The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 635021600302, 2022-03-11 12:20:52

Ads law

Ads law

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

ความหมายของคาํ วา่ " โฆษณา"

กอ่ นทีจ่ ะพิจารณาวา่ ข้อความหรือวิธกี ารในการโฆษณาตอ้ งห้าม
ตามกฎหมายคุ้มครอง ผู้บริโภคในด้านการโฆษณาหรอื ไม่ ควรพิจารณา
เสียก่อนว่าข้อความนนั้ เปน็ การโฆษณาหรอื ไม่
โฆษณา หมายความถงึ การกระทาํ ไม่ว่าโดยวิธใี ดๆ ให้ประชาชนเหน็ ทราบ
ข้อความ เพ่ือประโยชน์ในทางการคา้ (ตามมาตรา 3 แหง่ พระราชบัญญตั ิคมุ้
ครองผ้บู ริโภค พ.ศ.2522) ดงั นน้ั ข้อความท่จี ะเปน็ การโฆษณาได้จะต้อง
เขา้ องคป์ ระกอบ 2 ขอ้ ดงั นี้
(1) การกระทาํ ไมว่ า่ โดยวิธใี ดๆ ให้ประชาชนเห็นทราบขอ้ ความ และ
(2) เพ่ือประโยชน์ทางการคา้

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

ดงั นั้น จะกระทําในรูปแบบใดหรอื ส่ือโฆษณาใดกไ็ ด้ เพราะคาํ วา่ ส่ือโฆษณา
หมายความวา่ สิ่งท่ใี ชเ้ ปน็ ส่ือในการโฆษณาเชน่ หนงั สือพิมพ์ สิ่งพิมพ์ วทิ ยุกระจายเสียง
วิทยุโทรทศั น์ ไปรษณยี ์ โทรเลข โทรศัพท์ หรอื ป้าย
(ตามมาตรา 3 แหง่ พระราชบญั ญัตคิ ุ้มครองผ้บู รโิ ภค พ.ศ.2522)

การกระทําดังกล่าวแม้จะไมจ่ ํากดั วิธกี ารในการกระทําก็ตาม แตม่ ีเง่ือนไขว่า
ตอ้ งใหป้ ระชาชนเหน็ หรือทราบขอ้ ความ คาํ ว่า ข้อความ หมายความรวมถึง
การกระทาํ ให้ปรากฏด้วยตัวอกั ษร ภาพ ภาพยนตร์ แสงเสียง เคร่อื งหมาย
หรือการกระทําอยา่ งใดๆ ทีท่ าํ ใหบ้ ุคคลทว่ั ไปสามารถ
เขา้ ใจความหมายได้
(ตามมาตรา 3 แห่งพระราชบญั ญตั คิ ุ้มครองผ้บู รโิ ภค พ.ศ.2522)

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

เพ่ือประโยชน์ในทางการคา้

การกระทําน้ันจะต้องมี วัตถุประสงค์เพ่ือประโยชน์
ในทางการค้าด้วย หมายความว่า จะต้องมีวัตถุประสงค์ เพ่ือขาย
สินค้าหรือให้บริการได้มากข้ึน โดยมีเจตนาจะเชิญชวนให้ผู้บริโภค
สนใจมารซ้ือสินค้า และรับบริการ แต่ถ้าเป็นข้อเท็จจริงฟังได้ว่ามี
วัตถุประสงค์ เพ่ือการอ่ืนไม่เกี่ยวข้องกับการค้า แล้วก็ขาด
องค์ประกอบข้อนไ้ี มเ่ ปน็ โฆษณา

