หัวขอ้ วิทยานิพนธ์
การพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทย
ของนักเรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ด้วยการใชเ้ ทคนิคเพ่อื นคู่คิด
THE DEVELOPMENT OF THAI LITERATURE ACHIEVEMENNT
OF MATTHAYOMSUKSA 3 STUDENTS BY USING THINK-PAIR-SHARE TECHNIQUE
นางสาวนนั ทญ์ณภคั พรมมา
ผทู้ าวิทยานิพนธ์
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนของโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาราชภัฏบ้านจอมบึง ด้วยวิธีการสอนแบบปกตินั้นไม่ ส่งผล
ให้เกิดผลสัมฤทธิ์ในสาระที่ ๕: วรรณคดีและวรรณกรรม เพ่ือให้ผลสัมฤทธ์ิเป็นที่น่าพอใจของโรงเรียนกิจกรรมในการเรียนการสอน
โดยส่วนมากผสู้ อนใชก้ ารสอนแบบบรรยาย จงึ ทาให้ผู้เรียนไม่มีส่วนร่วมในการลงมือปฏิบัติเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ได้อย่างเต็มศักยภาพ
จึงต้องปรับวิธีการสอนเพ่ือให้ผู้เรียนสนุกกับการเรียนรู้ กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจดังที่ วิจารณ์ พานิ ช (๒๕๕๕: ๑๕) ได้กล่าวว่า
ต้องออกแบบการเรยี นรูแ้ ละอานวยความสะดวกในการเรียนรู้ ซึ่งสอดคล้องกับ กองบริหารวิจัยและคุณภาพการศึกษา (๒๕๖๐: ๒๐)
ท่ีกล่าวว่า ปรับเปลี่ยนจากการเรียนแบบบังคับ (DUTY-DRIVEN) เป็นการเรียนท่ี เกิดจากความอยากรู้ส่วนรวมในการเรียนมากข้ึน
และมโี อกาสไดใ้ ชท้ ักษะการคดิ และไดล้ งมอื ปฏบิ ัติในกิจกรรมการเรยี น
ดังนั้น ผู้วิจัยจึงสนใจเทคนิคเพ่ือนคู่คิดมาใช้กระตุ้นให้ผู้เรียนสนใจในการเรียนรู้ ทาให้เกิดผลสัมฤทธิ์ท่ีใช้พัฒนา
ความสามารถของผเู้ รยี นให้เกดิ ทักษะการคิด และส่งเสริมให้ผู้เรยี นไดซ้ าบซึ้งในวรรณคดีไทย
๑.๒.๑ ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษา
ปีท่ี ๓ หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยการใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิดสูงกว่าก่อนการจัดการ
เรียนรหู้ รือไม่
๑.๒.๒ ความคิดเห็นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ท่ีมีต่อการจัดการ
เรยี นรูด้ ้วยการใช้เทคนคิ เพ่อื นค่คู ดิ อยใู่ นระดบั ใด
๑.๓.๑ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทย
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ก่อนและหลังการจัดการเรียนรู้ด้วยการ
ใชเ้ ทคนคิ เพื่อนคคู่ ิด
๑.๓.๒ เพ่อื ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ทมี่ ตี ่อการจดั การเรยี นรดู้ ้วยการใช้เทคนิคเพือ่ นคคู่ ิด
๑.๔ ขอบเขตของการวิจยั
ขอบเขตกลุ่มเป้าหมาย
ประชากร คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรียนสาธิต
แห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ จานวน ๓ ห้องมนี กั เรยี นทัง้ หมด ๗๐ คน
กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓/๑ โรงเรียนสาธิต
แห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ จานวน ๒๗ คน ซ่ึงได้มาจากการสุ่ม
อย่างง่าย (SimpledRandomdSampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่ม
ด้วยวิธีการจบั สลาก
๑.๔ ขอบเขตของการวจิ ัย
