การลดปริมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บสินค้า กรณีศึกษา : บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย วัชรพล ชาวสวนกล้วย รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2565 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
การลดปริมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บสินค้า กรณีศึกษา : บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย วัชรพล ชาวสวนกล้วย รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ชื่องานวิจัย การลดปริมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บสินค้า กรณีศึกษา : บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย ชื่อนักศึกษา นาย วัชรพล ชาวสวนกล้วย รหัสนักศึกษา 116310509508-2 ปริญญา บริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 อาจารย์ที่ปรึกษา ดร.กัญญ์กญิษฐ์ กมลกิตติวงศ์ รายงานวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต โดยผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการสอบวิจัย ดังมีรายชื่อต่อไปนี้ อาจารย์ที่ปรึกษา ………………………………………………. (ดร.กัญญ์กญิษฐ์ กมลกิตติวงศ์) รายงานวิจัยนี้ได้พิจารณาเห็นชอบโดย ประธานกรรมการ …………...………………………………… (ผศ.ดร. พุทธิวัต สิงห์ดง) กรรมการ …………...……………………............................ (ดร. ชาริณี พลวุติ) ลิขสิทธิ์ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี
ก ชื่องานวิจัย การลดปริมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บสินค้า กรณีศึกษา : บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ศูนย์กระจายสินค้าวังน้อย ชื่อนักศึกษา นาย วัชรพล ชาวสวนกล้วย รหัสนักศึกษา 116310509508-2 ปริญญา บริหารธุรกิจบัณฑิต หลักสูตร การจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ปีการศึกษา 2566 อาจารย์ที่ปรึกษา ดร.กัญญ์กญิษฐ์ กมลกิตติวงศ์ บทคัดย่อ การศึกษาวิจัยฉบับนี้จัดทำขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อลดปริมาณความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการ จัดเก็บสินค้า ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเปล่าจากการมีของเสียภายในกระบวนการจัดเก็บและศึกษาถึง ปัญหาที่ เกิดขึ้นภายในกระบวนการทำงาน เพื่อนำมาวิเคราะห์กระบวนการทำงานโดยใช้ไซพอค (SIPOC) และเขียน แผนภูมิการไหลของสินค้า ซึ่งจะมีการใช้แผนผังก้างปลามาวิเคราะห์สาเหตุของ ปัญหา และมาวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงานที่มีความสูญเปล่า (Defect) เกิดขึ้น จากนั้นใช้แผนภูมิพาเรโตมาใช้สำหรับการวิเคราะห์สาเหตุที่ก่อให้เกิดความสูญเปล่าหรือเกิดปัญหาที่ ก่อให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหายมาก ที่สุด เพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา และปรับปรุงข้อบกพร่องใน กระบวนการทำงานของพนักงานภายในศูนย์กระจายสินค้าให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นและลดจำนวนของ เสียที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน จากการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลสินค้าที่เกิดการชำรุดเสียหายภายในพื้นที่การ จัดเก็บแบบชั้นวาง (Selective Rack) จากปัญหา 3 สาเหตุ อันได้แก่ ปัญหาที่ 1 ปัญหาในเรื่องรูปแบบ การ จัดวางสินค้าบนพาเลทที่มีความเสี่ยงต่อการตกหล่นจากที่สูง ปัญหาที่2 ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บ สินค้า หลังจากการเบิกเสร็จสิ้น ไม่พันฟิล์มให้กับสินค้าแน่นหนาพอ ก่อให้เกิดสินค้าเสียหาย และปัญหา ที่ 3 ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บสินค้าที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนให้รอบคอบจึงทำให้พบเจอสินค้าหมดอายุ และ เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังการปรับปรุงกระบวนการทำงาน คิดเป็นมูลค่าก่อนการ ปรับปรุงมีมูลค่าประมาณ 1,450,007.58 บาท หลังการปรับปรุงมีมูลค่าประมาณ 326,653.34 บาท ซึ่งมีอัตราที่ ลดลงมา 1,123,354 บาท เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลก่อนปรับปรุงและหลังปรับปรุง กระบวนการทำงาน คำสำคัญ : ศูนย์กระจายสินค้า / การลดปริมาณสินค้าชำรุด /ความสูญเปล่า
ข Title Reducing the amount of damage caused by product storage Case study: CRC Thai Watsadu Company, Wang Noi Distribution Center Student Name Mr. Watcharapol Chaosuankluy Degree Bachelor of Business Administration (Logistics Management) Program Logistics and Supply Chain Management Academic Year 2023 Advisor Kankanit Kamonkitiwong (DBA) Abstract The purpose of this study is to reduce damage caused during storage. This leads to waste in the storage process and studies the problems that arise during the work process. Use SIPOC to analyze the workflow and draw a product flowchart. Use a herringbone diagram to analyze the cause of the problem. And analyze the problems that arise during the work process. Then, use Pareto charts to analyze the causes of the most waste or problems. To find a solution to the problem. Improve defects in the workflow of distribution center employees, improve efficiency, and reduce the amount of waste generated in the process. Work. From data collection and analysis of damaged goods within the area. Storing shelves (Selective Rack) from 3 causes of problems, including: Problem 1: Problems with storage formats Place products on pallets that are at risk of falling from heights. Problem 2: Problems with product storage After the withdrawal is completed Not wrapping film tightly enough on the product causing product damage, and the third problem is the problem of storing products that do not follow the steps carefully, resulting in expired products being found. and when comparing data before and after improving work processes The value before the improvement is approximately 1,450,007.58 baht. After the improvement, the value is approximately 326,653.34 baht, which has decreased by 1,123,354 baht when comparing the information before the improvement and after improving the work process. Keywords: distribution center/reducing defects/waste
ค กิตติกรรมประกาศ รายงานวิจัยนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี โดยได้รับความกรุณาและความช่วยเหลือเป็นอย่างดีจาก บุคคลหลายฝ่ายด้วยกัน ผู้เขียนจึงขอกราบขอบพระคุณทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ เริ่มจาก ท่านอาจารย์ที่ ปรึกษา ดร.กัญญ์กญิษฐ์ กมลกิจจิวงศ์ ซึ่งกรุณาเสียสละเวลาให้คำปรึกษาและคำแนะนำ รวมถึงการ แก้ไขข้อบกพร่อง เพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินการศึกษาจนปัญหาพิเศษฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์ ขอขอบพระคุณ คณาจารย์หลักสูตรบริหารธุรกิจ สาขาวิขาการจัดการโลจิสติกส์และซัพพลายเชนทุก ท่าน ที่ได้เสียสละเวลา ในการเป็นคณะกรรมการในการสอบและตรวจสอบความถูกต้อง พร้อมทั้งให้ คำแนะนำต่างๆ เพื่อให้รายงานวิจัยนี้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ตลอดจนขอขอบพระคุณ คุณอิดิศักส์ ประชานันท์ คุณปฏิภาณ กลิ่นเกลี้ยง และคุณสุรศักดิ์ กลิ่นพิกุล ที่กรุณาให้ความร่วมมือให้การ สัมภาษณ์สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี พร้อมทั้งการ แสดงความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ อันเป็นประโยชน์ยิ่ง ต่อการจัดทำรายงานวิจัยในครั้งนี้ วัชรพล ชาวสวนกล้วย ตุลาคม พ.ศ. 2566
ง สารบัญ หน้า บทคัดย่อภาษาไทย ก บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ข กิตติกรรมประกาศ ค สารบัญ ง สารบัญตาราง ฉ สารบัญภาพ ช บทที่ 1 บทนำ 1.1 ที่มาและความสำคัญของปัญหา 1 1.2 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 2 1.3 ขอบเขตของงานวิจัย 2 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 2 1.5 นิยามศัพท์ 2 บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 บริษัทกรณีศึกษา 4 2.2 แนวคิดและทฤษฎีการลดความสูญเปล่า (ECRS) 5 2.3 การวิเคราะกระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) 7 2.4 แผนภูมิกระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process Chart) 8 2.5 หลักการควบคุมปัจจัยการผลิตด้วย 5 ปัจจัยหลัก (4M 1E) 11 2.6 แนวคิดและทฤษฎีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 13 บทที่ 3 การดำเนินงานวิจัย 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน 16 3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล 18 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 18 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล 18 บทที่ 4 ผลการศึกษา 4.1 กระบวนการดำเนินงานก่อนปรับปรุง 20 4.2 การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน 31 4.3 สรุปผลการดำเนินงานหลังการปรับปรุง 32
จ สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 5 สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ 5.1 สรุปผลการศึกษา 35 5.2 ข้อจำกัดในการศึกษา 37 5.3 ข้อเสนอแนะ 37 บรรณานุกรม 39 ภาคผนวก 42 ภาคผนวก ก. อักขราวิสุทธิ์ 43 ประวัติผู้จัดทำโครงงานปริญญานิพนธ์ 48
ฉ สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า ตารางที่ 2.1 สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิต 9 ตารางที่ 4.1 แผนผังกระบวนการไหลของสินค้าในกระบวนการรับสินค้า ขาเข้าภายในคลังสินค้า 21 ตารางที่ 4.2 แผนผังกระบวนการไหลของสินค้าในกระบวนการจำหน่ายสินค้า ขาออกภายในคลังสินค้า 24 ตารางที่ 4.3 สาเหตุของปัญหาที่ก่อให้สินค้าชำรุดเสียหาย 29 ตารางที่ 4.4 ปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ปัญหา 30 ตารางที่ 4.5 การเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน 33 ตารางที่ 5.1 ข้อมูลสรุปจากการเปรียบเทียบก่อนและหลังการปรับปรุง 36
ช สารบัญภาพ รูปที่ หน้า ภาพที่2.1 สัญลักษณ์ต่างๆ ของแผนภูมิกระบวนการไหลของงาน (Flow process chart) 10 ภาพที่2.2 การทําแผนภูมิกระบวนการไหลของกระบวนการผลิต (Flow process chart) 11 ภาพที่2.3 โครงสร้างของแผนผังสาเหตุและผล (Fish Bone Diagram) 12 ภาพที่ 4.1 กระบวนการดำเนินการรับสินค้าขาเข้าภายในคลังสินค้า ด้วยการวิเคราะห์ กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) 20 ภาพที่ 4.2 กระบวนการดำเนินการจ่ายสินค้าขาออกจากคลังสินค้า ด้วยการวิเคราะห์ กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) 23 ภาพที่ 4.3 แผนผังก้างปลา (Fishbone Diagram 27
