The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

วารสารราชทัณฑ์ ฉบับ 2-63

วารสารราชทัณฑ

ว า ร ส า ร เ พ่ื อ ค ว า ม ก  า ว ห น  า แ ล ะ ร อ บ รู  ใ น ง า น ร า ช ทั ณ ฑ 

วัตถุประสงค สารจากบรรณาธิการ

1. เพื่อเสรมิ สรา งความรแู ละทศั นะเกยี่ วกบั งานราชทณั ฑ์ สวัสดีท่านผูอ่านที่เคารพรัก
2. เพอ่ื เผยแพรก่ จิ กรรมเก่ียวกบั งานราชทัณฑ์ ทุกท่าน กองบรรณาธิการไดจัดท�า
3. เพอ่ื เปน สอ่ื กลางในการแสดงความคิดเห็นและแลกเปลีย่ นความรู วารสารราชทัณฑ์เปนฉบับท่ี 2
ประจ�าป 2563 เพื่อเผยแพร่ความรู
ประสบการณแ์ ละปญ หาขัดของในการบริหาร เรื่องราวส�าคัญ ที่กรมราชทัณฑ์ได
ก�าหนดนโยบายการปฏิบัติงาน ใหกาวทัน
คณะกรรมการอํานวยการวารสารราชทณั ฑ ต่อสถานการณ์ของโลกปจจุบันท่ีเกิดปญหาการแพร่ระบาด
ของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 หรือ GLOBAL COVID-19
• อธิบดีกรมราชทณั ฑ์ ประธานทีป่ รึกษา INDEX (GCI) ไปท่ัวโลก ท�าใหมีประชาชนเจ็บปวยและอาจถึง
• รองอธิบดีกรมราชทณั ฑ์ ทปี่ รึกษา ขน้ั เสยี ชวี ติ เปน จา� นวนมาก กรมราชทณั ฑต์ ลอดจนทกุ หนว่ ยงาน
• รองอธบิ ดีกรมราชทณั ฑ์ ท่รี ับผดิ ชอบ ประธานคณะกรรมการ ตอ งปฏบิ ตั ติ ามนโยบายของรฐั บาลโดยเครง่ ครดั โดยรว่ มกนั ตอ่ สู
อา� นวยการ และปองกันการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซ่ึงเชื้อน้ีสามารถ
การปฏบิ ตั ิราชการของสถาบันพัฒนา กรรมการ ติดต่อจากคนสู่คนผ่านทางละอองเสมหะ การไอจามของผูท่ีมี
ขาราชการราชทัณฑ์ กรรมการ เช้ือ สัมผสั ใกลชิดผูปว ย ซึง่ มรี ะยะฟกตัว 2 - 14 วนั การปฏบิ ตั ิ
• หัวหนา ผูตรวจราชการกรม กรรมการ ในชีวิตประจ�าวันตองเตรียมความพรอมต่าง ๆ อาทิ สวม
• ผูอา� นวยการกองทณั ฑวทิ ยา กรรมการ หนา กากอนามัย ลางมือบอ่ ย ๆ ใหอยู่ห่างกันอย่างนอ ย 1 เมตร
• ผอู �านวยการกองทัณฑปฏบิ ตั ิ กรรมการ หลกี เล่ยี งกจิ กรรมท่มี คี นอยู่รว่ มกนั หลกี เลย่ี งการอยู่ใกลชิดกบั
• ผอู า� นวยการกองพฒั นาพฤตินสิ ยั กรรมการ ผูปวยเปนตน
• ผูอา� นวยการกองบริหารการคลัง กรรมการ กรมราชทัณฑ์ไดด�าเนินการใหเรือนจ�าและทัณฑสถาน
• ผูอ า� นวยการกองบรหิ ารทรพั ยากรบคุ คล กรรมการ ทุกแห่ง งดการเยี่ยมญาติเปนระยะเวลาตั้งแต่ 30 มีนาคม ถึง
• ผอู า� นวยการกองยุทธศาสตร์และแผนงาน บรรณาธกิ าร 31 พฤษภาคม 2563 เมอ่ื สถานการณค์ ลค่ี ลายกลบั เขา สสู่ ภาวะ
• ผอู า� นวยการกองกฎหมาย และเลขานุการ ปกติ จึงอนุญาตใหมีการเย่ียมญาติไดตามปกติ แต่ตองปฏิบัติ
• ผอู า� นวยการสถาบนั พัฒนา ผชู ว่ ยบรรณาธกิ ารและ ตามกฎระเบยี บและมาตรการปฏบิ ตั ขิ องเรอื นจา� และทณั ฑสถาน
ขาราชการราชทัณฑ์ ผชู ่วยเลขานกุ าร โดยเครง่ ครดั เพอ่ื ไมใ่ หเ กดิ การแพรร่ ะบาด ของการตดิ เชอ้ื ไวรสั
• หัวหนาศนู ย์สง่ เสริมและพฒั นาการเรียนรู COVID-19 โดยสนิ้ เชิง
กองบรรณาธิการ หวงั เปนอยา่ งย่งิ ว่า ทา่ นผูอ่านทุกท่าน
คณะเจาหนา ทป่ี ระจํากองบรรณาธกิ ารวารสารราชทณั ฑ มีสุขภาพดีและผ่านวิกฤติจากการแพร่ระบาดของ COVID-19
ไปดวยกัน ดวยความม่งุ ม่ัน อดทน ไม่ย่อทอ ในโอกาสน้ี ขอเชญิ
• นายปรชี า เครือจนั ทร์ ประจ�ากองบรรณาธกิ าร ทา่ นสมาชกิ ทา่ นผอู า่ นและผสู นใจทกุ ทา่ น สง่ บทความทเี่ กย่ี วกบั
• นางสาวมารสิ า วิรยิ ะรมั ภ์ ประจา� กองบรรณาธิการ งานราชทณั ฑห์ รอื งานในกระบวนการยตุ ธิ รรมเพอื่ เผยแพรล่ งใน
• นางสาววีรนชุ นิ่มเงิน ประจา� กองบรรณาธิการ วารสารราชทัณฑ์ในฉบับต่อ ๆ ไป พรอมท้ังเชิญชวนสมัคร
• นายอภิรกั ษ์ แกวสวย ประจา� กองบรรณาธิการ สมาชิกวารสารราชทัณฑ์ ประจ�าป 2564 ในอัตราค่าสมัคร
• นายเอกลกั ษณ์ ทพิ วงศ์ หัวหนา การเงินและบัญชี สมาชกิ ปล ะ 100 บาท ทา่ นจะไดร บั วารสาร จา� นวน 3 ฉบบั และ
• นายมหธิ รณ พงษ์สุวรรณ เจาหนาทกี่ ารเงนิ และบัญชี ขอขอบคณุ ทุกทา่ นมา ณ โอกาสน้ี
• นายธีรศกั ดิ์ อนิ ทรช์ ่วย เจา หนาทกี่ ารเงนิ และบญั ชี
• นางนฤมล เครอื จันทร์ เจา หนา ทีพ่ สั ดุ ประภาพรรณ ขจรวัฒนากุล
• นางสาวขวญั ใจ ไกรสงั ข์ พิสูจนอ์ กั ษร บรรณาธิการวารสารราชทณั ฑ
• นางสาวสภุ รภัค พยคั ฆาคม พสิ จู น์อักษร
• นางสาวอันธิกา เจยี มจรรยารักษ์ พิสจู นอ์ ักษร
• นางสาวณิฏฐา วรดลิ ก พิสูจน์อักษร

สำรบัญ

3 ขำ่ วกรมรำชทณั ฑ์
7 ข่ำวพัฒนำบคุ ลำกร

9 โลก (รำชทัณฑ)์ หลังโรค COVID-19
13 กำรลดควำมเครียดของผู้ต้องขังในช่วงสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของไวรสั โคโรนำ 2019 (โควดิ -19)

ด้วยธรรมะ

19 ภำรกิจกำรพัฒนำจิตใจผู้ตอ้ งขงั ในสภำวะปกติใหม่ (New Normal)
23 มำตรกำรเชิงรกุ ในกำรปอ้ งกันโควิด-19 ของเรอื นจำ� พเิ ศษกรุงเทพมหำนคร
27 วัตถมุ งคลกบั ฅนรำชทัณฑ์
31 กำรดแู ลสขุ ภำพจติ ในยคุ COVID–19
37 เลำะร้วั รำชทณั ฑ์รอบโลก เฉพำะกจิ COVID-19
43 สรุปสถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำด COVID–19 ในเรอื นจ�ำต่ำงประเทศ
49 กำรฝึกวิชำชพี ผู้ตอ้ งขังดำ้ นกำรผลิตหนำ้ กำกอนำมัย : บทบำทในกำรพฒั นำผูต้ ้องขงั และสงั คม

ในสถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคตดิ เช้อื ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19)

55 มำตรกำรกำรปฏบิ ตั ติ ่อผู้ตอ้ งขังกลมุ่ พิเศษ ในยุคโควดิ -19 : ผตู้ อ้ งขังสงู อำยุ ผ้ตู ้องขังตง้ั ครรภ์

ผตู้ ้องขงั ที่ใหน้ มบตุ ร และเดก็ ตดิ ผตู้ ้องขัง

60 กำรจดั กำรภำวะวกิ ฤตสิ ขุ ภำพ กำรแพรร่ ะบำดโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (COVID-19) ของกรมรำชทณั ฑ์
65 กำรดำ� เนินกำรจดั กำรศึกษำ บำลศี กึ ษำ ในเรือนจ�ำ/ทัณฑสถำน
70 แรงจงู ใจกับควำมผูกพนั ในงำนของข้ำรำชกำรเรือนจำ� กลำงคลองเปรม
75 กำรฝึกวชิ ำชพี เพอื่ สง่ เสริมกำรสรำ้ งงำนใหผ้ ูต้ ้องขงั ภำยหลังพ้นโทษ
79 กำรวิเครำะห์ควำมผดิ ในคดฉี อ้ โกงประชำชน : กำรเก็งก�ำไรอัตรำแลกเปลย่ี นเงินตรำต่ำงประเทศ
84 สำระนำ่ รูเ้ รอ่ื งสขุ ภำพ
87 เรือนจ�ำไทยในอดีต เรือนจำ� จังหวดั สิงห์บรุ ี

89 Good Products Good People 99 ใบสมคั รสมำชิกวำรสำรรำชทณั ฑ ์ ปท‚ ่ี 69
ประจำ� ป‚ พ.ศ. 2564

2 วารสารราชทัณฑ

ข่าวกรมราชทัณฑ์

วันที่ 1 พฤษภำคม 2563 พันต�ำรวจเอก ณรัชต ์
เศวตนันทน์ อธิบดีกรมรำชทณั ฑ ์ และพลต�ำรวจเอก จกั รทิพย ์
ชัยจินดำ ผู้บัญชำกำรต�ำรวจแห่งชำติ ร่วมลงนำมบันทึก
ขอ้ ตกลงควำมรว่ มมอื วำ่ ดว้ ยกำรเพมิ่ ศกั ยภำพและพฒั นำระบบ
กำรรักษำพยำบำลผู้ต้องขังป่วย ให้เทียบเท่ำมำตรฐำนระดับ
สำกล ตลอดจนกำรสนับสนุนด้ำนวิชำกำร และกำรวิจัย
บคุ ลำกรทำงกำรแพทย ์ แพทยผ์ เู้ ชยี่ วชำญเฉพำะทำง เทคโนโลยี
ทที่ นั สมยั และอปุ กรณท์ ำงกำรแพทยร์ ะหวำ่ งทงั้ สองหนว่ ยงำน
ณ ห้องประชุมชัยจินดำ 1 อำกำร มภร. ช้นั 20

วันที่ 22 พฤษภำคม 2563 นำยสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงยุติธรรมเข้ำตรวจเยี่ยมกำร
ซ้อมแผนกำรเข้ำเย่ียมญำติ และแนะน�ำแนวทำงในกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เนื่องจำก
กรมรำชทณั ฑไ์ ดผ้ อ่ นคลำยมำตรกำรปอ้ งกนั และควบคมุ กำรแพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โควดิ -19 ในเรอื นจำ� ลง โดย
ให้เรือนจ�ำ/ทัณฑสถำนท่ัวประเทศเปิดให้บริกำรเย่ียมญำติ กำรรับฝำกเงิน และกำรส่ังซื้อสินค้ำจำกร้ำนค้ำสงเครำะห์
ให้แก่ผู้ต้องขังในเรือนจ�ำได้ ตั้งแต่วันท่ี 1 มิถุนำยน 2563 เป็นต้นไป โดยมีนำยกิตติพัฒน์ เดชะพหุล รองอธิบด ี
กรมรำชทัณฑ์ ฝ่ำยบริหำร และเจ้ำหน้ำท่ีเรือนจ�ำอ�ำเภอสีค้ิวให้กำรต้อนรับ ณ เรือนจ�ำอ�ำเภอสีคิ้ว อ�ำเภอสีค้ิว
จงั หวัดนครรำชสีมำ

วารสารราชทัณฑ 3

วันที่ 1 มิถุนำยน 2563 พันต�ำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์
อธิบดีกรมรำชทัณฑ์ เป็นประธำนในพิธีลงนำมถวำยพระพรชัยมงคล
เนื่องในโอกำสวันเฉลิมพระชนมพรรษำ 3 มิถุนำยน 2563 สมเด็จ
พระนำงเจ้ำสุทิดำ พัชรสุธำพิมลลักษณ พระบรมรำชินี เบ้ืองหน้ำ
พระบรมฉำยำลักษณ์ โดยมีคณะผู้บริหำรกรมรำชทัณฑ์ร่วมพิธ ี
เพอ่ื แสดงออกถงึ ควำมจงรกั ภกั ด ี และนอ้ มสำ� นกึ ในพระมหำกรณุ ำธคิ ณุ
อย่ำงหำท่ีสุดมิได้ ณ ห้องสัมมนำกรมรำชทัณฑ์ ช้ัน 3 อำคำร
กรมรำชทัณฑ ์ อ�ำเภอเมืองนนทบุร ี จังหวดั นนทบรุ ี

วนั ท ี่ 12 มิถนุ ำยน 2563 พันตำ� รวจเอกณรัชต์ เศวตนนั ทน ์ อธิบดีกรมรำชทณั ฑ์ เป็นประธำนในกำรประชมุ
มอบนโยบำยผบู้ รหิ ำรงำนรำชทัณฑท์ ว่ั ประเทศ ครั้งท่ ี 4/2563 เพอ่ื เป็นกำรมอบนโยบำยและหำรอื รว่ ม โดยมผี ้บู รหิ ำร
กรมรำชทัณฑ์ ผู้บริหำรเรือนจ�ำและทัณฑสถำนทั่วประเทศ ร่วมประชุมในครั้งน้ี ตำมวิถีใหม่ หรือ New Normal
โดยมกี ำรตรวจวดั อณุ หภมู ิผู้รว่ มประชุมทุกท่ำนอยำ่ งทั่วถงึ ณ ห้องสัมมนำกรมรำชทัณฑ ์ ช้ัน 3 อำคำรกรมรำชทณั ฑ ์
อ�ำเภอเมอื งนนทบุร ี จงั หวัดนนทบุรี
4 วารสารราชทัณฑ

วันที่ 1 กรกฎำคม 2563 ด้วยกรมรำชทัณฑ์ได้น้อมน�ำแนวทำงโครงกำรรณรงค์ป้องกันและแก้ปัญหำ
ยำเสพตดิ TO BE NUMBER ONE ในทลู กระหมอ่ มหญงิ อบุ ลรตั นรำชกญั ญำ สริ วิ ฒั นำพรรณวด ี องคป์ ระธำนโครงกำร
มำปรับใช้กับผู้ต้องขังในเรือนจ�ำ/ทัณฑสถำน ต้ังแต่ปีงบประมำณ พ.ศ. 2554 โดยร่วมกับกรมสุขภำพจิต กระทรวง
สำธำรณสขุ จดั กำรประกวดผลงำนชมรม TO BE NUMBER ONE ระดบั ภำคกลำงและภำคตะวันออก ประจำ� ปี 2563
ณ ห้องสัมมนำกรมรำชทณั ฑ์ ช้ัน 3 อำคำรกรมรำชทณั ฑ ์ อ�ำเภอเมืองนนทบุรี จังหวดั นนทบรุ ี

วนั ท ่ี 16 กรกฎำคม 2563 ดร.โฆสติ สวุ นิ จิ จติ คณะอนกุ รรมกำรเพอ่ื ศกึ ษำแนวทำงกำรจดั ตงั้ นคิ มอตุ สำหกรรม
รำชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม เดินทำงเข้ำร่วมหำรือถึงแนวทำงกำรออกแบบโครงสร้ำงและกำรบริหำรจัดกำรเรือนจ�ำ
อุตสำหกรรมหรือเกษตรกรรม เพ่ือแก้ไขปัญหำและพัฒนำพฤตินิสัยผู้ต้องขัง พร้อมศึกษำดูงำนภำยในทัณฑสถำน
จ�ำนวน 3 แห่ง ได้แก่ ทัณฑสถำนบ�ำบัดพิเศษหญิง ทัณฑสถำนบ�ำบัดพิเศษจังหวัดปทุมธำนี และทัณฑ์ทัณฑสถำน
วยั หนุ่มกลำง

วารสารราชทัณฑ 5

วันที่ 3 สิงหำคม 2563 พันต�ำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมรำชทัณฑ์ เปิดเผยว่ำ กรมรำชทัณฑ์
จดั กำรประกวดนวตั กรรมกำรพัฒนำงำนรำชทณั ฑ ์ ประจ�ำป ี พ.ศ. 2563 โดยภำยในงำนมีนวัฒกรรมฯ ท่ีผำ่ นเขำ้ รอบ
สดุ ทำ้ ยจำกเรอื นจำ� ทว่ั ประเทศ อำท ิ ทเี่ หยยี บเจลลำ้ งมอื โดยใชพ้ ลงั งำนแสงอำทติ ย ์ สขุ ำเคลอ่ื นทสี่ ำ� หรบั ผตู้ อ้ งขงั (GPS)
เป็นต้น ซึ่งกรมรำชทัณฑ์ได้มีกำรจัดประกวดนวัตกรรมกำรพัฒนำงำนรำชทัณฑ์ขึ้นเป็นประจ�ำทุกปี ณ ห้องสัมมนำ
กรมรำชทัณฑ์ ชน้ั 3 อำคำรกรมรำชทัณฑ ์ อำ� เภอเมอื งนนทบุร ี จงั หวดั นนทบรุ ี

วันท่ี 14 สิงหำคม 2563 พันต�ำรวจเอก ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมรำชทัณฑ์ เป็นประธำนกำรสัมมนำ
กำรเตรยี มควำมพรอ้ มกำรดำ� เนนิ งำนหลกั สตู รฝกึ ปฏบิ ตั กิ ำรเกษตรทฤษฎใี หม ่ ในพน้ื ทขี่ นำดเลก็ “โคก หนอง นำ โมเดล”
เพื่อมอบแนวทำงกำรด�ำเนนิ กำรพระรำชทำนอภยั โทษ ประจำ� ปี 2563 พรอ้ มใหก้ ำรต้อนรับ

พลตร ี กลั ย์สรรค์ จันทรเสน ประจ�ำฝำ่ ยที่ประทับ ปฏบิ ตั ิหน้ำที่ หวั หน้ำชุดประสำนงำนไตรโครงกำร
พลตร ี สมบตั ิ ธญั ญะวัน ผู้อ�ำนวยกำรส�ำนกั ปฏิบตั กิ ำรกิจกำรพลเรอื น กรมกจิ กำรพลเรือนทหำร
กองบญั ชำกำรกองทัพไทย
ท่ีให้เกียรติมำมอบแนวทำงกำรขับเคล่ือนหลักสูตรฝึกปฏิบัติกำรเกษตรทฤษฎีใหม่ในพ้ืนที่ขนำดเล็ก
“โคก หนอง นำ โมเดล” โดยมคี ณะผ้บู รหิ ำรกรมรำชทณั ฑ์ ผูบ้ ัญชำกำร ผอู้ ำ� นวยกำร เรือนจำ� /ทณั ฑสถำนทวั่ ประเทศ
เขำ้ รว่ มกำรสัมมนำอยำ่ งพร้อมเพรียง ณ หอ้ งสมั มนำกรมรำชทณั ฑ ์ ช้นั 3 กรมรำชทัณฑ์ จงั หวัดนนทบรุ ี
6 วารสารราชทัณฑ

ข่าวพัฒนาบุคลากร

การจัดทาํ แผนพัฒนาทรพั ยากรบคุ คลกรมราชทณั ฑผ่านส่อื อเิ ลก็ ทรอนิกส

สถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรรำชทัณฑ์ ได้จัดท�ำแผนพัฒนำทรัพยำกรบุคคล
กรมรำชทัณฑผ์ ำ่ นส่อื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ ภำยใต้ระบบบริหำรจัดกำรภำครัฐแนวใหม ่ เพื่อให้
สอดคล้องกับสถำนกำรณ์ปัจจุบัน โดยประยุกต์กำรใช้ระบบเครือข่ำยสำรสนเทศ
เพื่อกำรเรียนรู้ผ่ำนส่ืออิเล็กทรอนิกส์ เช่น กำรใช้แอปพลิเคชันเพ่ือกำรปฏิบัติงำน
กำรเรียนกำรสอน e-Learning หรือกำรใชเ้ ทคโนโลยีอืน่ ๆ ประโยชนท์ ่คี ำดวำ่ จะได้รบั
สำมำรถท�ำให้ข้ำรำชกำรและเจ้ำหน้ำท่ีของกรมรำชทัณฑ์ได้ประสบกำรณ์ใหม่และ
ฝึกทักษะกำรใช้เทคโนโลยีในกำรเรียนรู้ และน�ำแอปพลิเคชันต่ำง ๆ ไปประยุกต์ใช ้
ในกำรปฏิบัติงำนในหน้ำที่ได้
อ ย ่ ำ ง มี ป ร ะ สิ ท ธิ ภ ำ พ แ ล ะ
เกดิ ประโยชนส์ งู สดุ โดยเฉพำะ
ช่วงสถำนกำรณ์กำรแพร่
ระบำดของโรค COVID–19
และเป็นกำรสร้ำงวัฒนธรรม
ควำมร่วมมือ ควำมสำมัคคีให้
เกดิ ข้ึนในองค์กรได้

การฝกึ อบรมผา่ นสอ่ื อเิ ล็กทรอนกิ ส (e-Learning)
ในวชิ าเฉพาะด้านงานราชทัณฑ

สถำบันพฒั นำข้ำรำชกำรรำชทณั ฑ์ ไดพ้ ฒั นำรปู แบบ
กำรฝกึ อบรมและเพมิ่ ชอ่ งทำงในกำรเรยี นรใู้ หก้ บั บคุ ลำกรของ
กรมรำชทัณฑ์สำมำรถศึกษำเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ด้วยกำรฝึก
อบรมผ่ำนส่ืออเิ ล็กทรอนิกส ์ (e-Learning) ในวชิ ำเฉพำะดำ้ น
งำนรำชทัณฑ ์ จ�ำนวน 5 หลกั สตู ร ประกอบด้วย

- หลกั สตู รกำรปฏบิ ตั ติ อ่ ผตู้ อ้ งขงั ตำมหลกั ทณั ฑปฏบิ ตั ิ
(พนื้ ฐำน)

- หลักสตู รพระรำชบัญญตั ิรำชทณั ฑ์ พ.ศ. 2560
- หลักสูตรกำรควบคุมผตู้ ้องขงั ในสถำนกำรณ์ต่ำง ๆ
- หลักสตู รกำรจำ� แนกลักษณะผตู้ ้องขงั
- หลักสูตรกำรพัฒนำพฤตินสิ ยั ผตู้ อ้ งขงั

วารสารราชทัณฑ 7

การฝกึ อบรม หลกั สตู ร ผคู้ ุมมอื อาชพี รนุ่ ท่ี 13 -15

รุ่นที่ 13 ด�ำเนินกำรฝึกอบรมระหว่ำงวันที่ 10- 28 สิงหำคม 2563 มีผู้เข้ำรับกำรฝึกอบรม จ�ำนวน 50 คน
ณ สถำบนั พัฒนำขำ้ รำชกำรรำชทัณฑ์ อ�ำเภอเมอื งนนทบรุ ี จงั หวดั นนทบรุ ี

รุ่นท่ี 14 ด�ำเนนิ กำรฝกึ อบรมระหว่ำงวันท ่ี 31 สิงหำคม - 18 กนั ยำยน 2563 มผี ูเ้ ขำ้ รับกำรฝกึ อบรม จำ� นวน 53 คน
ณ สถำบนั พัฒนำขำ้ รำชกำรรำชทณั ฑ ์ อ�ำเภอเมอื งนนทบุรี จงั หวดั นนทบุรี

รุน่ ท่ี 15 ด�ำเนินกำรฝกึ อบรมระหว่ำงวันที ่ 24 สิงหำคม - 11กันยำยน 2563 มผี เู้ ขำ้ รบั กำรฝึกอบรม จำ� นวน 80 คน
ณ ศนู ย์ฝึกอบรมข้ำรำชกำรรำชทัณฑป์ ระจ�ำภำคตะวันออกเฉยี งเหนือ อ�ำเภอสคี ว้ิ จังหวัดนครรำชสมี ำ

8 วารสารราชทัณฑ์

โลก (รำชทัณฑ)์ บญุ ศิษฏ ์ ศกั ดบิ์ รู ณพงษำ
โรค COVID-19หลงั กองทัณฑวทิ ยำ

สวสั ดคี รบั ทำ่ นผอู้ ำ่ นทกุ ทำ่ น วนั น ี้ (4 กนั ยำยน 2563) ทกุ ทำ่ นกำ� ลงั ทำ� อะไรอยคู่ รบั ในหว้ งเวลำทอ่ี ำกำศกำ� ลงั
แปรปรวนในชว่ งน ี้ ถำ้ เป็นปีอืน่ ๆ บำงทำ่ นอำจจะก�ำลังง่วนกับงำนบำ้ น ผจญพำยุฝน บำงทำ่ นอำจจะกำ� ลังเตรียมตวั
เข้ำเวร บำงท่ำนอำจจะเพิ่งขอลำพักผ่อนเพรำะเพ่ิงออกจำกเวรมำหลำยวันท่ีต้องเข้ำเวรแทนเพ่ือน แต่ในปีนี ้
พ.ศ. 2563 หรือ ค.ศ. 2020 เป็นปีท่ีต้องจำรึกว่ำมีวิกฤตไวรัสสำยพันธุ์ใหม่ระบำด อย่ำงไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ
เรยี กสน้ั ๆ วำ่ โควดิ -19 (COVID-19) ทกี่ ำ� ลงั แพรร่ ะบำดอยำ่ งหนกั ไปทวั่ ทกุ มมุ โลก โดยเรมิ่ ตน้ จำกมณฑลอฮู่ นั่ (Wuhan)
ในประเทศจนี จนแพรร่ ะบำดไปทว่ั ทงั้ ทวปี เอเชยี ยโุ รป อเมรกิ ำ แอฟรกิ ำ มผี ตู้ ดิ เชอ้ื ทวั่ โลก ณ ขณะนจี้ ำ� นวนกวำ่ 28 ลำ้ นคน
เสยี ชวี ติ ไปแลว้ กวำ่ 922,735 คน และมผี รู้ กั ษำหำยแลว้ กลบั บำ้ นไดเ้ พยี ง 19 ลำ้ นคน ซงึ่ ผทู้ ค่ี รองสถติ ผิ ตู้ ดิ เชอื้ มำกทส่ี ดุ
และมผี เู้ สยี ชวี ติ มำกทสี่ ดุ กค็ อื ประเทศสหรฐั อเมรกิ ำนน่ั เอง (ขอ้ มลู จำก เวบ็ ไซต ์ sanook.com วนั ท ่ี 14 กนั ยำยน 2563)
และคำดวำ่ กว่ำจะถงึ วันทีบ่ ทควำมนจี้ ะมำถึงมือผู้อำ่ นยอดตวั เลขอำจจะพุ่งไปมำกกวำ่ นีก้ เ็ ปน็ ได้
ครับ!! ทผ่ี มพูดมำเสยี ยืดยำว ไมใ่ ชจ่ ะมำวเิ ครำะหส์ ำเหต ุ สถำนกำรณ์กำรแพรข่ องโรคระบำดอะไรหรอกครับ
เหตุกำรณม์ นั เกดิ มำแล้ว คนทีต่ ิดเช้ือก็ต้องรกั ษำตัวกนั ไป สว่ นคนท่ีเสียชวี ติ ก็ตอ้ งขอแสดงควำมเสียใจใหก้ บั ครอบครวั
ผสู้ ญู เสียด้วย แตเ่ รำทีย่ ังอยกู่ ต็ อ้ งเดนิ หนำ้ กนั ตอ่ ไป แต่อย่ำงไรก็ดี เรำคงไมส่ ำมำรถดำ� เนินชีวิตได้เป็นปกติแบบเดิมได้
อย่ำงแนน่ อน เหมือนเหตุกำรณน์ ้ำ� ทว่ มคร้งั ใหญป่ ี พ.ศ. 2554 ทที่ �ำใหพ้ ฤตกิ รรมของคนท่ีอยู่บำ้ นโดยเฉพำะบ้ำนท่โี ดน
น�้ำท่วมเปล่ียนไป รวมถึงเหตุกำรณ์ที่ช็อกโลกอย่ำงเหตุกำรณ์ 9/11 หรือเหตุกำรณ์ก่อวินำศกรรมเครื่องบินชนตึก
เม่ือวันที่ 11 กันยำยน 2544 ที่ท�ำให้ประสบกำรณ์ในกำรข้ึนเคร่ืองบินของคนทั่วโลกเปล่ียนไปตลอดกำล เรียกว่ำ
เกดิ บรรทดั ฐำนใหม่ทำงสังคม (New Normal) กันขึน้ มำเลยทีเดยี ว

