The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ธันยวัฒน์ เชิญแก้ว, 2021-11-07 03:17:29

วิชาภาษาไทยเพื่ออาชีพ

หน่วยที่ ๑ การใช้ภาษาไทยในงานอาชีพ

คณุ ครูธนั ยวฒั น์ เชญิ แกว้





วัฒนธรรม ภาษาองั กฤษใชค้ าว่า “Culture” แปลว่าสภาพทาใหเ้ จริญงอกงามภาษา เป็น
มรดกทางวฒั นธรรมสาขาหน่ึง และเป็นวฒั นธรรมท่ีเหนียวแน่นมาก และมีการปรบั ปรุงเพ่ือใหเ้ ห็นว่า
ภาษามีชีวิต วฒั นธรรมภาษาจึงเป็นเคร่ืองมือวดั ความเจริญของชาติว่ามีวฒั นธรรมสงู ส่งสง่าเพียงใด
เห็นไดง้ ่าย ๆ จากผคู้ นท่ีไดร้ บั การอบรมจะพดู จาน่าฟัง ผทู้ ่ีไม่ไดร้ บั การอบรมจะพูดจามีนา้ เสียงกระโชก
โฮกฮาก ไมอ่ ่อนหวาน

การถ่ายทอดวฒั นธรรมถึงกนั ในสงั คมส่วนใหญ่อย่ทู ่ีภาษาท่ีส่ือสาร ส่ือความรูส้ ึกแก่กนั และ
กันภาษาไทยนบั เป็นภาษาท่ีแสดงใหเ้ ห็นอดีตอันรุ่งเรืองมานานหลายรอ้ ยปี ภาษามีการเรียบเรียงคา
อย่างมีจงั หวะ มีความไพเราะของเสยี งและมีความหมายลกึ ซงึ้ จบั ใจในการใชภ้ าษา

๑. ประเทศไทยใช้ภาษาไทยเป็นภาษากลาง ซ่ึงมีการถ่ายทอดสืบต่อกันมายาวนานเป็น
วฒั นธรรมและเป็นเอกลกั ษณข์ องชาติ

๒. ภาษาย่อมเกิดจากการเรียนรู้ การเรียนรูน้ นั้ เป็นเร่อื งของส่ิงแวดลอ้ มเป็นตวั กาหนด การ
เรยี นรูภ้ าษาของมนษุ ยน์ นั้ เรม่ิ ตงั้ แตว่ ยั เดก็

๓. ภาษาเป็นเครอ่ื งมือสาหรบั การส่อื สาร ภาษาใชส้ าหรบั ส่ือความหมายระหว่างผสู้ ง่ สารและ
ผรู้ บั สารใหเ้ ขา้ ใจตรงกนั

๔. ภาษามีโครงสรา้ ง ประกอบด้วยหน่วยท่ีเล็กท่ีสุด คือ หน่วยเสียง หน่วยเสียงต่าง ๆ
ประกอบกนั เป็นหนว่ ยคาและคาประกอบกนั เขา้ กลายเป็นประโยค เป็นตน้

๕. ภาษาไมม่ ีกฎเกณฑท์ ่ีแน่นอนตายตวั ทกุ ภาษามีโครงสรา้ งหลกั ซ่งึ บางครงั้ มีกฎเกณฑห์ รอื
แบบแผนไม่แนน่ อนตายตวั เสมอไป

๖. ภาษาทุกภาษาย่อมมีค่าแห่งความเป็นภาษาเท่าเทียมกัน ภาษาของกล่มุ ชนใดย่อมใช้
ส่อื สารไดด้ สี าหรบั กลมุ่ ชนนนั้

