The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สีม่วงและสีชมพู สีน้ำ ดอกไม้ หน้าปกรายงาน ขอบกระดาษ เอกสารขนาด A4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by กรวิชญ์ ชินวงค์1, 2024-01-12 08:11:01

สีม่วงและสีชมพู สีน้ำ ดอกไม้ หน้าปกรายงาน ขอบกระดาษ เอกสารขนาด A4

สีม่วงและสีชมพู สีน้ำ ดอกไม้ หน้าปกรายงาน ขอบกระดาษ เอกสารขนาด A4

นาฏศิลป์ 4 ภาค ภาคเหนือ จัดทำ โดย เด็ก ด็ หญิง กิตธีรา พูลพงค์ เสนอ คุณ คุ ครู สุดา จันทอง


ภาคเหนือมีภูมิประเทศ ส่วนใหญ่ของเขตนี้มีลักษณะเป็นทิวเขา ภูเขา หุบเขาและแอ่งแผ่นดินระหว่างภูเขา มีความสูงชันจากบริเวณ ตะวันตก เฉียงเหนือ แล้วค่อย ๆ ลาดต่ำ ลงมาสู่ที่ราบต่ำ บริเวณตะวันออกเฉียง ใต้และตอนกลางแล้วค่อย ๆ สูงขึ้นอีกทางบริเวณตะวันออกและตะวัน ออกเฉียงเหนือในเขต จ.น่าน คือ แถบเทือกเขาหลวงพระบาง บริเวณที่ สูงเหล่านี้นับเป็นแหล่งกำ เนิดของแม่น้ำ ลำ ธารหลายสาย ที่ไหลลงสู่ แม่น้ำ โขงทางด้านเหนือ ลงสู่แม่น้ำ เจ้าพระยาทางด้านใต้และ ลงสู่ลุ่ม น้ำ สาละวินทางตะวันตก หุบเขาและแอ่งแผ่นดินที่แม่น้ำ เหล่านี้ไหลผ่าน จะเกิดที่ราบดินตะกอนที่แม่น้ำ ไหลพามาทับถม เป็นบริเวณที่อุดม สมบูรณ์เหมาะ ในการเพาะปลูกและการตั้งถิ่นฐาน ทำ ให้กลายเป็น แหล่งชุมชนสำ คัญของภาค ภูมิ ภู มิประเทศของภาคเหนือ


ภาษาไทยถิ่นเหนือ หรือ กำ เมือง คำ เมือง หรือชื่ออย่าง เป็นทางการว่า ภาษาถิ่นพายัพ เป็นภาษาถิ่นที่ใช้ในภาค เหนือตอนบน หรือภาษาในอาณาจักรล้านนาเดิม มักจะ พูดกันมากในแถบจังหวัด เชียงใหม่ เชียงราย อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน แม่ฮ่องสอน ลำ พูน ลำ ปาง พะเยา และยังมีการพูดและการผสมภาษากันในบางพื้นที่ของ จังหวัดตาก สุโขทัยและ เพชรบูรณ์อีกด้วย ภาษาของภาคเหนือ


ความเชื่อเกี่ยวกับการนับถือผี ชาวเหนือหรือที่เรียกกันว่า “ชาวล้านนา” มีความเชื่อในเรื่องการนับถือผีตั้งแต่เดิม โดย เชื่อว่าสถานที่แทบทุกแห่ง มีผีให้ความคุ้มครองรักษา อยู่ ความเชื่อนี้จึงมีอิทธิพลต่อการดำ เนินชีวิตประจำ วัน เห็นได้ จากขนบธรรมเนียม ประเพณี และพิธีกรรมต่างๆ ของชาว เหนือ เช่น ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวเหนือ (พ่ออุ๊ยแม่อุ๊ย) เมื่อ ไปวัดฟัง ธรรมก็จะประกอบพิธีเลี้ยงผี คือ จัดหาอาหาร คาว-หวานเซ่น สังเวยผีปู่ย่าด้วย ความเชื่อของภาคเหนือ


ศาสนาของภาคเหนือ ศาสนาของภาคเหนือ ศาสนาพุทธ 96.6% ศาสนาคริสต์ 2.7% ศาสนาอิสลาม 0.1% ศาสนาอื่นๆ 0.6%


