เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้งั ชดุ ท่ี 2 448
(5) แต่งต้ังคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการอย่างหนึ่ง
อยา่ งใดตามท่ี กรช. มอบหมาย
(6) เชิญเจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานเก่ียวกับนโยบายและ
มาตรการการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติมาชี้แจง หรือเรียกเอกสารจากหน่วยงานของรัฐหรือบุคคลท่ี
เกยี่ วขอ้ งเพ่ือประกอบการพจิ ารณาได้ตามความจำเป็น
(7) ออกประกาศเพอ่ื ปฏิบตั กิ ารตามระเบยี บนี้
(8) ดำเนินการเก่ียวกับการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติตามที่คณะรัฐมนตรีหรือ
นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
ขอ้ 21 ในการประชุม กรช. ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชมุ หรือไมอ่ าจปฏิบัติหนา้ ที่
ได้ให้รองประธานกรรมการคนที่หนึ่งเป็นประธานในท่ีประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธาน
กรรมการคนท่ีหนึ่งไม่มาประชุมหรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการคนที่สองเป็น
ประธานในท่ีประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการท้ังสองคนไม่มาประชุมหรือไม่อาจ
ปฏบิ ตั ิหนา้ ทไี่ ด้ ใหก้ รรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนงึ่ เปน็ ประธานในทีป่ ระชุม
ข้อ 22 การประชุม กรช. ต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่ากึ่งหน่ึงของจำนวน
กรรมการทั้งหมด จึงจะเปน็ องค์ประชุม
การวินิจฉัยชี้ขาดของที่ประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหนึ่งให้มีเสียงหนึ่ง
ในการลงคะแนน ถ้าคะแนนเสียงเท่ากัน ให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็น
เสียงช้ีขาด
ข้อ 23 ใหส้ ำนกั งานสภาความมัน่ คงแหง่ ชาติ สำนกั นายกรัฐมนตรี ทำหน้าทเี่ ป็น
สำนักงานเลขานุการของ กรช. และให้มีอำนาจหนา้ ท่ดี งั ต่อไปน้ี
(1) ศกึ ษาวจิ ยั เชิงนโยบาย พรอ้ มท้ังวิเคราะหแ์ ละสนธิขอ้ มูล ตดิ ตาม และประเมนิ ผล
เกย่ี วกบั การรกั ษาความปลอดภัยแหง่ ชาติ
(2) สนับสนนุ และประสานงานกับหน่วยงานของรฐั ท้งั ในประเทศและตา่ งประเทศ เพือ่
ประโยชนใ์ นการรักษาความปลอดภัยแหง่ ชาติ
(3) พิจารณาเสนอความเห็นตอ่ กรช. เกี่ยวกบั การให้มีกฎหมาย หรือแกไ้ ขปรับปรุง
กฎหมาย กลไก และมาตรการต่าง ๆ เพอื่ ให้การรกั ษาความปลอดภัยเป็นไปอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
(4) ปฏบิ ัตงิ านอ่ืนตามที่ กรช. มอบหมาย
หมวด 4
การรักษาความปลอดภยั เกยี่ วกับบุคคล
ข้อ 24 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับบุคคล
โดยกำหนดมาตรการสำหรับใชป้ ฏิบัตกิ ับผู้ท่ีอยู่ระหวา่ งรอว่าจา้ ง บรรจุ หรือแตง่ ตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ
หรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือผู้ท่ีจะได้รับความไว้วางใจให้เข้าถึงส่ิงท่ีเป็นความลับของทางราชการหรือให้
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตัง้ ชดุ ที่ 2 449
ปฏิบัติหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับภารกิจท่ีสำคัญหรือทรัพย์สินมีค่าของแผ่นดิน เพ่ือเลือกเฟ้นและตรวจสอบให้
ได้ผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเป็นที่เชอ่ื แน่วา่ ตอ้ งเป็นผู้ท่ีไม่เป็นภยั และไม่ก่อให้เกิดความเสยี หายตอ่ ความ
มั่นคงและผลประโยชนแ์ หง่ รฐั
ในกรณีที่ว่าจ้างบุคคลภายนอก ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดหลักเกณฑ์และ
เงื่อนไขในสัญญาว่าจ้างเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการสำหรับใช้ปฏิบัติกับบุคคลภายนอกดังกล่าว เพื่อ
ไมใ่ ห้เกดิ ความเสียหายตอ่ ความมน่ั คงและผลประโยชน์แหง่ รัฐ
ข้อ 25 การรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับบุคคล ให้หน่วยงานของรัฐปฏิบัติ
ดงั ต่อไปน้ี
(1) ตรวจสอบประวัติและพฤตกิ ารณบ์ คุ คล
(2) รับรองความไว้วางใจบุคคลเพอื่ ให้เข้าถึงสิ่งทีเ่ ป็นความลับของทางราชการ
ข้อ 26 การตรวจสอบประวตั ิและพฤติการณบ์ ุคคล ให้ใชก้ บั บุคคลดงั ตอ่ ไปนี้
(1) ผ้ทู ี่อยรู่ ะหวา่ งรอวา่ จา้ ง บรรจุ หรือแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าท่ขี องรฐั
(2) ผทู้ เี่ ป็นลกู จา้ งทดลองปฏบิ ัติงาน หรือฝึกงานก่อนบรรจเุ ข้าปฏบิ ัตงิ าน
(3) เจ้าหน้าท่ีของรัฐที่ยังมิได้รับการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์ และผู้ท่ีขอกลับ
เขา้ รบั ราชการใหม่
(4) เจ้าหน้าท่ีของรัฐหรือบุคคลท่ีไดร้ ับมอบหมายให้ปฏิบตั ิหน้าท่ีเกี่ยวข้องกับภารกิจท่ี
สำคัญหรือตำแหน่งท่ีสำคัญของทางราชการ หรือที่เก่ียวข้องกับสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการหรือ
ทรพั ยส์ ินมคี ่าของแผ่นดนิ
(5) ผู้ไดร้ บั ทุนการศึกษาทั้งในประเทศหรือต่างประเทศของหน่วยงานของรัฐเมื่อสำเร็จ
การศกึ ษาแลว้ มขี ้อผูกพนั ให้เขา้ ปฏิบตั งิ านใหแ้ กห่ น่วยงานของรฐั
กรณีตาม (1) และ (2) ในระหว่างท่ีต้องรอฟังผลการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์
บุคคลถ้าจำเป็นต้องรีบบรรจุหรือจ้างบุคคลเข้าปฏิบัติงาน ก็ให้บรรจุหรือจ้างก่อนได้โดยมีเงื่อนไขว่าถ้า
ผลการตรวจสอบปรากฏว่าผู้นั้นมีความประพฤติหรือมีประวัติและพฤติการณ์ไม่เหมาะสม ให้หน่วยงาน
ของรัฐดำเนนิ การเพ่อื ใหบ้ คุ คลนั้นพน้ จากการปฏบิ ตั หิ นา้ ที่ และให้ดำเนินการตามกฎหมายที่เก่ยี วข้องตอ่ ไป
หากผลการตรวจสอบปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดมีพฤติการณ์ที่น่าสงสัยหรือมี
การกระทำอันก่อให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจซึ่งอาจเป็นภัยต่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งรัฐ ให้
ย้ายผู้น้ันออกจากตำแหน่งหน้าที่น้ันโดยเร็วและพจิ ารณาดำเนินการต่อไป โดยให้รายงานองคก์ ารรักษา
ความปลอดภัยทราบดว้ ย
การตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่
กำหนดในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
ข้อ 26/1 หัวหน้าหน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับ
บุคคลในกรณีผู้ซ่งึ ไมใ่ ชเ่ จา้ หนา้ ท่ีของรัฐเข้ามาปฏบิ ตั ิงานในหนว่ ยงานของรัฐ
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กต้งั ชุดที่ 2 450
ข้อ 27 หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลโดย
ละเอยี ด สำหรับบคุ คลดังต่อไปน้ี
(1) บคุ คลที่จะเข้าถงึ สง่ิ ท่ีเปน็ ความลับของทางราชการชัน้ ลับที่สุด หรือลบั มากหรอื การรหสั
(2) บุคคลท่ีมีพฤติการณ์ หรือปรากฏข่าวสาร หรือติดต่อกับบุคคล หรือองค์การท้ัง
ภายในและภายนอกประเทศ ทจี่ ะเป็นภยั ต่อความมัน่ คงและผลประโยชน์แหง่ รัฐ
(3) บุคคลที่จะได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าท่ีเก่ียวข้องกับภารกิจที่สำคัญหรือแต่งตั้ง
ให้ดำรงตำแหน่งท่ีสำคัญในหน่วยงานของรัฐ รวมถึงบุคคลที่ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับ
ทรัพยส์ ินมคี า่ ของแผ่นดิน
ให้นำความในวรรคสามและวรรคส่ีของข้อ 26 มาใช้บังคับกับการตรวจสอบประวัติ
และพฤตกิ ารณ์บุคคลโดยละเอียดดว้ ย
ข้อ 28 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าท่ีรับรองความไว้วางใจบุคคลเพื่อให้เข้าถึงสิ่ง
ท่ีเป็นความลับของทางราชการตามชั้นความลับท่ีจะได้มอบหมายให้ปฏิบัติโดยยึดถือผลการตรวจสอบ
ประวัตแิ ละพฤติการณ์บุคคลน้นั
บุคคลใดจะไดร้ ับการรับรองความไว้วางใจ จะต้องผ่านการอบรมหรือช้ีแจงในเรื่องการ
รักษาความปลอดภัยตามระเบียบนี้เสียก่อน และลงนามในบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อเข้ารับ
การปฏบิ ตั ิหนา้ ทใี่ นภารกจิ หรอื ตำแหนง่ หนา้ ที่
ในกรณีจำเป็นเร่งด่วน หัวหน้าหน่วยงานของรัฐอาจรับรองความไว้วางใจบุคคลโดยไม่
ตอ้ งรอฟงั ผลการตรวจสอบประวตั แิ ละพฤตกิ ารณ์บคุ คลไดต้ ามเง่อื นไข ดังตอ่ ไปน้ี
(1) ในกรณีอยู่ระหว่างรอฟังผลการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคลเพ่ือว่าจ้าง
บรรจหุ รอื แตง่ ต้งั บุคคลเปน็ เจ้าหนา้ ทข่ี องรฐั ตำแหน่งใด ถ้าจำเป็นตอ้ งรีบว่าจา้ ง บรรจุ หรือแตง่ ตง้ั บุคคล
เข้าปฏิบัติหน้าท่ีในตำแหน่งน้ันโดยด่วน ก็ให้วา่ จ้าง บรรจุ หรือแต่งตั้งก่อนได้ โดยมีเง่ือนไขว่าถ้าผลการ
ตรวจสอบปรากฏว่าผู้นั้นมีความประพฤติหรือมีประวัติและพฤติการณ์ไม่เหมาะสมให้ดำเนินการเพื่อให้
บคุ คลนนั้ พน้ จากการปฏิบตั หิ นา้ ที่ และให้ดำเนนิ การตามกฎหมายท่เี กย่ี วขอ้ งตอ่ ไป
(2) ในกรณีท่ีเป็นการมอบหมายความไว้วางใจให้บุคคลปฏิบัติหน้าท่ีในภารกิจหรือ
ตำแหนง่ หน้าท่ีเป็นการชั่วคราวทเ่ี กย่ี วข้องกบั สง่ิ ทเ่ี ป็นความลับของทางราชการ
แบบบันทึกรับรองการรักษาความลับเม่ือเข้ารับการปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจหรือ
ตำแหนง่ หนา้ ที่ให้เปน็ ไปตามที่กำหนดในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
