The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

องค์ความรู้ดีเด่นระดับบุคคล

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pond2520, 2022-03-23 22:06:02

องค์ความรู้ดีเด่นระดับบุคคล

องค์ความรู้ดีเด่นระดับบุคคล

คาํ นาํ

กรมการพัฒนาชุมชน ดําเนินโครงการจัดการความรูง้ านพัฒนาชุมชน
ปงบประมาณ พ.ศ. 2565 เพือเปนการกระตุ้นและผลักดันการจดั การความรขู้ องบุคลากร
กรมการพัฒนาชุมชนใน การนําการจัดการความรู้มาปฏิบัติจนเปนกิจวัตร เกิดการ
แลกเปลียน เรยนรู้ ถอดองค์ความรู้ เพือเปนต้นแบบ และสามารถนําไปปฏิบัติได้จรง
และกรมฯ ได้ดําเนินการจดั ประกวดองค์ความรดู้ ีเด่น (KM Challenge) ประจาํ ป 2565
และคัดเลือกผลงาน KM Challenge ระดับบุคคล องค์ความรูด้ ีเด่น (เรองเล่าเรา้ พลัง)
ตามโครงการจดั การความรงู้ านพัฒนาชุมชนปงบประมาณ พ.ศ. 2565

ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนชลบุร จงึ ได้จดั ทํารปู เล่มเอกสารรวบรวมและ
บันทึกองค์ความรดู้ ีเด่น (เรองเล่าเรา้ พลัง) ของจงั หวัดในพืนทีรบั ผิดชอบของศูนย์ศึกษา
และพฒั นาชุมชนชลบุร จงั หวดั ละ 3 เรอง ตามผลการคัดเลอื กของสํานักงานพัฒนาชุมชน
จงั หวัด เพือใหเ้ กิดแนวคิดใหม่กระตุ้นให้เกิดความตืนตัว สามารถนําไปประยุกต์ใชใ้ นการ
ทํางาน เปนแรงผลักดันและเปนประโยชน์ ต่อการปฏิบัติงานตามบทบาท ภารกิจของ
กรมการพัฒนาชุมชน หวังเปนอย่างยิงว่า เอกสารเล่มนี จะสามารถสรา้ งแรงบันดาลใจ
และทาํ ใหก้ ับผอู้ า่ นเห็นคุณค่าในงานพฒั นาชมุ ชน

ศูนยศ์ ึกษาและพฒั นาชมุ ชนชลบรุ
มนี าคม 2565

สารบญั

หน้า

ปฏิบตั ิการลดยอดหนีผิดนัดชาํ ระกองทุนพฒั นาบทบาทสตร 1

เสือตัวนันทีฉันอยากใส่กับชวี ตทีเปลยี นไปด้วยกระดาษแผ่นเดียว 3

คือหน้าทไี ม่ใชต่ ําแหน่ง 11

การบรหารจดั การข้อมลู การพัฒนาคนแบบชเี ปา 14

ในวนั ทีพฒั นากรต้องทํา “โคก หนอง นา โมเดล” 18

กําลงั ใจในการทํางาน 22

สัมมาชพี ชุมชน สรา้ งรายได้ สรา้ งสามคั คี 23

กองทนุ ขจดั ความยากจน (กองบุญภาคประชาชน) 26

วัยใสใส่ใจการออม 30

ศพจ.คือแสงเทยี น 34

เมอื หนุ่ม INTROVERT ตอ้ งมาเปนพฒั นากร 38

พฒั นากรคือชวี ตทีมีคณุ คา่ 40

สุขเลก็ ๆ ของพัฒนากรพลัดถิน “เราทาํ ได้ เราทําได้” 42

สรา้ งสรรค์การทาํ งานสู่ความยงั ยนื 45

พัฒนากรน้อย กับแสงสวา่ งสว่างนําทางชวี ต 48

สารบญั หน้า
50
นักพัฒนา กลมุ่ ออมทรพั ย์ 54
ยิงนกนัดเดียว ได้ใจหลายคน 56
โคก หนอง นา พลิกชวี ต สู้วกฤติโควด-19 59
เลยี งหลานทงั ที ต้องมเี งนเขา้ กระเปา 61
โคก หนอง นา ความหวงั ความฝนของ “ฉัน” 65
หมู่บา้ นคชานรุ กั ษ์

KM Challenge’65

ÃÒ§ÇÑŪ¹ÐàÅÔÈ
ÃдºÑ ࢵµÃǨÃÒª¡ÒÃ

ࢵµÃǨÃÒª¡Ò÷èÕ 8

¾º¡ºÑ »¯ºÔ µÑ ¡Ô ÒÃÅ´Âʹ˹éÕ
¼´Ô ¹´Ñ ªÓÃÐ˹¢Õé ͧ

¡Í§·Ø¹¾²Ñ ¹Òº·ºÒ·ÊµÃÕ

àÅÒè àÃèÍ× §â´Â ¹Ò·¹ÔµÂì ¡ÃÕ ÐµªÔ ÂÑ ¹Ñ¹·ì
¹¡Ñ ÇªÔ Ò¡Òþ²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹»¯ºÔ µÑ ¡Ô ÒÃ
ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹ÍÓàÀͺҧ¤ÅéÒ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 1

KM Challenge’65

»¯ºÔ µÑ ¡Ô ÒÃÅ´ÂÍ´Ë¹Õ¼é ´Ô ¹Ñ´ªÓÃÐ
¡Í§·¹Ø ¾²Ñ ¹Òº·ºÒ·ÊµÃÕ
Episode 1

หลังจากทีอบรมพฒั นากรก่อนประจาํ การเสรจ็ สิน ในปลายป พ.ศ.2562 ก็ไดร้ บั คําสังบรรจรุ าชการ
ลงทีอําเภอบางบ่อ จงั หวัดสมุทรปราการ หากจะมองเพียงภาพรวมของจงั หวัดก็ถือว่าเปนจงั หวดั
ปรมณฑลทีใกล้กับกรงุ เทพมหานคร การเดนิ ทางค่อยขา้ งสะดวก ถึงแม้จะเปนชุมชนทมี คี วามเปน

เมืองค่อนข้างสูง แต่ผู้คนก็มี
ความเปนมิตรการทํางานใน
ระดับพนื ทจี งึ ไม่ยากจนเกินไปนัก
แต่ในด้านภารกิจงานพัฒนา
ชุมชนก็ยังมีปญหาใหญ่ระดบั
ต้นๆ ของประเทศ คืองาน
กองทุนพัฒนาบทบาทสตร เนืองมาจากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรจงั หวัดสมุทรปราการ เปนหนึงใน
จงั หวัดทีมีปญหาในเรองของการผิดนัดชาํ ระในลําดับต้นๆ ของประเทศ ติด 1 ใน 3 ของประเทศ
มาตลอดโดย ณ สินเดือนมีนาคม พ.ศ.2563 มีหนีสินเกินกําหนดชาํ ระสูงถึง 78.21% จากจาํ นวนเงน
คงค้างทงั สิน 109,204,950 บาท โดยอําเภอบางบอ่ เปนพืนทที ีมคี วามรนุ แรงของปญหาในเรองของ
การผิดนัดชาํ ระมากทีสุด มีจาํ นวนหนีผิดนัดชาํ ระมากกว่า 80% จาํ นวนโครงการทังสิน 328 โครงการ
จาํ นวนเงนคงค้างมากกวา่ 33 ล้านบาท โดยปญหาหนีค้างชาํ ระส่วนใหญ่เปนหนีของป 56-57

ÁͺËÁÒÂÀÒá¨Ô

หลังจากลงอําเภอไม่นานก็มีการมอบหมายให้รบั ผิดชอบงานกองทุนพัฒนาบทบาท
สตรโดยภารกิจเรง่ ด่วนทีสุดก็คือการพยายามผลักดันให้ปญหาในเรองของหนีทีผิดนัดชาํ ระของ
กองทนุ ลดลงโดยเรว็ ทสี ุดภารกิจแรก ค้นหาปญหา

หลังจากการประชุมรว่ มกันทงั จากจงั หวัด อําเภอ และคณะทํางานขับเคลือนกองทนุ
พัฒนาบทบาทสตร ก็พบปญหาของการผิดนัดชาํ ระมากมายหลายปญหา ทีมงานจงึ จาํ เปนต้อง
จดั ลําดับความสําคัญของปญหาและแก้ไขปญหาทีจะเปนชอ่ งทางในการลดยอดหนี ก็พบสาเหตุ
ของปญหาทตี ้องแก้ไขในลําดับแรก ก็คือ ยอดเงนรอการตรวจสอบทีมีการโอนเงนเข้ามาชาํ ระแต่
ไม่สามารถตัดยอดหนีออกได้มีมากกว่า 15 ล้านบาท จงึ จาํ เปนต้องค้นหาเอกสารหลักฐานการ
ชาํ ระหนีมาตัดยอดกับทางกองทุนพัฒนาบทบาทสตรจงั หวัด เนืองจากสมัยก่อนในป 56-57
การชาํ ระหนีคืนจะใหป้ ระธานสตรเปนผรู้ วบรวมเงนจากลกู หนีโอนเข้าบัญชขี องจงั หวดั และ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 2

KM Challenge’65

ทํารายการส่งบางส่วนลูกหนีก็โอนจา่ ยเองเข้าบัญชขี องจงั หวัด ซงึ ในขันตอนนีพบความผิดพลาด
และปญหาเกิดขนึ ดังนี

 ประธานสตรตาํ บลโอนเงนเขา้ บญั ชจี งั หวดั แต่ไมท่ ํารายการส่ง
 ยอดการชาํ ระเงนไมต่ รงกับหลกั ฐานการทาํ รายการส่ง
 ลูกหนีกองทนุ ฯ ชาํ ระเงนแลว้ ไมน่ ําเอกสารใหก้ ับเจา้ หน้าทีเพอื ทําการตัดหนีคา้ งชาํ ระ
 ความผิดพลาดของเจา้ หน้าทที ีไมต่ ัดรายการให้กับลูกหนี เนืองมาจากภารกิจงานทมี าก

การขาดแคลนบุคลากร มภี ารกิจงานทลี น้ มอื ทําให้ขาดประสิทธภิ าพในการบรหารจดั การ

¡ÒÃá¡é䢻­Ñ ËÒ

เมือทราบถึงปญหาดังทกี ล่าวมาขา้ งตน้ แลว้ จงึ ไดก้ ําหนดแนวทางในการแก้ไขปญหาในเรองนี
ดงั นี

 รว่ มกับเจา้ หน้าทจี งั หวัดเขา้ ไปคัดแยกเอกสารการชาํ ระเงนทีสาํ นักงานพฒั นาชมุ ชน

จงั หวดั แยกเปนรายตาํ บล และจดั เรยงเอกสารตามชว่ งระยะเวลาทปี ระธานสตรตาํ บล
โอนและทํารายการเข้ามาตงั แตป่ 56-61

 ลงพบปะกับคณะทาํ งานกองทนุ พฒั นาบทบาทสตรตําบล ตรวจสอบรายการชาํ ระและขอ

เอกสารการโอน เพอื ตรวจสอบให้ถกู ต้องและนําส่งจงั หวัดเพอื ทําการตัดยอดหนี ซงึ มี
เสียงสะทอ้ นจากพนื ที ดงั ๆ ว่า “พัฒนาชมุ ชนทาํ งานกันยงั ไง เอกสารมาขอไปก็ไม่รกู้ ีรอบ
แล้ว เปลยี นคนทกี ็มาขอที หนีก็เทา่ เดมิ ไมเ่ หน็ ตัดได้สกั ที” ทังจกุ และเจบ็ ในใจแตก่ ็เถียง
ไม่ออกเพราะไม่มอี ะไรทีเกินความจรง

 พฒั นากรรว่ มกับคณะทาํ งานสตรในแตล่ ะตําบลประชาสัมพนั ธใ์ ห้ลูกหนีกองทุนพฒั นา

บทบาทสตรนําเอกสารการชาํ ระเงน มาให้กับเจา้ หน้าทเี พือทาํ การปรบั ยอดหนีให้เปน
ปจจุบันปฏิบตั กิ ารเชงิ รกุ ปพู รมค้นหาเอกสารการชาํ ระเงนของสมาชกิ กองทนุ พฒั นา
บทบาทสตร ทงั ลดพืนทคี รวั เรอนเปาหมาย และจดั ประชมุ สมาชกิ ในทุกตําบล

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 3

KM Challenge’65

¼Å¡ÒôÓà¹¹Ô ¡ÒÃá¡äé ¢»­Ñ ËÒ

หลักจากทราบปญหา และกําหนดแนวทางในการแก้ไขปญหาทีเกิดขึน สิงทีได้จาก
การเหน็ดเหนือยทังกายและใจ จากความเพียรพยายามซาแล้วซาเล่า หน้าด้านหน้าทนเข้าหา
ประชาชนโดยนําเอาหลักคิดของหัวหน้าคนแรกทีว่า “การทํางานพัฒนาชุมชนนัน จิตใจต้อง
แข็งแกรง่ ดังหินผา วาจาต้องพลวิ ไหวดังสายนา” จนคณะทํางานสตรทกุ ๆ ตําบลตลอดจนสมาชกิ
ทีลงไปพบปะพูดคุย ใหค้ วามรว่ มมือในการทํางานเปนอย่างดี ผลทีได้รบั ก็ถือว่าประสบผลสําเรจ็
ในระดบั หนึงยอดเงนรอการตรวจสอบทมี กี ารโอนเงนเขา้ มาชาํ ระแต่ไม่สามารถตดั ยอดหนีออกได้
มากกว่า 15 ล้านบาท สามารถค้นหาเอกสารหลักฐานมาตัดยอดหนีได้เกือบ 10 ล้านบาท ซงึ การ
แก้ไขปญหาดังกล่าวเปนบันไดขันแรก ทีจะนําไปสู่การคลีคลายปญหาการผิดนัดชาํ ระของลูกหนี
กองทุนพัฒนาบทบาทสตรอําเภอบางบ่อ ซงึ ยังมีอีกมากมายหลากหลายปญหาให้เราเลือกสรร
หยิบยกขึนมาแก้ ทังนีในการแก้ไขปญหาทังหมดเราไม่สามารถทีจะแก้ไขได้เพียงลําพัง
ผ้บู งั คับบญั ชา เพือนรว่ มงาน ภาคีเครอข่าย ประชาชน แนวนโยบายของรฐั รวมทงั กองทุนพัฒนา
บทบาทสตร ล้วนมีความสําคัญทังสิน สําหรบั ในเรองของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรอําเภอบางบ่อ
ถ้าจะให้เล่าทงั หมด สามวันก็ไม่จบ จงึ ขอเล่าเพยี งบางส่วนของการดําเนินการแก้ไขปญหาในการ
ทํางานเท่านี ขอบคุณผู้มีส่วนเกียวข้อง ขอบคุณตัวเอง ทียังมีชวี ตรอด และขอบคุณผู้มีเกียรติที
อดทนอา่ นมาจนจบครบั

àÅÒè àÃ×Íè §â´Â ¹Ò·¹µÔ Âì ¡ÃÕ ÐµªÔ ÂÑ ¹Ñ¹·ì
¹¡Ñ ÇªÔ Ò¡Òþ²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹»¯ºÔ µÑ ¡Ô ÒÃ
Êӹѡ§Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹ÍÓàÀͺҧ¤ÅÒé

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 4

KM Challenge’65

ÃÒ§ÇÑŪ¹ÐàÅÔÈ
ÃдºÑ ࢵµÃǨÃÒª¡ÒÃ

ࢵµÃǨÃÒª¡Ò÷Õè 9

การสรา้ งแรงบันดาลใจ
ในการเขา้ รับราชการ

“วันน้ีลกู มคี วามเหมาะสม
ทจี่ ะใสเ่ สอ้ื ตวั นี้แล้ว” นั่นคือ
“เสอ้ื เครอ่ื งแบบข้าราชการ (ชดุ สกี าก)ี ”

เลา่ เรอ่ื งโดยนายกอ่ เกียรติ ตกั กศลิ าพนั ธุ์
ตำแหนง่ นกั วชิ าการพฒั นาชมุ ชนปฏบิ ตั กิ าร
สำนกั งานพฒั นาชมุ ชนอำเภอตาพระยา จงั หวัดสระแกว้

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 5

KM Challenge’65

เสอื้ ตวั นัน้ ท่ฉี นั อยากใส่

กบั ชวี ติ ทเ่ี ปลย่ี นไปดว้ ยกระดาษแผ่นเดยี ว

ทุกความฝนบนโลกใบนี ไม่วา่ จะเล็กน้อยเพียงใด หรอยิงใหญ่เกินจนิ ตนาการ และ
สามารถกลายเปนความจรงในชวี ตได้นัน ล้วนมีจุดเรมต้นเล็ก ๆ ทีเหมือนกันนันคือ “การตืน”
และ “การลงมือทํา” เฉกเชน่ เดียวกันกับชวี ตของข้าพเจ้าทีมีความฝนทีจะเปน “ข้าราชการที
ประชาชนยอมรบั และศรทั ธา” และประสบผลสําเรจ็ ในชวี ต จุดเรมต้นเล็ก ๆ ของความฝนในการ
เปนข้าราชการนันเปนเหตุการณ์ทีข้าพเจา้ ได้เข้าไปเกียวข้องกับ “เสือ” เพียง 1 ตัว ทีสรา้ งแรง
บันดาลใจในการสอบเข้ารบั ราชการและ “กระดาษ” เพียง 1 แผ่น อันเปนหลักยึดถือปฏิบัติและ
เคล็ดลับในการปฏิบัติหน้าทีราชการให้เกิดผลสําเรจ็ และเปนข้าราชการทีประชาชนยอมรบั และ
ศรทั ธา ในการเปนข้าราชการของขา้ พเจา้ จนถึงทกุ วันนี