ขอบเขตด้านเนื้อหา
ว ร ร ณ ค ดี ไ ท ย ที่ ก า ห น ด ใ ห้ นั ก เ รี ย น ศึ ก ษ า ต า ม ห ลั ก สู ต ร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐาน
ท. ๕.๑ เข้าใจ และแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรม
ไทยอย่างเห็นคุณค่าและนามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง จานวน ๑ เร่ือง
คอื พระอภัยมณี ตอน พระอภยั มณีหนนี างผีเสอ้ื สมุทร
๑.๕ นยิ ามศัพท์เฉพาะ
๑.๕.๑ การจัดการเรียนรู้ด้วยการใช้เทคนิคเพ่ือนคู่คิด หมายถึง
กิจกรรมการเรียนรู้แบบหลายข้ันตอน ท้ังคิดด้วยตนเอง คิดเป็นคู่หรือคิดเป็นกลุ่ม
ยอ่ ย และคดิ เป็นกลมุ่ ขนาดใหญ่เพื่อให้นักเรียนได้คิดคาตอบท่ีผ่านการคิดวิเคราะห์
และแสดงความคิดเห็นหลายขั้นตอนจนสังเคราะห์ออกมาเป็นความรู้ที่มีเอกภาพ
มีข้ันตอนการจัดกิจกรรม ดังนี้ ข้ันที่ ๑ คิดค้นประเด็น (Think) ขั้นท่ี ๒ ร่วมเล่น
เรียนรู้ (Pair) และข้นั ที่ ๓ สรปุ สบู่ ทเพลง (Share)
๑.๕ นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ
๑.๕.๒ วรรณคดีไทย หมายถึง วรรณคดีไทยท่ีกาหนดให้นักเรียน
ศึกษาตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จากหนังสือเรียนวรรณคดีวิจักษ์ ระดับช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ ๓ จานวน ๑ เรื่อง คือ พระอภัยมณี ตอน พระอภัยมณี
หนนี างผีเสอ้ื สมทุ ร
๑.๕ นยิ ามศัพท์เฉพาะ
๑.๕.๓ ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวรรณคดไี ทย
หมายถึง คะแนนความสามารถในการเรียนวรรณคดีไทย
วัดได้จากการทาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทย
ท่ีผู้วิจัยสร้างข้ึนเป็นข้อสอบแบบปรนัย ๔ ตัวเลือก ตอบถูก
ได้ ๑ คะแนน ตอบผดิ ได้ ๐ คะแนน จานวน ๓๐ ขอ้
๑.๕ นยิ ามศัพทเ์ ฉพาะ
๑.๕.๔ ความคิดเห็น หมายถึง ความรู้สึกนึกคิดของ นักเรียน
ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วรรณคดีไทยด้วยการใช้เทคนิคเพ่ือนคู่คิด ประกอบด้วย
๓ ด้าน คือ ๑) ด้านกิจกรรมการเรียนรู้ ๒) ด้านบรรยากาศในการจัดการเรียนรู้
และ ๓) ด้านประโยชน์ท่ีได้รับจากการเรียนรู้ ซึ่งวัดได้จากการตอบแบบสอบถาม
ความคิดเห็นแบบมาตรประมาณค่า โดยการวัดระดับ ๕ ระดับของลิเคิร์ท (Likert)
ทผี่ ้วู ิจยั สรา้ งขนึ้
๑.๕.๕ นักเรียน หมายถึง ผู้ท่ีกาลังศึกษา
ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย
ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อาเภอเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี
ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓
๑.๖ ประโยชนท์ ีค่ าดว่าจะไดร้ บั
๑.๖.๑ ครูได้แนวทางในการจัดการเรียนรู้วรรณคดีไทย
ดว้ ยการใชเ้ ทคนคิ เพอื่ นคู่คิด
๑.๖.๒ นักเรียนได้ฝึกทักษะการคิด กระบวนการทางานร่วมกับผู้อ่ืน
และสามารถนาทักษะดังกล่าวปรับใช้ในชีวิตประจาวนั ต่อไป
๒.๒.๑ ขั้นที่ ๑ คิดค้นประเด็น (Think) ครูต้ังประเด็นคาถามและให้
นกั เรียนทกุ คนศึกษาหาคาตอบด้วยตวั เองอยา่ งอิสระ
๒.๒.๒ ขั้นท่ี ๒ ร่วมเล่นเรียนรู้ (Pair) ครูจัดนักเรียนเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มละ
