การปรับปรุงกระบวนการทำงานของงาน บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด ปรายฟ้า วงศ์บรรณาคม รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน คณะบริหารธุรกิจ ตุลาคม พ.ศ. 2566 ลิขสิทธ์เป็นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคงธัญบุรี
การปรับปรุงกระบวนการทำงานของงาน บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด ปรายฟ้า วงศ์บรรณาคม รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตรการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน คณะบริหารธุรกิจ มีนาคม พ.ศ. 2566 ลิขสิทธ์เป็นของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคงธัญบุรี
ชื่องานวิจัย การปรับปรุงกระบวนการทำงานของงาน บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชื่อนักศึกษา นางสาวปรายฟ้า วงศ์บรรณาคม รหัสนักศึกษา 116310509490-3 ปริญญา บริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 อาจารย์ที่ปรึกษา ดร.ปริญ วีระพงษ์ รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต โดยผ่านการ พิจารณาจากคณะกรรมการสอบวิจัย ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ อาจารย์ที่ปรึกษา ………………………………………………. ( ดร. ปริญ วีระพงษ์) รายงานวิจัยนี้ได้พิจารณาเห็นชอบโดย ประธานกรรมการ …………...…………………….. ( ผศ.ดร.พุทธิวัต สิงห์ดง ) กรรมการ …………...……………………............. ( ดร.ชาริณี พลวุฒิ) ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ก กิตติกรรมประกาศ รายงานวิจัยนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยได้รับความกรุณาและความช่วยเหลือเป็นอย่างดี จากบุคคลหลายฝ่ายด้วยกัน ผู้เขียนจึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ เริ่มจาก ท่านคณะ อาจารย์ที่ปรึกษา ซึ่งกรุณาเสียสละเวลาให้คำปรึกษาและคำแนะนำ รวมถึงการแก้ไขข้อบกพร่องเพื่อ ก่อให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินการศึกษาจนปัญหาพิเศษฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์ ขอขอบพระคุณ คณาจารย์หลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิขาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทุกท่าน ที่ได้เสียสละ เวลาในการเป็นคณะกรรมการในการสอบและตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งให้คำแนะนำต่าง ๆ เพื่อให้รายงานวิจัยนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตลอดจนขอขอบพระคุณ ที่กรุณาให้ความร่วมมือให้ การสัมภาษณ์สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมทั้งการแสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ อันเป็นประโยชน์ ยิ่งต่อการจัดทำรายงานวิจัยในครั้งนี้ ปรายฟ้า วงศ์บรรณาคม พฤศจิกายน พ.ศ.2566
ข ชื่องานวิจัย การปรับปรุงกระบวนการทำงานของงาน บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ชื่อนักศึกษา นางสาวปรายฟ้า วงศ์บรรณาคม รหัสนักศึกษา 116310509490-3 ปริญญา บริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 อาจารย์ที่ปรึกษา อาจารย์ดร.ปริญ วีรพงษ์ บทคัดย่อ การศึกษาปัญหาพิเศษฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อศึกษาปัญหาและสาเหตุของ ความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด แผนก Air import customer service เพื่อศึกษาหาแนวทางการวิเคราะห์ความสูญเปล่าใน กระบวนการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service และเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและปรับปรุงกระบวนการการทำงานของ พนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service ผู้ ศึกษาได้เลือกใช้แนวทางการวิเคราะห์กระบวนการทำงานเพื่อหาความสูญเปล่า ทำงานโดยการนำเอา ข้อมูลที่ศึกษาเขียนเป็นแผนผังก้างปลา ระบุปัญหาที่พบต่างๆ ในกระบวนการทำงานและเขียนเป็น Flow ให้เห็นการไหลของงานทั้งหมดพร้อมทั้งใส่เวลาการทำงานแต่ละขั้นตอน โดยใช้เครื่องมือ Makigami หรือ Roll paper และทำการวิเคราะห์แบ่งงานออกกเป็น 3 ประเภท คืองานที่เพิ่มมูลค่า (Value Added : VA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่า (Non Value AAdded :NVA) และงานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่ จำเป็นต่อกระบวนการทำงาน (Necessary Non-Value Added : NNVA) และใช้หลักการ ECRS (Eliminate, Combine, Rearrange, Simplify) เข้ามาใช้ในการปรับปรุงกระบวนการเพื่อกำจัดความ สูญเปล่าและลดลีดไทม์ในการทำงาน ใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์จากผลการศึกษาพบว่า ขั้นตอน กระบวนการทำงานทั้งหมดมี 22 ขั้นตอน มีขั้นตอนการทำงานที่สูญเปล่าและไม่เพิ่มมูลค่า 6 ขั้นตอน เวลาในการทำงานทั้งหมด 44 นาที 50 วินาที หลังการปรับปรุงขั้นตอนการทำงานโดยกำจัด กระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้มากที่สุด และลดกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่ จำเป็น (Non-Value Added: NVA) ให้เหลือน้อยที่สุดทำให้หลังการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการ ทำงาน เหลือขั้นตอนการทำงาน 16 ขั้นตอน และเวลาในการทำงานลดเหลือเพียง 34 นที 20 วินาที เวลาในการทำงานตามกระบวนการทั้งหมดลดลงถึง 10 นาที 30 วินาที ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ค กระบวนการทำงานของพนักงานของแผนก Air import customer service บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดียิ่งขึ้น คำสำคัญ : ประสิทธิภาพการทำงาน / องค์การ / การปฏิบัติงาน / พนักงาน / ความสูญเปล่า
ง Title Improving work processes Yusen Logistics (Thailand) Co., Ltd. Student Name Miss Prayfa Wongbannacom Degree Bachelor of Business Administration (Logistics Management) Program Logistics and Supply Chain Management Academic Year 2023 Advisor Dr. Prin Weerapong Abstract This special issue study was created with the aim of studying the problems and causes of losses that occur in the work process of employees of Yusen Logistics (Thailand) Co., Ltd., Air import customer service department. Find a way to analyze waste in the work process of employees of Yusen Logistics (Thailand) Co., Ltd., Air import customer service department, and to find ways to fix and improve the work process of employees of Yusen Logistics Company. (Thailand) Co., Ltd. Air import customer service department. The researcher has chosen to use the work process analysis method to find waste. It works by taking the studied data and writing it as a fishbone diagram. Identify any problems encountered In the work process and write it as Flow to see the entire work flow and enter the work time for each step. Using the Makigami or Roll paper tool and analyzing the work into 3 types. These are work that adds value (Value Added: VA), work that does not add value (Non Value AAadded: NVA) and work that does not add value but is necessary for the work process (Necessary Non-Value Added: NNVA) and uses ECRS principles (Eliminate, Combine, Rearrange, Simplify) was used to improve processes to eliminate waste and reduce lead times in work. It took a period of 2 weeks from the study results it was found that There were 22 steps in the process, including 6 waste and non-value-added steps. Total work time was 44 minutes and 50 seconds. After improving the work process by eliminating processes that are waste (Waste) as much as possible. and reduce processes that do not add value but are necessary (Non-Value Added: NVA) to a minimum, resulting in the improvement of work process steps There are 16 steps remaining, and the running time is reduced to just 34 minutes 20 seconds. The total process running time is reduced to 10 minutes 30 seconds, improving efficiency. Better
จ work processes of employees of the Air import customer service department of Yusen Logistics (Thailand) Co., Ltd. Keywords: Productivity / Organization / Operations / Employees / Waste