ย้อนกลับไปในปพุทธศักราช 2551 ขณะนันข้าพเจา้ มีอายุ 12 ป กําลังศึกษาในระดบั
มัธยมศึกษาชนั ปที 1 ณ โรงเรยนมัธยมศึกษาแห่งหนึง ในจงั หวัดบุรรมั ย์ ต่อมาในวันหนึง ซงึ เปน
วันหยุดราชการ ข้าพเจา้ ได้ใชช้ วี ตประจาํ วันตามปกติ แต่กลบั มีสิงหนึงแปลกไปจากทีเคยเปน นัน
คือ ข้าพเจา้ สังเกตเห็น “เสือ” 1 ตัว ได้ถูกนํามาแขวนไว้บรเวณเสาของบ้าน บนเสือตัวนันมี
เครองหมายสีทองต่าง ๆ ติดอยู่ และมีปายชอื พรอ้ มกับตําแหน่ง อันเปนการบ่งบอกว่าเสือตัวนี
เปนของบิดาของข้าพเจา้ ทังนีข้าพเจา้ ไม่ทราบว่าเครองหมายเหล่านันหมายถึงอะไร แต่สิงแรกที
ข้าพเจา้ รูส้ ึกหลังจากทีเห็นเสือตัวนันคือ ความสง่างามของเสือทีเปล่งประกายออกมา จนทําให้
ข้าพเจา้ เกิดความต้องการทีจะสวมใส่เสือตัวนันในทันที ข้าพเจา้ จงึ รบเดินไป หยิบเสือ พรอ้ มทัง

แกะกระดุมของเสือออกอย่างทะนุถนอม และในขณะทีข้าพเจา้ กําลังจะสวมใส่
เสือตัวนัน บิดาข้าพเจา้ ได้เดินเขา้ มาหาและพูดกับขา้ พเจา้ ว่า “หยุด! อย่าใส่เสือ
ตัวนัน พอ่ ไมใ่ ห้ใส่ บารมลี ูกยังไมถ่ ึง ถ้าอยากใส่ให้ไปดนิ รนเอาเอง” พรอ้ มทังรบ
ดงึ เสือตัวนันออกจากตัวขา้ พเจา้ และรบนําไปแขวนไวท้ อี ืนทันที ข้าพเจา้ จงึ เกิด
ความคิดทีว่า “วันนีเรายังไม่มีความเหมาะสมในการสวมใส่เสือตัวนี แต่สักวัน
หนึงเราจะต้องคู่ควรกับการใส่เสือทีคล้ายกับเสือตัวนี และมีปายชอื ติดทีเสือที
เปนของเราให้ได้” และบอกกับตัวเองว่านีคือความฝนทีเราจะต้องทําให้เกิดขึน
จรง จากนันข้าพเจา้ ได้ใชร้ ะยะเวลา 12 ปในการศึกษาเรยนรูแ้ ละพัฒนาตนเอง
หลังจากทีทําความเขา้ ใจกับตนเองว่าการจะทําความฝนให้กลายเปนจรงได้ เรา
จะต้อง “ตนื ”และ “ลงมือทาํ ” เทา่ นัน

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 6

KM Challenge’65

ข้าพเจา้ จงึ มุ่งมันตงั ใจทีจะทําความฝนให้กลายเปน

จรง ด้วยความกล้าทีจะเปลียนแปลงและพัฒนาตัวเองให้

เปนคนดี คนเก่ง หมันศึกษาหาความรูอ้ ย่างสมาเสมอ ไม่

ทําตัวเปนคนทีนาเต็มแก้ว ค้นหาบุคคลทีสรา้ งแรงบันดาล

ใจในการสอบเข้ารบั ราชการ พรอ้ มทังหาเคล็ดลับวธกี าร

ต่าง ๆ ในการสอบเข้ารบั ราชการจากบุคคลเหล่านันเพือจะ

นํามาปรบั ใชใ้ ห้ง่ายต่อการลงมือทําได้จรง เพือทีจะสานต่อ

ค ว า ม ฝ น ที จ ะ ส ว ม ใ ส่ เ สื อ ตั ว นั น แ บ บ ข อ ง บิ ด า ต า ม ที เ ค ย

ตังใจไว้ และในทีสุดข้าพเจ้าก็สามารถทําให้ความฝน

ก ล า ย เ ป น ค ว า ม จ ร ง ไ ด้ ข้ า พ เ จ้า ส า ม า ร ถ ส อ บ บ ร ร จุ เ ป น

ข้ารา ชก า ร สั งกั ดกรมกา รพัฒ นา ชุมช น ใ นตํา แหน่ ง

นั กวชาการพัฒนาชุมชนปฏิบัติการ ทําให้ข้าพเจ้าได้มี “เสือของบดิ าตัวนี ทสี รา้ งแรงบนั ดาลใจ
โอกาสสวมใส่เสือตัวนีได้อย่างภาคภูมิใจ โดยมีบิดาเปนผู้ ในการสอบเข้ารบั ราชการ”
ติดเครองหมายและปายชอื พรอ้ มกับสวมใส่เสือตัวนีให้

พรอ้ มกับคําพูดทีว่า “วันนีลูกมีความเหมาะสมทีจะใส่เสือตัวนีแล้ว” นันคือ “เสือเครองแบบ

ขา้ ราชการ (ชุดสีกากี)”

ในวันทีต้องเดินทางไปรายงานตัวเพือบรรจุรบั ราชการในตําแหน่งนักวชาการพัฒนาชุมชน

ปฏิบัติการ หรอ พัฒนากร ณ สํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอตาพระยา จงั หวดั สระแก้ว ข้าพเจา้

ได้แต่งเครองแบบข้าราชการไปรายงานตัวด้วยความภาคภูมิใจในตัวเอง หลังจากทีข้าพเจา้ ได้

รายงานตัว พรอ้ มทังแนะนําตัวกับนายอําเภอตาพระยาและหัวหน้าส่วนราชการเสรจ็ สินแล้ว

ข้าพเจา้ ได้รบั การปฐมนิเทศเรองสําคัญต่าง ๆ ในการรบั ราชการตําแหน่งนักวชาการพัฒนาชุมชน

ปฏิบตั กิ ารจากพัฒนาการอาํ เภอตาพระยา ซงึ ระหว่างทปี ฐมนิเทศอยู่นันท่านไดช้ ไี ปยัง “กระดาษ”

1 แผ่น ทีติดอยู่บรเวณผนังด้านข้างของสํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอตาพระยา และกล่าวว่า

“กระดาษทีเห็นแผ่นนันแหละ คือเคล็ดลับในการทํางานให้ประสบความสําเรจ็ ในชวี ตของพัฒนากร

ถ้าไม่ดีจรงกรมของเราคงไมน่ ํามาเปนค่านิยมให้คนยึดถือปฏิบตั หิ รอก ดังนัน ไปท่องจาํ ให้ขนึ ใจนะ”

ข้าพเจา้ จงึ เกิดความคิดขึนมาในใจทันทีว่า “เมือก่อนเรามีจุดเรมต้นแรงบันดาลใจในการสอบรบั

ราชการเปนเสือเพียง 1 ตัว ดังนันกระดาษเพียง 1 แผ่นนี อาจเปนจุดเรมต้นความสําเรจ็ ในชวี ต

ของการเปนขา้ ราชการ” เมือคิดไดด้ งั นันแลว้ ข้าพเจา้ จงึ ขออนุญาตพัฒนาการอําเภอ ในการลุกขึน

ไปอ่านเนือหาในกระดาษ แผ่นนัน โดยด้านบนของกระดาษมีหัวข้อทีออกแบบมาใหอ้ ่านไดอ้ ยา่ ง

ชดั เจน ซงึ พมิ พ์ไว้วา่ “ค่านิยมองคก์ าร กรมการพฒั นาชุมชน”

เนือหาในกระดาษแผ่นนันมีการออกแบบการจดั วางเนือหาและภาพประกอบอย่างสรา้ งสรรค์

ซึงนิยามคําศัพท์ต่าง ๆ เปนตัวอักษรภาษาอังกฤษ และตัวย่อทีง่ายต่อการจดจํา พร้อมทัง

ค ว า ม ห ม า ย แ ล ะ คํ า อ ธ ิบ า ยอั น เ ป น ห ลั ก ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ข อ ง บุ ค ล า ก ร ก ร ม ก า ร พัฒ น าชุ มช น

กระทรวงมหาดไทย คือ

A = Appreciation : ชนื ชม B = Bravery : กล้าหาญ C = Creativity : สรา้ งสรรค์

D = Discovery : ใฝรู้ E = Empathy : เขา้ ใจ F = Facilitation : เออื อาํ นวย

S = Simplify : ทาํ ใหง้ ่าย P = Practical : ปฏิบัตไิ ด้จรง

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 7

KM Challenge’65

เมือข้าพเจ้าได้วเคราะห์และประยุกต์ค่านิยมองค์การ กรมการพัฒนา
ชุมชน มาใชใ้ นการรบั ราชการ ให้ประสบผลสําเรจ็ ตามทพี ัฒนาการอาํ เภอ
ตาพระยาได้แนะนําไว้ จงึ ได้แนวทางปฏิบัตอิ อกมาดงั นี

“ พัฒนากรจะต้องเปนบุคคลทีมีความกล้าหาญ ในการที
จะพัฒนาชุมชนอย่างไม่ย่อท้อต่อความยากลําบากและอุปสรรคปญหา
มีความคิดทีจะ สรา้ งสรรค์ สิงดีๆ ให้เกิดขึนในชุมชน แม้ว่าจะเปนสิง
แปลกใหมท่ ีไม่เคยปรากฏทีไหนก็ตาม อันเปนผลจากการ ใฝเรยนรู้ ใน
สิงทีเปนประโยชน์อยู่เสมอโดยมีบทบาทเปนผู้ เอืออาํ นวย ในกระบวนการพัฒนาชุมชน ทีให้
การยกยอ่ งและใหเ้ กียรติกับประชาชนใน การเข้ามามสี ่วนรว่ มการพัฒนาชมุ ชนของตนเอง อกี
ทังยังต้องมีความ เข้าใจ ในความแตกต่างของประชาชน ในชุมชน โดยประยุกต์ความรูท้ าง
วชาการ เพือให้ง่าย ต่อการทําความเข้าใจและการลงมือทํา ซงึ จะส่งผลให้การพัฒนาชุมชนของ
ประชาชนและภาคีเครอข่ายทุกภาคส่วน สามารถ ปฏิบัตไิ ดจ้ รง และสําเรจ็ ตามเปาหมายทีตงั ไว้ ”

ต่อมาข้าพเจา้ ได้รบั มอบหมายให้ส่งเสรมและสนับสนุนหม่บู ้านในเขตพืนทีรบั ผิดชอบเข้า
รว่ มการคัดสรรกิจกรรมพัฒนาชุมชนดีเด่น ประจําป 2564 ประเภทหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น
เปนสุข” ซงึ ข้าพเจา้ จงึ ได้นําความรคู้ วามสามารถทีมีมาใชใ้ นการพัฒนาหมู่บ้าน และเตรยมความพรอ้ ม
ในการเข้าคัดสรรกิจกรรมในครงั นี จงึ วางแผนการทาํ งานรว่ มกับประชาชน องค์กร หน่วยงานภาคีเครอขา่ ย
ทังในและนอกหมู่บ้าน โดยประยุกต์ความรรู้ ว่ มกับค่านิยมองค์กร กรมการพฒั นาชมุ ชน ก่อให้เกิดผลลพั ธ์
คือ การได้รบั รางวัลชนะเลิศการประกวดหมูบ่ ้านเศรษฐกิจพอเพียง “อยู่เย็น เปนสุข” ดีเด่นระดับจงั หวัด
ประจําป 2564 และได้รบั โล่รางวัลพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
รตั นราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมาร ส่งผลให้ประชาชนในหมู่บ้านเกิดความภาคภูมิใจและเชอื มันใน
ศั กยภาพของตนเองที ได้ ร ่วมกั นพั ฒนาหมู่บ้ านจนมี ผลงานเป นที ประจ ักษ์ และเป นที ยอมร ับแก่
สาธารณชนได้ ดว้ ยการน้อมนําหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกตใ์ ชใ้ นชวี ตประจาํ วนั ทมี งุ่ เน้น การ
พึงพาตนเองโดยการสรา้ งความมนั คงทางอาหาร เชน่ การปลูกผักสวนครวั เพอื ลดรายจา่ ยและเพิมรายได้
ในครวั เรอน พรอ้ มทังแจกจา่ ยแก่ผู้อืน เปนต้น การอนุรกั ษ์ทรพั ยากรสิงแวดล้อมด้วยการปลูกปาชุมชน
และการสรา้ งภูมิคุ้มกันทางสังคมด้วยการเน้นให้ประชาชนรว่ มกันพัฒนาและเขา้ รว่ มกิจกรรมต่าง ๆ ของ
หมู่บ้าน เพือให้คนในชุมชนมคี วามรกั และสามคั คีในหมู่คณะ พรอ้ มทังเน้นใหเ้ ยาวชนในหมบู่ ้านไดร้ ว่ มมี
บทบาทในการดําเนินงานของหมู่บ้านเพือเปนประโยชน์ต่อเยาวชนทีจะเติบโตมาเปนแกนหลักสําคัญใน
การพฒั นาหมู่บา้ นตอ่ ไป

จากการประยุกต์ใชค้ วามรูค้ วามสามารถในการพัฒนาชุมชนมาบูรณาการรว่ มกับค่านิยม
องค์การกรมการพัฒนาชุมชน อันเปนเทคนิคในการปฏิบัตหิ น้าทรี าชการของข้าพเจา้ ให้ประสบผลสําเรจ็
และมีผลงานเชงิ ประจกั ษ์ อาทิเชน่ รางวัลชนะเลิศ ประเภทจอมขยัน ตามโครงการ 10,000 ก้าว ชาว พช.
สุขภาพดีกรมการพัฒนาชุมชน รางวัลบุคคลต้นแบบการขับเคลือนค่านิยม ABCDEF S&P ดีเด่น ด้าน
“ใฝร”ู้ สํานักงานพัฒนาชุมชนจงั หวัดสระแก้ว รางวัล “วาทะศิลปดีเด่น” วทยาลัยการพัฒนาชุมชน เปน
ต้น และรางวัลทีสําคัญส่งผล อย่างมากในการปฏิบัติหน้าทีราชการในฐานะ “ข้าราชการ” นันคือ “ความ
ศรทั ธา” ทีประชาชนในหมู่บ้านมีให้กับข้าพเจ้าด้วยการรบั ฟง เกิดความไว้วางใจ และเต็มใจทีจะรว่ ม
พัฒนาหมู่บ้าน พรอ้ มทังมอบความรกั และเอ็นดูข้าพเจ้าเหมือนลูกหลานในหมู่บ้านทีต้องการพัฒนา
หมบู่ ้านของตนเองให้ดียงิ ๆ ขนึ ไป

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 8

KM Challenge’65

สุดทา้ ยนี จุดเรมต้นความสําเรจ็ ในการปฏิบัตหิ น้าทีราชการในฐานะ “ข้าราชการ” ของข้าพเจา้ อาจมีเพียง
แค่เสือ 1 ตัว และกระดาษธรรมดาเพยี ง 1 แผ่น แต่การปฏิบัติหน้าทีราชการท่ามกลางสถานการณ์ต่าง ๆ
ในยุคปจจุบันให้ประสบความสําเรจ็ ได้นัน เราจะต้องมี “อุดมการณ์” และ “แรงบันดาลใจ (passion) ”
ในการทํางาน และให้ความสําคัญกับสิงเล็ก ๆ เปรยบเสมือนการพัฒนาชุมชนทีหากไม่สามารถพัฒนา
ประชาชนเพียง 1 คน ให้สําเรจ็ ได้ ย่อมไม่สามารถพัฒนาประชาชนทังหมู่บ้านได้ หากไม่สามารถพัฒนา
ประชาชน 1 หมู่บ้านได้ ยอ่ มไมส่ ามารถพฒั นาประชาชน 1 ตาํ บลได้เชน่ กัน และทสี ําคัญยงิ ไปกว่านัน หาก
ข้าพเจา้ ไม่ใส่ใจพัฒนาตนเองแม้เพียงเล็กน้อย ย่อมไม่สามารถไปพฒั นาผู้อนื ได้อย่างแน่นอน ดังนันการ
ให้ความสําคัญกับสิงทีเปนรายละเอียดเล็กน้อย จงึ เปนส่วนประกอบสําคัญทีจะทําให้เกิดความสําเรจ็ ที
ยิงใหญ่ได้ และในวันนีความฝนของข้าพเจา้ ได้กลายเปนความจรง จากการทีข้าพเจา้ “ตืน” และ “ลงมือ
ทํา” และสามารถสวมใส่เครองแบบข้าราชการ (เสือตัวนันทีฉันอยากใส่) ได้อย่างเต็มภาคภูมิ และเปน
“ศรทั ธาทีเดินได”้ ในฐานะ “พัฒนากร” ของประชาชน

“ความฝันในวนั น้นั กลายเปน็ ความจรงิ ของฉนั ในวนั น”้ี

นายก่อเกยี รติ ตกั กศลิ าพันธ์ุ
ตำแหน่ง นกั วชิ าการพฒั นาชมุ ชนปฏบิ ตั กิ าร
สำนกั งานพัฒนาชมุ ชนอำเภอตาพระยา จงั หวดั สระแกว้

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ หน้า 9

KM Challenge’65

Êӹѡ§Ò¹¾Ñ²¹ÒªÁØ ª¹
¨§Ñ ËÇ´Ñ ªÅºØÃÕ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 10

