1 รายงานผลการดำเนินงาน โครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ไตรมาส 2 ประจำปีงบประมาณ 2565 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสุคิริน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนราธิวาส สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ก คำนำ ปีงบประมาณ ๒๕๖5 (๑ ตุลาคม ๒๕๖4 – ๓๐ กันยายน ๒๕๖5) ศูนย์การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสุคิริน ได้จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมสนับสนุนการปฏิบัติงานของสถานศึกษา ให้ สามารถปฏิบัติงานได้บรรลุตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และ สำนักงาน กศน. เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนผู้รับบริการอย่างสูงสุด สรุปผลการดำเนินงาน โครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ปีงบประมาณ 2565 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสุคิริน ได้ดำเนินการเพื่อให้ นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน และอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข สรุปผลการดำเนินการโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ประจำปี งบประมาณ 2565 ฉบับนี้ได้รับความร่วมจากบุคลากร กศน.อำเภอสุคิริน ทุกฝ่ายงาน ขอขอบคุณผู้บริหาร ครู ที่ได้ร่วมกันสรุปผลการดำเนินงานครั้งนี้เพื่อเผยแพร่ต่อสาธารณชนอันจะเป็นประโยชน์ในการพัฒนา กระบวนการทำงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่งขึ้น ต่อไป ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสุคิริน
ข สารบัญ หน้า คำนำ ก สารบัญ ข บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ค ❖ บทที่ ๑ บทนำ 1 ❖ บทที่ ๒ เอกสารที่เกี่ยวข้อง ๕ ❖ บทที่ ๓ ขั้นตอนการดำเนินงาน ๑๓ ❖ บทที่ ๔ ผลการศึกษา ๑๕ ❖ บทที่ ๕ บทสรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ ๒๐ ❖ ภาคผนวก ❖ รูปกิจกรรม ๒๑ ❖ โครงการ ๒๒ ❖ คำสั่ง ๓๐ ❖ ใบเซ็นชื่อ ๓๓ ❖ แบบประเมินความพึงพอใจ ๓๘
ค บทสรุปสำหรับผู้บริหาร ในสภาพการณ์ปัจจุบัน สังคมกำลังประสบวิกฤติต่าง ๆ มากมายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และศีลธรรม ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแข่งขันกันของโลกแห่งวัตถุนิยม ที่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตนจน ละเลยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคม อันเป็นผลให้เกิดปัญหาต่างๆตามมาอย่างมากมาย ปัญหาเยาวชน คือ ปัญหาหนึ่งที่เป็นผลกระทบจากการแข่งขันกันของโลกแห่งวัตถุนิยม ดังที่เรารับรู้อย่างต่อเนื่องถึงปัญหาต่าง ๆ ของเยาวชน เช่น ยาเสพติด การพนัน ชู้สาว อันธพาลหรือการถูกชักนำไปสู่สิ่งที่ไม่ดีอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งนับวัน ปัญหาเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องเข้ามาร่วมกันป้องกันและแก้ไข เพื่อให้เยาวชนของเรามีพฤติกรรมที่เหมาะสม สามารถดำรงตนและป้องกันกลุ่มเพื่อนและคนใกล้ชิดให้ห่างไกล จากการตกเป็นเหยื่อของปัญหาต่าง ๆ เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกต่อการพัฒนาสังคมส่วนรวม ผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสังคมย่อมมีผลถึงระบบเรียนรู้ของบุคคลในสังคมด้วย คุณธรรมอันดับแรกที่ควรปลูกฝังคือ ความกตัญญู ซึ่งควรจะได้แสดงออกทั้ง ทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ เป็นวัฒนธรรมทางจิตใจ ที่แสดงออกมาด้วยความดีงาม แต่สิ่งเหล่านี้ กำลังถูกทำลาย ด้วยความรีบเร่ง จากกระแสวัตถุนิยม และบริโภคนิยม ที่ไม่ได้คำนึงถึงวัฒนธรรมทางจิตใจ หากคุณธรรมที่มีอยู่ในจิตใจไม่ มั่นคง สิ่งที่แสดงออกมาจากพฤติกรรมของคน ก็ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอมทั้งสิ้น การแสดงออกทางกาย วาจา ใจ ที่มีคุณธรรมเป็นที่ตั้งจึงมีส่วนสำคัญในการกล่อมเกลา จิตใจ ให้มีความอ่อนโยน สุภาพ นอบน้อม สุขุม รอบคอบ กศน.อำเภอสุคิริน ได้ตระหนักและเห็นว่าการส่งเสริมให้ความรู้ เรื่องคุณธรรมจริยธรรม ให้แก่ นักศึกษาได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งจะเป็นภูมิคุ้มกันให้ประพฤติตนไปในทางที่เหมาะสม เพิ่มศักยภาพให้กับนักศึกษา กศน.อำเภอสุคิริน นำความรู้ที่ได้ไปเผยแผ่สู่แนวทางที่ถูกต้อง เป็นสังคมที่สงบ สันติสุข ตามคำสอนของศาสนา ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจในครอบครัว กศน.อำเภอสุคิริน จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำ ใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น โดยผลการดำเนินงานโครงการ สรุปได้ดังนี้ - ผู้เข้าร่วมโครงการกลุ่มเป้าหมาย เป็นเพศชาย จำนวน ๕๑ คน คิดเป็นร้อยละ 5๑.00 เป็นเพศ หญิง จำนวน ๔๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๙.00 ตามลำดับ - กำลังเรียนอยู่ประจำกลุ่ม กศน.ตำบลมาโมง จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ตำบลภูเขา ทอง จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ตำบลสุคิรินจำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ตำบลเกียร์ จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ร่มไทร จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด - มีอายุระหว่าง 15 - 2๕ ปี จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘ และอายุ 26 – 35 ปี จำนวน ๗๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๒ ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด - ระดับการศึกษา ม.ต้น จำนวน ๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๓ รองลงมา ม.ปลาย จำนวน ๓๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๗ ประถม จำนวน ๑๐ คน คิดเป็นร้อยละ 10 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจของท่านต่อภาพรวมของโครงการ พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมี ความพึงพอใจของท่านต่อภาพรวมของโครงการ โดยระดับความพึงพอใจส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 4.๔๘ แสดงว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมาก
ง ความคิดเห็นเพิ่มเติมของผู้เข้าร่วมโครงการ สรุปได้ดังนี้ 1. สิ่งดีๆ/ความประทับใจดีๆ ที่ได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรม กศน.ได้แก่ 1.1 นักศึกษามีความสนใจ และมีคำถามที่น่าสนใจถามวิทยากรเป็นจำนวนมาก 2. ปัญหา อุปสรรค์ และข้อเสนอแนะ เพื่อการพัฒนา ปรับปรุงการจัดกิจกรรม กศน.ได้แก่ 2.1 การจัดกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ โดยถ่ายทอดสดไปยัง กศน.ตำบล มีปัญหาเรื่อง สัญญานอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร ทำให้การรับฟังเนื้อหาไม่ต่อเนื่อง ๑. จุดเด่นของโครงการ/กิจกรรมในครั้งนี้ โครงการนี้ได้รับความร่วมมืออย่างดีจากนักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ เห็นได้ชัดว่านักศึกษาได้มี ความสนใจ และตั้งใจในการฟังและสามารถนำความรู้ที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ได้จริง ๒. จุดที่ควรพัฒนาของแผนงาน /โครงการ - ควรที่จะแยกวิทยากรเป็นรายตำบลเพื่อการเข้าถึงของผู้เข้าร่วมกิจกรรม ๓. ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาแผนงาน / โครงการ - ควรวางแผนให้ครูแต่ละตำบลสามารถ ถ่ายทอดเนื้อหาในการอบรม ไปยังนักศึกษาในการ สอดแทรกจัดการเรียนการสอน - ควรวางแผนการจัดกิจกรรมสำหรับผู้เรียนที่มีความสนใจเพื่อให้เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบ ออนไลน์จากที่บ้านได้ - ควรวางแผนปรับปรุงเรื่องสัญญานอินเทอร์เน็ตให้มีความเสถียร