ข้อ 29 ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีทะเบียนความไว้วางใจของเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกคน
ตามระดับความไว้วางใจที่แต่ละคนได้รับอนุมัติ และต้องแก้ไขทะเบียนความไว้วางใจให้ตรงตาม
ใบรับรองความไว้วางใจ ตามตำแหน่งหน้าท่ีของบุคคล เม่ือมีการเปล่ียนแปลงเก่ียวกับบุคคลหรือมี
พฤติการณ์ท่ีสงสัยว่าบุคคลนั้นจะไม่เหมาะสมกับความไว้วางใจที่ได้รับอยู่ จะต้องตรวจสอบประวัติและ
พฤติการณบ์ คุ คลใหมแ่ ละแกไ้ ขทะเบยี นความไวว้ างใจทนั ที
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้งั ชดุ ที่ 2 451
แบบทะเบียนความไว้วางใจ และแบบใบรับรองความไว้วางใจ ให้เป็นไปตามที่กำหนด
ในประกาศสำนักนายกรฐั มนตรี
ข้อ 30 ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐจะมอบหมายให้บุคคลใดปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับส่ิงที่
เป็นความลับของทางราชการ บุคคลน้ันต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์บุคคล และให้
หน่วยงานของรฐั ดำเนนิ การ ดงั ต่อไปน้ี
(1) มีคำสั่งเป็นลายลักษณ์อักษรแต่งตั้งบุคคลซ่ึงได้รับความไว้วางใจให้ปฏิบัติหน้าท่ี
เกยี่ วกบั สงิ่ ทีเ่ ปน็ ความลบั ของทางราชการ โดยบันทกึ ชื่อบคุ คลดังกลา่ วลงในทะเบียนความไวว้ างใจ
(2) มีหนังสือหรือใบรับรองความไว้วางใจให้เป็นหลักฐาน เม่ือต้องส่งบุคคลไปประชุม
หรือเข้าร่วมในกิจการอ่ืนใดท่ีเกี่ยวกับส่ิงที่เป็นความลับของทางราชการช้ันลับที่สุด หรือลับมากนอก
หน่วยงานต้นสงั กัด
ข้อ 31 ในกรณีที่บุคคลใดจะพ้นจากภารกิจหรือตำแหน่งหน้าที่ท่ีเก่ียวกับสิ่งที่เป็น
ความลับของทางราชการใหด้ ำเนินการดงั ต่อไปนี้
(1) ใหห้ นว่ ยงานของรัฐคัดชอ่ื ออกจากทะเบยี นความไว้วางใจ
(2) ให้บุคคลนั้นคืนข้อมูลข่าวสารกับหลักฐานต่าง ๆ ให้กับหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
หรือผ้ทู ี่ไดร้ บั มอบหมาย หรอื เจ้าหนา้ ท่ีควบคุมการรกั ษาความปลอดภัย
(3) ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ หรือผู้ท่ีได้รับมอบหมาย หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมการ
รักษาความปลอดภัย ชแ้ี จงให้บคุ คลน้ันไดท้ ราบถึงความเสียหายต่อความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งรัฐ
ในการเปิดเผยความลับของทางราชการ และให้บุคคลนั้นลงช่ือในบันทึกรับรองการรักษาความลับเมื่อ
พน้ จากภารกิจหรือตำแหนง่ หนา้ ที่ไวเ้ ป็นหลกั ฐาน
แบบบัน ทึกรับรองการรักษ าความลับเมื่อพ้น จากการปฏิบัติ ห น้าท่ี ในภารกิจหรือ
ตำแหน่งหนา้ ทใ่ี หเ้ ปน็ ไปตามท่กี ำหนดในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี
ขอ้ 32 บุคคลท่ีพ้นจากภารกิจหรอื ตำแหน่งหนา้ ทไ่ี ปแลว้ เม่ือกลับเข้าทำงานในภารกิจ
หรือตำแหน่งหน้าที่ท่ีเกี่ยวกับสิ่งท่ีเป็นความลับของทางราชการ ต้องตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์
บุคคลใหมต่ ามระเบียบน้ี
หมวด 5
การรกั ษาความปลอดภัยเกย่ี วกบั สถานที่
ข้อ 33 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการรักษาความปลอดภัยเกยี่ วกับสถานที่
โดยกำหนดมาตรการเพ่ือพิทักษ์รักษาให้ความปลอดภัยแก่ที่สงวน อาคาร และสถานท่ีของหน่วยงาน
ของรัฐตลอดจนข้อมูลข่าวสาร วัสดุอุปกรณ์ ศูนย์ข้อมูลสารสนเทศ ระบบสาธารณูปโภค เจ้าหน้าท่ีของ
รัฐและสิ่งอื่นท่ีหัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนด ที่อยู่ในอาคารและสถานท่ีดังกล่าว ให้พ้นจากการ
โจรกรรม การบุกรุก การจารกรรม การก่อวินาศกรรม การก่อการร้าย หรือเหตุอื่นใดอันอาจทำให้เสีย
ความสามารถในการปฏบิ ตั ิภารกิจของหนว่ ยงานของรฐั ได้
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังชุดที่ 2 452
ให้นำความในวรรคหนึง่ มาใชบ้ ังคับกับข้อมูลข่าวสาร ศนู ย์ข้อมูลสารสนเทศ และสงิ่ อ่ืน
ซึ่งมิได้อยู่ภายในอาคารและสถานท่ีตามวรรคหน่ึงด้วย ท้ังน้ี ตามท่ีหัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดโดย
คำนงึ ถึงความจำเป็นแกก่ ารปฏิบตั ิภารกิจของหนว่ ยงานของรัฐ
ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดมาตรการเพื่อพิทักษ์รักษาบุคคลสำคัญ เจ้าหน้าที่
ของรัฐและทรัพย์สินของรัฐ เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานท่ีตามวรรคหน่ึงเพ่ือ
ป้องกันมิให้ผู้ไม่มีอำนาจหน้าที่กระทำการอ่ืนใดท่ีจะทำให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลสำคัญเจ้าหน้าท่ี
ของรัฐ และทรัพย์สนิ ของรัฐ
ข้อ 34 ในการพิจารณาเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยเก่ียวกับสถานที่ให้หน่วยงาน
ของรฐั คำนงึ ถงึ ภยันตรายดงั ต่อไปน้ี
(1) ภยันตรายท่ีเกดิ จากปรากฏการณ์ธรรมชาติ อุปทั วเหตุ และปฏิกิรยิ าเคมี เช่น พายุ
น้ำทว่ ม ฟา้ ผา่ แผน่ ดนิ ไหว ดนิ ถลม่ ระเบิดและเพลิงไหม้
(2) ภยันตรายที่เกิดจากการกระทำของมนุษย์ ได้แก่ การกระทำโดยเปิดเผย เช่น การ
จลาจล การก่อความไม่สงบ และการโจมตีของฝ่ายตรงข้าม และการกระทำโดยไม่เปิดเผย เช่น การ
โจรกรรม การจารกรรม การกอ่ วนิ าศกรรม และการก่อการร้าย
ข้อ 35 การรกั ษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานทต่ี อ้ งปฏบิ ัติ ดงั ตอ่ ไปนี้
(1) จัดทำแผนการรกั ษาความปลอดภยั เกยี่ วกบั สถานท่ี
(2) กำหนดมาตรการการรกั ษาความปลอดภยั เก่ยี วกับสถานท่ี
(3) ดำเนินการสำรวจและตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยเกีย่ วกบั สถานที่
ข้อ 36 แผนการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานท่ี ให้จัดทำขึ้นโดยพิจารณาถึงสิ่ง
ดงั ต่อไปนี้
(1) ระดับความสำคัญของหน้าท่ีและภารกิจของแต่ละหน่วยงานของรัฐซึ่งมีความ
แตกต่างกนั
(2) สถานการณ์และสภาพแวดล้อมโดยรอบพ้ืนท่ี ได้แก่ ลักษณะภูมิศาสตร์และทำเล
ท่ีตั้งของหน่วยงานของรัฐ อุดมการณ์หรือทัศนคติของประชาชนในพื้นท่ีน้ัน ตลอดจนพฤติการณ์ท่ีอาจ
เปน็ ภยั ของฝา่ ยตรงขา้ ม
(3) ข่าวสาร สิ่งบอกเหตุ และการเตือนภัย ตลอดจนการสนับสนุนช่วยเหลือท่ีอาจ
ขอรับจากหน่วยงานของรฐั อ่นื ๆ
(4) จำนวนเจ้าหน้าท่ีที่ปฏิบัติงานและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ซ่ึงข้ึนอยู่กับ
ขนาดของอาคาร สถานที่ และพ้ืนทท่ี ่ีตอ้ งควบคมุ ดูแล
(5) งบประมาณทีจ่ ะใชใ้ นการวางมาตรการการรกั ษาความปลอดภยั เก่ยี วกบั สถานที่
(6) การออกแบบก่อสร้างท่ีสงวน อาคารและสถานที่ หรือเคร่ืองกีดขวางของทาง
ราชการท่ีมีความสำคัญ หรือความลับที่ต้องพิทักษ์รักษา ให้คำนึงถึงด้านการรักษาความปลอดภัย ทั้งน้ี
ใหอ้ ยูใ่ นความรบั ผดิ ชอบของหวั หน้าหนว่ ยงานของรฐั
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งชุดที่ 2 453
(7) การตดิ ต่อส่ือสารภายในหน่วยงานของรัฐนั้น และกบั หน่วยงานของรัฐอน่ื ๆ
(8) การรายงานผลการสำรวจหรือการตรวจสอบการรักษาความปลอดภัยต่อ
ผบู้ งั คับบญั ชา
หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มีการทบทวนและซักซ้อมแผนการรักษาความปลอดภัย
เกี่ยวกบั สถานทีต่ ามวรรคหนง่ึ อย่างน้อยปีละหน่ึงคร้ัง
ข้อ 37 มาตรการการรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับสถานท่ี ให้หน่วยงานของรัฐ
พจิ ารณาดำเนินการดงั ต่อไปนี้
(1) กำหนดพ้ืนที่ที่มีการรักษาความปลอดภัย โดยกำหนดขอบเขตที่แน่ชัดในการ
ควบคุมการเข้าและออก
(2) ใชเ้ ครือ่ งกดี ขวาง เพอ่ื ป้องกัน ขดั ขวางหรอื หนว่ งเหนี่ยวบุคคลและยานพาหนะที่ไม่
มสี ิทธเิ ข้าไปในพื้นท่ีที่มกี ารรักษาความปลอดภยั
(3) ให้แสงสว่างเพ่ือปกป้องพ้ืนที่ที่มีความสำคัญ และเพิ่มประสิทธิภาพในการ
ตรวจสอบพืน้ ท่ี
(4) จัดให้มีระบบสัญญาณเตือนภัยสำหรับตรวจและเตือนให้ทราบ เม่ือมีการเข้าใกล้
หรอื การล่วงลำ้ เขา้ มาในพ้ืนท่ีทีม่ กี ารรักษาความปลอดภัย
(5) ควบคุมบคุ คลเพื่อตรวจสอบให้ทราบว่าเปน็ บคุ คลที่ได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าพืน้ ท่ีท่ี
มีการรักษาความปลอดภยั พื้นท่ีควบคมุ หรือพ้นื ท่ีหวงหา้ ม
(6) ควบคุมยานพาหนะ เพ่ือให้ทราบว่ายานพาหนะใดได้รับอนุญาตให้ผ่านเข้าในพน้ื ที่
ทีม่ ีการควบคมุ และมบี ันทกึ เปน็ หลกั ฐานการเข้าและออก
(7) จัดให้มีเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยสถานท่ี ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่เวรรักษา
ความปลอดภัยประจำวนั นายตรวจเวรรกั ษาความปลอดภยั ประจำวัน ยามรกั ษาการณแ์ ละเจ้าหนา้ ทีอ่ ื่น
ๆ เพ่ือให้การรกั ษาความปลอดภัยมปี ระสิทธิภาพย่ิงขน้ึ
(8) ป้องกันอัคคีภัย โดยต้องวางแผนและกำกับดูแลให้เป็นไปตามกฎหมาย
กฎกระทรวงและมตคิ ณะรฐั มนตรี ตลอดจนคำส่งั ของทางราชการท่ีเก่ียวขอ้ งกับเรอ่ื งนี้
(9) จัดให้มีอุปกรณ์เกี่ยวกับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามความจำเป็นในการ
ปฏบิ ตั ิภารกิจของหนว่ ยงานของรัฐ
ข้อ 38 ให้หน่วยงานของรัฐจัดให้มีการสำรวจและการตรวจสอบการรักษาความ
