The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by hr.santirb1, 2021-05-27 21:04:41

คู่มือการปฏิบัติงานกลุ่มงานบริหารบุคคล โรงเรียนวัดสันติการาม

บุคคล

หนา้ 1

โรงเรยี นวัดสันติการาม สำนักงานเขตพนื้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

คู่มือการปฏบิ ัตงิ าน กลมุ่ บรหิ ารงานบคุ คล โรงเรียนวัดสันตกิ าราม
สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาราชบรุ ีเขต 1

สำนกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
………………………………………………………………………………………………………………………….

กลุ่มบรหิ ารงานบคุ คล

1. การวางแผนอัตรากำลงั และกำหนดตำแหนง่

2. การจัดสรรอัตรากำลังขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

3. การสรรหาและบรรจุแตง่ ต้ัง

4. การเปล่ียนตำแหน่งให้สงู ขึ้น การย้ายข้าราชการครแู ละบคุ ลำกรทางการศึกษา

5. การดำเนินการเก่ยี วกับการเล่ือนเงนิ เดือน

6. การลาทุกประเภท

7. การประเมินผลการปฏิบตั ิงาน

8. การดำเนินการทางวนิ ยั และการลงโทษ

9. การสัง่ พักราชการและการส่งั ให้ออกจากราชการไวก้ ่อน

10. การรายงานการดำเนนิ การทางวินัยและการลงโทษ

11. การอุทธรณ์และการร้องทุกข์

12. การออกจากราชการ

13. การจดั ระบบและการจัดทำทะเบยี นประวัติ

14. การจดั ทำบัญชรี ายชื่อให้ความเห็นเกี่ยวกบั การเสนอขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์

15. การสง่ เสริมการประเมนิ วิทยฐานะขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา

16. การส่งเสริมและยกย่องเชดิ ชูเกยี รติ

17. การสง่ เสริมมาตรฐานวชิ าชีพและจรรยาบรรณวชิ าชพี

18. การส่งเสริมวินัย คณุ ธรรมและจริยธรรมสำหรับขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา

19. การริเริ่มสง่ เสริมการขอรับใบอนญุ าต

20. การพฒั นาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา การดำเนนิ การที่เกี่ยวกบั การบริหารงานบคุ คล ใหเ้ ปน็ ไป

ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการน้ัน

หน้า 2

โรงเรียนวัดสันตกิ าราม สำนักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

ขอบขา่ ยงานกล่มุ บริหารงานบคุ คล

การบริหารงานบุคคล
การบรหิ ารงานบคุ คลเป็นภารกิจสำคัญที่ม่งุ ส่งเสรมิ ให้โรงเรียนสามารถปฏบิ ตั งิ าน เพอื่ ตอบสนองภารกจิ

ของโรงเรียน เพี่อดำเนนิ การด้านการบรหิ ารงานบุคคลใหเ้ กิดความคลอ่ งตัว อิสระภายใต้ กฎหมาย ระเบียบ
เป็นไปตามหลักธรรมาภบิ าลข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ไดร้ ับการพฒั นา มีความรู้ ความสามารถ
มีขวญั กำลงั ใจ ได้รับการยกย่องเชดิ ชเู กียรติมีความมั่นคงและกา้ วหน้าในวิชาชีพ ซึ่งจะ สง่ ผลต่อการพัฒนาคุณภาพ
การศึกษาของผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ การบรหิ ารบคุ ลากร เป็นกระบวนการเก่ยี วกับบุคคล เพ่ือให้ได้มาซงึ่ บุคคลดี
มีความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับงาน เขา้ มาทำงานให้ไดผ้ ลดที ่ีสุด โดยหนว่ ยงานสามารถดงึ ดดู ธำรงรักษา
และพัฒนาใหม้ ีความรู้ ความสามารถ ท้ังนเ้ี พื่อใหห้ นว่ ยงานสามารถทำภารกจิ ได้อยา่ งมีประสิทธภิ าพ และ
ประสิทธผิ ลตามความ มุ่งหมาย

วัตถปุ ระสงค์
1. เพือ่ ให้การดำเนินงานดา้ นการบริหารงานบุคคลถูกต้อง รวดเร็วเป็นไปตามหลกั ธรรมาภิบาล
2. เพ่ือสง่ เสรมิ บุคลากรให้มีความรูค้ วามสามารถและมจี ติ สานึกในการปฏบิ ตั ิภารกิจท่รี บั ผิดชอบใหเ้ กิด

ผลสำเร็จ ตามหลักการบรหิ ารแบบมุง่ ผลสัมฤทธ์ิ
3. เพอ่ื สง่ เสริมให้ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาปฏบิ ตั งิ านเตม็ ตามศกั ยภาพโดยยดึ มนั่ ใน

ระเบยี บ วินยั จรรยาบรรณ อยา่ งมีมาตรฐานแห่งวิชาชพี
4. เพอื่ ให้ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ปี ฏิบัติงานได้ตามมาตรฐานวิชาชพี ได้รบั การยกย่อง

เชดิ ชู เกยี รตมิ ีความมัน่ คงและความกา้ วหน้าในวชิ าชพี ซ่งึ จะส่งผลตอ่ การพฒั นาคุณภาพการศึกษาของผเู้ รียนเปน็
สำคญั

5. เพ่อื เป็นการวางแผนปฏิบัติงาน การควบคุม กำกับดแู ลเกย่ี วกบั ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการ
ศกึ ษาใน โรงเรยี น

ขอบขา่ ยงานบุคลากร หนา้ 3
1. ส่งเสรมิ และพฒั นาระบบการบรหิ ารจดั การใหม้ ปี ระสิทธิภาพ
2. ส่งเสรมิ ให้บคุ ลากรในโรงเรียนปฏบิ ัติตามในหน้าท่ีตามมาตรฐานวชิ าชพี และจรรยาบรรณ

วชิ าชพี ครู
3. สง่ เสริมการประชาสมั พนั ธข์ อ้ มลู ข่าวสารของบคุ ลากรภายในโรงเรยี นแกผ่ ู้เกยี่ วข้องอย่างท่ัวถงึ

และมปี ระสิทธิภาพ
4. ส่งเสริม และสนบั สนนุ ให้ครแู ละบุคลากรไดร้ ับการพัฒนาตามสมรรถนะวิชาชพี ครู
5. ประสานความร่วมมือระหวา่ งโรงเรียน ผ้ปู กครอง และชมุ ชน ในการพัฒนา โรงเรยี น
6. ส่งเสรมิ ใหค้ ณะครูปฏบิ ัติหนา้ ทดี่ ้วยความซ่ือสัตย์สุจรติ
7. ส่งเสริมใหค้ ณะครูปฏบิ ัตติ นในการดำเนินชีวติ โดยยดึ หลักเศรษฐกิจพอเพียง

โรงเรียนวัดสนั ตกิ าราม สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

ขอบเขตการบริหารบุคลากรในโรงเรียนกำหนดไว้ ๔ ประการ ดังน้ี
1. การแสวงหาบุคลากร หมายถงึ วิธีการให้ได้บุคคล ทเ่ี หมาะสมกับงาน คือ การรับสมคั ร และบรรจุ

แต่งต้งั บุคลากร
1. ควรคดั เลือกบุคลากรท่ีมคี วามรบั ผิดชอบ มรี ะเบยี บ เสียสละ รักษา เกียรติยศ ช่ือเสียง

สนใจในงานบรหิ ารและมีความภมู ิใจในโรงเรียน
2. ควรคดั เลอื กบุคลากรที่มีความสามารถ ซ่งึ แบ่งออกเปน็ 2 อยา่ ง คือ ความสามารถทัว่ ไป

และ ความสามารถเฉพาะ
2. การบำรงุ รกั ษาบคุ ลากร ผู้บรหิ ารโรงเรยี นมีหน้าทดี่ แู ลบุคลากรในโรงเรียนเพื่อใหบ้ ุคลากรในโรงเรียนมี

ประสิทธภิ าพในการท างานสิ่งจงู ใจในรักษาบุคลกรมหี ลายประการเชน่
1. สง่ิ จูงใจท่เี ป็นวตั ถุ เช่น เงิน รางวัล สง่ิ จูงใจที่เปน็ วัตถุน้ีผู้บริหารตอ้ ง พจิ ารณาอย่างรอบคอบ

ว่าควรให้ลกั ษณะใด เมื่อไร และใชห้ ลกั อะไรในการพิจารณา
2. สิ่งจูงใจทเ่ี ป็นสภาพของการทำงาน เชน่ สวัสดิการของครู บรรยากาศในการทำงาน
3. สิง่ จงู ใจท่ีเป็นโอกาส หมายถงึ การให้โอกาสไดร้ ับความกา้ วหนา้ ในหนา้ ท่ี การงาน
4. สิ่งจงู ใจทเี่ ปน็ การพัฒนาวชิ าชพี เช่น การเปดิ โอกาสให้ไปดงู าน การอบรม ศกึ ษาต่อ

3. การพัฒนาบุคลากร คือ การกระตุ้นให้บุคลากรในโรงเรยี นทำงานในหนา้ ท่ีดว้ ยความขยนั หมน่ั เพียร
มพี ลงั ใจ ในการทำงาน การพัฒนาบคุ ลากรทางด้านการสอน อาจจะทำ ไดโ้ ดยการสง่ เสริมการลาศึกษาต่อ
การอบรม การสมั มนาการประชมุ ปรกึ ษาหารอื การวจิ ัยการศกึ ษาดว้ ยตนเองเป็นต้น

4. การใหบ้ ุคลากรพน้ จากหน้าทก่ี ารงาน เป็นกระบวนการสดุ ทา้ ยของการบริหาร บุคลากร การให้
บคุ ลากรพ้น จากงานมีสาเหตุหลายประการ เช่น การลาออก การยา้ ย หรอื โอน การให้ออก เกษียณอายุ หรือ
การลดจำนวน บุคลกรใหเ้ หมาะสมกับปริมาณงาน เป็นตน้ การให้พ้นจากงานด้วยสาเหตุปกติ เชน่ การเกษียณ
อายไุ มใ่ คร่มีปญั หา แต่การให้บุคลากรพ้น จากงานด้วยสาเหตุพิเศษ เช่น การขอโอน การให้ออกเพราะผิดวินัย
การลด จำนวนบุคลกร ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นต้องพิจารณาอยา่ งรอบคอบ และตดั สินใจโดยใหก้ ระทบกระเทือนต่อการ
ดำเนินในโรงเรียนใหน้ ้อยท่ีสดุ

ภารกิจกลุม่ บรหิ ารงานบคุ คล หนา้ 4
1. การวางแผนอัตรากำลังและกำหนดตำแหนง่
1.1 การวิเคราะหแ์ ละวางแผนอัตรากำลังคน แนวทางการปฏบิ ตั ิ
1. วิเคราะห์ภารกิจและประเมนิ สภาพความต้องการกำลงั คนกับภารกจิ ของสถานศกึ ษา
2. จดั ทำแผนอตั รากำลังขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา โดย

ความเหน็ ชอบ ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐานตามเกณฑ์ที่ ก.ค.ศ.กำหนด
3. นำเสนอแผนอตั รากำลงั เพือ่ ขอความเห็นชอบต่อสำนกั งานเขตพน้ื ที่
4. นำแผนอตั รากำลงั ของสถานศึกษาสกู่ ารปฏบิ ตั ิ

1.2 การกำหนดตำแหนง่ แนวทางการปฏิบัติ
1. สถานศึกษาจัดทำภาระงานสำหรบั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา

โรงเรียนวัดสันติการาม สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

2. นำแผนอตั รากำลังมากำหนดตำแหนง่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา
เพือ่ นำเสนอ ต่อสำนักงานเขตพืน้ ท่ี

1.3 การขอเลื่อนตำแหนง่ บุคลากรทางการศึกษาและวทิ ยฐานะข้าราชการครู แนวทางการปฏบิ ัติ
1. สถานศึกษาขอปรับปรงุ การกำหนดตำแหนง่ /ขอเลือ่ นวทิ ยฐานะ/ขอเปล่ยี นแปลงเงื่อนไข

ตำแหนง่ / ขอกำหนดตำแหน่งเพิ่มจาก ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษาไปยังสำนักงาน
เขตพ้ืนท่ี

2. ประเมนิ เพื่อขอเล่ือนวิทยฐานะ/ขอเปลย่ี นแปลงเงอ่ื นไขตำแหนง่ /ขอกำหนดตำแหนง่ เพ่มิ
ขา้ ราชการ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาตามหลักเกณฑ์ท่ีก.ค.ศ.กำหนด

3. ส่งคำขอปรับปรงุ กำหนดตำแหน่ง/เพ่ือเลื่อนวทิ ยฐานะ/ขอเปลี่ยนแปลงเง่ือนไขตำแหน่ง/ขอ
กำหนด ตำแหนง่ เพิ่มจากข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต่อสำนักงานเขตพนื้ ที่เพอ่ื นำเสนอ อ.ก.ค.ศ.
พิจารณา อนุมัตแิ ละเสนอผมู้ ีอำนาจแตง่ ตง้ั

2. การจดั สรรอัตรากำลงั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา ตามความต้องการและความขาด
แคลน ของสถานศึกษา แนวทางปฏิบตั ิ

1. การสำรวจข้อมูลความตอ้ งการขาดแคลน จำแนกรายสาขาวชิ า
2. สรรหาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาให้เพียงพอกบั ความต้องการตามคุณวุฒิ วขิ าเอก หรอื มี
ประสบการณส์ อดคล้องกับสถานศึกษา
3. รับย้ายครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยคำนงึ ถึงความต้องการจำเปน็ และดำเนนิ การตาม
หลักเกณฑ์แนวปฏิบัตใิ นการบรหิ ารงานบคุ ลากร
3. การสรรหาและบรรจุแตง่ ตง้ั
3.1 ดำเนนิ การสรรหาเพื่อบรรจุบคุ คลเขา้ รับราชการเป็นขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาใน
สถานศึกษาเป็นอำนาจหน้าท่ีของผมู้ ีอำนาจตามมาตรา 53 แนวทางการปฏิบตั ิ
1. การสอบแข่งขัน การสอบคดั เลือกและการคดั เลอื กในกรณีจำเป็นหรือมเี หตพุ ิเศษในตำแหน่งครู
ผู้ชว่ ย ให้ดำเนินการตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการท่ี ก.ค.ศ.กำหนด
3.2 การจา้ งลูกจ้างประจำและลูกจา้ งชัว่ คราว แนวทางการปฏบิ ัติ
1. กรณกี ารจ้างลกู จ้างประจำและลูกจา้ งชวั่ คราวโดยใชง้ บประมาณสำนักงานเขต ใหด้ ำเนินการ
ตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการท่ีกระทรวงการคลงั หรอื ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารท่ีก.ค.ศ. กำหนด
2. กรณกี ารจ้างลกู จ้างชั่วคราวกรณีอื่นนอกเหนือจากข้อ 1 สถานศึกษาสามารถดำเนินการจ้าง ครู
อตั ราจ้างหรือลูกจา้ งชว่ั คราวของสถานศึกษาไดโ้ ดยใชเ้ งนิ รายได้ของสถานศึกษา ภายใต้หลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารท่ี
สถานศึกษาไดโ้ ดยใช้เงินรายไดข้ องสถานศึกษา ภายใตห้ ลักเกณฑ์และวธิ กี ารที่สถานศึกษากำหนด

