The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Arlifa2522, 2022-06-12 04:23:49

ilovepdf_merged (8)

ilovepdf_merged (8)

โดย
กศน.ตำบลสำกอ

ศูนย์การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั อาเภอสุไหงปาดี
สานกั งานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จังหวดั นราธวิ าส

สานักงานปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

หลักสตู รการประดิษฐต์ ้นไม้จากถงุ รีไซค์เคิล
จานวน ๑๒ ช่วั โมง

ความสาคัญ

สืบเน่ืองจากนโยบายการดาเนินงานของ สานักงาน กศน. ที่มุ่งเน้นการจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาด้าน
อาชีพ ใน ๕ กลุ่มอาชีพ ประกอบด้วยอาชีพด้านเกษตรกรรม ด้านอุตสาหกรรม ด้านพาณิชยกรรม ด้านความคิด
สรา้ งสรรค์ และการบรกิ าร และดา้ นเฉพาะทาง โดยมงุ่ เน้นใหก้ ล่มุ เปา้ หมายผู้เขา้ รบั การฝึกอบรมด้านอาชีพสามารถนา
ความรู้ไปใช้ประโยชน์ได้จริง และสร้างรายได้ที่ม่ันคง การจัดการศึกษาเพ่ือพัฒนาอาชีพ เป็นการจัด ส่งเสริม และ
พัฒนาการจดั การศกึ ษาด้านอาชพี เพ่อื พัฒนาความรคู้ วามสามารถ และทกั ษะในการประกอบอาชีพของบุคคล เป็นการ
แก้ปัญหาการว่างงาน และส่งเสริมความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของชุมชน อีกทั้งเป็นการศึกษาเพ่ือพัฒนาความรู้
ความสามารถ และทักษะในการประกอบอาชีพของบุคคล เพ่ือให้บุคคลสามารถเข้าสู่อาชีพ สามารถประกอบอาชีพ
หรอื พัฒนาอาชพี ของตนเองได้ โดยพิจารณาถงึ ความตอ้ งการในการเรียนรู้ของแตล่ ะบุคคล

สภาพสังคมปัจจุบันมนุษย์เราได้รับผลกระทบจากการเปล่ียนแปลงในด้านต่างๆ เช่น ด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม
และสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก ประชากรมนุษย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่ทรัพยากรธรรมชาติถูกใช้ไปอย่างรวดเร็ว ไม่
เพียงพอกับจานวนประชากรท่ีเพิ่มขึ้นทุกมุมโลก มนุษย์จึงประสบปัญหาต่างๆ โดยเฉพาะด้านการดารงชีพและชีวิต
ความเป็นอยู่ของประชาชน ดังนั้นสิ่งที่ทุกคนควรตระหนัก คือ ทรัพยากรท่ีมีอยู่และการใช้ทรัพยากรในชีวิตประจาวัน
จาเปน็ อย่างยิ่งทมี่ นุษย์จะตอ้ งลดการใชท้ รพั ยากร และคานึงถึงการใชท้ รพั ยากรได้อย่างคุ้มค่า

จากการทาเวทีประชาคมของศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอาเภอสุไหงปาดี
พบว่าประชาชนสว่ นใหญ่ในพ้ืนที่อาเภอสุไหงปาดี ประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรม เช่น การทาสวนยางพารา และการ
ทาสวนผลไม้ ปัจจุบันสินค้าทางการเกษตรโดยเฉพาะยางพารามีราคาตกต่า ประชาชนมีความเดือดร้อน รายได้ไม่
เพียงพอกับรายจ่าย ประกอบกับสินค้าอุปโภคบริโภคมีราคาสูงขึ้น ประชาชนจึงมีความต้องการฝึกอาชีพเพ่ือเป็นช่อง
ทางการประกอบอาชีพท่ีสามารถสร้างรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว การประดิษฐ์ต้นไม้จากถุงริไซค์เคิลนับได้ว่าเป็น
อาชีพอิสระที่ผู้สนใจสามารถนามาทาเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม สามารถเรียนรู้ได้ง่าย ไม่ยุ่งยาก อีกท้ังงาน
ประดิษฐ์ท่ีเกิดขึ้นมาจากความคิดสร้างสรรค์ มีลักษณะท่ีสวยงาม สามารถจาหน่ายได้ นับเป็นช่องทางหน่ึงในการ
ประกอบอาชพี ต่อไป

หลักการ
๑. เป็นหลกั สตู รทเี่ น้นการจัดการศึกษาอาชีพ ท่ีเน้นการบูรณาการเน้ือหาสาระ ภาคทฤษฎีควบคู่ไปกับการฝึก

ปฏบิ ัตจิ ริง ผเู้ รยี นสามารถนาความรแู้ ละทักษะไปประกอบอาชีพได้จรงิ อยา่ งมคี วามสุข และมคี ณุ ธรรมจรยิ ธรรม
๒. เป็นหลักสูตรที่เน้นการดาเนินงานร่วมกับเครือข่าย สถานประกอบการ เพ่ือประโยชน์ในการ ประกอบ

อาชพี และการศึกษาดงู าน
๓. เป็นหลักสูตรทีม่ ุ่งสู่การทารไี ซเคลิ ซ่ึงสอดคล้องกบั เกษตรทฤษฎใี หม่ ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
๔. สามารถนาความรู้และประสบการณ์เทียบโอนความรู้ตามหลักสูตรการศึกษาขั้นพนื้ ฐานได้

จดุ มงุ่ หมาย

๑. เพื่อใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้ ความเขา้ ใจ เกีย่ วกับการประดษิ ฐต์ ้นไมจ้ ากถุงริไซคเ์ คิลได้
๒. เพอ่ื ให้ผ้เู รยี นมที กั ษะ และสามารถในการประดษิ ฐ์ตน้ ไมจ้ ากถุงรไิ ซคเ์ คลิ ตามขัน้ ตอนไดถ้ กู ต้อง
๓. เพอื่ ให้ผู้เรยี นมองเหน็ ช่องทางการประกอบอาชพี
เป้าหมาย
ประชาชนทั่วไป ผู้ท่ไี ม่มีอาชีพ และผู้ท่ตี ้องการพัฒนาอาชพี

ระยะเวลา

ระยะเวลาเรยี นตลอดหลกั สตู ร จานวน ๑๒ ชวั่ โมง โดยแบ่งเปน็

- ภาคทฤษฎี จานวน ๕ ช่วั โมง - นาที

- ภาคปฏิบตั ิ จานวน ๗ ชวั่ โมง - นาที

โครงสรา้ งหลกั สตู ร จดุ ประสงค์ เน้ือหา การจัด จานวนช่ัวโมง
ท่ี เร่อื ง การเรียนรู้ กระบวนการ
ทฤษฎี ปฏบิ ัติ
๑. ช่ อ ง ท า ง ก า ร ๑.รู้ เข้าใจ เกี่ยวกับ ความสาคัญ ชอ่ งทางการประกอบอาชพี เรียนรู้
๑-
- บรรยาย ชวั่ โมง

ประกอบอาชีพ ของประดิษฐ์ต้นไม้จากถุงริไซค์ ๑.ความรคู้ วามสามารถ

เคิล ๒.สามารถอธิบาย ๒.การลงทุน
เก่ียวกับการประกอบอาชีพการ ๓.การจัดหาวัสดุ อปุ กรณ์
๔.ความตอ้ งการของตลาด
ประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ รไิ ซคเ์ คลิ
๕.กระบวนการผลติ

๒. วัส ดุ อุ ปก ร ณ์ ๑.รู้ เข้าใจ เก่ียวกับความสาคัญ วัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐ์ - บรรยาย ๑๑

ในการประดิษฐ์ และความเป็นไปได้ในการ ตน้ ไมจ้ ากถุงริไซค์เคลิ และ - สาธิตและให้ ชวั่ โมง ชั่วโมง

ต้นไม้จากถุงริ ประกอบอาชีพการประดิษฐ์ ขน้ั ตอนการผลติ ผู้เรียนฝกึ ปฏบิ ตั ิ

ไซค์เคิล ต้นไม้จากถุงริไซค์เคิล ๒. ๑.วัสดอุ ปุ กรณ์การประดิษฐ์ต้นไม้

สามารถอธิบายเกี่ยวกับวัสดุ จากถุงริไซค์เคิล ๒.
อุปกรณ์การประดิษฐ์ต้นไม้จาก วิ ธี ก า ร ใ ช้ วั ส ดุ อุ ป ก ร ณ์ ก า ร

ถงุ ริไซคเ์ คลิ ประดษิ ฐต์ น้ ไม้จากถุงรไิ ซคเ์ คลิ

๓.สามารถใช้วัสดุอุปกรณ์ได้
ถกู ต้อง

๓. ทั ก ษ ะ ก า ร ๑.รู้ เข้าใจ เกย่ี วกับ ทักษะการประดิษฐ์ต้นไม้จากถุงริ -บรรยาย ๑๕

ประดิษฐ์ต้นไม้ ขั้นตอน การประดิษฐ์ต้นไม้จาก ไซค์เคิล ๑.ข้ันตอน วิธีการ - สาธติ และให้ ชัว่ โมง ชว่ั โมง
จากถงุ รไิ ซค์เคลิ ถุงริไซค์เคิล ๒.สามารถ ทาบานอจาลอง/ฝึกปฏิบัติการ ผู้เรียนฝึกปฏบิ ตั ิ
ประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถุงริไซคเ์ คลิ

อธิบายเก่ียวกับการปฏิบัติการ ๒.วิธกี ารใช้ และเกบ็ รักษา

ทาบานอจาลอง คุณภาพอุปกรณใ์ นการประดิษฐ์

ต้นไมจ้ ากถงุ ริไซคเ์ คลิ

โครงสร้างหลักสตู ร (ต่อ)

ที่ เร่ือง จดุ ประสงค์ การจัด จานวนช่วั โมง
การเรยี นรู้ เนือ้ หา กระบวนการ ทฤษฎี ปฏบิ ตั ิ

เรียนรู้ ๑-
ชัว่ โมง
๔ การเพิ่มมูลคา่ ๑.ผู้เรียนบอกวธิ กี ารเพ่ิมมลู ค่า ๑.ตัวอย่างผลิตภัณฑ์ใหมจ่ าก -บรรยาย
๑๑
ของผลิตภัณฑ์ด้วยการ การประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถุงรไิ ซค์ ชั่วโมง ชว่ั โมง

ออกแบบผลติ ภัณฑ์ใหม่ได้ เคิล ๕๗

๕. ก า ร ท า ก า ร ค้ า ๑.รู้ เข้าใจ บอกความหมาย การทาการคา้ ออนไลน์ -บรรยาย

ออนไลน์ และประโยชน์การทาการค้า ๑. ความหมายและประโยชน์ - สาธติ และให้

ออนไลน์ ของการทาการคา้ ออนไลน์ ผู้เรยี นฝกึ ปฏบิ ัติ

๒.สามารถอธิบายความหมาย ๒. การสรา้ งเพจการทาการค้า

และประโยชน์การสร้างเพจ ออนไลน์

การทา การค้าออนไลน์ได้

ถูกต้อง

๓.สามารถสร้างเพจการทา

การค้าออนไลน์ได้ถูกต้อง

รวมช่ัวโมง

สอื่ การเรยี นรู้

๑. วิทยากร/บุคคลผู้มีความรู้

๒. ชุดวชิ าประกอบการเรียนการสอน

๓. ศึกษาดงู านการปฏบิ ตั จิ ริง

๔. วัสดุฝกึ

การวดั ผลประเมินผล
๑. การสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู/้ การรบั ร/ู้ การมสี ่วนร่วม
๒. การประเมนิ ผลระหว่างเรียนจากการปฏิบตั แิ ละการประเมนิ ผลหลังเรียน

เงื่อนไขการจบหลักสตู ร
ผูเขาฝึกอบรม ตองเขาฝึกอบรมตามหลกั สตู ร อยางนอยรอยละ ๘๐ ของเวลาท้งั หมด

เอกสารหลักฐานการศกึ ษาท่ีจะไดร้ ับหลงั จบหลกั สูตร
๑. ใบความรู้
๒. แบบตดิ ตาม

การเทยี บโอน
สามารถเทยี บโอนได้



เรื่องที่ ๑ ช่องทางการประกอบอาชพี แผ่นที่ 1 ผังโครงสรา้ งหนว่ ยก
( ๑ ช่ัวโมง ) ชือ่ ฐาน การประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ ากถงุ รไิ ซ

มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั เรือ่ งท่ี ๒.วสั ดุ อปุ กรณ์
มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ช่องทางในการ จากถงุ ริไซค์เคิลและขน้ั ตอ
ประกอบอาชพี
( 2 ชว่ั
เร่อื งท่ี 4 การเพิ่มมลู คา่ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ
( 1 ชว่ั โมง ) การใช้วัสดอุ ปุ กรณ์ และกา
ท่ีใชใ้ นการประดษิ ฐต์ ้นไมจ้
มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั
มคี วามรู้ ความเข้าใจ การเพม่ิ มลู ค่า หลักสูตรการประดิษฐ

สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น คณุ ลกั ษณ
๑.ผู้เรียนมีอาชีพเสริมเพิ่มรายได้ สามารถพัฒนาเศรษฐกิจ 1.มีความรบั ผิดชอบ
ระดบั ครอบครวั และชมุ ชน 2.มีความซือ่ สตั ย์
๒.ผู้เรียนมีทักษะความรู้ในเร่ืองการประกอบอาชีพการ 3.มคี วามขยัน
ประดิษฐ์ต้นไม้จากถุงริไซค์เคิล ตลอดจน การเพ่ิมมูลค่า 4.มีความอดทน
และ มีทกั ษะการตลาดและชอ่ งทางการทาการคา้ ออนไลน์
๓.ผู้เรียนรู้จักการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สามารถ
สร้างความสามคั คีใหเ้ กิดขึ้น และเกิดการรวมกล่มุ อาชพี ใหม่
ชุมชน

การเรียนรเู้ พือ่ เสรมิ สร้างคณุ ลกั ษณะอย่อู ยา่ งพอเพยี ง
ซคเ์ คลิ สาระทกั ษะการพฒั นาสังคม จานวน 12 ชัว่ โมง

ในการประดิษฐต์ น้ ไม้ เรือ่ งที่ 3.ทักษะการประดษิ ฐต์ น้ ไมจ้ ากถุงริไซค์เคลิ
อนการผลติ ( ๖ ชั่วโมง )
วโมง )
บมคี วามรู้ ความเข้าใจ มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ

ารเกบ็ รกั ษาวสั ดอุ ุปกรณ์ มคี วามรู้ ความเข้าใจ เก่ยี วกับการประดษิ ฐ์ตน้ ไม้

จากถุงพลาสตกิ จากถงุ ริไซค์เคลิ ได้

ฐ์ตน้ ไมจ้ ากถงุ ริไซค์เคิล

เรอื่ งที่ 5.การทาการคา้ ออนไลน์
( ๒ ช่ัวโมง )

มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดบั

มีความรู้ ความเข้าใจ การทาการคา้ ออนไลน์

ณะอันพงึ ประสงค์ ภาระงาน/ชน้ิ งาน
1.อธบิ ายถึงหลักแนวคิดกการประดษิ ฐ์ตน้ ไมจ้ าก
ถงุ รไิ ซคเ์ คลิ ได้อย่างถกู ตอ้ ง
2.มกี ารฝึกเพอ่ื ให้มที กั ษะคิดวิเคราะห์เพอ่ื ให้เกิด
ความรแู้ ละปัญญาสามารถเรยี งเปน็ ข้ันตอนได้

แผนการสอน ครัง้ ที่............. วันท.ี่ ........ เดอื น.......................... พ.ศ............ จานวน 1 ชัว่ โมง
แผน่ ที่ 1 ผงั ภาพการออกแบบการเรยี นร้แู บบย้อนกลบั (Backward Design)
เรื่อง ช่องทางการประกอบอาชีพ

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2. หลักฐานการเรยี นรู้

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั ภาระงาน/ชน้ิ งาน : ใบงาน/แผนพฒั นาโครงการอาชพี
มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับชอ่ งทางการประกอบอาชพี
การวดั ประเมนิ ผล :
ตวั ชี้วัด
ประเด็น วธิ ีการ เคร่อื งมอื เกณฑ์ประเมิน
1.เปน็ การพฒั นาความร้พู ้นื ฐานของบุคคล เกยี่ วกบั ความรู้ในเร่ืองช่องทาง
ด้าน K ชุดคาถาม แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60
การประกอบอาชีพ
ชุดคาถาม ขน้ึ ไปผ่าน
2.เป็นการเรียนรู้โดยบูรณาการ เสริมทักษะสามารถน้อมนาหลักปรัชญา
ด้าน P สังเกต แบบประเมนิ ระดบั 2 ขึ้นไป
ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้
พฤติกรรมการ พฤติกรรม ผา่ นเกณฑ์
3.เปน็ การเสรมิ สรา้ งการมสี ่วนรว่ มของภาคเี ครอื ขา่ ย
ทางานกลุ่ม
สาระสาคัญ
ความรูเ้ บอื้ งตน้ เก่ียวกับชอ่ งทางการประกอบอาชีพ ดา้ น A สังเกต แบบประเมนิ ระดับ 2 ข้ึนไป

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ พฤติกรรม พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์

1. เพ่ือใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถบอกชอ่ งทางการประกอบอาชพี ได้ 

2. เพ่ือให้ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายช่องทางการประกอบอาชพี ได้ 
สาระการเรยี นรู้
เรื่อง ชอ่ งทางการประกอบอาชพี
1..ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ
-.รู้ เข้าใจ เกี่ยวกบั ความสาคญั ของช่องทางการประกอบอาชพี
-สามารถอธิบายเกีย่ วกับการประกอบอาชพี การประดษิ ฐต์ น้ ไม้จากถุง

ริไซคเ์ คลิ



3. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรรมการเรียนรู้ : รว่ มกนั สนทนาทาความเข้าใจและทาความ
รจู้ กั กันแลว้ เชือ่ มโยงสู่กจิ กรรมโดยข้อมลู จากเอกสาร สอ่ื
อเิ ล็กทรอนิกส์ สถานประกอบการ ส่อื ของจริง สื่อบคุ คล ในชุมชน
เพือ่ นาข้อมูลมาวเิ คราะห์ อธบิ ายความเปน็ มาเก่ียวกบั ชอ่ งทางการ
ประกอบอาชีพ
ส่อื เรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ : ใบงาน ส่อื ของจริง เวลา : 1 ช่วั โมง

คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั
1.ใฝรุ ใู้ ฝุเรยี น ศึกษาใบความรู้ จากแบบเรยี น 1.มีความสามารถในการสอื่ สาร อธบิ าย เขียน นาเสนอหนา้ ชน้ั
2.มวี นิ ัย ทางานตามท่ีครูมอบหมายได้ทนั เวลา 2.มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์แปลความหมาย อภปิ ราย
3.ขยัน มงุ่ มั่นในการทางาน ทาใบงาน ทากิจกรรม สรปุ ผล การคดิ เชงิ เหตุผล
4.มีความสามคั คี มีนา้ ใจ มีความรับผิดชอบ ช่วยเหลอื กันทางานกลุ่ม 3.มีความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต กระบวนการกลมุ่ การแสวงหา
ความรูเ้ พ่มิ เตมิ เรียนรู้จากส่ือออนไลน์ตา่ งๆ

แผน่ ที่ 2 กิจกรรมการเรียนรู้เสริมสรา้ งคุณลกั ษณะอยู่อย่างพอเพยี ง
เร่ือง ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ เวลา ๑ ช่วั โมง

20 นาที
1. ผจู้ ดั กิจกรรมรว่ มกนั สนทนาทาความเข้าใจ และทาความร้จู กั กันแลว้ เชื่อมโยงส่กู ิจกรรมโดยข้อมูลจาก

เอกสาร สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ สื่อของจริง สื่อบคุ คล ในชมุ ชน เพื่อนาข้อมูลมาวิเคราะห์
2. ผ้จู ัดกิจกรรมอธิบายความเปน็ มาเกย่ี วกบั ความร้เู บ้ืองต้นของชอ่ งทางการประกอบอาชีพ

20 นาที
1. ผจู้ ดั กิจกรรมร่วมกันสนทนาทาความเข้าใจและทาความรู้จกั กนั แลว้ เชอื่ มโยงสูก่ จิ กรรมโดยขอ้ มลู จาก

เอกสาร สื่ออเิ ลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ ส่ือของจริง สอ่ื บคุ คล เพอ่ื นาขอ้ มูลมาวเิ คราะห์
2. ผ้จู ัดกจิ กรรมอธบิ ายความเปน็ มาเกี่ยวกบั ความรูเ้ บื้องต้นของช่องทางการประกอบอาชีพ
3. แบง่ กลมุ่ ผูร้ ว่ มกจิ กรรม ออกเปน็ กลมุ่ ๆ
4. ผจู้ ดั กิจกรรมให้ใบความรู้ และ ใบงาน เร่ืองความรู้เบื้องตน้ เกีย่ วกบั ชอ่ งทางการประกอบอาชีพเพื่อให้ผู้รว่ ม

กิจกรรมศึกษา
5. ผรู้ ่วมกจิ กรรมศึกษาใบความรู้ และ ร่วมกนั ทาใบงาน ความรเู้ บ้อื งตน้ ช่องทางการประกอบอาชีพ
6. ผ้จู ัดกจิ กรรมและผรู้ ว่ มกจิ กรรมแตล่ ะกลุม่ ช่วยกันสรุปสาระสาคญั

20 นาที
1 ครูให้ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่ม นาเสนอความรู้ทไ่ี ดจ้ ากใบความรทู้ ี่ไดร้ บั
2 ตวั แทนผู้เรยี นแต่ละกลุ่มได้นาความร้ทู ไ่ี ด้ศึกษาด้วยตนเองจากใบความรมู้ านาเสนอหน้าชั้นเรยี น
3 ครูและผเู้ รยี นแลกเปล่ียนเรียนรู้รว่ มกนั พรอ้ มท้ังสรุปเน้ือหา
4 ครูใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาความรู้เพมิ่ เติมจากส่อื นัน้ ๆ แล้วจดั ทารายงาน
5 ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณ์หลงั จากการเรียนรู้ด้วยตนเองไปใช้ในการจัดทารายงาน
6 ผู้เรียนสามารถแก้ไขปัญหา อปุ สรรคในการทางานในแต่ละครั้งได้ พร้อมสรปุ จดั ทารายงานรวบรวมเปน็ แฟมู

งาน
7 ครสู ังเกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมของผู้เรยี นในกระบวนกลุม่ กลุ่ม/การสง่ งาน
8 ครูตรวจงาน
9 ครูและผเู้ รยี นรว่ มกนั อภิปรายสรุป
10 ครูบนั ทึกหลังการสอน

แผ่นท่ี 3 ชุดคาถามกระตุ้นเพ่ือปลูกฝังหลกั คิดพอเพยี ง
เร่อื ง ช่องทางการประกอบอาชพี เวลา 1 ชว่ั โมง

**************************************

คาถามกระตนุ้ คิดเพื่อปลกู ฝังหลกั คิดพอเพียงก่อนเรยี น
1. ตวามสาคญั ของช่องทางการประกอบอาชีพ คือ
2. อาชพี หมายถงึ
3. การมองชอ่ งทางการประกอบอาชีพมีอะไรบ้าง

คาถามกระตุ้นคิดเพอื่ ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพียงระหวา่ งเรียน
๕. การประกอบอาชีพ อะไรมากที่สดุ
๖. การประกอบอาชีพ มปี ระโยชนแ์ ก่สังคมด้านใด
8. ช่องทางการประกอบอาชีพ มอี ะไรทีส่ าคัญเร่ืองใดมากทส่ี ดุ
9. โลกมีการพัฒนาเปล่ยี นแปลงอยู่ตลอดเวลาเราควรปฏบิ ตั ิตัวอยา่ งไรและควรเลอื กอาชีพอะไร
10. คาวา่ “พอเพียง” หมายความวา่ อย่างไร

คาถามกระตนุ้ คดิ เพอ่ื ปลกู ฝังหลักคดิ พอเพียงหลงั เรยี น
11. การประกอบอาชพี มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
12. เพราะสาเหตุใดเราต้องประกอบอาชีพ
13. “เปูาหมายท่ีจะให้ประชาชนในชุมชน อยู่ดี กนิ ดี และสนั ติสขุ โดยยดึ มั่นในแนวคดิ การชว่ ยเหลอื ตนเอง

และชว่ ยเหลอื ซ่ึงกนั และกนั ” คืออะไร
14. แนวทางการพฒั นาเพอ่ื ความยั่งยนื ของชมุ ชน หรอื ชมุ ชนย่งั ยืน ความทาอยา่ งไร

แผน่ ท่ี 4 แนวทางทคี่ รูนาหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้จัดการเรยี นรู้

เรอ่ื ง ชอ่ งทางการประกอบอาชพี เวลา 1 ชัว่ โมง

ครผู ้สู อนนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาจดั กิจกรรมการเรียนรูด้ ังนี้

ความรทู้ ค่ี รูต้องมกี ่อนสอน คุณธรรมของครูในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้

1.ปัญหาชมุ ชนดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ สง่ิ แวดลอ้ ม 1.มีความรัก เมตตาศษิ ย์

2.ช่องทางการประกอบอาชีพ 2.มีความรับผิดชอบ

3.การมีสว่ นรว่ มในการแก้ปญั หาหรอื พัฒนาชมุ ชน 3.มคี วามยตุ ธิ รรม

4.การส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยายผลการปฏบิ ตั งิ าน 4.ตรงตอ่ เวลา

ประเด็น พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู คิ ุม้ กันในตัวท่ดี ี

เน้อื หา -เนอ้ื หาการแก้ปัญหาชุมชน -ต้องการใหผ้ ู้เรียนรูว้ ธิ กี ารแก้ปัญหา -สรุปเน้ือหาใหอ้ ่านเข้าใจง่าย มภี าพประกอบ

สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน ตวั ช้ีวัด ชมุ ชน ดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ เนอ้ื หา

เหมาะสมกบั เวลาท่กี าหนดและวยั ส่งิ แวดล้อม และวฒั นธรรมตาม -เรียงเน้ือหาตามลาดบั การเรยี นรู้

ของผู้เรียน หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

นาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

เวลา -กาหนดเวลาในแตล่ ะกจิ กรรม -จัดการเรยี นร้ใู ห้ครบถ้วนตามท่ี -กาหนดเวลาในแตล่ ะกิจกรรมไวเ้ กนิ จรงิ

เหมาะสมกับกิจกรรมและวัยของ ออกแบบไว้ เล็กนอ้ ย เพ่อื รองรับการเปลีย่ นแปลงระหวา่ ง

ผ้เู รยี น จัดกจิ กรรม

การจัด -แบ่งกลุ่มผู้เรียนใหพ้ อดีกับ -ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนปฏบิ ตั ิกิจกรรม -แบ่งกลุม่ คละความสามารถของผเู้ รยี น

กจิ กรรม จานวนผูเ้ รียน อย่างท่ัวถงึ ตามความสามารถ -เตรียมชุดคาถามให้พร้อมตามลาดับกจิ กรรม

-กาหนดกจิ กรรมการเรียนรู้ -เพ่ือตอ้ งการให้ผ้เู รยี นเกดิ การ การเรียน

เหมาะสมกับเวลาทก่ี าหนด เรียนรู้ตามเปูาหมายทก่ี าหนด -สงั เกตพฤติกรรมและใหค้ วามช่วยเหลือเมอ่ื

-มอบหมายภาระงานและชน้ิ งาน -ผ้เู รียนนาความรูไ้ ปประยกุ ตใ์ ชก้ ับ ผู้เรียนมีปญั หา

เหมาะสมกบั ความสามารถผู้เรยี น ภาระงานได้

และสอดคล้องกับเปาู หมาย

ส่อื / -จานวนใบความรู้ ใบงานและวสั ดุ -ต้องการให้ผู้เรยี นไดป้ ฏบิ ัติกจิ กรรม -เตรียมสื่ออปุ กรณ์การจดั กิจกรม

อุปกรณ์ อุปกรณเ์ หมาสมะกับกิจกรรมและ ไดจ้ ริงตามจดุ ประสงคก์ ารเรียนรทู้ ี่ -มีลาดบั ขนั้ ตอนการใชส้ ่อื และจดั เกบ็ อยา่ ง

ปรมิ าณเพียงพอกับผ้เู รยี น กาหนดไว้ เป็นระบบ

-มีความชานาญในการใช้ส่อื

แหลง่ -ภมู ิปญั ญาชาวบ้าน กลุ่มอาชพี -ต้องการใหผ้ ู้เรียนใชว้ ัสดุอปุ กรณ์ที่ -เตรียมหอ้ งใหพ้ ร้อมก่อน