1 บทที่ 1 บทนำ ๑. ความเป็นมาและความสำคัญ ในสภาพการณ์ปัจจุบัน สังคมกำลังประสบวิกฤติต่าง ๆ มากมายทั้งทางด้านเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และศีลธรรม ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการแข่งขันกันของโลกแห่งวัตถุนิยม ที่มุ่งหวังแต่ผลประโยชน์ส่วนตนจน ละเลยผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคม อันเป็นผลให้เกิดปัญหาต่าง ๆตามมาอย่างมากมาย ปัญหาเยาวชน คือ ปัญหาหนึ่งที่เป็นผลกระทบจากการแข่งขันกันของโลกแห่งวัตถุนิยม ดังที่เรารับรู้อย่างต่อเนื่องถึงปัญหาต่างๆ ของเยาวชน เช่น ยาเสพติด การพนัน ชู้สาว อันธพาลหรือการถูกชักนำไปสู่สิ่งที่ไม่ดีอื่น ๆ เป็นต้น ซึ่งนับวัน ปัญหาเหล่านี้ยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่ต้องเข้ามาร่วมกันป้องกันและแก้ไข เพื่อให้เยาวชนของเรามีพฤติกรรมที่เหมาะสม สามารถดำรงตนและป้องกันกลุ่มเพื่อนและคนใกล้ชิดให้ห่างไกล จากการตกเป็นเหยื่อของปัญหาต่าง ๆ เพื่อที่จะได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกต่อการพัฒนาสังคม ส่วนรวม ผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสังคมย่อมมีผลถึงระบบเรียนรู้ของบุคคลในสังคมด้วย คุณธรรมอันดับแรกที่ควรปลูกฝังคือ ความกตัญญู ซึ่งควรจะได้แสดงออกทั้ง ทางกาย ทางวาจา และ ทางใจ เป็นวัฒนธรรมทางจิตใจ ที่แสดงออกมาด้วยความดีงาม แต่สิ่งเหล่านี้ กำลังถูกทำลาย ด้วยความรีบเร่ง จากกระแสวัตถุนิยม และบริโภคนิยม ที่ไม่ได้คำนึงถึงวัฒนธรรมทางจิตใจ หากคุณธรรมที่มีอยู่ในจิตใจไม่มั่นคง สิ่งที่แสดงออกมาจากพฤติกรรมของคน ก็ล้วนเป็นสิ่งจอมปลอมทั้งสิ้น การแสดงออกทางกาย วาจา ใจ ที่มี คุณธรรมเป็นที่ตั้งจึงมีส่วนสำคัญในการกล่อมเกลา จิตใจ ให้มีความอ่อนโยน สุภาพ นอบน้อม สุขุม รอบคอบ กศน.อำเภอสุคิริน ได้ตระหนักและเห็นว่าการส่งเสริมให้ความรู้ เรื่องคุณธรรมจริยธรรม ให้แก่ นักศึกษาได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งจะเป็นภูมิคุ้มกันให้ประพฤติตนไปในทางที่เหมาะสม เพิ่มศักยภาพให้กับนักศึกษา กศน.อำเภอสุคิริน นำความรู้ที่ได้ไปเผยแผ่สู่แนวทางที่ถูกต้อง เป็นสังคมที่สงบ สันติสุข ตามคำสอนของ ศาสนา ก่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจในครอบครัว กศน.อำเภอสุคิริน จึงได้จัดทำโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น 2. วัตถุประสงค์ ๒.๑ เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ๒.๒ เพื่อให้กศึกษาสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข 3. เป้าหมาย ๓.๑ เชิงปริมาณ - นักศึกษา กศน.อำเภอสุคิริน ๕ ตำบล จำนวน ๑๐๐ คน ๓.๒ เชิงคุณภาพ นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข
2 4. วิธีดำเนินงาน กิจกรรมหลัก วัตถุประสงค์ กลุ่มเป้าหมาย เป้าหมาย พื้นที่ ดำเนินการ ระยะเวลา งบ ประมาณ ๑.สำรวจ/จัด เวทีประชาคม เพื่อทราบจำนวนและความ ต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เจ้าหน้าที่ กศน. อำเภอสุคิริน ๒๐ คน พื้นที่ ๕ ตำบล ใน อำเภอ สุคิริน ๒๐ ธ.ค. ๒๕๖๔ - ๒.ประชุมวาง แผนการ ดำเนินงาน เพื่อเตรียมความพร้อมในการ ดำเนินงานแก่เจ้าหน้าที่และผู้ ที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่ กศน. อำเภอสุคิริน ๒๐ คน กศน.อำเภอ สุคิริน ๒๒ ธ.ค. ๒๕๖๔ - ๓.เขียน โครงการ เพื่อขออนุมัติงบประมาณใน การดำเนินงาน เจ้าหน้าที่ รับผิดชอบ ๑ คน กศน.อำเภอ สุคิริน ๔ ม.ค. ๒๕๖๕ - ๔.แต่งตั้ง คณะทำงาน เพื่อแต่งตั้งคณะทำงาน ดำเนินงานฝ่ายต่างๆ และ มอบหมายหน้าที่รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ รับผิดชอบ ๑ คน กศน.อำเภอ สุคิริน ๔ ม.ค. ๒๕๖๕ - ๕.ดำเนิน โครงการ ๑. เพื่อให้นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่อง คุณธรรม จริยธรรม ๒. เพื่อให้นักศึกษาสามารถนำ ความรู้ที่ได้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกัน กับผู้อื่นอย่างมีความสุข นักศึกษา กศน. อำเภอสุคิริน ๕ ตำบล ๑๐๐ คน กศน.ตำบล ๕ ตำบล ๓ ก.พ. ๒๕๖๕ ๒๐,๒๐๐ ๖.การนิเทศ ติดตาม เพื่อประเมินผลผู้เข้าร่วม โครงการ เจ้าหน้าที่ กศน. อำเภอสุคิริน ๓ คน กศน.ตำบล ๕ ตำบล ๓ ก.พ. ๒๕๖๕ - ๗.สรุป ประเมินผล โครงการ เพื่อนิเทศติดตามผลการ ดำเนินงาน เจ้าหน้าที่ รับผิดชอบ ๑ คน กศน.อำเภอ สุคิริน ๗ ก.พ. ๒๕๖๕ - ๘.รายงานผล การ ดำเนินงาน โครงการ เพื่อรายงานต้นสังกัดและ พัฒนาปรับปรุงการดำเนินงาน ต่อไป งานการศึกษาขั้น พื้นฐาน ๑ คน กศน.อำเภอ สุคิริน ๑๑ ก.พ. ๒๕๖๕ 5. วงเงินงบประมาณทั้งโครงการ
3 แผนงาน : ยุทธศาสตร์สร้างความเสมอภาคทางการศึกษา โครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัด การศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน กิจกรรมการจัดการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน งบเงินอุดหนุน ค่ากิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน รหัสงบประมาณ ๒๐๐๐๒๔๓๐๑๖๕๐๐๑๕๔ จำนวน ๒๐,๒๐๐ บาท (สองหมื่นสองร้อยบาทถ้วน) ตามรายละเอียดดังนี้ ๑.๑ ค่าตอบแทนวิทยากร - ค่าวิทยากร ๒๐๐ บาท x ๖ ชั่วโมง x ๑ คน เป็นเงิน ๑,๒๐๐ บาท ๑.๒ ค่าใช้สอย - ค่าอาหารกลางวัน ๗๐ บาท x ๑๐๐ คน เป็นเงิน ๗,๐๐๐ บาท - ค่าอาหารว่าง ๒๕ บาท x ๑๐๐ คน x ๒ มื้อ เป็นเงิน ๕,๐๐๐ บาท ๑.๓ ค่าวัสดุ - ไวนิล เป็นเงิน ๑,๐๐๐ บาท - ค่าวัสดุ เป็นเงิน ๖,๐๐๐ บาท เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๒๐,๒๐๐ บาท หมายเหตุ : ถัวจ่ายทุกรายการตามที่จ่ายจริง 6. แผนการใช้จ่ายงบประมาณ กิจกรรมหลัก ไตรมาส ๑ (ต.ค.๖๔–ธ.ค.๖๔) ไตรมาส ๒ (ม.ค.๖๕–มี.ค.๖๕) ไตรมาส ๓ (เม.ย.๖๕– มิ.ย.๖๕) ไตรมาส ๔ (ก.ค.๖๕–ก.ย.๖๕) ๑.สำรวจ/จัดเวทีประชาคม - - - - ๒.ประชุมวางแผนการดำเนินงาน/การ ออกแบบกิจกรรม/แต่งตั้งคณะทำงาน - - - - ๓.เขียนโครงการเพื่อขออนุมัติ - - - - ๔.ดำเนินโครงการ - ๒๐,๒๐๐ บาท - - ๕.การประเมินผู้เข้าร่วมโครงการ - - - - ๖.การนิเทศ/ติดตาม - - - - ๗.สรุปประเมินผลโครงการ - - - - ๘.รายงานผลการดำเนินงานโครงการ - - - - รวม - ๒๐,๒๐๐ บาท - - ๙. ผู้รับผิดชอบโครงการ - นายมะรอยาลี มะแซ ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โทรศัพท์ ๐๙๘-๐๑๓๑๔๙๙ ๑๐. เครือข่าย ๑๐.๑ ผู้นำศาสนา
4 ๑๐.๒ ชมรมโต๊ะอีหม่าม อำเภอสุคิริน ๑๐.๓ ศูนย์ฝึกอาชีพอำเภอสุคิริน ๑๐.๔ ที่ว่าการอำเภอสุคิริน ๑๑. โครงการที่เกี่ยวข้อง ๑๑.๑ โครงการรัก(เรา)ไร้ควัน ๑๑.๒ โครงการพัฒนาผู้เรียน พัฒนาศักยภาพนักศึกษาสู่การทำงานเป็นทีม ๑๑.๓ โครงการพัฒนาผู้เรียน เสริมสร้างทักษะการใช้เทคโนโลยีเพื่อการเรียนรู้ตลอดชีวิต ๑๑.๔ โครงการพัฒนาผู้เรียน เสริมสร้างทักษะการอ่านเพื่อการเรียนรู้ในยุคออนไลน์ ๑๑.๕ โครงการพัฒนาผู้เรียน นักศึกษา กศน.ยุคใหม่ เก่งได้ ไม่พึ่งยาเสพติด ๑๒. ผลลัพธ์ - นักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ใน ชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ๑๓. ดัชนีตัวชี้วัดผลสำเร็จของโครงการ ๑๓.๑ ตัวชี้วัดผลผลิต (Output) - ร้อยละ ๘๕ ผ่านการอบรมตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ๑๓.๒ ตัวชี้วัดผลลัพธ์(Outcome) - ร้อยละ ๘๕ ของนักศึกษามีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำ ความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข ๑๔. การติดตามและประเมินผลโครงการ ๑๔.๑ จากการสังเกตการส่วนร่วมในกิจกรรม ๑๔.๒ แบบประเมินความพึงพอใจและความคิดเห็นของผู้เข้าอบรม 14.3 แบบทดสอบก่อน/หลั
