The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การเขียนโค้ด สำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 3-6 ปี

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by makeno0507, 2021-07-03 04:54:40

คู่มือการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การเขียนโค้ด สำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 3-6 ปี

คู่มือการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ การเขียนโค้ด สำหรับเด็กปฐมวัย อายุ 3-6 ปี

2. นาทาการทดลองรว่ มกันกับเดก็ เกี่ยวกับการเกดิ ฝน โดยเทน้าใสภ่ าชนะแลว้ ตม้ ให้เดก็ สงั เกตการเปล่ยี นแปลงที่เกดิ ขึ้น เม่อื นากระจก
มาองั ไอนา้ ทีร่ ะเหยออกมา แลว้ ร่วมกันสรปุ และอภิปรายผลการเรียนรู้

3. นาเด็กมาทากจิ กรรมตามใบกิจกรรมท่ี 6.1 – 6.4

กจิ กรรมท่ี 6.1 กิจกรรมที่ 6.2

กจิ กรรมที่ 6.3 กิจกรรมท่ี 6.4

48

สื่อ อุปกรณแ์ ละแหลง่ การเรยี นรู้
1. ฟิวเจอรบ์ อรด์
2. กระดาษสี
3. กระดาษหนงั สอื พิมพ์
4. ดินนา้ มนั
5. กล่องนม
6. กาว/เทปกาว
7. อุปกรณป์ ระกอบการทดลองเกีย่ วกบั การเกิดฝน ได้แก่ เตา, หมอ้ ต้มน้า, กระจก

การวัดและการประเมินผล
1. สังเกตจากการตอบคาถาม
2. สังเกตจากการร่วมกจิ กรรม
3. สังเกตจากการปฏิบัตหิ รือทดลองจรงิ
4. แบบบนั ทกึ การประเมินผลการเรยี นรทู้ ้ายเลม่ ของหนังสอื ชุดการเขียนโค้ดสาหรับเด็กปฐมวยั อายุ 4-5 ปี

บันทึกผลการประเมนิ * ธรรมชาติรอบตวั

หวั เร่อื งท่ี 6. โลกสีน้าเงิน

พัฒนาการด้านสติปัญญา ใบกิจกรรม 6.1 ใบกิจกรรม 6.2 ใบกิจกรรม 6.3 ใบกิจกรรม 6 .4

มฐ.9 ใช้ภาษาสอื่ สารได้เหมาะสมกบั วัย

9.1 สนทนาโตต้ อบและเลา่ เร่อื งให้ผอู้ นื่ เขา้ ใจ

9.2 อ่าน เขยี นภาพและสญั ลกั ษณไ์ ด้

มฐ.10 มีความสามารถในการคิดทเี่ ปน็ พนื้ ฐานในการเรยี นรู้

10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชิงเหตุผล

10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและตดั สนิ ใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มเี จตคตทิ ด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวยั

12.2 มเี จตคติท่ดี ตี อ่ การเรียนรู้

12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นรู้จากผลงานจริงของเดก็ โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแตล่ ะใบกจิ กรรม

ระดบั คะแนนคุณภาพ (Rubrics)
3 ปฏิบตั ิได้ดี หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดค้ ล่องแคลว่ และมน่ั คง
2 ปฏบิ ตั ไิ ด้ หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมได้บางครั้งแต่ยังไม่คล่องแคล่ว
1 ควรสง่ เสริม หมายถึง ยังแสดงพฤตกิ รรมไดไ้ มช่ ัดเจน

49

7. เรื่อง แมส่ สี รา้ งสรรค์ สปั ดาหท์ ่ี วันท่ี / / ถึงวนั ท่ี / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. แก้ปัญหาอยา่ งง่ายไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกับวยั
2. แสดงลาดับข้นั ตอนการทางานโดยใช้ภาพ และ/หรือลกั ษณะ
3. เขยี นโค้ดอย่างงา่ ยโดยใชส้ ื่อแบบไมใ่ ชค่ อมพวิ เตอรไ์ ดเ้ หมาะสมกบั วยั
สาระทคี่ วรเรียนรู้ : สิ่งต่าง ๆ รอบตวั เด็ก “ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตัวเดก็ มสี สี นั หลากหลายทั้งเหมอื นกนั และแตกต่างกนั ”
ประสบการณส์ าคญั : การใชภ้ าษา การคดิ พื้นฐานในการเรยี นรู้ การคิดเชงิ คานวณ การเขยี นโคด้ อย่างงา่ ย
ดา้ นรา่ งกาย 1.1.2(2)
ด้านอารมณ์จติ ใจ 1.2.1(5)
ดา้ นสังคม 1.3.5(1), 1.3.6(1)
ดา้ นสตปิ ญั ญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4), 1.4.2(10)
แนวทางการจดั กิจกรรมประสบการณก์ ารเรยี นรู้ (Active Learning)

1. จัดกจิ กรรมเพอ่ื ปูพ้ืนฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เรื่อง แม่สีสร้างสรรค์
(ดูแนวทางการจดั กิจกรรมได้จากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรบั เด็กอายุ 4-5 ปี หน่วยที่ 26)

ข้ันนา Science ขนั้ สอน Technology & ขน้ั สรุป
Mathematic Engineering
1. ครูนาต้งั คาถามท่ี (T1-T3 & E1-E6) 5. ครูนาสรปุ และ
สนใจเกย่ี วกบั การ (S1-S3) (M1-M6) อภิปรายผลการเรียนรู้
เปลยี่ นแปลงของสงิ่ 4. ครชู วนเด็กมาประดิษฐ์ภาพ รว่ มกนั และประเมินผล
ต่างๆเชน่ 2. ครูนาสีโปสเตอร์ พร้อม 3 ครูนาภาพตน้ ส้มทม่ี ี ผล วาดระบายสี “ภาพตน้ ส้ม” โดย พัฒนาการเดก็ แต่ละคน
- เด็ก ๆ รู้จักสี อุปกรณ์มาให้ เด็ก ๆ ไดท้ ดลอง สม้ หลายผลมาให้เดก็ ๆดู กาหนดเงือ่ นไขคอื ”ครใู ห้สี หลงั สิ้นสุดกจิ กรรม
อะไรบา้ ง และเรียนรกู้ ารผสมสีของแมส่ ี - ในภาพเดก็ ๆ เหน็ โปสเตอร์ เฉพาะแมส่ แี ดง,
- เดก็ ๆ คดิ วา่ ถา้ นาสี (แดง, เหลือง, น้าเงนิ ) อะไรบา้ ง เหลอื ง, นา้ เงิน เดก็ ๆต้องวาด
ตา่ ง ๆ มาผสมกันจะ - ใหเ้ ด็กๆ คาดคะเนวา่ ถา้ นาสี - มีสม้ จานวนกี่ผล ภาพ ระบายสีตน้ สม้ ใหม้ ใี บและ
เกิดอะไรข้ึน ต่างๆมาผสมกันจะเป็นอย่างไร - มีใบสม้ ก่ใี บ ผลที่มีสเี หมือนจริง”
- ทดลองผสมสีตา่ ง ๆ เข้าด้วยกนั - เปรียบเทียบจานวนผลสม้ - ครแู บ่งเด็กออกเป็นกลมุ่ ย่อย
แล้วให้เดก็ สังเกตการ และใบสม้ แล้วใหส้ ารวจวสั ดอุ ุปกรณท์ จ่ี ะใช้
เปล่ยี นแปลง - ให้เดก็ นับจานวนเม่อื ประดิษฐ์
- สนทนาและนาเสนอการ นาเอาผลส้มสองกล่มุ มา - ใหเ้ ด็กแตล่ ะกลุม่ รว่ มกัน
เปล่ียนแปลงท่ีพบ รวมกัน ออกแบบและประดษิ ฐภ์ าพวาด
- ผลส้มและใบส้มมสี ีอะไร ระบายสีตน้ สม้ ตามเงอ่ื นไข
- แต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอ
ผลงาน

50

2. นากระถางท่ปี ลกู ต้นสม้ ขนาดเล็กทีก่ าลงั ออกผลมาใหเ้ ด็กสารวจ สังเกต ต้งั คาถามทสี่ นใจรว่ มกนั เพอ่ื เรียนร้แู ละหาขอ้ สรปุ เกยี่ วกบั สี
รปู รา่ ง ลกั ษณะของต้นสม้ และผลส้ม แลว้ ให้เดก็ วาดรูปตน้ สม้ และผลส้ม

3. นาเดก็ มาทากจิ กรรมตามใบกิจกรรมที่ 7.1 – 7.4

กจิ กรรมท่ี 7.1 กิจกรรมที่ 7.2

กจิ กรรมท่ี 7.3 กจิ กรรมท่ี 7.4

51

สือ่ อุปกรณ์และแหลง่ การเรียนรู้
1. สีโปสเตอรแ์ มส่ ี (แดง, เหลือง, นา้ เงนิ )
2. อปุ กรณ์สาหรับใชใ้ นการวาดภาพและระบายสี
3. ตัวอย่างภาพต้นสม้ ทม่ี ใี บส้มสเี ขยี วและผลสม้ สสี ม้
4. ต้นสม้ ขนาดเล็กท่กี าลังออกผล (ถา้ ม)ี

การวัดและการประเมนิ ผล
1. สังเกตจากการตอบคาถาม
2. สังเกตจากการร่วมกิจกรรม
3. สังเกตจากการปฏบิ ัตหิ รือทดลองจรงิ
4. แบบบันทกึ การประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ ้ายเลม่ ของหนังสือชุดการเขียนโค้ดสาหรับเดก็ ปฐมวยั อายุ 4-5 ปี

บันทึกผลการประเมนิ * สง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตัวเด็ก

หัวเร่ืองที่ 7. แมส่ ีสร้างสรรค์

พฒั นาการด้านสติปัญญา ใบกจิ กรรม 7.1 ใบกิจกรรม 7.2 ใบกจิ กรรม 7.3 ใบกจิ กรรม 7.4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสือ่ สารไดเ้ หมาะสมกับวยั

9.1 สนทนาโต้ตอบและเล่าเรอ่ื งให้ผอู้ ่ืนเขา้ ใจ

9.2 อา่ น เขียนภาพและสัญลักษณไ์ ด้

มฐ.10 มีความสามารถในการคิดทีเ่ ป็นพน้ื ฐานในการเรยี นรู้

10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด

10.2 มีความสามารถในการคดิ เชงิ เหตุผล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและตดั สินใจ

มฐ.11 มีจนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

11.1 ทางานศิลปะตามจนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงท่าทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มเี จตคตทิ ี่ดตี ่อการเรยี นรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวยั

12.2 มเี จตคตทิ ดี่ ตี อ่ การเรยี นรู้

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นรจู้ ากผลงานจริงของเด็ก โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในชอ่ ง  ของแตล่ ะใบกิจกรรม