1 บทที่1 บทนำ 1.1 ที่มาและความสำคัญของปัญหา ปัจจุบันกิจกรรมด้านโลจิสติกส์มีส่วนสำคัญในการดำเนินธุรกิจให้เกิดการเจริญเติบโตด้วยการ จัด กิจกรรมหรืองานให้เกิดความสะดวกมากขึ้น การประกอบกิจการค้าขายที่เกี่ยวกับสินค้าชนิด ต่างๆ นั้น นับเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก ไม่ว่าสินค้าจะ เป็นผลผลิตทาง การเกษตร หรือผลผลิตทางอุตสาหกรรมประเภทใดก็ตาม คลังสินค้านับเป็น เครื่องมือที่สำคัญที่จะให้การ ประกอบธุรกิจค้าขายเกี่ยวกับสินค้าบรรลุผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ได้ โดยระบบคลังสินค้า ซีอาร์ซีไทวัสดุ เป็น คลังสินค้าและกระจายสินค้าสำหรับลูกค้าเฉพาะราย คลังสินค้า ซีอาร์ซีไทวัสดุ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เป็นพื้นที่จัดเก็บสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างและ สินค้าตกแต่งบ้าน ที่มีการควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานให้มีความปลอดภัยไม่ให้เกิดความ เสียหายของตัวสินค้า การควบคุมการปฏิบัติงานของพนักงานในคลังสินค้ามีผลต่อการจัดเก็บ การ เบิก ของสินค้าแต่ล่ะชนิดที่อยู่ในคลังสินค้า สินค้าบ้างชนิดจำเป็นต้องมีการใช้ความระมัดระวัง ค่อนข้างสูงเพื่อไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ตัวสินค้า ช่วยลดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บ หรือการเบิกสินค้า ช่วยให้สินค้าภายในคลังสินค้าเกิดความเสียหายน้อยที่สุด ลดกระบวนการเกิด ของเสียของสินค้าภายในคลังสินค้า เพื่อควบคุมความเสียหายของสินค้าที่เกิดขึ้นจากการจัดเก็บ หรือการเบิกสินค้า ทำให้คลังสินค้ามีความสำคัญกับผู้ประกอบการที่ เกี่ยวข้องกับสินค้าอุปกรณ์ ก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน แต่บางกระบวนการในการดำเนินการก็ส่งผลกระทบให้สินค้าชำรุด เสียหาย จากที่มาและความสำคัญข้างต้นผู้จัดทำเล็งเห็นความสำคัญของความเสียหายของสินค้าที่ เกิดขึ้น จึงได้ดำเนินการเลือกที่จะแก้ไขปัญหาสินค้าที่เกิดความเสียหายภายในศูนย์กระจายสินค้า ซีอาร์ซีไทวัสดุ ซึ่งมีที่ ตั้งอยู่ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีบริษัท บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้ควบคุมดูแลคลังสินค้าและกระจาย สินค้าทั้งหมดสู่สาขาต่างๆใน เครือซีอาร์ซี ไทวัสดุผู้จัดทำจึงเล็งเห็นปัญหาที่พบระหว่างการฝึกงาน จึงมีความสนใจที่จะศึกษาเรื่อง “การปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อลดปริมาณความเสียหายที่ เกิดขึ้นจากการจัดเก็บสินค้ากรณีศึกษา ศูนย์กระจายสินค้า ซีอาร์ซี ไทวัสดุ วังน้อย” เพื่อ ลด จำนวนสินค้าที่เกิดความเสียหายภายในคลังสินค้า โดยมีการนำหลักการควบคุมปัจจัยการผลิต 5 ปัจจัย หลัก (4M 1E) , แผนผังก้างปลา (Fishbone Diagram) , แผนภูมิพาเรโต (Pareto Diagram)
2 มาวิเคราะห์แก้ปัญหา โดยจะมีการนำการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอต (SIPOC) แผนผังกระบวนการไหล ของสินค้า (Flow Process Chart) มาใช้ ซึ่งการปรับปรุงแก้ไขจะมีการนำ วิธีการลดความสูญเปล่า 8 ประการ (8 Waste) ที่จะเน้นหลักการลดความสูญเปล่าจากการมีของ เสียมากเกินไป (Defect : D) มา แก้ไขและช่วยในการวิเคราะห์ปัญหาร่วมด้วย 1.2 วัตถุประสงค์ของการศึกษา 1.2.1 เพื่อศึกษาถึงกระบวนการดำเนินงานภายในศูนย์กระจายสินค้า 1.2.2 เพื่อศึกษาถึงปัญหาที่เกิดขึ้นภายในกระบวนการดำเนินงานที่ส่งผลให้เกิดสินค้าเสียหาย 1.2.3 เพื่อหาแนวทางในการลดจำนวนสินค้าที่เกิดความเสียหายภายในศูนย์กระจายสินค้า 1.3 ขอบเขตของงานวิจัย 1.3.1 ขอบเขตด้านเนื้อหา เพื่อศึกษากระบวนการทำงานของพนักงานที่มีหน้าที่ในการจัดเก็บ สินค้า เบิกสินค้า เพื่อ ศึกษาพฤติกรรมของพนักงานที่ทำงานภายในศูนย์กระจายสินค้า ซีอาร์ซีไท วัสดุ วังน้อย เพื่อศึกษาถึงต้นตอของ ปัญหาที่เกิดขึ้น ที่ส่งผลให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหายอย่างแท้จริง เพื่อนำมาเป็นข้อสรุปที่ใช้สำหรับแก้ปัญหาที่ เกิดขึ้น 1.3.2 ขอบเขตด้านประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร คือ พนังงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องใน พื้นที่ปฏิบัติงานและหัวหน้างานภายในบริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ศูนย์กระจาย สินค้า ซีอาร์ซี ไทวัสดุ วังน้อย กลุ่มตัวอย่าง คือ หัวหน้างานในแผนกควบคุมสต็อค (Inventory) รวมทั้งสิ้น 45 คน แบ่งเป็น หัวหน้าผู้จัดการฝ่าย จำนวน 8 คน พนักงานขับรถเคลื่อนย้ายสินค้า จำนวน 10 คน และพนักงาน ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 17 คน 1.3.3 ขอบเขตระยะเวลา ระยะเวลาในการทำวิจัยเริ่มต้นวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 – 27 ตุลาคม 256 1.3.4 ขอบเขตด้านสถานที่ บริษัท บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ศูนย์กระจายสินค้า ซีอาร์ซีไทวัสดุตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 13170 1.4 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.4.1 ทราบกระบวนการดำเนินงานภายในศูนย์กระจายสินค้า 1.4.2 สามารถปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนการจัดเก็บและเบิกสินค้าของพนักงานได้ 1.4.3 สามารถลดจำนวนสินค้าที่เกิดความเสียหายภายในศูนย์กระจายสินค้าได้ 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 1.5.1 ศูนย์กระจายสินค้า (WAREHOUSE) หมายถึง คลังสินค้าที่ทำหน้าที่ทั้งจัดเก็บสินค้าและ กระจายสินค้า ระหว่างผู้ผลิตและผู้ขายปลีก โดยอาจรวมถึงผู้ประกอบการทางด้านโลจิสติกส์ที่รับ
3 สินค้าจากผู้ผลิตแต่ละ รายมาเก็บในคลังสินค้าของตนเพื่อจัดการด้านการขนส่งสินค้าไปยังลูกค้า แทนผู้ผลิต 1.5.2 สินค้าชำรุดเสียหาย (DAMAGE PRODUCTS) หมายถึง สินค้าเกิดความชำรุดเสียหาย หรือเกิดข้อผิดพลาดในการ ทำงานของผลิตภัณฑ์ โดยการชำรุดของสินค้าดังกล่าวเกิดขึ้นจากการ กระทำของพนักงานภายในศูนย์กระจายสินค้า พนักงานขนส่ง จากกระบวนการการผลิตสินค้า ภายในโรงงาน จากการดำเนินงานของทาง สาขาเองและจากการใช้งานของลูกค้า 1.5.3 การจัดเก็บ (STORAGE) หมายถึง การจัดระเบียบและจัดวางสินค้าไว้ในคลังสินค้าเพื่อให้ พร้อมสำหรับ การผลิตในกระบวนการผลิต หรือขายให้กับลูกค้าได้สะดวกและรวดเร็ว 1.5.4 การเบิกสินค้า (PICKING GOODS) หมายถึง กระบวนการเคลื่อนย้ายสินค้าที่ถูกเก็บ รักษาไว้ในคลังสินค้าไปยังอีก ตำแหน่งหนึ่ง ซึ่งต้องอาศัยเครื่องมืออุปกรณ์และวัสดุในการขนย้าย ตลอดจนคำนึงถึงความเหมาะสมและ ความเป็นระเบียบ บางครั้งอาจเรียกว่า การขนถ่าย
บทที่ 2 แนวคิดทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ในการศึกษาครั้งนี้ ผู้ศึกษามีจุดมุ่งหมายเพื่อลดปริมาณสินค้าชำรุดเสียหายที่เกิดขึ้นจาก กระบวนการดำเนินงานบางอย่างที่เกิดข้อผิดพลาดส่งผลให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหายภายในศูนย์กระจาย สินค้า ของบริษัท ซีอาร์ซี ไทวัส จำกัด ศูนย์กระจายสินค้าไทวัสดุ วังน้อย โดยทำ การวิเคราะห์ในด้าน ต่าง ๆ เนื้อหาในบทนี้จะประกอบด้วยทฤษฎีและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 2.1 บริษัทกรณีศึกษา 2.2 แนวคิดและทฤษฎีการลดความสูญเปล่า (ECRS) 2.3 การวิเคราะกระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) 2.4 แผนภูมิกระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process Chart) 2.5 หลักการควบคุมปัจจัยการผลิตด้วย 5 ปัจจัยหลัก (4M 1E) 2.6 แนวคิดและทฤษฎีงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 บริษัทกรณีศึกษา บริษัท เซ็นทรัลเทรดดิ้ง หรือชื่อการค้า ห้างเซ็นทรัล ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2490 โดย เตียง จิ ราธิวัฒน์(นี่เตียง แซ่เจ็ง) และ สัมฤทธิ์ จิราธิวัฒน์ (ฮกเส่ง แซ่เจ็ง) บุตรชายคนโต เป็นร้านค้าตึกแถว ครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้นขนาด 1 คูหา ปากตรอกกัปตันบุช ย่านสี่พระยา จำหน่ายหนังสือ รวมทั้ง เสื้อผ้า สำเร็จรูป รองเท้า และ เครื่องสำอาง ทั้งสินค้าในประเทศและสินค้านำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก โดยเซ็นทรัล เป็นกิจการใหม่ ที่สานต่อจากกิจการร้านชำ เข่งเซ่งหลี ย่านบางขุนเทียน ของเตียง จากนั้นใน พ.ศ. 2499 เตียง ได้ร่วมทุนกับบุตรชายทั้งสามคน อันได้แก่ สัมฤทธิ์, วันชัย และ สุทธิพร เปิดทำการห้างสรรพสินค้าเต็มรูปแบบที่ย่านวังบูรพา อันเป็นจุดเริ่มต้นของการขยายสาขา อย่างรวดเร็ว ห้างเซ็นทรัลจึงได้จัดตั้ง เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น ขึ้นใน พ.ศ. 2533 เพื่อเป็นบริษัท สำหรับดูแลภาพรวมในกลุ่มธุรกิจค้าปลีกและเปิดให้บริการห้างสรรพสินค้าเซน (ปัจจุบันคือ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลแอทเซ็นทรัลเวิลด์) ต่อมาใน พ.ศ. 2538 บริษัทฯได้เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ใน ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน และในปีต่อมาได้เปิด ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งแรก และออฟฟิศดีโป ประเดิมสาขาในอาคารสำนักงาน เช่น สาขายูไนเต็ดเซ็นเตอร์ สีลม และในปี พ.ศ. 2540 ได้เปิดร้านขาย สินค้าเฉพาะทางได้แก่ เพาเวอร์บาย และซูเปอร์สปอร์ต ในปี พ.ศ. 2544 ได้เปิดร้านขายเครื่องเขียน ได้แก่ บีทูเอส สาขาแรกในห้างฯย่านบางนา กทม. คือ เซ็นทรัลพลาซา บางนา ต่อมาใน ปี พ.ศ. 2545 บีทูเอสเปิดสาขาในห้างฯต่างจังหวัดแห่งที่ 2 คือ สาขาโรบินสัน ศรีราชา นอกจากนี้ยังได้มีการเปิด ไท วัสดุแห่งแรกและเปิดโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์ในปี พ.ศ. 2553 บริษัทฯได้เข้าซื้อกิจการรีนาเชนเต ในประเทศอิตาลีในปี พ.ศ. 2554 และได้เข้าร่วมลงทุนใน แฟมิลี่มาร์ท ในประเทศไทยในปีถัดมา
5 บริษัทไทวัสดุ (thaiwatsadu) ศูนย์รวมวัสดุก่อสร้างที่ครบวงจร เป็นบริษัทในเครือเซ็นทรัล รี เทล คอร์ปอเรชั่น ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2553 โดยสาขาแรก คือ สาขาบางบัวทอง ที่เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ มีสินค้าคุณภาพจากแบรนด์ชั้นนำกว่า 50,000 รายการ ในตอนแรกไทวัสดุเริ่มต้นจากสินค้าสำหรับคนมี บ้านเพียงอย่างเดียว แต่ปัจจุบันไทวัสดุได้ขยายตลาดครอบคลุมไปถึงผู้ประกอบธุรกิจสร้างบ้าน ผู้รับเหมาขนาดกลางและขนาดย่อย ไปจนถึงเจ้าของโครงการอสังหาริมทรัพย์ ในปี 2557 บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล มุ่งเน้นการพัฒนาองค์ประกอบ ต่าง ๆ ของธุรกิจ ที่ได้ดำเนินการไว้ให้สำเร็จตามแผนงานอย่างรอบคอบ เพื่อวางรากฐานของธุรกิจไท วัสดุให้แข็งแกร่ง พร้อมที่จะรองรับการเติบโตในอนาคต ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยบริษัทได้ เปิดศูนย์กระจายสินค้าและสำนักงานแห่งใหม่ ตั้งอยู่ที่ ตำบลลำไทร อำเภอวังน้อย จังหวัด พระนครศรีอยุธยา เพื่อเพิ่มขีด ความสามารถในการกระจายสินค้าและเสริมความแข็งแกร่งในการ ดำเนินธุรกิจบริการด้านวัสดุก่อสร้างและสินค้าเบ็ดเตล็ด ที่มีอัตรา การเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดย กระบวนการจัดเก็บสินค้าได้มีการนำ ระบบการบริหารจัดการคลังสินค้า (Warehouse Management System : WMS) มาช่วยในการบริหาร จัดการคลังสินค้า สินค้าคงคลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพภายใน กระบวนการทำงาน ปัจจุบันไทวัสดุมีสาขาทั่วประเทศถึง 63 สาขา และยังไม่หยุดเติบโตด้วยการตั้งเป้าเปิดสาขา เพิ่มอีกในทุก ๆ ปี เพื่อให้คนไทยมีวัสดุก่อสร้างที่ได้คุณภาพไว้ใช้สร้างที่อยู่อาศัยที่ได้มาตรฐาน อยู่แล้ว ปลอดภัย ในราคาที่คุ้มค่า โดยสินค้าทุกชิ้นมีการรับประกัน แถมปัจจุบันไทวัสดุยังมีบริการสั่งของ ไท วัสดุ ออนไลน์ เพิ่มช่องทางการซื้อสินค้าที่สะดวกสบายมากขึ้น ( บริษัท ไทวัสดุ จำกัด ในเครือ เซ็นทรับรีเทล จำกัด 2557 ) 2.2 แนวคิดและทฤษฎีระบบ ECRS เมื่อกล่าวถึงการลงทุน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมแบบใด ต่างก็ต้องมีต้นทุนในการ ดำเนินงาน ต้นทุนในการดำเนินงานเหล่านี้ เรียกกันว่าปัจจัยสำหรับการผลิต ทั้งบุคลากร เครื่องจักร วิธีการ วัตถุดิบ หรือสภาพแวดล้อม หากปัจจัยเหล่านี้ไม่สามารถคงสภาพที่สมบูรณ์ไว้ได้ตลอด ต้องมี การ ดูแลรักษาหรือมีการบุบสลาย ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานและเกิดความสูญเปล่าบางสิ่ง บางอย่าง อาจ เป็นการดีกว่า หากผู้บริหาร ผู้ประกอบการ หรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องตระหนักถึงหนทาง แก้ปัญหาที่สามารถ ช่วยเหลือองค์กรให้ลดความสูญเสีย เป็นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง เพื่อความอยู่รอดและผล ประกอบการที่ดีขึ้นขององค์กร เทคนิคที่จะช่วยให้องค์กรเพิ่มผลผลิตโดยการ ลดความสูญเปล่าลงได้คือ ทฤษฎีที่เรียกกันว่า ECRS แนวคิด ECRS คือทฤษฎีที่ช่วยลดความสูญเปล่าจากการที่ต้นทุนเกิดความเสียหาย หรือต้นทุน ที่ ไม่ได้สร้างผลตอบแทนใด ๆ ให้กับองค์กร นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มผลผลิตและกำไรให้มากขึ้น โดยชื่อ ของ แนวคิดนี้มาจากการใช้ตัวอักษรย่อ 4 ตัวที่มาจากคำว่า Eliminate (การกำจัด) Combine (การ รวมกัน) Rearrange (การจัดใหม่) และ Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) ซึ่งจริง ๆ แล้วเป็นส่วนหนึ่งของ