5 บทที่ 2 เอกสารที่เกี่ยวข้อง (ร่าง)นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สํานักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 …………………………………………………………… ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ได้กําหนดแผนแม่บทประเด็นการพัฒนาศักยภาพคน ตลอดช่วงชีวิต โดยมีแผนย่อยที่เกี่ยวข้องกับการใช้การศึกษาเป็นเครื่องมือในการขับเคลื่อนได้แก่ แผนย่อย ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ และแผนย่อยประเด็นการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ที่มุ่งเน้นการสร้าง สภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนา และเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ การพัฒนาเด็กตั้งแต่ช่วงการตั้งครรภ์จนถึง ปฐมวัย การพัฒนาช่วงวัยเรียน/วัยรุ่น การพัฒนาและยกระดับศักยภาพวัยแรงาน รวมถึงการส่งเสริมศักยภาพ วัยผู้สูงอายุ ประเด็นการพัฒนาการเรียนรู้ ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญา ของมนุษย์ที่หลากหลาย ประกอบกับแผนการปฏิรูป ประเทศด้านการศึกษา นโยบายรัฐบาลทั้งในส่วนนโยบาย หลักด้านการปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้ และการพัฒนาศักยภาพ คนตลอดช่วงชีวิต และนโยบายเร่งด่วนเรื่อง การเตรียมคนไทยสู่ศตวรรษที่ 21 ตลอดจนแผนพัฒนาประเทศอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ แผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2568) นโยบายและแผนระดับชาติ ว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ พ.ศ. 2562 2568) โดยคาดหวังว่าการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต ประชาชนจะได้รับ การพัฒนาการ เรียนรู้ให้เป็นคนดี คนเก่งมีคุณภาพ และมีความพร้อมร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และกระทรวงศึกษาธิการ ได้กําหนดนโยบายและจุดเน้น ประจําปีงบประมาณ พ.ศ.2565 ขึ้น เพื่อ เป็น เข็มมุ่งของหน่วยงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ ขับเคลื่อนการดําเนินงานให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของ แผนต่าง ๆ ดังกล่าว สํานักงาน กศน. เป็นหน่วยงานที่มีภารกิจในการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ตระหนัก ถึงความสําคัญของการพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต ได้มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจหลักตามแผนพัฒนา ประเทศ และนโยบาย และจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ที่คํานึงถึงหลักการบริหารจัดการทั้งในเรื่องหลัก ธรรมาภิบาล หลักการกระจาย อํานาจ การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร การมุ่งเน้น ผลสัมฤทธิ์ และปฏิบัติการด้านข้อมูลข่าวสาร การสร้างบรรยากาศในการทํางานและการเรียนรู้ ตลอดจนการใช้ ทรัพยากรด้านการจัดการศึกษาอย่างมีคุณภาพ โดยเน้น การพัฒนาคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษาต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ใน 4 ประเด็นใหญ่ ประกอบด้วย การ จัดการเรียนรู้คุณภาพ การสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ องค์กร สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้คุณภาพ และการบริหารจัดการคุณภาพ อันจะนําไปสู่การสร้างโอกาสและลดความเหลื่อมล้ํา ทางการศึกษา การ ยกระดับคุณภาพและเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการสําหรับทุกกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความพึงพอใจ ให้กับ ผู้รับริการ โดยได้กําหนดนโยบายและจุดเน้นการดําเนินงาน สํานักงาน กศน. ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ดังนี้ หลักการ กศน. เพื่อประชาชน “ก้าวใหม่ : ก้าวแห่งคุณภาพ” นโยบายและจุดเน้นการดําเนินงานสํานักงาน กศน. ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. 2555
6 1. ด้านการจัดการเรียนรู้คุณภาพ 1.1 น้อมนําพระบรมราโชบายสู่การปฏิบัติ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงาน โครงการ อันเนื่องมาจากพระราชดําริทุกโครงการ และโครงการอันเกี่ยวเนื่องจากราชวงศ์ 1.2 ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ที่สนองตอบยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของรัฐมนตรีว่าการ และ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ 1.3 ส่งเสริมการจัดการศึกษาเพื่อเสริมสร้างความมั่นคง การสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ในการ ปกครองระบอบประชาธิปไตย การเรียนรู้ที่ปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม สร้างวินัย จิตสาธารณะ และอุดมการณ์ ความยึดมั่นในสถาบันหลักของชาติ รวมถึงการมีจิตอาสา ผ่านกิจกรรมต่างๆ 1.4 ปรับปรุงหลักสูตรทุกระดับทุกประเภทให้สอดรับกับการพัฒนาคน ทิศทางการพัฒนาประเทศ สอดคล้องกับบริบทที่เปลี่ยนแปลง ความต้องการและความหลากหลายของผู้เรียน/ผู้รับบริการ รวมถึงปรับลด ความหลากหลายและความซ้ำซ้อนของหลักสูตร เช่น หลักสูตรการศึกษาสําหรับกลุ่มเป้าหมายบนพื้นที่สูง พื้นที่ พิเศษ และพื้นที่ชายแดน รวมทั้งกลุ่มชาติพันธุ์ 1.5 ปรับระบบทดสอบ วัดผล และประเมินผล โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือให้ผู้เรียน สามารถเข้าถึงการประเมินผลการเรียนรู้ได้ตามความต้องการ เพื่อการสร้างโอกาสในการเรียนรู้ ให้ความสําคัญ กับ การเทียบระดับการศึกษา และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ พัฒนาระบบการประเมินสมรรถนะ ผู้เรียน ให้ตอบโจทย์การประเมินในระดับประเทศและระดับสากล เช่น การประเมินสมรรถภาพผู้ใหญ่ ตลอดจนกระจายอํานาจ ไปยังพื้นที่ในการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ 1.6 ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในการจัดหลักสูตรการเรียนรู้ในระบบออนไลน์ด้วยตนเองครบวงจร ตั้งแต่การลงทะเบียนจนการประเมินผลเมื่อจบหลักสูตร ทั้งการศึกษานอกระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษา ต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อเป็นการสร้างและขยายโอกาสในการเรียนรู้ให้กับ กลุ่มเป้าหมายที่สามารถเรียนรู้ ได้สะดวก และตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียน 1.7 พัฒนา Digital Learning Platform แพลตฟอร์มการเรียนรู้ของสํานักงาน กศน. ตลอดจน พัฒนาสื่อการเรียนรู้ทั้งในรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์ และให้มีคลังสื่อการเรียนรู้ที่เป็นสื่อที่ถูกต้องตาม กฎหมาย ง่ายต่อการสืบค้นและนําไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ 1.8 เร่งดําเนินการเรื่อง Academic Credit-bank System ในการสะสมและเทียบโอนหน่วยกิต เพื่อการสร้างโอกาสในการศึกษา 1.9 พัฒนาระบบนิเทศการศึกษา การกํากับ ติดตาม ทั้งในระบบ On-Site และ Online รวมทั้ง ส่งเสริมการวิจัยเพื่อเป็นฐานในการพัฒนาการดําเนินงานการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัย 2. ด้านการสร้างสมรรถนะและทักษะคุณภาพ 2.1 ส่งเสริมการจัดการศึกษาตลอดชีวิตที่เน้นการพัฒนาทักษะที่จําเป็นสําหรับแต่ละช่วงวัย และ การจัดการศึกษาและการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับแต่ละกลุ่มเป้าหมายและบริบทพื้นที่ 2.2 พัฒนาหลักสูตรอาชีพระยะสั้นที่เน้น New skill Up skill และ Re skill เที่สอดคล้องกับบริบท พื้นที่ ความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ความต้องการของตลาดแรงงาน และกลุ่มอาชีพใหม่ที่รองรับ Disruptive Technology 2.3 ยกระดับผลิตภัณฑ์ สินค้า บริการจากโครงการศูนย์ฝึกอาชีพชุมชน ที่เน้น “ส่งเสริมความรู้ สร้างอาชีพ เพิ่มรายได้ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี” ให้มีคุณภาพมาตรฐาน เป็นที่ยอมรับของตลาด ต่อยอดภูมิ ปัญญาท้องถิ่น เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม พัฒนาสู่วิสาหกิจชุมชน ตลอดจนเพิ่มช่องทางประชาสัมพันธ์และช่องทาง การจําหน่าย