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการโฆษณา

การให้ความคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคในประการที่ 1 ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค
พ.ศ.2522 คือ คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา เป็นคณะกรรมการเฉพาะเร่ืองที่เป็นผู้รับผิดชอบ ควบคุม ดูแล และ
คุ้มครองผู้บริโภคในด้านนี้ ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการติดตาม สอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณาข้ึน เพ่ือพิจารณาข้อเท็จจริง
และข้อกฎหมายในเบ้ืองต้นคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา แต่งตั้งข้ึนตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครอง
ผู้บริโภค พ.ศ.2522 ประกอบด้วยกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในเร่ืองท่ีเก่ียวข้องมีจํานวนไม่น้อยกว่า 7 คน แต่ไม่เกิน 13 คน
กรรมการดังกลา่ วอยูใ่ นตําแหน่งคราวละ 2 ปี ลักษณะของการทาํ งานแยกเปน็ 2 ลกั ษณะ คือ
(1) ในดา้ นบรหิ าร ได้แก่ การวนิ จิ ฉยั และออกคาํ ส่ัง
(2) ในดา้ นกฎหมาย ไดแ้ ก่ การยกรา่ งกฎกระทรวง

คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา เปน็ องค์กรบริหารที่จะวางกรอบการโฆษณาให้อยู่ในขอบเขตที่กฎหมายบัญญัติ ส่วน
คณะกรรมการคมุ้ ครองผบู้ ริโภค เปน็ องค์กรกลางทตี่ รวจสอบ การดาํ เนินงานของคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

อาํ นาจหน้าท่ขี องคณะกรรมการวา่ ดว้ ยการโฆษณา

คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา มีอํานาจหน้าที่ดําเนินการคุ้มครองผู้บริโภคตามมาตรา 22 ถึง
มาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 เฉพาะเร่ืองท่ียังมิได้มีบัญญัติไว้ใน
กฎหมายอ่นื ดงั น้ี

1.ในกรณีท่ีผู้ประกอบธุรกิจโฆษณา โดยใช้ข้อความท่ีไม่เปน็ ธรรมต้อผู้บริโภค หรือใช้ข้อความ
ที่อาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ศีลธรรม หรือนําไปสู่ความเส่ือมเสียในวัฒนธรรมของชาติ
ความแตกแยก คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา มีอํานาจออกคําสั่งให้ผู้กระทําการโฆษณา แก้ไข
ข้อความหรือวิธีการในการโฆษณา ห้ามการใช้ข้อความบางอย่างที่ปรากฏในการโฆษณา หรือเสนอ
ค ว า ม เ ห็ น เ พ่ื อ ใ ห้ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร คุ้ ม ค ร อ ง ผู้ บ ริ โ ภ ค ดํ า เ นิ น ค ดี กั บ ผู้ ก ร ะ ทํ า ก า ร โ ฆ ษ ณ า ไ ด้

2. ในกรณีผู้ประกอบธุรกิจโฆษณา ใช้วิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ร่างกายหรือ
จิ ต ใ จ ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ว่ า ด้ ว ย ก า ร โ ฆ ษ ณ า มี อํ า น า จ อ อ ก คํ า สั่ ง ใ น ทํ า น อ ง เ ดี ย ว กั บ ข้ อ 1 .

3.ในกรณีที่คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา เห็นว่า สินค้าใดอาจเป็นอันตรายแก่ผู้บริโภค
และคณะกรรมการว่าด้วยฉลากได้กําหนดให้สินค้านั้นเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ให้คณะกรรมการว่าด้วย
การโฆษณา มีอํานาจออกคําส่ัง หรือคําเตือนเก่ียวกับวิธีใช้ หรืออันตรายตามเง่ือนไขให้แตกต่างกัน
สําหรับการโฆษณาที่ใช้ส่ือโฆษณาต่างกัน ก็ได้จํากัดการใช้ส่ือโฆษณาสําหรับสินค้านั้น ห้ามการโฆษณา
สินค้านนั้