ระดบั คะแนนคณุ ภาพ (Rubrics)
3 ปฏิบตั ไิ ดด้ ี หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมไดค้ ล่องแคลว่ และม่นั คง
2 ปฏิบตั ไิ ด้ หมายถึง แสดงพฤติกรรมได้บางครัง้ แต่ยงั ไม่คล่องแคลว่
1 ควรสง่ เสริม หมายถึง ยังแสดงพฤตกิ รรมไดไ้ ม่ชดั เจน

52

8. เรอ่ื ง เท่ียวเมืองจราจร สัปดาหท์ ี่ วนั ท่ี / / ถงึ วันท่ี / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวยั : มฐ. 9, 10, 11, 12
จุดประสงค์การเรยี นรู้

1. แกป้ ญั หาอยา่ งง่ายไดเ้ หมาะสมกบั วยั
2. แสดงลาดับขั้นตอนการทางานโดยใช้ภาพ และ/หรอื สญั ลกั ษณ์
3. การเขยี นโคด้ อย่างง่ายโดยใชส้ ื่อแบบไมใ่ ช่คอมพวิ เตอรไ์ ดเ้ หมาะสมวยั
สาระท่ีควรเรยี นรู้ : สง่ิ ต่าง ๆ รอบตวั เดก็ “ยานพาหนะและการคมนาคม”
ประสบการณ์สาคญั : การใชภ้ าษา การคดิ พนื้ ฐานในการเรียนรู้ การคดิ เชงิ คานวณ การเขยี นโค้ดอย่างงา่ ย
ด้านรา่ งกาย 1.1.2(4)
ด้านอารมณจ์ ิตใจ 1.2.1(5)
ดา้ นสังคม 1.3.5(1), 1.3.6(1)
ดา้ นสตปิ ัญญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4), 1.4.2(4)
แนวทางการจัดกจิ กรรมประสบการณ์การเรยี นรู้ (Active Learning)

1. จัดกจิ กรรมเพ่อื ปูพน้ื ฐานการเรยี นรู้ รูปแบบ STEM EDUCATION เรื่อง เครอื่ งบนิ ขวดน้า
(ดแู นวทางการจัดกิจกรรมไดจ้ ากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรบั เด็กอายุ 4-5 ปี หน่วยท่ี 30)

ข้นั นา Science ขน้ั สอน Technology & ข้นั สรุป
Mathematic Engineering
1. ครนู าสนทนา (S1-S3) (T1-T3 & E1-E6) 5. ครูนาสรุปและ
แลกเปล่ยี นประสบการณ์ (M1-M6) อภปิ รายผลการเรียนรู้
เดิมกบั เด็กเกย่ี วกับ 2. ครูนาต้ังคาถาม 4. ครูชวนเด็กมาประดษิ ฐ์ รว่ มกันและประเมนิ ผล
ยานพาหนะต่างๆ เกีย่ วกบั การใช้พลังงาน 3. ครูนารปู ทรงเรขาคณติ ต่างๆ “เครื่องบินขวดน้า” โดยกาหนด พัฒนาการเด็กแตล่ ะคน
- ยานพาหนะทางบกท่ี ของยานพาหนะประเภท มาให้เด็กๆดู เช่น รปู ทรงกลม, เง่ือนไขคือ “ต้องมใี บพดั ที่ หลังสน้ิ สดุ กจิ กรรม
เดก็ รู้จกั ต่างๆ รปู ทรงกระบอก, รูปทรงกรวย, สามารถหมุนได้จรงิ ”
- ยานพาหนะทางนา้ ที่ - ยานพาหนะอะไรบา้ งที่ รูปทรงสเ่ี หลี่ยมมมุ ฉาก - แบง่ เดก็ เปน็ กลมุ่ ยอ่ ยแล้วให้
เด็กรู้จัก ใช้นา้ มันเป็นพลงั งาน - ขวดนา้ มีลักษณะรปู ร่างเหมือน สารวจวัสดุอปุ กรณท์ ่ใี ชป้ ระดิษฐ์
- ยานพาหนะทางอากาศ - ยานพาหนะอะไรบ้างที่ หรือคล้ายรูปทรงเรขาคณิต - ใหเ้ ด็กแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั
ท่ีเดก็ รูจ้ ัก ใชไ้ ฟฟา้ เปน็ พลังงาน อะไรบ้าง ออกแบบและประดษิ ฐเ์ ครื่องบิน
- ยานพาหนะทีเ่ ดก็ ๆรู้จกั - ยานพาหนะอะไรบ้างท่ี ขวดนา้ ใหเ้ ปน็ ไปตามเงื่อนไข
มีรปู ร่าง ลกั ษณะอยา่ งไร ใชล้ มหรือแรงงานคนหรือ - แต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอโดย
- ใชพ้ ลังงานอะไรในการ สัตวใ์ นการขับเคลือ่ น ให้เดก็ เป็นผอู้ ธบิ าย
ขบั เคลื่อน

53

2. นาบัตรภาพชดุ สัญลักษณย์ านพาหนะและการคมนาคม (เครือ่ งหมายจราจร สญั ลักษณ์ยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ยานพาหนะทาง
บก ทางอากาศ ทางนา้ ) มาใหเ้ ดก็ สังเกตและจัดกลุ่มสัญลกั ษณ์ แล้วใหเ้ ดก็ แตล่ ะกลมุ่ นาเสนอพร้อมอธบิ ายเกณฑ์การจดั กลมุ่ และความหมายของ
สัญลักษณแ์ ตล่ ะใบ

3. นาเดก็ มาทากิจกรรมตามใบกจิ กรรมท่ี 8.1 – 8.4

กจิ กรรมท่ี 8.1 กิจกรรมที่ 8.2

กจิ กรรมท่ี 8.3 กิจกรรมที่ 8.4

54

สื่อ อปุ กรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้
1. ขวดนา้ พลาสติก
2. กระดาษสี
3. กรรไกร
4. กาว
5. ไมไ้ อตมิ
6. ยางวง
7. ภาพชุดสญั ลกั ษณ์ ยานพาหนะและการคมนาคม (เครื่องหมายจราจร, สญั ลักษณ์ยานพาหนะประเภทต่าง ๆ ,ยานพาหนะทางบก ทาง

นา้ และทางอากาศ)
การวดั และการประเมินผล

1. สงั เกตจากการตอบคาถาม
2. สงั เกตจากการรว่ มกจิ กรรม
3. สังเกตจากการปฏบิ ัตหิ รอื ทดลองจรงิ
4. แบบบันทกึ การประเมนิ ผลการเรียนรูท้ ้ายเลม่ ของหนังสือชดุ การเขยี นโค้ดสาหรบั เด็กปฐมวยั อายุ 4-5 ปี

บันทึกผลการประเมิน* ส่ิงตา่ ง ๆ รอบตัวเดก็

หวั เรอ่ื งที่ 8. เที่ยวเมืองจราจร

พัฒนาการด้านสติปัญญา ใบกิจกรรม 8.1 ใบกจิ กรรม 8.2 ใบกิจกรรม 8.3 ใบกิจกรรม 8.4

มฐ.9 ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกับวยั

9.1 สนทนาโตต้ อบและเล่าเรอ่ื งใหผ้ ู้อ่ืนเขา้ ใจ

9.2 อา่ น เขียนภาพและสญั ลักษณไ์ ด้

มฐ.10 มคี วามสามารถในการคดิ ทเี่ ป็นพ้ืนฐานในการเรยี นรู้

10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด

10.2 มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตผุ ล

10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและตัดสนิ ใจ

มฐ.11 มีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลอ่ื นไหวตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มเี จตคตทิ ่ดี ตี ่อการเรียนรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกบั วยั

12.2 มเี จตคติที่ดตี อ่ การเรยี นรู้

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นรจู้ ากผลงานจรงิ ของเด็ก โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแตล่ ะใบกจิ กรรม

ระดับคะแนนคุณภาพ (Rubrics)
3 ปฏบิ ตั ไิ ดด้ ี หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดค้ ลอ่ งแคลว่ และม่ันคง
2 ปฏิบัตไิ ด้ หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมไดบ้ างคร้ังแต่ยงั ไมค่ ล่องแคลว่
1 ควรสง่ เสริม หมายถงึ ยงั แสดงพฤติกรรมไดไ้ มช่ ดั เจน

55

ตัวอยา่ งกิจกรรม
สาหรับเดก็ ระดับชนั้ อนบุ าล 3 (อายุ 5-6 ป)ี

1 • เรื่อง หุ่นจาลอง
2 • เรือ่ ง อาหารจานน้ีของใคร
3 • เรื่อง โมบายความสัมพันธ์
4 • เรอื่ ง สวนสนกุ หรรษา
5 • เรอ่ื ง ช้างฮดั เชย้
6 • เรื่อง วาฬสีน้าเงิน
7 • เรอื่ ง รถยนตไ์ รค้ นขับ
8 • เรอื่ ง โดรนกภู้ ยั

56

1. เรอื่ ง หนุ่ จาลอง สัปดาห์ท่ี วันท่ี / / ถึงวันที่ / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. เปรียบเทยี บความเหมือนและแตกตา่ ง
2. การจาแนกและการจัดกลุ่มส่งิ ตา่ ง ๆ ตามเกณฑ์
3. การการเรยี งลาดบั สิ่งของและเหตกุ ารณ์ อย่างนอ้ ย 5 ลาดับ
สาระทีค่ วรเรียนรู้ : เรื่องราวเก่ียวกบั ตัวเดก็ “ชื่อ เพศ ลกั ษณะและรูปรา่ งภายนอกของตนเอง”
ประสบการณส์ าคัญ : การใช้ภาษา การคดิ พนื้ ฐานในการเรียนรู้ การคดิ เชิงคานวณ การเขียนโคด้ อย่างง่าย
ด้านร่างกาย 1.1.2(4)
ดา้ นอารมณ์จติ ใจ 1.2.1(5)
ดา้ นสงั คม 1.3.5(1), 1.3.6(1)
ดา้ นสตปิ ญั ญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4)
แนวทางการจดั กิจกรรมประสบการณก์ ารเรยี นรู้ (Active Learning)

1. จัดกิจกรรมเพือ่ ปพู ้ืนฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เร่ือง หุ่นจาลอง
(ดแู นวทางการจดั กิจกรรมไดจ้ ากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรับเดก็ อายุ 5-6 ปี หน่วยที่ 1)

