BEAR
HOUSE
รายงานวิชา Principles of Marketing
(MK101)
จัดทำโดย
นาย จักรกฤษณ์ ทาละพันธ์ 1650214008 เลขที่ 105
นางสาวสกุลตรา โพธาราม 1650210717 เลขที่ 27
นางสาวศิรประภา โพธาราม 1650210725 เลขที่ 28
นาย กฤษติชัย วิเชียรพงษ์ 1650210840 เลขที่ 33
นางสาวพิยดา โพธาราม 1650214172 เลขที่ 110
นาย ธราธร ม่วงทับสิงห์ 1650217597 เลขที่ 168
เสนอ
ดร.ธนกฤต วงศ์มหาเศรษฐ์
รายงานข้อมูลที่ได้จากการศึกษาธุรกิจ BEARHOUSE นี้
เป็นส่วนหนึ่งของวิชา
MK 101 Principles of Marketing ( Section 107A)
ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565
คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ
คำนำ A
รายงานฉบับนี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวิชาการตลาด (MK 101)
Principle of Marketing ได้จัดทำขึ้นเพื่อประโยชน์สำหรับการศึกษาความรู้ในเรื่องหลักการ
ตลาด คณะผู้จัดทำไดีทำการศึกษาเรื่องธุรกิจ BEARHOUSE เนื่องจากเป็นธุรกิจที่น่าสนใจ
เป็นการนำความความรู้จากการเรียนมาประยุกต์ใช้ในการทำรายงานโดยรายงานเล่มนี้มี
เนื้อหาเกี่ยวกับ ส่วนประสมทางการตลาด(MarketingMix), การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน
โอกาส และอุปสรรค (SWOT Analysis), การแบ่งส่วนตลาด (Market Segment), 5 Force
Model
คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานเล่มนี้จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจ
ศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจ BEARHOUSE ทำให้ได้รับความรู้และสามารถนำความรู้ที่ได้รับไป
ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้
คณะผู้จัดทำ
สารบัญ B
เรื่อง
หน้า
คำนำ
สารบัญ A
ประวัติความเป็นมา B
MARKETING MIX 1
2
PRODUCT & PRICE 2
PLACE 3-4
PROMOTION 5
SWOT Analysis 6
Market Segment 7
5 Force Model 8-9
ความคิดเห็นของสมาชิกภายในกลุ่ม 10-12
บรรณานุกรม 13
ประวัติความเป็นมา 1
ร้านชานมไข่มุก Bear House มีหุ้นส่วนอยู่ 2 คน คือ “ซารต์ – ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช” และ
“กานต์ – อรรถกร รัตนารมย์” ทั้งคู่เป็นยูทูปเบอร์แถวหน้าของเมืองไทย มีช่องของตัวเองอยู่
แล้วคนติดตามนับล้าน แต่มาร่วมกันเปิดช่องยูทูปใหม่ชื่อ “Bearhug” ขณะนี้มีผู้ติดตาม 3.79
ล้านคน จึงร่วมหุ้นกันเปิดร้านชาไข่มุก BEARHOUSE
BEARHOUSE เกิดขึ้นจากความชอบทานชานมไข่มุก รวมถึงการมีอาชีพเป็นยูทูบครีเอ
เตอร์ (YouTube Creator) เจ้าของ Channel BEARHUG ซึ่งเป็นช่องที่นำเสนอคอนเทนต์เกี่ยว
กับไลฟ์สไตล์ การท่องเที่ยวและอาหาร ทำให้ได้มีโอกาสได้ไปรีวิวชานมไข่มุกที่ประเทศไต้หวัน
แล้วรู้สึกติดใจและเกิดไอเดียว่าทำไมไม่ทำชานมไข่มุกแบรนด์คนไทยให้คนต่างชาติต่อแถวรอซื้อ
บ้าง จึงได้นำไอเดียนี้ไปพูดคุยกับหุ้นส่วนกานต์-อรรถกร จนนำมาสู่การร่วมลงทุนเปิดร้านชา
นมไข่มุก BEARHOUSE สาขาแรก ที่สยามสแควร์ ริมถนนอังรีดูนังต์ ด้วยงบลงทุนเบื้องต้น
ประมาณ 8 ล้านบาท โดยเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มผู้บริโภควัยรุ่นและผู้ที่เพิ่งเริ่มทำงาน สำหรับ
สไตล์และรสชาติของเครื่องดื่มร้าน BEARHOUSE มาพร้อมคอนเซ็ปต์ “เรียบง่ายแต่แตกต่าง”
อร่อยกับเครื่องดื่มรสกลมกล่อมสูตรพิเศษ พร้อมไข่มุกโมจิซึ่งเป็นไข่มุกปั้นสดใหม่ทุกวัน โดย
ไข่มุกสูตรเฉพาะที่คิดค้นและทำเองด้วยความใส่ใจในทุกขั้นตอนการผลิต โดยจะมีแป้งข้าวไทย
เป็นส่วนประกอบทำให้ไข่มุกของ BEARHOUSE มีรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ มีความหนึบหนับ มี
กลิ่นโมจิ มีความไม่กลมและมีขนาดพิเศษ 7mm (เล็กกว่าปกติ)
โดยเมนูยอดนิยมของร้าน BEARHOUSE คือ ชานมแบร์เฮาส์, นมน้ำตาลแดงแบร์เฮาส์,
พรีเมี่ยมมัทฉะลาเต้ และช็อคโกแลตลาเต้เป็นต้น
MMAARRKKEETTIINNGGMMIIXX 2
PRODUCT & PRICE
PLACE 3
BEARHOUSE ปัจจุบันมี 14 สาขา
PLACE 4
PROMOTION 5
SWOT Analysis 6
Strengths เครื่องดื่มรสกลมกล่อมสูตรพิเศษ พร้อมไข่มุกโมจิซึ่งเป็นไข่มุกปั้นสดใหม่ทุกวัน
(จุดแข็ง) สูตรเฉพาะที่ผสมผสานความเป็นไทย คิดค้นและทำเองด้วยความใส่ใจตัวไข่มุกทำมา
จากแป้งข้าวไทยเป็นเอกลักษณ์ของแบร์เฮ้าส์มีรสสัมผัสที่แตกต่างจากร้านอื่นคือ
Weaknesses เคี้ยวนุ่ม หนึบหนับ มีกลิ่นของข้าวไทย
(จุดอ่อน)
ต้นทุนสูงกว่าร้านชานมไข่มุกตามท้องตลาดทั่วไป สามารถทดแทนได้จาก
ราคาที่ย่อมเยาว์กว่า และรสชาติของชาสามารถลอกเลียนแบบได้ง่าย
Opportunities 1.วัตถุดิบที่นำมาใช้ส่วนมากเป็นของคนไทยอยู่แล้ว และมีแต่วัตถุดิบที่มีคุณภาพ
(โอกาส) 2.เจ้าของเป็นYouTuberที่รู้จักกันอยู่แล้วสามารถใช้ช่องทางนี้เป็นการโปรโมทไปในตัว
3.ชานมไข่มุกที่มีคุณภาพมีคู่แข่งที่น้อย
4.ชานมไข่มุกเป็นเครื่องที่ดื่มที่แตกต่างจากเครื่องดื่มทั่วๆไปโดยมีจุดเด่นอยู่ที่ไข่มุก
Threats 1.เครื่องดื่มสามารถทดแทนได้ค่อนข้างมากในตลาด เช่น กาแฟและนำผลไม้
(อุปสรรค) 2.ธุรกิจชานมไข่มุกสามารถลอกเลียนแบบกันได้จึงมีคู่แข่งทางการตลาดค่อนข้างมาก
Market Segment 7
แบ่งตามประชากรศาสตร์
-เครื่องดื่มที่สามารถดื่มได้ทุกเพศ
-เหมาะกับช่วงอายุ 18 - 40 ปี และกลุ่มที่มีรายได้ตั้งแต่ปานกลางไปจนถึงสูง
