The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สูจิบัตรวันที่ระลึกวันทรงดนตรี ประจำปี ๒๕

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by thanawat.printer, 2021-09-20 00:03:30

สูจิบัตรวันที่ระลึกวันทรงดนตรี ประจำปี ๒๕

สูจิบัตรวันที่ระลึกวันทรงดนตรี ประจำปี ๒๕

วันทวัรนทีง่รดะลึกนตรี
วันจันทร์ที่ ๒๐ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๔



ดว้ ยเดชะ พระบารมี ที่ค้มุ เกลา้ จึงผองเรา จุฬาฯ เย็น เป็นสุขศานต์
ด้วยเมตตา พระการุญ บรบิ าล แตต่ น้ ธาร จึงจงรัก ภักดีทนู
พระกรณุ า ราชัน นั้นเทยี่ งแท้ มิผันแปร เปลย่ี นแปลง ดงั แสงสูร
คือจันทรผ์ อ่ ง ส่องเอ้อื แผ่เก้ือกลู บริบูรณ์ ทกุ ยา่ งย่ำ พระบำเพ็ญ
พระกรณยี ์ ชบุ ชาติ และชนช่นื ยงั เตม็ ตื้น ในอรุ า เพราะตาเหน็
จึงวนั นี้ จุฬาฯ เรา ร่มเงาเยน็ เพราะพระเป็น ดงั ร่มเกลา้ ชาวจฬุ าฯ
ด้วยบทเพลง ทว่ งทำนอง ประคองขวัญ เลศิ ลาวัลย์ พูนพิพฒั น์ จำรัสค่า
ภวู นาถ พระราชทาน พระกรณุ า ผ่านคตี า ร้อยใจม่นั นริ ันดร
เพลงจงึ เตือน ใหใ้ จภักด์ิ ตระหนกั รู้ สชี มพู เจดิ จรสั ประภสั สร
สนองคุณ แห่งมหาจฬุ าลงกรณ์ ครบหกรอบ เพลงพร พระราชทาน
เจ็ดสบิ สอง บรรจบปี ที่นับเนอื่ ง ยังรงุ้ เรอื ง เฉิดฉาย ประกายฉาน
กลอ่ มดวงใจ น้องพ่ี นิรันดรก์ าล ปณิธาน ทดแทน คณุ แผ่นดิน
อาเศียรวาท พรอ้ มฤดี ทีถ่ วลิ
สรวมชีพ บงั คม บรมบาท จอมนรนิ ทร์ ทรงธรรม์ ขวญั จุฬาฯ
นอ้ มถวาย ภกั ด์ิม่นั คง องคภ์ ูมินทร์

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จณิ ดษิ ฐ์ ละออปกั ษิณ
ประพนั ธ์

สารจากอธกิ ารบดจี ุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั

ช่วงเวลาตั้งแต่พุทธศักราช ๒๕๐๑ ถึง ๒๕๑๖ นับเป็นโชควาสนาของชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ทั้งหลาย ที่นอกจากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระบรมราชูปถมั ภกของมหาวทิ ยาลัย จะทรงพระมหากรณุ าเสด็จพระราชดำเนินมาพระราชทานปริญญาบัตร
หรอื เสด็จพระราชดำเนนิ มาในงานพิธีต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยแลว้ ยงั ไดเ้ สด็จพระราชดำเนนิ พร้อมด้วยสมเด็จ
พระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ และสมเด็จพระ
เจ้าลูกเธอทุกพระองค์ มาทรงดนตรีพระราชทาน และพระราชทานพระราชวโรกาสให้คณาจารย์และนิสิต
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัยได้เฝา้ ทูลละอองธุลพี ระบาทอย่างใกลช้ ดิ เป็นประจำทกุ ปี

แม้เป็นเวลาเกือบ ๕๐ ปีล่วงมาแล้ว นับแต่พระบรมราชูปถัมภก ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐพระองค์นั้น
เสดจ็ พระราชดำเนินมาทรงดนตรี ณ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย เป็นครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ ๒๐ กนั ยายน ๒๕๑๖
หากแต่ภาพของ “งานวันทรงดนตรี” ยังคงแจ่มชัดอยู่ในมโนสำนึกความทรงจำของคณาจารย์และนิสิตเก่าผู้มี
โชควาสนาได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอยู่ในงาน และยังเปน็ ทีต่ ระหนักรบั รู้ถงึ พระมหากรุณาธิคุณ แม้สำหรับ
ชาวจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลัยรุ่นหลงั ผไู้ ด้รบั การถ่ายทอดเรือ่ งราวของงานวนั ทรงดนตรีอยไู่ ม่เส่ือมคลาย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจึงได้ถือวันที่ ๒๐ กันยายนของทุกปี เป็นวันที่ระลึกวันทรงดนตรี ซึ่งเป็น
วันสำคัญวันหนึ่งของมหาวิทยาลัยที่คณาจารย์และนิสิตเก่า จะได้กลับสู่เหย้า เพื่อมาร่วมกันน้อมรำลึก
ถึงพระมหากรุณาธิคุณและพระราชอัจฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และยังได้ร่วมกันบริจาคเงินโดยเสด็จพระราชกุศลสมทบทุนมูลนิธิ
อานันทมหดิ ล เป็นประจำทุกปี

ในปีนี้ แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จะทำให้การจัดการแสดงดนตรี
ในหอประชมุ จฬุ าลงกรณม์ หาวิทยาลัยไม่สามารถทำได้ แตก่ ารจดั กจิ กรรมวันท่รี ะลึกวันทรงดนตรีก็ยังคงมีอยู่
ในรปู แบบออนไลน์ ภายใต้มาตรการป้องกันโรคระบาด มไิ ดห้ ยดุ เว้นหรือขาดตอนไป เฉกเชน่ เดียวกับความระลึกใน
พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
ในใจชาวจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัยทม่ี อี ยตู่ ่อเน่ืองตลอดมา และตลอดไป ไมม่ เี สือ่ มคลายหรือขาดตอน

ในนามจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขอขอบพระคุณคณะกรรมการดำเนินงานวันที่ระลึกวันทรงดนตรี
และหน่วยงานต่าง ๆ ที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันจัดงานขึ้น ขอขอบพระคุณสมาชิกวงดนตรีสากลสโมสรนิสิต
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทั้งนิสิตเก่าและนิสิตปัจจุบัน รวมถึงผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ได้มาร่วมฝึกซ้อมและแสดงใน
งาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอขอบพระคุณ คุณสันทัด ตัณฑนันทน์ ที่เป็นกำลังสำคัญอย่างยิ่งในการจัดงานน้ี
ต่อเนื่องมาทกุ ปี

ศาสตราจารย์ ดร.บัณฑติ เออื้ อาภรณ์
อธิการบดี

รายการแสดง
วันทีร่ ะลกึ วนั ทรงดนตรี
วันจันทรท์ ่ี ๒๐ กนั ยายน ๒๕๖๔

มหาจุฬาลงกรณ์ เรียบเรียงเสยี งประสานโดย ชมรมนกั ร้องประสานเสยี ง
(๒๕๑๖) นาวาตรีปิยะพนั ธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา สโมสรนิสิตจฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัย (CU Chorus)
มหาจุฬาลงกรณ์ เรียบเรียงเสยี งประสานโดย
(ทศวรรษ ๒๕๕๐) กิตติ เครือมณี ขบั ร้องหมู่
(ดดั แปลงจากบทเรียบเรียงของ ชมรมดนตรีสากล
มหาจฬุ าลงกรณ์ Ading Dila) สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์
(ทศวรรษ ๒๔๙๐) มหาวิทยาลยั (CU Band)
บทเรียบเรียงเสียงประสานของ
วงสุนทราภรณ์ สุชญั ญ์ญา นรปฏิพทั ธิ์
อริยา ประทุมทิพย์
จามจรุ ีศรีจฬุ า เรียบเรียงเสียงประสานโดย จันทรจ์ ิรา นมิ่ พิทักษ์พงศ์
นิรตั บญุ ญาเศวต สิริลกั ษณ์ ห่นุ ศรีงาม
(ดัดแปลงจากบทเรียบเรียงของ ธนา เตรัตนชยั
กิตติ ศรีเปารยะ) พิรณุ ศิริศกั ดิ์

เพลงประพันธ์ กิง่ ทอง
สายทิพย์ วิวัฒนปฐพี

โหมโรงมหา ประพนั ธ์โดย ชมรมดนตรีไทย สโมสรนิสิต
จุฬาลงกรณ์ นายเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล จฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั
(๒๔๙๗)
มหาจุฬาลงกรณ์ เรียบเรียงเสยี งประสานโดย ขบั ร้องหมู่
(๒๕๐๑) Ading Dila วงดนตรีนิสิตเก่า ซี ยู แบนด์
(OCU Band)
จามจุรีประดบั ใจ
เรียบเรียงเสยี งประสานโดย กานต์ชนก ขนุ เมือง-กอ็ ตชลั ล์
มหาจฬุ าลงกรณ์ เอกรินทร์ ชูอรุณ และ ภูริ เฉลิมเกยี รติสกลุ สดุ าพิมพ์ โพธิภักติ
(๒๕๓๓) (ดดั แปลงจากบทเรียบเรียงของ ชมพรรษ รัตนพันธศุ รี
อนนต์ วงษ์เกษม) ปรางมาศ อนนั ต์ศิลป์
มหาจุฬาลงกรณ์ เขมวัฒน์ เรงิ ธรรม
(๒๕๓๙) วสวัตติ์ ดุลยวิทย์
เพลงประพนั ธ์ กิ่งทอง
รชฎ กลับประทุม