ข้ันนา Science ขั้นสอน Technology & Engineering ขัน้ สรปุ
Mathematic (T1-T3 & E1-E6)
1. ครนู าสนทนารว่ มกนั (S1-S3) 5. ครนู าสรปุ และ
กับเด็ก เกย่ี วกบั (M1-M6) 4. ครชู วนเดก็ มาประดษิ ฐ์ อภปิ รายผลการ
ลกั ษณะภายนอกของ 2. ครนู าต้ังคาถามทีส่ นใจ “ห่นุ จาลอง” จากเศษวสั ดุตา่ ง ๆ โดย เรียนรรู้ ่วมกนั แลว้
ตนเองและของเพ่ือน เก่ยี วกบั ส่วนตา่ งๆของรา่ งกาย 3. ครใู หเ้ ด็กลองเปรียบเทียบ กาหนดเงอื่ นไขคือ “หนุ่ จาลองต้องมี ประเมินผล
ให้เดก็ สารวจ สังเกต แล้วรว่ มกนั สืบคน้ จากแหล่ง ขนาดของอวยั วะภายนอก อวยั วะภายนอกเหมอื นตนและ พัฒนาการเด็กแต่
ลกั ษณะรปู รา่ งของ เรียนรู้และส่อื ตา่ ง ๆ เชน่ สอ่ื ต่าง ๆ ระหวา่ งตนเองกับ สามารถตั้งได้” ละคนหลงั สน้ิ สุด
ตนเองและเพือ่ น ๆ ตุ๊กตา หนงั สือภาพ บัตรคา เพ่อื นและระหว่างเพ่ือนกบั - แบ่งเด็กออกเปน็ กลุม่ ย่อย แล้วให้ กิจกรรม
แล้วจบั คู่กนั สารวจ นทิ านเพ่อื เรียนรูแ้ ละสรปุ เพื่อน เด็กแตล่ ะกลมุ่ สารวจวัสดุอปุ กรณ์ทจี่ ะ
อวัยวะตา่ ง ๆของ เกีย่ วกบั ชอื่ หนา้ ทแี่ ละวธิ ีการใช้ - อวัยวะของแต่ละคนมี ใช้ประดษิ ฐ์
รา่ งกาย แขน ขา ลาตัว อวัยวะภายนอกต่างๆ ขนาดเทา่ กนั หรือไม่ - ใหเ้ ด็กแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั ออกแบบ
หัว มอื เทา้ เป็นต้น - ชอื่ เรียกของอวยั วะสว่ นต่าง ๆ - อวัยวะของเด็กกบั เพอื่ น และประดษิ ฐห์ ่นุ จาลองท่มี ีอวยั วะ
ตามท่ีครบู อก - อวยั วะภายนอกที่เด็ก ๆ สังเกต ใครใหญก่ วา่ /สูงกวา่ /ส้ันกวา่ ภายนอกเหมอื นคนและสามารถตงั้ ได้
มลี กั ษณะอยา่ งไร ใหเ้ ด็กนับจานวนอวยั วะ - เด็กแตล่ ะกลุม่ สารวจอวยั วะ
- อวัยวะภายนอกต่าง ๆ มหี น้าท่ี ภายนอกส่วนตา่ ง ๆ ภายนอกของหุ่นจาลองและทดสอบ
อะไรบ้าง - เด็กแตล่ ะคนมีหวั กหี่ วั ตงั้ หนุ่ จาลอง แล้วปรับปรุง แกไ้ ข
- มวี ธิ ีการใชอ้ วยั วะภายนอก - อวยั วะสว่ นตา่ ง ๆ จานวน หุน่ จาลองใหต้ รงตามเงือ่ นไขที่กาหนด
ต่างๆ ให้ถูกตอ้ งเหมาะสมและ เท่าไหร่ - นาเสนอผลงานหุ่นจาลองร่างกาย
ปลอดภัยอย่างไรบ้าง - อวัยวะอะไรมีจานวนเป็นคู่ ของคนของแตล่ ะกล่มุ โดยให้เดก็ เป็น
ผู้นาเสนอและอธบิ าย

57

2. นาหุ่นจาลองทีเ่ ด็กแตล่ ะกลมุ่ ประดษิ ฐ์ มาสงั เกตและอภิปรายรว่ มกัน เพอื่ เรยี นรูแ้ ละสรุปเกีย่ วกบั ความเหมอื นและความแตกตา่ งของ
หุน่ จาลองกบั ตวั เดก็ ๆ

3. นาเดก็ มาทากจิ กรรมตามใบกิจกรรมท่ี 1.1 – 1.4

กิจกรรมท่ี 1.1 กจิ กรรมท่ี 1.2

กิจกรรมที่ 1.3 กจิ กรรมท่ี 1.4

58

สือ่ อปุ กรณ์และแหลง่ การเรียนรู้
1. ขวดนา้ ดม่ื
2. เทปใส
3. กระดาษสี
4. กาว
5. กรรไกร
6. เชอื กไหมพรม

การวัดและการประเมินผล
1. สงั เกตจากการตอบคาถาม
2. สงั เกตจากการร่วมกิจกรรม
3. สงั เกตจากการปฏิบัตหิ รือทดลองจรงิ
4. แบบบันทกึ การประเมินผลการเรยี นร้ทู า้ ยเลม่ ของหนงั สือชุดการเขียนโค้ดสาหรับเด็กปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทึกผลการประเมิน* เรอ่ื งราวเก่ียวกบั ตัวเดก็

หัวเรอื่ งท่ี 1. หุ่นจาลอง

พัฒนาการดา้ นสติปญั ญา ใบกจิ กรรม 1.1 ใบกจิ กรรม 1.2 ใบกจิ กรรม 1.3 ใบกิจกรรม 1.4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกับวยั

9.1 สนทนาโตต้ อบและเล่าเรื่องใหผ้ ้อู ื่นเขา้ ใจ

9.2 อา่ น เขยี นภาพและสญั ลกั ษณไ์ ด้

มฐ.10 มีความสามารถในการคิดทเ่ี ป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้

10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชิงเหตผุ ล

10.3 มคี วามสามารถในการคิดแกป้ ัญหาและตดั สินใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

11.1 ทางานศิลปะตามจนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

11.2 แสดงท่าทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มเี จตคติทีด่ ีต่อการเรยี นรู้และมีความสามารถในการ

แสวงหาความรไู้ ด้เหมาะสมกบั วยั

12.2 มีเจตคติทด่ี ตี ่อการเรยี นรู้

12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมนิ ผลการเรยี นร้จู ากผลงานจริงของเดก็ โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแต่ละใบกิจกรรม

ระดับคะแนนคณุ ภาพ (Rubrics)
3 ปฏบิ ัตไิ ดด้ ี หมายถงึ แสดงพฤติกรรมไดค้ ล่องแคลว่ และมน่ั คง
2 ปฏิบตั ิได้ หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมไดบ้ างคร้ังแตย่ ังไมค่ ล่องแคล่ว
1 ควรสง่ เสรมิ หมายถึง ยังแสดงพฤติกรรมไดไ้ ม่ชัดเจน

59

2. เรื่อง อาหารจานน้ขี องใคร สปั ดาหท์ ี่ วนั ท่ี / / ถึงวนั ท่ี / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. การเรยี งลาดับเหตุการณต์ า่ ง ๆ อยา่ งนอ้ ย 5 ลาดบั
2. การคาดคะเนสง่ิ ท่ีอาจจะเกดิ ขนึ้ และมสี ว่ นรว่ มในการลงความคดิ เหน็ จากข้อมูล
3. การใชค้ วามคดิ ท่เี ป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้ เพ่ือมาแก้ปญั หาตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสมตามวัยเดก็
สาระทค่ี วรเรยี นรู้ : เรือ่ งราวเกี่ยวกับตวั เดก็ “อาหารทมี่ ีประโยชน์ช่วยใหร้ า่ งกายแข็งแรงและเจรญิ เตบิ โต”
ประสบการณส์ าคัญ : การใช้ภาษา การคดิ พืน้ ฐานในการเรยี นรู้ การคดิ เชงิ คานวณ การเขยี นโคด้ อย่างง่าย
ดา้ นร่างกาย 1.1.3(1)
ดา้ นอารมณจ์ ติ ใจ 1.2.5(1)
ด้านสงั คม 1.3.4(3), 1.3.5(1)
ดา้ นสตปิ ญั ญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4), 1.4.2(4)
แนวทางการจดั กิจกรรมประสบการณ์การเรยี นรู้ (Active Learning)

1. จัดกิจกรรมเพอื่ ปูพืน้ ฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เร่ือง อาหารดมี ปี ระโยชน์
(ดูแนวทางการจดั กจิ กรรมได้จากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรบั เดก็ อายุ 5-6 ปี หน่วยท่ี 7)

ขนั้ นา Science ขั้นสอน Technology & Engineering ขั้นสรุป
Mathematic (T1-T3 & E1-E6)
1. ครูนาสนทนา (S1-S3) 5. ครูนาสรุปและ
แลกเปลยี่ น (M1-M6) 4. ครชู วนเดก็ มาทดลอง "ทอดปลา" อภิปรายผลการเรยี นรู้
ประสบการณเ์ ดมิ กับ 2. ครนู าเด็กสารวจ สบื ค้น โดยกาหนดเงอื่ นไขคอื "ตอ้ งทอดให้ ร่วมกนั แลว้ ประเมินผล
เด็กเกย่ี วกบั อาหารดีมี ข้อมลู เกย่ี วกับอาหารดีมี 3. ครนู าวัสดุอุปกรณส์ าหรบั สกุ และสามารถนามารับประทานได้ พัฒนาการเด็กแตล่ ะคน
ประโยชนท์ ่ชี ว่ ยให้ ประโยชน์ จากแหลง่ เรียนรู้ ทากจิ กรรมประกอบอาหาร จรงิ " หลงั สิน้ สุดกิจกรรม
ร่างกายแขง็ แรงและ และส่อื ตา่ งๆ เช่น หนังสอื มาใหเ้ ด็ก ๆ ดว้ ยเช่น - ครูนาวสั ดอุ ุปกรณใ์ นการทากจิ กรรม
เจรญิ เตบิ โต นิทาน สนทนาเพอื่ ให้เดก็ กระทะ, ตะหลวิ , จาน, ช้อน, ทอดปลามาใหเ้ ด็กสารวจและอธบิ าย
- เดก็ ๆคดิ ว่ามอี ะไรบา้ ง เรียนรแู้ ละสรปุ เกี่ยวกบั ชือ่ ขวดน้ามนั พชื เปน็ ต้น ต้ัง หรือสาธิตการใช้งานให้เดก็ ๆ เขา้ ใจ
ทเี่ ปน็ อาหารดีมี เรยี กอาหารดมี ปี ระโยชนต์ า่ ง คาถามทีส่ นใจร่วมกัน - ให้เดก็ ๆ มสี ่วนรว่ มในการออกแบบ
ประโยชน์ ๆ สว่ นประกอบและวธิ ีการ - กระทะมีรูปร่างรูปทรง ลาดบั ข้ันตอนในการประกอบอาหาร
- อาหารคาว อาหาร ปรงุ อาหารต่าง ๆ เช่น คล้ายเรขาคณติ อะไร ปลาทอดและมสี ว่ นรว่ มในการ
หวานท่ีเด็ก ๆ รูจ้ กั มี - โปรตีนจากปลาทอด ชว่ ย - อุปกรณอ์ ะไรท่มี รี ปู ทรง ประกอบอาหารโดยครดู แู ลใกล้ชิด
อะไรบ้าง ให้ร่างกายแข็งแรงและ คลา้ ยทรงกระบอก - นาเสนอผลงานการประกอบอาหาร
เจรญิ เติบโต ปลาทอดโดยให้เด็ก ๆ เป็นผู้นาเสนอ