ปลอดภัยเกี่ยวกบั สถานท่ตี ามความเหมาะสม โดยขอคำแนะนำจากองค์การรักษาความปลอดภยั
หมวด 6
การรักษาความปลอดภัยในการประชมุ ลบั
ขอ้ 39 ในหมวดนี้
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตง้ั ชดุ ท่ี 2 454
“การประชุมลบั ” หมายความวา่ การร่วมปรกึ ษาหารือเรือ่ งท่ีเกี่ยวข้องกับส่ิงทเี่ ป็น
ความลับของทางราชการ และให้หมายความรวมถึงการหาข้อยุติ ข้อพิจารณา ความเห็น การ
อภิปราย การบรรยาย การบรรยายสรปุ และเหตกุ ารณ์ท่ีปรากฏในการประชมุ ลบั นนั้ ดว้ ย
ข้อ 40 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการรักษาความปลอดภัยในการประชุม
ลับ โดยกำหนดมาตรการเพ่ือพิทักษ์รักษาส่ิงที่เป็นความลับของทางราชการที่ปรากฏในการประชุมลับ
ไม่ให้มีการร่ัวไหล รบกวน ขัดขวางการประชุม หรือถูกจารกรรม รวมท้ังคุ้มครองบุคคลและสถานที่ท่ี
เก่ยี วขอ้ งกับการประชมุ ลับนั้นจากการก่อวินาศกรรม
ข้อ 41 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องท่ีจะมีการประชุมลับเป็นผู้รับผิดชอบ
จัดประชุมและรักษาความปลอดภัยเกี่ยวกับการประชุมนั้น หรืออาจมอบหมายให้บคุ คลท่ีเหมาะสมเป็น
ผู้ดำเนนิ การแทนได้
ให้หัวหนา้ หน่วยงานของรัฐหรือผู้ไดร้ ับมอบหมายให้รักษาความปลอดภยั ในการประชมุ
ลับแต่งต้ังเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับ และนายทะเบียนข้อมูลข่าวสาร
ลับรวมทงั้ แจ้งให้ผ้เู ข้ารว่ มการประชมุ และผมู้ หี น้าทีเ่ กยี่ วข้องทกุ ฝา่ ยทราบ
ข้อ 42 ในกรณีท่ีผู้เข้าประชุมแต่ละฝ่ายจำเป็นต้องวางมาตรการการรักษาความ
ปลอดภัยเฉพาะในฝ่ายตนแล้ว การวางมาตรการดังกล่าวต้องสอดคล้องกับมาตรการการรักษาความ
ปลอดภัยในการประชุมลับตามระเบียบนี้ และให้แต่งต้ังเจ้าหน้าท่ีรักษาความปลอดภัยของฝ่ายนั้นข้ึน
เพอ่ื ทำหน้าท่ีประสานงานในเรื่องการรักษาความปลอดภยั กับเจา้ หน้าท่ีควบคุมการรักษาความปลอดภยั
ในการประชุมลับ
ข้อ 43 การรกั ษาความปลอดภัยในการประชมุ ลบั ต้องคำนงึ ถึงหลกั การ ดงั ต่อไปน้ี
(1) บุคคลท่ีเก่ียวข้องกับการประชุมลับ ต้องผ่านการตรวจสอบประวัติและพฤติการณ์
บุคคล พรอ้ มทง้ั ได้รบั ความไวว้ างใจให้เขา้ ถงึ ความลับในการประชมุ นัน้ และการปฏิบัติงานให้อย่ใู นความ
ควบคุมของเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับน้ัน สำหรับผู้ท่ีไม่มีอำนาจหน้าท่ี
ต้องไมไ่ ด้รบั ทราบหรือครอบครองสงิ่ ทีเ่ ป็นความลบั ของทางราชการในการประชมุ
(2) ห้ามนำเคร่ืองมือสื่อสาร วัสดุอุปกรณ์ หรือเคร่ืองบันทึกภาพหรือเสียงเข้าไปใน
สถานทป่ี ระชุม และต้องไม่นำเครอ่ื งมอื วสั ดุอุปกรณ์ หรอื ข้อมลู ข่าวสารใด ๆ ออกนอกสถานท่ีประชุมนนั้
ข้อ 44 การรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับ ให้หน่วยงานของรัฐพิจารณา
ดำเนินการดงั ต่อไปน้ี
(1) กำหนดพืน้ ท่ีท่ีมกี ารรักษาความปลอดภยั
(2) ดำเนินการรักษาความปลอดภยั
(3) ประสานงานการรักษาความปลอดภัย
(4) กำหนดวธิ ีปฏบิ ตั ิตอ่ ผูม้ าติดตอ่
(5) แถลงขา่ วต่อส่ือมวลชน
(6) บรรยายหรอื บรรยายสรปุ เรอ่ื งทเ่ี ปน็ ความลบั
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตง้ั ชดุ ที่ 2 455
ข้อ 45 การกำหนดพน้ื ที่ที่มีการรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับ ประกอบด้วยสิ่ง
ดงั ตอ่ ไปนี้
(1) กำหนดอาณาเขตที่ใช้ในการประชุมลับ ท่ีทำการของผู้เข้าประชุมลับและสถานที่ท่ี
ใช้เก็บรักษาสิ่งท่ีเป็นความลับของทางราชการ และจัดให้มีมาตรการการรักษาความปลอดภัยตามความ
จำเป็นและเหมาะสมไว้ล่วงหนา้ กอ่ นเปิดการประชมุ ลบั
(2) กำหนดให้มีบัตรผ่านหรือป้ายแสดงตนสำหรับใช้ควบคุมบุคคล หลักเกณฑ์และวิธี
ปฏบิ ัตใิ นการกำหนดพ้ืนที่ทมี่ ีการรกั ษาความปลอดภัยในการประชมุ ลับตามวรรคหนึ่ง ให้ดำเนินการตาม
มาตรการการรกั ษาความปลอดภัยเกย่ี วกับสถานท่ี
ข้อ 46 เจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับต้องดำเนินการ
ดังตอ่ ไปน้ี
(1) ตรวจตราและตรวจสอบทางเทคนิคตลอดในพ้ืนท่ีที่กำหนดให้มีการรักษาความ
ปลอดภยั ทั้งหมดอย่างละเอยี ดกอ่ นวนั เปิดประชุมลบั และระหวา่ งการประชมุ ลบั
(2) ในกรณีที่การประชุมลับน้ันมีความสำคัญมาก หน่วยงานของรัฐอาจขอความ
ช่วยเหลือจากองค์การรักษาความปลอดภัยได้ หลังจากท่ีองค์การรักษาความปลอดภัยตรวจสอบแล้ว
ใหส้ ่งมอบความรับผิดชอบในพ้ืนท่ีน้นั เป็นลายลักษณ์อกั ษรแก่เจ้าหนา้ ทคี่ วบคมุ การรักษาความปลอดภยั
ในการประชมุ ลบั หรอื ผแู้ ทนหนว่ ยงานนัน้
การปฏิบัติต่อส่ิงท่ีเป็นความลับของทางราชการ การควบคุมดูแลการประชุมลับ
การทำลายข้อมูลข่าวสารลับที่ไม่ใช้แล้ว ให้อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าท่ีควบคุมการรักษาความ
ปลอดภัยในการประชุมลับและนายทะเบยี นขอ้ มลู ขา่ วสารลับ
ข้อ 47 ในกรณีท่ีมีผู้มาติดต่อกับผู้เข้าประชุมในการประชุมลับ ผู้รับผิดชอบจัดประชุม
ต้องจดั ให้มกี ารปฏิบตั ติ ามขอ้ 37 (5) และขอ้ 45 (2) โดยอนโุ ลม
ข้อ 48 กรณีจำเป็นต้องมีการแถลงข่าวเกี่ยวกับการประชุมลับ ให้ผู้รับผิดชอบจัด
ประชมุ ดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) จัดสถานที่ท่ีใช้แถลงข่าวข้ึนโดยเฉพาะ และควรอยู่นอกพื้นที่ที่มีการรักษาความ
ปลอดภัยในการประชุมลบั
(2) กำหนดให้ผู้แถลงข่าว หัวข้อที่จะนำแถลง และข้อมูลข่าวสารที่จะเผยแพร่ต้อง
ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมลับก่อน หรือในกรณีที่ที่ประชุมลับมอบหมายให้มีผู้แถลงข่าวหลายคน
ผู้แถลงข่าวแต่ละคนตอ้ งแถลงเฉพาะเรือ่ งทต่ี นได้รบั อนมุ ตั จิ ากท่ปี ระชุมลับเท่านั้น
(3) ควบคุมให้การแถลงขา่ วหรือการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร และผู้เข้ารบั ฟังเปน็ ไปด้วย
ความเหมาะสม
ข้อ 49 ในกรณีที่เป็นการบรรยายหรือการบรรยายสรุปเร่ืองที่เป็นความลับนอกจาก
จะต้องปฏิบัติตามมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในการประชุมลับแล้วให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
ดว้ ย
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลือกตัง้ ชดุ ท่ี 2 456
(1) กำหนดชั้นความลับของการบรรยายหรือการบรรยายสรุป โดยถือตามชั้นความลับ
ที่สงู สดุ ในขอ้ มลู ข่าวสาร หรือส่งิ ทใ่ี ชป้ ระกอบการบรรยายหรือการบรรยายสรปุ น้นั
(2) กำหนดให้ผู้เข้ารับฟังทุกคนต้องได้รับความไว้วางใจให้เข้าถึงช้ันความลับของการ
บรรยายหรือการบรรยายสรุปนน้ั
(3) เมื่อเริ่มและส้ินสุดการบรรยายหรือการบรรยายสรุป ผู้บรรยายต้องแจ้งให้ผู้เข้ารับ
ฟังรับทราบช้ันความลับของการบรรยาย และเน้นย้ำให้ดำเนินการรักษาความปลอดภัยต่อส่ิงที่ได้รับฟัง
จากการบรรยายหรือการบรรยายสรปุ นน้ั
หมวด 7
การละเมดิ การรักษาความปลอดภัย
ข้อ 50 ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันการละเมิด
ฝ่าฝืน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยท่ีกำหนดไว้ จะโดยเจตนาหรือไม่ก็
ตาม อันเป็นเหตุให้สิ่งที่เป็นความลบั ของทางราชการร่ัวไหล หรือเปน็ เหตใุ ห้เจ้าหน้าท่ีของรัฐ หรือวัสดุ
อปุ กรณห์ รอื ทรพั ยส์ นิ ของรฐั ไดร้ บั ความเสียหาย
ข้อ 51 ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้พบเห็นหรือทราบ หรือสงสัยว่าจะมีหรือมีการละเมิด
มาตรการการรักษาความปลอดภัย รีบดำเนินการเบ้ืองต้นเพ่ือลดความเสียหายให้เหลือน้อยท่ีสุดและ
รายงานผู้บังคับบัญชา หรือเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบ
หรือแจง้ เจา้ ของเร่อื งเดิมทราบโดยเร็วทส่ี ุด
ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับการรักษาความปลอดภัยทางระบบเครือข่าย
คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศด้วย และให้แจ้งเจ้าหน้าที่ควบคุมการรักษาความปลอดภัย หรือ
เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ เพื่อให้ประสานหน่วยงานของรัฐท่ีรับผิดชอบโดยตรง หรือหน่วยงานเอกชนท่ี
ได้รบั มอบหมายหรือเปน็ ค่สู ญั ญากบั หน่วยงานของรัฐดำเนนิ การในทนั ทีทีเ่ ผชญิ เหตุ
ข้อ 52 ให้เจ้าหน้าท่ีควบคุมการรักษาความปลอดภัยหรือเจ้าหน้าท่ีผู้รับผิดชอบ
ดำเนินการดงั ต่อไปน้ี
(1) สำรวจและตรวจสอบความเสียหายอนั เกิดจากการละเมดิ มาตรการการรักษาความ
ปลอดภยั
(2) ดำเนนิ การเพือ่ ป้องกันหรอื ลดความเสียหายใหเ้ หลอื นอ้ ยทส่ี ดุ
(3) สำรวจตรวจสอบและค้นหาสาเหตุแห่งการละเมิดมาตรการการรักษาความ
ปลอดภยั ตลอดจนจดุ ออ่ นและขอ้ บกพร่องต่าง ๆ
(4) ดำเนินการแก้ไขมาตรการการรักษาความปลอดภัยให้รัดกุมยิ่งข้ึน เพ่ือป้องกันมิให้
มกี ารละเมดิ มาตรการการรักษาความปลอดภัยเกิดขนึ้ อกี
(5) รายงานรายละเอียดเกี่ยวกับการละเมิดมาตรการการรักษาความปลอดภัยต่อ
ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น หากมีข้อมูลข่าวสารลับสูญหายให้รายงานและบันทึกลงในทะเบียนควบคุม
ข้อมลู ข่าวสารลับด้วย
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตัง้ ชุดท่ี 2 457