๗. ภาษามีระดบั
๘. ภาษาย่อมมีความหมาย ความหมายเป็นองคป์ ระกอบอยา่ งหน่งึ ของภาษา

ภาษาไทยมีตวั อกั ษรเป็นของตนเองมีพยญั ชนะ ๔๔ ตวั ลกั ษณะเฉพาะดงั นี้

๑.๓.๑ พยญั ชนะ
๑. ความหมายของพยัญชนะ
พยญั ชนะ หมายถึง ตวั อกั ษรหรอื ตวั หนงั สือ พยญั ชนะท่ีใชใ้ นภาษาไทย มี ๔๔ ตวั คอื

ตารางพยัญชนะไทย ๔๔ ตัว

กขฃคฅฆง จ
ฉ ช ซ ฌญฎ ฏ ฐ
ฑฒณด ต ถ ท ธ
นบปผ ฝ พฟภ
มยร ลว ศษส
ห ฬอ ฮ

๒. หน้าทขี่ องพยัญชนะ

(๑) เป็นพยญั ชนะตน้ เชน่ นอ้ ง สวย มาก
(๒) เป็นตวั สะกด เชน่ บา้ น หลงั เลก็
(๓) เป็นอกั ษรนา เชน่ จมูก ตลาด ปรอท
(๔) เป็นอกั ษรย่อ เชน่ กม. พ.ศ. ด.ญ.

๑.๓.๒ สระ
สระ หมายถึง เคร่ืองหมายใช้แทนเสียงท่ีเปล่งออกมา ตามหลักภาษาถือว่าพยัญชน ะ

จาเป็นตอ้ งอาศยั สระจงึ จะออกเสียงได้

๑. รูปสระ
รูปสระในภาษาไทยมี ๒๑ รูป ดงั นี้

ตารางรูปสระ

รูปสระ ช่อสระ รูปสระ ช่อสระ
ะ วิสรรชนีย์ ไมม้ ว้ น
ั ไมห้ นั อากาศหรอื ไมผ้ ดั ไ ไมม้ ลาย
ไมไ้ ตค่ ู้ ไมโ้ อ
า ลากขา้ ง อ ตวั ออ
พนิ ทุ หรอื พนิ ทอุ์ ิ ย ตวั ยอ
’ ว ตวั วอ
" นทอง ตวั ฤ (ร)ึ
ฟันหนู ตวั ฤ (รอื )
นฤคหิต หรอื หยาดนา้ คา้ ง
ตวั (ล)ึ
ตีนเหยียด ตวั (ลอื )
ู ตีนคู้

ไมห้ นา้

๒. สยี งสระ

เสยี งสระในภาษาไทยมี ๓๒ เสยี ง ดงั นี้
ตาราง สยี งสระ

๑. อะ ๘. อู ๑๕. เอือะ ๒๒. ออ ๒๙. ฤ
๒๓. เออะ ๓๐. ฤ
๒. อา ๙. เอะ ๑๖. เอือ ๒๔. เออ ๓๑.
๒๕. อา ๓๒.
๓. อิ ๑๐. เอ ๑๗. อวั ะ ๒๖. ใอ
๒๗. ไอ
๔. อี ๑๑. แอะ ๑๘. อวั ๒๘. เอา

๕. อึ ๑๒. แอ ๑๙. โอะ

๖. อือ ๑๓. เอียะ ๒๐. โอ

๗. อุ ๑๔. เอีย ๒๑. เอาะ

๑.๓.๓ วรรณยกต์

วรรณยกุ ต์ หมายถึง เคร่อื งหมายท่ีแสดงเสียงสงู ต่า ของคาในภาษาไทยมี ๕ เสียง คือ สามญั
เอก โท ตรี จตั วา แตม่ ี ๔ รูป คอื (เอก) (โท) (ตร)ี (จตั วา)

ตารางวรรณยกต์ ( อก) ้ (ตรี) (จตั วา)
( ท)
วรรณยกต์
คา

ตี ต่ี ตี้ ตี ตี

ปา ป่า ปา้ ปา ปา

ชาตไิ ทย เป็นชาติท่ีมีอารยธรรมทดั เทียมกบั อารยประเทศทงั้ หลาย อารยธรรมประการหน่งึ ของ
ชาติ คือ ภาษาไทย ท่ีแสดงออกมาเป็นอปุ มาอปุ ไมย คาพงั เพย สภุ าษิต และคาคมตา่ ง ๆ