๔-๖ คน แบบคละความสามารถตามระดับผลการทดสอบก่อนเรียน คือ เก่ง ๑ คน
ปานกลาง ๒ คน และอ่อน ๑ คน จากน้ันให้นักเรียนในกลุ่มผลัดกันนาเสนอผล
การศึกษา และร่วมกันแลกเปลี่ยนความคิดเห็นจนได้ข้อสรุปของกลุ่ม แล้วนามา
แตง่ เป็นเพลง
๒.๒.๓ ข้ันที่ ๓ สรุปสู่บทเพลง (Share) นักเรียนแต่ละกลุ่มนาเสนอ
ข้อสรุปของกลุ่มตัวเองหน้าช้ันเรียนเป็นบทเพลงจากนั้นเพอื่ นกลุ่มอ่ืนร่วมกันซักถาม
อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จากนั้นครูให้นักเรียนสรุปความรู้ จากนั้นนาเสนอ
ของทุกกลมุ่ เป็นรายบุคคล
๒.๔ สภาพพืน้ ทท่ี ี่ศกึ ษา
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงเปิดทาการสอนคร้ัง
แรกเมื่อวันท่ี ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๗ ในระดับช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๑ โดยมี
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. ชัยฤทธิ์ ศิลาเดช อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน
จอมบึงทาหน้าที่ประธานคณะกรรมการบริหารโรงเรียน และผู้อานวยการ
คนปัจจุบัน คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์วิจารณ์ สงกรานต์ การจัดการเรียนการสอน
โดยใช้อาคารเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ที่ได้รับ
การจัดสรรงบประมาณแผ่นดินในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ มูลค่าการก่อสร้าง
๘๐ ล้านบาท เป็นอาคารเรียนสมบูรณ์แบบประกอบไปด้วย ห้องเรียนมาตรฐาน
ห้องปฏิบัติการทางคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาต่างประเทศ คอมพิวเตอร์
ห้องสมดุ ห้องอาหาร และสนามกีฬาในอาคาร
๒.๔ สภาพพ้นื ทท่ี ่ีศึกษา (ตอ่ )
โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ต้ังอยู่เลขที่ ๑๗๔
หมู่ที่ ๕ ถนนเล่ียงเมืองราชบุรี (ถนนบายพาส) ตาบลดอนตะโก อาเภอเมืองราชบุรี
จังหวัดราชบุรี ที่มีความเหมาะสมอย่างย่ิงในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาเยาวชน
ให้มีสมรรถนะตามแผนการศึกษาชาติ ฉบับปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ ครูผู้สอน
ของโรงเรียนสาธิตแบ่งออกเป็นสองส่วนคือ ครูประจาการ จานวน ๓ คน
และอาจารย์พิเศษซ่ึงเป็นคณาจารย์คุณภาพท่ีมีความเชี่ยวชาญของมหาวิทยาลัย
อีกจานวน ๒๒ คน ในปัจจุบันทางโรงเรียสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน
จอมบึงได้เปิดสอนระดับมัธยมศึกษาปี ๑ และ ๒ จานวนช้ันละ ๒ ห้องเรียน
รวมนกั เรยี นท้ังสิ้น ๘๖ คน
๒.๔ สภาพพื้นท่ที ่ีศกึ ษา (ตอ่ )
ปัจจุบันโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง เปิดทาการ
สอนในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีนักเรียน
จานวน ๓๐๖ คน โดยใช้อาคารเรียนโรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้าน
จอมบึง เป็นสถานท่ีจัดการเรียนการสอนรวมไปถึงอาคารคณะวิทยาศาสตร์
และเทคโนโลยีในมหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึงเป็นสถานท่ีทาการทดลอง
ทางวิทยาศาสตร์ ครูผู้สอนของโรงเรียนสาธิตแบ่งออกเป็นสามส่วนคือ ครูประจาการ