เรียบเรียงเสยี งประสานโดย บรรเลง
กิตติ ศรีเปารยะ วงดนตรีนิสิตเกา่ ซี ยู แบนด์
(OCU Band) วง ๒

บทเรียบเรียงเสียงประสานของ บรรเลง
Count Basie Orchestra วงดนตรีนิสติ เก่า ซี ยู แบนด์
(OCU Band) วง ๓

CU Polka เรียบเรียงเสยี งประสานโดย น้ำฝน ภกั ดี
เจษฎา สขุ ทรามร กานดา วิทยานภุ าพยืนยง
จมาพร แสงทอง
มหาจฬุ าลงกรณ์ เรียบเรียงเสยี งประสานโดย รติมา ธนาลาภสกลุ
(๒๕๖๔) พัชรพงศ์ จนั ทาพนู ปวริศา โกมลวัจนะ

เกียรติภูมิจฬุ า เรียบเรียงเสียงประสานโดย พิจิกา จิตตะปุตตะ
กิตติ เครือมณี ณพชร วอ่ งชาญกิจ
สุดาพิมพ์ โพธิภักติ
มหาจุฬาลงกรณ์ เรียบเรียงเสยี งประสานโดย ชมพรรษ รัตนพันธศุ รี
(ทศวรรษ ๒๕๕๐) กิตติ เครือมณี ศภุ พงศ์ พิมลยรรยง
อนาวิล งามสงา่
ธนงั วนิชยากรชยั
รฐั พงศ์ ปิติชาญ

พิจิกา จิตตะปตุ ตะ
ณพชร วอ่ งชาญกิจ
สุดาพิมพ์ โพธิภักติ
ปรางมาศ อนันตศ์ ิลป์
ธณรฐั ปิ่นเวหา
ศุภพงศ์ พิมลยรรยง
เพลงประพันธ์ กิ่งทอง
พลอนนั ต์ แก้วนภา

ขับร้องหมู่
นิสิตปัจจุบนั และนิสติ เก่าจฬุ าฯ

สารจากอาจารย์ท่ีปรึกษาชมรมดนตรีสากล

วันทรงดนตรี เป็นวันสำคัญวันหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเป็นวันท่ี
ชาวจุฬาฯ ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สดุ มิได้ จากพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหา
ภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่เสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรีพระราชทานแก่นิสิต ณ หอประชุม
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย การเสดจ็ พระราชดำเนนิ มาทรงดนตรพี ระราชทานในลกั ษณะนี้นน้ั ได้พระราชทานความ
เป็นกนั เองกับนิสติ และคณาจารย์เป็นอยา่ งย่ิง ซึง่ ไม่อาจเกดิ ขน้ึ ไดเ้ ลยในการเสดจ็ พระราชดำเนนิ อยา่ งเปน็ ทางการ
โอกาสนั้นเองชาวจุฬาฯ ได้สนองพระมหากรุณาธิคุณโดยร่วมบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดลด้วย จาก
ช่วงเวลาแห่งการเสด็จพระราชดำเนินมายังจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระหว่างพุทธศักราช ๒๕๐๑–๒๕๑๖
มาถึงช่วงเวลาท่วี งดนตรี CU Band ทำหน้าท่ีแทนชาวจุฬาฯ ในการรำลกึ ในพระมหากรุณาธคิ ุณระหวา่ งปี ๒๕๒๐–
๒๕๔๒ จวบจนช่วงเวลาที่มหาวิทยาลัยประกาศให้ “วันที่ระลึกวันทรงดนตรี” เป็นวันสำคัญของจุฬาลงกรณ์
มหาวทิ ยาลยั ตงั้ แตป่ ี ๒๕๔๓ เป็นตน้ มา ชาวจุฬาฯ ลว้ นสำนกึ ในพระมหากรุณาธิคุณอยู่เสมอ

ในพุทธศักราช ๒๕๖๔ นี้ ด้วยสถานการณ์ที่ไม่เอื้ออำนวยให้เรามาพบกันที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัยได้ตามปกติ จึงได้ปรับรูปแบบการนำเสนอมาอยู่บนสื่อออนไลน์อีกครั้งหนึ่ง สำหรับการแสดงในปีนี้
เนื่องในโอกาสครบ ๖ รอบ แห่งการพระราชทานเพลงพระราชนิพนธ์ “มหาจุฬาลงกรณ์” จึงได้นำเสนอเพลงมหา
จุฬาลงกรณ์ในรูปแบบพิเศษ โดยวง CU Band และวงพี่เก่า CU Band รุ่นต่าง ๆ ทั้งรุ่นก่อตั้ง รุ่นที่มีโอกาสได้ร่วม
แสดงดนตรีเมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรีพระราชทานแก่ชาวจุฬาฯ รุ่นที่จัดงานวันที่ระลึกวันทรง
ดนตรีครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๒๐ จนกระทั่งถึงรุ่นต่อ ๆ มา ที่ได้มีโอกาสบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ในโอกาสสำคัญ
ต่าง ๆ ร่วมกับชมรมนักร้องประสานเสียง และชมรมดนตรีไทย สโมสรนิสิตจุฬาฯ นอกจากนี้ยังมีเพลงมหา
จุฬาลงกรณ์ที่ขับร้องร่วมกันโดยนักร้องพี่เก่ากับน้องนิสิตปัจจุบัน จำนวน ๗๒ คน รวมถึงบทเพลงมหา
จฬุ าลงกรณท์ ่ีเรียบเรยี งเสียงประสานข้ึนใหม่ ซง่ึ จะเผยแพร่เป็นครง้ั แรกในงานวันที่ระลึกวันทรงดนตรปี ระจำปีนี้

ในนามของวงดนตรีสากลสโมสรนิสิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย จะขอทำหนา้ ทสี่ บื สาน “งานวนั ท่ีระลึกวัน
ทรงดนตรี” ด้วยจิตใจที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดีของชาวจุฬาฯ ทั้งมวลตลอดไป ทั้งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในปี
ถัดไปเราจะสามารถกลับมาพบกันที่หอประชุมจุฬาฯ เพื่อร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ
พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ผา่ นบทเพลงพระราชนิพนธ์ และงานวันท่ีระลึก
วันทรงดนตรี ๒๐ กนั ยายนของทุกปีต่อไปอีกตราบนานเทา่ นาน

รองศาสตราจารย์ ดร.ณฏั ฐติ า ชวนเกรกิ กุล
อาจารยท์ ป่ี รึกษาชมรมดนตรีสากล สโมสรนสิ ติ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย

สารจากประธานชมรมดนตรสี ากล

งานวันที่ระลึกวันทรงดนตรี นับเป็นงานที่สำคัญอย่างยิ่งของพวกเราสมาชิกชมรมดนตรีสากล สโมสรนิสิต

จุฬาลงกรณม์ หาลัย (CU Band) เนื่องด้วยหลังจากที่พวกเราผ่านการคัดเลือกเข้ามาเป็นสมาชิกใหมข่ องชมรมฯ แล้ว น้อง
ใหมก่ จ็ ะได้รับมอบหมายจากรุ่นพใี่ ห้ทำหน้าท่ีปฏิคม ตอ้ นรบั แขกผู้มเี กียรติทกุ ท่านท่มี าชมการแสดงดนตรี บรรยากาศของ

งานวันที่ระลึกวันทรงดนตรีที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นในครั้งแรกนั้นเป็นบรรยากาศที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง บริเวณหน้า
หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่ขา้ พเจ้ายืนตอ้ นรับผู้ชมอยู่น้ันเต็มไปด้วยนิสิตเกา่ จุฬาฯ ที่ต่างพร้อมใจแต่งกายด้วย

ชุดสีชมพูซึ่งเป็นสีประจำมหาวิทยาลัย ผู้ชมเหล่านั้นต่างร่วมกันบริจาคเงินสมทบทุนมูลนิธิอานันทมหิดล ก่อนที่จะทยอย

เดินเขา้ หอประชมุ ดว้ ยความตนื่ เต้นเช่นเดียวกันกับขา้ พเจา้ เมอ่ื การแสดงได้เรมิ่ ขึ้น ข้าพเจ้าไดร้ ับชมบทเพลงพระราชนิพนธ์
หลากหลายบทเพลงจากรุ่นพี่ที่เต็มไปด้วยความสามารถและประสบการณ์ ทั้งจากวง OCU Band ของพี่เก่า และวง CU

