0
ผลิตภัณฑ์เครอื่ งหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
1
วทิ ยาลยั อาชวี ศึกษานครราชสีมา
แบบอนมุ ตั ิการนำเอกสารประกอบการสอนใชจ้ ัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
ของแผนกวิชาคหกรรมศาสตร์
สาขาวิชาคหกรรมศาสตร์ สาขางานการจดั การงานธุรกิจดอกไม้และงานประดิษฐ์
ประเภทวชิ าคหกรรมศาสตร์
รายวชิ า ผลติ ภณั ฑเ์ คร่อื งหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ รหัสวชิ า 30406 – 2107
ตามโครงสรา้ งหลักสตู ร ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้นั สูง (ปวส.) พทุ ธศกั ราช 2563
เรยี บเรยี งโดย
นายจาตรุ งค์ เอีย่ มสะอาด
วทิ ยฐานะ ครชู ำนาญการพิเศษ
แผนกวชิ าคหกรรมศาสตร์ วิทยาลยั อาชวี ศึกษานครราชสีมา
เพือ่ ขอเลื่อนวิทยฐานะ เชี่ยวชาญ
วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา เห็นควรอนุมัติให้เอกสารประกอบการสอน รายวิชา ผลิตภัณฑ์
เครื่องหอมไทยเชิงธุรกิจ รหัสวิชา 30406 – 2107 (2–3-3) ที่สำเร็จโดยสมบูรณ์ มีความถูกต้องและ
เหมาะสม สามารถใช้ประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง
(ปวส.) ประเภทวิชาคหกรรมศาสตร์ ของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ
ไดจ้ รงิ
(นางจิตโสมนัส ชัยวงษ์)
ผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสมี า
แผนกวชิ าคหกรรมศาสตร์ โดยฝ่ายวชิ าการ ไดต้ รวจสอบและพจิ ารณาความถกู ต้องเรยี บร้อย
(นายจาตรุ งค์ เอี่ยมสะอาด) (นายสรวชิ ญ์ เลศิ ศรีพงศ์)
ตำแหน่ง ครูชำนาญการพิเศษ ตำแหนง่ รองผอู้ ำนวยการฝา่ ยวชิ าการ
ผลติ ภัณฑเ์ คร่อื งหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอีย่ มสะอาด
2
ตารางวเิ คราะห์หลกั สตู รรายวิชาและตารางนำ้ หนักคะแนน
รายวชิ า ผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งหอมไทยเชิงธุรกจิ รหสั วิชา 30406 – 2107
จำนวนเรียน/สัปดาห์ 5 ช่ัวโมง (2 - 3 – 3)
พุทธิพิสยั
เน้ือหาของหลักสตู ร
ในแต่ละหนว่ ยการเรยี นรู้
ความรู้และความจำ
ความเ ้ขาใจ
การนำไปใ ้ช
การ ิวเคราะ ์ห
การ ัสงเคราะห์
การประเ ิมนค่า
เศรษฐกิจพอเ ีพยง
ทักษะพิ ัสย
ิจตพิ ัสย
รวม 100 คะแนน
1. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องหอม 1 1 1 - - - 1 3 2 9
ไทย
2. วัสดุ อุปกรณ์และเครื่องมือเกี่ยวกับ 1 1 1 1 - - 1 5 2 12
งานเครอื่ งหอมไทย
3. คณุ สมบตั ขิ องผลิตภัณฑเ์ ครื่องหอมไทย 1 2 1 1 - - - 6 3 14
4. การการออกแบบและการบรรจุภัณฑ์ 1 2 1 1 1 - - 14 4 24
ผลติ ภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทย
5. ผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งหอมไทยเพื่อธุรกิจ 1 2 1 1 - - - 4 5 14
6. การพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์เครื่อง 1 2 2 1 - 1 - 6 2 15
หอมไทยสู่การทำธุรกจิ
7. การคำนวณต้นทุน กำหนดราคาและ 1 2 1 - - - - 6 2 12
จัดจำหนา่ ย
รวม 7 12 8 5 1 1 2 44 20 100
ลำดบั ความสำคัญ 2 13
จากตารางวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชาและตารางน้ำหนักคะแนน จะพบว่ามีเนื้อหาทั้งหมด 7 หน่วย
การเรียนรู้ แตล่ ะหนว่ ยมบี ทบาทความสำคัญที่แตกต่างกันในการจดั การเรียนรู้ตามค่าน้ำหนักคะแนนที่ปรากฏ
และสามารถสรุปการวิเคราะห์หลักสตู รรายวิชาและน้ำหนักคะแนนได้ดงั น้ี
• ด้านพุทธิพิสัย น้ำหนกั คะแนน 36 คะแนน
• ดา้ นทักษะพิสยั
• ดา้ นจิตพิสัย น้ำหนักคะแนน 44 คะแนน
น้ำหนักคะแนน 20 คะแนน
รวมนำ้ หนักคะแนน 100 คะแนน
ผลิตภัณฑเ์ ครอื่ งหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอี่ยมสะอาด
3
ใบความรู้ หนว่ ยเรยี นท่ี 1
สอนคร้งั ที่ 1
วชิ า ผลติ ภัณฑ์เคร่อื งหอมไทยเชงิ ธุรกิจ รหสั วิชา 30406 - 2107
ช่ือหน่วย ความรเู้ บ้ืองตน้ เกีย่ วกับเครอ่ื งหอมไทย จำนวน 5 ช่วั โมง
ชือ่ /เร่อื ง ความรพู้ ้ืนฐานเกย่ี วกับเครื่องหอมไทย
สาระสำคัญ
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องหอมไทย เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติงาน
เครื่องหอมขั้นพื้นฐานสู่การเป็นมืออาชีพ ซึ่งงานเครื่องหอมแสดงถึงศิลปะอันดีงามมีเอกลักษณ์อันเป็นมรดก
ทางวัฒนธรรมของไทยอีกอยา่ งหนึ่ง เป็นสิ่งสำคัญในการเรียนรู้เกยี่ วกับการศลิ ปะงานเครื่องหอม ประกอบด้วย
ความเป็นมา ความหมายและความสำคัญของเครื่องหอมไทย เครื่องหอมในชีวิตประจำวัน ประโยชน์และ
คุณค่าของเครื่องหอม แหล่งที่มาและกระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย เครื่องหอมที่ได้จากธรรมชาติ เครื่อง
หอมที่ได้จากการสังเคราะห์ กระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย ล้วนเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับการเรียนรู้
เกยี่ วกับผลิตภัณฑเ์ คร่ืองหอมไทยเชิงธุรกจิ ทงั้ สนิ้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
บทท่ี 1 ความรูเ้ บอ้ื งตน้ เกีย่ วกบั เคร่อื งหอมไทย
1.1 อธบิ ายความเปน็ มาของเคร่อื งหอมไทย
1.2 บอกความหมายและความสำคัญของเครอื่ งหอมไทย
1.3 ระบเุ ครอ่ื งหอมไทยกบั การดำรงชีวติ ประจำวัน
1.4 สรุปประโยชน์และคุณค่าของเครื่องหอมไทย
บทท่ี 2 แหล่งที่มาและกระบวนการผลิตเคร่ืองหอมไทย
2.1 จำแนกแหลง่ ท่ีมาของเคร่ืองหอมไทย
2.2 ระบแุ หล่งที่มาของเคร่ืองหอมจากการสังเคราะห์
2.3 อธบิ ายกระบวนการผลติ เครือ่ งหอมไทย
บทที่ 3 มีทักษะปฏบิ ตั กิ ารเครอื่ งหอมไทยตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง
3.1 มที ักษะการพับใบเตยเปน็ ดอกกหุ ลาบ
3.2 มีทกั ษะการปรงุ บหุ งาสด
3.3 มีทกั ษะการปรงุ บุหงาแหง้
3.4 มที ักษะการหยอดแป้งพวง
ผลติ ภัณฑเ์ ครอื่ งหอมไทยเชงิ ธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอยี่ มสะอาด
4
หนว่ ยเรยี นที่ 1
ความร้เู บ้ืองต้นเก่ียวกบั เครือ่ งหอมไทย
1. ความร้เู บือ้ งต้นเก่ียวกับเครอื่ งหอมไทย
1.1 ความเป็นมาของเคร่อื งหอมไทย
เครื่องหอมของไทยนับเป็นภูมิปัญญาของบรรพบุรุษที่ได้คิดค้น ปรุงแต่ง ผสมผสาน
เป็นตำรบั ความหอมที่อย่คู สู่ ังคมไทยมาอย่างยาวนาน เปน็ มรดกทไี่ ดร้ บั การสบื สาน ต่อยอดเรียนรู้ส่งต่อ
จากรุ่นส่รู นุ่ นบั วา่ เป็นศิลปะท่ีทรงคุณคา่ ควรได้รับการส่งเสรมิ อนุรักษ์ให้เปน็ มรดกของชาติ เคร่ืองหอม
ไทยสามารถสะท้อนถึงความมีอารยธรรมของคนไทย วิวัฒนาการด้านเครื่องหอมไทยได้รับอิทธิพลจาก
อารยธรรมของนานาประเทศ ด้วยการเจริญสัมพันธไมตรีดา้ นการทูต การติดต่อค้าขาย ในสมัยโบราณ
ประเทศไทยไดม้ ีการนำนำ้ มนั หอมเข้ามาใช้ในการปรุงแต่งกลิ่นสำหรบั การประทนิ โฉม และเพื่อการปรุง
ถวายเป็นพทุ ธบชู า นบั ตัง้ แตส่ มยั สุโขทัยเป็นราชธานนี บั ลว่ งมาถงึ สมัยกรุงรัตนโกสินทรต์ อนต้น ปฐมบท
แห่งราชวงศ์จักรี เครื่องหอมมีความเฟื่องฟูอย่างยิ่งด้วยการติดต่อค้าขายกับอารยประเทศทั้งในทวีป
เอเชียและยุโรป ซึ่งเป็นการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมอย่างรอบด้าน ศิลปะการปรุงแต่งตำรับเครื่อง
หอมไทยมกี ารพลกิ ฟ้ืนความรดู้ ้านการปรุงเครอ่ื งหอมใหเ้ ป็นท่จี ักกันอย่างแพร่หลายตราบถึงปจั จบุ นั
เครื่องหอมไทยถือเป็นเอกลักษณ์ท่ีมีความโดดเด่น เป็นศาสตร์และศิลป์ด้วยกรรมวธิ ี
ต่าง ๆ ที่มีความละเอียด ประณีตทุกขั้นตอน การปรุงแต่ง การผสมผสาน เพื่อให้เกิดตำรับเครื่องหอม
จำเป็นตอ้ งมีการเรยี นรู้ บันทกึ และจดจำ ศิลปะเคร่ืองหอมไทยเฟ่ืองฟูและเป็นท่นี ิยมอยา่ งย่ิงในรัชสมัย
ลน้ เกล้ารัชกาลท่ี 5 มกี ารปรงุ เครอื่ งหอมตำรบั ต่าง ๆ ในพระบรมมหาราชวงั พระตำหนักที่มีชื่อเสียงคือ
พระตำหนักสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าพวงสร้อยสอางพระขนิษฐา ในรัชกาลที่ 5 ทรงมี
พระปรีชาสามารถมีฝพี ระหัตถ์ในการปรุงเครอื่ งหอม และพระสคุ นธเ์ พอ่ื ทลู เกล้าถวายเปน็ ประจำ ถือได้
วา่ สมเด็จพระขนษิ ฐา ทรงเปน็ ผู้มีคณุ ูปการด้านเครอื่ งหอมทเี่ ปน็ ต้นตำรับของวงั หลวง
ภาพท่ี 1.1 สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ พระองค์เจา้ พวงสรอ้ ยสอาง
ผลิตภัณฑเ์ ครื่องหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
5
เครือ่ งหอมไทย ได้ผา่ นยคุ สมัยอนั เรืองรอง ส่วนทค่ี งอยู่ในวันนเี้ ป็นเพียงองค์ความรู้ที่สะท้อนถึง
วิถีชีวิตของคนไทยที่ส่งต่อถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน เครื่องหอมไทยหลากหลายชนิดเริ่มเลือนหายไปจาก
สังคมไทย สืบเนื่องจากวิถีการดำรงอยู่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกรรมวิธีการปรุง
ผสมผสานตามตำรับโบราณเป็นศาสตร์ที่มีความละเอียดอ่อน พิถีพิถัน จึงทำให้ความนิยมเครื่องหอม
ไทยเริ่มลดน้อยลง จะมเี พยี งบคุ คลบางกลุม่ ท่ียังอนุรักษส์ ืบสานไวม้ ิให้เลือนหายไปจากสงั คมไทย
ปัจจุบันได้มีการฟื้นฟูเครื่องหอมไทยขึ้นมาอีกครั้ง โดยพระปณิธานขององค์สมเด็จพระ
กนษิ ฐาธริ าชเจา้ ฯ กรมสมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดา สยามบราชกมุ ารี พระองคท์ รงพระราชทานน้ำหอม
สูตรพระราชทานเพื่อให้ได้ศึกษา สืบสาน ต่อยอดกับวิทยาลัยในวังหญิง วิทยาลัยในวังชาย และ
สถานศึกษาเพื่อการฝึกอาชีพ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เครื่องหอมไทยนับเป็นภูมิ
ปัญญาของบรรพบุรุษที่มีคุณค่าทางจิตใจควรได้รับการอนุรักษ์ และสืบสานให้คงอยู่กับผืนแผ่นดินไทย
เครื่องหอมไทยสามารถส่งเสริมการสร้างรายได้ และเศรษฐกิจการเพิ่มมูลค่า ให้แก่ผู้ประกอบอาชีพ