อาหารของภาคเหนือ ประกอบด้วยข้าวเหนียวเป็นอาหารหลัก มี น้ำ พริกชนิดต่าง ๆ เช่น น้ำ พริกหนุ่ม น้ำ พริกอ่อง มีแกงหลาย ชนิด เช่น แกงโฮะ แกงแค นอกจากนั้นยังมีแหนม ไส้อั่ว แคบหมู และผักต่าง ๆ สภาพอากาศก็มีส่วนสำ คัญที่ทำ ให้อาหารพื้นบ้าน ภาคเหนือแตกต่างจากภาคอื่น ๆ นั่นคือ การที่อากาศหนาวเย็น เป็นเหตุผลให้อาหารส่วนใหญ่มีไขมันมาก เช่น น้ำ พริกอ่อง แกง ฮังเล ไส้อั่ว เพื่อช่วยให้ร่างกายอบอุ่น อีกทั้งการที่อาศัยอยู่ใน หุบเขาและบนที่สูงอยู่ใกล้กับป่า จึงนิยมนำ พืชพันธุ์ในป่ามาปรุง เป็นอาหาร เช่น ผักแค บอน หยวกกล้วย ผักหวาน ทำ ให้เกิด อาหารพื้นบ้าน ชื่อต่าง ๆ เช่น แกงแค แกงหยวกกล้วย แกงบอน อาหารของภาคเหนือ


การแต่ง ต่ กายของ ภาคเหนือ ผู้หญิง ชาวเหนือจะนุ่งผ้าซิ่น(ผ้าถุง) ยาวเกือบถึงตาตุ่ม นิยมนุ่งทั้งสาว และคนแก่ผ้าถุงจะมีความประณีต งดงาม ส่วนเสื้อจะเป็นเสื้อคอกลม มีสีสัน ลวดลายสวยงาม ผู้ชาย ส่วนใหญ่นิยมสวมเสื้อแขน สั้นสีเข้มๆ ที่เราเรียกว่า "ม่อฮ่อม" สวมกางเกงสีเดียวกับเสื้อจรดเข่า นิยมใช้ผ้าคาดเอว ด้วยผ้าขาวม้า


ประเพณีของภาคเหนือ เป็นประเพณีของชาวไทยล้านนาโดยทั่วไป มีทั้ง การสืบชะตาเมืองสืบชะตาบ้าน และสืบชะตาบุคคล เพื่อความเป็นสิริมงคลความเจริญรุ่งเรือง มี การเตรียมเครื่องบูชาเซ่นไหว้ต่าง ๆ มากมาย เพื่อ บูชาพระ


ประเพณีสงกรานต์ เป็นประเพณีเก่าแก่มาแต่โบราณ ตรงกับวันที่ 13 เมษายนของทุกปีชาว เชียงรายถือว่าเป็นวันขึ้นปีใหม่ เปลี่ยนศักราชใหม่ ชาวบ้านเรียกกันว่า “วันสังขารล่อง” หมายถึงว่าอายุสังขารของคนเราได้ล่วงไปอีกปีหนึ่ง นิยมไปจนถึงวันที่ 17 เมษายน ในแต่ละวันจะมีกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การ ขนทรายเข้าวัด สรงน้ำ พระพุทธรูปและรดน้ำ ดำ หัวผู้ใหญ่ ประเพณีลอยโคม ชาวล้านนาจังหวัดเชียงใหม่ ที่มีความเชื่อใน การปล่อย โคมลอยซึ่งทำ ด้วย กระดาษสาติดบนโครงไม้ไผ่แล้วจุดตะเกียงไฟตรงกลางเพื่อให้ไอความร้อนพาโคมลอย ขึ้นไปในอากาศเป็นการปล่อยเคราะห์ปล่อยโศกและเรื่องร้าย ๆ ต่าง ๆ ให้ไปพ้นจากตัว


ประเพณีแข่งเรือยาว เป็นประเพณีที่เก่าแก่สืบเนื่องกันมาตั้งแต่โบราณกาล การจัดแข่งจะจัด กันเองในหน้าน้ำ ในเทศกาลตานก๋วยสลาก (สลากภัต) แต่ละวันก็จะนำ เรือของตนเข้า แข่งเพื่อเป็นการสมานสามัคคีกันเอกลักษณ์ของเรือ คือ เป็นเรือที่ขุดจากไม้ตะเคียน หรือตะเคียนทองทั้งต้น โดยเชื่อกันว่า มีความทนทานและผีนางไม้แรง ประเพณีทานข้าวสลาก ภาษาพื้นเมืองเรียกว่า “ตานก๋วยสลาก” หมายถึง ประเพณี ถวายสลากภัตนั่นเอง เริ่มในวันเพ็ญเดือน 12 เหนือตลอดเดือนแล้ว แต่ที่ใดจะเห็นเหมาะสมจัดในวันใดก่อนวันพิธีถือว่าเป็น “วันดา” ชาวบ้านจะเตรียมเครื่องไทยทานแล้วนำ ไปวัดที่จัดงานเพื่อถวาย พระ สามเณร


