พระพุทธศาสนา
หน่วยกำรเรยี นรูท้ ่ี ๑ หน่วยกำรเรียนรทู้ ่ี ๒ หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๓ หน่วยกำรเรียนรู้ท่ี ๔ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๒
กลมุ่ สาระการเรยี นรสู้ งั คมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม
หนว่ ยกำรเรยี นร้ทู ่ี ๕ หน่วยกำรเรยี นรู้ท่ี ๖ หนว่ ยกำรเรียนรู้ท่ี ๗ หน่วยกำรเรยี นรทู้ ี่ ๘
๑_หลกั สูตรวชิ าพระพทุ ธศาสนา
๒_แผนการจดั การเรียนรู้
๓_PowerPoint_ประกอบการสอน
๔_Clip
๕_ใบงาน_เฉลย
๖_ขอ้ สอบประจาหน่วย_เฉลย
๗_การวดั และประเมนิ ผล
๘_รปู ภาพ
๙_เสรมิ สาระ
๑๐_ส่อื เสริมการเรยี นรู้
บริษทั อกั ษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com
๑หน่วยการเรียนรู้ที่
ประวตั แิ ละความสาคญั
ของพระพุทธศาสนา
จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อธบิ ำยกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำหรือศำสนำทตี่ นนบั ถอื สปู่ ระเทศเพื่อนบ้ำนได้
๒. วิเครำะหค์ วำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำหรือศำสนำท่ีตนนบั ถือ ที่ช่วยเสรมิ สร้ำงควำมเขำ้ ใจอันดกี บั ประเทศเพื่อนบำ้ นได้
๓. วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำหรอื ศำสนำทีต่ นนบั ถือในฐำนะท่ีเปน็ รำกฐำนของวัฒนธรรม เอกลักษณข์ องชำติและมรดก ของชำตไิ ด้
๔. อภิปรำยควำมสำคัญของพระพุทธศำสนำหรอื ศำสนำที่ตนนับถือกับกำรพฒั นำชมุ ชนและกำรจัดระเบยี บสังคมได้
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถือพระพุทธศำสนำเขำ้ ส่ปู ระเทศเพอ่ื นบำ้ น กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ
ประเทศเมียนมำ
• พระพุทธศำสนำที่เผยแผ่เข้ำสู่ประเทศพม่ำในระยะแรกเป็นแบบนิกำยเถรวำท โดยผ่ำนเข้ำมำทำงเมือง
สุธรรมวดีหรือสะเทิม ท่ีเป็นรำชธำนีของพวกมอญอยู่ก่อน จำกนั้นจึงค่อยๆ แผ่ขยำยขึ้นไปทำงตอนกลำง
และตอนเหนอื ของประเทศพม่ำ
พ.ศ. ๑๕๘๗
• พระเจ้ำอนรุ ทุ ธมหำรำช(อโนรธำมังช่อ) มีควำมเล่ือมใสนิกำยเถรวำท ทรงส่งพระรำชสำสน์ไปถึง พระเจ้ำมนูหะ
ผู้ครองเมืองสุธรรมวดี ทูลขอพระไตรปิฎกจำนวนหนึ่งขึ้นไปยังพุกำม แต่พระเจ้ำมนูหะไม่ยินยอมจึงทำให้ เกิด
กำรสู้รบกันขึ้น พระเจ้ำอนุรุทธมหำรำชเป็นฝ่ำยชนะจึงส่ังให้ทำลำยเมืองสุธรำมวดี พร้อมนำพระสงฆ์มอญ
และพระไตรปฎิ กขึ้นไปยงั เมืองพุกำม พระพุทธศำสนำนิกำยเถรวำทจึงไดแ้ ผ่ขยำยไปทัว่ อำณำจักรพม่ำ
กำรเผยแผแ่ ละกำรนับถอื พระพุทธศำสนำเข้ำสปู่ ระเทศเพอ่ื นบ้ำน กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ
พ.ศ. ๑๗๓๓
• รัชกำลของพระเจ้ำนรปติสิทธุ ทรงทรำบว่ำที่ลังกำมีกำรทำสังคำยนำพระธรรมวินัยครั้งท่ี ๖ จึงอำรำธนำให้
พระอตุ รำชีวะนำคณะพระภิกษุสงฆแ์ ละสำมเณรเดินทำงไปสืบพระพทุ ธศำสนำทลี่ ังกำ คณะสมณทตู ได้นำเอำ
พระพทุ ธศำสนำนกิ ำรเถรวำทจำกลงั กำวงศ์เข้ำมำเผยแผ่ดว้ ย