Band ของนิสิตปัจจุบันซึ่งข้าพเจ้ายังไมม่ โี อกาสได้ร่วมแสดงดว้ ย เมื่อการแสดงสิ้นสุดลง ข้าพเจ้าและรุ่นพี่ต่างช่วยกันเก็บ
เครื่องดนตรกี ลับชมรมฯ จากสิ่งตา่ ง ๆ ที่ข้าพเจ้าได้พบเห็นในวันนั้น สะท้อนให้เห็นถงึ ความตั้งใจของชาวจฬุ าฯ ที่ต่างร่วม

แรงร่วมใจกันรังสรรค์งานวันที่ระลึกวันทรงดนตรีและแสดงให้เห็นว่างานวันที่ระลึกวันทรงดนตรีนั้นสำคัญต่อชาวจุฬาฯ
มากเพียงใด

ในปีถัดมา เมื่อข้าพเจ้าได้มีโอกาสร่วมแสดงในงานวันที่ระลึกวันทรงดนตรี ข้าพเจ้าได้ฝึกซ้อมบทเพลงพระราช
นพิ นธ์ จงึ ทำใหข้ ้าพเจ้าไดร้ บั รถู้ งึ พระอจั ฉริยภาพทางดนตรีของพระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดุลยเดช

มหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องจากบทเพลงเหล่านั้นมีความยากอย่างทีไ่ ม่เคยพบเจอมาก่อน แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยความ

ตั้งใจของพี่เก่าที่อยากให้งานนี้ออกมาดีที่สุด จึงได้ช่วยกันถ่ายทอดความรู้ทางดนตรี ทำให้สมาชิกผู้แสดงได้มีโอกาส
พัฒนาทักษะทางดนตรีของตนให้ดียิ่งขึ้น ด้วยความร่วมแรงร่วมใจจากทั้งคณาจารย์ บุคลากร นิสิตปัจจุบันและนิสิตเก่า

ซ่ึงรวมเรียกได้ว่า “ชาวจุฬาฯ” จึงทำใหง้ านวนั ท่รี ะลกึ วนั ทรงดนตรใี นปีนน้ั สำเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ด้วยดี
เมื่อข้าพเจ้าได้ศึกษาในชั้นปีที่ ๓ ได้เกิดเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙

(COVID-19) จึงทำให้การแสดงจำต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการแสดงดนตรีสด เป็นการบันทึกวีดิทัศน์จากหอประชุม
จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัยและนำมาเผยแพรท่ างเพจเฟซบ๊กุ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยแทน ถงึ แมจ้ ะไม่ได้เป็นการแสดงต่อ

หนา้ ผูช้ มจำนวนมาก แต่พวกเราสมาชกิ ชมรมฯ กย็ งั คงมีความตัง้ ใจเหมือนเช่นเดมิ พวกเราตา่ งฝกึ ซอ้ มกนั อย่างหนัก เพ่ือ

หวงั ใหก้ ารแสดงทอี่ อกมาน้ันดีทส่ี ุด ไมต่ ่างจากการแสดงทกุ ๆ ครั้งท่ผี ่านมา
แม้ว่าในปีนี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรสั โคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) จะยังคงมอี ยู่ ซ้ำยังทวี

ความรนุ แรงมากกว่าเดมิ จนทำใหพ้ วกเราไมส่ ามารถรวมตัวเพ่อื บนั ทึกวดี ิทัศนเ์ ชน่ ปกี อ่ น แต่เหตุนกี้ ็ไม่เป็นอปุ สรรคท่ีทำให้
พวกเราย่อทอ้ พวกเรายังคงพยายามและตั้งใจที่จะทำใหง้ านวนั สำคญั น้ีออกมาดที ีสดุ เหมอื นอยา่ งทเ่ี คยเปน็ มา ดงั น้ันพวก

เราจงึ เลอื กทจ่ี ะบันทกึ วดี ิทัศน์จากบา้ นของสมาชิกแต่ละคนแลว้ นำมาร้อยเรียงรวมกันเป็นการแสดงท่ีแม้ต่างลีลาจากเดิม
แต่ก็ยังคงให้ความรู้สึกเหมือนทุกท่านได้มานั่งชมการแสดงของพวกเราที่หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยด้วยตนเอง

ขา้ พเจ้าหวังเป็นอย่างยิง่ วา่ ทกุ ท่านจะไดร้ บั ฟงั บทเพลงอนั ไพเราะและร้สู ึกได้ถงึ การหวนกลับคนื สูบ่ รรยากาศอันอบอุ่นและ

น่าประทับใจของวันทร่ี ะลกึ วันทรงดนตรีอยา่ งเม่ือครงั้ ในอดตี ผา่ นอุปกรณส์ ื่อสารของท่าน
นายภฤศ นิสสะ

นสิ ติ คณะวิศวกรรมศาสตร์ช้นั ปีที่ ๔
ประธานชมรมดนตรสี ากล สโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ประจำปกี ารศึกษา ๒๕๖๔







สามารถชมวีดิทัศน์

ย้อนรำลึกบันทึกจุฬาฯ : "วันทรงดนตรี"

ได้ที่

















บทความเรอ่ื ง “บทเพลงพระราชนพิ นธ์ มหาจฬุ าลงกรณ์ เพลงพรพระราชทาน”
จากวารสารจามจรุ ี ปีที่ ๑๙ ฉบบั ท่ี ๑ มกราคม - เมษายน ๒๕๖๐
โดย ทีมงาน “จดุ เทียนบวงสรวง ดว้ ยดวงใจภักดิ์”
ว่าที่รอ้ ยตรปี ฏิวัติ สุขประกอบ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.จณิ ดษิ ฐ์ ละออปกั ษิณ
รองศาสตราจารย์ ดร.ณฏั ฐิตา ชวนเกริกกลุ
ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ชวู ิทย์ ยุระยง

มหาจฬุ าลงกรณ์
เรยี บเรยี งเสียงประสานโดย วงสนุ ทราภรณ์
ทศวรรษ ๒๔๙๐

เพลงมหาจฬุ าลงกรณเ์ วอร์ชนั แรกท่ี CU Band เลน่ คือ เวอรช์ นั ตามโน้ตเพลงของสนุ ทราภรณ์

- สันทัด ตัณฑนนั ทน์
สมาชิก CU Band รุน่ ก่อต้ัง

เมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้
พระราชนิพนธ์เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เพื่อพระราชทานให้เป็นเพลงประจำจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ
พ.ศ. ๒๔๙๒ นั้น พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานให้กรมประชาสัมพันธ์
(วงสุนทราภรณ์) และกรมศิลปากร บรรเลงในรูปแบบ บก๊ิ แบนด์ (Big Band) และวงออเคสตรา ตามลำดับ

ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๙๙ เมื่อ CU Band ก่อตั้งขึ้น จึงได้นำโน้ตเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ที่ได้ขอมาจาก
วงสุนทราภรณ์มาใช้บรรเลง เนื่องจากขณะนั้น CU Band ยังไม่ได้เรียบเรียงเพลงพระราชนิพนธ์มหา
จุฬาลงกรณ์ในแบบฉบับของตน อีกทั้งประเภทและจำนวนเครื่องดนตรีของ CU Band ยังมีความใกล้เคียง
กับของวงสุนทราภรณ์ จึงสามารถนำเพลงเวอร์ชันสุนทราภรณ์มาเล่นได้โดยง่าย และได้ใช้เวอร์ชันนี้อยู่
จนถึงปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็นเวอร์ชันที่เรียบเรียงใหม่โดย Ading Dila หรือเวอร์ชันของ CU
Band อย่างในปัจจบุ นั

ในสมยั นัน้ จะมโี อกาสท่ีจะได้รบั ฟังเพลงมหาจุฬาลงกรณเ์ วอร์ชันสุนทราภรณต์ ามงานต่าง ๆ ท่ีแต่
ละคณะจดั ขน้ึ รวมไปถึงงานฉลองรับปริญญาตามสถานท่ตี า่ ง ๆ เช่น สวนอัมพรหรอื สวนลมุ พนิ ี

มหาจุฬาลงกรณ์
เรียบเรียงเสียงประสานโดย Ading Dila
พทุ ธศกั ราช ๒๕๐๑

เปน็ เวอร์ชันท่ีเปน็ Full Band แล้วกเ็ ป็นเวอร์ชนั ท่ีเป็น CU Band จริง ๆ

- สันทัด ตณั ฑนันทน์
สมาชกิ CU Band รุ่นกอ่ ตง้ั

CU Band ใช้เวอร์ชันสุนทราภรณ์ในการบรรเลงเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๐๑ ที่
แบนด์เริ่มมีเครื่องดนตรีมากขึ้น จนเรียกได้ว่าเป็นวง Full Band จึงต้องมีการเรียบเรียงเพลงใหม่ ซึ่งได้รับ
เกียรติจาก Ading Dila นกั ดนตรีชาวฟิลิปปินสม์ าชว่ ยเรียบเรียงให้

จากการเรียบเรียงใหม่ของ Ading Dila และเพื่อนนักดนตรีชาวฟิลิปปินส์ จึงทำให้เกิดเพลงมหา
จฬุ าลงกรณเ์ วอรช์ นั CU Band ขึ้นมา