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

4. ในกรณที ค่ี ณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาเหน็ สินค้าหรือบรกิ ารใด ผ้บู รกิ าร
จําเปน็ ตอ้ งทราบข้อเท็จจรงิ เก่ยี วกับ สภาพ ฐานะ และรายละเอียดอยา่ งอ่นื
เกย่ี วกับผปู้ ระกอบธุรกิจ คณะกรรมการวา่ ด้วยการโฆษณา มีอํานาจกําหนดให้
การโฆษณาสินคา้ หรอื บรกิ ารน้นั ตอ้ งใหข้ อ้ เทจ็ จริงดงั กลา่ ว ตามทคี่ ณะกรรมการ
วา่ ด้วยการโฆษณากําหนดได้

5. ในกรณที ี่คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาเหน็ วา่ ข้อความในการโฆษณาโดย
ทางส่ือโฆษณาใด สมควรแจง้ ใหผ้ ูบ้ รโิ ภคทราบวา่ ข้อความน้ันเปน็ ข้อความที่มี
ความม่งุ หมายเพ่ือการโฆษณา คณะกรรมการว่าดว้ ยการโฆษณา มีอาํ นาจ
กําหนดใหก้ ารโฆษณาโดยทางส่ือโฆษณานั้น ต้องมถี ้อยคําช้ีแจงกาํ กบั ให้
ประชาชนทราบวา่ ข้อความดงั กลา่ วเปน็ การโฆษณาได้ และคณะกรรมการวา่ ด้วย
การโฆษณาจะกําหนดเง่อื นไขอยา่ งใด ให้ตอ้ งปฏิบัติด้วยก็ได้

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

6. ผู้ประกอบธุรกิจ ผู้ใดสงสั ยว่าการโฆษณาของตนจะเป็นการฝ่ าฝืน หรือไม่เป็นไปตาม
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ผู้ประกอบธุกิจน้ันอาจขอให้คณะกรรมการว่าด้วย
การโฆษณาที่พิจารณาให้ความเห็นในเร่ืองนั้นก่อนทําการโฆษณาได้ ในกรณีน้ี คณะกรรมการว่า
ด้วยการโฆษณา จะต้องให้ความเห็น และแจ้งให้ผู้ร้องขอทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันที่๕ระ
กรรมการวา่ ด้วยการโฆษณาไดร้ ับคาํ ขอ ถา้ ไมแ่ จง้ ภายในระยะเวลาดังกล่าว ถือว่าคณะกรรมการว่า
ด้วยการโฆษณาให้ความเห็นชอบด้วยการให้ความเห็นของคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา ไม่ถือ
ว่าเปน็ การตัดอํานาจของคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณาที่พิจารณาวินิจฉัยใหม่เปน็ อย่างอ่ืน เม่ือมี
เหตุอันสมควร และการใดที่ผู้ประกอบธุรกิจได้กระทําไปตามความเห็นของคณะกรรมการว่าด้วย
การโฆษณา มิถือวา่ การกระทาํ น้นั เปน็ ความผิดทางอาญา

7. คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา มีอํานาจที่จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพ่ือพิจารณา
นอกจากนี้ คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา ยังมีอํานาจที่จะสั่งให้บุคคลหน่ึงบุคคลใดส่งเอกสาร
หรือข้อมูลเก่ียวกับเร่ืองที่มีผู้ร้องทุกข์ หรือเร่ืองท่ีเก่ียวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคมาพิจาณา
ได้ ในการนจ้ี ะเรียกบุคคลที่เก่ียวข้องมาชีแ้ จงด้วยกไ็ ด้

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

8. ในการปฏบิ ตั ิหน้าที่ตามพระราชบัญญตั นิ ้ี คณะกรรมการวา่ ด้วยการโฆษณา ต้องให้
โอกาสแกผ่ ถู้ กู กลา่ วหา หรอื สงสัยวา่ การกระทาํ อนั เปน็ การละเมิดสิทธขิ องผบู้ ริโภค เพ่ือ
ชแี้ จงข้อเท็จจริง และแสดงความคดิ เหน็ ตามสมควร เวน้ แต่ในกรณีท่ีจําเปน็ และเรง่ ด่วน