KM Challenge’65

เรื่อง คือหน้าที่ไม่ใช่ตำแหน่ง

รัฐบาลได้ให้ความสําคัญในการแก้ไขปญหาเพือลดความเหลือมลา เพือให้
ประชาชนสามารถประกอบอาชพี และใชช้ วี ตได้อย่างมีความสุข ผ่านกลไกกระทรวงและส่วน
ราชการทีมีความเชยี วชาญเฉพาะในแต่ละด้าน โดยมอบหมายให้กรมการพัฒนาชุมชนเข้าไป
ขับเคลอื นการดาํ เนินงานในระดับพืนที โดยใชร้ ะบบ TPMAP มกี ลไก 3 ระดบั ไดแ้ ก่ ระดบั จงั หวัด
ระดับอําเภอ และระดับปฏิบัติการ และได้มีการจดั ตังทีมพีเลียงเพือดูแล ติดตามการแก้ปญหา
ความยากจนของครวั เรอน

ข้าพเจา้ พัฒนากร ผู้รบั ผิดชอบงานการขจดั ความยากจนและพัฒนาคนทุกชว่ งวัยอย่าง
ยังยืน ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของอําเภอ ได้ดําเนินการลงพืนที เพือสํารวจ
ตรวจสอบ กลมุ่ เปาหมาย TPMAP ประจาํ อําเภอ ได้พบครวั เรอนหนึง ซงึ เปนครวั เรอนทีตกเกณฑ์
TPMAP มากถึง 7 ข้อ ใน 4 มิติ มิติทีไม่ตกเลยคือมิติค่านิยม ครอบครวั นี ขณะลงพืนทีครงั แรก
อาศัยบนทีดนิ ของพีสาว มสี มาชกิ ดงั นี

1. นางมี อายุ 38 ป ไมม่ ีอาชพี และรายได้ ชอบดมื สุรา
2. นายพา สามีของนางมี อายุ 40 ป พงึ พน้ โทษออกมาจากเรอนจาํ ปจจบุ นั ทํางาน

รบั จา้ งกรดยาง
3. นางสาวชา เปนลกู สาวของนางมี อายุ 17 ป ปจจุบนั ทาํ งานทีหา้ งในอําเภอปลวกแดง

จบการศึกษาชนั ม.3 และกําลังศึกษา กศน.ในชนั มธั ยมปลาย
4. ด.ช. ชาย อายุ 12 ป เรยนไม่จบ ชนั ป.6 เนืองจากมปี ญหาพฤตกิ รรม
5. ด.ญ. บวิ อายุ 14 ป จบการศึกษาชนั ป.6 (เปนคุณแมว่ ยั ใส คลอดบุตร

เดือนมกราคม 2565)
6. ด.ช. ชวิ อายุ 5 ป กําลงั ศึกษาชนั อนุบาล

Family tree ห น ้ า 11
ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ

KM Challenge’65

หลังจากการลงพืนที ทราบวา่ เด็กหญิงบิว อายุ 14 ป
จบการศึกษา ชนั ป.6 ตังครรภ์ กับเด็กชายชาย อายุ
12 ป ซงึ ยังเรยนไม่จบ ป.6 ซงึ ระหว่างทีข้าพเจา้ และ
ทีมปฏิบัติการตําบลลงพืนที ขณะนัน เด็กหญิงบิว
ซึงอายุ 14 ป ตังครรภ์ได้ 7 เดือน และมีกําหนดคลอด
กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ทังสองคน ทํางานเปน
เด็กเสิรฟ์ อยู่ทีห้างในอําเภอปลวกแดง ซึงห่างจาก
บ้านราว 20 กิโลเมตร ค่าแรงวันละประมาณ 250 บาท
เนืองจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชอื ไวรสั โคโรนา จงึ ไม่ได้ทํางาน ทุกวันและทําใหม้ ี
รายได้ไม่มันคง และปจจุบัน หลังจากทีคลอดบุตรแล้ว ทังคู่ได้ลาออกจากงานรบั จา้ งทีอําเภอ
ปลวกแดง เพือทีมาเลียงดูบุตร โดยนายชาย จะไปรับจ้างกรดยางชว่ ยนายพา พ่อของตน
เปนครงั คราว ซงึ ทําให้รายได้ไม่เพยี งพอตอ่ การดํารงชพี
เนืองจากกําหนดคลอดกลางเดือนกุมภาพันธ์ 2565 ปลายเดือนมกราคม
ข้าพเจา้ จงึ ไดป้ ระสานไปยังบ้านพักเด็กและครอบครวั และสํานักงานพัฒนาสังคมและความมนั คง
ของมนุษย์จงั หวัดชลบุร เพือขอความชว่ ยเหลอื ดา้ นการสงเคราะห์เกียวกับคา่ ใชจ่ า่ ยในการคลอด
บุตร แต่ไม่ทันการณ์ ขณะทีอยู่ระหว่างประสานงาน เด็กหญิงบวิ ซงึ ขณะคลอดบุตรได้เปลียน
คํานําหน้าเปนนางสาวแล้วนัน ได้กลับมาพักฟนหลังคลอดทีบ้าน และยังคงค้างค่าใชจ้ า่ ยในการ
คลอดบุตรแก่โรงพยาบาล จงึ ไม่สามารถนําเอกสารทเี กียวข้องจากโรงพยาบาลไปแจง้ เกิดให้กับ
บุตรได้ และครวั เรอนนี เนืองจากเปนครอบครวั ทีตกเกณฑ์ด้านการศึกษา อ่านหนังสือไม่คล่อง
และยังขาดความรดู้ ้านการดาํ เนินชวี ต พืนฐานครอบครวั ยงั ไมส่ ามารถพึงตนเองได้ อกี ทงั ยังเปน
คณุ พอ่ คุณแมว่ ัยใส (ทยี นื ยันจะเลยี งบตุ รเอง) ข้าพเจา้ จงึ เปนหว่ งมากว่าจะสามารถเลียงบตุ รได้ไหม?
บุตรทเี กิดมาจะมคี ุณภาพชวี ตอย่างไร และครอบครวั นีจะมีปญหาอะไรตามมาในอนาคตหรอเปล่า?
ระหว่างการทํางานและประสานงาน ไม่ว่าจะเปนหน่วยงาน สํานักงานพัฒนา
สังคม บ้านพักเด็กและครอบครวั โรงพยาบาล ฝายทะเบียน ทวี ่าการอําเภอ องค์การบรการส่วน
ตําบล ผู้นําชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข ข้าพเจา้ มีคําถามกับตนเองวา่ ทําไมเราตอ้ งมาทํา
หน้าทีนี? หน้าทีนีมันควรเปนของหน่วยงานอืนรเปล่า? เราทําเกินหน้าทีคนอืนไหม ? ทําไม
บทบาทของพฒั นากรมันถงึ ไดม้ ากมายหลายหน้าที แตเ่ มอื มาคิดถึงหลักสิทธมิ นุษยชน ปญหา
สังคมทีเกิดขึนในปจจุบัน และหน้าทีพลเมือง รวมทังการเปนข้าราชการทีดี ข้าพเจ้าจงึ หมด
คําถาม ว่าทําไมเราถึงต้องเปนทังนักพัฒนาสังคม นักสังคมสงเคราะห์ และนักจติ วทยา ในรา่ ง
นักวชาการพัฒนาชุมชนหรอพฒั นากร เพราะหากหนึงคน เปนได้หลายหน้าที ทําได้หลายบทบาท
ไม่ยึดถือในตวั ตนหวั โขนวา่ ตนเองตาํ แหน่งอะไร ชว่ ยเหลอื ซงึ กันและกัน สังคมจะน่าอยขู่ ึน และ
ข้าพเจา้ รสู้ ึกดใี จมากทไี ดใ้ ชค้ วามรจู้ ากการจบสาขาวชาจติ วทยาและได้นําความรจู้ ากประสบการณ์
การเปนนักจติ วทยากลับมาใชก้ ับการพฒั นาชุมชน
ขณะนี ข้าพเจา้ ได้ประสานอาสาสมัครสาธารณสุข มาให้ความรูด้ ้านสุขภาพ แม่
หลังคลอดและการเลยี งเดก็ ออ่ น ประสานเกียวกับเงนสงเคราะหเ์ ด็กในครอบครวั ยากจน แนะนํา

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 12

KM Challenge’65

ชอ่ งทางในการหางานทํา มอบพันธุ์
พืชพันธุผ์ ักให้เขาปลูก เพือประหยัด
ค่าใชจ้ า่ ย และขอความรว่ มมือใหผ้ ู้นํา
ชุ ม ช น , ป ร ะ ช า ช น ใ น ห มู่ บ้ า น ช่ว ย
สอ ดส่ อง ดู แล ช่ว ยเห ลือ ห า ก มี
ป ญ ห า ส า ม า ร ถ แ จ้ ง ข้ อ มู ล กั บ
สํ า นั ก ง า น พั ฒ น า ชุ ม ช น อํ า เ ภ อ เ พื อ
ชว่ ยเหลือตอ่ ไปได้ พีชายของข้าพเจา้
เคยบอกกับข้าพเจา้ ว่า “ ชีวตคน ๆ
หนึง จะมีค่ามีความหมาย เมือได้
ทําเพือคนอืน ” และวันนี น้องสาว
คนนี อยากบอกพีชายว่า ตอนนี “น้องได้ทําเพือคนอืนบ้างแล้วนะ น้องรูส้ ึกชวี ตน้องมีค่ามี
ความหมายมากขนึ ดว้ ย ” การใหถ้ ึงแมจ้ ะมากจะน้อย หรอการทีเราชว่ ยเหลอื หนึงคน แลว้ หนึงคน
สามารถไปชว่ ยเหลือคนอืนต่อ เปนห่วงโซ่ เปนฟนเฟองของชุมชนและสังคม สังคมเราจะน่าอยู่
และประชาชนจะมีคณุ ภาพชวี ตทีดขี ึน แมจ้ ะสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจก็ตาม

เลา่ เรื่องโดยนางสาววรรณลีลา จงั หาร
นักวิชาการพัฒนาชมุ ชนปฏบิ ตั ิการ
สำนกั งานพฒั นาชุมชนอำเภอหนองใหญ่
จงั หวัดชลบุรี
คตพิ จน์ : ชีวติ คน ๆ หน่งึ จะมคี ่า
มีความหมาย เมอ่ื เราได้ทำเพ่ือคนอน่ื

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 13

KM Challenge’65

“การบรหิ ารจัดการข้อมลู การพัฒนาคนแบบชเี้ ปา้ ”

ในวันทีแจม่ ใส แดดยามสายกําลงั รอ้ นระอุ
ทีมาพรอ้ มกับลมเย็นๆ เสียงแผ่วๆ เครองยนต์เบนซิน
2 จังหวะ กําลังขับเพลาทีต่อเข้ากับใบพัดดึงนาจาก
คลองเข้าสู่นา พร้อมกับร้องส่งเสียงครวญครางดัง
เอือยๆ “ต็อกแต๊กๆๆๆ” ยาไปยามาอยู่บนคันคลอง
สายนี ท่าทางมันไม่ได้รบร้อ นอะไร ไม่เหมือนกับ
เครองยนต์เบนซินหัวฉีด 4 จังหวะ ทีครางสนันด้วย
กําลังเต็มที เครองยนต์สองล้อทีมีคนขับเปนข้าราชการ
หนุ่ม ในตะกรา้ หน้ารถคือกระเปาเอกสารรายชอื หัวหน้าครวั เรอนเปาหมายทมี ีเพียงเลขทีบ้าน....
หมู่ที...... ด้านทีตกเกณฑ์เทา่ นัน แบตฯ สํารอง และนาดืม พุ่งไปตามถนนสายรอง ทีเปนทางลดั
เข้าสู่หมู่บ้าน ด้วยความเรว็ พอให้ทุเลาความรอ้ นของแดดยามสาย สองข้างทางคือทุ่งนากว้าง
ใหญ่เขียวขจสี ุดลูกหูลูกตา ตัวเครองเรมลดกําลังลง พรอ้ มกับตัวรถทีหยุดนิง บรเวณสามแยก
กลางตําบล พฒั นากรหนุ่มรบหยิบเอกสารขนึ มาจากกระเปาหน้ารถมาทบทวนรายชอื ครวั เรอนใน
แต่ละหมู่ “วันนีไปหมู่มากทางซ้ายก่อน แล้วค่อยวนมาหมู่น้อยทางขวา”พัฒนากรพูดกับ
ตัวเอง ก่อนจะรบออกตัวเรง่ เครองไปทีบ้านผู้นําชุมชน “กํานันครบั บ้านนาย....และบ้านนาย....
อยู่ตรงไหนเหรอครบั พอดีเขาให้ทางผมลงไปถ่ายรูปหน้าบ้าน และปกหมุด”อดีตกํานันอธบิ าย
ทางไปบ้านแต่ละหลัง พัฒนากรก็จดและจาํ เส้นทางทีจะไปในแต่ละหลังให้ได้ ก่อนทีจะลากํานัน
และไปปกหมุดและถ่ายรูปบ้านแรก “สวัสดีครบั บ้านนาย......หรอเปล่าครบั ” ชายวัยกลางคนยืน
อยู่หลังบ้านมองมาด้วยความแปลกใจ” ไม่ใชห่ ลังนี บ้านนายอยู่หลังนู้น” ชายคนนันเขาชมี ือ
พรอ้ มทังเดินนําไปพรอ้ มทังเรยกคนในบ้านหลงั นันให้ “ยาย..... มคี นมาหา”บา้ นหลงั นีเปนบ้านใตถ้ ุน
ยกสูง ชนั ล่างเปนลานโล่งมีเด็กวงกันอยู่ และมียายคนหนึงนังหนั หลงั ให้ “สวัสดีครบั ผมนาย.....
เปนพัฒนากรอําเภอครบั ไม่ทราบว่าใชบ้ ้านนาย....รเปล่าครบั ” “จา้ มีอะไรเรอะ” ยายตอบโดยที
สายตายังคงจอ้ งมองทีพรกทีกําลงั เด็ดก้านออกและวางเม็ดพรกลงในกระจาดเพือตากแดด ผมก็
เข้าระบบดูบ้านหลังนี “พอดีผมได้รบั รายงานมาว่า น้อง...... เขาไม่ได้เข้าเรยนประถม ตอนนีน้อง
เข้าเรยนรยังครบั ” ยายหยุดเด็ดพรกแล้วหันกลับมามองหน้าผม “น้อง ได้เรยนแล้วนะ เรยนที
พานทอง แต่ตอนนีโควดเรยนออนไลน์อยู่ทีบ้าน นู้นกําลังวงเล่นอยู่นู้น”พัฒนากรหนุ่มตกใจ
ทําไมไม่เปนไปตามข้อมูลทีได้มาจากระบบ “งันผมขอถ่ายรูปบ้านและปกหมุดรายงานเบืองบน
ก่อนนะครบั ว่าน้องได้เรยนแลว้ ” “ได้จา้ ” นีคือประสบการครงั แรกของการปกหมุดและถา่ ยรปู บา้ น

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 14

KM Challenge’65

เดือน มิถุนาย น พุทธ ศั กราช 2 564
ณ ห้องพัฒนาชุมชน จังหวัดมีหนังสือสังการให้ตัง
ศู น ย์ อํ า น ว ย ก า ร ป ฏิ บั ติ ก า ร ข จัด ค ว า ม ย า ก จ น แ ล ะ
พัฒนาคนทุกชว่ งวัยอําเภอ และทีมปฏิบัติการขจดั
ความยากจนและพัฒนาคนทุกชว่ งวัยในระดับพืนที
ผมผู้เปนเจ้าของเรองก็ปรกษากับ “หัวหน้าเพิน”
เพือทําอยา่ งไรให้เสรจ็ ภายใน 2 วัน วธกี ารทีได้ก็คือ
ใหพ้ ฒั นากรผู้รบั ผิดชอบแตล่ ะตําบล หาผ้ทู รงคุณวฒุ ิ
ตามคํ าสังฯ ส่ วนผม ก็ ได้ทํา Google sheet ขึนม า
20 แผ่นงาน ตําบลตามพืนที และอีก 1 แผ่นงาน
สําหรบั ของอําเภอ แชรใ์ ห้ทุกคนกรอก แต่ละคนก็กรอกมาจนเสรจ็ แล้วก็ส่งจงั หวัดตามเวลาที
กําหนด ต่อมาก็มีหนังสือให้ลงไปปกหมุด ถ่ายรูปบ้าน และรายงานสภาพปญหาครัวเรอน
เปาหมาย หัวหน้าเพิน จงึ นัดเจา้ หน้าทีพัฒนาชุมชน ประกอบไปด้วย “พีก้อย” “พีปู” “พีเหมียว”
พัฒนากรผู้ชาํ นาญการ “ต้อน” “ปาน” “เบียร”์ และ“คิด” พัฒนากรปฏิบัติการ และ เบน อาสาพัฒนา
พรอ้ มทังเหล่านักพฒั นารฐั บาลดิจติ อล(นพต.) 7 คน บัณฑิตต้นแบบ(EEC) 3 คน รว่ มประชุมด้วย
รวม 19 ชวี ตอยใู่ นหอ้ ง 48 ตร.ม. กําลงั ประชมุ ฯอยู่ “เนืองจากจงั หวดั สังการ ให้ลงไปปกหมุด และ
ถ่ายรูปบ้านครัวเรอนยากเปาหมาย ในระบบ “TPMAP” จาํ นวน 1,097 ครวั เรอน ในพืนที 19
ตําบล” หัวหน้าเพิน พูดด้วยนาเสียงเครง่ เครยด ทุกคนต่างคนเงยบ “ พีอยากให้ทุกคนลงไปปก
หมุดครวั เรอนยากจนเปาหมายทุกครวั เรอน โดยพาน้อง EEC และ นพต. ไปดว้ ยใหเ้ สรจ็ ก่อนวนั ที
1 กรกฎาคมนี ตําบลไหนเยอะก็ให้น้องไปชว่ ยลง โดยประสานกับผู้ใหญ่บ้าน ผู้ชว่ ยผู้ใหญ่บ้าน
ในพืนที ให้เขาชว่ ยนําทางน้องไป โดยให้ “ตอ้ น” เจา้ ของงานคอยติดตามงานอยตู่ ลอด”หลังเลิก
ประชุม ผมก็ปรนสรุปครวั เรอนแต่ละตําบลแยกให้พัฒนากรแต่ละตําบล ชแี จงการใชง้ านระบบ
TPMAP Logbook การเพิมรูป ปกหมุดบ้าน และรายงานสภาพปญหา สําหรบั งานนีอําเภอพนัส
นิคมมคี รวั เรอนยากจนมากทีสุดในจงั หวดั (ประมาณ 1 ใน 3 ของครวั เรอนทังจงั หวดั ) โดยมตี าํ บล
ทีมีครวั เรอนมากทีสุด 113 ครวั เรอน น้อยทีสุด อยู่ที 4 ครวั เรอน ดังนันการลงพืนทีไปทังหมดใน
เวลาครงเดือนไม่ใชเ่ รองทที ํากันได้ง่าย จงึ ทําใหม้ ีการแบ่งทีมน้อง นพต. ใหล้ งไปชว่ ยพฒั นากรอีกที
หนึง เพอื ให้เสรจ็ ใหท้ ันตามห้วงเวลาดังกล่าว นันจงึ ทาํ ให้วนั รงุ่ ขนึ ตา่ งคนตา่ งแยกยา้ ยกันลงพืนที