• ภำยหลังเมื่อพุกำมได้ส้ินอำนำจลงเพรำะมองโกลรุกรำน ทำให้อำณำจักรต่ำงๆ แยกตัวเป็นอิสระ
เมื่อพระเจำ้ ธรรมเจดยี ์ศรีปิฎกธรขึ้นครองรำชย์ พระองคจ์ ึงทรงรเิ ริม่ ฟ้นื ฟูพระพุทธศำสนำขนึ้ มำใหม่
• มอญกับพม่ำทำสงครำมแย่งชิงควำมเป็นใหญ่ จนกระทั่งประมำณ พ.ศ. ๒๓๐๐ ชนชำติมอญก็ได้สูญสิ้นอำนำจลง
พระพุทธศำสนำในประเทศพม่ำได้รับกำรทำนบุ ำรงุ จนเจรญิ รุ่งเรอื งอกี ครัง้
• รัชกำลของพระเจ้ำมินดง (ครองรำชย์ระหว่ำง พ.ศ. ๒๓๙๕-๒๔๒o) ทรงเป็นองค์อุปถัมภ์ในกำรทำสังคำยนำ
พระธรรมวินัยคร้ังที่ ๕ ณ เมืองมัณฑะเลย์ จำกนั้นก็โปรดฯให้จำรึกพระไตรปิฎกลงบนแผ่นหินอ่อนแล้วทำสถูป
ครอบไว้มจี ำนวนท้ังสน้ิ ๔๕o องค์
กำรเผยแผแ่ ละกำรนับถือพระพทุ ธศำสนำเขำ้ สู่ประเทศเพื่อนบ้ำน กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ
พ.ศ. ๒๔๒๙
• พมำ่ ตกเปน็ เมืองขน้ึ ขององั กฤษ สถำบันกษัตรยิ ถ์ ูกโค่นลงส่งผลให้พระพุทธศำสนำได้รับควำมกระทบกระเทือนไปด้วย
แต่ชำวพม่ำก็ยังคงมีควำมศรัทธำในพระพุทธศำสนำอย่ำงหนำแน่น และพยำยำมประคับประคองสถำบัน
พระพุทธศำสนำใหธ้ ำรงอยู่ไดต้ ลอดมำ
• พม่ำได้รับเอกรำชจำกกำรปกครองของประเทศอังกฤษ รัฐบำลพม่ำภำยใต้กำรนำโดยรัฐบำลของนำยอูนุได้พยำยำม
ฟื้นฟูพระพทุ ธศำสนำโดยจดั ให้มกี ำรสังคำยนำพระไตรปิฎกคร้ังที่ ๖ ข้ึนโดยรัฐบำลพม่ำได้นิมนต์พระเถระผู้เช่ียวชำญ
พระไตรปิฎกไปจำกประเทศไทย ศรลี งั กำ ลำว และกมั พชู ำ ใหเ้ ดนิ ทำงไปรว่ มเป็นจำนวนมำก
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถอื พระพุทธศำสนำเข้ำสู่ประเทศเพือ่ นบำ้ น กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ
ประเทศอินโดนเี ซีย
• พระพุทธศำสนำได้เผยแผ่เข้ำมำสู่ดินแดนที่เป็นประเทศอินโดนีเซียในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๓ ครำวเดียวที่พระเจ้ำอโศก
มหำรำชส่งพระโสณเถระกบั พระอตุ ตรเถระเดินทำงมำเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำในแถบนี้ เร่อื งรำวของประเทศอินโดนเี ซีย
ปรำกฏหลักฐำนอย่ำงชัดเจนข้ึนในช่วงพุทธศตวรรษที่ ๑๒ เพรำะได้เกิดอำณำจักรที่ย่ิงใหญ่ขึ้นอำณำจักรหน่ึงชื่อว่ำ
“อำณำจักรศรีวิชัย” ซ่ึงมีอิทธิพลครอบคลุมต้ังแต่ภำคใต้ของประเทศไทย ประเทศมำเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย
ทัง้ หมด
• อำณำจักรศรีวิชัยนับถือพระพุทธศำสนำนิกำยมหำยำน และเช่ือว่ำนิกำยมหำยำนในอำณำจักรนี้คงจะเป็นท่ีนับถือกัน
อย่ำงแพร่หลำย เพรำะได้ค้นพบหลักฐำนท่ีเป็นโบรำณวัตถุเป็นจำนวนมำก ท่ีสำคัญได้แก่พระพิมพ์ดินดิบและรูป
พระโพธิสัตว์ ซ่งึ สร้ำงขึ้นตำมคติควำมเชอ่ื ของผทู้ นี่ บั ถือพระพุทธศำสนำนิกำยมหำยำนโดยเฉพำะ
กำรเผยแผแ่ ละกำรนบั ถอื พระพทุ ธศำสนำเขำ้ สปู่ ระเทศเพื่อนบำ้ น กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ
• ในรำวกลำงพุทธศตวรรษที่ ๑๓ บนเกำะชวำภำคกลำง ได้เกิดรำชวงศ์ท่ีเข้มแข็งข้ึนรำชวงศ์หน่ึง มีช่ือว่ำ