อสิ ระการปรงุ เครอื่ งหอมไทยไดเ้ ปน็ อยา่ งดีอีกทางหน่งึ ด้วย
ภาพท่ี 1.2 น้ำหอมสูตรพระราชทาน
สมเด็จพระกนิษฐา กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกมุ ารี
1.2 ความหมายและความสำคญั ของเครือ่ งหอมไทย
ความหมายของคำวา่ เครือ่ งหอม ตามพจนานุกรมฉบับราชบณั ฑติ ยสถาน (2525:195) ได้ใหค้ ำ
จำกัดความไวว้ ่า
เคร่ือง หมายถึง สงิ่ ของ สง่ิ ท่ีทำสำหรับประกอบกันหรือพวกเดยี วกนั ส่วนคำว่า
หอม หมายถงึ การได้รบั กลน่ิ ดี กล่ินหอม
ดังน้นั คำว่า เครื่องหอม จึงหมายถงึ สิ่งทีน่ ำมาประกอบกนั แล้วมีกล่นิ หอม เคร่ืองหอมเกดิ จาก
ภูมิปัญญาดั้งเดิมของคนไทยที่ใช้องค์ความรู้ คิดสร้างสรรค์ ปรุงแต่ง ผสมผสานให้เกิดตำรับความหอม
โดยการถ่ายทอดองค์ความรแู้ ละภูมปิ ัญญาเป็นลำดบั ข้ันตอน ปฏบิ ัติอยา่ งพิถีพิถันเพ่ือให้เกิดการเรียนรู้
จากการสังเกต บันทึก จดจำ บอกต่อ ของบรรพบุรุษสู่รุ่นลูก รุ่นหลาน เครื่องหอมเป็นศิลปะที่เกิดจาก
การศึกษาและบ่มเพาะจากบรรพชนก่อให้เกิดสุนทรีและตอบสนองความต้องการทางจิตใจ โดยอาศัย
องคป์ ระกอบในการปรุง ผสมผสานเพอ่ื ใหเ้ กิดตำรบั ความหอม
เครอ่ื งหอมไทย จัดเปน็ ศาสตร์ดา้ นหัตถศิลป์อีกแขนงหนึง่ ที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าศาสตร์
อื่น ๆ เนื่องด้วยความมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีสัดส่วน ส่วนผสมที่ระบุไว้อย่างชัดเจน เครื่องหอมไทย
ผลิตภัณฑเ์ ครือ่ งหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอ่ยี มสะอาด
6
ตำรับดั้งเดิมเริ่มเลือนหายไปตามกาลเวลาหากไม่รักษา สืบสาน ต่อยอด ศาสตร์แห่งเครื่องหอมไทยจะ
สูญหายไมเ่ หลอื ไว้ใหอ้ นชุ นรุ่นหลัง ความสำคญั ของเคร่ืองหอมไทยสามารถสรปุ ความสำคัญได้ ดงั น้ี
1. เพ่ือแสดงออกถึงการสบื สาน อนรุ กั ษ์คงความเป็นไทย
2. ส่งเสริมใหเ้ กดิ ทักษะทางวิชาชพี และสรา้ งเอกลกั ษณ์เฉพาะตวั ท้ังความหอมและ
ทรงคณุ คา่
3. สามารถปรับประยุกตก์ ารปรุงเครื่องหอมใหเ้ ข้ากับสังคมในยุคแหง่ การเปล่ยี นแปลง
4. เพ่ือเปน็ แนวทางการศกึ ษา ต่อยอดเพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต
5. ฝกึ ให้ร้จู ักการวางแผน เพื่อการปฏบิ ัติงานที่มีระบบ เป็นลำดบั ขน้ั ตอน
6. สร้างสมาธแิ ละความสขุ ในการเรียนรู้ ตามลำดับขนั้ ตอน
7. สามารถวเิ คราะห์ เลือกใชว้ ัสดทุ มี่ อี ยู่ในท้องถนิ่ มาปรบั ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์
8. เปน็ การอนรุ ักษ์ศิลปะ และหตั ถศลิ ป์ของเครื่องหอมให้มีการสบื ทอดและพัฒนา
9. สามารถนำองค์ความรู้ไปปรับใช้ เพอ่ื การประกอบอาชพี การผลิตเครื่องหอมไทย
10. ฝกึ ความอดทน ความวิริยะอตุ สาหะ ความประณตี ใส่ใจในทกุ รายละเอียด เหน็ คุณคา่
และเกิดความภาคภูมใิ จในเคร่ืองหอมท่ปี รงุ เป็นตำรับความหอม
1.3 เครอ่ื งหอมไทยกบั การดำรงชวี ติ ประจำวนั
ในชีวิตประจำวัน เราคุ้นเคยกับการใชป้ ระสาทสมั ผัส ตา หู ในการรบั รแู้ ละรับประสบการณต์ า่ ง ๆ
ซึ่งบางครั้งอาจลืมเลือนความสำคัญของการรับกลิ่นไป การสัมผัสรู้กลิ่นนั้นมีผลโดยตรงกับร่างกายและ
ประสาทสัมผัส วิถีของคนไทยในสังคมปัจจุบัน เริ่มมีวิถีเปลี่ยนไปตามกาลเวลา เครื่องหอมไทยใน
ชีวติ ประจำวันยังคงมีการนำมาใช้คกู่ ับวิถคี นไทยเสมอ โดยแบง่ ออกไดด้ งั น้ี
1. เครอ่ื งหอมเพื่อใช้เปน็ พุทธบชู า การสกั การะ กราบไหว้บูชา สิ่งศกั ดิส์ ิทธ์ิ ซ่งึ อยคู่ กู่ ับ
สังคมไทยมาอย่างยาวนาน เครื่องหอมที่ใช้เป็นพุทธบูชา เพื่อความเป็นสิริมงคง ได้แก่ เทียนหอม ธูป
หอม น้ำมนั จนั ทน์ เปน็ ต้น
2. เครือ่ งหอมกบั งานพิธแี ละประเพณีตา่ ง ๆ วัฒนธรรมและประเพณขี องคนไทยเป็นส่งิ ที่คู่
กนั เครอ่ื งหอมทนี่ ยิ มใชใ้ นพธิ ีต่าง ๆ เชน่ นำ้ อบไทย ใช้ในประเพณีสงกรานต์ สำหรบั สรงน้ำพระหรือรด
น้ำดำหวั ผใู้ หญเ่ พอื่ ขอพร แป้งรำ่ ใช้สำหรับพิธีมงคลสมรสสำหรบั การเจิมหนา้ ผากให้แก่คู่บา่ ว สาว เพื่อ
ความเปน็ สริ มิ งคล เป็นตน้
3. เครื่องหอมเพื่อประทนิ ผวิ เปน็ เครอื่ งหอมท่ีนยิ มใช้มาต้งั แตส่ มยั โบราณ นิยมใชเ้ พ่อื
ความหอมท่มี กี ลิน่ เฉพาะตัว เช่น แปง้ ร่ำ น้ำอบไทย น้ำปรงุ และสผี งึ้ เครอ่ื งหอมเหลา่ น้ีช่วยให้ผิวพรรณ
สวยงาม นวลเนยี น เป็นตน้
4. เครือ่ งหอมเพื่อสุขภาพและความสดช่นื เคร่ืองหอมชนดิ น้มี คี วามสำคัญกบั คนไทย
เนอ่ื งจากสภาพภูมิอากาศของเมืองไทยเปน็ เขตร้อน เครอ่ื งหอมท่ีได้รบั ความนิยมสำหรับคนทุกเพศ ทุก
วัย คือ ยาดม ยาหม่อง น้ำมันเหลือง น้ำมันเขียว ช่วยบรรเทาอาการหน้ามืด วิงเวียน ถือว่าเป็นเครื่อง
หอมที่เป็นส่วนหนงึ่ ในชวี ิตประจำวัน
5. เคร่อื งหอมเพื่อการปรุงแตง่ กลน่ิ อาหาร นอกจากความหอมท่ีเปน็ เอกลักษณ์แล้ว นับได้
ว่ากลิ่นในการปรุงแต่งอาหารคาว อาหารหวาน เปน็ เสนห่ ์ของอาหารไทยที่ชวนหลงใหล เครื่องหอมหรือ
ของหอมท่ีใช้ในการปรุงแต่งกล่ิน ไดแ้ ก่ เทียนอบขนม น้ำลอยดอกไม้สด เปน็ ตน้
ผลิตภัณฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
7
6. เคร่อื งหอมเพื่อการดบั กล่นิ ไม่พึงประสงค์ สมัยโบราณอากาศในบ้านเรือนอบั ชื้นในช่วง
ฤดูฝน การเก็บผ้าท่ีไม่แห้งสนิท อาจทำให้กลิ่นอับ เหม็นทั้งในหีบผา้ หรือตู้เส้ือผ้า สิ่งหนึ่งที่ช่วยดับกลิ่น
อบั กลิน่ ไม่พงึ ประสงค์ คือ เทยี นรำ่ หอ้ ง การจุดกำยาน เพอ่ื ขจัดกลน่ิ ให้เบาบางลง เปน็ ต้น
7. น้ำหอมหรือโคโลญจ์ เป็นเคร่อื งหอมท่ไี ดร้ ับความนยิ มในทกุ ยคุ ทกุ สมยั ช่วยให้ผทู้ ใี่ ช้
และผู้ที่ได้สัมผัสกลิ่นมคี วามประทับใจในความหอมกรุ่นของน้ำหอมและโคโลญจ์ กระบวนการปรุงแตง่
กลน่ิ เกิดจากการสังเคราะหด์ ว้ ยกรรมวธิ กี ารผลติ ตามข้ันตอนดว้ ยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์
ภาพที่ 1.3 เคร่ืองหอมไทยในชวี ติ ประจำวนั
1.4 ประโยชน์และคณุ ค่าของเครอ่ื งหอมไทย
ประโยชน์และคุณค่าของเครื่องหอมไทย นอกจากการเรียนรู้เพื่อความเข้าใจ และเกิดทักษะเพื่อ
การปฏิบัติแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เกิดประสบการณ์ใหม่ของการเรียนรู้ ส่งเสริมสมรรถนะด้านวิชาชีพอย่าง
สมบูรณ์ การนำองค์ความรู้มาปรับใช้เพื่อการปรุงแต่ง ผสมผสานตำรับเครื่องหอมไทยชนิดต่าง ๆ สามารถทำ
ใหเ้ กดิ ประโยชน์และคุณค่าด้านตา่ ง ๆ ดงั นี้
1. เพ่อื การเรยี นรู้ สืบสาน ต่อยอด การปรงุ แต่ง ผสมผสาน ตำรบั เครอื่ งหอมไทยให้คงอยู่
2. เพอ่ื พฒั นาทักษะและองคค์ วามร้เู ก่ียวกับเครื่องหอมไทย
3. เครอ่ื งหอมไทยสามารถใช้รว่ มกบั ประเพณีนิยมของคนไทย เชน่ น้ำอบไทย แปง้ เจิม
เปน็ เครอื่ งหอมทีข่ าดไมไ่ ด้สำหรบั ประเพณสี งกรานต์ หรอื งานพิธีมงคลต่าง ๆ
4. เครอื่ งหอมไทยสามารถใช้เป็นของชำร่วยหรอื ของทีร่ ะลกึ แทนคำขอบคุณ เช่น การจดั
กระเชา้ เครื่องหอม บหุ งาสด และบหุ งาแห้ง เปน็ ตน้
5. เครื่องหอมไทยมีสว่ นธำรงไว้ซึง่ ศลิ ปะวฒั นธรรมและการเปน็ อยู่ของคนไทย
6. การปรุงแต่ง ผสมผสานตำรบั เครอ่ื งหอมไทยสามารถยกระดบั วิชาชพี และสรา้ งรายได้
อีกทางหนง่ึ
7. เครื่องหอมไทยสามารถจำแนกเพ่ือการนำไปใช้ประโยชน์ ไดด้ งั น้ี
7.1 เครือ่ งหอมเพอ่ื ใชเ้ ปน็ พุทธบูชา ประกอบดว้ ย
7.1.1 นำ้ อบไทย ใช้สำหรับสรงน้ำพระพทุ ธรปู พระสงฆ์ ประพรมเพื่อความเปน็
สริ ิมงคลสามารถใชร้ ว่ มกบั แป้งเจมิ
7.1.2 น้ำปรงุ ใชส้ ำหรบั บูชาสกั การะเพอ่ื ใหเ้ กิดกลน่ิ หอม เป็นการบูชาดว้ ยเครอื่ ง
ผลิตภณั ฑ์เครื่องหอมไทยเชงิ ธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
8
หอม โดยการฉดี เช็ด ประพรม โตะ๊ หม่บู ูชาหรือห้ิงบชู าได้ เปน็ ตน้
7.1.3 นำ้ มันหอม น้ำมนั จนั ทน์ใช้สำหรบั ประกอบพิธีเจรญิ พระพทุ ธมนต์ สว่ น
ใหญ่ใช้เปน็ สว่ นผสมในแป้งเจมิ เพื่อความเปน็ สริ ิมงคล
7.1.4 ธูปหอม ใชจ้ ุดเพอ่ื บชู าพระรัตนตรัย และส่งิ ศกั ดิ์สิทธิ์ นยิ มใช้ธปู หอม
เพอ่ื ใหเ้ กิดกล่ิน
7.1.5 เทียนหอม ใชเ้ พอ่ื บชู าพระรตั นตรยั เปรยี บเสมอื นการใหแ้ สงสวา่ งในชีวติ
และบังเกดิ ความเป็นสิริมงคล เปน็ ต้น
7.2 เครอื่ งหอมกบั งานพิธีและประเพณีนิยม
7.2.1 น้ำอบไทย เปน็ เครือ่ งหอมท่ีไดร้ บั ความนยิ มทกุ ยุคสมัย สามารถใชไ้ ด้ทัง้
พธิ ีมงคลและอวมงคล
7.2.2 แป้งเจิมหรือแป้งกระแจะ ใช้สำหรับพิธีมงคลสมรสเพื่อใช้เจิมหน้าผากคู่
บา่ ว สาว รวมถึงการเจิมสถานทต่ี ่าง ๆ ในโอกาสสำคัญ เช่น การเปิดกจิ การ ห้าง รา้ น เป็นตน้
7.2.3 น้ำปรุงใช้สำหรับการฉีดพรมสถานที่ เพื่อให้เกิดความหอมแก่บุคคลหรือ
สถานท่ี ใชส้ ำหรบั โอกาสสำคัญ ๆ
7.3 เครื่องหอมเพ่อื ประทินผวิ
7.3.1 แป้งรำ่ ใช้เพอ่ื ประทินผิว ปอ้ งกันผดผ่ืน และลดอาการคันจากเหงื่อ นิยมใช้
ในฤดูร้อน
7.3.2 น้ำอบไทย ใช้ประพรมตามร่างกายช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย คลายความร้อน
ลดเหงอื่ ทำให้สดช่ืน
7.3.3 น้ำปรงุ มีส่วนผสมของน้ำมนั ดอกไมห้ อม ช่วยผ่อนคลายความเครียด มกี ล่นิ
หอมติดทนนาน ทำใหผ้ ิวพรรณสดใส
7.3.4 สผี ้งึ ใชส้ ำหรบั บำรุงรมิ ฝีปากไมใ่ หแ้ หง้ แตก ลอก ทำใหช้ ่มุ ช่ืน
7.3.5 น้ำอบดอกไม้สด ใช้สำหรับชำระล้างทำความสะอาดร่างกาย ช่วยให้หอม
ตดิ ผวิ ให้ความสดช่นื
7.4 เครอ่ื งหอมเพ่ือสขุ ภาพและความสดชื่น
7.4.1 ยาดมสมุนไพร เป็นเครื่องหอมของไทยมีสรรพคุณช่วยบรรเทาอาการหน้า
มอื วิงเวียน แกอ้ าการเปน็ ลม
7.4.2 ยาหม่อง มีทั้งชนิดน้ำและชนิดครีม ใช้บรรเทาอาการหน้ามือ วิงเวียน
สามารถใชท้ าบรรเทาอาการคันเนอื่ งจากแมลง สตั วก์ ัดต่อย เปน็ ตน้
7.4.3 น้ำมันเหลือง และน้ำมันเขียว ใช้บรรเทาอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย
แกเ้ คล็ด ขดั ยอก เป็นต้น
7.5 เครอ่ื งหอมเพ่อื การปรงุ แต่งกลน่ิ อาหาร
7.5.1 น้ำลอยดอกไม้ ใช้ผสมกับมะพร้าวขูดเพื่อคั้นเป็นน้ำกะทิ จะช่วยให้ขนมมี
กลน่ิ หอม นยิ มใชน้ ำ้ ลอยดอกไมส้ ดในการปรุงกลนิ่ ขนมหวาน
75.2 เทียนอบขนม ใช้สำหรับอบขนมไทยให้มีกลิ่นหอมควันเทียน เป็นเสน่ห์ของ
ขนมไทย นยิ มอบขนมไส้ขนม ได้แก่ ไสข้ นมใสไ่ ส้ ขนมกลีบลำดวน ขนมสำปันนี เปน็ ต้น
7.6 เครอ่ื งหอมเพือ่ การดับกลนิ่ ไมพ่ ึงประสงค์
ผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอยี่ มสะอาด
9
7.6.1 เทียนร่ำห้อง ใช้จุดเพื่อขจัดกลิ่นอับภายในห้อง กลิ่นที่ได้จากเทียนร่ำห้อง
จะช่วยใหร้ สู้ กึ ผ่อนคลาย กระตุ้นการไหลเวียนของโลหิต บำบดั อาการนอนไมห่ ลบั และมคี ุณสมบตั ิในการไล่มด
และแมลง เปน็ ตน้
7.6.2 กำยาน ใช้จุดเพื่อขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยให้คลายเครียด ใช้ดับกลิ่น
และตรงึ กลนิ่ ในการทำเครอ่ื งหอม กลิ่นกำยานชว่ ยให้สดช่ืน ทำใหร้ ะบบทางเดนิ หายใจไมต่ ดิ ขดั เปน็ ต้น
7.7 นำ้ หอมและโคโลญจ์
7.7.1 น้ำหอมสามารถเลือกและปรุงกลิ่นได้ตามความต้องการ น้ำหอมจะมีกล่ิน
ติดทนนาน ราคาจำหน่ายค่อนข้างสูง เนื่องจากใช้หัวน้ำหอมในการปรงุ แต่งกล่ิน มีหลากหลายกลิ่นตามความ
ตอ้ งการ และมีราคาคอ่ นข้างสูง
7.7.2 โคโลญจ์ เป็นเครื่องหอมที่ช่วยเพิ่มความสดชื่น หอมเย็น มีคุณสมบัติท่ี
แตกต่างจากน้ำหอม คือ กลิ่นหอมจะระเหยในอากาศได้รวดเร็ว เนื่องจากมีปริมาณและส่วนผสมของ
แอลกอฮอลเ์ จือจางกลิน่ มากกวา่ น้ำหอม จงึ มรี าคาถกู กวา่ นำ้ หอม
8. เครอ่ื งหอมไทยบางชนิดมีสรรพคณุ ใช้เปน็ ยาเพอื่ บรรเทา รกั ษาโรคบางชนดิ ได้
9. เครือ่ งหอมไทยมปี ระโยชนแ์ ละคุณค่าดา้ นสุขภาพและจิตใจ
10. เคร่ืองหอมเปน็ ศลิ ปะและวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า ควรแกก่ ารอนุรักษ์ สืบสานให้คงอยู่
กับสงั คมไทย
2. แหลง่ ที่มาและกระบวนการผลติ เคร่ืองหอมไทย
2.1 แหล่งท่มี าของเครื่องหอมไทย
เครื่องหอมไทยท่ีปรุงแต่งขึ้นมาอย่างพิถีพิถัน มีความละเอียดลออทุกขั้นตอน กว่าจะได้เป็น
ตำรับเคร่ืองหอม ท่ีมีคุณค่าทางด้านรา่ งกายและจิตใจนั้น ผปู้ รุงแตง่ ผสมผสานต้องศึกษาแหล่งที่มาของเครื่อง
หอมให้เข้าใจในเบื้องต้นก่อนลงมือปฏิบัติจริง เพื่อเกิดการเรียนรู้อย่างถูกต้องตามหลักการ ดังนั้นจึงจำแนก
แหลง่ ทม่ี าของเคร่อื งหอมที่นำมาปรงุ แต่งเป็นตำรบั เครอื่ งหอม แบ่งออกได้ 3 กลมุ่ ดังนี้
1. เครื่องหอมจากสตั ว์ เครือ่ งหอมกลุ่มน้ีมเี อกลกั ษณ์เฉพาะตวั มรี าคาจำหนา่ ยท่ี
ค่อนข้างสูง ที่นิยมนำมาใช้เพื่อเป็นตำรับการปรุงเครื่องหอม เช่น ชะมดเช็ด ชะมดเชียง ปลาวาฬ และบีเวอร์
ซึ่งเคร่ืองหอมจากสตั ว์ สามารถแบ่งออกได้ 4 ชนิดดังนี้
1.1 ไขจากชะมดเช็ด เป็นไขที่ผลิตจากต่อมฮอร์โมนภายในกะเปาะของต่อมคู่
ใกล้เคียงกับอวัยวะสืบพันธุ์ของชะมดทั้งเพศผู้และเพศเมีย ซึ่งไขชะมดเช็ดจะมีลักษณะเป็นลิ่มก้อนไขมัน มี
กลิน่ หนื ฉนุ และรุนแรง ไขชะมดเช็ดเปน็ ส่วนประกอบทส่ี ำคัญทชี่ ่วยในการตรงึ กลิน่ ในหวั น้ำหอม ส่วนในตำรับ
เครอื่ งหอมของไทยท่ีใช้ไขชะมดเช็ดเปน็ ส่วนประกอบในการตรงึ กลิ่นได้แก่ นำ้ อบไทย นำ้ ปรุง ยาหอม เป็นต้น
ไขชะมดเช็ดเป็นสารตรึงกลิ่นที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ช่วยให้กลิ่นของเครื่องหอมไทยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มี
กล่นิ ตดิ ทนนาน
ผลิตภัณฑ์เคร่อื งหอมไทยเชงิ ธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
10
ภาพที่ 1.4 ชะมดเช็ด ภาพท่ี 1.5 ไขชะมดเชด็
1.2 ไขที่ได้จากปลาวาฬ เป็นไขมันที่เกิดจากการกินอาหารจำพวกปลาหมึกใน
ปริมาณมากเกินความต้องการของร่างกาย และไม่สามารถขับไขมันเหล่านี่ตามระบบขับถ่ายทั่วไปได้ จึงเกิด
การสะสมเปน็ จำนวนมาก เมือ่ มปี รมิ าณมากเกนิ ไปปลาวาฬจะสำลอก หรือที่เรียกว่าอว้ กออกมา ลอยบนผวิ น้ำ
เมื่อไขมันเหล่านั้นสัมผัสกับน้ำทะเลและแสงแดง ก็จะเกิดปฏิกิริยากลายสภาพ ไขวาฬเหล่านั้นจะจับตัวเป็น
ก้อนสีเทา สีดำ หรือสีน้ำตาล เรียกว่า อำพันมูลปลาวาฬ มีราคาแพงมาก ใช้สกัดเพื่อทำสารตรึงกลิ่นในเครือ่ ง
หอม ตา่ ง ๆ เช่น ผลิตภัณฑน์ ้ำหอมชั้นน้ำของโลกหรือผลิตภัณฑบ์ ำรุงผิว เป็นตน้
ภาพท่ี 1.6 ปลาวาฬ ภาพท่ี 1.7 ไขจากปลาวาฬ
1.3 ไขที่ได้จากตัวบีเวอร์ เป็นไขที่ได้จากสารคัดหลั่งของตัวบีเวอร์ เป็นไขที่ขับ
ออกมาเพื่อแสดงความพร้อมในการผสมพันธุ์ ไขที่ได้เกิดจากบีเวอร์เพศผู้เท่านั้น กลิ่นหืน ฉุนค่อนข้างแรง มี
ลักษณะเปน็ ก้อนไขนิ่ม ๆ ใชเ้ ปน็ สารตรึงกล่นิ ใหม้ ีกลิ่นตดิ ทนนานในผลิตภัณฑ์น้ำหอม เมอ่ื ทำปฏิกิริยาทางเคมี
จะมีกลิ่นคล้ายวนิลลา หอมนุ่ม ส่วนเครื่องหอมไทยอาจมีการใช้ไขจากตัวบีเวอร์เพื่อผสมกับตำรับไม้หอม
กฤษณา เพอื่ ให้กลิน่ หอมนุม่ ชวนหลงใหล นอกจากนี้ยังใชผ้ สมในน้ำยาขัดเครือ่ งหนังไดเ้ ช่นกนั
ภาพท่ี 1.8 ตวั บเี วอร์ ภาพที่ 1.9 ไขจากตัวบเี วอร์
ผลิตภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอ่ียมสะอาด
11
1.4 ไขที่ได้จากกวางชะมดเพศผู้ เป็นไขที่มีกลิ่นแรงได้มาจากต่อมเพศผู้ของ
กวางชะมด มีลักษณะหนืดคล้ายน้ำเชื่อมเข้มข้นหรือคล้ายกบั น้ำผ้ึง ใช้เป็นตัวตรึงกลิน่ นิยมใช้ในอุตสาหกรรม
เคร่อื งสำอาง น้ำหอม ผงซักฟอก นำ้ ยาทำความสะอาด และเปน็ ส่วนผสมสำคัญในนำ้ หอมสมัยใหม่ ทำให้กล่ิน
ติดทนนาน เครือ่ งหอมไทยสามารถนำมาใชใ้ นการปรุงเคร่ืองหอม เช่น น้ำอบไทย น้ำปรุง และบุหงา เปน็ ต้น
ภาพที่ 1.10 กวางชะมด ภาพที่ 1.11 ไขจากกวางชะมด
2. เครื่องหอมจากพชื เครื่องหอมทีไ่ ด้จากพืชสว่ นใหญไ่ ด้มาจากสว่ นต่าง ๆ ของพืชที่
มคี ุณสมบัติการให้กลิ่นท่ีแตกตา่ งกันไป ซงึ่ พืชแต่ละชนดิ ให้ความหอมจากสว่ นต่าง ๆ โดยสามารถระบุได้ ดังนี้
2.1 ดอกไม้หอม ไม้หอมของไทยมีหลายชนิด ที่นิยมนำมาทำเครื่องหอมมีอยู่
หลายชนิดและรู้จักกันดี ได้แก่ ดอกมะลิ ดอกแก้ว ดอกกระดังงา ดอกชมนาด ดอกจำปี ดอกจำปา ดอกพิกุ ล
ดอกลำเจยี ก และดอกกหุ ลาบมอญ ดอกไมแ้ ต่ละชนิดมลี ักษณะของกลีบดอกท่ีมีความหนา บาง แตกต่างกันไป
การนำดอกไมห้ อมมาปรุงแต่งเครื่องหอมไทยจำเป็นต้องมีเคล็ดลบั ในการสกดั กลิ่นอย่หู ลายปประการ
ภาพที่ 1.12 ดอกไมห้ อมชนิดตา่ ง ๆ
2.2 ใบไม้ที่สามารถนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงแต่ง ผสม ผสาน
เครอื่ งหอมไทย ได้แก่ ใบเตยหอม ใบเนียมหอม ใบมะกรดู ใบมะนาว และใบมิน้ ท์ เปน็ ต้น
ผลติ ภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
12
ภาพท่ี 1.13 ใบเนยี มหอม ภาพท่ี 1.14 ใบเตยหอม
2.3 เปลือกและลำต้น สว่ นประกอบน้ีเปน็ ส่วนสำคญั ในการปรุงเครื่องหอมของ
ไทย ส่วนของเปลอื กและลำต้น นอกจากให้กลิ่นที่หอม นมุ่ ยงั ให้สเี หลืองทองที่อ่อนละมนุ อีกทั้งยังมีสรรพคุณ
คณุ ตา่ ง ๆ ท่ีอยใู่ นสว่ นประกอบของเปลือกและลำต้น ได้แก่ อบเชย ชะลูด ไม้จนั ทน์ และไมก้ ฤษณา เปน็ ต้น
ภาพที่ 1.15 ส่วนประกอบของเปลือกและลำต้นไมเ้ นื้อหอม
2.4 ยางไม้ เป็นเคร่ืองหอมสำคญั ที่ไดม้ าจากยางของต้นไม้ตำรบั เคร่ืองหอม
เรียกว่า กำยาน เปน็ ยางไมช้ นิดหนงึ่ ท่มี ลี ักษณะเปน็ ก้อนแข็ง สีเหลอื งหรือสนี ้ำตาลเข้ม เปน็ ส่วนประกอบที่
สำคัญในการปรุงเคร่ืองหอมของไทย กำยานสามารถนำมาปรุงรวมกับเคร่ืองหอมชนดิ อื่น ๆ เช่น จันทน์เทศ
ผิวมะกรดู นำ้ ตาลทรายแดง พิมเสน ขผ้ี ึ้ง เพ่ือการอบรำ่ น้ำอบไทย เป็นตน้
ภาพที่ 1.16 กำยานและเครื่องหอมเพอื่ การร่ำ ภาพท่ี 1.17 กำยานและเคร่ืองหอมเพื่อการรำ่
ผลิตภณั ฑ์เครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
13
ลกั ษณะ คณุ สมบตั ิ และประโยชนข์ องเคร่ืองหอมที่ได้จากพชื พันธไ์ุ มห้ อมทน่ี ำมาใช้ประโยชน์ในเรื่อง
เคร่อื งหอม มีมากมายหลายชนดิ แต่ละชนิดใหค้ วามหอมต่างกันออกไปตามลักษณะและคุณสมบตั ิของพันธ์ุไม้
แต่ละชนดิ (โสภาพรรณ อมตะเดชะ, 2536 : 22)
2.2 แหลง่ ที่มาของเครอ่ื งหอมจากการสงั เคราะห์
เครื่องหอมจากการสังเคราะห์ เป็นเครื่องหอมที่มนุษย์ปรุงแต่งขึ้นจากสารเคมี และผสมผสาน
ให้มีกลิ่นหอมตามธรรมชาติ เช่น กลิ่นดอกมะลิ กลิ่นดอกจำปี กลิ่นดอกจำปา กลิ่นดอกพิกุล กลิ่นดอกโมก
กลน่ิ ดอกกุหลาบ และกลิ่นอ่นื ๆ กลนิ่ หอมจากการสังเคราะห์มอี ยู่ท่ัวไป คือ หวั นำ้ หอมต่าง ๆ ที่มีลักษณะเป็น
น้ำมันเหลวมีกลิ่นฉุน รุนแรง โดยส่วนมากจะมีสีเหลืองเข้ม สีเขียว หรืออาจจะไม่มีสี มีกลิ่นหอมแรง สามารถ
ละลายได้ดีในตัวทำละลายประเภทแอลกอฮอร์ ไม้สามารถละลายน้ำ กลิ่นที่ได้จากการสังเคราะห์ให้กลิ่น
ดอกไม้ในธรรมชาติ ได้แก่ กลิ่นดอกกุหลาบ สกัดจากน้ำมันดำของถ่านหิน แอลกอฮอร์และน้ำมันกลิ่นดอก
หญา้ กลน่ิ ดอกคาร์เนชั่น สกดั จากน้ำมันกานพลู กลิน่ มะลิ สกดั จากนำ้ มันของถา่ นหิน เปน็ ตน้
การเปลี่ยนแปลงของหัวน้ำหอมจากการสังเคราะห์เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ทั้งกายภาพทางเคมี
และทางเภสชั วิทยา เนื่องจากหัวนำ้ หอมเปน็ สารเคมีทม่ี ีความไวต่อแสง อณุ หภูมิของอากาศ เม่ือหัวน้ำหอมถูก
แสงนานจะเปล่ยี นเป็นสีเขม้ และกล่นิ จะเปลย่ี นไป การป้องกันมิให้เสอ่ื มสภาพต้องเกบ็ ไว้ในที่มือ หรือบรรจุใน
ขวดทม่ี สี เี ข้ม สามารถป้องกันแสงและเก็บในทมี่ ีอุณหภมู ิ 25 – 28 องศาเซลเซยี ส
เครื่องหอมที่ได้จากการสังเคราะห์มีลักษณะและคุณสมบัตทิ ี่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับกระบวนการ
สังเคราะห์และกรรมวิธีการผลิตซึ่งคนไทยมีความคุ้นเคย การใช้เครื่องหอมจากการสังเคราะห์ประเภทน้ำมัน