60

2. นาอุปกรณใ์ นการรบั ประทานอาหาร ไดแ้ ก่ ถ้วย จาน ช้อน ส้อม ตะเกยี บ มดี ห่นั สเต็กสาหรับเด็ก มาใหเ้ ด็กสารวจ สงั เกตและ
อภปิ รายรว่ มกัน เพ่อื เรยี นร้แู ละสรปุ เกย่ี วกบั วธิ กี ารใชอ้ ปุ กรณ์ต่าง ๆ ใหถ้ กู ต้องและปลอดภยั

3. นาเดก็ มาทากจิ กรรมตามใบกจิ กรรมท่ี 2.1 – 2.4

กิจกรรมท่ี 2.1 กิจกรรมท่ี 2.2

กิจกรรมท่ี 2.3 กิจกรรมที่ 2.4

61

สือ่ อุปกรณแ์ ละแหลง่ การเรียนรู้
1. ปลา
2. ชุดอปุ กรณป์ ระกอบการทอดปลา เชน่ กระทะ, ตะหลวิ เปน็ ตน้
3. วสั ดุสาหรบั ประกอบอาหารทอดปลา เช่น นา้ มันพชื , เกลอื เปน็ ตน้
4. อปุ กรณใ์ นการรบั ประทานอาหาร ได้แก่ ถว้ ย จาน ชอ้ น สอ้ ม ตะเกยี บ มดี หัน่ สเตก็ สาหรับเด็ก

การวดั และการประเมนิ ผล
1. สงั เกตจากการตอบคาถาม
2. สงั เกตจากการร่วมกิจกรรม
3. สงั เกตจากการปฏิบัตหิ รอื ทดลองจรงิ
4. แบบบันทกึ การประเมนิ ผลการเรยี นร้ทู า้ ยเลม่ ของหนงั สือชุดการเขียนโคด้ สาหรบั เด็กปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทกึ ผลการประเมนิ * เร่อื งราวเกย่ี วกับตวั เด็ก

หัวเรือ่ งที่ 2. อาหารจานนข้ี องใคร

พฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา ใบกิจกรรม 2.1 ใบกจิ กรรม 2.2 ใบกิจกรรม 2.3 ใบกจิ กรรม 2.4

มฐ.9 ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกับวัย

9.1 สนทนาโตต้ อบและเลา่ เรอ่ื งให้ผู้อนื่ เข้าใจ

9.2 อ่าน เขยี นภาพและสัญลักษณไ์ ด้

มฐ.10 มคี วามสามารถในการคิดท่เี ปน็ พ้นื ฐานในการเรยี นรู้

10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตุผล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและตดั สนิ ใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงท่าทาง/เคลอื่ นไหวตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มเี จตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรไู้ ด้เหมาะสมกับวยั

12.2 มีเจตคติท่ีดตี อ่ การเรียนรู้

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นร้จู ากผลงานจรงิ ของเดก็ โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแต่ละใบกจิ กรรม

ระดับคะแนนคุณภาพ (Rubrics)
3 ปฏิบัตไิ ดด้ ี หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมไดค้ ล่องแคล่วและม่นั คง
2 ปฏบิ ตั ิได้ หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดบ้ างครง้ั แต่ยังไมค่ ล่องแคลว่
1 ควรส่งเสรมิ หมายถงึ ยงั แสดงพฤตกิ รรมไดไ้ มช่ ัดเจน

62

3. เร่อื ง โมบายความสมั พันธ์ สัปดาห์ที่ วนั ที่ / / ถงึ วันท่ี / / /

มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. การเปรยี บเทยี บความเหมอื นและความแตกตา่ ง
2. การทาซา้ การต่อเตมิ และการสรา้ งรปู แบบของสิ่งตา่ ง ๆ
3. การใชค้ วามคิดท่ีเป็นพ้ืนฐานในการเรยี นรู้ เพ่ือมาแกป้ ญั หาตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสมตามวัยเดก็
สาระท่คี วรเรียนรู้ : บคุ คลและสถานทแี่ วดลอ้ มเด็ก “ความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งตนเองกบั บุคคลในครอบครวั และบคุ คลอ่นื ”
ประสบการณ์สาคัญ : การใช้ภาษา การคิดพ้นื ฐานในการเรียนรู้ การคดิ เชงิ คานวณ การเขยี นโคด้ อยา่ งง่าย
ดา้ นร่างกาย 1.1.2(4)
ดา้ นอารมณจ์ ติ ใจ 1.2.1(6)
ดา้ นสงั คม 1.3.4(3)
ดา้ นสตปิ ัญญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4), 1.4.2(4)
แนวทางการจัดกจิ กรรมประสบการณ์การเรียนรู้ (Active Learning)

1. จัดกิจกรรมเพื่อปูพ้นื ฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เรอื่ ง โมบายความสมั พันธ์
(ดูแนวทางการจดั กิจกรรมได้จากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรับเดก็ อายุ 5-6 ปี หน่วยที่ 9)

ข้นั นา ข้ันสอน Technology & ขั้นสรปุ
Science Mathematic Engineering
(T1-T3 & E1-E6) 5. ครูนาสรุปและ
1. ครูนาตง้ั คาถามท่ี (S1-S3) (M1-M6) อภิปรายผลการ
สนใจร่วมกนั เกี่ยวกบั 4. ครชู วนเดก็ มาประดิษฐ์ "โมบาย เรยี นรูร้ ่วมกนั แลว้
ลักษณะของบุคคลใน 2. ครูใหเ้ ด็กนาภาพถา่ ยของ 3. ครนู าตัง้ คาถามเก่ยี วกบั ความสมั พันธ"์ โดยกาหนดเง่อื นไขคอื ประเมินผล
ครอบครวั เดียวกันและ ตนเองและพ่อแม่และคนใน ความสมั พนั ธ์ของคนใน "เมือ่ แขวนโมบายแล้วตอ้ งแสดง พัฒนาการเดก็ แต่
ลกั ษณะบุคคลจากตา่ ง ครอบครัวเดียวกนั มาสังเกต ครอบครัว ได้แก่ ปยู่ า่ ตา ความสมั พันธ์ของบุคคลในครอบครวั ละคนหลังส้นิ สดุ
ครอบครวั เปรียบเทยี บและนาเสนอเพื่อ ยาย พอ่ แม่และลูก กระตนุ้ 3 รุ่น (ปู่ยา่ ตายาย, พอ่ แม,่ ลกู )" กจิ กรรม
- ลูกกบั พอ่ แม่ใน สรปุ ความเหมือนและความ ใหเ้ ด็ก - ครนู าวัสดอุ ุปกรณม์ าใหเ้ ดก็ สารวจและ
ครอบครวั เดยี วกันมี แตกตา่ งระหวา่ งลกู กับพ่อแม่ - นับจานวนสมาชกิ ของ อธิบายหรอื สาธติ วธิ กี ารทาโมบาย
ลกั ษณะเหมือนกันหรอื และคนในครอบครัวเดยี วกนั บุคคลในครอบครวั ที่เป็นเพศ - ให้เด็กๆวาดใบหนา้ ของคนใน
แตกต่างกันอยา่ งไร แลว้ ให้เด็ก ๆ ลองนาภาพถา่ ย ชายและเพศหญิง ครอบครวั 3 รนุ่ คอื ปยู่ ่า ตายาย พอ่ แม่
- เดก็ ๆ กบั คุณพ่อ คณุ ของตนเองไปเปรียบเทียบกับ - เปรยี บเทียบจานวนสมาชกิ และตวั เอง แลว้ นาภาพใบหนา้ ทีว่ าดมา
แมข่ องเพอ่ื น ๆ มี พ่อแม่และคนในครอบครวั ของบุคคลในครอบครวั ที่ แปะลงในกระดาษแข็งท่ีตัดไว้เป็นรูปรา่ ง
ลักษณะเหมือนกนั เพื่อน เพือ่ สรุปความเหมอื น เป็นเพศชายกบั เพศหญงิ เรขาคณติ ตา่ ง ๆ
หรือไมห่ รอื แตกต่างกนั และความแตกตา่ งท่พี บ - ครูใหเ้ ดก็ อ่านและเขียน - ให้เด็กออกแบบและประดิษฐโ์ มบาย
อย่างไร ตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตาม ความสมั พันธ์ใหต้ รงตามเง่อื นไขที่
จานวนสมาชกิ ในครอบครวั กาหนด
ทีน่ ับได้ - นาเสนอผลงานโดยใหเ้ ดก็ แตล่ ะคน
ออกมานาเสนอ

63

2. นากระดาษแข็งรปู รา่ งเรขาคณติ ต่าง ๆ วงกลม สเ่ี หลยี่ ม สามเหลย่ี ม ทใี่ ช้สาหรบั เปน็ ส่วนประกอบในการประดิษฐโ์ มบาย
ความสัมพันธใ์ นกิจกรรมขอ้ ท่ี 1 มาวางเรยี งกนั ในลักษณะของแบบรปู ตา่ ง ๆ แลว้ ใหเ้ ดก็ ทาตามแบบตอ่ เตมิ จากแบบและลองสรา้ งแบบใหม่ขึน้ เอง

3. นาเดก็ มาทากจิ กรรมตามใบกจิ กรรมท่ี 3.1 – 3.4

กิจกรรมที่ 3.1 กจิ กรรมที่ 3.2

กจิ กรรมท่ี 3.3 กิจกรรมท่ี 3.4

64

สอ่ื อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้
1. กระดาษแข็ง รูปรา่ งเรขาคณติ ตา่ งๆ เช่น วงกลม สี่เหล่ยี ม สามเหล่ยี ม
2. สเี ทียน, สไี ม้
3. กรรไกร
4. ไมไ้ ผ่
5. เชือกไหมพรม
6. กาว

การวัดและการประเมนิ ผล
1. สังเกตจากการตอบคาถาม
2. สังเกตจากการรว่ มกิจกรรม
3. สงั เกตจากการปฏบิ ัตหิ รือทดลองจรงิ
4. แบบบันทึกการประเมินผลการเรยี นรทู้ ้ายเลม่ ของหนังสือชุดการเขียนโค้ดสาหรับเดก็ ปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทึกผลการประเมนิ * บุคคลและสถานทแี่ วดล้อมเดก็

หวั เรือ่ งท่ี 3. โมบายความสมั พนั ธ์

พัฒนาการด้านสติปัญญา ใบกจิ กรรม 3.1 ใบกิจกรรม 3.2 ใบกิจกรรม 3.3 ใบกิจกรรม 3.4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสือ่ สารได้เหมาะสมกับวัย

9.1 สนทนาโต้ตอบและเลา่ เรอื่ งใหผ้ อู้ ืน่ เข้าใจ

9.2 อ่าน เขียนภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้

มฐ.10 มคี วามสามารถในการคดิ ท่ีเปน็ พนื้ ฐานในการเรียนรู้

10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด

10.2 มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและตดั สนิ ใจ

มฐ.11 มีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศิลปะตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มเี จตคติทีด่ ีต่อการเรยี นรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความร้ไู ด้เหมาะสมกบั วยั