เรยี นรู้ ตา่ งๆในชุมชน ท่เี หมาะสมกบั มพี รอ้ มมาปฏบิ ตั ิตามตวั ช้วี ดั

กจิ กรรมท่กี าหนด

การ -จดั ทาแบบประเมนิ ผลงานและ -ตอ้ งการประเมินผลการเรียนรตู้ าม -วางแผนการวดั /ประเมินผลตามข้ันตอนของ

ประเมนิ พฤติกรรมไดเ้ หมาะสมกบั เปูาหมายทกี่ าหนด กจิ กรรม

ผล เปูาหมายการเรยี นรู้ -แบบประเมนิ ผลมกี ารตรวจสอบเที่ยงตรงใน

การวดั ตามตัวชว้ี ดั

แผน่ ท่ี 5 ผลทีจ่ ะเกิดข้นึ กับผู้เรียนจากการจัดกจิ กรรมการเรียนรูต้ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

เรอ่ื ง ชอ่ งทางการประกอบอาชีพ เวลา 1 ชัว่ โมง

5.1 ผ้เู รียนจะไดฝ้ ึกคิดและฝกึ ปฏิบตั ิตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ดังน้ี

ความรู้ทนี่ ักเรียนต้องมกี ่อน คณุ ธรรมของนกั เรียนท่ีจะทาใหก้ ารเรยี นรู้สาเรจ็

1.ความหมาย/ความสาคัญ 1.ความสามคั คีในกลุ่ม

2.การบรหิ ารจัดการกลุม่ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 2.ความรบั ผดิ ชอบ
3.การพงึ่ ตนเองของชมุ ชน ชนบท
3.แบ่งปนั และเออ้ื เฟื้อเผอื่ แผ่

พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคมุ้ กันในตวั ทีด่ ี

1. ผเู้ รียนกาหนดหน้าท่ีของสมาชกิ ภายใน 1.ผูเ้ รียนนาขอ้ มลู จากการสารวจมาวเิ คราะห์ 1.วางแผนการทางานกล่มุ อยา่ งละเอยี ด
กลุ่มได้เหมาะสมกบั ศกั ยภาพของแตล่ ะคน ปญั หาของชุมชนด้านสังคม เศรษฐกิจ เปน็ ข้ันตอน
๒. ผู้เรียนสามารถสารวจปญั หาของชุมชน สิ่งแวดลอ้ ม และวฒั นธรรมพ้นื บา้ นของหลัก 2.เตรียมข้อมลู ของชมุ ชนทสี่ ารวจมาให้
ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ครบถ้วน
ดา้ นสังคม เศรษฐกิจ สง่ิ แวดล้อมและ 2.ผูเ้ รยี นสามารถนาข้อมูลมาเสวนาในเวที 3.ศกึ ษาวิธกี ารแก้ปญั หาใหเ้ ขา้ ใจกอ่ นท่ี
วฒั นธรรมพื้นบ้านของหลกั ปรชั ญาของ เสวนาได้อยา่ งถูกตอ้ ง จาลงมอื แกป้ ัญหาในชุมชน
เศรษฐกจิ พอเพียง

5.2 ผ้เู รยี นจะไดเ้ รียนรู้การใชช้ วี ติ ทีส่ มดลุ และพร้อมรับการเปลยี่ นแปลง 4 มิติ ตามหลัก ปศพพ. ดังนี้
ดา้ น สมดุลและพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงในด้านต่าง ๆ

องค์ประกอบ วัตถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม

ความรชู้ ุมชน ด้านสงั คม -มคี วามรูใ้ นการจัดแบง่ -มคี วามรู้ในการดแู ล -มคี วามรดู้ า้ นสังคม เศรษฐกจิ

เศรษฐกิจ สงิ่ แวดล้อม และ หนา้ ที่ภายในกลมุ่ ไดอ้ ยา่ ง รกั ษาความสะอาดการ ส่งิ แวดลอ้ ม และวัฒนธรรม

ความรู้ วฒั นธรรมพน้ื ฐานของช่อง เหมาะสม จดั การขยะอย่างถูกตอ้ ง พืน้ บ้านของการประกอบอชีพ

ทางการประกอบอาชพี -มคี วามรูใ้ นการปฏบิ ตั ติ นท่ี ภายหลงั จากการเสวนา ในชมุ ชนได้

ทางานรว่ มกบั ผอู้ ื่น

-มที กั ษะและกระบวนการ -ทางานร่วมกันภายในกลมุ่ -รักษาความสะอาดของ -แกป้ ญั หาและพัฒนาชมุ ชน

ทักษะ ในการเสวนาเปน็ อยา่ งดี ตามที่ไดร้ บั มอบหมายจน หอ้ งท่ีจดั เสวนา ด้านวัฒนธรรมพื้นฐานของการ

สาเรจ็ และมคี วามสขุ ประกอบอาชพี ได้

คา่ นิยม -เห็นความสาคัญของการใช้ -มคี วามรับผดิ ชอบต่อการ -มีจิตสานึกในการรักษา -ตระหนักถงึ คุณค่าของการ
วัสดุอุปกรณใ์ นหอ้ งสาหรบั ทางานของกล่มุ สภาพแวดล้อมของห้อง รักษา ส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยาย
การจัดเวทเี สวนา ทใี่ ช้ในการเสวนากลุ่ม การประกอบอาชพี ของบุคคล
-ยอมรบั ความคดิ เห็นซึง่ กัน ชุมชนท่ปี ระสบผลสาเรจ็
และกนั มคี วามเสยี สละ
อดทน

ใบงานที่ 1

เรอื่ ง ช่องทางการประกอบอาชีพ
๑. อธิบายคาว่าอาชีพ มาพอสังเขป
............................................................................................................................................................................. ...............
.................................................................................................................... ........................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
..................................................................................................................................................... .......................................
๒. จงบอกช่องทางการประกอบอาชีพ มาพอสงั เขป
..................................................................................................................................................... .......................................
............................................................................................ ................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................................................................................................................... ........................
........................................................................................................... .................................................................................
๓. อธิบายความสาคัญขงิ ช่องทางการประกอบอาชพี มาพอสังเขป
.......................................................................................................................... ..................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................... .............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................

แผนการสอน ครงั้ ที่............. วันท.่ี ........ เดือน.......................... พ.ศ............ จานวน 2 ชวั่ โมง
แผ่นท่ี 1 ผงั ภาพการออกแบบการเรยี นรแู้ บบย้อนกลับ (Backward Design)
เร่ือง วสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดษิ ฐต์ ้นไมจ้ ากถุงริไซคเ์ คลิ

1. เปา้ หมายการเรียนรู้ 2. หลักฐานการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดับ ภาระงาน/ชนิ้ งาน : ใบงาน/แผนพฒั นาโครงการอาชีพ
มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับวสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ ริ
การวดั ประเมินผล :
ไซคเ์ คลิ
ประเดน็ วธิ กี าร เครือ่ งมือ เกณฑป์ ระเมิน
ตวั ชว้ี ัด
ดา้ น K ชดุ คาถาม แบบประเมนิ ร้อยละ 60
1.เป็นการพัฒนาความรู้พื้นฐานของบุคคล เก่ียวกับความรู้ในเรื่องวัสดุ
ชดุ คาถาม ขน้ึ ไปผา่ น
อุปกรณ์ ในการประดษิ ฐ์ตน้ ไม้จากถงุ ริไซค์เคิล
ดา้ น P สังเกต แบบประเมนิ ระดับ 2 ขึ้นไป
2.เป็นการเรียนรู้โดยบูรณาการ เสริมทักษะสามารถน้อมนาหลักปรัชญา
พฤตกิ รรมการ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
ของเศรษฐกจิ พอเพยี งไปใช้
ทางานกลมุ่
3.เปน็ การเสรมิ สร้างการมีสว่ นร่วมของภาคเี ครอื ข่าย
ด้าน A สังเกต แบบประเมนิ ระดบั 2 ขึน้ ไป
สาระสาคัญ
ความรู้เบ้อื งต้นเกีย่ วกบั วัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถุงรไิ ซค์เคลิ พฤตกิ รรม พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์

จุดประสงค์การเรยี นรู้ 

1. เพ่ือใหผ้ ู้เรยี นสามารถบอกวสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐต์ น้ ไมจ้ ากถุงริ 

ไซคเ์ คลิ ได้ เรือ่ ง วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการ
ประดษิ ฐต์ น้ ไมจ้ ากถุงริไซคเ์ คลิ
2. เพอ่ื ใหผ้ ู้เรยี นสามารถอธบิ ายวสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ ากถุง
ริไซคเ์ คลิ ได้ 
สาระการเรยี นรู้

1..วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการประดษิ ฐต์ น้ ไม้จากถงุ รไิ ซคเ์ คิล
-.สามารถอธิบายเก่ียวกับวสั ดอุ ปุ กรณก์ ารประดษิ ฐต์ น้ ไม้จากถุงรไิ ซค์

เคลิ
-สามารถใช้วัสดอุ ปุ กรณไ์ ดถ้ กู ต้อง

3. กจิ กรรมการเรยี นรู้

กิจกรรรมการเรยี นรู้ : ร่วมกันสนทนาทาความเข้าใจและทาความ
รจู้ ักกนั แล้วเชอ่ื มโยงสกู่ ิจกรรมโดยขอ้ มูลจากเอกสาร สอื่
อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สถานประกอบการ สื่อของจริง สื่อบคุ คล ในชุมชน
เพ่อื นาข้อมลู มาวิเคราะห์ อธบิ ายความเป็นมาเก่ยี วกับชอ่ งทางการ
ประกอบอาชพี
ส่ือเรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ : ใบงาน สือ่ ของจรงิ เวลา : 2 ช่ัวโมง

คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ สมรรถนะสาคัญ
1.ใฝรุ ใู้ ฝุเรยี น ศกึ ษาใบความรู้ จากแบบเรยี น 1.มีความสามารถในการสอื่ สาร อธบิ าย เขยี น นาเสนอหนา้ ช้นั
2.มวี นิ ัย ทางานตามท่ีครมู อบหมายได้ทนั เวลา 2.มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์แปลความหมาย อภิปราย
3.ขยัน มุง่ มัน่ ในการทางาน ทาใบงาน ทากิจกรรม สรุปผล การคดิ เชิงเหตผุ ล
4.มีความสามคั คี มีนา้ ใจ มีความรับผิดชอบ ชว่ ยเหลอื กันทางานกลมุ่ 3.มีความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต กระบวนการกลุ่ม การแสวงหา
ความรเู้ พ่มิ เติม เรียนรู้จากสอื่ ออนไลนต์ า่ งๆ

แผน่ ท่ี 2 กจิ กรรมการเรยี นรู้เสรมิ สร้างคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพยี ง
เรือ่ ง วัสดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์ตน้ ไม้จากถุงริไซคเ์ คิล เวลา 2 ชัว่ โมง

30 นาที
1. ผจู้ ดั กจิ กรรมรว่ มกนั สนทนาทาความเขา้ ใจ และทาความรจู้ ักกันแล้วเชื่อมโยงส่กู ิจกรรมโดยข้อมลู จาก

เอกสาร สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ สื่อของจริง สอ่ื บคุ คล ในชุมชน เพ่ือนาข้อมูลมาวเิ คราะห์
2. ผู้จัดกจิ กรรมอธิบายความเป็นมาเกยี่ วกับความรูเ้ บื้องต้นของวัสดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ ากถงุ ริ

ไซคเ์ คิล
30 นาที

1. ผู้จดั กจิ กรรมรว่ มกนั สนทนาทาความเข้าใจและทาความรู้จักกนั แลว้ เชื่อมโยงสกู่ จิ กรรมโดยข้อมลู จาก
เอกสาร สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ ส่ือของจริง สื่อบคุ คล เพื่อนาขอ้ มลู มาวิเคราะห์

2. ผู้จดั กจิ กรรมอธบิ ายความเป็นมาเก่ยี วกบั ความรเู้ บื้องตน้ วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐ์ต้นไมจ้ ากถงุ ริไซค์
เคิล

3. แบ่งกลุม่ ผู้รว่ มกจิ กรรม ออกเปน็ กล่มุ ๆ
4. ผจู้ ัดกิจกรรมให้ใบความรู้ และ ใบงาน เร่ืองความรเู้ บื้องตน้ เก่ียวกบั วสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ าก
ถุงริไซคเ์ คิล เพ่ือใหผ้ ู้รว่ มกิจกรรมศึกษา
5. ผู้ร่วมกิจกรรมศึกษาใบความรู้ และ รว่ มกันทาใบงาน ความรู้เบือ้ งต้นวสั ดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐ์ตน้ ไม้
จากถงุ ริไซค์เคิล

6. ผู้จัดกจิ กรรมและผ้รู ว่ มกจิ กรรมแต่ละกล่มุ ช่วยกันสรุปสาระสาคญั
1 ชั่วโมง

1 ครูใหต้ ัวแทนของแต่ละกลุ่ม นาเสนอความรู้ท่ีไดจ้ ากใบความร้ทู ี่ได้รบั
2 ตัวแทนผูเ้ รียนแตล่ ะกลมุ่ ได้นาความรทู้ ี่ไดศ้ กึ ษาด้วยตนเองจากใบความรูม้ านาเสนอหน้าช้ันเรียน
3 ครูและผู้เรียนแลกเปล่ียนเรียนรรู้ ่วมกนั พร้อมทั้งสรปุ เน้ือหา
4 ครูใหผ้ ู้เรยี นศกึ ษาความรเู้ พ่มิ เติมจากสอ่ื น้นั ๆ แล้วจัดทารายงาน
5 ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณ์หลังจากการเรียนรู้ดว้ ยตนเองไปใช้ในการจัดทารายงาน
6 ผเู้ รยี นสามารถแก้ไขปัญหา อปุ สรรคในการทางานในแต่ละคร้งั ได้ พร้อมสรปุ จัดทารายงานรวบรวมเป็นแฟมู
งาน
7 ครสู งั เกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมของผเู้ รียนในกระบวนกลุม่ กลมุ่ /การส่งงาน
8 ครูตรวจงาน
9 ครูและผู้เรียนรว่ มกันอภิปรายสรุป
10 ครูบันทกึ หลังการสอน