“รำชวงศ์ไศเลนทร์” ซ่ึงในภำยหลังต่อมำ กษัตริย์แห่งรำชวงศ์ไศเลนทร์ได้เข้ำมำมีอำนำจปกครองอำณำจักร
ศรีวิชยั
• พุทธศตวรรษท่ี ๑๕ รำชวงศ์ไศเลนทร์แห่งอำณำจักรศรีวิชัยมีกำรติดต่อสัมพันธ์กับรำชวงศ์ปำละแห่งแคว้น
เบงกอล ทำให้เกิดกำรแลกเปล่ียนทำงวัฒนธรรม ท่ีสำคัญก็คือ อำณำจักรศรีวิชัย ได้ส่งพระภิกษุไปศึกษำ
พระพทุ ธศำสนำท่ีมหำวิทยำลัยนำลนั ทำที่พระมหำกษตั ริยแ์ ห่งแคว้นเบงกอลให้กำรอุปถัมภ์เป็นอย่ำงดี ทั้งยัง
ส่งพระภิกษุ ช่ำงฝีมือมำเผยแผ่พระพุทธศำสนำและศิลปะปำละ กำรสร้ำงพระพุทธรูปให้แก่ชำวศรีวิชัยด้วย
พระพุทธศำสนำในอินโดนีเซียถึงจุดเสื่อมโทรมมำกในสมัยพุทธศตวรรษที่ ๑๙ เม่ืออำณำจักรศรีวิชัยเสื่อมลง
และอำณำจกั รมชั ปำหิตมำมีอำนำจแทนท่ี
• เม่อื กษตั รยิ ์องคห์ น่ึงของอำณำจักรมัชปำหติ ทรงพระนำมวำ่ “ระเดน่ ปำทำ” ทรงมศี รทั ธำในศำสนำอิสลำมมำก
ได้ประกำศหำ้ มเผยแผ่พระพุทธศำสนำในอำณำจักรของพระองค์ และทรงยกย่องให้ศำสนำอิสลำมเป็นศำสนำ
ประจำชำติ
กำรเผยแผ่และกำรนับถือพระพทุ ธศำสนำเขำ้ สู่ประเทศเพือ่ นบ้ำน กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ
ประเทศมำเลเซีย
• ดินแดนของประเทศมำเลเซียแบ่งออกเป็น ๒ ส่วน ส่วนหน่ึงอยู่บนแหลมมลำยูและอีกส่วนหนึ่งอยู่บนเกำะ
บอร์เนยี ว นกั ประวัตศิ ำสตร์สนั นษิ ฐำนวำ่ พระพทุ ธศำสนำได้เผยแผ่เข้ำมำสดู่ ินแดนของประเทศมำเลเซียเมื่อ
ประมำณพุทธศตวรรษที่ ๓ โดยระยะแรกเป็นอย่ำงนิกำยเถรวำท แต่มีผู้นับถือไม่มำก จนกระท่ังพุทธ
ศตวรรษที่ ๑๒ บริเวณแหลมมลำยูตกอยู่ภำยใต้กำรปกครองของอำณำจักรศรีวิชัยพระพุทธศำสนำนิกำย
มหำยำนจงึ ไดเ้ ผยแผ่เขำ้ มำสบู่ รเิ วณน้ี
• ใน พ.ศ. ๑๘๓๗ พ่อขุนรำมคำแหงมหำรำชแห่งรำชอำณำจักรสุโขทัยทรงแผ่ขยำยพระรำชอำณำเขตลงมำ
ทำงใต้ พระพุทธศำสนำนกิ ำยเถรวำทจำกอำณำจักรสุโขทยั เผยแผเ่ ข้ำสูแ่ หลมมลำยูน้ดี ้วยแต่ไมค่ อ่ ยมอี ทิ ธิพล
เพรำะประชำชนบนแหลมมลำยูนับถือพระพทุ ธศำสนำนิกำยมหำยำนติดตอ่ กันมำเป็นเวลำหลำยปแี ล้ว
กำรเผยแผแ่ ละกำรนับถอื พระพทุ ธศำสนำเขำ้ สูป่ ระเทศเพ่ือนบ้ำน กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ
ประเทศมำเลเซยี
• ในรชั สมยั ของพระเจ้ำปรเมศวร แหง่ อำณำจักรมะละกำ พระองคไ์ ดล้ ะท้ิงพระพุทธศำสนำหันไปนับถือศำสนำอิสลำม
แต่ประชำชนส่วนใหญ่ยังนับถือศำสนำพุทธนิกำยมหำยำนอยู่เช่นเดิมจนถึงสมัยสุลต่ำนมัลโมชำห์ พระองค์ได้ส่ังให้
ทหำรทำลำยศำสนสถำนพระพุทธรูป เทวรูปของพระพุทธศำสนำและศำสนำพรำหมณ์จนหมด แล้วให้รำษฎรหันมำ
นับถอื ศำสนำอสิ ลำม
• ในชว่ งมำเลเซียตกเปน็ อำณำนิคมขององั กฤษ ได้มีชำวจนี นำพระพุทธศำสนำนกิ ำยมหำยำนจำกประเทศจีนเข้ำมำเผย
แผ่ แตไ่ มป่ ระสบควำมสำเรจ็ มำกจนกระทั่งมำเลเซียไดร้ บั เอกรำชจำกอังกฤษเม่อื พ.ศ.๒๕00 และมคี ณะสมณทตู จำก
ประเทศไทย ศรัลังกำ พม่ำ เดินทำงเข้ำไปเผยแผ่พระพุทธศำสนำนิกำยเถรวำทในประเทศมำเลเซีย ทำให้
พระพทุ ธศำสนำไดร้ ับกำรฟ้นื ฟขู นึ้ มำบำ้ ง