หอมระเหย โดยเฉพาะอยา่ งยิง่ ในวงการธรุ กิจสปา การนวดบำบัด และผลติ ภณั ฑเ์ ครอ่ื งสำอาง ปจั จุบันมีน้ำมัน
หอมระเหยหลายตัวที่สามารถผลิตได้จากการสังเคราะห์ของดอกไม้และพืชสมุนไพรในประเทศ ซึ่งมีศักยภาพ
ในดา้ นปริมาณและคุณภาพของวัตถุดบิ ผนวกกบั องค์ความรู้แบบภูมิปัญญาไทยในดา้ นพืชหอมซึ่งประเทศไทย
สามารถทำการศึกษาค้นคว้าน้ำมันหอมระเหยจากดอกไม้หอมและสมุนไพรไทยเกือบ 200 ชนิด ซึ่งสามารถ
นำมาใช้ประโยชน์หลายด้าน เช่น ด้านอาหาร เครื่องสำอาง สารไล่แมลงและฆ่าแมลงซึ่งคุณสมบัติและ
สรรพคุณต่าง ๆ สามารถนำไปใช้ประโยชน์กับการดำรงชีวิตประจำวันได้อีกด้วย (พัทราริณี มุนิลโก , 2557 :
16 - 17) ซง่ึ สามารถแบง่ ออกได้ดงั น้ี
1. นำ้ มนั หอมระเหย เป็นสารอนิ ทรีย์ทีพ่ ืชผลติ ข้ึนตามธรรมชาติ เก็บและสะสมไว้ตาม
ส่วนต่าง ๆ เช่น กลีบดอก ผิวของผล เกสร ราก เปลือกของลำต้น หรือยางที่ออกมาจากเปลือกไม้มี
องค์ประกอบทางเคมีที่สลับซับซ้อนและแตกต่างกันนับร้อยชนิด น้ำมันมีลักษณะเป็นของเหลวไม่เหนียว
เหนอะหนะเหมือนน้ำมนั พืช มีกลิ่นหอม และระเหยง่าย กลิ่นของน้ำมันหอมระเหยในส่วนของดอกไม้มีหนา้ ท่ี
สำคัญในการช่วยดึงดูดแมลงเพื่อผสมเกสร สำหรับประโยชน์ต่อมนุษย์น้ำมันหอมระเหยมีคุณสมบัติในการฆ่า
เชื้อโรค บรรเทาอาการอักเสบ ลดอาการบวมและทำให้คลายเครียด กระตุ้นให้สดชื่นขึ้นอยู่กับองค์ประกอบ
ทางเคมขี องน้ำมนั หอมระเหยแตล่ ะชนิด เป็นต้น (พรยพุ รรณ พรสขุ สวสั ดิ์ , 2561 : 10)
ผลิตภัณฑเ์ คร่ืองหอมไทยเชิงธุรกิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอี่ยมสะอาด
14
ภาพท่ี 1.18 น้ำมนั หอมระเหย ภาพที่ 1.19 นำ้ มันหอมระเหยแต่งกลิ่น
2. น้ำหอม เปน็ สารละลายที่มีส่วนผสมของนำ้ มันหอมระเหย เป็นสารประกอบท่ีใหก้ ลน่ิ
หอม แอลกอฮอร์และน้ำ น้ำหอมถูกออกแบบมาเพื่อให้กลิ่นหอม โดยที่มาของกลิ่นเกิดจากปฏิกิริยาทางเคมี
หลายชนิด เป็นสารประกอบอินทรีย์ที่มีออกซิเจนเป็นองค์ประกอบ โมเลกุลเหล่านี้มีน้ำหนักเบาและมี
คุณสมบตั เิ ปน็ ตวั ทำละลายได้ดี เชน่ สารสังเคราะหท์ ีเ่ ปน็ สว่ นผสมในนำ้ หอม ได้แก่ อบเชย วานิลา เปน็ ตน้
ภาพท่ี 1.20 ผลติ ภณั ฑน์ ำ้ หอม
3. มสั ก์สงั เคราะห์ เป็นสารสังเคราะหท์ ี่นิยมใช้ในน้ำหอม เป็นสารตรงึ กลิ่นที่ช่วยให้
น้ำหอมมีกล่ินติดทนนาน
ภาพท่ี 1.21 มัสก์ตรึงกลน่ิ
4. พาทาเลต เปน็ สารสังเคราะห์ เปน็ สารสังเคราะหท์ ่ีใช้อย่างแพร่หลายในผลิตภณั ฑ์
บำรงุ ผวิ เชน่ โลชัน่ สบู่ มีความเขม้ ขน้ ของน้ำมันหอมระเหย ประมาณ 2 – 5 เปอร์เซ็นต์ ใช้เปน็ สารตรึงกล่นิ
ผลิตภัณฑ์เครอื่ งหอมไทยเชิงธุรกิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
15
ภาพที่ 1.22 พาทาเลต ส่วนผสมในผลติ ภณั ฑ์โลชัน่
5. พาราเบน เปน็ สารกนั เสียทใ่ี ชก้ นั อย่างแพร่หลายในระบบอุตสาหกรรมยาและผลิตภณั ฑ์
เคร่อื งสำอาง โดยไดร้ ับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เปน็ สารเคมที ่ีช่วยตรงึ กล่ินทำให้กลิ่นติดทนนาน
ภาพที่ 1.23 พาราเบนสารกนั เสยี ในอุตสาหกรรมเคร่ืองสำอาง
ปัจจุบันอุตสาหกรรมเครื่องหอมที่เกิดจากกระบวนการสังเคราะห์ เติบโตอย่างรวดเรว็ ซึ่งนักเคมีต่าง
พยายามพัฒนาสูตรใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมสังเคราะห์มีกลิ่นหอม ทั้งนี้ก่อนเลือกใช้
ผลติ ภณั ฑเ์ คร่ืองหอมสังเคราะห์ต้องคำนงึ ถึงความปลอดภัย เป็นประการสำคัญ
2.3 กระบวนการผลติ เคร่ืองหอมไทย
กระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย ต้องมีการปรุงแต่ง ผสมผสานกลิ่นให้เป็นตำรับเครื่องหอมไทย
นับต้ังแต่โบราณคนไทยในอดตี มวี ิธกี ารสืบ เสาะ แสวงหาเครอ่ื งหอมตา่ ง ๆ จากธรรมชาติและคิดคน้ วิธีการปรุง
ผสมผสานกลิ่นในตำรับเครื่องหอมแบบต่าง ๆ ได้อย่างแยบยล เคล็ดลับความหอมจึงเป็นศาสตร์อย่างหนึ่งท่ี
ต้องอาศัยทั้งความเป็นคนช่างจดจำ ช่างสังเกต เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ ความชำนาญ ความละเอียด ทั้งยังเป็น
เรือ่ งที่ตอ้ งอาศยั ความอดทน ความอตุ สาหะในการปรงุ เครอ่ื งหอมชนิดนัน้ ๆ
หลักการผสมผสานกลิน่ เครือ่ งหอมของไทยนั้น มีความพิถีพิถันและความละเอียดอ่อนที่ซ่อนอยู่
ภายใต้กรรมวธิ ีการปรงุ ทไ่ี มไ่ ดม้ ีความซบั ซ้อน โดยมกี รรมวธิ ีต่าง ๆ ดงั นี้
1. การเผา คือ การนำเครอ่ื งหอมทไ่ี ด้มาผา่ นข้ันตอนความร้อน เชน่ การเผากำยาน การเผาใน
ที่นี้ไม่ใช่การเผาจนลุกไหม้ แต่เป็นการใช้ความร้อนเผาเครื่องหอมให้เกิดควัน เพื่อให้ได้กลิ่นหอม การเผา
จะต้องมีอุปกรณ์สำคัญคือ ทวน และตะคัน โดยการนำตะคันเผาไฟให้เกิดความร้อน นำวางบนทวนซึ่งเป็นขา
ผลติ ภณั ฑ์เครื่องหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
16
ตั้งวาง ตักกำยานที่ปรุงแล้วโปรยลงบนตะคนั เพื่อให้เกิดการเผาไหม้ จะทำให้เครื่องปรุงกำยานเกิดการเผาไหม้
และมกี ล่ินหอม ทัง้ นีใ้ หร้ บี ปิดฝาภาชนะขณะอบควนั หอมของเครื่องกำยาน ปฏิบัติเชน่ นี้ซำ้ ๆ จนกว่าจะมีกลิ่น
หอมตามตอ้ งการ
ภาพท่ี 1.24 การเผาตะคนั ใหร้ ้อน ภาพท่ี 1.25 การเผาเครื่องกำยานให้เกิดกลน่ิ หอม
1. การชงหรอื ต้ม การชงซ่ึงอาจเรยี กใหเ้ ข้าใจ คือการต้ม โดยการนำเครอ่ื งหอม เช่น ไม้หอม
นานาชนิด ต้มในน้ำร้อนให้น้ำมันหอมระเหยในเนื้อไม้ถูกความร้อนและละลายผสมกับน้ำร้อนทำให้เกิดกลิ่น
หอม โดยส่วนมากใช้สำหรบั การปรุงเครอื่ งหอมตำรับ นำ้ อบไทย เปน็ ต้น
ภาพท่ี 1.26 การชงหรอื การต้มสมนุ ไพร ประเภทไม้หอม ภาพที่ 1.27 การห่อสมนุ ไพรดว้ ยผ้าก่อนต้ม
3. การอบ การอบเครื่องหอมไทย หมายถงึ การปรงุ กล่นิ ด้วยควนั เทียนหรือปรงุ กลิน่ ด้วยดอกไม้
หอม การอบให้มีกลิ่นหอมนั้นจะแทรกผ่านสิ่งของที่นำไปอบ โดยสิ่งของเหล่านั้นต้องอยู่ในภาชนะที่มีฝาปิด
สนิท อาจจะอบด้วยเทียนอบ หรืออบด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ซึ่งการอบด้วยดอกไม้ไม่นิยมใช้ดอกไม้ที่มีกล่ิน
เอียนหรือกล่นิ เปรีย้ ว นอกจากนกี้ ารอบดอกไม้สามารถแบง่ ออกได้ 2 วิธี ดังน้ี
1) การอบน้ำ เป็นการลอยดอกไม้ลงบนผิวน้ำ เช่น การอบน้ำดอกไม้สำหรับทำขนม อบ
น้ำเชื่อม อบน้ำสำหรับสรงน้ำพระ อบน้ำเพื่อจะทำน้ำอบไทย น้ำอบที่อบด้วยดอกไม้หอมนานาพันธุ์ เรียกว่า
นำ้ ดอกไมส้ ด
ผลิตภณั ฑเ์ ครอ่ื งหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอย่ี มสะอาด
17
ภาพที่ 1.28 การลอยไมส้ ดบนผิวนำ้ ภาพที่ 1.29 การอบน้ำดอกไม้สด
2) การอบแห้ง คือ การวางดอกไม้หอมบนสิง่ ของทีต่ ้องการอบจะอบให้เกิดกล่ินหอม วิธี
นี้ควรนำดอกไม้ใส่ภาชนะกั้นตื้นขนาดเล็ก วางบนสิ่งของที่ต้องการการอบ เช่น ในโถอบ โหลขนาดใหญ่ หรือ
หบี ไม้ จากน้นั ปิดฝาเพอ่ื อบกลิ่นหอมของดอกไม้
การอบทงั้ 2 วธิ ี ควรอบตามเวลาท่ีดอกไม้เร่มิ แย้มกลบี หรอื ชว่ งทส่ี ่งกลิ่นหอม ดงั นัน้ ผู้อบ
ดอกไมส้ ด จำเปน็ ตอ้ งทราบถงึ เวลาของดอกไมท้ ี่ให้กลนิ่ ในแตล่ ะชนิดบางชนิดให้กลิ่นหอมในช่วงเวลาเช้า บาง
ชนิดให้กลิ่นหอมในช่วงเย็นหรือพลบค่ำ การอบดอกไม้สดไม่ควรอบดอกไม้ทิ้งไว้นานจะทำให้เกิดความชื้นใน
การอบ อาจทำใหก้ ลน่ิ ดอกไม้เปลีย่ นไป หรืออาจไดก้ ล่นิ ท่ไี ม่พึงประสงค์
นอกจากการอบด้วยดอกไม้สดแล้ว ยังมีการอบโดยการใชเ้ ทียนอบ เพื่อให้เกิดกลิ่นหอม
การจดุ เทียนอบตอ้ งสงั เกตไส้เทียนทเ่ี ผาไหม้ให้ถึงเนื้อเทยี นเพือ่ ชว่ ยให้กล่ินหอมท่ีอยู่กับเน้ือเทียนหลอมละลาย
และได้กลิ่นหอมจึงดับไฟทีป่ ลายเทียน วิธีการน้ีนิยมใช้ในการอบน้ำอบไทย ซึ่งเป็นเครื่องหอมทีค่ นไทยคุ้นเคย
กบั ความหอมสดชื่นมาอย่างยาวนาน
ภาพท่ี 1.30 การอบแบบแหง้ ภาพที่ 1.31 การอบด้วยเทียนอบ
4. การร่ำ ตามพจนานกุ รม หมายถึงการทำซ้ำ ๆ ดงั น้ันการทำเคร่ืองหอมด้วยวิธีการร่ำ คือ การ
นำไปอบหอมดว้ ยเครื่องหอมตา่ ง ๆ ดว้ ยกรรมวธิ กี ารทำซ้ำ ๆ หลายคร้งั เพือ่ ให้เกิดกลิ่นหอม วิธีการร่ำเป็นการ
อบที่ซับซ้อนหลายอย่าง และมีกรรมวิธีการปรุงที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เนื่องจากการเผาภาชนะสำหรับการ
ร่ำ คือ ตะคัน ให้เกิดความร้อนแลว้ โปรยเคร่อื งหอมลงในตะคันใหเ้ กิดการเผาไหม้ และมคี วัน ซ่งึ เครอื่ งร่ำจะทำ
ให้เกิดกลิ่นหอม เช่น กลิ่นหอมของยางไม้ กลิ่นหอมน้ำมันหอม กลิ่นเนื้อไม้ กลิ่นน้ำตาล หลากหลายกล่ิน
คลุกเคล้าปนกัน นยิ มใชส้ ำหรับอบร่ำเคร่อื งหอมของไทย
ผลติ ภณั ฑเ์ ครือ่ งหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
18
ภาพที่ 1.32 การร่ำเครอ่ื งหอม ภาพท่ี 1.33 การเผาไหมเ้ ครื่องร่ำใหเ้ กดิ กลิน่ หอม
5. การปรุง การปรุงเครื่องหอมไทย โดยทั่วไป หมายถึง การนำเครื่องปรุงหลากหลายชนิดมา
ผสมรวมกันในกรรมวิธีการชั่ง ตวง วัด บด เช่น การนำพิมเสน หัวน้ำหอม มาบดผสมกับแป้ง แล้วนำไปปรุง
เป็นเครอื่ งหอมสำหรบั การทำน้ำอบไทย หรอื เคร่ืองหอมอ่ืน ๆ การปรงุ ทีส่ งั เกตไดช้ ดั เจนสำหรบั เคร่อื งหอมไทย
คือ น้ำปรุงนับว่าเป็นเครื่องหอมที่มเอกลักษณ์ความหอมตามแบบฉบับของคนไทย กล่าวคือ น้ำปรุง คือ
ของเหลวที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอร์ หัวน้ำหอม และดอกไม้นานาชนิด นำมาผสมผสานตามสัดส่วน ให้กล่ิน
หอมเย็นชื่นใจ นับว่าเป็นตำรับความหอมที่ยากจะหาใครมาเทียบได้ เป็นมรดกล้ำค่าของชนชาติไทยอีกอย่าง
หนึง่
ภาพที่ 1.34 การสะตุชะมดเช็ดเพ่ือตรึงกลน่ิ ภาพที่ 1.35 การปรุงเครื่องหอม
ผลติ ภัณฑ์เครือ่ งหอมไทยเชงิ ธุรกจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอย่ี มสะอาด
19
3. ปฏบิ ตั ิการเคร่อื งหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
การเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยี ส่งผลต่อวิถีชีวิตของผู้เรียนที่สามารถ
สรา้ งความเป็นอัตลักษณใ์ ห้กบั ตนเอง และสร้างเสริมวัฒนธรรมสังคมตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง เป็นแนวทาง
หนึ่งที่ช่วยสนับสนุนการใช้วัสดุธรรมชาติที่มีในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดโยชน์และบูรณาการคิดค้นการปรุงตำรับ
เครื่องหอม ด้วยกระบวนการทางความคิดสร้างสรรค์ของผู้คิดต้นตำรับเครื่องหอม โดยอาศัยการใช้วัสดุ
อปุ กรณ์ กรรมวิธแี ละเทคนิคตา่ ง ๆ อย่างมากมาย ซ่ึงเกิดจากการศกึ ษาค้นควา้ ฝึกคิดและจนิ ตนาการ จงึ ทำให้
เกิดตำรับเครื่องหอมที่มีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิดของเครื่องหอม โดยยึดหลักของปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง 3 หว่ ง 2 เง่ือนไข การฝึกปฏบิ ัติทดสอบศักยภาพก่อนเรยี นวิชาผลติ ภัณฑ์เคร่ืองหอมไทยเชิง
ธุรกิจ มุง่ พฒั นาผเู้ รียนให้ใชค้ วามรู้ ความสามารถตามความถนัด ความสนใจ และความต้องการ โดยใชต้ วั อยา่ ง
บทเรยี นการปรงุ ตำรับเครื่องหอมตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่ือสง่ เสริมผ้เู รียนเกดิ การเรียนรู้ที่เหมาะสมและ
เต็มศักยภาพตามลำดับขั้นการพัฒนาให้หลากหลายชนิด ตอบสนองสมรรถนะของหลักสูตรที่มุ่งเน้นผลการ
เรียนรู้ตามสภาพเป็นจริง เพื่อเป็นแนวทางในการเรียนรู้ในหน่วยเรียนต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ดัง
หัวขอ้ บทเรยี นดงั น้ี
นักศึกษามีทักษะในการฝึกปฏิบัติตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ ต้องมีความ
มุ่งมั่นใส่ใจในการศึกษาและค้นคว้า จะช่วยให้เกิดพัฒนาการทางทักษะงานเครื่องหอมไทย โดยการฝึกปฏิบัติ
ตามใบความรู้ ในบทที่ 3 ตามจุดประสงค์การเรียนรู้ที่กำหนดไว้เป็นขั้นตอนของใบปฏิบัติงาน ประจำหน่วย
เรียนท่ี 1 ดังน้ี
3.1 ปฏิบัตกิ ารการพับใบเตยเปน็ ดอกกหุ ลาบ
3.2 ปฏิบัติการปรุงบหุ งาสด
3.3 ปฏบิ ตั ิการปรงุ บุหงาแห้ง
3.4 ปฏบิ ตั กิ ารหยอดแป้งพวง
1. พบั ใบเตยเป็นดอกหุ ลาบ ใบเตยเป็นวัสดุธรรมชาตอิ ีกชนดิ หนึ่งทมี่ ีกลนิ่ หอมมีเอกลกั ษณ์
เฉพาะตัว เป็นไมพ้ ุ่มเลก็ ขน้ึ เป็นกอ มีใบเป็นใบเดยี่ วเรียงสลับเวยี นเป็นเกลยี วจนถึงยอดใบ ลกั ษณะของใบเป็น
ทางยาว สเี ขยี วเปน็ มัน ใบคอ่ นข้างแข็ง มีขอบใบเรียบ สามารถนำใบเตยมาใชไ้ ดท้ ้ังใบสดและใบแห้ง ในใบเตย
จะมีกลิ่นหอมของน้ำมันหอมระเหย โดยกลิ่นหอมของใบเตยน้ันมีกลิ่นหอมหวาน ซึ่งเป็นกลิ่นเดียวกันในข้าว
หอมมะลิ และดอกชมนาด นิยมใช้ใบเตยตำให้ละเอียดคั่นน้ำ เพื่อปรุงแต่งขนมไทยให้มีกลิ่นหอม อร่อย และ
ยังให้สีสันน่ารับประทาน เช่น ขนมชั้น ขนมต้ม เปียกปูน เป็นต้น นอกจากคุณสมบัติดังกล่าวแลว้ ใบเตยยังใช้
ในการดับกลิ่นอับในรถยนต์ ในห้องที่มีกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยให้อากาศโดยรอบมีกลิ่นหอมสดชื่น ในตำรับ
เครื่องหอมไทยตั้งแต่อดีดถึงปัจจุบัน ถือว่าใบเตยเป็นส่วนผสมหลักในการให้กลิ่นและสีจากธรรมชาติอีกชนิด
หน่ึง
ผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอี่ยมสะอาด
20
ภาพที่ 1.36 เตยหอม ภาพท่ี 1.37 การพบั ใบเตยหอมเปน็ ดอกกุหลาบ
ตวั อยา่ งที่ 1 การพบั ใบเตยเป็นดอก
กหุ ลาบ
วสั ดุ – อุปกรณ์
1. ใบเตย
2. กรรไกร
3. ดา้ ย
4. ยางวง
ภาพท่ี 1.38 การพับใบเตยเป็นดอกกหุ ลาบ
1. เลือกใบเตยขนาดพอเหมาะ ใบไม่ฉกี
ขาดหรอื เปน็ รู มคี วามยาวตลอดท้ังใบประมาณ
12 - 15 นิ้ว ล้างทำความสะอาดและเช็ดให้
แห้ง ผึ่งลมให้ใบเตยน่ิมป้องกันการฉีก ขาด ใน
ระหว่างการพับ
2. จับใบเตยตามขวางของใบ พับใบเตย
ใหไ้ ด้ลกั ษณะตามรปู ภาพ
ผลติ ภณั ฑ์เคร่ืองหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
21
3. พบั บดิ เกลยี วดา้ นโคนของใบเตย ท่ี
ปลายใบด้านซ้ายมือ เพื่อเป็นแกนสำหรับการ
พับตง้ั ตน้ การพบั ดอกกหุ ลาบ
4. จากรูปภาพ เตรียมพับรมิ ขอบใบเตย
ด้านล่างที่ขนานกับใบ
5. พบั รมิ ใบเตย โดยยกขอบใบดา้ นลา่ ง
ให้ตั้งขั้น เป็นการบิดให้เกิดเป็นเกลียวที่ขอบ
ใบเตย
6. พบั บดิ รมิ ขอบใบเตย สลบั ขนึ้ ลง ให้
เกิดเป็นเกลียวรอบโคนดอก สังเกตได้ว่าการ
บดิ ขอบใบเตยจะกระชบั แนน่ ที่โคนกลีบ
7. ริมกลีบดอกจะม้วนพับริม โดยสลบั
ด้านนวลกบั ด้านมนั ของใบเตย พับบิดม้วนตาม
แนวเส้นใบของใบเตย
ผลิตภัณฑเ์ ครอื่ งหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
22
8. มว้ นพบั ริมใบเตย โดยสลบั กระทง่ั
เกือบสดุ ปลายใบ
9. พับบดิ เกลยี วต่อเน่อื งให้สดุ ปลาย
ใบเตยอีกด้านหน่ึง
10. พบั บดิ เก็บปลายใบให้แนน่ โดยให้
ปลายใบที่เหลืออยู่ที่โคนดอกด้านใด ด้านหนึ่ง
พ ั บ ด อ ก ก ุ ห ล า บ จ า ก ใ บ เ ต ย ต า ม จ ำ น ว น ที่
ตอ้ งการ
11. นำดอกกุหลาบใบเตยที่พับเรยี บรอ้ ย
แล้ว ประกอบรวมกนั เป็นช่อกลม ๆ โดยใช้ยาง
วงมัดรวบให้แนน่
12. จัดตกแตง่ ช่อดอกกุหลาบจากใบเตย
ให้สวยงาม สามารถนำไปมอบเป็นของที่ระลึก
ของฝากได้ ดอกกหุ ลาบใบเตยสามารถช่วยให้มี
กลิ่นหอมสดชื่น เป็นภูมิปัญญาของคนไทยอีก
อยา่ งหน่งึ
ผลิตภัณฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
23
2. การปรงุ บุหงาสด บหุ งาสดเป็นเครอ่ื งหอมไทยที่ทำไดง้ า่ ยใชเ้ วลารวดเร็วและนิยมทำในช่วงท่ีมี
ดอกไม้บานสะพรั่ง บุหงาสดเหมาะสำหรับใช้ในงานมงคลต่าง ๆ เช่น เป็นของชำร่วยงานมงคลสมรส ของ
ชำร่วยงานมุทิตาจิต ของที่ระลึกในโอกาสมงคลต่าง ๆ การทำบุหงาสดนิยมเย็บผ้าโปร่งเป็นถุงรูปทรงต่าง ๆ
เช่นรูปหัวใจ รูปวงกลม ฯลฯ หรือบรรจุในภาชนะจักสาน เพื่อให้มองเห็นสีสันของกลีบดอกไม้นานาชนิดที่
นำมาปรุง บุหงาสดนอกจากกลิ่นดอกไม้นานชนิด ๆ ที่เป็นวัสดุหลัก ยังใช้เครื่องหอมปรุงแต่งกลิ่นเพื่อให้กลิน่
หอมมเี อกลกั ษณ์ เชน่ นำ้ อบไทย พิมเสน เป็นตน้
ตัวอย่างที่ 2 การปรงุ บุหงาสด
วัสดุ – อุปกรณ์
1. ใบเตย
2. ดอกกุหลาบมอญ
3. ดอกบานไมร่ ู้โรย
4. ดอกมะลิ
5. ดอกรกั
6. พิกลุ
7. พิมเสน
8. นำ้ อบ หรอื นำ้ ปรงุ
ภาพท่ี 1.38 การพบั ใบเตยเปน็ ดอกกหุ ลาบ
1. เตรียมวัสดุ ใบเตยล้างทำความสะอาด
หั่นหยาบ ๆ ดอกกหุ ลาบมอญ ดอกบานไมร่ ้โู รย
ปลิดกลีบดอกให้เรียบร้อย เตรียมดอกมะลิ
ดอกรัก ดอกพิกุล หรอื ดอกไมท้ ่มี ีกลิน่ หอม
2. ปลิดกลีบดอกไม้ เช่น ดอกกุหลาบ
มอญ ดอกบานไม่รู้โรยให้เรียบร้อยใส่ลงในโถ
หรือภาชนะกระเบื้อง
ผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
24
3. นำใบเตยที่หั่นหยาบ และดอกไม้ทุก
ชนดิ ทปี่ ลิดกลบี ดอกแล้วเตรยี มไวใ้ นโถ
4. โปรยเกล็ดพมิ เสน ฉีดพรมนำ้ อบไทย
หรอื นำ้ ปรุงลงในโถกระเบ้ืองที่มกี ลีบดอกไมใ้ ห้
ทั่ว
5. คลุกเคล้าด้วยมือแบบแผ่วเบา คลุกให้
พิมเสน น้ำอบไทย น้ำปรุงกระจายทั่วกลีบ
ดอกไมท้ กุ ชนดิ พกั ไวป้ ระมาณ 10 นาที
6. นำบุหงาสดที่ปรุงเรียบร้อยแล้ว
บรรจุในถงุ ผา้ โปร่ง อย่าให้แน่นเกนิ ไป
7. บรรจุบุหงาสดในถุงผ้าโปร่ง มัดปาก
ถุงให้แน่น ใช้สำหรับมอบเป็นของที่ระลึกใน
งานมงคลตา่ ง ๆ กลิน่ หอมสดช่ืน
ผลติ ภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชงิ ธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอีย่ มสะอาด
25
2. การปรุงบหุ งาแหง้ บุหงาแหง้ คือ การนำดอกไม้สดท่ีมกี ลนิ่ หอมมาปรุงแตง่ ตามตำรับ
ความหอม ประกอบด้วย ดอกมะลิ ดอกกกหุ ลาบ ดอกกระดังงา ดอกปีบ ดอกบุนนาค ดอกสารภี ดอกชมนาด
ดอกปีบ ดอกพิกุล ใบเตยหอม เกสรบัวหลวง และยังมีดอกไม้ที่มีชื่อเป็นมงคลมีสีสันสวยงาม เช่น ดอกรัก
บานไมร่ ู้โรย ดาวเรือง รวมถึงใบไม้ และสมนุ ไพรหอมชนดิ ต่าง ๆ นำไปผ่านกรรมวิธที ำให้แห้งด้วยการตากแห้ง
ผึ่งลม หรืออบแห้ง และเตมิ แต่งกลน่ิ ดว้ ยหวั นำ้ มันหอม สารตรึงกลน่ิ ใหไ้ ด้กล่ินท่ีหอม และชื่นชอบ หรอื อาจใช้
วธิ ีการอบควนั เทียน หรอื การรำ่ ให้กลิ่นหอมติดทนนาน สามารถนำไปใสใ่ นบรรจภุ ัณฑ์ตามความชอบของผู้ปรุง
บุหงาแหง้ เสริมสรา้ งอาชีพและรายได้ให้กับผทู้ สี่ นใจไดอ้ กี ทางหนง่ึ ดว้ ย
ตวั อย่างท่ี 3 การปรุงบหุ งาแหง้
ภาพที่ 1.38 การปรุงบหุ งาแห้ง วสั ดุ - อุปกรณ์
1. ใบเตยตากแห้ง
2. ดอกกุหลาบตากแหง้
3. ดอกรักตากแห้ง
4. ดอกบานไมร่ ู้โรยตากแห้ง
5. ดอกดาวเรอื งตากแห้ง
6. ดอกไม้หอมชนดิ อื่น ๆ ตากแห้ง
7. พิมเสน
8. เทยี นอบ
9. นำ้ ปรุง
1. เตรียมดอกไม้แห้งตามที่กำหนดไว้
สามารถใช้ดอกไม้หอมชนดิ ต่าง ๆ ตากแห้งเพื่อ
มาใช้เป็นส่วนประกอบในการปรุงบหุ งาแห้ง
2. เตรียมน้ำปรุง พิมเสน เทยี นอบ เพื่อ
ใชใ้ นการปรุงแตง่ กลิน่ บุหงาแห้ง
ผลิตภณั ฑ์เครอื่ งหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอ่ียมสะอาด
26
3. นำดอกแหง้ ทุกชนดิ ทเ่ี ตรยี มไว้ใส่ลงใน
โถหรอื หมอ้ อบบุหงา โปรยพมิ เสนท่ีบดละเอียด
ใส่ลงในดอกไม้แห้ง พร้อมกับฉีดพรมน้ำปรงุ ให้
ทว่ั คลกุ เค้ลาใหส้ ว่ นผสมเขา้ กัน
4. จากข้อ 3 จดุ เทียนอบให้ไฟไหม้ติดทไ่ี ส้
เทยี น เผาไหม้ถงึ เนื้อเทยี นกระทั่งเกิดกล่ินหอม
นำเทียนอบวางบนตะคัน ดับไฟแล้วปิดฝาอบ
ควันเทียนอย่างรวดเร็ว ทำซ้ำด้วยวิธีการนี้ 3
ครัง้
5. นำบุหงาทอ่ี บควนั เทียนเรยี บร้อยแลว้
บรรจุลงในถงุ ผา้
ผลติ ภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชงิ ธุรกจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอ่ยี มสะอาด
27
6. เมื่อบรรจุบุหงาลงในถุงผ้าเรียบร้อย
แล้ว สามารถใช้มอบเป็นของที่ระลึกในงาน
มงคลต่าง ๆ กล่นิ หอมนมุ่ นวล
3. การหยอดแป้งพวง แป้งพวงเครอื่ งหอมโบราณ โดยนำแปง้ ร่ำมาปรุงประดิษฐ์แปง้ พวง
สิ่งที่ได้ คือ เม็ดแป้งขนาดเล็กที่หยอดตดิ บนเส้นด้ายเมื่อเมด็ แป้งแห้ง นำมารวบเข้าพวงสำหรับใช้ตกแต่งห้อย