แบ่งตามหลักภูมิศาสตร์
-บุคคลที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล
แบ่งตามหลักพฤติกรรมศาสตร์
-โอกาสที่ลูกค้าจะทานชานมไข่มุกเฉลี่ยนเดือนละ 1-2 ครั้ง
-ลูกค้ามีความภักดีต่อแบรนด์เพราะเป็นแบรนด์ที่มีคุณภาพ
-ให้การสนับสนุนสินค้าของไทย และเจ้าของแบรนด์มีความน่าเชื่อถือ
แบ่งตามเกณฑ์ด้านจิตวิทยา
-เน้นกลุ่มที่ชอบดื่มเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวาน
- เป็นกลุ่มคนที่ไม่ได้กลัวเรื่องน้ำตาลในเครื่องดื่มและที่ไม่ได้ลดน้ำหนัก
5 Force Model 8
1. Rivalry Among Existing Competitors: คู่แข่งทางตรง
มีผู้ประกอบการรายเดิมในพื้นที่เยอะ ซึ่งเป็นที่รู้จักมีลูกค้าประจำอยู่แล้ว ดังนั้นทางร้าน
BEAR HOUSE ต้องพัฒนาสินค้าออกเมนูใหม่ๆ และควรมีเอกลักษณ์เพื่อสร้างความ
แตกต่างจากร้านอื่นๆ
2.Bargaining Power of Suppliers:
อำนาจต่อรองของผู้ผลิต หรือ ผู้จำหน่ายวัตถุดิบ
อำนาจต่อรองของผู้จำหน่ายวัตถุดิบต่ำ เนื่องจากวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์มีขายมากมาย
สามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบางเมนูจะใช้วัตถุดิบนำเข้าจาก
ต่างประเทศ ส่งผลให้มีต้นทุนสูงขึ้น แต่ก็ทำให้เกิดทางเลือกหลากหลายสำหรับผู้
ประกอบการมากขึ้น
3. Bargaining Power of Customers: อำนาจต่อรองของลูกค้า
ลูกค้ามีอำนาจต่อรองสูง เนื่องจากเมนูป
ระเภทชานมไข่มุก หรือเครื่องดื่มที่มีรสหวาน
เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีขายอยู่เยอะ มีร้านค้าคู่แข่งอีกเป็นจำนวนมาก ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกใน
การตัดสินใจมากขึ้น
4. Threat of Substitute Products or Services: 9
ภัยคุกคามจากสินค้าทดแทน
มีสินค้าทดแทนสูง ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มที่มีรสหวาน เช่น น้ำอัดลม น้ำผลไม้
เป็นต้น และเครื่องดื่มที่ดีมีประโยชน์ต่อสุขภาพ อย่างเช่น น้ำเปล่า น้ำแร่ น้ำ
สมุนไพร เป็นต้น
5. Threat of New Entrance: ภัยคุกคามจากผู้แข่งขันรายใหม่
คู่แข่งรายใหม่สามารถเข้าสู่ตลาดได้ง่าย เนื่องจากเป็นสินค้าที่ยังคงมีความนิยมสูง
การใช้เงินลงทุนไม่สูงมาก และมีเทคโนโลยีในการผลิตที่ไม่ซับซ้อน ดังนั้นร้านควร
เน้นไปที่การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์เพื่อพัฒนาสินค้าสร้างและความแตกต่าง
ทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก เน้นไปที่การสื่อสารรวมถึงการบริการที่จะช่วยสร้างความ
ประทับใจ ซึ่งจะทำให้เรามีลูกค้าประจำและภักดีต่อแบรนด์ด้วย