(6) หากปรากฏหลักฐานหรือข้อสงสัยว่าเกดิ การจารกรรม การก่อวนิ าศกรรม หรือการ
ร่ัวไหลซ่ึงสิ่งที่เป็นความลับของทางราชการ ให้รายงานและขออนุมัติผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เพ่ือ
แจ้งเรื่องให้เจา้ หนา้ ทผี่ ู้มอี ำนาจหนา้ ทใี่ นดา้ นการสบื สวนดำเนินการต่อไป
ข้อ 53 เมื่อได้ดำเนินการตามข้อ 52 แล้ว ให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ดำเนินการ
ดงั ต่อไปน้ี
(1) แจ้งให้หน่วยงานของรัฐซ่ึงเป็นเจ้าของเร่ืองเดิมหรือเจ้าของสถานที่หรือผู้ท่ี
เกยี่ วข้องทราบทันที
(2) สอบสวนเพ่อื ใหท้ ราบว่าผู้ใดเปน็ ผ้ลู ะเมดิ และผู้ใดเป็นผรู้ ับผดิ ชอบต่อการละเมดิ นั้น
(3) พจิ ารณาแกไ้ ขข้อบกพร่องและปอ้ งกนั มิให้เหตกุ ารณ์เช่นนั้นเกิดขึน้ ซ้ำอกี
(4) พิจารณาดำเนินการลงโทษตามกฎหมายต่อผู้ละเมิดมาตรการการรักษาความ
ปลอดภัยหรอื ผู้จะละเมดิ และผ้รู บั ผิดชอบต่อการละเมิดน้ัน
ข้อ 54 ให้หน่วยงานของรัฐซึ่งเป็นเจ้าของเรื่องเดิมหรือผู้ท่ีเก่ียวข้อง ดำเนินการ
ดังตอ่ ไปนี้
(1) พจิ ารณาวา่ สมควรลดหรือยกเลิกชนั้ ความลบั ของสิ่งที่เป็นความลบั ของทางราชการ
นน้ั หรอื ไม่
(2) ขจัดความเสียหายอันเกิดจากการละเมิดมาตรการการรักษาความปลอดภัยที่จะมี
ตอ่ ความม่ันคงและผลประโยชน์แห่งรัฐ ในการน้ี อาจต้องเปลี่ยนนโยบายและแผนพร้อมทั้งปัจจัยต่าง ๆ
ที่เกีย่ วข้องตามท่เี หน็ สมควร
บทเฉพาะกาล
ข้อ 55 ให้ส่ิงท่ีเป็นความลับของทางราชการที่มีอยู่ก่อนตามระเบียบว่าด้วยการรักษา
ความปลอดภยั แหง่ ชาติ พ.ศ. 2517 เปน็ ส่งิ ที่เปน็ ความลบั ของทางราชการตามระเบียบนี้
บรรดาหลักเกณฑ์ วิธีการ และมาตรการท่ีเกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยที่ได้
กำหนดไว้ก่อนระเบียบนี้ใช้บังคับ ให้คงมีผลใช้บังคับต่อไป จนกว่าจะได้มีการกำหนดข้ึนใหม่ตาม
ระเบยี บนี้
แบบเอกสารต่าง ๆ ตามระเบียบว่าด้วยการรักษาความปลอดภัยแห่งชาติ พ.ศ. 2517
ซ่งึ มอี ยกู่ ่อนระเบยี บน้ีใชบ้ งั คบั ให้ใชไ้ ดต้ ่อไปจนกว่าจะมกี ารกำหนดแบบตามระเบยี บน้ี
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนกั งาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กตัง้ ชุดที่ 2 458
สรุป
ระเบียบวา ดว ยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544
1. บททว่ั ไป
2. หัวหนา หนว ยงานของรฐั
3. องคก ารรกั ษาความปลอดภยั
4. ประเภทช้ันความลบั
5. การกำหนดชนั้ ความลบั
6. การทะเบียน
7. การดำเนนิ การเกยี่ วกบั ขอ มลู ขาวสารลบั
1. บททัว่ ไป
1.1 ระเบียบวาดวยการรกั ษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 ใหไว ณ วนั ที่ 5 กุมภาพันธ
2544 / ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ 23 กุมภาพันธ 2544 / ใหใชบังคับเมื่อพนกำหนด 120
วันนับแตวนั ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเปน ตนไป
1.2 ไดมีการแกไขเพิ่มเติมโดย ระเบียบวาดวยการรักษาความลับของทางราชการ (ฉบับท่ี 2)
พ.ศ. 2561 ประกาศ ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2561 / ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เม่ือวันที่ 26
มถิ ุนายน 2561 / ใหใ ชบังคับเมอ่ื พนกำหนด 120 วนั นบั แตว ันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน ตนไป
1.3 ระเบียบวาดวยการรักษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544 ออกโดยอาศัยอำนาจตาม
พระราชบัญญตั ิขอมลู ขาวสารของราชการ พ.ศ. 2540
1.4 นายกรัฐมนตรีรักษาการตามระเบียบวาดวยการรักษาความลบั ของทางราชการ พ.ศ. 2544
(ระเบยี บฯ ขอ 4)
1.5 ทกุ 5 ปเ ปน อยางนอย ใหนายกรฐั มนตรจี ัดใหม ีการทบทวนการปฏิบตั กิ ารตามระเบียบและ
พิจารณาแกไ ขเพิ่มเติมระเบยี บใหเ หมาะสม (ระเบยี บฯ ขอ 6)
2. หัวหนา หนวยงานของรัฐ
2.1 “หวั หนา หนวยงานของรัฐ” หมายความวา
(1) หัวหนาสว นราชการทีม่ ฐี านะเปนนิตบิ คุ คล
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลอื กตงั้ ชดุ ท่ี 2 459
สำหรับกระทรวงกลาโหม ใหหมายความรวมถึงหัวหนาสวนราชการท่ีขึ้นตรงตอสวนราชการในสังกัด
กระทรวงกลาโหมท่ีมีฐานะเปนนิติบคุ คลดวย
(2) ผูว าราชการจงั หวดั สำหรับราชการสวนภูมิภาค
(3) ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร นายกองคการบริหารสวนจังหวัด นายกเทศมนตรี นายก
องคการบริหารสวนตำบล นายกเมืองพัทยา หรือหัวหนาผูบริหารองคกรปกครองสวนทองถ่ินอื่นท่ีมี
กฎหมายจัดตงั้ แลวแตก รณี สำหรับราชการสวนทองถิ่น
(4) ผูวาการ ผูอำนวยการ กรรมการผูจัดการ ผูจัดการ หรือบุคคลซึ่งดำรงตำแหนงผูบริหาร
สูงสุดที่มอี ำนาจหนาทคี่ ลายคลึงกนั ในรฐั วิสาหกิจนนั้ สำหรับงานของรฐั วสิ าหกจิ
(5) ผูบริหารสูงสุดของหนวยงานอ่ืนของรัฐ เชน อัยการสูงสุด เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม
เลขาธิการสภาผูแทนราษฎร เลขาธิการคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริตแหงชาติ
ผูอำนวยการองคก ารมหาชน นายกสภาทนายความ (ระเบยี บฯ ขอ 5)
2.2 หัวหนาหนวยงานของรัฐมีหนาที่รักษาขอมูลขาวสารลับในหนวยงานของตน และอาจ
มอบหมายหนา ที่ไดตามความจำเปนใหผ ูใตบังคับบัญชาหรือใหแกราชการสว นภมู ิภาค ในกรณีท่ีสามารถ
มอบอำนาจไดต ามกฎหมาย
ผูมีหนาที่รักษาขอมูลขาวสารลับในหนวยงานตองรักษาขอมูลขาวสารลับใหปลอดภัย การให
บุคคลใดเขาถึงขอมูลขาวสารลับหรือการเปดเผยขอมูลขาวสารลับแกผูใดตองกระทำโดยระมัดระวัง ใน
กรณีจำเปนใหกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติใหเหมาะสมแกกรณี โดยคำนึงถึงการรักษาความลับและ
ประสิทธิภาพในการดำเนินการตามระเบยี บ (ระเบียบฯ ขอ 7)
บุคคลที่จะเขาถึงขอมูลขาวสารลับในชั้นความลับใด จะตองเปนบุคคลที่ผูบังคับบัญชา
มอบหมายความไววางใจ และใหเขาถึงขอมูลขาวสารลับไดเฉพาะเร่ืองท่ีไดรับมอบหมายเทานั้น
(ระเบียบฯ ขอ 8)
2.3 กรณีท่ีเห็นเปนการสมควร หัวหนาหนวยงานของรัฐอาจขอใหองคการรักษาความปลอดภัย
ชวยตรวจสอบประวัติและพฤตกิ ารณของเจา หนาท่ขี องตนทีเ่ กี่ยวของกับชนั้ ความลับได (ระเบียบฯ ขอ 9)
3. องคก ารรกั ษาความปลอดภยั
องคก ารรักษาความปลอดภัยตามระเบยี บ ไดแ ก
(1) สำนกั ขาวกรองแหงชาติ สำนกั นายกรฐั มนตรี เปน องคก ารรกั ษาความปลอดภัยฝา ยพลเรือน
(2) ศูนยรักษาความปลอดภัย กองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพไทย กระทรวงกลาโหม เปน
องคก ารรกั ษาความปลอดภยั ฝา ยทหาร
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลอื กต้ัง ชุดที่ 2 460
(3) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแหงชาติ เปนองคการรักษาความปลอดภัย
ฝา ยตำรวจ
4. ประเภทชน้ั ความลับ
ชน้ั ความลบั ของขอมูลขา วสารลบั
“ขอมูลขาวสารลับ” หมายความวา ขอมูลขาวสารตามมาตรา 14 หรือมาตรา 15 (ขอมูล
ขาวสารของราชการท่ีอาจกอใหเกิดความเสียหายตอสถาบันพระมหากษัตริยตามมาตรา 14 หรือขอมูล
ขาวสารของราชการท่ีมีลักษณะที่หนวยงานของรัฐหรือเจาหนาที่ของรัฐอาจมีคำสั่งมิใหเปดเผยก็ไดตาม
มาตรา 15 อยูดว ย) ท่ีมคี ำส่ังไมใ หเ ปดเผยและอยูใ นความครอบครองหรือควบคมุ ดูแลของหนว ยงานของ
รัฐ ไมวาจะเปนเร่ืองที่เก่ียวกับการดำเนินงานของรัฐหรือที่เก่ียวกับเอกชนซ่ึงมีการกำหนดใหมีชั้น
ความลับเปน ช้ันลับ ชั้นลับมาก หรือชั้นลับท่ีสุด ตามระเบียบนี้โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหนาที่ของ
หนวยงานของรฐั และประโยชนแ หง รัฐประกอบกัน
ชนั้ ความลบั ของขอ มูลขาวสารลบั แบง ออกเปน ๓ ชั้น คอื (ระเบียบฯ ขอ 12)
4.1 ลับทสี่ ดุ (TOP SECRET)
หมายความถึง ขอมูลขาวสารลับซึ่งหากเปดเผยท้ังหมดหรือเพียงบางสวนจะกอใหเกิดความ
เสียหายแกป ระโยชนแ หงรฐั อยางรายแรงท่ีสดุ
4.2 ลับมาก (SECRET)
หมายความถงึ ขอ มูลขา วสารลับซึง่ หากเปดเผยทั้งหมดหรอื เพียงบางสวนจะกอใหเกิดความ
เสยี หายแกประโยชนแหงรัฐอยา งรา ยแรง
4.3 ลับ (CONFIDENTIAL)
หมายความถึง ขอมูลขาวสารลบั ซ่งึ หากเปดเผยทัง้ หมดหรอื เพยี งบางสวนจะกอใหเกดิ ความ
เสยี หายแกประโยชนแ หงรัฐ
โดยคำวา “ประโยชนแหงรัฐ” หมายความวา การดำเนนิ งานของรฐั ที่เก่ยี วกบั ประโยชน
สาธารณะหรือประโยชนข องเอกชนประกอบกนั ไมวา จะเปนเร่ืองความม่นั คงของรัฐทเ่ี กยี่ วกับการเมือง
ภายในประเทศหรือระหวา งประเทศ การปองกันประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร เทคโนโลยี
การพลงั งาน และสง่ิ แวดลอ ม
5. การกำหนดชั้นความลบั
5.1 หัวหนาหนวยงานของรัฐมีหนาท่ีรับผิดชอบในการกำหนดชั้นความลับ และใหเหตุผล
ประกอบการกำหนดช้ันความลับของขอมูลขาวสารลับวาเปนขอมูลขาวสารประเภทใดและเพราะเหตุใด
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลือกต้ัง ชุดท่ี 2 461
โดยอาจมอบหมายหนาท่ีดังกลาวไดตามความจำเปนใหผูใตบังคับบัญชาหรือใหแกราชการสวนภูมิภาค
ในกรณีท่สี ามารถมอบอำนาจไดต ามกฎหมาย (ระเบียบฯ ขอ 16)
5.2 กรณีท่ีมีความจำเปนเรงดวน เจาหนาท่ีที่เกี่ยวของมีอำนาจกำหนดชั้นความลับเปนการ
ชั่วคราวไดและใหรีบเสนอตอผูมีอำนาจกำหนดชั้นความลับเพื่อส่ังการเก่ียวกับการกำหนดช้ันความลับ
