History THE AGE OF EXPLORATION Project
การสำ รวจทางทะเลของยุโรปเริ่มต้นเมื่อ ค.ศ. 1450 - 1750 ซึ่งเกิดจากความต้องการพัฒนา เส้นทางติดต่อทางทะเลระหว่างยุโรปกับเอเชียทาง ไม่ค้นพบเส้นทางใหม่ๆซึ่งยังไม่เป็นที่รู้จักมาก่อนและ ทำ ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ของมนุษย์ อย่างกว้างขวาง การสำ รวจทางทะเล
ปัจจัยส่งเสริมการสำ รวจทางทะเล เนื่องจากมุสลิมยึดครองกรุงคอนสแตนติโน เปิลและดินแดนจักวรรดิไบเซนไทน์ในปี ค.ศ 1453 นั้นทำ ให้เส้นทางการค้าทางบกระหว่างโลกตะวัน ออกและโลกตะวันตกหยุดชะงักจึงจำ เป็นต้องมีการ สำ รวจเส้นทางการค้าทะเลใหม่เพื่อนำ สินค้าจาก ตะวันออกมาขายยังยุโรป 1.การแสวงหาเส้นทางการค้าใหม่
ปัจจัยส่งเสริมการสำ รวจทางทะเล เนื่องจากความคิดของผู้นำ ชาติต่างๆเห็น ว่าการเผยแผ่คริสต์ศาสนาเป็นกุศลอย่างมาก รวม ทั้งต้องการแข่งขันกับชาวมุสลิมที่เข้ามาขยาย อิทธิพลอยู่ในขณะนั้นด้วย จึงมีการค้นหาดินแดน ใหม่ๆและเผยแผ่คริสต์ศาสนาไปพร้อมกัน 2.แรงผลักดันทางศาสนา
ปัจจัยส่งเสริมการสำ รวจทางทะเล ความรู้ทางภูมิศาสตร์ได้แผนที่ของ ปโตเลมี (Ptolemy) มีการทำ เข็มทิศเทคโนโลยีการต่อเรือ และการประดิษฐ์ปืนใหญ่ความรู้เกี่ยวกับ คณิตศาสตร์และการคำ นวณ 3.ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการเดินเรือ
ปัจจัยส่งเสริมการสำ รวจทางทะเล มีการใช้เงินตราแบบมาตรฐาน ระบบธนาคาร การค้าระหว่างประเทศ รวมถึงประชากรในยุโรปมี การขยายตัวเพิ่มมากขึ้น 4.ระบบเศรษฐกิจของยุโรปมีการพัฒนาแบบเสรีนิยม
ปัจจัยส่งเสริมการสำ รวจทางทะเล แนวคิดนี้ทำ ให้ชาวยุโรปมุ่งหวังที่จะสร้างชื่อ เสียงเกียรติยศและความต้องการที่จะเสี่ยงโชคเพื่อ ชีวิตที่ดีกว่า เช่น แนวคิดมนุษย์นิยม แนวคิดที่ เกี่ยวกับโลก และความสนใจในโลกตะวันออก 5.อิทธิพลของแนวคิดในสมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาการ
ในคริสต์ศตวรรษที่ 15 เจ้าชายเฮนรี นาวิกราช (HENRY THE NAVIGATOR) พระอนุชาของพระเจ้าจอห์นที่ 1 (JOHN I) แห่งโปรตุเกส ได้จัดตั้งโรงเรียนราชนาวีเพื่อเป็น ศูนย์กลางการ เรียนรู้เกี่ยวกับการเดินทางทะเล การใช้ เครื่องมือและเทคนิคการ สร้างเรือ ซึ่งส่งผลให้ชาว โปรตุเกสสามารถค้นพบเส้นทางเดินเรือ สู่ดินแดนทาง ตะวันออก ได้แก่ – บาร์โธโลมิว ไดแอส (BARTHOLOMEU DIAS) สามารถเดินเรือเลียบชายฝั่งทวีป แอฟริกาผ่านแหลม กู๊ดโฮป (CAPE OF GOOD HOPE) ได้ สำ เร็จใน ค.ศ. 1488 โปรตุเกส