12.2 มีเจตคติท่ีดตี ่อการเรียนรู้

12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นร้จู ากผลงานจรงิ ของเด็ก โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแตล่ ะใบกจิ กรรม

ระดับคะแนนคุณภาพ (Rubrics)
3 ปฏิบัติได้ดี หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดค้ ลอ่ งแคล่วและมนั่ คง
2 ปฏบิ ตั ไิ ด้ หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดบ้ างครงั้ แต่ยังไมค่ ล่องแคลว่
1 ควรส่งเสริม หมายถงึ ยงั แสดงพฤตกิ รรมไดไ้ มช่ ัดเจน

65

4. เรื่อง สวนสนุกหรรษา สัปดาห์ท่ี วันท่ี / / ถงึ วนั ที่ / / /

มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. การสร้างผลงานศลิ ปะเพือ่ ส่อื สารความคดิ ของตน
2. การระบปุ ญั หา การสรา้ งทางเลอื กและเลือกวิธกี ารแก้ปัญหา
3. การใชค้ วามคดิ ทเ่ี ปน็ พน้ื ฐานในการเรยี นรู้ เพอ่ื มาแกป้ ญั หาตา่ ง ๆ อย่างเหมาะสมตามวยั เด็ก
สาระทคี่ วรเรยี นรู้ : บคุ คลและสถานทแ่ี วดล้อม “ความสมั พันธข์ องตวั เรากบั สถานทตี่ ่าง ๆ ในชมุ ชน”
ประสบการณส์ าคัญ : การใชภ้ าษา การคดิ พ้ืนฐานในการเรยี นรู้ การคิดเชิงคานวณ การเขียนโคด้ อย่างง่าย
ด้านร่างกาย 1.1.2(4)
ดา้ นอารมณ์จิตใจ 1.2.5(1)
ด้านสังคม 1.3.5(1), 1.3.6(1)
ดา้ นสตปิ ัญญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4), 1.4.2(3)
แนวทางการจัดกิจกรรมประสบการณ์การเรยี นรู้ (Active Learning)

1. จัดกิจกรรมเพอื่ ปพู ้ืนฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เรือ่ ง แผนผงั ที่ตงั้ สถานที่สาคญั ในชมุ ชน
(ดูแนวทางการจัดกจิ กรรมไดจ้ ากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรบั เด็กอายุ 5-6 ปี หนว่ ยที่ 13)

ขัน้ นา Science ขน้ั สอน Technology & ขน้ั สรุป
Mathematic Engineering
1. ครูนาสนทนา (S1-S3) (T1-T3 & E1-E6) 5. ครูนาสรุปและ
แลกเปล่ยี น (M1-M6) อภปิ รายผลการเรียนรู้
ประสบการณเ์ ดิมกบั 2. ครพู าเดก็ ๆไปสารวจ สบื ค้น 4. ครชู วนเดก็ มาประดิษฐ์ รว่ มกนั แลว้ ประเมินผล
เดก็ และรว่ มกันต้งั สนทนาเกย่ี วกับชื่อ ความสาคญั 3. ครูนาตั้งคาถามท่นี ่าสนใจ "แผนผงั ท่ีตงั้ ของสถานที่ต่าง ๆ พฒั นาการเดก็ แต่ละคน
คาถามเกี่ยวกบั สถานท่ี ความสัมพันธ์ของตวั เรากบั เก่ียวกบั ตาแหน่งท่ีอยู่ ในชุมชน" โดยกาหนดเงอื่ นไขคือ หลังส้ินสุดกจิ กรรม
ต่าง ๆ ในชมุ ชนทเี่ ดก็ สถานทตี่ ่าง ๆ ในชมุ ชน ทศิ ทางและระยะทางของ "แผนผังมีขนาดกระดาษ
รจู้ ัก - วัด สถานท่ตี า่ ง ๆ ในชมุ ชนเมือ่ โปสเตอร์ และต้องแสดง
- วดั - โบสถ์ เทียบกบั โรงเรียน เพ่อื ให้เดก็ ตาแหน่งทีต่ ัง้ ของโรงเรียน บ้าน
- โบสถ์ - โรงเรยี น เรยี นรแู้ ละสรปุ และบอก ของเดก็ ๆ วดั /โบสถ/์ มัสยดิ ไว้
- โรงเรียน - โรงพยาบาล ตาแหน่งทิศทาง ระยะทาง ในแผนผังดว้ ย"
- โรงพยาบาล - ตลาดสด ของสถานท่ที ีก่ าหนด โดยใช้ - แบ่งเดก็ ออกเป็นกลุ่มย่อยแล้ว
- ตลาดสด - สถานตี ารวจ เปน็ ตน้ คาวา่ ข้างบน ขา้ งลา่ ง ข้าง ให้แต่ละกลุ่มสารวจเลือกวัสดุ
- สถานตี ารวจ เปน็ ต้น เพอื่ ใหเ้ ดก็ เรียนรู้ สรปุ และ ใน ข้างนอก ขา้ งหน้า ข้าง อปุ กรณ์ท่ีจะใช้ประดิษฐ์
อธบิ ายเกย่ี วกบั สถานทีต่ ่าง ๆ ใน หลงั ระหวา่ ง ขา้ งซา้ ย ขา้ ง - เด็กร่วมกนั ออกแบบและ
ชุมชน ขวา ใกล้ ไกล ประดิษฐแ์ ผนผังที่ต้ังของสถานท่ี
ต่างๆในชมุ ชนตามเงื่อนไข
- นาเสนอผลงานของแต่ละกลุ่ม
โดยเด็กเป็นผนู้ าเสนอ

66

2. พาเด็ก ๆ ไปทศั นศกึ ษา สารวจสถานทตี่ ่าง ๆ ในชมุ ชน ไดแ้ ก่ สถานรี ถไฟ สถานตี ารวจ โรงพยาบาลและสวนสนกุ เพื่อใหเ้ ดก็ เรยี นรู้
เกี่ยวกบั ความสัมพนั ธ์ของตัวเรากบั สถานที่ต่าง ๆ ในชมุ ชน สัญลักษณต์ า่ ง ๆ ท่ีพบในชีวิตประจาวนั

3. นาเด็กมาทากจิ กรรมตามใบกจิ กรรมท่ี 4.1 – 4.4

กิจกรรมท่ี 4.1 กิจกรรมที่ 4.2

กิจกรรมที่ 4.3 กจิ กรรมท่ี 4.4

67

ส่ือ อปุ กรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้
1. กระดาษโปสเตอร์
2. ภาพสถานท่ีสาคญั ต่าง ๆ ในชมุ ชน
3. ดนิ สอ, สเี ทียน, สไี ม้
4. กาว
5. กรรไกร
6. วัสดุอปุ กรณท์ ่ีใชเ้ ปน็ เครื่องมือวดั ความยาวทไี่ ม่ใช่หน่วยมาตรฐาน

การวัดและการประเมนิ ผล
1. สังเกตจากการตอบคาถาม
2. สังเกตจากการร่วมกิจกรรม
3. สังเกตจากการปฏิบัตหิ รอื ทดลองจรงิ
4. แบบบนั ทึกการประเมนิ ผลการเรยี นรทู้ า้ ยเลม่ ของหนังสือชุดการเขียนโคด้ สาหรบั เดก็ ปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทกึ ผลการประเมิน* บคุ คลและสถานทแี่ วดล้อมเด็ก

หวั เรื่องท่ี 4. สวนสนุกหรรษา

พฒั นาการด้านสตปิ ญั ญา ใบกจิ กรรม 4.1 ใบกจิ กรรม 4.2 ใบกจิ กรรม 4.3 ใบกจิ กรรม 4.4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกับวัย

9.1 สนทนาโต้ตอบและเล่าเร่อื งใหผ้ ูอ้ ่นื เขา้ ใจ

9.2 อา่ น เขยี นภาพและสญั ลกั ษณไ์ ด้

มฐ.10 มีความสามารถในการคดิ ทีเ่ ปน็ พ้ืนฐานในการเรียนรู้

10.1 มีความสามารถในการคิดรวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชิงเหตผุ ล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ัญหาและตัดสนิ ใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศิลปะตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงท่าทาง/เคลื่อนไหวตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มีเจตคตทิ ี่ดตี ่อการเรียนรู้และมีความสามารถในการ

แสวงหาความรไู้ ด้เหมาะสมกับวยั

12.2 มีเจตคติที่ดตี อ่ การเรียนรู้

12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บนั ทกึ การประเมนิ ผลการเรยี นรจู้ ากผลงานจรงิ ของเด็ก โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแตล่ ะใบกิจกรรม

ระดบั คะแนนคุณภาพ (Rubrics)
3 ปฏบิ ัติได้ดี หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดค้ ล่องแคลว่ และม่นั คง
2 ปฏิบัติได้ หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมได้บางคร้งั แต่ยงั ไมค่ ลอ่ งแคลว่
1 ควรส่งเสริม หมายถึง ยงั แสดงพฤตกิ รรมไดไ้ ม่ชัดเจน

68

5. เร่ือง ช้างฮัดเชย้ สัปดาห์ที่ วนั ท่ี / / ถึงวันที่ / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยไดเ้ หมาะสมกบั วยั
2. แสดงลาดบั ขนั้ ตอนการทางานโดยใชภ้ าพ และ/หรือสญั ลักษณ์
3. เขยี นโค้ดอย่างงา่ ยโดยใชส้ ือ่ แบบไม่ใชค่ อมพวิ เตอรไ์ ด้อยา่ งเหมาะสมกับวยั
สาระที่ควรเรียนรู้ : ธรรมชาตริ อบตัว “ชา้ งเป็นสัตวบ์ กทีม่ ีขนาดใหญท่ ่สี ุดในปจั จุบัน”
ประสบการณ์สาคัญ : การใชภ้ าษา การคิดพน้ื ฐานในการเรยี นรู้ การคิดเชงิ คานวณ การเขยี นโคด้ อยา่ งง่าย
ด้านรา่ งกาย 1.1.2(3)
ด้านอารมณจ์ ติ ใจ 1.2.1(5)
ดา้ นสังคม 1.3.4(2)
ดา้ นสตปิ ัญญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4)
แนวทางการจดั กิจกรรมประสบการณก์ ารเรียนรู้ (Active Learning)

1. จดั กิจกรรมเพ่ือปพู ื้นฐานการเรยี นรู้ รูปแบบ STEM EDUCATION เร่ือง ช้างตัวใหญ่
(ดูแนวทางการจัดกจิ กรรมได้จากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรับเดก็ อายุ 5-6 ปี หน่วยท่ี 19)