4. การเปลี่ยนตำแหนง่ ให้สูงขนึ้ การย้ายข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา แนวทางการปฏบิ ัติ

4.1 การเปลี่ยนตำแหน่งให้สูงข้นึ แนวทางการปฏิบตั ิ

ขอ้ 1. ใหข้ ้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาได้รบั เงนิ เดือนสงู กว่า หรือำต่ำกว่าขั้นต่ำ ของ

อันดบั ในกรณดี ังต่อไปน้ี หน้า 5

โรงเรยี นวดั สนั ติการาม สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

1.1 ไดร้ บั เงนิ เดือนสูงกวา่ ข้นั ต่ำ หรอื ตำ่ กวา่ ขัน้ ต่ำของอนั ดับเงนิ เดือนของตำแหนง่ และวทิ ยฐานะ
นนั้ อยู่แลว้ ให้ได้รับเงินเดือนเทา่ เดิม เวน้ แต่ ก.ค.ศ. จะกำหนดเปน็ อยา่ งอืน่

1.2 ถูกลดขนั้ เงนิ เดือนหรือลดเงินเดอื นจนทำให้ไดร้ ับเงนิ เดือนต่ำกวา่ ข้ันตำ่ ของอันดบั เงินเดือน
ของตำแหนง่ และวิทยฐานะ ใหไ้ ด้รับเงินเดือนเทา่ ท่ถี กู ลดข้ันเงนิ เดอื นหรือลดเงนิ เดือนน้ัน

1.3 เปล่ยี นตำแหน่ง ย้าย หรอื โอน ใหไ้ ดร้ บั เงนิ เดอื นในแต่ละกรณี ดงั ต่อไปน้ี
(ก) ในกรณีท่ีเปน็ ประโยชน์แก่ทางราชการ ให้ไดร้ ับเงนิ เดอื นในอันดับและข้ันหรืออัตรา เงินเดือนท่ี
ไดร้ ับอยเู่ ดิม
(ข) ในกรณีเปล่ียนตำแหน่ง ย้าย หรือโอนโดยเปน็ ความประสงค์ของขา้ ราชการครูและ บคุ ลากร
ทางการศกึ ษา ใหไ้ ดร้ ับเงนิ เดือนในอนั ดบั เงินเดือนของตำแหน่งทีไ่ ดร้ ับแตง่ ตั้งในขั้นทต่ี รงกันกับขน้ั หรืออัตรา
เงินเดอื นที่ได้รับอยู่เดมิ แต่ถ้าผนู้ ้ันไดร้ บั เงินเดือนสูงกวา่ ข้นั สงู ของอันดบั เงนิ เดือนสำหรบั ตำแหน่งที่ไดร้ บั แต่ง
ต้ังอยแู่ ล้ว ใหไ้ ด้รับเงินเดือนตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.4 ไดร้ ับการบรรจุและแตง่ ต้ังใหด้ ำรงตำแหน่งครูผู้ช่วย ได้รับเงนิ เดอื นอนั ดบั ครูผู้ช่วย ข้นั หรอื
อัตราเงินเดือนท่ตี ่ำกว่าขั้นตำ่ หรือสงู กว่าข้ันต่ำของอนั ดับ เมอ่ื ผ่านการเตรยี มความพร้อม และพฒั นาอย่างเขม้
แล้ว ได้รับแตง่ ต้ังให้ดำรงตำแหนง่ ครู ให้ได้รับเงนิ เดอื นในอันดบั คศ. 1 ตามท่ี ก.ค.ศ.
1.5 ไดร้ ับแต่งตั้งใหด้ ำรงตำแหน่งและวิทยฐานะสงู ขึ้น ถา้ ไดร้ ับเงินเดือนสงู กว่าขั้นต่ำ ของอนั ดับ
เงินเดือนของตำแหนง่ และวิทยฐานะนัน้ อยู่แลว้ ใหไ้ ด้รับเงินเดือนในอันดับเงนิ เดือน ของตำแหนง่ และวิทยฐานะ ที่
ไดร้ ับแตง่ ตั้งในขนั้ ที่ตรงกันกับข้นั หรอื อัตราเงนิ เดือนท่ีได้รบั อยู่เดมิ ถา้ ไม่มขี ้นั หรืออตั ราเงินเดือนท่ีไดร้ ับอยู่เดมิ ให้
ไดร้ ับในข้นั หรืออัตราเงนิ เดือนใกล้เคยี งท่สี ูงกว่า เว้นแต่ ก.ค.ศ. จะกำหนดเป็นอยา่ งอืน่
1.6 ได้รบั ปรญิ ญา ประกาศนียบัตรการศึกษา ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ หรอื คุณวฒุ ิอยา่ งอนื่ ซึ่ง
ก.ค.ศ. รับรองและกำหนดเงินเดือนที่ควรไดร้ บั ในอันดบั และขัน้ หรืออัตราเงนิ เดือนใด ให้ไดร้ ับ เงนิ เดือนในอันดับ
และขน้ั หรืออัตราเงินเดอื น
ข้อ 2. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผ้ใู ด เม่ือได้รบั เงินเดือนถึงข้ันสงู ของอันดับ เงินเดอื น ของ
ตำแหนง่ และวิทยฐานะในอันดบั คศ. 2 คศ. 3 หรือ คศ. 4 ให้ผูน้ ัน้ ได้รบั เงนิ เดือน สงู กวา่ ขั้นสงู ของอนั ดบั เงนิ เดือน
เดมิ โดยใหไ้ ปอาศัยรบั เงินเดือนในอนั ดับถัดไปได้อกี หนึง่ อันดับเท่าน้ัน ถา้ ไมม่ ีข้ันหรอื อัตราเงนิ เดือนท่ี ได้รบั อยู่เดิม
ใหไ้ ดร้ ับในขนั้ หรอื อัตราเงินเดือนใกล้เคียงท่สี งู กวา่ แลว้ แต่กรณใี นกรณขี ้าราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา
ซ่งึ ได้รับเงินเดือนสูงข้ึนในอนั ดับ คศ. 2 คศ. 3 หรือ คศ. 4 ตามวรรคหน่ึง ผ้ใู ดต้องพ้นจากราชการ เพราะเหตุ
เกษียณอายุ ให้ผูน้ ัน้ ไดร้ ับเงินเดือนในอนั ดบั ทส่ี ูงขึ้นดงั กลา่ วในวันท่ี 30 กันยายนของปสี ุดท้ายก่อนท่ี จะพ้นจาก
ราชการเพราะเหตเุ กษียณอาย”ุ
ขอ้ 3. ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาซ่ึงดำรงตำแหน่งครผู ้ชู ่วยผูใ้ ดผา่ นการเตรียม ความ พร้อม
และพัฒนาอยา่ งเข้มแลว้ ให้ดำรงตำแหน่งครู รบั เงนิ เดอื นอันดบั คศ. 1
4.2 การยา้ ยขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา แนวทางการปฏิบัติ การยา้ ย หมายถงึ การแต่งตง้ั
ข้าราชการครใู หด้ ำรงตำแหนง่ ว่าง การยา้ ยสับเปลย่ี น และ การยา้ ยตัดโอนตำแหนง่ และอัตราเงินเดอื นไปดำรง
ตำแหน่งเดิมในหนว่ ยงานการศกึ ษาหรือ สว่ นราชการอนื่

หน้า 6

โรงเรียนวัดสันติการาม สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

การย้ายไปดำรงตำแหนง่ วา่ ง หมายถงึ การแต่งตงั้ ใหด้ ำรงตำแหนง่ วา่ งซึ่งมีอัตราเงนิ เดอื น และใหร้ วมถงึ
การยา้ ยสับเปลย่ี นตัวบุคคลกับอตั ราวา่ งดว้ ย

การย้ายสบั เปล่ียน หมายถึง การย้ายสบั เปล่ียนระหว่างบุคคลกับบุคคล
การย้ายตดั โอนตำแหน่งและอตั ราเงินเดือน หมายถึง การตดั โอนตำแหนง่ และอัตราเงนิ เดอื น ตามตวั
บคุ คลจากหน่วยงานการศึกษาเดมิ ไปกำหนดในหนว่ ยงานการศกึ ษาอน่ื

4.2 การย้ายขา้ ราชการครู
1. การย้ายกรณปี กติ มี 3 กรณี ดังนี้

1. การย้ายเพ่ืออยู่รวมกับคู่สมรส
2. การยา้ ยเพอื่ ดแู ลบิดามารดา
3. การย้ายกลับภมู ลิ ำเนา
คุณสมบัติของผู้ยา้ ย กรณปี กติ
1. ไม่อยใู่ นระหวา่ งทดลองปฏิบตั หิ น้าท่รี าชการ หรอื การเตรยี มความพร้อมและพฒั นาอยา่ งเขม้ ]
2. ดำรงตำแหนง่ ในหนว่ ยงานการศกึ ษาปจั จุบัน ไมน่ ้อยกว่า 12 เดอื น นบั ถงึ วนั ท่ยี ืน่ คำขอยา้ ย
3. ไม่อยรู่ ะหว่างลาศกึ ษาต่อเตม็ เวลา
4. กรณีการยา้ ยสับเปลย่ี นต้องเป็นผทู้ ่ีมอี ายุราชการเหลือไม่นอ้ ยกว่า 12 เดือน นับถึงวันทีย่ ่ืน
คำขอ
2. การยา้ ยกรณีพเิ ศษ มี ๔ กรณี ได้แก่
1. การย้ายติดตามคสู่ มรส
2. การยา้ ยเน่ืองจากเจ็บปว่ ยร้ายแรง
3. การยา้ ยเนอ่ื งจากถูกคุกคามต่อชีวิต
4. การยา้ ยเพ่ือดูแลบดิ า มารดา หรอื คู่สมรส ซง่ึ เจ็บปว่ ยรา้ ยแรง
คณุ สมบัติของผู้ยา้ ย กรณพี ิเศษ
1. การย้ายตดิ ตามคสู่ มรส

1. ไม่อยใู่ นระหว่างทดลองปฏิบัตหิ นา้ ท่ีราชการ หรอื การเตรยี มความพร้อมและพฒั นาอย่างเข้ม
2. คูส่ มรสต้องเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำสว่ นราชการพนักงานของรัฐทเ่ี รียกชอื่ อย่างอืน่ หรอื
พนักงานรัฐวสิ าหกิจ ซึ่งจดทะเบยี นสมรสก่อนวนั ท่ีคู่สมรสไดร้ บั แตง่ ตง้ั ไปดำรงตำแหนง่ ใหม่ และต้อง
อาศัยอยดู่ ว้ ยกนั
2. การย้ายเนอ่ื งจากเจบ็ ป่วยร้ายแรง เปน็ ผเู้ จ็บปว่ ยหรือเปน็ โรคร้ายแรง ตอ้ งรักษาต่อเน่ืองเป็นเวลานาน
และแพทยแ์ ผนปัจจุบันในทอ้ งถิน่ ไม่สามารถรักษาได้ซงึ่ มีหลกั ฐานทางการแพทย์แผนปจั จบุ ันรบั รอง
3. การยา้ ยเนอ่ื งจากถูกคุกคามต่อชีวติ เปน็ ผู้ประสบปัญหาถูกคุกคาม ปองรา้ ย โดยมีหลกั ฐาน ทาง
ราชการ ยนื ยัน และผ้บู ังคบั บัญชาช้นั ต้นให้คำรับรอง
4. การยา้ ยเพ่ือดแู ลบิดา มารดา หรอื คสู่ มรส ซ่งึ เจบ็ ป่วยร้ายแรง
1. ผู้ขอยา้ ยเป็นบตุ รคนเดยี วหรอื บตุ รซงึ่ เหลืออยู่คนเดียวของ บดิ า มารดา หรอื เปน็ คู่สมรสตาม หนา้ 7

โรงเรยี นวัดสนั ติการาม สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

กฎหมายของผเู้ จบ็ ป่วยรา้ ยแรง หรอื เป็นโรครา้ ยแรง
2. บิดา มารดาหรอื คสู่ มรสเจ็บปว่ ยรา้ ยแรง หรือเป็นโรคร้ายแรง ต้องรักษาต่อเนื่องเป็นเวลานาน

ซ่ึงมีหลักฐานทางการแพทย์ แผนปัจจบุ ันรบั รอง
3. การย้ายกรณเี พ่ือประโยชน์ของทางราชการ ได้แก่
1. การย้ายเพ่ือแกป้ ญั หาการบริหารจัดการในหน่วยงานการศึกษา
2. การย้ายเพอ่ื พฒั นาคุณภาพการศกึ ษา

5. การดำเนินการเก่ยี วกบั การเลื่อนเงนิ เดอื น
“ปี” หมายความวา่ ปงี บประมาณ
“คร่งึ ปแี รก” หมายความว่า ระยะเวลาตั้งแต่วันท่ี 1 ตลุ าคม ถึงวนั ท่ี 31 มีนาคม
“คร่งึ ปีหลงั ” หมายความว่า ระยะเวลาต้ังแต่วันที่ 1 เมษายน ถงึ วันท่ี 30 กนั ยายน
“ครง่ึ ปีที่แลว้ มา” หมายความวา่ ระยะเวลาครงึ่ ปแี รกหรือคร่ึงปหี ลงั ทผี่ า่ นมา แลว้ แตก่ รณี
“ผูบ้ ังคับบัญชา” หมายความว่า หัวหน้าสว่ นราชการ ศึกษาธกิ ารจงั หวัด ผู้อำนวยการ สำนกั งานเขต
พื้นท่ี การศกึ ษา ผ้อู ำนวยการสถานศึกษา หรอื ผบู้ รหิ ารหน่วยงานการศึกษาทเี่ รยี กช่ืออย่างอน่ื ตามที่ ก.ค.ศ.
กำหนด
“ผู้มอี ำนาจสั่งเลื่อนเงินเดือน” หมายความว่า ผู้มอี ำนาจตามมาตรา 53
“คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการทผ่ี ูบ้ ังคับบัญชาแตง่ ต้งั ขน้ึ เพื่อพจิ ารณา ผลการ
ปฏิบตั ิงานและ ความประพฤตใิ นการรักษาวนิ ยั คณุ ธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ
“กศจ.” หมายความวา่ คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั และหมายความรวมถึง อ.ก.ค.ศ.

การเล่อื นเงนิ เดอื นของขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ควรปฏบิ ตั ดิ งั นี้
1. ใหผ้ ู้บังคบั บัญชา แต่งตั้งคณะกรรมการไม่น้อยกวา่ สามคน ทำหนา้ ท่ีพิจารณา รายงานผลการ พิจารณา

และเสนอความเหน็ ต่อผ้บู งั คับบัญชาตามลำดับ เพ่ือประกอบการพจิ ารณาของผู้มอี ำนาจสัง่ เล่ือน เงินเดือนโดย
ความเห็นชอบ ของ กศจ.