6 หลักการที่ เรียกว่า LEAN เป็นหลักการที่สนับสนุนให้มีการบริหารจัดการองค์กรให้มีประสิทธิภาพมาก ขึ้น ลดขั้นตอน การทำงานที่ซ้ำซ้อน แนวคิดนี้ได้นำไปใช้ในอุตสาหกรรมใหญ่ ๆ มากมาย และได้ผล อย่างเป็นรูปธรรม หาก แยกย่อยคำทั้งสี่ออกมาทีละคำก็จะพบว่าแต่ละองค์ประกอบมีส่วนช่วยให้ องค์กรสามารถลดต้นทุนที่ไร้ประโยชน์ได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นหลักการสำคัญของ ECRS ดังนี้ Eliminate (การกำจัด) กระบวนการนี้เป็นการตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไปเพื่อลดต้นทุนและ ระยะเวลาการทำงาน ตัวอย่างเช่น การใช้บรรจุภัณฑ์ที่มากเกินความจำเป็น หรือขั้นตอนการทำงานที่ ต้อง ใช้ทรัพยากรบุคคลมากเกินไป สามารถลดทอนขั้นตอนบางอย่างที่ไม่จำเป็นออกได้ Combine (การรวมกัน) หากนำขั้นตอนในการทำงานบางขั้นมารวมให้เป็นขั้นตอนเดียวก็จะ ช่วย ให้ประหยัดเวลาในการทำงานและอาจช่วยลดจำนวนแรงงานได้ด้วย เช่น ระบบ Milk Run ซึ่งเป็น ระบบที่ มีการรับและส่งสินค้าพร้อมกันในรอบเดียว ลดต้นทุนทั้งแรงงาน เวลา และน้ำมัน Rearrange (การจัดใหม่) การจัดลำดับความสำคัญในแต่ละขั้นตอนการทำงานขึ้นมาใหม่ ทำให้ การทำงานง่ายขึ้น ประหยัดเวลาและทรัพยากรอื่น ๆ ได้มากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยลดโอกาสการเกิด ความ 6 ผิดพลาดในการทำงานขึ้นด้วย ในบางครั้งเมื่อนำขั้นตอนการทำงานมาดูทั้งระบบแล้วอาจพบว่า การเรียง ขั้นตอนสลับกันเพียงหนึ่งขั้นอาจทำให้การทำงานล่าช้าไปได้มาก ดังนั้นหากมองภาพรวมและ จัดระบบใหม่ก็จะช่วยแก้ปัญหาความสูญเปล่าของทรัพยากรได้ดียิ่งขึ้น Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) หากวิธีหรือขั้นตอนในการทำงานมีความซับซ้อนเกินความจำเป็น อาจ ทำให้องค์กรสูญเสียทรัพยากรที่มากเกินไปโดยใช่เหตุ การปรับปรุงวิธีการทำงานให้ง่ายขึ้นจะช่วย ลด ระยะเวลาการทำงานที่ยืดเยื้อและลดโอกาสการเกิดความผิดพลาดจากการทำงาน เช่น การเปลี่ยน ที่จัดวาง อุปกรณ์ในการทำงานใหม่ให้หยิบใช้สะดวกกว่าเดิม หรือจัดสถานที่ทำงานใหม่เพื่อลดทอน เวลาที่จะต้อง เสียไป การทำ ECRS ไม่จำเป็นต้องทำทั้งหมด สามารถเลือกใช้อย่างใดอย่างหนึ่งตามสมควรที่เหมาะ กับ ตัวเนื้องานหรือองค์กรได้ขั้นตอนการทำ ECRS Eliminate (กำจัด) ก่อนที่เราจะกำจัดขั้นตอนแต่ละอย่างออกไป ต้องตั้งคำถามก่อนว่าอะไรที่ ไม่ จำเป็นในระบบการทำงานบ้าง โดยอาจใช้คำถามต่อไปนี้ สามารถกำจัดต้นตอของปัญหาได้อย่างไร? ปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันคืออะไร? ต้องการขั้นตอนใหม่ในการทำงานหรือไม่? Combine (การรวมกัน) ถ้ากำจัดอะไรออกไม่ได้เลย ขั้นตอนใดบ้างที่สามารถรวมให้เป็นขั้นตอน เดียวกันได้ ให้ลองตั้งคำถามด้วยสองคำถามนี้ คนคนเดียวกันสามารถทำงานหลายขั้นตอนได้หรือไม่? สามารถรวมขั้นตอนหลายขั้นตอนให้เป็นอันเดียวกันได้หรือไม่? Rearrange (การจัดใหม่) ลองใช้คำถามเหล่านี้ในการจัดระบบการทำงานใหม่ อาจช่วยให้มี ประสิทธิภาพอย่างคาดไม่ถึง
7 ขั้นตอนการทำงานแบบนี้ ดีที่สุดแล้วหรือยัง? ขั้นตอนการทำงานที่เรามี สามารถปรับให้เป็นแบบอื่นได้หรือไม่? Simplify (การทำให้ง่ายขึ้น) การทำให้ขั้นตอนในการทำงานแต่ละขั้นมีความง่ายมากยิ่งขึ้นจะช่วย ให้ ระบบการทำงานมีความรวดเร็วและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น หากอยากปรับขั้นตอนจากยากให้เป็นง่าย อาจ ต้องใช้คำถามต่อไปนี้ ประโยชน์ของการทำ ECRS จะช่วยลดต้นทุนที่ไร้ประโยชน์ลง ช่วยประหยัดทั้งทรัพยากรต่างๆ แรงงาน เวลา และต้นทุนอื่นๆ ที่แตกต่างกันไปตามแต่ละองค์กร ลดความสูญเปล่าในการทำงาน นอกจากนี้ยังมีประโยชน์อีกหลายอย่างด้วยกัน ช่วยให้ระบบการทำงานในองค์กรมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น เป็นระบบ ระเบียบมากยิ่งขึ้น การทำงานมีความคล่องตัวขึ้น สามารถเพิ่มผลผลิตและกำไรให้องค์กร ต่อไปได้ในอนาคต ช่วยทำให้เวลาที่เสียไปมีคุณค่ามากยิ่งขึ้น มีการทำงานที่รวดเร็วขึ้น ทำให้พนักงาน เหนื่อยน้อยลง และ บริการลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ตัวอย่างการทำ ECRS ธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบใด ต่างก็ต้องมีต้นทุนในการผลิตหรือจัดหาสินค้าและบริการ ด้วยกัน ทั้งสิ้น ซึ่งต้นทุนเหล่านั้นอาจนำมาซึ่งความเสียหายของผลประกอบการได้ อาจมองว่าเป็นการ ยากถ้า จะต้องหาวิธีใดสักวิธีเพื่อลดสิ่งไม่จำเป็นลงหรือแม้แต่การจะมองหาว่าสิ่งใดไม่จำเป็นใน กระบวนการของ การทำงาน เพราะมองเพียงจุดเล็ก ๆ ที่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของกระบวนการทั้งหมด แต่หากปรับมุมมอง 7 ปรับเปลี่ยนหรือพลิกแพลงวิธีการ ก็อาจจะเห็นจุดบกพร่องเหล่านั้นแล้วแก้ไขได้ อย่างตรงจุด ซึ่งทั้งเจ้าของ ธุรกิจ ผู้บริหาร และบุคลากรในองค์กรก็สามารถช่วยกันลดต้นทุนที่สูญเปล่า นี้ลงได้ด้วยวิธี ECRS ทำให้ผล ประกอบการดีขึ้น และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอีกด้วย ( Kris Piroj 2560 ) 2.3 การวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) เป็นภาพรวมของการระบุกระบวนการทำงานที่ทำให้ ผู้ที่ทำงานนั้นเข้าใจวัตถุประสงค์ในการ ทำงาน และขอบเขตของงานที่รับผิดชอบมากขึ้น โดย SIPOC จะถูกนำมาใช้เมื่อ ต้องการกำหนด ขอบเขต งานที่ชัดเจน และใช้ในการปรับปรุงกระบวนการทำงานในอนาคต เนื่องจากต้องเข้าใจขอบเขต ของงานหรือ หน้าที่ในความรับผิดชอบ โดย SIPOC ย่อมาจาก S – Suppliers หมายถึง ผู้ส่งมอบสิ่งของหรือข้อมูลที่จะต้องนําไปผ่านกระบวนการ I – Inputs หมายถึง สิ่งของหรือข้อมูลที่จะต้องนําไปผ่านกระบวนการ (ปัจจัยนําเข้า) P – Process หมายถึง กระบวนการอันประกอบไปด้วยหลาย ๆ ขั้นตอนเพื่อที่จะเปลี่ยน สิ่งของหรือ ข้อมูลต้นทาง (Input) ให้กลายเป็นสิ่งของหรือข้อมูลที่ต้องการ (Output) ที่เป็นไปตาม ความต้องการ ของลูกค้า O – Outputs หมายถึง สิ่งของหรือข้อมูลที่เป็นไปตามความต้องการของลูกค้า (สินค้า และบริการ) C –Customersหมายถึง ลูกค้าผู้กำหนดความต้องการของสิ่งของหรือข้อมูล (ผู้รับบริการ) ขั้นตอนการสร้าง SIPOC
8 1. กำหนดชื่อกระบวนการทำงาน 2. กำหนดขอบเขตกระบวนการทำงาน โดยกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสิ้นสุดของกระบวนการ 3. กำหนดเป้าประสงค์ของกระบวนการทำงาน และ กำหนดผู้รับผิดชอบในกระบวนการทำงาน 4. แสดงผลลัพธ์ของกระบวนการทำงาน 5. กำหนดลูกค้า / ผู้รับบริการ 6. แสดงปัจจัยนำเข้า 7. กำหนดบุคคล/ส่วนงานที่ให้ปัจจัยนำเข้า 8. แสดงกระบวนการทำงานในรูปแบบแผนภาพ แผนผังการทำงาน ประโยชน์ของไซพอค (SIPOC) 1.ทำให้เข้าใจกระบวนการ จุดมุ่งหมาย ขอบเขต รวมถึงภาพรวมในการทำงาน 2.ทำให้เข้าใจและทราบถึงความต้องการของผู้รับบริการ 3.ทำให้เห็นข้อบกพร่องของกระบวนการทำงาน และแก้ไขปรับปรุงได้ง่ายขึ้น 4.ทำให้สามารถทบทวนกระบวนการในการทำงาน และทำให้ทราบถึงจุดแข็งและโอกาสในการ พัฒนา 5.ทำให้เข้าใจกระบวนการทำงานที่ซับซ้อน ประโยชน์ของการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) 1. ทำให้สามารถย้อนกลับไปปรับปรุงกระบวนการ หรือ re-design ได้ 2. มีคำศัพท์ 2 คําที่นิยมใช้ คือ กระบวนการที่ เป็น as is (สภาพปัจจุบัน) และกระบวนการที่ เป็น to be (ที่ควรจะเป็น) 3. ต้องรู้ว่าเป็น stakeholders หรือ supplier (ผู้ส่งมอบ) ใครเป็น customer (ลูกค้า) จากทั้ง ภายในและภายนอกองค์กร และอะไรเป็นความต้องการ (need) ที่แท้จริงของลูกค้า และมีตัวชี้วัด (KPI) เพื่อวัดความพอใจด้วย 4. ต้องกำหนดคุณลักษณะ (specification) ของinput (ปัจจัยนําเข้า) process (กระบวนการ หรือ ขั้นตอนการดําเนินงาน) output (สินค้าหรือบริการ) พร้อมกับกำหนดตัวชี้วัดทุกขั้นตอน ( กองบริหารงานบุคคล มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2559 ) 2.4 แผนภูมิกระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process Chart) แผนภูมิกระบวนการ (Process Chart) เป็นเครื่องมือชิ้นสำคัญที่ใช้ในการบันทึกข้อมูลได้อย่าง ละเอียด กระชับ ประกอบด้วยสัญลักษณ์ คำบรรยายและลายเส้น เพื่อบอกรายละเอียดของขั้นตอน กระบวนการผลิต เพื่อช่วยให้นักวิเคราะห์สามารถมองเห็นภาพของกระบวนการผลิตได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ต้น จนจบ และนำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงกระบวนการทำงานให้ดีขึ้น แผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิต (Flow process chart) เป็นแผนภูมิที่เขียนขึ้นเพื่อ บันทึก ขั้นตอนการทำงานแปรรูปวัตถุดิบจนเป็นผลิตภัณฑ์โดยการใช้สัญลักษณ์ทั้ง 5 ตัวที่มีอยู่บันทึก
9 รายละเอียด ของงานแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิตแบ่งออกเป็น 2 แบบคือแบบขั้นตอนการ ทำงานของคน (Man type) และการแปรรูปของวัตถุดิบ(Material type) รายละเอียดในแผนภูมิการ ไหลของกระบวนการ ผลิต ดังตัวอย่างงต่อไปนี้ 1. สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิตการใช้สัญลักษณ์แสดงการ กระทำ ทั้ง 5 รูปแบบแนวทางการเชื่อมโยงต่าง ๆ ด้วยเส้นเพื่อแสดงลำดับการการ เคลื่อนที่ ในกระบวนการผลิต หรือวัสดุในการใช้สร้างแผนภูมิกระบวนการผลิตได้ ตารางที่ 2.1 สัญลักษณ์ต่าง ๆ ของแผนภูมิการไหลของกระบวนการผลิต (กุสุมา ไชยโชติ, 2559) สัญลักษณ์ รายละเอียด การทำงาน (Operation) ใช้สำหรับการทำงานใด ๆ ที่วัตถุถูกทำให้เปลี่ยน ลักษณะ คุณสมบัติ เช่น การประกอบวัตถุเข้ากับชิ้นงานอื่น การขนส่ง (Transportation) ใช้สำหรับกิจกรรมการเคลื่อนย้ายวัตถ การตรวจสอบ (Inspection) ใช้สำหรับกิจกรรมที่เป็นการตรวจสอบ เช่น วัสดุ ถูก ตรวจสอบในด้านคุณภาพว่าอยู่ในระดับที่พอใจ เป็นต้น การรอคอย (Delay) ใช้สำหรับการเกิดการขัดข้อง ต้องรอคอยการตรวจสอบ การเก็บ (Storage) ใช้สำหรับการเก็บเพื่อจัดส่งข้อมูลให้ลูกค้าต่อไป แนวทางการวิเคราะห์แผนภูมิกระบวนการไหล 1. กำหนดวัตถุประสงค์ในการวิเคราะห์ให้ชัดเจน เช่น ลดการปริมาณการเคลื่อนย้าย หรือเพิ่ม ประสิทธิภาพการผลิต 2. บ่งชี้กระบวนการที่ต้องศึกษาพร้อมทั้งรายละเอียดของกระบวนการ 3. กำหนดว่าเป็นการวิเคราะห์การไหลของเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ดังนี้ผลิตภัณฑ์ — การทำงานบน ผลิตภัณฑ์ตั้งเเต่ชิ้นส่วน วัตถุดิบเข้าสู่สายการผลิตจน ประกอบเสร็จเป็นผลิตภัณฑ์พนักงาน — การ