ฉ สารบัญ หน้า กิตติกรรมประกาศ ก บทคัดย่อภาษาไทย ข บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ง สารบัญ ฉ สารบัญตาราง ซ สารบัญภาพ ฌ บทที่ 1 บทนำ 1 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา 1 1.2 วัตถุประสงค์การวิจัย 3 1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3 1.4 ขอบเขตการวิจัย 3 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 4 1.6 กรอบแนวคิดในงานวิจัย 5 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 6 2.1 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับโลจิสติกส์ 6 2.2 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศ 7 2.3 ทฤษฐีและแนวคิดแบบลีน (Lean Thinking) 11 2.4 ทฤษฐีและแนวทางการวิเคราะห์เมกิกามิ (Makigami Analysis) 13 2.5 ทฤษฎีแนวคิดหลักการ ECRS 15 2.6 ทฤษฎีแผนผังก้างปลา 16 2.7 แผนภูมิกระบวนการไหล (Flow Process Chart) 18 2.8 ข้อมูลบริษัท 18 2.9 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 20 บทที่ 3 วิธีการศึกษา 21 3.1 วิธีการดำเนินงานวิจัย 21 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 23 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 23 บทที่ 4 สรุปผลการวิจัย 25
ช 4.1 ผลการวิเคราะห์กระบวนการ 25 4.2 สรุปผลก่อน - การปรับปรุงกระบวนการ 34 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ 35 5.1 สรุปผลการวิจัย 35 5.2 อภิปรายผลการวิจัย 36 5.3 ข้อเสนอแนะ 36 บรรณานุกรม 38 ภาคผนวก 39 ภาคผนวก ก 40 ประวัติผู้ศึกษา 45
ซ สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 2.1 คำอธิบาย Master Air Waybill 11 ตารางที่ 4.1 จำนวนขั้นตอน Controllable Processes และ Uncontrollable Processes ในกระบวนการ 28
ฌ สารบัญภาพ หน้า ภาพที่ 1.1 กรอบแนวคิดการวิจัย 5 ภาพที่ 2.1 ตัวอย่าง Master Air Waybill 10 ภาพที่ 2.2 ตัวอย่างเครื่องมือ Makigami 15 ภาพที่ 2.3 ตัวอย่างแผนผังก้างปลา 17 ภาพที่ 3.1 แผนผังก้างปลา 22 ภาพที่ 3.2 ตัวอย่างเครื่องมือ Makigami 23 ภาพที่ 4.1 แผนผังแสดงขั้นตอนกระบวนการการทำงานของพนักงาน แผนก Air import customer service 26 ภาพที่ 4.2 Makigami ขั้นตอนกระบวนการการทำงานของพนักงาน แผนก Air import customer service ก่อนปรับปรุง 27 ภาพที่ 4.3 แผนผังแสดงขั้นตอน Controllable processes 29 ภาพที่ 4.4 ผลการวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานที่เป็น Controllable processes 30 ภาพที่ 4.5 แผนผังแสดงขั้นตอนการปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน 31 ภาพที่ 4.6 Makigami ขั้นตอนกระบวนการการทำงานของพนักงาน แผนก Air import customer service หลังการปรับปรุง 33
1 บทที่ 1 บทนำ 1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา ในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจการเงิน สังคม และการเมือง เกิดขึ้น ภายในประเทศและโลก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่มีผลต่อการแข่งขัน ในทางธุรกิจการค้าของ ผู้ประกอบการประเภทต่างๆ มากขึ้น ทําให้องค์กรธุรกิจทุกแห่งต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนแปลงกล ยุทธ์การดําเนินงานทั้งทางด้านการลงทุน การผลิต การตลาด และการ ให้บริการเพื่อให้สามารถ ดําเนินธุรกิจภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ได้ซึ่งการดําเนินธุรกิจ ต่างๆ นั้น จุดมุ่งหมายที่สําคัญ ของการดําเนินธุรกิจคือการผลิต การจําหน่ายสินค้าและบริการให้ได้ กำไรสูงสุดและการที่จะมีกำไรสูง ย่อมขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อสินค้าหรือบริการหรือประโยชน์ที่ได้รับจากสินค้าและ บริการนั้นๆ และต้องมีการบริหารการใช้ทรัพยากรทั้งด้าน บุคลากร เครื่องจักร และวัตถุดิบให้ได้ ประโยชน์สูงสุด มีการดําเนินการให้งานที่สําคัญของทุกๆ ด้านในองค์กรธุรกิจทั้งการผลิต การขาย การจัดหา การเงิน และอื่นๆ ให้มีการประสานและ สอดคล้องกัน (สันติภพ วงศ์ศิริ: 2551,1) อุตสาหกรรมโลจิสติกส์มีการแข่งขันกันสูงตั้งแต่ก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 จากธุรกิจต่างชาติ ขนาดใหญ่ ซึ่งได้แย่งส่วนแบ่งตลาดของธุรกิจไทย เนื่องจากมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารห่วงโซ่ อุปทาน มีโมเดลธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม และยอมขาดทุนเพื่อขยายส่วนแบ่ง การตลาด ทำให้ผู้ประกอบการไทยที่มีเงินทุนจำกัดแข่งขันด้วยได้ยาก วิกฤตโควิด-19 กระทบ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทย โดยเฉพาะธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่หยุดชะงัก อย่างไรก็ดี ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าภายในประเทศยังเติบโตได้ เช่น ธุรกิจซื้อขายสินค้าออนไลน์ ธุรกิจ ขนส่งอาหาร ธุรกิจขนส่งพัสดุแบบเร่งด่วน มองไปข้างหน้า อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในประเทศไทยมี แนวโน้มเติบโตดี โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับ e-commerce ตามพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ เปลี่ยนแปลงต่อเนื่องจากวิกฤตโควิด-19 ซึ่งกระตุ้นให้การซื้อขายออนไลน์ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค เติบโตอย่างก้าวกระโดด อย่างไรก็ตาม ผู้เล่นหลักในตลาด e-commerce ยังคงเป็นบริษัทต่างชาติ โดยเฉพาะบริษัทสัญชาติจีน ขณะที่ผู้ประกอบการไทยทำหน้าที่ได้เพียงเป็นผู้ขนส่ง last mile และ ต้องเผชิญกับการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงอย่างต่อเนื่องหากพิจารณาและวิเคราะห์ให้ดีแล้วจะพบว่า การดําเนินกิจกรรมต่างๆ ในองค์กรธุรกิจทุกประเภทนั้นทุกอย่างล้วนจะต้องดําเนินการโดยใช้ ทรัพยากรบุคคลทั้งสิ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นรากฐานที่สําคัญและมีความเกี่ยวข้องในงานทุกด้านขององค์กร จึงถือได้ว่าทรัพยากรบุคคลมีฐานะเป็นระบบงานย่อยที่สําคัญที่ครอบคลุมและมีอยู่ในทุกส่วนของ องค์กรโดยเป็นผู้ควบคุมระบบการทํางานอื่นๆ ทั้งหมด ดังนั้นทรัพยากรบุคคลจึงเป็นปัจจัยที่องค์กร ธุรกิจต้องพิจารณาและให้ ความสําคัญเป็นอันดับแรกแม้วาจะมีการนําเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ก็ตาม
2 แต่การที่จะดําเนินกิจกรรมหรือให้บริการให้เกิดคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีที่สุดได้นั้นก็ต้องอาศัย ทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพในการทำงานเช่นกัน ด้วยเหตุนี้นั้นในทุกๆ องค์กรธุรกิจจึงหาแนวทาง และกลยุทธ์ต่างๆ ในการที่จะสร้างแรงจูงใจและกำลังใจในการทำงานให้กับพนักงานในองค์กรของ ตนเอง ให้พนักงานนั้นมีทัศนคติที่ดีต่อองค์กร เพื่อให้การทํางานก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกันกับที่ องค์กรคาดหวัง แต่หากองค์กรใดไม่มีการสร้างแรงจูงใจในการทํางานของพนักงานให้มีความภักดีต่อ องค์กรแล้วก็เป็นการยากที่การดําเนินธุรกิจจะประสบผลสําเร็จได้ดีจึงกล่าวได้ว่าความสําเร็จหรือ ล้มเหลวของการดําเนินธุรกิจต่างๆ ย่อมเป็นผลมาจากทรัพยากรบุคคลเป็นปัจจัยสําคัญ (สันติภพวงศ์ ศิริ: 2551,1) บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นการควบรวมกิจการระหว่างบริษัท ยูเซ็น แอร์ แอนด์ ซี เซอร์วิส(ประเทศไทย)จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการให้บริการขนส่งทางอากาศ เพื่อความเป็นผู้น าในธุรกิจโล จิสติกส์และเพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการอย่างครบวงจรและ บริษัท เอ็น วาย เค โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด ที่มีประสบการณ์ทางด้านการขนส่งทางบกเป็น ระยะเวลาอันยาวนานถึง 126 ปี ในปี ค.ศ.2011 บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้ ให้บริการขนส่งระหว่างประเทศ และภายในประเทศแบบครบวงจร โดยให้บริการดำเนินพิธีการ ศุลกากร, บริการคลังสินค้า, บริการลานพักตู้คอนเทนเนอร์,บริการขนส่งระหว่างประเทศต่อเนื่อง หลายรูปแบบ ทั้งบริการขนส่งทางทะเลและทางอากาศ รวมทั้งบริการเสนอโครงการนวัตกรรมใหม่ ทางด้านการขนส่งเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่ม โดยผู้บริหารได้นําระบบการบริหาร และระบบคุณภาพต่างๆ เข้ามาปรับใช้ เพื่อพัฒนาองค์กรอย่างต่อเนื่อง ทั้งทางด้านการขนส่ง ด้าน กระบวนการทำงานในคลังสินค้า ด้านงานเอกสารและการพัฒนาบุคลากรเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และการพัฒนาให้เกิดขึ้นในทุกกระบวนการในองค์กร เพื่อให้ได้มาตรฐานเป็นที่ยอมรับของลูกค้า แต่ ความสําเร็จเหล่านั้นไม่อาจจะบรรลุตาม เป้าหมายได้ ถ้าหากขาดปัจจัยการสนับสนุนที่มีประสิทธิภาพ ปัจจัยด้านทรัพยากรบุคคลที่นับว่า เป็นปัจจัยที่สําคัญที่สุดในองค์กรและในทุกกระบวนการดําเนินงาน ขององค์กรองค์กรใดมีพนักงานที่มีประสิทธิภาพก็นับว่าประสบความสําเร็จไปแล้วในขั้นต้น แต่ในปัจจุบันการทำงานนั้นมักไม่ได้ง่ายหรือสำเร็จตามเป้าหมายทุกอย่าง แต่ในกระบวนการ การทำงานก็มักจะพบกับปัญหาที่มากมายเสมอ เช่น การทำงานซ้ำซ้อน การทำเอกสารซ้ำซ้อน การ ทำงานผิดพลาด การกรอกข้อมูลผิด การแบ่งหน้าที่การทำงานหรือการสื่อสารกันระหว่างบุคคลที่ไม่ดี พอ ฯลฯ เกิดเป็นความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน ความสูญเปล่า ความสูญเสีย เป็นสิ่งที่เกิดขึ้น ได้กับทุกส่วนงาน ไม่เว้นแม้นแต่ในส่วนงาน Office หรืองานสายสำนักงาน งานเอกสาร ซึ่งที่จริงแล้ว ก็เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งของการทำงาน ยิ่งในยุคที่ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
