วิชาทักษะภาษาไทยเชิงวิชาชีพ

ราชบณั ฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ (๒๕๕๖ : ๙๙๙, ๖๙๔, ๒๙๐) ใหค้ วามหมายว่า รายงาน
หมายถงึ บอก เรอ่ื งของการงาน ปฏบิ ตั ิ หมายถึง ดาเนินการไปตามระเบียบแบบแผน งาน หมายถึง ส่ิง
หรอื กิจกรรมท่ีทา

นวภรณ์ อ่นุ เรอื น (ม.ป.ป. : ๑๓๖) ใหค้ วามหมายว่า รายงานการปฏบิ ัตงิ าน หมายถึง การ
ชีแ้ จง ดว้ ยการแสดงขอ้ มลู ต่าง ๆ

จากความหมายดงั กลา่ วสรุปไดว้ า่ รายงานการปฏบิ ัตงิ าน หมายถงึ การบอกขอ้ มลู เก่ียวกบั
เรอ่ื งตา่ ง ๆ ท่ีไดร้ บั มอบหมายใหไ้ ปปฏิบตั ิ

รายงานการปฏบิ ัติงานแบ่งออกเป็ น ๒ ประเภท ดังนี้
๑๒.๒.๑ รายงานแบบธรรมดา

รายงานแบบธรรมดา เป็นรายงานท่ีทาตามระยะเวลาท่ีกาหนดไวอ้ ย่างสม่าเสมอ อาจทา
เป็นรายช่วั โมง รายวนั รายสปั ดาห์ รายเดือน รายปี
๑๒.๒.๒ รายงานแบบพเิ ศษ

รายงานแบบพเิ ศษ เป็นรายงานท่ีจดั ทาขนึ้ เป็นครงั้ คราวตามความจาเป็นและความตอ้ งการ
เพ่ือแสดงรายละเอียดของการวเิ คราะหอ์ ดีตหรอื ปัจจบุ นั

๑๒.๓.๑ เสนอรายงานด้วยวาจา
เสนอรายงานดว้ ยวาจาเป็นการบรรยายหรืออธิบายผลการปฏิบตั ิต่อหนา้ ผฟู้ ัง อาจใชอ้ ุปกรณ์

ประกอบการรายงานเพ่ือสรา้ งความนา่ สนใจ

๑๒.๓.๒ เสนอรายงานเป็ นลายลักษณอ์ กั ษร
เสนอรายงานเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรเป็นการรายงานผลการปฏิบตั ิงานท่ีเป็นทางการ มีรูปแบบ

การเขียนท่ีชดั เจน

การเสนอรายงานด้วยวาจา

สามารถเขียนรายงานได้ ๒ วิธี ดังนี้

๑๒.๔.๑ การเขียนรายงานอย่างสัน้ หรือไมเ่ ป็ นทางการ

การเขียนรายงานอย่างสนั้ หรอื ไม่เป็นทางการเป็นรายงานสนั้ ๆ เก่ียวกบั ขอ้ เท็จจรงิ ขอ้ คิดเห็น
การชีแ้ จงเรอ่ื งราว มีองคป์ ระกอบในการเขียน ดงั นี้

๑. ส่วนนา
๒. ส่วนเนือ้ หา
๓. ส่วนลงทา้ ย

๑๒.๔.๒ การเขยี นรายงานอย่างยาวหรือเป็ นทางการ

การเขียนรายงานอย่างยาวหรอื เป็นทางการเป็นรายงานขนาดยาว มีรูปแบบการเขียนตามหลัก
วิชาการ มีองคป์ ระกอบในการเขียน ดงั นี้

๑. ส่วนประกอบตอนต้น ๒. ส่วนเนือ้ หา ๓. ส่วนประกอบตอนทา้ ย

ภาษาทใี่ ช้ในการเขียนรายงานการปฏบิ ตั งิ าน ดังนี้
๑. ใชภ้ าษาเขียนท่ีเป็นแบบแผน
๒. เขียนใหก้ ระชบั ตรงประเด็น
๓. ใชภ้ าษาและถอ้ ยคาสานวนท่ีคงเสน้ คงวา ไมเ่ ปล่ยี นไปเปล่ยี นมา
๔. เขียนตวั สะกดถกู ตอ้ งตามหลกั การเขียน

ซงึ่ ประโยชน์มดี ังนี้
๑. เป็นการประเมินผลการปฏิบตั ิงาน
๒. เป็นขอ้ มลู ท่ีใชป้ ระกอบการพจิ ารณาอนมุ ตั โิ ครงการ
๓. เป็นส่อื กลางในการติดตอ่ ระหวา่ งผรู้ ว่ มงานใหเ้ กิดความเขา้ ใจท่ีดตี อ่ กนั
๔. เป็นขอ้ มลู ท่ีใชเ้ ผยแพรค่ วามกา้ วหนา้ ของงาน ท่ีอาจก่อใหเ้ กิดผลดตี อ่ หน่วยงานและสงั คม