7 2.4 ส่งเสริมการจัดการศึกษาของผู้สูงอายุเพื่อให้เป็น Active Ageing Workforce และมี Life Skill ในการดํารงชีวิตที่เหมาะกับช่วงวัย 2.5 ส่งเสริมการจัดการศึกษาที่พัฒนาทักษะที่จําเป็นสําหรับกลุ่มเป้าหมายพิเศษ เช่น ผู้พิการ ออทิสติก เด็กเร่ร่อน และผู้ด้อยโอกาสอื่นๆ 2.6 ส่งเสริมการพัฒนาทักษะดิจิทัลและทักษะด้านภาษาให้กับบุคลากร กศน. และผู้เรียนเพื่อ รองรับ การพัฒนาประเทศ 2.7 ส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมของผู้เรียน กศน. 2.8 สร้าง อาสาสมัคร กศน. เพื่อเป็นเครือข่ายในการส่งเสริม สนับสนุนการจัดการศึกษาตลอดชีวิต ในชุมชน 2.9 ส่งเสริมการสร้างและพัฒนานวัตกรรมของบุคลากร กศน. รวมทั้งรวบรวมและเผยแพร่เพื่อให้ หน่วยงาน / สถานศึกษา นําไปใช้ในการพัฒนากระบวนการเรียนรู้ร่วมกัน 3. ด้านองค์กร สถานศึกษา และแหล่งเรียนรู้คุณภาพ 3.1 ทบทวนบทบาทหน้าที่ของหน่วยงาน สถานศึกษา เช่น สถาบัน กศน.ภาค สถาบันการศึกษา และพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร สถานศึกษาขึ้นตรงสังกัดส่วนกลาง กลุ่มสํานักงาน กศน.จังหวัด ศูนย์ฝึกและพัฒนา ราษฎรไทย บริเวณชายแดน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนการจัดการศึกษาตลอดชีวิตในพื้นที่ 3.2 ยกระดับมาตรฐาน กศน.ตําบล และศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” (ศศช.) ให้เป็นพื้นที่การเรียนรู้ตลอดชีวิตที่สําคัญของชุมชน 3.3 ปรับรูปแบบกิจกรรมในห้องสมุดประชาชน ที่เน้น Library Delivery เพื่อเพิ่มอัตราการอ่าน และการรู้หนังสือของประชาชน 3.4 ให้บริการวิทยาศาสตร์เชิงรุก Science@home โดยใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือนําวิทยาศาสตร์สู่ ชีวิตประจําวันในทุกครอบครัว 3.5 ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างพื้นที่การเรียนรู้ในรูปแบบ Public Learning Space/CoLearning Space เพื่อการสร้างนิเวศการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นสังคม 3.6 ยกระดับและพัฒนาศูนย์ฝึกอาชีพราษฎรไทยบริเวณชายแดน ให้เป็นสถาบันพัฒนาอาชีพระดับ ภาค 3.7 ส่งเสริมและสนับสนุนการดําเนินงานของกลุ่ม กศน. จังหวัดให้มีประสิทธิภาพ 4. ด้านการบริหารจัดการคุณภาพ 4.1 ขับเคลื่อนกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตลอดจนทบทวนภารกิจบทบาท โครงสร้างของหน่วยงานเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมาย 4.2 ปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ คําสั่ง และข้อบังคับต่าง ๆ ให้มีความทันสมัย เอื้อต่อการบริหาร จัดการ และการจัดการเรียนรู้ เช่น การปรับหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายในการจัดหลักสูตรการศึกษาต่อเนื่อง 4.3 ปรับปรุงแผนอัตรากําลัง รวมทั้งกําหนดแนวทางที่ชัดเจนในการนําคนเข้าสู่ตําแหน่ง การย้าย โอน และการเลื่อนระดับ 4.4 ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากรทุกระดับให้มีความรู้และทักษะตามมาตรฐานตําแหน่งให้ตรงกับ สาย งาน และทักษะที่จําเป็นในการจัดการศึกษาและการเรียนรู้ 4.5 ปรับปรุงระบบการจัดสรรทรัพยากรเพื่อการศึกษาให้มีความครอบคลุม เหมาะสม เช่น การปรับ ค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาของผู้พิการ เด็กปฐมวัย 4.6 ปรับปรุงระบบฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการศึกษาเพื่อการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ เช่น ข้อมูล การรายงานผลการดําเนินงาน ข้อมูลเด็กตกหล่นจากการศึกษาในระบบ เด็กเร่ร่อน ผู้พิการ
8 4.7 ส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการอย่างเต็มรูปแบบ 4.8 ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐสู่ระบบราชการ 4.0 และการประเมินคุณภาพ และความโปร่งใสการดําเนินงานของภาครัฐ (ITA) 4.9 เสริมสร้างขวัญและกําลังใจให้กับข้าราชการและบุคลากรทุกประเภทในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ประกาศ เกียรติคุณ การมอบโล่ / วุฒิบัตร 4.10 ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน เพื่อสร้างความพร้อมในการจัดการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตสําหรับประชาชน กรอบแนวทางการจัดการศึกษา งบอุดหนุน กิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน ปีงบประมาณ 2563 1. โครงการเกี่ยวกับกิจกรรมพัฒนาวิชาการ / ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้สูงขึ้น เป็นการ พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถทางด้านวิชาการเพิ่มมากขึ้นในรายวิชาตามหลักสูตร การศึกษานอก ระบบระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 2. โครงการเกี่ยวกับกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต เป็นกิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ความเข้าใจ มีเจต คติ ค่านิยมที่ถูกต้องและมีทักษะหรือ ความสามารถพื้นฐานที่จําเป็นในการเผชิญปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิต เช่น ปัญหายาเสพติด การตั้งครรภ์ไม่พึง ประสงค์ การป้องกันในการมีเพศสัมพันธ์ ปัญหาความรุนแรงในครอบครัว ภัยพิบัติ 3. โครงการเกี่ยวกับกิจกรรมที่แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และ พระมหากษัตริย์เป็นกิจกรรมที่พัฒนา ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียน มีความรู้ ความเข้าใจ มีทัศนคติที่ดีมีความรัก และ ภาคภูมิใจในชาติไทย และแสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ 4. โครงการเกี่ยวกับกิจกรรมการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นกิจกรรมที่พัฒนา ผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง โดย สามารถนําความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ให้ เกิดผลในการดํารงชีวิตประจําวัน 5. โครงการเกี่ยวกับลูกเสือ และกิจกรรมอาสายุวกาชาด เป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่มี ระเบียบ วินัย มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตอาสา มีความ เสียสละในการช่วยเหลือผู้อื่น บําเพ็ญประโยชน์ต่อ สังคมและชุมชน เช่น ลูกเสือ กศน. / ลูกเสือมัคคุเทศก์ / ยุวกาชาด 6. โครงการเกี่ยวกับกีฬาและส่งเสริมสุขภาพ 7. โครงการเกี่ยวกับพัฒนาความรู้ ความสามารถด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ (ICT) 8. โครงการเกี่ยวกับพัฒนาความรู้สู่ประชาคมโลก เป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาความรู้ให้กับผู้เรียนด้าน การศึกษา เศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม ความมั่งคง และการเมือง เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงโครงการสร้าง ประชากรไปสู่สังคมสูงวัยทักษะของประชากรในศตวรรษ ที่ ๒๑ และมุ่งพัฒนาประเทศไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมยุค 4.0 9. โครงการเกี่ยวกับจิตอาสา กศน. “เราทําความดีด้วยหัวใจ” เป็นกิจกรรมที่จัดถึงการบําเพ็ญ สาธารณประโยชน์ในพื้นที่ต่างๆ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และ แก้ไขปัญหาประชาชน เป็นกิจกรรมที่ สอดคล้องกับพระบรมราโชบายของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 10 เป็นการพัฒนาสภาพแวดล้อมและความ เป็นอยู่ในชุมชนให้มีสภาพที่ดีขึ้น 10. โครงการเกี่ยวกับส่งเสริมการอ่าน และพัฒนาทักษะการเรียนรู้ 11. โครงการเกี่ยวกับการส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ 12. โครงการเกี่ยวกับการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ด้วย การปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี และเอกลักษณ์ของชาติ