2. การพจิ ารณาเลื่อนเงนิ เดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้พจิ ารณา โดยยดึ หลัก คุณ
ธรรม ความเท่ยี งธรรม เปดิ เผย โปรง่ ใส และพิจารณาผลการปฏบิ ตั งิ าน ที่เปน็ ประโยชน์ ตอ่ ผ้เู รียนเป็นหลัก
รวมทั้งให้พิจารณาถึงความประพฤติในการรักษาวนิ ัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี ประกอบกับ
ขอ้ มูลการลา พฤตกิ รรมการมาทำงาน และขอ้ ควรพิจารณาอื่นของผนู้ ้นั

3. การเลอื่ นเงนิ เดือนใหข้ ้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา โดยมิได้ดำเนินการ ตามวรรคสองและ
วรรคสาม แต่ใชว้ ิธกี ารหารเฉล่ียเพอื่ ให้ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทุกคน ไดร้ ับการเล่อื นเงนิ เดอื น ใน
อตั รารอ้ ยละทเี่ ท่ากันจะกระทำมิได้

4. เพ่ือประโยชนใ์ นการจัดสรรวงเงินงบประมาณอย่างเปน็ ธรรม ให้ส่วนราชการบรหิ ารวงเงิน ในการ
เล่ือนเงนิ เดือนในภาพรวมของสว่ นราชการหรือเขตพื้นทกี่ ารศึกษา แล้วแต่กรณี

5. การเล่ือนเงนิ เดือนของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาแตล่ ะคนในแตล่ ะคร้งั ใหเ้ ลื่อนได้
ในอัตราไม่เกินร้อยละหกของฐานในการคำนวณ และให้ส่วนราชการหรอื เขตพนื้ ท่ีการศึกษา แลว้ แต่กรณี หนา้ 8

โรงเรยี นวัดสันตกิ าราม สำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

ประกาศอตั ราร้อยละของฐานในการคำนวณทีไ่ ด้ใชเ้ ป็นเกณฑใ์ นการคำนวณ เพ่ือเลือ่ นเงินเดือน โดยต้องประกาศ
ให้ทราบเป็นการทั่วไปอยา่ งช้าท่สี ุดพร้อมกับการมีคำสงั่ เล่ือน เงินเดอื น การคำนวณจำนวนเงนิ สำหรับการเลอื่ น
เงนิ เดอื นถ้ามีเศษไม่ถึงสิบบาทให้ปดั เปน็ สิบบาท

6. การเลอื่ นเงนิ เดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยปกติให้เลื่อน ปลี ะสองครัง้
ดังตอ่ ไปน้ี

(1) ครั้งท่หี นงึ่ เป็นการเล่ือนเงนิ เดอื นสำหรับการปฏบิ ตั ริ าชการในครง่ึ ปีแรก โดยใหเ้ ลือ่ น ในวันท่ี ๑
เมษายนของปีทไ่ี ดเ้ ล่ือน

(2) ครั้งท่ีสอง เป็นการเลอื่ นเงินเดอื นสำหรับการปฏิบัติราชการในครึง่ ปีหลัง โดยให้เลื่อน ในวันท่ี ๑
ตลุ าคมของปีถัดไป

7. การเลื่อนเงนิ เดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาแตล่ ะคนในแตล่ ะคร้งั ใหเ้ ลอื่ นได้ไม่
เกนิ ขน้ั สงู ของอนั ดบั เงนิ เดือนท่ไี ดร้ ับแต่งตั้ง ในกรณที ี่ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาผูใ้ ดที่ไดร้ ับ
เงนิ เดอื นสงู กว่าขัน้ สงู ของอันดับเงนิ เดือน ตามกฎ ก.ค.ศ.

8. ให้ ก.ค.ศ. กำหนดคา่ กลาง ฐานในการคำนวณ และช่วงเงินเดือนตามกฎ ก.ค.ศ. น้ีแล้วให้ สำนกั งาน
ก.ค.ศ. แจง้ สว่ นราชการและสำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาทราบเปน็ การลว่ งหน้า

9. ใหผ้ มู้ อี ำนาจส่ังเลื่อนเงนิ เดือนจดั ให้มีการแจง้ ผลการเลื่อนเงนิ เดือนแต่ละครงั้ ใหข้ า้ ราชการครูและ
บคุ ลากรทางการศึกษาแต่ละคนทราบเปน็ ข้อมลู เฉพาะแต่ละบุคคล การแจง้ ผลการเลื่อนเงนิ เดอื นตามวรรคหนง่ึ
ใหป้ ระกอบดว้ ย อตั ราร้อยละที่ไดร้ ับการเลอื่ น ฐานในการคำนวณ จำนวนเงินทีไ่ ด้รับการเล่อื น และเงนิ เดือนท่ีพงึ
ไดร้ ับเมื่อไดร้ ับการเล่อื น ตามผลการเลอื่ นเงนิ เดือนน้นั ในกรณีท่ีไมส่ งั่ เล่อื นเงินเดอื นให้แก่ขา้ ราชการครแู ละ
บคุ ลากรทางการศึกษาผู้ใดให้แจง้ ให้ผู้น้นั ทราบพร้อมเหตผุ ลทไ่ี ม่ส่งั เล่อื นเงินเดือน และรายงานคำส่งั เล่ือนและ ไม่
เลอื่ นข้ันเงินเดือนของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาไปยงั สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา เพอื่ จดั เก็บ ข้อมลู

ลงในทะเบยี นประวตั ติ อ่ ไป

10. ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาซงึ่ จะไดร้ ับการพิจารณาเลื่อนเงินเดือน ในแต่ละครัง้ ต้อง อยู่
ในหลักเกณฑ์ ดังต่อไปนี้

(1) ในครึ่งปีที่แล้วมามผี ลการประเมินผลการปฏิบัตงิ านไมต่ ่ำกว่าระดบั พอใชห้ รือรอ้ ยละหกสิบ
2) ในคร่งึ ปีทแ่ี ลว้ มาต้องไม่ถูกสั่งลงโทษทางวินัยท่หี นกั กว่าโทษภาคทัณฑ์ หรอื ไม่ถูกศาลพิพากษา ใน
คดอี าญาใหล้ งโทษในความผิดที่เกีย่ วกับการปฏิบตั หิ น้าทีร่ าชการ หรือความผิดที่ทำให้เสื่อมเสียเกยี รติศักด์ิ ต่อ
ตำแหน่งหนา้ ทรี่ าชการของตน ซึ่งมใิ ช่ความผดิ ท่ีได้กระทำโดยประมาท หรอื ความผิดลหุโทษ
(3) ในคร่ึงปที ่ีแล้วมาต้องไมถ่ ูกส่งั พักราชการเกินกว่าสองเดือน
(4) ในคร่ึงปที แ่ี ลว้ มาต้องไมข่ าดราชการโดยไม่มีเหตุผลอนั สมควร
(5) ในคร่ึงปที ่ีแล้วมาต้องไดร้ ับการบรรจเุ ขา้ รบั ราชการมาแลว้ เป็นเวลาไม่น้อยกวา่ ส่ีเดือน หรอื ไดป้ ฏบิ ัติ
ราชการมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกวา่ สี่เดือนก่อนถึงแก่ความตาย
(6) ในคร่ึงปีทีแ่ ลว้ มา สำหรับผูไ้ ดร้ บั อนุญาตใหไ้ ปศกึ ษา ฝึกอบรม ดงู าน หรอื ปฏบิ ัติการวิจัย ในประเทศ
หรอื ตา่ งประเทศ ต้องมีเวลาปฏบิ ัติราชการไม่น้อยกวา่ สเี่ ดือน

หน้า 9

โรงเรยี นวัดสันตกิ าราม สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

(7) ในคร่ึงปีทแ่ี ลว้ มา สำหรับผูไ้ ด้รับอนุญาตใหล้ าติดตามคู่สมรสไปปฏบิ ตั ริ าชการ หรอื ปฏบิ ตั ิงานใน
ต่างประเทศ ตอ้ งมีเวลาปฏบิ ัติราชการไมน่ ้อยกวา่ ส่ีเดือน

(8) ในครึ่งปที ่ีแล้วมาต้องไม่ลา หรือมาท างานสายเกินจำนวนครัง้ ทหี่ ัวหนา้ ส่วนราชการ หรอื ผู้ซ่งึ ไดร้ ับ
มอบหมายกำหนดเปน็ หนังสือไว้กอ่ นแล้ว

(9) ในครึ่งปีที่แล้วมาต้องมีเวลาปฏบิ ตั ริ าชการ โดยมวี นั ลาไมเ่ กินย่ีสบิ สามวนั

การเพม่ิ ค่าจา้ งลูกจ้างประจำและลกู จา้ งช่ัวคราว แนวทางการปฏิบัติ
กรณีการเพม่ิ ค่าจ้างลกู จ้างประจำและลูกจา้ งชว่ั คราวโดยใช้เงนิ งบประมาณใหด้ ำเนนิ การ ตาม หลกั เกณฑ์

และวธิ กี ารท่ีกระทรวงการคลังหรือตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการทีส่ ำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ัน พ้นื ฐาน
กำหนด

กรณีการเพ่ิมค้าจ้างลกู จ้างประจำและลูกจ้างชั่วคราวกรณีอื่นนอกเหนือจากสถานศกึ ษาสามารถ
ดำเนนิ การ จ้างลกู จ้างประจำและลกู จ้างชว่ั คราวของสถานศกึ ษาได้ โดยใช้เงินรายไดข้ องสถานศึกษา ภายใต้
หลักเกณฑ์และวธิ กี ารท่ีสถานศกึ ษากำหนด

6. การลาทุกประเภท
การลาของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาใชร้ ะเบยี บสำนกั นายกรฐั มนตรี ว่าด้วยการลาของ
ขา้ ราชการ พ.ศ. 2555 โดยอนุโลม มี 11 ประเภท คือ
1. การลาป่วย หมายความวา่ เป็นการลาหยดุ เพ่ือรักษาตวั เมอ่ื มีอาการปว่ ยหลกั เกณฑ์การลา
– ลาปว่ ยติดต่อกันต้งั แต่สามสิบวนั ข้ึนไปตอ้ งมีใบรับรองแพทย์
– การลาป่วยไมถ่ ึงสามสบิ วนั ไมว่ า่ จะเป็นครัง้ เดียวหรอื หลายครงั้ ติดต่อกนั ถา้ ผู้มอี ำนาจอนญุ าต
เหน็ สมควรจะสั่งให้มีใบรบั รองแพทย์หรือสง่ั ใหผ้ ูล้ าไปรับการตรวจจากแพทย์ของทางราชการ เพ่ือ ประกอบการ
พิจารณาอนญุ าตก็ได้
– มสี ทิ ธิได้รับเงินเดือนระหวา่ งลาป่วยปหี นึ่งได้ 60 – 120 วนั
– ให้เสนอหรอื จดั สง่ ใบลาต่อผูบ้ งั คบั บัญชาตามลำดับ จนถึงผ้มู อี ำนาจอนุญาต
– ใหเ้ สนอหรือจัดสง่ ใบลากอ่ นหรือในวันทล่ี าก็ได้ยกเว้นในกรณีจำเปน็ จะเสนอหรือจัดส่งใบลาในวนั แรก
ทีม่ าปฏบิ ตั ิราชการกไ็ ด้
– กรณีปว่ ยจนไมส่ ามารถจะลงชอ่ื ในใบลาได้ จะให้ผู้อ่ืนลาแทนกไ็ ด้แตเ่ มื่อสามารถลงชอื่ ไดแ้ ลว้ ตอ้ ง เสนอ
หรือจดั สง่ ใบลาโดยเร็ว
– การลาป่วย แมจ้ ะมีราชการจำเปน็ เกิดขึ้นในระหว่างลาป่วยอยูน่ ัน้ ผมู้ ีอำนาจอนญุ าตก็ไม่สามารถ เรียก
ตัวผนู้ นั้ มาปฏิบัติงานไดท้ ั้งนเ้ี พราะการลาปว่ ยเป็นเรอื่ งจำเป็น
2. การลาคลอดบตุ ร ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา อนุญาตได้ ลาไดไ้ ม่เกนิ 90 วนั โดยได้รบั เงินเดือน
ระหว่างลา ในสว่ นของ เงินวิทยฐานะให้เบิกจ่ายเงนิ วิทยฐานะระหว่างลาไดไ้ ม่เกนิ 90 วนั
3. การลาไปชว่ ยเหลือภริยาที่คลอดบตุ ร ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษา อนญุ าตได้คร้ังหน่งึ ไมเ่ กิน 15
วนั ทำการ และหากลาภายใน 30 วันนับแต่ วันท่ภี รยิ าคลอดบตุ ร ใหไ้ ดร้ บั เงนิ เดือนระหว่างลาไดไ้ ม่เกนิ 15 หน้า 10

โรงเรยี นวัดสนั ตกิ าราม สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

วนั ทำ การ หากลาเม่ือพ้น 30 วันนบั แต่วนั ที่ ภรยิ าคลอดบุตร ไมใ่ หไ้ ด้รับเงินเดือนระหว่างลา ในสว่ นของเงินวทิ ย
ฐานะ อยูร่ ะหวา่ งพิจารณากำหนด รายละเอียด เนื่องจากเปน็ ประเภทการลาทกี่ ำหนดขึ้นใหม่

4. การลากจิ ส่วนตวั หมายความว่า เป็นการลาหยุดเพื่อทำธรุ ะ เช่น ลาหยดุ เพอ่ื ดูแลรกั ษาผู้ปว่ ย เป็นตน้
ผอู้ ำนวยการสถานศึกษา อนุญาตได้ครัง้ หน่ึงไม่เกนิ 30 วนั อนญุ าตได้ครง้ั หนง่ึ ไม่เกนิ 45 วัน ปีหน่งึ ลา โดย ได้รบั
เงนิ เดือนระหวา่ งลาได้ไม่เกิน 45 วนั ทำการ แต่ในปีทีเ่ ริ่มรบั ราชการ ลาโดยไดร้ บั เงินเดือนระหว่างลาได้ไม่เกิน 15
วนั ทำการ การลากจิ สว่ นตัวอาจแยกได้ดงั นี้

(1) การลากิจส่วนตัว (ด้วยเหตุอ่นื ) มีสิทธิไดร้ ับเงนิ เดือนระหวา่ งลา เม่ือมรี าชกำจำเป็นเกดิ ขึ้นใน
ระหวา่ งลากจิ สว่ นตวั อยนู่ ้ัน ผู้บังคับบัญชาหรือผ้มู ีอำนาจอนุญาตจะเรียกตวั ผูน้ ้นั มาปฏบิ ัติงานกไ็ ด้

(2) การลากจิ ส่วนตัวเพ่ือเลี้ยงดบู ุตร ข้าราชการที่ได้ลาคลอดบตุ ร 90 วัน (นับวันหยดุ ราชการรวมดว้ ย)
โดยไดร้ ับเงินเดอื นแล้ว

- มสี ิทธลิ ากิจสว่ นตวั เพือ่ เลี้ยงดูบุตรตอ่ เน่ืองจากการลาคลอดบตุ รไม่เกนิ 150 วนั ทำการ โดยไม่มีสิทธิ
ไดร้ ับเงินเดอื นระหว่างลา