แผ่นท่ี 3 ชุดคาถามกระตุ้นเพื่อปลกู ฝังหลกั คิดพอเพยี ง
เร่ือง วสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ ากถุงริไซคเ์ คลิ เวลา 2 ช่วั โมง

**************************************

คาถามกระตุ้นคดิ เพ่อื ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพียงก่อนเรยี น
1. วัสดุ หมายถงึ
2. อปุ กรณ์ ใชง้ านอย่างไร
3. วสั ดแุ ละอุกรณ์ มีอะไรบา้ ง

คาถามกระตุ้นคิดเพอื่ ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพียงระหว่างเรียน
๕. วัสดุ อะไรที่ใช้มากท่สี ดุ
๖. วสั ดทุ ใ่ี ช้ มปี ระโยชน์แก่สงั คมดา้ นใด
8. อุปกรณอ์ ะไรท่ีสาคญั มากที่สดุ ในการประดิษฐ์
9. โลกมีการพฒั นาเปล่ียนแปลงอยูต่ ลอดเวลาเราควรปฏิบัตติ วั อย่างไรและควรเลอื กอาชพี อะไร
10. คาวา่ “พอเพียง” หมายความว่าอย่างไร

คาถามกระตนุ้ คิดเพ่ือปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงหลังเรยี น
11. การที่รู้จักวัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดิษฐต์ ้นไม้จากถุงริไซคเ์ คิล มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
12. เพราะสาเหตใุ ดเราต้องรู้จักวสั ดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ ริไซค์เคิล
13. “เปาู หมายทจี่ ะให้ประชาชนในชมุ ชน อยดู่ ี กินดี และสนั ติสุข โดยยดึ มนั่ ในแนวคดิ การชว่ ยเหลือตนเอง

และชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกัน” คอื อะไร
14. แนวทางการพฒั นาเพอ่ื ความยงั่ ยืนของชมุ ชน หรือชุมชนยัง่ ยืน ความทาอย่างไร

แผน่ ที่ 4 แนวทางท่คี รูนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้จดั การเรียนรู้

เร่ือง วัสดุ อปุ กรณ์ ในการประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถงุ ริไซคเ์ คลิ เวลา 2 ชัว่ โมง

ครผู สู้ อนนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาจดั กจิ กรรมการเรยี นรดู้ งั นี้

ความรทู้ คี่ รตู อ้ งมีกอ่ นสอน คณุ ธรรมของครใู นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.ปัญหาชมุ ชนด้านสงั คม เศรษฐกิจ สง่ิ แวดล้อม 1.มคี วามรกั เมตตาศษิ ย์

2.ช่องทางการประกอบอาชีพ 2.มคี วามรับผดิ ชอบ

3.การมสี ่วนรว่ มในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาชมุ ชน 3.มคี วามยุตธิ รรม

4.การสง่ เสรมิ เผยแพร่ ขยายผลการปฏบิ ัตงิ าน 4.ตรงต่อเวลา

ประเดน็ พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู คิ มุ้ กนั ในตวั ทดี่ ี

เนื้อหา -เน้อื หาการแกป้ ญั หาชุมชน -ตอ้ งการให้ผเู้ รยี นรวู้ ิธีการแก้ปัญหา -สรปุ เนอ้ื หาใหอ้ า่ นเขา้ ใจง่าย มภี าพประกอบ

สอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน ตัวชว้ี ัด ชมุ ชน ดา้ นสังคม เศรษฐกจิ เนอื้ หา

เหมาะสมกับเวลาทกี่ าหนดและวยั สง่ิ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรมตาม -เรยี งเนื้อหาตามลาดบั การเรียนรู้

ของผ้เู รยี น หลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

นาไปปรบั ใช้ในชวี ติ ประจาวนั

เวลา -กาหนดเวลาในแตล่ ะกจิ กรรม -จัดการเรียนรู้ให้ครบถ้วนตามท่ี -กาหนดเวลาในแตล่ ะกจิ กรรมไว้เกนิ จริง

เหมาะสมกบั กจิ กรรมและวยั ของ ออกแบบไว้ เลก็ นอ้ ย เพือ่ รองรับการเปลย่ี นแปลงระหวา่ ง

ผู้เรียน จดั กจิ กรรม

การจดั -แบง่ กลุ่มผู้เรยี นให้พอดกี บั -ตอ้ งการให้ผู้เรียนปฏบิ ตั ิกจิ กรรม -แบ่งกลุม่ คละความสามารถของผเู้ รยี น

กจิ กรรม จานวนผู้เรียน อย่างทว่ั ถึงตามความสามารถ -เตรยี มชุดคาถามให้พร้อมตามลาดับกิจกรรม

-กาหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้ -เพ่ือตอ้ งการใหผ้ ้เู รยี นเกดิ การ การเรยี น

เหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด เรยี นรูต้ ามเปูาหมายท่ีกาหนด -สังเกตพฤตกิ รรมและให้ความช่วยเหลอื เมอ่ื

-มอบหมายภาระงานและชน้ิ งาน -ผเู้ รยี นนาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชก้ บั ผเู้ รยี นมปี ญั หา

เหมาะสมกับความสามารถผู้เรียน ภาระงานได้

และสอดคลอ้ งกับเปาู หมาย

สื่อ/ -จานวนใบความรู้ ใบงานและวสั ดุ -ต้องการให้ผู้เรยี นไดป้ ฏบิ ัตกิ จิ กรรม -เตรยี มสอื่ อปุ กรณ์การจดั กจิ กรม

อปุ กรณ์ อปุ กรณ์เหมาสมะกับกจิ กรรมและ ได้จริงตามจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ที่ -มลี าดับขนั้ ตอนการใชส้ ื่อและจดั เก็บอยา่ ง

ปริมาณเพียงพอกับผ้เู รียน กาหนดไว้ เปน็ ระบบ

-มีความชานาญในการใชส้ อ่ื

แหลง่ -ภมู ิปญั ญาชาวบ้าน กลุม่ อาชพี -ต้องการใหผ้ เู้ รยี นใช้วัสดอุ ุปกรณท์ ี่ -เตรียมห้องให้พร้อมก่อน

เรยี นรู้ ต่างๆในชมุ ชน ที่เหมาะสมกบั มพี รอ้ มมาปฏิบตั ิตามตวั ช้วี ดั

กจิ กรรมท่ีกาหนด

การ -จัดทาแบบประเมนิ ผลงานและ -ต้องการประเมินผลการเรยี นรตู้ าม -วางแผนการวดั /ประเมินผลตามขัน้ ตอนของ

ประเมนิ พฤติกรรมไดเ้ หมาะสมกับ เปูาหมายท่กี าหนด กจิ กรรม

ผล เปูาหมายการเรียนรู้ -แบบประเมนิ ผลมกี ารตรวจสอบเทย่ี งตรงใน

การวัดตามตัวช้วี ัด

แผ่นที่ 5 ผลทีจ่ ะเกิดขึน้ กบั ผู้เรยี นจากการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

เร่ือง วัสดุ อุปกรณ์ ในการประดิษฐ์ต้นไม้จากถงุ ริไซค์เคิล เวลา 2 ชั่วโมง

5.2 ผูเ้ รียนจะไดฝ้ ึกคดิ และฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ดังนี้

ความรทู้ ี่นักเรียนต้องมกี ่อน คุณธรรมของนกั เรียนท่จี ะทาให้การเรียนรสู้ าเรจ็

1.ความหมาย/ความสาคญั 1.ความสามคั คใี นกลุม่

2.การบรหิ ารจัดการกลมุ่ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง 2.ความรับผดิ ชอบ
3.การพง่ึ ตนเองของชมุ ชน ชนบท
3.แบง่ ปนั และเออ้ื เฟอ้ื เผื่อแผ่

พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวทีด่ ี

1. ผู้เรียนกาหนดหน้าท่ขี องสมาชกิ ภายใน 1.เพ่ือเรยี นรู้วสั ดุ อปุ กรณ์ ในการประดษิ ฐ์ 1.การวางแผนการทางานอยา่ งเปน็
กลมุ่ ได้เหมาะสมกับศักยภาพของแต่ละคน ระบบทัง้ บุคคลและวสั ดุอุปกรณ์ในการ
๒. ผู้เรยี นสามารถสารวจปัญหาของชุมชน ต้นไม้จากถงุ รไิ ซคเ์ คลิ เรียนรู้
2.เรียนรู้ เข้าใจและนาไปปฏบิ ตั ิวสั ดุ
ดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ ส่งิ แวดลอ้ มและ 2.ผูเ้ รียนสามารถใช้วัสดุ อุปกรณ์ ในการ และอปุ กรณ์ ในการประดิษฐต์ ้นไมจ้ าก
วฒั นธรรมพนื้ บา้ นของหลกั ปรชั ญาของ ประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถงุ ริไซค์เคลิ ถุงรไิ ซคเ์ คลิ
เศรษฐกิจพอเพยี ง ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 3.มที ักษะกระบวนการในการทางาน

5.2 ผูเ้ รยี นจะไดเ้ รียนร้กู ารใช้ชวี ติ ท่ีสมดลุ และพร้อมรบั การเปลยี่ นแปลง 4 มิติ ตามหลัก ปศพพ. ดงั น้ี
ด้าน สมดลุ และพรอ้ มรับการเปลี่ยนแปลงในด้านตา่ ง ๆ

องคป์ ระกอบ วัตถุ สงั คม สิง่ แวดล้อม วฒั นธรรม

ได้ความรู้ ความเขา้ ใจวัสดุ ไดน้ าความรเู้ กยี่ วกับวัสดุ -มคี วามรใู้ นการดแู ล -มีความรู้ดา้ นสังคม เศรษฐกจิ

และอุปกรณ์ ในการ และอปุ กรณ์ ในการ รักษาความสะอาดการ สิง่ แวดล้อม และวฒั นธรรม

ประดษิ ฐต์ ้นไมจ้ ากถุงรไิ ซค์ ประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ รไิ ซค์ จัดการขยะอยา่ งถกู ตอ้ ง พืน้ บ้านการของศกึ ษา
ความรู้ เคิล
เคลิ มาปฎบิ ตั ิ -นาทรพั ยากรใน สง่ิ ประดิษฐ์ ในชุมชน
-มคี วามรูใ้ นการปฏิบัตติ นที่ ท้องถนิ่ มาใชใ้ หเ้ กดิ
ทางานรว่ มกบั ผู้อนื่ ประโยชน์ -การถา่ ยทอดองคค์ วามร้ใู หก้ บั
ชมุ ชน

-มที ักษะและกระบวนการ -ทางานรว่ มกนั ภายในกลมุ่ -รักษาความสะอาดของ -แก้ปญั หาและพัฒนาชมุ ชน

ทกั ษะ ในการเสวนาเป็นอยา่ งดี ตามท่ไี ด้รบั มอบหมายจน ห้องทจ่ี ดั เสวนา ด้านวัฒนธรรมพนื้ ฐานของการ

สาเรจ็ และมคี วามสุข กาจดั จยะได้

คา่ นิยม -เหน็ ความสาคัญของการใช้ -มีความรบั ผิดชอบต่อการ -มจี ติ สานกึ ในการรักษา -ตระหนกั ถงึ คณุ คา่ ของการ
วัสดอุ ุปกรณใ์ นหอ้ งสาหรับ ทางานของกลมุ่ สภาพแวดล้อมของห้อง รกั ษา ส่งเสริม เผยแพร่ ขยาย
การจัดเวทีเสวนา ทีใ่ ชใ้ นการเสวนากล่มุ ผลการปฏิบตั ิการกาจดั ขยะอง
-ยอมรับความคดิ เห็นซึ่งกนั บุคคล ชุมชนท่ปี ระสบ
และกันมคี วามเสยี สละ ผลสาเรจ็
อดทน

ใบงานท่ี 2

เรอ่ื ง ช่องทางการประกอบอาชพี
๔. คาว่า วัสดุ หมายถึง อะไร อธิบายมาพอสังเขป
................................................................................................................................................................ ............................
....................................................................................................... .....................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
..................................................................................................................................................... .......................................
๕. จงบอก วัสดแุ ละอุกรณ์แตกต่างกันอย่างไร อธบิ ายมาพอสังเขป
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
....................................................................................................................................... .....................................................
............................................................................................................................................................................................
๖. อธบิ ายตวามสาคัญของการรีไซคเ์ คิล มาพอสงั เขป
............................................................................................................................. ...............................................................
..................................................................................................................................................... .......................................
............................................................................................ ................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................................................................................................................... ........................