นันคือทีมา ทีทําให้ผมขีรถจกั รยานยนต์ว้าเหว่ ลงพืนทีไปยังบ้านยายตากพรก หลังจาก
นันก็ลงไปตามบ้านต่างๆ บางบ้าน เด็กก็ได้เรยนโรงเรยนเอกชนรถรบั ส่งถึงบ้าน บ้างก็เปนลูก
สมาชกิ สภาอบต./เทศบาล บ้างก็เปนบ้านผู้ใหญ่บ้าน บ้างก็มีบ้านหลังใหญ่โต แต่กว่าจะไปได้แต่
ละหลังนันล้วนลําบากยากเย็น เพราะทางเข้าเปนทางลูกรงั บ้างก็อยู่กลางทุ่งนา มีอยู่หลังหนึง
ต้องขีไปตามคันนา เข้าไปในซอยลึกทีไม่มีบ้านคนเลย พอดีก็มีเด็กวัยรนุ่ อายุ ประมาณ 13 ต้นๆ
12 ปลาย ขีรถจกั รยานยนต์สวนมา ผมจงึ ถามวา่ “น้องๆ บ้านนาย...... เข้าไปอีกไกลไหม” น้องเขา
ตกใจ “บ้านผมเองครบั ครู ครจู ะมาเยียมบ้านผมเรอะ” ผมก็อมยิม “พีไม่ใชค่ รู พีมาจากอําเภอ
มีมาดูบ้านน้องเฉยๆ มีคนอยู่บ้านใชไ่ หม เข้าซอยนีใชไ่ หม” “ครบั ครู สุดทางเลยครบั ” ขากลับ เรา
ก็ขรี ถไปคิดไปวา่ เพราะอะไรกันทนี ้องเขาเรยกครู อาจจะเปนเพราะ การแตง่ ตวั หรอเพราะการเขา้
ไปเยยี มบ้าน แต่ยังไงบา้ นหลงั นันก็ไมม่ ีเดก็ ทไี มไ่ ด้เขา้ เรยน เราจะเจอบา้ นหลงั ไหนไหมทมี ีปญหา

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 15

KM Challenge’65

เชา้ วันต่อมาอากาศรอ้ นอีกตามเคย แวะซือนาทีรา้ นค้าธงฟาประจาํ หมู่บ้าน ซึงเปนหมู่
สุดท้ายของตาํ บล “ปา ครบั รจู้ กั บา้ นนาย..... พอดีผมเปนพฒั นากรประจาํ ตาํ บลโทรหากํานันเขาไม่
รบั เลยครบั ” “อ่อ บ้านนายทัด ใชไ่ หม หนูตรงไปเลย ส่วนบ้านนาย.....นีอยู่ตรงข้ามกับรา้ นปา
นีเอง” โชคดีทถี ามถกู คน เพราะปารา้ นขายของผ้นู ี รจู้ กั คนทังหมู่ ผมก็ถ่ายรปู ปกหมดุ ตามระเบยี บ
“เฮ้ย นันหลานนายทัดเขามาพอดี ตามหลานเขาไปเลย” ปาตะโกนบอกในน้องเขารอ ผมก็รบ
ขวา้ งว้าเหว่ ขวดขาตัง สตารท์ รถขรี ถตามหลานไป พรอ้ มตะโกนวา่ “ขอบคณุ ครบั ปาเดยี วกลับมา
ถามใหม่” หลานสาวสามคนซอ้ นรถจกั รยานยนต์เก่าๆ แทบจะเปนรุน่ ปูทวดของปูทวดของคันที
ผมขอี ยูก่ ็ได้ ตา่ งก็ขดี ว้ ยความเรว็ พอประมาณ ตามถนนลาดยาง ขา้ งทางเตม็ ไปด้วย ตน้ ไม้ สักพกั
น้องเขาก็ลดความเรว็ ลง และหายเขา้ แนวตน้ ไม้ข้างทางไป ผมตกใจรบเรง่ ไปดู น้องเขาขลี งไปอยู่
ข้างทางแล้ว สรปุ ว่าตอ้ งลงข้างทางไป ซงึ ลาดชนั พอสมควร ผมก็เข้าเกียรต์ าพุ่งลงไป วงผ่านปาไม้
ข้างทางจนถึงบ้านไม้หลังหนึงสภาพเก่าแก่ “เจอของจรงเข้าแล้ว” วันนันคนในครบครวั ประกอบ
ไปดว้ ย ตา ยาย ลกู สาว และหลานสาวทังสีคน ซงึ หนึงคนทรี ะบบรายงานว่าไม่ไดเ้ รยน ปจจบุ ันได้
เรยนหนังสือแล้วทโี รงเรยนประถมประจาํ ตําบล ก็พดู คยุ ถึงปญหาและความต้องการ สรปุ ว่าบา้ นก็อยู่
ในทีเช่า สภาพบ้านก็ทรุดโทรม
ผมก็ถ่ายรูปลงระบบ ซึงบ้านหลัง
นีก็จะอยใู่ นใจผมไปอกี นาน

ห ลั ง จ า ก ที ทุ ก ค น ล ง ไ ป
ถ่ า ย ภ า พ บ้ า น ป ก ห มุ ด แ ล ะ
รายงานปญหาเสรจ็ ตามกําหนด
เวลาก็ผ่านไปดว้ ยงานตา่ งๆ ไมว่ า่
จะเปนการบูรณาการแผนตําบล
สัมมาชพี การเก็บข้อมูลความจําเปนพืนฐาน(จปฐ.) เดือน พฤศจิกายน พุทธศักราช 2564
รฐั มนตรว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศการขจดั ความยากจนพัฒนาคนทุกชว่ งวยั ตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงขึน โดยนําข้อมลู จากระบบ TPMAP ทีเราได้ลงมาปกหมุดมาทาํ เปน
โครงการขึนมาอย่างเปนระบบ โดยให้ทีมพีเลียงในแต่ละตําบล ลงไปตรวจสอบครวั เรอน
เปาหมาย พรอ้ มทังรายงานสภาพปญหาดังกล่าว ให้ศูนย์อํานวยการปฏิบัติการฯอําเภอทราบ
ผมได้นําปญหานีปรกษากับทมี ปฏิบัติการทราบ “ทา่ นปลดั ครบั ครวั เรอนเปาหมายขอวดั โบสถ์ตก
ด้านการศึกษา ซงึ ทังหมดรายงานวา่ ไม่ได้เรยนประถม แต่ตอนนีทุกคนได้เรยนหมดแล้ว และอีก
คนก็พิการตังแต่กําเนิด แต่มีอยู่หลงั หนึงทีผมคาใจ อยากให้ท่านปลัดฯ ได้ลงไปดู” ผมได้พูดกับ
ปลดั อบต. ด้วยโทรศัพท์ ก่อนจะนัดลงกลบั ไปดู โดยนัดเจอกันทีอบต. “ พฒั นากรไปรถยนต์ก็ได้”
ปลัดอบต. เชอื ชวนใหข้ ึนรถยนต์ไป” “บา้ นนายทัด รถยนตเ์ ข้าไม่ไดค้ รบั ปลัด ตอ้ งเอามอเตอรไ์ ซต์
ไปเท่านัน” ปลัดงง เจา้ หน้าทีอบต.ก็ขีมอเตอรไ์ ซต์มารบั “ไปค่ะ ป. ตามทีน้องเขาบอกเลยค่ะ”
ปลัดฯ ก็ซ้อนไปโดยดี เมือปลัดเห็นทางลง ก็ลงมอเตอรไ์ ซต์แล้วเดินลง จากนันก็นังซ้อนไปถึง
บ้าน กํานันก็ขีมอเตอรไ์ ซตม์ าถึงพอดี ทุกคนต่างๆ ก็อยู่หน้าบ้านนายทัด(นามสมมติ) ต่างก็ทราบ
ปญหาและปรกษาวางแผนหาทางออกสรปุ วา่ ให้รายงานวา่ คลาดเคลอื นเพราะพบเปนปญหาเรอง
สภาพบ้านไม่คงทนถาวรแทน และจัดหาวัสดุและอุปกรณ์มาซ่อมแซมบ้านนันกํานันจะเปนผู้
ประเมินและหาแรงงานให้ ส่วนคนอืนๆ ก็หางบประมาณมาให้

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 16

KM Challenge’65

หลงั จากการลงไปตรวจสอบ ทังอําเภอพนัสนิคม คงเหลอื ครวั เรอนยากจนเปาหมายเพียง
11 ครวั เรอน เท่านัน เนืองจากไม่พบสภาพปญหาดังกล่าวแล้ว เพราะเนืองจากข้อมูลจาก 2 ป
ทีแล้ว ทําใหเ้ ด็กทีไม่ได้เรยน ปจจุบันได้เรยนแล้ว บ้านทีมีสภาพเสือมโทรมก็มีการปรบั ปรงุ ให้ดู
สวยงาม หรอแม้กระทังผ้ทู ีไม่มีอาชพี และรายได้ ปจจุบันก็มีรายได้แล้ว ส่วน 11 ครวั เรอนก็มีทีม
พีเลยี งในตําบลใหก้ ารชว่ ยเหลอื

เรองนีสอนใหผ้ มรูว้ ่า ความสําเรจ็ ทีเกิดขึนได้ มันไม่ได้เกิดจากตัวเรา เพียงคนเดียว แต่
ล้วนเกิดจากภาคส่วนตา่ งๆ ทมี งานบนสํานักงาน ผนู้ ําในทอ้ งที ผนู้ ําทอ้ งถนิ ลงุ ข้างบา้ น ปารา้ นค้า
น้องทีขีรถสวนมา ฯลฯ ทําให้งานมันออกมาสําเรจ็ ครบถ้วนสมบูรณ์ ลองคิดดูสิครบั ว่า หากไม่มี
ผนู้ ํา คณุ จะตามหาบา้ นในแตล่ ะหลงั ไปยงั ไง หากคณุ หลงทาง ไมม่ ใี ครทขี รี ถสวนทางมา คุณจะไป
ถึงจดุ หมายได้หรอเปล่า หากคุณไม่มีทีมงานแม้งานคณุ จะเสรจ็ แตก่ ็ไม่มงี านส่งจงั หวัดได้ทันเวลา
หากคุณไม่มีทีมปฏิบัติการคุณก็ไมร่ ูว้ ่าจะแก้ปญหาของครวั เรอนเปาหมายได้อยา่ งไร ทุกสิงล้วน
ต้องพึงพาอาศัยซึงกันและกัน ซึงงานนันจะออกมาประสบความสําเรจ็ ดังทสี มปรารถนา ตามคํา
กล่าวของ ดร.วาย ซี เจมส์ เย็น (YC James Yen) ทีว่า “ไปหาชาวบ้าน อยู่กับเขา เรยนรูจ้ ากเขา
วางแผนกับเขา ทํางานกับเขา เรมจากสิงทีเขารู้ สรา้ งจากสิงทีเขามี สอนโดยชใี ห้เห็น เรยนจาก
การทํา ไม่ใชเ่ พืออวด แต่เพือเปนแบบแผน ไม่ใชส่ ิงละอันพันละน้อย แต่เปนระบบ ไมใ่ ชท่ าํ ทีละ
อย่าง แตใ่ ชห้ ลักผสมผสาน ไม่ใชต่ ามใจ แตช่ ว่ ยใหเ้ ปลยี นแปลง ไมใ่ ชโ่ อบอุ้ม แต่ชว่ ยสรา้ งพลัง”

เล่าเร่อื งโดยนายกิตติพงศ์ วิชติ วาที
นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนปฏิบตั ิการ

สังกัดสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอพนัสนิคม

คติพจนป์ ระจำใจ : ความรู้มากมายไม่
สำคญั หากประยกุ ต์ใชค้ วามรนู้ ั้นไม่ได้

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 17

KM Challenge’65

ã¹Ç¹Ñ ·Õè

¾²Ñ ¹Ò¡ÃµÍé §·Ó “⤡ ˹ͧ ¹Ò”

⤡-˹ͧ-¹Ò âÁà´Å คอื

การจดั การพืนทีซึงเหมาะกับพืนที
การเกษตร ซงึ เปนการผสมผสาน
เ ก ษ ต ร ท ฤ ษ ฎี ใ ห ม่ เ ข้ า กั บ ภู มิ
ป ญ ญ า พื น บ้ า น ที มี อ ยู่ อ ย่ า ง
ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ธ ร ร ม ช า ติ ใ น พื น ที
นันๆ เปนการทีใหธ้ รรมชาตจิ ดั การ
ตัวมันเอง โดยมีมนุษย์เปนส่วน
ส่งเสรมให้มันสําเรจ็ ขึน อย่างเปน
ระบบ ฟงดูแล้วก็ไม่น่ามีอะไรยาก
ใชม่ ัยละครับ?....ใช่ครับ สําหรับ
พัฒนากร เรองทฤษฎีพืนฐานตา่ งๆ เหล่านี มันไม่ใชเ่ รองยากทจี ะศึกษาและทาํ ความเข้าใจ ก่อนที
จะนําข้อมลู ทไี ดน้ ีไปบอกต่อใหก้ ับชาวบ้าน ผสู้ นใจในโครงการพัฒนาหมบู่ า้ นเศรษฐกิจพอเพยี ง ที
มีการพ่วงการพัฒนาศูนย์เรยนรู้ “โคก หนอง นา” เข้ามาในโครงการนีด้วย แล้วความยากของ
พัฒนากรตวั น้อยๆ กับ “โคก หนอง นา” มนั คืออะไรกันละ่ …?
ตามผมมาเลยครับ เดียวจะเล่าให้ฟง ในฐานะพัฒนากรบรรจุได้ไม่นานเท่าไหร่
ณ สํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอพนัสนิคม และต้องมาเจอกับโครงการนี ก็พอจะเจอปญหาและ
อุปสรรคในการดําเนินโครงการนีมาพอสมควร เกรนมานานละ เข้าเรองเลยแล้วกัน สิงทีผม
ประสบพบเจอมากับตัวเอง แบบไม่ไดใ้ ส่ไขใ่ ส่นมใดๆทงั สิน เรมตังแต่….
1. การกาํ หนดตวั เลขเปาหมายพนื ทีดาํ เนินการ ว่า
จะต้องได้เท่านันเท่านี และทีสําคัญ!!! อําเภอพนัส
นิคมเปนอําเภอใหญ่ ก็อย่างทีคิด…เปาหมายมาลง

ทีนีแหละอย่างเยอะ ไมพ่ อกําหนดวนั มาเรยบรอ้ ย วา่
ต้องส่งรายชอื ครวั เรอนเปาหมายดําเนินการภายใน
วนั ทีกระชนั ชดิ ผลทตี ามมาคือ ไม่มเี วลาลงไปดพู นื ที

ครบทุกแห่งทีมีการสมัครเข้ามารว่ มโครงการ พอถึง
วั น ดํา เ นิ น ก า ร จ รง พื น ทีดัง ก ล่า ว ทีไ ม่ สามา รถ
ดาํ เนินการได้ เปนหนองนาบา้ ง เปนทดี นิ รวมสิงปลกู สรา้ งบา้ ง บางทรี อไม่ไหวบา้ งขุดสระไปแล้ว ทาํ

ให้ไม่สามารถทําโครงการได้ นันแหละครบั ท่านผู้อ่าน…อําเภอใหญ่ ไม่ได้แปลว่าพืนทีจะพรอ้ ม
ขุดสระทุกหม่บู า้ น ไม่ไดแ้ ปลวา่ จะมคี นสนใจทังอําเภอ คิดเหมือนผมมยั ล่ะ…? ไปตอ่ ทขี ้อถัดไปครบั

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 18

KM Challenge’65

2. สิงทียากไม่แพ้ข้อแรก ก็เรองการจดั ซอื จดั จา้ งงานชลประทาน นีแหละครบั จาก
การได้พูดคุยกับผู้อาวุโสทีอยู่กับ พช. มานาน ต่างบอกว่านีเปนครังแรกทีได้เจอกับงาน
ชลประทาน ซึงก็ต้องใชว้ ทยายุทธพอสมควรกว่าจะผ่านด่านได้ สตง. ก็เล็งจะเข้ามาตรวจสอบ
ไม่ใชแ่ ค่เล็งหรอกครบั …มาจรงๆ ก็โดนชแี จงกันไป คณะกรรมการตรวจรบั นีแหละรบั ไปเต็มๆ
ไหนจะตอนตรวจรบั งานจ้างทีต้องลงไปในหนองนา ในคลองไส้ไก่ เพือวัดขนาดของสระนา
แล้วเอาไปคํานวณปรมาณดินขุดเพอื จา่ ยเงนใหก้ ับผู้รบั จา้ ง ก็สนุกดีครบั ประสบการณ์แปลกใหม่
ทีหาได้จากงาน พช.