๑.๔.๑ อปมา อปไมย

คาว่า อุปมาอุปไมย พจนานกุ รมฉบบั ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๔๒ ใหค้ วามหมายไวว้ ่า
“การเปรยี บเทียบกนั ”

ตวั อยาง
ตารางอปมาอปไมย

อปมา อปไมย ความหมาย ตวั อยาง
ปากหวาน
ก. พดู จาออ่ นหวาน ใคร ๆ ก็ชมชอบเขาทงั้ นนั้ เพราะเขาเป็น
ป้ายสี
คนปากหวานวา่ ใครไมเ่ ป็น

ก. กลา่ วใหร้ า้ ย, โยนความผดิ ให้ เขาอยใู่ นวงการเมืองไดไ้ ม่นาน พอถกู ให้

, ทาใหม้ วั หมอง รา้ ยปา้ ยสีจนเบ่อื หนา่ ย ราคาญ ทาตวั

บรสิ ทุ ธิผดุ ผอ่ งแลว้ เขาก็ขอลาออก แลว้ ไม่

กลบั เขา้ ไปอีกเลย

ตารางอปมาอปไมย

อปมา อปไมย ความหมาย ตัวอยาง
ปดหู ปดตา ปดปาก ก. ระมดั ระวงั มิใหค้ วามช่วั รา้ ย ส่งิ ช่วั รา้ ยตา่ ง ๆ ท่ีจะเขา้ ไปสจู่ ิตใจของ
เขา้ ไปในชีวติ คนเรานนั้ ก็เขา้ ทางตา หู และปากของเรา
ปดทองหลังพระ นีเ้ อง ใครก็ตามถา้ สามารถท่ีจะปิดหู
พระอฐพระปนู ก. ทาบญุ ไม่เอาหนา้ ปิดตา ปิดปาก โดยไมใ่ หค้ วามช่วั รา้ ย
ตา่ ง ๆ เขา้ ไปไดแ้ ลว้ นบั วา่ เป็นคนท่ีดไี ด้
ว. น่ิงเฉย, วายเฉย, ไมเ่ ดือดรอ้ น (สารคดี ก ไก่ โดยวชิ า ภรณ์ แสงมณี)

จะแน่วแนแ่ กไ้ ขในส่งิ ผดิ จะรกั ชาตจิ นชีวติ
เป็นผยุ ผง จะยอมตายหมายใหเ้ กียรติ
ดารง จะปิดทองหลงั องคพ์ ระป มิ า

พรุง่ นีจ้ ะสอบอยแู่ ลว้ นะ ทาไมไมอ่ ่าน
หนงั สอื มาน่งั น่ิงเฉย ทาตวั เป็นพระอิ
พระปนู อยไู่ ด้

๑.๔.๒ สานวน

สานวนไทยมีหลายลกั ษณะ คือ

๑. สานวนท่ีเป็นพยางคเ์ ดียว เช่น นายมานะบอกว่าขอ้ สอบวิชาภาษาไทยนีห้ มู ๆ จริง ๆ
หมายถงึ ง่าย สบาย ๆ

๒. สานวนท่ีเป็นสองพยางค์ เช่น สายสมรใจเซาะเป็นปลาซิว หมายถึง ขีข้ ลาด ขีก้ ลวั วิชยั
ถกู เพ่ือนลอ้ วา่ เป็นไก่ออ่ น หมายถงึ ออ่ นหดั ไม่ชานาญ

๓. สานวนท่ีเป็นคามากกว่าสองพยางค์ เช่น พวกเราอย่าทางานใหถ้ อยหลงั เขา้ คลองนะ
หมายถึง กลบั ไปสแู่ บบเก่า