จานวน ๑๖ คน อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยจานวน ๒๓ คน และอาจารย์
พเิ ศษจานวน ๒ คน
๒.๕ งานวิจัยที่เกีย่ วข้อง
๒.๕.๑ งานวจิ ยั ตา่ งประเทศ
งานวิจัยตา่ งประเทศเกี่ยวกบั การใชเ้ ทคนิคเพื่อนคคู่ ดิ มีผศู้ ึกษาไว้ ดังนี้
Fauziyati and Istianah (2013: Online) ได้ศึกษาเกี่ยวกับผลของการ
ใช้เทคนิคเพ่ือนคู่คิดกับผลสัมฤทธ์ิทางการอ่านของนักเรียนเกรด ๘ โรงเรียน
SMPN ๓ Bangsalsari Jember
Hetika, FaridaddandffSariด(2018:fffOnline) ได้ศึกษาเก่ียวกับการใช้
เทคนิคเพื่อนคู่คิด สร้างแรงจูงใจในการเรียนและพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน
ของนกั เรียน
๒.๕.๒ งานวจิ ัยในประเทศ
งานวิจยั ที่เกี่ยวกับการสอนโดยเทคนิคเพื่อนคู่คิด พบว่ามีการนาเทคนิค
เพือ่ นคู่คิดมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนในหลายสาขาวชิ า ดังนี้
สุพีรา ดาวเรือง (๒๕๕๕: ๖๒) ได้วิจัยเก่ียวกับการพัฒนารูปแบบ
การเรียนแบบผสมผสานโดยใช้การเรียนรู้แบบกิจกรรมเป็นฐานและเทคนิค
เพ่ือนคู่คิดบนวิกิเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์สาหรับ
นักเรียนมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓
ชุลีรัตน์ ประกิ่ง (๒๕๕๘: ๖๑) ได้วิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาบทเรียน
บ น เ ว็ บ ไ ซ ต์ ต า ม ก ร ะ บ ว น ก า ร ส อ น แ บ บ ซิ น เ น ค ติ ก ส์ ร่ ว ม กั บ เ ท ค นิ ค ก า ร เ รี ย น รู้
แ บ บ เ พื่ อ น คู่ คิ ด ที่ ส่ ง เ ส ริ ม ค ว า ม คิ ด ส ร้ า ง ส ร ร ค์ วิ ช า ก า ร ส ร้ า ง ง า น แ อ นิ เ ม ชั น
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๒
๒.๕.๒ งานวิจยั ในประเทศ (ต่อ)
จรรยา คีรีนิล (๒๕๕๙: ๕๘) ได้วิจัยเกี่ยวกับการพัฒนาแนวทางการให้ข้อมูล
ย้อนกลบั โดยใชเ้ ทคนคิ จบั ครู่ ่วมคิด
ปิยะนุช เจียมจันทร์ (๒๕๖๐: ๑๓๒) ได้วิจัยเก่ียวกับการพัฒนากระบวนการ
เรียนการสอนแบบเพื่อนคู่คิดโดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพ่ือเสริมทักษะการ
เรยี นรู้ กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย เรื่อง คาราชาศพั ท์
พิสมร ชูเอม (๒๕๖๑: ๗๒) ได้วิจัยเก่ียวกับการพัฒนาความสามารถในการพูด
ของนกั เรียนช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๔ ดว้ ยการใชเ้ ทคนคิ เพื่อนคู่คดิ
๒.๖ กรอบแนวคดิ ที่ใชใ้ นการวจิ ัย
แนวคดิ เก่ียวกบั เทคนิคการจัดการ ขั้นท่ี ๑ คดิ คน้ ประเด็น ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน
เรยี นรดู้ ว้ ยการใชเ้ ทคนคิ เพ่ือนคู่คิด วรรณคดไี ทยของนกั เรียน
ครตู ัง้ ประเดน็ คาถามและใหน้ กั เรยี นทกุ คน ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓
ความคดิ อสิ ระ (Think) ศกึ ษาหาคาตอบด้วยตัวเองอยา่ งอิสระ
ความคดิ เห็นของนกั เรียน
เป็นขนั้ ตอนที่ครมู อบโจทยใ์ หผ้ ู้เรียนไดล้ งมือ ข้ันที่ ๒ รว่ มเลน่ เรยี นรู้ ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ทีม่ ี
ปฏิบัติ คดิ หาคาตอบด้วยตนเอง ครูจัดนักเรยี นเปน็ แกลหมุ่ หยอ่ ยกล่มุ ละ ๔-๖ คน ต่อการจัดการเรยี นร้ดู ว้ ย