– วัสโก ดา กามา (VASCO DA GAMA) แล่นเรือ ตาม เส้นทางสำ รวจของไดแอสจนถึงทวีปเอเชีย และ สามารถขึ้นฝั่ง ที่เมืองกาลิกัต (CALICUT) ของอินเดียได้ เมื่อ ค.ศ. 1498 ต่อมา ชาวโปรตุเกสสามารถควบคุมเมือง ต่างๆ ทางชายฝั่งตะวันออก ของทวีปแอฟริกาและอินเดีย ทางชายฝั่งตะวันตก สามารถยึด เมืองกัว (GOA) ใน มหาสมุทรอินเดียได้ โปรตุเกส
ค.ศ. 1492 คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส (CHRISTOPHER COLUMBUS) ชาวเมืองเจนัว (ประเทศอิตาลี) ซึ่งมีความ เชื่อว่าโลกกลม ได้รับ การสนับสนุนจากกษัตริย์สเปนให้เดิน ทางข้าม มหาสมุทรแอตแลนติก เพื่อสำ รวจเส้นทางเดินเรือ ไปประเทศจีน แต่เขาได้พบหมู่เกาะเวสต์อินดีสซึ่ง เป็นส่วน หนึ่งของทวีปอเมริกาใต้โดยบังเอิญใน ค.ศ. 1492 ซึ่งทำ ให้ สเปนได้ครอบครองดินแดนส่วนใหญ่ ในอเมริกาใต้ที่อุดม สมบูรณ์ด้วยแร่เงินและทองคำ ในเวลาต่อมา สเปน
ค.ศ. 1519 เฟอร์ดินันด์ แมกเจลลัน (FERDINAND MAGELLAN) นักเดินเรือชาวโปรตุเกส โดยความสนับสนุน จากกษัตริย์สเปน ได้เดินทางไปทางทิศตะวันตกของมหาสมุทร แอตแลนติกผ่านช่องแคบที่ภายหลังตั้งชื่อว่าแมกเจลลันทาง ตอนใต้ของทวีปอเมริกาใต้ ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิก มายังทวีป เอเชีย เขาถูกชาวพื้นเมืองฆ่าตายเมื่อพยายามเผยแผ่คริสต์ ศาสนาที่เกาะฟิลิปปินส์ แต่ ลูกเรือของเขาสามารถเดินทางกลับ สเปนทางมหาสมุทรอินเดียได้สำ เร็จใน ค.ศ. 1522 นับเป็นเรือ ลำ แรกที่แล่นรอบโลกได้สำ เร็จ สเปน
1. วิลเฮล์ม แบเรนต์ เดินเรือสำ รวจขึ้นไปทางเหนือของทวีปยุโรป แล้วตัดตรงไปทางตะวันออก เป็นผู้พบหมู่เกาะโนวายา ซิมลียา และ ทะเลซึ่งภายหลังได้ตั้งชื่อว่าทะเลแบเรนต์ แต่ไม่สามารถเดินทางต่อ ไปยังทวีปเอเชียได้ 2. คอร์นิลุส เฮาท์มัน เป็นนักเดินเรือคนแรกที่เปิดเส้นทางเดินเรือ ให้ฮอลันดาสำ เร็จ ฮาท์มันแล่นเรือจากฮอลันดาลงมาทางใต้ เลียบ ชายฝั่งตะวันตกของทวีปอัฟริกาอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ผ่านเกาะ มาดากัสการ์ ข้ามมหาสมุทรอินเดีย เข้าช่องแคบซุนดาถึงเกาะชวา เป็นผลให้ฮอลันดาได้ครอบครองหมู่เกาะเครื่องเทศแทนโปรตุเกส ฮอลันดา
3. เฮนรี ฮัดสัน นักเดินเรือชาวฮอลันดา ได้เดินทางสำ รวจทางตะวันออก เฉียงเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ สำ รวจตั้งแต่ปากแม่น้ำ ฮัดสัน ขึ้นไปทาง เหนือผ่านช่องแคบฮัดสันพบอ่าวขนาดใหญ่ ภายหลังเรียกอ่าวฮัดสัน จาก การสำ รวจของเฮนรี อัดสัน ทำ ให้ฮอลันดา ก่อตั้งอาณานิคมขึ้นบริเวณ ปากแม่น้ำ ฮัดสัน เรียกดินแดนนี้ว่า นิวฮอลแลนด์ New Holland และได้ ติดต่อขอซื้อเกาะบริเวณปากแม่น้ำ ฮัดสันจากชาวพื้นเมือง ปัจจุบันคือเกาะ แมนฮัดตัน และสร้างเมืองขึ้นบนเกาะแห่งนี้ เรียกว่า นิวอัมสเตอร์ดัม ภาย หลังอาณานิคมแห่งนี้ตกเป็นของอังกฤษ จึงถูกเปลี่ยนชื่อจากนิวอัมสเต อร์ดัมเป็น นิวยอร์ก 4. จับจองดินแดนในทวีปอเมิรกาใต้ ได้ Dutch Guiana หรือแคว้น สุรินัม ฮอลันดา
