รายงานผลการดำเนินงานโครงงานวิชาชีพ เรื่อง น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika นางสาวพัชรี ระรวยทรง นางสาวฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์ นางสาวณัชธิชา แซ่เด่น โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 4 สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565
โครงงานวิชาชีพ เรื่อง น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika นางสาวพัชรี ระรวยทรง นางสาวฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์ นางสาวณัชธิชา แซ่เด่น โครงงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นปีที่ 3 สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคกลาง 4 สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ประจำปีการศึกษา 2565
Sp3 คณะกรรมการสอบได้พิจารณารายงานผลการด าเนินงานโครงงานวิชาชีพของ นางสาวพัชรี ระรวยทรง นางสาวฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์และ นางสาวณัชธิชา แซ่เด่น เรียบร้อยแล้วเห็นสมควรรับเป็นส่วนหนึ่งของ การศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี คณะกรรมการประเมิน ………………………………………... ประธานกรรมการ (นายสุรเชษฐ์ แก้วปาน) รองฝ่ายผู้อ านวยการฝ่ายวิชาการ ………………………………………... กรรมการและหัวหน้าแผนกวิชา (นางสาวศิริภา จิตผ่อง) ………………………………………... กรรมการและครูที่ปรึกษาโครงงาน (นางสาวธนวรรณ ไหมอ่อน) ………………………………………... กรรมการและครูผู้สอนโครงงาน (นางสาวสินาภรณ์ สุขเรื่อย) วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีอนุมัติให้รับรายงานผลการด าเนินงานโครงงานวิชาชีพเป็นส่วนหนึ่ง ของการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาการโรงแรม วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี ลงชื่อ…………………………………………….. (นายทรงวุฒิ เรือนไทย) ผู้อ านวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี
ก หัวข้อวิจัย : ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) ผู้ดำเนินการวิจัย : 1) นางสาวพัชรี ระรวยทรง 2) นางสาวฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์ 3) นางสาวณัชธิชา แซ่เด่น ที่ปรึกษา : นางสาวสินาภรณ์ สุขเรื่อย : นางสาวธนวรรณ ไหมอ่อน หน่วยงาน : วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี ปีการศึกษา : 2565 บทคัดย่อ ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) นี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย 3 ประการคือ เพื่อ ศึกษาดำเนินการสร้างผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย เพื่อศึกษาความพึงพอใจจากการทดลองใช้น้ำมันหอม ระเหย และเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในครั้งนี้ได้แก่ พนักงานที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการด้านการให้บริการด้านโรงแรม ด้านการบริการอาหารและ เครื่องดื่มและด้านสุขภาพทั้งหมด 44 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของ ผู้เชี่ยวชาญ และวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติการหาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่าความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจขั้นตอนวิธีการทำ ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยในระดับมากที่สุด ( = 4.70 S.D=0.67) ,ความพึงพอใจในกลิ่นของผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย ( =4.66 S.D=0.61), ความพึงพอใจบรรจุภัณฑ์สวย ดึงดูดความน่าสนใจ ( =4.66 S.D=0.57) สรรพคุณของส่วนผสมที่นำมาทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =4.64 S.D=0.65),ราคา ต้นทุนต่อการผลิต 1 ชิ้น มีความเหมาะสม ( =4.64 S.D=0.57), ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย ( =4.61 S.D=0.75), คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =4.61 S.D=0.65), ระยะเวลาในการ เก็บรักษาผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =4.59 S.D=0.66), ความรู้ที่ได้จากการทดสอบผลิตภัณฑ์น้ำมัน หอมระเหย ( =4.57 S.D=0.76) และความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =4.52 S.D=0.70)
ข Research Title : Essential Oil Products (Liptus Malika) Researcher : 1) Miss Patcharee Ratchasong 2) Miss Thitinan Kluangsuban 3) Miss Natchathicha Sae Den Reseaech Consultants : Miss Sinaphorn Sukreay : Miss Tanawan Maion Organization : Suphanburi Vocational College Year : 2022 Abstract This essential oil product (Liptus Malika) has three research objectives : to study and create a product. essential oil To study the satisfaction from using essential oils. and to study the efficacy of essential oils The population and sample used in this study were employees working in hotel service establishments. Food and beverage services and health services, total 44 people. The research tool was a questionnaire on the opinions of experts. The data were analyzed using mean statistical analysis. and standard deviation The results showed that the satisfaction of the sample group who tried essential oil products (Liptus Malika) was overall at The highest. The respondents were satisfied with the method of making essential oil products at the highest level ( = 4.70 S.D. = 0.67), the satisfaction in the scent of essential oil products ( = 4.66 S.D. = 0.61), and the filling satisfaction. beautiful packaging attractive ( =4.66 S.D=0.57) The properties of the ingredients used to make essential oil products ( =4.64 S.D=0.65), the cost price per 1 piece of production is appropriate ( =4.64 S.D=0.57), the efficiency of essential oils ( =4.61 S.D=0.75), Benefits of essential oil products ( =4.61 S.D=0.65), storage time of essential oil products ( =4.59 S.D=0.66), knowledge gained from testing essential oil products ( =4.57 S.D=0.76 ) and the satisfaction of the experimenters with essential oil products ( =4.52 S.D=0.70)
ค กิตติกรรมประกาศ โครงงานเรื่อง น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) เป็นโครงงานที่ได้ใช้ความรู้ในด้านต่าง ๆ เช่น ในด้านคหกรรมด้านโรงแรม จนได้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผู้บริโภคให้การยอมรับ ทั้งด้านประสิทธิภาพและ ประโยชน์ซึ่งในการทำโครงงานครั้งนี้ต้องขอขอบคุณพระคุณนายทรงวุฒิ เรือนไทย ผู้อำนวยการวิทยาลัย อาชีวศึกษาสุพรรณบุรี, นายศุภชัย นนท์ธีรวิชยา, นายอริยวัฒ เฉลิมกิจ, นายสุรเชษฐ์ แก้วปาน และ นางสาวกนกวรรณ ส่งสมบูรณ์รองผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีทั้ง 