วารสารราชทัณฑ 9

ซงึ่ เหตกุ ำรณโ์ ลกระบำดทเ่ี กดิ ขนึ้ ไปทว่ั โลกน ี้ มมุ มองของ รศ.ดร.วเิ ลศิ ภรู วิ ชั ร คณบดคี ณะพำณชิ ยศำสตรแ์ ละ
กำรบัญชี จุฬำลงกรณ์มหำวิทยำลัยกล่ำวว่ำ วิกฤติคร้ังน้ีรุนแรงกว่ำทุกวิกฤติที่เคยพบมำ และเกิดผลกระทบไปท่ัว
ทง้ั โลก ไมต่ ่ำงกับกำรเผชญิ อยใู่ นภำวะสงครำมท่แี ม้ว่ำจะเป็นผ้รู อดชวี ิตจำกเหตุกำรณม์ ำได้ แต่กอ็ ำจจะสะบักสะบอม
และทุกคนจะจดจ�ำประสบกำรณ์ที่เจ็บปวดหรือบำดแผลที่เกิดข้ึนในช่วงเวลำอันเลวร้ำยที่ผ่ำนมำได้เป็นอย่ำงด ี
(ข้อมลู จำก www.brandbuffet.in.th)
ดังน้ัน ผู้ที่เหลือรอดในยุค Post COVID-19 จะไม่มีใครเป็นคนเดิม มุมมอง ทัศนคติ รูปแบบในกำรใช้ชีวิต
ทั้งของผู้คน รวมทั้งธุรกิจต่ำง ๆ จะเปลี่ยนแปลงไปจำกเดิมอย่ำงสิ้นเชิง โดยเฉพำะกำรเกิด New Normal ในยุคที่
กำรแพรร่ ะบำดโควดิ -19 ผ่ำนพ้นไป สิ่งทีเ่ คยเปน็ เรอ่ื งแปลก หรือไมค่ ำดคิดวำ่ จะเกิดขน้ึ ได้ ก็กลำยเปน็ เร่ืองปกตทิ ว่ั ไป
ของโลกใบใหม่ โดยคำดวำ่ New Normal ทีจ่ ะเกิดขึ้นในยคุ Post COVID-19 คือ 4D 1H ซึ่งประกอบด้วย
1. Digital : ดจิ ทิ ลั จะไมใ่ ชแ่ คส่ ว่ นหนง่ึ ในชวี ติ แตจ่ ำกนไี้ ป Digital is a life ดจิ ทิ ลั จะกลำยเปน็ ควำมสำ� คญั หลกั
ในกำรดำ� รงชวี ติ ไมใ่ ชแ่ คเ่ ดก็ รนุ่ ใหมเ่ ทำ่ นนั้ ทจี่ ะคนุ้ เคยกบั เทคโนโลยแี ละดจิ ทิ ลั แตเ่ ปน็ ทกุ คนในอนำคตจะสำมำรถใชง้ ำน
ดจิ ทิ ลั ไดอ้ ยำ่ งคนุ้ เคยรวมทงั้ จะเหน็ นวตั กรรม สนิ คำ้ และบรกิ ำรในกลมุ่ นอ้ี อกมำอกี เปน็ จำ� นวนมำก ไมใ่ ชแ่ คเ่ พยี งบรษิ ทั
ขนำดใหญ ่ แมแ้ ตบ่ รษิ ทั ขนำดเลก็ กจ็ ะมนี วตั กรรมใหม ่ ๆ ออกมำเชน่ กนั ขณะทธี่ รุ กจิ เองกจ็ ำ� เปน็ ตอ้ งปรบั ตวั โดยเฉพำะ
กำรขบั เคลอ่ื นไปส่ ู Digital Transformation ของภำคธุรกิจจะเกิดขึน้ และจับต้องได้อย่ำงเปน็ รปู ธรรมรวดเร็วย่ิงขน้ึ
2. Distant : กำรรกั ษำระยะหำ่ งของผคู้ นจะยังคงดำ� เนนิ ต่อไป ซงึ่ ไม่ใช่เพียงแคใ่ นมิติของ Physical เทำ่ น้นั
แต่รวมไปถึงเร่ืองของจิตใจด้วย ควำมไว้เนื้อเช่ือใจกัน ที่เคยแสดงออกมำผ่ำน Human Touch จะน้อยลง คนเลือก
ท่จี ะไม่สัมผัสกนั โดยไมจ่ ำ� เป็น เพรำะตดิ พฤตกิ รรม Keep Distant ในชว่ งกำรเฝ้ำระวงั COVID-19 วฒั นธรรมในกำร
ทกั ทำยของผู้คน โดยเฉพำะหลำย ๆ ชำติในตะวนั ตกทเ่ี คยจับมอื สัมผัสตัวกันจะเปล่ยี นแปลงไป

10 วารสารราชทัณฑ์

3. Discrimination : กำรแบ่งฝักฝ่ำย เลือกปฏิบัติ อำจจะไม่ใช่เรื่องผิด ด้วยเหตุผลทำงด้ำนควำมปลอดภัย
หรือกำรค�ำนึงถึงสุขอนำมัยของผู้คน ท�ำให้กำรเลือกพรรค เลือกพวก กลำยเป็นส่ิงที่พึงกระท�ำได้โดยไม่รู้สึกผิด
เพรำะโลกยงั มรี อ่ งรอยของควำมหวำดระแวง ควำมหวำดกลัว หลงเหลอื อยูส่ ง่ ผลใหก้ ฎเกณฑ์ในกำรขำ้ มเขต ข้ำมแดน
ทั้งสินค้ำหรือผู้คนยำกล�ำบำกข้ึนกว่ำเดิม ไม่ต่ำงกับหลังเหตุกำรณ์ 9/11 ท่ีกำรรักษำควำมปลอดภัยทำงกำรบิน
ถูกยกระดับให้เข้มข้นขึ้น แต่คร้ังน้ีอำจจะส่งผลมำถึงเร่ืองของสินค้ำ ท่ีอำจจะต้องดูไปถึง Country of Origin
ประเทศตน้ ทำงบำงประเทศอำจเลอื กไมร่ บั สนิ คำ้ จำกบำงแหง่ โดยไมถ่ กู โจมตวี ำ่ กดี กนั ทำงกำรคำ้ หรอื กำรเลอื กปฏเิ สธ
คนบำงกลุ่ม บำงเช้ือชำติ โดยไม่ถูกข้อครหำว่ำเหยียดเช้ือชำติ ซึ่งเคยเป็นประเด็นส�ำคัญในช่วงก่อนกำรระบำดของ
โควิด-19
4. Domestic : กำรหนั มำพงึ่ พำกนั เองภำยในประเทศมำกขนึ้ ทง้ั ในแงข่ องกำรกระตนุ้ Domestic Consumption
ดว้ ยกำรกระตนุ้ กำรบรโิ ภคจำกคนในประเทศ หรอื แมแ้ ต ่ Mindset บำงอยำ่ งทอ่ี ำจจะเปลย่ี นไป คนทเี่ คยสง่ ลกู ไปเรยี น
ตำ่ งประเทศ อำจจะมองทำงเลอื กในประเทศมำกขน้ึ ธรุ กจิ กพ็ ยำยำมสรำ้ งรำยไดจ้ ำกตลำดในประเทศมำกขนึ้ เนอ่ื งจำก
มำตรกำรเก่ียวกับกำรค้ำระหว่ำงประเทศท่ีอำจมีกำรยกระดับควำมเข้มข้น จำกมำตรฐำนเพื่อใช้ระมัดระวัง
ควำมปลอดภัยต่ำง ๆ
5. Health Conscious : ควำมตระหนกั และใส่ใจในเรอ่ื งสุขภำพ สุขอนำมยั ของผคู้ น ท่ีมำกกวำ่ แค่เร่ืองของ
ตัวเอง หรืออำหำรกำรกิน แต่ยังมองไปจนถึงผลกระทบที่จะส่งผลต่อโลก ต่อส่ิงแวดล้อมเพิ่มมำกข้ึน คนเริ่มม ี
ควำมตระหนกั (Awareness) ตอ่ กำรเปล่ยี นแปลงท่จี ะเกิดขึ้นในโลกเพรำะสดุ ทำ้ ยจะกระทบมำถงึ สขุ ภำพของตวั เอง
กลำ่ วโดยสรปุ น่นั คือ ในทรรศนะของ รศ.ดร.วิเลศิ ภูริวัชร มองว่ำ หลังภำวะวกิ ฤต COVID-19 โลกจะตอ้ ง
พึ่งระบบดิจิทัลมำกข้ึน ผู้คนจะยังคงมีควำมหวำดระแวงกัน แบ่งฝักแบ่งฝ่ำย ท้ิงระยะห่ำงระหว่ำงบุคคล เศรษฐกิจ
จะตอ้ งพงึ่ พำกำรบริโภคภำยในประเทศมำกขน้ึ และคนจะมคี วำมตระหนัก และใส่ใจในเรือ่ งสขุ ภำพมำกยงิ่ ขึ้นนั่นเอง
หำกแนวคิดของ รศ.ดร.วิเลิศ ภูริวัชร เป็นจริงแล้ว ค�ำถำมที่ตำมมำคือ แล้วมันจะส่งผลกระทบอย่ำงไร
ต่อกรมรำชทัณฑ ์ และระบบเรอื นจ�ำอยำ่ งไร หรือกรมรำชทัณฑ์ไทย และเรือนจำ� จะต้องมกี ำรปรบั ตวั กนั อยำ่ งไร

วารสารราชทัณฑ์ 11

ส่ิงที่มีผลกระทบอย่ำงชัดเจน คอื ระบบดจิ ทิ ลั
(Digital) เพรำะหำกท่ำนผู้อ่ำนยังจ�ำได้ ประเทศไทย
โดยรฐั บำลของนำยกรฐั มนตร ี พลเอกประยทุ ธ จนั ทรโ์ อชำ
เคยใหน้ โยบำยเรอื่ ง Thailand 4.0 ท่ีต้องกำรใหท้ ้งั ภำค
รฐั และเอกชน นำ� เอำระบบเทคโนโลยีสำรสนเทศ ระบบ
ดิจิทัล หรือท่ำนผู้อ่ำนอำจจะจ�ำได้ว่ำคือเรื่อง Big Data
มำใชร้ ะบบรำชกำร (เรม่ิ คนุ้ ๆ กนั รยึ งั ครบั ) มำใชใ้ นสงั คมไทย
อย่ำงแพร่หลำย ท้ังในระดับมหภำคและจุลภำค ซ่ึงต้อง
ยอมรับว่ำสังคมไทยยังปรับตัวให้เข้ำกับนโยบำย Thailand 4.0 ได้อย่ำงเช่ืองช้ำ แต่กำรมำของโรคระบำดคร้ังนี้
เรยี กได้ว่ำ เปน็ ทำงลัด หรอื Shotcut สงั คมไทยและสังคมโลกทต่ี ้องเร่งพัฒนำระบบดิจทิ ัล และ Big Data ให้สำมำรถ
ใช้งำนได้จรงิ รองรับกบั กำรทำ� งำนทบ่ี ำ้ น (Work From Home)
ซ่ึงเมื่อหันมำมองในภำพของเรือนจ�ำไทยในอนำคตอันใกล้นี้ คือ ต้องเร่งเอำเทคโนโลยีมำใช้เพื่อช่วยเหลือ
กำรทำ� งำนของเจำ้ หนำ้ ทใ่ี นเรอื นจำ� เชน่ กำรสมั ภำษณผ์ ตู้ อ้ งขงั ตอ้ งพฒั นำใหผ้ ตู้ อ้ งขงั ใหข้ อ้ มลู กบั เครอ่ื งตอบรบั อตั โนมตั ิ
แทนคน หรือกำรฝึกอบรมในเรือนจ�ำที่เป็นวิชำสำมัญ อำจไม่ต้องเรียนกับอำจำรย์ท่ีเป็นบุคคล แต่เรียนออนไลน์
ในอนำคตอินเทอร์เน็ต หรือซิมโทรศัพท์มือถือ ท่ีในขณะนี้เป็นสิ่งต้องห้ำมในเรือนจ�ำ ต่อไปกรมรำชทัณฑ์อำจจ�ำเป็น
ต้องอนญุ ำตให้ใชใ้ นเรือนจำ� ได ้ แตอ่ ยภู่ ำยใต้กำรควบคมุ เปน็ ระบบอนิ ทรำเน็ต (เหมอื นประเทศจนี ทหี่ ำ้ มแอฟพลเิ คชัน
Facebook Youtube และให้คนในประเทศใช้แอฟพลิเคชันคล้ำย ๆ กันอย่ำง เวย์ปั๋ว (Weibo) ไป่ตู้ (Baidu) แทน
เป็นต้น) เพื่อประโยชน์ในกำรควบคุม แก้ไข บ�ำบัด ฟื้นฟู ผู้ต้องขังภำยในเรือนจ�ำ เช่น กำรอบรมออนไลน์และ
กำรสมั ภำษณผ์ ตู้ อ้ งขงั ทกี่ ลำ่ วไป แตต่ อ่ ไปอำจจะตอ้ งมรี ะบบกลอ้ งตรวจจบั ใบหนำ้ โดรนตดิ ตำมตวั ผตู้ อ้ งขงั เพอื่ ควบคมุ
ภำยในเรือนจ�ำ และกรณีผู้ต้องขงั มีกำรแหกหกั หลบหน ี รวมถึงภำรกจิ และกิจกำรอน่ื ๆ ท่ีเกย่ี วข้อง เช่น กำรเยี่ยมญำติ
ออนไลน์ กำรฝำกเงินให้กับผู้ต้องขังแบบออนไลน์ ท่ีในปัจจุบันก็มีหลำยเรือนจ�ำ ด�ำเนินกำรน�ำร่องไปล่วงหน้ำแล้ว
ซ่ึงคนท่ีควบคมุ ควำมเคลอ่ื นไหวในระบบอนิ เทอร์เนต็ ในเรอื นจำ� คือ กรมรำชทณั ฑ์แทน เปน็ ตน้
อกี สง่ิ หนง่ึ ทต่ี อ้ งกระทบกบั กจิ กำรเรอื นจำ� ซง่ึ เปน็ ผลจำกปจั จบุ นั คอื ระบบสำธำรณสขุ ในเรอื นจำ� ทใี่ นอนำคต
หลงั วกิ ฤตกำรณใ์ นคร้ังนี ้ สงั คมภำยนอกจะยงั ต้องมกี ำรเฝ้ำระวงั โรคระบำดต่อไปอกี สักพกั ใหญ่ แนน่ อนว่ำเรือนจ�ำเอง
กต็ อ้ งปรบั ตวั ตำมสภำวะแวดลอ้ ม โดยนอกจำกเรอ่ื งกำรกกั ตวั เพอ่ื ดอู ำกำรของโรคตดิ ตอ่ แลว้ กำรตรวจรำ่ งกำย กจ็ ำ� เปน็
ต้องใชเ้ ทคโนโลยีเข้ำมำมสี ว่ นรว่ มมำกขน้ึ เชน่ กำรใช้เครอื่ งเอกซเรยผ์ ู้ตอ้ งขังทุกครัง้ ที่เขำ้ มำในเรอื นจ�ำ กำรท�ำประวัต ิ
ผตู้ อ้ งขงั ปว่ ย โดยนำ� ไปรวมกบั ฐำนขอ้ มลู ผปู้ ว่ ยของอำ� เภอหรอื ของจงั หวดั กำรยำ้ ยผตู้ อ้ งขงั จะเปน็ กำรยำ้ ยผปู้ ว่ ยในทำง
สำธำรณสุขด้วย ท�ำให้ก�ำแพงระหว่ำงหน่วยงำนในกระทรวงสำธำรณสุขกับกรมรำชทัณฑ์น้อยลง หรือหำยไปในท่ีสุด
เปน็ ต้น
ส่ิงสุดท้ำยคือ กำรปรับตัวของเจ้ำหน้ำท่ีกรมรำชทัณฑ์ให้รองรับกับเทคโนโลยีที่จะเปล่ียนแปลงแบบ
ก้ำวกระโดด รวมถึงอำชญำกรรมรูปแบบใหม่ ๆ ท่ีจะเกิดข้ึนในอนำคตหลังยุค COVID-19 เพรำะทุกครั้งเม่ือสังคมม ี
กำรพัฒนำแบบก้ำวกระโดด อำชญำกรรมก็จะเปลี่ยนแปลงแบบก้ำวกระโดดตำมไปด้วย ซึ่งเป็นส่ิงท่ีจะท้ำทำยระบบ
งำนยุติธรรมตอ่ ไปเรื่อย ๆ ในอนำคต
พูดไปพดู มำ ตอนนี้ผมกข็ ออวยพรทำ่ นผอู้ ่ำนทกุ ทำ่ นรักษำสขุ ภำพกันให้ดีครบั เพรำะหลังยคุ COVID-19 น ี้
เรำยังมอี ะไรใหต้ ้องท�ำอีกเยอะครับ!!!

12 วารสารราชทัณฑ์

การลดความเครียดของผูŒตอŒ งขัง
ในชว่ งสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของไวรัสโคโรนำ 2019 (โควิด-19)
ดว้ ยธรรมะ
ดร.พงษ์อภินนั ทน ์ จันกลิ่น
กองพฒั นำพฤตนิ ิสัย

กำรตอ้ งโทษจำ� คกุ เปน็ กำรสญู เสยี อสิ รภำพ
และเป็นสภำวกำรณ์ท่ีเกิดกำรเปลี่ยนแปลง
ในทำงลบหลำยอย่ำงท่ีเกิดข้ึนในชีวิตของคนน้ัน ๆ
เช่น ต้องเปลี่ยนสภำพแวดล้อมทำงสังคมและ
ที่อยู่อำศัย มีผู้ต้องขังจ�ำนวนมำกได้แสดงให้เห็น
ถึงสภำวะจิตใจที่ผิดปกติ อันมีสำเหตุมำจำก
ผลกระทบของควำมเครียด โดยเฉพำะกำรต้อง
ถกู จองจำ� หรอื จำ� คกุ ในเรอื นจำ� ตอ้ งอยใู่ นหอ้ งคมุ ขงั
ตอ้ งถกู แยกออกจำกสมำชกิ ในครอบครวั กำรทต่ี อ้ งอย ู่
กับคนแปลกหน้ำอย่ำงแออัด ยัดเยียด สภำวะที ่
ถกู บบี บงั คบั บบี คน้ั ทำงดำ้ นจติ ใจจำกกำรถกู ลงโทษ
กำรสญู เสยี อำชพี ควำมกลวั จำกกำรถกู ลงโทษ ควำมไมแ่ นน่ อน
ในผลลพั ธท์ ำงคด ี โดยเฉพำะในชว่ งระยะเวลำของกำรพจิ ำรณำคด ี
จะเป็นช่วงเวลำที่ผู้ต้องขังแต่ละคนจะมีควำมเครียดสูง และ
กำรท่ชี ่วงเวลำดงั กล่ำว มรี ะยะเวลำหลำยเดอื น กจ็ ะส่งผลร้ำย
ยง่ิ ขน้ึ ตอ่ ผตู้ อ้ งขงั คนนน้ั กฎ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ตำ่ ง ๆ ทกี่ ำ� หนด
ไว้ในเรือนจ�ำ ท่ีมีไว้เพื่อให้กลุ่มผู้ต้องโทษจ�ำนวนมำกสำมำรถ
อยู่ร่วมกันได้และผลกระทบอย่ำงรุนแรงต่อคุณภำพชีวิต และ
ควำมเป็นอยู่ท่ีดี ซึ่งล้วนเป็นปัจจัยที่ก่อให้เกิดควำมเครียด
กับผตู้ ้องโทษได้ทง้ั ส้ิน1

1 รัชนัน หวังโภคำ. ปัจจัยท่ีมีผลต่อความเครียดและพฤติกรรมการเผชิญความเครียดของผู้ต้องขังหญิง : ศึกษาเฉพาะกรณี
ทัณฑสถานหญงิ กลาง. วทิ ยำนพิ นธศ์ ลิ ปศำสตรมหำบณั ฑติ , (อำชญำวทิ ยำและงำนยตุ ธิ รรม) (บณั ฑติ วทิ ยำลยั มหำวทิ ยำลยั มหดิ ล),
2548, หนำ้ 1.

วารสารราชทัณฑ 13

ความเครียด หมำยถึง ควำมไม่สมบูรณ์ที่เกิดขึ้น
และรับรู้ได้ระหว่ำงควำมสำมำรถ ในควำมต้องกำรของ
ร่ำงกำยกับกำรตอบสนอง ภำยใต้สภำวะที่ล้มเหลวนั้น ๆ
หรือพูดให้เขำ้ ใจง่ำย ควำมเครียด คือ ผลท่ีเกดิ จำกส่งิ ทกี่ อ่
ให้เกิดควำมเครียด ท�ำให้เกิดปฏิกิริยำเครียด รวมทั้งผล
ทเ่ี กดิ ตำมมำในระยะยำวอกี ดว้ ย2 ควำมเครยี ด เปน็ ปจั จยั หนง่ึ
ทีส่ ่งผลกระทบตอ่ อำกำรของโรควิตกกงั วลได้ ดังจะเหน็ ได้
จำกสถิติผู้ป่วยที่มำรักษำท่ีสถำนบริกำรทำงกำรแพทย ์
ด้วยโรควิตกกังวลสูงของกรมสุขภำพจิต ใน พ.ศ. 2550
พบว่ำ มีผู้ป่วยมำรักษำที่สถำนบริกำรทำงกำรแพทย์
ดว้ ยโรควิตกกังวลสงู ถึง 483,513 คน คดิ เปน็ อตั รำ 776 คนต่อประชำกรแสนคน3

ในปจั จุบันจะเหน็ ไดว้ ่ำ เมอ่ื ผูต้ ้องขังเข้ำมำอย่ใู นเรอื นจ�ำ จะมปี ญั หำเรอื่ งควำมเครียดเป็นส่วนใหญ่ โดยเฉพำะ
ผู้ต้องขังท่ีเข้ำมำอยู่ในเรือนจ�ำเป็นคร้ังแรก จึงเป็นกลุ่มท่ีมีควำมรู้สึกเครียดสูงกว่ำกลุ่มอ่ืน ๆ ท้ังผู้ต้องขังชำย และ
ผู้ต้องขังหญิง ซึ่งจะพบว่ำ ผู้ต้องขังหญิงมีกำรกระท�ำผิดกฎหมำยมำกขึ้นและส่วนใหญ่ ร้อยละ 90 เป็นคดียำเสพติด
ทำ� ใหป้ รบั ตวั ไดย้ ำกกวำ่ ผตู้ อ้ งขงั ทเ่ี ปน็ ผชู้ ำย ผตู้ อ้ งขงั หญงิ จะตอ้ งปรบั ตวั และเปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมเดมิ ใหเ้ ปน็ ไปตำม
ระเบียบวินัยและวัฒนธรรมของเรือนจ�ำในกำรตอบสนองต่อควำมต้องกำร กำรแก้ไขปัญหำและกำรเรียนรู้จำก
ผู้ต้องขังเก่ำ หำกไม่มีใครช่วยเหลือก็เกิดควำมยำกล�ำบำกและมีภำวะเครียดสูง ประกอบกับจำกสถิตินักโทษเด็ดขำด
ของกรมรำชทัณฑ์แยกตำมอำยุ เมื่อวันที่ 1 พฤษภำคม 2563 พบว่ำ ช่วงอำยุของนักโทษเด็ดขำดท่ีพบมำกที่สุดคือ
วัยทำ� งำนอำยรุ ะหว่ำง 25 – 30 ปี รวม 62,672 คน คดิ เป็นร้อยละ 20.114

จำกรำยงำนโดยอธบิ ดกี รมสขุ ภำพจติ กระทรวง
สำธำรณสขุ (สธ.) ใน พ.ศ. 2559 พบวำ่ ผู้ต้องขังร้อยละ
23.6 มีปัญหำสุขภำพจิตหรือโรคทำงจิต จ�ำแนกเป็น
โรคจำกสำรเสพตดิ รอ้ ยละ 21.9 บคุ ลกิ ภำพแบบตอ่ ตำ้ น
สังคม ร้อยละ 19.1 โรคอำรมณ์สองขั้วหรือไบโพลำร ์
ร้อยละ 9.1 โรคซึมเศร้ำ ร้อยละ 8.4 โรควิตกกังวล
ร้อยละ 7.8 โรคจิต ร้อยละ 7.7 และควำมเสี่ยงต่อกำร
ฆ่ำตัวตำย ร้อยละ 7.2 โดยในรำยที่มีโรคทำงจิตรุนแรง
จะมีควำมเสี่ยงมำกกว่ำประชำกรท่ัวไปถึง 3 เท่ำ และ
พบปญั หำกำรเขำ้ ถึงบรกิ ำรสขุ ภำพจติ ของผู้ตอ้ งขงั มำก5

2 D.B.Baker and R.A.Kerasek. Occupational Stress. 3rd ed, Boston: Little, Brown and Company, 1995.
3 กรมสุขภำพจติ . สถิติสขุ ภำพจิต. กรมสขุ ภำพจติ กระทรวงสำธำรณสุข, 2550.
4 http://www.correct.go.th/rtnew103/filepdf/1589340923.pdf. รายงานสถติ ขิ อ้ มลู ผตู้ อ้ งขงั ตามแบบ ร.ท.103 กรมราชทณั ฑ.์

สืบค้นเมือ่ วนั ท ่ี 15 พฤษภำคม 2563.
5 http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/705278. ผปู้ ว่ ยจติ ลน้ สถำบนั กลั ยำณฯ์ มำกกวำ่ เตยี งถงึ 3 เทำ่ . (12 เมษำยน

2560). กรุงเทพธรุ กจิ , สบื ค้นเมอ่ื วันท ่ี 15 พฤษภำคม 2563.

14 วารสารราชทัณฑ

นอกจำกนี้ จำกสถำนกำรณ์กำร
แพรร่ ะบำดของไวรสั โคโรนำ 2019 (โควดิ -19)
ซ่ึงถือเป็นโรคติดต่อร้ำยแรง ซ่ึงท�ำให้ม ี
ผู้เสียชีวิตท่ัวโลกเป็นจ�ำนวนมำก และมี
ผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่ำวจ�ำนวนหลำยล้ำนคน
เพรำะเชอื้ ไวรสั โคโรนำสำยพนั ธใ์ุ หมส่ ำมำรถ
ติดต่อจำกคนสู่คนผ่ำนสำรคัดหลั่ง เช่น
น�้ำมูก น้�ำลำย กำรหลีกเลี่ยงกำรอยู่ใกล้ชิด
กับผู้ป่วยที่ไอหรือจำม กำรสวมใส่หน้ำกำก
อนำมัยเมื่อออกไปในท่ีสำธำรณะ รวมทั้งกำรสร้ำงระยะห่ำงทำงสังคม (Social distancing) จึงเป็นมำตรกำรลด
ควำมเสี่ยงท่ีจ�ำเป็นในสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดไวรัสน้ี และยังถือเป็นฐำนวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ของคน
ในสงั คมไทยท่ีต้องปรับเปลีย่ นพฤตกิ รรมและตอ้ งปฏบิ ัตอิ ยำ่ งหลีกเลีย่ งไม่ได้

เรือนจ�ำจึงเป็นสถำนท่ีหน่ึงท่ีเส่ียงต่อกำรแพร่ระบำดของไวรัสโคโรนำสำยพันธุ์ใหม่ เพรำะเป็นสถำนท่ีปิดท่ีมี
คนหมู่มำกเกือบจ�ำนวน 400,000 คน มำอยู่รวมตัวกันตลอด 24 ชั่วโมง ดังจะเห็นได้จำกสถิติผู้ต้องรำชทัณฑ์ของ
กรมรำชทณั ฑ ์ เมอื่ วนั ท ี่ 1 พฤษภำคม 2563 พบวำ่ มผี ตู้ อ้ งรำชทณั ฑใ์ นเรอื นจำ� ทณั ฑสถำน ทง้ั สนิ้ 375,148 คน โดยเปน็
เพศชำย จ�ำนวน 327,375 คน เพศหญิง จ�ำนวน 47,773 คน6 ถึงแม้ว่ำในสถำนกำรณป์ กต ิ ผ้ตู ้องขังก็ถือเป็นกลมุ่ คน
เปรำะบำงประเภทหนง่ึ อยแู่ ลว้ เพรำะผตู้ อ้ งขงั จะถกู จำ� กดั สทิ ธ ิ เสรภี ำพบำงประกำร เพอ่ื ชดใชต้ อ่ กำรกระทำ� ทรี่ ฐั กำ� หนด
ให้เป็นควำมผิด เช่น กำรเข้ำถึงกำรรักษำพยำบำลก็ต้องผ่ำนขั้นตอนหลำยขั้นตอนกว่ำปกติ เพื่อมำตรกำรป้องกัน
กำรหลบหนี กำรจำ� กดั กำรใชช้ วี ติ ส่วนบุคคลท่ีต้องอย่ภู ำยใต้ระยะเวลำที่จำ� กัด เป็นต้น

เม่ือทั่วโลกต้องเผชิญกับกำรแพร่ระบำดของไวรัสดังกล่ำว ผู้ต้องขังในเรือนจ�ำจึงตกเป็นกลุ่มเสี่ยงของกำร
ติดเชื้อไวรัสโดยปริยำย เน่ืองด้วยลักษณะทำงกำยภำพของเรือนจ�ำท่ีแออัด กำรเข้ำถึงกำรรักษำพยำบำลภำยนอก

กำรด�ำเนินชีวิตในเรือนจ�ำที่ต้องเปลี่ยนแปลงไปทั้งกำรคัดกรอง กำรตรวจสุขภำพ
กำรตรวจประเมนิ กำรตดิ เชอ้ื กำรควบคมุ กำรพฒั นำพฤตนิ สิ ยั กำรเยยี่ มเยยี น
จำกญำติและครอบครัวในหลำยประเทศ จึงมีกำรปรับเปลี่ยนวิถ ี
กำรด�ำเนนิ ชวี ติ ของผตู้ ้องขงั ในเรือนจ�ำ เชน่
ประเทศอิตำลี เป็นประเทศหน่ึงที่ได้รับผลกระทบจำกกำร
แพร่ระบำดของไวรัสโคโรน่ำเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก จำกข้อมูล
ณ วันที่ 10 เมษำยน 2563 จำกประชำกร 60 ล้ำนคน พบว่ำ
มีจำ� นวนผู้เสียชีวิตจำกไวรสั โคโรน่ำแลว้ จำ� นวน 18279 คน และมี
ผู้ติดเช้ือสะสม จ�ำนวน 143,626 คน และสถำนกำรณ์เรือนจ�ำ
ในประเทศก็ประสบปัญหำ โดยช่วงเดือนมีนำคม 2563 มีผู้ต้องขัง
ประมำณ 6,000 คนกอ่ เหตคุ วำมไมส่ งบในเรอื นจำ� เนอ่ื งจำกเรอื นจำ� อติ ำลี

6 http://www.correct.go.th/rt103pdf/report_result.php?date=2020-05-01&report= รายงานสถิติผู้ต้องราชทัณฑ ์
ทวั่ ประเทศ. สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 15 พฤษภำคม 2563.