3. ข้อสุดท้ายแล้วกัน เดียวเบือ…ในเรองของการขอชา่ งของท้องถินเข้ามาเปนผู้
ควบคุมงาน บอกเลยครบั ไม่ง่าย เพราะข่าวคราวของโครงการมีให้ได้ยินเยอะพอสมควร
ชา่ งท้องถินได้ยินชอื ก็บอกทนั ทพี ีขอลา…กวา่ จะยอมมาเปนผู้รว่ มชะตากรรม แทบจะกราบกันเลย
ทีเดยี ว…

“บน่ ได้ไม่ผิดครบั แตป่ ญหามไี วพ้ ุง่ ชน” มาดกู ันครบั วา่ แต่ละขอ้ มที างออกยงั ไง??

·¡Ø »­Ñ ËÒÁÕ·Ò§ÍÍ¡àÊÁÍ…ÍÂÙ·è àèÕ ÃÒÇèÒ¨ÐËÒà¨ÍËÃ×Íà»ÅÒè

ข้อแรก การทีพืนทีเปาหมายหายไป หรอไม่มีความพรอ้ มใน
การรว่ มโครงการ การแก้ปญหาทีทํา คือ..

- สํานักงานพัฒนาชุมชนอําเภอ ทําการประชาสัมพันธท์ ุก
ชอ่ งทาง เพือหาพืนทีมาทดแทน เพราะบางครงั การกระจายข้อมูล
ข่าวสารในพืนทียังไม่ทัวถึง และเมือมีผู้มาสมัคร ก็ต้องลงไปดูพืนที
จรงว่ามีความพรอ้ มในการดาํ เนินการหรอไม่ อันนีสําคัญมากๆ

ข้อสอง ในเรองการจัดจ้างงานชลประทาน รายละเอียด
เอกสารต่างๆ ค่อนข้างมาก และทีสําคัญการทีไม่เคยทํามาก่อน ทําให้เกิดปญหาในเรองของ
เอกสารทีขาดหายไป ซงึ จากการที สตง. ลงมาตรวจก็ยังพบปญหาเล็กๆน้อยๆ ซงึ เปนรายละเอียด
ปลีกย่อยทีคาดไม่ถึง ในส่วนของเอกสารต่างๆ ต้องศึกษาเพิมเติมใหม้ ากทีสุด และงา่ ยทีสุดคือการ
ถามการเงนจงั หวดั หรอภาคีเครอข่ายทีมี

ข้อสาม การประสานงานกับชา่ งท้องถิน ซึงความยากง่ายนันขึนอยู่กับว่าความสัมพันธ์
ของเรากับท้องถินดีแค่ไหน เพราะการทีช่างท้องถินจะยอมมารว่ มชะตากรรม โดยไม่ได้รบั
ค่าตอบแทนใดๆ ซงึ ภาระงานทีมีอยู่ของทางท้องถินก็มีเยอะอยู่แลว้ และบางแห่ง ทังกองชา่ ง มี
เจา้ หน้าทแี ค่คนเดียว ก็ต้องเห็นใจอยา่ งยิง ในข้อนีต้องใจซอื ใจ การเข้าถึงและพดู คุยกันตัวตอ่ ตวั
และให้ข้อมูลอย่างตรงไปตรงมา ดีกว่าการคุยกันผ่านหนังสือ เพราะการคุยกันแบบตัวต่อตัว
จะทําให้เข้าใจกันได้มากขึนกว่าข้อความในหนังสือทสี ่งไป

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 19

KM Challenge’65

º·ÊÃ»Ø ¢Í§»­Ñ ËÒ

การทีเราผ่านประสบการณ์ทีผิดพลาด ลองผิดลองถูก
เราก็จะนําข้อผิดพลาดนันๆมาแก้ไขในครงั ต่อไปโดย
อัตโนมัติ เพราะเรารแู้ ล้วว่าสิงไหนผิด สิงไหนถูก การที
ได้ทําอะไรใหม่ๆ ก็มักจะมีการต่อต้าน ในชว่ งแรกๆ เปน
เ ร อ ง ป ก ติ เ พ ร า ะ ค ว า ม ไ ม่ รู้ ไ ม่ เ ป น แ ต่ เ มื อ ผ่ า น
ประสบการณ์มาแลว้ อะไรทเี คยตอ่ ต้าน ถ้าผา่ นมนั มาได้
สุดท้ายก็ยอมรบั ปรบั ตัว และก็จะกลายเปนเรองง่ายใน
ทีสุด ก็ไม่รูว้ ่า “โคก หนอง นา” จะอยู่อีกนานแค่ไหน ก็
ต้องให้เวลาแสดงความสําเรจ็ หรอ ความล้มเหลวของ
โครงการ แต่สิงทีพัฒนากรผู้ปฏิบัติงานในพนื ทีจะทําได้
นันก็คือการยอมรบั ปรบั ตัว และทํางานนโยบายนี ให้
ผ่านไปได้เพือผลประโยชน์ของประชาชนในพนื ทีให้มาก
ทีสุด…

àÅÒè àÃèÍ× §â´Â¹ÒÂÃªÑ ¾Å ¹¹Ñ ¨µÔ Ê¡Ñ
¹¡Ñ ÇªÔ Ò¡Òþ²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹»¯ÔºµÑ ¡Ô ÒÃ
Êӹѡ§Ò¹¾Ñ²¹ÒªÁØ ª¹ÍÓàÀ;¹Ñʹ¤Ô Á
¨§Ñ ËÇ´Ñ ªÅºÃØ Õ
¤µ¾Ô ¨¹ì : ªÕÇµÔ Â§Ñ Á¾Õ çØè ¹àÕé ÊÁÍ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 20

KM Challenge’65

ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹
¨§Ñ ËÇ´Ñ ©ÐàªÔ§à·ÃÒ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 21

KM Challenge’65

กำลังใจในการทำงาน

กําลังใจ คือ พลังชนิดหนึงทีอยู่ภายในตัวบุคคล ทีใชใ้ นการขับเคลือนความคิดและ
การกระทําใดๆ ทีพึงประสงค์ให้บรรลุผลสําเรจ็ ในความต้องการ ในการทํางานทีต้องอาศัยการ
ทํางานทีใช้ “ใจ” ในการทํางานไม่ว่าปรมาณงานจะมาก เปนงานทีไม่เคยทํามาก่อน หรอจะมี
อุปสรรคใดๆ ก็ตาม หากมีกําลังใจทีดี มีใจทีสู้ต่อปญหา และอุปสรรคแล้ว ย่อมมีโอกาสทีจะ
ทาํ งานนันใหส้ ําเรจ็ ได้

จากการทไี ด้มาทาํ งานในสํานักงานพฒั นาชุมชน เปนระยะเวลาเกือบ 6 เดือน ในชว่ ง
แรกก็ยังจบั ต้นชนปลายไม่ถูกว่าจะทําอะไรยังไงก่อน และก็มีงานทีเข้ามาพรอ้ มกันหลายงาน
ทําให้ต้องฝกการบรหารจดั การใหง้ านสําเรจ็ ในภาพรวมให้ได้ มองหาสิงทีเปนกําลังใจทีจะมาเปน
แรงผลักให้สามารถทํางานให้สําเรจ็ บางครงั ก็ตังคําถามกับตัวเราเองว่า ทําไมเราจะต้องทน
เหน็ดเหนือย จะต้องทํางานหนัก เราทําไปเพืออะไรคําถามนี ตัวเราเองนีแหละทเี ปนคนทตี อบได้
ดีทีสุด ว่าทุกวันนีเราทุ่มเท พยายาม พากเพียร ทําสิงเหล่านีไปเพืออะไร เมือเราตอบตัวเองได้
แล้ว เมือเรามองเห็นภาพในอนาคตของตัวเราเอง ว่าเราต้องการอะไร อยากมีอนาคตแบบไหน
เราก็จะมีกําลังใจ และแรงฮดึ สู้ในการก้าวไปสู่ความฝนนัน “อนาคต” ทีสดใสกําลังรอเราอยแู่ ละ
เราจะเปนผู้ทสี รา้ งสรรค์มนั ขึนมาด้วยมือของเราเอง

การสรา้ งกําลังใจในการทํางาน ถือเปนสิงทีสําคัญสําหรบั คนทํางาน หากกําลัง
รูส้ ึกท้อแท้กับการเดินทางมาทํางานในแต่ละวัน เนืองจากต้องแบกรบั ภาระหน้าที รวมถึงความ
รบั ผิดชอบอันยิงใหญ่ และความกดดนั ตา่ งๆ เอาไวม้ ากมาย ตอ้ งลุกขึนมาสรา้ งและมองหากําลงั ใจ
ในการทํางานให้กับตัวเอง ให้กําลังใจตัวเองว่า “เราทําได้” จึงถือเปนพลังสําคัญทีจะเปน
แรงผลกั ดนั ให้เราลกุ ขึนสู้กับสิงทีอยตู่ รงหน้า และทาํ มนั ออกมาไดด้ ี มองเรองยากใหเ้ ปนเรองงา่ ย
จะทําให้คณุ รูส้ ึกมกี ําลังใจทจี ะลงมือทาํ ได้มากยิงขึน รูจ้ กั ค้นหาหรอเสนอไอเดียใหม่ๆ ให้กับเพือน

รว่ มงาน ซึงสิงเหล่านีจะทําให้รูส้ ึกว่าได้มีส่วนรว่ มในการ
ทาํ งาน ดึงพลงั นักส้ใู นตัวออกมาและบอกกับตวั เองเสมอว่า
เราคือคนเก่งคนหนึงทีสามารถฝาฟนอุปสรรคทุกอย่าง
รวมถึงงานทีกองอยู่ตรงหน้าให้สําเรจ็ ลุล่วงได้ทันเวลาและ
ตรงตามเปาหมาย

เลา่ เรอ่ื งโดยนาย กรรภริ มย์ ดนพล
นกั วิชาการพัฒนาชมุ ชนปฏิบตั กิ าร
สำนกั งานพัฒนาชมุ ชนอำเภอบางคลา้

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 22

KM Challenge’65

สัมมาชพี ชุมชน สรา้ งรายได้ สร้างสามัคคี

สว่ นนำ

ปจจุบันนีสถานการณ์ทเี กียวขอ้ งกับการประกอบอาชพี ของประชาชน ภาคการเกษตรใน
ชุมชนมีภาวะความเสียงของอาชพี ภาคเกษตรกรรมทีเกิดจากการประกอบอาชพี แบบดังเดิม เชน่
ปลูกพืชเชงิ เดียว โรคพืช ราคาผลผลิตตกตา การไม่มีอาชพี หรอรายได้เสรม หลังฤดูการผลติ และ
ยังมีการรวมตัวกันเปนกลุ่มอาชพี ค่อนข้างน้อย ส่วนกลุ่มอาชพี ทมี ีอยู่ยังไมไ่ ด้รบั การส่งเสรม และ
พัฒนาอย่างเพียงพอ ส่งผลให้ประชาชนต้องเคลือนย้ายไปประกอบอาชพี ในเมือง และมีส่วน
ราชการทีมีสถานทีหรอศูนย์ฝกอบรมซงึ สามารถปรบั เปลียนเปนศูนย์ฝกอาชพี /แหล่งเรยนรูก้ าร
ประกอบอาชีพได้ แต่ไม่ได้ใช้ประโยชน์เท่าทีควร ประกอบกับมีปราชญ์ชุมชนด้านอาชีพที
เชยี วชาญและประสมผลสําเรจ็ ในการประกอบอาชพี ด้านต่างๆ อยูใ่ นหม่บู า้ น/ชมุ ชน แตม่ สี ่วนน้อย
ทีสามารถถ่ายทอดใหค้ นอนื นําไปทําตามใหส้ ําเรจ็ ได้

ดังนันด้วยเหตุปจจยั ดังกล่าวข้างต้น จงึ มุ่งเน้นทีการยกระดับเศรษฐกิจฐานราก นันคือ
“รายได้” ทีต้องทําใหช้ มุ ชนมรี ายได้เพมิ ขึน โดยการสรา้ งอาชพี จงึ เปนทมี าของ “สมั มาชพี ชุมชน”
ซึงกําหนดแผนการสรา้ งสัมมาชพี ชุมชนบนหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอพียงทีมีเปาหมาย คือ
ประชาชนได้รบั การพัฒนาอาชพี และมีรายได้ ฝกปฏิบัติจรงให้สามารถนําไปเปนอาชพี ได้
เพราะข้อเท็จจรงในทกุ พืนทจี ะมีคนเก่งในแตล่ ะอาชพี อยู่แล้ว เชน่ ทํานาไดผ้ ลผลิตสูง ทําสวนเก่ง
หรอทางชา่ งแกะสลัก และการแปรรูปอืนๆ ซึงจะคัดเลือกและจัดเวทีฝกทักษะการสอนการ
นําเสนอใหก้ ับคนเก่งเหลา่ นี ยกให้เปน “วทยากรสมั มาชพี ชุมชน”

ส่วนขยาย

เทคนิคในการขบั เคลือนสมั มาชพี ชุมชน
1. การตงั ใจของแกนนําสัมมาชพี ชมุ ชน ในการจดั ตังกลมุ่ อาชพี เพอื ตอ้ งการให้เกิด

ความรกั ความสามคั คีของคนในหมู่บ้าน
2. การมสี ่วนรว่ มของประชาชนในหมบู่ า้ นมมี ากขึน จะเห็นไดจ้ าก มกี ารประชมุ กันอย่าง

ต่อเนือง พัฒนาผลติ ภณั ฑ์ใหต้ รงตอ่ ความตอ้ งการของลกู ค้า
3. มีการเรยนรแู้ ละยดึ หลักการปฏิบตั ติ ามหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี ง ลดรายจา่ ยใน

ครวั เรอน รวมกล่มุ ประกอบอาชพี เสรมเพมิ รายได้
4. มีการนําสมาชกิ กลมุ่ ศึกษา ดงู านอาชพี ขา้ งเคียงเพอื พัฒนาผลติ ภัณฑ์ของกลุ่ม

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 23

KM Challenge’65

กลยทุ ธ์ในการทำงาน

1. ความใส่ใจ สรา้ งความรู้ ความเข้าใจในหลักสัมมาชพี ชมุ ชน
2. ใชห้ ลกั การมีส่วนรว่ มของประชาชน เพอื สรา้ งความรกั ความสามคั คีของชุมชน
3. จดั ตังกล่มุ สนับสนุนการพฒั นาผลติ ภัณฑใ์ หไ้ ดม้ าตรฐาน ได้รบั การรบั รอง

มาตรฐานสากลเพือสรา้ งรายไดใ้ ห้กับกลมุ่ อาชพี และรว่ มโครงการพัฒนาเศรษฐกิจ
ฐานรากและประชารฐั ของจงั หวดั

แนวคดิ /ความรู้สึกทนี่ ำมาใช้ ส่วนสรุป

1. กระบวนการมีส่วนรว่ ม ก า ร ดํ า เ นิ น ง า น สั ม ม า ชี พ ชุ ม ช น
2. การสรา้ งสัมมาชพี ชมุ ชนตามหลักเศรษฐกิจ จะประสบความสําเร็จ สร้างรายได้
ให้กับชุมชนได้อย่างแท้จรง วทยากร
พอเพยี ง สัมมาชพี ต้องมีความรู้ เข้าใจ และมี
3. การแลกเปลียนเรยนรู้ ความพรอ้ ม คัดเลือกสมาชกิ ทีมีเวลา
4. การพัฒนาผลติ ภัณฑ์อยา่ งตอ่ เนือง และให้มีความรว่ มมือ ตังใจทจี ะชว่ ยให้
กลุ่มสําเรจ็ มากขึน สามารถขยายผล
ข้อเสนอแนะ ให้กับครอบครัวอืนได้ดี สร้างความ
สามัคคสี ู่ชมุ ชน

1. ในการขบั เคลอื นสัมมาชพี ชุมชน ซงึ กําลงั เคลือนไปด้วยกัน เขม้ แข็งบ้าง ออ่ นบา้ ง
ในแตล่ ะกลมุ่ ขนึ อยกู่ ับความตังใจของกลมุ่ ซงึ กลุ่มทมี ีความเขม้ แขง็ ก็สามารถลดรายจา่ ย
เพอื รายไดใ้ ห้กับสมาชกิ กล่มุ ได้อย่างแทจ้ รง

2. การตดิ ตาม เยยี มเยอื นกลมุ่ ใหค้ าํ แนะนํา อย่างตอ่ เนือง ของเจา้ หน้าทีทกุ ระดับ
เปนการใหก้ ําลังใจ และนํากลมุ่ สู่ความสําเรจ็

เล่าเร่ืองโดยนางอำพร ศรกี ุลนิภา ตำแหนง่ นักวชิ าการพัฒนาชมุ ชนชำนาญการ
สังกดั สำนักงานพฒั นาชุมชนอำเภอเมอื งฉะเชงิ เทรา

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 24

KM Challenge’65

ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªØÁª¹
¨§Ñ ËÇ´Ñ ÃÐÂͧ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 25

KM Challenge’65

กองทนุ ขจดั ความยากจน
(กองบุญภาคประชาชน)

พ้นื ท่ีดำเนินการ

ตาํ บลวังหวา้ ใชช้ อื ว่า “กองทนุ ขจดั ความยากจนวังหวา้ แกลง”
ตาํ บลหว้ ยยาง ใชช้ อื วา่ “กองทนุ ห้วยยางแกลงโมเดลยงั ยืน”

ก่อกำเนดิ

 ประชมุ ทมี ปฏิบตั กิ ารขจดั ความยากจนและพฒั นาคนทกุ ชว่ งวยั อย่างยงั ยืนตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในระดบั พนื ที