๑.๔.๓ สภาษตและคาพงั พย

สุภาษิตและคาพังเพย หมายถึง คาหรือข้อความท่ีกล่าวขึน้ กลาง ๆ เพ่ือให้ใช้ตีความ
เปรยี บเทียบกบั เรอ่ื งราวท่ีเกิดขนึ้ โดยเป็นนยั ใหค้ ดิ หรอื เป็นคตสิ อนใจ เช่น

ตัวอยาง สภาษต คาพงั พย รกั ยาวใหบ้ ่นั รกั สนั้ ใหต้ อ่
ข่ีชา้ งจบั ตกั แตน
รกั ววั ใหผ้ กู รกั ลกู ใหต้ ี นา้ มาปลากินมดนา้ ลดมดกินปลา
งมเข็มในมหาสมทุ ร เดก็ เลยี้ งแกะ
ราไมด่ ีโทษป่ีโทษกลอง กระตา่ ยตืน่ ตมู
กินบนเรอื นขีร้ ดบนหลงั คา
ปั้นนา้ เป็นตวั

ตวั อยาง สภาษตและคาพงั พย
๑. กบ นกะลาครอบ

สานวนคาพงั เพยนีห้ มายถึง ผทู้ ่ีมีความรูแ้ ละประสบการณน์ อ้ ย เหมือนกบท่ีถกู กะลาครอบไว้
แตส่ าคญั ตนวา่ มีความรูม้ าก

๒. กวนนา้ หข้ น
สานวนคาพงั เพยนีห้ มายถึง ผทู้ ่ีมีนิสยั ท่ีชอบย่งุ เร่อื งของคนอ่ืน เปรียบเหมือนคนท่ีชอบยแุ ยง

ตะแคงร่วั ทาเรอ่ื งสงบใหก้ ลายเป็นวนุ่ วาย

๓. แกงจดจงึ รู้คณ กลอ
สานวนคาพงั เพยนี้ จะรูค้ า่ ของสง่ิ ใด ก็ต่อเม่ือของส่งิ นนั้ เสยี ไปแลว้

๔. กลอ ปนหนอน
สานวนคาพงั เพยนีห้ มายถงึ คนผกู พนั เป็นเพ่ือนสนิทพวกเดยี วกนั หรอื คนท่ีอย่ใู นบา้ นเดียวกนั

ทรยศไมซ่ ่อื ตอ่ กนั

๕. ไกงาม พราะขน คนงาม พราะแตง
สานวนคาพงั เพยนีเ้ ปรยี บเทียบว่า ไก่นนั้ สวยงามเพราะมีขนสวยและคนจะสวยงามได้ ก็ตอ้ ง

ใชว้ ิธีแตง่ เตมิ ทาแปง้ ทาปาก

ตัวอยางสภาษตและคาพงั พย : ไกงาม พราะขน คนงาม พราะแตง

๖. นา้ มาปลากนมด นา้ ลดมดกนปลา
สภุ าษิตนีห้ มายถึงการมีโอกาสหรือมีจงั หวะดีในการท่ีจะทาอะไรไดเ้ ปรียบกว่าอีก ่ าย เช่น

หลงั จากเขาไดร้ บั เลอื กเป็นหวั หนา้ ในการดแู ลงานนี้ ก็เอาแตก่ ดข่ีข่มเหงคนอ่ืน

ตัวอยางสภาษตและคาพงั พย : นา้ มาปลากนมด นา้ ลดมดกนปลา

๑.๔.๔ คาราชาศัพท์
คาราชาศัพท์ หมายถึง ศัพท์ถ้อยคาเฉพาะท่ีใชก้ ับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์

พระภิกษุ รวมถงึ คาสภุ าพท่ีใชส้ ่อื สารกนั ท่วั ไปดว้ ยคาราชาศพั ทท์ ่ีพบมีดงั นี้

๑. เป็นคาราชาศพั ทโ์ ดยเฉพาะ เชน่ คาวา่ ทอดพระเนต
๒. คาธรรมดาท่ีนามาใชเ้ ป็นคาราชาศพั ทโ์ ดยการเติม พระ พระราช ทรง ทรงพระ นาหนา้
ทาใหก้ ลายเป็นคาราชาศพั ท์

ประโยค คือ ถ้อยคาท่ีมีความเก่ียวขอ้ งกันถูกตอ้ งตามระเบียบของภาษาและมีเนื้อความ
บรบิ รู ณ์ ประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง.