4 ท่าน ที่อำนวยความ สะดวกและสนับสนุนการจัดทำโครงงาน ขอขอบพระคุณนางสาวสินาภรณ์ สุขเรื่อย, และ นางสาวธนวรรณ ไหมอ่อน ครูที่ปรึกษาโครงงาน ที่ให้คำปรึกษาแนะนำและควบคุมขั้นตอนการปฏิบัติงานตลอดจนคณะครูแผนกวิชาการโรงแรมและ บุคลากรทางการศึกษาวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรีตรวจสอบ แก้ไข จนได้ Liptus Malika ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย คณะผู้จัดทำโครงงาน เรื่อง น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika จึงขอใคร่ขอบพระคุณทุกท่านที่ กล่าวมาข้างต้นไว้ ณ ที่นี้ คณะผู้จัดทำ
ง สารบัญ หน้า บทคัดย่อภาษาไทย ก บทคัดย่อภาษาอังกฤษ ข กิตติกรรมประกาศ ค สารบัญ ง สารบัญตาราง ฉ สารบัญภาพ ช บทที่ 1 บทนำ ที่มาและความสำคัญของปัญหา 1 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 2 สมมติฐานการวิจัย 2 ขอบเขตของโครงงาน 2 นิยามศัพท์ที่ใช้ในโครงงาน 3 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 3 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง น้ำมันหอมระเหย 4 ใบยูคาลิปตัส 5 ดอกมะลิ 6 ความหมายและทฤษฎีความพึงพอใจ 7 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 7-8 บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย การดำเนินงานวิจัย 9 การเตรียมวัสดุ/อุปกรณ์ 10 ขั้นตอนการทดลองงาน 10 ขั้นตอนการบรรจุขวด 11 ขั้นตอนการสำรวจความพึงพอใจ 11 เครื่องมือและการสร้างเครื่องมือ 11 การเก็บรวบรวมข้อมูล 12
ช สารบัญ (ต่อ) หน้า บทที่ 4 ผลการวิจัย ผลการพัฒนาโครงงาน 13 ผลการดำเนินการวิจัย 15 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ สรุปผลการวิจัย 16 อภิปรายผลการวิจัย 16 ข้อเสนอแนะ 16-17 บรรณานุกรม บรรณานุกรมภาษาไทย 18 ภาคผนวก ภาคผนวก ก แบบอนุมัติโครงงาน Sp1 19-20 ภาคผนวก ข แบบเสนอโครงงาน sp2 21-24 ภาคผนวก ค แบบสอบถาม 25-26 ภาคผนวก ง แบบคุณลักษณะ 27-28 ภาคผนวก จ ขั้นตอนการผลิต 29-33 ภาคผนวก ฉ หลักฐานการทดลองผลิตภัณฑ์ 34-35 ภาคผนวก ช คู่มือผู้บริโภค หรือ คู่มือการใช้งาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ 36-37 ภาคผนวก ซ แบบรับรองผลงาน 38-40 ภาคผนวก ฌ แผนการตลาด 41-42 ภาคผนวก ญ เอกสารอื่นๆ 43-49 ประวัติผู้วิจัย
ช สารบัญตาราง หน้า ตารางที่ 4.1 แสดงร้อยละของเพศผู้ตอบแบบสอบถาม 13 ตารางที่ 4.2 แสดงร้อยละของอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม 13 ตารางที่ 4.3 แสดงร้อยละของอาชีพของผู้ตอบแบบสอบถาม 14 ตารางที่ 4.4 แสดงร้อยละของระดับการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม 14 ตารางที่ 4.5 ผลแสดงความพึงพอใจของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) 15
ช สารบัญภาพ หน้า ภาพที่ 2.2 น้ำมันหอมระเหย 4 ภาพที่ 2.4 ใบยูคาลิปตัส 5 ภาพที่ 2.5 ดอกมะลิ 6
บทที่1 บทนำ 1.1 ที่มาและความสำคัญของปัญหา น้ำมันหอมระเหย เป็นผลิตผลจาการสกัดจากพืชสมุนไพรนานาชนิดซึ่งอาจสกัดมาจากส่วนใด ส่วนหนึ่งของพืชนั่น ๆ เช่น สกัดมาจาก ผล ดอก ใบ เมล็ด เปลือก ก้าน วิธีสกัดที่นิยิมใช้ในปัจจุบัน คือ การสกัดด้วยไอน้ำและการใช้ในสารเคมีเป็นตัวทำละลายหลังจาการสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ได้ถูกนำมา สังเคราะห์ เพื่อกลั่นแยกหาสารต่าง ๆที่มีกลิ่นหอม สารเหล่านี้เองที่จะถูกนำมาคัดเลือก ผสมผสานและ สร้างขึ้นมาเป็นกลิ่นใหม่ ๆ น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืชธรรมชาติปลอดภัยรักษสิ่งแวดล้อมเนื่อง ด้วยอโรมา-เธราปี เป็นการรวมศาสตร์และศิลป์ของกลิ่น-และน้ำมันหอมระเหยเป็นการนำเอาวิธีต่าง ๆมา ประยุกต์ใช้รวมกับกลิ่นหอมที่อยู่ในสารหอม หรือน้ำมันหอมระเหยจึงเป็นอีกหลายทางเลือกที่มนุษย์ ค้นคว้าเรื่องมาตลอดระยะเวลาหลายพันปี จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ น้ำมันหอมระเหยมีประโยชน์สามารถนำไปได้หลายประเภทเช่น การนวด เป็นวิธีที่ได้ผลวิธีหนึ่งที่ ได้ผลมากที่สุดเพราะสรรพคุณของน้ำมันระเหยสามารถช่วยบำบัดโรคได้ การอาบ เป็นวิธีง่าย ๆที่สามารถ ทำด้วยตัวเองได้ สามารถนำน้ำมันหอมระเหยหยดลงน้ำแช่ตัวลงไปในน้ำประมาณ 20 นาทีช่วยให้รู้สึกสด ชื่นขึ้น การประคบ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นตรงจุดที่เราประคบ การสูดดม การสูดไอน้ำสามารถช่วยในการฆ่า เชื้อโรคจะช่วยกำจัดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจได้ การเผา-อบห้องเพื่อฆ่าเชื้อโรคในโรงพยาบาลก็ใช้ หลักการนี้เช่นกันเพราะน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจะถูกอบอวลในห้องที่ปิดมิดชิดสามารถฆ่าเชื้อโรค ได้ ปันจุบันมีการนำสมุนไพรหลากหลายชนิดมาสกัดน้ำมันหอมระเหยกันมากมายไม่ว่าจะเป็นพืช สมุนไพรจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์มาจากสารเคมีหรือจะประกอบสร้างขึ้นมาจากสัตว์ แต่วิธีสกัดจาก พืชธรรมชาติเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นทางผู้จัดโครงงานเกิดแนวคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์สารหอมระเหยที่สกัดมาจากส่วนผสมของใบ คายูลิปตัสและดอกมะลิที่มีสรรพคุณใช้ถูที่บริเวณร่างกายหรือใช้การสูดดมเพื่อการผ่อนคลายแก่ผู้บริโภค เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ที่มีอายุ หรือวัยรุ่น ใช้ในการดมหรือทาเพราะมีสารสำคัญที่อาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบฆ่า เชื้อแบคทีเรีย ลดอาการปวดบวม รักษาอาการของโรคในระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ ปวดศีรษะ
2 1.1 วัตถุประสงค์ของการวิจัย 1.2.1 เพื่อศึกษาดำเนินการสร้างผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 1.2.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจจากการทดลองใช้ น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 1.2.3 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของ น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 1.3 สมมุติฐานความเข้าใจ 1.3.1 ขั้นตอนการทำน้ำมันหอมระเหยวิธีการทำน้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) มีความง่ายสามารถ เพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบได้ 1.3.2 คามพึงพอใจของกลุ่มผู้ทดลองใช้น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) อยู่ในระดับดี 1.3.3 ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) ช่วยทำให้รู้สึกสดชื่น และผ่อนคลาย 1.4 ขอบเขตของโครงงาน 1.4.1 เนื้อหาที่ใช้ในโครงานครั้งนี้ประกอบด้วย หัวข้อต่าง ๆ ดังนี้ 1.4.1.1 การผลิตน้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) เป็นการศึกษากระบวนการขั้นตอนการทำ เพื่อให้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยสามารถเห็นผลได้จริง และเป็นประโยชน์แก่ผู้บริโภคมากที่สุด 1.4.1.2 การศึกษาความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) มีประสิทธิภาพดี 