ใน ค.ศ. 1588 กองทัพเรือของอังกฤษทำ สงครามชนะกองทัพเรืออาร์มา ดา (ARMADA) ของสเปนที่มีชื่อเสียงได้ ทำ ให้อังกฤษขยายอิทธิพลสู่ดิน แดนตะวันออก สามารถสลายอำ นาจทาง ทะเลของโปรตุเกสและเข้าไปมี อำ นาจและอิทธิพลในอินเดีย และเป็นคู่แข่งทางการค้ากับฮอลันดา ใน คริสต์ศตวรรษที่ 17 มีเพียงอังกฤษ ฮอลันดา และฝรั่งเศส แข่งขันกันมี อำ นาจทางทะเลและ แสวงหาอาณานิคม ทั้งนี้ได้มีการทำ สงครามกันหลาย ครั้ง ในที่สุดฮอลันดายังคงมีอำ นาจแถบ มะละกาและควบคุมการค้าเครื่อง เทศในหมู่เกาะเครื่องเทศต่อไป จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 18 อังกฤษ กลับเป็นประเทศที่มีแสนยานุภาพกลางทะเลเหนือกว่าทุกชาติ โดยได้ อาณานิคมในอินเดีย อเมริกาเหนือ และทวีปออสเตรเลียทั้งทวีป อังกฤษ
ฝรั่งเศส พระเจ้าฟรานซิสที่ 1 ใน ค.ศ.1481 ฟรานซิสรู้สึกไม่สบายใจเพราะโปรตุเกสปกครอง แอฟริกาและอินเดีย ฟรานซิสที่ 1 พยายามที่จะพัฒนาการติดต่อกับโลกใหม่และเอเชีย กองเรือถูกส่งไปยังอเมริกาและตะวันออกไกล ต่อมา ในปี ค.ศ. 1524 ได้ส่ว โจวันนี ดา แวร์รัซซาโน ไปสำ รวจชายฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติกของอเมริกาเหนือระหว่างฟลอริดาและ นิวบรันสวิกรวมถึงอ่าวนิวยอร์กและอ่าวนาร์ระกันเซ็ต ต่อมา ในปี ค.ศ. 1534 ฟรานซิส ได้ส่ง Jacques Cartie สำ รวจแม่น้ำ St. Lawrence ในควิเบกเพื่อค้นหา "เกาะและดิน แดนบางแห่งที่กล่าวว่าต้องมีทองคำ และความร่ำ รวยอื่น ๆ จำ นวนมาก ในปี ค.ศ. 1541 ฟรานซิสส่ง Jean-François de Roberval ไปตั้งรกรากในแคนาดาและเพื่อให้มีการ แพร่กระจายของ "ศรัทธาคาทอลิกอันศักดิ์สิทธิ์ หมู่เกาะเวสต์อินดีส์ ชาติยุโรปที่เข้ายึด ครองพื้นที่แถบนี้คือ สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส ฮอลแลนด์ และเดนมาร์ก ต่อมาเหลือผู้เล่น รายสำ คัญเพียงอังกฤษและฝรั่งเศส
สรุป อารยธรรมยุโรปเผยแพร่ไปสู่ดินแดนอื่น โดยชาวยุโรปได้สร้าง เมืองและความเจริญต่างๆ เพื่อให้ตนสามารถดำ เนินชีวิตได้ตามแบบ ที่คุ้นเคย จึงเกิดการแพร่กระจายวัฒนธรรมตามแบบตะวันตกเช่น ภาษา การแต่งกาย อาหาร การปกครอง ศิลปะกรรมเช่น การ ก่อสร้างถนน สะพาน สถานที่ราชการ โบสถ์ วิหาร เป็นต้น
สมาชิก 1.นายภานุวัฒน์ เยี่ยงวิญญู ม.5/5 เลขที่ 4 2.นายณัฐนนท์ แฟนพิมาย ม.5/5 เลขที่11 3.นายศุภประวัติ กอบพิมาย ม.5/5 เลขที่12 4.นายกฤตธี แมดพิมาย ม.5/5 เลขที่31