๑.๕.๑ องคป์ ระกอบของประ ยค
คาท่ีนามาเรยี งกนั จะเป็นประโยคไดก้ ็ตอ่ เม่ือมีภาคประธานและภาคแสดง นอกจากนีป้ ระโยค

มีองคป์ ระกอบอ่ืน ๆ ดงั แผนภมู ิ

องคป์ ระกอบของประ ยค

๑.๕.๒ รูปประ ยค

รูปประโยคในภาษาไทยเรยี งจากประธาน ไปกรยิ า แลว้ จึงถึงกรรม ตามลาดบั และถือเป็นเร่อื ง
สาคญั ย่ิง ถา้ เรยี งผิดท่ีความหมายจะเปล่ยี นไป เช่น

เสือกินววั ถา้ วางสลบั ท่ีกนั จะเป็น ววั กินเสอื
ครูบา้ นนอก ถา้ วางสลบั ท่ีกนั จะเป็น ครูนอกบา้ น
แม่อมุ้ ลกู ถา้ วางสลบั ท่ีกนั จะเป็น ลกู อมุ้ แม่

ตารางว คราะหป์ ระ ยค

ประ ยค คา ประธาน คา กรยา คา กรรม คาขยาย
ชอ่ ม เธอ ขยาย ขยาย –
เธอจะเรยี นวชิ า วิชาภาษาไทย
ภาษาไทยหรอื หรอื เธอ – เรยี น จะ หรอื
เธอจะเรยี นวชิ า
คณิตศาสตร์ – เรยี น จะ วชิ าคณิตศาสตร์

๑.๕.๓ ชนดของประ ยค

๑. ชนดของประ ยค นภาษาไทยจาแนกตาม จตนาผู้สงสาร มี ๔ ชนด คอ

(๑) ประโยคบอกเลา่ หรอื ประโยคแจง้ ใหท้ ราบ เช่น ธรรมะย่อมชนะอธรรม
(๒) ประโยคคาถาม จะมีคาท่ีแสดงคาถามกากับอยู่ ๒ ลกั ษณะ คือ ตอ้ งการคาตอบท่ีเป็น
เนือ้ ความและตอ้ งการเพียงการตอบรบั หรอื ป ิเสธเทา่ นนั้
(๓) ประโยคป ิเสธ จะมีคาว่า ไม่ ประกอบอย่เู พ่ือแสดงใหเ้ ห็นว่ามีความหมายตรงกนั ขา้ มกบั
ประโยคบอกเลา่ เชน่ วนั นาไมเคยกินสม้ ตา
(๔) ประโยคคาส่งั และขอรอ้ ง เป็นประโยคท่ีมีลกั ษณะส่งั ใหท้ าหรอื ขอรอ้ งใหป้ ิบตั ิ

๒. ชนดของประ ยค นภาษาไทยจาแนกตามลักษณะ มี ๓ ชนด คอ
(๑) ประโยคความเดยี ว (เอกตั ถประโยค) คือ ประโยคท่ีมีใจความเดียว หมายถึง มีบทประธาน

และบทกิรยิ าบทเดียว เชน่

– กอ้ ยเลน่ แบดมนิ ตนั ทสี่ โมสร
– ฉนั กาลงั อ่านหนงั สอื สารคดดี ว้ ยความสนใจ
– นอ้ ง ๆ ชนั้ ปีที่ ๑ เชอื่ ฟังพวกเราพชี่ นั้ ปี ๒ อยา่ งดี