1.4.2 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.4.2.1 ประชากร ที่ใช้ในครั้งนี้ได้แก่ พนักงานที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการด้านการ ให้บริการด้านโรงแรม ด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่มและด้านสุขภาพทั้งหมด 50 คน 1.4.2.2 กลุ่มตัวอย่าง พนักงานเชื่อมสนิท จำนวน 7 คน พนักงานบลูสกายราฟท์ 5 คน พนักงาน ไทรโยคมันตรา 4 คน พนักงานอากาศคาเฟ่ 16 คน และพนักงานพรีเมียมบาร์ 12 คน รวมทั้งหมด 44 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีระบุวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง 1.4.3 ตัวแปรที่ปรึกษา ตัวแปรต้น น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) ตัวแปรตาม ความพึงพอใจจากผู้ทดลองใช้น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika )
3 1.5 นิยามศัพท์ที่ใช้ในโครงงาน 1.5.1 ต้นยูคาลิปตัส หมายถึง สมุนไพรที่เชื่อกันว่ามีสรรพคุณทางการแพยท์เพราะมีสารสำคัญที่ อาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบ ฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการปวดบวม รักษาอาการของโรคในระบบทางเดิน หายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ ปวดศีรษะเป็นต้น 1.5.2 ดอกมะลิ หมายถึง ดอกไม้ที่มีกลิ่นหอม ที่สามารถช่วยในเรื่องการผ่อนคลายได้อย่างดี ไม่ กลิ่นแรงหรือฉุนเป็นพืชชนิดหนึ่งที่มีสรรพคุณ ดอก รสหอมเย็นขม ดับพิษร้อน บำรุงหัวใจ บำรุงครรภ์ แก้ ไอ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ แก้เจ็บตา 1.5.3 น้ำมันหอมระเหย หมายถึง น้ำมันที่มีลักษณะเป็นน้ำมัน เป็นของเหลวที่ระเหยกลายเป็นไอ เมื่อได้รับความร้อน ส่งกลิ่นหอมไปทั่ว จึงถูกนำมาใช้ในการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ สามารถพบได้ใน ธรรมชาติตามส่วนต่าง ๆ ของพืช เช่น เมล็ด ราก ใบ เปลือกไม้ ดอก ฯลฯ 1.6 ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1.6.1 ได้ศึกษา ค้นคว้า และวิจัยการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( Liptas Malika ) 1.6.2 สามารถนำมาใช้ได้จริงได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ทดลองใช้ 1.6.3 สามารถนำไปต่อยอดในเชิงพาณิชย์และประกอบอาชีพได้
4 บทที่2 แนวคิด ทฤษฎี เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง การดำเนินงานโครงงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนน้ำมันหอมระเหย เพื่อให้การศึกษา ค้นคว้าดำเนินไปตามความมุ่งหมาย ผู้จัดทำจึงได้ศึกษาแนวความคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง มีลำดับ หัวข้อดังต่อไปนี้ 2.1 น้ำมันหอมระเหย 2.2 ใบยูคาลิปตัส 2.3 ดอกมะลิ 2.4 ทฤษฎีความพึงพอใจ 2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 2.1 น้ำมันหอมระเหย น้ำมันหอมระเหย เป็นผลิตผลจากการสกัดพืชสมุนไพรนานาชนิด ซึ่งอาจสกัดมาจากส่วนใดส่วน หนึ่งของพืชนั้นๆ เช่น สกัดมาจาก ผล ดอก ใบ เมล็ด เปลือก ก้าน ฯลฯ วิธีการสกัดที่นิยมใช้ในปัจจุบัน คือ การ กลั่นด้วยไอน้ำ และการใช้สารเคมีเป็นตัวทำลาย หลังจากการสกัดน้ำมันหอมระเหยที่ได้จะถูกนำมาสังเคราะห์ เพื่อ กลั่นแยกหาสารต่างๆ ที่มีกลิ่นหอม สารเหล่านี้เองที่จะถูกนำมาคัดเลือก ผสมผสานและสร้างขึ้นมาเป็นกลิ่นใหม่ ๆ การกลั่นน้ำมันหอมระเหยด้วยวิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ หรือ Steam Distillation