กำรเผยแผ่และกำรนับถือพระพุทธศำสนำเขำ้ ส่ปู ระเทศเพ่อื นบ้ำน กำรเผยแผพ่ ระพุทธศำสนำ
ประเทศสงิ คโปร์
• สิงคโปรเ์ ป็นเกำะเลก็ ๆ อย่ทู ำงทิศใตข้ องประเทศมำเลเซีย ในอดีตก็เคยอยู่รวมเป็นสหพันธ์เดียวกับมำเลเซียมำก่อน
และได้แยกตัวออกเป็นประเทศอิสระเม่ือ พ.ศ. ๒๕๐๘ กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำเข้ำมำยังสิงคโปร์จึงมีลักษณะ
เช่นเดียวกบั มำเลเซยี นกิ ำยท่ไี ดร้ ับกำรเคำรพนับถอื มำก ได้แก่ นิกำยมหำยำนและด้วยเหตุที่พลเมืองส่วนใหญ่ของ
สิงคโปรเ์ ป็นชำวจนี พระพุทธศำสนำนกิ ำยมหำยำนจงึ มคี วำมเจรญิ รงุ่ เรืองและไดร้ ับกำรประดษิ ฐำนอยูอ่ ยำ่ งม่ันคง
• สงิ คโปร์มสี มำคมของชำวพทุ ธอยู่ประมำณ ๒,๐๐๐ สมำคม และมีวัดทำงพระพุทธศำสนำอยู่ประมำณ ๑๕๐ วัด ซ่ึง
เกือบทง้ั หมดเปน็ วดั ฝ่ำยนิกำยมหำยำน ส่วนวัดฝ่ำยนกิ ำยเถรวำทที่สำคัญๆ เช่น วัดศรีลังกำรำมำยณะ ของศรีลังกำ
และวดั อำนนั ทเมตยำรำม ของไทย
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถอื พระพุทธศำสนำเขำ้ สปู่ ระเทศเพือ่ นบำ้ น กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ
ประเทศสงิ คโปร์
• กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำนิกำยมหำยำนในสิงคโปร์ มีกำรแปลตำรำและคัมภีร์ทำงพระพุทธศำสนำเป็น
ภำษำต่ำงๆ จัดตั้งโรงเรียนอบรมศำสนำจำรย์ จัดต้ังโรงเรียนสอนพระพุทธศำสนำชื่อว่ำ “มหำโพธิ์” ซ่ึงใน
โรงเรียนนจี้ ะทำกำรสอนพระพทุ ธศำสนำในทุกระดับช้นั
• พุทธสมำคมของชำวจีนยังได้ดำเนินกิจกำรสังคมสงเครำะห์ต่ำงๆ เช่น บริจำคอำหำร เครื่องนุ่งห่ม ยำรักษำโรค
ให้แก่ผู้ยำกไร้ มอบทุนกำรศึกษำให้แก่นักเรียนท่ียำกจนช่วยเหลือกำรฌำปนกิจสงเครำะห์ ต้ังศูนย์สงเครำะห์
เดก็ กำพร้ำและคนชรำ สว่ นองคก์ รยวุ พุทธแหง่ สิงคโปร์ก็ไดม้ ีกำรอบรมและจัดบรรยำยธรรมท้ังภำคภำษำอังกฤษ
และภำคภำษำจีนกลำง สอนกำรสวดมนต์ ฝกึ กำรนัง่ สมำธิ กำรสนทนำธรรมและกิจกรรมอ่ืนๆ
กำรเผยแผแ่ ละกำรนบั ถอื พระพทุ ธศำสนำเข้ำสู่ประเทศเพ่ือนบำ้ น กำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ
ประเทศลำว
• พระพทุ ธศำสนำไดม้ กี ำรเผยแผ่เข้ำมำสู่ประเทศลำวในรชั กำลของพระเจำ้ ฟำ้ งมุ้ (พ.ศ. ๑๘๙๖ - ๑๙๑๔) แห่งอำณำจักร
ลำ้ นช้ำง ซ่งึ ทรงมพี ระบรมเดชำนภุ ำพมำก ชำวลำวยกยอ่ งพระองคว์ ่ำทรงเปน็ มหำรำชองค์แรกของชำติลำว
• มูลเหตุของกำรแผ่ขยำยพระพุทธศำสนำ เนื่องจำกพระนำงแก้วยอดฟ้ำ มเหสีของพระเจ้ำฟ้ำงุ้ม พบเห็นชำวเมือง
ยังคงนับถือบูชำลัทธิผีสำงเทวดำอยู่ก็ไม่สบำยพระทัย จึงกรำบทูลให้พระเจ้ำฟ้ำงุ้มแต่งต้ังคณะทูตไปทูลอำรำธนำ
พระสงฆ์ เพ่ือมำช่วยประดิษฐำนพระพุทธศำสนำจำกพระเจ้ำศรีจุลรำชพระรำชบิดำของ พระนำงแก้วยอดฟ้ำจึงได้
โปรดฯ ให้อำรำธนำพระมหำปำสมันตเถระกับพระมหำเทพลังกำนำพระสงฆ์ ๒๐ รูป เดินทำงไปเผยแผ่
พระพุทธศำสนำท่ีอำณำจกั รลำ้ นชำ้ ง
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถอื พระพุทธศำสนำเขำ้ ส่ปู ระเทศเพ่ือนบ้ำน กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ
พ.ศ. ๑๙๑๖-๑๙๕๕
• พระเจ้ำสำมเสนไทยไตรภวู นำถทรงเอำพระทยั ใส่ทำนุบำรงุ พระพุทธศำสนำอยำ่ งดี
พ.ศ. ๒o๙๑-๒๑๑๔
• สมัยของพระเจ้ำโพธิสำร ทรงมีพระรำชโองกำรห้ำมประกอบพิธีทรงเจ้ำเข้ำผี เลิกนับถือบูชำลัทธิผีสำงเทวดำ
โดยหนั มำนบั ถือพระพุทธศำสนำแทน
พ.ศ. ๒o๙๑-๒๑๑๔
• ในรัชกำลของพระเจ้ำไชยเชษฐำธิรำช พระพุทธศำสนำมีควำมรุ่งเรืองถึงขีดสุดทรงเอำพระทัยใส่ทำนุบำรุง
พระพุทธศำสนำ พทุ ธสถำนส่วนใหญล่ ้วนไดร้ บั กำรสร้ำงขนึ้ ในสมยั นแ้ี ทบท้งั ส้ิน
พ.ศ. ๒๔๓๖
• พระพุทธศำสนำเส่ือมโทรม ลำวตกเป็นอำณำนิคมของฝร่ังเศส แต่ก็ยังเป็นศำสนำประจำชำติลำว สืบต่อมำ
เพรำะชำวลำวช่วยกันประคับประคองพระพุทธศำสนำใหต้ ้ังมั่นอยู่ได้
พ.ศ. ๒๕๑๘
• ประเทศได้ถูกปกครองโดยระบอบคอมมิวนิสต์ของลำวได้พยำยำมลดบทบำทของพระพุทธศำสนำทุกวิถีทำง
แต่ด้วยควำมท่ีพระพุทธศำสนำได้มีอิทธิพลฝังรำกลึกอยู่ในสังคมมำนำนหลำยร้อยปี ก็ทำให้ ชำวลำวไม่เลิกนับ
ถือพระพทุ ธศำสนำ
พ.ศ. ๒๕๓๐
• แตด่ ้วยควำมที่พระพุทธศำสนำได้มีอิทธิพลฝังรำกลึกอยู่ในสังคมลำวมำนำนหลำยร้อยปีก็ทำให้ชำวลำวยังไม่เลิก
นบั ถือพระพุทธศำสนำ กระท่งั เหตุกำรณ์ทำงกำรเมอื งเริม่ ผ่อนคลำยเริ่มมีกำรฟ้นื ฟพู ระพทุ ธศำสนำอกี ครั้งหนง่ึ
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถือพระพทุ ธศำสนำเขำ้ สูป่ ระเทศเพือ่ นบ้ำน กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ
ประเทศกัมพชู ำ
• พระพทุ ธศำสนำได้เผยแผ่เข้ำมำสูป่ ระเทศกัมพชู ำ เมอื่ ประมำณพทุ ธศตวรรษท่ี ๘ อันเป็นช่วงท่ีอำณำจักรฟูนัน
กำลงั เจรญิ รงุ่ เรอื งอยทู่ ำงทศิ ใตข้ องดนิ แดนทเ่ี ปน็ ประเทศกมั พูชำในปัจจุบนั
• อำณำจักรฟูนันมีสัมพันธไมตรีอันดีกับประเทศจีนและอินเดีย จึงได้รับอิทธิพลกำรนับถือพระพุทธศำสนำ
นกิ ำยมหำยำนจำกประเทศท้ัง ๒ ดว้ ย
• อำณำจักรเจนละเข้ำมำมีอิทธิพลแทนอำณำจักรฟูนัน จำกน้ันกัมพูชำก็เข้ำสู่สมัยมหำนครอันเป็นยุคท่ีกัมพูชำ
เรอื งอำนำจท่สี ดุ ทุกอยำ่ งเจรญิ รงุ่ เรืองรวมถึงกจิ กำรทำงด้ำนศำสนำโดยเฉพำะในรัชสมัยของพระเจ้ำชัยวรมันท่ี ๗
พระพุทธศำสนำทั้งนิกำยมหำยำนและนิกำยเถรวำทได้รับกำรทำนุบำรุงเอำใจใส่อย่ำงดียิ่ง และโปรดฯให้สร้ำง
“ปรำสำทบำยน” นอกจำกนี้ยังส่งพระรำชโอรสองค์หน่ึงให้เดินทำงไปศึกษำพระพุทธศำสนำท่ีประเทศลังกำ และ
ไดน้ ำเอำพระพุทธศำสนำนิกำยลังกำวงศเ์ ขำ้ มำเผยแผใ่ นอำณำจกั รกมั พูชำดว้ ย
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถือพระพุทธศำสนำเข้ำส่ปู ระเทศเพอ่ื นบำ้ น กำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ
• อำณำจักรกัมพูชำมีกำรย้ำยเมืองหลวงมำท่ีกรุงพนมเปญและเกิดสงครำมตลอดเวลำ บำงคร้ังรำชวงศ์ของ
กมั พชู ำเกิดกำรส้รู บแยง่ ชงิ รำชสมบตั กิ ันเอง สง่ ผลใหพ้ ระพทุ ธศำสนำพลอยเสื่อมลงไปด้วย
• สมัยพระเจ้ำหริรักษ์รำมำธิบดีพระพุทธศำสนำได้กลับมำฟื้นฟูอีกครั้ง โดยพระภิกษุชำวกัมพูชำ ซึ่งได้รับ