ข้อสัง กต ประโยคความเดยี ว สนั ธานท่ีใชเ้ ช่ือมบทกรรมหรอื วิเศษณเ์ ป็นการเช่ือมคา
(๒) ประโยคความรวม (อเนกัตถประโยค) คือ ประโยคท่ีรวมประโยคความเดียวตั้งแต่

๒ ประโยคขนึ้ ไปเขา้ ดว้ ยกนั โดยมีสนั ธานเป็นเครอ่ื งเช่ือม เชน่

– เก่งทางานบา้ นและรอ้ งเพลงเบา ๆ
– อาหารและยาเป็นส่งิ จาเป็นสาหรบั มนษุ ย์

ข้อสัง กต สนั ธานใชเ้ ช่ือมประธานหรอื กรยิ าเป็นการเช่ือมประโยค

(๓) ประโยคความซอ้ น (สงั กรประโยค) คอื ประโยคท่ีรวมประโยคความเดียว ๑ ประโยคเป็น
ประโยคหลกั แลว้ มีประโยคความเดียวอ่ืนมาเสริม มีขอ้ สังเกตคือ ประโยคหลกั (มขยประ ยค) กับ
ประ ยคยอย (อนประ ยค)

– คณุ ยา่ เอน็ ดูหลานซ่งึ เป็นกาพรา้ ตงั้ แตอ่ ายุ ๒ ปี
– คนทปี่ ระพฤตดิ ยี ่อมมคี วามเจรญิ ในชวี ติ

การใชภ้ าษาไทยในชีวิตประจาวนั มีบางคาท่ีมีความหมายเหมือนกนั แตใ่ ชพ้ ดู และเขียนตา่ งกนั
เพ่ือใหเ้ หมาะสมกบั บคุ คล เวลา และสถานท่ี เช่น

ตารางการ ช้คา ห้ หมาะสมกับบคคล วลา และสถานท่ี

คาพดู ท่วั ไป คาพดู ก่ึงแบบแผน คาพดู แบบแผน
หมอ คณุ หมอ นายแพทย์ แพทยห์ ญิง
ออกลกู คลอดลกู คลอดบตุ ร
คนไมส่ บาย คนไข้ คนเจ็บ ผปู้ ่วย

ระดบั ของภาษาท่ีใชใ้ นการส่อื สารแบง่ ได้ ๓ ระดบั ดงั นี้
๑.๗.๑ ระดบั พธีการ

ตัวอยาง การใชภ้ าษาระดบั พิธีการ
เน่ืองในโอกาสอนั เป็นมหามงคล ปวงประชาชาวไทยขอนอ้ มเกลา้ ฯ ถวายพระพรชยั ขอใหส้ ่ิง

ศกั ดิสิทธิอนั ทรงมหาพลานภุ าพทงั้ หลาย จงโปรดอภิบาลบนั ดาลดลใหใ้ ต้ ่าละอองธุลีพระบาทจงเจริญ
ดว้ ยม่ิงมหาศภุ สวสั ดิ เจรญิ พระชนมพรรษา

การ ช้ภาษาระดบั พธีการ น่อง น อกาสตาง ๆ : การกลาวถวายพระพร

การ ช้ภาษาระดบั พธีการ น่อง น อกาสตาง ๆ : การกลาวรายงาน

๑.๗.๒ ระดบั กง่ึ พธีการ
ระดบั ก่ึงพิธีการหรือเรียกว่าภาษา ระดบั ก่ึงแบบแผน เป็นภาษาท่ีสุภาพ ถ่ายทอดเร่ืองราว

ท่วั ไป อาจเป็นการแสดงความคิดเห็นเก่ียวกบั เรอ่ื งวิชาการตา่ ง ๆ

ตวั อยาง การ ช้ภาษาระดับกงึ่ พธีการ
ฉะนนั้ ในช่วงท่ีเรยี นอย่ใู นระดบั มธั ยม ผทู้ ่ีมีความขยนั ม่งุ ม่นั จะเขา้ มหาวิทยาลยั ใหไ้ ดจ้ ะไม่