3 ข้อมูลข่าวสารต่างๆ จึงต้องฉับไวและถูกต้อง ดังนั้นสายสำนักงานหรืองานเอกสารจึงเป็นส่วนงานที่มี ความสำคัญอย่างมากเพราะถ้างานไม่เสร็จตามตกลงกับลูกค้าไว้ อาจจะเกิดปัญหาอื่นๆตามมาได้ จากเหตุผลที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นนี้ประกอบกับการที่ผู้วิจัยเป็นหนึ่งในบุคลากรของบริษัทฯ จึงมี ความจําเป็นในการที่จะทําการศึกษา วิเคราะห์และปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดความสูญเปล่า ที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงานและเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ซึ่งผลที่ได้รับจาก การศึกษาจะเป็นประโยชน์ในการเป็นข้อมูลเพื่อใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงการทำงานและพัฒนา ประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของพนักงานต่อไป 1.2 วัตถุประสงค์การวิจัย 1.2.1 เพื่อศึกษาปัญหาและสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการการทำงานของ พนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service 1.2.2 เพื่อศึกษาหาแนวทางการวิเคราะห์ความสูญเปล่าในกระบวนการทำงานของพนักงาน บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service 1.2.3 เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและปรับปรุงกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยู เซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service 1.3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.3.1 ทราบถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเปล่าในกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service 1.3.2 เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานและเร่งความเร็วในการทำงานเพราะลดขั้นตอน และการใช้เวลาที่ไม่จำเป็นลง 1.4 ขอบเขตการวิจัย 1.4.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา การศึกษาครั้งนี้ มุ่งศึกษาแนวทางการปรุงปรุงกระบวนการการปฏิบัติงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service 1.4.2 ขอบเขตด้านเวลา การวิจัยครั้งนี้กำหนดระยะเวลาศึกษาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2566 – เดือนตุลาคม 2566 รวม ระยะเวลาทั้งหมด 4 เดือน 1.4.3 ขอบเขตด้านสถานที่ บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด
4 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ ประสิทธิภาพการทำงาน(Work efficiency) หมายถึง ความสามารถในการปฏิบัติงานที่ต้อง ใช้ ความรู้ ความสามารถ เทคนิค รวมถึงประสบการณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ชิ้นงานที่ได้รับมอบหมายแล้ว เสร็จ โดยคำนึงถึงความถูกต้องรวดเร็วของงาน ความสะดวกสบาย ความประหยัดความยุติธรรมและ ความเสมอภาค รวมถึงปริมาณผลงานที่สอดคล้องกับเป้าหมายขององค์การ องค์การ(Organization) หมายถึง รูปแบบของการทำงานของมนุษย์ที่มีลักษณะการทำงาน เป็นกลุ่ม ที่มีการประสานงานกันตลอดเวลา ตลอดจนต้องมีการกำหนดทิศทาง มีการจัดระเบียบวิธี ทำงานและติดตามวัดผลสำเร็จของงานที่ทำอยู่เสมอด้วย องค์กร(Organization) หมายถึง บุคคลกลุ่มหนึ่งที่มารวมตัวกัน โดยมีวัตถุประสงค์หรือ เป้าหมายอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างร่วมกัน และดำเนินกิจกรรมบางอย่างร่วมกันอย่างมีขั้นตอนเพื่อให้ บรรลุวัตถุประสงค์นั้น การปฏิบัติงาน(Operation) หมายถึง กระทำตามภาระหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายของ บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด พนักงาน(Employee)หมายถึง พนักงานทุกระดับของ บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศ ไทย)จำกัด ความสูญเปล่า(waste) หมายถึง การทำสิ่งที่ไม่จำเป็น หรือสิ่งที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ส่งผล กระทบต่อต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น สร้างความลำบากต่อพนักงาน คนงาน และส่งผลต่อประสิทธิภาพการ ทำงานที่ลดลง
5 1.6 กรอบแนวคิดในงานวิจัย ภาพที่ 1.1 กรอบแนวคิดการวิจัย Input Process Output - ขั้นตอน กระบวนการ ท างานของ พนักงานบริษัท ยู เซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จ ากัด แผนก Air import customer service - วิเคราะห์ขั ้นตอน กระบวนการท างานทั ้งหมด - จัดประเภทกระบวนการ ท างานออกเป็น 3 ประเภท คือ งานที่เพิ่มมูลค่า งานที่ ไม่เพิ่มมูลค่า และ งานที่ไม่ เพิ่มมูลค่าแต่จ าเป็นต่อ กระบวนการท างาน - ปรับกระบวนการท างานโดย ตัดขั ้นการท างานที่สูญเปล่า - ทดลองท าตามขั ้นตอนที่ปรับ ใหม่ - สรุปผลที่ได้ - ขั้นตอน กระบวนการ ท างานของ พนักงานบริษัท ยู เซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จ ากัด แผนก Air import customer service ที่ปรับ ใหม่เพื่อให้การ ท างานมี ประสิทธิภาพมาก ขึ ้น
6 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎีและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การวิจัยเรื่อง “การเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิ สติกส์(ประเทศไทย)จำกัด” ผู้วิจัยได้นำแนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องมาใช้เป็นกรอบอ้างอิง ในการศึกษาครั้งนี้โดยแบ่งเป็นแต่ละหัวข้อ ดังนี้ 2.1 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับโลจิสติกส์ 2.2 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศ 2.3 ทฤษฐีและแนวคิดแบบลีน (Lean Thinking) 2.4 ทฤษฐีและแนวทางการวิเคราะห์เมกิกามิ (Makigami Analysis) 2.5 ทฤษฎีแนวคิดหลักการ ECRS 2.6 ทฤษฎีแผนผังก้างปลา 2.7 แผนภูมิกระบวนการไหล (Flow Process Chart) 2.8 ข้อมูลบริษัท 2.9 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 แนวคิดและทฤษฎีเกี่ยวกับโลจิสติกส์ โลจิสติกส์ เป็นเรื่องของระบบการจัดส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นลักษณะของข้อมูล หรือตัวสินค้า ไปยังลูกค้าที่ต้องการโดยมีกระบวนการที่เกี่ยวข้องหลายอย่าง เช่น การขนส่ง การจัดการสินค้าคงคลัง การจัดการเกี่ยวกับหีบห่อ รวมถึงจัดการเรื่องวัตถุดิบ โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อลดต้นทุนเรื่อง เวลา และค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการขนส่ง กระบวนการของโลจิสติกส์ เป็นกระบวนการการเชื่อมโยงระบบการจัดการและขนส่งสินค้าจากต้นทางไปสู่ปลายทาง อย่างมีประสิทธิภาพ กระบวนการจึงเริ่มต้นที่ 1. ขั้นตอนการหาวัตถุดิบ สินค้า และบริการ 2. ขั้นตอนการหา จัดเตรียม เลือกใช้บรรจุภัณฑ์ แพ็กเกจ สินค้า 3. ขั้นตอนการจัดส่งสินค้าจากต้นทางไปสู่คลังสินค้าปลายทาง 4. ขั้นตอนการบริหารสินค้าในคลังสินค้า สถานที่ตั้ง ระบบการจัดเก็บ การจัดการคลังสินค้า ก่อนกระจายสินค้า ระบบจัดการเลือกสินค้าเพื่อจำหน่ายออก เช่น เข้าก่อน ออกก่อน รวมถึงปริมาณ สินค้าที่ควรจัดเก็บไว้ในคลังเพื่อให้พร้อมบริการ
7 5. ขั้นตอนการติดตามกระบวนการโดยผ่านระบบคอมพิวเตอร์ การสื่อสารออนไลน์ การวัดประสิทธิภาพของโลจิสติกส์ จุดมุ่งหมายของโลจิสติกส์มีเงื่อนไขอยู่ว่า กระบวนการทั้งหมดต้องดำเนินการภายใต้คำว่า จากต้นทางถึงปลายทางอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ประสิทธิภาพจะมีหรือไม่ต้องพิจารณาจาก 1. สินค้าที่ลูกค้าต้องการ มีกระบวนการจัดส่งอย่างรวดเร็วหรือไม่ 2. กระบวนการการเดินทางของสินค้าจากแหล่งผลิตจนถึงมือผู้บริโภค มีความลื่นไหลหรือ ติดขัดอุปสรรคอะไรหรือไม่ 3. การติดต่อส่งข้อมูล การสื่อสาร เป็นไปแบบสะดวก รวดเร็วและทันการณ์หรือไม่ 4. ในระบบโลจิสติกส์นี้ สามารถช่วยลดต้นทุนสินค้าได้มากน้อยเพียงใด หากระบบดังกล่าวมีประสิทธิภาพ ต้องมีความสะดวก รวดเร็ว ไม่ติดขัด เป็นไปตาม วัตถุประสงค์ทั้งผู้ผลิต และผู้บริโภค ประหยัด ลดต้นทุน ทันเวลา ประโยชน์ของระบบโลจิสติกส์ 1. ลดต้นทุนราคาสินค้าและบริการ รวมถึงประหยัดเวลาในการส่งสินค้าถึงผู้บริโภคเมื่อได้รับ คำสั่งซื้อ 2. การหมุนเวียนสินค้ามีประสิทธิภาพ ไม่มีของค้างสต๊อกนานเกินหรือเสียหายจากการ จัดเก็บ 3. ผู้บริโภคได้รับความพึงพอใจจากการสั่งซื้อสินค้า 4 คนทำงานทุกขั้นตอนในระบบ พึงพอใจในระบบการทำงาน ไม่ก่อให้เกิดความขัดแย้งหรือ อุปสรรค จากเรื่องระบบจัดการและขนส่ง 2.2 แนวคิดและทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางอากาศ การขนส่งสินค้าโดยทางอากาศเป็นการขนส่งที่นิยมใช้กันมาก มีสนามบินที่ล้ำสมัย ขนาด พื้นที่รองรับสินค้าเพียงพอกับปริมาณความต้องการ มีการใช้เครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ ความสามารถใน การบินที่ยอดเยี่ยม สามารถบรรจุสินค้าได้ในปริมาณที่มากขึ้น เครื่องมือหรืออุปกรณ์ในการขนส่ง สินค้าที่มีความล้ำสมัย อีกทั้งยังมีท่าอากาศยานที่มีขนาดใหญ่ เพื่อการขนส่งสินค้าจากผู้ส่งสินค้าที่ท่า เมืองต้นทางไปจนถึงผู้รับที่ท่าเมืองปลายทางที่สะดวกและรวดเร็ว คุณลักษณะที่สำคัญของการขนส่งสินค้าทางอากาศ มีดังนี้ 1. ความรวดเร็ว การส่งสินค้าทางอากาศนับว่ามีความรวดเร็วที่สุด 2. ความแม่นยำ มีตารางการบินที่แน่นอน แม่นยำและตรงต่อเวลาการบรรจุหีบห่อสำหรับ สินค้าที่จะทำการส่งออกทางอากาศนั้นจะเป็นแบบง่ายๆ ช่วยลดค่าวัสดุและค่าขนส่งลง ในการขนส่ง สินค้าทางอากาศจากท่าต้นท่างเมืองหนึ่งไปยังท่าปลายทางอีกเมืองหนึ่งทำได้อย่างรวดเร็วและไม่ต้อง เสียเวลาดำเนินการด้านเอกสารนาน ผู้ส่งสินค้าที่จะสามารถลดค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิดอื่นๆได้