ตอไปทนั ที (ระเบยี บฯ ขอ 17)
5.3 นายทะเบียนตองจดแจงเหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของขอมูลขาวสารลับไวใน
ทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับ แตถาเหตุผลมีรายละเอียดมากหรือเหตุผลนั้นบางสวนมีชั้นความลับ
สูงกวา ใหบันทึกเหตุผลยอไวในทะเบียนควบคุมและบันทึกเหตุผลละเอียดหรือเหตุผลสวนที่มีช้ัน
ความลับสูงกวาดังกลาวแยกออกมาโดยเก็บไวระหวางใบปกขอมูลขาวสารลับกับขอมูลขาวสารลับน้ัน
(ระเบยี บฯ ขอ 18)
5.4 หัวหนาหนวยงานของรัฐกำหนดระเบียบปฏิบัติเพ่ิมเติมไดและถาเห็นวาการปฏิบัติตาม
ระเบียบเร่ืองใดจะกอใหเกิดความยุงยากโดยไมเหมาะสม จะกำหนดวิธกี ารรักษาความลบั ในเร่อื งน้ันดวย
วธิ ีการอื่นทีม่ ีประสิทธภิ าพเทา กันหรือดกี วา แทนได (ระเบียบฯ ขอ 20)
5.5 เครื่องหมายแสดงช้ันความลับใหใชตัวอักษรตามช้ันความลับท่ีขนาดใหญกวาตัวอักษร
ธรรมดา โดยใชส แี ดงหรอื สีอ่ืนท่ีสามารถมองเห็นไดเ ดน และชัดเจน (ระเบยี บฯ ขอ 21)
5.6 การแสดงชั้นความลับของขอ มูลขา วสาร (ระเบยี บฯ ขอ 22)
- เอกสารใหแสดงชั้นความลับที่กลางหนากระดาษทั้งดานบนและดานลางของทุกหนา
ถา เขาปกใหแ สดงไวท่ดี านนอกของปกหนา ปกหลังดว ย
- ภาพเขียน ภาพถาย แผนที่ แผนภูมิ แผนผังและสำเนาส่ิงของดังกลาว ใหแสดงชั้น
ความลับท่ีกลางหนากระดาษท้ังดานบนและดานลางของทุกหนา ถาเขาปกใหแสดงไวที่ดานนอกของปก
หนา ปกหลังดวย ถาเอกสารน้ันมวนหรือพับไดใหแสดงช้ันความลับไวใหปรากฏเห็นไดขณะท่ีมวนหรือ
พบั อยดู วย
- จานบันทึก แถบบันทึก ฟลมบันทึกภาพทุกประเภทหรือสิ่งบันทึกท่ีสามารถแสดงผล
หรือสื่อความหมายโดยกรรมวิธีใด ๆ ใหแสดงชั้นความลับไวที่ตนและปลายมวนฟลมหรือตนและปลาย
ของขอมูลขาวสารหรือบนวัสดุหรือบนภาชนะที่บรรจุ ถาไมสามารถแสดงช้ันความลับไวในที่ดังกลาวได
ใหเ กบ็ ในกลองหรือหีบหอ ซง่ึ มเี ครื่องหมายแสดงชัน้ ความลบั นน้ั
5.7 การปรับช้ันความลับ ตองกระทำโดยผูมีอำนาจกำหนดชั้นความลับของหนวยงานเจาของ
เร่อื ง (ระเบียบฯ ขอ 23)
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กต้ัง ชดุ ที่ 2 462
5.8 ขอมูลขาวสารที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปดเผยขอมูลขาวสารมีคำวินิจฉัยใหเปดเผยโดย
ไมมขี อจำกัดหรือเงอ่ื นไขใด ใหถอื วาขอมลู ขาวสารนัน้ ถูกยกเลิกชน้ั ความลับแลว เวนแตมกี ารฟองคดีตอ
ศาลและศาลมีคำสัง่ หรอื คำพิพากษาเปน อยางอ่นื (ระเบยี บฯ ขอ 24)
6. การทะเบียน
6.1 ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงต้ังเจาหนาที่ควบคุมและรับผิดชอบการดำเนินการเก่ียวกับ
ขอ มลู ขา วสารลับขึ้นภายในหนว ยงาน เรียกวา “นายทะเบียนขอ มูลขาวสารลบั ” (ระเบียบฯ ขอ 25)
6.2 นายทะเบียนขอมูลขา วสารลบั อยา งนอยตองจัดใหมีทะเบียนขอมูลขาวสารลบั ประกอบดว ย
ทะเบียนรับ ทะเบียนสง และทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับแยกตางหากจากทะเบียนงานสารบรรณ
ตามปกติ (ระเบยี บฯ ขอ 27)
6.3 หัวหนาหนวยงานของรัฐตองแตงตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ ทำการตรวจสอบความ
ถูกตองในการปฏิบัติตามระเบียบและการมีอยูของขอมูลขาวสารลับท่ีมีอยูในทะเบียนขอมูลขาวสารลับ
อยางนอยทุก 6 เดือนและเสนอรายงานการตรวจสอบใหหัวหนาหนวยงานของรัฐน้ันทราบและสั่งการ
ตอ ไป (ระเบยี บฯ ขอ 29)
6.4 หนวยงานของรัฐตองรายงานผลการปฏิบัติเก่ียวกับขอมูลขาวสารลับตามระเบียบภายใน
เดือนมีนาคมของทกุ ป ตอ คณะกรรมการขอ มูลขาวสารของราชการ (ระเบยี บฯ ขอ 29/1)
7. การดำเนนิ การเกย่ี วกบั ขอมูลขาวสารลบั
7.1 ขอมูลขาวสารลับท่ีมีสภาพเปนเอกสารใหแสดงช่ือหนวยงานของรัฐเจาของเร่ืองเลขที่ชุด
ของจำนวนชุดทั้งหมด และเลขท่ีหนาของจำนวนหนาทั้งหมดไวทุกหนาของขอมูลขาวสารลับ และจะ
แสดงชอ่ื หนวยงานสวนยอยไวด ว ยกไ็ ด
ขอมูลขาวสารลับท่ีมีสภาพเปนจานบันทึก แถบบันทึก ฟลมบันทึกภาพทุกประเภทหรือสิ่ง
บันทึกท่ีสามารถแสดงผลหรือสื่อความหมายโดยกรรมวิธีใด ๆ ใหแสดงช่ือหนวยงานของรัฐเจาของเรื่อง
และเลขที่ชุดของจำนวนชุดทั้งหมดไวที่กลองหรือหีบหอของขอมูลขาวสารลับนั้น และจะแสดงช่ือ
หนว ยงานสว นยอ ยไวดวยก็ได (ระเบยี บฯ ขอ 32)
7.2 การสำเนา การแปลเอกสาร การเขารหัส หรือการถอดรหัสขอมูลขาวสารลับตองบันทึก
(ผูด ำเนินการจะจดั ทำโดยใชร หสั ลับก็ได) จำนวนชุด ยศ ช่อื ตำแหนงของผูดำเนินการ และช่อื หนว ยงาน
ของรฐั ทีจ่ ัดทำไวท ี่ขอมูลขาวสารลบั ฉบับตนทีต่ นครอบครองและทีฉ่ บับสำเนา ฉบับคำแปล ฉบับเขารหัส
หรือฉบับถอดรหัส แลวแตก รณี ดว ย (ระเบียบฯ ขอ 33)
7.3 การโอนขอมูลขาวสารลับระหวางหนวยงานของรัฐ หรือการโอนภายในหนวยงานเดียวกัน
ใหเจาหนาท่ีผูโอนและเจาหนาท่ีผูรับโอนจัดทำบันทึกการโอนและการรับโอนขอมูลขาวสารลับตามแบบ
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนักงาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลือกต้ัง ชุดที่ 2 463
ท่ีนายกรัฐมนตรีกำหนด และใหนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับจดแจงการโอนขอมูลขาวสารลับดังกลาว
ไวใ นทะเบียนควบคมุ ขอ มูลขา วสารลบั (ระเบยี บฯ ขอ 34)
7.4 การสงขอมูลขาวสารลับภายในบริเวณหนวยงานเดียวกันทุกชั้นความลับตองใชใบปกขอมูล
ขา วสารลบั ปดทับขอมูลขาวสารลบั (ระเบยี บฯ ขอ 35)
7.5 การสงขอมูลขาวสารลับออกนอกบริเวณหนวยงาน ตองบรรจุซองหรือภาชนะทึบแสงสอง
ช้ันอยา งม่ันคง (ระเบียบฯ ขอ 36)
7.6 การสงขอมูลขาวสารลับออกนอกบริเวณหนวยงานภายในประเทศโดยเจาหนาท่ีนำสาร ให
หัวหนาหนวยงานของรัฐหรือผูซ่ึงหัวหนาหนวยงานของรัฐมอบหมายมีอำนาจอนุญาตใหกระทำได และ
ใหนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับลงทะเบียนกอนสงออก การสงขอมูลขาวสารลับดังกลาวจะจัดใหมีผู
อารกั ขาการนำสารดวยก็ได (ระเบยี บฯ ขอ 37)
7.7 การสงขอมูลขาวสารลับออกนอกประเทศ ใหปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการตางประเทศ
วาดวยถุงเมลการทูตโดยอนุโลม หรือใหเจาหนาที่ซ่ึงมีฐานะทางการทูตถือไปดวยตนเอง (ระเบียบฯ ขอ
39)
7.8 การเก็บรักษาขอมูลขาวสารลับ ใหหนวยงานของรัฐเก็บรักษาไวในที่ปลอดภัยและให
กำหนดระเบียบการเก็บรักษาขอมูลขาวสารลับไวเปนการเฉพาะตามคำแนะนำขององคการรักษาความ
ปลอดภยั (ระเบียบฯ ขอ 44)
7.9 การใหยืมขอมูลขาวสารลับ ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐหรือผูซึ่งหัวหนาหนวยงานของรัฐ
มอบหมายพิจารณาดวยวาผูยืมมีหนาที่ดำเนินการในเรื่องท่ียืมและสามารถปฏิบัติตามระเบียบน้ีได
หรือไม (ระเบียบฯ ขอ 45)
7.10 กรณีที่การเก็บรักษาขอมูลขาวสารลับชั้นลับที่สุดจะเส่ียงตอการร่ัวไหลอันจะกอใหเกิด
อนั ตรายแกประโยชนแหงรฐั หัวหนาหนวยงานของรัฐจะพิจารณาส่ังทำลายขอมูลขา วสารลับช้ันลับที่สุด
นั้นได หากพิจารณาเห็นวามีความจำเปนอยางยิ่งท่ีจะตองทำลาย นอกจากกรณีที่กลาวมาจะส่ังทำลาย
ไดตอเม่ือไดสงขอมูลขาวสารลับใหหอจดหมายเหตุแหงชาติ พิจารณากอนวาไมมีคุณคาในการเก็บรักษา
การส่ังทำลายขอมูลขาวสารลับ ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงต้ังคณะกรรมการทำลายขอมูลขาวสาร
ลบั ขึน้ คณะหนึ่ง เมอ่ื คณะกรรมการดังกลาวไดทำลายขอมูลขาวสารลับเสร็จแลว ใหจดแจง การทำลายไว
ในทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับและจัดทำใบรับรองการทำลายขอมูลขาวสารลับดวย ใบรับรองการ
ทำลายใหเ กบ็ รักษาไวเ ปนหลกั ฐานไมน อยกวา 1 ป (ระเบยี บฯ ขอ 46)
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนักงาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กต้ัง ชุดที่ 2 464
7.11 กรณีที่ขอมูลขาวสารลับสูญหาย ใหผูทราบขอเท็จจริงรายงานขอเท็จจริงที่เก่ียวของให
หัวหนาหนวยงานของรัฐที่ตนสังกัดทราบเพื่อดำเนินการตอไปและใหนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับ
บนั ทึกการทข่ี อ มูลขา วสารลบั สูญหายไวในทะเบยี นควบคมุ ขอมลู ขาวสารลบั (ระเบยี บฯ ขอ 48)
7.12 กรณีที่ขอมูลขาวสารลับใดไมมีเครื่องหมายแสดงช้ันความลับไวใหเจาหนาท่ีของรัฐที่
เกี่ยวของสามารถเปดเผยขอมูลขาวสารน้ันได เวนแตเจาหนาท่ีนั้นไดรูหรือควรจะรูขอเท็จจริงวาขอมูล
ขาวสารนนั้ ไดมกี ารกำหนดชัน้ ความลับไวแลว (ระเบียบฯ ขอ 50)
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลอื กตัง้ ชดุ ที่ 2 465
ระเบยี บ
วา ดวยการรกั ษาความลบั ของทางราชการ
พ.ศ. 2544
โดยท่เี ปน การสมควรใหม ีระเบยี บวาดวยการรกั ษาความลบั ของทางราชการ
อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 16 และมาตรา 26 วรรคหา แหงพระราชบัญญัติ
ขอมูลขาวสารของราชการ พ.ศ. 2540 อันเปนพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการ
จำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลในการรับรูขอมูลขาวสารของราชการ ซึ่งมาตรา 58 และมาตรา
29 ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยบัญญัติใหกระทำไดโดยอาศัยอำนาจของกฎหมาย
คณะรัฐมนตรจี ึงมีมติใหว างระเบยี บไว ดงั ตอ ไปน้ี