ประเพณีขึ้นธาตุเดือนเก้า ประมาณเดือนมิถุนายน (หรือปลายเดือนพฤษภาคม) เพื่อบูชา พระบรมสารีริกธาตุแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็น ประเพณีที่สืบทอดต่อกันมาแต่โบราณ เพื่อเป็นการสักการะองค์ พระบรมธาตุ และบวงสรวงขอพรเทวดาในการเริ่มฤดูทำ นา โดยจะ ทำ ในทุกวันขึ้น 14 และ 15 ค่ำ ประเพณีทอดผ้าป่าแถว เป็นวันที่พุทธศาสนิกชนจะได้ถวายเครื่องนุ่งห่มและ ไทยธรรม เป็นเครื่องบูชาแด่พระสงฆ์ก่อนจะทำ พิธีลอยกระทง บูชาพระพุทธบาทตามคติความเชื่อแต่โบราณ กระทำ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (วันลอยกระทง)


เครื่องดนตรีของภาคเหนือ วัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านท้องถิ่นในของภาคเหนือ เน้นความเพลงที่มีความสนุกสนานสามารถใช้ร้องเล่น ได้ทุกโอกาสไม่จำ กัดฤดูไม่จำ กัดเทศกาล ส่วนใหญ่นิยม ใช้ร้องเพลวเพื่อผ่อนคลายอารมณ์ และพักผ่อนใจ


ตัว ตั อย่า ย่ งการแสดงพื้น บ้านของภาคเหนือ 1) ฟัอนเทียน 2) ฟ้อนเงี้ยว 3) ฟ้อนวี 4) ฟ้อนเล็บ 5) ฟ้อนดาบ


เดิมคงเป็นการฟ้อนสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ต่อมาแสดงในงาน พิธีสำ คัญในคุ้มเจ้าหลวง ผู้ฟ้อนเป็นเจ้านายเชื้อพระวงศ์ฝ่ายใน เมื่อ พ.ศ. 2469 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จ ประพาสเมืองเหนือ เจ้าดารารัศมีทรงฝึกหัดสาวเหนือฟ้อนรับ เสด็จและครูนาฏศิลป์ของกรมศิลปากร ได้นำ มาสอนในวิทยาลัน นาฏศิลป์ต่อม ลักษณะการแสดง ผู้ฟ้อนเป็นหญิงล้วน ถือเทียนจุดไฟมือละ เล่มนิยมแสดงในเวลากลางคืน ความงามของฟ้อนเทียนอยู่ที่ แสงเทียน เต้นระยิบระยับขณะที่ผู้ฟ้อนหมุนข้อมือ และลีลาการ เคลื่อนไหวช้าๆเห็นแสงเทียนเดินเป็นทาง มีการแปรขบวน ควงคู่สลับแถว เข้าวง ต่อมือ ฯลฯ งดงามมาก ฟ้อ ฟ้ นเทีย ที น


การแต่งกาย นุ่งซิ่นยาวกรอม สวมเสื้อแยนยาวคอปิด คาดเข็มขัดทับ ห่มสไบ เกล้าผมมวยสูงประดับดอกไม้ ล้อมมวย ห้อยอุบะยาวเคลียไหล่ ถือเทียนมือละเล่ม ฟ้อ ฟ้ นเทีย ที น ดนตรีประกอบ มีปี่แน กลองแอว์ กลองตะโล้ดโป้ด ฉาบใหญ่ ฆ้องโหม่ง และฆ้องหุ่ย ถ้า แสดงกลางวันนิยมแสดงฟ้อนเล็บ คือ ผู้ฟ้อนสวมเล็บ ยาว 8 เล็บแทนการถือเทียน ลีลาการฟ้อนคล้ายคลึง กัน การแต่งการและดนตรีก็เหมือนกัน