10 ปฏิบัติงานของพนักงานคนหนึ่งในการทำงาน เคลื่อนย้ายสิ่งของ เเละ การเดินเครื่องมือ อุปกรณ์: การ โยกย้ายของเครื่องมือหรือการใช้งาน ของอุปกรณ์ 4. เริ่มวิเคราะห์จากจุดเริ่มต้น บันทึกงานตามที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดทุกขั้นตอน พร้อมทั้ง บรรยาย สั้นๆ ถึงลักษณะงานที่เกิดขึ้น 5. เก็บข้อมูลรายละเอียดที่เกี่ยวข้อง 6. โยงเส้นระหว่างสัญลักษณ์จากบนลงล่าง 7. สรุปขั้นตอนการปฏิบัติงานลงในตารางสรุปผล ภาพที่2.1 สัญลักษณ์ต่างๆ ของแผนภูมิกระบวนการไหลของงาน (Flow process chart) ที่มา : เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ (2562) 2. วิธีการสร้างแผนภูมิกระบวนไหลของสินค้า ก่อนลงมือสร้างแผนภูมิทุกชนิดจะต้องมีการเขียนรายละเอียดต่างๆก่อนเสมอ โดยการเขียน กระบวนการต่างๆ ดังกล่าวมีองค์ประกอบต่างๆ ดังต่อไปนี้(helloterrestrial,2020) 2.1 ชื่อแผนภูมิแผนภูมิการไหลของสินค้า 2.2 คำอธิบายของแต่ละกิจกรรม 2.3 สถานที่ 2.4 ชื่อผู้สร้างแผนภูมิ 2.5 หมายเลขแผนภูมิ 2.6 วันที่บันทึก
11 ภาพที่2.2 การทําแผนภูมิกระบวนการไหลของกระบวนการผลิต (Flow process chart) ที่มา : เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ (2562) 2.5 หลักการควบคุมปัจจัยการผลิตด้วย 5 ปัจจัยหลัก (4M 1E) ในกระบวนการผลิตจะมีขั้นตอนควบคุมการผลิตที่เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อที่จะสร้างความเชื่อมั่นใน ผลิตภัณฑ์ให้เกิดกับลูกค้า ดังนั้นในกระบวนการผลิตจะเน้นเรื่องของความสามารถในการควบคุมการ ผลิต โดยมีเป้าหมายที่จะควบคุมให้การผลิตมีคุณภาพที่ดี มีมาตราฐาน สามารถผลิตสินค้าได้ตรงตาม เป้าหมาย ในการจัดการกับปัจจัยหรือตัวแปรในการผลิต โดยทั่วไปแล้วมักจะให้ความสำคัญกับการ ควบคุมปัจจัยหลัก ที่สำคัญ 5 กลุ่มได้แก่ Man , Material , Method , Machine และ Environment หรือที่มักนิยมเรียกว่า 4M 1E เพราะปัจจัยเหล่านี้มีความสำคัญจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการผลิต ได้ รายละเอียดปัจจัยใน แต่ละกลุ่ม 1. ทรัพยากรมนุษย์ (Man) คือ คนงาน พนักงาน หรือผู้ปฏิบัติงานทั้งหมด เพราะการผลิต หรือ ดำเนินการใด ๆ จะต้องเกิดขึ้นได้ต้องอาศัยคน ทั้งในดานความคิด การวางแผน การ ดำเนินการต่างๆ หรือจัดการทำให้เกิดการผลิตหรือกิจกรรมทางธุรกิจทุกรูปแบบ การพัฒนาคนจริง เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพื่อให้ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ 2. วัสดุ (Material) คือ มีส่วนนำมาใช้ในการผลิตสินค้าหรือบริการ เพราะทุกธุรกิจต้อง อาศัย สิ่งที่ได้ในกลุ่มนี้มาใช้เป็นทรัพยากรในการผลิต ดังนั้นต้องรู้จักบริหารจัดการวัตถุดิบให้มีประสิทธิภาพ สามารถมีเพียงพอในการผลิต บริหารจัดการให้ได้ต้นทุนที่ต่ำในการผลิต และทำให้ธุรกิจได้ผลกำไร สูงสุด 3. เครื่องจักร (Machine) คือ เครื่องจักร หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการผลิต หากขาด เครื่องจักร หรืออุปกรณ์ อาจไม่สามารถทำการผลิตได้ในปริมาณที่มากหากขาดเครื่องมือ เครื่องจักรมา
12 ช่วย เพราะปัจจัยในกลุ่มนี้จะเป็นส่วนที่มาช่วยเติมเต็มในส่วนที่ความสามารถของ มนุษย์ไม่สามารถทำ ได้เช่น ระยะเวลาทำงานที่ต่อเนื่อง ความถูกต้องแม่นยำ ความเร็วในการผลิต ความสม่ำเสมอที่เป็น มาตรฐาน หรือความทนทานในบางสถาณการณ์ที่มนุษย์ทำไม่ได้เช่น สภาพ อากาศในที่อุณหภูมิสูงหรือ ต่ำ สภาพแวดล้อมอากาศที่มีก๊าซพิษ เป็นต้น ดังนั้นจะเห็นว่าหลายครั้ง ที่ความสำเร็จในการผลิตจะ ตัดสินได้จากปัจจัยในกลุ่มนี้ หรือกล่าวได้ว่าใช้ปัจจัยในกลุ่มนี้เป็นตัวที่ ใช้ชี้ขาดความสำเร็จของงานได้ เลย 4. วิธีปฏิบัติงาน (Method) คือ วิธีการ ขั้นตอน หรือขบวนการในการทำงานหรือการ ผลิต ซึ่ง ปัจจัยนี้เป็นปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับต่อมา เพราะความสำเร็จของการดำเนิน กิจกรรมที่มี นั้น จะต้องมาจากการปฏิบัติงานและขั้นตอนของการผลิตหรือการดำเนินธุรกิจที่ดีต้อง มีการจัดการ วางแผน การติดตาม การตรวจสอบ และการควบคุมการผลิตหรือการดำเนินกิจกรรม โดยกำหนดให้มี ขั้นตอนในการปฏิบัติงานที่ดีมีประสิทธิภาพ 5. สภาพแวดล้อม (Environment) ใช้กับสถานีงาน , อุณหภูมิ(อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้า สถิตย์) , อุปกรณ์ที่ไวต่อความชื้น , เครื่องปรับอากาศ , ความชื้น , การสั่นสะเทือน , แรงดัน อากาศ , สภาพแวดล้อมในห้องสะอาด , ความต้องการฝุ่นฟรีเป็นต้นนี่เป็นส่วนที่ค่อนข้างเล็ก แต่ สิ่งใดก็ตามที่ เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมจะอยู่ภายใต้หมวดหมู่นี้ ปัจจัยนี้เป็นส่วยสำคัญในการ ปฏิบัติงานของพนักงาน ( ธนิษฐา แก้วปานกัน,2564 ) วิธีการสร้างแผนผังสาเหตุและผลหรือแผนผังก้างปลา โดยใช้ขั้นตอน 6 ขั้นตอนดังต่อไปนี้ 1. กำหนดประโยคปัญหาที่หัวปลา 2. กำหนดกลุ่มปัจจัยที่จะทำเกิดปัญหานั้นๆ 3. ระดมสมองเพื่อหาสาเหตุในแต่ละปัจจัย 4. หาสาเหตุหลักของปัญหา 5. จัดลำดับความสำคัญของสาเหตุ 6. ใช้แนวทางการปรับปรุงที่จำเป็น ภาพที่2.3 โครงสร้างของแผนผังสาเหตุและผล (Fish Bone Diagram) ที่มา : อภิชาติ ชยานุภัทร์กุล (2557)
13 2.6 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ชณิศา มงคลไซ (2564). ได้ทำการศึกษาเรื่อง การลดความสูญเปล่าในการจัดการสินค้าคงคลัง เครื่องสำอางโดยใช้หลักการECRS ได้พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง อายุระหว่าง 20 – 30 ปี โดย มีประสบการณ์การทำงานอยู่ในช่วง 1-3 ปี โดยแนวทางการจัดการความสูญเปล่าในกรณี การ กำจัด และ การรวมกัน โดยรวมอยู่ระดับปฏิบัติดีมากและเหมาะสมในการจัดสรรพื้นที่ในการจัดเก็บ สินค้าให้เกิดการใช้สอยสูงสุด โดยแนวทางการจัดการความสูญเปล่าใน กรณีการจัดลำดับใหม่ พบว่า เหมาะสมกับการจัดลำดับ พื้นที่ในการจัดเก็บที่เหมาะสมต่อการทำงานและการจัดเก็บสามารถปรับปรุง กระบวนการเพื่อลดสินค้า ภายในคลังสินค้าที่ได้ ศิริประภา เพราะไธสง (2565). ได้ทำการศึกษาเรื่อง การบริหารจัดการเพื่อลดความสูญเปล่า ใน กระบวนการรับฝากและส่งต่อ ของฝ่ายปฏิบัติการ กรณีศึกษา บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาโป่ง น้ำร้อน ได้พบว่า งานวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความสูญเปล่าในกระบวนการรับฝากและ ส่งต่อของฝ่าย ปฏิบัติการ 2) เพื่อบริหารจัดการกระบวนการโดยใช้หลักการ ECRS และ 3) เพื่อลด ความสูญเปล่าที่เกิดขึ้น ในกระบวนการรับฝากและส่งต่อของฝ่ายปฏิบัติการ โดยมีประชากรของการ วิจัยคือ พนักงานฝ่าย ปฏิบัติการจำนวน 8 คน จาก บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด สาขาโป่งน้ำร้อน ทำการศึกษาในกระบวนการ การรับฝากและเตรียมการส่งต่อไปยังศูนย์ไปรษณีย์สำหรับลูกค้าประเภท แบบรายเดือน เครื่องมือที่ใช้ใน การวิจัย ได้แก่ นำแผนภูมิกระบวนการไหลมาแสดงขั้นตอนและทำการ วิเคราะห์ความสูญเปล่าที่เกิดขึ้นใน กระบวนการปฏิบัติงาน และใช้หลักการ ECRS ในการปรับปรุง แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ผลการวิจัยพบว่า สามารถลดความสูญเปล่าในกระบวนการรับฝากและส่งต่อ ก่อน การปรับปรุงมีจำนวนทั้งหมด 12 กิจกรรม และหลังจากที่ทำการปรับปรุงกระบวนการใหม่แล้วสามารถ ลดขั้นตอนการทำงานเหลือเพียง 6 กิจกรรม 14 โดยทำการตัดกิจกรรมการขนย้ายพัสดุที่ไม่ก่อให้เกิด มูลค่า ทำการรวมขั้นตอนการพิมพ์ใบอนุญาตและการ คัดแยกที่สามารถทำด้วยกันได้ การเรียงขั้นตอน การทำงานใหม่โดยการคัดแยกสามารถทำหลังจากขั้นตอน การรับฝากพัสดุได้ทันที และการทำขั้นตอน ให้ง่ายขึ้นโดยเปลี่ยนจากการพิมพ์ใบอนุญาตเป็นการ ประทับตราลงบนพัสดุ ก่อนการปรับปรุงใช้ ระยะเวลาในการดำเนินกิจกรรม 392 นาที หรือ 6 ชั่วโมง 32 นาที หลังการปรับปรุงกระบวนการ ทำงานใช้เวลาในการทำกิจกรรม 294 นาที หรือ 4 ชั่วโมง 54 นาที ซึ่ง สามารถลดเวลาในการดำเนิน กิจกรรมลงได้ 98 นาที คิดเป็นร้อยละ 25 ภัคคนันท์ รัตนขจรจิตต์ และ ปณัทพร เรืองเชิงชุม (2563). ได้ทำการศึกษาเรื่อง การลดความ สูญ เปล่าที่เกิดจากความล่าช้าในกระบวนการโหลดสินค้าสำเร็จรูปด้วยการประยุกต์ใช้วิธีการ DMAIC กรณีศึกษา เครื่องดื่มสำเร็จรูปชนิดผง ได้พบว่า งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษากิจกรรมใน กระบวนการโหลดสินค้าสำเร็จรูป(2) เพื่อศึกษากิจกรรมที่เกิดคุณค่าและกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่า (3) เพื่อศึกษาปัจจัยที่เป็นสาเหตุของกิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่า (4) เพื่อเสนอการลดความสูญเปล่าที่
14 เกิดจาก ความล่าช้าในกระบวนการโหลดสินค้าสำเร็จรูปด้วยการประยุกต์ใช้วิธีการ DMAIC ซึ่งศึกษา จากเครื่องดื่ม สำเร็จรูปชนิดผง ทำการเก็บและรวบรวมข้อมูลจากการสังเกตการณ์ร่วมกับการระดม ความคิดผู้มีส่วนร่วม จำนวน 15 คน โดยวิเคราะห์ความน่าเชื่อถือข้อมูลด้วยวิธีสามเส้า พร้อมทั้ง วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อลดความสูญ เปล่าด้วยวิธีการ DMAIC พร้อมทั้งแผนผังกระบวนการ รวมถึงเทคนิค แมกกิกามิ ตลอดจนการวิเคราะห์ ปัจจัยที่เป็นสาเหตุด้วยโปรแกรมมินิแทปเวอร์ชั่น 16 แผนผังต้นไม้ และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องแบบไค เซ็น ผลงานวิจัย พบว่า กิจกรรมในกระบวนการโหลดสินค้า โดย การเขียนใบกำกับสินค้า เพื่อตรวจรับ สินค้าและตรวจสอบความถูกต้อง ใช้ระยะเวลามากและเป็น กิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่า ส่งผลทำให้การ ส่งมอบสินค้าให้แก่ลูกค้าเกิดความล่าช้าตามมา ซึ่งเกิน กว่าเวลามาตรฐานที่กำหนดไว้ถึง ร้อยละ 85 เมื่อ วิเคราะห์ปัจจัยที่เป็นสาเหตุของกิจกรรมที่ไม่ ก่อให้เกิดคุณค่าพบว่ากระบวนการทำงานโดยใช้ลงข้อมูลโดย ใช้การเขียนและสังเกตยังมีความล่าช้า ผู้ ศึกษาจึงเสนอการลดความสูญเปล่าที่เกิดจากความล่าช้าใน กระบวนการโหลดสินค้าด้วยการ ประยุกต์ใช้วิธีการ DMAIC พบว่า สามารถลดระยะเวลาได้ถึง 39 นาทีต่อ ตู้คอนเทรนเนอร์ ส่งผลทำให้ สามารถลดต้นทุนได้ถึง 290,000 บาทต่อปี ผลจากการศึกษานี้ทำให้ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญ ต่อการลดความสูญเปล่าที่เกิดจากความล่าช้าในกระบวนการโหลดสินค้า สำเร็จรูป โดยตระหนักถึง กิจกรรมที่ไม่ก่อให้เกิดคุณค่า อริษา แซ่โค้ว , สุธี ประจงศักดิ์ , ชัชวาล มงคล และสายฝน เสกขุนทด (2562) ได้ทำการศึกษา เรื่อง “การปรับปรุงประสิทธิภาพกระบวนการคันสินค้าอาหารสัตว์สำเร็จรูป กรณีศึกษา : โรงงานผลิต อาหารสัตว์สำเร็จรูปแห่งหนึ่ง” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อปรับปรุงการจัดการครั้งสินค้าจะก่อให้เกิด ประสิทธิภาพและความถูกต้อง (การนับสินค้า) เพื่อปรับปรุงการจัดการคลังสินค้าที่จะก่อให้เกิด ประสิทธิภาพด้านคุณภาพสินค้า (การหยิบสินค้าได้ตามระบบ FIFO ) และเพื่อปรับปรุงการจัดการ คลังสินค้าจะก่อให้เกิดประสิทธิภาพด้านเวลา(การหยิบสินค้า) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษามีการ ดำเนินการ ศึกษาจากการสังเกตกระบวนการทำงานที่หน้างานจริง ใช้แผนผังก้างปลาในการวิเคราะห์ สาเหตุของปัญหา การเก็บรวบรวมข้อมูลจะได้จากแบบบันทึกการนับสินค้า แบบบันทึกจำนวนสินค้าคง คลังและ แบบสอบถามความพึงพอใจพอใจของพนักงาน ซึ่งจะมีการนำแนวคิดการลดความสูญเปล่าอีซี อาร์เอส (ECRS) หลักการวางผังคลังสินค้าและหลักการปรับปรุงประสิทธิภาพคลังสินค้ามาใช้ในการ แก้ไขปัญหาจากการศึกษาพบว่าเกิดปัญหาในด้านการนับสินค้าปรับปรุงแก้ไข โดยดำเนินการจัดทำ แผนผังการจัดวาง สินค้าใหม่ ด้านการจ่ายสินค้าไม่เป็นไปตามแบบแผน (FIFO) ปรับปรุงแก้ไขโดย ดำเนินการจัดวางสินค้าใหม่ และด้านเวลาในการหยิบสินค้าปรับปรุงแก้ไขโดยดำเนินการจัดทำบอร์ด บันทึกสินค้าคงเหลือจากการจ่าย สินค้าอัพเดทประจำวันและนอกจากนั้นยังได้มีการจัดอบรมเพิ่มองค์ ความรู้ให้กับพนักงานใหม่
