The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ตอนที่ 7 กฏหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nine9kankaset, 2021-06-03 03:21:03

ตอนที่ 7 กฏหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง

ตอนที่ 7 กฏหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง

1

ตอนท่ี 7 กฎหมายและมาตรการทเ่ี กี่ยวข้อง

ตามที่ไดเ้ กิดสถานการณก์ ารแพร่ระบาดของโรคโควิด 19
ที่แพร่ระบาดไปยังหลายประเทศทัว่ โลก รวมท้ังในประเทศไทย
ซึ่งทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก รัฐบาลไทย
โดยกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงส่วนราชการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง ล้วนมีบทบาทในการควบคุมดูแลสถานการณ์
ดังกล่าว ดังจะเห็นได้จากมาตรการต่าง ๆ ทั้งในแนวทางด้าน
การปฏิบตั ิและแนวทางดา้ นกฎหมาย

โดยประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา กำหนดใหโ้ รคโควิด 19
เปน็ โรคตดิ ต่ออนั ตราย คมู่ ือเลม่ น้ีจงึ ขอนำเสนอมาตรการด้าน
กฎหมายในการควบคุมดูแลสถานการณ์ด้านการแพร่ระบาด
ของโรคติดต่ออันตรายในประเทศไทย ซึ่งนับว่ามีความสำคัญ
อีกหนึง่ ประการท่ีประชาชนทุกคนจำเปน็ ต้องรู้และนำไปสู่การ
ปฏบิ ัติได้อยา่ งถกู ต้อง

2

7.1 กฎหมายท่ีเกย่ี วขอ้ ง

7.1.1 พระราชบัญญัตโิ รคตดิ ตอ่ พ.ศ. 2558

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มีทั้งหมด
9 หมวด 60 มาตรา โดยกำหนดหน้าที่ให้ประชาชนมีส่วน
รว่ มในการป้องกันควบคุมโรคติดต่อ ดังนี้

ร่วมให้ข้อเท็จจริง และปฏิบัติตามคำแนะนำ
ของเจา้ พนักงานควบคมุ โรคติดตอ่ อยา่ งเครง่ ครดั

อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุม
โรคติดต่อและเจ้าพนักงานท้องถิ่นในการดำเนินการ
ป้องกนั ควบคุมโรคตดิ ต่อ

เจ้าของพาหนะ หรือผู้ควบคุมพาหนะ ที่เข้า
มาในราชอาณาจักรจากเขตติดโรคที่รัฐมนตรีประกาศ
ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ
อยา่ งเครง่ ครัด

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 เป็นเครื่องมือสำคัญอย่าง
ยิ่งในการป้องกันควบคุมโรคโควิด 19 หรือโรคติดต่อต่าง ๆ ทั้งนี้
ทุกคนทกุ ภาคส่วนต้องรว่ มมือกัน

3

7.1.2 พระราชกำหนดการบรหิ ารราชการ
ในสถานการณฉ์ ุกเฉิน พ.ศ. 2548

พระราชกำหนดการบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มีทั้งหมด 19 มาตรา
ซึ่งเป็นมาตรการในการบริหารราชการสำหรับสถานการณ์
ฉกุ เฉินไวเ้ ป็นพิเศษ ดงั่ เชน่ ในปัจจบุ ันได้เกิดการระบาดของ
โรคโควดิ 19 ระรอกใหมข่ ึน้ ในเดือน เมษายน 2564 มีผู้ติด
เชื้อรายวันและผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก ส่งผล
กระทบต่อความปลอดภัยของประชาชนและการให้บริการ
ทางการแพทย์ นายกรัฐมนตรีจึงออกข้อกำหนดตามความ
มาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการใน
สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 (ฉบบั ที่ 22) ไว้ดังนี้

1) การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเพ่ือ
ป้องกันการแพร่โรคเมื่ออยู่นอกเคหสถานหรืออยู่ในที่
สาธารณะ

2) การกำหนดพื้นที่สถานการณ์ ดังนี้ (1) พื้นท่ี
ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัด
ชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี

4

และจังหวัดสมุทรปราการ (2) พื้นที่ควบคุมสูงสุด และ
(3) พ้ืนทีค่ วบคมุ

3) พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ห้ามจัด
กิจกรรมซึ่งมีการรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกัน
มากกวา่ 20 คน

4) มาตรการควบคุมแบบบูรณาการสำหรับพื้นที่
ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด (1) ร้านจำหน่ายอาหารหรือ
เคร่ืองดื่ม ให้จำหน่ายโดยการนำกลับไปบริโภคที่อื่นได้เท่าน้ัน
(2) สนามกีฬา สถานที่ออกกำลังกาย ยิม ฟิตเนส ให้ปิด
บรกิ าร และ (3) ห้างสรรพสินค้า ศนู ยก์ ารค้า คอมมูนิต้ีมอลล์
เปดิ ใหบ้ ริการได้จนถึง 21.00 น.