9. ในกรณที ีค่ ณะกรรมการวา่ ดว้ ยการโฆษณา มีเหตุอันควรสงสัยว่า ข้อความใดทใ่ี ช้ในการโฆษณาเปน็
เท็จ หรอเกนิ ความจรงิ ตามมาตรา 22 วรรคสองแหง่ พระราชบญั ญตั คิ มุ้ ครองผู้บรโิ ภค พ.ศ.2522
คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา มอี ํานาจออกคาํ ส่ังใหผ้ ูก้ ระทาํ การโฆษณาพิสูจน์เพ่ือแสดงความจริง
ได้ในกรณีท่ีผู้กระทําการโฆษณาอ้างรายงานทางวิชาการ ผลการวิจยั สถิติ การรับรองของสถาบันหรอื
บคุ คลอ่ืนใด หรอื ยืนยันข้อเทจ็ จรงิ อันใดอนั หน่งึ ในการโฆษณา ถ้าผู้กระทาํ การโฆษณาไม่สามารถพิสูจน์
ได้วา่ ขอ้ ความทีใ่ ช้ในการโฆษณาเปน็ ความจรงิ ตามทกี่ ลา่ วอา้ ง คณะกรรมการวา่ ดว้ ยการโฆษณามี
อํานาจออกคําสั่งตามขอ้ 1 ได้

10. นอกจากอาํ นาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัตนิ แี้ ลว้ คณะกรรมการวา่ ด้วยการ
โฆษณา ยังมอี าํ นาจออกคําส่ัง เกยี่ วกับการคุ้มครองผบู้ ริโภค ในเม่อื ไมม่ ี
กฎหมายบัญญัติโดยเฉพาะเปน็ อยา่ งอ่นื

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

อาํ นาจหน้าท่โี ดยท่ัวไปของคณะกรรมการว่าดว้ ยการโฆษณา

อาํ นาจหน้าทโี่ ดยทวั่ ไป ของคณะกรรมการว่าดว้ ยการโฆษณา จําแนก
ไดเ้ ปน็ 3 ประเภท คือ
1.หนา้ ที่โดยทั่วไปในการควบคมุ ดูแลการโฆษณาสินคา้ หรอื บริการทย่ี ังมิได้ถูก
ควบคมุ การโฆษณาโดยกฎหมายอ่ืน โดยกฎหมายไดก้ าํ หนดมาตรฐานของ
ข้อความทจ่ี ะใช้ในการโฆษณาไว้ในมาตรา 22 และกาํ หนดมาตรฐานเกย่ี วกับ
วิธกี ารท่ีใชใ้ นการโฆษณาไวใ้ นมาตรา 23
2. หน้าทใ่ี นการ ป้องกนั หรอื ระงับยบั ยัง้ ความเสียหาย หรอื อันตรายอันจะ
เกิดข้นึ แกผ่ ู้บรโิ ภค เน่อื งจากการโฆษณาสินคา้ บางประเภท เปน็ การล่วงหน้า
โดยกําหนดเง่ือนไขเกีย่ วกบั การโฆษณาสินค้าหรือบรกิ ารนนั้ หรือหา้ มการ
โฆษณา หรอื จาํ กดั การใช้ส่ือโฆษณาสินคา้ หรือบริการอันเปน็ หน้าที่ ซ่ึงกาํ หนด
ตามมาตรา 24 มาตรา 25 มาตรา26
3. หน้าที่ในการตรวจข้อความโฆษณาทีผ่ ู้ประกอบธรุ กิจ ขอให้พิจารณาให้
ความเห็นกอ่ นทําการโฆษณาอนั เปน็ หนา้ ทีท่ ก่ี าํ หนดตามมาตรา 29