การใช้เทคนคิ เพ่ือนคู่คิด
คิดเปน็ คู่หรอื คดิ เปน็ กลมุ่ ยอ่ ย (Pair) แบบคละความสามารถตามระดับผลการ
ทดสอบกอ่ นเรียน คอื เกง่ ๑ คน จากนั้นให้
เปน็ ขน้ั ตอนที่ผู้เรียนได้แลกเปล่ยี นคาตอบกับคู่ นกั เรียนในกลุม่ ผลัดกนั นาเสนอผลการศกึ ษา
เพื่อน เพือ่ หาคาตอบ และรว่ มกันแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ จนได้
ขอ้ สรปุ ของกลุ่มแล้วนามาแต่งเป็นเพลง
ร่วมกนั เสนอต่อกลุ่มใหญ่ (Share)
ขน้ั ที่ ๓ สรปุ สบู่ ทเพลง
เปน็ ขั้นตอนทผ่ี ูเ้ รียนไดแ้ ลกเปล่ยี นคาตอบกบั คู่
เพ่ือน เพื่อหาคาตอบ นกั เรียนแต่ละกลมุ่ นาเสนอขอ้ สรปุ ของกลุ่ม
ตวั เองหน้าชน้ั เรียนเปน็ บทเพลงจากนั้นเพอ่ื น
กล่มุ อน่ื ๆ รว่ มกนั ซักถาม อภิปราย แสดง
ความคิดเห็นเพ่มิ เตมิ จากนนั้ ครูให้นักเรียน
สรุปความรูจ้ ากการนาเสนอเปน็ รายบุคคล
๓.๑ กลุม่ เปา้ หมาย/กลุ่มตวั อยา่ งที่ใชใ้ นการวจิ ัย
๓.๑.๑ ประชากร
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย
ราชภัฏหมู่บา้ นจอมบงึ อาเภอเมอื งราชบุรี จงั หวดั ราชบุรี
๓.๑.๒ กลมุ่ ตวั อย่าง
นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัย
ราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อาเภอราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ ๒ ปี
การศึกษา ๒๕๖๓ จานวน ๒๗ คน ซ่ึงได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย
(SimpleffRandomffSampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยสุ่มด้วย
วธิ ีการจบั สลาก
๓.๒ เครือ่ งมือที่ใช้ในการวิจยั
เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการวิจยั ดงั น้ี
๓.๒.๑ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเพอ่ื นคู่คิด จานวน ๔ แผน
แผนละ ๑-๓ คาบเรยี น คาบเรียนละ ๕๐ นาที
๓.๒.๒ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทย แบบปรนัย
ชนิด ๔ ตัวเลอื ก จานวน ๓๐ ข้อ
๓.๒.๓ แบบสอบถามความคิดเห็นของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓
ท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคเพ่ือนคู่คิด ประกอบด้วย ๓ ด้าน คือ
๑) ด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ๒) ด้านบรรยากาศในการจัดการเรียนรู้
และ ๓) ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการเรียนรู้ ซ่ึงวัดได้จากการตอบแบบสอบถาม
แบบมาตรประมาณค่า โดยการวัดระดับ ๕ ระดับของลเิ คิรท์ (Likert)
การสร้างเคร่ืองมอื และการหาคณุ ภาพเครอื่ งมอื
แผนการจดั การเรียนรดู้ ว้ ยการใช้ ศกึ ษารายละเอยี ดเกยี่ วกับวิธีสรา้ ง ข้นั ที่ ๑ คดิ คน้ ประเดน็
เทคนคิ เพ่ือนคู่คดิ แผน ขน้ั ที่ ๒ ร่วมเล่นเรียนรู้
ขนั้ ที่ ๓ สรปุ สบู่ ทเพลง
ศึกษาหลักสตู รแกนกลางฯ
คดั เลอื กวรรณคดี
สรา้ งแผนการจัดการเรยี นรู้
วรรณคดไี ทยด้วยการใช้เทคนคิ
เพื่อนคูค่ ดิ
หาค่าดชั นีความสอดคล้อง IOC
นาแผนการเรยี นรู้ท่ีปรบั ปรุงแล้ว
ไปใชจ้ รงิ
การสร้างเครอ่ื งมือและการหาคุณภาพเครอ่ื งมอื
แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ ศกึ ษาหลักสูตรแกนกลางฯ
ทางการเรยี นวรรณคดไี ทย