9 13. โครงการเกี่ยวกับการเรียนรู้การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุข การปกครองระบอบประชาธิปไตยและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในชีวิตประจําวัน - อบรมประวัติศาสตร์ชาติไทยและตอบแทนบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย - อบรมให้ความรู้ประชาธิปไตย - รณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง 14. โครงการเกี่ยวกับการเสริมสร้างความสามารถพิเศษ เป็นกิจกรรมเพื่อพัฒนาผู้เรียนมีความสามารถพิเศษ ฝึกการกล้าแสดงออก ความคิดสร้างสรรพ จินตนาการในแนวทางที่ถูกต้องและเหมาะสม คุณธรรม การกล่าวถึงคุณธรรม เมื่อกล่าวเป็นคำที่แยกส่วนออกมาจากคำว่าจริยธรรมนั้นจะมีลักษณะ เด่นที่ สำคัญซึ่งผู้เขียนจะได้ชี้ให้เห็นถึงความหมาย ประเภทและความสำคัญของคุณธรรมไว้ ดังนี้ ความหมาย ของคุณธรรม คุณธรรม (Virtue) มีรากศัพท์มาจากภาษากรีก ที่หมายถึง “คุณความดี” เป็นเรื่องของจิตใจ เช่นเดียวกับจริยธรรม คุณธรรมกับจริยธรรมเป็นคำที่ใกล้เคียงกัน แต่ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน จริยธรรมมี ความหมายเกี่ยวกับความประพฤติ การปฏิบัติ ตลอดจนการดำเนินชีวิตที่ดีงาม หรือถูกต้องกับเกณฑ์ของ สังคม ส่วนคุณธรรมเป็นเรื่องภายในจิตใจของคนโดยมีความหมายจากทัศนะของบุคคลต่าง ๆ ดังนี้ พจนานุกรมฉบับ ราชบัณฑิตสถาน พ.ศ. 2542 (ราชบัณฑิตยสถาน, 2546 : 253) ได้ให้ความหมาย ของคำว่า คุณธรรม หมายถึง คุณสมบัติฝ่ายดี ส่วน ปรีชา เศรษฐีธร (2523 : 66-67) ได้กล่าวไว้ว่า คุณธรรม หมายถึง คุณงาม ความดี อาจแบ่ง ออกได้เป็น 2 ด้าน คือ 1. คุณธรรมทางสติปัญญา ได้แก่ ความรู้ทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ที่ ส่งผลต่อความมีเหตุผลการ ทำหน้าที่ต่าง ๆ 2. คุณธรรมทางศีลธรรม คือ ความมีจิตส านึกในสิ่งที่ดีงามและมี เหตุผล คุณธรรมทางศีลธรรมนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ และไม่ได้ติดตัวมาแต่กำเนิดด้วย ตามหลักแห่ง ศีลธรรมแล้วคนควรจะแสวงหา คุณธรรมเพื่อคุณธรรม คือ แสวงหาความดีเพื่อความดี ไม่ควรแสวงหาคุณธรรม เพื่อความสุข คุณธรรมหรือ ความดีนั้นอยู่ที่การฝึกฝนและปลูกฝัง อารมณ์จะต้องถูกกำจัดออกไปได้หมดโดย สิ้นเชิง กีรติ บุญเจือ (2538 : 82) ได้ให้ความหมายในทำนองเดียวกันว่า คุณธรรม หมายถึง ความเคยชิน ใน การประพฤติดีอย่างใดอย่างหนึ่งตรงข้ามกับกิเลส เช่น ความเคยชินในการประพฤติผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง พระ เมธีธรรมาภรณ์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต) (2538 : 15) กล่าวว่า คุณธรรม คือ คุณสมบัติที่ดีในจิตใจ ถ้าปลูกฝังใน เรื่องคุณธรรมได้จะกลายเป็นพื้นฐานของจรรยาบรรณ พระธรรมปิฎก (ป.อ.ปยุตฺโต) (2540 : 14) ได้กล่าวว่า คุณธรรมเป็นคุณภาพของจิตใจ กล่าวคือ คุณสมบัติที่เสริมสร้างจิตใจให้ดีงาม ให้เป็นจิตใจที่สูงส่ง ประณีต และ ประเสริฐ วศิน อินทสระ (2541 : 106, 113) ได้แสดงความเห็นตามหลักจริยศาสตร์ว่า คุณธรรม หมายถึง อัธยาศัยอันดีงามที่สั่งสมอยู่ในดวงจิต อันเกิดจากความเพียรพยายาม และความประพฤติปฏิบัติที่ติดต่อกัน มา เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน คุณธรรมมีความเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กับหน้าที่เป็นอย่างมาก เพราะการปฏิบัติงาน ใน หน้าที่จนเป็นนิสัย จะกลายมาเป็นอุปนิสัยอันดีงามที่สั่งสมในดวงจิตกลายเป็นบารมี อนิวัช แก้วจำนง (2555 : 3) ให้ความหมายของ คุณธรรม ว่าหมายถึง คุณงามความดีที่เกิดขึ้น ภายในจิตใจ ท าให้แสดงออกด้าน พฤติกรรมที่ประพฤติปฏิบัติ โดยบุคคลอื่นสามารถสัมผัสได้ว่า บุคคลนั้นมี สภาพจิตใจที่ดีมีความตั้งใจที่จะ ประพฤติปฏิบัติต่อบุคคลอื่นด้วยความดี โดยมีหลักธรรมเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว ในการกระทำความดีอย่างมี สติสัมปชัญญะและถูกต้องตามครรลองคลองธรรม 2 Good (1973 : 641) ได้ให้ความหมายใน Dictionary of Education ว่า คุณธรรม มีความหมาย นัย นัยแรก คือ ความดีความงามของลักษณะนิสัยที่ได้กระทำมาจน เกิดความเคยชิน และนัยที่สอง หมายถึง คุณภาพของบุคคลที่ได้กระท าตามความคิดและตามมาตรฐานของ สังคม ซึ่งเกี่ยวข้องกับความ ประพฤติและหลักของศีลธรรม จะเห็นได้ว่าจากนิยามความหมายของคุณธรรมโดย
10 นักวิชาการดังกล่าวข้างต้น อาจสรุปได้ความหมายที่ตรงกันว่า คุณธรรม คือ สภาพแห่งความดีงามในจิตใจ ซึ่ง ทำให้เคยชินกับการประพฤติปฏิบัติดี บุคคลผู้มีคุณธรรม คือ ผู้มีความเคยชินในการประพฤติดี ภายใต้ ความรู้สึกในทางดีงาม และตามมาตรฐาน ของสังคมที่เกี่ยวข้องกับหลักของศีลธรรม นักบริหารที่มีคุณธรรม จะต้องประพฤติดีปฏิบัติชอบตามกรอบแห่ง ความดี และกรอบของกติกาของสังคมที่ยอมรับกันว่าดีงาม โดย ต้องมีเจตนาที่บริสุทธิ์ มีความตั้งใจในการ ปฏิบัติตนทั้งทางกาย วาจา จนกลายมาเป็นความเคยชิน ประเภทของคุณธรรม การแบ่งประเภทของคุณธรรมนั้นมีแนวการแบ่งหลายทัศนะ เช่น บางทัศนะก็ เน้นเอาระบบชนชั้น ทางสังคมเป็นตัวกำหนด บางทัศนะก็เน้นการรวมกลุ่มในสังคม บางทัศนะเน้นเอาความ เชื่อตามคำสอนของ ศาสนาที่ตนเองเคารพนับถือ บางทัศนะถือเอาแนวคิดทางปรัชญา แต่ในที่นี้จะขอสรุป ความเห็นของบาง ทัศนะมากล่าวโดยสังเขปเท่านั้น ดังนี้ ปรีชา เศรษฐีธร (2523 : 25) ได้แบ่งคุณธรรม ออกเป็น 2 ลักษณะ คือ 1. การแบ่งโดยอาศัยกลุ่มทางสังคมเป็นตัวกำหนด แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทย่อย ๆ ด้วยกัน ได้แก่ 1.1 คุณธรรมที่คนเรานำไปใช้ในชีวิตที่เกี่ยวข้องกับระบบสังคม เช่น ความรักใคร่สามัคคี ปรองดอง ความเอื้อเฟื่อเผื่อแผ่ ความเคารพบูชา ความยุติธรรม ความซื่อสัตย์ การพูดจาแต่ความจริงและ ถูกต้อง ตลอดจนความเชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อเหล่านี้ เป็นต้น 1.2 คุณธรรมของปัจเจกชน เป็นคุณธรรมที่คนเรานำมาใช้กับตัวเอง เช่น การรู้จักควบคุม ตนเองใน เรื่องต่างๆทั้งที่ดีและไม่ดี การเคารพตนเองไม่ดูถูกตัวเอง ความกล้าหาญที่จะกระทำในสิ่งที่ดีและ ถูกต้อง ความรู้จักประมาณและการมีวัฒนธรรมที่ดีงาม เป็นต้น 2. การแบ่งโดยอาศัยจิตและปัญญาเป็นหลัก แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่ 2.1 คุณธรรมทางศีลธรรม คือ ความมีจิตสำนึกในสิ่งที่ดีงามและมีเหตุผล คุณธรรมทางศีลธรรม นี้ ไม่ได้เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ และไม่ได้ติดตัวมาแต่กำเนิด แต่เกิดขึ้นจากการหล่อหลอมแห่งกฎและ ระเบียบ ของสังคม 2.2 คุณธรรมทางสติปัญญา อันได้แก่ ความรู้ความสามารถ ทั้งทางปฏิบัติและทางทฤษฎีอัน เกิดจาก การศึกษาอบรม เป็นคนมีเหตุผลและมีวิจารณญาณที่รอบคอบในการดำเนินการต่างๆ พรนพ พุกกะพันธ์ (2544 : 5) ได้อธิบายถึงประเภทของ คุณธรรม ว่า มนุษย์นั้นโดยธรรมชาติแล้ว มี ความรู้สึกพื้นฐานคือคิดถึงประโยชน์ของตนเอง มีความเห็นอกเห็นใจ คิดถึงประเพณีและเป็นผู้มีคุณธรรม โดย คุณธรรมนั้นแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ 1. คุณธรรมตามธรรมชาติ คือ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความรู้จักประมาณ ความอดทน ความเข้าใจ ฯลฯ ซึ่งเป็นลักษณะคุณธรรมเชิงสามัญสำนึก 2. คุณธรรมที่มนุษย์สร้างขึ้น คือความยุติธรรม เพื่อให้เป็นประโยชน์แก่สมาชิกในสังคม หรือ ขนบธรรมเนียมประเพณีที่ดีงามที่มนุษย์ในสังคมนั้น ๆ สร้างขึ้น พุทธทาสภิกขุ(2529 : 37-38) ได้อธิบายถึงประเด็นที่ว่า คุณธรรม คือ หน้าที่ที่บุคคลต้องทำให้ดี ที่สุด ถูกต้องที่สุด โดยหน้าที่มี 2 ลักษณะคือ 1. หน้าที่ของมนุษย์ในทางศาสนา ประการแรก คือ หน้าที่ที่เกิดจากความสัมพันธ์ทางสังคมของ บุคคลแต่ละบุคคลและมีหลายสถานภาพ เช่น เป็นพ่อ เป็นแม่ เป็นลูก เป็นครู เป็นศิษย์ เป็นต้น ซึ่งแต่ละคน เมื่อเป็นหน้าที่ใดแล้ว จะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ประการต่อมา หน้าที่ที่ต้องปฏิบัติตนเพื่อให้เกิด ความหลุดพ้นจากกิเลส 2. หน้าที่ทางศีลธรรมของมนุษย์ ได้แก่ หน้าที่ที่มีพันธกิริยาต่อบุคคลในสังคม เช่น การเคารพสิทธิ เสรีภาพและศักดิ์ศรีของเพื่อนมนุษย์ การเคารพกฎระเบียบกติกาของสังคมอันจะเป็นทางป้องกันไม่ให้มนุษย์ เบียดเบียนซึ่งกันและกัน ดังนั้น จึงอาจสรุปได้ว่า คุณธรรม แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท คือ คุณธรรมที่ปรากฏ