 ทมี สะทอ้ นปญหาในเรองการใหค้ วามชว่ ยเหลอื เบอื งต้นใหท้ นั ตอ่ ปญหาทีเกิดขนึ และ
การใหค้ วามชว่ ยเหลืออยา่ งยงั ยืน จงึ มมี ติทปี ระชุมจดั ตงั กองทนุ ขจดั ความยากจนภาค
ประชาชน

 จดั ตังคณะกรรมการกองทุนขจดั ความยากจน เพือดําเนินการและขบั เคลอื นกองทนุ ฯ

วัตถปุ ระสงค์ของกองทุน

1. เพอื ขจดั ความยากจนและพฒั นาคนทกุ ชว่ งวัยอย่างยังยนื ตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งในระดับพนื ที

2. เพอื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื เบืองตน้ ใหท้ นั ตอ่ ปญหาทีเกิดขนึ
3. เพอื ใหก้ ารชว่ ยเหลอื อย่างยงั ยืน สามารถพึงตนเองได้
4. เพอื เปนกองบุญในการชว่ ยเหลือคนในตาํ บล

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 26

KM Challenge’65

กลุม่ คนเป้าหมาย

คนทอี ยอู่ าศัยในพนื ทตี ําบลและมีความทกุ ข์ยากในการดําเนินชวี ตประจาํ วันและผา่ นการเหน็ ชอบ
จากทีมปฏิบตั กิ ารขจดั ความยากจนและพฒั นาคนทกุ ชว่ งวัยอย่างยังยนื ตามหลกั ปรชั ญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งในระดับพนื ที

ข้ันตอน/วธิ ีการ

1. ประชุมทมี ปฏิบตั กิ ารขจดั ความยากจนและพฒั นาคนทุกชว่ งวยั อยา่ งยังยืนตามหลัก
ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในระดับพนื ที

2. จดั ตังทีมพีเลยี ง
3. จดั ตังคณะกรรมการกองทุนขจดั ความยากจน เพือดาํ เนินการและขบั เคลอื นกองทุนฯ

(ภาคประชาชน)
3.1 เลอื กคณะกรรมการกองทนุ ฯ
3.2 เลอื กคณะกรรมการกองทนุ ฯ เปดบญั ชธี นาคาร จาํ นวน 3 คน
3.3 นําเสนอแนวทางการหาเงนทนุ ในการดาํ เนินการดว้ ยรปู แบบของกองบุญ โดยมี
ศอช.ต./เครอข่าย กทบ. /กพสต. เปนองค์กรแกนนําหลกั ในการสมทบเรมตน้ และมกี าร
ประชาสัมพันธใ์ นหมูบ่ ้าน/ตาํ บลเพือรว่ มกันสมทบใหก้ ับกองทุนฯ
3.4 กําหนดกรอบการชว่ ยเหลอื ดังนี

- สงเคราะห์
- พฒั นาอาชพี
- จดั ซอื อปุ กรณ์ทจี าํ เปนในการประกอบอาชพี
- ทนุ ในการฝกอบรมอาชพี (ถ้าจาํ เปน)

3.5 เอกสารและวสั ดอุ ปุ กรณ์ทใี ชใ้ นการขบั เคลอื นกองทนุ ฯ
1) ขอ้ มลู ศจพ.2 /แฟมข้อมลู ศจพ.2
2) แฟมขอ้ มลู แยกประเภทปญหารายมิติ
3) แฟมขอ้ มลู รายงานผลการชว่ ยเหลอื
4) แฟมรายงานการประชมุ
5) แฟมหนังสือรบั -ส่ง
6) แฟมรายรบั -จา่ ย กองทุนฯ
7) แฟมรายการสมทบเงนเขา้ กองทุนฯ (กองบุญภาคประชาชน)
8) ใบสําคัญรบั เงน (หลกั ฐานการบรจาค)
9) ตรายางชอื กองทนุ ขจดั ความยากจน

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 27

KM Challenge’65

4. ประชมุ ชแี จงการจดั เก็บขอ้ มลู ใหห้ มบู่ า้ น/ตาํ บล รบั ทราบ
5. ใชแ้ บบ ศจพ.2 ในการสํารวจขอ้ มลู และชแี จงการจดั เกบ็ ขอ้ มลู อยา่ งละเอียดโดยให้

ผใู้ หญบ่ ้าน/กํานัน เปนผรู้ บั รองขอ้ มลู ทกุ ครงั
6. การรวบรวมข้อมลู ศจพ.2 เมือสํารวจมาแลว้ นําส่ง เจา้ หน้าทพี ฒั นาชมุ ชนของ อบต.
7. เจา้ หน้าทพี ฒั นาชุมชนผ้ปู ระสานงานตาํ บลในฐานะทมี ปฏิบตั งิ านและเลขานกุ าร

ประสานงานกับเจา้ หน้าทพี ฒั นาชมุ ชน อบต.รวบรวมรายชอื และปญหาความเดอื ดรอ้ น
นําเขา้ ทปี ระชุมทมี ปฏิบตั ิการขจดั ความยากจนและพฒั นาคนทุกชว่ งวัยอย่างยังยืนตาม
หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงในระดบั พนื ที เพอื พจิ ารณารบั รองขอ้ มลู และส่งตอ่
ความชว่ ยเหลอื ใหก้ ับหน่วยงานทีเกียวขอ้ งต่อไป

ผลการดำเนินงาน/ผลสำเร็จ

- มกี ารสํารวจขอ้ มูลครอบคลุมทกุ หมู่บา้ นในตาํ บล
- ทุกหน่วยงานรบั รู้ และมขี อ้ มูลชดุ เดยี วกันในการให้ความชว่ ยเหลือ
- มีการใหก้ ารชว่ ยเหลอื เบอื งตน้ ทรี วดเรว็
- สามารถแก้ไขปญหาความเดอื ดรอ้ นได้ตรงประเด็น
- มีการติดตามประเมนิ ผลการใหค้ วามชว่ ยเหลอื อยา่ งตอ่ เนือง
- คนในตาํ บลใหค้ วามรว่ มมอื เปนอยา่ งดยี งิ ทาํ ใหเ้ กิดความรู้ รกั สามัคคี เออื เฟอเผอื แผ่
ชว่ ยเหลือแบ่งปนกันในตาํ บลอยา่ งยงั ยนื

เทคนิค/ขอ้ คดิ -พฒั นากรเปนผ้จู ุดประกายแนวความคิด/เปนผ้ปู ระสานสิบทศิ
-ผลบญุ เปนของทกุ ทา่ น ผลงานเปนของทกุ คน

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 28

KM Challenge’65

แผนดำเนินการต่อไป

สรา้ งเพจสําหรบั จาํ หน่ายผลิตภัณฑ์ใน
ตํ าบ ล (จํา ห น่ า ยผ ลิต ภั ณ ฑ์ ทา ง สื อ
ออนไลน์) เพือรองรับการช่วยเหลือ
ป ร ะ เ ภ ท พั ฒ น า อ า ชี พ ไ ด้ เ มื อ มี
ผ ลิ ตภั ณ ฑ์เ กิด ขึน พ ร้อมเ ชือม โย ง
ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ทีเกิดขึนในตําบลให้
มีชอ่ งทางการจาํ หน่าย และรายได้ส่วน
หนึงนํามาสมทบเขา้ กองทุนฯ

เล่าเรือ่ งโดยนางสุปราณี เพลดิ พราว
นกั วิชาการพัฒนาชุมชนชำนาญการ
สำนกั งานพัฒนาชุมชนอำเภอแกลง
จังหวัดระยอง
คตพิ จน์ : ไปคนเดียวไปได้ไว

ไปเปน็ ทมี ไปได้ไกล

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 29

KM Challenge’65

ÇÂÑ ãÊãÊãè ¨¡ÒÃÍÍÁ

à§¹Ô ÍÍÁÊÓ¤­Ñ 䩹 ·ÓäÁµÍé §ÁàÕ §¹Ô ÍÍÁ

การออมเงนคือ การประหยัดรายได้ทีไม่ได้ใชจ้ ่ายหรอไม่ได้นําไปใชใ้ นการบรโภคหรอ
รายได้ทีหัก ค่าใชจ้ า่ ยต่างๆ แล้วมีส่วนคงเหลืออยู่ ซงึ ส่วนของรายได้ทีเหลือนีเราแบ่งสําหรบั เก็บ
การออมเงนเกิดขึนได้จากหลายปจจยั มากมาย ไม่ว่าจะเปนในส่วนของเปาหมายของอนาคตใน
ความตอ้ งการสิงตา่ งๆ เชน่ การมีรถ การมีบ้าน การมบี ัญชเี งนฝากตามจาํ นวนเปาหมายทีต้องการ
ไปจนการออมเงนสําหรบั การใชจ้ า่ ยยามฉุกเฉิน เชน่ การเจบ็ ปวย การเกิดอุบัติเหตุ หรอเปนค่า
อปุ กรณ์ในการเรยนของเดก็ ๆ เปนต้น

ÊÃÒé §Ç¹Ô ÂÑ ¡ÒÃÍÍÁµ§Ñé áµÇè ÂÑ à´¡ç ¨ÐàÃÁèÔ ÍÂèÒ§äÃ

 ปลกู ฝงนิสัยการออมตงั แต่เนิน ๆ เชน่ ใหร้ จู้ กั คณุ ค่าของเงนไมว่ า่ จะ 5 บาท 10 บาท
ก็สามารถออมเงนได้เหมอื นกัน

 สรา้ งกฎกติกาในการออมเพอื ใหร้ จู้ กั คุณค่าของเงน เชน่ กวาดบา้ น ล้างจาน พับผ้า
แลว้ ใหค้ ่าขนมแลกกับการทาํ งานบ้าน

 สอนให้เดก็ ได้รจู้ กั การออมเงนกับกล่มุ ออมทรพั ย์เพอื การผลิต โดยการแจกกระปกุ
ออมสินใหเ้ ดก็ นําไปหยอดเงนทเี หลอื จากโรงเรยน

 สอนให้รจู้ กั การบนั ทกึ รายรบั -รายจา่ ยทถี ูกตอ้ ง เชน่ ชว่ ยควบคุมรายจา่ ยใหอ้ ยู่ในแผน
การเงนทกี ําหนด

»ÃÐ⪹¢ì ͧ¡ÒÃÍÍÁµÑé§áµÇè ÂÑ à´¡ç

o สามารถจดั การและควบคมุ ค่าใชจ้ า่ ยทีไมจ่ าํ เปนออกไปได้
o ชว่ ยสรา้ งนิสัยและวนัยในการออมเงน
o ชว่ ยวางแผนค่าใชจ้ า่ ยและการเงนในอนาคต
o รจู้ กั ใชเ้ งนได้อย่างเหมาะสมจากการ

บนั ทึกรายรบั -รายจา่ ย

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 30

KM Challenge’65

¨´º¹Ñ ·¡Ö ÃÒÂÃºÑ -ÃÒ¨èÒÂÍÂèÒ§äÃãËäé ´¼é Å

- เลอื กสมุดทชี อบเพือชว่ ยกระตนุ้ และดงึ ดูดในการจดบนั ทึก
- บันทกึ บญั ชที กุ ครงั ทมี กี ารใชจ้ า่ ย >> ชว่ ยใหส้ ามารถตดั รายจา่ ยทีไมจ่ าํ เปนออกไปได้
- ทําเปนประจาํ ต่อเนอื งทกุ วนั >> เพือสรา้ งนิสัยและกลายเปนส่วนหนึงในชวี ตประจาํ วนั

เนืองจากข้าพเจา้ ไดม้ ีแนวคิดวา่ การออมเงน เพือเก็บไวใ้ ชใ้ นยามเดือดรอ้ น น่าจะ
เปนสิงทีดีสําหรบั น้อง ๆ นักเรยนโรงเรยนบ้านวัดบุนนาค โดยการปลูกฝงให้น้อง ๆ ได้รูจ้ กั การ
ออมเงนทีได้รบั จากผู้ปกครอง เมือใชจ้ า่ ยประจาํ วันเรยบรอ้ ยแล้ว ก็นําเงนมาหยอดกระปุก แล้วนํามา
ฝากเงนไว้กับกลุ่มออมทรพั ย์เพือการผลิตบ้านหนองยายยม หมู่ที 3 ตําบลชากโดน อําเภอแกลง
จงั หวดั ระยอง ไว้เพอื ใชซ้ อื สิงของทีจาํ เปนตอ่ การศึกษาในอนาคต

¨Ð·ÓÍÂÒè §äÃ´Õ ?

1. ประสานงานกับผู้อํานวยการโรงเรยนบ้านวัดบุนนาคในการจดั ประชุมชแี จง และสรา้ งความ
เข้าใจใหก้ ับน้อง ๆ เด็กนักเรยนโรงเรยนบ้านวัดบุนนาค ถึงประโยชน์ของการเก็บออมเงนไวใ้ ชซ้ อื
ของทเี ราต้องการ และเก็บไว้เปนทุนการศกึ ษาในอนาคต
2. รบั สมัครสมาชกิ โดยแบ่งเปนชนั เรยน และมอบกระปกุ เงนออมให้กับน้อง ๆ ไดไ้ ปหยอดกระปกุ
และเมือถึงวันที 28 ของทุกเดือน ให้นํากระปุกกลับมาทีห้องเรยน เพือนับเงนและส่งเงนออม
ให้กับคุณครปู ระจาํ ชนั ในการรวบรวมเงนส่งให้กับคณะกรรมการกลุ่มออมทรพั ยเ์ พอื การผลิตบ้าน
หนองยายยม

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 31

KM Challenge’65

3. ดาํ เนินกิจกรรมการรบั เงนออมของน้อง ๆ มาบนั ทึกในสมดุ เงนออมประจาํ ตวั จดั ลําดบั การออม
ของน้องๆ ทีมีการฝากเงนสูงสุด จาํ นวน 3 อันดับ เพือมอบของรางวัล ซึงเปนการกระตุ้นให้
น้องๆ ไดร้ จู้ กั เก็บออมเงนให้มากขึน

4. ดําเนินการสอนให้รูจ้ กั ทําบัญชรี ายรบั รายจา่ ย เมือเด็กๆ
ไดร้ บั เงนค่าขนมจากพอ่ แมแ่ ลว้ อย่าลืมสอนให้ “เก็บก่อนใช”้
โดยแบ่งเก็บไว้ก่อน 10% เชน่ ได้เงนค่าขนม 100 บาท
ให้เก็บเปนเงนออมก่อน 10 บาท แล้วทีเหลือให้ทําบัญชี
รายรบั รายจา่ ย เพือควบคุมและรบั รูพ้ ฤติกรรมการใชเ้ งน
ของตัวเองว่าใชจ้ า่ ยไปกับอะไรบ้าง เหลือเก็บเท่าไร ต่อไปจะ
ได้บรหารวางแผนการใชเ้ งนของตัวเองอย่างเปนระบบ และ
เปนการปลูกฝงวนัยการวางแผนทางการเงนอกี ดว้ ย

ãªàé ·¤¹¤Ô ÍÐäôÅÕ Ðè ?

1. ประสานงานกับทางคณะอาจารย์ของโรงเรยนในการสรา้ งความเข้าใจถงึ ประโยชน์การออมเงน
และบรรจุเปนกิจกรรมของนักเรยน
2. ปลูกฝง และสรา้ งลกั ษณะนิสัยการออมเงนใหก้ ับน้อง ๆ นักเรยน โดยการแจกกระปกุ ออมสิน
และมกี ารมอบรางวัลใหก้ ับน้อง ๆ ทมี กี ารออมเงน 3 อนั ดบั สูงสุด เปนประจาํ ทกุ เดือน
3. ประสานงานขอรบั การสนับสนุนบัญชรี บั -จา่ ยครวั เรอนทีน่าสนใจจากหน่วยงานทีเกียวข้อง เชน่
ธกส. สหกรณก์ ารเกษตร เปนต้น เพอื นํามาแจกใหก้ ับน้อง ๆ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 32

KM Challenge’65

¤ÇÒÁÊØ¢·äèÕ ´¨é Ò¡¡ÒÃÁàÕ §¹Ô ÍÍÁ

 มีน้อง ๆ นักเรยนโรงเรยนบ้านวัดบุนนาคทีสมัครเข้าเปนสมาชกิ ของกลมุ่ ออมทรพั ยเ์ พอื
การผลติ บ้านหนองยายยม จาํ นวน 182 คน มเี งนสัจจะสะสม จาํ นวน 288,323 บาท

 น้อง ๆ มีเงนไวใ้ ชจ้ า่ ยในสิงทตี นเองตอ้ งการ
 น้อง ๆ มีนิสัยทีรกั การออม เมือจบการศึกษาจากโรงเรยนนีเค้าจะรจู้ กั วางแผนชวี ตของ

ตนเองได้

´§Ñ ¤Ó¢Ç­Ñ ·ÇèÕ Òè
“Ã¡Ñ µÇÑ àͧµÍé §Ã¨éÙ ¡Ñ ÍÍÁ à¾Íè× ªÕÇµÔ ·Õ¾è ÃÍé Áã¹Í¹Ò¤µ”

àÅÒè àÃÍ×è §â´Â¹Ò§ÇÃÒÀÃ³ì »¹Ñé ÊÁÊ¡ÅØ
µÓá˹§è ¹¡Ñ ÇªÔ Ò¡Òþ²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹ªÓ¹Ò­¡ÒÃ
椄 ¡´Ñ ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹ÍÓàÀÍá¡Å§
¨§Ñ ËÇ´Ñ ÃÐÂͧ
ID Line : aoy-wara

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 33

KM Challenge’65

ศจพ. ....คอื ..แสงเทียน...