ความคิดเห็นของ
สมาชิกภายในกลุ่ม
10
ความคิดเห็นเกี่ยวกับ BEARHOUSE
ส่วนตัวคิดว่าชานม BEARHOUSE
รสชาติอาจจะพอๆกับร้านชานมทั่วๆ
ไปบางร้าน ขึ้นอยู่กับความชอบส่วน
ตัวของบุคคล ส่วนเรื่องราคาทาง
ร้าน BEARHOUSE ใช้วัตถุดิบค่อน
ข้างดี ถ้าเปรียบเทียบกับร้านชานมร้า
นอื่นๆ ราคาอาจจะค่อนสูงสำหรับคน
ทั่วไป แต่โดยรวมผมคิดว่าราคากับ
วัตถุดิบ ค่อนข้างเหมาะสมแล้ว
นาย ธราธร ม่วงทับสิงห์ เลขที่168
BEARHOUSE ในความคิดส่วน
ตัวเหมือนการตีตลาดจากการ
ทำช่อง BEARHUG ซึ่งการ
โปรโมททำได้ง่ายเพราะมีชื่อ
เสียงพอตัว รสชาติกลางๆราคา
ก็ไม่แพงมากถ้าแลกกับวัตถุดิบ
ครับ
นาย กฤษติชัย วิเชียรพงษ์ เลขที่33
ควรขยายสาขาออกไปจังหวัดอื่นๆ 11
เพื่อเพิ่มฐานลูกค้า เพราะหลายคน
ที่ติดตามช่อง Bearhug ตามต่าง
จังหวัดอาจจะอยากลองชิมชานม นางสาวสกุลตรา โพธาราม เลขที่27
ของร้าน BEARHOUSE อยู่แล้ว
ด้วยชื่อเสียงและการเป็นที่รู้จักน่าจะ
ทำให้เพิ่มยอดขายและทำให้มีลูกค้า
มากขึ้น
ชอบที่ทางร้าน
BEARHOUSE ทำไข่มุกสด
ใหม่วันต่อวัน ที่เป็นสูตร
เฉพาะของร้านและมีแป้ง
ข้าวไทยเป็นส่วนผสมด้วย
เป็นจุดที่โดดเด่นสร้างความ
แตกต่างจากร้านอื่นๆ
นางสาวศิรประภา โพธาราม เลขที่28
12
BEARHOUSE โดยส่วนตัวคิด
ว่าราคากลางๆถ้าเทียบกับ
คุณภาพ รสชาติแล้วแต่ความ
ชอบของแต่ละบุคคล ส่วนตัว
เคยลองกินครั้งหนึ่งถือว่า
รสชาติปกติเหมือนชานมทั่วไป
นางสาวพิยดา โพธาราม เลขที่110
ราคาสินค้าของร้าน BEARHOUSE นาย จักรกฤษณ์ ทาละพันธ์ เลขที่105
ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง รสชาติ
โอเค คุณภาพวัตถุดิบดี ถ้าหาก
BEARHOUSEลดราคาลงอาจจะช่วย
ให้สามารถครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย
อื่นมากขึ้น เช่น เด็กที่อายุต่ำกว่า 18ปี
ซึ่งจะเป็นการทำให้ยอดขายของร้าน
เพิ่มมากขึ้น
บรรณานุกรม 13
1. Ms.นกยูง. (2019). ทำความรู้จัก BEARHOUSE(ออนไลน์), สืบค้นเมื่อ 18
กรกฎาคม 2565. จาก. https://www.marketingoops.com/exclusive/
business-case/bearhouse-fresh-boba-milk-tea/
2. Bearhug. (2 พฤษภาคม 2562). ความทรงจำล้ำค่าของคนบ้าชานม
(Bearhouse) [วิดีโอ]. สืบค้นเมื่อ 18 กรกฎาคม 2565. จาก.
https://www.youtube.com/watch?v=E8vmwB04sSM
3. Bearhouse. (11 พฤศจิกายน 2564). รูปภาพเมนู [status update].
Facebook. https://www.facebook.com/bearhousethailand/menu?
referrer=MENU_SHARING
4. Emma Ford. (2022). การวิเคราะห์ธุรกิจชานมไข่มุกBEARHOUSE, สืบค้น
เมื่อ 22 กรกฎาคม 2565. จาก. https://countryloghouse.com