8 ปัจจัยในการเลือกใช้การขนส่งสินค้าทางอากาศ 1. ลักษณะสินค้า ✓ สินค้าที่มีความช้ำหรือเน่าเสียได้ง่าย เช่น ผักสด ดอกไม้ ✓ สินค้าที่มีการใช้แบบเร่งด่วน เช่น อะไหล่ของเครื่องใช้อิเล็กเทอร์นิกหรือรถยนต์ ✓ สินค้าที่มีมูลค่าสูงมากๆ เช่น อัญมณี เพชรพลอย 2. ลักษณะความต้องการ ✓ สินค้าที่จำเป็นต้องรีบใช้ในภาวะที่ฉุกเฉิน เช่น ยารักษาโรค ✓ สินค้าที่กำลังทดลองตลาดเป็นฤดูกาล 3. สินค้าที่ต้องการจะลดปัญหา ✓ ปัญหาสินค้าแตกหักง่าย สินค้าที่เก็บได้ในระยะเวลาอันสั้น ✓ เงินที่สูญหายไปสำหรับสินค้าคงคลัง 4. ลักษณะของตลาด ✓ ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล ✓ การขนส่งด้วยวิธีอื่นอาจไม่ทันต่อเหตุการณ์ กระบวนการขนส่งสินค้าทางอากาศระหว่างประเทศ การขนส่งสินค้าทางอากาศมีความพิเศษ เฉพาะคือมีความรวดเร็วในการขนส่งสินค้ามากเมื่อเทียบกับการขนส่งสินค้ารูปแบบอื่นๆ โดยส่วน ใหญ่นั้นจะเป็นการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ผู้ที่มีบทบาทในการขนส่งสินค้าทางอากาศ ได้แก่ ผู้ส่งสินค้าหรือ Shipper คือเป็นบุคคลที่มีชื่ออยู่ในเอกสารกำกับสินค้า หรือ Air Waybill ที่ จะทำการขนส่งสินค้าตามเงื่อนไขใน Air Way bill บริษัทสายการบิน หรือ Carrier คือบริษัทสายการบินต่างๆ ซึ่งรวมทั้งบริษัทสายการบินที่ ออกเอกสารกำกับสินค้า Air Waybill ที่จะทำการขนส่งสินค้าตามเงื่อนไขใน Air Waybill ผู้รับสินค้า หรือ Consignee คือผู้ที่มีชื่อปรากฎอยู่ใน Air Waybill ซึ่งบริษัทสายการบิน จะต้องส่งมอบสินค้าให้เมื่อถึงท่าเมืองปลายทางตามที่ระบุไว้ บริษัทตัวแทน หรือ IATA CARGO AGENT คือบริษัทที่ได้การรับรองจากสมาคมการขนส่ง ทางอากาศระหว่างประเทศและแต่งตั้งโดยบริษัทสายการบิน ให้ดำเนินการรับและออกเอกสารกำกับ สินค้า Air Waybill พร้อมทั้งเก็บค่าขนส่งที่เกี่ยวข้องในนามของบริษัทสายการบิน ศุลกากร (Customs)
9 เอกสารสำหรับการนำเข้าสินค้า 1. ใบขนสินค้าขาเข้า (Import Declaration) เอกสารที่ใช้แสดงรายละเอียดต่อกรมศุลกากร เพื่อการชำระภาษีอากร ซึ่งระบุรายละเอียดของสินค้าที่นำเข้า 2. ใบตราส่งสินค้าทางอากาศ (AWB-Air Way Bill) เป็นเอกสารกำกับสินค้า โดยมีหลักฐาน ในการขนส่งสินค้าที่ทำขึ้นในลักษณะของสัญญา การขนส่งสินค้าระหว่างผู้ส่งออกกับผู้ทำการขนส่ง โดยมีผู้รับสินค้าเป็นบุคคลที่สามที่ทำให้สัญญาการขนส่งสมบูรณ์ สัญญานี้จะครอบคลุมตั้งแต่จุดรับ มอบสินค้า ณ สนามบินต้นทาง จนถึงจุดส่งมอบสินค้าปลายทางของ สินค้าทุกประเภท Air Waybill แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ได้แก่ 2.1 House Air Waybill เอกสารการขนส่งสินค้าทางอากาศที่ออกโดยบริษัทนายหน้าขาย Freight ที่รวมสินค้าของ ผู้ประกอบการหลายรายไว้ด้วยกัน แต่มีเพียง Master Air Waybill 1 ฉบับ คลุมการขนส่งเท่านั้น 2.2 Master Air Waybill เป็นเอกสารการส่งสินค้าทางอากาศที่ออกโดยสายการบินที่ส่งสินค้า ซึ่งเป็นตัวแทน รับผิดชอบต่อความเสี่ยงภัยของสินค้าระหว่างการขนส่ง
10 ตัวอย่าง Master Air Waybill ภาพที่ 2.1 ตัวอย่าง Master Air Waybill
11 ตารางที่ 2.1 คำอธิบาย Master Air Waybill ส่วนที่ คำอธิบาย 1 ชื่อและที่อยู่ของผู้ส่งออก 2 ชื่อและที่อยู่ของผู้รับของ 3 ตัวย่อของสนามบินต้นทาง 4 ตัวย่อของสนามบินปลายทาง 5 มูลค่าของสินค้าสำหรับผลประโยชน์ลูกค้า 6 คำสั่งซื้อพิเศษสำหรับการขนส่ง 7 จำนวนชิ้น 8 น้ำหนักรวมของสินค้าที่ชั่งได้ 8A หน่วยกิโลกรัมหรือปอนด์ 9 น้ำหนักสำหรับคำนวณค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศ 9A ค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศ 9B ค่าใช้จ่ายทั้งหมด 10 คุณสมบัติและปริมาณของสินค้า 11 ลายมือชื่อของผู้ส่งออกหรือตัวแทน 12 วันที่ลงลายมือชื่อ 13 สถานที่ที่ลงลายมือชื่อ 14 ลายมือชื่อของสายการบินหรือตัวแทน 3. บัญชีราคาสินค้า (Invoice) เป็นเอกสารที่แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับสินค้าต่าง ๆ ตัวอย่าง เช่น รายละเอียดของสินค้า จํานวน นํ้าหนัก ราคา 4. บัญชีรายละเอียดบรรจุหีบห่อ (Packing List) คือ เป็นเอกสารแสดงรายละเอียดของที่ บรรจุในแต่ละหีบห่อสินค้า รายการในบัญชีบรรจุหีบห่อจะทำให้มีความสะดวกในการตรวจปล่อย สินค้า 5. ใบอนุญาตสำหรับสินค้าควบคุมการนำเข้า (Import License) (ถ้ามี) 6. ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificates of Origin) ใช้ในกรณีขอลดอัตราอากรขาเข้า 2.3 แนวคิดแบบลีน (Lean Thinking) คำว่า ลีน (Lean) แปลตรงตัวได้ว่า เพรียวหรือบาง หากอยู่ในบริบทของการออกกำลัง หมายถึงคนที่มีไขมันน้อย เช่นเดียวกันเมื่อนำแนวคิดแบบลีนมาใช้กับธุรกิจ จึงหมายถึง “การลด”
12 ตั้งแต่ต้นทุน ลดคนทำงาน ไปจนถึงลดขั้นตอนและกระบวนการทำงานที่ไม่สร้างมูลค่า ตัดส่วนที่ไม่ จำเป็นออกไป ภายใต้เงื่อนไขเรื่องประสิทธิภาพ ที่ต้องได้เท่าเดิมหรือมากขึ้น แต่ไม่น้อยลง แนวคิดแบบลีนเริ่มเป็นที่รู้จักช่วงปี 1980 ในอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ของโตโยต้า โดยการ เอาแนวคิดของลูกค้าเป็นที่ตั้ง อะไรที่ลูกค้าไม่ต้องการก็เอาออก เพื่อเป็นการกำจัดความสูญเปล่า ลด ต้นทุนการผลิตให้ต่ำที่สุดในระยะที่เร็วที่สุด โดยคงคุณภาพและการบริการเอาไว้ได้ดีเหมือนเดิม Lean Manufacturing คือ แนวคิดการดำเนินงาน โดยการตัดหรือลีนสิ่งไม่จำเป็นเพื่อให้ได้ ประสิทธิภาพสูงสุด หรือที่เรียกว่าการลด “Wastes” หรือ ความสูญเปล่าในการดำเนินงานออกไป เป็นวิธีการลดต้นทุนที่ทุกองค์กรไม่ว่าอยู่ในอุตสาหกรรมไหนก็ปรับใช้ได้หมด ครอบคลุมทุกภาคส่วน ถือเป็นหนึ่งในแนวทางปรับปรุงการทำงานที่เห็นผลและจับต้องได้ ความสูญเปล่า หรือ Waste คือ สิ่งที่ไม่จำเป็นในระบบการผลิต หรือ สิ่งที่ไม่ทำให้เกิดผล ประโยชน์ หรือกำไร สิ่งที่ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิต หรือการทำงานลดลง และสิ่งที่ส่งผลทำให้ ต้นทุนสูงขึ้น หรือทำให้ขาดทุน ด้วยเช่นกัน ความสูญเปล่า หรือ Waste มีหลายประเภท มีทั้งแบบที่ สามารถมองเห็นด้วยสายตา และที่แอบแฝงมาในระบบ ที่ไม่อาจจะมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งเกิดมา จากใน ระบบการผลิต, การประกอบ, การขนส่ง, เครื่องจักร หรือแม้กระทั่ง สิ่งแวดล้อมในการทำงาน แนวคิดในการกำจัดความสูญเปล่า หรือ Waste หรือในภาษาญี่ปุ่น จะเรียกว่า “MUDA” โดยความ สูญเปล่านั้นแบ่งประเภทออกเป็น 8 ประการ หรือ 8 Waste ได้แก่ 1. ความขาดตกบกพร่อง (Defects) หรือผิดพลาดที่นับเป็นความสูญเปล่าอย่างหนึ่งก็เพราะ เมื่อความขาดตกบกพร่องเกิดขึ้นจะกระทบกับ เวลา เงิน ทรัพยากร รวมไปถึงความพึงพอใจของลูกค้า ด้วย เพราะต้องแก้งานใหม่ หรือหากมองให้ง่ายมันเกี่ยวข้องโดยตรงกับ “คุณภาพ” ของสินค้าหรือ บริการ 2. การผลิตที่มากเกินไป (Overproduction) การผลิตสินค้าหรือประกอบสินค้าที่มากกว่า ความต้องการของกระบวนการถัดไป รวมไปถึงการผลิตสินค้าที่มากกว่าความต้องการของตลาด การที่ ทำการผลิตมากเกินกว่าความจำเป็นนั้น จะส่งผลให้เกิดต้นทุนที่เกินความจำเป็นขึ้น ทั้งค่าใช้จ่ายของ วัตถุดิบ ค่าแรง และค่าใช้จ่ายอื่นๆ เป็นต้น 3. การรอคอย (Waiting) การรอคอยรวมถึงการรอคอยของคน หรือการรอคอยของ เครื่องจักรที่ยังไม่ได้ปฏิบัติงาน (Idle Time) การรอคอยเหล่านี้ไม่ได้ทำให้เกิดคุณค่าต่อองค์กรจึง นับเป็นความสูญเปล่า ทำให้งานที่จำเป็นต้องทำจริงถูกเลื่อนไปอยู่ในช่วงการทำงานล่วงเวลา มีการ พูดกันว่า “การรอคอย” ถือเป็นความสูญเปล่าที่ตรงข้ามกับ “การผลิตมากเกินไป” ซึ่งส่วนใหญ่มี สาเหตุมาจากการออกแบบกระบวนทำงานที่ไม่ดี