– ระหวา่ งลากจิ สว่ นตัวเพอ่ื เลี้ยงดบู ตุ ร แม้จะมรี าชการจำเป็นเกิดข้ึนในระหว่างลาอยู่นนั้ ผู้มอี ำนาจ
อนุญาตกไ็ มส่ ามารถเรียกตวั ผนู้ ั้นมาปฏิบตั งิ านได้

– ใหเ้ สนอหรือจัดสง่ ใบลาต่อผู้บังคบั บญั ชาตามลำดับ จนถึงผ้มู อี ำนาจอนุญาต
– ตอ้ งไดร้ ับอนญุ าตก่อนจงึ หยุดราชการได้ เวน้ แต่ มีเหตุจำเป็นไมส่ ามารถรอรับอนญุ าตได้
- ให้จัดส่งใบลาพรอ้ มระบเุ หตุจำเปน็ ไวแ้ ล้วลาหยุดไปก่อนได้ แตจ่ ะต้องช้ีแจงเหตุผลให้ผู้มีอำนาจ อนุญาต
ทราบโดยเรว็ หรอื มีเหตุพิเศษ ทไี่ ม่อาจเสนอหรือจดั สง่ ใบลาก่อนหยดุ ได้ เมื่อหยดุ ไปแลว้ ให้เสนอหรอื จดั สง่ ใบลา
พรอ้ มระบเุ หตผุ ลความจำเป็นต่อผูบ้ ังคบั บัญชาตามลำดบั จนถึงผ้มู อี ำนาจอนุญาตทราบทันทใี นวัน แรกทม่ี าปฏิบัติ
ราชการ
อำนาจการอนญุ าตการลา ผ้อู ำนวยการสถานศึกษา ลาป่วย คร้งั หนง่ึ ไม่เกนิ 60 วันทำการ ลากจิ สว่ นตวั
คร้งั หนง่ึ ไมเ่ กิน 30 วันทำการ นอกเหนือจากนีเ้ ป็นอำนาจ ผูอ้ ำนวยการเขตพ้นื ที่การศึกษา
เกณฑ์การลาบ่อยครง้ั ปฎิบตั ิงานในโรงเรยี น ลาเกนิ 6 ครัง้
เกณฑ์การมาสายเน่ืองๆ ปฎบิ ัตงิ านในโรงเรียน สายเกนิ 8 ครั้ง
ข้อพึงระวัง ลาเกิน (ลาบ่อยคร้ัง) จำนวนคร้ังท่ีกำหนด ไม่ได้เลอ่ื นขน้ั เงนิ เดือน เวน้ แต่ถ้าวนั ลาไม่เกนิ 15
วันและมีผลการปฏิบัติงานดีเดน่ อาจผ่อนผนั ให้เล่ือนขัน้ เงนิ เดอื นได้มาท างานสายเนอ่ื งๆ ไม่ไดเ้ ล่ือนขนั้ เงินเดือน
ลาปว่ ย + ลากจิ ส่วนตัว เกินกว่า 23 วนั ทำการ ไม่ไดเ้ ล่ือนขั้นเงนิ เดือน
5. การลาพกั ผ่อน ผ้อู ำนวยการสถานศกึ ษา อนญุ าตไดล้ าได้ปลี ะ 10 วันทำการ หากมิได้ลาหรือลา ไม่
ครบ ให้สะสมรวม กับปีต่อ ๆ ไปได้ไมเ่ กิน 20 วนั ทำการ แต่สำหรับผรู้ ับราชการมาแลว้ ไม่น้อยกว่า 10 ปี สะสมได้
ไม่เกนิ 30 วันทำการ ผปู้ ฏิบัติงานในสถานศึกษาและได้หยดุ ราชการตามวนั หยดุ ภาคการศึกษาเกินกวา่ วนั ลา
พักผอ่ น ไมม่ ีสิทธิลาพกั ผ่อน ในสว่ นของเงินวทิ ยฐานะหากลาพักผ่อนเกินสทิ ธิไม่ใหเ้ บิกจา่ ยเงนิ วทิ ยฐานะ ระหวา่ ง
ลา
6. การลาอุปสมบทหรือการไปประกอบพธิ ีฮจั ย์ สำหรบั ผู้ที่รับราชการมาแลว้ ไม่นอ้ ยกวา่ 12
เดือน หากตั้งแตเ่ ร่มิ รับราชการ ผูใ้ ดยังไมเ่ คยอปุ สมบท หรือยงั ไม่เคยประกอบพธิ ีฮจั ย์ ให้ผูน้ น้ั ลาอปุ สมบท หนา้ 11

โรงเรียนวดั สนั ติการาม สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

หรือลาไป ประกอบพธิ ีฮจั ย์ แล้วแต่กรณี ได้ไมเ่ กิน 120 วัน โดยได้รบั เงนิ เดอื นระหวา่ งลา หวั หน้าส่วนราชการ
พิจารณา ใน ส่วนของเงนิ วิทยฐานะให้เบิกจา่ ยเงินวิทยฐานะ ระหว่างลาได้ไมเ่ กิน 60 วัน

7. การลาเข้ารบั การตรวจเลือกหรือเขา้ รับการเตรียมพล ลาได้โดยได้รบั เงนิ เดือนระหว่างลา แตเ่ มือ่
ครบกำหนดแล้วไม่มารายงานตวั เพื่อเขา้ ปฏิบตั ิราชการ ภายใน 7 วนั ให้งดจ่ายเงนิ เดอื นไว้จนถึงวนั เขา้ ปฏิบตั ิ
ราชการ แตห่ ากหวั หนา้ ส่วนราชการเห็นสมควร ใหจ้ า่ ย เงินเดอื นต่อไปอีกกไ็ ด้ แตไ่ ม่เกิน 15 วนั หวั หนา้ ส่วน
ราชการพิจารณาอนุญาต ในสว่ นของเงินวทิ ยฐานะใหเ้ บิก จ่ายเงนิ วิทยฐานะระหวา่ งลาได้ไม่เกนิ 60 วัน

8. การลาไปศกึ ษา ฝกึ อบรม ปฏบิ ัติการวิจยั หรอื ดูงาน ให้ไดร้ บั เงินเดือนระหวา่ งลาได้ไมเ่ กนิ 4 ปีนับ
แตว่ นั ไป จนถึงวนั ก่อนวนั มารายงานตัวเพื่อเข้าปฏิบัติราชการ หากผู้อนญุ าตเหน็ สมควรให้ลาเกิน 4 ปกี ไ็ ด้ แต่ รวม
แล้วตอ้ งไมเ่ กิน 6 ปี ในประเทศผูอ้ ำนวยการ สถานศกึ ษา และ ผอ.สพม. อนญุ าตไดต้ ่างประเทศหัวหน้าส่วน
ราชการพิจารณาอนญุ าต ในส่วนของเงนิ วิทยฐานะใหเ้ บกิ จ่ายเงนิ วิทยฐานะระหวา่ งลาได้ไม่เกิน 60 วัน

9. การลาไปปฏบิ ัติงานในองค์การระหว่างประเทศ ลาได้โดยไม่ให้ได้รับเงินเดือนระหวา่ งลา เวน้ แต่
อัตราเงนิ เดือนท่ีได้รบั จากองคก์ ารระหว่างประเทศต่ำกวา่ อตั ราเงนิ เดือนของทางราชการ ใหไ้ ดร้ บั เงินเดือนจาก
ทางราชการสมทบ รวมแลว้ ไม่เกินอัตราเงนิ เดือนของทาง ราชการท่ีได้รับอยใู่ นขณะนั้น รฐั มนตรเี จา้ สงั กัด
พจิ ารณาอนุญาต ในสว่ นของเงินวทิ ยฐานะไมใ่ หเ้ บกิ จา่ ยเงนิ วทิ ยฐานะระหวา่ งลา

10. การลาติดตามคูส่ มรส (คู่สมรสไปปฏิบตั หิ นา้ ที่ราชการในต่างประเทศ) ลาได้โดยไม่ใหไ้ ดร้ บั เงินเดือน
ระหว่างลา เปน็ เวลาไมเ่ กิน 2 ปี กรณจี ำเป็นอาจอนุญาตให้ลาต่อได้อีก 2 ปี แต่รวมแล้วตอ้ งไมเ่ กิน 4 ปี ถ้าเกนิ 4
ปี ให้ลาออกจากราชการ หวั หนา้ ส่วนราชการพจิ ารณาอนุญาต ใน ส่วนของเงนิ วทิ ยฐานะไม่ให้ เบกิ จ่ายเงินวทิ ย
ฐานะระหวา่ งลา

11. การลาไปฟ้ืนฟูสมรรถภาพดา้ นอาชพี สำหรบั ผู้ได้รบั อันตรายหรือการเจบ็ ป่วยเพราะเหตุปฏิบัติ
ราชการในหน้าท่ี หรือถูกประทษุ ร้ายเพราะ เหตุกระทำการตามหน้าท่ี จนทำให้ตกเป็นผู้ทพุ พลภาพหรอื พกิ าร ลา
ไปเข้ารับการฝึกอบรมหลักสตู รเกี่ยวกับ การฟื้นฟูสมรรถภาพทีจ่ ำเปน็ ต่อการปฏิบตั ิหนา้ ทรี่ าชการ หรอื ท่ี จำเป็น
ต่อการประกอบอาชพี ลาได้ตาม ระยะเวลาท่ีกำหนดในหลักสูตร โดยได้รับเงินเดือนระหวา่ งลา แต่ตอ้ งไม่ เกิน 12
เดอื น หัวหน้าส่วนราชการ พิจารณาอนุญาต ในส่วนของเงินวทิ ยฐานะอยรู่ ะหวา่ งพิจารณากำหนด รายละเอียด
เนอื่ งจากเป็นประเภท การลาที่กำหนดข้นึ ใหม่
7. การประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงาน

1. ใหผ้ บู้ ังคบั บญั ชา แต่งต้ังคณะกรรมการไม่น้อยกว่าสามคน ทำหนา้ ที่พิจารณา รายงานผลการ พจิ ารณา
และเสนอความเห็น ตอ่ ผบู้ ังคับบัญชาตามลำดบั

2. การพิจารณาเล่ือนเงนิ เดือนของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้พิจารณา โดยยึดหลกั คุณ
ธรรม ความเทย่ี งธรรม เปดิ เผย โปรง่ ใส และพจิ ารณาผลการปฏิบตั ิงาน ทเี่ ป็นประโยชน์ ตอ่ ผูเ้ รยี นเปน็ หลกั
รวมท้งั ให้พจิ ารณาถึงความประพฤติในการรกั ษาวนิ ัย คณุ ธรรม จรยิ ธรรม และจรรยาบรรณวชิ าชพี ประกอบกบั
ขอ้ มูลการลา พฤติกรรมการมาทำงาน และข้อควรพจิ ารณาอ่นื ของผนู้ ้นั
8. การดำเนินการทางวินยั และการลงโทษ

การดำเนินการทางวนิ ัย หมายถึง กระบวนการและข้ันตอนการดำเนนิ การในการลงโทษข้าราชการ
ซงึ่ เปน็ กระบวนการตามกฎหมายทีจ่ ะต้องกระทำเม่ือข้าราชการมกี รณีถกู กล่าวหาว่ากระทำผดิ วินัย ไดแ้ ก่ หน้า 12

โรงเรยี นวัดสนั ตกิ าราม สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

1. การตง้ั เรอ่ื งกลา่ วหา
2. การสบื สวนหรือการสอบสวน
3. การพจิ ารณาความผิดและกำหนดโทษ
4. การลงโทษหรอื งดโทษ
5. การดำเนินการในระหวา่ งดำเนนิ การทางวินัย เชน่ ใหพ้ ักราชการ หรอื ให้ออกจากราชการไวก้ ่อน โดย
ทคี่ ำสง่ั ลงโทษทางวินัยเป็นคำส่งั ทางปกครอง ข้นั ตอนการดำเนินการและการใช้ดลุ พินจิ กำหนดโทษทางวินัย จึง
ต้องเปน็ ไปตามหลักความชอบดว้ ยกฎหมายของการกระทำทางปกครอง
การดำเนนิ การทางวินัย มี 2 กรณี คือ
1. กรณีความผดิ วนิ ัยไม่ร้ายแรง แนวทางการปฏบิ ตั ิ
1. ผู้อำนวยการสถานศึกษาแตง่ ตงั้ คณะกรรมการ เพอ่ื ดำเนินการสอบสวนให้ได้ความจริงและความ
ยตุ ิธรรมโดยไมช่ กั ช้าเมื่อมีกรณีอันมีมลู ทค่ี วรกลา่ วหาวา่ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาในสถานศกึ ษา
กระทำผิดวนิ ัยไมร่ ้ายแรง
2. ผูอ้ ำนวยการสถานศึกษาส่ังยตุ เิ ร่อื งในกรณีท่คี ณะกรรมการสอบสวนแลว้ พบว่าไม่ได้กระทำผิดวินยั
หรอื สง่ั ลงโทษภาคทัณฑ์ ตัดเงินเดอื น หรอื ลดขั้นเงินเดือน ตามที่คณะกรรมการสอบสวนแล้วพบว่ามีความผิด วนิ ยั
ไม่รา้ ยแรง
3. รายงานการดำเนนิ งานทางวินยั ไมร่ ้ายแรงไปยังสำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษา
กรุงเทพมหานคร
2. กรณคี วามผิดวนิ ัยร้ายแรง แนวทางการปฏิบัติ
1. ผมู้ ีอำนาจส่ังบรรจุและแต่งตั้งตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบียบขา้ ราชการครูและบุคลากร ทาง
การศกึ ษาแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนกรณอี นั มีมูลวา่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากระทำผิด วนิ ัย
อยา่ งร้ายแรง ตามหลกั เกณฑ์และวธิ กี ารที่กำหนดในกฎ ก.ค.ศ.
2. ผูม้ ีอำนาจสง่ั บรรจุและแตง่ ต้ังตามมาตรา 53 แหง่ กฎหมายระเบยี บขา้ ราชการครูและบคุ ลากร ทาง
การศึกษา เสนอผลการพจิ ารณาใหอ้ .ก.ค.ศ.เขตพนื้ ทพี่ ิจารณาลงโทษ
3. ผูม้ ีอำนาจส่ังบรรจุและแตง่ ต้ังตามมาตรา 53 แห่งกฎหมายระเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากร ทาง
การศกึ ษา ส่ังลงโทษปลดออกหรอื ไล่ออกตามผลการพิจารณาของ อ.ก.ค.ศ.เขตพน้ื ที่
4. รายงานการดำเนนิ งานทางวนิ ัยไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศึกษากรุงเทพมหานคร
9. การสงั่ พกั ราชการและการส่ังใหอ้ อกจากราชการไว้ก่อน แนวทางปฏิบตั ิ
1. การส่ังใหข้ า้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาพักราชการหรือให้ออกจากราชการ ไว้ก่อนกรณรี อ
ฟงั ผลการสอบสวนพจิ ารณา และกรณีถูกพักใช้ใบอนุญาตประกอบวชิ าชีพตามกฎหมาย ว่าดว้ ยสภาครแู ละ
บคุ ลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธกี ารทีก่ ำหนดในกฎ ก.ค.ศ. น้ี
2. ให้ผู้มอี ำนาจเป็นผู้ส่ังพักราชการหรือสงั่ ใหอ้ อกจากราชการไว้กอ่ น
3. เมือ่ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาผูใ้ ดมีกรณีถูกกล่าวหาวา่ กระทำผิดวนิ ยั อย่างร้ายแรง จน
ถกู ตั้งกรรมการสอบสวน หรือถูกฟ้องคดีอาญา หรอื ต้องหาว่ากระทำความผดิ อาญา เวน้ แตเ่ ป็นความผิดท่ี