11 หรือ พฤติกรรมที่แสดงออกในตัวบุคคลหรือกลุ่มคนที่ถูกกำหนดขึ้นโดยบุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่กำหนดกติกา แห่ง คุณงามความดีร่วมกันและคุณธรรมในจิตปัญญาซึ่งอยู่ภายในของคนหรือกลุ่มคน จริยธรรม เป็นที่ปรากฏโดยทั่วไปว่าจริยธรรมมักจะถูกกล่าวถึงคำที่ควบคู่กันคือคุณธรรมที่เรียกกันติด ปากว่า “คุณธรรมจริยธรรม” แต่สำหรับจริยธรรมเมื่อแยกออกจากคุณธรรมแล้วจะมีประเด็นที่สำคัญที่ผู้เขียน ได้ นำเสนอในหัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ ความหมายของจริยธรรม เมื่อเราพูดถึงจริยธรรม เรามักนึกถึงพันธกิริยา (กิริยาหรือพฤติกรรมที่กระท าระหว่างกัน) ที่มนุษย์ มีต่อเพื่อนมนุษย์เป็นพันธะหรือหน้าที่ที่เราจะต้องปฏิบัติ ต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เช่น จงอย่าฆ่า จงอย่าพูดเท็จ จง อย่าทุจริต เป็นต้น แต่เมื่อสังคมได้เพิ่มความสลับซับซ้อน ยิ่งขึ้น มนุษย์จึงมีพันธะเพิ่มอีก คือ พันธกิริยาที่ มนุษย์มีต่อสังคม หรือต่อรัฐซึ่งเรียกว่า จริยธรรมทางสังคม หรือจริยธรรมองค์การ ดังนั้นจริยธรรม คือ หลัก ที่ดีงามในการประพฤติปฏิบัติของคนในองค์การต่าง ๆ เพราะ สมาชิกในองค์การใดหากขาดจริยธรรมในการ ดำรงตนแล้ว องค์การหรือหน่วยงานนั้นย่อมประสบปัญหา มีแต่ ความยุ่งยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาใน ด้านพฤติกรรมของคนในองค์การ ความสำคัญของจริยธรรม จริยธรรม มีความสำคัญสำหรับเป็นแนวทางแห่งความประพฤติปฏิบัติสำหรับตนเองและสังคม โดยรวม ซึ่งเมื่อ บุคคลได้น ามาปฏิบัติแล้ว ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์สุข มีความสงบและเจริญก้าวหน้า องค์การ ใด หรือหมู่คณะ ใด ได้ประพฤติปฏิบัติในหลักของจริยธรรมแล้ว ย่อมเป็นสังคมแห่งอารยะ คือ สังคมแห่งผู้ เจริญอย่างแท้จริง โดยมีผู้กล่าวถึงความสำคัญของจริยธรรมไว้ ดังนี้ วศิน อินทสระ (2541 : 6-9) ได้แสดงความสำคัญของ จริยธรรมโดยสรุป ดังนี้ 1. จริยธรรม เป็นรากฐานของความเจริญรุ่งเรือง ความมั่นคง และความสงบสุขของประชาชน สังคม ประเทศชาติ เพราะประเทศชาติแม้จะได้รับการพัฒนาในด้านวัตถุ เทคโนโลยี ความทันสมัยของ วิทยาการต่าง ๆ มากมายเพียงใด หากแต่ขาดจริยธรรมแล้ว การพัฒนาที่ยั่งยืนก็ไม่เกิดขึ้นแต่อย่างใด เพราะ เป็นการพัฒนาที่ ก่อให้เกิดการแข่งขัน แย่งชิง และเบียดเบียนทำร้ายซึ่งกันและกัน 2. การพัฒนาบ้านเมือง ต้องพัฒนาด้านจิตใจก่อน เพราะการพัฒนาจิตใจของคนในสังคม หมายถึง การพัฒนารากฐานแห่งความเป็นมนุษย์ เมื่อรากฐานแห่งความเป็นมนุษย์ถูกเติมเต็มในจิตใจแล้ว การพัฒนา ใน ด้านเศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และการพัฒนาด้านอื่น ๆ ย่อมเจริญรุดหน้าไปด้วย และถือได้ว่าเป็นการ พัฒนาที่สร้างสรรค์ 3. จริยธรรมมิได้จำกัดความหมายอยู่ที่การถือศีล การเข้าวัดปฏิบัติธรรม เจริญจิตภาวนาโดยไม่มุ่ง ทำ ประโยชน์ต่อสังคมเท่านั้น หากแต่หมายถึง การประพฤติปฏิบัติโดยวางรากฐานความคิด ความเห็นที่ ถูกต้อง การทำหน้าที่ของตนให้สมบูรณ์ เว้นสิ่งที่ควรเว้น กระท าในสิ่งที่ควรกระทำ ดำเนินชีวิตถูกต้องตาม เหตุผล ตามกาลเทศะ ดังนั้น จริยธรรมจึงมีความจำเป็นและมีคุณค่าก่อให้เกิดประโยชน์แก่คนในสังคม 4. จริยธรรม เป็นเครื่องควบคุมพฤติกรรมมนุษย์ในสังคมให้เกิดการยอมรับในศักดิ์ศรีแห่งความ เป็นมนุษย์ของผู้อื่น จริยธรรมจะเป็นเรื่องมือหล่อหลอมให้คนเกิดความรัก ความสามัคคีต่อกัน ประพฤติ ปฏิบัติต่อกันด้วยความเอื้อ อาทร ต่อผู้อาวุโสกว่า และมีความอ่อนโยนต่อผู้ที่ด้อยกว่าทั้งด้านอายุ ตำแหน่ง หน้าที่การงาน หรือสถานภาพ ทางสังคม
12 บทที่ 3 ขั้นตอนการดำเนินงาน การจัดทำโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ประจำปีงบประมาณ 2565 จัดขึ้นเพื่อให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำความรู้ที่ ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและอยู่ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุขโดยได้ดำเนินการตามวงจรคุณภาพ (PDCA) ซึ่งมีขั้นตอนกระบวนการต่างๆ ดังนี้ ขั้นที่ 1 ขั้นการเตรียมการ (P) 1.1 สำรวจสภาพ ปัญหาและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย 1.2 ประชุมวางแผนการดำเนินการฝึกอบรม 1.3 เขียนโครงการ 1.4 แต่งตั้งคณะทำงาน ขั้นที่ 2 ขั้นดำเนินการ (D) 2.1 ดำเนินงานโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น 2.๒ นิเทศติดตามการดำเนินงาน ขั้นที่ 3 รายงานผล / ประเมินผล (C) 3.1 จัดทำรายงานผลการดำเนินงานโครงการ 3.2 จัดทำรายงานการนิเทศโครงการ 3.3 ประเมินความพึงพอใจ ขั้นที่ 4 สรุปผลและปรับปรุงผลการดำเนินงาน (A) นำผลการดำเนินงาน ผลการนิเทศและแบบสรุปความพึงพอใจ มาวิเคราะห์จัดทำเป็น ข้อเสนอแนะเพื่อใช้ในการจัดโครงการในครั้งต่อไป ขั้นที่ 1 ขั้นการเตรียมการ ขั้นที่ 3 ขั้นที่ 2 ขั้นดำเนินการ รายงานผล / ประเมินผล ขั้นที่ 4 สรุปผลและปรับปรุงผลการ ดำเนินงาน
13 ดัชนีชี้วัดผลสำเร็จของโครงการ (Key Performance Indicator : KPI) ตัวชี้วัดความสำเร็จ สอดคล้องกับ มาตรฐาน กศน.ที่ วิธีการประเมิน เครื่องมือที่ใช้ ผลผลิต (outputs) กลุ่มเป้าหมาย ร้อยละ ๑๐๐ ผ่านการร่วมกิจกรรม ตามวัตถุประสงค์ 1 การสังเกต/ลง ชื่อเข้าร่วม กิจกรรม แบบลงลายมือชื่อ ผู้เข้าร่วมกิจกรรม ผลลัพธ์ (outcomes) กลุ่มเป้าหมายร้อยละ ๑๐๐ สามารถ นำประสบการณ์และองค์ความรู้ที่ได้ จากร่วมกิจกรรมมีความรู้ความ เข้าใจในเนื้อหาและสามารถพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้ 1 ทดสอบก่อน และหลังสอน เสริม -แบบทดสอบก่อนเรียน -แบบทดสอบหลังเรียน สำหรับเกณฑ์การให้คะแนนสำหรับแบบประเมินความพึงพอใจในโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำ ใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ปีงบประมาณ 256๕ โดยแบ่งระดับคุณภาพในการประเมินออกเป็น 5 ระดับ ตามแบบของ ลิเคิร์ต (Likert’s five point rating scale) ดังนี้ น้ำหนักคะแนน 5 หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด น้ำหนักคะแนน 4 หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับมาก น้ำหนักคะแนน 3 หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับปานกลาง น้ำหนักคะแนน 2 หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับน้อย น้ำหนักคะแนน 1 หมายถึง มีความเห็นอยู่ในระดับน้อยที่สุด ในส่วนของการวิเคราะห์ผลความพึงพอใจ และระดับความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการถือว่าเป็น ค่าเฉลี่ยของคะแนนที่ได้จากการตอบแบบประเมินความพึงพอใจทั้งนี้ผู้จัดกิจกรรมได้กำหนดการวิเคราะห์ตาม แนวคิดของ เบสท์ (อ้างถึงใน พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2543 : 303) ดังนี้ ค่าเฉลี่ย ความหมาย 1.00 – 1.49 น้อยที่สุด 1.50 – 2.49 น้อย 2.50 – 3.49 ปานกลาง 3.50 – 4.49 มาก 4.50 – 5.00 มากที่สุด