อยา่ งไรก็ตาม ในระยะแรก แม้เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชนั ของ CU Band จะได้เรียบเรียงขึ้นแล้ว
แตเ่ พลงเวอร์ชนั สุนทราภรณ์กย็ งั คงเปน็ ที่นิยมอยา่ งมากเนือ่ งจากมีเทปและแผน่ เสียงจำหน่ายโดยทวั่ ไป ทำ
ให้สะดวกในการเปิดเล่นตามงานต่าง ๆ อีกท้ังในการจดั งานของชาวจฬุ าฯ กย็ งั นิยมการเชิญวงสุนทราภรณ์
ไปบรรเลง

จนกระทง่ั CU Band ได้มีการจัดทำเทป แผน่ เสียงและซีดีเผยแพรจ่ ำหน่ายเชน่ กัน เพลงเวอรช์ ันนี้ก็
กลายเปน็ ทีน่ ิยมมากขึ้น

เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชนั นี้ได้รับการบันทึกในเทป แผ่นเสียงและซีดีที่จัดทำขึ้นในหลายโอกาส
เช่น แผ่นเสียงที่จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบ ๕๐ ปี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยสมาคมนิสิตเก่า
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งบรรเลงโดย วง อ.ส. วันศุกร์ (พ.ศ. ๒๕๑๐) เทปชุด
“จุฬาฯ ของเรา” (พ.ศ. ๒๕๒๓) รวมถึงเทปและซีดีที่จัดทำขึ้นเนื่องในโอกาสครบ ๘๐ ปี จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย (พ.ศ. ๒๕๔๐)

ต่อมาเมื่อมหาวิทยาลัยรับนิสิตใหม่มากขึ้น CU Band ก็มีสมาชิกมากขึ้นไปตามกาลเวลา ทำให้
จำนวนเครื่องดนตรีก็เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน จึงต้องมีการเรียบเรียงเพลงใหม่เพื่อให้รับกับจำนวนเครื่อง
ดนตรีของวง หากแต่ยังคงยึดคอร์ดหลักที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช
มหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ดังเดิมทกุ ประการ

มหาจฬุ าลงกรณ์
เรียบเรียงเสียงประสานโดย กติ ติ ศรีเปารยะ
พุทธศกั ราช ๒๕๓๓

เวอร์ชันที่เรียบเรียงให้มีความอ่อนหวานและนุ่มนวลของแนว
ดนตรีใหแ้ ตกต่างจากเวอร์ชันอนื่ ท่เี คยมีมา

- กิตติ ศรเี ปารยะ
อดตี หวั หน้าวง CU Band

เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชันนี้ เริม่ เรียบเรียงขึ้นประมาณปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๓ เพือ่ นำไปใช้ในการ
บันทึกเทปคาสเซ็ทของสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่ง
เผยแพร่ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยมีศาสตราจารย์พิเศษ แมนรัตน์ ศรีกรานนท์ เป็นผู้รวบรวมและจัดหานัก
ดนตรีมาร่วมบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ต่าง ๆ รวมถึง เพลงพระราชนิพนธ์ที่เป็นเพลงประจำบัน
สถาบันการศึกษา ๓ แห่ง อันได้แก่ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และยงั ได้รบั การเผยแพรใ่ นซีดีทีจ่ ัดทำขึ้นเนือ่ งในโอกาสครบ ๘๐ ปี จฬุ าลงกรณ์
มหาวิทยาลัยเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๐ อีกด้วย

เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชันนี้ ผู้เรียบเรียงได้สร้างสรรค์เพลงนี้ขึ้นให้มีความอ่อนหวานและ
นุ่มนวลของแนวดนตรี เพื่อให้แตกต่างจากเวอร์ชันอื่นที่เคยมีมา อีกทั้งเพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชันนี้ยัง
จัดทำขึ้นในรปู แบบของเพลงบรรเลง ทำให้มีลกั ษณะพิเศษจากเวอรช์ ันสำหรบั ขับร้อง

มหาจฬุ าลงกรณ์
เรียบเรียงเสียงประสานโดย Count Basie Orchestra
พุทธศกั ราช ๒๕๓๙

เวอรช์ นั ของวงดนตรีสากลท่ีมีชื่อเสยี งระดับโลก

- ปิติ เกยรู พนั ธ์
ผ้คู วบคมุ วง CU Band

เป็นเวอร์ชันที่บรรเลงครั้งแรกโดยวง Count Basie Orchestra หนึง่ ในวงดนตรี Big Band ที่มีชือ่ เสียง
วงหนึ่งในยุค Swing Era (ประมาณ ค.ศ. ๑๙๓๐-๑๙๕๐) ลักษณะเพลงที่เล่นเป็นหลักคือ Swing Jazz Big
Band ซึ่งสามารถเรียกได้ว่าเป็นเพลง Pop ของสมัยนั้น และต่อจากนั้นก็ได้เผยแพร่ไปทั่วโลก วงดังกล่าว
ได้มาทำการแสดงที่ประเทศไทย โดยถ่ายทอดแนวเพลง Jazz ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ และเป็นการ
แสดงเพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร ทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ในปี พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยครั้งนั้น วง CU Band ได้มีโอกาส
ร่วมแสดงด้วยและยังได้มีการบันทึกเสียงลีลาการแสดงของเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ในเวอร์ชันนี้ไว้ ซึ่งมีการ
เรียบเรียงเสียงประสานดนตรีในสไตล์ Big Band ที่เป็นชั้นเลิศ มีการใช้เสียงประสานที่ไพเราะและลีลา
หลากหลายต่าง ๆ ทั้งในสไตล์ Latin และ Swing รวมอยู่ในเวอร์ชันนี้ มีการ Improvise และใช้เทคนิคชั้นสูง
ตา่ ง ๆ ของดนตรีในรูปแบบ Jazz Big Band ได้อย่างครบถ้วนและสวยงาม

มหาจฬุ าลงกรณ์
เรยี บเรยี งเสียงประสานโดย กิตติ เครือมณี
ทศวรรษ ๒๕๕๐

อาจเรียกได้ว่าเป็นเวอร์ชันของศตวรรษที่ ๒๑ เพราะ
กระบวนการคิดนั้นยึดเอาความเป็น Big band เป็นพื้นฐาน
และนำเอาอตั ลักษณ์ทางดนตรีท่ีแสดงถึงความยิ่งใหญ่ทีใ่ ช้กัน
มากว่าสามศตวรรษ คือ fanfare มาใช้

- กิตติ เครือมณี
อดีตหัวหน้าวง CU Band

เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชันนี้ เรียบเรียงประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ในช่วงที่ CU Band ได้รับหน้าที่
ให้เป็นผู้บรรเลงในงานพิธีต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัยอยู่บ่อยครั้ง CU Band จึงเห็นว่าควรมีการเรียบเรียง
เพลงขึ้นอีกฉบับหนึ่งเพื่อให้เพลงนี้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น และเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการบรรเลง
เพลงเวอร์ชนั ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับแตล่ ะงาน

โดยเพลงเวอร์ชันนี้ได้บรรเลงในงานสำคญั ต่าง ๆ เช่น งานจุฬาฯ จุดเทียนบวงสรวง ด้วยดวงใจภกั ดิ์
ณ ลานพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระปิยมหาราชและสมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า จุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย เมื่อ พ.ศ. ๒๕๕๙ และการแสดงมหรสพสมโภช เนื่องในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระ
บรมศพ ณ เวทีที่ ๓ ดนตรีสากล มณฑลพระราชพิธี ท้องสนามหลวง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๐

เพลงเวอร์ชนั นี้อาจเรียกได้ว่าเปน็ เวอรช์ นั ของศตวรรษที่ ๒๑ โดยในกระบวนการคิดนัน้ ยึดเอาความ
เป็น Big band เป็นพื้นฐาน และนำเอาอัตลักษณ์ทางดนตรีที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ที่ใช้กันมากว่าสาม
ศตวรรษคือ fanfare เพลง มหาจุฬาลงกรณ์ เวอร์ชันนี้จะเต็มไปด้วย fanfare figure ที่ปรากฎมาใช้ตั้งแต่ต้น
จนจบเพลง อีกทั้งความตั้งใจของผมอีกประการหนึ่งคือเพลงมหาจุฬาลงกรณ์ เป็นบทเพลงพระราชนิพนธ์
ที่สร้างขึ้นบน pentatonic scale ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นตัวแทนของดนตรีตะวันออก ดังนั้นจึงเลือกใช้ fanfare
ซึ่งเป็นตัวแทนของดนตรีตะวันตก โดยทำให้ทั้งสององค์ประกอบ เกิดขึ้นอย่างสอดประสานต่อเนื่องกันและ
แสดงถึงความยิง่ ใหญแ่ ละงดงาม

มหาจฬุ าลงกรณ์
เรียบเรยี งเสยี งประสานโดย พชั รพงศ์ จนั ทาพนู
พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๔