กำรศกึ ษำทำงดำ้ นพระพทุ ธศำสนำจำกกรุงเทพฯ ไดร้ ่วมมอื กนั ฟื้นฟพู ระพุทธศำสนำใหเ้ จริญรุง่ เรืองขึ้น
• สภำพกำรเมอื งในกมั พูชำเป็นปญั หำกำรทำสงครำมระหวำ่ งชำวเขมรด้วยกัน หลังจำกกองทัพเขมรแดงท่ีนิยม
ลัทธิคอมมิวนิสต์ได้รับชัยชนะก็ได้ปรำบปรำมผู้ที่ไม่เห็นด้วยกับกำรปกครองของตน วัดหลำยแห่งถูกร้ือ
ทำลำยประกำศหำ้ มไม่ให้ประชำชนใสบ่ ำตรทำบุญและไมใ่ ห้เข้ำรว่ มประกอบพิธีกรรมทำงศำสนำ
• เขมรแดงหมดอำนำจ และรฐั บำลชดุ ใหม่ภำยใต้กำรนำของนำยเฮงสมั รนิ แต่สถำนกำรณ์ของพระพุทธศำสนำ
ในกัมพูชำก็ไม่ดีขึ้น เพรำะรัฐบำลเฮงสัมรินก็มีนโยบำยไม่ให้ประชำชนนับถือศำสนำ ภำยหลังสงครำมกลำง
เมืองในกมั พูชำสงบลงทั้งรัฐบำลและประชำชนกมั พูชำจงึ ไดช้ ว่ ยกนั ฟน้ื ฟูพระพทุ ธศำสนำใหร้ ุง่ เรอื งอกี ครง้ั
กำรเผยแผ่และกำรนับถือพระพทุ ธศำสนำเข้ำสปู่ ระเทศเพื่อนบ้ำน กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ
ประเทศเวยี ดนำม
• ประเทศเวยี ดนำมเปน็ ประเทศท่มี คี วำมสัมพนั ธ์กับจีนมำต้ังแต่สมัยโบรำณโดยท่ีจีนได้เข้ำยึดเวียดนำมเป็น
เมืองข้ึนและทำกำรปกครองเวียดนำมอยู่หลำยร้อยปี จนเวียดนำมเกือบจะกลำยเป็นรัฐรัฐหนึ่งของจีน
เมอื่ จีนนบั ถือศำสนำใด ศำสนำนน้ั ก็จะเผยแผ่เขำ้ มำในเวยี ดนำมด้วย เริ่มแรกอทิ ธพิ ลของลทั ธิเตำ๋ และลัทธิ
ขงจ๊ือไดเ้ ผยแผเ่ ข้ำมำสู่เวียดนำมก่อน จนถึง พ.ศ. ๗๓๒ คณะธรรมทูตจำกจีนหลำยคณะจึงได้เดินทำงเข้ำ
มำเผยแผ่และประดิษฐำนพระพุทธศำสนำนิกำยมหำยำนในเวียดนำม อย่ำงไรก็ตำมพระพุทธศำสนำ
ในช่วงสมยั แรกเร่มิ ยังไม่เปน็ ท่ีนยิ มนบั ถอื กนั อย่ำงแพร่หลำยนัก จน พ.ศ.๑๕๑๒ เม่ือรำชวงศ์ดินห์ได้ขึ้นมำ
มีอำนำจปกครองเวียดนำม พระพุทธศำสนำนิกำยมหำยำนจึงได้รับกำรเอำใจใส่ฟ้ืนฟูและเป็นที่นับถือกัน
อย่ำงแพร่หลำยมำกข้ึน
กำรเผยแผ่และกำรนบั ถอื พระพทุ ธศำสนำเขำ้ ส่ปู ระเทศเพอ่ื นบำ้ น กำรเผยแผ่พระพทุ ธศำสนำ
• รำชวงศ์ดินห์ รำชวงศ์เล (ตอนต้น) และรำชวงศ์ลี พระพุทธศำสนำมีควำมเจริญรุ่งเรืองมำก
ทำให้พระพุทธศำสนำนกิ ำยมหำยำนเปน็ ท่นี ับถอื กนั อย่ำงแพรห่ ลำย
• รำชวงศ์ตรัน พระพุทธศำสนำไดเ้ สื่อมลง เม่ือเวียดนำมตกเป็นเมืองขึ้นของจีน โดยจีนได้สนับสนุนให้มีกำรเผย
แผ่ลทั ธขิ งจ๊อื และลทั ธเิ ต๋ำ รวมท้ังข้ำรำชกำรจีนกข็ ัดขวำงกำรเผยแผ่พระพุทธศำสนำ
• รำชวงศ์เล (ตอนปลำย) พระพุทธศำสนำมัวหมองพระภิกษุเข้ำมำมีบทบำททำงด้ำนกำรเมืองรวมทั้ง
พระมหำกษัตริย์ก็มิได้เอำพระทัยใส่ท่ีจะฟื้นฟูพระพุทธศำสนำ ส่งผลให้ประชำชนคลำยควำมศรัทธำที่มีต่อ
พระพทุ ธศำสนำ
• รำชวงศ์ตรินห์แห่งเวียดนำมเหนือและรำชวงศ์เหงียนแห่งเวียดนำมใต้แย่งชิงอำนำจกัน ก็ได้มีกำรสนับสนุน
พระพทุ ธศำสนำท่ีไมบ่ ริสทุ ธ์ิให้แพรห่ ลำยมำกยง่ิ ข้ึน มีเรอื่ งเวทมนต์คำถำและอภินิหำรต่ำงๆ
• รำชวงศต์ รัน พระพทุ ธศำสนำได้เสือ่ มลง เมื่อเวียดนำมตกเป็นเมืองข้ึนของจีน โดยจีนได้สนับสนุนให้มีกำรเผย