15 อรรถพล ถนอมใจ และปรมัตถ์ ไวกสิการ (2562) ได้ทำการศึกษาเรื่อง “การปรับปรุงการ ปฏิบัติงานบริษัท กรณีศึกษา : การรับเข้าและจ่ายออกบริเวณคลังสินค้าที่เก็บชิ้นส่วนอะไหล่ด้วยเทคนิค การปรับปรุงงาน” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนกระบวนการจัดเก็บสินค้า เบิกสินค้า จนถึงการ ส่ง มอบสินค้าให้แก่ลูกค้าบริเวณคลังสินค้าเก็บชิ้นส่วนอะไหล่บริษัทกรณีศึกษา เพื่อลดปริมาณการส่ง มอบ สินค้าที่ผิดพลาด เพื่อออกแบบและพัฒนาระบบการจัดการพื้นที่สำหรับการจัดเก็บสินค้า และการ หยิบ สินค้าภายในคลังสินค้าเก็บชิ้นส่วนอะไหล่ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาใช้แผนผังก้างปลา (Fishbone Diagram) ใช้ในการหาสาเหตุของปัญหา ใช้ในการวิเคราะห์ความผิดพลาดแผนภูมิต้นไม้ (Fault Tree Analysis : FTA) เป็นวิธีการบ่งชี้ถึงอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพื่อนำไป วิเคราะห์หาสาเหตุ โดยอาศัยการใช้หลักการและเหตุผล ใช้การวิเคราะห์ด้วย 5 ทำไม (Why-Why Analysis) , แผนภูมิกระบวนการไหลของกระบวนการผลิต (Flow Process Chart) , เทคนิคการ ปรับปรุงงานหลักการ (ECRS) และแนวคิดไคเซ็น (Kaizen) มาประยุกต์ใช้ ซึ่งจะดำเนินการวิเคราะห์ ข้อมูลความผิดพลาดโดยการ ประยุกต์ใช้ทฤษฎี (Why-Why Analysis) วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาโดย การประยุกต์ใช้ทฤษฎีก้างปลา (Fishbone Diagram) จากการศึกษาพบว่ากิจกรรมการหยิบสินค้า (Picking) และนำเข้าสินค้า (Receiving) ดำเนินการแก้ไขโดยใช้วิธี (ECRS) มาช่วยในการลดขั้นตอน รวมกระบวนการหรือทำให้พนักงานลดโอกาสในการหยิบสินค้าที่ผิดพลาด จากการศึกษาพบว่า พนักงานสามารถลดจำนวนความ ผิดพลาดและเวลาในการทำงานหลังจากปรับปรุงโดยการเพิ่มรู)ภาพ ของสินค้า เพื่อสามารถจำแนกชิ้นส่วน ทั้งหมดได้ง่ายขึ้น โดยร้อยละของความผิดพลาดลดลงจาก 2.27% เป็น 0% จากการวัดผล 2 เดือน และ ค่าปรับจากการส่งผิดจากลูกค้าลดลง 100%
บทที่ 3 การดำเนินการวิจัย การศึกษาวิธีการลดปริมาณสินค้าที่เกิดความเสียหายที่เกิดขึ้น ภายในศูนย์กระจายสินค้าไทวัสดุ วังน้อย ผู้ศึกษาได้อธิบายถึงวิธีการดำเนินการศึกษาในขั้นตอนต่างๆ ดังต่อไปนี้ 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน 3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล 3.1 ขั้นตอนการดำเนินงาน งานวิจัยในครั้งนี้ได้กำหนดขั้นตอนการดำเนินงาน ดังนี้ 1.ศึกษาขั้นตอนและกระบวนการดำเนินงานของบริษัทกรณีศึกษา โดยทำการศึกษาขั้นตอนและกระบวนการทำงานภายในศูนย์กระจายสินค้าไทวัสดุวังน้อย ซึ่งได้ทำการศึกษาถึงขั้นตอนการจัดเก็บและการเบิกสินค้า ภายในพื้นที่จัดเก็บแบบชั้นวางสินค้า 2. วิเคราะห์สาเหตุของปัญหา ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยวิธีการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซ พอค (SIPOC)) และแผนผังกระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process) มาใช้ในการวิเคราะห์ว่าแท้จริง แล้วปัญหาเกิดในขั้นตอนใดและในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจะใช้หลักการควบคุม ปัจจัยผลิตด้วย 5 ปัจจัยหลัก (4M 1E) เพื่อหาสาเหตุปัจจัยต่างๆที่ก่อให้เกิดปัญหา 3. การศึกษาและหาแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการทำงาน ผู้วิจัยเล็งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการทำงาน ซึ่งเป็นเหตุที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ สินค้า จึงได้ทำการศึกษาและสังเกตกระบวนการทำงานที่เกิดขึ้นที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการ จัดเก็บและการเบิกสินค้าภายในพื้นที่การจัดเก็บแบบชั้นวางสินค้าในแต่ละครั้งจากพนักงานที่ทำงาน ภายในพื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยผู้วิจัยได้นำแนวคิดการลดความสูญเปล่าด้วยหลักการอีซีอาร์เอส (ECRS) ซึ่งจะเน้นหลักการกำจัด (Eliminate : E) , การจัดใหม่ (Rearrange : R) และการทำให้ง่าย (Simplify : S) มาใช้ในการปรับปรุงแก้ไขและมีการนำแนวคิดการลดความสูญเปล่า 8 ประการ ซึ่งจะ เน้นหลักการลดความสูญเปล่าจากการมีของเสียมากเกินไป (Defect : D) นำมาใช้ในการวิเคราะห์ ปัญหาและปรับปรุงแก้ไขปัญหาภายในขั้นตอนการจัดเก็บสินค้าและการเบิกสินค้า
17 4. ดำเนินการแก้ไขปัญหาและติดตามผล การดำเนินงานการเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็นสาเหตุปัญหาจากพนักงานภายในศูนย์กระจาย สินค้าไทวัสดุ วังน้อย ที่มีการดำเนินงานในส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้องและนำสาเหตุดังกล่าวที่ได้สอบถามจาก พนักงานโดยตรงมาวิเคราะห์โดยใช้หลักการควบคุมปัจจัยการผลิตด้วย 5 ปัจจัยหลัก (4M 1E) เพื่อหา สาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้น จากนั้นจึงได้มีการนำสาเหตุที่มีความเกี่ยวข้องดังกล่าวนำไปสร้าง แผนภูมิก้างปลา (fish born diagram) ที่มีการสอบถามในเรื่องสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นว่ามาจากสาเหตุใดบ้างและพนักงานมี ความคิดเห็นต่อสาเหตุของปัญหาในส่วนต่างๆอย่างไร มาใช้เพื่อนำปัจจัย ที่เป็นสาเหตุของปัญหาที่เกิด มาดำเนินการแก้ไข ซึ่งจะมีการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) และแผนผัง กระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process Chart) มาใช้ ด้วยปัญหาที่เกิดขึ้นทางผู้วิจัยจึงได้มีการนำ แนวคิดการลดความสูญเปล่าด้วยหลักการอีซีอาร์เอส (ECRS) ซึ่งจะเน้นหลักการกำจัด (Eliminate : E) , การจัดใหม่ (Rearrange : R) และการทำให้ง่าย (Simplify : S) มาใช้ในการปรับปรุงแก้ไข และใช้ แนวคิดการลดความสูญเปล่า 8 ประการ (8 Waste) ที่จะเน้นหลักการลดความสูญเปล่าจากการมีของ เสียมากเกินไป (Defect : D) มาใช้ในการวิเคราะห์ปัญหาและร่วมปรับปรุงแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น หาก ปัญหาที่เกิดขึ้นถูกแก้ไขด้วยการปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงกระบวนการบางอย่างด้วยแนวคิดดังกล่าวจะ ทำให้ปริมาณความเสียหายของสินค้าลดลงได้ไม่มากก็น้อย ซึ่งผู้วิจัยได้ดำเนินงานและมีการจดบันทึก ข้อมูลสินค้าที่เกิดความเสียหายข้อมูลดังกล่าวจะถูกบันทึกและเก็บรวบรวมไว้เพื่อแสดงปริมาณความ เสียหายของสินค้าในแต่ละเดือนว่ามีจำนวนมากน้อยเพียงใด 5. สรุปผลและทำงานวิจัย เก็บรวบรวมข้อมูล ศึกษาขั้นตอนกระบวนการทำงาน ศึกษาปัญหาและแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการ ดำเนินการแก้ไขปัญหาและติดตามผล สรุปผลและจัดทำงานวิจัย
18 3.2 การเก็บรวบรวมข้อมูล การเก็บรวบรวมข้อมูลที่จะนำมาใช้ทำการศึกษาแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ 3.3.1 ข้อมูลปฐมภูมิ (Primary Data) ได้ทำการเก็บรวบรวมข้อมูลจากการสอบถามจาก พนักงานที่ทำงานภายในศูนย์กระจายสินค้าไทวัสดุ วังน้อย ทั้งหัวหน้างานในแผนกควบคุม สต็อค (Inventory) หัวหน้าผู้จัดการฝ่าย และพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ปฏิบัติงาน 3.3.2 ข้อมูลทุติยภูมิ (Secondary Data) ได้มีการนำข้อมูลของสินค้าที่เกิดความเสียหาย และ ชำรุด ทำการบันทึกข้อมูลของสินค้าไว้ อีกทั้งได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากบทความ หนังสือ ตำรา ฐานข้อมูลของบริษัท และเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในครั้งนี้ 3.3 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ผู้วิจัยได้ทำการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยวิธีการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซ พอค (SIPOC) และแผนผังกระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process) มาใช้ในการวิเคราะห์ว่าแท้จริง แล้วปัญหาเกิดในขั้นตอนใดและในการวิเคราะห์หาสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจะใช้หลักการควบคุม ปัจจัยผลิตด้วย 5 ปัจจัยหลัก (4M 1E) เพื่อหาสาเหตุปัจจัยต่างๆที่ก่อให้เกิดปัญหา ซึ่งจากสาเหตุของ ปัญหาที่ได้จะมีการนำปัญหาดังกล่าวมาให้ความสำคัญเชิงเหตุผลกับปัจจัยดังกล่าวโดย มีการแสดง ค่าเฉลี่ยสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นและนำสาเหตุของปัญหาที่ได้มาจากความคิดเห็นสูงสุดของผู้ตอบ แบบสอบถามและจึงนำมาใช้ในการปรับปรุงแก้ไขปัญหา 3.3.1 เครื่องมือที่ใช้ในการแก้ไขปัญหา จากปัญหาที่เกิดขึ้น ผู้วิจัยได้มีการนำแนวคิดการลดความสูญเปล่าด้วยหลักการอีซีอาร์เอส (ECRS) โดยนำหลักการการกำจัด (Eliminate : E) , การจัดใหม่ (Rearrange : R) และการทำให้ง่าย (Simplify : S) มาใช้ในการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติม ด้วยการปรับปรุงรูปแบบการดำเนินงาน การ เคลื่อนย้ายสินค้าภายในการจัดเก็บและการเบิกสินค้าให้ง่ายขึ้นจากกระบวนการทำงานแบบเดิม ทั้งนี้ การนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้เพื่อให้การปรับปรุงแก้ไขมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น 3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล จากการศึกษาและสังเกตกระบวนการทำงาน ของพนักงานสามารถมองเห็นถึงปัญหาต่างๆได้ โดยในกระบวนการดำเนินงานต่างๆ จะมีการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอต (SIPOC) และ แผนผัง กระบวนการไหลของสินค้า (Flow Process Chart) มาประยุกต์ใช้ในการเขียนขั้นตอนและ กระบวนการทำงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด สามารถแสดงข้อมูลกระบวนการทำงานตั้งแต่ข้อมูลการสั่งสินค้า และสินค้าที่ถูกสั่งซื้อแล้วจะดำเนินการรับเข้าคลังสินค้าไปจนถึงการนำจ่ายสินค้าออกจากคลังสินค้าไป ยังผู้บริโภค
19 จากการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) ร่วมกับการวิเคราะห์แผนผังการ ไหล ของสินค้า (Flow Process Chart) จะสามารถจำแนกปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากกระบวนการ ดำเนินงานบางอย่างที่ขาดประสิทธิภาพตามหลักการ (4M 1E) สามารถแสดงข้อมูลที่เป็นสาเหตุของ ปัญหา ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลได้มีการดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับหัวหน้างานในแผนกควบคุม สต็อค (Inventory) , หัวหน้าผู้จัดการฝ่าย , ผู้นำฝ่ายปฏิบัติการ และพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้องในพื้นที่ ปฏิบัติงาน ซึ่งสามารถแสดงข้อมูลสาเหตุของปัญหาได้