วารสารราชทัณฑ 15

สั่งระงับกำรเยี่ยมเยียนจำกญำติเป็นเวลำ 2 สัปดำห์ 7
โดยนำย Alfonso Bonafede รฐั มนตรวี ำ่ กำรกระทรวงยตุ ธิ รรม
ได้แถลงต่อรัฐสภำอิตำลี เม่ือวันที่ 11 มีนำคม 2563 ว่ำ
จำกกำรก่อจลำจลของผู้ต้องขังในหลำยเรือนจำ� มีผตู้ อ้ งขงั
หลบหนีจำกเรือนจ�ำควำมมนั่ คงปำนกลำง จำ� นวน 16 คน
ในเมือง Foggia ทำงตอนใต้ของอิตำลี ซึ่งเจ้ำหน้ำที่ได้
ติดตำมจับกุมอย่ำงต่อเนื่อง และได้ชี้แจงว่ำ เรือนจ�ำได้มี
มำตรกำรป้องกันด้วยกำรแจกหน้ำกำกอนำมัยประมำณ
100,000 ชน้ิ ใหก้ บั เจำ้ หนำ้ ทเ่ี รอื นจำ� และผตู้ อ้ งขงั ทวั่ ประเทศแลว้
นอกจำกนี้ยงั อยรู่ ะหวำ่ งกำรเสนอใหค้ ณะรฐั มนตรอี ิตำลพี จิ ำรณำใช้
มำตรกำรพเิ ศษกำรปลอ่ ยตวั ผตู้ อ้ งขงั จำ� นวน 14,000 คน ไปกกั ขงั ควบคมุ ตวั
ทีบ่ ้ำนพักโดยติดเครอื่ งติดตำมตัวอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์ (E.M.) เพื่อลดควำมแออัดในเรอื นจ�ำ

ส�ำหรับประเทศไทย กรมรำชทัณฑ์ได้ส่ังกำรให้เรือนจ�ำ ทัณฑสถำน สถำนกักขัง ด�ำเนินกำรตำมมำตรกำร
ปอ้ งกนั เฝำ้ ระวงั และควบคมุ กำรแพรร่ ะบำดของไวรสั โคโรนำ (โควดิ -19) โดยเพม่ิ มำตรกำรคดั กรองอำกำรของผตู้ อ้ งขงั
แรกรบั เขำ้ เรอื นจำ� ไดแ้ ก ่ มกี ำรตรวจสขุ ภำพคดั กรองผตู้ อ้ งขงั ทมี่ ปี ระวตั มิ ไี ขห้ รอื วดั อณุ หภมู ไิ ดต้ งั้ แต ่ 37.5 องศำเซลเซยี ส
ขนึ้ ไป รว่ มกบั อำกำรระบบทำงเดนิ หำยใจ เชน่ ไอ มนี ำ�้ มกู เจบ็ คอ หำยใจเรว็ หำยใจเหนอ่ื ย หำยใจลำ� บำก และมปี ระวตั ิ
ในช่วง 14 วัน ก่อนวันเริ่มมีอำกำร เช่น มีกำรเดินทำงไปต่ำงประเทศ ประกอบอำชีพใกล้ชิดกับนักท่องเท่ียว หรือ
มปี ระวัตสิ ัมผัสใกลช้ ิดกบั ผ้ปู ว่ ยกล่มุ เสี่ยง นอกจำกน้ียงั มีนโยบำยจำ� กัดบคุ คลภำยใน - ภำยนอกท่ีไมเ่ กี่ยวขอ้ งเขำ้ ออก
เรอื นจำ� ใหเ้ จำ้ พนกั งำนประจำ� ประตคู ดั กรองผผู้ ำ่ นเขำ้ ออกทง้ั เจำ้ พนกั งำนเรอื นจำ� และผตู้ อ้ งขงั ทกุ รำยวดั อณุ หภมู ดิ ว้ ย
เคร่ืองวดั ไขร้ ะบบดิจิตอลอินฟำเรด (แบบยงิ ) ทุกรำย กรณกี ำรจำ่ ยผู้ตอ้ งขังออกไปภำยนอกเรอื นจำ� เช่น ออกไปศำล
เพอื่ ดำ� เนนิ กำรทำงคดหี รอื ออกไปรกั ษำพยำบำลทโ่ี รงพยำบำล หรอื กจิ กรรมอนื่ ๆ ตอ้ งสวมหนำ้ กำกอนำมยั ตลอดเวลำ
และล้ำงมอื ด้วยแอลกอฮอล์เจลหรอื สบู่ทั้งก่อนและหลงั กลบั เขำ้ ภำยในเรอื นจำ� เปน็ ตน้

นอกจำกน้ี ยังมีนโยบำยในกำรระงับกำรย้ำยผู้ต้องขังทุกประเภทในช่วงสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของไวรัส
ดังกล่ำว โดยยกเว้นสำมำรถย้ำยผู้ต้องขังเพ่ือไปด�ำเนินคดี และกำรย้ำยผู้ต้องขังก�ำหนดโทษสูงเกินอ�ำนำจกำรควบคุม
ของเรอื นจำ� และทส่ี ำ� คญั กรมรำชทณั ฑ ์ ยงั ใชน้ โยบำยงดกำรเยยี่ มญำตขิ องผตู้ อ้ งขงั ผตู้ อ้ งกกั ขงั และผเู้ ขำ้ รบั กำรตรวจพสิ จู น์
ในเรือนจ�ำให้สอดคล้องกับระยะเวลำกำรประกำศสถำนกำรณ์ฉุกเฉินในเขตท้องที่ท่ัวรำชอำณำจักรเพ่ือวัตถุประสงค ์
ในกำรควบคมุ กำรแพร่ระบำดของโรคไวรัสโคโรนำ (โควิด-19)

โดยเรือนจ�ำได้จัดบริกำรเยี่ยมญำติผู้ต้องขังผ่ำนทำงแอปพลิเคชันไลน์ (Line) และทำงจดหมำยได้ตำมปกต ิ
ซง่ึ จำกมำตรกำรดงั กลำ่ วยอ่ มสง่ ผลกระทบโดยตรงกบั ผตู้ อ้ งขงั ในชว่ งเวลำดงั กลำ่ ว ทำ� ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั เกดิ ควำมเครยี ดมำกขน้ึ
ที่ไม่ได้รับกำรเย่ียมเยียนจำกญำติและครอบครัว จำกปกติท่ีได้รับกำรบริกำรตำมระเบียบของเรือนจ�ำ และท�ำให ้
เกิดสถำนกำรณ์ผู้ต้องขังก่อควำมไม่สงบข้ึนบำงเรือนจ�ำในต่ำงจังหวัดช่วงเดือนเมษำยนและพฤษภำคมที่ผ่ำนมำ
แต่กรมรำชทณั ฑ์กส็ ำมำรถควบคุมเหตนุ ั้นได ้

7 http://www.themomentum.co/covid-19-responses-in-prisons/ คุกล้นกับโรคระบาดประเทศอื่นเขารับมืออย่างไร.
สืบค้นเมอื่ วนั ท ี่ 15 พฤษภำคม 2563.

16 วารสารราชทัณฑ

กำรลดควำมเครียดของผู้ต้องขังในสถำนกำรณ์
กำรแพร่ระบำดไวรัสโคโรนำ 2019 จึงเป็นส่ิงส�ำคัญมำก
และยังเป็นกำรปฏิบัติท่ีสอดคล้องกับกำรด�ำเนินโครงกำร
รำชทัณฑ์ปันสุข ที่เน้นกำรเสริมสร้ำงสุขภำพในผู้ต้องขัง
โดยสนับสนุนให้มี “กำรสร้ำงสุขภำพ มำกกว่ำ กำรซ่อม
สุขภำพ”

ผตู้ อ้ งขงั จงึ ควรไดร้ บั โอกำสในกำรสง่ เสรมิ สขุ ภำพ
ทง้ั ทำงรำ่ งกำย โดยกำรสง่ เสรมิ โภชนำกำรอำหำรทเ่ี หมำะสม
ให้ผู้ต้องขัง และกำรส่งเสริมด้ำนจิตใจ โดยกำรลด
ควำมเครียดในจิตใจของผู้ต้องขัง กำรส่งเสริมให้ผู้ต้องขัง
เห็นคุณค่ำในตนเอง กำรมองโลกในแง่ดี กำรมีควำมหวัง
ในกำรใช้ชีวิต กำรสร้ำงมนุษยสัมพันธ์ที่ดีกับเพ่ือนผู้ต้องขังและเจ้ำพนักงำนเรือนจ�ำ ตลอดจนกำรน�ำหลักธรรมทำง
พุทธศำสนำมำเป็นแนวทำงยึดถือปฏิบัติตน ซึ่งกำรน�ำหลักธรรมทำงพุทธศำสนำมำเป็นแนวทำงกำรลดควำมเครียด
เปน็ หลกั กำรทด่ี ที เ่ี รอื นจำ� ควรสง่ เสรมิ ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั นำ� มำปฏบิ ตั ิ โดยเฉพำะสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโรคตดิ ตอ่ รำ้ ยแรง
ในช่วงน ี้

หลักธรรมทำงพระพุทธศำสนำ เป็นเสมือนหลักธรรมพ้ืนฐำนของจริยธรรมทั่วไปท่ีผู้เขียนเห็นว่ำ ควรน�ำมำ
อบรมปลกู ฝงั ใหแ้ กผ่ ตู้ อ้ งขงั ในเรอื นจำ� โดยหลกั ธรรมทำงพทุ ธศำสนำอนั หนงึ่ ทค่ี วรสง่ เสรมิ ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั ยดึ ถอื และปฏบิ ตั ิ
ในช่วงสถำนกำรณก์ ำรแพร่ระบำดของโรคตดิ ต่อเพอื่ ลดควำมเครียดของผู้ต้องขังได ้ เช่น

สงั คหวตั ถ ุ 4 โดยวตั ถปุ ระสงคใ์ นกำรนำ� หลกั ธรรมนม้ี ำฝกึ อบรมพฒั นำจติ ใจใหแ้ กผ่ ตู้ อ้ งขงั เพอ่ื ใหม้ กี ำรเออื้ เฟอ้ื
เผอ่ื แผ ่ กำรแบง่ ปนั ซงึ่ กนั และกนั เพอื่ ไมใ่ หเ้ กดิ ควำมละโมบ เหน็ แกต่ วั พดู จำกนั ดว้ ยถอ้ ยคำ� ออ่ นหวำน บำ� เพญ็ ประโยชน์
ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน วำงตนสม�่ำเสมอไม่เอำเปรียบซ่ึงกันและกัน ส่งเสริมควำมสัมพันธ์ท่ีดีระหว่ำงกันในเรือนจ�ำ
สงั คหวตั ถ ุ คอื หลกั กำรสงเครำะห ์ เพอื่ ยดึ เหนยี่ วใจคนและประสำนสงั คม8 ทยี่ งั ไมเ่ คยรกั ใครน่ บั ถอื หรอื ทร่ี กั ใครน่ บั ถอื
อยู่แล้วให้สนิทแนบแน่นย่ิงขึ้น สังคหวัตถุจึงเป็นเทคนิควิธีกำรท�ำให้คนรักหรือมนต์ผูกใจคน สังคหวัตถุ (ธรรม
เครอ่ื งยดึ เหนีย่ ว) 4 ประกำร ไดแ้ ก่

1. ทาน คือ กำรให้ ได้แก่ กำรเสียสละ กำรเอื้อเฟื้อเผ่ือแผ่ กำรแบ่งปันช่วยเหลือเกื้อกูลกัน กำรให้ทำน
เพอื่ ขจดั กเิ ลส กำรเฉลย่ี หรอื แบง่ ใหจ้ ำกสว่ นทค่ี นมอี ย ู่ มใิ ชใ่ หม้ ำกมำยจนไมเ่ หลอื หรอื ใหจ้ นผรู้ บั รำ�่ รวย จดุ ประสงคเ์ นน้
ทกี่ ำรแสดงอธั ยำศยั ไมตรมี ำกกวำ่ ควำมมำกหรอื นอ้ ยของวตั ถทุ ใ่ี ห ้ คณุ ธรรมขอ้ นจ้ี ะชว่ ยใหไ้ มเ่ ปน็ คนละโมบ ไมเ่ หน็ แกต่ วั
เรำควรค�ำนึงอยู่เสมอว่ำ ทรัพย์ส่ิงของที่เรำหำมำได้มิใช่สิ่งจีรังย่ังยืน เมื่อเรำสิ้นชีวิตไปแล้วก็ไม่สำมำรถจะน�ำติดตัว
เอำไปได้ เช่น กำรใช้ชีวิตในเรือนจ�ำยำมที่มีกำรแพร่ระบำดของโรคติดต่อร้ำยแรงท่ีมีกำรงดกำรเย่ียมเยียนจำกญำต ิ
ผตู้ อ้ งขงั กส็ ำมำรถเออ้ื เฟอ้ื เผอ่ื แผส่ ง่ิ ของเครอ่ื งใชใ้ นชวี ติ ประจำ� วนั ใหก้ บั เพอ่ื นผตู้ อ้ งขงั ทไ่ี มม่ ญี ำตมิ ำเยย่ี มหรอื ขำดแคลน
สงิ่ ของเหลำ่ นไ้ี ด ้ เปน็ ต้น

8 พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต), พุทธธรรมฉบับปรับปรุงและขยายความ, พิมพ์คร้ังที่ 20, กรุงเทพมหำนคร : โรงพิมพ์ บริษัท
สหธรรมกิ จำ� กัด, หน้ำ 778.

วารสารราชทัณฑ 17

2. ปยิ วาจา ไดแ้ ก ่ กำรพดู คำ� สภุ ำพ ออ่ นหวำน เพอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมสมำนสำมคั ค ี ปยิ วำจำทำ� ไดง้ ำ่ ย เพรำะวำจำนน้ั
มีในตัวเรำ เพียงเรำมีสติ มีเมตตำในใจก็สำมำรถพูดออกมำได้ ค�ำพูดมีอยู่ 2 ประเภท ได้แก่ ค�ำพูดที่พูดออกไปแล้ว
คนฟงั เกลยี ด เช่น คำ� หยำบ คำ� ด่ำ ค�ำประชด คำ� กระทบกระเทียบ ค�ำแดกดนั ค�ำสบถ เป็นต้น คำ� พดู เหล่ำน้เี รียกวำ่
“อัปปยิ วำจำ” และคำ� พูดทีพ่ ูดออกไปแลว้ ท�ำใหค้ นฟงั รัก เชน่ คำ� ออ่ นหวำน ค�ำชมเชยจำกใจจรงิ ค�ำพดู ทชี่ วนให้เกิด
ควำมสมคั รสมำนไมตร ี เปน็ ตน้ ดงั เชน่ กำรพดู จำดพี ดู ใหก้ ำ� ลงั ใจซงึ่ กนั และกนั ไมใ่ หท้ อ้ แท ้ พดู ในสง่ิ ทคี่ วรพดู เพอ่ื ใหผ้ ำ่ น
สถำนกำรณ์กำรแพรร่ ะบำดของโรคตดิ ตอ่ รำ้ ยแรงเชน่ น้ไี ปได้

3. อัตถจริยา คือ กำรบ�ำเพ็ญประโยชน์ช่วยเหลือซ่ึงกันและกันในวงแคบและบ�ำเพ็ญสำธำรณประโยชน ์
ในวงกว้ำง หลกั ธรรมข้อนม้ี ุ่งสอนให้คนพัฒนำตน 2 ดำ้ น คือ กำรท�ำตนใหเ้ ป็นประโยชน ์ และทำ� ในสิ่งทเี่ ปน็ ประโยชน ์
กำรท�ำตนให้เป็นประโยชน์ หมำยถึง ท�ำตนให้มีคุณค่ำในสังคมท่ีตนอำศัยอยู่ วิธีท�ำตนให้เป็นประโยชน์อำจท�ำได ้
หลำยวธิ ี เชน่ กำรตงั้ ใจศกึ ษำฝกึ วชิ ำชพี พฒั นำตนเองตำมหลกั สตู รทเ่ี รอื นจำ� ใหป้ ฏบิ ตั ิ เพอื่ ใหก้ ลบั ตนเปน็ คนด ี มคี วำมรู้
และวิชำชีพติดตัวไปหลังปล่อยตัวจำกเรือนจ�ำไม่หวนกลับไปกระท�ำผิดซ�้ำ เป็นพลเมืองที่ดีของประเทศชำต ิ
หรอื กำรแสวงหำควำมร ู้ วธิ กี ำรปฏบิ ตั ติ นในเรอื นจำ� ในสถำนกำรณป์ จั จบุ นั เพอ่ื ไมใ่ หต้ ดิ โรคระบำดรำ้ ยแรงและเปน็ พำหะ
น�ำเช้อื ไปส่ผู ู้อน่ื เปน็ ต้น

4. สมานัตตา กำรวำงตนเสมอต้นเสมอปลำย คือ กำรวำงตนได้เหมำะสม มีควำมหมำย 2 ประกำร คือ
(1) วำงตนไดเ้ หมำะสมกบั ฐำนะทต่ี นมอี ยใู่ นสงั คม เชน่ เปน็ หวั หนำ้ ครอบครวั เปน็ บดิ ำมำรดำ เปน็ ครอู ำจำรย ์ เปน็ เพอ่ื นบำ้ น
เปน็ ตน้ ตนอยใู่ นฐำนะอะไรกว็ ำงตนใหเ้ หมำะสมกบั ฐำนะทเี่ ปน็ อย ู่ และทำ� ไดอ้ ยำ่ งเสมอตน้ เสมอปลำย และ (2) ปฏบิ ตั ิ
ตนอยำ่ งสมำ�่ เสมอตอ่ คนทง้ั หลำย ใหค้ วำมเสมอภำค ไมเ่ อำรดั เอำเปรยี บผอู้ นื่ เสมอในสขุ และทกุ ข ์ คอื รว่ มสขุ รว่ มทกุ ข์
ร่วมรับรู้ปัญหำ และร่วมแก้ปัญหำเพ่ือประโยชน์ของสังคม โดยต้องแนะน�ำให้ผู้ต้องขังรู้จักกำรวำงตนปฏิบัติตน
รู้ส่ิงท่ีควรท�ำ ไม่ควรท�ำในสถำนกำรณ์ปัจจุบัน เพ่ือเป็นกำรให้ควำมร่วมมือกับเรือนจ�ำ และป้องกันกำรแพร่ระบำด
ของโรคตดิ ตอ่ รำ้ ยแรง

ดังน้ัน ผู้เขียนจึงมีควำมเชื่อว่ำ หำกมีกำรน�ำ
หลกั ธรรมทำงพทุ ธศำสนำ มำผนวกกบั กำรพฒั นำจติ ใจหรอื
กำรอบรมศีลธรรมของเรือนจ�ำที่ใช้ปฏิบัติอยู่ในปัจจุบัน
ย่อมจะท�ำใหจ้ ติ ใจผ้ตู อ้ งขงั มีควำมสงบสุข ลดควำมเครียด
ในจิตใจผู้ต้องขังได้เป็นอย่ำงดีภำยใต้สถำนกำรณ์กำรแพร่
ระบำดของโรคตดิ ตอ่ รำ้ ยแรงไวรสั โคโรนำ 2019 (โควดิ -19)
ในปัจจุบัน และจะท�ำให้กำรด�ำเนินชีวิตในเรือนจ�ำเป็นไป
อยำ่ งมสี ต ิ มกี ำรชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู ซง่ึ กนั และกนั มมี ติ รไมตรี
ต่อกัน ผู้ต้องขังและผู้ปฏิบัติงำนในเรือนจ�ำจะด�ำเนินชีวิต
และผำ่ นเหตกุ ำรณด์ ังกล่ำวไปได้ด้วยดี

18 วารสารราชทัณฑ

ภารกิจการพฒั นาจิตใจผู้ตอ้ งขงั
ในสภาวะปกติใหม่
(New Normal)
จตุพร ธิรำภรณ์
กองพฒั นำพฤตนิ ิสยั

“New Normal” ได้ถูกบัญญัติเป็นค�ำศัพท์โดยคณะกรรมกำรบัญญัติศัพท์ของรำชบัณฑิตยสภำ
ซง่ึ ไดอ้ ธบิ ำยขยำยควำมและใหค้ วำมหมำยไวด้ งั น ี้ คำ� วำ่ “New Normal” แปลวำ่ ควำมปกตใิ หม,่ ฐำนวถิ ชี วี ติ ใหม ่
หมำยถงึ รปู แบบกำรด�ำเนินชวี ิตอยำ่ งใหม่ทแี่ ตกตำ่ งจำกอดตี อนั เนือ่ งจำกมบี ำงสิ่งมำกระทบ จนแบบแผนและ
แนวทำงปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยอย่ำงเป็นปกติและเคยคำดหมำยล่วงหน้ำได้ ต้องเปล่ียนแปลงไปสู่วิถีใหม่
ภำยใตห้ ลกั มำตรฐำนใหม่ทไ่ี มค่ ุ้นเคย
ท้ังนี้รูปแบบวิถีชีวิตใหม่ดังกล่ำวน้ัน ได้ประกอบไปด้วยวิธีคิด วิธีเรียนรู้ วิธีส่ือสำร วิธีปฏิบัติและ
กำรจัดกำรกำรใช้ชีวิตแบบใหม่ซ่ึงเกิดขึ้นหลังจำกมีปรำกฏกำรณ์และกำรเปล่ียนแปลงครั้งใหญ่รวมถึงมีควำม
รุนแรงในลักษณะอย่ำงใดอย่ำงหนึ่ง ส่งผลให้มนุษย์ต้องมีกำรปรับตัว เพื่อรับมือกับสถำนกำรณ์ที่เป็นปัจจุบัน
มำกข้ึนกว่ำกำรที่จะให้ควำมส�ำคัญกับกำรค�ำนึงถึงอดีตหรือแม้แต่กำรยึดม่ันในกำรรักษำวิถีแบบดั้งเดิม
อยำ่ งเหนียวแนน่ ไมย่ อมเปลี่ยนแปลง
จำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ Covid-19 ในช่วงปลำย
พ.ศ. 2562 ถึง พ.ศ. 2563 ที่ผ่ำนมำน้ัน กล่ำวได้ว่ำเป็นสถำนกำณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดต่อท่ีเกิดขึ้น
อยำ่ งรวดเรว็ มคี วำมรำ้ ยแรงสง่ ผลกระทบใหเ้ กดิ กำรแพรก่ ระจำยของเชอ้ื โรคไปในประเทศตำ่ ง ๆ ทว่ั โลก ทำ� ให้
ผู้คนมีอำกำรเจ็บป่วยรวมท้ังเสียชีวิตจ�ำนวนมำก จนกลำยเป็นควำมสูญเสียคร้ังยิ่งใหญ่ของมนุษยชำต ิ
อกี ครง้ั หนง่ึ มนษุ ยจ์ งึ จำ� เปน็ ตอ้ งหำวธิ กี ำรปอ้ งกนั ตนเองเพอ่ื ใหม้ ชี วี ติ รอดดว้ ยกำรปรบั เปลย่ี นพฤตกิ รรมกำรดำ� รงชพี
ในรปู แบบใหมท่ ผ่ี ดิ ไปจำกวถิ ชี วี ติ แบบเดมิ ๆ โดยมกี ำรปรบั และคน้ หำวถิ กี ำรดำ� รงชวี ติ แบบใหมเ่ พอื่ ใหป้ ลอดภยั
จำกกำรติดต่อเช้ือโรคต่ำง ๆ ควบคู่ไปกับควำมพยำยำมท่ีจะรักษำและฟื้นฟูสังคม น�ำไปสู่กำรสรรค์สร้ำง

วารสารราชทัณฑ 19

สิ่งประดษิ ฐใ์ หม่ กำรคน้ พบเทคโนโลยดี ังกลำ่ วมีกำรปรับแนวคดิ วสิ ยั ทศั น์ วิธีกำรจัดกำร ตลอดจนพฤติกรรม
ที่เคยทำ� มำเปน็ กิจวตั รเกิดกำรเบี่ยงเบนออกจำกควำมคุน้ เคยแบบเดมิ ๆ อนั เปน็ ปกติมำตงั้ แต่ก่อนในหลำยมิต ิ
อำท ิ ในดำ้ นอำหำรกำรกิน กำรแต่งกำย กำรรักษำสุขอนำมัย กำรศกึ ษำเลำ่ เรยี น กำรสือ่ สำร กำรทำ� ธุรกิจ ฯลฯ
ซึง่ ส่งิ ใหมเ่ หลำ่ นไี้ ดก้ ลำยเปน็ ควำมปกติใหม่ จนในทส่ี ดุ เมอ่ื เวลำผ่ำนไป กท็ �ำให้เกดิ ควำมคุ้นชิน จนกลบั กลำย
เปน็ สว่ นหนึ่งของวิถชี ีวติ ปกตขิ องผูค้ นในสงั คม
ส�ำหรับกรมรำชทัณฑ์ซ่ึงมีภำรกิจในกำรควบคุมและแก้ไขฟื้นฟูผู้ต้องขังภำยในเรือนจ�ำ/ทัณฑสถำน
เปน็ ทที่ รำบกนั ดวี ำ่ หนง่ึ ในภำรกจิ ทสี่ ำ� คญั นนั้ ตอ้ งควบคมุ ดแู ลผตู้ อ้ งขงั จำ� นวนมำกจงึ เกดิ ควำมหว่ งใยจำกสงั คม
อันเน่ืองมำจำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ Covid-19 กล่ำวคือ
ในพ้นื ท่เี รอื นจ�ำ/ทณั ฑสถำนนั้น เปน็ สถำนทีป่ ิด เป็นแหลง่ รวมผู้คนจ�ำนวนมำก มีควำมเปรำะบำงส่มุ เสยี่ งทีจ่ ะ
เกิดกำรติดต่อและแพร่ระบำดของโรคติดต่อได้อย่ำงรวดเร็วและง่ำยดำย แต่อย่ำงไรก็ตำมกรมรำชทัณฑ์ได้มี
มำตรกำรข้อส่ังกำรให้เรือนจ�ำ/ทัณฑสถำนถือปฏิบัติอย่ำงเคร่งครัดโดยจ�ำกัดกำรเข้ำออกของบุคคล อำทิ
กำรควบคุมกำรน�ำวิทยำกรภำคีเครือข่ำยผู้ให้ควำมรู้แก่ผู้ต้องขังซึ่งเป็นบุคคลภำยนอกเข้ำไปบรรยำยถ่ำยทอด
องค์ควำมรู ้ โดยลดจำ� นวนใหน้ อ้ ยลงหรือเท่ำทจี่ ำ� เป็นอย่ำงย่งิ เท่ำนั้นและตอ้ งมีกำรคดั กรองอยำ่ งเข้มข้นอกี ดว้ ย
มำตรกำรกำรงดกำรเย่ียมญำติผู้ต้องขัง โดยใช้วิธีกำรเย่ียมญำติผ่ำนช่องทำงกำรติดต่อส่ือสำรอิเล็กทรอนิกส์
ผำ่ นแอพพลิเคช่นั ไลน ์ เป็นต้น ส่งผลใหส้ ำมำรถควบคมุ กำรแพร่ระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ
Covid-19 ได้เป็นอย่ำงดีในมิติด้ำนกำรควบคุม อนึ่งในมิติกำรแก้ไขฟื้นฟูพัฒนำผู้ต้องขังก็มีควำมส�ำคัญ
ไมย่ ง่ิ หยอ่ นไปกวำ่ กนั โดยเฉพำะอยำ่ งยงิ่ ภำรกจิ ในดำ้ นกำรพฒั นำจติ ใจในสภำวกำรณเ์ ชน่ น ี้ ซง่ึ ผตู้ อ้ งขงั ตกอยใู่ น
ควำมตงึ เครยี ดจงึ มคี วำมจำ� เปน็ อยำ่ งยงิ่ ทจี่ ะตอ้ งผลกั ดนั ขบั เคลอ่ื นภำรกจิ ดำ้ นดงั กลำ่ ว กลมุ่ งำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำ
และพฒั นำจติ ใจ มีภำรกิจในกำรแก้ไขฟ้นื ฟูพัฒนำพฤตินสิ ยั ผู้ตอ้ งขัง ในดำ้ นกำรพัฒนำจติ ใจ โดยกำรฝกึ อบรม
ในโปรแกรมแก้ไขฟื้นฟูตำมลักษณะแห่งคดีและพฤติกำรณ์กำรกระท�ำผิด กำรจัดโปรแกรมรำชทัณฑ์ ปันสุข