เวอร์ชันที่เรียบเรียงขึ้นเพื่องานวันที่ระลึกวันทรงดนตรีครั้ง
นโ้ี ดยเฉพาะ

- พัชรพงศ์ จนั ทาพูน
อดตี หัวหนา้ วง CU Band

เพลงมหาจุฬาลงกรณ์เวอร์ชันนี้ เป็นการเรียบเรียงขึ้นใหม่เพื่อใช้เผยแพร่ในงานวันที่ระลึกวันทรง
ดนตรีในวันที่ ๒๐ กันยายน ๒๕๖๔ เป็นครั้งแรก เพื่อให้สอดคล้องกับแนวคิดในการจัดงานที่เป็นการ
รวบรวมเพลงมหาจฬุ าลงกรณ์หลากหลายเวอร์ชนั มาจัดแสดงในรปู แบบออนไลน์

ในเวอร์ชันนี้ ได้เรียบเรียงในรูปแบบ A Cappella คือ เป็นการร้อง ๘ แนวประสาน โดยนักร้อง ๘
คน และไม่มีดนตรีบรรเลงแม้แต่ชิ้นเดียว หลักการเขียนเพลงคือ Four-Part Harmony ประกอบไปด้วยเสียง
โซปราโน อัลโต เทเนอร์ เบส อยา่ งละ ๒ แนวประสาน

มหาจฬุ าลงกรณ์
โดย ชมรมนกั รอ้ งประสานเสียง สโมสรนิสิตจฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย
(CU Chorus)

ไลนป์ ระสานเสยี งแตล่ ะทอ่ นทสี่ อดรับกับเน้อื หาของเพลงท่ี
ไม่ว่าจะฟังคร้งั ใด กร็ ู้สึกฮึกเหมิ ในใจอยา่ งบอกไมถ่ ูก

- เพชรชมพู โพธิวงศ์
ประธานชมรม CU Chorus

เพลงมหาจุฬาลงกรณใ์ นรูปแบบเพลงประสานเสียงนั้น ได้รับการเรียบเรียงโดยศิลปินแห่งชาตินาม
วา่ นาวาตรี ปิยะพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ซึง่ ท่านได้เรียบเรียงไว้ให้กบั ชมรมนักร้องประสานเสียงนับตั้งแต่
ก่อตั้งวงในปี พ.ศ. ๒๕๑๖ ซึ่งทางชมรมได้นำมาขับร้องครั้งแรกต่อหน้าพระพักตร์ในงานวันทรงดนตรีในปี
นั้น และยังคงใช้ในงานพิธีการของมหาวิทยาลยั ตลอดมาเกือบ ๕๐ ปี

เพลงมหาจุฬาลงกรณ์ในรูปแบบเพลงประสานเสียงน้ัน มีความไพเราะและสร้างความซาบซึ้งให้กับ
ทุกบุคคลที่ได้รับฟัง ไม่ว่าจะเป็นการประสานเสียงในแต่ละท่อนที่รับกันกับเนื้อหาของเพลง เช่น ท่อน
“จุฬาลงกรณ์” ที่เมื่อฟังในครั้งใดก็รู้สึกฮึกเหิมภายในใจ หรือจะเป็นท่อน “นิสิตพร้อมหน้า สัญญา
ประคอง” ซึ่งจะมีเสียงสะท้อนของนักร้องร้องรับต่อกันไป เมื่อประกอบกับความพร้อมเพรียงของนักร้อง
จำนวนมาก จึงยิง่ ทำใหเ้ พลงมหาจฬุ าลงกรณฉ์ บบั นี้มีความไพเราะมากขึ้น

เพลงโหมโรงมหาจุฬาลงกรณ์
โดย ชมรมดนตรไี ทย สโมสรนสิ ิตจฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั

โดยที่ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรง
พระราชดำริริเริ่มให้มีการบรรเลงเพลงไทยที่เรียบเรียงขึ้นจากเพลงไทยสากล ในปี พ.ศ. ๒๔๙๗ จึงทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นายเทวาประสิทธิ์ พาทยโกศล นำทำนองเพลง “มหาจุฬาลงกรณ์” มาปรับปรุง
ให้เปน็ เพลงในแนวเพลงไทยเดิม เมื่อประพันธ์สำเร็จกไ็ ด้จดั บรรเลงถวายด้วยวงป่พี าทย์หน้าพระที่น่ังอัมพร
สถาน ๒ ครั้ง และแก้ไขตามที่รับสั่ง ต่อมาภายหลังจึงนำมาปรับปรุงเป็นเพลงโหมโรง ชื่อ “โหมโรงมหา
จุฬาลงกรณ”์ โดยยงั คงดำเนินทำนองตอนสำคัญตรงส่วนท่ีมีคำร้องว่า

นิสติ พรอ้ มหนา้ สญั ญาประคอง
ความดที ุกอย่างตา่ งปอง ผยองพระเกยี รติเกริกไกร

เพลงโหมโรงมหาจุฬาลงกรณ์จึงได้นำมาใช้เป็นเพลงโหมโรงประจำชมรมดนตรีไทยของ
มหาวิทยาลัยตลอดมา โดยเพลงดังกล่าวยังถือได้ว่าเป็นเพลงไทยเพลงแรกที่ประดษิ ฐ์ขึ้นจากโน้ตเพลงไทย
สากล ตามพระราชดำรใิ นการสร้างสรรค์และส่งเสรมิ ดนตรีไทยอกี ด้วย

แหล่งทมี่ าขอ้ มลู เพลงโหมโรงมหาจุฬาลงกรณ์
ณรงค์ เขียนทองกุล. (๒๕๔๒). เพลงไทยที่ได้รับอิทธิพลจากเพลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั

ภูมิพลอดุลยเดช (รัชกาลท่ี ๙). วารสารมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์, ๗(๗), ๕๕-๖๙.

สำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติ. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี. (๒๕๕๓). รวมเพลง
พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ดนตรีจากพระราชหฤทัย ศูนย์รวมใจแห่ง
ปวงชน). กรุงเทพฯ : สำนักงานเสรมิ สรา้ งเอกลักษณข์ องชาต.ิ



กวา่ จะมาเปน็ วันที่ระลึกวันทรงดนตรี

วันที่ ๒๐ กันยายน ของทุกปี ถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่ง ที่สมาชิกชมรมดนตรีสากล สโมสรนิสิต
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CU Band) และวงดนตรีนิสิตเก่า ซี ยู แบนด์ (OCU Band) จะได้มารวมตัวกัน
อย่างพร้อมใจ เพื่อจัดงานแสดงดนตรีในชื่อว่า “งานวันที่ระลึกวันทรงดนตรี” ด้วยความสำนึกในพระมหา
กรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
พระมหากษัตริย์ผู้ประกอบพระราชกรณียกิจเป็นอเนกประการ ยังความผาสุกแก่พสกนิกรชาวไทยทั้ง
แผ่นดิน พระองค์ทรงพระปรีชาสามารถในศาสตร์และศิลป์ทุกแขนง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือด้านการดนตรี ทรง
เปน็ องคอ์ คั รศิลปิน โดยทรงพระราชนิพนธ์บทเพลงต่าง ๆ จำนวนมากถงึ ๔๘ บทเพลง ซึ่งแต่ละบทเพลงก็
มที ว่ งทำนองเฉพาะ ทยี่ งั ให้เกิดความรูส้ ึกท่แี ตกตา่ งกนั ออกไปตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการใช้งาน ดังเหน็ ได้ชัด
จากการอญั เชญิ บทเพลงของพระองคไ์ ปใชใ้ นหลากหลายโอกาส อาทิ ใช้เปน็ เพลงประจำสถาบันการศึกษา
ใชป้ ระกอบการเตน้ รำในงานต่าง ๆ ดงั ท่ีได้ระบไุ วใ้ นรายละเอียดของบทเพลงท่ีกลา่ วไปแล้ว

พระอัจฉริยภาพด้านการดนตรีที่นำมาสู่ความเป็นมงคลสูงสุดของชาวจฬุ าลงกรณ์มหาวิทยาลยั ก็
คือการพระราชทานบทเพลงพระราชนิพนธ์ “มหาจุฬาลงกรณ์” ให้เป็นบทเพลงประจำมหาวิทยาลัย อัน
เป็นความภาคภูมิใจของชาวจุฬาฯ ทั้งปวง ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณขององค์พระบรมรา
ชูปถัม-ภกแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยทุกพระองค์ ที่พระราชทานแก่มหาวิทยาลัยสืบเนื่องเสมอมานั้น
จึงเกดิ เปน็ ธรรมเนียมปฏิบัตทิ ่ีชาวจฬุ าฯ ทกุ คน จะยืนตรงข้นึ พรอ้ มกนั เมื่อไดย้ นิ บทเพลงนี้

“พระบรมราชูปถัมภกแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เป็นพระราชฐานะที่ทรงได้รับสืบทอดจาก
องค์พระผู้สถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรง
พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สถาปนาโรงเรียนมหาดเล็กเป็นสถาบันอุดมศึกษาและพระราชทานนามว่า
โรงเรียนข้าราชการพลเรือนของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวนั้น ในคำประกาศการจัดตั้ง
โรงเรียน มีความตอนหนึ่งกำหนดไว้ว่า “มีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระบรมราชูปถัมภกแห่ง
โรงเรียนนี้” จึงถือสืบเนื่องเป็นพระราชปฏิบัติว่าพระมหากษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรีเป็นองค์พระบรมรา
ชูปถมั ภกของสถาบันแหง่ น้ี

เป็นที่แน่ชัดประจักษ์ในหัวใจของชาวจุฬาฯ ทุกคนว่า พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร
มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในพระราชฐานะมาตลอดรัช
สมัย นับตั้งแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติได้ไม่นาน พระองค์ก็ได้พระราชทานพระราชหัตถเลขาในหนังสือ
“มหาวทิ ยาลยั ” ฉบับตอ้ นรบั นสิ ติ ใหม่ จวบจนเมอื่ ครง้ั พระราชพิธบี รมราชาภิเษก พทุ ธศกั ราช ๒๔๙๓ ก็ได้
ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหน้ ิสิตปฏิบตั ิหนา้ ท่ีเปน็ มหาดเล็กในพระราชพธิ ี นอกจากน้ี ยงั เสดจ็ ฯ ทรงปลูก

ต้นจามจุรีห้าต้นบริเวณหน้าหอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อเป็นเครื่องเตือนใจ เสด็จฯ ทรงเป็น
ประธานในการแข่งขันฟุตบอลประเพณจี ุฬาฯ – ธรรมศาสตร์ ตลอดจนเสดจ็ ฯ มาพระราชทานปรญิ ญาบัตร
แกผ่ ู้สำเรจ็ การศกึ ษาเปน็ เวลาเกือบคร่ึงศตวรรษ ซึ่งนบั เป็นพระมหากรณุ าธคิ ุณสูงสดุ ทไ่ี ด้พระราชทานพระ
บรมราชวโรกาสให้บัณฑิตที่สำเร็จการศึกษาได้รับพระบรมราโชวาทและเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่าง
ใกล้ชดิ

นอกจากการเสด็จฯ มาพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ยังมีอีกหนึ่งพระราชกรณียกิจที่ทรงปฏิบัติ
ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีและเป็นโอกาสสำคัญที่ชาวจุฬาฯ จะได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทอย่างใกล้ชิด
เช่นเดียวกัน นั่นคือการเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรีพระราชทานแก่ชาวจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในช่วงพุทธศักราช ๒๕๐๑ – ๒๕๑๖ โดยถือเอาวันที่ ๒๐ กันยายน อันเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของ
พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเดจ็ พระบรมอัยกาธิราช และพระบาทสมเด็จพระปรเมนทร-
มหาอานันทมหิดล พระอฐั มรามาธิบดนิ ทร สมเด็จพระบรมเชษฐาธริ าช เป็นวันจัดงาน ทั้งนี้ มีบางปีที่จัด
งานขึ้นในวันที่ใกล้เคยี งแทน และมีปี ๒๕๐๕ เพียงปีเดียวที่งดจัดงาน ด้วยเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบ
พระราชกรณยี กจิ ในต่างประเทศ โอกาสสำคัญอีกประการซ่ึงถือเป็นธรรมเนยี มปฏบิ ัติในวันทรงดนตรี ก็คือ
การทีช่ าวจุฬาฯ จะได้มโี อกาสร่วมสบทบทนุ อานนั ทมหิดล อันเป็นพระบรมราชานุสรณแ์ ห่งองค์สมเด็จพระ
บรมเชษฐาธิราช

ในการเสด็จพระราชดำเนินมาทรงดนตรีนั้น มีหลายครั้งที่ พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
สมเด็จพระนางเจา้ สิริกติ ิ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพนั ปหี ลวง สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรม
สมเด็จพระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกุมารี สมเดจ็ พระเจ้านอ้ งนางเธอ เจ้าฟ้าจฬุ าภรณวลัยลักษณ์
อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริ
วฒั นาพรรณวดี จะโดยเสด็จและทรงดนตรีพระราชทานดว้ ย ซง่ึ นับเป็นพระมหากรุณาธคิ ณุ อันหาท่ีสุดมิได้
ของพระบรมวงศานุวงศ์แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ ยังความซาบซึ้งและประทับใจแก่ชาวจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลยั ทงั้ ปวงมริ ู้วาย

นี่คือเรื่องเล่าความประทับใจจากชาวจุฬาฯ ที่มีโอกาสได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทในการทรง
ดนตรีครงั้ นน้ั

หมายเหตุ: เรื่องเล่าทุกบทความต่อจากนี้ใช้พระอิสริยยศพระบรมวงศานุวงศ์ในขณะที่เสด็จพระราชดำเนินมาประกอบ
พระราชกรณียกิจทรงดนตรีทจ่ี ุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั



















บทความเรอ่ื ง “ห้าพระองคท์ รงดนตรีทีจ่ ฬุ าฯ” โดย นิสิตเก่า
จากวารสารชมุ นมุ จุฬาฯ ปีที่ ๑๙ ฉบบั ท่ี ๒
แหล่งทม่ี า: หอประวตั ิจุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย

C.U. Band กบั เร่อื งประทบั ใจ

ผ้ชู ่วยศาสตราจารย์ ดร.สุรพล สุดารา

พระเมตตาจากองค์พระประมขุ และวันทรงดนตรี

พระบารมปี กเกลา้ ชาว C.U. Band เปน็ สริ มิ งคลยง่ิ นัก

การเสด็จทรงดนตรีในมหาวิทยาลัยนั้น มีความเข้าใจผิดกันว่าเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อทรงมีพระมหา
กรุณาธคิ ุณโปรดเกล้าให้นิสิตจุฬาฯ เข้าเฝ้าถวายพระพร เนอื่ งในวโรกาสการประสูติของสมเด็จพระเจ้าลูก
เธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ฯ ณ เวทีลีลาศสวนอัมพร จริงอยู่แม้จะมีการแสดงดนตรีของวง “ลาย
คราม” โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงดนตรีด้วย แต่นั่นมิใช่เป็นการเร่ิมต้นของการเสดจ็ ทรงดนตรี
ในมหาวิทยาลยั

ปกติบรรดานักดนตรี C.U. Band มีโอกาสเข้าไปบรรเลงดนตรีออกอากาศทีส่ ถานีวิทยุ อ.ส. ตั้งแต่
พ.ศ. ๒๕๐๐ มาแล้ว มกั จะมีโอกาสไดเ้ ฝา้ ชมพระบารมีอยู่เสมอ เพราะจะเสดจ็ ลงทรงดนตรีออกอากาศสด
ในช่วงค่ำ ๆ และทรงมีพระมหากรุณาธิคุณให้นักดนตรีของวง C.U. Band ร่วมบรรเลงด้วยหลายครั้ง มีอยู่
ครง้ั หน่งึ พ.ศ. ๒๕๐๑ มีพระราชดำรสั ถามประธานชมรมฯ (อาจารย์สันทัด ตัณฑนนั ทน)์ ถงึ พระราชดำริ
ที่จะเสด็จมาทรงดนตรีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเนื่องในโอกาสวันอานันทมหิดล ๒๐ กันยายน เพื่อให้มี
การบริจาคเงินสมทบทุนอานันทมหิดล ได้นำความมาแก่บรรยเวกษ์ อาจารย์ ม.ร.ว. แหลมฉาน หัสดินทร
ทางจุฬาฯ จึงสนองพระราชดำริ และได้เสด็จพระราชดำเนินทรงดนตรีที่หอประชุมจุฬาฯ เป็นครั้งแรก
ความประทับใจอย่างไม่มีวันลืมคือพระเมตตารับสั่งเชิญให้นักดนตรี C.U. Band ขึ้นไปร่วมแสดงกับนัก
ดนตรีวง อ.ส. ด้วย และนั่นคือกำเนิดของวันทรงดนตรีที่จุฬาฯ ซึ่งต่อมาวันทรงดนตรีได้ขยายไปสู่
มหาวิทยาลัยอน่ื ๆ

ความทรงจำไม่มวี ันลืม

สนั ทัด ตณั ฑนนั ทน์

ความประทับใจ “วันทรงดนตรี” ของนักดนตรี ส.จ.ม. รุ่นบุกเบิกวงดนตรี ส.จ.ม. หรือปัจจุบันน้ี
เรียกว่า วง C.U. Band ตั้งขึ้นในปี พ.ศ. ๒๔๙๙ วงดนตรีได้รับหนังสือเชิญให้ไปบรรเลงที่สถานีวิทยุ อ.ส.
(อัมพรสถาน) ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวสองเดือน ต่อครั้งเป็นประจำเช่นเดียวกับวงดนตรีของ
สถาบนั ศกึ ษาอน่ื ๆ