ขัน้ นา Science ข้ันสอน Technology & ข้ันสรปุ
Mathematic Engineering
1. สนทนาแลกเปลี่ยน (S1-S3) (T1-T3 & E1-E6) 5. ครูนาสรุปและ
ประสบการณเ์ ดมิ ของ (M1-M6) อภปิ รายผลการเรยี นรู้
เด็กเกี่ยวกบั ช้าง 2. ครูนาเด็ก ๆ ไปทศั นศกึ ษาสวน 4. ครูชวนเดก็ มาประดษิ ฐ์ “ชา้ ง ร่วมกัน แลว้ ประเมนิ ผล
- เดก็ ๆ ใครเคยเห็น สัตวห์ รือพาไปดชู า้ งหรือเปดิ วีดิ 3. ครนู าภาพสัตวบ์ กชนิด จาลอง” โดยกาหนดเงอ่ื นไขคือ พฒั นาการเดก็ แต่ละคน
ชา้ งบ้าง ทศั นห์ รอื นาแบบจาลองชา้ งมาให้ ต่าง ๆ มาให้เดก็ ๆ ดู แลว้ “ปนั้ ดินน้ามันให้มีรปู รา่ ง หลังสิน้ สดุ กจิ กรรม
- ให้เด็ก ๆ เลา่ เด็ก ๆ ดู ตั้งคาถามทส่ี นใจเพ่อื ลกั ษณะเหมือนชา้ งแลว้ ตกแตง่
ประสบการณเ์ กย่ี วกบั - เด็ก ๆ สงั เกตเหน็ อะไรบา้ ง กระตนุ้ ใหเ้ ดก็ เรียนรูแ้ ละ ดว้ ยวสั ดตุ า่ ง ๆ ใหเ้ หมือนจรงิ
ชา้ งตามที่เดก็ รจู้ ัก - เดก็ ๆ คดิ ว่าชา้ งเป็นสิง่ มีชีวติ สรุปเกย่ี วกบั และสามารถตั้งได”้
หรือไม่เพราะอะไร - ขนาดและความสูงของ - ครูนาวสั ดแุ ละอปุ กรณต์ า่ ง ๆ
- ที่อยู่อาศยั ของชา้ งเปน็ อยา่ งไร ชา้ งเมอ่ื เทียบกับสตั วบ์ ก มาให้เด็กสารวจและสาธิตหรือ
แล้วใหเ้ ด็ก ๆ วาดภาพชา้ งตัวใหญ่ ประเภทอืน่ ๆ อธิบายวธิ กี ารประดษิ ฐช์ า้ งจาลอง
- นบั จานวนและ ให้เดก็ ๆ ดู
เปรยี บเทียบจานวน - ใหเ้ ด็ก ๆ รว่ มกนั ออกแบบและ
อวยั วะของช้างกับสัตว์ ประดษิ ฐช์ า้ งจาลองด้วยการป้ัน
ต่างๆ ดินนา้ มันและตกแตง่ ดว้ ยเศษ
วัสดุต่าง ๆ
69 - นาเสนอผลงานชา้ งจาลองโดย
ใหเ้ ด็กเปน็ ผนู้ าเสนอ

2. นาเลา่ นิทานเรอ่ื ง ช้างฮัดเช้ย ให้เด็ก ๆ ฟัง เม่อื เล่าจบแล้วสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั เหตกุ ารณท์ เี่ กดิ ขน้ึ ในนทิ านและเรยี งลาดบั
เหตุการณก์ อ่ น-หลงั ข้อคดิ สาคัญทีเ่ ดก็ ๆ ไดจ้ ากนิทานมอี ะไรบา้ ง

3. นาเด็กมาทากจิ กรรมตามใบกิจกรรมที่ 5.1 – 5.4

กิจกรรมท่ี 5.1 กจิ กรรมที่ 5.2

กิจกรรมที่ 5.3 กจิ กรรมที่ 5.4

70

สอื่ อุปกรณ์และแหล่งการเรียนรู้
1. ดินน้ามนั
2. เศษวัสดุท่ใี ช้ตกแต่งเป็นอวัยวะตา่ ง ๆ ของช้าง เชน่ ไมจ้ ิม้ ฟนั ใชท้ างานช้าง, เชอื กไหมพรมใชท้ าหางช้าง, กระดาษสีใชท้ าหูช้าง เปน็ ตน้
3. นิทานเรื่องชา้ งฮดั เช้ย

การวัดและการประเมนิ ผล
1. สงั เกตจากการตอบคาถาม
2. สังเกตจากการร่วมกจิ กรรม
3. สงั เกตจากการปฏิบัตหิ รอื ทดลองจรงิ
4. แบบบนั ทกึ การประเมินผลการเรยี นรทู้ ้ายเลม่ ของหนงั สือชุดการเขียนโคด้ สาหรับเด็กปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทึกผลการประเมนิ * ธรรมชาติรอบตวั

หัวเรอ่ื งที่ 5. ช้างฮัดเช้ย

พฒั นาการดา้ นสตปิ ัญญา ใบกจิ กรรม 5.1 ใบกจิ กรรม 5.2 ใบกิจกรรม 5.3 ใบกจิ กรรม 5.4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกบั วัย

9.1 สนทนาโตต้ อบและเล่าเร่ืองให้ผู้อ่ืนเข้าใจ

9.2 อา่ น เขยี นภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้

มฐ.10 มคี วามสามารถในการคิดที่เป็นพ้ืนฐานในการเรียนรู้

10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคดิ เชิงเหตผุ ล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและตดั สินใจ

มฐ.11 มีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มีเจตคติทด่ี ีตอ่ การเรียนรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวยั

12.2 มเี จตคติทดี่ ตี ่อการเรียนรู้

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทึกการประเมนิ ผลการเรยี นรู้จากผลงานจริงของเดก็ โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแต่ละใบกจิ กรรม

ระดบั คะแนนคณุ ภาพ (Rubrics)
3 ปฏบิ ตั ไิ ดด้ ี หมายถงึ แสดงพฤตกิ รรมไดค้ ล่องแคลว่ และมั่นคง
2 ปฏิบัติได้ หมายถงึ แสดงพฤติกรรมไดบ้ างครัง้ แต่ยังไมค่ ล่องแคล่ว
1 ควรสง่ เสริม หมายถงึ ยังแสดงพฤติกรรมไดไ้ มช่ ดั เจน

71

6. เรอ่ื ง วาฬสีน้าเงิน สปั ดาหท์ ี่ วนั ท่ี / / ถึงวันที่ / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวยั : มฐ. 9, 10, 11, 12
จุดประสงค์การเรียนรู้

1. แกป้ ัญหาอยา่ งงา่ ยไดเ้ หมาะสมกับวยั
2. แสดงลาดบั ข้นั ตอนการทางานโดยใชภ้ าพ และ/หรอื สญั ลักษณ์
3. เขียนโค้ดอยา่ งงา่ ยโดยใชส้ อื่ แบบไมใ่ ชค่ อมพวิ เตอรไ์ ด้อยา่ งเหมาะสมกับวยั
สาระท่ีควรเรยี นรู้ : ธรรมชาตริ อบตัว “วาฬสนี า้ เงินเปน็ สตั วเ์ ลี้ยงลกู ด้วยนม อาศัยอยใู่ นมหาสมุทร เป็นสตั วท์ ่มี ีขนาดใหญ่ท่สี ดุ ในโลก”
ประสบการณ์สาคญั : การใชภ้ าษา การคิดพ้นื ฐานในการเรยี นรู้ การคดิ เชงิ คานวณ การเขยี นโค้ดอย่างงา่ ย
ดา้ นรา่ งกาย 1.1.2(4)
ดา้ นอารมณจ์ ติ ใจ 1.2.1(6)
ดา้ นสงั คม 1.3.4(2)
ด้านสตปิ ญั ญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4)
แนวทางการจดั กจิ กรรมประสบการณก์ ารเรียนรู้ (Active Learning)

1. จดั กจิ กรรมเพือ่ ปพู ืน้ ฐานการเรยี นรู้ รูปแบบ STEM EDUCATION เรอ่ื ง วาฬสีนา้ เงนิ
(ดแู นวทางการจัดกจิ กรรมไดจ้ ากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรับเด็กอายุ 5-6 ปี หน่วยท่ี 20)

ขนั้ นา Science ข้ันสอน Technology & ขั้นสรุป
Mathematic Engineering
1. สนทนาแลกเปลี่ยน (S1-S3) (T1-T3 & E1-E6) 5. ครนู าสรปุ และ
ประสบการณ์เดิมกบั (M1-M6) อภิปรายผลการเรียนรู้
เด็กเก่ยี วกบั สัตว์ท่ี 2. ครูเปดิ วีดิทศั น์หรอื หนังสอื 4. ครชู วนเด็กมาประดษิ ฐ์ ร่วมกัน แลว้ ประเมินผล
อาศยั อยู่ในทะเล นทิ าน ภาพวาฬสนี า้ เงินตัว 3. ครนู าภาพสตั วต์ า่ งๆท่ี “แผนภาพวาฬสีนา้ เงนิ ” โดย พฒั นาการเด็กแต่ละคน
- เดก็ ๆ ใครเคยไป ใหญ่มาใหเ้ ดก็ ๆ ดู อาศัยอยู่ในทะเลมาให้เด็ก ๆ กาหนดเงอ่ื นไขคอื “แผนภาพวาฬ หลังสิ้นสดุ กิจกรรม
ทะเลมาบ้าง เพ่อื ให้เดก็ ไดเ้ รยี นรสู้ รปุ ดู สังเกตความเหมือนและ สีน้าเงนิ ท่มี สี ่วนประกอบของ
- เด็ก ๆ พบหรอื รูจ้ ัก เกีย่ วกบั วาฬสนี ้าเงนิ ความแตกต่างของสตั วต์ ่างๆ อวยั วะและสัดสว่ นของขนาด
สัตว์อะไรบ้างที่อาศยั - วาฬสนี ้าเงนิ มสี แี ละรปู รา่ ง ทีอ่ าศัยอยู่ในทะเล รปู รา่ งเหมือนจริงเมื่อเทียบกับ
อยู่ในทะเล ลักษณะอยา่ งไร - ให้เดก็ นบั จานวนสตั ว์ทะเล ภาพของคน”
- ใหเ้ ด็ก ๆ เลา่ - วาฬสนี ้าเงิน สามารถหายใจ ทเี่ ป็นปลาและไมจ่ ัดเป็นปลา - ครูนาวัสดแุ ละอุปกรณต์ า่ ง ๆ มา
ประสบการณ์ กินอาหาร เคลอื่ นไหว ขบั ถา่ ย วา่ มจี านวนเท่าใด ใหเ้ ด็กสารวจและอธบิ ายหรือสาธติ
เจรญิ เติบโตและมลี กู ได้หรือไม่ - เปรยี บเทียบขนาดของวาฬ วธิ ีการประดิษฐ์แผนภาพให้เดก็ ดู
- วาฬสนี ้าเงินเป็นสตั ว์เลย้ี งลกู สนี า้ เงนิ เม่ือเทียบกบั สตั ว์ - ให้เดก็ ๆ ร่วมกันออกแบบและ
ดว้ ยนมทีอ่ าศัยอย่ใู นมหาสมุทร ทะเลชนิดต่าง ๆ ประดิษฐแ์ ผนภาพวาฬสีนา้ เงินตาม
เป็นสตั วท์ ี่มีขนาดใหญท่ ่สี ุดใน - เปรียบเทียบขนาดของวาฬ เงอื่ นไขที่กาหนด
โลกจริงหรือไม่ สนี า้ เงินเทยี บกับช้าง - นาเสนอผลงานประดิษฐ์แผนภาพ
โดยเด็กเป็นผนู้ าเสนอ