แผ่ลัทธขิ งจือ๊ และลัทธเิ ต๋ำ รวมทั้งขำ้ รำชกำรจนี กข็ ดั ขวำงกำรเผยแผพ่ ระพทุ ธศำสนำ
• รำชวงศ์เล (ตอนปลำย) พระพุทธศำสนำมัวหมองพระภิกษุเข้ำมำมีบทบำททำงด้ำนกำรเมืองรวมทั้ง
พระมหำกษัตริย์ก็มิได้เอำพระทัยใส่ที่จะฟ้ืนฟูพระพุทธศำสนำ ส่งผลให้ประชำชนคลำยควำมศรัทธำท่ีมีต่อ
พระพุทธศำสนำ
วิเครำะหค์ วำมสำคญั ของพระพุทธศำสนำ พระพทุ ธศำสนำช่วยสรำ้ งควำมเขำ้ ใจอนั ดี
กบั ประเทศเพ่อื นบ้ำน
กำรสร้ำงสมั พันธไมตรตี ำมแนวทำงของพระเจ้ำอโศกมหำรำช
• พระเจ้ำอโศกมหำรำชทรงประยุกต์หลักพุทธธรรมมำใช้ในกำรปกครองประเทศและสร้ำงสัมพันธไมตรีกับมิตรประเทศ
อย่ำงได้ผล แนวทำงของพระองค์จึงมีชื่อเรียกกันว่ำ “ธรรมวิชัย” (ชนะด้วยธรรม) จนพระมหำกษัตริย์ในยุคต่อๆ มำ
ยึดถือเปน็ แบบฉบบั ในกำรปกครองตำมที่ปรำกฏในศลิ ำจำรกึ ของพระองคเ์ อง มีสำระสำคญั พอจะสรปุ ได้ ดงั น้ี
• ให้สทิ ธิเสรีภำพในกำรนับถือศำสนำ และต้องไมข่ ัดขวำงหรอื ดูหม่นิ ศำสนำอ่ืน
• ใหค้ วำมเออื้ เฟอ้ื แกล่ ัทธิศำสนำอน่ื ท่เี ผยแผเ่ ขำ้ มำสปู่ ระเทศของเรำตำมสมควรแก่กำละและเทศะ
• ยนิ ดรี บั ฟังควำมคิดเหน็ และขอ้ เสนอแนะของมติ รประเทศ รจู้ กั เสียสละ และประสำนประโยชน์ซ่ึงกันและกัน
• พยำยำมละเว้นข้อพพิ ำท กำรทำสงครำม ควรแขง่ ขันหรอื เอำชนะกนั ด้วยธรรมะ
วิเครำะห์ควำมสำคัญของพระพทุ ธศำสนำ พระพทุ ธศำสนำช่วยสร้ำงควำมเขำ้ ใจอนั ดี
กบั ประเทศเพอ่ื นบ้ำน
หวั เสำหินพระเจำ้ อโศกมหำรำช หวั เสำหนิ พระเจ้ำอโศกมหำรำช
ในพพิ ิธภัณฑส์ ำรนำถ ประเทศอินเดีย ท่ีกรุงเวสำลี แคว้นวชั ชี ประเทศอินเดยี
วเิ ครำะห์ควำมสำคัญของพระพุทธศำสนำ พระพุทธศำสนำชว่ ยสรำ้ งควำมเข้ำใจอันดี
กบั ประเทศเพอ่ื นบำ้ น
กำรสรำ้ งสัมพนั ธไมตรีตำมหลักสำรำณยี ธรรม
• แก่นของสำรำณียธรรม คือ ควำมปรำรถนำดีต่อกัน เอื้อเฟื้อเกื้อกูลกัน ซ่ึงสำมำรถประยุกต์ใช้เป็นแนวทำงสร้ำง
สมั พันธไมตรีระหวำ่ งประเทศไดอ้ ยำ่ งดี ดงั ตัวอย่ำง
• เมตตากายกรรม คือ แสดงออกซึ่งควำมเป็นมิตรทำงกำยต่อประเทศเพื่อนบ้ำน เช่น ช่วยเหลือมิตรประเทศ
ท่ีประสบภัยพิบตั ิตำ่ งๆ
• เมตตาวจีกรรม คือ มีกำรกระทำทำงวำจำท่ีแสดงออกถึงควำมปรำรถนำดีต่อมิตรประเทศ เช่น ไม่กล่ำว ติเตียน
ให้ร้ำยกัน
• เมตตามโนกรรม คือ มีจติ ใจปรำรถนำดตี ่อมติ รประเทศ เช่น ไม่ชักจงู มติ รประเทศดำเนินนโยบำย กอ่ สงครำม
• แบ่งปันผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยชอบธรรมแก่มิตรประเทศ เช่น ไม่สร้ำงเข่ือนก้ันน้ำหรือเปล่ียน
เสน้ ทำงของกระแสนำ้ ท่ีประเทศเพื่อนบำ้ นรว่ มใช้ประโยชน์ด้วย
• มีหลักความประพฤติ (ศีล) เสมอกับมิตรประเทศ และไม่ทาตนให้เป็นท่ีรังเกียจของประเทศอื่น เช่น ไม่ให้
ประเทศตนเปน็ ที่ซอ่ งสุมของผกู้ อ่ กำรรำ้ ย
• มีความคดิ เห็นตรงกับประเทศอื่น เชน่ ยอมรบั กติกำ หรือกฎเกณฑท์ น่ี ำนำชำตกิ ำหนดไว้
วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำ พระพุทธศำสนำเป็นรำกฐำนของวฒั นธรรมไทย