สนใจส่ิงแวดลอ้ มรอบกายทงั้ สิน้ ยกเวน้ ส่ิงท่ีเขาคิดว่าจะสามารถทาใหเ้ ขาสอบเขา้ มหาวทิ ยาลยั ได้ ชีวิต
นกั เรยี นมธั ยมจงึ มีแต่ติว ติว และติว กีฬาฉนั ไม่เล่น กิจกรรมฉนั ไม่มีเวลาทา และย่ิงหอ้ งสมดุ ฉนั ไม่ทราบ
ว่าจะเขา้ ไปทาไม เพราะเวลาทงั้ หมดจะตอ้ งใชท้ อ่ งตาราอยา่ งเดยี ว

การ ช้ภาษาระดับกง่ึ พธีการ นการบรรยายตาง ๆ

๑.๗.๓ ระดบั ไม ปนพธีการ
ระดับไม่เป็ นพิธีการหรือเรียกว่า ระดับไม่เป็ นแบบแผน เป็ นภาษาท่ีใช้สนทนาใน

ชีวติ ประจาวนั ดงั นนั้ อาจใชภ้ าษาท่ีไม่สภุ าพ ภาษาถ่ิน หรอื ภาษาเฉพาะกลมุ่ ใชถ้ ่ายทอดเรอ่ื งราวท่วั ไป
ตัวอยาง การ ช้ภาษาระดบั ไม ปนพธีการ

นกั เรยี นควรทาการบา้ นสง่ ครูทกุ อาทิตย์ จะไดม้ ีคะแนนเก็บปลายเทอม

ตัวอยางภาษาระดับไม ปนพธีการ นหนังสอพมพ์

๑.๘.๑ ถอ้ ยคา

ถอ้ ยคา หมายถึง คากลา่ ว เสียงพดู และลายลกั ษณอ์ กั ษรใชส้ ่ือสารกนั การใช้ถอ้ ยคามีขอ้ ควร
คานงึ ดงั นี้

๑. การออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ ง
๒. การเขยี นใหถ้ ูกตอ้ ง
๓. ใชค้ าใหถ้ ูกตอ้ งตามความหมาย

๑.๘.๒ ประ ยค

ประโยคเกิดจากคาหลาย ๆ คา หรือวลีท่ีนามาเรียงต่อกันอย่างเป็นระเบียบให้แต่ละคา
มีความสมั พนั ธก์ นั ส่วนประกอบของประโยค คือ ภาคประธานและภาคแสดง

ชนดของประ ยค

๑. ประโยคความเดียว คอื ประโยคท่ีมีขอ้ ความหรอื ใจความเดยี ว
๒. ประโยคความรวม คอื ประโยคท่ีรวมเอาโครงสรา้ งประโยคความเดียวตงั้ แต่ ๒ ประโยค
๓. ประโยคความซอ้ น คอื ประโยคท่ีมีใจความสาคญั เพียงใจความเดียว

๑.๘.๓ สานวน

สานวน หมายถึง ถอ้ ยคาท่ีผกู ไวต้ ายตวั สลบั ท่ีกนั หรอื ตดั คาใดออกไม่ได้ อาจตอ้ งตีความก่อน
จึงจะเขา้ ใจความหมายของสานวนนั้น สานวนมีความหมายครอบคลุมไปถึงคาพังเพย ภาษิต แล ะ
สภุ าษิต เม่ือพิจารณาสานวนไทยแลว้ จะเห็นไดว้ า่ มีลกั ษณะเดน่ สรุปดงั นี้

๑. เป็นถอ้ ยคาทมี่ คี ารมคมคาย กนิ ใจผูฟ้ ัง
๒. ใชค้ ากะทดั รดั ไพเราะรนื่ หู
๓. ถา้ มสี องวรรค จะมดี ลุ ของเสยี งและความหมาย


Click to View FlipBook Version