72

2. นาเข้าสกู่ ิจกรรมดว้ ยการเล่านทิ านเร่อื ง วาฬเกยตื้น เมือ่ เล่าจบแล้วสนทนารว่ มกันเกยี่ วกบั เหตุการณท์ ี่เกดิ ขน้ึ ใน นิทานและ
เรยี งลาดับเหตุการณก์ ่อน-หลงั การว่ายน้ากลบั ไปหาพ่อแม่ วาฬน้อยอาจต้องเจอกับอปุ สรรคอะไรบา้ ง แล้วใหเ้ ดก็ ๆ เลน่ แสดงบทบาทสมมตุ ิเป็น
ตวั ละครตา่ ง ๆ ในนิทาน

3. นาเด็กมาทากิจกรรมตามใบกิจกรรมท่ี 6.1 – 6.4

กจิ กรรมท่ี 6.1 กิจกรรมท่ี 6.2

กจิ กรรมท่ี 6.3 กจิ กรรมท่ี 6.4

73

สื่อ อุปกรณ์และแหลง่ การเรียนรู้
1. กระดาษสี สาหรบั ตดั เป็นชิน้ สว่ นอวยั วะต่าง ๆ ของวาฬสนี า้ เงิน
2. กรรไกร
3. กาว
4. ภาพคนขนาดต่าง ๆ
5. ฟวิ เจอรบ์ อรด์
6. นทิ านเร่อื งวาฬเกยต้นื
7. อุปกรณ์ประกอบการแสดงบทบาทสมมตุ เป็นตวั ละครต่าง ๆ ในนิทาน วาฬเกยตื้น

การวัดและการประเมินผล
1. สงั เกตจากการตอบคาถาม
2. สงั เกตจากการรว่ มกิจกรรม
3. สังเกตจากการปฏิบัตหิ รือทดลองจรงิ
4. แบบบันทกึ การประเมินผลการเรียนร้ทู า้ ยเลม่ ของหนังสอื ชุดการเขยี นโค้ดสาหรับเด็กปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทึกผลการประเมิน* ธรรมชาตริ อบตวั

หัวเรอ่ื งท่ี 6. วาฬสนี ้าเงนิ

พฒั นาการดา้ นสติปัญญา ใบกจิ กรรม 6.1 ใบกจิ กรรม 6.2 ใบกจิ กรรม 6.3 ใบกิจกรรม 6 .4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วยั

9.1 สนทนาโตต้ อบและเลา่ เรอื่ งให้ผ้อู ่ืนเข้าใจ

9.2 อา่ น เขยี นภาพและสัญลักษณไ์ ด้

มฐ.10 มคี วามสามารถในการคดิ ทีเ่ ป็นพ้ืนฐานในการเรยี นรู้

10.1 มีความสามารถในการคดิ รวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชิงเหตผุ ล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและตัดสนิ ใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

11.1 ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มีเจตคติทดี่ ีต่อการเรียนรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกบั วยั

12.2 มีเจตคติทีด่ ตี ่อการเรยี นรู้

12.2 มีความสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทึกการประเมนิ ผลการเรยี นรู้จากผลงานจริงของเดก็ โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในชอ่ ง  ของแต่ละใบกิจกรรม

ระดบั คะแนนคณุ ภาพ (Rubrics)
3 ปฏิบัติได้ดี หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมไดค้ ล่องแคล่วและมนั่ คง
2 ปฏบิ ัติได้ หมายถงึ แสดงพฤติกรรมได้บางคร้ังแต่ยงั ไมค่ ล่องแคล่ว
1 ควรสง่ เสริม หมายถงึ ยงั แสดงพฤติกรรมไดไ้ ม่ชดั เจน

74

7. เร่ือง รถยนต์ไรค้ นขบั (Autonomous car) สัปดาหท์ ี่ วันที่ / / ถึงวนั ที่ / / /

มาตรฐานการศึกษาปฐมวัย : มฐ. 9, 10, 11, 12
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. แกป้ ญั หาอย่างง่ายได้อยา่ งเหมาะสมกบั วยั
2. แสดงลาดับขนั้ ตอนการทางานโดยใช้ภาพ และ/หรอื ลกั ษณะ
3. เขยี นโคด้ อยา่ งงา่ ยโดยใช้ส่อื แบบไมใ่ ชค่ อมพวิ เตอรไ์ ดเ้ หมาะสมกบั วัย
สาระที่ควรเรยี นรู้ : สิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั เดก็ “ยานพาหนะและการคมนาคม”
ประสบการณ์สาคญั : การใช้ภาษา การคดิ พืน้ ฐานในการเรียนรู้ การคดิ เชงิ คานวณ การเขยี นโคด้ อยา่ งงา่ ย
ดา้ นร่างกาย 1.1.2(4)
ดา้ นอารมณจ์ ติ ใจ 1.2.5(1)
ดา้ นสังคม 1.3.5(1), 1.3.6(1)
ดา้ นสติปญั ญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4)
แนวทางการจดั กจิ กรรมประสบการณก์ ารเรียนรู้ (Active Learning)

1. จดั กิจกรรมเพ่ือปูพน้ื ฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เรอื่ ง รถประดษิ ฐเ์ คลื่อนท่ไี ด้
(ดูแนวทางการจดั กิจกรรมได้จากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรบั เด็กอายุ 5-6 ปี หน่วยท่ี 30)

ขัน้ นา Science ขัน้ สอน Technology & ขนั้ สรปุ
Mathematic Engineering
1. สนทนาแลกเปลย่ี น (S1-S3) (T1-T3 & E1-E6) 5. ครูนาสรุปและ
ประสบการณเ์ ดมิ ของ (M1-M6) อภปิ รายผลการเรยี นรู้
เดก็ เกี่ยวกบั 2. ครนู าเดก็ ไปสารวจและ 4. ครูชวนเดก็ มาทดลองประดิษฐ์ ร่วมกัน แลว้ ประเมินผล
ยานพาหนะทางบก สังเกตยานพาหนะทางบก 3. รถของเล่นมาให้เดก็ ดู “รถทเ่ี คลือ่ นทไี่ ด้” โดยกาหนด พัฒนาการเด็กแตล่ ะคน
แลว้ ใหค้ รเู ล่านทิ าน ได้แก่ รถต่างๆ ท่ีมีอยภู่ ายใน เชน่ รถยนต์ รถเมล์ เงอ่ื นไขคือ “รถประดิษฐต์ อ้ ง หลังสิ้นสุดกิจกรรม
เก่ยี วกบั การเดินทาง โรงเรียน รถบรรทกุ รถสามลอ้ เคล่อื นทไ่ี ดโ้ ดยไมต่ อ้ งใชแ้ รงผลัก
แลว้ สนทนารว่ มกัน - ยานพาหนะแตล่ ะประเภทมี รถจักรยาน รถไฟ หรอื แรงดึงจากคน”
เกี่ยวกบั เน้อื หานิทาน ช่ือเรียกอะไรบา้ ง - ให้เดก็ สงั เกตและนับ - ให้เด็กสารวจวสั ดอุ ปุ กรณ์ท่จี ะใช้
และซักถาม - มรี ปู ร่าง ลักษณะและ จานวนล้อรถของรถแตล่ ะ ประดษิ ฐร์ ถที่เคลื่อนท่ีได้
- ยานพาหนะมกี ี่ ส่วนประกอบอยา่ งไร ประเภท - แบ่งเด็กออกเป็นกล่มุ ยอ่ ยแล้วให้
ประเภท - เหมอื นหรอื แตกต่างกนั - ให้เดก็ เปรียบเทยี บจานวน เด็กแต่ละกลุ่มรว่ มกันออกแบบและ
- สามารถเดนิ ทางไป อยา่ งไร ลอ้ รถแตล่ ะประเภทวา่ มี ประดิษฐ์รถท่ีเคล่อื นทไี่ ด้
โรงเรียนด้วยวธิ กี ารใด จากน้นั ให้เด็กกลบั เข้า จานวนเท่ากนั หรือไมเ่ ท่ากัน - เด็กแต่ละกลุ่มทดสอบและ
ไดบ้ า้ ง ห้องเรยี นแล้ววาดภาพ มากกวา่ หรือนอ้ ยกวา่ ปรบั ปรุงแก้ไขรถประดษิ ฐใ์ ห้ตรง
- เด็ก ๆ มาโรงเรยี น ยานพาหนะทางบกที่เด็กชอบ - เด็กสงสัยอะไรเกีย่ วกบั รถ ตามเง่อื นไขท่กี าหนด
ดว้ ยวธิ ีการใดบ้าง ของเล่นบา้ ง - นาเสนอผลงานรถประดิษฐ์
- เด็ก ๆ คดิ ว่ารถเคลือ่ นทไี่ ด้ เคล่อื นที่ไดข้ องแต่ละกลมุ่ โดยเดก็
อยา่ งไร เป็นผ้นู าเสนอ

75

2. นาสนทนาแลกเปล่ยี นประสบการณเ์ ดิมกับเดก็ เก่ยี วกับรถยนตไ์ รค้ นขับ (Autonomous car) แลว้ เปิดวดี ทิ ัศนเ์ กยี่ วกับรถยนตไ์ ร้
คนขบั ให้เดก็ ๆ ดู แล้วร่วมกนั อภปิ รายเพ่มิ เติม รถยนตข์ ับเคล่อื นเองได้อยา่ งไร เราจะมีวิธีสัง่ การรถยนต์ไร้คนขบั ไดอ้ ยา่ งไร

3. นาเด็กมาทากิจกรรมตามใบกจิ กรรมที่ 7.1 – 7.4

กิจกรรมที่ 7.1 กิจกรรมท่ี 7.2

กิจกรรมที่ 7.3 กจิ กรรมที่ 7.4

76

สอื่ อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรียนรู้
1. รถของจริง, รถของเลน่
2. กลอ่ งขนม, กระดาษส,ี หลอดกาแฟ, ไมเ้ สียบลกู ชิ้น, ไมไ้ อศกรีม, เชอื ก, หนังยาง, ขวดนา้ , ฝาขวดนา้ , แกนทิชชู เป็นตน้
3. กระดาษA4, ดนิ สอ, สีเทียน, ยางลบ, กรรไกร, กาว, เทปกาว
4. วีดทิ ัศน์ หรือ YouTube เก่ียวกบั รถยนตไ์ ร้คนขับ (Autonomous car)

การวดั และการประเมินผล
1. สังเกตจากการตอบคาถาม
2. สังเกตจากการรว่ มกิจกรรม
3. สังเกตจากการปฏิบัตหิ รือทดลองจรงิ
4. แบบบนั ทึกการประเมินผลการเรยี นรูท้ า้ ยเลม่ ของหนังสอื ชดุ การเขียนโค้ดสาหรบั เด็กปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทกึ ผลการประเมิน* ส่งิ ตา่ ง ๆ รอบตัวเด็ก