หลังจากมีพระประสูติกาลของเจ้าฟ้าหญิงองค์น้อยน้อยในวันที่ ๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๐
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้พระราชทานพระนามว่า “เจ้าฟ้าหญิงจุฬาภรณฯ” ยังความปลื้มปิติมาสู่
ชาวจฬุ าฯ เปน็ ลน้ พ้น

ดังนั้นนายกสโมสรจุฬาฯ จึงทำหนังสือกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขอเฝ้าถวาย
พระพรสมเด็จพระเจ้าลกู เธอ เจ้าฟา้ จุฬาภรณวลัยลกั ษณ์ฯ ซ่งึ ก็ได้รบั พระมหากรณุ าธิคุณ โปรดเกล้าฯ ให้
เขา้ เฝ้าในบ่ายวันศุกร์ที่ ๖ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๐๐ ทเ่ี วทลี ลี าศสวนอมั พร ในพระราชวงั อมั พรสถาน

ทุกเย็นวันศุกรใ์ นช่วงเวลานน้ั พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยูห่ วั จะทรงดนตรีออกอากาศ ณ สถานีวิทยุ
อ.ส. ซึ่งขณะนั้นได้ย้ายไปตั้งในพระราชวังจิตรลดาแล้ว แต่ในวันดังกล่าว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วง
ดนตรี “ลายคราม” ของพระองค์ยกวงมาบรรเลงที่เวทีลีลาศสวนอัมพร เป็นการต้อนรับชาวจุฬาฯ ทรงมี
พระปฏิสันถารทกั ทายด้วยพระเมตตา อันหาท่สี ดุ มิได้

“นิสติ ทั้งหลาย ขา้ พเจา้ มีความยินดที ่ีได้เหน็ พวกทา่ นมาอวยพรลูกคนเล็กของข้าพเจ้า ลูกคนน้ีออก
จะโชคดีที่มีคนมาอวยพรเป็นจำนวนมาก เมื่อโตขึ้นและรู้คงจะพอใจและภูมิใจมาก ตามธรรมดาพ่อแม่ได้
เห็นลูกเติบโตแข็งแรงก็ย่อมปลื้มใจ ยิ่งเห็นคนจำนวนมากมาร่วมแสดงความยินดีก็ยิ่งดีใจมากขึ้น ข้าพเจ้า
และครอบครัวขอขอบใจพวกท่าน พระราชินีก็ดีใจมากและอยากมาแต่เสียใจที่มาไม่ได้เพราะต้องเลี้ยงลูก
ตามธรรมดาทุกปี ข้าพเจ้าไปแจกปริญญา แจกอยู่นาน แล้วก็ให้โอวาทให้เรียนดีให้สามคั คใี ห้พร้อมเพรียง
แต่วันนี้ไม่ต้องพูดอีกแล้ว เพราะการที่ท่านมาชุมนุมกันมากมายเช่นนี้ ย่อมแสดงให้เห็นถึงความสามัคคี
พร้อมเพรียงอยแู่ ล้ว

ในโอกาสที่ท่านมาชุมนุมกันนี้ พอดีเป็นวันที่มีวงดนตรีของสถานีวิทยุ อ.ส. ซึ่งออกอากาศประจำ
ทุกวันศุกร์ จึงขอชวนให้อยู่ฟังด้วย ดนตรีวงนี้เล่นกนั เองเลอะ ๆ เทอะ ๆ บางทีควรจะจบก็เล่นต่อไป บางที
ยงั ไม่ทนั จบกร็ บี จบ บางคนมีคนขอเพลงมาไม่เคยได้ยนิ กเ็ ปดิ แผ่นเสียงใหฟ้ งั กเ็ ล่นกนั ไปไดเ้ ล่นอยา่ งกันเอง
อย่างที่นายแมนรัตน์ นายวงเขาพูดบ่อย ๆ ว่าเป็นกันเองกับผู้ฟังดี วันนี้ขอให้นิสิตเป็นกันเองต่อไปนี้ขอ
แนะนำ นายแมนรัตน์ ศรกี รานนท์ นายวงให้ขึ้นมาแนะนำเก่ยี วกับรายการของวงดนตรนี ”ี้

ช่วงทศวรรษครง่ึ ระหว่าง พ.ศ. ๒๔๙๐ ถึง พ.ศ. ๒๕๐๕ วงการดนตรีตอ้ งจารกึ ไวใ้ นความทรงจำว่า
เป็นยุคเบ่งบานของวงดนตรี Big band หรือที่เรียกกันว่าวงหรรษา ดนตรีหลาย ๆ สถาบันไม่ว่าจะเป็น
สถาบันเอกชนหรือราชการ มีดนตรี Big band ประจำสถาบันแทบทั้งนั้น เช่น สถาบันอุดมศึกษาก็มี วง
ดนตรีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วิทยาลัยวิชาการ
ศึกษาประสานมิตร (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒในปัจจุบัน) วิทยาลัยครูบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
(มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยาในปัจจุบัน) โรงเรียนนายเรือ โรงเรียนนายเรืออากาศโรงเรียน
นายร้อย จ.ป.ร. ระดับมัธยมศึกษาก็มีโรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัย วิทยาลัยก่อสร้างอุเทนถวาย (สถาบันราช
มงคลวิทยาเขตอุเทนถวายในปัจจบุ นั ) วิทยาลัยพาณชิ ยการพระนครรวมทัง้ วงหรรษาดนตรีของทุกเหล่าทัพ

ทั้งนี้ส่วนหนึ่งมาจากพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่นทรงพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ ให้มีการแข่งขันวงดนตรี Big band ชิงถ้วยพระราชทาน ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ วงดนตรี
จากสถาบันต่าง ๆ ผลัดเปลี่ยนกันเข้าไปบรรเลงออกอากาศ ณ สถานีวิทยุ อ.ส. (พระที่นัง่ อมั พรสถาน) ซ่ึง
ต้ังอยูใ่ นบริเวณพระตำหนกั จติ รดารโหฐาน พระราชวงั ดสุ ติ ทุกวันศุกร์

ดังกล่าวแล้ว ช่วงเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่วงดนตรี Big band ได้รับความนิยมสูงสุด อย่างไรก็ตาม
วงดนตรี Big band เริม่ เสือ่ มความนิยมลง ภายหลังเมอ่ื วงดนตรแี นวใหม่ท่ีเรยี กวา่ String combo ก้าวเข้ามา
แทนที่วงดนตรีสโมสรจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ส.จ.ม.) หรือที่เรียกกันติดปากในปัจจุบันว่า C.U. Band
ถอื กำเนดิ ขึน้ ในปีพ.ศ. ๒๔๙๙ หลงั จากมกี ารแขง่ ขัน ไมแ่ นน่ ะถ้าเราเกิดทันเราอาจจะเป็นตัวเต็งก็ไดน้ ะ

เช่นเดียวกับวงดนตรีอื่น ๆ เราได้รับเชิญจากสถานีวิทยุ อ.ส. ให้ไปบรรเลงออกอากาศประมาณ
เดอื นเว้นเดือน ผลดั กับวงดนตรจี ากสถาบนั ต่าง ๆ

วันศุกร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ เป็นวาระที่วงดนตรี ส.จ.ม. เข้าไปบรรเลงที่สถานีวิทยุ อ.ส.
คร้ังนั้น นกั ดนตรีและนกั ร้องประกอบดว้ ย

กลมุ่ Saxophone
ประจวบ กุณฑนนั ท์*
กวี อังศวานนท์*
จรานันท์ วาณิชชานนั ท์
เจษฎา ศรีวาลี
นนท์ บรู ณสมภพ
อิฐ สขุ ยางค*์

กลมุ่ Trumpet
ทราย สุขยางค์
สบุ รรณ ชนนิ ทกลุ
ดสุ ติ อ่มิ พฒั น์ (ศภุ รชั ฏ์ โชตกิ ญาณ)
สุรพล สุดารา*
สจุ นิ ต์ อดุ มทรพั ย*์

กลุ่ม Trombone
เอนก จูจนั ทน์
ประเสรฐิ เตียว*
ต่อพงษ์ วัจนสวัสดิ์

สันทัด ตณั ฑนันทน์
กลุ่ม Rhythm

กอง พนั ธมุ โกมล* piano
ถาวร เยาวขนั ธ์ drums
นิกร ณ สงขลา* double bass
กลุ่มนักร้อง
จามรี เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา
ราศรี พงศ์สวัสด์ิ
สุขใจ ปัญจมะวัต
พลั ลภ สุวรรณมาลิก*
สกั รนิ ทร์ บุญญฤทธ*์ิ 01
เมื่อเสร็จสิ้นการออกอากาศ พวกเราจะขนย้ายเครื่องดนตรีออกมาขึ้นรถ แล้วตั้งแถวรับเสด็จฯ
พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยูห่ วั ซ่งึ พระองค์จะเสดจ็ ฯ ลงมาจากพระตำหนักเพอื่ มาทรงดนตรีกบั วงลายคราม
ขณะเสด็จพระราชดำเนินผ่านแถวรับเสด็จฯ ของพวกเรา ได้รับสั่งว่า “ถ้าไม่มีธุระอะไร ต้องรีบ
กลับก็อยู่เล่นด้วยกันก่อนนะ” พระราชดำรัสนี้ยังความปลาบปลื้มแก่พวกเราเป็นที่สุด คืนนั้นเราได้เล่น
ดนตรีร่วมกบั วงลายครามของพระองค์
เมื่อการออกอากาศสิ้นสุด ได้รับสั่งว่า “วันอังคารจะไปเล่นดนตรีที่จุฬาฯ แล้วเล่นด้วยกันอีกนะ”
แน่นอน พวกเราปลาบปลื้มเป็นคำรบสองคุยกันแต่เรื่องนี้จนกระทั่งกลับถึงจุฬาฯ และมีข่าวในวันหลังว่า
หลายคนแทบนอนไม่หลบั