โครงการ “ การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกชว่ งวัย ตามหลักปรชั ญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง” ( ศจพ.) ตําบลทุ่งควายกิน เปนพืนทีทีมีกลุ่มคนเปราะบางหลายครอบครวั
จากการลงพืนทีรว่ มกับผู้ใหญ่บ้าน/ผู้ชว่ ยผู้ใหญ่บ้านในพืนทีจะพบว่ากลุ่มเปาหมายทีมีในตําบล
ท่งุ ควายกิน แต่ละครวั เรอนมปี ญหาซบั ซอ้ น บางครวั เรอนพ่อแมเ่ ดอื ดรอ้ นมลี กู หลานอยู่ใกลเ้ คียง
ก็ชว่ ยเหลือดูแล แต่บางครวั เรอนก็ไม่ดูแลปล่อยให้พ่อแม่อยู่แบบลําบาก โดยให้เปนภาระของ
หน่วยงานภาครฐั ตงั แต่ในระดับพืนที (อปท.) จนถึงในระดับจงั หวัด ครวั เรอนเปาหมายทังหมด
ของตําบลทุ่งควายกิน มีจํานวน 8 ครวั เรอน ซึงเปนข้อมูลจาก จปฐ. และข้อมูลจาก อปท.
ทีมีปญหาซบั ซอ้ นหลายมิติเข้ามาเกียวข้อง หากต้องการให้ครวั เรอนเหล่านีมีคุณภาพชวี ตทดี ขี ึน
ต้องมีหน่วยงานภาครฐั ภาคีตา่ งๆ ต้องบรู ณาการรว่ มกัน

ในทีนี ขอนําเสนอครอบครัวของ นายทว พ้นร้อน อายุ 61 ป
อยบู่ ้านเลขที 78 หมูท่ ี 13 ตําบลทุ่งควายกิน อาศัยกันอยู่ 4 คน คือ
1. นายทว พน้ รอ้ น อายุ 61 ป
2. นางสาววราภรณ์ สมบรู ณ์ อายุ 43 ป (ภรรยา)
3. นายประกอบ พ้นรอ้ น อายุ 71 ป (พชี าย)
4. นางสาวสมจติ ร พ้นรอ้ น อายุ 57 ป (พสี าว)
ซงึ ทงั 4 คน เปนใบห้ มดเลย

** อาชีพ ..รายได้ *** มาจากไหนกัน ?***

เมือทุกคนเปนใบ้หมด ไม่ได้เรยนหนังสือ จงึ ไม่มีอาชพี ทีแน่นอน ไม่มีรายได้ที
แน่นอน มีรายไดเ้ พยี งแค่เงนคนพกิ าร เงนผูส้ ูงอายุ เพียง 2 คน คอื นายทว กับ นายประกอบ
ส่วนนางสมจติ ร และ นางสาววราภรณ์ มีรายได้จากเงนคนพิการเท่านัน ทัง 4 คน มีบัตร
สวสั ดกิ ารแห่งรฐั เพียง 2 คน คือนายทว กับนางสาววราภรณ์ เท่านัน

นายประกอบ(พีชาย)ได้รบั เงนคนพิการ/ นางสาวสมจติ ร พ้นรอ้ น (พีสาว)
ผู้สูงอายุ เดือนละ 1,500 บาท ไม่มีบัตร ได้รบั เงนคนพกิ าร 800 บาท/เดอื น
สวัสดกิ ารแห่งรฐั มีโรคปวดเขา่ ไมม่ บี ตั รสวสั ดกิ ารแห่งรฐั

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 34

KM Challenge’65

นายทว ไดร้ บั เงนผสู้ งู อายุ 600 บาท นางสาววราภรณ์ สมบูรณ์ (ภรรยานายทว)
เงนคนพิการ 800 บาท มบี ัตร ไดร้ บั เงนคนพกิ าร 800 บาท/เดือน
สวัสดกิ ารแห่งรฐั มีบตั รสวัสดิการแหง่ รฐั

รายได้ทีทัง 4 คน ทีได้รบั จากเงนผู้สูงอายุ เงนคนพิการ ประมาณ 800 – 1,500
บาท/เดือน รายได้อืนๆ ทีเพิมเติมบ้างในแต่ละเดือน คือ รบั จา้ งทีมีคนในหมู่บ้านมาว่าจา้ งเปน
ครงั คราวประมาณเดือนละ 1,000 – 2,000 บาท/เดือนเท่านัน เพราะทัง 4 คน ไม่มีความรู้ ไมเ่ คย
ออกนอกตําบล เพราะมเี พยี งแค่รถ 3 ลอ้ เครอง เท่านัน และพดู คุยกับบุคคลอนื ไมเ่ ข้าใจ

** โชคดี ยงั พอมอี ยู่**

นายทว และครอบครวั ยังมีความโชคดีทีพ่อแม่มีทีดิน/บ้าน ได้อาศัยอยู่ในพืนทีประมาณ 1 ไร่
ต้องใชช้ วี ตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ปลูกพืชผักสวนครวั หาปลาในลําคลองใกล้บ้าน ใชจ้ า่ ย
อย่างประหยัด เพือให้มีชวี ตอยู่รอด และมีพีชายทีสติดี สมประกอบอาศัยอยู่ใกล้ๆ คอยให้ความ
ชว่ ยเหลอื อยบู่ ้างตามอัตภาพ

** ความเดือดรอ้ น ก็มี **

ทุกวันนีบ้านทีอาศัยอยู่ มีความไม่มันคง พืนพัง คานพัง เสาพุพัง เนืองมาจากปลวกกัดกิน
ซึงทางนายทว ได้รอ้ งแจ้งความชว่ ยเหลือจาก องค์การบรหารส่วนตําบลทุ่งควายกิน ในการ
ชว่ ยเหลือซ่อมแซมในบางส่วนทีอาจทําให้เกิดอันตรายกับคนในครอบครวั ได้ เชน่ พืนบ้านทรุด
เสาพัง คาน/ขอื พัง ฯลฯ ต้องใชไ้ มค้ ายันไว้

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 35

KM Challenge’65

ศจพ. คือ แสงเทียน ...อย่างไร?

โครงการ “ การขจดั ความยากจนและพัฒนา
คนทุกชว่ งวัย ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง” (ศจพ.) เปรยบเสมือนแสงเทียน
นํ า ท า ง ที ส่ อ ง แ สง ส ว่ า ง ใ ห้ กั บค ร อ บ ค รัว
นายทว พ้นรอ้ น กับ พี น้อง และภรรยา ได้มี
ความสุขใจขึนมาบ้าง วันนีได้มีแสงเทียน
เรมส่องแสงรบหร ทีนําทางแลว้ คือ

*** แสงเทยี นเล่มที่ 1 **

องค์การบรหารส่วนตําบลทุ่งควายกิน ได้ความชว่ ยเหลือในการซอ่ มแซมส่วนทีพุพัง
ของบ้านบางส่วนก่อน เพือไม่ให้เกิดอันตรายกับคนทีอาศัยและบรรจุไว้ในแผนฯ ปงบประมาณ
พ.ศ.2565 คาดวา่ จะดําเนินการภายในเดอื น มนี าคม – เมษายน 2565

*** แสงเทยี นเลม่ ที่ 2 **

กรมการพฒั นาชมุ ชน โดยสาํ นักงานพฒั นาชุมชนอําเภอแกลง ไดป้ ระชาสัมพนั ธ์
เชญิ ชวนกลมุ่ /องค์กร/ผมู้ จี ติ ศรทั ธา ได้มสี ่วนรว่ มในการชว่ ยเหลอื ตอ่ ไป

**** เทยี นเพยี ง 2 เลม่ คงไดแ้ สงสวา่ งไม่เพยี งพอ
...มาเปน็ เทยี นหลายๆ เลม่

มารว่ มกนั เพอ่ื แสงสวา่ งให้เจดิ จา้ ***
ให้กบั ครอบครวั เปราะบางในพนื้ ทอี่ ำเภอแกลงกันจา้ ....

เลา่ เร่อื งโดย นางสาวกมลทิพย์ ตันติวทิ ย์
นกั วชิ าการพัฒนาชมุ ชนชำนาญการ
สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอแกลง จงั หวัดระยอง
คติพจน์ ใครดีดดี ้วย ใครร้ายรา้ ยตอบ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 36

KM Challenge’65

ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹
¨Ñ§ËÇ´Ñ ¨¹Ñ ·ºÃØ Õ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 37

KM Challenge’65

เรองราวของพัฒนากรใหม่ ทีต้องเจอกับการปรับตัว
ทีถาโถมเขา้ มาในชวี ตการทาํ งาน ต้องทาํ สิงทไี ม่ถนัด ทาํ สิง
ทีไม่เคยทํา ทาํ สิงทไี ม่ชอบ ฝกฝนและฝกฝน พัฒนาตนเอง
ไปพร้อมกัน กับการพัฒนาชุมชน ตามปรชั ญาหลักของ
กรมการพัฒนาชุมชน ทีเชือว่าทุกคนพัฒนาได้ถ้าได้รบั
โอกาส ไม่เวน้ แมแ้ ตต่ วั พัฒนากรเอง

พัฒนากร - "ข้าราชการทีดูไม่ค่อยเหมือนข้าราชการ ทํา
ทุกอย่างตังแต่สากเบือยันเรอรบเปนทุกอย่างให้เธอแล้ว"
สําหรบั ผมในวันทียังไม่ได้เข้ามารบั ราชการในตําแหน่งนีก็
ไม่ค่อยเชือสักเท่าไหร่ จนกระทังเข้าสู่การอบรบก่อน
ประจาํ การเราก็ได้ยินวลี "ฝกฝนและฝกฝน" อยู่บ่อยครงั
เ นื อ ห า ก า ร อ บ ร บ ก็ เ ข้ ม ข้ น เ สี ย จ น เ ร า ก็ รู้สึ ก ว่ า ต้ อ ง
ปรับตัวแล้ว -- แต่พอมาเจอของจรง การอบรมก่อน
ประจาํ การกลายเปนสนามเด็กเล่นไปเราตอ้ งปรบั ตัวเยอะมาก
ทังทีอยู่ทีต้องย้ายมาต่างถิน ไม่รูจ้ กั ใครเลย ไม่มีแอรเ์ ย็นๆ
ให้นอน ไม่มีนาอุ่นๆ ให้อาบ งานก็เยอะมากๆ ใครบอกข้าราชการเชา้ ชามเยน็ ชาม ก็กลา้ พูดได้
เลยว่าไมใ่ ชพ่ ฒั นาชุมชนแน่นอน

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 38

KM Challenge’65

ก า ร ทํ า ง า น ใ น ฐ า น ะ พั ฒ น า ก ร เ ป น สิ ง ที ท้ า ท า ยม าก
ตังแต่วันแรกจวบจนวันนีเพราะงานเรามีหลายอย่าง
ปรมาณเยอะ มีทงั งานเอกสารและงานพืนที ทาํ ใหเ้ รา
ต้อ ง ปรับตัว จ า กที ไม่ค่ อยวางแผนอะไร ก็ต้อง
วางแผนการทาํ งานอย่างเปนระบบ ให้งานเสรจ็ ทัน
ตามกําหนด

แต่งานเอกสารทีโหด ก็ยังไม่เท่างานพืนที
งานที INTROVERT คนเก็บเนือเก็บตัว แบบผมไม่
ถนัดเปนทีสุด หลายครงั ทเี กิดคําถามวา่ "เหย้ ....เรา
มาทาํ อะไรทีนี !!" ทังการปนหน้ายิมแย้มใหก้ ับทุกคน
การพยายามยัดเยียดตวั เองเขา้ ไปตสี นิทกับผู้นําชุมชน
และชาวบ้าน การเขา้ หาคนอืนก่อนทเี ปนยาขมสําหรบั เรา
แต่เมือเราลองคดิ ถึงหลักคิดของกรมการพัฒนาชมุ ชน
ทีบอกว่า "ทุกคนพฒั นาได้"

ถา้ อย่างนันทาํ ไมเราไมเ่ รมจากตัวเราละ่ เมอื คิดได้แบบนันก็อยา่ มัวโอดครวญเลย มาลองดูกันซกั
ตงั พอผมได้ลองเปดใจทาํ งานอยา่ งเต็มที ก็ได้พบวา่ งานพฒั นากรคืองานทเี ราสามารถทาํ ได้อย่าง
มีความสุข เพราะทุกครงั ทีเราทาํ งานได้สําเรจ็ ผู้ได้รบั ประโยชน์คือประชาชน และตัวเราเองทีจะ
พัฒนาไปพรอ้ มๆ กัน ทุกครงั ทีทํางานเราก็จะรจู้ กั ผู้คน รูจ้ กั ชุมชน กว่าจะรูต้ ัวเราก็จะรสู้ ึกเหมือน
ทํางานกับญาตพิ ีน้อง กับครอบครวั ไมม่ ีความรสู้ ึกอึดอัด ความรสู้ ึกวา่ ต้องฝนอกี ผมขอใหพ้ ฒั นากร
ใหมท่ ุกท่านลองเปนใจและพฒั นาไปพรอ้ มๆ กันนะครบั

เลา่ เร่อื งโดยณัฐดนัย เอีย่ มสุภา
นักวิชาการพฒั นาชมุ ชนปฏบิ ัติการ
สำนกั งานพฒั นาชุมชนอำเภอโป่งนำ้ ร้อน
จังหวดั จนั ทบรุ ี

ขอขอบคุณและสวัสดีครบั .

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 39

KM Challenge’65

พฒั นากร คือ ชวี ตทีมีคณุ ค่า

¹ºÑ ᵡè éÒÇ¢Òà¢éÒÁÒã¹ÃÇéÑ ºÒé ¹¾Ñ²¹ÒªÁØ ª¹

มีความรู้สึกสับสน ในภารกิจของงาน ¾Ñ²¹Ò¡Ã¶×Íà»¹ç ¿Ñ¹à¿Í× §
ทําไมต้องเรยนรูม้ ากมายถึงเพียงนี ต้องรูม้ าก ÊÓ¤­Ñ 㹡Òþ²Ñ ¹Ò¤Ø³ÀÒ¾
ขนาดนีไปเพืออะไร มันทังหนักและเหนือยมาก ªÇÕ µÔ ¢Í§¤¹ ¾Ñ²¹Ò¡Ã·Õè´ÕáÅÐ
ตังคําถามกับตัวเอง หลายครัง ต่อหลายครัง Á¤Õ سÀÒ¾¨Ðä´Ãé Ѻ¤ÇÒÁÃ¡Ñ áÅÐ
เราจะทําได้มัย เราจะอยู่ได้รเปล่า มีความลังเลใน ¤ÇÒÁäÇãé ¨¨Ò¡ªÒǺéÒ¹¨Ðä´éÃºÑ ÃÙé
ใจอย่ตู ลอดเวลา »Ñ­ËÒ·èÕá·¨é Ã§Ô ¢Í§ªÒǺéÒ¹
áÅШÐÊÒÁÒöà»ç¹
จ น ถึ ง วั นที ไ ด้ล ง ม า ป ฏิ บั ติห น้ า ที จรง ¡Ãк͡àÊÕ§·Õèá·é¨ÃÔ§¢Í§
ªÒǺÒé ¹ä´é »­Ñ ËÒµÒè §æ ¨§Ö ¨Ð
“à»ÃÕºàÊÁ×͹ʹÒÁú¨ÃÔ§” ÊÒÁÒöá¡éä¢ä´éÍÂèÒ§µÃ§¨Ø´...
¹è¤Õ ×ͤ³Ø ¤èҢͧ¡ÒÃÁÕªÕÇÔµ
ใชป้ นจรง กระสุนจรง ไมม่ ีพีเลียงใหง้ อแง พลาดแลว้ ¡ÒêèÇÂàËÅ×Íà¾×Íè ¹Á¹ÉØ Âì¤Í×
พล าดเ ล ย วช าค วา มรู้ที รา เรยน มา ต้องควัก ÊÔ觷èÕ ¤¹ ¤¹ ˹Öè§ ¤ÇèзÓ
ออกมาใชท้ ังหมด รูส้ ึกท้อแท้ และหมดกําลังใจ
เพราะทุกสิง ไม่ได้เปนอย่างทีคิด เราไม่สามารถ
ค วบคุมค วา มคิ ดใค รได้ เ รา ไม่สามา รถปรับ
สิงแวดล้อมให้เปนในแบบทีเราต้องการได้ สิงที
ทําได้คือ ปรบั ทีเราแล้วหาทางเดินใหม่ เพือให้
เกิดผลสําเรจ็ ของงาน

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 40

KM Challenge’65

จงึ เขา้ ใจในวนั นี วา่ ทาํ ไมต้องเรยนรอู้ ะไรมากมาย
ความเหน็ดเหนือยในวนั นัน มันชา่ งคมุ้ ค่าเหลือเกิน
ชา่ งโชคดีเหลอื เกินทโี รงเรยนสอนวธสี ู้ มาแล้วในทกุ รูปแบบ

¾Ñ²¹Ò¡Ã คือ ชวี ตทีมคี ณุ ค่า การมีโอกาส

ได้เปนพฒั นากร ถือเปนความโชคดี เพราะมีโอกาสมากกวา่
คนอนื ทีจะได้ชว่ ยเหลอื เพอื นมนุษย์ด้วยกันใหพ้ ้นจากความ
ยากลาํ บาก

àÅÒè àÃèÍ× §â´Â ¹Ò§´Ø¨´ÒÇ ¢ÒǨ¹Ñ ·Ãì
¹¡Ñ ÇªÔ Ò¡ÒþѲ¹ÒªÁØ ª¹»¯ºÔ ѵ¡Ô ÒÃ
ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹ÍÓàÀÍâ»è§¹Óé ÃÍé ¹
¨Ñ§ËÇ´Ñ ¨Ñ¹·ºÃØ Õ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 41