ขอ 1 ระเบยี บน้เี รยี กวา “ระเบยี บวาดว ยการรกั ษาความลับของทางราชการ พ.ศ. 2544”
ขอ 2 ระเบียบนี้ใหใชบังคับเม่ือพนกำหนดหนึ่งรอยย่ีสิบวันนับแตวันประกาศในราช
กิจจานุเบกษาเปน ตนไป ใหไว ณ วนั ที่ 5 กุมภาพนั ธ 2544 / ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวนั ท่ี 23 กมุ ภาพันธ 2544
ขอ 3 บรรดาระเบียบ ขอบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และคำส่ังอื่นใด ในสวนท่ีกำหนดไว
แลว ในระเบยี บน้ี หรอื ซ่ึงขัดหรอื แยงกับระเบยี บนี้ ใหใ ชระเบียบน้ีแทน
ขอ 4 ใหน ายกรัฐมนตรรี กั ษาการตามระเบียบนี้
หมวด 1
บททั่วไป
ขอ 5 ในระเบียบนี้
“ขอมูลขาวสารลับ” หมายความวา ขอมูลขาวสารตามมาตรา 14 หรือมาตรา 15 ท่ี
มคี ำส่งั ไมใหเ ปดเผยและอยูในความครอบครองหรอื ควบคุมดแู ลของหนว ยงานของรฐั ไมวา จะเปน เรอ่ื งท่ี
เกี่ยวกับการดำเนินงานของรัฐหรือท่ีเกี่ยวกับเอกชนซ่ึงมีการกำหนดใหมีชั้นความลับเปน ช้ันลับ ช้ันลับ
มาก หรือชั้นลับท่ีสุด ตามระเบียบนี้โดยคำนึงถึงการปฏิบัติหนาท่ีของหนวยงานของรัฐและประโยชน
แหงรฐั ประกอบกัน
“ประโยชนแหงรัฐ” หมายความวา การดำเนินงานของรัฐที่เกี่ยวกับประโยชน
สาธารณะหรือประโยชนของเอกชนประกอบกัน ไมวาจะเปนเรื่องความมั่นคงของรัฐที่เก่ียวกับการเมือง
ภายในประเทศหรือระหวางประเทศ การปองกันประเทศ เศรษฐกิจ สังคม วิทยาศาสตร เทคโนโลยี
การพลงั งาน และสง่ิ แวดลอ ม
“หัวหนาหนว ยงานของรัฐ” หมายความวา
(1) หัวหนาสว นราชการทม่ี ฐี านะเปนนติ ิบุคคล
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้ังชุดที่ 2 466
สำหรับกระทรวงกลาโหม ใหหมายความรวมถึงหัวหนาสวนราชการท่ีข้ึนตรงตอ
สว นราชการในสงั กัดกระทรวงกลาโหมทม่ี ฐี านะเปนนติ บิ คุ คลดวย
(2) ผวู า ราชการจังหวดั สำหรับราชการสวนภูมภิ าค
(3) ผูวาราชการกรุงเทพมหานคร นายกองคการบริหารสวนจังหวัด นายกเทศมนตรี
นายกองคการบริหารสวนตำบล นายกเมืองพัทยา หรือหัวหนาผูบริหารองคกรปกครองสวนทองถ่ินอื่นที่
มีกฎหมายจัดตั้ง แลวแตกรณี สำหรบั ราชการสวนทอ งถิ่น
(4) ผูวาการ ผูอำนวยการ กรรมการผูจัดการ ผูจัดการ หรือบุคคลซ่ึงดำรงตำแหนง
ผบู ริหารสูงสดุ ทม่ี ีอำนาจหนา ท่คี ลา ยคลงึ กันในรัฐวิสาหกจิ น้ัน สำหรับงานของรฐั วสิ าหกจิ
(5) ผบู ริหารสูงสุดของหนวยงานอื่นของรัฐ เชน อัยการสูงสดุ เลขาธิการสำนักงานศาล
ยุติธรรม เลขาธิการสภาผูแทนราษฎร เลขาธิการคณะกรรมการปองกันและปราบปรามการทุจริต
แหง ชาติ ผูอ ำนวยการองคก ารมหาชน นายกสภาทนายความ
“การปรับชั้นความลับ” หมายความวา การลดหรือเพิ่มช้ันความลับของขอมูลขาวสาร
ลบั และใหหมายความรวมถึงการยกเลกิ ชั้นความลบั ของขอ มลู ขาวสารลบั น้ันดว ย
ขอ 6 ทุก 5 ปเปนอยางนอย ใหนายกรัฐมนตรีจัดใหมีการทบทวนการปฏิบัติการตาม
ระเบียบนแ้ี ละพจิ ารณาแกไขเพม่ิ เติมระเบียบนใี้ หเหมาะสม
ขอ 7 ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐมีหนาที่รักษาขอมูลขาวสารลับในหนวยงานของตน
และอาจมอบหมายหนาท่ีดังกลาวไดตามความจำเปนใหผูใตบังคับบัญชาหรือใหแกราชการสวนภูมิภาค
ในกรณที สี่ ามารถมอบอำนาจไดต ามกฎหมาย
ผมู ีหนาท่ีตามวรรคหน่ึง ตอ งรกั ษาขอมูลขาวสารลับใหปลอดภัย การใหบุคคลใดเขาถึง
ขอมูลขาวสารลับหรือการเปดเผยขอมูลขาวสารลับแกผูใดตองกระทำโดยระมัดระวัง ในกรณีจำเปนให
กำหนดเง่ือนไขในการปฏิบัติใหเหมาะสมแกกรณี โดยคำนึงถึงการรักษาความลับและประสิทธิภาพใน
การดำเนินการตามระเบยี บน้ี
ขอ 8 บุคคลที่จะเขาถึงขอมูลขาวสารลับในช้ันความลับใด จะตองเปนบุคคลที่
ผูบังคับบัญชามอบหมายความไววางใจ และใหเขาถึงขอมูลขาวสารลับไดเฉพาะเร่ืองที่ไดรับมอบหมาย
เทาน้นั
ขอ 9 ในกรณีท่ีเห็นเปนการสมควร หัวหนาหนวยงานของรัฐอาจขอใหองคการรักษา
ความปลอดภยั ชวยตรวจสอบประวัติและพฤติการณของเจา หนาทขี่ องตนท่เี ก่ียวขอ งกบั ชัน้ ความลับได
ขอ 10 ในการดำเนินงานของคณะกรรมการใด ๆ ถาคณะกรรมการมีมติกำหนดชั้น
ความลับไวเชนใด ใหเลขานุการดำเนินการตามนั้นและใหหัวหนาหนวยงานของรัฐเจาสังกัดของ
เลขานกุ ารดำเนินการตอไปใหถกู ตองตามระเบียบนีด้ ว ย
ถาคณะกรรมการคณะใดมีฝายเลขานุการซึ่งมิไดเปนเจาหนาที่ในหนวยงานของรัฐให
ประธานกรรมการทำหนา ที่เปนหวั หนาหนว ยงานของรฐั และใหน ำระเบียบน้ีมาใชบงั คบั โดยอนโุ ลม
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้งั ชดุ ที่ 2 467
สว นท่ี 1
องคการรกั ษาความปลอดภัย
ขอ 11 องคก ารรกั ษาความปลอดภัยตามระเบียบน้ี ไดแ ก
(1) สำนักขาวกรองแหงชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เปนองคการรักษาความปลอดภัย
ฝายพลเรือน
(2) ศู น ย รัก ษ าค วาม ป ล อด ภั ย ก องบั ญ ช าก ารก อ งทั พ ไท ย ก องทั พ ไท ย
กระทรวงกลาโหม เปนองคการรักษาความปลอดภัยฝา ยทหาร
(3) กองบัญชาการตำรวจสันติบาล สำนักงานตำรวจแหงชาติ เปนองคการรักษาความ
ปลอดภยั ฝา ยตำรวจ
สว นที่ 2
ประเภทชัน้ ความลับ
ขอ 12 ชนั้ ความลบั ของขอ มูลขาวสารลับ แบงออกเปน 3 ชนั้ คอื
(1) ลบั ท่ีสุด (TOP SECRET)
(2) ลับมาก (SECRET)
(3) ลับ (CONFIDENTIAL)
ขอ 13 ลับท่ีสุด หมายความถึง ขอมูลขาวสารลับซ่ึงหากเปดเผยท้ังหมดหรือเพียง
บางสว นจะกอใหเกิดความเสียหายแกป ระโยชนแหง รัฐอยา งรายแรงทสี่ ุด
ขอ 14 ลับมาก หมายความถึง ขอมูลขาวสารลับซึ่งหากเปดเผยทั้งหมดหรือเพียง
บางสวนจะกอ ใหเ กดิ ความเสียหายแกป ระโยชนแหงรฐั อยางรา ยแรง
ขอ 15 ลับ หมายความถึง ขอมูลขาวสารลับซึ่งหากเปดเผยทั้งหมดหรือเพียงบางสวน
จะกอ ใหเ กิดความเสียหายแกป ระโยชนแ หง รัฐ
หมวด 2
การกำหนดชนั้ ความลบั
สวนที่ 1
ผมู อี ำนาจกำหนดชน้ั ความลับ
ขอ 16 ใหห ัวหนาหนวยงานของรัฐมีหนาทรี่ บั ผดิ ชอบในการกำหนดชั้นความลับ พรอม
ทง้ั ใหเหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของขอมูลขาวสารลับน้ันดวยวาเปนขอมูลขาวสารประเภท
ใดและเพราะเหตุใด ในการนี้ อาจมอบหมายหนาท่ีดังกลาวไดตามความจำเปนใหผูใตบังคับบัญชาหรือ
ใหแ กราชการสวนภมู ภิ าค ในกรณที ่ีสามารถมอบอำนาจไดตามกฎหมาย
ขอ 17 ในกรณีที่มีความจำเปนเรงดวน เจาหนาที่ที่เก่ียวของมีอำนาจกำหนดชั้น
ความลับเปนการชั่วคราวไดและใหรีบเสนอตอผูมีอำนาจกำหนดชั้นความลับเพ่ือสั่งการเกี่ยวกับการ
กำหนดชั้นความลับตอไปทนั ที
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลอื กตัง้ ชุดที่ 2 468
การกำหนดช้ันความลับของขอมูลขาวสารลับท่ีมีชั้นความลับหลายชั้นในเรื่องเดียวกัน
ใหก ำหนดชนั้ ความลับเทากบั ช้นั ความลับสงู สุดทม่ี ีอยใู นขอ มลู ขา วสารลับน้นั
ในกรณีท่ีกำหนดใหขอมูลขาวสารลับท่ีมีช้ันความลับต่ำ แตจำเปนตองอางอิงขอความ
จากขอมูลขาวสารท่ีมีช้ันความลับสูงกวา ตองพิจารณาถึงเนื้อหาท่ีอางถึงน้ันวาจะไมทำใหขอมูลขาวสาร
ที่ชั้นความลบั สูงกวาร่วั ไหล
ขอ 18 ใหนายทะเบียนจดแจงเหตุผลประกอบการกำหนดชั้นความลับของขอมูล
ขาวสารลับไวในทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับ แตถาเหตุผลน้ันมีรายละเอียดมากหรือเหตุผลน้ัน
บางสวนมีชั้นความลับสูงกวาช้ันความลับของทะเบียนขอมูลขาวสารลับ ใหบันทึกเหตุผลยอไวใน
ทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับและบันทึกเหตุผลละเอียดหรือเหตุผลสวนท่ีมีชั้นความลับสูงกวา
ดังกลาวแยกออกมาโดยเกบ็ ไวร ะหวา งใบปกขอมูลขาวสารลบั กับขอมลู ขาวสารลบั น้ัน
ขอ 19 การกำหนดใหขอมูลขาวสารอยูในชั้นความลับใด ใหพิจารณ าถึง
องคประกอบอยางนอย ดังตอไปนี้
(1) ความสำคัญของเนื้อหา
(2) แหลงท่ีมาของขอมลู ขาวสาร
(3) วธิ ีการนำไปใชประโยชน
(4) จำนวนบุคคลท่ีควรรบั ทราบ
(5) ผลกระทบหากมกี ารเปดเผย
(6) หนว ยงานของรฐั ท่รี บั ผิดชอบในฐานะเจา ของเรอื่ งหรอื ผูอนมุ ัติ
ขอ 20 ในกรณีเปนการสมควร หัวหนาหนวยงานของรัฐจะกำหนดระเบียบการใดเพ่ือ
ปฏิบัติเพ่ิมเติมจากระเบียบน้ีก็ไดและถาหัวหนาหนวยงานของรัฐเห็นวาการปฏิบัติตามระเบียบน้ีในเรื่อง
ใดจะกอใหเกิดความยุงยากโดยไมเหมาะสม หัวหนาหนวยงานของรัฐจะกำหนดวิธีการรักษาความลับใน
เร่ืองนัน้ ดว ยวิธกี ารอนื่ ทม่ี ีประสิทธภิ าพเทากนั หรือดีกวาแทนได
สว นที่ 2
การแสดงชนั้ ความลบั
ขอ 21 เคร่ืองหมายแสดงชั้นความลับใหใชตัวอักษรตามชั้นความลับท่ีขนาดใหญกวา
ตัวอักษรธรรมดา โดยใชสีแดงหรอื สอี น่ื ที่สามารถมองเหน็ ไดเดนและชดั เจน
ขอ 22 การแสดงช้นั ความลับใหป ฏิบัตดิ งั น้ี
(1) ขอมูลขาวสารท่ีมีสภาพเปนเอกสารใหแสดงช้ันความลับที่กลางหนากระดาษทั้ง
ดานบนและดานลางของทุกหนาเอกสารนั้น ถาเอกสารเขาปกใหแสดงไวที่ดานนอกของปกหนา ปก
หลงั ดวย
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตง้ั ชดุ ท่ี 2 469
(2) ขอมูลขาวสารทม่ี ีสภาพเปนภาพเขียน ภาพถาย แผนท่ี แผนภูมิ แผนผังและสำเนา
สงิ่ ของดังกลา วนั้น ใหแสดงช้ันความลับในลักษณะเดียวกับ (1) ถาเอกสารน้ันมวนหรือพับไดใหแสดงช้ัน
ความลบั ไวใหปรากฏเห็นไดขณะทเี่ อกสารนัน้ มวนหรอื พับอยูดว ย
(3) ขอมูลขาวสารท่ีมีสภาพเปนจานบันทึก แถบบันทึก ฟลมบันทึกภาพทุกประเภท