หน้า 13

โรงเรียนวดั สนั ติการาม สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

ได้ กระทำโดยประมาทหรือความผดิ ลหโุ ทษ ผูม้ ีอำนาจตามขอ้ 2 จะสั่งให้ผ้นู ้นั พักราชการไดต้ อ่ เมอื่ มีเหตุอย่าง
หน่ึง อยา่ งใด

4. คำสง่ั พักราชการและผมู้ ีอำนาจพิจารณาเห็นวา่ คำรอ้ งทุกข์ฟังข้ึนและสมควรสั่งให้ผู้นั้นกลบั เขา้ ปฏบิ ตั ิ
หนา้ ที่ราชการก่อนกำหนดเวลาทีถ่ ูกพกั ใช้ใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพ
10. การรายงานการดำเนนิ การทางวินัยและการลงโทษ

เมือ่ ผ้บู ังคับบญั ชาได้ดำเนินการทางวินยั แกข่ ้าราชการผู้ใด และสง่ั ยตุ ิเรือ่ ง งดโทษ ลงโทษ หรือสง่ั ให้
ข้าราชการผูใ้ ดออกจากราชการไปแล้ว กฎหมายได้กำหนดให้มกี ารรายงานการดำเนินการทางวินัย หรอื การสง่ั ให้
ออกจากราชการน้ัน ไปยงั ผบู้ ังคบั บญั ชาหรอื องค์คณะบคุ คลผมู้ ีอำนาจตามทีก่ ฎหมายกำหนด เพอื่ การตรวจสอบ
ควบคุมมาตรฐานการดำเนินการทางวนิ ยั การสั่งลงโทษ หรือการสง่ั ให้ออกจากราชการ ใหเ้ ป็นไปโดยถกู ต้อง
เหมาะสมและเป็นธรรม

การรายงานการดำเนนิ การทางวนิ ัย แบ่งได้เปน็ 3 กรณี ดงั น้ี
1. การรายงานการดำเนินการทางวินัยไมร่ า้ ยแรง
2. การรายงานการดำเนินการทางวนิ ยั อยา่ งรา้ ยแรง
3. การรายงานการสัง่ ให้ออกจากราชการ
การดำเนินการเร่ืองร้องเรยี น
1. เมอ่ื โรงเรยี นไดรับเร่ืองร้องเรียน จะตรวจสอบ ขอเทจ็ จริงว่าผู้ถกู กล่าวหาเป็นข้าราชการครูหรือ
บคุ ลากรทางการศึกษา หากเป็นครสู ายผู้สอน หรอื ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการโรงเรียน จะดำเนนิ การต้ัง
คณะกรรมการ โรงเรยี นดำเนินการสบื สวน สอบสวนหาข้อเท็จจริง หากผู้ถกู ร้องเรียนเป็น ผู้อำนวยการโรงเรียน
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา จะดำเนินการสบื สวน สอบสวนตามอำนาจหน้าที่
2. เมื่อดำเนนิ การสืบสวนแล้วพบว่า เร่ืองท่รี ้องเรียนไมม่ ีมลู ความจริง ผู้มีอำนาจดำเนินการ สืบสวน
สอบสวนจะสัง่ ยุติเรอื่ ง
3. เมอ่ื ดำเนนิ การสืบสวนแล้วพบว่าเร่อื งท่ีร้องเรียนมมี ูลความจรงิ ผู้มอี ำนาจดำเนนิ การ สืบสวน สอบสวน
จะสง่ั ต้ังคณะกรรมการสอบสวนทางวินยั โดยถ้าเป็นมลู ความผดิ วินยั ไม่รา้ ยแรงจะใช้ เวลาในการ ดำเนนิ การ
สอบสวน 90 วัน ถ้าเป็นมลู ความผิดวินยั อย่างร้ายแรงจะใช้เวลาในการ ดำเนนิ การสอบสวน 180 วัน
4. หากผลการสอบสวนพิจารณาพบว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผิดวินยั จะดำเนนิ การออกคำสั่ง ลงโทษ
ทางวินยั หากพบว่าพยานหลักฐานไม่เพยี งพอว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำผดิ วนิ ัย หรอื ผู้ถูกกล่าวหา ไม่ไดก้ ระทำผิดวนิ ัย
จะสง่ั ยตุ เิ รือ่ ง
5. รายงานผลการสอบสวนต่อผู้บงั คบั บัญชาตามลำดับ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษา
ดำเนินการหรอื พิจารณาตามอำนาจหน้าท่แี ลว้ รายงาน กศจ. พิจารณา
6. วินัยไมร่ า้ ยแรงรายงานผลการดำเนนิ การทางวินยั ให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน
พิจารณา
7. วินยั อย่างร้ายแรงรายงานผลการดำเนินการทางวินัยให้ ก.ค.ศ. พิจารณา
8. แจ้งผลการพจิ ารณาให้ผู้รอ้ งเรยี นทราบ

หน้า 14

โรงเรียนวัดสนั ตกิ าราม สำนักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

11. การอุทธรณแ์ ละการรอ้ งทกุ ข์
การอุทธรณแ์ นวทางการปฏิบัติ

1. การอุทธรณ์ กรณีการอทุ ธรณค์ วามผิดวินัยที่ไมร่ ้ายแรง ให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา
ยนื่ เร่อื งขออุทธรณต์ ่อ อ.ก.ค.ศ.เขตพ้ืนทีภ่ ายใน 30 วันนับแต่วนั ทไี่ ดร้ ับแจ้งคำสัง่ ตามหลกั เกณฑ์และ วิธกี ารที่
ก.ค.ศ.กำหนด

2. การอทุ ธรณ์ กรณีการอทุ ธรณค์ วามผิดวินัยรา้ ยแรง ใหข้ า้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา
ยนื่ เร่ืองขออุทธรณต์ ่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30 วัน นับแตว่ ันท่ีไดร้ ับแจ้งคำสั่ง ตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการท่ี ก.ค.ศ.
กำหนด

ผ้มู สี ทิ ธิอุทธรณ์ผมู้ สี ทิ ธอิ ุทธรณ์ ได้แก่ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาผ้ทู ่ีถูกลงโทษทางวนิ ัย
1. โทษวนิ ัยไม่ร้ายแรง ได้แก่ โทษภาคทณั ฑ์ ตัดเงนิ เดือน ลดเงนิ เดือน
2. โทษวนิ ัยอย่างรา้ ยแรง ได้แก่ โทษปลดออกจากราชการ ไล่ออกจากราชการ

การร้องทกุ ข์ แนวทางการปฏิบัติ
กรณีข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาถูกสัง่ ให้ออกจากราชการให้ร้องทุกขต์ ่อ ก.ค.ศ. ภายใน 30

วนั นับแต่วันทไ่ี ดร้ บั แจง้ คำสัง่
กรณีข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาไม่ได้รับความเปน็ ธรรมหรือมีความคับขอ้ งใจเนือ่ งจากการ

กระทำของผู้บังคบั บัญชา หรอื การแตง่ ตง้ั คณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ใหร้ อ้ งทกุ ข์ต่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทห่ี รือ
ก.ค.ศ.แล้วแตก่ รณี

12. การออกจากราชการ

การออกจากราชการ หมายถึง การพน้ จากสภาพการเป็นข้าราชการ ตามพระราชบญั ญัตริ ะเบียบ

ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา พ.ศ. 2547 มาตรา 107 ได้บัญญัตใิ หข้ ้าราชการครแู ละบคุ ลากร

ทางการศึกษาออกจากราชการเม่ือ

1. ตาย

2. พ้นจากราชการตามกฎหมายวา่ ด้วยบำเหนจ็ บำนาญขา้ ราชการ

3. ลาออกจากราชการและได้รบั อนุญาตใหล้ าออก หรือการลาออกมผี ลตามมาตรา 108 การลาออกจาก

ราชการเป็นเร่อื งของความสมัครใจ โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ประสงคจ์ ะลาออก จะต้องย่ืน

หนงั สือขอลาออกต่อผ้บู งั คบั บัญชาเพอื่ ให้ผูม้ อี ำนาจเปน็ ผู้พิจารณาอนุญาต ดังน้ี

3.1 การลาออกต้องทำเปน็ หนังสอื ระบวุ นั ทีป่ ระสงค์ขอลาออก เหตุผลการลาออกลงลายมอื ช่อื

ย่ืนตอ่ ผบู้ ังคบั บัญชา หรอื ผู้มอี ำนาจอนุญาตการลาออก

3.2 ตอ้ งยื่นล่วงหน้าไมน่ อ้ ยกว่า 30 วัน เม่ือได้รบั อนุญาตแลว้ จึงหยดุ ราชการไปได้

3.3 ยกเว้นกรณลี าออกเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือเพื่อสมัครรับเลอื กตงั้ ใหย้ ่นื ต่อ

ผู้บังคบั บญั ชาและใหก้ ารลาออกมผี ลต้งั แต่วันท่ขี อลาออก ทงั้ นี้ต้องย่ืนก่อนอย่างช้าในวันทข่ี อลาออก

3.4 ผู้มีอำนาจอนญุ าตการลาออก คอื ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 หน้า 15

โรงเรยี นวัดสันติการาม สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

3.5 กรณจี ำเปน็ เพื่อประโยชน์แกร่ าชการ ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 อาจยับยัง้ การอนุญาต
ให้ ลาออกได้ไมเ่ กนิ 90 วนั นับแตว่ นั ขอลาออกก็ได้ ยกเว้นการลาออกตามข้อ 3.3

3.6 กรณผี ูม้ อี ำนาจตามมาตรา 53 มิไดย้ ับย้ังและมไิ ด้มคี ำส่ังอนญุ าตการลาออก ให้การ ลาออก
นนั้ มผี ลตั้งแตว่ นั ทีข่ อลาออก

3.7 หากยนื่ ลว่ งหนา้ น้อยกวา่ 30 วัน โดยไม่ไดร้ บั อนุญาตเป็นลายลักษณ์อกั ษรจากผ้มู ีอำนาจ
อนญุ าตการลาออกหรือมิได้ระบุวนั ขอลาออกให้ถอื วันถดั จากวันที่ครบ 30 วนั นับแต่วันทย่ี ื่นเปน็ วนั ขอลาออก

3.8 การยับยัง้ และการอนญุ าตให้ลาออก ผู้มีอำนาจตามมาตรา 53 ต้องมีคำส่งั เป็นลายลักษณ์
อักษร แลว้ แจง้ ใหผ้ ขู้ อลาออกทราบก่อนวนั ขอลาออก

3.9 ผูข้ อลาออกอาจเปลีย่ นใจ ถอนใบลาออกได้ แตต่ อ้ งทำเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ยน่ื ต่อผู้มี
อำนาจ พจิ ารณาก่อนที่คำส่ังอนุญาตให้ลาออกจะมผี ล

4. สงั่ ใหอ้ อกตามมาตรา 49 มาตรา 56 วรรคสอง วรรคสาม หรอื วรรคห้า มาตรา 103 มาตรา 110
มาตรา 111 มาตรา 112 มาตรา 113 มาตรา 114 หรอื มาตรา 118

5. ถกู ส่ังลงโทษปลดออกหรือไลอ่ อก
6. ถกู เพิกถอนใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี
การให้ออกจากราชการ กรณไี ม่พ้นทดลองปฏบิ ัตหิ น้าท่ีราชการหรอื ไมผ่ า่ นการเตรียมความพรอ้ ม
และพฒั นาอยา่ งเข้มต่ำกวา่ เกณฑท์ ีก่ .ค.ศ.กำหนด แนวทางการปฏบิ ตั ิ
1. ดำเนินการให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทดลองปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ราชการ หรือเข้ารบั การ
พัฒนาอย่างเขม้ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธกี ารตามทีก่ ำหนดในกฎ ก.ค.ศ.กำหนด
2. ดำเนินการประเมินผลการปฏิบตั ิงานตามหน้าท่ีและความรบั ผดิ ชอบทกี่ ำหนดไว้ในมาตรฐานกำหนด
ตำแหน่ง
3. ผอู้ ำนวยการสถานศึกษาสั่งให้ผทู้ ีไ่ ม่ผ่านการประเมินการทดลองปฏบิ ตั ริ าชการหรือเตรยี มความพร้อม
และพัฒนาอยา่ งเขม้ ออกจากราชการ
4. รายงานสำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาทราบ

13. การจดั ระบบและการจดั ทำทะเบยี นประวัติ
การจัดทำทะเบยี นประวตั ิ ก.ค.ศ. 16 ระบบเอกสาร

1. ให้ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาบันทึกประวัตขิ องตนเองลงใน ก.ค.ศ. 16 ต่อหนา้
เจา้ หน้าที่ทะเบยี นประวตั ิจำนวนหนงึ่ ฉบับภายในเจด็ วนั นบั แต่วนั ท่ีมคี ำสัง่ บรรจแุ ละแตง่ ตงั้ เขา้ รบั ราชการเป็น
ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา

2. เมื่อมกี ารบนั ทึกประวัติแล้ว ให้เจ้าหนา้ ทีท่ ะเบียนประวัตติ รวจสอบ ความถูกตอ้ งให้ครบถ้วนทกุ
รายการจากเอกสารต้นฉบับจรงิ ในกรณที ีต่ รวจสอบแล้วพบว่าไมถ่ ูกตอ้ ง ให้เจา้ ของประวัติแกไ้ ขเพิม่ เติมให้ ถูกต้อง
โดยวิธีการ ขีดฆา่ แลว้ ลงลายมอื ชอ่ื กำกับไว้ เว้นแต่ การลงรายการเกี่ยวกบั วัน เดือน ปีเกิด และ วนั เดอื น ปที ่ี
บรรจุและแต่งตั้งให้เข้ารบั ราชการ ที่ทำไวไ้ ม่ถกู ต้อง ให้เจ้าของประวัติจดั ทำใหม่ทัง้ ฉบบั ใหเ้ จ้าหนา้ ท่ี

หน้า 16

โรงเรียนวดั สนั ติการาม สำนักงานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

ทะเบียนประวัติ และผ้อู ำนวยการสำนักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาหรอื หัวหน้าส่วนราชการ แลว้ แต่กรณี ลงลายมือ
ชื่อกำกับรบั รองความถูกต้อง เอกสารหลักฐาน ดงั ต่อไปน้ี

