือ ที่เป็นขยะมูลฝอย ท้งั ยงั ทาํ ใหเ้ กิดประโยชนต์ อ่ ส่วนตนและส่วนเรา ไม่วา่ จะทาํ ให้
เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ ทาํ ขาย หรือรวมกลุ่มทาํ เป็นสินคา้ โอทอป สินคา้ ประจาํ ตาํ บลไปสูร้ ะดบั ประเทศ
และต่อยอดไปสู่ตลาดระดบั โลกได้

จากปํ ญหาของโครงงานเราสามารถทาํ พรมเช็ดเทา้ ท่ีง่ายและประหยดั ดว้ ยการเยบ็ มือแบบวงกลม
และพรมเช็ดเทา้ ของเราถูกตอ้ งตามสมมุติฐานท่ีวา่ เราสามารถนาํ เน้ือผา้ ท่ีแตกต่างกนั มาทาํ เป็นพรมเชด็ เทา้
ผนื เดียวกนั ได้

ข้อเสนอแนะ

สามารถปรับเปล่ียนรูปแบบ ขนาด ชนิดผา้ ลวดลายไดต้ ามตอ้ งการ

ประโยชนท์ ่ีไดร้ ับ

1.ไดร้ ู้วิธีการทาํ พรมเช็ดเทา้ ที่เยบ็ มือแบบวงกลม
2.ไดร้ ู้ชนิดลกั ษณะของผา้ และดา้ ย
3.ไดร้ ู้วธิ ีการทาํ พรมเชด็ เทา้ ขาย
4.ไดร้ ู้วิธีการกาํ จดั แศษผา้ ท่ีไม่ไดใ้ ชแ้ ลเวใหเ้ กิดประโยชน์

บรรณานุกรม

ศุนยบ์ ริการสาธารณะสุข17 ประชานิเวศน์ (ออนไลน)์ แหล่งท่ีมา
www.bangkok.go.th/healthcenter17/page/sub/17417/1/1/info/1860949/แนวคิด.3rs.รักษโ์ ลก

พรมเชด็ เทา้ บา้ นคลองมาลายเสือ (ออนไลน)์ แหล่งท่ีมา
rhttps://prommaija.wixsite.com/prommaija/post/พรมเช-ดเท-าแบบไทยๆ-otop-พรมเช-ดเท-าบ-านคลอง
แม-ลายเหน

Central inspirer (ออนไลน)์ แหล่งท่ีมา https://www.central.co.th/e-shopping/how-to-choose-mat/
พรมเชด็ เทา้ มหาวทิ ยาลยั กรมศิลปากร (ออนไลน)์ แหล่งท่ีมา www.thapra.lib.su.ac.th

ภาคผนวก

ประชุมงานวางแผน

รวบรวมขอ้ มลู หาอุปกรณ์
ลงมือปฏิบตั ิงาน