14 บทที่ 4 ผลการศึกษา ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัว อบอุ่น ของกลุ่มเป้าหมาย กศน.อำเภอสุคิริน โดยมีผู้เข้าร่วมโครงการจำนวน ๑๐๐ คน แบ่งออกการศึกษา ออกเป็น 2 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับผลการศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ผลการศึกษาในแต่ละส่วนจะนำเสนอข้อมูลในรูปแบบตารางแจก แจงเป็นค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละจากข้อมูลที่ได้เป็นสำคัญ ซึ่งมีรายละเอียดของผลการศึกษา ดังนี้ ส่วนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม ผู้ตอบแบบประเมินความพึงพอใจในการศึกษาในครั้งนี้ เป็นนักศึกษา กศน.อำเภอสุคิริน ที่เข้าร่วม โครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น โดยใช้ค่าร้อยละดังปรากฏในตาราง ดังนี้ ตารางที่ 4.๑ จำนวนและร้อยละของผู้เข้าร่วมโครงการจำแนกตามเพศ ข้อมูลพื้นฐาน จำนวน ร้อยละ ๑. เพศ ๑.๑ ชาย ๑.๒ หญิง ๕๑ ๔๙ 5๑ ๔๙ รวม ๑๐๐ 100 จากตารางที่ ๔.๑ กลุ่มเป้าหมายเป็นเพศชาย จำนวน ๕๑ คน คิดเป็นร้อยละ 5๑ และเป็นเพศหญิง จำนวน ๔๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๙ ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ตารางที่ ๔.๒ จำนวนและร้อยละของผู้เข้าร่วมโครงการจำแนกตามประจำกลุ่ม ข้อมูลพื้นฐาน จำนวน ร้อยละ 2. กำลังเรียนอยู่ประจำกลุ่ม 2.๑ กศน.ตำบลมาโมง 2.๒ กศน.ตำบลภูเขาทอง ๒.๓ กศน.ตำบลสุคิริน 2.4 กศน.ตำบลเกียร์ 2.5 กศน.ร่มไทร ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ ๒๐ 20 20 20 20 20 รวม ๑๐0 100 จากตารางที่ ๔.๒ ประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ที่มีกำลังเรียนอยู่ประจำกลุ่ม กศน.ตำบลมาโมง จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ 20 กศน.ตำบลภูเขาทอง จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ 20 กศน.ตำบล สุคิริน จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ 20 กศน.ตำบลเกียร์จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ 20 กศน.ตำบล ร่มไทร จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ 20 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
15 ตารางที่ ๔.3 จำนวนและร้อยละของผู้เข้าร่วมโครงการจำแนกตามช่วงอายุ ข้อมูลพื้นฐาน จำนวน ร้อยละ 3. อายุ 3.๑ อายุ 15 - 25 ปี 3.๒ อายุ 26 - 3๕ ปี 3.๓ อายุ 36 - 45 ปี 3.4 อายุตั้งแต่ ๔๖ ปีขึ้นไป ๒๘ ๗๒ - - ๒๘ ๗๒ - - รวม ๑๐๐ 100 จากตารางที่ ๔.3 ประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด มีอายุระหว่าง 15 - 2๕ ปี จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘ และอายุ 26 – 35 ปี จำนวน ๗๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๒ ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด ตารางที่ ๔.4 จำนวนและร้อยละของผู้เข้าร่วมโครงการจำแนกตามระดับการศึกษา ข้อมูลพื้นฐาน จำนวน ร้อยละ 4. ระดับการศึกษา 4.๑ ประถม 4.๒ ม.ต้น 4.๓ ม.ปลาย 4.4 ปริญญาตรี ขึ้นไป ๑๐ ๕๓ ๓๗ - 10 5๓ ๓๗ - รวม ๑๐๐ 100 จากตารางที่ ๔.4 ประชากรกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด มีการศึกษาในระดับมาก ม.ต้น จำนวน ๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ 5๓ รองลงมา ม.ปลาย จำนวน ๓๗ คน คิดเป็นร้อยละ ๓๗ ประถม จำนวน ๑๐ คน คิดเป็นร้อย ละ 10 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด
16 ส่วนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับผลการศึกษาระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ตารางที่ ๔.5 จำนวนร้อยละ และค่าเฉลี่ยจำแนกตามปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจของโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น มีดังนี้ รายการ ระดับความพึงพอใจ มากที่สุด มาก แปลผล ปาน กลาง น้อย น้อย ที่สุด ความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจ ครอบครัวอบอุ่น 4.๔๘ มาก ๑.การประชาสัมพันธ์ของโครงการ ๖๙ (๖๙) ๓๑ (๓๑) ๐ (0) 0 (0) 0 (0) 4.๖๙ มากที่สุด ๒.ความสามารถในการถ่ายทอด ความรู้ของครู/วิทยากร ๔๕ (๔๕) ๕๕ (๕๕) ๐ (๐) ๐ (0) ๐ (๐) 4.๔๕ มาก ๓.ความเหมาะสมของสถานที่จัด กิจกรรม ๖๓ (๖๓) ๓๕ (๓๕) ๒ (๒) 0 (0) 0 (0) 4.๖๑ มากที่สุด ๔.ความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ใน การโครงการ ๒๖ (๒๖) ๖๔ (๖๔) ๑๐ (10) ๐ (๐) 0 (0) 4.๑๖ มาก ๕.ความเหมาะสมของรูปแบบเทคนิค มีหลากหลาย โดยเน้นผู้เข้าร่วม กิจกรรมเป็นสำคัญ ๕๗ (4๐ ) ๔๓ (60) 0 (0) 0 (0) 0 (0) 4.๕๗ มากที่สุด ๖.ความเหมาะสมของระยะเวลาที่ใช้ จัดกิจกรรมโครงการ ๕๓ (๕๓) ๔๗ (๔๗) ๐ (๐) 0 (0) 0 (0) 4.๕๓ มากที่สุด ๗.ความพึงพอใจต่อการวัดผล ประเมินผล ๔๔ (๔๔) ๕๖ (5๖) 0 (0) 0 (0) 0 (0) 4.๔๔ มาก 8.ความรู้และทักษะที่ได้รับจาก โครงการ ๓๓ (๓๓) ๖7 (๖๗) ๐ (0) 0 (0) 0 (0) 4.45 มาก ๙.ประโยชน์ที่ท่านได้รับจากโครงการ/ กิจกรรม ๕๘ (๕๘) ๔๒ (๔๒) ๐ (0) 0 (0) 0 (0) 4.๕๘ มากที่สุด ๑๐.ความพึงพอใจในภาพรวมของ กิจกรรม ๓๙ (๓๙) ๖๑ (๖๑) ๐ (0) 0 (0) 0 (0) 4.๓๙ มาก จากตาราง ๔.5 ผลการศึกษาความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ผลการศึกษาได้ดังนี้ ความคิดเห็นของผู้เข้าร่วมโครงการที่มีต่อภาพรวม ในโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ ใจครอบครัวอบอุ่น พบว่า ค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจของโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจ ครอบครัวอบอุ่น อยู่ในระดับมากที่สุด 4.๔๘ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความเห็นด้วยกับการจัดโครงการ ดังกล่าวและเป็นประโยชน์ต่อผู้เข้าร่วมโครงการภาพรวมอยู่ในระดับมาก ส่วนประเด็นอื่นๆ ได้จำแนกการ อธิบายตามข้อคำถามดังนี้
17 ประเด็นคำถามที่ ๑ การประชาสัมพันธ์ของโครงการ พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจในการ ประชาสัมพันธ์ของโครงการ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๔๕ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจ อยู่ระดับมาก ประเด็นคำถามที่ 2 ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของครู/วิทยากร พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมี ความพึงพอใจกับความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของครู/วิทยากร โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๖๑ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด ประเด็นคำถามที่ 3 ความเหมาะสมของสถานที่จัดกิจกรรม พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจ ในความเหมาะสมของสถานที่จัดกิจกรรม โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๑๖ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมี ความพึงพอใจอยู่ระดับมาก ประเด็นคำถามที่ 4 ความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ในการโครงการ พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความ พึงพอใจในความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ในการโครงการ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.4๐ แสดงว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมาก ประเด็นคำถามที่ 5 ความเหมาะสมของรูปแบบเทคนิค มีหลากหลาย โดยเน้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็น สำคัญ พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจในความเหมาะสมของรูปแบบเทคนิค มีหลากหลาย โดยเน้น ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นสำคัญ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๕๗ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจ อยู่ระดับมากที่สุด ประเด็นคำถามที่ 6 ความเหมาะสมของระยะเวลาที่ใช้จัดกิจกรรมโครงการ พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรม มีความพึงพอใจในความเหมาะสมของระยะเวลาที่ใช้จัดกิจกรรมโครงการ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๕๓ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด ประเด็นคำถามที่ 7 ความพึงพอใจต่อการวัดผลประเมินผล พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจ ในความพึงพอใจต่อการวัดผลประเมินผล โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.4๔ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมี ความพึงพอใจอยู่ระดับมาก ประเด็นคำถามที่ ๘ ความรู้และทักษะที่ได้รับจากโครงการ พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจ ในความความรู้และทักษะที่ได้รับจากโครงการ โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.4๕ แสดงว่าผู้เข้าร่วม โครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมาก ประเด็นคำถามที่ ๙ ประโยชน์ที่ท่านได้รับจากโครงการ/กิจกรรม พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึง พอใจในประโยชน์ที่ท่านได้รับจากโครงการ/กิจกรรม โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๕๘ แสดงว่าผู้เข้าร่วม โครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมากที่สุด ประเด็นคำถามที่ ๑๐ ความพึงพอใจในภาพรวมของกิจกรรม พบว่า ผู้เข้าร่วมกิจกรรมมีความพึงพอใจ ในความพึงพอใจในภาพรวมของกิจกรรม โดยคิดเป็นค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับ 4.๓๙ แสดงว่าผู้เข้าร่วมโครงการมี ความพึงพอใจอยู่ระดับมาก จากตารางสามารถสรุปความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจ ครอบครัวอบอุ่น โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยเรียงลำดับค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ การประชาสัมพันธ์ของโครงการ ความเหมาะสมของสถานที่จัด
18 กิจกรรม ประโยชน์ที่ท่านได้รับจากโครงการ/กิจกรรม ความเหมาะสมของรูปแบบเทคนิค มีหลากหลาย โดย เน้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมเป็นสำคัญ ความเหมาะสมของระยะเวลาที่ใช้จัดกิจกรรมโครงการ ความสามารถในการ ถ่ายทอดความรู้ของครู/วิทยากร ความรู้และทักษะที่ได้รับจากโครงการ ความพึงพอใจต่อการวัดผลประเมินผล ความพึงพอใจในภาพรวมของกิจกรรม ความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ใน
19 บทที่ ๕ บทสรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ จากโครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักศึกษา มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องคุณธรรม จริยธรรม สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในชีวิตประจำวันและอยู่ ร่วมกันกับผู้อื่นอย่างมีความสุข พบว่า - ผู้เข้าร่วมโครงการกลุ่มเป้าหมาย เป็นเพศชาย จำนวน ๕๑ คน คิดเป็นร้อยละ 5๑.00 เป็นเพศหญิง จำนวน ๔๙ คน คิดเป็นร้อยละ ๔๙.00 ตามลำดับ - กำลังเรียนอยู่ประจำกลุ่ม กศน.ตำบลมาโมง จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ตำบลภูเขา ทอง จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ตำบลสุคิรินจำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ตำบลเกียร์ จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ กศน.ร่มไทร จำนวน ๒๐ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๐ ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด - มีอายุระหว่าง 15 - 2๕ ปี จำนวน ๒๘ คน คิดเป็นร้อยละ ๒๘ และอายุ 26 – 35 ปี จำนวน ๗๒ คน คิดเป็นร้อยละ ๗๒ ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด - ระดับการศึกษา ม.ต้น จำนวน ๕๓ คน คิดเป็นร้อยละ ๕๓ รองลงมา ม.ปลาย จำนวน ๓๗ คน คิด เป็นร้อยละ ๓๗ ประถม จำนวน ๑๐ คน คิดเป็นร้อยละ 10 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด - ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจของท่านต่อภาพรวมของโครงการ พบว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความ พึงพอใจของท่านต่อภาพรวมของโครงการ โดยระดับความพึงพอใจส่วนใหญ่อยู่ในระดับ 4.๔๘ แสดงว่า ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพึงพอใจอยู่ระดับมาก ข้อคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้เข้าร่วมการอบรม ๑.ควรวางแผนให้ครูแต่ละตำบลสามารถ ถ่ายทอดเนื้อหาในการอบรม ไปยังนักศึกษาในการสอดแทรก จัดการเรียนการสอน ๒.ควรวางแผนการจัดกิจกรรมสำหรับผู้เรียนที่มีความสนใจเพื่อให้เข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบออนไลน์ จากที่บ้านได้ ๓.ควรวางแผนปรับปรุงเรื่องสัญญานอินเทอร์เน็ตให้มีความเสถียร
ภาคผนวก
21 ภาพกิจกรรม โครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น วันที่ ๓ เดือนกุมภาพันธ์พ.ศ. 2565 ณ ห้องสมุดประชาชน และกศน.ตำบลทุกตำบล พิธีเปิดโครง โดย นางสาวนูเรฮา บือซา ผอ.กศน. อำเภอสุคิริน กล่าวรายงานโครงการโดย นายมะรอยาลี มะแซ ครูผู้ช่วย บรรยายพิเศษ โดย นางสาวนูเรฮา บือซา ผอ.กศน. อำเภอสุคิริน วิทยากรบรรยาย การเข้าร่วมออนไลน์จากกศน.ตำบล การเข้าร่วมออนไลน์จากกศน.ตำบล
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38 แบบประเมินความพึงพอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม โครงการพัฒนาผู้เรียน คุณธรรมนำใจ วัยใส ใส่ใจครอบครัวอบอุ่น ********************************************* คำอธิบาย แบบประเมินฉบับนี้มีทั้งหมด 2 ตอน ขอให้ผู้ตอบแบบประเมินตอบให้ครบทั้ง 2 ตอน เพื่อให้การดำเนินโครงการ/กิจกรรมเป็นไป ตามวัตถุประสงค์และเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้ต่อไป ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับสถานภาพของผู้ตอบแบบสอบถาม คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ลงในช่อง หน้าข้อความ 1. เพศ หญิง ชาย 2. กำลังศึกษาอยู่ประจำกลุ่ม กศน.ตำบลมาโมง กศน.ตำบลภูเขาทอง กศน.ตำบลสุคิริน กศน.ตำบลเกียร์ กศน.ตำบลร่มไทร 3. อายุ 15 - 25 ปี 26 - 35 ปี 36 - 45 ปี 46 ปีขึ้นไป 4. การศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย ปริญญาตรี ขึ้นไป ตอนที่ 2 ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความพึงพอใจของผู้เข้าร่วม คำชี้แจง โปรดทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องที่ตรงกับความพึงพอใจของท่านเพียงระดับเดียว ที่ รายการ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ๑ การประชาสัมพันธ์ของโครงการ ๒ ความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ของครู/วิทยากร ๓ ความเหมาะสมของสถานที่จัดกิจกรรม ๔ ความเหมาะสมของสื่ออุปกรณ์ในการโครงการ ๕ ความเหมาะสมของรูปแบบเทคนิค มีหลากหลาย โดยเน้นผู้เข้าร่วม กิจกรรมเป็นสำคัญ ๖ ความเหมาะสมของระยะเวลาที่ใช้จัดกิจกรรมโครงการ ๗ ความพึงพอใจต่อการวัดผลประเมินผล ๘ ความรู้และทักษะที่ได้รับจากโครงการ ๙ ประโยชน์ที่ท่านได้รับจากโครงการ/กิจกรรม ๑๐ ความพึงพอใจในภาพรวมของกิจกรรม ข้อเสนอแนะอื่นๆ ……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
39 ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอสุคิริน สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัดนราธิวาส สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