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

การควบคุมดูแล การโฆษณาสินคา้ หรอื บรกิ าร ท่ียังมไิ ด้ถกู ควบคมุ การโฆษณาโดยกฎหมายอ่นื

1.มาตรฐานของข้อความที่ใช้ในการโฆษณา
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ได้บัญญัติหลักเกณฑ์ไว้ในมาตรา 22 ว่า การโฆษณาจะต้องไม่

ใช้ข้อความที่เป็นการไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภคหรือใช้ข้อความท่ีอาจก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคมเป็นส่วนรวม ทั้งน้ี ไม่ว่า
ข้อความดังกล่าวนั้นจะเปน็ ข้อความท่ีเก่ียวกับแหล่งกําเนิด สภาพ คุณภาพ หรือลักษณะของสินค้าหรือบริการ ตลอดจน
การส่งมอบ การจัดหา หรือการใช้สินค้า หรือบริการ ตลอดจนการส่งมอบการจัดหา หรือการใช้สินค้าหรือบริการ

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

2.มาตรฐานของวิธกี ารทใ่ี ชใ้ นการโฆษณา
การโฆษณา จะต้องไม่กระทําด้วยวิธีการอันอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพร่างกาย และจิตใจ หรืออันตรายก่อให้เกิดความรําคาญ

แก่ผูบ้ ริโภค ท้งั นี้ ตามท่ีกาํ หนดในกฎกระทรวง (มาตรา 23)
เน่ืองจากตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 ซ่ึงแก้ไขเพ่ิมเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2)
พ.ศ.2541 มิได้ให้นิยามความหมายของคําว่าวิธีการอันตรายและรําคาญไว้ จึงต้องอาศัยพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2525
คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา ยังมิได้มีการออกกฎกระทรวง กําหนดหลักเกณฑ์ในกรณีนี้ไว้โดยเฉพาะ แต่เคยมีการกําหนดหลักการ
ไว้กว้างๆ ว่าการโฆษณาดังต่อไปนี้ ถือว่าเป็นการใช้วิธีการโฆษณาอันอาจเป็นอันตรายต่อสุ ขภาพร่างกายหรือจิตใจ

( 1 ) ก า ร โ ฆ ษ ณ า โ ด ย นํ า สิ่ ง อั น ต ร า ย ม า ป ร ะ ก อ บ เ ป็ น ก า ร โ ฆ ษ ณ า โ ด ย ไ ม่ มี ร ะ บ บ ป้ อ ง กั น ท่ี รั ด กุ ม
(2) การโฆษณาโดยใช้เสียงดงั เกินสมควร หรอื มีการเปลยี่ นแปลงระดับเสียงใหแ้ ตกตา่ งกันโดยฉบั พลัน

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

กฎหมายท่ีนักส่ือสารมวลชนหรอื ผู้ประกอบอาชพี โฆษณาควรรู้

1. พระราชบญั ญตั ิคุม้ ครองผู้บรโิ ภค พ.ศ. 2522 แก้ไขเพ่ิมเตมิ พ.ศ. 2541
2. พระราชบัญญตั ยิ า พ.ศ. 2510, พ.ศ 2518, พ.ศ 2522
3. พระราชบัญญตั ิอาหาร พ.ศ. 2522
4. พระราชบัญญตั ิวตั ถอุ อกฤทธต์ิ อ่ จิตประสาท พ.ศ 2518
5. พระราชบัญญัติเคร่อื งสําอาง พ.ศ 2535
6. พระราชบัญญตั วิ ตั ถุอนั ตราย พ.ศ 2535

ADVERTISING LAW

กฎหมายโฆษณา

ชื่อสมาชิกกล่มุ

1.นายวรวฒุ ิ สดี าน้อย
2.นายกลุ พงษ์ ธนกนกพร
3.นายธฤต นามสมดี
4.นางสาวสุชาดา ใจแก้ว
5.นางสาวมาลยั รัตน์ พยอมหอม


Click to View FlipBook Version