• ควำมสำคัญของพระพุทธศำสนำในฐำนะที่เป็นรำกฐำนสำคัญของวิถีชีวิตไทยหรือวัฒนธรรมไทยสำมำรถ
สรปุ ได้ ดังนี้
ด้ำนวงจรชวี ติ ของบุคคล เช่น ตง้ั ชือ่ เกดิ โกนผมไฟ บวช ทำบญุ ขึน้ บำ้ นใหม่ แต่งงำน พธิ ีศพ
เชน่ กำรจัดงำนประเพณีวิสำขบชู ำ เขำ้ พรรษำ ทอดกฐิน สงกรำนต์ ลอยกระทง ดำ้ นวงจรกำลเวลำของสังคมและชมุ ชน
ด้ำนภำษำ เชน่ กำรนำภำษำบำลีและภำษำสนั สกฤต มำใช้ร่วมกับภำษำไทย
เชน่ จิตรกรรม ประตมิ ำกรรม และสถำปตั ยกรรมต่ำงๆ ที่ถูกสร้ำงขึ้นจำก ด้ำนศลิ ปะและดนตรี
แรงบันดำลใจและศรัทธำในพระพุทธศำสนำ
วเิ ครำะห์ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำ พระพุทธศำสนำเปน็ เอกลกั ษณแ์ ละ
มรดกของสังคมไทย
• ควำมสำคญั ของพระพทุ ธศำสนำอีกประกำรหน่ึง คอื เป็นเอกลักษณ์และมรดกของสังคมไทยซึ่งสำมำรถ
แบง่ ได้ ดงั นี้
ในแง่เอกลักษณ์
• ควำมมเี มตตำกรุณำ
• ควำมเป็นคนใจกวำ้ ง ไม่เห็นแกต่ วั
• ควำมเป็นคนไมย่ ดึ ม่นั เกนิ ไป
ในแงม่ รดก
• มรดกทางรูปธรรม เชน่ โบรำณสถำน โบรำณวตั ถุตำ่ งๆ
• มรดกทางนามธรรม เชน่ คำสอนท่ีกลอ่ มเกลำคนไทยใหม้ ีควำม อ่อนน้อม โอบอ้อมอำรี
วเิ ครำะห์ควำมสำคัญของพระพทุ ธศำสนำ พระพุทธศำสนำกับกำรพฒั นำชมุ ชน
• กำรพฒั นำชุมชนประกอบไปด้วยกำรพัฒนำวัตถุ และกำรพัฒนำจิตใจ แม้ว่ำกำรพัฒนำจะเป็นหน้ำท่ีโดยตรง
ของฝ่ำยบ้ำนเมือง แต่พระพุทธศำสนำก็มีส่วนร่วมได้ พระพุทธเจ้ำได้ทรงตั้งคณะสงฆ์ขึ้น คณะสงฆ์นี้เป็น
ชุมชนท่ีชำวบ้ำนจะถือเป็นแบบอย่ำงได้ พระสงฆ์มีหน้ำที่ท่ีจะจำริกไป “เพ่ือประโยชน์ เพ่ือควำมสุขของ
ประชำชน เพ่อื อนเุ ครำะหช์ ำวโลก”
กำรพฒั นำด้ำนวตั ถุ • เช่น กำรที่พระสงฆ์ร่วมกับชำวบ้ำนสร้ำงถนนในชุมชน กำรก่อต้ังมูลนิธิของ
พระสงฆ์ เพื่อชว่ ยเหลือเด็กยำกไร้ เปน็ ตน้
กำรพฒั นำดำ้ นจิตใจ • เช่น กำรสอนให้คนในชุมชนมีระเบียบวินัย มีควำมซ่ือสัตย์ ไม่ประมำท
มีควำมพอดี เดินทำงสำยกลำง เปน็ ต้น
วเิ ครำะหค์ วำมสำคัญของพระพทุ ธศำสนำ พระพทุ ธศำสนำกับกำรพฒั นำชมุ ชน
หลกั อธปิ ไตย ๓ อัตตำธิปไตย กำรถอื เอำตนเองเป็นใหญ่
ในกำรทำงำนรว่ มกนั ในชมุ ชน โลกำธปิ ไตย กำรถอื โลกหรือควำมนิยมของโลกเป็นใหญ่
ธัมมำธปิ ไตย
กำรถอื ธรรมหรือควำมถูกต้องเป็นใหญ่
• ตำมหลักธรรมข้อน้ี กำรจะทำอะไรด้วยกันก็ตำม ต้องถือเอำควำมถูกต้องตำมธรรมเป็นตัวตัดสิน มิใช่เอำควำมคิด
ของตนหรอื ควำมคดิ ของชำวโลกเป็นใหญ่
วเิ ครำะหค์ วำมสำคัญของพระพทุ ธศำสนำ พระพทุ ธศำสนำกบั กำรจัดระเบยี บสงั คม
• ทุกสังคมต้องมีระเบียบ ระเบียบในท่ีน้ี หมำยถึง กฎหมำย ข้อบังคับ จำรีตประเพณี สังคมที่ไม่มีระเบียบ
จะเกิดควำมสับสนอลหม่ำน ถ้ำผู้คนละเมิดสิทธิซ่ึงกันและกัน สังคมก็จะไม่มีควำมสุข พระพุทธศำสนำ
ใช้วิธกี ำรในกำรจดั ระเบียบสังคมให้สงบสุข คอื
• อบรมปลูกฝงั คนในสงั คมใหม้ ีจติ สำนกึ ว่ำอะไรดี อะไรไมด่ ี อะไรควรทำ อะไรไมค่ วรทำ
• กำรสอนให้รู้จักกำรเคำรพตนเอง มีควำมละอำยแก่บำปและไมท่ ำควำมผิด