20 วารสารราชทัณฑ์

กำรสนับสนุนกำรใช้หลักค�ำสอนของ
ศำสนำต่ำง ๆ เพื่อบูรณำกำรในกำรจัด
กจิ กรรมใหแ้ กผ่ ตู้ อ้ งขงั จงึ มคี วำมจำ� เปน็
ท่ีจะต้องประสำนงำนควำมร่วมมือ
กับภำคีเครือข่ำยในหลำยภำคส่วน
เพอ่ื เปน็ วทิ ยำกรใหค้ วำมรใู้ นแขนงตำ่ ง ๆ
อนึ่ง ในช่วงเหตุกำรณ์กำรแพร่ระบำด
ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019
หรือ Covid-19 ท่ีผ่ำนมำน้ัน ส่งผลให ้
ก ร ม ร ำ ช ทั ณ ฑ ์ มี ม ำ ต ร ก ำ ร ป ้ อ ง กั น
กำรแพร่ระบำดของโรคติดต่อดังกล่ำว
ท�ำให้กลุ่มงำนส่งเสริมกำรศึกษำและพัฒนำจิตใจได้ด�ำเนินกำรคิดค้นแนวทำงกำรปฏิบัติต่ำง ๆ เพ่ือตอบสนอง
นโยบำยของกรมรำชทัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับภำรกิจ ของกลุ่มงำนส่งเสริมกำรศึกษำและพัฒนำจิตใจ ซึ่งอำจต้อง
นำ� มำถอื ปฏิบตั ิในอนำคตจนเกดิ เป็นควำมปกตใิ หม่ กล่ำวคอื
- ควรมกี ำรวำงแผนใหม้ กี ำรจดั ทำ� ทำ� เนยี บฐำนขอ้ มลู ของวทิ ยำกรทเี่ ขำ้ ไปใหค้ วำมรดู้ ำ้ นตำ่ ง ๆ ภำยใน
เรือนจำ� /ทณั ฑสถำน
- วทิ ยำกรทเี่ ขำ้ ไปใหค้ วำมรดู้ ำ้ นตำ่ ง ๆ ควรผำ่ นกำรตรวจคดั กรองตำมมำตรกำรปอ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำด
ของโรคติดตอ่ ตำมแนวทำงของกรมรำชทัณฑอ์ ย่ำงเขม้ ข้น
- ในดำ้ นกำรจดั กำรอบรมใหค้ วำมรตู้ ำ่ ง ๆ ควรจดั ใหม้ กี ำรเวน้ ระยะหำ่ งและปฏบิ ตั ติ ำมมำตรกำรปอ้ งกนั
เฝ้ำระวังกำรแพร่ระบำดของโรคตดิ ตอ่ อย่ำงเคร่งครดั จดั ให้มีกำรทำ� ควำมสะอำดล้ำงมอื ใส่หนำ้ กำกปอ้ งกนั ให้
เรยี บร้อย
- เหน็ วำ่ เรอื นจำ� /ทณั ฑสถำน ควรมกี ำรกำ� ชบั และชแี้ จงแนวทำงกำรปฏบิ ตั ใิ นกำรอบรมตำ่ ง ๆ ใหเ้ ปน็ ไป
ตำมมำตรกำรปอ้ งกนั กำรแพร่ระบำดของโรคติดต่อ ทั้งวิทยำกรและเจ้ำหน้ำทท่ี กุ ฝำ่ ย รวมถงึ ผตู้ ้องขงั ด้วย
- อกี ทงั้ กลมุ่ งำนสง่ เสรมิ กำรศกึ ษำและพฒั นำจติ ใจไดด้ ำ� เนนิ กำรวำงแผนพฒั นำรปู แบบและจดั ทำ� สอ่ื
วีดิทัศน์ในกำรให้ควำมรู้ในชุดวิชำต่ำง ๆ เพื่อทดแทนกำรใช้วิทยำกรและอ�ำนวยควำมสะดวกในกำรอบรม
ให้ควำมรู้ด้ำนกำรพัฒนำจิตใจเพ่ือใช้ในอนำคต ทั้งนี้ได้ด�ำเนินกำรร่วมกับมหำวิทยำลัยธุรกิจบัณฑิตย์ ซึ่งอยู่ใน
ข้ันตอนกำรก�ำหนดขอบเขตชุดวิชำต่ำง ๆ ในกำรอบรมโปรแกรมแกไ้ ขฟื้นฟตู ำมลกั ษณะแห่งคดีและพฤติกำรณ์
กำรกระทำ� ผดิ และได้ตกลงท�ำสญั ญำร่วมกนั ในกำรดำ� เนินกำรเรยี บร้อยแลว้
ทงั้ นก้ี ำรคดิ คน้ แนวปฏบิ ตั ดิ งั กลำ่ วแลว้ นนั้ หำกมกี ำรนำ� ไปกำ� หนดเปน็ มำตรกำรดำ� เนนิ กำรกจ็ ะมคี วำม
สอดคล้องกับสภำวกำรณ์ “New Normal” ในบริบทของกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019
หรอื Covid-19 ซง่ึ เห็นได้ชัดเจนที่สดุ ในดำ้ นกำรสำธำรณสขุ ของประเทศไทย โดยทำงศนู ย์บริหำรสถำนกำรณ์
แพรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 ไดม้ กี ำรประกำศมำตรกำรกำรปอ้ งกนั และควบคมุ กำรระบำดของ
โรคติดต่อเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ Covid-19 ท่ีทุกคนต้องให้ควำมส�ำคัญและปฏิบัติตำมอย่ำงเคร่งครัด
ได้แก่

วารสารราชทัณฑ์ 21

- สวมใสห่ น้ำกำกผ้ำหรอื หนำ้ กำกอนำมยั เสมอ
- ต้องเว้นระยะห่ำง 2 เมตร
- ล้ำงมือบอ่ ย ๆ พกเจลแอลกอฮอล์
- หลีกเล่ยี งสถำนทีแ่ ออดั
- หลกี เลย่ี งกล่มุ เส่ียงหรือผู้ท่มี อี ำกำรป่วย
และทสี่ ำ� คญั คอื กำรปรบั แนวคดิ วสิ ยั ทศั น ์ วธิ กี ำรจดั กำรและพฒั นำเทคโนโลยใี หม ่ จดั ทำ� สอื่ วดี ทิ ศั น์
ในกำรให้ควำมรู้ในชุดวิชำต่ำง ๆ เพื่อทดแทนกำรใช้วิทยำกรและอ�ำนวยควำมสะดวกในกำรอบรมให้ควำมรู้
ดำ้ นพฒั นำจติ ใจเพอ่ื ใชใ้ นอนำคต สอดคลอ้ งกบั นโยบำย 4S ของกรมรำชทณั ฑ ์ ไดแ้ ก ่ ในสว่ นของ S = SERVICE
คือกำรให้ควำมตระหนักว่ำผู้ต้องขัง คือ เพ่ือนมนุษย์ พี่น้องร่วมชำติ และผู้รับบริกำรเป็นเสมือนศูนย์กลำง
กำรท�ำงำนของกรมรำชทัณฑ์ กล่ำวคือผู้ต้องขังที่อยู่ภำยใต้กำรปกครองน้ัน กรมรำชทัณฑ์ต้องดูแลเอำใจใส ่
ผตู้ อ้ งขงั เปน็ อยำ่ งดตี ำมระเบยี บและแนวทำงกำรปฏบิ ตั ทิ ถี่ กู ตอ้ งสมควรอยำ่ งเหมำะสม รวมถงึ S = SUCCESS
คือ มีควำมส�ำเร็จของงำน สำมำรถคืนคนดีสู่สังคมได้จะเห็นได้ว่ำกำรพัฒนำจิตใจเป็นแนวทำงส�ำคัญในกำร
แกไ้ ขฟน้ื ฟผู ตู้ อ้ งขงั สำมำรถตอบสนองหลกั กำรปฏบิ ตั ติ อ่ ผกู้ ระทำ� ผดิ รวมถงึ กำรนำ� มำตรกำรตำ่ ง ๆ ในรปู แบบ
“New Normal” ในบรบิ ทของกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 หรือ Covid-19 มำปรับใช้
ท�ำให้ภำรกิจกำรพัฒนำจิตใจผู้ต้องขังสำมำรถขับเคลื่อนได้อย่ำงต่อเน่ืองไม่สะดุดหยุดลงและกำรแก้ไขฟื้นฟู
พฒั นำพฤตนิ ิสยั ผกู้ ระทำ� ผิดอย่ำงสรำ้ งสรรค์ โดยกำรพัฒนำเทคโนโลยีใหม ่ จัดทำ� สอ่ื วดี ิทศั นใ์ นกำรใหค้ วำมรู้
ในชุดวิชำต่ำง ๆ เพ่ือทดแทนกำรใช้วิทยำกรและอ�ำนวยควำมสะดวกในกำรอบรมให้ควำมรู้ด้ำนพัฒนำจิตใจ
เพอ่ื ใชใ้ นอนำคต เปน็ กำรสรำ้ งนวตั กรรมเพอ่ื เตมิ เตม็ แนวทำงกำรพฒั นำพฤตนิ สิ ยั ของกรมรำชทณั ฑท์ มี่ อี ยเู่ ดมิ
ใหส้ มบรู ณย์ ่ิงขึน้ รวมทั้งยังตอบสนองนโยบำยของกรมรำชทณั ฑ์ได้อย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ สอดคล้องกับสภำพ
สังคมปจั จบุ นั ได้เป็นอย่ำงด ี

22 วารสารราชทัณฑ์

มาตรการเชงิ รกุ ในการป้องกันโควดิ -19

ของเรอื นจ�ำพเิ ศษกรุงเทพมหำนคร

สดุ ำ สุวรรณรกั ษ์
เรือนจำ� พเิ ศษกรงุ เทพมหำนคร
ในสถำนกำรณ์ปจั จุบนั ท่เี กิดโรคระบำดของไวรสั โควิด-19 ทว่ั โลก ท�ำใหป้ ระเทศต่ำง ๆ ได้กำ� หนดมำตรกำร
ต่ำง ๆ เพื่อป้องกนั และควบคมุ จำกกำรแพรร่ ะบำดของเช้ือของโรคไวรสั ดงั กลำ่ ว ซ่ึงประเทศไทยกไ็ ด้รบั ผลกระทบจำก
โรคระบำดน้ีด้วยเช่นกัน โดยกรมรำชทัณฑ์ได้ก�ำหนดเป็นหนังสือสั่งกำรด้ำนมำตรกำรป้องกันและควบคุมกำร
แพรร่ ะบำดของเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 ในเรอื นจำ� ขึ้น เพื่อใหเ้ รอื นจำ� /ทณั ฑสถำนถอื ปฏบิ ตั ิ เพ่ือให้เกิดควำมเหมำะสม
กบั สภำวกำรณข์ องเรอื นจำ� ไมก่ ระทบตอ่ กำรบรหิ ำรจดั กำรในภำพรวมของเรอื นจำ� และตอ่ ผตู้ อ้ งขงั ซง่ึ มำตรกำรดงั กลำ่ ว
เก่ียวข้องกับควำมเป็นอยู่ของผู้ต้องขัง อำทิ ด้ำนงดกำรเย่ียมญำติ กำรก�ำหนดสถำนท่ีกักโรค กำรจ�ำกัดเข้ำออกของ
บุคคลภำยนอกเข้ำภำยในเรอื นจำ� เป็นตน้
เรอื นจำ� พเิ ศษกรงุ เทพมหำนคร เปน็ เรอื นจำ� ทคี่ วบคมุ ผตู้ อ้ งขงั ในคดรี ะหวำ่ งพจิ ำรณำฯ และผตู้ อ้ งขงั เดด็ ขำดแลว้
ในคดีท่ัวไป (ท่ีไม่ใช่คดียำเสพติดให้โทษฯ) เม่ือกรมรำชทัณฑ์ก�ำหนดมำตรกำรต่ำง ๆ ให้เรือนจ�ำและทัณฑสถำน
ถอื ปฏิบัตินั้น เรือนจำ� พิเศษกรงุ เทพฯ ได้น�ำขอ้ สง่ั กำรตำมมำตรกำรดังกลำ่ วมำถอื ปฏบิ ัติโดยเครง่ ครดั และยงั กำ� หนด
มำตรกำรเชงิ รุกในกำรปอ้ งกนั โควดิ -19 ดงั นี้
• กำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจและควำมรใู้ หก้ บั ผตู้ อ้ งขงั ผำ่ นรำยกำร “เรอื่ งเลา่ ชาวเรอื นจา� ” และรำยกำร “กา� ลงั
ใจสู่ชาวเรอื นจ�า”
• กำรจัดกิจกรรมประกวดหน้ำกำกแฟนซีป้องกันโควิด-19 และกิจกรรมกำรประกวดเต้น COVER เพลง
“ซเู ปอรส์ เปรดเดอร”์ ของผ้ตู อ้ งขงั
• นวัตกรรมเคร่ืองอบจดหมำยระบบพลังงำนไฟฟำ้ และระบบพลังแสงอำทิตย์
• บริกำรส่งจดหมำยให้ผู้ตอ้ งขังผำ่ นแอปพลเิ คชันไลน์ (LINE)

วารสารราชทัณฑ์ 23

• กำรสร้ำงควำมเข้ำใจและควำมรู้ให้กับผู้ต้องขังผ่ำนรำยกำร “เร่ืองเล่าชาวเรือนจ�า” และรำยกำร
“กา� ลงั ใจสชู่ าวเรือนจา� ”

ด้วยกรมรำชทัณฑ์ได้แต่งตั้งคณะท�ำงำน
กำ� หนดแนวทำงในกำรนำ� เสนอสอื่ ในเรอื นจำ� /ทณั ฑสถำน
เพ่ือก�ำหนดขอบเขต เนื้อหำ ระยะเวลำท่ีเหมำะสม
ของส่ือและช่องทำงในกำรจัดส่งสื่อในเรือนจ�ำ/
ทัณฑสถำน ทั่วประเทศ โดยให้ทดลองน�ำร่องจัดท�ำ
รำยกำร “เรื่องเล่ำชำวเรือนจ�ำ” ณ เรือนจ�ำพิเศษ
กรงุ เทพมหำนคร เทปท่ ี 1 ตง้ั แต่วนั เสำร์ท่ี 21 มนี ำคม
2563 เวลำ 17.00 น. เปน็ ตน้ ไป เพอ่ื เปน็ กำรสรำ้ งควำม
เข้ำใจและควำมรู้ให้กับผู้ต้องขังเกี่ยวกับกำรป้องกัน
ตนเองและมำตรกำรต่ำง ๆ ของกรมรำชทัณฑ์และ
กระทรวงยุติธรรมในสถำนกำรณ์กำรเฝ้ำระวัง ป้องกัน
และควบคมุ กำรแพรร่ ะบำดของโรคโควิด-19 ซงึ่ เปน็ พน้ื ท่ีทีม่ ผี ู้ตอ้ งขังอย่รู วมกนั จ�ำนวนมำก และมคี วำมเส่ยี งสงู ซ่ึงใน
เทปแรกได้เชิญอธิบดีกรมควบคุมโรคหรือผู้แทนที่มีควำมเชี่ยวชำญด้ำนกำรควบคุมโรคมำให้สัมภำษณ์ เพ่ือให้ข้อมูล
ดำ้ นสถำนกำรณข์ องโรคดังกลำ่ ว ตลอดจนวธิ ปี อ้ งกนั ตนเองจำกกำรแพร่ระบำดของโรค และเทปตอ่ มำไดเ้ ชิญผบู้ รหิ ำร
ของกรมรำชทณั ฑ์และกระทรวงยตุ ิธรรมมำให้ควำมรู้ดำ้ นต่ำง ๆ ทีเ่ ปน็ ประโยชนแ์ กผ่ ตู้ ้องขังตำมลำ� ดบั นอกเหนอื จำก
กำรใหค้ วำมรแู้ ละกำ� ลงั ใจในกำรใชช้ วี ติ ในเรอื นจำ� ถอื เปน็ กำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจใหก้ บั ผตู้ อ้ งขงั ทว่ั ประเทศในสถำนกำรณ์
ตำ่ ง ๆ ท่ีเกิดข้ึน และยังเปิดโอกำสให้ผ้ตู อ้ งขงั ในเรอื นจำ� ต่ำง ๆ ท่วั ประเทศไดแ้ ลกเปลี่ยนเรยี นรู้ในกำรพัฒนำศักยภำพ
ตนเองจำกกำรส่งคลิปกิจกรรมของแต่ละเรือนจ�ำ โดยเฉพำะเก่ียวกับมำตรกำรต่ำง ๆ ในช่วงโควิด-19 ซ่ึงส่งผลด ี
ต่อกำรบรหิ ำรจัดกำรเรอื นจำ� ได้อีกทำงหนึ่ง
ทงั้ นี ้ ฝำ่ ยพฒั นำจิตใจและเสริมสรำ้ งสมรรถนะ ได้จัดโครงกำรฝึกวิชำชพี ผู้ตอ้ งขงั ดำ้ นมลั ตมิ เี ดีย สือ่ วีดิทศั น์
และบทเพลงในเรอื นจำ� ฯ ตงั้ แตป่ งี บประมำณ พ.ศ. 2562 โดยมกี ำรฝกึ อบรมแกผ่ ตู้ อ้ งขงั ในเรอื นจำ� ฯ จำ� นวน 3 หลกั สตู ร
ได้แก่ อบรมหลักสูตรตัดต่อคลิป ส่ือมัลติมีเดีย จ�ำนวน 40 ช่ัวโมง หลักสูตรดนตรีเบื้องต้น จ�ำนวน 80 ช่ัวโมง และ
หลักสูตร Basic computer recording จ�ำนวน 80 ชั่วโมง ซ่ึงมีผลงำนมิวสิควิดีโอเพลง “ขอโอกำส” และเพลง
“ไม่ต้องห่วงฉัน” ที่ลงในเพจ Facebook ของเรือนจ�ำฯ และ เว็บ Youtube ที่เป็นผลผลิตจำกกำรฝึกวิชำชีพ
แตง่ บทเพลง-บนั ทกึ เสยี งและถำ่ ยทำ� ตดั ตอ่ ของผตู้ อ้ งขงั ทง้ั หมด ประกอบกบั น.ช.สรยทุ ธ สทุ ศั นะจนิ ดำ เปน็ ผชู้ ว่ ยเหลอื
ประจำ� ฝำ่ ยพฒั นำจติ ใจฯ และผชู้ ว่ ยครฝู กึ วชิ ำชพี ในโครงกำรดงั กลำ่ วดว้ ย ซง่ึ กอ่ นท ่ี น.ช.สรยทุ ธฯ ตอ้ งโทษเคยประกอบอำชพี
เปน็ ผสู้ อ่ื ขำ่ วและดำ� เนนิ รำยกำรชอื่ ดงั และมคี วำมสำมำรถในกำรนำ� เสนอขำ่ วนำ่ สนใจเปน็ ทย่ี อมรบั จำกประชำชนทว่ั ไป
เมอื่ เรอื นจำ� พเิ ศษกรงุ เทพฯ ไดร้ บั มอบหมำยจำกกรมรำชทณั ฑใ์ นกำรผลติ รำยกำร “เรอื่ งเลำ่ ชำวเรอื นจำ� ” ทอ่ี อกอำกำศ
เรอื นจำ� และทณั ฑสถำนในทกุ วนั เสำร ์ ปจั จบุ นั ออกอำกำศในเทปท ี่ 12 แลว้ ไดร้ บั กำรตอบรบั เปน็ อยำ่ งด ี จงึ ไดข้ ออนญุ ำต
จำกกรมรำชทัณฑ์ในกำรผลิตรำยกำร “ก�ำลังใจสู่ชำวเรือนจ�ำ” เพิ่มที่ออกอำกำศเรือนจ�ำ/ทัณฑสถำนทั่วประเทศ
ในทกุ วนั พธุ โดยเนอ้ื หำเนน้ กำรสรำ้ งกำ� ลงั ใจสชู่ ำวเรอื นจำ� เพอื่ ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั รบั รขู้ อ้ มลู ขำ่ วสำรทเี่ ปน็ ประโยชน ์ ไดร้ บั กำ� ลงั
ใจจำกบคุ คลภำยนอกทมี่ ชี อื่ เสยี ง และใหผ้ ตู้ อ้ งขงั ไดร้ บั รกู้ ำรฝกึ วชิ ำชพี ของแตล่ ะเรอื นจำ� ตลอดจนผอ่ นคลำยควำมเครยี ด
ระหว่ำงต้องโทษ เพื่อมุ่งกำรพัฒนำศักยภำพตนเองต่อไป ถือเป็นกำรเปล่ียนวิกฤติให้เป็นโอกำสในกำรรับรู้ข่ำวสำร
เชงิ บวกผำ่ นกำรพฒั นำศักยภำพผตู้ ้องขงั ด้ำนกำรทำ� สื่อมัลติมเี ดียในยุคโควดิ -19

24 วารสารราชทัณฑ์

• กำรจัดกิจกรรมประกวดหน้ำกำกแฟนซีป้องกันโควิด-19 และกิจกรรมกำรประกวดเต้น COVER
เพลง “ซเู ปอร์สเปรดเดอร”์ ของผู้ตอ้ งขัง

ในสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคโควิด-19
กำรเฝำ้ ระวงั ปอ้ งกนั และควบคมุ กำรแพรร่ ะบำดของโรคไวรสั
โควดิ -19 ของเรอื นจำ� พเิ ศษกรงุ เทพมหำนครมคี วำมเขม้ งวดทง้ั
กบั เจำ้ หนำ้ ทแ่ี ละผตู้ อ้ งขงั ทำ� ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั หลำยคนอยใู่ นสภำวะ
ควำมตึงเครียด กำรใชห้ นำ้ กำกอนำมยั กลำยเป็นของจำ� เป็นใน
ยุคท่ีโรคระบำดโควิด-19 แพร่กระจำย กำรเฝ้ำระวังป้องกัน
ตัวเองจึงเป็นทำงเลือกที่ดีที่สุด ซึ่งเรือนจ�ำพิเศษกรุงเทพฯ
นอกจำกจะเย็บหน้ำกำกแจกผู้ต้องขังคนละ 2 ผืนแล้ว ซ่ึง
นำยกฤช กระแสร์ทิพย์ ผู้บัญชำกำรเรือนจ�ำพิเศษกรุงเทพฯ
ได้เล็งเห็นศักยภำพผู้ต้องขังว่ำมีควำมคิดสร้ำงสรรค์สำมำรถ
วำดหน้ำกำกของตนเองเป็นรูปต่ำง ๆ ได้ จึงสนับสนุนให้จัดประกวดหน้ำกำกแฟนซีป้องกันโควิด-19 โดยให้ผู้ต้องขัง
แต่ละแดนคดิ และนำ� หน้ำกำกเข้ำประกวดฯ โดยใหร้ ะยะเวลำในกำรสร้ำงสรรค์ผลงำนเพยี ง 1 สปั ดำหเ์ ท่ำน้นั เพ่อื ให้
แตล่ ะแดนพฒั นำกำรออกแบบ ควำมคดิ สรำ้ งสรรคแ์ ละกำรตดั เยบ็ ในสภำวกำรณต์ ำ่ ง ๆ ทจี่ ำ� กดั โดยเนน้ ใหส้ ำมำรถนำ� ไป
ใชไ้ ดจ้ รงิ ดว้ ย รำงวลั ผลกำรประกวด ได้แก ่ หนำ้ กำกยักษ์ ซึง่ เป็นฝีมอื กำรเพ้นส์ลำยของผู้ต้องขงั ตำมวรรณคดไี ทย และ
นอกจำกน ้ี ยงั จดั กำรประกวดเตน้ COVER เพลง “ซเู ปอรส์ เปรดเดอร”์ ของผตู้ อ้ งขงั ทเี่ ปน็ เพลงใหค้ วำมรแู้ กป่ ระชำชน
เพ่ือรณรงค์ต้ำนภัยโควิด-19 ของกองทุนพัฒนำส่ือปลอดภัยและสร้ำงสรรค์ร่วมกับท็อปไลน์มิวสิค โดยศิลปิน
เจน-นุ่น-โบว์ จำกคณะซุปเปอร์วำเลนไทน์ โดยจัดประกวดเต้นทุกแดนควบคุม เน้นให้ควำมรู้ด้ำนกำรป้องกัน
กำรแพร่กระจำยของโรคไวรัสโควิด-19 และให้ผู้ต้องขังผ่อนคลำยควำมตึงเครียดในขณะที่เรือนจ�ำฯ ต้องใช้มำตรกำร
ต่ำง ๆ โดยเฉพำะชว่ งกำรงดเย่ียมญำต ิ ผลกำรด�ำเนนิ กำรจดั กิจกรรมฯ ได้รบั กำรตอบรบั จำกผู้ต้องขงั ท่ีสรำ้ งรอยย้มิ ที่
สอดแทรกควำมรูเ้ ป็นอย่ำงดี


• นวตั กรรมเครอื่ งอบจดหมำยระบบพลงั งำนไฟฟำ้ และระบบพลงั แสงอำทติ ย ์

จำกมำตรกำรป้องกันและควบคุมกำรแพร่
ระบำดของเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ในเรือนจ�ำ/
ทณั ฑสถำน ตำมนโยบำย พ.ต.อ.ดร.ณรชั ต ์ เศวตนนั ทน ์
อธิบดีกรมรำชทัณฑ์ ในกำรป้องกันกำรแพร่กระจำย
ของโรคดังกล่ำว คนในหำ้ มออก คนนอกห้ำมเข้ำ และ
กกั กนั โรคทแี่ ดนแรกรบั ทำ� ใหเ้ รอื นจำ� งดบรกิ ำรเยย่ี มญำต ิ
ก่อนที่จะผ่อนปรนมำตรกำรเปิดให้เยี่ยมได้เม่ือวันท ่ี
1 มิถุนำยนท่ีผ่ำนมำ ซึ่งจำกมำตรกำรดังกล่ำวส่งผล
ให้มีจ�ำนวนจดหมำยจำกญำติส่งเข้ำมำในเรือนจ�ำเป็น
จำ� นวนมำก ทำ� ใหเ้ จำ้ หนำ้ ทผ่ี มู้ หี นำ้ ทร่ี บั และตรวจสอบ

วารสารราชทัณฑ์ 25

จดหมำยเกิดควำมเส่ียงจำกกำรแพร่ระบำดของโรคดังกล่ำวท่ีอำจติดมำกับจดหมำยได้ ฝ่ำยฝึกวิชำชีพผู้ต้องขังและ
ฝำ่ ยควบคมุ ผตู้ อ้ งขงั แดน 3 จงึ ไดร้ ว่ มคดิ นวตั กรรมเครอ่ื งอบจดหมำยระบบพลงั งำนไฟฟำ้ และระบบพลงั งำนแสงอำทติ ยข์ น้ึ
โดยใช้หลักพลังงำนควำมร้อนฆ่ำเชื้อ ซึ่งเรือนจ�ำฯ ผลิตออกมำทั้ง 2 ระบบ เพ่ือใช้ทดแทนกรณีระบบใดระบบหนึ่ง
ไม่สำมำรถใชไ้ ด้ เช่น ในสภำวะทไี่ มม่ แี ดดหรอื ฝนตก เป็นตน้ โดยมีระบบกำรท�ำงำน ดงั นี้
1. ระบบไฟฟ้า จะใช้เครื่องเป่ำลมร้อนเป็นหลักในกำรท�ำงำน โดยจะเป่ำเข้ำภำยในตู้อบจดหมำย จนได้
อณุ หภมู ิ 65 องศำเซลเซยี สเปน็ อยำ่ งนอ้ ย ซง่ึ จะเปำ่ ลมรอ้ นออกจำกดำ้ นลำ่ งของต ู้ เพอื่ ดนั ลมรอ้ นกระทบกบั ฝำดำ้ นบน
เพ่ือกระจำยควำมร้อนให้ท่ัวถึง จึงใส่จดหมำยเข้ำไปและหมุนอย่ำงช้ำ ๆ เป็นเวลำ 15 นำที เพ่ือฆ่ำเชื้อโรค จำกน้ัน
น�ำจดหมำยออกเพื่อรอกำรคัดแยกตอ่ ไป
2. ระบบพลังงานแสงอาทิตย์ ลักษณะกำรท�ำงำนเหมือนระบบไฟฟ้ำ แตกต่ำงเพียงต้องใช้พลังงำนแสง
อำทิตย์ในกำรให้พลังงำนควำมร้อน โดยต้องน�ำตู้วำงไว้ภำยนอกอำคำรหรือจุดรับแสงอำทิตย์ เพื่อให้แสงอำทิตย์ส่อง
ผ่ำนกระจกหน้ำตู้ มำกระทบกับผนังภำยในซึ่งบุด้วยแผ่นอะลูมิเนียมเงำ ที่จะท�ำหน้ำที่กระจำยควำมร้อนภำยในตู ้
ซ่ึงควำมร้อนท่ีไดข้ น้ึ อยู่กับปรมิ ำณแสงอำทติ ย์ในขณะนน้ั จนได้อุณหภมู ิ 65 องศำเซลเซียสเปน็ อย่ำงน้อยเชน่ กนั