13 4. ใช้ทรัพยากรบุคคลไม่เต็มประสิทธิภาพ (Non-Utilized Talent) การที่องค์กรไม่ยอม พัฒนาบุคลากร และไม่ฟังความคิดเห็นของทีมงาน การที่องค์กรไม่สามารถดึงศักยภาพความสามารถ ของพนักงานออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ หรือการที่องค์กร เลือกใช้พนักงานไม่ถูกต้องกับความสามารถ ของพนักงาน หรือ พนักงานขาดความรู้ความสามารถในงานที่ทำ ก็สามารถส่งผลให้เกิดความสูญเสีย จากกระบวนการผลิตได้ เช่น ส่งส่งผลทำให้เครื่องจักร หรืออุปกรณ์เสียหายได้ หรือทำให้เกิดอุบัติเหตุ จนเกิดความเสียหายรุนแรง ตัวอย่างการใช้ทรัพยากรบุคคลที่ทำให้งานไม่มีประสิทธิภาพ 5. การเคลื่อนย้าย (Transportation) การเคลื่อนย้ายที่เป็นความสูญเปล่า คือการเคลื่อนย้าย ของวัสดุหรือเครื่องจักร รวมถึงการเคลื่อนย้ายของแรงงานคนที่ไม่คุ้มค่า โดยมากเกิดจากการ ออกแบบผังโรงงานหรือออฟฟิศได้ไม่ดีพอ เมื่อการเคลื่อนย้ายที่เป็นความสูญเปล่าเกิดขึ้นอาจนำมาซึ่ง ความสูญเปล่าอื่น ๆ ด้วย 6. กระบวนการส่วนเกิน (Excess Processing) การออกแบบที่ไม่ดีพออาจมีสาเหตุมาจาก การบริหารจัดการ การแบ่งหน้าที่การทำงาน หรือการสื่อสารกันระหว่างบุคคลที่ไม่ดีพอ นอกจากเรื่อง คนแล้ว มีเรื่องของการออกแบบอุปกรณ์ เครื่องมือหรือเครื่องจักรด้วยที่เป็นตัวกำหนดกระบวนการ ต่าง ๆ อีกทีหนึ่ง 7. สินค้าคงคลัง (Inventory) สินค้าคงคลังก็นับเป็นความสูญเปล่าอย่างหนึ่ง เพราะต้องมีค่า การเก็บรักษาและดูแล โดยเฉพาะพวกวัตถุดิบและสินค้าพร้อมขาย ปัจจัยที่นำมาซึ่งสินค้าคงคลังเกิน กว่าที่ควรจะเป็นสามารถมองได้เป็นสองมุมมองดังนี้ 7.1 ขาดการคำนึงถึงปริมาณการจัดซื้อทำให้จัดซื้อวัตถุดิบที่มากเกินไป รวมไปถึงการ ประมาณการและการวางแผนที่ผิดพลาดของยอดสั่งซื้อสินค้า 7.2 การเชื่อมโยงที่ไม่สมบูรณ์ของกระบวนการระหว่างการผลิตและแผนการจัดซื้อ 8. การเคลื่อนไหว (Motion) การเคลื่อนไหวนี้ไม่รวมถึงวัตถุดิบ แต่เน้นเฉพาะพนักงานและ เครื่องมือเป็นหลัก การทำงานของ คน หรือ เครื่องจักร มีการเคลื่อนไหว ที่มากเกินความจำเป็น การ เคลื่อนไหวที่เกินความจำเป็นนั้น สามารถส่งผลให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลงได้ อาจจะทำให้ ชิ้นงานมีคุณภาพที่ไม่สม่ำเสมอได้ เช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องสูญเสียเวลาเกินความจำเป็น https://theleanway.net/The-Five-Principles-of-Lean 2.4 ทฤษฎีและแนวทางการวิเคราะห์เมกิกามิ (Makigami Analysis) เมกิกามิ เป็นคําที่มาจากภาษาญี่ปุ่น แปลว่า กระดาษม้วน ดังนั้นการวิเคราะห์เมกิกามิ (Roll Paper Analysis) จึงเป็นวิธีการวิเคราะห์ที่มีต้นกําเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น ใช้เป็นเครื่องมือในการ วิเคราะห์ความสูญเสียในแตละขั้นตอนของการปฏิบัติงาน ตามสภาพความเป็นจริงในสํานักงานโดย
14 การ เขียนขั้นตอนการทํางานลงในกระดาษขนาดใหญ่แล้วนํามาต่อกันทําให้มองเห็นความสูญเสียที่ ซ้อนเร้น อยู่ในแต่ละขั้นนตอนของการการปฏิบัติงานได้อย่างชัดเจน โดยจะทําการวิเคราะห์โดย ผู้ปฏิบัติงานทั้งหมดและผู้ที่มีเกี่ยวข้องกับงานนั้นด้วย ซึ่งจะแสดงให้เห็นถึงระบบงานในปัจจุบันอย่าง แท้จริงแล้วนํามาทําการปรับปรุงแก้ไขเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและทําให้การปรับบปรุงกระบวนการหรือ การปฏิบัติงานนั้น จําเป็นต้องมีการจัดทําระบบใหม่ที่สอดคล้องกับการทําหน้าที่ที่ซับซ้อนมากขึ้น ใน การวิเคราะห์ถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน ขั้นตอนการวิเคราะห์Makigami มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ 1. กําหนดหัวข้อเรื่องที่จะปรับปรุง - ตรวจสอบงานในหน่วยงานสนับสนุนและกําหนดหัวขอเรื่องที่จะปรับปรุง - เขียนหน้าที่ (วัตถุประสงค์) และแนวทางของงานธุรการที่จะปรับปรุง 2. เขียนความเปนมาและจุดมุ่งหมาย - สํารวจความเป็นมาหรือความจําเป็นของการปรับปรุง - กําหนดขอบเขตของการปรับปรุง 3. สํารวจสภาพปัจจุบัน (จัดทําตารางการวิเคราะห์เมกิกามิ) - ทราบถึงระบบทั้งหมดด้วยการทําแผนผังทางเดินของระบบงาน (Flowcharting) - กําหนดกระบวนการและแสดงการไหลของงานธุรการ - แสดงสภาพที่แท้จริงดวยการใช้ใบเอกสารของจริงเพื่อให้เห็นการไหลของงานใน หน่วยงาน สนับสนุนน - ปรับปรุงโดยบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับงานธุรการนั้น 4. รวบรวมและค้นหาปัญหาต่างๆ - รวบรวมผลลัพธ์และปัจจัยของงานธุรการนั้น เช่น ประเภทและปริมาณของงานเอกสารที่ใช้ - ค้นหาปัญหาที่เป็นรูปธรรมที่อยู่ในกระดาษม้วน - รวบรวมปัญหาที่เป็นความสูญเสีย 8 ประการ 5. เสนอแผนการปรับปรุง - จัดทําแผนดําเนินการอย่างเป็นรูปธรรม - พิจารณาทั้งการทําให้งานธุรการมีประสิทธิภาพและการปรับปรุงหน้าที่ 6. การดําเนินการปรับปรุง - ออกแบบระบบใหม่หรือกําหนดกระบวนการใหม่ - ทําการเปลี่ยนแปลงการจัดวางสิ่งของเครื่องใช้รวมถึงโต๊ะทำงาน (Layout) หรือจัดทำสถานี การทํางาน (Line หรือ Work Station)
15 - ทําการปรับปรุงด้วยการทําสํานักงานอัตโนมัติหรือการนําเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ - ทําการปรับปรุงด้วยตนเอง เช่น การควบคุมดูแลด้วยการมอง 7. ยืนยันผลลัพธ์ - แสดงผลลัพธ์ในเชิงปริมาณด้วยกราฟ - อธิบายที่สถานที่จริงและทําการประเมิน (ทากาชิ โอซาดะ, อิสะโอะ โอคูมูระ 2550:27) ภาพที่ 2.2 ตัวอย่างเครื่องมือ Makigami 2.5 ทฤษฎีแนวคิดหลักการ ECRS แนวคิด ECRS คือทฤษฎีที่ช่วยลดความสูญเสียจากการที่ต้นทุนเกิดความเสียหาย หรือต้นทุน ที่ไม่ได้สร้างผลตอบแทนใด ๆ ให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มผลผลิตและกำไรให้มากขึ้น โดยชื่อ ของแนวคิดนี้มาจากการใช้ตัวอักษรย่อ 4 ตัวที่มาจากคำว่า Eliminate (การกำจัด) Combine (การ รวมกัน) Rearrange (การจัดใหม่) และ Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นส่วนหนึ่งของ หลักการที่เรียกว่า LEAN หรือที่หลาย ๆ คนอาจรู้จักกันว่าเป็นหลักการที่สนับสนุนให้มีการบริหาร จัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดขั้นตอนการทำงานที่ซ้ำซ้อน แนวคิดนี้ได้นำไ ปใช้ใน อุตสาหกรรมใหญ่ ๆ มากมาย และได้ผลอย่างเป็นรูปธรรม สามารถลดต้นทุนที่ไร้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของ ECRS ดังนี้
16 Eliminate (การกำจัด) กระบวนการนี้เป็นการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อลดต้นทุนและ ระยะเวลาการทำงาน ตัวอย่างเช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่มากเกินความจำเป็น หรือขั้นตอนการทำงานที่ ต้องใช้ทรัพยากรบุคคลมากเกินไป เราสามารถลดทอนขั้นตอนบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกได้ Combine (การรวมกัน) หากเรานำขั้นตอนในการทำงานบางขั้นมารวมให้เป็นขั้นตอนเดียวก็ จะช่วยให้ประหยัดเวลาในการทำงานและอาจช่วยลดจำนวนแรงงานได้ด้วย เช่น ระบบ Milk Run ซึ่ง เป็นระบบที่มีการรับและส่งสินค้าพร้อมกันในรอบเดียว ลดต้นทุนทั้งแรงงาน เวลา และน้ำมัน Rearrange (การจัดใหม่) การจัดลำดับความสำคัญในแต่ละขั้นตอนการทำงานขึ้นมาใหม่ ทำ ให้การทำงานง่ายขึ้น ประหยัดเวลาและทรัพยากรอื่น ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสการ เกิดความผิดพลาดในการทำงานขึ้นด้วย ในบางครั้งเมื่อเรานำขั้นตอนการทำงานมากางดูทั้งระบบแล้ว อาจพบว่าการเรียงขั้นตอนสลับกันเพียงหนึ่งขั้นอาจทำให้การทำงานล่าช้าไปได้มาก ดังนั้นหากเรามอง ภาพรวมและจัดระบบใหม่ก็จะช่วยแก้ปัญหาความสูญเปล่าของทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) หากวิธีหรือขั้นตอนในการทำงานมีความซับซ้อนเกินความ จำเป็นอาจทำให้องค์กรสูญเสียทรัพยากรที่มากเกินไปโดยใช่เหตุ การปรับปรุงวิธีการทำงานให้ง่ายขึ้น จะช่วยลดระยะเวลาการทำงานที่ยืดเยื้อและลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดจากการทำงาน เช่น การ เปลี่ยนที่จัดวางอุปกรณ์ในการทำงานใหม่ให้หยิบใช้สะดวกกว่าเดิม หรือจัดสถานที่ทำงานใหม่เพื่อ ลดทอนเวลาที่จะต้องเสียไป 2.6 ทฤษฎีแนวคิดแผนผังก้างปลา เครื่องมือ Fishbone Diagram เป็นเครื่องมือในการค้นหาสาเหตุและผลกระทบที่เกิดขึ้น ช่วยให้เราสามารถหาสาเหตุของข้อบกพร่องและความล้มเหลวในกระบวนการต่าง ๆ ในไทยนิยมเรียก สองแบบคือ แผนภูมิก้างปลา และ ผังก้างปลา หรือเรียกอีกชื่อว่า แผนภูมิอิชิกาวะ ( Ishikawa Diagram/Fishikawa) ตามชื่อผู้คิดค้น คือ คุณคาโอรุ อิชิกาวะ (Kaoru Ishikawa) ที่นำผังก้างปลามา ใช้ในการจัดการปัญหาและเพิ่มคุณภาพการผลิตสำหรับอู่ต่อเรือคาวาซากิในช่วงปี พ.ศ.2503 – พ.ศ. 2511 แผนภูมิก้างปลาเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ช่วยวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา เป็น กระบวนการที่มีโครงสร้างช่วยในการช่วยระบุปัจจัยพื้นฐานหรือสาเหตุของเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ การทำความเข้าใจถึงปัจจัยต่าง ๆ ที่เอื้อต่อการทำงานที่เป็นสาเหตุของความล้มเหลวของระบบ สามารถช่วยพัฒนาการดำเนินการที่สนับสนุนการแก้ไขได้ ผังก้างปลา ตามชื่อเป็นแผนภาพที่เลียนแบบโครงกระดูกปลา ปัญหาพื้นฐานถูกวางไว้ในหัว ของปลา (หันหน้าไปทางขวา) และสาเหตุจะขยายไปทางซ้ายเช่นเดียวกับโครงกระดูก ก้างปลาแต่ละ