หรือสิ่งบันทึกที่สามารถแสดงผลหรือส่ือความหมายโดยกรรมวิธีใด ๆ ใหแสดงชั้นความลับไวที่ตนและ
ปลายมวนฟลมหรือตนและปลายของขอมูลขาวสารหรือบนวัสดุหรือบนภาชนะท่ีบรรจุ ถาไมสามารถ
แสดงช้ันความลบั ไวในท่ดี งั กลาวได ใหเกบ็ ในกลองหรอื หีบหอ ซึ่งมเี ครอ่ื งหมายแสดงชั้นความลบั น้ัน
สวนที่ 3
การปรบั ช้ันความลบั
ขอ 23 การปรับชั้นความลับ ตองกระทำโดยผูมีอำนาจกำหนดชั้นความลับของ
หนวยงานเจาของเรื่อง
ในกรณีท่ีหนวยงานเจาของเรื่องเห็นควรใหทำการปรับช้ันความลับของขอมูลขาวสาร
ลับใดใหหนวยงานเจาของเรื่องทำการปรับช้ันความลับและแจงใหหนวยงานของรัฐอ่ืนท่ีไดรับการ
แจกจา ยทราบเพื่อใหมกี ารแกไ ขชั้นความลบั โดยท่ัวกนั ดวย
ผูบังคับบัญชาตามสายงานมีอำนาจปรับช้ันความลับไดเมื่อพิจารณาเห็นวาการกำหนด
ชัน้ ความลับไมเหมาะสม แตต อ งแจง ใหผ ูกำหนดช้นั ความลบั เดิมทราบ
ถาสามารถกำหนดระยะเวลาในการปรับชั้นความลับลวงหนาได ใหหนวยงานเจาของ
เร่ืองเดิมแสดงขอความการปรับช้ันความลับไวบนปกหนาหรือหนาแรกของขอมูลขาวสารแตละฉบับ โดย
แสดงไวใกลกับเคร่ืองหมายแสดงชั้นความลับเดิมเพื่อใหทราบวาเม่ือถึงกำหนดเวลาที่ระบุไวลวงหนาน้ัน
จะปรับช้นั ความลับไดโ ดยไมตอ งยนื ยันใหท ราบอีก
การแกไขชั้นความลับ ใหขีดฆาเคร่ืองหมายแสดงชั้นความลับเดิมแลวแสดง
เครื่องหมายช้ันความลับที่กำหนดใหม (ถามี) ไวใกลกับเครื่องหมายแสดงช้ันความลับเดิมบนขอมูล
ขาวสารดังกลาวและใหจดแจงการปรับชั้นความลับนั้นไวในทะเบียนขอมูลขาวสารลับดวย ในกรณีท่ี
เห็นสมควร หัวหนาหนวยงานของรัฐจะกำหนดใหจดแจงการปรับช้ันความลับไวที่หนาแรกของเอกสาร
หรือทีแ่ สดงช้ันความลบั ตามขอ 22 (3) แลว แตกรณี
ขอ 24 ขอมูลขาวสารลับที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปดเผยขอมูลขาวสารมีคำ
วินิจฉัยใหเปดเผยโดยไมมีขอจำกัดหรือเงื่อนไขใด ใหถือวาขอมูลขาวสารน้ันถูกยกเลิกชั้นความลับแลว
เวนแตมกี ารฟองคดตี อศาลและศาลมคี ำสัง่ หรอื คำพิพากษาเปน อยางอ่ืน
เตรยี มสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนกั งาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้งั ชดุ ที่ 2 470
หมวด 3
การทะเบียน
สว นท่ี 1
นายทะเบยี น
ขอ 25 ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงตั้งเจาหนาท่ีควบคุมและรับผิดชอบการ
ดำเนินการเกี่ยวกับขอมูลขาวสารลับข้ึนภายในหนวยงานท่ีตนรับผิดชอบเรียกวา “นายทะเบียนขอมูล
ขาวสารลบั ” และจะแตง ตง้ั ผูชว ยนายทะเบียนขอ มูลขาวสารลับตามความเหมาะสมดวยก็ได
ใหผูชวยนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับมีอำนาจหนาที่ปฏิบัติการแทนนายทะเบียน
ขอมูลขา วสารลบั ตามทไี่ ดร บั มอบหมาย
ขอ 26 นายทะเบยี นขอ มลู ขาวสารลับ มหี นา ทดี่ ังนี้
(1) ดำเนินการทางทะเบยี นขอ มูลขาวสารลับใหเ ปนไปตามระเบียบน้ี
(2) เก็บรักษาแบบเอกสารตาง ๆ ซึ่งกรอกขอความแลวตามระเบียบน้ี และบรรดา
ขอ มลู ขาวสารลับท่ีอยใู นความควบคุมดแู ลไวในทป่ี ลอดภยั
(3) เก็บรักษาบัญชีลายมือช่ือนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับและผูชวยนายทะเบียน
ขอ มลู ขา วสารลับของหนวยงานของรัฐอนื่ ๆ ทตี่ ดิ ตอเก่ียวขอ งกนั เปนประจำ
(4) ประสานงานกับผูควบคุมทะเบียนความไววางใจตามที่กำหนดในระเบียบวาดวย
การรักษาความปลอดภัยแหงชาติเพื่อกำหนดตัวบุคคลที่จะเขาถึงชั้นความลับตามความเหมาะสมและ
ความรบั ผดิ ชอบ
(5) ปฏิบัติงานอ่ืนท่ีเก่ียวของกับขอมูลขาวสารลับตามที่กำหนดไวในระเบียบนี้หรือ
ตามทีไ่ ดรับมอบหมายจากหัวหนา หนว ยงานของรฐั
ขอ 27 นายทะเบยี นขอ มลู ขาวสารลับอยางนอยตอ งจัดใหม ีทะเบียนขอมูลขา วสารลับ
ประกอบดวย ทะเบียนรับ ทะเบียนสง และทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับแยกตางหากจากทะเบียน
งานสารบรรณตามปกติของหนวยงานของรัฐ
ทะเบียนรับ ใชสำหรบั บนั ทึกรายละเอยี ดของขอ มลู ขา วสารลบั ทหี่ นว ยงานไดรับไว
ทะเบียนสง ใชสำหรับบันทึกรายละเอียดของขอมูลขาวสารลับท่ีสงออกนอกบริเวณ
หนว ยงาน
ทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลบั ใชสำหรับบันทึกทางทะเบียนเกี่ยวกับขอมูลขาวสาร
ลับท่ีหนวยงานจดั ทำขึ้นใชงานหรือไดส งออกหรือไดร บั มา รวมท้ังบนั ทกึ การปฏิบตั ิตา ง ๆ เกี่ยวกับขอมูล
ขาวสารลบั นนั้
ทะเบยี นขอมลู ขา วสารลับใหถ อื วาเปน ขอ มูลขาวสารลบั ดว ย
แบบทะเบียนรับ ทะเบียนสงและทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับใหเปนไปตามที่
นายกรฐั มนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลือกตงั้ ชดุ ท่ี 2 471
ขอ 28 ในกรณีท่ีเห็นสมควร หัวหนาหนวยงานของรัฐจะจัดใหมีระบบทะเบียนขอมูล
ขาวสารลับขึ้นในหนวยงานสวนยอยดวยก็ได และใหนำความในขอ 25 ขอ 26 และขอ 27 มาใช
บังคับโดยอนุโลม
สว นที่ 2
การตรวจสอบ
ขอ 29 ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงต้ังคณะกรรมการตรวจสอบ ประกอบดวย
นายทะเบียนขอมูลขาวสารลับเปนประธานกรรมการและเจาหนาท่ีอ่ืนอีกไมนอยกวาสองคนเปน
กรรมการ ทำการตรวจสอบความถูกตอ งในการปฏิบัตติ ามระเบยี บน้ีและการมีอยูของขอ มูลขาวสารลบั ที่มี
อยูในทะเบียนขอมูลขาวสารลับอยางนอยทุกหกเดือนและเสนอรายงานการตรวจสอบใหหัวหนา
หนว ยงานของรฐั น้ันทราบและสง่ั การตอ ไป
แบบรายงานการตรวจสอบขอมูลขาวสารลับใหเปนไปตามท่ีนายกรัฐมนตรกี ำหนดโดย
ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา
ขอ 29/1 ใหหนวยงานของรัฐรายงานผลการปฏิบัติเกี่ยวกับขอมูลขาวสารลับตาม
ระเบียบน้ีภายในเดือนมีนาคมของทุกป ตอคณะกรรมการขอมูลขาวสารของราชการตามแบบที่
นายกรฐั มนตรกี ำหนด โดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เมอ่ื คณะกรรมการขอมูลขาวสารของราชการไดรบั รายงานผลการปฏิบัติเกี่ยวกับขอมูล
ขาวสารลับตามวรรคหนึ่งแลว ใหตรวจสอบการปฏิบัติตามรายงานดังกลาว และรายงานผลการ
ตรวจสอบตอ นายกรฐั มนตรี โดยจะมีขอ คดิ เหน็ และขอเสนอแนะดวยก็ได
ขอ 30 เม่ือสงสัยวาบุคคลท่ีไมมีอำนาจหนาท่ีเกี่ยวกับขอมูลขาวสารลับไดรูหรืออาจรู
ถึงขอมูลขาวสารลับหรือเม่ือสงสัยวามีการละเมิดการรักษาความลับของขอมูลขาวสารของราชการ ให
หัวหนา หนว ยงานของรัฐแตงตั้งคณะกรรมการสอบสวนโดยไมช ักชา
คณะกรรมการสอบสวนตามวรรคหนึ่ง ตองเปนผูซ่ึงมิไดเปนคณะกรรมการตรวจสอบ
ตามขอ 29
หมวด 4
การดำเนินการ
สว นที่ 1
การจดั ทำ
ขอ 31 การดำเนินการใด ๆ เก่ียวกับขอมูลขาวสารลับในทุกขั้นตอน ใหหัวหนา
หนวยงานของรัฐกำหนดจำนวนเจาหนาที่ที่เกี่ยวของเพียงเทาที่จำเปนตอภารกิจ และจำกัดใหทราบ
เทาทจ่ี ำเปนเทานน้ั
ขอ 32 ขอมูลขาวสารตามขอ 22 (1) ใหแสดงช่อื หนวยงานของรฐั เจาของเร่ืองเลขท่ีชุด
ของจำนวนชุดท้ังหมด และเลขท่ีหนาของจำนวนหนาท้ังหมดไวทุกหนาของขอมูลขาวสารลับ ท้ังนี้ จะ
แสดงชื่อหนวยงานสวนยอ ยไวดวยก็ได
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลอื กตง้ั ชุดท่ี 2 472
ขอมูลขาวสารตามขอ 22 (3) ใหแสดงชื่อหนวยงานของรัฐเจาของเรื่องและเลขท่ีชุด
ของจำนวนชุดท้งั หมดไวท ก่ี ลองหรือหีบหอของขอ มูลขาวสารลับน้นั ทงั้ น้ี จะแสดงชื่อหนว ยงานสว นยอ ย
ไวดว ยกไ็ ด
สวนที่ 2
การสำเนาและการแปล
ขอ 33 การสำเนา การแปลเอกสาร การเขารหัส หรือการถอดรหัสขอมูลขาวสารลับตอง
บันทึกจำนวนชุด ยศ ช่ือ ตำแหนงของผูดำเนินการ และชื่อหนวยงานของรัฐที่จัดทำไวท่ีขอมูลขาวสาร
ลบั ฉบบั ตนท่ีตนครอบครองและทฉี่ บบั สำเนา ฉบบั คำแปล ฉบับเขารหัส หรือฉบบั ถอดรหัส แลว แตกรณี
ดว ย
การบนั ทกึ ตามวรรคหน่งึ ผูดำเนนิ การจะจัดทำโดยใชรหัสลบั ก็ได
สวนท่ี 3
การโอน
ขอ 34 การโอนขอมูลขาวสารลับระหวางหนวยงานของรัฐ หรือการโอนภายใน
หนวยงานเดียวกัน ใหเจาหนาที่ผูโอนและเจาหนาที่ผูรับโอนจัดทำบันทึกการโอนและการรับโอนขอมูล
ขาวสารลับตามแบบที่นายกรัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษาไวเปนหลักฐาน และให
นายทะเบียนขอมูลขาวสารลับจดแจงการโอนขอมูลขาวสารลับดังกลาวไวในทะเบียนควบคุมขอมูล
ขา วสารลบั ดวย
สว นท่ี 4
การสงและการรบั
ขอ 35 การสงขอมลู ขาวสารลบั ภายในบรเิ วณหนวยงานเดียวกนั ทกุ ช้นั ความลบั ตอง
ใชใบปกขอ มูลขา วสารลับปด ทบั ขอมูลขาวสารลับ
แบบใบปกขอมูลขาวสารลับใหเปนไปตามท่ีนายกรัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราช
กจิ จานุเบกษา
ขอ 36 การสงขอมูลขาวสารลับออกนอกบริเวณหนวยงาน ตองบรรจุซองหรือ
ภาชนะทึบแสงสองชน้ั อยา งมน่ั คง
บนซองหรือภาชนะชั้นใน ใหจาหนาระบุเลขท่ีหนังสือนำสง ช่ือหรือตำแหนงผูรับ และ
หนวยงานผูส ง พรอมท้งั ทำเครอื่ งหมายแสดงช้นั ความลบั ทง้ั ดานหนาและดา นหลงั
บนซองหรือภาชนะช้ันนอกใหจาหนาระบุขอความเชนเดียวกับบนซองหรือภาชนะ
ชนั้ ในแตไ มตอ งมเี คร่อื งหมายแสดงชน้ั ความลับใด ๆ
หามระบุชั้นความลับและชื่อเร่ืองไวในใบตอบรับ แตใหระบุเลขท่ีหนังสือสง วัน เดือน
ป จำนวนหนาและหมายเลขฉบับไวในใบตอบรับดังกลาว และเก็บรักษาใบตอบรับนั้นไวจนกวาจะไดรับ
คืนหรือยกเลิกช้ันความลับหรือทำลายขอมลู ขาวสารลบั น้ันแลว