1. ก.ค.ศ. 16
2. คำส่ังบรรจแุ ละแตง่ ต้งั ให้เข้ารบั ราชการเป็นขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา และเอกสาร
หลกั ฐานการรายงานตัวเข้ารับราชการ
3. สำเนาวฒุ ิการศกึ ษาทใ่ี ชส้ มัครเขา้ รับราชการเป็นข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา และที่ ได้รับ
ภายหลงั จากทเี่ ขา้ รับราชการแล้ว
4.สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชพี (ถา้ มี)
5. หลกั ฐานการสอบสวนประวัติ เชน่ หนงั สือแจง้ ผลการพิมพล์ ายนว้ิ มือของเจ้าหน้าที่ตำรวจ/ แผน่ พมิ พ์
ลายนวิ้ มอื เป็นต้น
6. แบบรายงานผลการเตรยี มความพร้อมและพัฒนาอยา่ งเข้ม หรือการทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการ
7. หลักฐาน เอกสาร และรายละเอยี ดต่าง ๆ เกย่ี วกับสถานะของบคุ คล เชน่ สำเนาสูตบิ ัตร ใบสำคัญ การ
เปลี่ยนช่ือ ใบสำคัญการเปลีย่ นชื่อสกุล ใบสำคญั การสมรส ใบสำคญั การหย่า และใบสำคัญทางทหาร (สด.๙) เป็น
ตน้
8. คำสั่งเกยี่ วกบั สถานะของเจา้ ของประวัติ เช่น คำส่งั บรรจุ คำสั่งรบั โอน คำสัง่ ให้โอน คำสงั่ เลื่อนขนั้
เงินเดอื น คำสง่ั เล่ือนวิทยฐานะ เป็นตน้
9. ใบรายงานผลการปฏิบตั งิ านของเจ้าของประวตั ทิ ผ่ี ู้บงั คบั บัญชาจดั ทำขึ้นเพอ่ื ประเมินผล การ
ปฏิบัตงิ าน
10. เอกสารหลักฐานเก่ยี วกับการศกึ ษา ฝึกอบรม ดงู าน และการพฒั นาทเ่ี กย่ี วกับการปฏิบตั งิ าน
11. คำสง่ั แต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจรงิ คำสั่งแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนทางวินยั คำสงั่
ลงโทษทางวินัย หรอื เอกสารเก่ียวกบั การสัง่ ยุตเิ รื่อง การลดโทษ การเพิ่มโทษ การงดโทษ การทำทัณฑบ์ น หรือ
การวา่ กลา่ วตักเตือนเป็นหนงั สือ
12. หลักฐานเก่ียวกบั การไดร้ ับการยกย่องเชดิ ชเู กยี รติ
13. สำเนาทะเบียนบา้ นฉบบั ปจั จุบัน
14. เอกสารสำคัญอื่น ๆ เช่น เอกสารการอนุมัติให้แกไ้ ขวนั เดือน ปเี กดิ การลาต่าง ๆ หนังสอื รบั รอง
ความประพฤติ (กรณีบรรจุกลับ ฯ) เปน็ ตน้
15. เอกสารอ่ืน ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด

14. การจดั ทา้ บัญชรี ายช่ือให้ความเห็นเกย่ี วกับการเสนอขอพระราชทานเครอื่ งราชอสิ ริยาภรณ์
1. การขอพระราชทานเครอ่ื งราชอิสรยิ าภรณ์ให้แก่ขา้ ราชการครู แนวปฏบิ ัติในการเสนอขอ

พระราชทานเครื่องราชอสิ รยิ าภรณแ์ ละเหรยี ญจกั รพรรดิมาลา ให้แกข่ ้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา
ผู้ทเ่ี สนอขอเคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณ์ทุกชัน้ ตราจะต้องรับราชการติดต่อกันไมน่ ้อยกว่า 5 ปีบรบิ ูรณ์ (นับตั้งแต่
วนั บรรจุหรือเล่อื นข้ันก่อนวนั เฉลิมพระชนมพรรษาไม่น้อยกวา่ 60 วัน) สำหรบั ผูเ้ สนอขอ ดงั นี้

หน้า 17

โรงเรียนวัดสนั ติการาม สำนักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

1. ชน้ั ต.ม. เปน็ ข้าราชการระดบั ปฏบิ ตั กิ าร หรือเปน็ ข้าราชการครผู ูช้ ว่ ยหรือครอู นั ดับ คศ.1 และมีเวลา
รับราชการท่ีติดต่อกนั ไม่น้อยกว่า 5 ปบี รบิ รู ณ์ นบั ตงั้ แต่วันทบี่ รรจหุ รอื เลื่อนขั้นจนถึงกอ่ นวันเฉลมิ พระ
ชนมพรรษาของ ปีท่ีขอพระราชทาน 60 วนั

2. ชั้น ต.ช. เป็นขา้ ราชการอันดับ คศ.2 รับเงนิ เดือนไม่ต่ำกว่าข้ันต่ำของระดบั ชำนาญการ (15,050 บาท)
แตเ่ งินเดือนไม่ถึงขั้นต่ำของระดับชำนาญการพิเศษ (22,140 บาท)

3. ช้นั ท.ม. เปน็ ขา้ ราชการระดับชำนาญการ หรอื เปน็ ขา้ ราชการครอู ันดับ คศ.2 และรับเงินเดอื นไมต่ ่ำ
กว่าข้ันตำ่ ของระดบั ชำนาญการพเิ ศษ (22,140 บาท)

4. ช้นั ท.ช. ตอ้ งเปน็ ข้าราชการระดบั ชำนาญการ หรือเปน็ ข้าราชการครูอันดับ คศ.2 และ รบั เงนิ เดือน ไม่
ตำ่ กว่า ขน้ั ต่ำของระดับชำนาญการพเิ ศษ ขน้ั 22,140 บาท มาแล้ว 5 ปี บรบิ รู ณ์ หรือเป็นข้าราชการระดับ
ชำนาญการพเิ ศษ หรอื ข้าราชการอนั ดบั คศ.3

5.ชั้นสายสะพาย ประถมาภรณม์ งกุฎไทย (ป.ม.) (ตำแหน่งผอ.โรงเรยี น เทา่ น้ัน ) ก. ขา้ ราชการระดบั 8
(อันดบั คศ.3)

1. ตอ้ งไดร้ บั เงนิ เดอื นเตม็ ขัน้ ของระดับ 8 (อนั ดบั คศ.3) ข้ัน 58,390 บาท
2. ไดร้ บั เครือ่ งราชฯ ช้ัน ท.ช. มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ 5 ปีบรบิ ูรณ์
3. ถา้ มคี ุณสมบัติ ตามขอ้ 1 -2 ให้เสนอขอฯก่อนวนั ท่ี 1 ตุลาคม ของปีที่จะเกษยี ณอายุ ราชการ
6.ตรวจสอบรายชอื่ จากราชกิจจานเุ บกษา หรอื บัญชีเสนอขอพระราชทานย้อนหลังว่าเคยขอ พระราชทาน
ในชั้นตรานน้ั ๆ แลว้ หรอื ยัง ทั้งน้ี เพื่อมิใหเ้ กดิ การขอซ้ำ ได้เสนอขอพระราชทานไปแล้วจะเสนอขอ พระราชทาน
ชัน้ สูงอีกไม่ได้ เพราะเปน็ การขอในปีติดต่อกนั
2. การขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณใ์ ห้แก่ลกู จ้างประจำ ดงั น้ี
1. ให้ตรวจสอบคุณสมบัติของผูท้ ีจ่ ะเสนอขอพระราชทานเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ให้ถูกต้อง ตามระเบียบ
สำนัก นายกรัฐมนตรวี ่าด้วยการขอพระราชทานเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์อนั เป็นที่เชิดชูยง่ิ ชา้ งเผอื กและ
เคร่ืองราชอสิ รยิ าภรณอ์ ันมเี กียรติยศยิ่งมงกุฎไทย พ.ศ. 2536 โดยเคร่งครดั
2. ลูกจา้ งประจำท่จี ะเสนอขอพระราชทานเคร่อื งราชอิสริยาภรณ์ จะต้องมคี ุณสมบตั ิตามระเบยี บฯ พอ
สรุป ดังนี้
2.1 ตอ้ งเปน็ ลูกจ้างประจำของส่วนราชการตามระเบียบกระทรวงการคลงั วา่ ดว้ ยลกู จ้างประจำ
ของสว่ นราชการ
2.2 ต้องเปน็ ลกู จา้ งประจำทมี่ ีช่ือและลักษณะงานเป็นลูกจ้างประจำโดยตรง หมวดฝมี ือ หรือ
ลกู จา้ งประจำท่มี ีชือ่ และลักษณะเหมือนขา้ ราชการ
2.3 ต้องปฏบิ ตั ิงานติดต่อกันมาแล้วไมน่ ้อยกว่า 8 ปบี ริบูรณ์ นบั ตั้งแต่วันเริ่มรับการจ้าง ถึง ก่อน
วันพระราชพธิ เี ฉลิมพระชนมพรรษา 60 วนั
2.4 เป็นผู้ประพฤติดีและปฏิบตั งิ านราชการหรืองานท่ีเป็นประโยชนต์ ่อสาธารณชน
ด้วยความอุตสาหะวิรยิ ะ ซอื่ สัตย์ และเอาใจใส่ตอ่ หน้าทอี่ ย่างดยี ง่ิ
2.5 เป็นผไู้ มเ่ คยมีพระบรมราชานุญาตให้เรียกคืนเครือ่ งราชอสิ ริยาภรณ์ หรอื ต้องรบั โทษ
จำคุก หนา้ 18

โรงเรียนวัดสันติการาม สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

โดยพิพากษาถึงท่ีสดุ ใหจ้ ำคุก เวน้ แต่เปน็ โทษสำหรับความผิดทีไ่ ด้กระทำโดยประมาทหรือความผดิ ลหุโทษ

2.6 ลกู จา้ งประจำหมวดแรงงาน/หมวดกึ่งฝีมือ หากภายหลงั ไดร้ บั การแตง่ ตง้ั ให้ดำรงตำแหน่ง ใน

หมวด ฝมี อื ใหน้ ับระยะเวลาการปฏบิ ัตงิ านตดิ ต่อกัน ตั้งแตว่ ันเร่มิ บรรจจุ นถงึ ก่อนวนั พระราชพธิ เี ฉลิมพระ

ชนมพรรษาของปีทขี่ อ ไม่น้อยกว่า 60 วัน (ต้องปฏิบตั ิงานติดตอ่ กันมาแลว้ ไมน่ อ้ ยกว่า 8 ปีบรบิ ูรณ)์

3.การขอพระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณใ์ หพ้ นกั งานราชการ ดงั น้ี

1.ต้องเป็นพนกั งานราชการตามสัญญาจา้ งของส่วนราชการตามระเบียบสำนักนายกรฐั มนตรีว่าดว้ ย

พนักงาน ราชการ พ.ศ.2547

2.ตอ้ งพนักงานราชการทีม่ ชี ือ่ และลกั ษณะงานเปน็ พนักงานทเ่ี ทยี บเท่ากบั ลูกจ้างประจำหมวดฝีมอื ขน้ึ ไป

ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าดว้ ยลูกจา้ งประจำของสว่ นราชการ

3.ต้องปฏบิ ตั ิงานในตำแหน่งพนกั งานราชการ ติดต่อกันมา เปน็ ระยะเวลาไม่นอ้ ยกวา่ 5 ปี บริบรู ณ์

นบั ต้ังแต่ วันเร่มิ จ้างจนถึงวันก่อนพระราชพิธเี ฉลมิ พระชนมพรรษาของปีท่ขี อพระราชทานไม่น้อยกว่า 60 วัน

4.เป็นผ้ปู ระพฤติดีและปฏิบัติงานราชการหรืองานท่เี ปน็ ประโยชนต์ อ่ สาธารณชนด้วยความอตุ สาหะ วิริยะ

ซื่อสัตย์ และเอาใจใส่ตอ่ หนา้ ท่อี ยา่ งดยี ่ิง

เอกสารหลกั ฐานการเสนอขอพระราชทานเครือ่ งราชอิสรยิ าภรณแ์ ละเหรยี ญจกั รพรรดิมาลา ดงั นี้

1.ชัน้ ต่ำกว่าสายสะสาย

1.1. สำหรับขา้ ราชการ ชน้ั ตรา จ.ช. ต.ม. ต.ช. ท.ม.และช้ัน ท.ช. และสำหรบั พนกั งานราชการ ชนั้ ตรา

บ.ม. บ.ช. จ.ม. จ.ช. ต.ม. ใหด้ ำเนินการและจดั ส่งเอกสารดังน้ี

- กรอกแบบ ร.ร.1 จำนวน 1 ชุด / คน

- สำเนา ก.พ.7 จำนวน 2 ชดุ / คน

- สำเนาทะเบยี นบา้ น จำนวน 2 ชุด / คน

- กรอกแบบ สพท.2 สรุปชัน้ ตรา จำนวน 1 ชุด / โรงเรียน

- ใหศ้ ึกษารายละเอยี ดจากแนวปฏบิ ัติการเสนอขอและตัวอย่าง

1.2. สำหรับลกู จ้างประจำ ชนั้ ตรา บ.ม. บ.ช. จ.ม. และจ.ช.ใหด้ ำเนินการและจดั สง่ เอกสาร ดังนี้

- กรอกแบบ ร.ร.1 จำนวน 1 ชุด / คน

- สำเนา ก.พ.7 จำนวน 2 ชดุ / คน

- สำเนาทะเบยี นบา้ น จำนวน 2 ชุด / คน

1.3. สำหรับพนกั งานราชการ ช้นั ตรา บ.ม. บ.ช. จ.ม. จ.ช. ต.ม. ให้ดำเนนิ การและจัดสง่ เอกสาร ดังนี้

- กรอกแบบ ร.ร.1 จำนวน 1 ชุด / คน

- สำเนาสญั ญาจา้ ง ทกุ ฉบบั ตั้งแต่เร่มิ ปฏบิ ตั ิงานพนักงานราชการ จำนวน 2 ชุด / คน

- สำเนาทะเบยี นบา้ น จำนวน 2 ชุด / คน

2.ช้นั สายสะพาย ช้ัน ป.ม. (ประถมาภรณ์มงกฎุ ไทย) ต้องเปน็ ข้าราชการที่ดำรงตำแหนง่ ผ้อู ำนวยการโรงเรยี น

และรบั เงนิ เดือนเต็มข้ันของอันดบั คศ.3 ขนั้ 58,390 บาท และเป็นผูจ้ ะเกษยี ณอายุราชการ ใหด้ ำเนินการ จัดสง่

ดังนี้

- แบบ ร.ร.1 จำนวน 1 ชดุ (ใหพ้ ิมพจ์ ากเครื่องคอมพิวเตอร์) หน้า 19

โรงเรยี นวดั สนั ติการาม สำนักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