แผนการสอน คร้งั ท่.ี ............ วันท.ี่ ........ เดือน.......................... พ.ศ............ จานวน 6 ช่ัวโมง
แผน่ ท่ี 1 ผังภาพการออกแบบการเรยี นรแู้ บบย้อนกลับ (Backward Design)
เรอ่ื ง ทกั ษะการประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถงุ รไิ ซค์เคิล

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2. หลกั ฐานการเรียนรู้

มาตรฐานการเรียนรรู้ ะดับ ภาระงาน/ชนิ้ งาน : ใบงาน/แผนพัฒนาโครงการอาชีพ
มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับทักษะการประดษิ ฐต์ ้นไม้จากถุงริไซคเ์ คิล
การวดั ประเมินผล :
ตวั ชีว้ ดั
ประเดน็ วิธกี าร เครอ่ื งมอื เกณฑ์ประเมนิ
1.เป็นการพัฒนาความรู้พ้ืนฐานของบุคคล เกี่ยวกับความรู้ในเรื่องทักษะ
ด้าน K ชุดคาถาม แบบประเมนิ ร้อยละ 60
การประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ ริไซค์เคิล
ชดุ คาถาม ข้ึนไปผา่ น
2.เป็นการเรียนรู้โดยบูรณาการ เสริมทักษะสามารถน้อมนาหลักปรัชญา
ดา้ น P สงั เกต แบบประเมนิ ระดบั 2 ข้ึนไป
ของเศรษฐกิจพอเพียงไปใช้
พฤตกิ รรมการ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์
3.เป็นการเสริมสรา้ งการมีส่วนรว่ มของภาคีเครอื ข่าย
ทางานกลมุ่
สาระสาคญั
ความรู้เบือ้ งต้นเกย่ี วกับทักษะการประดษิ ฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ ริไซคเ์ คลิ ดา้ น A สงั เกต แบบประเมนิ ระดับ 2 ข้นึ ไป

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ พฤตกิ รรม พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์

1. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนสามารถบอกทักษะการประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถุงรไิ ซคเ์ คิลได้ 

2. เพือ่ ใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถปฎบิ ตั ิการประดิษฐ์ต้นไม้จากถุงรไิ ซคเ์ คลิ 
สาระการเรียนรู้
1..ทักษะการประดิษฐ์ต้นไมจ้ ากถงุ รไิ ซคเ์ คลิ เรือ่ ง ทักษะการประดิษฐต์ ้นไม้
จากถงุ ริไซคเ์ คลิ
-.ขน้ั ตอน วธิ กี ารทา / ฝึกปฏบิ ตั กิ ารประดษิ ฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ รไิ ซค์เคิล
-สามารถรู้วิธีการเกบ็ รายละเอยี ดในการประดิษฐต์ น้ ไมจ้ ากถุงรไิ ซค์เคิล



3. กิจกรรมการเรยี นรู้

กิจกรรรมการเรยี นรู้ : ร่วมกนั สนทนาทาความเขา้ ใจและทาความ
ร้จู กั กันแล้วเชอ่ื มโยงสู่กิจกรรมโดยข้อมูลจากเอกสาร ส่อื
อิเลก็ ทรอนกิ ส์ สถานประกอบการ สื่อของจรงิ สอื่ บคุ คล ในชุมชน
เพ่อื นาขอ้ มูลมาวิเคราะห์ อธบิ ายความเปน็ มาเกีย่ วกบั ทกั ษะการ
ประดิษฐต์ น้ ไมจ้ ากถงุ ริไซค์เคลิ
สือ่ เรียนร/ู้ แหลง่ เรียนรู้ : ใบงาน ส่ือของจรงิ เวลา : 6 ช่ัวโมง

คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั
1.ใฝรุ ใู้ ฝเุ รยี น ศึกษาใบความรู้ จากแบบเรยี น 1.มคี วามสามารถในการส่อื สาร อธิบาย เขยี น นาเสนอหนา้ ช้นั
2.มวี นิ ัย ทางานตามท่คี รมู อบหมายได้ทนั เวลา 2.มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์แปลความหมาย อภิปราย
3.ขยนั มุ่งมั่นในการทางาน ทาใบงาน ทากิจกรรม สรปุ ผล การคิดเชิงเหตผุ ล
4.มคี วามสามคั คี มนี า้ ใจ มีความรับผิดชอบ ชว่ ยเหลอื กันทางานกลุ่ม 3.มีความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ กระบวนการกลุ่ม การแสวงหา
ความรเู้ พ่ิมเตมิ เรยี นรูจ้ ากส่อื ออนไลนต์ า่ งๆ

แผ่นที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้เสริมสรา้ งคณุ ลักษณะอยู่อย่างพอเพียง
เรอ่ื ง ทกั ษะการประดิษฐ์ต้นไม้จากถุงริไซค์เคิล เวลา 6 ชวั่ โมง

30 นาที
1. ผู้จดั กจิ กรรมรว่ มกันสนทนาทาความเข้าใจ และทาความรู้จักกนั แล้วเช่ือมโยงส่กู จิ กรรมโดยข้อมลู จาก

เอกสาร สือ่ อิเลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ สื่อของจริง สอ่ื บุคคล ในชุมชน เพ่ือนาข้อมลู มาวิเคราะห์
2. ผู้จัดกิจกรรมอธิบายความเป็นมาเกย่ี วกบั ความรูเ้ บ้ืองต้นทักษะการประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ ากถุงริไซค์เคลิ

1 ชัว่ โมง 30 นาที
1. ผจู้ ดั กจิ กรรมร่วมกนั สนทนาทาความเขา้ ใจและทาความรู้จักกนั แลว้ เชือ่ มโยงสกู่ จิ กรรมโดยขอ้ มลู จาก

เอกสาร ส่ืออิเลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ ส่ือของจริง สอ่ื บุคคล เพือ่ นาขอ้ มลู มาวเิ คราะห์
2. ผู้จดั กจิ กรรมอธบิ ายความเปน็ มาเก่ียวกบั ความร้เู บื้องต้นทักษะการประดษิ ฐ์ต้นไม้จากถุงริไซค์เคลิ
3. แบง่ กลมุ่ ผู้ร่วมกจิ กรรม ออกเปน็ กลุ่มๆ
4. ผู้จัดกิจกรรมใหใ้ บความรู้ และ ใบงาน เรื่องความรู้เบื้องตน้ เกี่ยวกบั ทักษะการประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถุงรไิ ซค์

เคลิ เพ่ือให้ผ้รู ว่ มกจิ กรรมศกึ ษา
5. ผรู้ ว่ มกิจกรรมศึกษาใบความรู้ และ ร่วมกันทาใบงาน ความรู้เบอ้ื งตน้ ทักษะการประดิษฐ์ตน้ ไม้จากถงุ ริไซค์

เคลิ
6. ผจู้ ัดกจิ กรรมและผู้รว่ มกิจกรรมแต่ละกลุม่ ช่วยกนั สรปุ สาระสาคญั

4 ชว่ั โมง
1 ครใู ห้ตัวแทนของแตล่ ะกลุ่ม ปฎิบัตกิ ารประดิษฐต์ น้ ไมจ้ ากถุงริไซค์เคลิ
2 ตวั แทนผู้เรยี นแต่ละกลุ่มได้นาชน้ิ งานท่ไี ด้ทาดว้ ยด้วยตนเองมานาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
3 ครูและผู้เรียนแลกเปลยี่ นเรียนรูร้ ว่ มกันพร้อมทง้ั สรุปเนื้อหาและทักษะตา่ งๆที่ไดเ้ รยี นรู้
4 ครูให้ผ้เู รยี นศึกษาความรู้เพ่มิ เตมิ จากส่อื นั้นๆ แลว้ จัดทาชน้ิ งานของแต่ละคน
5 ผเู้ รยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณห์ ลังจากการเรียนรูด้ ้วยตนเองไปใชใ้ นการจัดทาช้นิ งาน
6 ผู้เรยี นสามารถแก้ไขปญั หา อปุ สรรคในการทางานในแต่ละครงั้ ได้
7 ครสู ังเกตพฤติกรรมการมสี ่วนร่วมของผเู้ รยี นในกระบวนกลุ่มกลุ่ม/การสง่ งาน
8 ครตู รวจงาน
9 ครแู ละผู้เรยี นรว่ มกนั อภิปรายสรปุ
10 ครบู ันทกึ หลงั การสอน

แผ่นท่ี 3 ชุดคาถามกระตุ้นเพ่ือปลกู ฝงั หลกั คิดพอเพยี ง
เร่ือง ทกั ษะการประดษิ ฐต์ ้นไม้จากถุงริไซคเ์ คลิ เวลา 6 ชว่ั โมง

**************************************

คาถามกระตนุ้ คิดเพ่ือปลูกฝังหลักคิดพอเพียงก่อนเรียน
1. ทักษะ หมายถึง
2. การประดิษฐ์ มกี ่ีประเภท
3. รีไซค์เคิลมปี ะโยชนอ์ ะไรบ้างตอ่ สิ่งแวดล้อม

คาถามกระตุ้นคดิ เพือ่ ปลูกฝังหลกั คดิ พอเพียงระหว่างเรยี น
๕. ขยะ อะไรทสี่ ามารถมารีไซคเ์ คิลมากทสี่ ดุ
๖. การรีไซคข์ ยะ มีประโยชนแ์ ก่สังคมและสง่ิ แวดล้อมอย่างไรบ้าง
8. การประดิษฐจ์ าการรีไซค์เคลิ มคี วามสาคัญอย่างไรบ้าง
9. โลกมกี ารพัฒนาเปลี่ยนแปลงอยตู่ ลอดเวลาเราควรปฏิบัติตัวอย่างไร
10. คาวา่ “พอเพียง” หมายความวา่ อยา่ งไร

คาถามกระต้นุ คดิ เพ่ือปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงหลงั เรยี น
11. การประดิษฐ์ตน้ ไม้จากถุงรไิ ซค์เคิล มีประโยชน์อย่างไรบา้ ง
12. เพราะสาเหตใุ ดเราต้องประดษิ ฐ์ตน้ ไม้จากถุงรไิ ซค์เคิล
13. “เปูาหมายท่จี ะให้ประชาชนในชมุ ชน อยู่ดี กินดี และสนั ติสขุ โดยยดึ มนั่ ในแนวคิดการช่วยเหลือตนเอง

และชว่ ยเหลือซ่ึงกันและกนั ” คืออะไร
14. แนวทางการพฒั นาเพื่อความยั่งยนื ของชมุ ชน หรอื ชุมชนย่งั ยนื ความทาอย่างไร

แผ่นท่ี 4 แนวทางท่คี รูนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชจ้ ดั การเรยี นรู้

เรื่อง ทกั ษะการประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถุงริไซค์เคลิ เวลา 6 ช่ัวโมง

ครูผสู้ อนนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาจดั กิจกรรมการเรียนรู้ดงั น้ี

ความรู้ทีค่ รูตอ้ งมกี อ่ นสอน คุณธรรมของครูในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1.ปญั หาชุมชนดา้ นสงั คม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม 1.มคี วามรัก เมตตาศิษย์

2.ทกั ษะการประดิษฐต์ ้นไมจ้ ากถงุ ริไซคเ์ คลิ 2.มีความรบั ผดิ ชอบ

3.การมสี ่วนรว่ มในการแก้ปญั หาหรือพฒั นาชุมชน 3.มีความยตุ ธิ รรม

4.การส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยายผลการปฏบิ ัตงิ าน 4.ตรงตอ่ เวลา

ประเด็น พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู ิคุ้มกันในตวั ทีด่ ี

เน้อื หา -เนอ้ื หาการแกป้ ญั หาชุมชน -ต้องการให้ผ้เู รยี นรู้วิธีการแกป้ ัญหา -สรุปเนอ้ื หาใหอ้ า่ นเขา้ ใจง่าย มภี าพประกอบ

สอดคล้องกับมาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด ชุมชน ดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ เน้ือหา

เหมาะสมกับเวลาท่กี าหนดและวัย สง่ิ แวดล้อม และวฒั นธรรมตาม -เรียงเนอ้ื หาตามลาดบั การเรยี นรู้

ของผ้เู รยี น หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

นาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

เวลา -กาหนดเวลาในแตล่ ะกิจกรรม -จัดการเรยี นรใู้ ห้ครบถ้วนตามท่ี -กาหนดเวลาในแตล่ ะกจิ กรรมไว้เกินจรงิ

เหมาะสมกับกจิ กรรมและวัยของ ออกแบบไว้ เล็กนอ้ ย เพอ่ื รองรบั การเปลี่ยนแปลงระหว่าง

ผเู้ รียน จดั กจิ กรรม

การจัด -แบง่ กลมุ่ ผเู้ รียนให้พอดกี ับ -ต้องการให้ผู้เรยี นปฏิบตั กิ จิ กรรม -แบ่งกลุม่ คละความสามารถของผเู้ รียน

กจิ กรรม จานวนผูเ้ รยี น อย่างท่วั ถงึ ตามความสามารถ -เตรยี มอุปกรณใ์ หพ้ ร้อมตามลาดับกจิ กรรม

-กาหนดกจิ กรรมการเรยี นรู้ -เพอื่ ต้องการให้ผ้เู รียนเกิดการ การเรียน

เหมาะสมกับเวลาท่กี าหนด เรียนรู้ตามเปูาหมายที่กาหนด -สงั เกตพฤติกรรมและใหค้ วามช่วยเหลอื เมื่อ

-มอบหมายภาระงานและชน้ิ งาน -ผเู้ รียนนาความร้ไู ปประยุกต์ใชก้ บั ผเู้ รียนมีปญั หา

เหมาะสมกบั ความสามารถผูเ้ รยี น ภาระงานได้

และสอดคล้องกับเปาู หมาย

สอ่ื / -จานวนใบความรู้ ใบงานและวัสดุ -ต้องการใหผ้ ู้เรยี นไดป้ ฏบิ ตั ิกจิ กรรม -เตรยี มอุปกรณใ์ นการจัดกจิ กรม

อุปกรณ์ อุปกรณเ์ หมาสมะกบั กจิ กรรมและ ได้จริงตามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่ -มีลาดับขน้ั ตอนการใชง้ านของวัสดอุ ยา่ งเปน็

ปริมาณเพยี งพอกับผู้เรียน กาหนดไว้ ระบบ

-มคี วามชานาญในการใช้อปุ กรณ์

แหลง่ -ภมู ปิ ญั ญาชาวบ้าน กลุม่ อาชพี -ต้องการใหผ้ ู้เรียนใช้วสั ดอุ ุปกรณ์ท่ี -เตรียมห้องใหพ้ รอ้ มก่อน

เรยี นรู้ ต่างๆในชมุ ชน ทเ่ี หมาะสมกบั มพี รอ้ มมาปฏิบัติตามตวั ชี้วดั

กิจกรรมท่ีกาหนด

การ -จัดทาแบบประเมนิ ผลงานและ -ต้องการประเมินผลการเรียนรูต้ าม -วางแผนการวัด/ประเมนิ ผลตามขน้ั ตอนของ

ประเมนิ พฤตกิ รรมไดเ้ หมาะสมกบั เปูาหมายที่กาหนด กจิ กรรม

ผล เปาู หมายการเรียนรู้ -แบบประเมนิ ผลมกี ารตรวจสอบเทีย่ งตรงใน

การวดั ตามตวั ช้วี ัด

แผน่ ที่ 5 ผลทีจ่ ะเกิดขึน้ กับผู้เรยี นจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง

เรอ่ื ง ทกั ษะการประดษิ ฐต์ ้นไม้จากถงุ ริไซค์เคลิ เวลา 6 ชว่ั โมง

5.3 ผู้เรยี นจะไดฝ้ ึกคิดและฝึกปฏิบตั ิตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดังน้ี

ความรู้ที่นกั เรยี นต้องมีก่อน คุณธรรมของนักเรียนที่จะทาใหก้ ารเรยี นรูส้ าเร็จ

1.ความหมาย/ความสาคัญ 1.ความสามคั คใี นกลมุ่

2.การบริหารจัดการกลุม่ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.ความรับผดิ ชอบ
3.การพ่งึ ตนเองของชมุ ชน ชนบท
3.แบง่ ปันและเอื้อเฟื้อเผอ่ื แผ่

พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู คิ ้มุ กนั ในตวั ท่ดี ี

1. ผู้เรยี นกาหนดหน้าทีข่ องสมาชกิ ภายใน 1.เพอื่ เรยี นรทู้ ักษะการประดิษฐต์ น้ ไมจ้ ากถุงริ 1.การวางแผนการทางานอยา่ งเปน็
กลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกับศกั ยภาพของแต่ละคน ระบบท้ังบุคคลและวสั ดอุ ุปกรณ์ในการ
๒. ผเู้ รียนสามารถสารวจปญั หาของชุมชน ไซคเ์ คลิ เรยี นรู้
2.เรยี นรู้ เขา้ ใจและนาไปปฏิบตั ิทกั ษะ
ด้านสังคม เศรษฐกิจ สิง่ แวดลอ้ มและ 2.ผเู้ รียนสามารถมีการประดิษฐต์ น้ ไม้จากถุงริ การประดิษฐ์ต้นไม้จากถงุ รไิ ซค์เคลิ
วัฒนธรรมพื้นบา้ นของหลักปรัชญาของ ไซคเ์ คลิ ได้อยา่ งถูกตอ้ ง 3.มีทักษะกระบวนการในการทางาน
เศรษฐกิจพอเพยี ง

5.2 ผเู้ รยี นจะได้เรยี นรูก้ ารใช้ชวี ติ ทสี่ มดลุ และพรอ้ มรบั การเปลย่ี นแปลง 4 มิติ ตามหลัก ปศพพ. ดังนี้
ด้าน สมดลุ และพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงในดา้ นต่าง ๆ

องคป์ ระกอบ วตั ถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม

ได้ความรู้ ความเขา้ ใจ ไดน้ าความรู้เกย่ี วกบั ทักษะ -มีความร้ใู นการดแู ล -มีความรดู้ า้ นสังคม เศรษฐกิจ

ทกั ษะการประดษิ ฐ์ต้นไม้ การประดษิ ฐต์ ้นไม้จากถุงริ รกั ษาความสะอาดการ ส่งิ แวดล้อม และวัฒนธรรม

จากถุงรไิ ซคเ์ คลิ ไซค์เคลิ จัดการขยะอย่างถูกต้อง พ้นื บ้านการของศกึ ษา
ความรู้ มาปฎบิ ตั ิ
-มคี วามร้ใู นการปฏบิ ตั ติ นที่ -นาทรัพยากรใน สง่ิ ประดิษฐ์ ในชมุ ชน
ทางานรว่ มกับผอู้ น่ื
ท้องถ่ินมาใช้ให้เกิด -การถ่ายทอดองคค์ วามรูใ้ ห้กบั

ประโยชน์ ชุมชน

-มที ักษะและกระบวนการ -ทางานร่วมกนั ภายในกลมุ่ -รักษาความสะอาดของ -แก้ปัญหาและพฒั นาชมุ ชน

ทกั ษะ ในการปฎิบตั เิ ปน็ อยา่ งดี ตามที่ได้รบั มอบหมายจน หอ้ งทป่ี ฎิบัติ ด้านวฒั นธรรมพนื้ ฐานของการ

สาเรจ็ และมีความสุข กาจัดจยะได้

คา่ นิยม -เหน็ ความสาคัญของการ -มีความรบั ผดิ ชอบตอ่ การ -มีจติ สานกึ ในการรกั ษา -ตระหนักถงึ คณุ คา่ ของการ
ประดษิ ฐ์ต้นไมจ้ ากถงุ ริไซค์ ทางานของกลมุ่ สภาพแวดล้อมของห้อง รกั ษา ส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยาย
เคลิ ในห้องสาหรบั การ ที่ใช้ในการเสวนากลุม่ ผลการปฏิบตั ิการกาจดั ขยะเอง
ปฎิบัติ -ยอมรับความคดิ เหน็ ซงึ่ กนั บุคคล ชุมชนทป่ี ระสบ
และกันมีความเสียสละ ผลสาเรจ็
อดทน

ใบงานที่ 3

เรอ่ื ง ช่องทางการประกอบอาชีพ
1.คาวา่ ทักษะ หมายถงึ อะไร อธิบายมาพอสังเขป
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................ ................
................................................................................................................... .........................................................................
2. การประดษิ ฐ์ มกี ีป่ ระเภท อะไรบ้าง
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
....................................................................................................................................................... .....................................
............................................................................................. ...............................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
3. รไี ซค์เคิลมปี ะโยชนอ์ ะไรบ้างตอ่ สิ่งแวดล้อม อธบิ ายมาพอสังเขป
............................................................................................................................. ...............................................................
..................................................................................................................................... .......................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................................................................................................... ........................................

แผนการสอน คร้งั ท.่ี ............ วันท.่ี ........ เดอื น.......................... พ.ศ............ จานวน 1 ชวั่ โมง
แผน่ ท่ี 1 ผังภาพการออกแบบการเรยี นรแู้ บบยอ้ นกลับ (Backward Design)
เรอื่ ง การเพิม่ มลู ค่า

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2. หลักฐานการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั ภาระงาน/ช้นิ งาน : ใบงาน/แผนพฒั นาโครงการอาชพี
มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกบั การเพิม่ มลู คา่
การวัดประเมนิ ผล :
ตัวชว้ี ดั
ประเด็น วิธกี าร เครื่องมือ เกณฑป์ ระเมิน
1.เปน็ การพฒั นาความรู้พ้นื ฐานของบุคคล เกี่ยวกับความรู้ในเรื่องการเพ่ิม
ด้าน K ชุดคาถาม แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60
มูลคา่
ชุดคาถาม ขึน้ ไปผ่าน
2.เป็นการเรียนรู้โดยบูรณาการ เสริมทักษะสามารถน้อมนาหลักปรัชญา
ดา้ น P สังเกต แบบประเมนิ ระดับ 2 ขึน้ ไป
ของเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้
พฤตกิ รรมการ พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์
3.เปน็ การเสริมสร้างการมีส่วนรว่ มของภาคเี ครือขา่ ย
ทางานกลุ่ม
สาระสาคัญ
ความรเู้ บ้อื งตน้ เกี่ยวกับการเพิ่มมลู คา่ ด้าน A สังเกต แบบประเมนิ ระดับ 2 ขน้ึ ไป

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ พฤตกิ รรม พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑ์

1. เพ่อื ให้ผูเ้ รียนสามารถบอกการเพมิ่ มลู ค่า ได้ 

2. เพื่อใหผ้ เู้ รียนสามารถบอกการเพิ่มมลู คา่ ได้ 
สาระการเรยี นรู้
1..การเพิ่มมลู คา่ เรอื่ ง การเพ่มิ มูลคา่

-.บอกวธิ ีการเพ่ิมมลู ค่าของผลติ ภณั ฑด์ ้วยการออกแบบผลติ ภณั ฑใ์ หม่
ได้



3. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรรมการเรยี นรู้ : ร่วมกันสนทนาทาความเขา้ ใจและทาความ
รจู้ ักกันแล้วเชื่อมโยงสู่กจิ กรรมโดยข้อมลู จากเอกสาร ส่ือ
อิเลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ สอื่ ของจรงิ สอ่ื บคุ คล ในชุมชน
เพ่อื นาข้อมูลมาวิเคราะห์ อธิบายความเป็นมาเกยี่ วกับการเพิ่มมลู คา่
สอื่ เรียนร/ู้ แหล่งเรียนรู้ : ใบงาน ส่อื ของจริง เวลา : 1 ชว่ั โมง

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญ
1.ใฝรุ ใู้ ฝุเรยี น ศกึ ษาใบความรู้ จากแบบเรยี น 1.มคี วามสามารถในการสื่อสาร อธิบาย เขียน นาเสนอหนา้ ชนั้
2.มีวนิ ยั ทางานตามท่ีครมู อบหมายไดท้ นั เวลา 2.มีความสามารถในการคดิ วเิ คราะห์แปลความหมาย อภปิ ราย
3.ขยัน มุ่งมั่นในการทางาน ทาใบงาน ทากจิ กรรม สรุปผล การคิดเชิงเหตผุ ล
4.มคี วามสามัคคี มนี า้ ใจ มคี วามรับผิดชอบ ชว่ ยเหลือกนั ทางานกลุ่ม 3.มคี วามสามารถในการใช้ทักษะชีวิต กระบวนการกลมุ่ การแสวงหา
ความรเู้ พิ่มเติม เรียนรจู้ ากสื่อออนไลน์ตา่ งๆ

แผ่นที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้เสริมสรา้ งคุณลักษณะอยู่อย่างพอเพียง
เรอ่ื ง การเพ่มิ มลู ค่า เวลา 1 ช่วั โมง

20 นาที
1. ผูจ้ ดั กิจกรรมร่วมกันสนทนาทาความเขา้ ใจ และทาความร้จู กั กนั แลว้ เชอ่ื มโยงสู่กิจกรรมโดยข้อมลู จาก

เอกสาร สอ่ื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ สถานประกอบการ ส่ือของจริง สอื่ บุคคล ในชุมชน เพ่ือนาข้อมูลมาวิเคราะห์
2. ผจู้ ัดกิจกรรมอธบิ ายความเปน็ มาเกีย่ วกบั ความร้เู บื้องต้นการเพ่ิมมลู คา่

20 นาที
1. ผจู้ ดั กจิ กรรมรว่ มกันสนทนาทาความเข้าใจและทาความรู้จกั กันแล้วเชอ่ื มโยงสู่กิจกรรมโดยขอ้ มูลจาก

เอกสาร ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์ สถานประกอบการ สื่อของจรงิ สอ่ื บคุ คล เพื่อนาข้อมูลมาวเิ คราะห์
2. ผู้จัดกิจกรรมอธบิ ายความเปน็ มาเกยี่ วกับความรูเ้ บ้ืองตน้ ทกั ษะการเพ่ิมมลู ค่า
3. แบ่งกลุ่มผรู้ ว่ มกิจกรรม ออกเป็นกลมุ่ ๆ
4. ผจู้ ัดกจิ กรรมใหใ้ บความรู้ และ ใบงาน เรื่องความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกบั การเพิม่ มูลคา่ เพ่ือใหผ้ ้รู ่วมกจิ กรรม

ศึกษา
5. ผรู้ ว่ มกิจกรรมศกึ ษาใบความรู้ และ รว่ มกนั ทาใบงาน ความรเู้ บ้อื งต้นการเพ่ิมมูลคา่
6. ผ้จู ัดกิจกรรมและผูร้ ่วมกจิ กรรมแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันสรุปสาระสาคัญ

20 นาที
1 ครใู ห้ตัวแทนของแต่ละกลุ่ม นาเสนอการเพิ่มมูลคา่
2 ตัวแทนผู้เรยี นแตล่ ะมานาเสนอหน้าช้ันเรยี น
3 ครูและผู้เรียนแลกเปล่ยี นเรียนรรู้ ว่ มกันพร้อมทัง้ สรปุ เนื้อหาๆท่ไี ดเ้ รยี นรู้
4 ครูให้ผเู้ รยี นศึกษาความรูเ้ พ่มิ เตมิ จากสอ่ื
5 ผเู้ รียนสามารถนาความรู้ และประสบการณห์ ลงั จากการเรียนรู้ด้วยตนเองไปใชใ้ นการเพิ่มมลู ค่าชน้ิ งาน
6 ผู้เรียนสามารถแก้ไขปญั หา อุปสรรคในการทางานในแต่ละคร้ังได้
7 ครูสังเกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมของผ้เู รยี นในกระบวนกล่มุ กลุม่ /การส่งงาน
8 ครูตรวจงาน
9 ครแู ละผู้เรยี นร่วมกนั อภปิ รายสรปุ
10 ครูบันทกึ หลงั การสอน

แผน่ ที่ 3 ชดุ คาถามกระตนุ้ เพื่อปลกู ฝังหลักคดิ พอเพยี ง
เรอื่ ง การเพ่มิ มลู คา่ เวลา 1 ช่วั โมง

**************************************

คาถามกระตุ้นคดิ เพ่ือปลูกฝังหลักคิดพอเพียงก่อนเรยี น
1. ผลิตภัณฑ์ หมายถงึ
2. แหลง่ วตั ถุดิบ สาคญั อยา่ ไร
3. การเพ่ิมมูลคา่ มีความจาเป็นอะไร

คาถามกระต้นุ คดิ เพื่อปลูกฝังหลกั คิดพอเพียงระหวา่ งเรยี น
๕. การออกแบบสน้ิ ค้าสามารถเพมิ่ มูลค่าได้ไหม
๖. การเพ่ิมมลู คา่ มีประโยชน์อยา่ งไรบ้าง
8. การเพ่ิมมลู ค่า สินคา้ มคี วามสาคญั อย่างไรบ้าง
9. โลกมกี ารพฒั นาเปลีย่ นแปลงอยู่ตลอดเวลาเราควรปฏิบตั ติ ัวและใชส้ อื่ อนไลน์อยา่ งไรได้บา้ ง
10. คาว่า “พอเพียง” หมายความว่าอย่างไร

คาถามกระต้นุ คิดเพอ่ื ปลูกฝังหลักคิดพอเพียงหลังเรียน
11. การการเพม่ิ มลู ค่า มปี ระโยชน์อยา่ งไรบ้าง
12. เพราะสาเหตใุ ดเราต้องเพิ่มมูลค่า
13. “เปูาหมายทจี่ ะให้ประชาชนในชุมชน อยูด่ ี กนิ ดี และสันตสิ ขุ โดยยึดมั่นในแนวคิดการช่วยเหลอื ตนเอง

และชว่ ยเหลือซงึ่ กันและกนั ” คอื อะไร
14. แนวทางการพฒั นาเพือ่ ความยง่ั ยนื ของชมุ ชน หรอื ชมุ ชนย่ังยนื ความทาอย่างไร

แผ่นท่ี 4 แนวทางทคี่ รูนาหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาใช้จัดการเรยี นรู้

เรอื่ ง การเพิ่มมลู คา่ เวลา 1 ชั่วโมง

ครผู ู้สอนนาหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียงมาจัดกิจกรรมการเรียนรดู้ ังน้ี

ความรทู้ คี่ รตู ้องมีกอ่ นสอน คุณธรรมของครูในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1.ปัญหาชมุ ชนดา้ นสงั คม เศรษฐกิจ ส่งิ แวดลอ้ ม 1.มีความรกั เมตตาศิษย์

2.การเพม่ิ มลู ค่า 2.มีความรบั ผดิ ชอบ

3.การมีสว่ นร่วมในการแก้ปัญหาหรอื พัฒนาชมุ ชน 3.มคี วามยตุ ธิ รรม

4.การส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยายผลการปฏิบัตงิ าน 4.ตรงตอ่ เวลา