17 ก้างแสดงถึงสาเหตุสำคัญ ในขณะที่ก้างย่อยแสดงถึงสาเหตุของแต่ละสาเหตุสำคัญ โครงสร้างของผัง ก้างปลาสามารถแตกแขนงออกไปได้หลายระดับตามความจำเป็นเพื่อหาสาเหตุของปัญหา หลักการใช้งาน Fishbone Diagram การใช้งานแผนภูมิก้างปลาเพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริงของปัญหา มีจุดมุ่งหมายเพื่อหาถึง ความสัมพันธ์ที่สำคัญระหว่างตัวแปรต่างๆ เป็นการใช้เพื่อออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาเดิมที่ เคยเจอ นอกจากนี้ยังใช้ในการป้องกันข้อบกพร่องด้านคุณภาพแรกเริ่มเราต้องระบุถึงปัจจัยที่ส่งผลต่อ การเปลี่ยนแปลง “ปัญหาที่พบเจอ หรือ สิ่งที่อยากแก้ไข” ในส่วนหัวของปลาให้ได้ก่อน หลังจากนั้น คุณจึงเริ่มหาถึงปัจจัยที่เอื้อให้เกิดสิ่งเหล่านั้น สาเหตุหลักของปัญหาแต่ละส่วน รวมถึงสาเหตุรอง ถ้า คุณยังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนแนะนำให้นำผังก้างปลามาใช้คู่กับโมเดลการวิเคราะห์ตามกลุ่ม อุตสาหกรรมที่เราอยู่ 6Ms สำหรับการผลิต สำหรับอุตสาหกรรมการผลิต โรงงานอุตสาหกรรม คุณอิชิกาวะได้อธิบายถึงปัจจัยที่นำไปสู่ การเปลี่ยนแปลงและปัจจัยที่เอื้อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ว่า 6Ms ในโลกของการผลิต ประกอบด้วย • Manpower : กำลังคน/แรงงาน • Method : วิธีการ • Machine : เครื่องจักร • Material : วัสดุ • Mother Nature : สภาพแวดล้อม • Measurement : การวัดผล ภาพที่ 2.3 ตัวอย่างแผนผังก้างปลา
18 2.7 แผนภูมิกระบวนการไหล (Flow Process Chart) แผนภูมิกระบวนการไหล (Flow Process Chart) คือ เครื่องมือที่ใช้ ในการบันทึกข้อมูล ซึ่ง แยกแยะขั้นตอนของกระบวนการผลิตไว้อย่างชัดเจน โดยเริ่มบันทึกตั้งแต่วัตถุดิบเคล่ือนเข้าสู่ สายการผลิต และบันทึกขั้นตอนหรือ กิจกรรมต่าง ๆ ท่ีเกิดขึ้นบนวัตถุดิบนั้น (Kingkaew, 2005) เพื่อ นำมาวิเคราะห์ ขั้นตอนการไหลของวัตถุดิบ ชิ้นส่วน พนักงานและอุปกรณ์เคลื่อนที่ไปใน กระบวนการ พร้อม ๆ กับกิจกรรมต่าง ๆ เป็นแผนภูมิที่ใช้จำแนกกิจกรรม ออกเป็น 5 ประเภท โดยเริ่มจาก กิจกรรมที่มีมูลค่าเพิ่มไปจนถึงกิจกรรม ที่ไม่ก่อให้เกิดมูลค่า ผ่านสัญลักษณ์มาตรฐาน 5 ตัว ซึ่งกำหนด โดย ASME (American Society for Mechanical Engineering) ในสหรัฐอเมริกา (Singhtaun, 2010) ซึ่งจะช่วยให้สามารถแยกแยะกิจกรรมของพนักงานออกจากกิจกรรมที่ทำบนผลิตภัณฑ์ ทำให้ มองเห็นจุดสำคัญในการวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจน 2.8 ข้อมูลบริษัท บริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด เกิดจากการร่วมมือกันในการท าการควบรวม ธุรกิจระหว่างบริษัท เอนวายเค โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด ที่มีประสบการณ์ทางด้านการขนส่งทาง บกเป็นระยะเวลาอันยาวนานถึง 126 ปีและบริษัท ยูเซ็น แอร์แอนด์ซี เซอร์วิส (ประเทศ ไทย)จำกัด ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านการให้บริการขนส่งทางอากาศเพื่อความเป็นผู้นำในธุรกิจโลจิสติกส์และ เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการอย่างครบวงจร บริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด มี กลุ่มของบริการหลักทั้งหมด 4 กลุ่มบริการ ดังนี้ 1. การขนส่งสินค้าครอบคลุมงานทางโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการด้านการ ขนส่ง สินค้าทั้งภายในและส่งออกนอกประเทศผ่านทางถนนทะเลและอากาศ 2. การจัดเก็บสินค้าดูแลและบริหารคลังสินค้าบริการลานพักตู้คอนเทนเนอร์บริการซ่อมบำรุง ตู้คอนเทนเนอร์ การให้บริการติดสลากสินค้าหรือบริการด้านบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งการกระจายสินค้า 3. บริการด้านพิธีการต่างๆที่เกี่ยวกับงานโลจิสติกส์ครอบคลุมงานพิธีการศุลกากร 4. บริการงานโลจิสติกส์ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการเสริมบริการเสนอโครงการนวัตกรรมใหม่ ทางโลจิสติกส์ บริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด มีพันธกิจ วิสัยทัศน์ ค่านิยมและ โครงสร้าง องค์กร ดังต่อไปนี้
19 พันธกิจ บริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีพันธกิจที่มุ่งมั่นในการพัฒนาเศรษฐกิจระดับ โลกและประโยชน์สูงสุดขององค์กร เพื่อให้ได้มาซึ่งความไว้วางใจจากลูกค้าโดยผ่านการ ให้บริการที่ ทันสมัยและเต็มเปี่ยมด้วยคุณภาพ วิสัยทัศน์ บริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด มีวิสัยทัศน์ที่จะเป็นผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ระ ดับโลกด้วยเครือข่ายและคุณภาพการให้บริการระดับสากล ค่านิยม – ลูกค้าคือศูนย์กลาง: เรามอบคุณค่าแห่งการบริการแก่ลูกค้าในฐานะผู้ให้บริการทางด้านโลจิ สติกส์อย่างครบวงจร – การบริหารคุณภาพและมุ่งเน้นสถานที่จริงในทางธุรกิจ: เราดำเนินงานอย่างมี คุณภาพโดย มุ่งเน้นการลงไปประสานติดตามงานกับผู้ผฏิบัติงานและบริหารจัดการศักยภาพในแต่ละหน่วยงาน อย่างเต็มที่ – การบริหารที่มุ่งเน้นด้านทรัพยากรบุคคล: เราให้ความสำคัญกับแรงบันดาลใจในการทำงาน ของพนักงานในฐานะผู้ปฏิบัติและให้บริการอย่างแท้จริง – การบริหารด้านสิ่งแวดล้อม: มุ่งมั่นในการปกปักรักษาสิ่งแวดล้อมและแสดงความ รับผิดชอบขององค์กรที่พึงมีต่อสังคม โครงสร้างขององค์กร เนื่องจากบริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทที่ให้บริการโลจิสติกส์อย่าง ครบวงจรที่อยู่ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท ยูเซ็นโลจิสติกส์ จำกัดที่ประเทศญี่ปุ่น จึงทำให้บริษัทมี คณะกรรมการบริษัทที่มีอำนาจสูงสุดในการดำเนินการของบริษัทมีผู้บริหารชาวญี่ปุ่นร่วมด้วย ดังต่อไปนี้ 1. มร โยชิฮิโระ ยามาอุจิ 2. มร โยชิฮิเดะ อิชิบาชิ 3. นางสาว เพียรพร สร้อยรยา 4. นาย นพดล สันติวรรักษ์ 5. นาย สมภพ หุ่นตระกูล
20 2.8 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ไพฑูรย์ พราวเนตร (2543) จากการศึกษาและทำวิจัยเรื่อง “การปรับปรุงประสิทธิภาพการ ผลิตของผลิตภัณฑ์สิ่งประดิษฐ์เรซิ่น” โดยมุ้งเน้นการลดความสูญเปล่าในการใช้วัตถุดิบและแรงงาน ซึ่งได้ทำการวิเคราะห์ปัญหาด้านการจัดองค์กรและแรงงาน กระบวนการผลิต การควบคุมการผลิต และการควบคุมคุณภาพ โดยการใช้เทคนิคทางด้านวิศวกรรมอุตสาหกรรม คือ การปรับปรุงผังโรงงาน และอุปกรณ์การขนย้าย การควบคุมการผลิตและการศึกษาเวลาการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพใน กระบวนการผลิต ซึ่งผลจากการปรับปรุงพบว่า สามารถลดการสูญเสียของเรซิ่นในแผนกหล่อ ลดการ สูญเปล่าจากการทำงานซ้ำซ้อนในกระบวนการเขียนสีและลดระยะทางในการขนย้ายลง ซึ่งส่งผลให้ ประสิทธิภาพในการผลิตเพิ่มมากขึ้นและการส่งมอบงานไม่ทันกำหนดลดลง ธนวรรณ อัศวไพศาล (2535) จากการศึกษาและทำวิจัยเรื่อง “การเพิ่มผลผลิตในโรงงานผลิต ของเล่นเด็กที่ใช้ขับขี่และเฟอร์นิเจอร์เหล็กโดยการปรับปรุงวิธีการทำงานและการวางแผน การผลิต ได้ทำการศึกษาการวางแผนการผลิตและปรับปรุงวิธีการทำงานในโรงงานผลิตเครื่องเล่นเด็กที่ใช้ขับขี่ โดยมีการจัดทำเวลามาตรฐานของผลิตภัณฑ์ ปรับปรุงวิธีการทำงานเพื่อลดเวลาไร้ประสิทธิภาพจัด วางผังโรงงานเพื่อลดเวลาและการสูณเสียจากการเคลื่อนย้าย จัดระบบควบคุมคุณภาพ การวางแผน ความต้องการใช้วัสดุ จากการศึกษาสามารถลดเวลาการผลิตและเสียลงได้ ในการวางแผนสามารถ กำหนดวันเวลาที่แม่นยำได้ยิ่งขึ้น สุนันท์ วิเศษสรรโชค (2534) จากการศึกษาและทำวิจัยเรื่อง “การเพิ่มผลผลิตใน อุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนโลหะของรถยนต์ โดยได้ทำการศึกษาปัญหาในการผลิตชิ้นส่วนโลหะของ รถยนต์ในประเทศและทำการปรับปรุงโดยอาศัยเทคนิคทางอุตสาหกรรมในด้านการศึกษาการทำงาน และการวางแผน การผลิตเพื่อหาแนวในการเพิ่มขึ้นและระบบการวางแผนการผลิตมีประสิทธิภาพ มากยิ่งขึ้น