บทที่ 4 ผลการศึกษา จากการศึกษากระบวนการขั้นตอนวิธีการทำงาน การเก็บรวบรวมข้อมูล หรือการประยุกต์ใช้ ทฤษฎีการลดความเปล่าเสียอีซีอาร์เอส ( ECRS ) เพื่อลดจำนวนสินค้าที่เกิดความเสียหายภายในศูนย์ กระจายสินค้า บทนี้เป็นการดำเนินงานในส่วนการปรับปรุงกระบวนการทำงานเพื่อดำเนินการแก้ไข ปัญหา ที่เกิดจากกระบวนการจัดเก็บและเคลื่อนย้ายสินค้าภายในคลังสินค้า ร่วมกับพนักงานที่มีการ ทำงานภายในส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยปัญหาที่กล่าวข้างต้นนั้นสามารถแสดงผลการศึกษา ได้ดังต่อไปนี้ 4.1 กระบวนการดำเนินงานก่อนปรับปรุง 4.1.1 กระบวนการทำงาน ที่มีความเกี่ยวข้องตั้งแต่การรับสินค้า การจัดเก็บสินค้า การเบิก สินค้า และขนส่งสินค้า สามารถสรุปกระบวนการได้ดังนี้ ภาพที่ 4.1 กระบวนการดำเนินการรับสินค้าขาเข้าภายในคลังสินค้า ด้วยการวิเคราะห์กระบวนการทำงาน ด้วยไซพอค (SIPOC)
21 ตารางที่ 4.1 แผนผังกระบวนการไหลของสินค้าในกระบวนการรับสินค้าขาเข้าภายในคลังสินค้า (Flow Process Chart) ลำดับ คำอธิบาย สัญลักษณ์ ผลิต ย้าย ตรวจ รอ เก็บ 1 กลุ่มลูกค้าไทวัสดุ (SAP) อัพเดทข้อมูลใบสั่งซื้อ สินค้าเข้าระบบ (WMOS) 2 ข้อมูลถูกแปลงเข้าระบบของบริษัทผ่าน (CRC link) เพื่อส่ง ข้อมูลเข้าระบบบริหารจัดการ คลังสินค้า (WMOS) 3 พนักงานฝ่ายระบบ (SSC CRC) ตรวจสอบ ข้อมูลสินค้าในระบบ บริหารจัดการคลังสินค้า (WMOS) 4 พนักงานฝ่ายระบบ (SSC CRC) รันข้อมูล (Run wave) รายละเอียดสินค้าตามใบสั่งซื้อ สินค้าในระบบเพื่อใช้สำหรับการ รับสินค้า 5 ผู้ขายสินค้า (Vender) แจ้งวันที่ดำเนินการ จัดส่งสินค้ากับบริษัท (CRC) 6 พนักงานฝ่ายข้อมูล ลงข้อมูลวันที่จะจัดส่ง สินค้า 7 วันจัดส่งผู้ขายสินค้า (Vender)ยื่นเอกสารการ จัดส่งสินค้า 8 พนักงานฝ่ายข้อมูล (Data) ตรวจสอบความถูก ต้องของเอกสาร 9 ผู้ขายสินค้า (Vender) รอคิวตามลำดับการลง สินค้า 10 พนักงานรับสินค้า (Checker) รับเอกสารการ รับสินค้าเข้าคลัง 11 พนักงานรับสินค้า (Checker) ตรวจสอบ ความถูกต้องของ รายการสินค้าและสภาพ สินค้าตามใบรับสินค้า 12 หลังตรวจสอบสินค้าเสร็จ ดำเนินการรับ สินค้าเข้าระบบและ รับเข้าคลังสินค้าต่อไป
22 13 สินค้าถูกรับเข้าระบบและรับเข้าคลังสินค้าโดย สินค้าจะถูกวาง ไว้หน้าร้านขาเข้า 14 แจ้งผู้ขายลำดับต่อไปเข้าประตูเพื่อดำเนินการ รับสินค้า 15 พนักงานจัดสินค้าเคลื่อนย้าย (RT Driver) 16 พนักงานจัดเก็บสินค้ายิงข้อมูลเข้าระบบ (Put away) 17 สินค้านำเข้าระบบ (WMOS) และถูกจัดเก็บ เข้าพื้นที่ total 9 3 2 2 1 จากการศึกษาพบว่ากระบวนการจัดเก็บสินค้า การเคลื่อนย้ายและการจัดวางมีผลทำให้เกิด สินค้า ชำรุดเสียหายจากการดำเนินงานภายในครั้งสินค้าเกิด
23 ภาพที่ 4.2 กระบวนการดำเนินการจ่ายสินค้าขาออกจากคลังสินค้า ด้วยการวิเคราะห์กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC)
24 ตารางที่ 4.2 แผนผังกระบวนการไหลของสินค้าในกระบวนการจำหน่ายสินค้าขาออกภายในคลังสินค้า (Flow Process Chart ลำดับ คำอธิบาย สัญลักษณ์ ผลิต ย้าย ตรวจ รอ เก็บ 1 ผู้บริโภค (Customer) สั่งซื้อสินค้าผ่านช่อง ทางการซื้อ ขายต่างๆ 2 พนักงานป้อนข้อมูลการสั่งซื้อสินค้าเข้าระบบ (SAP) 3 ลูกค้าไทวัสดุ (SAP) ข้อมูลใบสั่งซื้อสินค้าที่ ต้องการ จ่ายออกเข้าระบบ (WMOS) 4 ข้อมูลถูกแปลงเข้าระบบบริษัทผ่าน (CRC link)เพื่อส่ง ข้อมูลเข้าระบบจัดการคลังสินค้า (WMOS) 5 พนักงานฝ่ายระบบ (SSC DHL) ตรวจสอบ ข้อมูลสินค้า ในระบบจัดการคลังสินค้า (WMOS) 6 พนักงานฝ่ายระบบรันข้อมูล (Run Wave) สินค้าตาม ใบสั่งซื้อสินค้าในระบบและออก เอกสารเบิกสินค้า 7 พนักงานควบคุมขาออกบันทึกข้อมูลใบเบิก สินค้าตาม รอบเวลาการเบิกเข้าไฟล์ 8 พนักงานควบคุมขาออกยื่นเอกสารใบเบิก สินค้า 9 พนักงานเบิกสินค้า (RT Driver) รับรายการ สินค้าที่ต้องการเบิก (Picking List)
25 10 พนักงานเบิกสินค้า (RT Driver) ขับรถเข้าไป ยังพื้นที่ จัดเก็บสินค้า 11 พนักงานเบิกสินค้า (RT Driver) สินค้าออก จากพื้นที่ จัดเก็บสินค้า 12 พนักงานเบิกสินค้า (RT Driver) เคลื่อนย้าย สินค้าไป ยังอีกพาเลทหนึ่งเพื่อนำสินค้า กระจายออก 13 เคลื่อนย้ายสินค้านำมาวางไว้หน้าลานขาออก 14 พนักงานควบคุมขาออกรับเอกสารที่ ดำเนินการเบิก เสร็จมาบันทึกข้อมูลสินค้าที่ ถูกเบิกออกและเป็น เอกสารตรวจสอบสินค้า พร้อมกับเอกสารส่งสินค้า 15 งานควบคุมขาออกส่งมอบเอกสารตรวจสอบ สินค้าแก่ พนักงานตรวจสอบสินค้า (Check 100) 16 พนักงานตรวจสอบสินค้า (Check 100) ติด เอกสารไว้กับสินค้า 17 พนักงานตรวจสอบสินค้า ( Check 100) ตรวจสอบ สินค้า 18 สินค้าตรวจสอบเสร็จสิ้น เตรียมรอโหลดออก หน้าลาน ขาออก 19 พนักงานฝ่ายขนส่ง บันทึกการจัดส่งสินค้า 20 พนักงานฝ่ายขนส่ง ตรวจสอบสินค้าร่วมกับ พนักงาน ขนส่ง 21 พนักงานรับขนส่งตรวจสอบเอกสารและยืนยัน การ จัดส่งสินค้า
26 22 ผู้บริโภค (Customer) ได้รับสินค้า total 13 4 3 1 1 จากการศึกษาพบว่ากระบวนการเบิกสินค้า การเคลื่อนย้ายระหว่างพาเลท รูปแบบการจัดวาง การจัดเก็บสินค้าหลังจากเบิกสินค้าเสร็จสิ้น มีผลทำให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหาย จากการดำเนินงาน ภายใน คลังสินค้า 4.1.2 สาเหตุที่ก่อให้เกิดสินค้าเสียหายภายในศูนย์กระจายสินค้า จากการวิเคราะห์ กระบวนการทำงานด้วยไซพอค (SIPOC) ร่วมกับการวิเคราะห์แผนผังการไหล ของสินค้า (Flow Process Chart) สามารถจำแนกปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้นจากกระบวนการดำเนินงาน บางอย่างที่ขาด ประสิทธิภาพได้ตามหลักการ (4M1E) สามารถแสดงข้อมูลที่เป็นสาเหตุของปัญหาเพื่อสร้าง แผนผัง ก้างปลา ซึ่งการวิเคราะห์ข้อมูลสาเหตุของปัญหาเพื่อสร้างแผนผังก้างปลาดังกล่าวได้มีการ ดำเนินการ วิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับทางผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ (Operation Manager) , หัวหน้าฝ่าย ปฏิบัติการ (Operation Supervisor) และผู้นำฝ่ายปฏิบัติการ (Operation Leader) ซึ่งสามารถแสดง ข้อมูล สาเหตุของปัญหาได้ดังภาพที่ 4.3
27 ภาพที่ 4.3 แผนผังก้างปลา (Fishbone Diagram) สินค้าที่ถูกจัดเก็บภายในศูนย์กระจายสินค้าที่มีการจัดเก็บสินค้าให้กับไทวัสดุ จัดเป็นสินค้า ประเภทสินค้าอุปกรณ์ก่อสร้างและสินค้าตกแต่งบ้าน สินค้าบางชนิดต้องการความระมัดระวังในการ จัดเก็บ เช่น สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ สินค้าสุขภัณฑ์ แต่ พนักงานขาดประสบการณ์ ไม่มีกระบวนกาจัดการ การทำงานที่ชัดเจน มีการจดบันทึกข้อมูลที่ผิดพลาด จึง ทำให้เกิดความผิดพลาดในการหยิบสินค้า ส่งผลให้เวลานับสต็อคสินค้าพบเจอสินค้าที่เสียหาย และภายใน ศูนย์กระจายสินค้าซึ่งมีการจัดเก็บ สินค้าไว้ภายในพื้นที่การจัดเก็บแบบชั้นวาง (Selective Rack) เป็นส่วน ใหญ่ โดยสินค้าที่สามารถเข้า พื้นที่จัดเก็บแบบชั้นวางได้ จะถูกจัดวางไว้บนพาเลทเพื่อรอสำหรับการ เคลื่อนย้ายไปจัดเก็บในพื้นที่ ซึ่ง สามารถก่อให้เกิดความเสียหายได้จากรูปแบบการจัดวางสินค้าในพื้นที่ จัดเก็บที่ไม่เหมาะสมทำให้การ เบิกสินค้าในแต่ละครั้งมีความเสี่ยงก่อให้เกิดความเสียหาย จากการชำรุด เสียหายของสินค้าและการ เคลื่อนย้ายสินค้าในขั้นตอนบางขั้นตอนในกระบวนการเบิกสินค้าที่ไม่เหมาะสมก็จะส่งผลให้สินค้า เสียหายได้เช่นกัน เนื่องจากจำนวนสินค้าที่เสียหาย ทำให้บริษัทต้องเสียค่าใช้จ่ายในส่วน สินค้าที่ชำรุด เสียหายจากการดำเนินงานของพนักงานภายในเป็นจำนวนมาก จากการวิเคราะห์ข้อมูลและเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อมาสรุปสาเหตุของปัญหาดังกล่าวสามารถ จำแนกสาเหตุของปัญหาภายในคลังสินค้าในเรื่องสาเหตุของปัญหาที่ก่อให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหาย ภายในคลังสินค้าสามารถสรุป สาเหตุของปัญหาได้ดังนี้ สาเหตุและ ปัญหาที่ท าให้ เกิดสินค้า เสียหาย
28 - ปัญหากระบวนการจัดเก็บสินค้าเนื่องจากการจัดเก็บสินค้าแบบไม่กำหนดตำแหน่ง ตายตัว ทำให้การจัดเก็บสินค้าที่มีจำนวนมากเกิดความผิดพลาดเสียหาย และใช้ระยะเวลาในการ เบิกจ่ายสินค้า เพิ่มขึ้น อีกทั้งพนักงานไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดเก็บแบบFIFOทำให้สินค้าบาง รายการหมดอายุ - ปัญหากระบวนการเบิกสินค้า ในขั้นตอนการเบิกสินค้าจะดำเนินงานเบิกสินค้าตามใบ เบิก สินค้าที่ได้รับจากฝ่ายข้อมูล โดยฝ่ายข้อมูลจะมีการดำเนินงานในระบบตามรอบระยะเวลาเพื่อ จัดทำใบ เบิกสินค้าโดยทางพนักงานขับรถยกไฟฟ้า (Reach Truck Driver หรือ RT Driver) จะนำ เอกสารเบิก สินค้าไปยังพื้นที่การจัดเก็บแบบชั้นวาง (Selective Rack) เพื่อดำเนินการเบิกสินค้า และเนื่องจาก ขั้นตอนการเบิกสินค้าเพียงพนักงานหนึ่งคนต่อหนึ่งเส้นทาง การเบิกสินค้าในหนึ่ง เส้นทางจากประกอบ ไปด้วยหลายคำสั่งซื้อ และการเบิกสินค้าเพียงพนักงานหนึ่งคนต่างคนต่าง แยกงานกัน ทำให้การเบิก สินค้าที่มีขั้นตอนการเคลื่อนย้ายสินค้าไปยังอีกพาเลทสามารถเกิดความ เสียหายต่อสินค้า และพบความ สูญเปล่าหลักคือการเกิดของเสียเนื่องจากการยกและการ เคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างพาเลทแต่ละครั้งมี ความเสี่ยงที่จะทำให้สินค้าตกแตกเสียหายหรือบรรจุ ภัณฑ์ชำรุดเสียหาย เนื่องจากการเคลื่อนย้าย สินค้าระหว่างพาเลทเพียงหนึ่งคน และปัญหาใน ขั้นตอนต่อไป คือการไม่ผูกเชือกหรือพันฟิล์มให้กับ สินค้าที่อยู่บนพาเลทแน่นหนาพอ จึงทำให้พบ ความสูญเปล่าหลักคือการเกิดของเสียเนื่องจากความ แตกต่างทางด้านขนาด น้ำหนัก และจำนวน สินค้าที่จัดวางอยู่บนพาเลท ไม่มีความมั่นคงที่จะสามารถ ทรงตัวอยู่ได้ หากในการเบิกสินค้าครั้งต่อไปมาถึงโดยการทำงานด้วยระบบ Manual ก็จะมีความเสี่ยงที่ สินค้าจะตกหล่นจากการเบิก สินค้าในครั้งต่อไปได้เสมอ ซึ่งจากปัญหาที่กล่าวมาข้างต้นสามารถแสดง ข้อมูลสรุปได้ ดังตารางที่ 4.3 ตารางที่ 4.3 สาเหตุของปัญหาที่ก่อให้สินค้าชำรุดเสียหาย ป ั ญ ห า ท ี ่ เ ก ิ ด ข ึ ้ น ใ น กระบวนการ ปัญหาและอุปสรรค ภาพประกอบ 1.ขั้นตอนการจัดเก็บ 1.1 พนักงานพันฟิล์มให้กับ สินค้าที่อยู่บนพาเลทไม่ แน่นหนาพอ จึงทำให้สินค้า ชำรุดเสียหาย
29 1.2 พนักงานไม่ปฏิบัติตาม ขั้นตอนการจัดเก็บ 1.3 รูปแบบการจัดวาง สินค้าบนพาเลทที่มีความ เสี่ยงต่อการตกหล่น ทำให้ การจัดเก็บหรือการเบิก สินค้าในแต่ละครั้งมีความ เสี่ยงต่อการเกิดสินค้าชุด เสียหาย 4.1.3 แนวทางการแก้ไขปัญหา จากการดำเนินงานข้างต้นที่ก่อให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหาย ซึ่ง เกิดขึ้นมาจากกระบวนการ จัดเก็บสินค้าและการเบิกสินค้าของพนักงาน ทางผู้วิจัยจึงได้ทำการหารือ ร่วมกับผู้จัดการและหัวหน้าฝ่าย ปฏิบัติการเพื่อหาแนวทางในการปรับปรุงกระบวนการที่ผิดพลาดจาก การทำงานของพนักงาน ซึ่งทางผู้วิจัย ได้นำเอาหลักการอีซีอาร์เอส (ECRS) เพื่อใช้ในการจำกัด (Eliminate : E) การเกิดของเสียในการจัดเก็บสินค้าเข้าพื้นที่ และได้นำรูปแบบการจัดเก็บสินค้ามาทำ การจัดใหม่ (Rearrange : R) ด้วยการเคลื่อนย้าย สินค้าที่มีจำนวนเต็มพาเลทเคลื่อนย้ายนำมาวางไว้ชั้น ล่างของพื้นที่จัดเก็บสินค้าเพราะมีความเสี่ยงที่จะตก หล่นจากขั้นตอนการจัดเก็บและเบิกสินค้า และ ดำเนินการสินค้าที่มีจำนวนน้อยไม่เต็มพาเลทนำไปไว้ชั้นบน แทน เพื่อลดความเสี่ยงต่อการตกหล่นให้ น้อยที่สุด ในกระบวนการเบิกสินค้าสามารถเกิดของเสีย (Defect) จากสินค้าที่เกิดกล่องบรรจุภัณฑ์ ชำรุด ฉีกขาด เกิดสินค้าเสียหายจากการเคลื่อนย้ายสินค้า ระหว่างพาเลท เพียงพนักงาน 1 คน การไม่ ผูกเชือกหรือพันฟิล์มให้กับสินค้าที่หนาแน่นและรอบคอบ และการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดเก็บ แบบFIFO ทำให้สินค้าบางรายการเสียหายและหมดอายุ จึงได้ปรับปรุงขั้นตอนการ เบิกสินค้าด้วยการ ปรับเปลี่ยนจำนวนพนักงานสำหรับการเบิกสินค้า ควบคู่กับการใช้หลักการกำจัด (Eliminate : E) การ เกิดของเสียในบางขั้นตอนของการเบิกสินค้าร่วมกับการใช้หลักการทำให้ง่ายขึ้น (Simplify : S) มาใช้ใน การปรับปรุงวิธีการทำงานให้สะดวกและง่ายขึ้นด้วยการเพิ่มพนักงานเป็น 2 คน สำหรับการเบิกสินค้า เพื่อเพิ่มความระมัดระวังและความถูกต้องในการเบิกสินค้าตามใบเบิกสินค้า พร้อม ทั้งเพิ่มขั้นตอนการ