ศกึ ษาเทคนิคเพื่อนค่คู ิด
ค่า p และ r ผา่ นเกณฑ์
จัดทาตารางวิเคราะห์แบบทดสอบ ทุกขอ้
สร้างแบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ิ คา่ ความเชอ่ื มัน่ มีค่า
ทางการเรียนวรรณคดไี ทย เรอื่ ง ๐.๘๕
พระอภัยมณี
นาเสนอผูเ้ ชยี่ วชาญตรวจสอบ
นาไปทดลองเพ่อื หาค่าความยาก
ง่าย ค่าอานาจจาแนก คา่ ความ
เชอื่ มั่น
ใชแ้ บบทดสอบกับกล่มุ ตวั อย่าง
การสรา้ งเครอ่ื งมือและการหาคณุ ภาพเครือ่ งมอื
แบบสอบถามความคิดเหน็ ของ ศึกษารายละเอยี ดเกีย่ วกับวธิ สี รา้ ง
นักเรียนท่ีมีตอ่ การจดั การเรียนรู้ แบบสอบถามความคดิ เห็น
ด้วยการใช้เทคนคิ เพ่อื นคู่คิด
สร้างแบบสอบถามความคิดเห็น
นาแบบสอบถามความคิดเหน็ ให้
อาจารย์ และผเู้ ชย่ี วชาญพจิ ารณา
หาคา่ ดัชนีความสอดคลอ้ ง IOC
นาแบบสอบถามความคดิ เหน็ ท่ี
ผา่ นการพิจารณาตรวจสอบจาก
ผ้เู ชีย่ วชาญไปใช้จรงิ
๓.๓ การเกบ็ รวบรวมข้อมลู
ตดิ ต่อฝา่ ยบัณฑติ
นาหนังสือขอความอนเุ คราะห์ให้ผอุ้ านวยการ
ทาการทดลองวัดผลกอ่ นเรียน (Pre-test)
ดาเนินการสอนนกั เรยี นกลมุ่ ตวั อย่าง
ทาการทดสอบวดั ผลหลงั การทดลอง (Post-test)
ตรวจนับคะแนนแบบทดสอบ
๓.๔ การวิเคราะหข์ อ้ มูล
หาคณุ ภาพของเครอื่ งมอื เปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ย หาค่าเฉลีย่
ทัง้ ๓ ชนิด คอื ก่อนและหลงั เรียน แบบแสดงความคดิ เห็น
๑. แผนการจดั การเรยี นรู้
ที่ใชเ้ พือ่ นคูค่ ดิ ของนกั เรยี น
๒. แบบทดสอบวัด
ผลสมั ฤทธิใ์ นการอ่าน
๓. แบบแสดงความ
คดิ เหน็ ของนกั เรียน
ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปท่ี ๓
ทีม่ ตี ่อการจัดการเรยี นรู้
ด้วยการใชเ้ ทคนิค
เพ่อื นคู่คดิ
๓.๕ สถติ ใิ นการวเิ คราะห์ขอ้ มลู
๓.๕.๑ การหาค่าเฉลี่ย
๓.๕ สถติ ใิ นการวิเคราะห์ข้อมลู (ตอ่ )
๓.๕.๒ การหารอ้ ยละ (Percentage)
๓.๕ สถิติในการวิเคราะหข์ ้อมลู
๓.๕.๓ การหาคา่ สว่ นเบ่ียงเบนมาตรฐาน (S.D.)
๓.๕ สถิติในการวิเคราะหข์ ้อมลู (ต่อ)
๓.๕.๔ การหา IOC
การวิเคราะห์ความแตกต่างของผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนและส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐานระหว่างผลการทดสอบก่อนและหลังเรียนของนักเรียนท่ีได้รับการด้วย
การใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด เพ่ือพัฒนาผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทยปรากฎ
ดังนี้
ตารางเปรียบเทียบการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทย
ของนกั เรยี นช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ ด้วยการใชเ้ ทคนิคเพื่อนคคู่ ดิ ก่อนและหลงั เรยี น
ผลสมั ฤทธ์ิ จานวน คะแนนเต็ม คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบย่ี งเบน คา่ t คา่ p
ทางการเรียน นักเรียน ( ҧ) มาตรฐาน
วรรณคดีไทย 30 (S.D.) -7.82 .000
27 30 16.52
กอ่ นเรียน 27 21.41 3.41
หลงั เรียน 1.93
๕.๑ สรุปผลการวิจัย
ก า ร วิ จั ย เ ร่ื อ ง ก า ร พั ฒ น า ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ ท า ง ก า ร เ รี ย น ว ร ร ณ ค ดี ไ ท ย
ของนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ด้วยการใชเ้ ทคนิคเพ่อื นคูค่ ิด สรุปผลการวจิ ยั ได้ดงั น้ี
๑. ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ ๓ หลังการจัดการเรียนรู้ด้วยการใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิดสูงกว่าก่อนการจัดการเรียนรู้
อย่างมนี ยั สาคญั ทางสถิติทรี่ ะดบั ๐.๐๕ ซง่ึ สอดคลอ้ งกับสมมติฐานทีต่ ัง้ ไว้
๒. นักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ มีความคิดเห็นต่อการจัดการเรียนรู้
ด้วยการใช้เทคนิคเพ่อื นค่คู ิดในภาพรวมอยู่ในระดบั เหน็ ด้วยมาก
๕.๒ อภิปรายผล
จากผลการวิจัยเร่ืองการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทย
ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ด้วยการใช้เทคนิคเพ่ือนคู่คิด สามารถอภิปรายผลได้
ดังน้ี
๑. เทคนคิ มีประสทิ ธิภาพในการฝึกให้นักเรียนได้คิดอย่างลึกซ้ึงและเปิด
โอกาสให้นักเรียนได้นาเสนอความคิดของตนเองสู่ช้ันเรียน ซึ่งเป็นวิธีท่ีจะช่วยสร้าง
ความม่ันใจและการมสี ว่ นรว่ มให้แก่นกั เรียน
๒. สามารถสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่สนุกสนาน โดยนักเรียน
สามารถเรียนรู้แบบช่วยเหลือและร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาได้มีความม่ันใจในตนเอง
เพ่ิมขนึ้ กลา้ คิด กลา้ แสดงความคิดเห็น และเพิ่มแรงจงู ใจในการเรยี นรู้ของนักเรยี น
๕.๓ ข้อเสนอแนะ
จากการสรุปและอภิปรายผลการวิจัยเร่ืองการพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนวรรณคดีไทยของนักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๓ ดว้ ยการใช้เทคนิคเพือ่ นคู่คิด
ไดข้ อ้ เสนอแนะดงั นี้
๑. ครูควรกาชับเรื่องการจัดสรรเวลา เพ่ือให้การปฏิบัติกิจกรรมสาเร็จ
ลุล่วงภายในเวลาท่ีกาหนด แต่เม่ือนักเรียนได้นาเสนอบทเพลงที่ร่วมกันแต่งหน้าช้ันเรียน
ชว่ ยสร้างบรรยากาศในช้ันเรยี นและสรา้ งความภาคภมู ใิ จใหก้ ับนกั เรยี นได้เป็นอย่างดี
๒. ในการแบ่งกลุ่มในข้ันตอนที่ ๒ ของเทคนิคเพ่ือนคู่คิด แม้ว่าจะแบ่ง
นักเรียนตามคะแนนทดสอบก่อนการจัดการเรียนรู้ ก็ไม่ก่อให้เกิดอุปสรรคในการเรียนรู้
เน่อื งจากนักเรียนแต่ละคนมีทกั ษะและความถนดั ที่แตกตา่ งกนั
๕.๓ ขอ้ เสนอแนะ (ต่อ)
ก า ร พั ฒ น า ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ ท า ง ก า ร เ รี ย น ว ร ร ณ ค ดี ไ ท ย ข อ ง นั ก เ รี ย น
ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ ด้วยการใช้เทคนิคเพื่อนคู่คิด เป็นแนวทางที่เน้นฝึกฝนให้ผู้เรียนได้
ฝึกปฏิบัติจริง เน้นกระบวนการคิดที่เป็นระบบ มีข้ันตอนการจัดการเรียนการสอน
เป็นลาดบั จึงควรศึกษาเพิ่มเติมหรือทาวิจัยในประเดน็ อ่ืน ดงั น้ี
๑. ควรมีการนาเทคนิคเพื่อนคู่คิดมาใช้ร่วมกับเทคนิค รูปแบบหรือ
วิธีการจดั การเรยี นรอู้ ่ืน ๆ อย่างหลากหลายมากขน้ึ
๒. ควรมีการวิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยด้วย
การใชเ้ ทคนิคเพื่อนคู่คิดกบั นักเรยี นระดับชน้ั อนื่ ๆ
๓. ควรมีการนาเทคนิคเพ่ือนคู่คิดไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนใน
สาระอืน่ ๆ
จบการนาเสนอ
ขอบพระคุณครับ