ประเด็น พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภูมิคุ้มกนั ในตัวท่ีดี

เนื้อหา -เน้อื หาการแก้ปัญหาชุมชน -ต้องการให้ผเู้ รยี นร้วู ธิ กี ารแกป้ ญั หา -สรุปเน้ือหาใหอ้ า่ นเขา้ ใจงา่ ย มภี าพประกอบ

สอดคล้องกับมาตรฐาน ตวั ช้วี ดั ชุมชน ดา้ นสงั คม เศรษฐกจิ เน้อื หา

เหมาะสมกบั เวลาที่กาหนดและวัย ส่ิงแวดล้อม และวฒั นธรรมตาม -เรียงเน้ือหาตามลาดบั การเรียนรู้

ของผู้เรียน หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

นาไปปรบั ใช้ในชีวิตประจาวนั

เวลา -กาหนดเวลาในแตล่ ะกิจกรรม -จดั การเรียนรใู้ ห้ครบถ้วนตามที่ -กาหนดเวลาในแตล่ ะกจิ กรรมไวเ้ กินจริง

เหมาะสมกับกจิ กรรมและวยั ของ ออกแบบไว้ เล็กนอ้ ย เพื่อรองรบั การเปลย่ี นแปลงระหว่าง

ผู้เรียน จัดกจิ กรรม

การจดั -แบ่งกลมุ่ ผเู้ รยี นใหพ้ อดกี ับ -ต้องการให้ผู้เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรม -แบ่งกลมุ่ คละความสามารถของผู้เรยี น

กจิ กรรม จานวนผ้เู รยี น อยา่ งทั่วถึงตามความสามารถ -เตรียมอปุ กรณใ์ ห้พร้อมตามลาดบั กิจกรรม

-กาหนดกิจกรรมการเรียนรู้ -เพ่อื ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนเกิดการ การเรียน

เหมาะสมกบั เวลาท่กี าหนด เรียนรตู้ ามเปูาหมายทก่ี าหนด -สังเกตพฤติกรรมและให้ความชว่ ยเหลือเม่อื

-มอบหมายภาระงานและชน้ิ งาน -ผู้เรียนนาความรู้ไปประยกุ ตใ์ ชก้ ับ ผ้เู รียนมปี ัญหา

เหมาะสมกบั ความสามารถผ้เู รียน ภาระงานได้

และสอดคลอ้ งกบั เปาู หมาย

สอื่ / -จานวนใบความรู้ ใบงานและวสั ดุ -ตอ้ งการใหผ้ ูเ้ รียนได้ปฏิบตั กิ ิจกรรม -เตรียมอปุ กรณใ์ นการจัดกิจกรม

อุปกรณ์ อุปกรณ์เหมาสมะกับกจิ กรรมและ ได้จรงิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนร้ทู ่ี -มีลาดับขน้ั ตอนการใช้งานของวัสดุอยา่ งเปน็

ปริมาณเพยี งพอกบั ผ้เู รียน กาหนดไว้ ระบบ

-มีความชานาญในการใชอ้ ปุ กรณ์

แหล่ง -ภูมปิ ัญญาชาวบ้าน กลมุ่ อาชพี -ตอ้ งการใหผ้ ู้เรียนใช้วัสดุอุปกรณท์ ่ี -เตรยี มห้องใหพ้ ร้อมก่อน

เรียนรู้ ตา่ งๆในชุมชน ทีเ่ หมาะสมกบั มีพร้อมมาปฏิบตั ิตามตัวชวี้ ดั

กจิ กรรมท่กี าหนด

การ -จัดทาแบบประเมนิ ผลงานและ -ต้องการประเมนิ ผลการเรียนร้ตู าม -วางแผนการวัด/ประเมนิ ผลตามข้นั ตอนของ

ประเมิน พฤตกิ รรมได้เหมาะสมกับ เปูาหมายทก่ี าหนด กจิ กรรม

ผล เปูาหมายการเรียนรู้ -แบบประเมนิ ผลมีการตรวจสอบเทีย่ งตรงใน

การวดั ตามตวั ชว้ี ัด

แผน่ ท่ี 5 ผลท่จี ะเกิดขนึ้ กับผู้เรยี นจากการจัดกิจกรรมการเรียนร้ตู ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

เร่ือง การเพม่ิ มูลคา่ เวลา 1 ชว่ั โมง

5.4 ผ้เู รียนจะไดฝ้ กึ คิดและฝึกปฏิบตั ิตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดงั น้ี

ความรู้ที่นักเรียนต้องมีก่อน คุณธรรมของนกั เรียนทีจ่ ะทาให้การเรียนรสู้ าเร็จ

1.ความหมาย/ความสาคัญ 1.ความสามัคคใี นกลมุ่

2.การบริหารจัดการกล่มุ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.ความรับผดิ ชอบ
3.การพ่งึ ตนเองของชุมชน ชนบท
3.แบ่งปันและเอ้ือเฟ้อื เผือ่ แผ่

พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุ้มกันในตวั ทด่ี ี

1. ผูเ้ รียนกาหนดหนา้ ทข่ี องสมาชกิ ภายใน 1.เพ่อื เรียนรทู้ กั ษะการเพ่ิมมลู คา่ 1.การวางแผนการทางานอยา่ งเปน็
กลมุ่ ได้เหมาะสมกบั ศักยภาพของแตล่ ะคน 2.ผเู้ รียนสามารถเรยี นรู้การเพ่มิ มลู ค่า ได้ ระบบทง้ั บคุ คลและวสั ดอุ ปุ กรณใ์ นการ
๒. ผู้เรยี นสามารถสารวจปญั หาของชุมชน อย่างถูกตอ้ ง เรยี นรู้
2.เรยี นรู้ เขา้ ใจการเพิ่มมูลค่า
ดา้ นสังคม เศรษฐกจิ สิ่งแวดล้อมและ 3.มที ักษะกระบวนการในการทางาน
วฒั นธรรมพ้ืนบ้านของหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง

5.2 ผูเ้ รยี นจะได้เรียนรู้การใช้ชวี ติ ท่สี มดุลและพร้อมรบั การเปลยี่ นแปลง 4 มติ ิ ตามหลัก ปศพพ. ดงั น้ี
ดา้ น สมดุลและพร้อมรบั การเปลี่ยนแปลงในดา้ นต่าง ๆ

องค์ประกอบ วตั ถุ สงั คม สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม

ได้ความรู้ ความเข้าใจการ ไดน้ าความรู้เกยี่ วกับการเพมิ่ -มคี วามรใู้ นการดแู ล -มคี วามรดู้ า้ นสังคม เศรษฐกิจ

เพ่ิมมลู ค่า มลู คา่ รกั ษาความสะอาดการ สิง่ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรม

ความรู้ -มคี วามรใู้ นการปฏิบัตติ นที่ จดั การขยะอยา่ งถกู ตอ้ ง พื้นบา้ นการของศึกษา
ทางานร่วมกบั ผอู้ ืน่
-นาทรัพยากรใน สง่ิ ประดิษฐ์ ในชมุ ชน

ท้องถ่ินมาใชใ้ ห้เกดิ -การถ่ายทอดองค์ความรใู้ ห้กบั

ประโยชน์ ชมุ ชน

-มที กั ษะและกระบวนการ -ทางานรว่ มกนั ภายในกลมุ่ -รกั ษาความสะอาดของ -แกป้ ัญหาและพฒั นาชมุ ชน

ทักษะ ในการปฎบิ ัตเิ ป็นอย่างดี ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมายจน หอ้ งทป่ี ฎิบัติ ด้านวฒั นธรรมพ้ืนฐานของการ

สาเรจ็ และมคี วามสขุ กาจดั จยะได้

ค่านิยม -เห็นความสาคัญของการ -มคี วามรับผดิ ชอบตอ่ การ -มีจิตสานึกในการรักษา -ตระหนกั ถึงคณุ คา่ ของการ
ประดิษฐ์ตน้ ไมจ้ ากถุงรไิ ซค์ ทางานของกลมุ่ สภาพแวดลอ้ มของห้อง รักษา ส่งเสริม เผยแพร่ ขยาย
เคิล ในห้องสาหรับการ ทใี่ ช้ในการเสวนากลมุ่ ผลการปฏบิ ตั ิการกาจดั ขยะเอง
ปฎิบัติ -ยอมรบั ความคดิ เห็นซ่งึ กนั บุคคล ชมุ ชนท่ปี ระสบ
และกนั มคี วามเสียสละ ผลสาเรจ็
อดทน

ใบงานที่ 4

เรื่อง การเพม่ิ มลู คา่
1.คาว่า . บรรจุภณั ฑ์ หมายถงึ อะไร อธิบายมาพอสังเขป
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
................................................................................................................................................................... .........................
............................................................................................................................................................................................
2. การเพิ่มมูลค่า มีประโยชน์ อะไรบ้าง
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................ ................................................
.................................................................................. ..........................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
3. . การเพ่มิ มลู คา่ มีความสาคัญกบั สนิ ค้าอะไรบา้ ง อธบิ ายมาพอสงั เขป
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................ ................................
................................................................................................... .........................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
........................................................................................................................................................................... .................

แผนการสอน คร้งั ท.่ี ............ วันท.ี่ ........ เดือน.......................... พ.ศ............ จานวน 2 ชวั่ โมง
แผน่ ที่ 1 ผงั ภาพการออกแบบการเรียนรู้แบบยอ้ นกลบั (Backward Design)
เรื่อง การทาการคา้ ออนไลน์

1. เปา้ หมายการเรยี นรู้ 2. หลักฐานการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรรู้ ะดบั ภาระงาน/ช้ินงาน : ใบงาน/แผนพฒั นาโครงการอาชพี
มคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั การทาการค้าออนไลน์
การวัดประเมนิ ผล :
ตัวชว้ี ดั
ประเด็น วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑป์ ระเมิน
1.เป็นการพัฒนาความรู้พ้ืนฐานของบุคคล เก่ียวกับความรู้ในเร่ืองการทา
ดา้ น K ชดุ คาถาม แบบประเมนิ รอ้ ยละ 60
การคา้ ออนไลน์
ชุดคาถาม ข้ึนไปผา่ น
2.เป็นการเรียนรู้โดยบูรณาการ เสริมทักษะสามารถน้อมนาหลักปรัชญา
ดา้ น P สงั เกต แบบประเมนิ ระดับ 2 ข้นึ ไป
ของเศรษฐกจิ พอเพียงไปใช้
พฤติกรรมการ พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์
3.เป็นการเสรมิ สร้างการมีสว่ นรว่ มของภาคเี ครอื ขา่ ย
ทางานกลุ่ม
สาระสาคัญ
ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ยี วกับการทาการคา้ ออนไลน์ ด้าน A สงั เกต แบบประเมนิ ระดบั 2 ขึน้ ไป

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ พฤตกิ รรม พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์

1. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นสามารถบอกการทาการคา้ ออนไลน์า ได้ 

2. เพือ่ ให้ผู้เรียนสามารถบอกการทาการคา้ ออนไลน์ได้ 
สาระการเรียนรู้
1..การเพมิ่ มลู คา่ เรอื่ ง การเพ่ิมมูลค่า

-.บอกการทาการคา้ ออนไลน์ของผลติ ภณั ฑด์ ว้ ยการออกแบบ
ผลติ ภณั ฑ์ใหมไ่ ด้



3. กิจกรรมการเรียนรู้
กิจกรรรมการเรยี นรู้ : ร่วมกันสนทนาทาความเขา้ ใจและทาความ
รู้จกั กนั แลว้ เช่อื มโยงส่กู จิ กรรมโดยข้อมูลจากเอกสาร สอ่ื
อเิ ล็กทรอนกิ ส์ สถานประกอบการ สอ่ื ของจรงิ ส่อื บคุ คล ในชุมชน
เพือ่ นาขอ้ มลู มาวเิ คราะห์ อธบิ ายความเปน็ มาเกย่ี วกบั การเพม่ิ มลู คา่
สือ่ เรียนร/ู้ แหลง่ เรยี นรู้ : ใบงาน สอ่ื ของจรงิ เวลา : 1 ช่ัวโมง

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคัญ
1.ใฝรุ ใู้ ฝเุ รียน ศึกษาใบความรู้ จากแบบเรียน 1.มีความสามารถในการสือ่ สาร อธิบาย เขยี น นาเสนอหนา้ ชัน้
2.มวี นิ ยั ทางานตามทีค่ รูมอบหมายได้ทนั เวลา 2.มคี วามสามารถในการคดิ วิเคราะห์แปลความหมาย อภิปราย
3.ขยนั มุ่งม่นั ในการทางาน ทาใบงาน ทากจิ กรรม สรุปผล การคดิ เชิงเหตผุ ล
4.มีความสามัคคี มีนา้ ใจ มคี วามรับผิดชอบ ชว่ ยเหลอื กันทางานกลุ่ม 3.มคี วามสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต กระบวนการกลุม่ การแสวงหา
ความรเู้ พมิ่ เติม เรยี นรู้จากสือ่ ออนไลนต์ า่ งๆ

แผน่ ที่ 2 กิจกรรมการเรยี นรู้เสรมิ สรา้ งคุณลกั ษณะอยู่อย่างพอเพยี ง
เรื่อง การทาการค้าออนไลน์ เวลา 2 ชั่วโมง

30 นาที
1. ผจู้ ดั กิจกรรมร่วมกันสนทนาทาความเข้าใจ และทาความร้จู กั กันแลว้ เชอื่ มโยงสกู่ ิจกรรมโดยข้อมลู จาก

เอกสาร สื่ออิเล็กทรอนิกส์ สถานประกอบการ สื่อของจริง สอื่ บุคคล ในชุมชน เพ่ือนาข้อมูลมาวิเคราะห์
2. ผู้จดั กจิ กรรมอธิบายความเป็นมาเกย่ี วกับความรู้เบื้องต้นการทาการค้าออนไลน์

30 นาที
1. ผจู้ ดั กิจกรรมร่วมกันสนทนาทาความเขา้ ใจและทาความรู้จักกันแลว้ เชื่อมโยงสู่กจิ กรรมโดยขอ้ มูลจาก