30 ผูกเชือกหรือพันฟิล์มให้กับสินค้าที่มีปริมาณสินค้าคงเหลือในพาเลทให้แน่นหนาเพิ่มขึ้น เพื่อป้องกัน การรตกหล่นของสินค้าจากการจัดเก็บบนชั้นวางสินค้า (Selective Racking) และจากการ เคลื่อนย้าย สินค้า เพื่อป้องกันการเกิดของเสียจากสินค้าชำรุดเสียหาย ซึ่งก่อให้เกิดกระบวนการทำงานใน รูปแบบ ใหม่ที่ง่ายต่อการปฏิบัติการและสามารถประยุกต์ใช้ได้อย่างต่อเนื่อง ตารางที่4.4 ปัญหาที่เกิดขึ้นและแนวทางในการแก้ไขปัญหา ปัญหาที่เกิดขึ้น แนวทางการแก้ปัญหา ทฤษฎีที่ใช้ 1.รูปแบบการจัดวางสินค้าบน พา เลทที่มีความเสี่ยงต่อการตก หล่น ในขั้นตอนการจัดเก็บ สินค้า แก้ไขที่กระบวนการจัดเก็บสินค้าโดย ดำเนินการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีจำนวน เต็มพาเลทเคลื่อนย้าย นำมาวางไว้ชั้น ล่างของพื้นที่ จัดเก็บสินค้าเพราะมี ความเสียงที่จะตกหล่น และดำเนินการ สินค้าที่มีจำนวนน้อยไม่เต็มพาเลท นำไปไว้ชั้นบนแทนเพื่อลดความเสี่ยง ต่อการตกหล่นให้น้อยที่สุด แนวคิดหลักการลดความสูญ เปล่าจากการมีของเสียมาก เกินไป (Defect : D) ควบคู่กับ การใช้หลักการ (ECRS) การ จัดรูปแบบใหม่ (Rearrange : R) 2.การพันฟิล์มให้กับสินค้าที่ไม่ แน่นหนาและรอบคอบ แก้ไขขั้นตอนการทำงาน ด้วย การเพิ่ม รอบในการพันฟิล์ม เพื่อ ลดปริมาณ กล่องบรรจุภัณฑ์ชำรุด ฉีกขาด เกิด สินค้าเสียหาย แนวคิดหลักการลดความสูญ เปล่าจากการมีของเสียมาก เกินไป (Defect : D) ) ควบคู่ กับ การใช้หลักการ (ECRS) ก า ร จ ั ด ร ู ป แ บ บ ใ ห ม่ (Rearrange : R) 3.การไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการ จัดเก็บทำให้สินค้าเสียหาย แก้ไขด้วยการจัดประชุมให้ความรู้กับ พนักงาน แนวคิดหลักการลดความสูญ เปล่าจากการมีของเสียมาก เกินไป (Defect : D)ร่วมกับ ก า ร ท ำ ง า น ใ ห ้ ง ่ า ย ขึ้ น (Simplify : S) 4.2 การปรับปรุงกระบวนการดำเนินงาน 1.กระบวนการปรับปรุง จากการดำเนินงานก่อนปรับปรุงด้วยสาเหตุของปัญหาที่เกิดขึ้นจาก กระบวนการทำงานภายใน ขั้นตอนการจัดเก็บสินค้าเข้าพื้นที่จัดเก็บ (Selective Rack) ก่อให้เกิดของ
31 เสีย (Defect) ในขั้นตอนการ ทำงาน ซึ่งจากปัญหาด้านรูปแบบการจัดวางสินค้าบนพาเลทที่ไม่ เหมาะสมสำหรับการจัดเก็บสินค้าบนชั้น วาง ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการเกิดของเสียจากสินค้าตกหล่น เสียหาย จากขั้นตอนการทำงานแบบดั้งเดิมที่ไม่มีการเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีความเสี่ยงจะตกหล่นมาไว้ ด้านล่าง ทางผู้วิจัยจึงได้นำหลักการลดความสูญเปล่า จากการมีของเสียมากเกินไป (Defect/Rework : D) มาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนการทำงาน ด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางภายใน กระบวนการจัดเก็บที่ก่อให้สินค้าเสียหาย ควบคู่กับการ ประยุกต์ใช้หลักการอีซีอาร์เอส (ECRS) เพื่อใช้ ในการกำจัด (Eliminate : E) มาใช้ในการกำจัดหรือลดของ เสียที่เกิดขึ้นจากรูปแบบการจัดสินค้าที่ไม่ เหมาะสมในขั้นตอนการจัดเก็บสินค้าเข้าพื้นที่ อีกทั้งยังมีการนำ หลักการจัดใหม่ (Rearrange : R) มา ใช้ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดเก็บสินค้าใหม่ ด้วยการเคลื่อนย้าย สินค้าที่มีความเสี่ยงจะตกหล่น จากขั้นตอนการเบิกและการจัดเก็บสินค้าในครั้งต่อไป เคลื่อนย้ายมาวางไว้ชั้นล่างของพื้นที่การจัดเก็บ สินค้า ปัญหาในกระบวนการเบิกสินค้าที่เกิดปัญหาในด้านการยก และการ เคลื่อนย้ายสินค้าระหว่างพา เลทเพียงพนักงาน 1 คน และปัญหาจากการไม่ผูกเชือกหรือพันฟิล์มให้แน่น หนาให้กับสินค้า ทางผู้วิจัย จึงได้นำหลักการลดความสูญเปล่าจากการมีของเสียมากเกินไป (Defect/Rework : D) มาประยุกต์ใช้ ในการปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนการทำงานด้วยการเพิ่มคนและเพิ่ม ขั้นตอนในการทำงานบางอย่าง เพื่อให้ รูปแบบการทำงานเกิดของเสียน้อยที่สุด ควบคู่กับการประยุกต์ใช้หลักการอีซีอาร์เอส (ECRS) เพื่อใช้ ในการกำจัด (Eliminate : E) มาใช้ในการกำจัดหรือลดของเสียที่เกิดขึ้น จากการทำงานด้วยระบบ (Manual) ที่ก่อให้เกิดสินค้าชำรุด บรรจุภัณฑ์ฉีกขาด เสียหายจากการทำงานที่ ไม่ระมัดระวัง อีกทั้งยัง มีการนำหลักการทำให้ง่ายขึ้น (Simplify : S) มาใช้ในการปรับปรุงวิธีการทำงานให้สะดวกและง่ายขึ้น ด้วยการเพิ่มพนักงานเป็น 2 คน สำหรับการเบิกสินค้าขนาดใหญ่ เต็มพาเลท เพื่อช่วยกัน เคลื่อนย้าย และตรวจสอบความถูกต้องในการเบิกสินค้าตามใบเบิกสินค้า พร้อมทั้งเพิ่มขั้นตอนการพันฟิล์ม ให้กับ สินค้าที่มีปริมาณสินค้าคงเหลืออยู่ในพาเลทเพื่อป้องกันการตกหล่นของสินค้าจากการเคลื่อนย้ายและ 32 การจัดเก็บบนชั้นวางสินค้า (Selective Racking) เพื่อป้องกันการเกิดของเสียจากสินค้าชำรุด เสียหาย ซึ่ง ก่อให้เกิดกระบวนการทำงานในรูปแบบใหม่ที่ง่ายต่อการปฏิบัติการและสามารถประยุกต์ใช้ ได้อย่าง ต่อเนื่องและหากทางพนักงานให้ความระมัดระวังในทุกขั้นตอนการทำงานจำนวนสินค้าชำรุด ลดลงทาง บริษัทมีนโยบายที่จะมอบรางวัลให้กับพนักงาน ด้วยการให้โบนัสประจำเดือนกับพนักงาน ภายในอัตราส่วน ที่เหมาะสม จากการปรับปรุงแก้ไขกนะบวนการทำงานบางอย่างที่มีความเสี่ยงที่จะ ก่อให้เกิดสินค้าชำรุด
32 4.3 สรุปผลการดำเนินงานหลังการปรับปรุง จากการปรับปรุงกระบวนการจัดเก็บสินค้าและการเบิกสินค้า พร้อมนำทฤษฎีที่กล่าวมาใน ตอนต้น นำมาช่วยในการแก้ไชปัญหาด้วยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดวางสินค้าขนาดใหญ่ สำหรับ การจัดเก็บ สินค้าเข้าพื้นที่จัดเก็บ (Selective Rack) ปรับปรุงกระบวนการเบิกสินค้าเพื่อลดของสีย (Defect) ที่เกิดขึ้น ในกระบวนการจัดเก็บและกระบวนการเบิกสินค้า ดำเนินการปรับปรุงด้วยการเพิ่ม จำนวนพนักงานจากเดิม 1 คน เป็น 2 คน และปรับเปลี่ยนกระบวนการจัดเก็บสินค้าหลังจากการเบิก สินค้าเสร็จสิ้นจากเดิมที่ไม่มีการพันฟิล์มให้กับสินค้าที่แน่นหนาพอ จึงได้ทำการปรับปรุงแก้ไขพร้อม ชี้แจงถึงการพันฟิล์มสินค้าที่ยังคง เหลืออยู่บนพาเลทให้กับพนักงาน เพื่อลดจำนวนสินค้าที่จะชำรุด เสียหายลงด้วยสาเหตุของการชำรุด เสียหายที่เกิดจากการจัดเก็บและการเบิกสินค้าบนพื้นที่การจัดเก็บ สินค้าแบบชั้นวาง (Selective Rack) ซึ่ง จากการปรับปรุงกระบวนการทำงานดังกล่าวมีผลทำให้สินค้า ที่เกิดการชำรุดเสียหายภายในพื้นที่การ จัดเก็บสินค้าแบบชั้นวาง มีจำนวนลดลงจากเดิม หลังจากที่เริ่ม การปรับปรุงตั้งแต่เดือนกรกฎาคม จนถึง เดือนตุลาคม พ.ศ.2566 สามารถแสดงข้อมูลเปรียบเทียบก่อน การปรับปรุงและหลังการปรับปรุงได้ดัง ตารางที่ 4.5 ตารางที่ 4.5 การเปรียบเทียบผลการดำเนินงาน ก่อนการปรับปรุง หลังการปรับปรุง 1.ปัญหาในเรื่องรูปแบบการจัดวางสินค้าบนพา เลท ที่มีความเสี่ยงต่อการตกหล่นจากที่สูง ซึ่ง สินค้า ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นจากการจัดเก็บ สินค้าก่อนทำ การเบิกสินค้า และจากการ จัดเก็บหลังการเบิก สินค้า มูลค่าความเสียหาย 1,450,007.58 บาท ปรับปรุงรูปแบบการจัดวางสินค้าบนพาเลท โดยมี การเคลื่อนย้ายสินค้าที่มีความเสี่ยงมาไว้ด้านล่าง เพื่อป้องกันการตกหล่นจากที่สูง มูลค่าความ เสียหายเหลือเพียง 326,653.43 บาท
33 2.ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บสินค้า ที่พันฟิล์ม ให้กับ สินค้าไม่แน่นหนาพอ จึงก่อให้เกิดสินค้า ตกหล่น เสียหาย บรรจุภัณฑ์ฉีกขาดเสียหาย มูลค่าความเสียหาย 236,895.2 บาท ปรับปรุงด้วยวิธีการเพิ่มจำนวนรอบพันฟิล์มให้กับ สินค้า เพื่อป้องกันสินค้าตกหล่น เสียหาย บรรจุ ภัณฑ์ฉีกขาดเสียหายจากการจัดเก็บและการเบิก สินค้าใหม่ในครั้งหน้า มูลค่าความเสียหายเหลือ เพียง 25,483.39 3.ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดเก็บ ทำ ให้พบสินค้าบางรายการเกิดความเสียหาย มูลคาความเสียหาย 345,684.36 บาท แก้ไขด้วยการจัดประชุมให้ความรู้กับพนักงาน เพื่อ ลดการทำงานที่ผิดพลาดทำให้เกิดสินค้าเสียหาย มูลค่าความเสียหายเหลือเพียง 96,756.32 บาท
34 จากการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลสินค้าที่เกิดการชำรุดเสียหายภายในพื้นที่การ จัดเก็บแบบชั้นวาง (Selective Rack) จากปัญหา 3 สาเหตุ อันได้แก่ ปัญหาที่ 1 ปัญหาในเรื่องรูปแบบ การ จัดวางสินค้าบนพาเลทที่มีความเสี่ยงต่อการตกหล่นจากที่สูง ปัญหาที่2 ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บ สินค้า หลังจากการเบิกเสร็จสิ้น ไม่พันฟิล์มให้กับสินค้าแน่นหนาพอ ก่อให้เกิดสินค้าเสียหาย และปัญหา ที่ 3 ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บสินค้าที่ไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนFIFOให้รอบคอบจึงทำให้พบเจอสินค้า หมดอายุและ เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลก่อนและหลังการปรับปรุงกระบวนการทำงาน คิดเป็นมูลค่าก่อน การปรับปรุงมีมูลค่าประมาณ 1,450,007.58 บาท หลังการปรับปรุงมีมูลค่าประมาณ 326,653.34 บาท ซึ่งมีอัตราที่ ลดลงมา 1,123,354 บาท เมื่อเปรียบเทียบข้อมูลก่อนปรับปรุงและหลังปรับปรุง กระบวนการทำงาน
บทที่ 5 สรุปผลการศึกษาและข้อเสนอแนะ จากการศึกษาและปรับปรุงกระบวนการดำเนินงานที่เกิดขึ้นภายใน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด ในเครือเซ็นทรัลรีเทล ศูนย์กระจายสินค้าไทวัสดุ วังน้อย โดยมีการนำแนวคิดการลดความสูญ เปล่า 8 ประการ (8 Waste) ซึ่งจะเน้นในหลักการลดความสูญเปล่าจากการมีของเสียมากเกินไป (Defect : D) และแนวคิดการลดความสูญเปล่าอีซีอาร์เอส (ECRS) ซึ่งจะเน้นในหลักการกำจัด (Eliminate : E) , หลักการจัดใหม่ (Rearrange : R) และการทำให้ง่ายขึ้น (Simplify : S) มาประยุกต์ใช้ ในการปรับปรุงและ แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในกระบวนการจัดเก็บและการเบิกสินค้าที่ก่อให้เกิดของเสีย (Defect) ซึ่งจากการ ดำเนินงานดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางในการลดจำนวนสินค้าที่เกิด ความเสียหายภายในศูนย์กระจายสินค้า ซึ่งสามารถแสดงผลการวิเคราะห์ข้อมูลและสรุปสาระสำคัญ จากการปรับปรุงแก้ไขปัญหา ดังกล่าวไว้ดังนี้ 5.1 สรุปผลการศึกษา จากการวิเคราะห์ข้อมูลพร้อมทั้งนำทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้เพื่อหาสาเหตุของปัญหาที่ ก่อให้เกิดสินค้าชำรุดเสียหายจากการดำเนินงานภายในศูนย์กระจายสินค้าภายในพื้นที่การจัดเก็บแบบ ชั้น วาง (Selective Rack) ภายในกระบวนการจัดเก็บและเบิกสินค้าซึ่งมีขั้นตอนการทำงานบางอย่างที่ ก่อให้เกิดความสูญเปล่าเกิดขึ้น รวมทั้งการวิเคราะห์ข้อมูลร่วมกับการเก็บรวบรวมความคิดเห็นจาก หัวหน้า งานและพนักงาน ซึ่งจากการร่วมวิเคราะห์ข้อมูลกับทางผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการ หัวหน้าฝ่าย ปฏิบัติการ และผู้นำในแต่ละแผนกพร้อมทั้งการร่วมตอบแบบสอบถามจากพนักงานที่มีการดำเนินงาน ภายในศูนย์กระจายสินค้านำมากำหนดมาตรการสำหรับการปรับปรุงแก้ไขเพื่อลดความสูญเปล่าที่ เกิดขึ้นจากการมีของ เสียมากเกินไป (Defect) ซึ่งสามารถลดความสูญเปล่าที่แฝงอยู่ในกระบวนการ ทำงาน ดังนี้ 1.ปัญหาในเรื่องรูปแบบการจัดวางสินค้าบนพาเลทที่มีความเสี่ยงต่อการตกหล่นจากที่สูง พบว่า พนักงานส่วนใหญ่มีความคิดเห็นในปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับการทำงานของพนักงานในสาเหตุของ ปัญหา ดังกล่าว โดยก่อนการปรับปรุงมีสินค้าที่ชำรุดเสียหายจากสาเหตุดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 1,450,007.58 บาท ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวพบว่าสามารถลดปัญหาของเสียจากการเคลื่อนย้ายที่ ก่อให้เกิดสินค้าชำรุด และบรรจุภัณฑ์ฉีกขาดลง โดยหลังจากการปรับปรุงมีสินค้าชำรุดเสียหายคิดเป็น มูลค่าประมาณ 326,653.34 บาท และมีมูลค่าความเสียหายที่ต้องชำระลดลงร้อยละ 77 จากการ