5) การปฏบิ ัตงิ านนอกสถานทตี่ ง้ั ใหห้ วั หน้าส่วน
ราชการ เจ้าของกิจการจัดให้บุคลากรโดยสลับวันเวลา
ทำงานหรอื วธิ ีอนื่ ตามสมควร

กรณีผู้ใดฝ่าฝืน ข้อกำหนด ประกาศ หรือ
คำส่ังท่ีออกตามมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรือ
มาตรา 13 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือ
ปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้
ประชาชนควรติดตาม รับฟังข้อกำหนด ประกาศ
หรือคำสั่ง อยู่เสมอ เพื่อให้ทันต่อสถานการณ์
ตลอดเวลา และสามารถปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง

5

7.2 มาตรการบงั คบั ใช้กฎหมายเพือ่
ควบคมุ การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19

7.2.1 กรณีฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศคำสั่ง
กกขกอกงกคกณกะกรรมการควบคุมโรคติดตอ่ จังหวัดกทม.

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรา 52
ระบุว่าผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน
ควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (3) (4) (7) หรือ (8) หรือ
มาตรา 40 (3) หรือ (4) หรือผู้ว่าราชการจังหวัดหรือ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ตามมาตรา 35 ต้องระวาง
โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือ
ทั้งจำทั้งปรับ และอาจมีความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระ
ราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. 2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับ
ไม่เกนิ 40,000 บาท หรือทั้งจำทง้ั ปรับ

รายละเอียดเพิ่มเติม
สามารถศกึ ษาไดจ้ าก

6

กกกกหกกนกกา้ กกกากกผา้7.2เม.2่ืออกอกรนณอีไกมเค่สหวสมถหานนห้ารกือาสกถอานนาทม่ีพัยำนหักรือ
ก มีความผิดตามมาตรา 51 แห่ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ
พ.ศ.2558 ที่ระบุว่า “ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้า
พนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 34 (1) (2) (5) หรือ
(6) มาตรา 39 (1) (2) (3) หรือ (5) มาตรา 40 (5) หรือไม่อำนวย
ความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามมาตรา 39
(5) ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท” โดยใช้บัญชีอัตรา
การเปรียบเทียบแนบท้ายระเบียบคณะกรรมการโรคติดต่อ
แหง่ ชาติ ว่าดว้ ยหลักเกณฑ์การเปรียบเทยี บ พ.ศ. 2563

มาตรา 34 (6) ห้ามผู้ใดกระทำการหรือดำเนินการ
ใด ๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาวะที่ไมถ่ ูกสุขลักษณะซึ่งอาจเป็น
เหตุให้โรคติดต่ออันตรายหรือโรคระบาดแพร่ออกไป
โดยอัตราค่าปรับกำหนดให้เปรยี บเทียบ ดังน้ี

ครง้ั ท่ี 1 6,000 บาท
ครั้งท่ี 2 12,000 บาท
ครั้งท่ี 3 เปน็ ต้นไป 20,000 บาท

7

7.2.3 กรณีปิดบังข้อมลู ไทมไ์ ลน์

สิ่งที่ต้องทำ ในการสอบสวนโรคผู้ติดเชื้อ ผู้ต้อง
สงสัยว่าติดเชื้อ ผู้สัมผัสโรค ต้องแจ้งข้อมูลต่อพนักงาน
ควบคุมโรคติดต่อ เช่น ปกปิดประวัติการเดินทางไปประเทศ
เส่ยี ง ปดิ บงั ข้อมลู การสัมผสั ผู้ติดเช้ือ ไม่ยอมเข้ารบั การรักษา
ไม่ยอมถูกแยกกัก กักกัน หรือการคุมสังเกตอาการ เป็นต้น
ซง่ึ เปน็ การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบตั ิตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ
พ.ศ. 2558 อาจเข้าข่ายเป็นความผิดฐานขัดขวางหรือ
ไม่อำนวยความสะดวกแก่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตาม
มาตรา 34, 45, และ 55 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ
พ.ศ. 2558 ต้องระวางโทษปรบั ไมเ่ กนิ 20,000 บาท

รวมถึงอาจมีความผิดฐานแจ้งข้อความอันเป็นเทจ็
แก่เจ้าพนักงาน ตามมาตรา 137 แห่งประมวลกฎหมาย
อาญา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับ
ไม่เกนิ 10,000 บาท หรือทั้งจำท้ังปรบั

สามารถศึกษากรณตี วั อย่างฐานปกปดิ ข้อมูลไทม์ไลน์
การเดินทางหรือแจ้งข้อมูลเท็จ ต่อเจ้าพนักงานควบคุม
โรคติดต่อ ตามควิ อาร์โคด้ น้ี