ไว้ตามผมแนบไว้ข้างหู ใช้ติดทัดหูเครื่องละครแบบโบราณ หรือใช้ผูกติดกับช่อดอกไม้หอมใช้ปักแจกันตกแต่ง
ให้เกิดกลิ่นหอม ในอดีตกาลแป้งพวงเป็นเครื่องหอมที่ทำใช้กันในราชสำนักแต่ด้วยยุคสมัยเปลี่ยนไป เครื่อง
หอมเหลา่ นี้ เป็นงานฝมี อื ทต่ี อ้ งใช้เวลาจึงทำให้การทำแปง้ พวงเร่ิมเลอื นหายไป
ตวั อย่างท่ี 4 การหยอดแปง้ พวง
วสั ดุ – อุปกรณ์
1. 1. แปง้ หินร่ำ
2. 2. นำ้ มนั หอมระเหย
3. 3. กาวลาเทก็ ซ์
4. 4. สผี สมอาหาร
5. เทยี นอบ
6. ถุงพลาสติกใส
7. ถาดขงึ เสน้ ด้าย
8. โถอบควนั เทียน
ภาพท่ี 1.38 การหยดแปง้ พวง
ผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
28
1. นำแป้งหินร่ำ เทลงในถาดผึ่งแดดเพ่ือ
ขจัดกลิ่นอับ และระเหยความชื้นออกจากเนื้อ
แป้ง
2. จากขอ้ 1 นำแป้งหนิ ใส่ลงในโกรง บด
ผสมรวมกับน้ำมันหอมระเหย บดให้ละเอียด
เป็นเน้ือเดียวกนั
3. นำส่วนผสมที่เตรียมไวต้ ามข้อ 2 ผสม
กาวลาเท็กซ์คนส่วนผสมให้เข้ากัน เนื้อแป้งหิน
กับกาวจะเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน ตักแบ่งใส่
ภาชนะแยกไว้ (ขั้นตอนนี้สามารถผสมสีลงใน
เน้ือแป้ง)
ผลิตภัณฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอ่ียมสะอาด
29
4. นำแป้งจากข้อ 3 บรรจุลงใน
ถุงพลาสติก มมุ ด้านใดดา้ นหน่ึงของถงุ พลาสติก
บีบและรีดเนื้อแป้งเข้าที่ถุง ตัดปลายถุงเพียง
เล็กนอ้ ย บีบแป้งลงบนเส้นดา้ ย
5. บีบแป้งลงบนเส้นด้ายที่ขึงไว้ โดยบีบ
เรยี งเนอ้ื แปง้ ให้ได้ระยะ ความยาวตามต้องการ
6. ผึ่งเส้นแป้งที่หยอดเรียบร้อย ให้แห้ง
สนทิ
7. นำเสน้ แป้งท่แี ห้งสนทิ จดั เรียงเส้น
แป้งให้เป็นพวง เป็นกลุ่ม ใส่โถเตรียมอบด้วย
ควนั เทยี น
8. นำแปง้ พวงอบด้วยควนั เทยี น อบให้
หอมอย่างน้อย 3 ครัง้ จะทำให้กลนิ่ ติดทนนาน
ผลิตภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
30
9. นำแป้งพวงที่อบควันเทียนเรียบร้อยแล้ว
ประกอบตกแต่งให้สวยงาม ใช้มอบเป็นของที่ระลึก
ในงานมงคลตา่ ง ๆ
ข้อเสนอแนะ
การเรียนรู้ในบทที่ 3 ปฏิบัติการเครื่องหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เป็นบทเรียนเพื่อให้ผู้เรียน
เกดิ ทกั ษะการเรียนรู้ และสอดคล้องกับสมรรถนะรายวิชาผลติ ภัณฑเ์ ครื่องหอมไทยเชิงธรุ กิจ ดงั นน้ั การเรียนรู้
ในบทเรียนนจ้ี ะทำใหผ้ ูเ้ รียนได้ฝกึ ฝนทตี่ รงตามเนือ้ หารสาระสำคัญในหน่วยเรียนนี้ ผเู้ รียนจงึ ต้องศกึ ษาเพิ่มเติม
ใหเ้ ขา้ ใจอย่างถอ่ งแท้ เพอ่ื การนำไปปรบั ใช้ในการเรยี นรแู้ ละการประกอบอาชีพในอนาคต
การทบทวนกจิ กรรมการเรียนรู้ ผ่านระบบสอ่ื สารอิเลก็ ทรอนิกส์
การจัดการเรียนรู้ หนว่ ยเรียนท่ี 1 ความรู้เบ้ืองตน้ เกยี่ วกบั เครอ่ื งหอมไทย
การพับใบเตยเปน็ ดอกุหลาบ การปรุงบุหงาสด
การปรงุ บุหงาแหง้ การหยอดแป้งพวง
ผลิตภัณฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอีย่ มสะอาด
31
ใบงาน หน่วยเรียนที่ 1
สอนครง้ั ท่ี 1
วชิ า ผลติ ภัณฑ์เคร่อื งหอมไทยเชงิ ธรุ กิจ รหสั วชิ า 30406 - 2107
ชอ่ื หน่วย ความร้เู บ้ืองตน้ เก่ียวกับเครอื่ งหอมไทย จำนวน 5 ชัว่ โมง
ช่อื /เรอื่ ง ความรูพ้ ื้นฐานเก่ยี วกับเคร่ืองหอมไทย
สาระสำคญั
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องหอมไทย เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติงาน
เครื่องหอมขั้นพื้นฐานสู่การเป็นมืออาชีพ ซึ่งงานเครื่องหอมแสดงถึงศิลปะอันดีงามมีเอกลักษณ์อันเป็นมรดก
ทางวัฒนธรรมของไทยอกี อย่างหนึ่ง เปน็ ส่ิงสำคญั ในการเรียนร้เู กี่ยวกบั การศิลปะงานเครื่องหอม ประกอบด้วย
ความเป็นมา ความหมายและความสำคัญของเครื่องหอมไทย เครื่องหอมในชีวิตประจำวัน ประโยชน์และ
คุณค่าของเครื่องหอม แหล่งที่มาและกระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย เครื่องหอมที่ได้จากธรรมชาติ เครื่อง
หอมที่ได้จากการสังเคราะห์ กระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย ล้วนเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับการเรียนรู้
เก่ยี วกับผลิตภณั ฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชิงธรุ กิจทั้งสน้ิ
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
หอมไทย บทที่ 1 เขา้ ใจความรูเ้ บือ้ งต้นเก่ียวกับเครื่องหอมไทย
1.1 อธิบายความเปน็ มาของเครอื่ งหอมไทย
1.2 บอกความหมายและความสำคัญของเครอ่ื งหอมไทย
1.3 ระบเุ ครื่องหอมไทยกับการดำรงชวี ิตประจำวัน
1.4 สรปุ ประโยชน์และคุณค่าของเครื่องหอมไทย
บทที่ 2 เขา้ ใจแหล่งท่ีมาและกระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย
2.1 จำแนกแหลง่ ท่ีมาของเครอื่ งหอมไทย
2.2 ระบแุ หล่งท่ีมาของเคร่ืองกอมจากการสงั เคราะห์
2.3 อธบิ ายกระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย
ส่อื และวัสดุ อุปกรณ์การเรียนรู้
1. แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น หน่วยเรียนท่ี 1 เรือ่ ง ความร้เู บ้ืองตน้ เก่ียวกบั เครอ่ื ง
2. ใบความรู้ หนว่ ยเรยี นที่ 1 เรื่อง ความรเู้ บ้ืองต้นเก่ยี วกบั เครื่องหอมไทย
3. ใบงาน หน่วยเรยี นท่ี 1 เรื่อง ความรูเ้ บ้ืองต้นเกย่ี วกับเครื่องหอมไทย
4. หนงั สอื ตำราวิชาเคร่อื งหอมไทย วารสาร นติ ยสาร สง่ิ พิมพ์เกี่ยวกับเครอ่ื งหอมไทย
5. ภาพดอกไมห้ อมของไทย สมนุ ไพร เคร่อื งเทศ และเคร่ืองหอมไทย
6. หุ่นจำลองตัวอย่างเครื่องหอมไทยประเภทตา่ ง ๆ
7. วัสดุ อุปกรณเ์ คร่ืองหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
ผลติ ภัณฑเ์ คร่อื งหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอย่ี มสะอาด
32
ลำดบั ขนั้ ตอนการเรยี นรู้
1. ทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยเรยี นท่ี 1 เรอ่ื ง ความร้เู บอ้ื งต้นเกี่ยวกับเคร่ืองหอมไทย (เวลา 10
นาท)ี
2. ใหน้ กั ศกึ ษา ศกึ ษาใบความรู้ หน่วยเรียนท่ี 1 เรื่อง ความรเู้ บอื้ งตน้ เก่ียวกับเครื่องหอมไทย
(เวลา 30 นาท)ี
3. ให้นักศึกษาแบ่งออกเป้น 2 กลุ่ม ศึกษาใบความรู้ หน่วยเรียนที่ 1 เรื่อง ความรู้เบื้องต้น
เกีย่ วกับเคร่ืองหอมไทย เพือ่ อภิปรายหน้าช้ันเรียน ดังหัวข้อตอ่ ไปน้ี (เวลา 40 นาท)ี
3.1 ความรู้เกย่ี วกับเคร่ืองหอมไทย
3.2 แหลง่ ทม่ี าและกระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย
4. ใหน้ กั ศกึ ษาชมครูสาธิตและรว่ มกจิ กรรมเคร่ืองหอมไทยตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง
5. ใหน้ กั ศกึ ษาทำแบบทดสอบหลังเรียน หนว่ ยเรียนที่ 1 เรอื่ ง ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับเคร่ือง
หอมไทย (เวลา 10 นาท)ี
งานทม่ี อบหมาย
1. ให้นกั ศึกษาสะสมรูปภาพเก่ยี วกับดอกไม้หอมของไทย สมนุ ไพร เครอ่ื งเทศ และเคร่อื ง
หอมไทย ทพี่ บเหน็ จากสื่อต่าง ๆ เชน่ วารสาร เอกสาร ชอ่ งทางการสื่อสาร Face Book, Time Line, Google
และอื่น ๆ ตลอดภาคเรยี นกระท่งั สน้ิ สดุ การศกึ ษา และนำเสนอในรูปแบบของรายงานแบบรายบคุ คล
2. ให้นักศึกษาปฏิบัติตามใบปฏิบัติงานที่ 1 ฝึกปฏิบัติการเครื่องหอมไทยตามหลักปรัชญา
ของเศรษฐกิจพอเพยี ง โดยศกึ ษาเรยี นรจู้ ากตวั อยา่ งเครือ่ งหอมไทยตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ท้ัง
5 ชนดิ โดยใชก้ ระบวนการกลมุ่ ลงมือปฏิบัติใหส้ ำเรจ็ ภายในเวลาทีก่ ำหนด
ข้อเสนอแนะ
นักศึกษาทุกคน ควรให้ความสนใจในทุกกิจกรรมการเรียนรู้ เพื่อเพิ่มสมรรถนะและทักษะ
ทางวชิ าชพี ไดอ้ ย่างถูกตอ้ งและสมบูรณ์
การวัดผลและการประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกต
2. ตรวจสมดุ จดบันทึก
3. ตรวจการแบบทดสอบก่อนเรียน
4. ตรวจแบบทดสอบหลงั เรียน
5. เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60
ผลติ ภัณฑ์เครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอยี่ มสะอาด
33
ใบปฏบิ ตั งิ าน หนว่ ยเรียนท่ี 1
วิชา ผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งหอมไทยเชงิ ธุรกิจ รหัสวิชา 30406 – 2107 สอนครัง้ ที่ 1
ชอื่ หนว่ ย ความรู้เบื้องตน้ เก่ยี วกับเครอื่ งหอมไทย
ชื่อ/เร่อื ง ความรพู้ ้นื ฐานเกีย่ วกับเครือ่ งหอมไทย จำนวน 5 ชวั่ โมง
สาระสำคญั
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับเครื่องหอมไทย เป็นสิ่งหนึ่งที่จำเป็นสำหรับการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติงาน
เครื่องหอมขั้นพื้นฐานสู่การเป็นมืออาชีพ ซึ่งงานเครื่องหอมแสดงถึงศิลปะอันดีงามมีเอกลักษณ์อันเป็นมรดก
ทางวฒั นธรรมของไทยอกี อย่างหน่ึง เป็นส่งิ สำคัญในการเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การศลิ ปะงานเคร่ืองหอม ประกอบด้วย
ความเป็นมา ความหมายและความสำคัญของเครื่องหอมไทย เครื่องหอมในชีวิตประจำวัน ประโยชน์และ
คุณค่าของเครื่องหอม แหล่งที่มาและกระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย เครื่องหอมที่ได้จากธรรมชาติ เครื่อง
หอมที่ได้จากการสังเคราะห์ กระบวนการผลิตเครื่องหอมไทย ล้วนเป็นความรู้พื้นฐานสำหรับการเรียนรู้
เกยี่ วกับผลิตภณั ฑเ์ ครื่องหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ ทั้งส้นิ
จดุ ประสงค์การเรียนรู้
บทที่ 3 มีทกั ษะปฏบิ ตั กิ ารเคร่อื งหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
3.1 มีทักษะการพบั ใบเตยเป็นดอกหุ ลาบ
3.2 มีทกั ษะการปรุงบุหงาสด
3.3 มีทกั ษะการปรงุ บหุ งาแห้ง
3.4 มที กั ษะการหยอดแปง้ พวง
สือ่ และวัสดุ อุปกรณ์การเรยี นรู้