1 *ถงึ แก่กรรมแลว้

การที่ทรงเลือกเอาวันอังคารนั้น ผู้เขียนเข้าใจเองว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคงตั้งพระราช
หฤทัย ให้จัดการแสดงดนตรีให้ตรงกับวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัว คือวันอังคาร และในปีต่อ ๆ มา ทรงเลือกวันที่ ๒๐ กันยายน อันเป็นวันพระราชสมภพของ ร.๕
และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอย่หู ัวอานันทมหิดล ร.๘

ด้วยเหตุนี้ จึงนับว่าเป็นการเหมาะสมอย่างยิ่งที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยจะจัดให้วันที่ ๒๐
กันยายนเป็นวันสำคัญของจุฬาฯ อีกวันหนึ่ง เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๒๓ ตุลาคม “วันปิยมหาราช” วันที่ ๒๕
พฤศจิกายน “วันมหาธรี ราชเจ้า” และวันที่ ๒๖ มนี าคม “วันสถาปนามหาวิทยาลัย”

ในปีนั้น (พ.ศ.๒๕๐๑) ศาสตราจารย์ ม.ร.ว แหลมฉาน หัสดินทร เป็นบรรยเวกษ์ซึ่งเป็นที่ปรึกษา
คณะกรรมการสโมสรนสิ ิตฯ เมือ่ ท่านไดท้ ราบเรื่อง ก็ได้จดั งานถวายการรับเสด็จฯ รว่ มกับสมาคมนิสิตเก่า
จุฬาฯ และได้แจ้งให้นายกสมาคมนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เขียน สุวรรณสิงค์) รับไปจัดการด้าน
กิจกรรมของนสิ ติ และแจง้ ให้นสิ ติ รบั ทราบ

“น้ำใจน้องพี่สีชมพู” ถึงวันจริง งานทุกอย่างเป็นไปด้วยความเรยี บร้อย รวบรวมเงินบริจาคทั้งจาก
ศิษยเ์ ก่า กอ่ นวนั งานและในวันงานประมาณแสนกวา่ ในเวลานนั้ นับวา่ เป็นจำนวนมากทเี ดยี ว

พระราชดำรสั แรกที่ทรงมีปฏิสันถารกับนิสิต รับส่ังว่า ขอบใจท่ีปีก่อนเหล่านิสิตได้ไปเยือนพระองค์
ปีนีพ้ ระองคข์ อมาเย่ียมนิสิตบ้าง

ศาสตราจารย์ ม.ร.ว สุมนชาติ สวัสดิกลุ อาจารยอ์ าวุโสจากคณะอกั ษรศาสตร์ เปน็ พิธีกรประสาน
ระหว่างนิสิตกับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ท่านดำเนินรายการอย่างสมพระเกียรติ และเป็นท่ี
ประทับใจบรรดาผู้ชมในวนั น้ันมาจนบัดน้ี

หลังจากปีนัน้ เป็นต้นมา มหาวิทยาลัยก็ได้รบั พระมหากรุณาธิคุณเสด็จมาทรงดนตรีเป็นประจำทุก
ปี กำหนดวนั อาจเปน็ วันที่ ๒๐ กันยายนหรือวนั อื่น สุดแลว้ แต่จะทรงพระกรณุ า เป็นวันที่นสิ ิตจุฬาฯ ในช่วง
สมัยนั้น รอคอยที่จะได้เฝ้าชมพระบารมีอย่างใกล้ชิด ได้ฟังพระราชดำรัสที่เป็นกันเองกับนิสิต ได้ฟังดนตรี
และร่วมบริจาคสมทบทนุ อานนั ทมหิดล

หลังจาก ๒๐ กันยายน ๒๕๑๖ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จมาทรงดนตรีอีก
อาจารย์สุรพล สุดารา อาจารย์ที่ปรึกษาชมรมดนตรี ในขณะนั้นปรึกษากันว่า แม้พระองค์จะไม่ได้เสด็จมา

ทรงดนตรีอย่างเคย แต่ชาวจุฬาฯ ควรจะสืบสานวันอันเป็นมงคลนี้ไว้สืบไป และเพื่อจะได้มีโอกาสร่วม
สมทบทนุ อานันทมหิดลเป็นประจำปี จงึ ได้เร่มิ งาน “ท่ีระลึกวันทรงดนตรี” ข้นึ ในวนั ท่ี ๒๐ กันยายน ๒๕๒๐
จัดโดยชมรมดนตรีสากล C.U. Band งานดังกล่าวได้พยายามจัดติดต่อกันมาได้สามปี คือในปี ๒๕๒๐ ปี
๒๕๒๑ และ ๒๕๒๒ ก็ต้องลม้ เลิกไป เราพูดกนั เองว่า ขนื จดั ตอ่ ไป นกั ดนตรจี ะมากกวา่ คนดู

จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๔๖ วงดนตรีศิษย์เก่า O.C.U รวมวงได้ครบปี (ส่วนใหญ่เรียกกันว่าวง I.C.U)
จึงได้คิดรือ้ ฟื้นงาน “ที่ระลึกวันทรงดนตรี” ขึ้นมาอีก อาจารย์สุรพลได้ปรึกษากับทา่ นอธิการบดี เทียนฉาย
กรี ะนนั ทน์ ขอให้ทางมหาวิทยาลยั ช่วยสนับสนนุ การจดั งาน และจัดในวนั ที่ ๒๐ กันยายน เปน็ วนั สำคัญของ
มหาวิทยาลัยอีกวันหนึ่ง คราวนี้ได้ผล แม้จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง กล่าวคือ หอประชุมอยู่ในระหว่างการซ่อม
อีกประการหนึ่ง ตำแหน่งของอธิการบดีจะหมดวาระในอีกสิบวันต่อมา แต่ท่านอธิการบดี ก็ได้ให้ความ
สนับสนุนงานนี้อยา่ งดียิ่ง “น้ำใจน้องพี่สชี มพู” ได้พิสูจน์อีกครัง้ งานจัดที่ศาลาพระเกี้ยว ได้รับความสำเรจ็
งดงาม จำนวนเงินรับบริจาคอาจไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี ในวันนั้น ได้รับความกรุณาจาก
ศ. นายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา อดีตอธิการบดี ซึ่งเปน็ บุคคลแรกที่ไดร้ ับทุนอานนั ทมหิดล มาเล่าเรื่องราว
ของทุนอานันทมหดิ ลใหไ้ ดร้ บั ฟงั กนั

ถึงเดือนตุลาคม รศ. ดร. ธัชชัย สุมิตร เข้ารับตำแหน่งอธิการบดีต่อจาก ศาสตราจารย์ ดร.เทียน
ฉาย กีระนันทน์ ท่านจึงบรรจุวันที่ ๒๐ กันยายน เข้าเป็นวันสำคัญของมหาวิทยาลัยอีกวันหนึง่ วัน "ที่ระลึก
วันทรงดนตร"ี จงึ เปน็ งานทางการของมหาวทิ ยาลัยตั้งแต่คร้งั ๒๐ กนั ยายน ๒๕๔๗ เปน็ ตน้ มาด้วยดี

เวลาผ่านไปแต่ละปี เรายิ่งมั่นใจว่าวันที่ระลึกวันทรงดนตรีจะอยู่คู่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและ
ประเทศไทยตลอดไป มลู นิธิอานันทมหิดลจะต้องขยายงานเพ่ือพฒั นาสมองของชาติอยา่ งกว้างขวางยัง่ ยนื

มีเกร็ดที่ต้องขออนุญาตเพิ่มเติมคือ วันที่รับสั่งว่าจะเสด็จมาทรงดนตรีที่จุฬาฯ นั้น รับสั่งด้วยว่า
แลว้ เล่นด้วยกันอีกนะ

วันเสดจ็ พวกเรานักดนตรสี ี่ห้าคนที่ต้องข้ึนไปเติมเต็มวงดนตรีวนั ศุกร์ ใหค้ รบ full band ก็น่ังรอกัน
อยู่ที่เก้าอี้แถวหน้าด้านขวาของหอประชุมเราซึ่งไม่เคยมีเสื้อนอก ก็ไปยืมของอื่นมาตามแต่จะหาได้ จึงทั้ง
หลากสีและแขนส้นั บา้ งยาวบา้ ง ตวั หลวมบา้ ง คับบา้ ง


Click to View FlipBook Version