• บรกิ ำรสง่ จดหมำยใหผ้ ้ตู ้องขงั ผำ่ นระบบแอปพลเิ คชันไลน์ LINE

เรือนจ�ำพิเศษกรุงเทพฯ ด�ำเนินกำรจัดบริกำรเยี่ยมผ่ำนระบบ
แอปพลิเคชันไลน์ LINE ในกำรบริกำรญำติอยู่แล้ว และเพื่อตอบสนอง
ควำมต้องกำรในกำรบริกำรญำติที่รวดเร็วและปลอดภัย ถือเป็นกำรป้องกัน
กำรแพร่ระบำดของโรคไวรัสโควิด-19 และสอดคล้องกับกำรเปล่ียนแปลง
บรรทดั ฐำนในกำรใชช้ วี ติ (New Normal) ทต่ี ำ่ งไปจำกเดมิ ในกำรสรำ้ งระยะหำ่ ง
ระหว่ำงกันโดยมีกำรใช้เทคโนโลยีมำช่วยในกำรติดต่อสื่อสำรระหว่ำงกันมำกขึ้น
เรือนจ�ำพิเศษกรุงเทพฯ จึงจัดบริกำรส่งจดหมำยให้ผู้ต้องขังผ่ำนระบบ
แอปพลิเคชันไลน์ LINE เพื่อให้เกิดควำมรวดเร็วในกำรบริกำรส่งจดหมำยให้
ผตู้ อ้ งขงั และเปน็ กำรปอ้ งกนั กำรแพรเ่ ชอ้ื โรคดงั กลำ่ วทจี่ ะตดิ มำกบั จดหมำยปกติ

น่ีเป็นเพียงส่วนหนึ่งของมำตรกำรเชิงรุกในกำรป้องกันไวรัสโควิด-19 ของเรือนจ�ำพิเศษกรุงเทพมหำนคร
ซง่ึ นอกจำกน ี้ เรอื นจำ� พเิ ศษกรงุ เทพฯ กย็ งั มกี ำรจดั ทำ� แดนกกั โรค 100% ซงึ่ สำมำรถกกั โรคได ้ 14 วนั ใน 14 หอ้ งควบคมุ ,
บรกิ ำรสง่ จดหมำยผำ่ นระบบ E-MAIL กำรสรำ้ งควำมเขำ้ ใจกบั ญำตผิ ตู้ อ้ งขงั ในดำ้ นตำ่ ง ๆ ผำ่ นระบบ LINE หอ้ ง Open
Chat ของเรือนจ�ำพิเศษกรุงเทพฯ เพรำะเรำเช่ือว่ำกำรสร้ำงควำมเชื่อม่ันให้สังคมในด้ำนมำตรฐำนกำรควบคุมและ
ควำมปลอดภัยให้กับสังคมเป็นภำรกิจหลักควบคู่กับกำรพัฒนำพฤตินิสัยผู้ต้องขังให้เป็นคนดีภำยหลังพ้นโทษต่อไป
ซงึ่ กจิ กรรม/โครงกำรตำ่ ง ๆ จะไมส่ ำ� เรจ็ ไดเ้ ลยหำกไมไ่ ดร้ บั กำรสนบั สนนุ จำกทกุ ภำคสว่ น โดยเฉพำะเจำ้ หนำ้ ทที่ ท่ี ำ� งำน
ด้วยควำมม่งุ ม่ันและเสยี สละเพ่ือชำวรำชทัณฑด์ ้วยกนั

26 วารสารราชทัณฑ์

“วตั ถุมงคลกับฅนราชทณั ฑ”์

อุดม สขุ ทอง1
ทณั ฑสถำนวยั หนุม่ กลำง
งำนรำชทัณฑ์เป็นงำนท่ีมีลักษณะพิเศษ กล่ำวคือเป็นงำนท่ีต้องปฏิบัติด้วยควำมรอบคอบ ระมัดระวังและ
ต้องอำศัยควำมละเอียดถี่ถ้วนและถูกต้องแม่นย�ำจะเกิดควำมผิดพลำดไม่ได้ ท้ังเป็นงำนที่มีผลกระทบต่อควำมมั่นคง
และปลอดภัยของสังคมหำกกำรปฏิบัติหน้ำที่เกิดควำมบกพร่องหรือเกิดควำมผิดพลำดขึ้น เช่น ผู้ต้องขังแหกหัก
หลบหนี ปลอ่ ยผู้ตอ้ งขงั ผิดตวั หรอื ระบบแกไ้ ขผู้ตอ้ งขังไม่มีประสทิ ธภิ ำพ ผู้ตอ้ งขงั กลับไปกระท�ำผิดสร้ำงควำมเสียหำย
ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชำชนจะก่อให้เกิดควำมเสียหำยต่อกระบวนกำรยุติธรรม ควำมสงบเรียบร้อย และ
ควำมปลอดภัยของสังคมได้ ดังนั้น เจ้ำหน้ำที่รำชทัณฑ์ในทุก ๆ ระดับ นอกจำกกำรปฏิบัติงำนด้วยควำมรอบคอบ
ระมัดระวังแล้วยังต้องมีเคร่ืองยึดเหนี่ยวจิตใจ เป็นขวัญและก�ำลังใจในกำรปฏิบัติงำน หนึ่งในเคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจ
ทจ่ี ะขอกลำ่ วถึงนั่นกค็ อื “วตั ถมุ งคลของฅนราชทัณฑ”์ ซ่ึงผู้เขยี นขอเรยี บเรียงดงั น้ี

1. วัตถุมงคลประเภท “พระเครอื่ ง”

1.1 พระไพรีพนิ าศ รุน่ ประวตั ศิ าสตร ์ 80 ป ี กรมราชทณั ฑ ์
สร้ำงเมื่อ พ.ศ. 2538 โดยได้รับ
ประทำนอนญุ ำตกำรสรำ้ งจำก สมเดจ็ พระญำณ
สังวร สมเด็จพระสังฆรำช สกลมหำสังฆ-
ปริณำยก วัดบวรนิเวศวิหำร กรุงเทพมหำนคร
ซง่ึ พระไพรพี นิ ำศ เปน็ พระนำมของพระพทุ ธรปู
ปจั จบุ นั ประดษิ ฐำนอยบู่ นชนั้ สองของพระเจดยี ์
ใหญ่วัดบวรนิเวศวิหำร ในสมัยก่อนพระด�ำรง
รำชำนภุ ำพไดท้ รงมพี ระวนิ จิ ฉยั ในสำสนส์ มเดจ็ วำ่ “พระไพรพี นิ ำศเปน็ พระพทุ ธรปู แบบมหำยำนปำงประทบั นง่ั ประธำนอภยั
กล่ำวคือ มีพระพุทธลักษณะเหมือนพระปำงมำรวิชัยหัตถ์ขวำท่ีวำงอยู่บนพระชำนุข้ึน” โดยควำมเชื่อในพุทธคุณ
เกยี่ วกบั ผ้อู ำรำธนำติดตัวหำกใครคิดปองรำ้ ยก็จะแพภ้ ัยตนเอง เหน็ ผลทันตำ มีสขุ ภำพแข็งแรง และเดนิ ทำงปลอดภัย
ในครง้ั นน้ั กรมรำชทณั ฑไ์ ดจ้ ดั สรำ้ งทงั้ พระไพรพี นิ ำศแบบพระบชู ำหนำ้ ตกั 5 นว้ิ แบบรปู หลอ่ ลอยองค ์ และแบบเหรยี ญหลอ่
วตั ถุมงคลชดุ น ี้ ถือได้วำ่ เปน็ วัตถุมงคลชดุ แรกหลงั จำกมีกำรก่อตัง้ กรมรำชทัณฑย์ นื ยำวมำจนครบ 80 ป ี ใน พ.ศ. 2538
จงึ ไดร้ บั ควำมสนใจจำกขำ้ รำชกำร เจำ้ หนำ้ ทก่ี รมรำชทณั ฑต์ ลอดจนประชำชนโดยทวั่ ไปบชู ำจนหมดจำกกรมรำชทณั ฑ์
ในเวลำไมน่ ำนนัก

รำยละเอยี ดกำรจัดสรำ้ ง พระไพรีพินำศ ร่นุ ประวัติศำสตร์ 80 ปีกรมรำชทัณฑ์
ผ้อู ่ำนสำมำรถศกึ ษำได้ผ่ำน QR code ทีป่ รำกฏ

1 แอดมนิ Facebook ชมรมพระเคร่อื งคนรำชทัณฑ์

วารสารราชทัณฑ 27

1.2 วัตถมุ งคลฉลองครบรอบ 109 ป ี เรือนจา� จงั หวัดชยั ภูมิ
สร้ำงเมื่อ พ.ศ. 2549 โดยสร้ำงเป็นพระเน้ือผงรูปเหมือน หลวงพ่อชินะโตชัย
(องค์ใหญ่) “พระพุทธเจ้ำผู้มีชัยชนะอันย่ิงใหญ่” พระพุทธรูปปำงปฐมเทศนำ
สิ่งศักด์ิสิทธ์ิศูนย์รวมจิตใจที่เจ้ำหน้ำท่ีเรือนจ�ำจังหวัดชัยภูมิและประชำชนทั่วไปให้ควำม
เคำรพเล่ือมใส ปัจจุบันประดิษฐำนอยู่ในวิหำร หน้ำทำงเข้ำ-ออกเรือนจ�ำจังหวัดชัยภูมิ
และเป็นพระผงหลวงปู่ทวด วัดช้ำงให้ เรือนจ�ำจังหวัดชัยภูมิ จัดสร้ำงวัตถุมงคลเน่ืองใน
โอกำสครบรอบ 109 ป ี เรอื นจำ� จงั หวดั ชยั ภมู ิ (พ.ศ. 2440-2549) ดว้ ยใจบรสิ ทุ ธ ์ิ แนว่ แน ่
โดยควำมรกั เลอ่ื มใสศรทั ธำในบวรพระพทุ ธศำสนำ และบญุ ญำบำรมแี หง่ หลวงพอ่ ชนิ ะโตชยั
และหลวงปู่ทวดเหยียบน�้ำทะเลจืด เพื่อมอบให้แก่เจ้ำหน้ำที่เรือนจ�ำจังหวัดชัยภูมิ ส�ำนักงำนยุติธรรมจังหวัดชัยภูม ิ
และเรือนจ�ำในเขตสำมจังหวัดชำยแดนภำคใต้ รวมท้ังผู้ให้กำรสนับสนุนเพ่ือบ�ำรุงขวัญก�ำลังใจเจ้ำหน้ำท่ี เป็นเครื่อง
เตอื นสติยึดเหนีย่ วจิตใจ และสง่ เสรมิ ภำพลกั ษณ์ท่ดี ีของเรอื นจ�ำจังหวดั ชัยภูม ิ กรมรำชทณั ฑ ์ กระทรวงยตุ ธิ รรม

1.3 วัตถมุ งคล พระกร่งิ เจตคปุ ต์เพชรกลบั เรือนจา� กลางอดุ รธานี
สรำ้ งเมอ่ื พ.ศ. 2550 โดยมวี ตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ หำเงนิ รำยได ้ มำจดั สรำ้ งศำลำปฏบิ ตั ธิ รรม
“คณกลับใจ” เรือนจ�ำกลำงอุดรธำนี ด้วยเจตนำท่ีบริสุทธิ์ ท�ำให้พระกริ่งเจตคุปต์เพชรกลับ
ได้รับควำมสนใจเป็นอย่ำงยิ่ง ด้วยจ�ำนวนกำรสร้ำงแค่ 888 องค์ ตอกหมำยเลขก�ำกับเอำไว ้
ทกุ องค ์ กน้ อดุ “ตรำพระยมทรงสงิ ห”์ ซง่ึ เปน็ เครอ่ื งหมำยประจำ� กรมรำชทณั ฑ ์ รวมทงั้ พระกรงิ่
เจตคุปต์เพชรกลับ ได้รับกำรปลุกเสกเดี่ยวจำก หลวงพ่อผำด วัดบ้ำนกรวด จ.บุรีรัมย์ อำยุ
96 ป ี พรรษำ 77 (เนือ้ สมั ฤทธ์ขิ ออนุญำตผู้บัญชำกำรเปน็ กรณพี ิเศษในกำรหล่อ)

1.4 วัตถุมงคล “หลวงพ่อโสธร รุ่นเฉลิมพระเกียรติ
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องใน
โอกาสทรงเจรญิ พระชนมายุ 5 รอบ”

ปพี ทุ ธศกั รำช 2558 กรมรำชทณั ฑ์ ไดร้ บั พระมหำกรณุ ำธคิ ณุ
โปรดเกล้ำโปรดกระหมอ่ มให้จัดสรำ้ งพระพุทธรูป “หลวงพอ่ โสธร
รุ่นเฉลมิ พระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำช-
กมุ ำร ี เนอื่ งในโอกำสทรงเจรญิ พระชนมำย ุ 5 รอบ” ทรงพระรำชทำน
พระรำชำนุญำตให้เชิญตรำสัญลักษณ์ “งำนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนรำชสุดำฯ สยำมบรมรำชกุมำรี
ในโอกำสทรงเจริญพระชนมำยุ 5 รอบ 2 เมษำยน 2558” ประดับท่ผี ้ำทพิ ย์พระพทุ ธรปู ประดับด้ำนหลงั เหรยี ญและ
ดำ้ นหลังพระผง ตำมหนงั สือเลขที่ รล 0010/9939 ลงวนั ที่ 7 กันยำยน 2558 ทรงก�ำหนดวันเสด็จพระรำชด�ำเนินไป
ทรงเททองหล่อพระพุทธรูป “หลวงพอ่ โสธร” ในวันท ่ี 23 กรกฎำคม 2559 เวลำ 15.00 น. ณ วดั โสธรวรำรำมวรวิหำร
อ.เมอื งฉะเชงิ เทรำ จ.ฉะเชงิ เทรำ โดยโครงกำรกำรจดั สรำ้ งพระพทุ ธรปู “หลวงพอ่ โสธร” สมเดจ็ พระเทพรตั นรำชสดุ ำฯ
สยำมบรมรำชกุมำร ี ในโอกำสทรงเจรญิ พระชนมำยุ 5 รอบเพ่อื น�ำรำยไดห้ ลงั หักค่ำใชจ้ ่ำยทลู เกล้ำทลู กระหมอ่ มถวำย
โดยเสด็จพระรำชกุศลตำมพระรำชอัธยำศัยและเพื่อสมทบทุนมูลนิธิโรงพยำบำลรำชทัณฑ์เพื่อพัฒนำกิจกำรของ
โรงพยำบำลฯ น�ำไปสู่กำรช่วยเหลอื ผู้ปว่ ยทด่ี ้อยโอกำส จำ� นวนกำรสร้ำงรวมทัง้ สนิ้ 124,589 องค์

28 วารสารราชทัณฑ์

2. วตั ถมุ งคลประเภท “เทพผู้ปกปักรักษา”

2.1 พระเจตคปุ ต ์ หรอื เจ้าพอ่ เจตคุปต์
เป็นรูปเทพำรกั ษท์ ่จี �ำหลกั ดว้ ยเครือ่ งไมป้ ดิ ทองทง้ั องค ์ สูง 133 ซม. ประทับยืนบนแท่นพระเศียรทรงมงกฎุ
ยอดชัย สวมสนับเพลำมีเชิง นุ่งภูษำทับด้วยห้อยหน้ำ ประดับด้วยสุวรรณกระถอบคำดปั้นเหน่งทับรัดพัสตร์
ต้นพระพำหำรัดด้วยพำหุรัด ใส่สังวำลตำบทิศ ทับทรวง สวมทองพระกร ทองพระบำท ฉลองพระบำท มีรูปนำครัด
ที่ข้อพระพำหำไพล่ไปเบื้องหลัง พระหัตถ์ทั้งสองยกเสมอ ระดับพระอุระ พระหัตถ์ขวำถือเหล็กจำร พระหัตถ์ซ้ำย
ถือใบลำนอัครสันธำนำ ส�ำหรับจดควำมช่ัวร้ำยของชำวเมืองท่ีตำยไป ซึ่งเป็นท่ีเคำรพนับถือของประชำชน และ
ชำวรำชทัณฑ์ทั้งปวง กรมรำชทัณฑ์เห็นว่ำเจ้ำพ่อเจตคุปต์ มีควำมเกี่ยวข้องส�ำคัญ คือเป็นขวัญและก�ำลังใจ
ในกำรปฏิบัตงิ ำนของเจ้ำหน้ำที่ รวมท้ังเปน็ เครือ่ งยึดเหน่ยี วจติ ใจให้ผู้ตอ้ งขงั เกรงกลวั ตอ่ กำรกระท�ำผดิ กรมรำชทณั ฑ์
จึงได้จัดสร้ำงพระเจตคุปต์ เทพำรักษ์รักษำเรือนจ�ำ น้อมเกล้ำถวำยเป็นพระรำชกุศลแด่องค์พระมหำกษัตริย์
ทคี่ รองแผน่ ดนิ ไทยทกุ พระองคเ์ พอื่ เปน็ เครอ่ื งยดึ เหนยี่ วจติ ใจในกำรปฏบิ ตั งิ ำนดว้ ยควำมสจุ รติ ยตุ ธิ รรม โดยกรมรำชทณั ฑ ์
กระทรวงยุติธรรมรวมท้ังเรือนจ�ำต่ำง ๆ ได้มีกำรจัดสร้ำงพระเจตคุปต์ หรือเจ้ำพ่อเจตคุปต์ เพื่อเป็นเคร่ืองยึดเหนี่ยว
จิตใจในกำรปฏิบตั หิ น้ำทีใ่ นวำระต่ำง ๆ พอรวบรวมไดด้ ังน้ี
2.1.1 วัตถมุ งคลพระเจตคุปต ์ กรมราชทณั ฑ์ จัดสรา้ ง พ.ศ. 2556
กรมรำชทัณฑ์ได้ด�ำเนินกำรจัดสร้ำงเททองหล่อองค์เจ้ำพ่อเจตคุปต์และวัตถุมงคลเจ้ำพ่อเจตคุปต์
องค์ใหญข่ นำดควำมสูง 190 ซ.ม. เพื่อประจำ� อยทู่ ีก่ รมฯ โดยสร้ำงศำลไว้ที่กรมรำชทณั ฑ์ และขนำด 90 ซม. ไว้ประจำ�
ทเ่ี รอื นจำ� /ทณั ฑสถำน ทว่ั ประเทศ แบง่ เปน็ ปำงเทวดำและปำงมนษุ ยโ์ ดยทำ� พธิ เี ทวำภเิ ษก ในวนั ท ี่ 9 พฤษภำคม 2556
เวลำ 12.15 น. ณ ลำนสนำมหน้ำกรมรำชทัณฑ ์ โดยนมิ นต์เกจิอำจำรยจ์ ำกท่วั ประเทศ จ�ำนวน 99 รปู ซึ่งมชี อื่ เสยี ง
เป็นท่ียอมรบั จำกสำธุชนทวั่ ประเทศ และสร้ำงแบบเหรยี ญองค์เจำ้ พ่อเจตคปุ ต์ เนอ้ื ทองคำ� เนอ้ื เงิน และทองแดง และ
เน้ือผง มีมวลสำรจำกดินใจกลำงคุกท่ัวประเทศ โดยกำรบวงสรวงท�ำพิธีพลีดินและแผ่นเงินแผ่นทองอธิฐำนจิต
โดยเกจิอำจำรย์ในจังหวัดน้ัน ๆ เช่น ได้รับควำมเมตตำจำกสมเด็จพระสังฆรำชประทำนมวลสำรให้พิเศษ ในกำรท�ำ
องค์เจ้ำพ่อเจตคุปต์แบบเน้ือผง และยังมีส่วนผสมของไม้รอดคุก และโลหะจ�ำพวกโซตรวน กุญแจห้องขัง กุญแจเก่ำ
จำกในเรือนจำ� อำยุนับรอ้ ยป ี ส�ำหรับรำยกำรจดั สรำ้ งวตั ถุมงคลชดุ น ้ี ประกอบดว้ ย

พระเจตคปุ ต์ องคบ์ ูชา สูง 1 ศอก เนื้อผง
1.1 ปางเทวดา ผา้ ยนั ต์
1.2 ปางมนุษย์
1.3 บชู าคู่

เหรียญบูชา
2.1 ทองคา� (ปางเทวดา)
2.2 เงิน (ปางเทวดา)
2.3 ทองแดง

วารสารราชทัณฑ์ 29

2.1.2 วตั ถุมงคล “พระยมทรงสงิ ห”์ ขนาดบชู า พ.ศ. 2554
จดั สรำ้ งโดยเรอื นจำ� กลำงรำชบรุ แี ละไดม้ กี ำรใหบ้ ชู ำไปยงั เรอื นจำ�
และทัณฑสถำนต่ำง ๆ ทั่วประเทศ เพื่อเป็นเคร่ืองยึดเหนี่ยวจิตใจและขวัญ
กำ� ลงั ใจในกำรปฏบิ ตั หิ นำ้ ท ่ี ซง่ึ ตรำพระยมทรงสงิ หเ์ ปน็ เทพทที่ ำ� หนำ้ ทร่ี ำชทณั ฑ ์
เปน็ ผมู้ ีอำ� นำจลงโทษมนษุ ยเ์ ม่ือตำยไปแลว้ พระหัตถ์ขวำถือขรรค์ พระหตั ถ์ซ้ำย
ถือกงจักรประทับบนหลังรำชสีห์ ตรำพระยมทรงสิงห์ เริ่มใช้มำแต่สมัยสมเด็จ
พระบรมไตรโลกนำถแหง่ กรงุ ศรอี ยธุ ยำ กำ� หนดใหเ้ ปน็ ตรำพระยำยมรำช และใน
สมยั รชั กำลท ี่ 5 ได้มกี ำรสรำ้ งตรำพระยมทรงสิงห์ด้วยทองคำ� ใชเ้ ปน็ ตรำประจำ�
ต�ำแหน่งกรมพระนครบำล พระรำชทำนแก่เจ้ำพระยำยมรำช ต่อมำใช้เป็นตรำประจ�ำต�ำแหน่งกรมพระนครบำล
ซึ่งกรมรำชทัณฑ์ (กรมนักโทษ) เปน็ หนว่ ยงำนในสงั กัด และเมื่อ พ.ศ. 2542 กรมรำชทณั ฑ์ไดแ้ จ้งส�ำนักนำยกรัฐมนตรี
ประกำศใชต้ รำพระยมทรงสงิ ห ์ เป็นเครื่องหมำยของกรมรำชทณั ฑ ์ เปน็ ต้นมำ
2.1.3 วตั ถมุ งคลรุ่น 2 บารมเี ทพผทู้ รงฤทธ ์ิ พ.ศ. 2558
วตั ถมุ งคล 99 ป ี กำ� แพงแกว้ ทำ้ วเวสสวุ รรณ - เจำ้
พอ่ เจตคปุ ต ์ พ.ศ. 2558 จดั สรำ้ งโดยเรอื นจำ� กลำงอดุ รธำน ี อธษิ ฐำน
จติ และกดพมิ พน์ ำ� ฤกษ ์ โดยพระครพู พิ ฒั นว์ ทิ ยำคม (หลวงพอ่ เจรญิ
ฐำนยตุ โฺ ต) เจำ้ อำวำสวดั โนนสวำ่ ง จ.อดุ รธำน ี ลกั ษณะเปน็ วตั ถมุ งคล
เนื้อผงรูปไข่ ด้ำนหน้ำเป็นพิมพ์องค์ท้ำวเวสสุวรรณ (ฝังตะกรุด)
ด้ำนหลังเป็นพิมพ์องค์เจ้ำพ่อเจตคุปต์ ประกอบด้วยมวลสำร
ศักดิส์ ทิ ธิม์ ำกมำย
จำกอดีตถึงปัจจุบัน นอกจำกวัตถุมงคลท่ีกล่ำวมำแล้ว เรือนจ�ำและทัณฑสถำนต่ำง ๆ ตลอดจนผู้บริหำร
กรมรำชทณั ฑต์ ำ่ งกไ็ ดส้ รำ้ งวตั ถมุ งคลไวม้ ำกมำยหลำกหลำยรนุ่ มที ง้ั บนั ทกึ ไวแ้ ละมไิ ดบ้ นั ทกึ ไว ้ ซง่ึ จำกขอ้ มลู ทไี่ ดร้ วบรวม
มำแสดงถึงควำมมุ่งมั่น ควำมรัก ควำมศรัทธำ ในวิชำชีพรำชทัณฑ์และกำรตระหนักถึงหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ
กำรมวี ตั ถมุ งคลไวย้ ดึ เหนย่ี วจติ ใจ กอ่ ใหเ้ กดิ หริ โิ อตปั ปะ มคี วำมเมตตำตอ่ ผตู้ อ้ งรำชทณั ฑ ์ มคี วำมกลำ้ หำญทำงจรยิ ธรรม
ในกำรพัฒนำพฤตนิ ิสัยเพือ่ กำรคืนคนด ี มีคณุ คำ่ สูส่ งั คม

30 วารสารราชทัณฑ์

กำรดูแลสขุ ภำพจิตในยุค

COVID – 19

มณฑิรำ อนิ ทรยี งค์
กองบรกิ ำรทำงกำรแพทย์

ในชว่ งตน้ พ.ศ. 2563 เปน็ ปที ปี่ ระเทศไทยและทว่ั โลกไดเ้ ผชญิ กบั สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของโรคอบุ ตั ใิ หม ่
น่ันก็คือโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 หรือโรคโควิด – 19 ในวันที่ 13 มกรำคม 2563 มีรำยงำนกำรพบผู้ป่วย
ด้วยโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 ในประเทศไทยเป็นรำยแรก ซึ่งเป็นนักท่องเท่ียวที่เดินทำงมำจำกประเทศจีน1
หลังจำกน้ันได้มีรำยงำนจ�ำนวนผู้ป่วยในประเทศไทยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในวันท่ี 11 มีนำคม 2563 องค์กำรอนำมัยโลก
ไดป้ ระกำศใหโ้ รคตดิ เชอื้ ไวรสั โคโรนำ 2019 เปน็ โรคระบำดใหญท่ ว่ั โลก (Pandemic)2 และรฐั บำลไดป้ ระกำศสถำนกำรณ์
ฉุกเฉินทั่วประเทศในวันท่ี 25 มีนำคม 2563 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 มีนำคม 2563 เพ่ือควบคุมสถำนกำรณ์
กำรแพรร่ ะบำดไมใ่ หแ้ พรอ่ อกไปในวงกวำ้ ง3 และไดม้ กี ำรออกขอ้ กำ� หนดฉบบั ท ่ี 14 โดยมรี ำยละเอยี ดเกย่ี วกบั ขอ้ ปฏบิ ตั ิ
ภำยใตส้ ถำนกำรณฉ์ กุ เฉนิ เชน่ มำตรกำรกำรดำ� เนนิ งำนสำ� หรบั หนว่ ยงำนตำ่ ง ๆ แนวทำงกำรปฏบิ ตั ติ วั กำรหำ้ มชมุ นมุ
กำรหำ้ มกกั ตนุ สนิ คำ้ กำรประกำศปดิ สถำนทที่ เี่ สยี่ งตอ่ กำรตดิ ตอ่ โรค ไมว่ ำ่ จะเปน็ สนำมมวย สนำมกฬี ำ สถำนประกอบกำร
บำงประเภท รวมไปถึงบำงส่วนของหำ้ งสรรพสนิ คำ้

1 World Health Organization. (2020). WHO Statement on Novel Coronavirus in Thailand. Retrieved from https://
www.who.int/news-room/detail/13-01-2020-who-statement-on-novel-coronavirus-in-thailand

2 World Health Organization. (2020). WHO Director – General’s Opening Remarks at the Media Briefing on Covid
– 19. Retrieved from https://www.who.int/dg/speeches/detail/who-director-general-s-opening-remarks-at-the-
media-briefing-on-covid-19---11-march-2020

3 ประกำศสถำนกำรณฉ์ กุ เฉินในทุกเขตทอ้ งที่ทั่วรำชอำณำจกั ร รำชกิจจำนุเบกษำ เล่ม 137 ตอนพิเศษ 69 ง วนั ท่ ี 25 มีนำคม 2563
หนำ้ 1 จำกเว็บไซต์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2563/E/069/T_0001.PDF

4 ข้อก�ำหนดออกตำมควำมในมำตรำ 9 แห่งพระรำชก�ำหนดกำรบริหำรรำชกำรในสถำนกำรณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบับท่ี 1)
รำชกิจจำนเุ บกษำ เลม่ 137 ตอนพเิ ศษ 69 วนั ที่ 25 มีนำคม 2563 หนำ้ 10 จำกเวบ็ ไซต ์ http://www.ratchakitcha.soc.go.th/
DATA/PDF/2563/E/069/T_0010.PDF
วารสารราชทัณฑ์ 31

จำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 น้ีท�ำให้บุคคลท่ัวไปเกิดกระแสควำมตื่น
ตระหนกและควำมหวำดกลวั ไปทั่วโลกตำมทีเ่ ห็นได้จำกขำ่ วต่ำง ๆ เชน่ กำรเร่งกักตุนสนิ ค้ำอุปโภคบริโภค5, 6 หรือข่ำว
กำรท�ำร้ำยร่ำงกำยชำวเอเชียอันเน่ืองมำจำกควำมกลัวว่ำชำวเอเชียจะเป็นผู้แพร่เช้ือโรค7, 8 และยังส่งผลให้มีกำร
เปลี่ยนแปลงวิถีกำรดำ� เนนิ ชีวิตประจ�ำวนั ไปอย่ำงมำก เช่น กำรต้องใส่ใจกับอนำมัยสว่ นบุคคลเพิม่ มำกข้นึ เพ่ือป้องกนั
กำรแพร่ระบำดของโรค กำรงดเว้นกำรเดินทำงไปยังสถำนที่เส่ียง กำรเว้นระยะห่ำงทำงสังคม และบำงหน่วยงำน
เริ่มสนับสนุนให้พนักงำนท�ำงำนอยู่ที่บ้ำน เรียกได้ว่ำกำรแพร่ระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 ส่งผลกระทบ
ให้เกิดกำรเปลยี่ นแปลงพฤตกิ รรมกำรใชช้ วี ิตของประชำชนไปเกอื บทุกแงม่ ุม

จำกขอ้ มลู ของ UPWELL Health Collective (2020)9 ลกั ษณะกำรระบำดของโรคแบง่ ออกเปน็ 4 ระยะ ไดแ้ ก่
ระยะท ี่ 1 เกิดกำรระบำดและกำรเสียชีวิตอยำ่ งกะทนั หัน (Immediate mortality and morbidity of COVID – 19)
ระยะท ่ี 2 กำรระบำดสง่ ผลให้เกดิ กำรจำ� กัดทรัพยำกรต่อผูป้ ่วยฉุกเฉินอืน่ ๆ ทไ่ี ม่ตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนำ 2019 (Impact
of resources restriction on urgent non-COVID – 19 conditions) ระยะที่ 3 กำรระบำดส่งผลต่อผู้ป่วยโรค
เร้ือรังอื่น ๆ กล่ำวคือ อำจท�ำให้ไม่สำมำรถไปรับรักษำได้ตำมก�ำหนด (Impact of interrupted care of chronic
conditions) และระยะที่ 4 กำรระบำดที่ยำวนำนส่งผลต่อภำวะเศรษฐกิจ ท�ำให้ประชำชนเกิดควำมเครียดหรือเกิด
ปัญหำสุขภำพจิต และเกิดภำวะเหนื่อยล้ำทำงอำรมณ์หรือภำวะหมดไฟ (Psychic trauma, mental illness,
economic injury, burnout) โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงกับกลุ่มเปรำะบำงหรอื กลุ่มท่ีมีปัญหำสขุ ภำพกำยหรือสุขภำพจิตอยู่
ก่อนแล้ว จำกสถำนกำรณ์ภำยในประเทศไทยที่เร่ิมมีกำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ มำตั้งแต่ต้น พ.ศ. 2563
นับเปน็ ระยะเวลำหลำยเดอื น อำจส่งผลกระทบตอ่ ภำวะสขุ ภำพจติ ซ่งึ อำจเกดิ จำกควำมเครยี ดสะสม ภำวะเศรษฐกิจ

ที่ถดถอยลง บุคลำกรทำงกำรแพทย์ที่ต้อง
ท�ำงำนหนักข้ึน หรือแม้กระทั่งกำรต้อง
เปลยี่ นแปลงวถิ ชี วี ติ ประจำ� วนั อยำ่ งกะทนั หนั
ปัญหำสุขภำพจิตที่พบได้ในช่วงกำรระบำด
ของเชอ้ื ไวรสั โคโรนำ 2019 ไดแ้ ก ่ ภำวะเครยี ด
และวิตกกังวล เม่ือมีมำตรกำรกำรป้องกัน
กำรแพรร่ ะบำดทเี่ ขม้ ขน้ ขนึ้ เชน่ กำรกกั ตวั อยู่
บำ้ นเปน็ เวลำนำน และกำรเวน้ ระยะห่ำงทำง
สังคม บุคคลท่ัวไปอำจมีภำวะควำมรู้สึก
โดดเดย่ี ว ซมึ เศรำ้ มกี ำรดม่ื แอลกอฮอลห์ รอื ใช้
สำรเสพตดิ จนเปน็ อนั ตรำย และอำจมพี ฤตกิ รรม

5 Thai PBS World. (2020). Covid-19: New Stringent Measures Trigger panic buying in Bangkok. Retrieved from
https://www.thaipbsworld.com/covid-19-new-stringent-measures-trigger-panic-buying-in-bangkok/

6 Ziady, H. (2020). Panic Buying is Forcing Supermarkets to Ration Food and Other Supplies. Retrieved from
https://edition.cnn.com/2020/03/18/business/supermarkets-rationing-coronavirus/index.html

7 Tavernise, S., & Oppel Jr, R. A. (2020). Spit on, Yelled at, Attacked: Chinese – Americans Fear for Their Safety.
Retrieved from https://www.nytimes.com/2020/03/23/us/chinese-coronavirus-racist-attacks.html

8 Zhou, M., Yu, Y., & Fang, A. (2020). We Are Not Covid – 19: Asian Americans Speakt Out on Racism. Retrieved
from https://asia.nikkei.com/Spotlight/Coronavirus/We-are-not-COVID-19-Asian-Americans-speak-out-on-racism

9 Upwell Health Collective. (2020). What Problems Are We Trying to Solve?. Retrieved from https://upwellhealth.
com.au/healthcare-services-camberwell/upwell-home-health-melbourne/

32 วารสารราชทัณฑ์

กำรท�ำรำ้ ยตนเองหรอื ฆ่ำตัวตำยเพ่มิ มำกข้ึน10 บคุ คลอำจประสบกบั ภำวะว่ำงงำน สญู เสียบำ้ นหรอื ธรุ กจิ กำรท่สี มำชกิ
ในครอบครัวทั้งหมดต้องถูกกักตัวอยู่บ้ำนเป็นเวลำนำนอำจเพิ่มโอกำสให้เกิดควำมรุนแรงในครอบครัวเพ่ิมขึ้น
ควำมเครียดและวิตกกังวลอำจท�ำให้บุคคลท่ีมีโรคประจ�ำตัวอยู่แล้วมีอำกำรรุนแรงขึ้น ผู้ป่วยบำงรำยอำจไม่กล้ำไป
โรงพยำบำลเน่ืองจำกไม่อยำกเพ่ิมภำระให้กับบุคลำกรทำงกำรแพทย์หรืออำจกลัวว่ำจะติดเชื้อไวรัสจำกโรงพยำบำล
และกำรเวน้ ระยะหำ่ งทำงสงั คมอำจทำ� ใหผ้ ทู้ มี่ ปี ญั หำสขุ ภำพจติ ขำดกำรสนบั สนนุ ทำงสงั คม (Social Support) เรยี กไดว้ ำ่
กำรแพร่ระบำดของเชือ้ ไวรัสน้ีท�ำให้มตี ัวกระตุ้นควำมเครียดต่ำง ๆ เพ่ิมมำกขนึ้ ในขณะเดยี วกนั กจ็ �ำกัดกำรเข้ำถงึ กำร
บริกำรด้ำนสุขภำพจิตไปด้วย ท�ำให้เกิดภำวะที่บุคคลอำจมีปัญหำสุขภำพจิต แต่ไม่สำมำรถเข้ำถึงกำรช่วยเหลือได1้ 1
เจ้ำหน้ำท่ีรำชทัณฑ์รวมไปถึงผู้ต้องขังก็ย่อมได้รับผลกระทบจำกกำรแพร่ระบำดของเชื้อไวรัสโคโรนำ 2019 เช่นกัน
เม่ือมีกำรแพร่ระบำดของเช้ือไวรัส กรมรำชทัณฑ์ได้ส่ังกำรให้เรือนจ�ำ/ทัณฑสถำนทั่วประเทศงดกำรเยี่ยมญำติ
พร้อมท้ังมีมำตรกำรต่ำง ๆ ในกำรป้องกันกำรแพร่ระบำด ซึ่งอำจส่งผลต่อสุขภำพจิตของเจ้ำหน้ำที่ท่ีต้องปฏิบัติงำน
ด้วยควำมระมัดระวังเพิ่มมำกข้ึน และผู้ต้องขังที่อำจเกิดควำมเครียดจำกกำรขำดกำรติดต่อจำกญำติ รวมไปถึง
ควำมวิตกกังวลว่ำจะติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 อำจท�ำให้กลุ่มท่ีมีปัญหำสุขภำพจิตอยู่แล้วมีอำกำรแย่ลงหรืออำจพบ
ผทู้ ่ีมปี ญั หำสุขภำพจติ จำ� นวนเพ่ิมขึ้นได้
จำกสถำนกำรณด์ งั กลำ่ ว กำรหมน่ั สงั เกตภำวะสขุ ภำพจติ ของตนเองและบคุ คลรอบขำ้ งอยำ่ งสมำ�่ เสมอสำมำรถ
ช่วยให้พบปัญหำได้รวดเร็วและจะท�ำให้สำมำรถจัดกำรกับปัญหำดังกล่ำวได้ทันท่วงทีก่อนท่ีจะพัฒนำไปสู่อำกำร
ท่ีแย่ลง สมำคมนักจิตวิทยำของสหรัฐอเมริกำ (American Psychological Association) ได้เผยแพร่สัญญำณ
ของปญั หำสขุ ภำพจิตทพี่ บไดบ้ ่อย ดงั นี้12

10 World Health Organization Europe. (2020). Mental Health and COVID-19. Retrieved from http://www.euro.who.
int/en/health-topics/health-emergencies/coronavirus-covid-19/technical-guidance/mental-health-and-
covid-19

11 American Psychological Association. (2020). Covid – 19 and Suicide. Retrieved from
https://www.apa.org/monitor/2020/06/covid-suicide
12 American Psychological Association. (2020). Psychological Impact of Covid-19: Know
the Signs of Anxiety, Panic Attacks, Depression and Suicide. Retrieved from
https://www.apa.org/topics/covid-19/psychological-impact

วารสารราชทัณฑ์ 33

สัญญำณของภำวะวิตกกังวล

- มีควำมรู้สึกวิตกกังวลอยำ่ งต่อเนื่อง
- มีควำมรู้สึกวิตกกังวลอย่ำงมำกเกี่ยวกับเร่ืองต่ำง ๆ เช่น เรื่องปัญหำสุขภำพหรือ
สถำนะทำงกำรเงิน และมีควำมร้สู ึกว่ำจะตอ้ งมเี ร่อื งทไ่ี ม่ดเี กดิ ขึ้น
- มอี ำกำรกระสับกระสำ่ ย ร้สู กึ หงดุ หงดิ ง่ำย
- มีปัญหำในกำรใช้สมำธิจดจ่อกับสิ่งต่ำง ๆ มีปัญหำด้ำนกำรนอนหลับ และรู้สึก
หวำดระแวง

สญั ญำณของภำวะแพนิค (Panic Attack)

- มีอำกำรเหงอื่ ออก สนั่ หำยใจถี ่ หรือรสู้ ึกหำยใจไมอ่ อก
- หัวใจเตน้ แรงหรือเร็ว และรูส้ ึกตน่ื กลวั
- อำกำรดังกล่ำวมกั จะเกดิ ข้ึนอย่ำงกะทนั หันโดยไม่มอี ำกำรเตอื นมำกอ่ น
- บุคคลที่เคยเกิดภำวะแพนิคมักจะมีควำมกังวลว่ำจะเป็นซ้�ำ ท�ำให้เกิดควำมกลัว
และส่งผลต่อกำรเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอ่ืน ๆ ในชีวิตประจ�ำวัน เช่น ไม่กล้ำท�ำกิจวัตร
ทเ่ี คยทำ� เป็นปกตเิ พรำะกลัวว่ำจะทำ� ใหเ้ กดิ ภำวะแพนคิ

สญั ญำณของภำวะซมึ เศร้ำ

- ควำมสนใจและควำมพงึ พอใจในกำรท�ำกิจวตั รประจำ� วนั ลดลง
- น�้ำหนกั ขึน้ หรือลงอยำ่ งเหน็ ได้ชดั
- มอี ำกำรนอนไมห่ ลับหรอื นอนมำกเกินไป
- มีควำมรู้สกึ หมดเรีย่ วแรงหรือไมส่ ำมำรถมีสมำธิจดจอ่ กบั สิ่งตำ่ ง ๆ ได้
- มคี วำมร้สู ึกว่ำตนเองไม่มีคำ่ หรอื รู้สกึ ผิดตลอดเวลำ
- มีควำมคดิ วนเวียนเกย่ี วกับควำมตำยและกำรฆ่ำตวั ตำย

ปัจจยั เสยี่ งต่อกำรฆำ่ ตัวตำย

- พูดถงึ เรอ่ื งควำมตำยหรือกำรทำ� รำ้ ยตนเอง
- ประสบกับควำมสูญเสียไม่ว่ำจะเป็นกำรตำยจำกของบุคคลใกล้ชิด กำรหย่ำร้ำง
กำรแยกกนั อย ู่ หรือกำรสูญเสียควำมสนใจในเพ่อื น งำนอดเิ รก หรือกจิ กรรมอ่ืน ๆ ทีเ่ คย
สนใจ
- มีกำรเปลีย่ นแปลงในบคุ ลกิ ภำพ เช่น เศร้ำ แยกตัวออกจำกผู้อืน่ หงดุ หงดิ งำ่ ย มีควำมวติ กกงั วล
- มกี ำรเปล่ียนแปลงในพฤติกรรม เชน่ รปู แบบกำรนอนหลับและกำรกินมีควำมเปลย่ี นแปลงไปจำกเดมิ
- มีพฤตกิ รรมทีไ่ ม่ปกต ิ เช่น ทำ� รำ้ ยตนเองหรือผู้อ่นื
- เห็นคุณค่ำในตนเองต่�ำ กล่ำวคือ รู้สึกว่ำตนเองไร้ค่ำ มีควำมรู้สึกผิดอยู่ตลอดเวลำ หรือมีควำมรู้สึกเกลียด
ตนเอง
- รู้สึกหมดหวงั กับอนำคต มคี วำมเชอ่ื วำ่ สถำนกำรณท์ ีเ่ ป็นอยูจ่ ะไม่ดขี ึ้นหรอื เชอื่ ว่ำจะไมส่ ำมำรถเปลีย่ นแปลง
อะไรได้

34 วารสารราชทัณฑ์

หำกพบว่ำตนเอง บุคคลใกล้ชิดหรือบุคคล
ในควำมดูแลมีสัญญำณของปัญหำสุขภำพจิตดังกล่ำว
ขำ้ งตน้ ควรมกี ำรดำ� เนนิ กำรเพอื่ จดั กำรกบั ปญั หำสขุ ภำพจติ
ที่เกิดข้ึน เช่น พูดคุยกับบุคคลใกล้ชิด หรือปรึกษำ
บุคลำกรทำงกำรแพทย์ที่เชี่ยวชำญ กรมสุขภำพจิต
ได้เผยแพร่แนวทำงกำรฟื้นฟูจิตใจในสถำนกำรณ์
กำรระบำดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนำ13 โดยมีแนวทำง
ในกำรประเมนิ และดแู ลสขุ ภำพจติ ของบคุ ลำกรทำงกำร
แพทย์และสำธำรณสุข กำรประเมินและดูแลจิตใจ
ประชำชนกลุ่มเส่ียง กระบวนกำรส่งเสริมเฝ้ำระวัง
และป้องกันปัญหำสุขภำพจิตส�ำหรับประชำชนท่ัวไป
และระบบเฝำ้ ระวงั ควบคมุ ป้องกนั โรคจติ เวช ซง่ึ สำมำรถนำ� มำประยุกตใ์ ชใ้ นบริบทของเรอื นจำ� /ทัณฑสถำน ไดด้ งั นี้

1. ประเมนิ /คดั กรองภำวะสขุ ภำพจิตของทั้งเจ้ำหนำ้ ที่และผตู้ ้องขงั เชน่ ประเมนิ ควำมเครียด ประเมินภำวะ
เหน่อื ยล้ำหมดไฟ คัดกรองและประเมินภำวะซมึ เศร้ำ ประเมินควำมเส่ยี งฆ่ำตัวตำย

2. กลมุ่ ทไ่ี มพ่ บควำมเสยี่ งอำจใหค้ วำมรดู้ ำ้ นกำรดแู ลสขุ ภำพจติ โดยทวั่ ไป เชน่ เทคนคิ กำรผอ่ นคลำยควำมเครยี ด
หรือใหข้ ้อมูลในกำรคน้ หำแหลง่ ควำมร้ดู ้ำนสุขภำพจติ ต่ำง ๆ

3. ในกลุ่มท่ีพบควำมเส่ียง ควรส่งต่อให้กับบุคลำกรทำงกำรแพทย์เพ่ือรับค�ำปรึกษำหรือเข้ำรับกำรรักษำ
หำกเป็นผู้ต้องขังสำมำรถส่งต่อให้กับสถำนพยำบำลเพ่ือดูแลต่อไป หำกเป็นเจ้ำหน้ำที่สำมำรถพูดคุยปรึกษำกับบุคคล
ใกล้ชดิ หรือขอรับควำมช่วยเหลอื ไดจ้ ำกโรงพยำบำลภำยนอก

4. หมั่นสังเกตอำกำรของตนเอง บุคคลใกล้ชิด และผู้ต้องขังที่อยู่ในควำมดูแลอย่ำงสม�่ำเสมอ โดยเฉพำะ
อย่ำงยง่ิ กลมุ่ ทีม่ ีควำมเปรำะบำง เช่น กล่มุ ผทู้ ่ีมโี รคประจำ� ตวั กลุ่มผูส้ งู อำย ุ ซงึ่ อำจมคี วำมเสี่ยงทจี่ ะมีปัญหำสุขภำพจติ
เพมิ่ ขึน้ ได ้

นอกจำกนี้ กำรให้ควำมรู้เกี่ยวกับโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 กำรดูแลตนเองเพ่ือป้องกันกำรติดเช้ือ
กำรรับมือและปรับตัวกับควำมเปลี่ยนแปลง14 ก็ยังเป็นวิธีที่ช่วยให้บุคคลรับมือกับสถำนกำรณ์ในปัจจุบันได้ดีขึ้นและ
อำจชว่ ยลดปญั หำสุขภำพจิตท่ีจะเกดิ ขน้ึ ได้

13 กรมสุขภำพจิต. (2563). แนวทำงกำรฟื้นฟูจิตใจในสถำนกำรณ์กำรระบำดของโรคติดเช้ือไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID – 19)
(Combat 4th Wave of COVID – 19 : C4). กรมสขุ ภำพจติ : นนทบรุ ี.

14 Zhang, J., Wu, W., Zhao, X., & Zhang, W. (2020). Recommended Psychological Crisis Intervention Response to
the 2019 Novel Coronavirus Pneumonia Outbreak in China: A Model of West China Hospital. Precision Clinical
Medicine, Volume 3, Issue 1, March 2020, Pages 3–8, retrieved from https://doi.org/10.1093/pcmedi/pbaa006

วารสารราชทัณฑ์ 35

ส�ำหรับบุคลำกรท่ัวไปสำมำรถปฏิบัติตำมค�ำแนะน�ำในกำรดูแลสุขภำพจิตในช่วงกำรแพร่ระบำดของไวรัส
โคโรนำ 2019 ขององคก์ ำรอนำมยั โลก15 โดยสรปุ ไดด้ งั น ้ี
1. ตดิ ตำมขอ้ มลู ขำ่ วสำรจำกแหลง่ ทเ่ี ชือ่ ถอื ได้
2. พยำยำมดำ� รงกจิ วตั รประจำ� วนั ใหไ้ ดม้ ำกทส่ี ดุ เทำ่ ทจี่ ะทำ� ได ้ เชน่ ตนื่ และนอนหลบั เปน็ เวลำ ดแู ลสขุ อนำมยั
ส่วนตัวอย่ำงสม่ำ� เสมอ รับประทำนอำหำรทีม่ ีประโยชน์ให้ตรงเวลำ ออกก�ำลงั กำย แบง่ เวลำทำ� งำนและพกั ผ่อน และ
หำเวลำท�ำงำนอดิเรก
3. ลดเวลำในกำรติดตำมข่ำวสำรที่ท�ำให้เกิดควำมเครียด เช่น อำจจะจ�ำกัดเวลำในกำรเสพสื่อต่ำง ๆ วันละ
1 – 2 ครง้ั
4. ติดต่อสื่อสำรกับบุคคลใกล้ชิดอย่ำงสม่�ำเสมอ โดยสำมำรถใช้กำรโทรศัพท์หรือใช้ช่องทำงออนไลน์อ่ืน ๆ
แทนกำรปฏสิ ัมพันธแ์ บบตัวต่อตัว
5. จ�ำกัดหรืองดกำรด่ืมแอลกอฮอล์ ไม่ควรใช้แอลกอฮอล์ในกำรช่วยรับมือกับควำมกลัว ควำมวิตกกังวล
ควำมเบือ่ หน่ำย หรือควำมรู้สึกโดดเด่ยี ว แอลกอฮอล์ไม่สำมำรถชว่ ยให้เรำรับมอื กับปัญหำไดด้ ขี ้นึ และไม่มสี ่วนในกำร
ช่วยป้องกนั โรคตดิ เชือ้ แตอ่ ย่ำงใด
6. รักษำสมดุลในกำรใช้เทคโนโลยีต่ำง ๆ ไม่ว่ำจะเป็นส่ือสังคมออนไลน์หรือเกมส์ และใช้สื่อสังคมออนไลน์
ใหเ้ กดิ ประโยชน ์ เช่น ใชใ้ นกำรแบ่งปนั ข้อมลู ท่เี ปน็ ประโยชน์ และแกไ้ ขขอ้ มลู ท่ีบดิ เบือน
7. ชว่ ยเหลอื ผอู้ นื่ เทำ่ ทส่ี ำมำรถจะทำ� ได ้ และสนบั สนนุ บคุ ลำกรทำงกำรแพทยท์ ท่ี ำ� หนำ้ ทร่ี บั มอื กบั สถำนกำรณ์
กำรแพร่ระบำด
8. มคี วำมเห็นอกเห็นใจตอ่ ผอู้ ่ืน

ในสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของไวรัส
โคโรนำ 2019 ท่ีระบำดไปทั่วโลก กำรเกิดภำวะ
ควำมเครยี ด ควำมไมส่ บำยใจตำ่ ง ๆ ถอื เปน็ เรอื่ งปกติ
ที่เกิดข้ึนได้กับบุคคลทุกเพศทุกวัย หำกหมั่นสังเกต
ตนเอง และบุคคลรอบข้ำงอย่ำงสม�่ำเสมอ และมีวิธี
กำรในกำรจดั กำรกบั อำรมณ์ทำงลบหรอื ภำวะตำ่ ง ๆ
ที่เกิดข้ึน ก็จะสำมำรถท�ำให้เรำก้ำวผ่ำนสถำนกำรณ์
นไี้ ปได้ดว้ ยกนั

15 World Health Organization. (2020). Looking After Our Mental Health. Retrieved from https://www.who.int/news-
room/campaigns/connecting-the-world-to-combat-Coronavirus/healthyathome/healthyathome---men-
tal-health?gclid=EAIaIQobChMIzN3Wr8Xv6QIVmgsrCh2JjAyUEAAYASAAEgKYLvD_BwE

36 วารสารราชทัณฑ์

เลาะรวั้ รวบรวมและเรียบเรียง
โดย กล่มุ รำชทณั ฑ์ต่ำงประเทศ
รราอชบทโัณลกฑ์
กองทัณฑวิทยำ

COเฉVพIDา-ะก1ิจ9

ส�ำหรับคอลัมน์ “เลาะร้ัวราชทัณฑ์รอบโลก” ฉบับนี้ ถือเป็นฉบับ “เฉพำะกิจ COVID-19” โดยจะเป็นกำร
รวบรวมเหตุกำรณ์ที่เกี่ยวข้องกับสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของ COVID-19 ในเรือนจ�ำต่ำงประเทศ ทว่ำ เนื้อหำ
จะไม่ใช่ลักษณะกำรรำยงำนสถิติกำรติดเช้ือของผู้ต้องขังหรือเจ้ำหน้ำท่ีเรือนจ�ำ หำกแต่เป็นกำรสรุปเร่ืองรำวที่เกิดขึ้น
ท่ีมรี ูปแบบคล้ำย ๆ กนั 3 หัวข้อ ดงั น้ี

1. กำรกอ่ เหตวุ ่นุ วำยและจลำจล

ในห้วงกำรแพรร่ ะบำดของ COVID-19 จะพบเหน็ ขำ่ ว
กำรกอ่ เหตวุ นุ่ วำย ของผตู้ อ้ งขงั ในหลำยประเทศ สำเหตสุ ว่ นใหญ่
เกิดจำกมำตรกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดภำยในเรือนจ�ำ อำท ิ
กำรสั่งงดกำรด�ำเนินกิจกรรมต่ำง ๆ ของผู้ต้องขัง กำรก�ำหนด
ให้ผู้ต้องขังต้องถูกควบคุมตัวอยู่ภำยในห้องขังตลอดเวลำ
กำรประกำศหำ้ มญำตเิ ดนิ ทำงมำเยยี่ มทเี่ รอื นจำ� ฯลฯ ซง่ึ มำตรกำร
ตำ่ ง ๆ เหลำ่ นล้ี ว้ นทำ� ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั เกดิ ควำมเครยี ด ควำมวติ กกงั วล
กอปรกบั ควำมหวำดกลวั กำรตดิ เชอ้ื โรคภำยในเรอื นจำ� ทอ่ี ำจเปน็
อันตรำยถึงชีวิต ส่งผลให้เกิดกำรประท้วงก่อควำมวุ่นวำยหรือ
เหตจุ ลำจลขนึ้ โดยเฉพำะเรอื นจำ� ในประเทศแถบละตนิ อเมริกำ

วารสารราชทัณฑ์ 37

- อิตาลี (มี.ค. 2563) ได้เกิดเหตุจลำจลในเรือนจ�ำติดต่อกันหลำยแห่งท่ัวประเทศ ส่งผลให้ผู้ต้องขังรวม
12 รำยเสียชีวติ ตัวอยำ่ งเช่น เหตุกำรณ์ควำมไม่สงบทเ่ี รอื นจำ� Santa Ana ในเมืองโมเดนำ่ เรือนจ�ำ Rieti ทำงเหนือ
ของกรงุ โรม เรือนจ�ำ San Vittore ในเมอื งมิลำน รวมถึงเรือนจำ� Poggioreale ในเมอื งเนเป้ลิ , ฟอจจำ และปำแลรโ์ ม
เป็นต้น สำเหตุเกิดจำกกำรเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับเรือนจ�ำเพ่ือป้องกันกำรแพร่ระบำดของ COVID-19 เช่น
กำรระงับกำรเยย่ี มญำต ิ
- โคลอมเบีย (เม.ย. 2563) ในเรือนจ�ำ Anayancy ที่เมือง Quibdó, Chocó ทำงตะวันตกของประเทศ
ได้เกิดเหตุจลำจล ส่งผลให้มีผู้ต้องขังเสียชีวิต 1 รำย และบำดเจ็บมำกกว่ำ 13 รำย โดยสำเหตุควำมวุ่นวำยเกิดจำก
กำรรับตวั ผู้ต้องขังเข้ำใหม่กลมุ่ หน่งึ ท�ำใหผ้ ้ตู อ้ งขังท่อี ยู่เดมิ เกดิ ควำมหวำดกลัววำ่ จะมีกำรนำ� พำเช้อื COVID-19 เข้ำมำ
แพรร่ ะบำดภำยในเรอื นจำ� ขณะเกดิ เหตเุ จำ้ หนำ้ ทต่ี ำ� รวจถกู เรยี กตวั ใหร้ บี เขำ้ มำชว่ ยเหลอื เจำ้ หนำ้ ทเ่ี รอื นจำ� เพอื่ ควบคมุ
สถำนกำรณ์
- อาร์เจนตินา (เม.ย. 2563) ควำมไม่สงบและเหตุจลำจลร่วม 9 ช่ัวโมง เกิดข้ึนในเรือนจ�ำ Villa Devoto
ที่กรุงบัวโนสไอเรส เพือ่ เรียกรอ้ งให้ทำงกำรมีมำตรกำรป้องกนั กำรแพร่ระบำดของ COVID-19 ในเรือนจำ� เหตกุ ำรณ์
ควำมไม่สงบน ้ี เกิดขนึ้ ภำยหลงั เจำ้ หน้ำทเี่ รือนจ�ำ 1 รำย ตรวจพบยืนยนั วำ่ เป็นผตู้ ดิ เชื้อ โดยกลุม่ ผู้ต้องขังไดป้ ีนขน้ึ ไป
บนหลงั คำ และท�ำกำรเผำท่ีนอน ขว้ำงปำส่ิงของใส่เจ้ำหน้ำทที่ พี่ ยำยำมเข้ำมำระงบั เหตุ ต่อมำเหตกุ ำรณ์จลำจลยตุ ลิ ง
โดยไม่มีผู้เสียชีวิตหรือบำดเจ็บ ด้วยกำรพูดคุยเจรจำระหว่ำงตัวแทนผู้ต้องขังกับเจ้ำหน้ำท่ี เพ่ือรับฟังข้อกังวลและ
ข้อเรียกร้องตำ่ ง ๆ อย่ำงไรก็ดี เม่อื สัปดำหก์ ่อน ไดเ้ กดิ เหตุจลำจลเชน่ กันที่เรอื นจ�ำ Florencio Varela โดยมผี ้ตู ้องขัง
เสยี ชวี ิต 1 รำยและบำดเจ็บ 20 รำย
- เปรู (เม.ย. 2563) ผู้ต้องขัง 9 รำย ถูกยิงเสียชีวิตโดยเจ้ำหน้ำที่ ในเหตุจลำจลท่ีเรือนจ�ำ Miguel Castro
Castro ณ กรงุ ลมิ ำ โดยผตู้ อ้ งขงั จำ� นวนหลำยรอ้ ยคน กอ่ เหตจุ ลำจลเพอื่ ประทว้ งสภำพควำมเปน็ อยทู่ เี่ ปน็ อนั ตรำยและ
ไม่ปลอดภัย รวมท้ังทรำบข่ำวกำรเสียชีวิตของเพื่อนผู้ต้องขังในเรือนจ�ำจำก COVID-19 อย่ำงต่อเน่ือง ถึงแม้ทำงกำร
เปรจู ะระงับเหตุได ้ แต่เจำ้ หน้ำทีเ่ รือนจำ� 60 คน เจ้ำหน้ำท่ตี �ำรวจ 5 คน และผตู้ อ้ งขัง 2 รำย ได้รับบำดเจ็บ