36 ปรับปรุงด้วยการเพิ่มจำนวนพนักงานเป็น 2 คน เพื่อช่วยกันเคลื่อนย้าย เพิ่มความระมัดระวัง และเพิ่ม ความถูกต้อง ในการเบิกสสินค้าตามใบเบิกสินค้า ซึ่งได้นำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงขั้นตอน การทำงานใน กระบวนการเบิกสินค้า 2.ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บสินค้า ที่พันฟิล์มให้กับสินค้าไม่แน่นหนาพอ จึงก่อให้เกิดสินค้าตก หล่น เสียหาย บรรจุภัณฑ์ฉีกขาดเสียหาย พบว่าพนักงานส่วนใหญ่มีความคิดเห็นรองลงมาในลำดับที่ 2 เป็น ปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทำงานในสาเหตุของปัญหาดังกล่าว โดยก่อนการปรับปรุง มีสินค้าชำรุดคิดเป็นมูลค่าประมาณ 236,895.26 บาท ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวพบว่าสามารถลดปัญหา ของ เสียจากสินค้าที่เสียหายจากพื้นที่จัดเก็บจากการเบิกสินค้าที่ไม่พันฟิล์มให้แน่นหนาจึงก่อให้เกิด สินค้าชำรุด และบรรจุภัณฑ์ฉีกขาด โดยหลังจากการปรับปรุงมีสินค้าชำรุดเสียหายคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 25,483.39 บาท และมีมูลค่าความเสียหายที่ต้องชำระลดลงร้อยละ 89 ซึ่งได้ดำเนินการแก้ไข ขั้นตอนการทำงานด้วย การเพิ่มรอบในการพันฟิล์มและนำทฤษฎีมาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงขั้นตอน การทำงาน เพื่อลดความ เสี่ยงจากการตกหล่นเสียหาย 3.ปัญหาการไม่ปฏิบัติตามขั้นตอนการจัดเก็บ ทำให้พบสินค้าบางรายการหมดอายุ พบว่า พนักงาน ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นรองลงมาในลำดับที่ 3 เป็นปัจจัยที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการ ทำงานในสาเหตุของปัญหาดังกล่าว โดยก่อนการปรับปรุงมีสินค้าชำรุดเสียหายจากสาเหตุคิดเป็นมูลค่า ประมาณ 345,684.36 บาท ซึ่งจากปัญหาดังกล่าวพบว่าสามารถลดความเสียหายของสินค้าภายในคลัง คิดเป็นมูลค่า ประมาณ 96,756.32 บาท และมีมูลค่าความเสียหายที่ต้องชำระลดลงร้อยละ 72 จึงได้มี การแก้ไขปัญหา ด้วยการนำทฤษฎีมาด้วยการจัดประชุมให้ความรู้กับพนักงานที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อให้ พนักงานมีความรู้และแนวทางการปฏิบัติตามกฎต่างๆในการเบิกสินค้าและจัดเก็บสินค้า สามารถแสดง ข้อมูลที่กล่าวมาข้างต้นได้ดังตารางงที่ 5.1 ตารางที่ 5.1 ข้อมูลสรุปจากการเปรียบเทียบก่อนและหลังการปรับปรุงของมูลค่าและปริมาณการเกิด สินค้าชำรุด เสียหายที่เกิดขึ้น ปัญหาที่เกิดขึ้น ราคา (บาท) มูลค่าความเสียหาย ก่อนปรับปรุง หลังปรับปรุง 1.ปัญหาในเรื่องรูปแบบการ จัดวางสินค้าบนพาเลท 1,450,007.58 326,653.34 ลดลงร้อยละ 77 2.ปัญหาในเรื่องการจัดเก็บ สินค้าที่พันฟิล์มให้กับสินค้าไม่ แน่นหนาพอ 236,895.26 25,483.39 ลดลงร้อยละ 89
37 3.ปัญหาการไม่ปฏิบัติตาม ขั้นตอนการจัดเก็บ ทำให้พบ สินค้าที่เกิดความเสียหาย 345,684.36 96,756.32 ลดลงร้อยละ 72 4.อื่นๆ (การเสียหายที่เกิด จากสาเหตุอื่นๆ) 764,623.98 135,648.22 ลดลงร้อยละ 82 รวม 2,797,211.18 584,541.27 ลดลงร้อยล่ะ 79 ภาพรวมหลังจากการปรับปรุงกระบวนการพบว่าสินค้าที่ชำรุดเสียหายจากการดำเนินงาน ภายใน ศูนย์กระจายสินค้าในพื้นที่จัดเก็บแบบชั้นวาง (Selective Rack) ลดลง โดยสามารถลด ค่าใช้จ่ายในการ ชำระค่าเสียหายถึง 584,541.27บาท จากก่อนการปรับปรุงที่มีมูลค่าสินค้าชำรุด เสียหายถึง 2,797,211.18 บาท ซึ่งมีมูลค่าลดลงประมาณ 2,212,669.91 บาท มีอัตราลดลงร้อยละ 79 5.2 ข้อจำกัดในการศึกษา 1.การปรับปรุงแก้ไขขั้นตอนการจัดเก็บสินค้าและการเบิกสินค้าที่มีการดำเนินงานโดยพนักงาน มีข้อกำจัดอยู่ พนักงานจึงไม่สามารถแก้ไขและปรับปรุงพฤติกรรมการทำงานของพนักงานได้ทันทีแต่ จะต้อง ใช้ระยะเวลาในการปรับพฤติกรรมการทำงาน และสร้างวัฒนธรรม รูปแบบในการทำงานใหม่ ซึ่งจะทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายจากการมีจำนวนสินค้าชำรุดเสียหายที่ลดลงได้ 2.การปรับปรุงกระบวนการดังกล่าวที่ได้ศึกษาภายในรายงานวิจัยนี้ยังไม่ครอบคลุมถึง กระบวนการ อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รายงานวิจัยนี้เป็นเพียงการนำเอาปัญหาที่เกิดขึ้นมาปรับปรุง แก้ไข เพื่อให้กระบวนการทำงานมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น 3.รายงานวิจัยนี้อาจไม่เหมาะสมกับการปรับปรุงแก้ไขกระบวนการทำงานในบางธุรกิจหรือ องค์กร ที่มีรูปแบบการดำเนินงานที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับงานด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน 4.เนื่องด้วยการดำเนินงานภายในไซต์ที่พึ่งเริ่มดำเนินงานในระยะเวลาที่ไม่นานมากนัก เพียง ระยะเวลา 4 เดือน ส่งผลให้ข้อมูลสินค้าชำรุดเสียหายดังกล่าวมีข้อมูลเพียง 4 เดือน เท่านั้นที่สามารถ นำ ข้อมูลในปัจจุบันมาดำเนินการวิเคราะห์เพื่อหาแนวทางปรับปรุงและแก้ไข
38 5.3 ข้อเสนอแนะ จากการนำทฤษฎีดังกล่าวมาประยุกต์ใช้ในการปรับปรุงกระบวนการจัดเก็บสินค้าและเบิก สินค้า แม้ว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามวัตถุประสงค์แล้วก็ตาม แต่การที่จะทำให้งานวิจัยมีความสมบูรณ์ ครบถ้วนมาก ยิ่งขึ้นจะต้องเพิ่มเติมสิ่งต่างๆ ดังนี้ 1.ควรมีการพิจารณาถึงปัจจัยอื่นที่เกี่ยวข้อง 2.ควรสร้างความเข้าใจและเพิ่มความระมัดระวังในการทำงานของพนักงาน ร่วมกับการควบคุม อย่างเข้มงวดจากทางหัวหน้างานร่วมด้วยเพื่อให้การดำเนินงานดังกล่าวเป็นไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.ควรจัดอบรมและเพิ่มทักษะในการทำงานให้กับพนักงานภายในร่วมด้วยกัน เพื่อให้พนักงาน มีความรู้ความชำนาญในหน้าที่ ที่ตนเองได้รับมอบหมายมากยิ่งขึ้น และเข้าใจรูปแบบการทำงานใน หน้างาน อื่นๆที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจและให้ความสำคัญกับการลดจำนวนสินค้าที่ชำรุด เสียหายจาก กระบวนการดำเนินงานภายในศูนย์กระจายสินค้า 4.การนำวิธีการในรายงานวิจัยนี้ไปปฏิบัติในธุรกิจหรือองค์กร ควรมีการวิเคราะห์กระบวนการ ทำงานภายในองค์กร พร้อมทั้งนำข้อมูลหรือปัจจัยต่างๆ มาวิเคราะห์ร่วมด้วยก่อนจะนำรายงานวิจัยนี้ ไป ประยุกต์ใช้ต่อไป
39 บรรณานุกรม ข้อมูลบริษัท ไทวัสดุ สืบค้นวันที่ 6 สิงหาคม 2566 จาก https://www.thaiwatsadu.com/page/about Helloterrestrial. (2020) แนวทางการวิเคราะห์แผนภูมิกระบวนการไหล, สืบค้นวันที่ 10 กัยานยน 2566, จาก https://goterrestrial.com/2020/11/12/flow-process-chart/ K Pairoj, (2018), แผนผังก้างปลา Fishbone Diagram คืออะไร, สืบค้นวันที่ 8 สิงหาคม 2566 , https://greedisgoods.com/ Logisticafe. (2009). กิจกรรมหลักของคลังสินค้า, สืบค้นวันที่ 8 สิงหาคม 2566, จาก https://www.logisticafe.com/2009/09/warehouse-activities-1/ Metarnedia Technology. (2003). Vender หมายถึงอะไร. สืบค้นวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 จาก https://dict.longdo.com/search/vender . Nairientoo. (2017). เข้าใจภาพรวมกระบวนการอย่างถ่องแท้ ! ด้วย "SIPOC". สืบค้นเมื่อ วันที่ 19 ตุลาคม 2566, จาก https://www.rainieniroo.com/sipoc Narin Turpiboon. (2021) แนวโน้มธุรกิจและอุตสาหกรรมปี 2564-2566: ธุรกิจการดำเนิน ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ .สืบค้น วันที่ 12 สิงหาคม 2566 จาก https://www.krungshi.com/th/research/industry/industryoutlook/WholesaleRetail/Modern-Trade/ 10/10-modem-trade-21 Natkung Review (2019), หลักการ AM 16. สืบค้น วันที่ 8 กันยายน 2564 จาก http://natkungisland.blogspot.com/2019/06/4m-1e-factors-m-m-achine-materialn.html Timesawang. (2017). สัญลักษณ์ในแผนภูมิกระบวนการไหลของงาน (Flow Process Chart), [Image]. สืบค้นวันที่ 5 ตุลาคม 2566, จาก https://www.nupress.grad Seopackhai. (2021). ประโยชน์ของการจัดการคลังสินค้า, สืบสืบค้นวันที่ 10 ตุลาคม 2564, จาก https://packhai.com/warehouse-advantages/ SIMILAN TECHNOLOGY. (2021). การควบคุมคลังสินค้า, สืบค้นวันที่ 10 ตุลาคม 2566 จาก http://www.similiantechnology.com/news article/control-warehouse.html SOGOODWEB. (2018), วัตถุประสงค์ในการจัดการคลังสินค้า, สืบค้นวันที่ 10 ตุลาคม 2566, จาก http://www.prosofteps.com/Article/Detail/110320 Swisstoy HoSOGOODWEB. (2018), วัตถุประสงค์ในการจัดการคลังสินค้า, สืบค้นวันที่ 10 ตุลาคม2566, จาก http://www.prosofteps.com/Article/Detail/110320
40 บรรณานุกรม (ต่อ) Swisstoy Holding (2021), ระบบการจัดการคลังสินค้า WMS. สืบค้นวันที่ 12 ตุลาคม 2566, จากhttps://www.swisslog.com/th เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ (2561), Lean ความสูญเสีย 8 ประการ (8 Wastes DOWNTIME). สืบค้นวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 จาก https://www.ok2u.com/index.php/ article/logisticssupplychain/243-lean-8-8-wastes-downtime. เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ (2551) ERP 3 การวิเคราะห์ปรับปรุงกระบวนการทำงานโดยใช้ แผนภูมิกระบวนการไหล (Flow Process Chart), สืบค้นวันที่ 15 ตุลาคม 2566, จาก https://www.iok2u.com/index.php/article/logistics-supply-chair/782-ep-3- flowprocess-chart . เกียรติพงษ์ อุดมธนะธีระ (2551), แผนภูมิกระบวนการไหล (Flow Process Chart) ก่อนการ ปรับปรุง[รูปภาพ]. สืบค้นวันที่ 15 ตุลาคม 2556, จาก https://www.ok2u.com/ Index.php/article/logistics-supply-chain/782-erp-3-flow-process-chart . กองบริหารงานบุคคลมหาวิทยาลัยเชียงใหม่. (ม.ป.ป.). ขั้นตอนการสร้างไซพอด (SIPOC). สืบค้น เมื่อวันที่20 ตุลาคม 2566, จาก https://hr.oop.cmu.ac.th/ จันทร์ศิริ สิงห์เถื่อน (2563). สัญลักษณ์แผนภูมิกระบวนการไหลของงาน [รูปภาพ] สืบค้นวันที่ 17 ตุลาคม2566, จาก n.https://pirun.ku.ac.th/fengcsr/courses/2008/01/2ch8.pdf. จุฑาภรณ์ แก้วสุด (2562) การปรับปรุงกระบวนดำเนินงานในการผลิตด้วยการ ประยุกต์ใช้ แนวคิดอื่นกรณีศึกษา: โรงงานผลิตถุงมือยาง จ.สงขลา, วิทยานิพนธ์ปริญญา บริหารธุรกิจ มหาบัณฑิตสาขาวิชาบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ชณิศา มงคลไซ (2564). ได้ทำการศึกษาเรื่อง การลดความสูญเปล่าในการจัดการ สินค้าคงคลัง เครื่องสำอางโดยใช้หลักการECRS ,วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิตสาขาวิชาบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ศิริประภา เพราะไธสง (2565). ได้ทำการศึกษาเรื่อง การบริหารจัดการเพื่อลดความ สูญเปล่าในกระบวนการรับฝากและส่งต่อของฝ่ายปฏิบัติการ กรณีศึกษา: บริษัท ไปรษณีย์ ไทย จำกัด สาขาโป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี วิทยานิพนธ์ปริญญาบริหารธุรกิจ มหาบัณฑิต สาขาวิชาบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก วิทยาเขตจันทบุรี