เป็นการแสดงพื้นเมืองของชาวเขาเผ่าหนึ่ง ซึ่งเรียกว่า “เงี้ยว” มี ภูมิลำ เนาอยู่ภาคเหนือของประเทศไทย นางลมุล ยมคุปต์ ผู้เชี่ยวชาญ การสอนนาฏศิลป์ วิทยาลัยนาฏศิลป์กรมศิลปากรได้มีโอกาสไปสอนละคร ที่คุ้มเจ้าหลวง เจ้าแก้วนวรัฐ ผู้ครองนครเชียงใหม่ และได้เห็นการฟ้อน เงี้ยวเรียกตามภาษาพื้นเมืองว่า เงี้ยวปนเมือง ของคุ้มเจ้าหลวง ซึ่งมีนาง หลง บุญจูหลงเป็นผู้ฝึกสอน ในความควบคุมของพระราชชายา เจ้าดารา รัศมี ในรัชการที่ 5 ต่อมานางลมุล ยมคุปต์ ได้รับราชการเป็นครูสอน นาฏศิลป์ ที่วิทยาลัยนาฏศิลป์ (ในขณะนั้นเรียกว่า “โรงเรียนนาฎดุริยางค์ ศาสตร์”) และได้นำ ลีลาท่ารำ ฟ้อนเงี้ยวมาปรับปรุงขึ้นใหม่ให้งดงามตาม แบบฉบับนาฏศิลป์ไทย บรรจุไว้ในหลักสูตรวิชานาฏศิลป์ เมื่อ พ.ศ. 2478 บทร้องของฟ้อนเงี้ยวมีลักษณะเป็นบทอวยพร คือ อาราธนาพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เทพยดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายมาปกป้องคุ้มครอง อวยชัยให้พรเป็นสวัสดิ์มงคลต่อไป ฟ้อ ฟ้ นเงี้ยว


“วี” เป็นคำ พื้นเมืองภาคเหนือ หมายถึง “พัด” ชาวบ้าน ในยุคก่อนนิยมทำ วีจาก กาบหมาก ซึ่งเป็นวัสดุที่หาได้ ง่ายในยุคนั้น วี นำ มาใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย เช่น คลายร้อน ไล่ยุงหรือแมลง การแสดงชุดนี้เป็นการนำ วิธีการหรือประโยชน์ของพัดในลักษณะต่าง ๆ มา ประดิษฐ์เป็นท่าฟ้อน ให้มีความงดงามนุ่มนวล และ สนุกสนานปนกันไป เป็นการแสดงให้เห็นถึงความ รื่นเริงของหญิงสาวชาวล้านนา ฟ้อ ฟ้ นวี


ฟ้อนเล็บเป็นศิลปะการแสดงที่เป็นเอกลักษณ์ทางภาค เหนือโดยเฉพาะรูปแบบการฟ้อนมีอยู่ 2 แบบ คือแบบ พื้นเมืองหรือฟ้อนเมือง และแบบคุ้มเจ้าหลวง กระบวน ท่ารำ เป็นลีลาท่าฟ้อนที่มีความงดงามเช่นเดียวกับฟ้อน เทียน เพลงแต่ไม่ถือเทียน นิยมฟ้อนในเวลากลางวัน สำ หรับชื่อชุดการแสดงจะมีความหมายตามลักษณะ ของผู้แสดงที่จะสวมเล็บยาวสีทองทุกนิ้ว ยกเว้นนิ้วหัว แม่มือ ฟ้อ ฟ้ นเล็บ ล็


ถือเป็นศิลปการฟ้อนรำ พื้นเมืองเชียงใหม่ที่ผสมเอา ศิลปการต้องกันตัวเข้ามามีส่วนในการฟ้อนด้วย การฟ้อน ดาบเป็นการรำ ที่ใช้ดาบเป็นเครื่องประกอบ มีลวดลาย ท่วงท่าหลายชั้นเชิง โดยใช้เครื่องดนตรีกลองปู่เจ่ ฉาบและ ฆ้อง ซึ่งการฟ้อนดาบนั้นจะเป็นการฟ้อนที่คู่กับการฟ้อนเชิง หรือ ฟ้อนเจิง เป็นการฟ้อนแสดงท่าทางการต่อสู้ด้วยมือ เปล่า สองอย่างนี้มักจะใช้ผู้ชายเป็นหลัก ปัจุบันการฟ้อนทั้ง สองอย่างนี้ได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย การฟ้อน ทั้งหมดนี้ถือเป็นการฟ้อนแบบดั่งเดิมของคนเชียงใหม่ ฟ้อน ดาบจะคล้ายกับการรำ กระบี่กระบองของภาคกลาง ส่วน ฟ้อนเจิงหรือฟ้อนเชิง คล้ายกับการแสดงสิละทางภาคใต้ ฟ้อ ฟ้ นดาบ


Thank you ขอบคุณค่ะ


Click to View FlipBook Version