38 วารสารราชทัณฑ์

- อินโดนีเซีย (เม.ย. 2563) กลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจ�ำ Tuminting ที่เมือง Manado เมืองหลวงของจังหวัด
สุลำเวสีเหนือได้ก่อควำมไม่สงบข้ึน ด้วยกำรทุบกระจก ก่อเพลิงไหม้ เผำเอกสำรและอุปกรณ์ส�ำนักงำน จำกควำม
ไม่พอใจที่มีต่อมำตรกำรป้องกันกำรแพร่ระบำด COVID-19 ภำยหลังกำรตรวจสอบพบว่ำ ผู้ต้องขังส่วนใหญ่ ซ่ึงเป็น
ผู้ต้องขังในคดียำเสพติด เกิดควำมไม่พอใจต่อข้อจ�ำกัดในกำรเยี่ยมญำติ รวมทั้งควำมรู้สึกอิจฉำริษยำต่อผู้ต้องขัง
115 คนท่ีได้รับกำรปล่อยตัวออกจำกเรือนจ�ำเพ่ือลดควำมเส่ียงต่อกำรแพร่ระบำดของเช้ือโรคดังกล่ำว ท้ำยที่สุด
เจำ้ หน้ำทที่ หำรและตำ� รวจสำมำรถเขำ้ ควบคมุ เหตกุ ำรณ์ไดโ้ ดยไม่มผี ้ไู ด้รบั บำดเจบ็ หรือเสียชีวติ
- ออสเตรเลยี (เม.ย. 2563) ไดเ้ กิดเหตุควำมไม่สงบขึ้นในเรือนจำ� ควำมมัน่ คงสงู Shortland Correctional
Centre ที่มลรัฐนิวเซำท์เวลส์ โดยเกิดเหตุเพลิงไหม้ห้องขังถึง 2 คร้ัง แม้แหล่งข่ำวระบุกำรเกิดเหตุน้ีว่ำสืบเน่ืองจำก
สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำด COVID-19 ในเรือนจ�ำ อย่ำงไรก็ดี นำย Peter Severin อธิบดีกรมรำชทัณฑ์มลรัฐ
นิวเซำท์เวลส์ได้ออกมำปฏิเสธถึงควำมเช่ือมโยงเหล่ำน้ัน แต่ยอมรับว่ำมีเหตุกำรณ์เกิดข้ึนจริง และเจ้ำหน้ำท่ีเรือนจ�ำ
ไดเ้ ขำ้ ระงับเหตอุ ยำ่ งมอื อำชพี ทำ� ให้ไม่มผี ูไ้ ดร้ บั บำดเจบ็ หรือเสียชีวิต
- สเปน (พ.ค. 2563) ณ เมอื งอนั ดำลเู ซยี เกดิ เหตคุ วำมรนุ แรงขนึ้ ทท่ี ณั ฑสถำนคอรโ์ ดบำ้ โดยผตู้ อ้ งขงั ไดข้ วำ้ งปำ
ท�ำลำยเฟอร์นิเจอร์ในห้องขัง ทุบกระจกบริเวณไฟท่ีเพดำนและปำถังบรรจุสำรฟอกขำวใส่เจ้ำหน้ำที่ที่เข้ำมำระงับเหตุ
ส่งผลให้มีเจ้ำหนำ้ ที ่ 2 รำยไดร้ บั บำดเจ็บเลก็ นอ้ ย นอกจำกนน้ั หน่ึงวันกอ่ นหน้ำน้ ี ได้เกดิ เหตุผตู้ อ้ งขัง 2 รำย พยำยำม
ก่อจลำจล ใช้ท่ีนอนกีดขวำงทำงเข้ำแดน และท�ำลำยเฟอร์นิเจอร์ อีกท้ังตะโกนให้ผู้ต้องขังคนอื่น ๆ ลุกฮือต่อสู้กับ
เจำ้ หนำ้ ท ี่ อยำ่ งไรกด็ เี จำ้ หนำ้ ทเ่ี รอื นจำ� สำมำรถเขำ้ ระงบั เหตไุ ดอ้ ยำ่ งรวดเรว็ ซงึ่ กรมรำชทณั ฑไ์ ดป้ ระเมนิ สถำนกำรณว์ ำ่
เกิดจำกควำมตึงเครียดสูงภำยหลังทำงกำรสเปน ประกำศปิดเรือนจ�ำเพื่อป้องกันกำรแพร่ระบำดของเชื้อไวรัส ส่งผล
กระทบตอ่ กำรด�ำเนนิ ชีวิตประจำ� วนั และกำรงดเยี่ยมจำกญำต ิ หรอื ครอบครวั
- เวเนซุเอลา (พ.ค. 2563) เกิดเหตจุ ลำจลในเรอื นจำ� ทำงตะวันตกของประเทศ ที่ทัณฑสถำน Los Llanos
ส่งผลให้มีผู้ต้องขังเสียชีวิต 46 คน และบำดเจ็บ 60 คน ส�ำหรับต้นเหตุของควำมรุนแรงเกิดจำกควำมไม่พอใจของ
ผ้ตู อ้ งขังทถี่ กู ห้ำมเยี่ยมจำกญำตแิ ละครอบครัว ซ่งึ เหตุกำรณ์เร่ิมตน้ จำกควำมพยำยำมของผู้ต้องขงั ทจ่ี ะหลบหน ี และมี
กำรยงิ ผ้บู ญั ชำกำรเรอื นจ�ำจนได้รบั บำดเจบ็
- โบลิเวยี (พ.ค. 2563) ในเรือนจ�ำ Palmasola เมือง Santa Cruz เกดิ เหตุประทว้ งของผู้ตอ้ งขัง เน่อื งจำก
ควำมหวำดกลวั จำก COVID-19 ภำยหลังผู้ต้องขังรำยหน่งึ ไดเ้ สียชวี ิตจำกเชือ้ COVID-19 ส่งผลใหผ้ ตู้ ้องขังตำ่ งตะโกน
เรียกร้องให้มีกำรป้องกันกำรแพร่ระบำดของเช้ือโรคภำยในเรือนจ�ำที่ดีกว่ำนี้ เนื่องจำกปัจจุบันยังขำดแคลนอุปกรณ์
ทำงกำรแพทย์และกำรรักษำควำมสะอำดท่ีจ�ำเป็น อย่ำงไรก็ดี กองก�ำลังเจ้ำหน้ำท่ีต�ำรวจโบลิเวียเข้ำระงับเหตุได ้
โดยไมม่ ีผูบ้ ำดเจ็บหรือเสยี ชีวติ

วารสารราชทัณฑ 39

2. กำรตัดเย็บหนำ้ กำกผำ้ และผลิตชดุ อุปกรณป์ ้องกัน

นอกจำกกำรก่อจลำจลและก่อเหตุควำมรุนแรงต่ำง ๆ
ซึ่งจะพบเห็นได้มำกในช่วงกำรแพร่ระบำดของ COVID-19
ในหลำยประเทศยังมีกำรด�ำเนินกำรที่เป็นประโยชน์ นั่นคือ
กำรท่ีผู้ต้องขังได้ตัดเย็บหน้ำกำกผ้ำเพ่ือใช้ภำยในเรือนจ�ำ และ
กำรผลิตชุดอุปกรณ์ป้องกันเชื้อโรคเพ่ือมอบให้แก่บุคลำกร
ทำงกำรแพทย์ หรืออุทิศตนชว่ ยเหลือสังคมในด้ำนต่ำง ๆ
- โมร็อกโก ผู้ต้องขงั ณ เรอื นจ�ำ Ain Sebaa ในเมือง
คำซำบลังกำ ตัดเย็บหน้ำกำกผ้ำเพื่อมอบให้เพ่ือนผู้ต้องขัง
ท่ัวประเทศกว่ำ 80,000 คน ไดส้ วมใส่ สำ� หรับเปำ้ หมำยของโครงกำร คือตอ้ งกำรให้ผู้ตอ้ งขังไดร้ ้สู กึ ถึงกำรมสี ว่ นรว่ ม
ทำ� ประโยชนใ์ หแ้ กป่ ระเทศในชว่ งทตี่ อ้ งเผชญิ กบั วกิ ฤต ิ และเพอ่ื ใหม้ กี จิ กรรมทำ� ในชว่ งทเ่ี รอื นจำ� อยภู่ ำยใตม้ ำตรกำรลอ็ กดำวน์
- ญ่ปี นุ่ ผ้ตู ้องขังทศ่ี นู ย์โปรแกรมกำรบ�ำบดั ฟนื้ ฟ ู Mine ไดช้ ว่ ยเหลอื สงั คมตอ่ สูก้ บั COVID-19 โดยกำรผลติ
หน้ำกำกผ้ำและหมวกป้องกันใบหน้ำ เพ่ือบรรเทำสภำวะขำดแคลนส่ิงของดังกล่ำว ทดแทนกำรผลิตเครื่องหนังและ
เครอ่ื งไม้ ทเี่ คยทำ� มำกอ่ นหน้ำน้ี ทั้งน้ ี ผู้ต้องขังกว่ำ 100 คน ใน Aomori, Kyoto, Osaka, Kakogawa, Yamaguchi,
Iwakuni และ Takamatsu รว่ มกนั ผลติ หนำ้ กำกจำ� นวน 66,000 ชน้ิ ตอ่ เดอื น เพอ่ื มอบใหแ้ กภ่ ำคเอกชนในเดอื นมนี ำคม
และผตู้ อ้ งขงั ท ่ี Kyoto และ Osaka ทำ� หนำ้ ทผ่ี ลติ หมวกปอ้ งกนั ใบหนำ้ ใหแ้ กบ่ คุ ลำกรทำงกำรแพทย ์ จำ� นวน 4,600 ชดุ
ตอ่ เดือน
- สหรัฐอเมริกา ผู้ต้องขงั ในหลำยมลรัฐ เชน่ เท็กซัส ฟลอริดำ้ ไอโอวำ่ เวอรจ์ เิ นยี โอเรกอน ฯลฯ ตำ่ งเรง่ กนั
ผลิตหน้ำกำกผ้ำส�ำหรับใช้ภำยในเรือนจ�ำและช่วยผลิตให้เพียงพอต่อกำรใช้งำนภำยนอก หลังจำกเกิดกำรขำดแคลน
หน้ำกำกและอุปกรณ์ทำงกำรแพทย์ โดยท่ีมลรัฐเท็กซัส ผู้ต้องขังหญิงท่ีเรือนจ�ำ Gatesville ผลิตหน้ำกำกผ้ำจ�ำนวน
กว่ำ 25,000 ชิ้น ซ่ึงแนวคิดนี้เกิดจำกอธิบดีกรมรำชทัณฑ์มลรัฐเท็กซัส ที่เล็งเห็นว่ำผู้ต้องขังในปัจจุบันได้ใช้แรงงำน
ในกำรผลติ เสอ้ื และผำ้ ปทู นี่ อนอยแู่ ลว้ จงึ สำมำรถประยกุ ตท์ กั ษะมำผลติ หนำ้ กำกผำ้ ได ้ นอกจำกน ี้ ยงั วำงแผนทจี่ ะผลติ
เสื้อคลุมยำวส�ำหรับป้องกันในอนำคต หำกสำมำรถหำชุดต้นแบบมำให้ผู้ต้องขังได้ ในมลรัฐนิวยอร์ก ผู้ต้องขังผลิต
เจลแอลกอฮอล์และผลิตภัณฑ์ท�ำควำมสะอำดมือภำยใต้แบรนด์ Corcraft ซ่ึงเป็นช่ือสินค้ำผลิตภัณฑ์ผู้ต้องขังของ
กรมรำชทณั ฑม์ ลรฐั นวิ ยอรก์ สำ� หรบั มลรฐั ไอโอวำ่ ผตู้ อ้ งขงั ทเี่ ขำ้ รว่ มโปรแกรมกำรฝกึ วชิ ำชพี ไดผ้ ลติ หนำ้ กำก 25,652 ชน้ิ
เสื้อคลุมยำวส�ำหรับป้องกัน 3,139 ชุด หมวกป้องกันใบหน้ำ 5,660 ชิ้น และผลิตภัณฑ์ท�ำควำมสะอำดมือ 7,148

แกลลอน ในขณะท่ีมลรัฐโอเรกอน กำรผลิตอุปกรณ์ต่ำง ๆ ด�ำเนินกำร
ผำ่ นบรรษทั รำชทณั ฑโ์ อเรกอน ซง่ึ เปน็ องคก์ รรฐั กงึ่ อสิ ระ กำ� หนดใหผ้ ตู้ อ้ งขงั
ผลิตหน้ำกำกผ้ำท่ัวไปจ�ำนวน 30,000 ช้ินเพื่อใช้ในกรมรำชทัณฑ์ และ
อยู่ระหว่ำงหำรือกับหน่วยงำนที่เก่ียวข้องในกำรผลิตหน้ำกำกส�ำหรับ
บุคลำกรทำงกำรแพทย์ซ่ึงก�ำลังขำดแคลน นอกจำกนั้น โรงงำนผลิต
เฟอร์นิเจอร์ภำยในทัณฑสถำนโอเรกอน ยังปรับประเภทกำรผลิต
มำประกอบทต่ี งั้ ผลติ ภณั ฑท์ ำ� ควำมสะอำดมอื ซงึ่ กำ� ลงั เปน็ ทต่ี อ้ งกำรของ
หนว่ ยงำนภำครัฐ

40 วารสารราชทัณฑ์

- ไตห้ วนั ผตู้ อ้ งขงั ชำยในเรอื นจำ� ไทเป ไดเ้ ปลย่ี นจำกกำรผลติ ชดุ เครอ่ื งแบบผตู้ อ้ งขงั มำเปน็ กำรผลติ หนำ้ กำกผำ้
เพือ่ ใชภ้ ำยในเรอื นจ�ำ และส�ำหรับสงั คมภำยนอก เจำ้ หน้ำที่เรือนจำ� เปิดเผยวำ่ ผูต้ ้องขังสำมำรถผลติ หนำ้ กำกได้วันละ
ประมำณ 1,000 ชนิ้ หนำ้ กำกเหลำ่ นจ้ี ะถกู จำ� หนำ่ ยในรำคำชน้ิ ละ 25 เหรยี ญไตห้ วนั (ประมำณ 83 เซน็ ต)์ โดยผตู้ อ้ งขงั
จะได้รับส่วนแบ่งจ�ำนวนหน่ึงจำกรำยได้ท้ังหมด โครงกำรน้ีช่วยสนับสนุนให้ผู้ต้องขังเกิดควำมรู้สึกว่ำได้ท�ำประโยชน ์
ให้แก่สังคม รวมถึงเพิ่มควำมภำคภูมิใจในตนเอง ผู้ต้องขังรำยหน่ึงกล่ำวว่ำ กำรได้ผลิตหน้ำกำกในเรือนจ�ำท�ำให้เกิด
ควำมรู้สึกวำ่ ไดช้ ่วยปกปอ้ งครอบครวั ของพวกเขำทอ่ี ย่ภู ำยนอก
- อินเดีย ผู้ต้องขังในเรือนจ�ำ Telangana, Cherlapally และ Chanchalguda ได้รับกำรฝึกสอนให้ผลิต
หน้ำกำกและผลิตภัณฑ์ท�ำควำมสะอำดมือจำกผู้เช่ียวชำญกำรตัดเย็บและนักเคมีตำมล�ำดับ โดยน�ำออกจ�ำหน่ำย
ภำยใตแ้ บรนด ์ ‘My Nation’ ในรำคำถกู กวำ่ ทข่ี ำยอยใู่ นทอ้ งตลำด ซงึ่ จะจำ� หนำ่ ยพรอ้ มกบั ชดุ สขุ อนำมยั ประกอบดว้ ย
หนำ้ กำกผำ้ ซกั ได ้ ผลติ ภณั ฑท์ ำ� ควำมสะอำดมอื สบสู่ ำ� หรบั ลำ้ งมอื และอำบนำ้� ในแตล่ ะวนั ผตู้ อ้ งขงั สำมำรถผลติ หนำ้ กำก
ได้ประมำณ 9,000 ชิ้น และผลิตภัณฑ์ท�ำควำมสะอำด 3,000 ลิตร ทั้งนี้ ภำยหลังกำรผลิตกรมรำชทัณฑ์จะจัดส่ง
ผลติ ภัณฑ์และอปุ กรณเ์ หลำ่ นี้ให้แกห่ น่วยงำนภำครฐั ต่ำง ๆ อำทิ บคุ ลำกรทำงกำรแพทยข์ องเรอื นจ�ำ เจ้ำหน้ำท่ตี ำ� รวจ
เจำ้ หนำ้ ทไ่ี ปรษณยี ์ เจ้ำหน้ำท่กี ำรไฟฟ้ำ รวมท้ังภำคเอกชนหลำยแหง่ ท่สี ั่งผลติ ภณั ฑจ์ ำกเรอื นจ�ำเชน่ กนั
- เบลเยยี่ ม ผตู้ อ้ งขงั ในเรอื นจำ� ประเทศเบลเยยี่ มผลติ หนำ้ กำกผำ้ แบบนำ� มำใชซ้ ำ้� ไดจ้ ำ� นวน 42,000 ชน้ิ เพอื่ ให้
ผู้ต้องขังและเจ้ำหน้ำที่เรือนจ�ำได้สวมใส่ท่ำมกลำงภำวะกำรขำดแคลนในประเทศ กำรผลิตส่วนใหญ่เกิดข้ึนในโรงงำน
เยบ็ ผำ้ ทม่ี อี ยแู่ ลว้ ในเรอื นจำ� โดยปจั จบุ นั กำรผลติ หนำ้ กำกผำ้ ดำ� เนนิ กำรหลกั ในเรอื นจำ� 4 แหง่ แตก่ ย็ งั ถอื วำ่ ไมเ่ พยี งพอ
กบั ควำมต้องกำรและกำรสั่งซ้อื จำกหนว่ ยงำนภำยนอกที่มเี ข้ำมำอย่ำงตอ่ เน่ือง

3. กำรพิพำกษำประหำรชีวิตผำ่ นโปรแกรม Zoom

ด้วยสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดของ COVID-19
หลำยประเทศไดร้ ะงบั กำรพจิ ำรณำคดขี องศำลเปน็ กำรชว่ั ครำว
หรือเลื่อนก�ำหนดออกไปก่อน อย่ำงไรก็ดี ในบำงประเทศ
ได้น�ำเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ำมำใช้ในลักษณะกำรพิจำรณำคดี
ทำงไกล โดยผู้ต้องขังไม่ต้องเดินทำงมำที่ศำลด้วยตนเอง
ทงั้ น ้ี พบวำ่ ไดเ้ กดิ กำรพพิ ำกษำตดั สนิ ประหำรชวี ติ ผกู้ ระทำ� ผดิ
ใน 2 ประเทศ ไดแ้ ก ่ ประเทศสงิ คโปรแ์ ละไนจเี รยี ซง่ึ กลำยเปน็
ท่ีสนใจของสื่อมวลชน และถูกวิพำกษ์วิจำรณ์อย่ำงมำก
จำกองคก์ รสิทธมิ นษุ ยชนระหว่ำงประเทศ
- สงิ คโปร ์ ศำลฎกี ำสงิ คโปรไ์ ดพ้ พิ ำกษำประหำรชีวิต
แขวนคอผู้กระท�ำผิดอำยุ 37 ปี ในคดีค้ำยำเสพติดผ่ำนทำง
โปรแกรม Zoom ซงึ่ นอกจำกผตู้ อ้ งขงั ทฟี่ งั คำ� พพิ ำกษำในเรอื นจำ�
ทำงทนำยควำมและอัยกำรในคดีได้ร่วมรับฟังค�ำพิพำกษำ
ผำ่ นทำงโปรแกรมในสถำนทท่ี แ่ี ตกตำ่ งกนั อนงึ่ ถอื เปน็ คดแี รก
ในประวตั ศิ ำสตรป์ ระเทศสงิ คโปรท์ ม่ี กี ำรพพิ ำกษำประหำรชวี ติ
ทำงไกล โดยโฆษกของศำลแถลงว่ำ กำรพิจำรณำคดดี งั กลำ่ ว

วารสารราชทัณฑ์ 41

ดำ� เนนิ กำรเพ่อื ควำมปลอดภยั ของทุกฝำ่ ยทเี่ ก่ยี วข้อง ในขณะทีอ่ งค์กำร Human Rights Watch ประณำมกำรกระท�ำ
น้ีว่ำเป็นกำรปฏิบัติท่ีโหดร้ำยทำรุณและไร้ซ่ึงมนุษยธรรม เนื่องจำกผู้ถูกพิพำกษำให้ประหำรชีวิตควรมีสิทธิแสดงตน
ต่อศำล และเผชิญหน้ำกับผู้ที่กล่ำวหำตน อย่ำงไรก็ดี ภำยหลังกำรตัดสิน ทนำยควำมของผู้ต้องขังเตรียมหำรือเพ่ือ
ย่ืนอทุ ธรณ์ต่อไป
- ไนจีเรีย เน่ืองจำกสถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำด COVID-19 ผู้พิพำกษำศำลในเมือง Lagos ได้ตัดสิน
ประหำรชวี ติ แขวนคอผตู้ อ้ งขงั ผำ่ นโปรแกรม Zoom ในคดฆี ำตกรรมมำรดำของนำยจำ้ งซง่ึ ผตู้ อ้ งขงั ไดป้ ฏเิ สธขอ้ กลำ่ วหำ
กำรพิจำรณำคดีใช้เวลำท้ังหมดเกือบ 3 ช่ัวโมง โดยมีทนำยควำมและอัยกำรเข้ำร่วมรับฟังผ่ำนโปรแกรมดังกล่ำว
ซง่ึ ถอื เปน็ ครัง้ แรกในประเทศไนจเี รียดว้ ยเช่นกันทม่ี ีกำรประหำรชวี ติ ทำงโปรแกรม
ในขณะทยี่ งั ไมม่ ใี ครทรำบวำ่ สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของ COVID-19 ในโลกจะยตุ ลิ งเมอ่ื ใด ดงั นน้ั คงตอ้ ง
ติดตำมกันต่อไปในวำรสำรรำชทัณฑ์ฉบับหน้ำว่ำ คอลัมน์เลำะร้ัวรำชทัณฑ์รอบโลกจะยังคงเป็นฉบับเฉพำะกิจ
COVID-19 เพ่อื ถ่ำยทอดเรือ่ งรำวของเรอื นจำ� และกำรแพรร่ ะบำดของไวรัสโคโรนำอกี หรือไม่

ทีม่ าของข้อมูล
- https://www.voanews.com/covid-19-pandemic/singapore-sentences-man-death-zoom
- https://www.bbc.com/news/world-africa-52560918
- https://www.richmond.com/special-report/coronavirus/inmates-have-made-half-a-million-
face-masks-during-pandemic-now-some-are-raising-concerns/article_a65e487b-4aa8-5310-9815-
f998cee33ed4.html
- https://abcnews.go.com/International/wireStory/belgian-inmates-make-42000-reusable-masks-
covid-19-70365269
- https://edition.cnn.com/2020/03/22/us/texas-coronavirus-mask-trnd/index.html
- https://www.washingtonpost.com/nation/2020/04/13/florida-inmates-face-masks/
- https://www.timesrepublican.com/news/outdoors-today/2020/04/iowa-prison-inmates-make-
their-own-face-masks/
- https://www.japantimes.co.jp/news/2020/03/11/world/taiwan-prisons-coronavirus-masks/#.
XtRhR1QzaM8
- https://www.deccanchronicle.com/nation/in-other-news/130420/inmates-in-telangana-prisons-
produce-masks-and-sanitisers.html
- https://www.kgw.com/article/news/health/coronavirus/inmates-in-oregon-could-be-one-
solution-to-the-coronavirus-face-mask-shortage/283-59cf0743-edb1-49db-a15b-c1ed47630341

42 วารสารราชทัณฑ์

สรปุ สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำด COVID–19
ในเรือนจ�ำต่ำงประเทศ1
ดร. พิมพพ์ ร เนตรพกุ กณะ
กลุม่ งำนรำชทัณฑต์ ำ่ งประเทศ

สถำนกำรณ์ไวรัสโคโรนำสำยพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ COVID–19 ถือว่ำมีควำมรุนแรงเกินกว่ำใครจะคำดคิด
ปัจจุบันมีประชำกรทั่วโลกติดเชื้อโรคดังกล่ำวแล้ว 28 ล้ำนคน (รักษำหำยแล้ว 19 ล้ำนคน) และมีผู้เสียชีวิตรวมกว่ำ
922,725 รำย (สถิติ ณ วันท่ี 14 กันยำยน 2563) ถือเป็นปรำกฏกำรณ์ท่ีสร้ำงควำมหวำดกลัวและสั่นสะเทือน
ทกุ ภำคสว่ นในสงั คมโลก สง่ ผลใหห้ นว่ ยงำนทกุ ระดบั จำ� เปน็ ตอ้ งกำ� หนดมำตรกำรและแนวทำงทเี่ กย่ี วขอ้ งใหค้ รอบคลมุ
ตงั้ แต่กำรปอ้ งกนั กำรควบคุมกำรแพร่ระบำด กำรบำ� บดั รักษำ กำรศึกษำวจิ ยั กำรเยียวยำช่วยเหลือ รวมถงึ บทลงโทษ
หำกมกี ำรฝำ่ ฝนื กฎในสถำนกำรณ์เช่นนี ้

ส�ำหรับเรือนจ�ำทัณฑสถำนน้ัน ก็ไม่อำจหลีกหนีกำร เอกสำรคำ� แนะน�ำ “การเตรยี มพร้อม การปองกนั และการ
แพรร่ ะบำดขำ้ งตน้ ได ้ ในควำมเปน็ จรงิ แลว้ เรอื นจำ� และสถำนทคี่ มุ ขงั ควบคมุ COVID-19 ในเรือนจําและสถานท่ีคมุ ขงั อน่ื ๆ”
ถอื วำ่ เปน็ สถำนทท่ี เี่ ปรำะบำงและสมุ่ เสย่ี งตอ่ กำรแพรร่ ะบำดเชอ้ื โรค ขององคก์ ำรอนำมยั โลก (ทมี่ ำ: องคก์ ำรอนำมัยโลก)
ได้มำกกว่ำสถำนท่ีอ่ืน สืบเน่ืองจำกเหตุผลส�ำคัญ น่ันคือ สภำพ
ควำมแออัดของผู้ต้องขัง ท่ีซึ่งคนจ�ำนวนมำกต้องอยู่ใกล้ชิดกันใน
พน้ื ทอี่ นั จำ� กดั ตลอดเวลำอยำ่ งหลกี เลย่ี งไมไ่ ด ้ และไมอ่ ำจเวน้ ระยะหำ่ ง
ทำงสังคม (social distancing) ได้แบบภำยนอก ร่วมกับสภำวะ
ควำมเจบ็ ปว่ ยเดมิ ของผตู้ อ้ งขงั กำรเขำ้ ถงึ บรกิ ำรทำงกำรแพทยแ์ ละ
สขุ อนำมยั สว่ นบคุ คลทอี่ ำจมขี อ้ จำ� กดั มำกกวำ่ ประชำชนทวั่ ไป ดงั นน้ั
หน่วยงำนที่เก่ียวข้อง ทั้งองค์กำรอนำมัยโลก (World Health
Organization: WHO) คณะกรรมกำรกำชำดระหว่ำงประเทศ
(International Committee of the Red Cross: ICRC) และ
กรมควบคุมโรค กระทรวงสำธำรณสุข ต่ำงเน้นย�้ำให้ผู้ก�ำหนด
นโยบำยท้ังหลำยตระหนักถึงควำมรุนแรงหำกเกิดกำรแพร่ระบำด
พรอ้ มทงั้ เผยแพรเ่ อกสำรคมู่ อื คำ� แนะนำ� สำ� หรบั ผปู้ ฏบิ ตั งิ ำนในเรอื นจำ�
และสถำนที่คุมขังเพื่อก�ำหนดมำตรกำรป้องกันและควบคุมกำร
แพรร่ ะบำดได้อย่ำงทนั ทว่ งทีและมปี ระสทิ ธภิ ำพ

กรณปี ระเทศไทย มีรำยงำนยืนยนั ผลกำรตดิ เชื้อหลงั กำ� แพงรวม 5 รำย เปน็ ผตู้ อ้ งขัง 1 รำย ผ้เู ข้ำรบั กำรตรวจ
พิสูจน์ 1 รำย ผู้บัญชำกำรเรือนจ�ำ 1 รำย และเจ้ำหน้ำท่ีเรือนจ�ำ 2 รำย (ท้ังหมดรักษำหำยเป็นปกติแล้ว) ในขณะ
ที่สถำนกำรณ์กำรแพร่ระบำดในเรือนจ�ำประเทศอื่น ๆ เม่ือค้นคว้ำจำกแหล่งข้อมูลเปิด เช่น เว็บไซต์หน่วยงำนหรือ
เว็บไซต์สำ� นกั ข่ำวต่ำง ๆ สำมำรถสรุปกำรติดเชอ้ื และเสยี ชวี ิตของผู้ต้องขงั และเจ้ำหนำ้ ทไ่ี ด้ ดงั นี้