21 บทที่3 วิธีการศึกษา งานวิจัยเรื่อง การปรับปรุงกระบวนการทำงานของงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศไทย) จำกัด เป็นงานวิจัยที่ศึกษาเพื่อหาความสูญเปล่าในกระบวนการทำงานและนำแนวคิดลีดมาประยุกต์ เพื่อกำจัดความสูญเปล่าในกระบวนการทำงาน ผู้วิจัยจึงมีวิธีดำเนินการวิจัยและนำเสนอ ดังนี้ 3.1 วิธีการดำเนินงานวิจัย 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.1 วิธีการดำเนินงานวิจัย โดยจะเริ่มศึกษากระบวนการทำงานในแต่ละขั้นตอนจากนั้นนําเอาข้อมูลการทำงานมา วิเคราะห์เพื่อหาความสูญเปล่าและหาวิธีกำจัดความสูญเปล่านั้น 3.1.1 ทำการศึกษาขั้นตอนการทำงาน โดยทำการศึกษาและฝึกทำจริงทุกขั้นตอนจากหน้า งานจริงเพื่อเก็บข้อมูลและนำข้อมูลทั้งหมดมาเรียบเรียงเป็นข้อๆ ไล่จากกระบวนการแรกจนถึง กระบวนการสุดท้ายพร้อมทั้งศึกษาเวลา ลีดไทม์ของกระบวนการทั้งหมด ใช้เวลา 2 เดือน หรือ 8 สัปดาห์ 3.1.2 วิเคราะห์กระบวนการทำงานเพื่อหาความสูญเปล่า ทำงาน โดยการนำเอาข้อมูลที่ ศึกษามาเขียนเป็นแผนผังก้างปลา ระบุปัญหาที่พบต่างๆในกระบวนการทำงานและเขียนเป็น Flow ให้เห็นการไหลของงานทั้งหมดพร้อมทั้งใส่เวลาการทำงานแต่ละขั้นตอน โดยใช้เครื่องมือ Makigami หรือ Roll paper และทำการวิเคราะห์แบ่งงานออกกเป็น 3 ประเภท 1) งานที่เพิ่มมูลค่า (Value Added : VA) 2) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่า (Non Value AAdded :NVA) 3) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็นต่อกระบวนการทำงาน (Necessary Non-Value Added : NNVA)
22 ภาพที่ 3.1 แผนผังก้างปลา 3.1.3 หาแนวทางการปรับปรุงและกำจัดความสูญเปล่าในกระบวนการ เมื่อนำเอา กระบวนการมาทำการวิเคราะห์แบ่งงานออกเป็น 3 ประเภทแล้ว จึงหาแนวทางปรับปรุงโดยใช้ แนวคิดการปรับปรุงขั้นพื้นฐาน คือ 3.1.3.1 กำจัดกระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้หมด 3.1.3.2 ลดกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (Non Value Added : NVA) ให้เหลือน้อย ที่สุด โดยใช้หลักการ ECRS (Eliminate, Combine, Rearrange, Simplify) เข้ามาใช้ในการปรับปรุง กระบวนการเพื่อกำจัดความสูญเปล่าและลดลีดไทม์ ในการทำงาน ใช้ระยะเวลา 2 สัปดาห์ 3.1.3.3 นำแนวทางไปปฏิบัติ เมื่อได้แนวทางในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน เพื่อกำจัด ความสูญเปล่าและลดลีดไทม์ ก็นำมาปฏิบัติจริง โดยใช้เวลา 2 สัปดาห์ 3.1.3.4 เก็บข้อมูลหลังการปรับปรุง หลังจากได้นำแนวทางไปปฏิบัติจริงแล้วทางผู้จัดจะทำ การเก็บข้อมูลทุกขั้นตอนจากหน้างานจริงและนำข้อมูลทั้งหมดมาเรียบเรียงเป็ยข้อๆ ไล่จาก กระบวนการแรกจนถึงกระบวนการสุดท้ายพร้อมทั้งจับเวลาและนำเอาข้อมูลทั้งหมดมารวบรวมเขียน Makigami หลังการปรับปรุงพร้อมทั้งดูลีดไทม์ของกระบวนการทำงาน รวมถึงเรื่องการส่งมอบงาน ล่าช้า เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาเปรียบเทียลกับช่วงเวลาก่อนปรับปรุงกระบวนการทำงาน โดยใช้เวลา 3.1.3.5 เปรียบเทียบ ก่อน/หลัง การปรับปรุง นำข้อมูลที่ได้ศึกษาก่อนปรับปรุงมา เปรียบเทียบกับข้อมูลที่เก็บมาได้หลังจากการปรับปรุง
23 3.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร คือ บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด กลุ่มตัวอย่าง คือ พนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์(ประเทศไทย)จำกัด 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา Makigami หรือ Roll Paper : โดยทางผู้จัดทำได้เลือกเครื่องมือนี้มาใช้วิเคราะห์กระบวนการ ทำงานตั้งแต่ต้นจนจบเพื่อดูภาพรวมของกระบวนการทำงาน พร้อมทั้งศึกษาช้อมูลต่างๆจาก กระบวนการดังนี้ 1. การไหลของงานในกระบวนการ 2. การแยกงานให้เป็นกลุ่มๆ 3. รายละเอียดของงานในแต่ละขั้นตอน 4. Lead Time ของกระบวนการ 5. แยกงานที่เพิ่มมูลค่ากับงานที่ไม่ดพิ่มมูลค่า 6. เครื่องมือที่ใช้ในกระบวนการแต่ละขั้นตอน ภาพที่ 3.2 ตัวอย่างเครื่องมือ Makigami โดยมีขั้นตอนในการทำ Makigami ดังนี้ 1. เริ่มจากการใส่ชื่อแผนกที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทำงาน
24 2. ใส่ข้อมูลขั้นตอนที่ได้ศึกษามาเขียน Flow ลงในตารางโดยกำหนดให้ คือ Flow ปกติ พร้อมกับแยกงานออกเป็น 3 ประเภท โดยใช้สัญลักษณ์สี งานที่เพิ่มมูลค่า (Value Added : VA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่า (Non Value AAdded :NVA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็นต่อกระบวนการทำงาน (Necessary Non-Value Added : NNVA) 3. ใส่ประเภทของงานว่างานประเภทอะไร คือ งานเอกสารหรืองานที่ใช้เอกสาร คือ งานที่ทำในระบบ คือ งานส่ง E-mail คือ การรอคอย คือ การขนส่ง 4. ใส่รายละเอียดของงานแต่ละขั้นตอน 5. ใส่เครื่องมือที่ใช้ในแต่ละขั้นตอน 6. ใส่เวลาลีดไทม์ที่ได้เก็บข้อมูลมา จากนั้นนำข้อมูลมาวิเคราะห์งานต่อเพื่อหาความสูญเปล่า
25 บทที่ 4 ผลการวิจัย การวิจัยเรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศ ไทย) จำกัด ทำขึ้นเพื่อศึกษาปัญหาและสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการการทำงาน ของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service เพื่อหาแนวทางการวิเคราะห์ความสูญเปล่าในกระบวนการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิ สติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service และ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไข และปรับปรุงกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service มีผลการวิเคราะห์ข้อมูล ผลสรุป และข้อเสนอแนะ ตัวหัวข้อ ดังต่อไปนี้ 4.1 ผลการวิเคราะห์กระบวนการ 4.2 สรุปผลก่อน - การปรับปรุงกระบวนการ 4.1 ผลการวิเคราะห์กระบวนการ จากการศึกษาขั้นตอนการทำงานและวิเคราะห์ความสูญเปล่าในกระบวนการการทำงานของ พนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service ได้ผล ดังนี้ 1. ผลการศึกษาขั้นตอนการทำงานในกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิ สติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service จากการศึกษาขั้นตอนการทำงาน พบว่ามีขั้นตอนอยู่ทั้งสิ้น 22 ขั้นตอน ดังนี้
26 ภาพที่ 4.1 แผนผังแสดงขั้นตอนกระบวนการการทำงานของพนักงาน แผนก Air import customer service โดยกระบวนการทั้งหมดเกี่ยวข้องกับ 3 หน่วยงาน จากการศึกษาพบว่า กระบวนการทั้งหมด มี 22 ขั้นตอน และในบางขั้นตอน เป็นขั้นตอนที่ไม่จำเป็นและส่งผลให้งานล่าช้า
ภาพที่ 4.2 Makigami ขั้นตอนกระบวนการการทำงานของพน
27 นักงาน แผนก Air import customer service ก่อนปรับปรุง
28 2. ผลการวิเคราะห์กระบวนการเพื่อหาความสูญเปล่าจากข้อมูลขั้นตอนการทำงานที่ศึกษามา เมื่อนำมาวิเคราะห์กระบวนการโดยใช้เครื่องมือที่เรียกว่า Makigami หรือ Roll Paper สามารถแบ่ง ขั้นตอนการทำงานออกมาได้ 2ประเภท ใหญ่ๆ คือ 2.1 Controllable Processes หรือกระบวนการที่ควบคุมได้ 2.2 Uncontrollable Processes หรือกระบวนการที่ไม่สามารถควบคุมได้โดยแต่ละกลุ่มมี จำนวนขั้นตอนดังนี้ ตารางที่ 4.1 จำนวนขั้นตอน Controllable Processes และ Uncontrollable Processes ใน กระบวนการ ประเภท จำนวนขั้นตอน Controllable Processes 16 Uncontrollable Processes 6 Total 22 ทางผู้จัดทำจึงนำขั้นตอนการทำงานที่เป็น Controllable Processes มาทำการวิเคราะห์ งานต่อ เพราะงานในประเภทนี้สามารถควบคุมและทำการปรับปรุงได้ โดยขั้นตอนที่เป็น Controllable processes มีดังนี้
29 ภาพที่4.3 แผนผังแสดงขั้นตอน Controllable processes จากนั้นผู้จัดทำจึงนำขั้นตอนทั้ง 16 ขั้นตอนนี้ มาวิเคราะห์งานว่าเป็นงานประเภทใดและ ได้ผลดังนี้ ล าดับขั ้นตอน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
30 โดยใช้สัญลักษณ์สีแทนแต่ละประเภท งานที่เพิ่มมูลค่า (Value Added : VA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่า (Non Value Added :NVA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็นต่อกระบวนการทำงาน (Necessary Non-Value Added : NNVA) ภาพที่ 4.4 ผลการวิเคราะห์ขั้นตอนการทำงานที่เป็น Controllable processes ล าดับขั ้นตอน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16
31 จากผลการวิเคราะห์งานพบว่าในขั้นตอนที่เป็น Controllable Processes มีงานที่เพิ่มมูลค่า 6 ขั้นตอน งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น 3 ขั้นตอน และความสูญเปล่า 7 ขั้นตอนทางผู้จัดทำได้ใช้ แนวคิดการปรับปรุงขั้นพื้นฐาน คือ 1. กำจัดกระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้มากที่สุด 2. ลดกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (Non-Value Added: NVA) ให้เหลือน้อยที่สุด ดังนั้นผู้จัดทำจึงเลือกขั้นตอนที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) และขั้นตอนที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่ จำเป็น (NVA) มาทำการศึกษาต่อเพื่อหาแนวทางการปรับปรุงโดยทำการออกแบบกระบวนการ ทำงานที่ กำจัดกระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้มากที่สุด และลดกระบวนการที่ไม่ เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (Non-Value Added: NVA) ให้เหลือน้อยที่สุด ดังนี้ ภาพที่ 4.5 แผนผังแสดงขั้นตอนการปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน
32 จากแผนภาพรูปที่ 4.5 จะเห็นได้ว่ามีการตัดขั้นตอนออกดังนี้ 1. ขั้นตอนการถ่ายเอกสารหลังรับงาน หลังจากรับงานมาจากลูกค้าแล้วต้องไปถ่ายเอกสาร เพื่อนำมาคีย์ข้อมูลได้ทำการตัดขั้นตอนนี้ออกเนื่องจากเป็นงานสูญเปล่าที่เสียเวลาและทำการแก้ไข โดยการใช้วิธีการเปิด 2 หน้าต่างคีย์แทนเพื่อลดเวลา 2. ขั้นตอนการตรวจเช็คเอกสาร ในขั้นตอนกระบวนการทำงานปกติจะต้องมีการตรวจ เอกสารก่อนคีย์ข้อมูลซึ่งทำให้เสียเวลาในการทำงาน ทำการแก้ไขโดยการตรวจและคีย์ข้อมูลไปพร้อม กัน เพื่อลดเวลาและขั้นตอนในการทำงาน 3. ขั้นตอนจัดชุดเอกสาร ในขั้นตอนกระบวนการทำงานปกติ จะต้องจัดเอกสารเป็น 4 ชุด เพื่อส่งไปยังคลัง AO ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรกระดาษและทำให้เสียเวลา ทำการแก้ไขโดยการตัด ขั้นตอนนี้แล้วนำเอกสารที่เช็คเกอร์ตรวจผ่านแล้วเซ็นลายมือชื่อเรียบร้อยแล้วไปสแกนเข้าอีเมลของ พนักงานและส่งเมลไปให้ Shipping ที่คลังเลย 4. ขั้นตอนการตรวจสอบด้วยตัวเอง ทำการแก้ไขโดยการตัดขั้นตอนนี้ออกแล้วให้เช็คเกอร์ เป็นผู้ตรวจสอบในครั้งเดียวเพื่อลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนและทำให้ลดเวลาในการทำงาน 5. ขั้นตอนการส่งเอกสารไปยัง AO โดยในขั้นตอนกระบวนการทำงานปกติ จะมีรถมารับ เอกสารตอน 16:00 น.ของทุก ๆ วัน ซึ่งทำให้สิ้นเปลืองทรัพยากรคนและเป็นขั้นตอนการทำงานที่สูญ เปลาอีกทั้งยังทำให้เสียเวลาในการทำงาน ทำการแก้ไขโดยการตัดขั้นตอนนี้ออกแล้วเปลี่ยนเป็นส่งเมล ไปแทน เพื่อลดระยะเวลาการรอเอกสารถึง AO สามารถตรวจสอบได้เร็วกว่าการที่รอเอกสารไปกับรถ หากมีข้อผิดพลาดก็สามารถส่งเมลกลับมาให้แก้ได้เลย ไม่ต้องรอวันถัดไป
เมื่อกำการปรับปรุง Controllable Processes โดยการออกแบบกระบวนกากระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (Non-Value Added: NVA) ให้เหลือน้อยที่สุด service ดังนี้ ภาพที่ 4.6 Makigami ขั้นตอนกระบวนการการทำงานของพนัก
33 ารทำงานที่ กำจัดกระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้มากที่สุด และลด จะได้ขั้นตอนกระบวนการทำงานของพนักงานแผนก Air import customer กงาน แผนก Air import customer service หลังการปรับปรุง
34 4.2 สรุปผลก่อน - การปรับปรุงกระบวนการ 4.2.1 ก่อนการปรับปรุง ขั้นตอนกระบวนการทำงานของพนักงานแผนก Air import customer service พบว่า 1. มีขั้นตอนกระบวนการทำงานทั้งสิ้น 22 ขั้นตอน 2. ต้องในเวลาในการทำงานตามขั้นตอนกระบวนการทั้งหมด 57 นาที 30 วินาที 3. มีการทำงานที่ มีงานเพิ่มมูลค่า 10 ขั้นตอน งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น 6 ขั้นตอน และ ความสูญเปล่า 6 ขั้นตอน 4.2.2 หลังจากการปรับปรุง 1. มีขั้นตอนกระบวนการทำงานทั้งสิ้น 16 ขั้นตอน 2. ต้องในเวลาในการทำงานตามขั้นตอนกระบวนการทั้งหมด 40 นาที 30 วินาที 3. มีการทำงานที่ มีงานเพิ่มมูลค่า 10 ขั้นตอน งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น 3 ขั้นตอน และ ความสูญเปล่า 3 ขั้นตอน จากการทดสอบพบว่าขั้นตอนการทำงานดังที่แสดงในภาพ 4.5 พบว่าเวลาในการทำงานจาก ปกติใช้เวลา 57 นาที 30 วินาทีหลังการปรับปรุงขั้นตอนการทำงาน ลดเหลือเพียง 40 นาที 30 วินาที เวลาในการทำงานตามกระบวนการทั้งหมดลดลงถึง 17 นาที ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ กระบวนการทำงานของพนักงานแผนก Air import customer service บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดียิ่งขึ้น ถึง 21.27%
35 บทที่ 5 สรุป อภิปรายผลและข้อเสนอแนะ การวิจัยเรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศ ไทย) จำกัด มีวัตถุประสงค์ในการทำคือเพื่อศึกษาปัญหาและสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นใน กระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service เพื่อศึกษาหาแนวทางการวิเคราะห์ความสูญเปล่าในกระบวนการทำงานของ พนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service และ เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขและปรับปรุงกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service โดยได้ทำการสรุปและอภิปรายผล ตาม หัวข้อดังต่อไปนี้ 5.1 สรุปผลการวิจัย 5.2 อภิปรายผลการวิจัย 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการวิจัย จากผลการวิจัยพบว่าขั้นตอนกระบวนการทำงานทั้งหมดมี 22 ขั้นตอน มีขั้นตอนการทำงาน ที่สูญเปล่า และไม่เพิ่มมูลค่า 6 ขั้นตอน เวลาในการทำงานทั้งหมด 57 นาที 30 วินาที หลังการ ปรับปรุงขั้นตอนการทำงานโดยกำจัดกระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้มากที่สุด และลดกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จําเป็น (Non-Value Added: NVA) ให้เหลือน้อยที่สุด ทำให้ หลังการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการทำงานเหลือขั้นตอนการทำงาน 16 ขั้นตอน และเวลาในการ ทำงานลดเหลือเพียง 40 นาที 30 วินาที เวลาในการทำงานตามกระบวนการทั้งหมดลดลงถึง 17 นาที อีกทั้งการลดขั้นตอนการทำงานที่สูญเปล่า หรือไม่จำเป็นออกจากขั้นตอนกระบวนการทำงานเป็นการ ลดการทำงานที่ซ้ำซ้อนกันของพนักงานแต่ละตำแหน่งทำให้สามารถวางแผนจัดการการทำงานได้ อย่างเป็นระบบ มีหน้าที่แต่ละขั้นตอนที่ชัดเจน ช่วยให้สามารถตรวจสอบความถูกต้องและแก้ไข ข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว ตรงจุด สามารถวัดผลและประเมินการทำงานได้ง่าย ช่วยให้วางแผน ระบบการทำงานได้อย่างเหมาะสม ในด้านของคุณภาพงานจะได้งานที่ตรงตาม วัตถุประสงค์และมี ความถูกต้องและจัดทำได้รวดเร็วตามระยะเวลาที่กำหนดให้ด้านของปริมาณงานการปรับ ขั้นตอน กระบวนการทำงานนี้จะช่วยให้สามารถทำงานได้เพิ่มมาขึ้น ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ทำงานของพนักงานแผนก Air import customer service บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ดียิ่งขึ้น ถึง 21.27%
36 5.2 อภิปรายผลการวิจัย การวิจัยเรื่อง การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศ ไทย) จำกัด สามารถอภิปรายผลการทดลองได้ดังนี้ 5.2.1 ปัญหาและสาเหตุของความสูญเสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการการทำงานของพนักงาน บริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service เกิดจาก กระบวนการทำงานที่ซ้ำซ้อนกัน จึงทำให้เสียเวลาและทรัพยากรในการทำงานบางขั้นตอนโดยไม่ จำเป็น 5.2.2 แนวทางการวิเคราะห์ความสูญเปล่าในกระบวนการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โลจิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service สามารถทำได้โดยการแบ่ง ประเภทของงานออกเป็น 3 ประเภทคือ งานที่เพิ่มมูลค่า (Value Added : VA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่า (Non Value Added :NVA) และ งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็นต่อกระบวนการทำงาน (Necessary Non-Value Added : NNVA) เพื่อให้สามารถจัดประเภทและจัดการงานที่สูญเปล่าออกจาก กระบวนการทำงานได้ 5.2.3 แนวทางในการแก้ไขและปรับปรุงกระบวนการการทำงานของพนักงานบริษัท ยูเซ็น โล จิสติกส์ (ประเทศไทย)จำกัด แผนก Air import customer service สามารถทำได้โดย กำจัด กระบวนการที่เป็นความสูญเปล่า (Waste) ออกให้มากที่สุด และลดกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่ จำเป็น (Non-Value Added: NVA) ให้เหลือน้อยที่สุด 5.3 ข้อเสนอแนะ 5.3.1 ข้อเสนอแนะในงานวิจัย องค์กรที่สนใจต้องการจะนำผลการศึกษานี้ไปใช้ในการปรับกระบวนการทำงานในบริษัท สามารถนำผลการศึกษาไปใช้ได้ดังนี้ 5.3.1.1 ทำความเข้าใจในขั้นตอนการทำงานในแต่ละขั้นตอนเพื่อให้ทราบอย่างแน่ชัดว่า ขั้นตอนนั้น ๆ ทำไปเพื่อจุดประสงค์ใด และสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเมื่อต้องการจะปรับปรุงขั้นตอนการ ทำงานคือ การวิเคราะห์งานว่าเป็นงานเพิ่มมูลค่า (VA) งานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (NVA) หรือความ สูญเปล่า (Waste) เพื่อให้สามารถวางแผนการจัดการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการทำงานได้อย่าง ถูกต้องเหมาะสม 5.3.1.2 แนวทางที่ง่ายและเห็นผลชัดที่สุดในการปรับปรุงขั้นตอนกระบวนการทำงานคือการ ให้ความสำคัญกับงานที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (NVA) หรือความสูญเปล่า (Waste) เป็นหลัก โดย แนวทางการปรับปรุงเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพคือ การกำจัดกระบวนการที่เป็นความสูญเปล่าที่ควบคุม ได้ออกให้หมดและลดขั้นตอนในการทำงานของกระบวนการที่ไม่เพิ่มมูลค่าแต่จำเป็น (NVA) ให้เหลือ น้อยที่สุด จะสามารถช่วยลดความซ้ำซ้อนในการทำงานในแต่ละตำแหน่งและช่วยลดเวลาในขั้นตอน กระบวนการทำงานทั้งหมดได้