เอกสาร ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ สถานประกอบการ ส่ือของจรงิ สือ่ บคุ คล เพ่ือนาขอ้ มูลมาวิเคราะห์
2. ผู้จัดกิจกรรมอธบิ ายความเปน็ มาเกย่ี วกบั ความรู้เบ้ืองต้นทักษะการทาการคา้ ออนไลน์
3. แบง่ กลมุ่ ผู้รว่ มกิจกรรม ออกเปน็ กลุ่มๆ
4. ผู้จัดกจิ กรรมให้ใบความรู้ และ ใบงาน เรื่องความรูเ้ บื้องต้นเกย่ี วกบั การทาการค้าออนไลน์ เพ่ือให้ผู้รว่ ม

กิจกรรมศึกษา
5. ผรู้ ว่ มกิจกรรมศึกษาใบความรู้ และ ร่วมกนั ทาใบงาน ความรู้เบือ้ งตน้ การทาการค้าออนไลน์
6. ผู้จดั กจิ กรรมและผ้รู ่วมกิจกรรมแต่ละกลุ่มช่วยกนั สรปุ สาระสาคญั

1 ชว่ั โมง
1 ครใู หต้ ัวแทนของแต่ละกลุ่ม นาเสนอการทาการคา้ ออนไลน์
2 ตัวแทนผู้เรียนแต่ละมานาเสนอหนา้ ชนั้ เรียน
3 ครูและผูเ้ รยี นแลกเปล่ียนเรียนรูร้ ่วมกันพรอ้ มท้งั สรปุ เนื้อหาๆท่ไี ดเ้ รียนรู้
4 ครใู หผ้ ูเ้ รียนศกึ ษาความรเู้ พม่ิ เตมิ จากสื่อ
5 ผู้เรยี นสามารถนาความรู้ และประสบการณห์ ลงั จากการเรยี นรู้ด้วยตนเองไปใช้ในการทาการค้าออนไลน์

ชนิ้ งาน
6 ผ้เู รียนสามารถแก้ไขปญั หา อุปสรรคในการทางานในแต่ละครั้งได้
7 ครสู งั เกตพฤตกิ รรมการมีส่วนร่วมของผ้เู รยี นในกระบวนกลุ่มกลมุ่ /การสง่ งาน
8 ครตู รวจงาน
9 ครูและผ้เู รยี นร่วมกนั อภปิ รายสรุป
10 ครูบนั ทกึ หลงั การสอน

แผน่ ที่ 3 ชุดคาถามกระต้นุ เพ่ือปลกู ฝงั หลักคดิ พอเพยี ง
เรือ่ ง การทาการค้าออนไลน์ เวลา 2 ช่ัวโมง

**************************************

คาถามกระตนุ้ คดิ เพอื่ ปลูกฝังหลักคดิ พอเพียงก่อนเรียน
1. การค้าออนไลน์ มีความจาเปน็ อะไร
2. ออนไลน์ สาคัญอยา่ งไร
3. การค้าขายในออนไลนก์ บั การคา้ ขายหนา้ รา้ นแบบไหนคา้ ขายดีกว่า

คาถามกระตุ้นคดิ เพอ่ื ปลูกฝังหลักคิดพอเพียงระหว่างเรยี น
๕. การทาการค้าออนไลน์ สามารถขายได้ไหม
๖. การทาการค้าออนไลน์ มีประโยชน์อย่างไรบา้ ง
8. การทาการค้าออนไลน์ มีความสาคญั อยา่ งไรบ้าง
9. โลกมกี ารพัฒนาเปล่ียนแปลงอยู่ตลอดเวลาเราควรปฏบิ ัตติ วั และใช้สอ่ื อนไลน์อย่างไรไดบ้ ้าง
10. คาวา่ “พอเพียง” หมายความว่าอยา่ งไร

คาถามกระตุ้นคดิ เพื่อปลกู ฝังหลักคิดพอเพียงหลังเรียน
11. การทาการคา้ ออนไลน์ มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
12. เพราะสาเหตใุ ดเราต้องทาการคา้ ออนไลน์
13. “เปาู หมายทจ่ี ะให้ประชาชนในชุมชน อยดู่ ี กนิ ดี และสนั ติสขุ โดยยึดมั่นในแนวคดิ การชว่ ยเหลอื ตนเอง

และช่วยเหลอื ซึง่ กันและกัน” คอื อะไร
14. แนวทางการพัฒนาเพื่อความย่ังยนื ของชมุ ชน หรอื ชุมชนย่ังยนื ความทาอย่างไร

แผน่ ท่ี 4 แนวทางท่ีครูนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใชจ้ ัดการเรยี นรู้

เรือ่ ง การทาการคา้ ออนไลน์ เวลา 2 ชัว่ โมง

ครผู ูส้ อนนาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาจดั กิจกรรมการเรียนรูด้ ังน้ี

ความร้ทู ี่ครูตอ้ งมีก่อนสอน คณุ ธรรมของครใู นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้

1.ปัญหาชมุ ชนด้านสงั คม เศรษฐกิจ สิ่งแวดลอ้ ม 1.มคี วามรกั เมตตาศิษย์

2.การทาการค้าออนไลน์ 2.มีความรบั ผดิ ชอบ

3.การมีสว่ นร่วมในการแก้ปญั หาหรอื พฒั นาชมุ ชน 3.มีความยตุ ิธรรม

4.การส่งเสริม เผยแพร่ ขยายผลการปฏบิ ัตงิ าน 4.ตรงต่อเวลา

ประเดน็ พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี มู คิ ุ้มกนั ในตัวทดี่ ี

เนอ้ื หา -เนือ้ หาการแกป้ ัญหาชุมชน -ต้องการใหผ้ เู้ รยี นรู้วธิ ีการแก้ปญั หา -สรุปเน้ือหาให้อา่ นเขา้ ใจงา่ ย มภี าพประกอบ

สอดคลอ้ งกับมาตรฐาน ตวั ช้ีวัด ชมุ ชน ด้านสังคม เศรษฐกจิ เนือ้ หา

เหมาะสมกบั เวลาทกี่ าหนดและวัย สงิ่ แวดล้อม และวฒั นธรรมตาม -เรยี งเนอ้ื หาตามลาดบั การเรยี นรู้

ของผู้เรยี น หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

นาไปปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั

เวลา -กาหนดเวลาในแตล่ ะกจิ กรรม -จัดการเรยี นรใู้ ห้ครบถว้ นตามท่ี -กาหนดเวลาในแตล่ ะกิจกรรมไว้เกินจรงิ

เหมาะสมกบั กิจกรรมและวัยของ ออกแบบไว้ เล็กนอ้ ย เพอื่ รองรบั การเปล่ียนแปลงระหวา่ ง

ผเู้ รยี น จัดกจิ กรรม

การจัด -แบง่ กลุม่ ผเู้ รียนใหพ้ อดกี ับ -ต้องการให้ผู้เรยี นปฏิบตั ิกจิ กรรม -แบ่งกล่มุ คละความสามารถของผเู้ รยี น

กิจกรรม จานวนผู้เรยี น อยา่ งท่วั ถึงตามความสามารถ -เตรียมอุปกรณใ์ หพ้ ร้อมตามลาดบั กิจกรรม

-กาหนดกจิ กรรมการเรียนรู้ -เพ่ือตอ้ งการให้ผู้เรียนเกดิ การ การเรียน

เหมาะสมกับเวลาทก่ี าหนด เรยี นรูต้ ามเปาู หมายทีก่ าหนด -สังเกตพฤติกรรมและให้ความช่วยเหลอื เมือ่

-มอบหมายภาระงานและชนิ้ งาน -ผ้เู รียนนาความรู้ไปประยุกตใ์ ชก้ ับ ผเู้ รียนมปี ัญหา

เหมาะสมกับความสามารถผู้เรยี น ภาระงานได้

และสอดคล้องกับเปาู หมาย

ส่อื / -จานวนใบความรู้ ใบงานและวสั ดุ -ต้องการให้ผเู้ รยี นไดป้ ฏิบตั กิ ิจกรรม -เตรียมอปุ กรณใ์ นการจัดกจิ กรม

อุปกรณ์ อปุ กรณ์เหมาสมะกับกิจกรรมและ ได้จรงิ ตามจดุ ประสงค์การเรียนรทู้ ี่ -มีลาดบั ขนั้ ตอนการใชง้ านของวสั ดุอยา่ งเปน็

ปริมาณเพียงพอกบั ผู้เรียน กาหนดไว้ ระบบ

-มคี วามชานาญในการใช้อุปกรณ์

แหลง่ -ภูมิปัญญาชาวบ้าน กลุ่มอาชพี -ต้องการใหผ้ เู้ รยี นใชว้ ัสดุอุปกรณท์ ่ี -เตรียมห้องให้พรอ้ มก่อน

เรยี นรู้ ต่างๆในชุมชน ทเ่ี หมาะสมกบั มพี ร้อมมาปฏบิ ัติตามตวั ช้ีวดั

กิจกรรมท่กี าหนด

การ -จดั ทาแบบประเมนิ ผลงานและ -ต้องการประเมนิ ผลการเรยี นรู้ตาม -วางแผนการวดั /ประเมนิ ผลตามขัน้ ตอนของ

ประเมนิ พฤติกรรมได้เหมาะสมกบั เปาู หมายทกี่ าหนด กิจกรรม

ผล เปาู หมายการเรียนรู้ -แบบประเมนิ ผลมกี ารตรวจสอบเทยี่ งตรงใน

การวดั ตามตัวช้วี ัด

แผน่ ท่ี 5 ผลทจ่ี ะเกิดข้ึนกับผู้เรยี นจากการจดั กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

เร่ือง การทาการคา้ ออนไลน์ เวลา 2 ชัว่ โมง

5.5 ผู้เรียนจะไดฝ้ ึกคิดและฝกึ ปฏบิ ตั ิตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ดงั น้ี

ความรทู้ ่นี ักเรียนตอ้ งมกี ่อน คุณธรรมของนักเรยี นที่จะทาใหก้ ารเรียนรสู้ าเรจ็

1.ความหมาย/ความสาคัญ 1.ความสามัคคีในกลุ่ม

2.การบรหิ ารจัดการกลุ่ม ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง 2.ความรบั ผดิ ชอบ
3.การพ่ึงตนเองของชุมชน ชนบท
3.แบ่งปนั และเอือ้ เฟือ้ เผื่อแผ่

พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ ุ้มกันในตัวท่ดี ี

1. ผเู้ รียนกาหนดหน้าทีข่ องสมาชกิ ภายใน 1.เพ่ือเรยี นรทู้ กั ษะการทาการค้าออนไลน์ 1.การวางแผนการทางานอย่างเปน็
กลมุ่ ไดเ้ หมาะสมกบั ศักยภาพของแต่ละคน 2.ผู้เรยี นสามารถเรยี นรู้การทาการคา้ ออนไลน์ ระบบทั้งบคุ คลและวสั ดุอุปกรณใ์ นการ
๒. ผูเ้ รยี นสามารถสารวจปญั หาของชมุ ชน ไดอ้ ย่างถกู ต้อง เรียนรู้
2.เรียนรู้ เขา้ ใจการเพมิ่ มลู ค่า
ดา้ นสังคม เศรษฐกจิ สิ่งแวดลอ้ มและ 3.มที ักษะกระบวนการในการทางาน
วฒั นธรรมพื้นบา้ นของหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี ง

5.2 ผู้เรยี นจะไดเ้ รียนรูก้ ารใช้ชวี ิตท่สี มดลุ และพร้อมรับการเปลยี่ นแปลง 4 มิติ ตามหลกั ปศพพ. ดังน้ี
ด้าน สมดลุ และพรอ้ มรับการเปล่ยี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ

องค์ประกอบ วัตถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม วฒั นธรรม

ได้ความรู้ ความเขา้ ใจการ ไดน้ าความรู้เกย่ี วกับการทา -มคี วามรใู้ นการดูแล -มคี วามรูด้ า้ นสังคม เศรษฐกิจ

เพ่มิ มูลคา่ การคา้ ออนไลน์ รกั ษาความสะอาดการ สง่ิ แวดลอ้ ม และวฒั นธรรม

ความรู้ -มีความรู้ในการปฏิบตั ติ นที่ จัดการขยะอยา่ งถูกตอ้ ง พน้ื บ้านการของศึกษา
ทางานร่วมกบั ผูอ้ ืน่
-นาทรพั ยากรใน ส่งิ ประดษิ ฐ์ ในชุมชน

ท้องถน่ิ มาใช้ใหเ้ กิด -การถ่ายทอดองคค์ วามรู้ให้กบั

ประโยชน์ ชมุ ชน

-มีทักษะและกระบวนการ -ทางานรว่ มกนั ภายในกลมุ่ -รักษาความสะอาดของ -แกป้ ญั หาและพฒั นาชุมชน

ทกั ษะ ในการปฎิบัตเิ ปน็ อยา่ งดี ตามทไี่ ดร้ บั มอบหมายจน ห้องทปี่ ฎบิ ตั ิ ด้านวัฒนธรรมพน้ื ฐานของการ

สาเรจ็ และมีความสุข กาจดั จยะได้

คา่ นยิ ม -เหน็ ความสาคัญของการ -มีความรับผิดชอบตอ่ การ -มีจิตสานกึ ในการรกั ษา -ตระหนักถงึ คณุ ค่าของการ
ประดษิ ฐต์ น้ ไมจ้ ากถงุ ริไซค์ ทางานของกลมุ่ สภาพแวดล้อมของหอ้ ง รกั ษา ส่งเสรมิ เผยแพร่ ขยาย
เคลิ ในหอ้ งสาหรบั การ ท่ีใช้ในการเสวนากลมุ่ ผลการปฏบิ ตั ิการกาจดั ขยะเอง
ปฎบิ ัติ -ยอมรบั ความคดิ เหน็ ซึ่งกนั บุคคล ชมุ ชนท่ปี ระสบ
และกนั มคี วามเสยี สละ ผลสาเรจ็
อดทน

ใบงานท่ี 5

เร่ือง การทาการค้าออนไลน์
1.คาวา่ การคา้ หมายถึงอะไร อธิบายมาพอสงั เขป
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.............................................................................................................................................. ..............................................
............................................................................................................................................................................................
2. การทาการคา้ ออนไลน์ มีประโยชน์ อะไรบ้าง
............................................................................................................ ................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.................................................................................................................................................................................... ........
........................................................................................................................... .................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
3. . การทาการค้าออนไลน์ มคี วามสาคัญกบั สินค้าอะไรบ้าง อธบิ ายมาพอสังเขป
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
............................................................................................................................. ...............................................................
.......................................................................................................................................... ..................................................


Click to View FlipBook Version