1 เผยแพรค่ รงั้ แรกเม่อื วนั ท ่ี 10 เมษำยน 2563 ทำงเวบ็ ไซต์ https://www.gotoknow.org/posts/676821#0 สำ� หรบั เนือ้ หำใน
บทควำมนจี้ ะเปน็ กำรปรบั ปรงุ ข้อมูลสถิติเดิมให้เปน็ ปัจจบุ นั (ณ วันท่ี 27 พฤษภำคม 2563)
วารสารราชทัณฑ 43

ตารางท่ี 1 จ�านวนการตดิ เช้ือและเสยี ชีวติ ของผูต้ ้องขงั และเจา้ หน้าทใ่ี นเรอื นจา� ตา่ งประเทศจาก COVID–19

ประเทศ ผตู้ อ้ งขัง (คน) เจ้าหนา้ ที่เรอื นจา� (คน)
ติดเชื้อ เสยี ชีวิต ติดเช้ือ เสียชีวิต
สหรฐั อเมรกิ า (รัฐบาลกลาง) 1,577 64 181 -
สหรฐั อเมริกา (มลรฐั )
3,340 62 356 2
- มิชแิ กน 1,216 9 262 -
- แคลิฟอรเ์ นยี 1,434 11 256 -
- ฟลอริดา้ 375 8 165 -
- แมสซาชเู ซตส์ 492 16 1,270 4
- นวิ ยอร์ก (prison) 545 3 1,390 9
- นิวยอรก์ (jail) 413 17 158 1
- จอร์เจีย 2,495 36 758 7
- เทก็ ซัส 215 13 169 -
- อิลลนิ อยส์ (prison) 548 7 426 3
- อลิ ลินอยส์ (jail) 644 5 41
- นอร์ทแคโรไลนา 1,481 42 737 3
- นิวเจอรซ์ ีย์ 151 6 69 -
- อรโิ ซนา 399 21 493 8
องั กฤษและเวลส์ 120 2 302 1
ฝรงั่ เศส 60 1 258 -
สเปน 159 4 215 4
อติ าลี 17 - 62 -
เบลเยีย่ ม 238 - 980 -
รัสเซีย 191 - 79 -
ตรุ กี 360 2 9-
แคนาดา 5-
ออสเตรเลีย -- 7 n/a
จีน 806 n/a
ฟิลิปปินส์ 33 -
- Bureau of Corrections 194 6 13 -
- Bureau of Jail Management and Penology 517 - 1,118 17
บราซิล 830 30 7-
บงั คลาเทศ 31 1 236 1
แอฟริกาใต้ 473 3

หมำยเหต ุ : (1) ข้อมูลจำกกำรสบื ค้น ณ วันท่ี 27 พฤษภำคม 2563 (2) n/a หมำยถงึ ไมป่ รำกฏข้อมลู

44 วารสารราชทัณฑ์

จำกข้อมูลของต่ำงประเทศ มีประเด็นที่น่ำสนใจ สนำมออกก�ำลงั กำยในเรอื นจ�ำ Huntingdon ถกู ปรบั เปลี่ยน
หลำยประกำร ประการแรกเกย่ี วกบั จำ� นวนผตู้ ดิ เชอ้ื จะเหน็ ให้เป็นสถำนพยำบำลสำ� หรับผ้ตู ้องขงั ท่ตี ิดเชือ้
ได้ว่ำกำรแพร่ระบำดในเรือนจ�ำส่วนใหญ่มีควำมสอดคล้อง
กบั กำรแพรร่ ะบำดของ COVID-19 ในสงั คมขำ้ งนอก กลำ่ วคอื COVID-19 (ที่มำ: กรมรำชทัณฑม์ ลรัฐเพนซิลเวเนยี )
ประเทศมสี ถำนกำรณร์ นุ แรง จะพบกำรตดิ เชอื้ ของผตู้ อ้ งขงั
และเจ้ำหน้ำท่ีในเรือนจ�ำท่ีมีจ�ำนวนมำกเช่นกัน ดังเช่น
ในสหรัฐอเมรกิ ำ บรำซิล ฝรงั่ เศส อังกฤษและเวลส์ เป็นต้น
ในขณะทบ่ี ำงประเทศหรอื บำงมลรฐั กลบั พบเหน็ กำรตดิ เชอื้
ของเจ้ำหน้ำที่เรือนจ�ำมำกกว่ำผตู้ อ้ งขัง อำทิ บรำซิล รัสเซีย
สเปนและมลรัฐนิวยอร์ก หรือแม้กระทั่งออสเตรเลีย
ทพ่ี บกำรตดิ เชอื้ ของเจำ้ หนำ้ ทโ่ี ดยยงั ไมพ่ บกรณขี องผตู้ อ้ งขงั

อยำ่ งไรกด็ ี หำกดขู อ้ มลู เชงิ ลกึ จำกสถำนกำรณใ์ นสหรฐั อเมรกิ ำ จะพบจำ� นวนผตู้ ดิ เชอื้ ในเรอื นจำ� ทเี่ รยี กวำ่ jail มำกกวำ่
เรอื นจำ� แบบ prison คอ่ นขำ้ งชดั หำกอธบิ ำยครำ่ ว ๆ เรอื นจำ� แบบ jail ในสหรฐั อเมรกิ ำ มไี วส้ ำ� หรบั ควบคมุ ผตู้ อ้ งขงั ระหวำ่ ง
พจิ ำรณำคด ี หรอื ผตู้ อ้ งขงั คดลี หโุ ทษ มกี ำ� หนดโทษตำ�่ และมกั อยภู่ ำยใตก้ ำรบรหิ ำรจดั กำรของหนว่ ยงำนระดบั ทอ้ งถนิ่ ในลกั ษณะ
local jail/county jail/city jail แตกตำ่ งจำกเรอื นจำ� ประเภท prison ทมี่ ไี วส้ ำ� หรบั คมุ ขงั ผกู้ ระทำ� ผดิ ในคดรี นุ แรงกวำ่
หรอื มกี ำ� หนดโทษสงู กวำ่ และอยภู่ ำยใตก้ ำรกำ� กบั ของกรมรำชทณั ฑร์ ะดบั มลรฐั หรอื รฐั บำลกลำง ซง่ึ เรอื นจำ� ประเภท jail
จะได้รับผลกระทบจำกกำรแพร่ระบำดของ COVID–9 มำกกว่ำเรือนจ�ำประเภท prison เพรำะมีสภำพทำงกำยภำพ
ของสถำนทท่ี แี่ ออดั หนำแนน่ ตลอดจนสภำวะควำมเปน็ อยขู่ องผตู้ อ้ งขงั ทย่ี ำ่� แยก่ วำ่ เรอื นจำ� ประเภท prison อยพู่ อสมควร
กอปรกบั กำรรบั ตวั คนเขำ้ ใหมส่ ู่สถำนทีค่ มุ ขังมีมำกและถ่ีกว่ำเรือนจำ� แบบ prison

วารสารราชทัณฑ์ 45

ประการตอ่ มา ทกุ ระบบงำนรำชทณั ฑต์ ำ่ งออกมำตรกำรและแนวทำงตำมบรบิ ททเ่ี หมำะสมของตนเองเพอื่ รองรบั
สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดในสถำนทค่ี มุ ขงั เชน่ กรมรำชทณั ฑร์ ฐั บำลกลำงสหรฐั อเมรกิ ำ ออกเปน็ แผนปฏบิ ตั กิ ำร (BOP
COVID-19 Operations Plan) องั กฤษและเวลสเ์ ผยแพรค่ ำ� แนะนำ� COVID–19 ในเรอื นจำ� และสถำนทคี่ มุ ขงั โดยเมอื่ พจิ ำรณำ
จำกหลำย ๆ ประเทศ พบวำ่ มำตรกำรทใ่ี ชล้ ว้ นเปน็ ไปในทศิ ทำงเดยี วกนั ประกอบดว้ ย กำรงดเยยี่ มญำตทิ เี่ รอื นจำ� โดยเดด็ ขำด
แตเ่ พม่ิ ชอ่ งทำงและตำรำงเวลำใหผ้ ตู้ อ้ งขงั สำมำรถตดิ ตอ่ กบั ครอบครวั ไดม้ ำกขน้ึ ผำ่ นกำรโทรศพั ท ์ กำรสง่ ขอ้ ควำมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ์
กำรเยยี่ มผำ่ นโปรแกรม Skype กำรเขยี น Email กำรเยย่ี มแบบ VDO (เรอื นจำ� จะยกเวน้ คำ่ ธรรมเนยี ม หรอื คดิ ในอตั รำตำ�่ เปน็
พเิ ศษ) กำรจำ� กดั กำรเคลอ่ื นยำ้ ยผตู้ อ้ งขงั ใหน้ อ้ ยทส่ี ดุ กระบวนกำรคดั กรองวดั อณุ หภมู ริ ำ่ งกำยและกกั ตวั ตำมระยะเวลำทก่ี ำ� หนด
แนวทำงกำรคดั กรองผตู้ อ้ งขงั เขำ้ ใหม่ กำรหำ้ มเจำ้ หนำ้ ทเี่ ดนิ ทำงออกนอกพนื้ ท ่ี รวมถงึ กระบวนกำรปฏบิ ตั ติ วั ภำยในเรอื นจำ�
กรณตี รวจพบผตู้ อ้ งขงั ตอ้ งสงสยั หรอื ผตู้ อ้ งขงั ยนื ยนั กำรตดิ เชอ้ื กำรทำ� ควำมสะอำดพน้ื ทหี่ รอื วสั ดอุ ปุ กรณ ์ กำรสวมใสช่ ดุ อปุ กรณ์
ปอ้ งกนั ตนเอง แนวทำงกำรลดกำรรวมกลมุ่ ของผตู้ อ้ งขงั ในรปู แบบกำรสลบั เวลำทำ� กจิ กรรมตำ่ ง ๆ แมก้ ระทง่ั ขอ้ ควำมหรอื
โปสเตอรเ์ ผยแพรข่ อ้ มลู ควำมรทู้ ถ่ี กู ตอ้ ง และแนวทำงกำรดแู ลสขุ อนำมยั รกั ษำควำมสะอำดปอ้ งกนั กำรตดิ เชอื้ โรคภำยใน
เรอื นจำ� สำ� หรบั ผตู้ อ้ งขงั เชน่ กำรใสห่ นำ้ กำก กำรลำ้ งมอื บอ่ ย ๆ กำรสงั เกตอำกำรควำมเจบ็ ปว่ ย ทงั้ น ้ี มำตรกำรและแนวทำง
สว่ นใหญจ่ ะเปน็ กำรประยกุ ตต์ ำมเอกสำรคำ� แนะนำ� ขององคก์ ำรอนำมยั โลกและหนว่ ยงำนควบคมุ โรคของประเทศ/มลรฐั นนั้ ๆ
ประการสดุ ทา้ ย เกยี่ วกบั ขอ้ เสนอใหม้ กี ำรปลอ่ ยตวั ผตู้ อ้ งขงั เพอ่ื เปน็ กำรบรรเทำควำมรนุ แรงและควำมเสยี่ งในกำร
แพรร่ ะบำดของ COVID–19 สำมำรถพบเหน็ ไดใ้ นหลำยระบบงำนรำชทณั ฑ ์ แตท่ วำ่ ขอ้ เสนอน ี้ ถอื วำ่ ยงั มคี วำมเหน็ ทแี่ ตกตำ่ งกนั
อยพู่ อสมควร กลำ่ วคอื กลมุ่ แรก ทม่ี กั เปน็ ขอ้ เรยี กรอ้ งของฝง่ั ทนำยควำมหรอื ครอบครวั ของผตู้ อ้ งขงั ตลอดจนหนว่ ยงำนดำ้ นสทิ ธิ
มนษุ ยชน ลว้ นพยำยำมเสนอใหร้ ฐั เรง่ ระบำยคนออกจำกเรอื นจำ� ใหเ้ กดิ พน้ื ทหี่ รอื ระยะหำ่ งใหม้ ำกขน้ึ เบอื้ งตน้ มงุ่ เนน้ ไปท ่ี
กลมุ่ คนทเี่ ปรำะบำงหรอื เสย่ี งตอ่ กำรตดิ เชอื้ มำกกวำ่ คนกลมุ่ อน่ื เชน่ ผตู้ อ้ งขงั สงู อำย ุ ผตู้ อ้ งขงั ทป่ี ว่ ยหนกั ผตู้ อ้ งขงั หญงิ ตงั้ ครรภ์
และมบี ตุ รตดิ เปน็ ตน้ รว่ มกบั ผตู้ อ้ งขงั กลมุ่ ทโ่ี ทษเหลอื นอ้ ยไมเ่ กนิ 2 เดอื น และกระทำ� ควำมผดิ ในคดเี ลก็ นอ้ ย ซง่ึ กำรปลอ่ ยตวั น ี้
มตี ง้ั แตป่ ลอ่ ยตวั กอ่ นพน้ กำ� หนดโทษเดมิ ไปเลยหรอื อำจยำ้ ยใหไ้ ปคมุ ขงั ทบ่ี ำ้ นแทน โดยสวมอปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สต์ ดิ ตำมตวั
เพอื่ ตดิ ตำมพฤตกิ รรม

46 วารสารราชทัณฑ์

กำรดำ� เนนิ กำรระบำยคนออกเชน่ น ้ี อำศยั
อำ� นำจตำมกฎระเบยี บทไี่ มเ่ หมอื นกนั มตี ง้ั แตอ่ ำ� นำจ
ฝำ่ ยบรหิ ำร อำ� นำจของศำล จนกระทง่ั ถงึ อำ� นำจของ
รัฐมนตรีว่ำกำรกระทรวงท่ีรับผิดชอบงำนเรือนจ�ำ
เปน็ ทน่ี ำ่ สงั เกตวำ่ ในสหรฐั อเมรกิ ำ จะพบกำรปลอ่ ยตวั
หรือระบำยคนออกจำกเรือนจ�ำประเภท jail
ค่อนข้ำงเยอะ (อำทิ city jail และ county jail
ในนวิ ยอรก์ แคลฟิ อรเ์ นยี โอไฮโอ เทก็ ซสั อลำบำมำ
โคโลรำโด และนวิ เจอรซ์ ยี ์ ฯลฯ) บำงแหง่ มจี ำ� นวน
ผู้ต้องขังลดลงเกือบคร่ึง สำเหตุหน่ึง เพรำะสภำพ
ของเรอื นจำ� แบบ jail ทก่ี ลำ่ วไปในตอนตน้ ทส่ี มุ่ เสยี่ ง
ตอ่ กำรแพรร่ ะบำดในระดบั ทรี่ นุ แรงและอนั ตรำยกวำ่
เรอื นจำ� แบบ prison ซงึ่ สว่ นใหญจ่ ะมงุ่ เนน้ ไปทก่ี ำรปรบั
เกณฑ์กำรพักกำรลงโทษและกำรปล่อยตัวแบบ
มเี งอ่ื นไขอนื่ ๆ ใหผ้ ตู้ อ้ งขงั ไดร้ บั กำรพจิ ำรณำเรว็ ขน้ึ ในกรณนี ี้ อำ� นำจสว่ นใหญจ่ ะอยทู่ คี่ ณะกรรมกำรพจิ ำรณำพกั กำรลงโทษ
หรอื Parole Board ทเ่ี รง่ คดั กรองตรวจสอบคณุ สมบตั แิ ละพจิ ำรณำคำ� รอ้ งใหบ้ อ่ ยมำกขน้ึ กวำ่ ปกต ิ (เชน่ ในมลรฐั แคลฟิ อรเ์ นยี
ไอโอวำ จอรเ์ จยี มชิ แิ กน) นอกจำกสหรฐั อเมรกิ ำ ณ ขณะนจ้ี ะเหน็ ขอ้ มลู กำรปลอ่ ยตวั ของผตู้ อ้ งขงั ในประเทศอน่ื ๆ ยกตวั อยำ่ ง
เชน่ อหิ รำ่ น (85,000 คน) อนิ โดนเี ซยี (ตงั้ เปำ้ 30,000 คน) ฟลิ ปิ ปนิ ส ์ องั กฤษและเวลส ์ โคลอมเบยี อนิ เดยี (18,000 คน) ปำกสี ถำน
(4,000 คน) แอฟรกิ ำใต ้ (19,000 คน) และอฟั กำนสิ ถำน (ประมำณ 10,000 คน) เปน็ ตน้
อยำ่ งไรกด็ ี กลมุ่ ทส่ี อง คอื ประเทศหรอื มลรฐั ทย่ี งั ไมม่ นี โยบำยกำรปลอ่ ยตวั แบบกลมุ่ แรก ดว้ ยมมุ มองหลกั ทวี่ ำ่
สง่ิ สำ� คญั ทสี่ ดุ ในสถำนกำรณเ์ ชน่ น ี้ ควรเปน็ กำรดำ� เนนิ กำรปอ้ งกนั ตอ่ ส ู้ และควบคมุ กำรตดิ เชอ้ื ภำยในเรอื นจำ� ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ ำพ
ไมใ่ หเ้ กดิ กำรแพรร่ ะบำด หรอื กำรจำ� กดั กรณกี ำรตดิ เชอ้ื ใหน้ อ้ ยทสี่ ดุ กำรคดั กรองและกกั ตวั กำรเนน้ สขุ อนำมยั ทมี่ อื รวมถงึ
กำรดแู ลรกั ษำผปู้ ว่ ยมำกกวำ่ กำรปลอ่ ยผตู้ อ้ งขงั ออกมำ อนั ทจี่ รงิ บำงกลมุ่ เลง็ เหน็ วำ่ กำรปลอ่ ยตวั ผตู้ อ้ งขงั จำ� นวนเพยี งหลกั รอ้ ย
ถงึ หลกั หมนื่ คน ไมไ่ ดช้ ว่ ยใหส้ ภำพควำมแออดั ในเรอื นจำ� และสถำนทค่ี มุ ขงั ดขี น้ึ หรอื จะชว่ ยควบคมุ สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำด
ของ COVID–19 ไดอ้ ยำ่ งมนี ยั สำ� คญั ในทำงตรงกนั ขำ้ มกำรปลอ่ ยตวั ผตู้ อ้ งขงั จะทำ� ใหส้ งั คมภำยนอกเกดิ ควำมหวำดกลวั
ตอ่ ควำมปลอดภยั ในชวี ติ และทรพั ยส์ นิ หรอื กรณเี หยอ่ื อำชญำกรรมทอ่ี ำจรสู้ กึ เปน็ กงั วล ยงิ่ เปน็ กำรสรำ้ งควำมตนื่ ตระหนก
ตอ่ ประชำชนเพม่ิ ขนึ้ อกี นอกจำกควำมหวำดกลวั ในกำรตดิ เชอื้ โรคอยแู่ ลว้ ซงึ่ ประเดน็ นหี้ มำยควำมรวมถงึ ควำมพยำยำมในกำร
ชะลอกำรสง่ ตวั ผถู้ กู กลำ่ วหำและผกู้ ระทำ� ผดิ เขำ้ สสู่ ถำนทค่ี มุ ขงั เนอื่ งจำกศำลในบำงประเทศมกี ำรพจิ ำรณำคดใี หผ้ ถู้ กู กลำ่ วหำ
ไดร้ บั กำรประกนั ตวั งำ่ ยขนึ้ หรอื เลอื่ นกำรพจิ ำรณำคดอี อกไปกอ่ นจนกวำ่ สถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดจะคลค่ี ลำย
เปน็ ทนี่ ำ่ ยนิ ดวี ำ่ หลำยประเทศยงั สำมำรถปกปอ้ งรกั ษำดนิ แดนในเรอื นจำ� ของตนเองไดอ้ ยำ่ งเขม้ แขง็ เชน่ นวิ ซแี ลนด ์
ฟนิ แลนด ์ และสงิ คโปร ์ ฯลฯ ทย่ี งั ไมพ่ บกำรตดิ เชอ้ื ทเ่ี รอื นจำ� ไหนเลยทง้ั ในกลมุ่ ผตู้ อ้ งขงั และเจำ้ หนำ้ ท ่ี แตถ่ งึ แมจ้ ะยงั ไมพ่ บ
กำรตดิ เชอ้ื ประเทศเหลำ่ นกี้ ต็ อ้ งเตรยี มพรอ้ มรบั สถำนกำรณ ์ โดยเฉพำะกำรบรหิ ำรจดั กำรควำมหวำดกลวั และควำมตงึ เครยี ด
ทจี่ ะสะสมมำกขน้ึ เรอ่ื ย ๆ ดงั นนั้ กำรสอ่ื สำรทำ� ควำมเขำ้ ใจ กำรใหค้ ำ� ปรกึ ษำและชว่ ยเหลอื ผตู้ อ้ งขงั และเจำ้ หนำ้ ทจี่ งึ ถอื วำ่ มี
ควำมสำ� คญั ไมน่ อ้ ยไปกวำ่ กนั มฉิ ะนน้ั อำจเกดิ ควำมวนุ่ วำยและกำรกอ่ จลำจลไดง้ ำ่ ย ๆ ดงั เหตกุ ำรณค์ วำมรนุ แรงทเ่ี กดิ ขนึ้ แลว้
ในเรอื นจำ� ประเทศอติ ำล ี โคลมั เบยี อหิ รำ่ น และประเทศไทย เมอ่ื หนั กลบั มำมองสถำนกำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดของ COVID-19
ในเรอื นจำ� ทณั ฑสถำนประเทศไทย สถติ กิ ำรตดิ เชอื้ เพยี ง 5 รำย ถอื วำ่ ประสบควำมสำ� เรจ็ ดำ้ นกำรรบั มอื กบั วกิ ฤตไิ วรสั โคโรนำ

วารสารราชทัณฑ์ 47

ในลำ� ดบั ตน้ ๆ ของโลก องคป์ ระกอบสำ� คญั ทมี่ ผี ลอยำ่ งมำก คอื กำรกำ� หนดมำตรกำรกำรปอ้ งกนั และแพรร่ ะบำดทร่ี วดเรว็
และมปี ระสทิ ธภิ ำพ รวมทง้ั กำรตดิ ตำมเฝำ้ ระวงั ของผบู้ รหิ ำรและผปู้ ฏบิ ตั งิ ำนเรอื นจำ� อยำ่ งใกลช้ ดิ ประกอบกบั กำรบรู ณำกำร
ควำมรว่ มมอื กบั ภำคสว่ นตำ่ ง ๆ โดยเฉพำะกระทรวงสำธำรณสขุ ทเ่ี ขำ้ มำชว่ ยดแู ลใหค้ ำ� แนะนำ� กำรดำ� เนนิ กำรทเ่ี ปน็ ประโยชน์
ตลอดจนประชำชนและภำคเอกชนทร่ี ว่ มสนบั สนนุ มอบสง่ิ ของอปุ กรณท์ จ่ี ำ� เปน็ ในกำรปอ้ งกนั กำรแพรร่ ะบำดเชอื้ โรคในเรอื นจำ�
ยง่ิ ไปกวำ่ นน้ั กไ็ มอ่ ำจมองขำ้ มควำมรว่ มมอื จำกผตู้ อ้ งขงั และญำต ิ ทย่ี นิ ดปี ฏบิ ตั ติ ำมมำตรกำรทกี่ รมรำชทณั ฑก์ ำ� หนดดว้ ย
ควำมเขำ้ ใจ ในขณะทว่ี กิ ฤตกิ ำรณก์ ำรแพรร่ ะบำดเชอ้ื โรคทอ่ี บุ ตั ขิ น้ึ มำใหมน่ ี้ ยงั ไมท่ รำบแนช่ ดั วำ่ จะยตุ ลิ งเมอ่ื ใด ระบบงำนรำชทณั ฑ์
กต็ อ้ งเตรยี มพรอ้ มยนื หยดั ในกำรตอ่ สไู้ มต่ ำ่ งไปจำกโลกภำยนอก ซงึ่ คงตอ้ งคอยตดิ ตำมสถำนกำรณก์ นั ตอ่ ไปวำ่ กำรแพรร่ ะบำด
ในเรอื นจำ� จะพฒั นำสจู่ ดุ สงู สดุ เมอื่ ใด พรอ้ มรว่ มกนั เอำใจชว่ ยวำ่ จะมปี ระเทศใดบำ้ งทรี่ ะบบงำนรำชทณั ฑส์ ำมำรถเอำชนะสงครำม
COVID–19 นไ้ี ดอ้ ยำ่ งแทจ้ รงิ

ทมี่ าของขอ้ มลู
- https://www.bop.gov/coronavirus/
- http://www.prisonobservatory.org/upload/03042020European_prisons_during_covid19.pdf
- https://www.prisonstudies.org/news/news-covid-19-and-prisons
- https://www.csc-scc.gc.ca/001/006/001006-1003-en.shtml
- https://www.corrections.govt.nz/news/latest_news/how_corrections_is_responding
- https://www.sowetanlive.co.za/news/world/2020-04-02-first-prisoner-dies-of-virus-in-italy-watchdog-group/
- https://thediplomat.com/2020/03/cracks-in-the-system-covid-19-in-chinese-prisons/
- https://www.who.int/emergencies/diseases/novel-coronavirus-2019
- https://time.com/5816332/rikers-island-inmate-dies-coronavirus/
- http://www.dcor.state.ga.us/content/cases
- https://nj1015.com/covid-19-spreads-among-nj-jail-prison-staff-and-inmates/
- https://www.miamiherald.com/news/article241866291.html
- https://tass.com/society/1160071
- https://medium.com/@MichiganDOC/mdoc-takes-steps-to-prevent-spread-of-coronavirus-covid-19-250f43144337
- https://www.irishtimes.com/news/world/coronavirus-packed-brazilian-jails-lead-to-fears-of-calamity-1.4257430
- https://www.themarshallproject.org/2020/05/01/a-state-by-state-look-at-coronavirus-in-prisons
- https://www.tdcj.texas.gov/covid-19/index.html
- https://www.state.nj.us/corrections/pages/COVID19Updates.shtml
- UCLA Law Covid-19 Behind Bars Data Project

48 วารสารราชทัณฑ์

กำรฝึกวิชำชพี ผูต้ ้องขงั ดำ้ นกำรผลิตหนำ้ กำกอนำมยั :
บทบำทในกำรพัฒนำผู้ต้องขงั และสังคม

ในสถำนกำรณแ์ พรร่ ะบำดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนำ 2019 (COVID-19)

ปรียธ์ ิดำ สมจติ ร
ผอู้ ำ� นวยกำรกองพัฒนำพฤตนิ ิสัย

กรมรำชทณั ฑ ์ มพี นั ธกจิ ในกำรควบคมุ และพฒั นำพฤตนิ สิ ยั ผตู้ อ้ งขงั โดยมเี ปำ้ ประสงคใ์ หผ้ ตู้ อ้ งขงั เปน็ พลเมอื งด ี
มีอำชีพท่ีสุจริต ด�ำรงชีวิตตำมหลักปรัชญำเศรษฐกิจพอเพียง ภำยใต้กลยุทธ์กำรพัฒนำพฤตินิสัยในกำรยึดผู้ต้องขัง
เปน็ ศนู ยก์ ลำงของกำรพฒั นำ มงุ่ เนน้ กำรพฒั นำศกั ยภำพควบคไู่ ปกบั กำรพฒั นำจติ ใจเพอื่ เสรมิ สรำ้ งคณุ ธรรมจรยิ ธรรม
และกำรสร้ำงภูมิคุ้มกันในกำรป้องกันกำรกระท�ำผิด โดยเฉพำะอย่ำงย่ิงในกำรพัฒนำศักยภำพด้วยกำรส่งเสริม
ควำมสำมำรถในกำรประกอบอำชพี ใหผ้ พู้ น้ โทษเปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในกำรพฒั นำประเทศ และดำ� รงชวี ติ ในสงั คมไดอ้ ยำ่ งปกตสิ ขุ
กรมรำชทัณฑ์จึงมีกำรจัดกำรฝึกวิชำชีพและส่งเสริมทักษะกำรท�ำงำนให้กับผู้ต้องขังในรูปแบบต่ำง ๆ ตำมศักยภำพ
ควำมถนัดและควำมสนใจของผู้ต้องขัง สอดคล้องตำมควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน และสร้ำงกำรยอมรับภำยหลัง
พน้ โทษ เชน่ กำรฝกึ วชิ ำชพี ชำ่ งประเภทตำ่ ง ๆ ชำ่ งไม ้ ชำ่ งส ี ชำ่ งปนู ชำ่ งจกั สำน งำนสง่ิ ประดษิ ฐ ์ นวด เสรมิ สวย คำรแ์ คร์
กำรชงกำแฟ เครื่องดื่ม เบเกอร์รี่ กำรท�ำอำหำร เป็นต้น ซึ่งประเภทของกำรฝึกวิชำชีพท่ีเป็นท่ีสนใจของผู้ต้องขัง
ประเภทหนงึ่ คอื กำรฝกึ วชิ ำชพี เยบ็ ผำ้ ซงึ่ จะชว่ ยเสรมิ สรำ้ งทกั ษะพน้ื ฐำนในกำรเยบ็ ผำ้ และสำมำรถพฒั นำไปสกู่ ำรเยบ็

วารสารราชทัณฑ์ 49


Click to View FlipBook Version