1. วสั ดุ อปุ กรณ์เครื่องหอมไทยตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี ง มดี ังนี้
1.1 การพับใบเตยเปน็ ดอกหุ ลาบ
1.2 การปรงุ บหุ งาสด
1.3 การปรุงบหุ งาแหง้
1.4 การหยอดแป้งพวง
2. หนุ่ จำลองตัวอย่างเคร่ืองหอมไทยตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง พับใบเตยเป็นดอกกหุ ลาบ
บุหงาสด บุหงาแหง้ แปง้ พวงของชำรว่ ย
3. ส่อื อเิ ล็กทรอนิกส์
3.1 การพับใบเตยเปน็ ดอกหุ ลาบ
3.2 การปรงุ บหุ งาสด
ผลิตภณั ฑเ์ ครื่องหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอี่ยมสะอาด
34
3.3 การปรงุ บหุ งาแห้ง
3.4 การหยอดแปง้ พวง
4. ส่ือ Power Point เพื่อการนำเสนอในการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ หน่วยเรยี นท่ี 1 เรือ่ ง
ความรูเ้ บือ้ งต้นเกี่ยวกับเครอื่ งหอมไทย
ลำดับข้นั การปฏบิ ตั ิ
(เวลา 20 นาท)ี 1. ให้นกั ศึกษา ศกึ ษาและสรุปใบความรู้ เรือ่ ง เครือ่ งหอมไทยตามแนวเศรษฐกจิ พอเพียง
1.1 การพับใบเตยเป็นดอกุหลาบ
1.2 การปรงุ บหุ งาสด
1.3 การปรงุ บุหงาแห้ง
1.4 การหยอดแปง้ พวง
2. ให้นักศึกษาแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม มีจำนวนสมาชิกที่เท่า ๆ กัน พร้อมแจกวัสดุ
อุปกรณ์ 1 ชุดต่อกลุ่ม เพื่อฝึกปฏบิ ตั ิการเครื่องหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง เพื่อทดสอบศักยภาพก่อน
เรยี นผลิตภัณฑ์เครื่องหอมไทยเชิงธุรกิจ ลงมือปฏบิ ตั ิงานโดยใชก้ ระบวนการกลุ่ม ลงมือปฏิบัติให้สำเร็จภายใน
เวลาทกี่ ำหนด ตามตวั อย่างทีก่ ำหนดไว้ ดังนี้ (เวลา 60 นาท)ี
3. ครแู ละนักศึกษาร่วมกันพจิ ารณาตรวจผลงาน เปรยี บเทียบความถูกต้องของผลงาน
กับตัวอยา่ ง เครือ่ งหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงทั้ง 4 ตัวอยา่ ง (เวลา 40 นาที)
4. ให้นักศึกษาชมภาพลำดับขน้ั ตอน ตัวอยา่ งเคร่อื งหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
ทั้ง 4 ตัวอย่าง เพื่อนำไปปรับปรุงแก้ไขในหน่วยเรียนต่อไป และสรุปผลการฝึกปฏิบัติทดสอบศักยภาพก่อน
เรียน (เวลา 30 นาท)ี
5. ให้นักศึกษาชมสื่อวิทัศน์ ขั้นตอนการอบและปรุงแป้งร่ำ จากละครบุพเพสันนิวาส
แล้วให้นักศึกษาทุกคนบันทึก สรุปสาระสำคัญที่พบเห็นเกี่ยวกับลำดับขั้นตอนการอบและปรุงแป้งร่ำ เพื่อให้
นกั ศกึ ษาใชเ้ ปน็ แนวทางในการเรยี นรู้เรอ่ื งเครือ่ งหอมไทยในลำดับต่อไป (เวลา 20 นาท)ี
งานทีม่ อบหมาย
1. ให้นักศึกษาทุกคนส่งบันทึกสรปุ สาระสำคญั การเรยี นร้เู กยี่ วกบั เคร่อื งหอมไทยตาม
แนวเศรษฐกิจพอเพียง นำส่งในสปั ดาหถ์ ัดไป
2. ใหน้ กั ศกึ ษาทุกคนศึกษา ใบความรู้ หนว่ ยเรียนท่ี 2 เร่อื ง คณุ สมบตั ขิ องผลติ ภณั ฑ์
เครอ่ื งหอมไทย
ขอ้ เสนอแนะ
1. นักศึกษาแต่ละกลุ่ม ควรร่วมกันหาวิธีในการแบ่งหน้าที่ เพื่อจัดทำกิจกรรมให้ได้ผล
สรปุ ทด่ี ี รวดเรว็ กระชับและถกู ต้องตามหลักการ
2. การสรุปและการนำเสนอข้อมูล ควรสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ให้กับสมาชิกทุก
คนภายในชั้นเรยี น
ผลิตภณั ฑเ์ ครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
35
การวดั และประเมนิ ผล
1. แบบสงั เกตความพร้อม และความตง้ั ใจในการปฏิบตั ิงาน
2. ตรวจผลงานการฝึกปฏิบตั ิเกี่ยวกบั เคร่ืองหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง
3. เกณฑ์การผ่าน ร้อยละ 60
การทบทวนกจิ กรรมการเรยี นรู้ ผ่านระบบสอื่ สารอิเลก็ ทรอนิกส์
การจัดการเรียนรู้ หน่วยเรียนที่ 1 ความรู้เบ้อื งตน้ เก่ียวกบั เครอื่ งหอมไทย
การพบั ใบเตยเปน็ ดอกุหลาบ การปรงุ บุหงาสด
การปรุงบุหงาแหง้ การหยอดแป้งพวง
ผลิตภัณฑ์เครือ่ งหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
36
เอกสารอา้ งองิ
คหกรรมแบบบรู ณาการ. กรงุ เทพมหานคร : เอกสารอัดสำเนา.
เครอ่ื งหอมไทยกบั การดำรงชีวิตประจำวัน. สืบค้นเม่อื 23 ตลุ าคม 2562 จาก
https://thematter.co/social/thai-brands-and-their-diffuser
เคร่อื งหมายความปลอดภัย. สืบคน้ เม่อื 15 ตุลาคม 2562. จากhttp://www.tbcindia.org/category/post/
เคร่อื งหอมไทย. เอกสารประกอบการเรยี น พรยุพรรณ พรสุขสวัสด,ิ์ 2561 ศูนย์บรกิ ารสอื่ และสง่ิ พิมพ์กราฟ
ฟคิ ไซด.์ มหาวิทยาลยั สวนดุสติ
เครื่องหอมมรดกภูมิปัญญาไทย. บังอร โพธิ์นิ่มแดง, อัดสำเนาเอกสารประกอบการสอน. มหาวิทยาลัย
เทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพ
เครอ่ื งหอมและของชำรว่ ย. โสภาพรรณ อมตะเดชะ, 2536. ศรสี ยามการพมิ พ.์
เครอ่ื งหอม. สบื คน้ เมื่อ 15 ตลุ าคม 2562. จาก https://pixabay.com/en/coconut-tree
มาตรฐานการอาชวี ศึกษาและวิชาชีพ, สำนัก.(2552). เอกสารแนะนำแนวทางการจัดการเรียนรู้สาขาวิชางาน
ตำรับไทยเครอ่ื งหอม. บษุ กร เขง่ เจริญ, 2537. เพชรกะรัต.
ปลอดภัยไวก้ อ่ น. สบื ค้นเมอื่ 15 ตุลาคม 2562. จาก https://www.tosh.or.th/index.php/toshnews
แหลง่ ทมี่ าของเครอ่ื งหอม. แหลง่ ทม่ี าของเครอ่ื งหอมจากการสังเคราะห์ สบื คน้ เมอื่ 20 ธนั วาคม 2562.
จาก http://www.oknation.net/blog/Butterflies
ผลิตภณั ฑ์เคร่ืองหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอ่ยี มสะอาด
37
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น - หลังเรยี น หนว่ ยเรียนท่ี 1
สอนครัง้ ที่ 1
วชิ า ผลติ ภัณฑเ์ ครอ่ื งหอมไทยเชิงธรุ กิจ รหสั วิชา 30406 - 2107
ชอ่ื หนว่ ย ความรเู้ บือ้ งตน้ เก่ียวกบั เครื่องหอมไทย จำนวน 5 ช่ัวโมง
ช่อื /เรื่อง ความร้เู บื้องต้นเก่ยี วกับเครอ่ื งหอมไทย
แบบทดสอบก่อนเรียน - หลังเรียน ให้นักศึกษาตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง โดยทำเครื่องหมายลง
ในกระดาษคำตอบทแี่ จกใหเ้ พยี งข้อเดยี ว
คำสั่ง จงเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดียว
1. ตามประวตั คิ วามเปน็ มาของ เครื่องหอมไทยท่ีเฟ่ืองฟู เกิดข้นึ ในยคุ สมัยใด
ก. กรงุ สโุ ขทยั
ข. กรงุ ศรีอยธุ ยา
ค. กรงุ ธนบุรี
ง. กรงุ รัตนโกสนิ ทร์
จ. ขอ้ ก. และ ข ถกู ต้อง
2. คำวา่ “เคร่อื งหอม” ข้อใดให้ความหมายได้ถูกต้อง
ก. เครื่องหอมไทยเกิดจากสมุนไพรโบราณ
ข. เคร่อื งหอมไทยเกิดจากพืชและสตั ว์ทำใหเ้ กิดกล่ินหอม
ค. เครื่องหอมไทยเกิดจากกระบวนการปรุงตามตำรับ
ง. เครือ่ งหอมไทยเกดิ จากความรทู้ ่ีได้มาจากชาวต่างชาติ
จ. เคร่ืองหอมไทยเกิดจากการลองผิด ลองถูก
3. เครื่องหอมเพ่ือใช้เป็นพทุ ธบชู า ขอ้ ใดถูกต้องทีส่ ุด
ก. บหุ งาสด
ข. นำ้ มนั จันทน์
ค. น้ำมันเหลือง
ง. เทยี นอบ
จ. สีผงึ้
4. เครื่องหอมเพื่อประทนิ ผวิ ข้อใดช่วยลดอาการผด ผน่ื คัน ลดความมันบนผวิ หนา้ และรา่ งกาย
ก. แป้งพวง
ข. แปง้ เกสรดอกไม้
ค. แป้งนวล
ง. นำ้ มันจันทน์
จ. นำ้ มันกฤษณา
ผลติ ภัณฑเ์ ครอ่ื งหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอี่ยมสะอาด
38
5. เครอ่ื งหอมใดต่อไปน้ี ใชเ้ พื่อความสดชื่นในชว่ งอากาศร้อนและชว่ ยลดอุณภูมิในรา่ งกาย
ก. แป้งร่ำ
ข. แปง้ อบ
ค. น้ำอบไทย
ง. นำ้ พลอยดอกไมส้ ด
จ. สผี ้งึ
6. เครื่องหอมเพ่ือการปรุงแต่งกล่ินอาหาร ข้อใดระบุการใช้งานไดถ้ ูกต้อง
ก. เทยี นอบ ใชอ้ บขนมไทยให้มีกลิ่นหอม
ข. เทยี นรำ่ ใชอ้ บอาหารคาว อาหารหวาน
ค. กำยาน ใชอ้ บอาหารใหม้ กี ลิ่นหอมเฉพาะตวั
ง. ธปู หอม ใช้อบอาหารคาว อาหารหวานใหม้ ีอายุนานขึ้น
จ. นำ้ อบไทย ใชเ้ ป็นส่วนผสมในอาหารไทยนานาชนิดไดห้ อม
7. คำว่า “แป้งกระแจะ” ข้อใดกล่าวได้ถูกต้อง
ก. ใชเ้ พอ่ื ปรงุ แตง่ กลน่ิ ของการอบ การร่ำ
ข. ใช้ในพธิ ีมงคลสมรสเปน็ สว่ นผสมของแปง้ เจิม
ค. ใช้เพ่ือดบั กลนิ่ ไมพ่ ึงประสงค์
ง. ใช้เปน็ หวั เช้ือในสว่ นผสมของน้ำปรงุ
จ. ใช้บรรเทาอาการวงิ เวยี น และทำใหส้ ดชื่น
8. คำวา่ “อำพนั ” ข้อใดกลา่ วได้ถูกตอ้ ง
ก. ไขปลาวาฬ
ข. ไขจากชะมด
ค. ไขจากละมั่ง
ง. ไขจากกวางชะมด
จ. ไขจากบีเวอร์
9. เครือ่ งหอมท่ีได้จากการสงั เคราะห์ ข้อใดกล่าวไดถ้ ูกต้อง
ก. นำ้ มันหอมระเหย
ข. นำ้ ปรงุ
ค. นำ้ อบไทย
ง. น้ำลอยดอกไม้สด
จ. น้ำมันจันทน์
10. ตำรับการปรุงเครื่องหอมไทยข้อใดถูกต้องทีส่ ุด
ก. การเผา การตม้ การอบ การร่ำ การปรุง
ข. การเผา การหมกั การปรุง การอบ การต้ม
ค. การหมัก การอบ การปรุง การหมัก การเคีย่ ว
ง. การอบ การเคย่ี ว การหมัก การปรุง การตม้
จ. การเค่ยี ว การปรงุ การเคย่ี ว การตวง การตม้
ผลติ ภณั ฑ์เครือ่ งหอมไทยเชงิ ธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอ่ยี มสะอาด
39
เฉลยหนว่ ยเรยี นท่ี 1
แบบทดสอบก่อนเรยี น - หลงั เรยี น
วิชา ผลติ ภัณฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชิงธรุ กิจ รหสั วชิ า 30406 – 2107
เรอ่ื ง ความร้เู บ้ืองต้นเกีย่ วกบั เครอ่ื งหอมไทย
บทท่ี 1 ความร้เู บื้องต้นเกีย่ วกับเครอ่ื งหอมไทย
บทที่ 2 แหล่งทม่ี าและกระบวนการผลิตเคร่อื งหอมไทย
บทที่ 3 ปฏิบัตกิ ารเคร่ืองหอมไทยตามแนวเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. ง
2. ค
3. ข
4. ข
5. ค
6. ก
7. ข
8. ก
9. ก
10. ก
ผลติ ภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอี่ยมสะอาด
40
แบบประเมินผลแบบทดสอบ
กอ่ นเรียน - หลงั เรียน
วชิ า ผลติ ภณั ฑเ์ ครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกจิ รหัสวชิ า 30406 – 2107 หนว่ ยการเรียนท่ี 1
ชื่อหน่วย ความรู้พนื้ ฐานเกี่ยวกับเคร่ืองหอมไทย
เรอ่ื ง/งาน ความรู้พื้นฐานเก่ียวกับเครื่องหอมไทย
ชอ่ื ................................................นามสกุล.........................................เลขท่ี...................ชนั้ ............................