- แบบสำเนา ก.พ.7 จำนวน 4 ชดุ
- สำเนาทะเบียนบ้าน จำนวน 4 ชดุ
- สำเนาบตั รประจำตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐ จำนวน 4 ชุด
- คำสั่งเลื่อนขน้ั เงินเดือน จำนวน 4 ชุด
- ประกาศราชกจิ จานุเบกษาหรือประกาศใบกำกับเคร่ืองราชที่ ได้ชัน้ ท.ช. จำนวน 4 ชดุ
3.การเสนอขอพระราชทานเหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)
ใหจ้ ัดพิมพ์แบบกรอกประวัติของตนเองเรียง ลำดบั ตัง้ แตบ่ รรจุ และลงรายการในบรรทัดตอ่ มาในช่อง วัน
เดือน ปี ท่ีรับราชการวา่ (จนถงึ ปจั จบุ นั ) จัดทำแบบกรอกประวัติ ใหอ้ ยู่ในหนง่ึ หน้ากระดาษ เอ 4 และกรอก
รายละเอยี ดใหค้ รบทุกปี (ดูจากตวั อยา่ งแบบ กรอก ประวัติ ทสี่ ง่ มาพร้อมน)ี้ ใหเ้ จา้ ของประวตั ลิ งลายมือช่ือดว้ ย
ตนเอง ด้วยปากกาสีน้ำเงนิ เท่าน้นั ส่งจำนวน 4 ชดุ (หา้ มสำเนาสง่ )
- แบบ ร.ร.1 จำนวน 1 ชดุ / คน
- แบบกรอกประวัติสำหรบั เสนอขอพระราชทานเหรยี ญจักรพรรดิมาลา จำนวน 4 ชุด / คน
- แบบสำเนา ก.พ. 7 จำนวน 2 ชดุ / คน
- สำเนาทะเบยี นบ้าน จำนวน 2 ชดุ / คน
- แบบ ร.จ.พ. 1 และ ร.จ.พ.2 จำนวน 1 ชุด / โรงเรียน
- ให้ศกึ ษารายละเอียดจากแนวปฏิบัตกิ าร
4. เมื่อดำเนนิ การ ตามข้อ 1 , 2 และข้อ 3 เสร็จเรยี บร้อยแล้ว ให้โรงเรียนตรวจสอบความถูกต้องและความ
ครบถ้วนของข้อมลู เอกสารและรายละเอียด โดยเฉพาะการลงรายละเอยี ดในแบบ ร.ร.1 ในแตล่ ะชั้นตรา ต้อง
กรอกใหช้ ดั เจน และการกรอกแบบประวตั ิการเสนอขอพระราชทานเหรยี ญจกั รพรรดิมาลา (ร.จ.พ.) เชน่
- คำนำหนา้ ช่ือ ช่ือตัว ช่ือสกุล
- ตำแหน่ง ระดบั ขั้นเงนิ เดอื น
- การได้รับเครื่องราชฯครั้งหลังสุด
- วนั /เดือน/ปีบรรจุ (สำหรบั ผขู้ อพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณค์ รงั้ แรก และไม่เคยไดร้ บั
พระราชทานเครือ่ งราชฯมาก่อน)
- วนั /เดือน/ปที ่ดี ำรงตำแหน่งในระดบั 3 ,5, 7 (สำหรับผู้ขอพระราชทานเคร่อื งราชอิสรยิ าภรณ์ ท่ี ดำรง
ตำแหน่งปัจจุบันในระดบั 4 , 6 ,8)
- การเสนอขอพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณใ์ ห้ขอพระราชทานปีเว้นปี (หากขอปที ี่แล้วเสนอ ขอ ช้ัน
ตราใดมาแลว้ ในปีนี้ไมต่ ้องเสนอขอซ้ำอีก) ขอใหโ้ รงเรยี นตรวจสอบอย่างเคร่งครัดด้วย ท้ังนี้ เมอ่ื ดำเนินการ
ตามข้ันตอนต่างๆ เสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ใหโ้ รงเรียนรวบรวมเอกสาร (โดยดูรายละเอยี ดเอกสารท่ีจะต้องจัดสง่
ตามข้อ 1 – 3 ดังกลา่ วขา้ งต้น) และส่งถึงสำนักงานเขตพื้นท่กี ารศึกษาประถมศึกษา

15. การสง่ เสริมการประเมินวทิ ยฐานะขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หน้า 20
คณุ สมบัตขิ องผู้ขอมีวิทยฐานะและเลอื่ นวิทยฐานะ มดี งั น้ี

1.1 ระยะเวลาการดำรงตำแหน่งครู

โรงเรยี นวัดสนั ตกิ าราม สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

วิทยฐานะครชู ำนาญการ ตอ้ งดำรงตำแหน่งครู มาแล้วไมน่ ้อยกวา่ 5 ปี นับถึงวนั ทยี่ ื่นคำขอ หรือดำรง
ตำแหนง่ อ่นื ที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า

วทิ ยฐานะครชู ำนาญการพิเศษ ตอ้ งดำรงตำแหน่งครทู ี่มีวทิ ยฐานะครูชำนาญการ มาแลว้ ไม่ น้อยกวา่ 5 ปี
นบั ถงึ วนั ทีย่ ื่นคำขอ หรือดำรงตำแหนง่ อื่นที่ ก.ค.ศ. เทียบเท่า

วทิ ยฐานะครูเช่ยี วชาญ ต้องดำรงตำแหนง่ ครูทีม่ ีวิทยฐานะครูชำนาญการพเิ ศษ มาแล้ว ไม่นอ้ ย กวา่ 5 ปี
นับถึงวันทยี่ ื่นคำขอ หรือดำรงตำแหน่งอน่ื ท่ี ก.ค.ศ. เทยี บเท่า

วทิ ยฐานะครเู ชย่ี วชาญพิเศษ ตอ้ งดำรงตำแหน่งครูทีม่ ีวิทยฐานะครูเชี่ยวชาญ มาแลว้ ไมน่ ้อย กว่า 5 ปี
นับถึงวนั ที่ยนื่ คำขอ หรือดำรงตำแหน่งอืน่ ท่ี ก.ค.ศ. เทียบเท่า

1.2 มีจำนวนช่วั โมงการปฏิบัติงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กำหนด
1.2.1 ชั่วโมงการปฏิบตั ิงาน หมายถงึ จำนวนชั่วโมงสอนตามตารางสอน จำนวนชั่วโมงสอนตาม

ตารางสอน หมายถงึ จำนวนช่วั โมงสอนในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระ การเรยี นรูท้ ่ี กำหนดไว้ตามหลักสตู ร
1.2.2 ผู้ดำรงตำแหน่งครทู จี่ ะขอมวี ิทยฐานะหรือเลื่อนวทิ ยฐานะ ตอ้ งมชี ่ัวโมงการปฏบิ ตั ิงาน ดังนี้

วิทยฐานะครูชำนาญการหรอื วทิ ยฐานะครูชำนาญการพเิ ศษ ต้องมีชัว่ โมงการปฏิบัตงิ าน ในแต่ ละปีไม่
น้อยกวา่ 800 ชวั่ โมง โดยในชว่ั โมงการปฏบิ ัตงิ านต้องมชี ่วั โมงการมสี ว่ นร่วมในชุมชนการเรียนรู้ทาง วิชาชพี ในแต่
ละปไี มน่ ้อยกวา่ 50 ช่ัวโมง ท้ังน้ี ตอ้ งมชี วั่ โมงสอนขน้ั ต่ำตามท่ี ก.ค.ศ. กำหนดด้วย

วทิ ยฐานะครเู ช่ยี วชาญหรือวิทยฐานะครเู ชี่ยวชาญพิเศษ ต้องมชี ว่ั โมงการปฏิบตั ิงาน ในแต่ละปี ไม่นอ้ ย
กว่า 900 ชัว่ โมง โดยในช่ัวโมงการปฏบิ ัติงานต้องมชี ่ัวโมงการมสี ่วนรว่ มในชุมชนการเรียนรทู้ างวชิ าชพี ในแตล่ ะปี
ไมน่ อ้ ยกว่า 50 ช่ัวโมง ท้งั น้ี ต้องมชี ัว่ โมงสอนขน้ั ต่ำ ตามที่ ก.ค.ศ. กำหนดดว้ ย

สำหรับการเสนอผลงานทางวิชาการในวิชา/สาขา/กลุ่มสาระการเรยี นรใู้ ด ในชว่ งระยะเวลา ย้อนหลงั 5 ปี
ผขู้ อจะต้องมชี ัว่ โมงสอน ในวิชา/สาขา/กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ท่ีเสนอผลงานทางวชิ าการน้ันด้วย

1.3 มวี นิ ยั คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพ โดยไมเ่ คยถูกลงโทษทางวนิ ัย หรือ
จรรยาบรรณ วชิ าชีพ ในช่วงระยะเวลาย้อนหลงั 5 ปี นับถึงวนั ทีย่ น่ื คำขอ

ในกรณที ผี่ ดู้ ำรงตำแหนง่ ครู อยรู่ ะหว่างถูกดำเนินการทางวินัยหรอื จรรยาบรรณวชิ าชพี โดยยังไม่มี คำสง่ั
ลงโทษ ใหถ้ อื วา่ ผ้นู ้นั มีคุณสมบตั ิในข้อน้ี

1.4 ผา่ นการพัฒนา ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารที่ ก.ค.ศ. กำหนด ซึ่ง ก.ค.ศ. ไดก้ ำหนดหลกั เกณฑ์ และ
วธิ กี ารพัฒนาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา สายงานการสอน ตามหนงั สอื สำนักงาน ก.ค.ศ. ที่ ศธ
0206.7/ว 22 ลงวนั ที่ 5 กรกฎาคม 2560 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

1.4.1 ครตู ้องเข้ารบั การพัฒนาอย่างต่อเนอ่ื งทุกปี โดยมกี ารประเมินตนเองเพอื่ วเิ คราะหค์ วาม
จำเปน็ ในการพฒั นา และนำผลจากการวเิ คราะห์มาจัดทำแผนการพัฒนาตนเองเปน็ รายปี เสนอผูอ้ ำนวยการ
สถานศึกษาเพื่อพจิ ารณาอนุญาต

1.4.2 การเขา้ รบั การพัฒนา ต้องเข้ารบั การพัฒนาในหลักสูตรที่สถาบันคุรุพฒั นาให้การรับรอง

หนา้ 21

โรงเรียนวัดสันติการาม สำนักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

จำนวนไม่นอ้ ยกว่า 12 ชั่วโมง แต่ไมเ่ กิน 20 ชวั่ โมงต่อปี รวมภายในระยะเวลา 5 ปี จำนวน 100 ช่ัวโมง กรณี มี
ชว่ั โมง การพฒั นาไม่ครบ 100 ชัว่ โมง ใหน้ ำช่วั โมงการมีสว่ นรว่ มในชมุ ชนการเรียนรูท้ างวชิ าชีพ (Professional
Learning Community : PLC) สว่ นท่ีเกนิ จาก 50 ชว่ั โมงในแต่ละปีมานบั รวมได้

1.4.3 การเข้ารบั การพัฒนาตามขอ้ 1.4.2 ในแต่ละปีต้องครบ 3 องคป์ ระกอบ ซงึ่ ประกอบดว้ ย
ด้านความรู้ ด้านทักษะ และด้านความเป็นครู เพ่ือให้มคี ุณลกั ษณะที่คาดหวังตามมาตรฐาน วิทยฐานะ ท่ีจะขอรบั
การประเมนิ นัน้ ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหนง่ ครู ท่ีไดร้ ับการพัฒนา ตามข้อ 1.4.1 - 1.4.3
ครบถว้ นแลว้ ให้ถือวา่ ผา่ นการพฒั นาก่อนการแต่งตง้ั ให้มวี ิทยฐานะและเล่ือนวทิ ยฐานะ ตามมาตรา 80 แหง่
พระราชบญั ญตั ริ ะเบียบขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา พ.ศ.2547 ด้วย

1.5 มีผลงานทีเ่ กิดจากการปฏบิ ัติหน้าท่ี สายงานการสอน ในช่วงระยะเวลาย้อนหลงั 5 ปกี ารศึกษา
ตดิ ต่อกนั นบั ถึงวันส้นิ ปีการศึกษาก่อนวันทีย่ นื่ คำขอ ซ่ึงจะต้องมีการประเมนิ และมีผลการประเมินเป็นไปตาม
เกณฑ์การตัดสินแตล่ ะวทิ ยฐานะตามท่กี ำหนดไวใ้ นหลักเกณฑ์นี้ ไมน่ อ้ ยกวา่ 3 ปีการศึกษา โดยพิจารณาจาก
ขอ้ มูลที่บันทึกไวใ้ นแบบรายงานผลงานท่ีเกิดจากการปฏบิ ัตหิ นา้ ท่ี ตำแหน่งครู รายปีการศึกษา (วฐ.2)

การประเมนิ ผลงานที่เกิดจากการปฏิบตั หิ น้าทีต่ ามข้อน้ี เป็นการประเมนิ การปฏิบัตงิ าน ตามหนา้ ทค่ี วาม
รบั ผดิ ชอบ ตามมาตรฐานตำแหนง่ และมาตรฐานวิทยฐานะ ซง่ึ ขา้ ราชการครูทุกคนต้องมีการประเมนิ 3 ดา้ น รวม
13 ตัวชี้วดั คือ ดา้ นการจัดการเรียนการสอน (8 ตัวช้วี ดั ) ด้านการบริหารจัดการชนั้ เรยี น (3 ตวั ช้วี ัด) และ ดา้ น
การพฒั นาตนเองและพฒั นาวิชาชีพ (2 ตวั ช้ีวัด) เป็นปกติทุก ปกี ารศึกษา โดยเม่ือ สิ้นปีการศึกษาผูด้ ำรง ตำแหนง่
ครูต้องประเมนิ ผลการปฏิบัตงิ านของตนเอง ตามแบบ วฐ.2 เสนอผ้อู ำนวยการ สถานศึกษา

ผ้ขู อรับการประเมนิ และผ้อู ำนวยการสถานศึกษาต้องเป็นผรู้ ับรองข้อมลู เอกสาร และหลักฐาน เกยี่ วกับ
คณุ สมบตั ิของผู้ขอด้วย หากภายหลงั การตรวจสอบพบวา่ มีคณุ สมบัติไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ท่ี ก.ค.ศ. กำหนด ให้
ถือว่าเป็นผ้ขู าดคณุ สมบัติ

16. การส่งเสริมและยกย่องเชดิ ชูเกยี รติ
ขัน้ ตอนการดำเนินการระดบั สถานศกึ ษา

1.สถานศกึ ษาประชาสมั พนั ธป์ ระกาศหลกั เกณฑ์และวิธีการสรรหารและวิธีการสรรหาฯ ให้ครูและ
บุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา

2. ครแู ละบคุ ลาการทางการศึกษาในสถานศกึ ษา ส่งใบสมัครเขา้ รับการประเมิน และผลงาน เสนอ
ผู้อำนวยการสถานศกึ ษา

3. ผู้อำนวยการสถานศึกษา ประเมินผลการปฏบิ ตั ิตน (ด้านการครองตน ครองคน และครองงาน)
ตามแบบท่ีกำหนด

4. สถานศึกษาแตง่ ตัง้ คณะกรรมการดำเนินการสรรหาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ใน สงั กดั
ประเภทรางวัลละ 1 คน เสนอสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ตามปฏทิ นิ ท่กี ำหนด

17. การสง่ เสริมมาตรฐานวิชาชีพและจรรยาบรรณวิชาชพี หนา้ 22

โรงเรยี นวัดสันตกิ าราม สำนักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