KM Challenge’65

梯 àÅ¡ç æ ¢Í§¾²Ñ ¹Ò¡Ã¾Å´Ñ ¶Ô¹è
“àÃÒ·Óä´é àÃÒ·Ó䴔é

นับตังแต่วันทีดฉิ ันได้รบั โทรศัพท์จากกองกิจการเจา้ หน้าที กรมการพฒั นาชมุ ชนว่าให้
ไปรายงานตัวเพือเข้ารบั บรรจแุ ตง่ ตังเปนข้าราชการในตาํ แหน่งนักวชาการพฒั นาชุมชนปฏิบัติการ
ตอนนันรูส้ ึกตืนตันใจมากเพราะฝนทีรอคอยมานาน ในทีสุดก็ทําได้สําเสรจ็ แล้ว ได้รบั ราชการ
ตามทีพ่อแมห่ วังไว้ แต่เมือคลายความตืนเตน้ ดีใจ ก็เรมคิดทบทวนวา่ ควรจะตดั สินใจอยา่ งไรดี
เพราะด้วยวัยสามสิบตอนปลายทีอายุราชการทีเหลืออยู่ไม่ถึง 25 ปแล้ว ประกอบกับทํางานด้าน
โภชนาการและโภชนบําบัดมานานกว่า 10 กวา่ ป เรมมคี วามชาํ นาญและเชยี วชาญจนคิดว่ารกั งาน
ด้านนีและกําลังจะได้รบั ใบประกอบโรคศิลปสาขานักกําหนดอาหาร เพยี งแต่ทํางานในหน่วยงาน
เอกชนเท่านัน จงึ ปรกษากับเพือนสนิทและญาติ จรงๆแล้วในใจมีคําตอบอยู่แล้วว่าต้องลาออก
และไปรบั ราชการแน่นอน เพราะครอบครวั อยากใหเ้ ปนเชน่ นัน ในชว่ งนันจงึ เกิดความกังวลหลาย
เรองและไม่มนั ใจว่าจะปฏบิ ตั หิ น้าทใี นตาํ แหน่งนักวชาการพัฒนาชมุ ชนปฏิบตั กิ าร หรอ “พัฒนากร
“ ได้ดีหรอไม่ เพราะเข้าสังคมไม่เก่ง ขีอาย พูดไม่เก่ง ประสานงานไม่เก่ง และไม่ถนัดทํางานใน
พืนที อีกทังขับรถยนต์ไม่เปน ดิฉันได้เห็นการทํางานของอาซงึ เปนพัฒนากรมานานกว่า 10 กว่าป
จงึ รวู้ ่างานค่อนข้างหลากหลาย ยาก ง่าย สนุก ตึงเครยด และท้าทายความสามารถมากๆ ในการ
ปฏิบตั หิ น้าที สิงหนึงทเี ห็นไดช้ ดั วา่ มนั ไม่ต่างจากงานเดมิ
ทีทาํ มาตลอด 10 ปคือการไดช้ ว่ ยเหลือผู้คนมากมายใหม้ ี
ความเปนอยทู่ ีดีขึน พึงตนเองได้ ดิฉันเรมมีพลังใจและ
มันใจในการตัดสินใจว่าจะเปน พัฒนากรเหมือนกับ
คุณอาของดฉิ ัน

เส้นทางชวี ตราชการของฉันเรมขึนทีอําเภอ
แหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุร ซึงเปนคนเดียวในรุน่ ทีได้
บรรจุในจงั หวัดนี หลังจากทราบว่าได้บรรจุทีนี ดิฉันเรมศึกษาข้อมูลต่างๆ ทีเกียวข้องกับอําเภอ
แหลมสิงห์ และวางแผนการใชช้ วี ตตา่ งถิน เพราะมาทาํ งานไกลบา้ นกวา่ 1,000 กิโลเมตร ซงึ ตอ้ ง
มีความแตกต่างด้านภาษา วัฒนธรรมประเพณี วถีชวี ต จากเดิม ในทุกๆ วันจะมีการเรยนรูใ้ หม่ๆ
จากงาน เพอื นรว่ มงาน สังคมและสิงแวดล้อมรอบตัว ดิฉันไดร้ บั มอบหมายให้ดูแลตําบลบางสระเก้า
และงานการเงน ซงึ ตอนนันเปนชว่ งเดอื นสุดท้ายของปงบประมาณจะตอ้ งเรง่ เบกิ จา่ ยให้เรยบรอ้ ย
อีกทังมีงานในตําบลทีรบั ผิดชอบหลายงานดิฉันจงึ ต้องแบ่งเวลาในการทํางานให้ชุมชนเปนส่วนใหญ่
เมือเสรจ็ งานจากชุมชนก็ต้องมาทํางานตามหน้าทีทีได้รบั มอบหมายให้แล้วเสรจ็ แม้จะต้องสละ
เวลาส่วนตัวในชว่ งเย็น และวนั หยดุ ทําอย่างนีมาตลอดเวลาทที ดลองปฏิบตั ริ าชการ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 42

KM Challenge’65

สิงทฉี ันประทับใจทสี ุดในการทํางาน คือ ความเมตตา ความโอบออ้ มอาร ความรว่ มมอื และไมตร
จติ จากผู้นําชุมชน ไม่ว่าจะเปนกํานัน ผู้ใหญ่บ้านและผู้ชว่ ยผู้ใหญ่บ้าน ผู้นําอาสาพัฒนาชุมชน
องค์กรปกครองส่วนท้องถิน ผู้นําศาสนา องค์กรสตร และชาวบ้านในตําบล ไม่ว่าจะมี โครงการ
หรองานทีต้องจดั ขนึ ในชมุ ชน ก็ใหค้ วามรว่ มมือเปนอย่างดี ฉันสนุกและเพลดิ เพลนิ ใจทกุ ครงั ทไี ด้
ลงไปทํางานในชุมชน และดีใจทีชุมชนวางใจให้เราชว่ ยแก้ไขปญหาและประสานงานในเรองที
ชาวบา้ นยังขาดความถนัด

ถึงแม้ว่างานพัฒนาชุมชนในปจจุบันจะมีภารกิจมากมายและหลากหลาย ทําให้เวลาใน
การเข้าไปอยู่ในพืนทีน้อยลง ฉันก็พรอ้ มทุกเมือทีจะลงไปชว่ ยงานหรอรว่ มกิจกรรมในชุมชน
แมจ้ ะต้องสละเวลาส่วนตวั ในวนั หยุดไปบา้ ง แตย่ ังไดก้ ําไรชวี ตจากการไดท้ ่องเทียวชมวถีชมุ ชนที
น่าทึงหลายๆด้านทังสังคม วัฒนธรรม ภาษา อาหารและศิลปะหตั ถกรรม ดิฉันเพงิ เขา้ ใจประโยค
ทีว่า “ ขาดทุนเท่ากับกําไร” ก็คราวนีเอง เพียงแค่เรา “ ยิมก่อน ทักก่อน ไหว้ก่อน” จรงใจ
เข้าใจ เอาใจใส่ ตรงเวลา เสียสละและลงมอื ชว่ ยอย่างเต็มใจ เสมือนญาติมิตร เราก็จะสามารถ
เข้าถึงชุมชนได้งา่ ย และได้รบั ความรว่ มมือทีดีในการดําเนินงานภารกิจของกรมการพัฒนาชุมชน
ซงึ จะทาํ ใหเ้ กิดการพฒั นาขนึ ทงั คน ชมุ ชน และงาน

àÅÒè àÃ×Íè §â´Â ¹Ò§ÊÒÇÊÃ­Ô ­Ò ¹Ò¤¢ÒÇ
¹¡Ñ ÇªÔ Ò¡Òþ²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹»¯ºÔ µÑ Ô¡ÒÃ
ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒÍÓàÀÍáËÅÁÊ§Ô Ëì ¨§Ñ ËÇ´Ñ ¨¹Ñ ·ºÃØ Õ

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 43

KM Challenge’65

ÊÓ¹¡Ñ §Ò¹¾²Ñ ¹ÒªÁØ ª¹
¨§Ñ ËÇ´Ñ µÃÒ´

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 44

KM Challenge’65

ÊÃéÒ§ÊÃä¡ì Ò÷ӧҹʤèÙ ÇÒÁÂѧè ¹×

เรองเล่าเรา้ พลังนีได้รบั แรงบันดาลใจจากผู้ใหญบ่ ้านหญิงแหง่ บ้านหว้ งบอน หมู่ที 5
ตําบลไม้รดู อําเภอคลองใหญ่ จงั หวดั ตราด นางประวง นิมมาก ดว้ ยวัย 64 ป แมว้ ่าจะเกษียณอายุ
ราชการ จากการเปนผู้ใหญ่บ้านแล้ว แต่ยังไม่หยุดการปฏิบัติตนให้เปนแบบอย่างในการพัฒนา
ชุมชน เพือให้ชาวบ้าน มีชวี ตความเปนอยูท่ ีดขี ึน และยงั เปนแบบอยา่ งในการใชช้ วี ตอย่างพอเพยี ง
การอนุรกั ษ์ทรพั ย์กรธรรมชาติ ภายในชมุ ชนให้มคี วามยงั ยืน

ดว้ ยพนื ทีบา้ นห้วงบอน มสี ภาพพืนทีตดิ ภูเขาและทะเล ประกอบกับมฝี นตกชกุ เกือบ
ตลอดทังปเดิมภายในหมู่บ้านมีนาประปาหมู่บ้านใชภ้ ายในชุมชน แต่เนืองจากค่าใชจ้ ่ายใน
กระบวนการการทํานาประปา มีค่าใชจ้ า่ ยค่อนข้างสูง ผู้ใหญ่จงึ มีแนวคิดในการนํานาจากภูเขาลง
มาใชภ้ ายในชุมชน เพือลดค่าใชจ้ า่ ยและสามารถนําเงนส่วนนีไปใชป้ ระโยชน์ในการพัฒนาชุมชนใน
ด้านอืนๆ ได้อีกด้วย จงึ เกิดเปนโครงการ “จากฝากฟาสู่มหานท”ี จากโครงการดังกล่าว ส่งผล
ให้ชาวบ้านภายในชุมชนมีนาใชโ้ ดยไม่ต้องพึงพานาประปาหมู่บ้านนานถึง 5 เดือน สามารถ
ประหยัดค่าใชจ้ า่ ยได้ประมาณหนึงหมืนกว่าบาทต่อเดือน และยังมีการต่อยอดการพัฒนาเพือให้
ชาวบ้านได้ใชน้ าจากภูเขานานยิงขึนด้วยการทําฝายชะลอนา จากการทําฝายชะลอนาสามารถ
ยืดระยะเวลาในการใชน้ าจากภูเขาได้เพิมขึนอีกประมาณ ๓ เดือน ผู้ใหญ่จงึ นําเงนส่วนนีใชใ้ นการ
จดั กิจกรรมต่าง ๆ ภายในชุมชน เพือสนับสนุนการทํากิจกรรมรว่ มกันของชาวบ้าน สรา้ งความรกั
ความสามคั คีภายในชมุ ชน

เนืองจากชาวบ้านห้วงบอนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพประมงพืนบ้าน และได้รับ
ผลกระทบจากเครองมอื การประมงขนาดใหญ่ จงึ ส่งผลใหท้ รพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเลลดน้อยลง

ผู้ใหญ่จงึ เกิดแนวคิดในการจัดตัง “ธนาคารปูม้า” เพือให้เปนทีพักพิงแม่ปูไข่นอกกระดอง
โดยชาวบ้านภายในชุมชนจะนําแม่ปูไข่นอกกระดอง มาพักไว้ทีธนาคารปู เพือให้แม่ปูสลัดไข่
หลังจากนันอนุบาลจนลูกปูโตได้ขนาด จงึ จะนําไปปล่อยคืนสู่ทะเล การมีธนาคารปูภายในชุมชน
นอกจากจะสรา้ งจติ สํานึกในการการอนุรกั ษ์ทรพั ย์กรทางธรรมชาติให้กับ
ชาวบ้านภายในชุมชนแล้ว ยังส่งผลให้การประกอบอาชพี ประมงพืนบ้านมี
ทรพั ยากรทางธรรมชาตใิ นการประกอบอาชพี ใหม้ ีความยังยนื ต่อไป

การนํ าหลักปรัชญาของเศรษฐกิ จพอเพียงมาปรับมาใช้
ให้เหมาะสมกับสภาพแวดลอ้ มภายในชุมชน เนืองจากชมุ ชนมีพนื ทตี ดิ ทะเล
ส่งผลให้พนื ทีภายในชุมชนเปนพนื ทนี ากรอ่ ยไม่สามารถปลกู พชื ผกั สวนครวั ได้ ผู้ใหญจ่ งึ มีแนวคิด
สรา้ ง “สะพานกินได้” เพือสรา้ งความมันคงทางอาหาร แบ่งปนผลผลิตให้กับชาวบ้าน ภายใน
ชุมชน เพิมรายไดล้ ดรายจา่ ย และทีสําคัญเพือเปนแบบอย่างในการใชช้ วี ตอย่างพอเพียง ลงมือทํา
ให้เห็นผลว่าถึงแม้จะไม่มีพืนทีในการเพาะปลูก แต่ผู้ใหญ่สามารถปรบั และประยุกต์การปลูก
พืชผกั สวนครวั ใหเ้ กิดขนึ ภายในชมุ ชนได้

จากเรองทีเลา่ มาขา้ งตน้ ไดร้ บั แรงบนั ดาลใจ และแนวคดิ เพือนํามาปรบั ใชใ้ นการ
ทํางานการพฒั นาชมุ ชนเรมจากการทาํ ความเขา้ ใจถึงวถีชวี ตของชาวบา้ นภายในชมุ ชนการศึกษา
ปญหา ผลกระทบทงั ภายในและภายนอกเพือหาแนวทางการแก้ไขปญหารว่ มกันกับชาวบา้ น

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 45

KM Challenge’65

ภายในชุมชน หนุนเสรมแนวทางการแก้ไขปญหาด้วยการดําเนินงานและโครงการต่างๆ ของ
กรมการพัฒนาชุมชน เพือให้สอดคล้องกับการทํางานและยังสามารถชว่ ยแก้ไขปญหาของชุมชน
ได้อย่างแท้จรง พร้อมกับสรา้ งการมีส่วนรว่ มของชาวบ้านภายในชุมชน เพือให้ชาวบ้านเกิด
ความรูส้ ึกเปนเจา้ ของชุมชน สรา้ งความตะหนักถึงผลกระทบทีทุกคนภายในชุมชนจะได้รบั จาก
ปญหาต่างๆ มีทัศนคติในการหวงแหนชุมชน รว่ มแรงรว่ มใจในการพัฒนาชุมชนของตนเองให้มี
ความยงั ยนื ตอ่ ไป

ดังคาํ กลอนเศรษฐกจิ พอเพยี ง เลียงชพี กล่าวไว้วา่

µÒÁá¹Ç¤´Ô ¹ÓÃÍè §¢Í§¾Íè ËÅǧ ·Ã§à»¹ç ´§èÑ ÃÁè ä·Ãä·Â·§éÑ »Ç§

¾ÃзçËÇè §ªÒÇ»ÃЪҢÒé ºÒ·ä·Â ·Ã§ª¹éÕ Óá¹Ç·Ò§ÊÃÒé §ÍÒª¾Õ

´¨Ø »Ãз»Õ ÊÍè §·Ò§ÊÇÒè §äÊÇ µÒÁÇ¶Ô áÕ »Ãà»ÅÂèÕ ¹àÇÂÕ ¹ËÁ¹Ø ä»

¢Í§âÅ¡ã¹»¨Ñ ¨ºØ ¹Ñ ·¼èÕ ¹Ñ á»Ã èÙé ¡Ñ à´¹Ô ÊÒ¡ÅÒ§·Ò§ªÇÕ µÔ

äÁÂè ´Ö µ´Ô ¨µÔ ã¨ãËéá¹Çè á¹è ¾§èÖ µ¹àͧ¡Íè ¹¨ÐãËéã¤Ã´áÙ Å

¨§Ö ¨¡Ñ á¡»é ­Ñ ËÒÍÂÒè ·Íé 㨠¤ÇÒÁ¾Íà¾ÂÕ §à¾ÂÕ §¾Í·¾èÕ Íè Ê͹

ÅÇé ¹Êзé͹ÀÁÙ »Ô ­Ñ ­ÒÅÓé ¤Òè ä´é ¾Å¡Ô ªÇÕ µÔ ·ÅÕè ÓºÒ¡Âҡࢭç ã¨

ËÒ¡àÃÒ㪤é ÇÒÁ¾Íà¾Õ§à¾Íè× àÅéÕ§µ¹ ·Ã¾Ñ ÂÒ¡ÃÁÒ¡ÁÒÂÁËÕ ÅÒÂËÅÒ¡

·àèÕ ¡´Ô ¨Ò¡¸ÃÃÁªÒµäÔ Á¢è ´Ñ ʹ èéÙ ¡Ñ ¡¹Ô èÙé ¡Ñ ãªäé ÁÍè ºÑ ¨¹

»ÃÐÁÒ³µ¹äÇàé ¶´Ô à¡´Ô ¼Å´Õ äÁ´è ¹Ôé ù¢Ç¹¢ÇÒÂãËàé »¹ç ·¡Ø ¢ì

á¤àè ÃÒÊ¢Ø áºº¾Íà¾ÂÕ §àÂÂèÕ §Ç¹Ñ ¹éÕ µé§Ñ Á¹èÑ ã¹¤³Ø ¸ÃÃÁ¹ÓªÇÕ Õ

ÊÁ¡ºÑ ·ÍÕè §¤¾ì Íè ËÅǧ·Ã§ËèǧãÂ

ทมี า : http://เศรษฐกิจพอเพยี ง.net

ภาพโครงการ “จากฝากฟา้ สู่มหานท”ี

ÈÙ ¹ Âì ÈÖ ¡ É Ò á Å Ð ¾Ñ ² ¹ Ò ªØ Á ª ¹ ª Å ºØ ÃÕ ห น ้ า 46


Click to View FlipBook Version