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรยี มสอบพนักงาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลือกตั้งชดุ ท่ี 2 473
แบบใบตอบรับใหเปน ไปตามที่นายกรัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา
ขอ 37 การสงขอมูลขาวสารลับออกนอกบริเวณหนวยงานภายในประเทศโดย
เจาหนาท่ีนำสาร ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐหรือผูซึ่งหัวหนาหนวยงานของรัฐมอบหมายมีอำนาจ
อนุญาตใหก ระทำได และใหนายทะเบียนขอ มูลขา วสารลบั ลงทะเบียนกอนสง ออก
การสงขอมลู ขาวสารลบั ตามวรรคหนึง่ จะจดั ใหมผี อู ารกั ขาการนำสารดว ยก็ได
ขอ 38 เจา หนา ทนี่ ำสารและผอู ารักขาการนำสาร มหี นาที่ดังนี้
(1) รักษาความปลอดภัยของขอมูลขาวสารลับตลอดเวลาท่ีนำออกนอกบริเวณ
หนว ยงานและเก็บรกั ษาขอ มลู ขา วสารลับท่ีอยูในความดแู ลใหปลอดภัย
(2) จัดสงขอมูลขาวสารลับแกนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับ ถานายทะเบียนขอมูล
ขาวสารลับหรือผูปฏิบัติการแทนไมอยูหรือไมอาจปฏิบัติหนาท่ีไดใหสงขอมูลขาวสารลับน้ันแกผูรับตาม
จาหนา ถาผูรับตามจาหนาไมอยูหรือไมอาจปฏิบัติหนาที่ได ใหนำขอมูลขาวสารลับกลับมาเก็บรักษาท่ี
หนวยงานของตน และแจงใหนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับบันทึกไวในทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสาร
ลับ หรือในกรณีที่สถานท่ีนำสงอยูหางจากหนวยงานของรัฐท่ีสงและไมสามารถเดินทางกลับภายในวัน
เดียวกนั ได ใหเก็บรักษาไวในท่ีปลอดภยั จนกวา จะสงมอบแกนายทะเบียนขอ มูลขาวสารลับหรือผรู ับตาม
จา หนา แลวแตกรณี
ในกรณีท่ีเจาหนาท่ีนำสารไมสามารถปฏิบัติหนาท่ีได ใหผูอารักขาการนำสารปฏิบัติ
หนา ที่แทนและใหร ายงานนายทะเบยี นขอมลู ขาวสารลบั ทราบโดยเรว็
ขอ 39 การสงขอมูลขาวสารลับออกนอกประเทศ ใหปฏิบัติตามระเบียบกระทรวง
การตางประเทศวาดวยถุงเมลการทูตโดยอนุโลม หรือใหเจาหนาที่ซึ่งมฐี านะทางการทูตถือไปดวยตนเอง
ก็ได
ขอ 40 การสงขอมูลขาวสารลับท้ังภายในประเทศและสงออกนอกประเทศ จะสงทาง
โทรคมนาคม ไปรษณียลงทะเบียนตอบรับหรือโดยวิธีการอ่ืนใดก็ได แตตองไดรับอนุญาตจากหัวหนา
หนวยงานของรัฐกอน
กรณกี ารสงทางโทรคมนาคมใหปฏิบัตติ ามคำแนะนำขององคการรกั ษาความปลอดภยั
ขอ 41 ในกรณีที่เจาหนาที่สารบรรณทราบวาขอมูลขาวสารที่รับไวเปนขอมูลขาวสาร
ลบั ใหร ีบสงขอ มลู ขาวสารลับดงั กลา วใหแ กนายทะเบยี นขอมูลขาวสารลับ
ขอ 42 ใหนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับลงช่ือในใบตอบรับแลวคืนใบตอบรับน้ันแก
ผูนำสง หรือจัดสงใบตอบรับคืนแกหนวยงานของรัฐท่ีเปนผูสง และลงทะเบียนขอมูลขาวสารลับกอนที่
จะดำเนินการอยา งอนื่
ในกรณีที่ผูรับยังไมสามารถดำเนินการเกี่ยวกับขอมูลขาวสารลับตอไปได ใหผูรับนำ
ขอมูลขาวสารลับที่ไดรับไปเก็บรักษาไวในท่ีปลอดภัยตามระเบียบการเก็บรักษาขอมูลขาวสารลับที่
หนวยงานของรฐั นั้นกำหนด
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กตงั้ ชดุ ท่ี 2 474
ขอ 43 ในกรณีที่เปนการสงแกผรู ับตามจา หนา ใหผรู ับตามจาหนาแจงตอนายทะเบียน
ขอมลู ขา วสารลับเพือ่ ใหล งทะเบยี นในทะเบยี นขอ มลู ขาวสารลับโดยไมชักชา
สว นท่ี 5
การเกบ็ รักษา
ขอ 44 การเกบ็ รักษาขอมูลขา วสารลับ ใหหนวยงานของรัฐเก็บรักษาไวในทปี่ ลอดภัย
และใหกำหนดระเบียบการเกบ็ รักษาขอมูลขาวสารลับไวเปนการเฉพาะตามคำแนะนำขององคการรกั ษา
ความปลอดภยั
สวนที่ 6
การยืม
ขอ 45 การใหยืมขอมูลขาวสารลับ ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐหรือผูซ่ึงหัวหนา
หนวยงานของรัฐมอบหมายพิจารณาดวยวาผูยืมมีหนาที่ดำเนินการในเรื่องท่ียืมและสามารถปฏิบัติตาม
ระเบียบนีไ้ ดห รอื ไม
ถาเรื่องท่ีผูประสงคจะขอยืมเปนเรื่องท่ีหนวยงานของรัฐอ่ืนเปนหนวยงานเจาของเรื่อง
การใหยืมตองไดร ับอนุญาตจากหนวยงานเจาของเร่ืองน้ันกอน เวนแตผูยืมจะเปนหนวยงานเจาของเร่ือง
น้ันเอง
ใหนายทะเบียนขอมูลขา วสารลับทำบันทึกการยืมพรอมท้ังจดแจงการยืมไวในทะเบียน
ควบคมุ ขอมลู ขา วสารลบั ดวย
แบบบันทึกการยืมใหเปนไปตามท่ีนายกรัฐมนตรีกำหนดโดยประกาศในราชกิจจา
นุเบกษา
สว นท่ี 7
การทำลาย
ขอ 46 ในกรณีทก่ี ารเก็บรกั ษาขอมลู ขาวสารลับช้ันลับทส่ี ุดจะเสี่ยงตอ การรว่ั ไหลอันจะ
กอใหเกิดอันตรายแกประโยชนแหงรัฐ หัวหนาหนวยงานของรัฐจะพิจารณาสั่งทำลายขอมูลขาวสารลับ
ชนั้ ลับทีส่ ุดน้ันได หากพิจารณาเหน็ วา มีความจำเปนอยา งยิง่ ท่ีจะตองทำลาย
หัวหนาหนวยงานของรัฐจะสั่งทำลายขอมูลขาวสารลับนอกจากกรณีตามวรรคหน่ึง
ได ตอเมอื่ ไดส งขอมูลขาวสารลบั ใหห อจดหมายเหตแุ หง ชาติ พิจารณากอ นวา ไมม คี ุณคาในการเกบ็ รักษา
ในการสั่งทำลายขอมูลขาวสารลับ ใหหัวหนาหนวยงานของรัฐแตงต้ังคณะกรรมการ
ทำลายขอ มลู ขาวสารลับขนึ้ คณะหน่ึง ประกอบดว ยนายทะเบียนขอมูลขาวสารลบั เปน ประธานกรรมการ
และเจาหนาท่ีท่ีเก่ียวของอีกไมนอยกวาสองคนเปนกรรมการและเม่ือคณะกรรมการดังกลาวไดทำลาย
ขอมูลขาวสารลับเสร็จแลว ใหจดแจงการทำลายไวในทะเบียนควบคุมขอมูลขาวสารลับและจัดทำ
ใบรับรองการทำลายขอมูลขาวสารลับดวย ใบรับรองการทำลายใหเก็บรักษาไวเปนหลักฐานไมนอยกวา
หน่ึงป
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกต้งั ชุดท่ี 2 475
ในกรณีที่เห็นสมควร คณะกรรมการขอมูลขาวสารของราชการอาจเสนอตอ
นายกรัฐมนตรีเพ่ือกำหนดหลักเกณฑการใชดุลพินิจของหัวหนาหนวยงานของรัฐหรือกำหนดใหการใช
ดุลพินจิ ของหัวหนา หนวยงานของรัฐตอ งไดรบั ความเห็นชอบจากบคุ คลใดกอนกไ็ ด
แบบใบรับรองการทำลายขอมูลขาวสารลับใหเปนไปตามท่ีนายกรัฐมนตรีกำหนดโดย
ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา
สว นที่ 8
การปฏิบัติในเวลาฉุกเฉนิ
ขอ 47 ใหหนวยงานของรัฐจัดใหมีแผนการปฏิบัติในเวลาฉุกเฉิน โดยมีแผนการ
เคล่ือนยาย แผนการพิทักษรักษา และแผนการทำลายขอมูลขาวสารลับ เพื่อนำมาปฏิบัติเปนลำดับชั้น
ตามความรุนแรงของสถานการณ
สว นที่ 9
กรณสี ูญหาย
ขอ 48 ในกรณีท่ีขอมูลขาวสารลับสูญหาย ใหผูทราบขอเท็จจริงรายงานขอเท็จจริงที่
เก่ียวของใหหัวหนาหนวยงานของรัฐที่ตนสังกัดทราบเพ่ือดำเนินการตอไปและใหนายทะเบียนขอมูล
ขา วสารลับบันทกึ การที่ขอ มูลขา วสารลบั สญู หายไวใ นทะเบยี นควบคุมขอ มูลขา วสารลับดว ย
สว นที่ 10
การเปดเผย
ขอ 49 ในกรณีท่ีหัวหนาหนวยงานของรัฐหรอื เจา หนาที่ของรัฐตามมาตรา 20 (1) แหง
พระราชบัญญัติขอมูลขาวสารของราชการ พ.ศ. 2540 มีคำสั่งใหเปดเผยขอมูลขาวสารลับใดโดยมี
ขอจำกัดหรือเงอื่ นไขเชน ใด ใหเปด เผยขอมลู ขาวสารลบั นน้ั ไดต ามขอ จำกัดหรอื เงอื่ นไขทก่ี ำหนด
ขอ 50 ในกรณีที่ขอมูลขาวสารลับใดไมมีเคร่ืองหมายแสดงชั้นความลับไวใหเจาหนาที่
ของรฐั ที่เกย่ี วของสามารถเปด เผยขอ มูลขาวสารนัน้ ได เวน แตเ จา หนาทนี่ น้ั ไดรหู รือควรจะรขู อเท็จจริงวา
ขอ มลู ขา วสารน้ันไดม กี ารกำหนดชน้ั ความลบั ไวแ ลว
บทเฉพาะกาล
ขอ 51 ใหเอกสารลับตามชั้นความลับที่มีอยูกอน ตามระเบียบวาดวยการรักษาความ
ปลอดภัยแหงชาติ พ.ศ. 2517 เปนขอมูลขาวสารลับตามระเบียบนี้ โดยเอกสารลับชั้นปกปดใหถือวามี
ช้ันความลบั อยูใ นชั้นลบั นบั แตว ันทร่ี ะเบยี บนใ้ี ชบ งั คับ
แบบใบปกของเอกสารลับตามระเบียบวาดวยการรักษาความปลอดภัยแหงชาติพ.ศ.
2517 ใหค งใชไดตอ ไปจนกวาจะหมด
แบบเอกสารตาง ๆ ตามระเบียบวาดวยการรักษาความปลอดภัยแหงชาติ พ.ศ. 2517
ซ่ึงมอี ยกู อ นระเบยี บน้ใี ชบ งั คบั ใหใชไ ดตอไปเทาท่ีไมขดั หรอื แยงกับระเบยี บน้ี
เตรียมสอบ กกต. 2564
เตรียมสอบพนกั งาน สำนกั งานคณะกรรมการการเลอื กต้ังชุดท่ี 2 476
ใหนายทะเบียนเอกสารลับและผูชวยนายทะเบียนเอกสารลับท่ีมีอยูกอนตามระเบียบ
วาดวยการรักษาความปลอดภัยแหงชาติ พ.ศ. 2517 เปนนายทะเบียนขอมูลขาวสารลับและผูชวยนาย
ทะเบียนขอมลู ขาวสารลับตามระเบียบน้ี
ใหเจาหนาที่นำสารและผูอารักขาการนำสารที่มีอยูกอนตามระเบียบวาดวยการรักษา
ความปลอดภัยแหงชาติ พ.ศ. 2517 เปน เจา หนา ทนี่ ำสารและผอู ารักขาการนำสารตามระเบยี บน้ี
ขอ 52 ภายในหกเดือนนบั แตว ันทร่ี ะเบยี บนีใ้ ชบ งั คบั
(1) ขอมูลขาวสารใดท่ีไดจัดทำมาแลวเกินยี่สิบป และมีการกำหนดชั้นความลับไว ถา
มิไดมีการกำหนดชั้นความลับใหมเปนรายชิ้นและแจงใหเจาหนาท่ีของรัฐหรือหนวยงานของรัฐท่ี
เก่ียวขอ งทราบถึงการกำหนดใหเ ปน ขอมลู ขา วสารลับตอ ไป ใหถ ือวาชัน้ ความลับนัน้ เปน อนั ยกเลิก
(2) ใหห นวยงานของรัฐตรวจสอบและกำหนดชน้ั ความลับของขอ มลู ขาวสารท่ตี นจดั ทำ
ข้ึนภายในยีส่ ิบปก อนวันทีร่ ะเบียบนใ้ี ชบังคบั ใหแ ลว เสรจ็ ทง้ั หมด
หากหนวยงานของรัฐแหงใดมีเหตุจำเปนไมอาจจัดทำไดภายในระยะเวลาท่ีกำหนด
ตามวรรคหน่งึ ใหขอขยายระยะเวลาตอ คณะกรรมการขอมลู ขาวสารของราชการ
ขอ 53 ใหองคการรักษาความปลอดภัยฝายพลเรือน องคการรกั ษาความปลอดภัยฝาย
ทหาร และองคการรักษาความปลอดภัยฝายตำรวจประสานการปฏิบัติในการจัดใหมีหลักเกณฑ วิธีการ
และ คำแนะนำการปฏิบัติตามระเบียบน้ี รวมท้ังการอบรมบุคลากรที่เกี่ยวของตามความจำเปนและ
งบประมาณ
ใหไ ว ณ วนั ท่ี 5 กมุ ภาพนั ธ พ.ศ. 2544
ชวน หลกี ภัย
นายกรฐั มนตรี
เตรยี มสอบ กกต. 2564