“วิชาชีพ” หมายความว่า วิชาชพี ทางการศึกษาที่ทำหน้าที่หลักทางดา้ นการเรียนการสอนและการ
สง่ เสรมิ การเรียนร้ขู องผูเ้ รียนด้วยวธิ ีการต่าง ๆ รวมทั้งการรับผดิ ชอบการบริหารสถานศึกษาในสถานศกึ ษา ปฐมวยั
ข้ันพื้นฐาน และอดุ มศึกษาทตี่ ่ำกวา่ ปริญญา ทง้ั ของรฐั และเอกชน และการบรหิ ารการศกึ ษานอก สถานศึกษาใน
ระดบั เขตพืน้ ท่ีการศึกษาตลอดจนการสนับสนนุ การศึกษาให้บริการหรือปฏิบตั ิงานเกีย่ วเนือ่ งกบั การจัด
กระบวนการเรียนการสอน การนเิ ทศและการบรหิ ารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่างๆ

“ผ้ปู ระกอบวิชาชพี ทางการศกึ ษา” หมายความวา่ ครู ผู้บริหารสถานศกึ ษา ผ้บู ริหารการศกึ ษาและ
บคุ ลากรทางการศึกษาอ่ืน ซึ่งได้รบั ใบอนุญาตเป็นผปู้ ระกอบวิชาชีพตามพระราชบญั ญตั ิสภาครแู ละบุคลากร ทาง
การศกึ ษา พ.ศ. ๒๕๔๖

“คร”ู หมายความว่า บุคคลซ่ึงประกอบวชิ าชีพหลกั ทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสรมิ การ เรยี นรู้
ของผเู้ รยี นด้วยวิธีการต่างๆ ในสถานศึกษาปฐมวัย ข้ันพนื้ ฐาน และอดุ มศึกษาที่ต่ำกวา่ ปรญิ ญา ท้งั ของรฐั และ
เอกชน

“ผู้บรหิ ารสถานศกึ ษา” หมายความว่า บคุ คลซ่ึงปฏิบัติงานในตำแหนง่ ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษาภายในเขต
พืน้ ที่การศกึ ษา และสถานศึกษาอื่นทจี่ ัดการศึกษาปฐมวยั ข้นั พืน้ ฐาน และอดุ มศกึ ษาต่ำกว่าปริญญา ทง้ั ของรัฐ
และเอกชน

“บคุ ลากรทางการศกึ ษาอน่ื ” หมายความวา่ บคุ คลซง่ึ ทำหนา้ ทส่ี นับสนุนการศึกษา ใหบ้ ริการหรอื
ปฏิบตั ิงานเกย่ี วเนือ่ งกบั การจัดกระบวนการเรยี นการสอน การนเิ ทศ และการบรหิ ารการศึกษาในหน่วยงาน
การศกึ ษาต่างๆ ซ่ึงหนว่ ยงานการศึกษากำหนดตำแหน่งให้ตอ้ งมีคุณวฒุ ทิ างการศึกษา

ผ้ปู ระกอบวิชาชีพครู ตอ้ งมีมาตรฐานความรแู้ ละประสบการณ์วชิ าชพี มาตรฐานความรู้ มคี ณุ วุฒิไมต่ ่ำ
กวา่ ปริญญาตรีทางการศึกษาหรือเทยี บเท่า หรือคุณวุฒิอน่ื ทคี่ ุรุสภารับรอง มาตรฐานวชิ าชีพครู ประกอบด้วย
มาตรฐาน ๓ ดา้ น คือ มาตรฐานความรู้และประสบการณ์วชิ าชพี มาตรฐานการปฏิบตั ิงาน และมาตรฐานการ
ปฏบิ ัติตน (จรรยาบรรณของวชิ าชพี )

โดยจรรยาบรรณของวชิ าชพี ได้มีการกำหนดแบบแผนพฤติกรรมตามจรรยาบรรณของวิชาชพี เพือ่
ประมวลพฤติกรรมทเ่ี ปน็ ตวั อยา่ งของการประพฤตปิ ฏิบตั ิ ประกอบดว้ ย พฤตกิ รรมท่พี งึ ประสงค์ และพฤติกรรมที่
ไมพ่ ึงประสงค์
18. การสง่ เสริมวินัย คุณธรรมและจริยธรรมสำหรับขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา

วิชาชีพครูเป็นวิชาชีพชน้ั สูง เป็นวิชาชพี ทีน่ อกจากจะตอ้ งการผ้ทู ี่มีความรคู้ วามสามารถในการท่ีจะ
ถ่ายทอดวชิ าการไปสผู่ เู้ รยี นแล้ว สิง่ สำคัญประการหนงึ่ ที่อาชีพครูจะต้องยึดถอื คือ การมีวนิ ยั คุณธรรม จริยธรรม
และจรรยาบรรณวิชาชพี เพ่ือเป็นแมแ่ บบให้แกล่ ูกศษิ ย์ ซึ่งเรอื่ งของวินยั ข้าราชการครูบุคลากรทาง การศึกษา นัน้
พระราชบญั ญัติระเบยี บข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.๒๕๔๗ มาตรา ๘๒ ก็ได้ กำหนดไว้ชัดเจนว่า
"ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาต้องรักษาวนิ ยั ท่ีบัญญัติเปน็ ข้อห้ามและข้อปฏิบตั ิ โดยเครง่ ครดั อยู่เสมอ"
ข้อห้ามและข้อปฏิบตั ดิ ังกล่าว ไดแ้ ก่

1. ตอ้ งสนบั สนุนการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ตาม
รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทยด้วยความบรสิ ุทธ์ิใจ

หน้า 23

โรงเรียนวัดสนั ตกิ าราม สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาราชบรุ ี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

2. ต้องปฏิบัติหน้าทีร่ าชการด้วยความซ่ือสัตย์ สจุ ริต เสมอภาคและเทยี่ งธรรม มคี วามวริ ิยะ อุตสาหะ
ขยนั หมน่ั เพียร ดูแลเอาใจใส่ รักษาประโยชนข์ องทางราชการ

3. ห้ามมใิ หอ้ าศยั หรือยอมให้ผู้อ่ืนอาศยั อำนาจและหน้าทร่ี าชการของตนไม่ว่าทางตรงหรอื ทางอ้อมไป หำ
ผลประโยชน์ให้แกต่ นเองหรือผอู้ ื่น

4. ต้องปฏบิ ตั ติ ามคำสง่ั ผบู้ งั คับบัญชา ซึง่ สัง่ ในหน้าที่ราชการโดยชอบดว้ ยกฎหมายและระเบยี บของทาง
ราชการ

5. ตอ้ งตรงต่อเวลา อุทิศเวลาให้แก่ทางราชการและผเู้ รยี น ไมล่ ะทิง้ หรือทอดทิ้งหน้าทร่ี าชการโดยไม่มี
เหตุอนั ควร

6. ต้องประพฤติเป็นแบบอย่างท่ีดแี ก่ผ้เู รยี น ชุมชน สงั คม มีความสุภาพเรียบร้อย รักษาความสามคั คี
ช่วยเหลือเก้อื กลู ต่อผูเ้ รียนและระหว่างผูป้ ฏิบตั งิ านด้วยกนั

7. ตอ้ งใหค้ วามเป็นธรรมแกผ่ ู้เรยี นและประชำชนผ้มู าติดต่อราชการ
8. ตอ้ งไม่กลั่นแกล้ง ดูหมิ่น เหยยี ดหยาม กดข่หี รือข่มเหงผู้เรียนหรอื ประชำชน
9. ตอ้ งไม่กลั่นแกล้งกล่าวหาหรือรอ้ งเรียนผู้อน่ื โดยปราศจากความเป็นจรงิ
10. ต้องไม่คัดลอกหรือลอกเลียนผลงานทางวชิ าการของผู้อ่ืนโดยมิชอบ หรือนำผลงานของผู้อ่ืนหรอื จ้าง
วานใชผ้ ู้อืน่ ทำผลงานเพื่อใช้ในการเลอ่ื นตำแหน่ง เลอื่ นวิทยฐานะหรือการไดร้ บั เงินเดือนในระดบั ทส่ี ูงข้ึน
11. ตอ้ งไมเ่ ป็นกรรมการผู้จัดการหรือผู้จดั การ หรือดำรงตำแหน่งทีม่ ลี ักษณะงานคล้ายคลงึ กนั ในห้าง
หุ้นส่วนหรือบริษทั
12. ต้องวางตนเปน็ กลางทางการเมือง ไม่อาศัยอำนาจหน้าท่แี สดงการฝักใฝ่ ส่งเสรมิ เก้ือกลู สนับสนุน
บคุ คลหรอื พรรคการเมืองใด และต้องไม่เข้าไปเกีย่ วข้องการดำเนนิ การในลักษณะเป็นการทจุ รติ โดยการซอ้ื สิทธิ
หรอื ขายเสียงในการเลือกต้งั
13. ตอ้ งไมเ่ สพยาเสพติด หรือสนับสนนุ ใหผ้ ูอ้ ื่นเสพ
14. ตอ้ งไม่เลน่ การพนนั เป็นอาจิณ
15. ต้องไมก่ ระทำการลว่ งละเมิดทางเพศต่อผ้เู รียนหรอื นักศกึ ษา ท้งั นี้ หากข้าราชการครูและบุคลากร
ทางการศกึ ษาไมร่ ักษาวนิ ัย หรอื ฝ่าฝนื วินยั ดังกล่าวก็จะไดร้ ับโทษ ทางวนิ ัย ซ่ึงอาจถงึ ขนั้ ปลดออกหรือไลอ่ อกจาก
ราชการได้
๑๙. การรเิ ร่ิมส่งเสรมิ การขอรบั ใบอนุญาต
การตอ่ อายใุ บอนญุ าตประกอบวชิ าชีพสามารถดำเนินการต่ออายุกอ่ นหมดอายุ ๑๘๐ วนั (หรอื ๖ เดือน)
1.คำขอตออายุใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพครู
หลักฐานทีใ่ ช้ในการประกอบยื่นคำขอต่ออายใุ บอนุญาตประกอบวชิ าชพี ครู
1. คำขอต่ออายใุ บอนุญาตประกอบวชิ าชพี ครู (คส.02.10)
2. สำเนาบัตรประจำตวั ประชาชน หรอื สำเนาทะเบยี น้บ้าน หรอื สำเนาบัตรประจำตัวเจ้าหน้าท่ีของรัฐ
3. สำเนาวฒุ ิการศึกษา (1. สำเนาปริญญาบัตร หรือ สำเนาหนังสือรับรองคณุ วุฒิ 2. สำเนาใบรายงานผล
การศกึ ษา Transcript)

หนา้ 24

โรงเรยี นวัดสันติการาม สำนักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาราชบุรี เขต 1

WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1

4. สำเนาหลักฐานผลการปฏิบัตงิ านตามมาตรฐาน ตามขอ 2.1 ในแบบแสดงคุณสมบตั ิ ไมนอยกวา 3

กจิ กรรม ภายในระยะเวลา 5 ปี ทีไ่ ด้รับใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี

5. ตอบคำถามในหน้าที่ 6 และลงลายมือช่ือผู้ย่นื แบบ (รายละเอียดในหนา 7)

6. สำเนาใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพครู

7. รูปถา่ ย 1 นิว้

8. หลกั ฐานการชำระค่าธรรมเนยี มต่ออายุ ตามประเภทวชิ าชพี ท่ขี อต่ออายุ

2. กรณปี จั จุบันไม่ได้ประกอบวชิ าชีพครู

1. คำขอต่ออายุใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพครู (คส.02.10)

2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน หรอื สำเนาทะเบยี นบ้าน หรือ สำเนาบตั รประจำตวั เจ้าหน้าท่ีของรัฐ

3. สำเนาวฒุ ิการศึกษา (1. สำเนาปรญิ ญาบัตร หรือ สำเนาหนังสือรบั รองคณุ วฒุ ิ 2. สำเนาใบรายงาน ผล

การศกึ ษา Transcript)

4. ตอบคำถามในหน้าท่ี 6 และลงลายมอื ช่ือผู้ยื่นแบบ (รายละเอยี ดในหนา 7)

5. สำเนาใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู

6. รปู ถา่ ย 1 นว้ิ

7. หลกั ฐานการชำระค่าธรรมเนียมต่ออายุ ตามประเภทวิชาชพี ท่ขี อต่ออายุ

3. คำขอต่ออายใุ บอนญุ าตประกอบวชิ าชีพผู้บริหารสถานศึกษา

หลกั ฐานท่ีใช้ในการประกอบยน่ื คำขอต่ออายใุ บอนญุ าตประกอบวิชาชีพผู้บรหิ ารสถานศึกษา

1. คำขอตออายใุ บอนุญาตประกอบวิชาชพี ผู้บริหารสถานศึกษา (คส.02.20)

2. สำเนาบตั รประจำตวั ประชาชน หรือ สำเนาทะเบียนบ้าน หรอื สำเนาบัตรประจำตวั เจ้าหน้าท่ีของรัฐ

3. สำเนาวฒุ กิ ารศึกษา (1. สำเนาปริญญาบตั ร หรอื สำเนาหนังสอื รับรองคุณวฒุ ิ 2. สำเนาใบรายงาน ผล

การศกึ ษา Transcript)

4. สำเนาหลักฐานผลการปฏบิ ตั งิ านตามมาตรฐาน ตามข้อ 2.1 ในแบบแสดงคุณสมบัติ ไม่นอ้ ยกว่า 3

กิจกรรม ภายในระยะเวลา 5 ปี ทีไ่ ดรบั ใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ

5. ตอบคำถามในหนาที่ 6 และลงลายมอื ชื่อผู้ยืน่ แบบ (รายละเอียดในหนา 7)

6. สำเนาใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี ผู้บริหารสถานศกึ ษา

7. รูปถา่ ย 1 นวิ้

8. หลักฐานการชำระค่าธรรมเนยี มต่ออายุ ตามประเภทวชิ าชีพทข่ี อต่ออายุ

4 บนั ทึกข้อความสำหรับกรณีต่อหลงั หมดอายุ 180 วัน

20. การพฒั นาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา การดำเนนิ การทเ่ี ก่ยี วกบั การบรหิ ารงานบุคคล ให้

เปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการน้ัน

ขนั้ ตอนการสมคั รเข้าร่วมโครงการพฒั นาข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา กอ่ นแตง่ ต้ังใหม้ แี ละ

เลื่อนเป็นวทิ ยฐานะชำนาญการพิเศษและวิทยฐานะเชย่ี วชาญ

1. ส่งใบแบบคำขอรับการพฒั นาไปยังสำนักงานเขตพื้นท่ตี ามสงั กดั แบบคำขอเข้ารบั การพฒั นา

2. ต้นสงั กดั รวบรวมรายชอื่ และนำส่งมายัง สถาบนั พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา หน้า 25

โรงเรียนวัดสันตกิ าราม สำนักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต 1
WATSANTIKARAM SCHOOL : RATCHABURI PRIMARY EDUCATION SERVICE AREA OFFICE 1


Click to View FlipBook Version