หัวเร่ืองท่ี 7. รถยนตไ์ รค้ นขบั (Autonomous car)

พัฒนาการดา้ นสตปิ ญั ญา ใบกจิ กรรม 7.1 ใบกจิ กรรม 7.2 ใบกิจกรรม 7.3 ใบกจิ กรรม 7.4

มฐ.9 ใช้ภาษาส่อื สารได้เหมาะสมกับวัย

9.1 สนทนาโต้ตอบและเลา่ เร่อื งให้ผ้อู ่ืนเข้าใจ

9.2 อ่าน เขยี นภาพและสญั ลักษณไ์ ด้

มฐ.10 มคี วามสามารถในการคดิ ท่ีเป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้

10.1 มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด

10.2 มีความสามารถในการคดิ เชิงเหตุผล

10.3 มีความสามารถในการคดิ แกป้ ญั หาและตดั สินใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศลิ ปะตามจินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์

11.2 แสดงทา่ ทาง/เคลือ่ นไหวตามจินตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มีเจตคติที่ดีต่อการเรยี นรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความร้ไู ด้เหมาะสมกับวยั

12.2 มีเจตคตทิ ด่ี ตี อ่ การเรยี นรู้

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นรจู้ ากผลงานจรงิ ของเด็ก โดยใสค่ ะแนนคณุ ภาพ 3, 2, 1 ลงในช่อง  ของแตล่ ะใบกิจกรรม

ระดับคะแนนคณุ ภาพ (Rubrics)
3 ปฏบิ ัตไิ ด้ดี หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมไดค้ ล่องแคล่วและมัน่ คง
2 ปฏิบัตไิ ด้ หมายถงึ แสดงพฤติกรรมได้บางคร้ังแต่ยงั ไมค่ ลอ่ งแคลว่
1 ควรสง่ เสรมิ หมายถงึ ยงั แสดงพฤตกิ รรมไดไ้ ม่ชดั เจน

77

8. เรอื่ ง โดรนกภู้ ัย (Rescue Drone) สัปดาหท์ ี่ วันท่ี / / ถงึ วันที่ / / /

มาตรฐานการศกึ ษาปฐมวยั : มฐ. 9, 10, 11, 12
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. แกป้ ญั หาอย่างงา่ ยไดเ้ หมาะสมกบั วยั
2. แสดงลาดับขน้ั ตอนการทางานโดยใช้ภาพ และ/หรือสัญลักษณ์
3. การเขียนโคด้ อย่างงา่ ยโดยใช้ส่อื แบบไมใ่ ชค่ อมพิวเตอรไ์ ดเ้ หมาะสมวยั
สาระที่ควรเรยี นรู้ : สง่ิ ตา่ ง ๆ รอบตวั เดก็ “อากาศยานไร้คนขับ มชี อื่ รูปร่าง ลักษณะและสว่ นประกอบตา่ ง ๆ”
ประสบการณ์สาคญั : การใชภ้ าษา การคิดพ้นื ฐานในการเรยี นรู้ การคดิ เชิงคานวณ การเขียนโค้ดอย่างง่าย
ด้านร่างกาย 1.1.2(4)
ด้านอารมณ์จิตใจ 1.2.5(1)
ดา้ นสังคม 1.3.4(2)
ดา้ นสตปิ ญั ญา 1.4.1(1), 1.4.1(4), 1.4.1(6), 1.4.2(1), 1.4.2(8), 1.4.2(9), 1.4.2(13), 1.4.2(15), 1.4.2(16), 1.4.2(17), 1.4.2(18),

1.4.2(19), 1.4.3(1), 1.4.3(2), 1.4.3(3), 1.4.4(1), 1.4.4(2), 1.4.4(3), 1.4.4(4), 1.4.2(4)
แนวทางการจดั กจิ กรรมประสบการณก์ ารเรียนรู้ (Active Learning)

1. จดั กิจกรรมเพอื่ ปูพ้ืนฐานการเรยี นรู้ รปู แบบ STEM EDUCATION เรอ่ื ง จรวดอวกาศ
(ดแู นวทางการจัดกิจกรรมไดจ้ ากแผนการจดั ประสบการณ์ STEM EDUCATION สาหรบั เด็กอายุ 5-6 ปี หนว่ ยท่ี 32)

ขั้นนา Science ขัน้ สอน Technology & ขนั้ สรุป
Mathematic Engineering
1. สนทนาแลกเปลี่ยน (S1-S3) (T1-T3 & E1-E6) 5. ครนู าสรุปและ
ประสบการณเ์ ดมิ ของ (M1-M6) อภปิ รายผลการ
เด็กเกี่ยวกบั เทคโนโลยี 2. ครูเปิดวดิ ีทัศนเ์ กี่ยวกับ 4. ครูชวนเดก็ มาประดิษฐ์ “จรวด เรยี นรู้รว่ มกนั แลว้
อวกาศ แลว้ ครูต้ัง การสารวจอวกาศใหเ้ ด็กดู 3. ครูนาโปสเตอร์ภาพ อวกาศ” โดยกาหนดเงอ่ื นไขคือ ประเมนิ ผล
คาถามทส่ี นใจ แล้วสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั แบบจาลองจรวดยานอวกาศและ “เมื่อปล่อยจรวดกระดาษออกจาก พัฒนาการเดก็ แต่ละ
- เดก็ ๆ รู้จัก การอวกาศและยานพาหนะ ดาวเทยี มมาให้เดก็ ดู มอื แลว้ จรวดตอ้ งรออยู่ในอากาศ คนหลงั ส้ินสดุ
ยานพาหนะท่ีใช้สารวจ ทใ่ี ช้สารวจอวกาศ - ให้เด็กสงั เกตยานพาหนะท่ีใช้ ไดน้ าน 5 วนิ าที” กจิ กรรม
อวกาศมอี ะไรบ้าง - ในอากาศมอี ะไรบ้าง สารวจอวกาศว่ามี - ใหเ้ ดก็ สารวจวสั ดุอปุ กรณ์ท่ีจะใช้
- ยานอวกาศมีลกั ษณะ - เด็ก ๆ สามารถเดินทางไป รูปร่าง ลกั ษณะและ ประดษิ ฐ์จรวดอวกาศ
อยา่ งไร สารวจอวกาศได้ด้วยวธิ กี าร สว่ นประกอบเป็นอยา่ งไร - ออกแบบและประดิษฐจ์ รวด
ใด - มีรูปรา่ ง รูปทรงคลา้ ยรปู อวกาศตามเงอื่ นไขทีก่ าหนด
เรขาคณิตอะไรบา้ ง - ทดสอบและปรับปรุงแก้ไขจรวด
- เด็กสงสัยอะไรเกีย่ วกับจรวด อวกาศให้ตรงตามเงือ่ นไข
ยานอวกาศและดาวเทยี มบ้าง - นาเสนอผลงานจรวดอวกาศทาให้
- เด็ก ๆ คดิ วา่ จรวดขึ้นสอู่ วกาศ เดก็ ทดสอบใหเ้ พอื่ น ๆ ดู
ได้อย่างไร

78

2. นาสนทนาแลกเปล่ียนประสบการณเ์ ดิมกบั เด็ก เกี่ยวกับอากาศยานไรค้ นขับ “โดรน” แล้วนาของจริงมาให้เด็กสารวจ สงั เกต อธบิ าย
และสาธิตวิธีการใช้งาน หรอื อาจจะใชว้ ธิ เี ปดิ วีดิทัศนเ์ กี่ยวกบั โดรน เช่น โดรนกู้ภัย (Rescue Drone) แลว้ ร่วมกันอภิปรายเพ่มิ เตมิ โดรนมรี ูปรา่ ง
ลักษณะอยา่ งไรบ้าง ทาอะไรไดบ้ ้าง จะสอ่ื สารกบั โดรนไดอ้ ยา่ งไร

3. นาเดก็ มาทากจิ กรรมตามใบกจิ กรรมท่ี 8.1 – 8.4

กิจกรรมที่ 8.1 กจิ กรรมที่ 8.2

กิจกรรมท่ี 8.3 กิจกรรมท่ี 8.4

79

สอื่ อุปกรณแ์ ละแหล่งการเรยี นรู้
1. กระดาษ
2. กระดาษแขง็
3. กาว/เทปกาว
4. กรรไกร
5. โดรน (Drone) ของจริง หรอื ของจาลอง หรอื วิดที ัศน์ เกีย่ วกับโดรน (Drone)

การวดั และการประเมนิ ผล
1. สังเกตจากการตอบคาถาม
2. สงั เกตจากการรว่ มกิจกรรม
3. สงั เกตจากการปฏิบัตหิ รือทดลองจริง
4. แบบบนั ทึกการประเมินผลการเรียนร้ทู า้ ยเลม่ ของหนงั สือชุดการเขยี นโคด้ สาหรบั เด็กปฐมวยั อายุ 5-6 ปี

บันทึกผลการประเมนิ * สง่ิ ต่าง ๆ รอบตัวเดก็

หัวเร่ืองที่ 8. โดรนกภู้ ยั (Rescue Drone)

พฒั นาการด้านสตปิ ัญญา ใบกจิ กรรม 8.1 ใบกิจกรรม 8.2 ใบกจิ กรรม 8.3 ใบกิจกรรม 8.4

มฐ.9 ใชภ้ าษาสอ่ื สารได้เหมาะสมกบั วยั

9.1 สนทนาโต้ตอบและเลา่ เรอ่ื งให้ผูอ้ ืน่ เขา้ ใจ

9.2 อา่ น เขียนภาพและสญั ลักษณไ์ ด้

มฐ.10 มีความสามารถในการคิดทเี่ ป็นพ้ืนฐานในการเรยี นรู้

10.1 มคี วามสามารถในการคดิ รวบยอด

10.2 มคี วามสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล

10.3 มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและตดั สนิ ใจ

มฐ.11 มจี นิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์

11.1 ทางานศิลปะตามจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์

11.2 แสดงท่าทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์

มฐ.12 มีเจตคตทิ ี่ดีตอ่ การเรยี นรู้และมคี วามสามารถในการ

แสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกับวยั

12.2 มีเจตคติทด่ี ตี ่อการเรียนรู้

12.2 มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้

*หมายเหตุ : บันทกึ การประเมินผลการเรยี นรู้จากผลงานจรงิ ของเดก็ โดยใสค่ ะแนนคุณภาพ 3, 2, 1 ลงในชอ่ ง  ของแต่ละใบกิจกรรม

ระดบั คะแนนคุณภาพ (Rubrics)
3 ปฏบิ ตั ไิ ดด้ ี หมายถึง แสดงพฤติกรรมไดค้ ลอ่ งแคล่วและมนั่ คง
2 ปฏบิ ัติได้ หมายถึง แสดงพฤตกิ รรมได้บางครงั้ แต่ยงั ไม่คลอ่ งแคล่ว
1 ควรสง่ เสรมิ หมายถงึ ยงั แสดงพฤติกรรมไดไ้ ม่ชัดเจน

80


Click to View FlipBook Version