8

7.2.4 กรณไี มแ่ จ้งเจา้ พนักงาน
เมื่อพบผตู้ ดิ เชือ้

ตามมาตรา 31 และ 50 ของพระราชบัญญัติ
โรคติดต่อ พ.ศ. 2558 มาตรการบังคับใช้กฎหมายเพื่อ
ควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด 19 กรณีไม่แจ้งเจ้าหน้าท่ี
พนักงานควบคุมโรคติดต่อเมื่อพบผู้ติดเชื้อ ผู้สงสัยว่า
ตดิ เชอ้ื ดังน้ี

1) พบทบี่ า้ น เจ้าบา้ น ผู้ควบคุมดแู ลบา้ น
แพทย์ผทู้ ำการรกั ษา

2) พบในสถานพยาบาล ผรู้ บั ผิดชอบ
สถานพยาบาล

3) พบในสถานทชี่ ันสูตร ผูท้ ำการชนั สูตร
ผ้รู ับผิดชอบทำการชนั สตู ร

4) พบในสถานประกอบการ เจา้ ของ
ผ้คู วบคุมสถานประกอบการ

“สิ่งที่ต้องทำคือต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่พนักงานควบคุม
โรคติดต่อในส่วนกลางในพื้นท่ีภายใน 3 ชั่วโมง นับตั้งแต่
พบผู้ติดเชื้อ ถ้าไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการแจ้ง
ฝา่ ฝนื ปรบั ไมเ่ กิน 20,000 บาท”

9

7.2.5 กรณโี รงพยาบาลเอกชนปฏเิ สธ
ผู้ติดเชอ้ื

ตามพระราชบญั ญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ 4)
พ.ศ. 2559 มาตรา 33/1 เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครอง
สุขภาพของประชาชน ให้รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของ
คณะกรรมการมีอำนาจประกาศกำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินตาม
กฎหมายว่าด้วยการแพทย์ฉุกเฉิน โรคติดต่ออันตราย
โรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง หรือโรคระบาดตามกฎหมายที่ว่า
ด้วยโรคติดต่อ ซึ่งผู้ป่วยจำเปน็ ต้องได้รับการรักษาพยาบาล
โดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาล ตามมาตรา 36 ดังนั้น
สถานพยาบาลจะต้องช่วยเหลือเยยี วยา รกั ษาพยาบาลผู้ติด
เชือ้ ให้พน้ จากอันตราย

ถ้าหากสถานพยาบาลไม่ช่วยเหลือเยียวยา
หรือรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ ตามพระราชบัญญั ติ
สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 มาตรา 66 มีโทษจำคุกไม่เกิน
2 ปี หรอื ปรบั ไม่เกิน 40,000 บาท หรอื ทั้งจำท้งั ปรบั

กรณีสถานพยาบาลกระทำการละเว้นจนเป็น
เหตุให้เกิดอันตรายความเสียหายมาตรา 49 และมาตรา 50
ผู้อนุญาตมีอำนาจสั่งปิดสถานพยาบาลชั่วคราวจนกว่าจะมี
การดำเนนิ การให้ถกู ต้องภายในระยะเวลาท่กี ำหนด

10

7.2.6 กรณีสงสยั ว่าเปน็ โรคโควิด 19
แตไ่ ม่มารบั การตรวจหรือรกั ษา

พระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2558 ได้กำหนด
บทกำหนดโทษแก่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตาม ฝ่าฝืน ขัดขวาง
ไม่อำนวยความสะดวก หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของ
เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อตามพระราชบัญญัตินี้ กรณี
ผู้ใดที่เป็นหรือมีเหตอุ ันควรสงสัยว่าเป็นโรคติดต่ออันตราย
หรือโรคระบาด หรือผู้ที่เคยเป็นผู้สัมผัสโรคหรือเป็นพาหะ
แต่ไม่มารับการตรวจหรือรักษา หรือรับการชันสูตรทาง
การแพทย์ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองหมื่นบาท
(มาตรา 51 ประกอบกบั มาตรา 34 (1))

จากกฎหมายและมาตรการที่เกี่ยวข้องข้างต้น
ถือเป็นส่งิ สำคัญประการหนึ่งที่ประชาชนจะต้องรับทราบ
ทำความเข้าใจ และถือปฏบิ ตั ิอย่างเคร่งครัด เพ่ือเปน็ การ
ช่วยควบคุมและลดการแพรร่ ะบาดของโรคโควดิ 19

ทั้งนี้ ประชาชนควรติดตาม รับฟัง ข้อกำหนด
ประกาศ คำสั่ง หรือมาตรการต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อให้
ทันต่อสถานการณ์ปัจจุบัน และสามารถปฏิบัติตนตาม
กฎหมายและมาตรการทเี่ กย่ี วขอ้ งได้อย่างถูกตอ้ ง


Click to View FlipBook Version