คำช้แี จง ใหค้ รเู ป็นผ้ปู ระเมินแบบทดสอบก่อนเรยี นและแบบทดสอบหลงั เรียน เรือ่ ง ความรพู้ นื้ ฐานเกย่ี วกบั
เครื่องหอมไทย
รายการประเมินผลแบบทดสอบ ระดับคุณภาพ
(ด้านพทุ ธพิ ิสยั )
10 ข้อ 7 - 9 ขอ้ 4 - 6 ขอ้ 1 - 3 ขอ้
แ บ บ ท ด ส อบ จ ำ น ว น 10 ข้ อ
โดยแบ่งเปน็ แบบทดสอบก่อนเรียน แบบทดสอ แบบทดสอบ แบบทดสอบ แบบทดสอบ แบบทดสอบ แบบทดสอบ แบบทดสอบ แบบทดสอบ
และแบบทดสอบหลงั เรยี น บกอ่ นเรยี น หลงั เรยี น กอ่ นเรียน หลงั เรียน ก่อนเรยี น หลงั เรยี น ก่อนเรยี น หลงั เรียน
หนว่ ยการเรียนที่ 1 ความรพู้ ืน้ ฐาน
เก่ยี วกับเคร่อื งหอมไทย
รวม
เกณฑก์ ารประเมิน
1. จากการทดสอบตามแบบทดสอบก่อนเรยี นและหลงั เรยี น อย่างละ 10 ข้อ
1.1 นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 10 ขอ้ หมายถงึ ดมี าก คดิ เปน็ รอ้ ยละ 100
1.2 นักเรยี นทำแบบทดสอบได้ 7-9 ข้อ หมายถงึ ดี คดิ เป็นร้อยละ 80
1.3 นักเรียนทำแบบทดสอบได้ 4-6 ขอ้ หมายถงึ พอใช้ คิดเป็นรอ้ ยละ 60
1.4 นกั เรยี นทำแบบทดสอบได้ 1-3 ขอ้ หมายถึง ปรับปรุง คดิ เปน็ ร้อยละ 40
2. ผลการประเมินแบบทดสอบก่อนเรียนและแบบทดสอบหลังเรียน จะต้องผ่านเกณฑ์ระดับคุณภาพดี
มากกว่ารอ้ ยละ 80 หากต่ำกวา่ ร้อยละ 40 ครูผู้สอนจะตอ้ งสอนซอ่ มเสริมเพอื่ ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจเพ่ิมขึ้น
ลงช่ือ ...................................................ผู้ประเมนิ
(...................................................)
ผลติ ภณั ฑ์เคร่ืองหอมไทยเชิงธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอย่ี มสะอาด
41
แบบประเมนิ ทกั ษะการปฏิบัตงิ าน
วิชา ผลติ ภัณฑเ์ ครื่องหอมไทยเชิงธุรกิจ รหัสวิชา 30406 – 2107 หนว่ ยการเรียนท่ี 1
ชื่อหน่วย ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับเคร่ืองหอมไทย
เร่อื ง/งาน ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกบั เครื่องหอมไทย
ช่ือผลงาน............................................................................................................................. ......................
ช่อื ผปู้ ระดิษฐ์......................................................นามสกลุ ...............................เลขที่............ชัน้ ...............
เวลาในการฝึกปฏบิ ัติ..............................ชว่ั โมง
ผู้ประเมนิ ทักษะการปฏบิ ตั ิงาน ประเมนิ ตนเอง
สมาชกิ ภายในชั้นเรียน
ครผู สู้ อน
รายการประเมนิ ทักษะการปฏิบตั ิงาน
1. ความรบั ผิดชอบในการเตรยี มวัสดุ อุปกรณ์ และเครือ่ งมอื
รายการประเมนิ ถกู ต้องและครบถว้ น บกพรอ่ งเล็กน้อย ไมพ่ ร้อม
1. การเตรยี มวัสดุ
2. การเตรยี มอุปกรณแ์ ละเครื่องมอื
ตรวจประเมินโดยการเชค็ ตามรายการประเมนิ โดยทำเครื่องหมายถูก (√) เทา่ นั้น
2. การปฏิบตั งิ าน
รายการประเมนิ ถูกต้องและครบถ้วน บกพรอ่ งเล็กน้อย ไม่พร้อม
1. ลำดบั ขนั้ ตอนการฝึกปฏบิ ตั ิ
2. การใชว้ ัสดอุ ุปกรณแ์ ละเครื่องมอื
3. การเกบ็ รกั ษาอุปกรณ์และเครือ่ งมือ
ตรวจประเมินโดยการเชค็ ตามรายการประเมินโดยทำเคร่ืองหมายถูก (√) เทา่ น้นั
3. คุณภาพของผลงาน
ประเมนิ โดยให้คะแนนสงู สดุ เป็น 4 และรองลงมาเปน็ 3, 2, 1 นบั เป็นใช้ได้ “ผ่าน” ถา้ ทำไม่ได้
หรอื ไม่มีผลงานสง่ ตามกำหนดให้คะแนนเปน็ 0 ในการประเมินผลพจิ ารณาดังน้ี
รายการประเมิน ระดับ 4 ระดบั 3 ระดับ 2 ระดับ 1 ระดบั 0
1. ความถูกตอ้ ง เรยี บรอ้ ย ปฏบิ ตั งิ านไดต้ ามขน้ั ตอน
2. มคี วามถกู ตอ้ งตามลำดับขน้ั ตอนเหมาะสมสวยงาม
3. ความสมบรู ณข์ องผลงานท่ฝี ึกปฏบิ ัติ
ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
(...................................................)
ผลิตภณั ฑ์เครอื่ งหอมไทยเชงิ ธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอ่ียมสะอาด
42
แบบประเมินการมอบหมายงาน
วชิ า ผลติ ภัณฑเ์ ครอ่ื งหอมไทยเชงิ ธรุ กจิ รหสั วชิ า 30406 – 2107 หน่วยการเรียนที่ 1
ช่อื หน่วย ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับเครื่องหอมไทย
เรื่อง/งาน ความรู้เบื้องต้นเก่ียวกับเครื่องหอมไทย
ชอ่ื ......................................................นามสกลุ ...........................................เลขที.่ ...............ช้ัน...................
คำช้ีแจง ให้ครูเปน็ ผปู้ ระเมินการมอบหมายงานจากการเรียนรู้ เรือ่ ง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกบั เครื่องหอม
ไทย ดังนี้
รายการประเมนิ การมอบหมาย ดมี าก ดี พอใช้ ปรับปรุง
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
1. ปฏิบตั ิงานด้วยความสะอาด เรยี บร้อย สวยงาม
2. ปฏิบตั ติ ามขอ้ กำหนดจากใบมอบหมายงานอย่างถกู ต้อง
3. มคี วามละเอยี ด รอบคอบ ถกู ตอ้ งชัดเจน
4. มีความคิดรเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ ปฏบิ ัติงานถกู ต้องเหมาะสม
5. ตรงตอ่ เวลาและมีความรบั ผิดชอบต่อหน้าท่ี
6. คุณภาพของผลงาน
รวม
เกณฑ์การประเมนิ
รายการประเมนิ ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
(3 คะแนน) (2 คะแนน) (1 คะแนน) (0 คะแนน)
1. ปฏิบตั ิงานดว้ ยความสะอาด ทำความสะอาด ทำความสะอาด ทำความสะอาด ไ ม ่ ท ำ ค ว า ม
เรยี บรอ้ ย สวยงาม เรยี บร้อยดมี าก เรียบร้อยดี เรยี บร้อยพอใช้ สะอาด
2. ปฏิบัติตามข้อกำหนดจาก ป ฏ ิ บ ั ต ิ ต า ม ป ฏ ิ บ ั ต ิ ต า ม ป ฏ ิ บ ั ต ิ ต า ม ไม่ปฏิบัติตาม
ใบมอบหมายงานอยา่ งถูกตอ้ ง ข้อกำหนดจาก ข้อกำหนดจาก ข้อกำหนดจากใบ ข้อกำหนดจาก
ใ บ ม อ บ ห ม า ย ใ บ ม อ บ ห ม า ย มอบหมายงานได้ ใบมอบหมาย
งานได้ถูกต้องดี งานได้ถกู ต้องดี ถูกตอ้ งพอใช้ งานได้ถูกต้องดี
มาก มาก
3. มีความละเอียด รอบคอบ ปฏิบัติงานดว้ ยมี ปฏิบัติงานดว้ ยมี ปฏิบัติงานด้วยมี ปฏิบัติงานไม่
ถกู ต้องชดั เจน ความละเอียด ความละเอียด ความละเอียด ความละเอียด
ร อ บ ค อ บ ร อ บ ค อ บ รอบคอบ ถูกต้อง ไ ม ่ ร อ บ ค อ บ
ถูกต้องชัดเจนดี ถกู ต้องดี พอใช้ และไม่ถกู ตอ้ ง
มาก
ผลติ ภัณฑเ์ ครื่องหอมไทยเชงิ ธุรกิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
43
แบบประเมินกจิ กรรมทบทวนความรู้
วิชา ผลิตภณั ฑ์เครอ่ื งหอมไทยเชิงธุรกจิ รหสั วชิ า 30406 – 2107 หน่วยการเรยี นที่ 1
ชือ่ หน่วย ความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับเครื่องหอมไทย
เรื่อง/งาน ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกบั เครื่องหอมไทย
ชือ่ ...............................................นามสกุล......................................เลขท่ี........................ชนั้ ..........................
คำชแ้ี จง ให้ครูเปน็ ผู้ประเมินกจิ กรรมทบทวนความรูจ้ ากการเรียนรู้ เรื่อง ความรู้เบ้ืองต้นเกี่ยวกับเครื่องหอม
ไทย ตามรายการประเมนิ ดงั นี้
รายการประเมนิ การมอบหมายงาน ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
1. ปฏิบัติกจิ กรรมทบทวนความรคู้ รบทัง้ 10 ข้อ (3 (2 (1 (0
2. ปฏิบัติกิจกรรมทบทวนความร้คู รอบคลุมกับเน้ือหา คะแนน) คะแนน) คะแนน) คะแนน)
3. ปฏบิ ตั ิงานดว้ ยความสมบูรณต์ ามเน้อื หาสาระความรู้
4. จดั ส่งกจิ กรรมทบทวนความรตู้ ามเวลาทก่ี ำหนด
5. ใส่ใจในรายละเอียดตามข้อกำหนดของกจิ กรรมทบทวน
ความรู้
รวม
เกณฑ์การประเมิน ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ
รายการประเมิน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน 0 คะแนน
1. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมทบทวน ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม ปฏบิ ัติกิจกรรม
ความรู้ครบทง้ั 10 ขอ้ ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้
ครบทงั้ 10 ขอ้ ครบทั้ง 7-9 ขอ้ ครบทง้ั 4-6 ขอ้ ครบทงั้ 1-3 ข้อ
ดมี าก ดี พอใช้ ปรบั ปรงุ หาก
ปฏิบัติกิจกรรม
ทบทวนความรไู้ ม่
ครบการประเมนิ
จะเปน็ ศนู ย์ (0)
ผลิตภณั ฑ์เคร่ืองหอมไทยเชงิ ธรุ กิจ (30406 - 2107) จาตรุ งค์ เอยี่ มสะอาด
44
เกณฑก์ ารประเมนิ (ตอ่ ) ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
รายการประเมนิ 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ปฏิบตั ิกจิ กรรม ปฏิบตั กิ จิ กรรม 0 คะแนน
2. ปฏบิ ัติกิจกรรมทบทวน ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้
ความรู้ครอบคลุมกับเนอ้ื หา ครอบคลุมกับ ครอบคลุมกบั ครอบคลุมกับ ปฏิบตั กิ จิ กรรม
เนอื้ หาครบถ้วน เนื้อหาครบถ้วน เน้อื หาครบถว้ น ทบทวนความรู้
3. ปฏบิ ตั ิงานด้วยความสมบูรณ์ ถกู ต้อง ดมี าก ถูกต้อง ดี พอใช้ ไม่ครอบคลุม
ตามเนือ้ หาสาระความรู้ ปฏิบัตงิ านมี ปฏิบัติงานมี ปฏิบตั ิงานมี กับเน้อื หา
ความสมบูรณ์ ความสมบูรณ์ ความสมบรู ณ์ ปรบั ปรงุ
4. จดั สง่ กจิ กรรมทบทวนความรู้ ตามเน้อื หาสาระ ตามเนอ้ื หาสาระ ตามเนอ้ื หาสาระ
ตามเวลาทก่ี ำหนด ความรู้ ดมี าก ความรู้ ดี ความรู้ พอใช้ ปฏิบัตงิ านขาด
ความสมบูรณ์
5. ใสใ่ จในรายละเอียดตาม จดั ส่งกจิ กรรม จัดส่งกจิ กรรม จัดส่งกิจกรรม ตามเน้อื หา
ข้อกำหนดของกิจกรรมทบทวน ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้ ทบทวนความรู้ สาระความรู้
ความรู้ ตามเวลาที่ กว่ากำหนด 1 กว่ากำหนด 3 ปรับปรุง
กำหนด วัน วัน
ใส่ใจใน ใสใ่ จใน ใส่ใจใน จดั ส่งกิจกรรม
รายละเอียดตาม รายละเอียดตาม รายละเอยี ดตาม ทบทวนความรู้
ข้อกำหนดของ ขอ้ กำหนดของ ขอ้ กำหนดของ กวา่ กำหนด 3
กิจกรรมทบทวน กิจกรรมทบทวน กิจกรรมทบทวน วัน ข้นึ ไป
ความรู้ ดีมาก ความรู้ ดี ความรู้ พอใช้
ไม่ใสใ่ จใน
รายละเอียด
ตามข้อกำหนด
ของกจิ กรรม
ทบทวนความรู้
ปรบั ปรงุ
เกณฑผ์ า่ นการประเมินตามแบบประเมนิ ทักษะการปฏบิ ัตงิ าน
หน่วยการเรียนท่ี 1 ความรู้พ้ืนฐานงานดอกไมป้ ระดิษฐ์
ระดบั ช่วงคะแนน
นกั เรียนปฏิบัติรายการประเมินได้ 11 - 12 ดเี ยย่ี ม คดิ เปน็ ร้อยละ 100
นกั เรียนปฏบิ ตั ิรายการประเมินได้ 8 - 10 ดีมาก คดิ เป็นร้อยละ 80
นักเรียนปฏิบตั ิรายการประเมินได้ 4-7 ดี คิดเปน็ รอ้ ยละ 60
นักเรียนปฏบิ ตั ิรายการประเมินได้ 1-3 พอใช้ คิดเปน็ ร้อยละ 40
นกั เรียนปฏบิ ัติรายการประเมินได้ 0 ปรับปรุง คดิ เป็นรอ้ ยละ 20
ผลิตภณั ฑเ์ คร่ืองหอมไทยเชิงธุรกจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอยี่ มสะอาด
45
ผลติ ภณั ฑ์เคร่อื งหอมไทยเชิงธรุ กจิ (30406 - 2107) จาตุรงค์ เอ่ียมสะอาด