เป็นวิธีที่นิยมมากที่สุดและใช้ในการ กลั่นน้ำมันหอมระเหยเกือบทั้งหมดที่มีการผลิตขึ้นน้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืชธรรมชาติปลอดภัย รักษา สิ่งแวดล้อมประวัติศาสตร์ของการสกัดกลิ่นหอมจากพืชธรรมชาติ มีมากกว่า 6,000 ปี ดังนั้นวิวัฒนาการที่ใช้ในการ ได้มาซึ่งกลิ่น จึงมีหลากหลาย ตามแต่ยุคสมัย ที่มา http://wwwlbo.moph.go.th/rxthai/rxthai/gen2.html ภาพที่1.1 น้ำมันหอมระเหย http://wwwlbo.moph.go.th/rxthai/rxthai/gen2.html
5 2.2 ใบยูคาลิปตัส ยูคาลิปตัส (อังกฤษ: Eucalyptus) เป็นพรรณไม้มีถิ่นกำเนิดในทวีปออสเตรเลีย เกาะแทสเมเนีย มีการ กระจายพันธุ์ตั้งแต่หมู่เกาะมินดาเนา เซลีเบส ปาปัวนิวกินี ในพื้นที่ชุ่มที่มีน้ำขังในเขตร้อน มีมากกว่า 700 ชนิด ในประเทศไทยเริ่มมีการนำเข้ามาปลูกครั้งแรกที่ พระที่นั่งวิมานเมฆ สมัยรัชกาลที่ 5 เมื่อปีพ.ศ. 2444 โครงสร้างของต้นยูคาลิปตัส โครงสร้างของต้นยูคาลิปตัสซึ่งประกอบด้วย เปลือกไม้ซึ่งอยู่ด้านนอกสุดและเนื้อไม้ที่ซ่อนอยู่ด้านใน โดยใน ส่วนของเนื้อไม้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือ “กระพี้” หรือเนื้อไม้ด้านนอกซึ่งอยู่ติดกับเปลือกไม้และเป็นที่อยู่ของท่อลำเลียงน้ำ (xylem) จำนวนมาก ส่วนที่สอง คือ “แก่น” หรือเนื้อไม้ด้านในสุดซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยกระพี้ เมื่อต้นยูคาลิปตัสเติบโตเต็มที่พื้นที่ของกระพี้ก็จะเพิ่มขึ้นพร้อมกับการสร้างท่อลำเลียงน้ำใหม่ ซึ่งท่อลำเลียง น้ำอันเก่าหลังจากใช้งานมานานก็จะมีการสะสมของสารต่างๆ ภายในเซลล์ จนเกิดการอุดตันจนกลายเป็นแก่นที่ไม่ สามารถลำเลียงน้ำได้อีก ซึ่งยูคาลิปตัสนั้นจะมีแก่นก็ต่อเมื่ออายุเกิน 15 ปีขึ้นไป ยูคาลิปตัสเป็นไม้ที่มีพื้นที่ของกระพี้มากจึงหมายถึงการมีพื้นที่ลำเลียงน้ำขึ้นสู่เรือนยอดมากตามไปด้วย เนื่องจากแนวโน้มการดูดน้ำของต้นไม้แต่ละต้นมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับพื้นที่ของกระพี้ในลำต้นเป็นสำคัญ เนื่องจากยูคาลิปตัสจะมีระบบรากที่แผ่ขยายเร็วและสามารถหยั่งลงไปในดินได้ในระดับลึก จึงมี ประสิทธิภาพในการเสาะแสวงหาแหล่งน้ำใต้ดินได้มากกว่าพืชชนิดอื่น ที่มา https://th.wikipedia.org/wiki/ยูคา ลิปตัส ภาพที่ 2.2 ใบยูคาลิปตัส https://th.wikipedia.org/wiki/ยูคาลิปตัส
6 2.3 ดอกมะลิ มะลิมีถิ่นกำเนิดในแถบร้อนชื้นและกึ่งร้อนชื้นในเอเชียและความสมุทรอารเบีย เช่น อินเดีย , ไทย , มาเลเซีย ,พม่า , คูเวต , โอมาน , ซาอุดิอาระเบีย เป็นต้น แต่ในปัจจุบันสามารถพบได้ ทั้งในยุโรป เอเชีย อาฟริกา และแถบแปซิฟิค โดยพืชในสกุลนี้มีประมาณ 200 ชนิด ส่วนในประเทศไทยมีอยู่ประมาณ 45 ชนิด และสามารถ พบเห็นได้ทั่วทุกภาคของประเทศ สำหรับมะลิที่เป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองของไทย มีอยู่ประมาณ 15 ชนิด ซึ่งมะลิที่พบ เห็นกันมากในไทยได้แก่ มะลิลา มะลิลาซ้อน มะลิถอด มะลิพิกุลหรือมะลิฉัตร มะลิทะเล มะลิทะเล มะลิเลื้อย มะลิวัลย์ พุทธชาด ปันหยี เครือไส้ไก่ อ้อยแสนสวย และมะลิเขี้ยวงู เป็นต้น ทั้งนี้แหล่งปลูกมะลิที่สำคัญของไทย ได้แก่ นครสวรรค์ กรุงเทพมหานคร สมุทรสาคร ชลบุรี พิษณุโลก ลำพูน อุบลราชธานี ขอนแก่น และ หนองคาย ประโยชน์และสรรพคุณมะลิ ใช้บำรุงหัวใจ ช่วยดับพิษร้อน ช่วยถอนพิษไข้ช่วยทำจิตใจให้ชุ่มชื่น ช่วยบำรุงครรภ์รักษา ฯลฯ มะลิเป็นพันธุ์ไม้ที่มีประวัติผูกพันธุ์กับวิถีชีวิตคนไทยมาเนิ่นนานแล้ว โดยมีการนำไปใช้ประโยชน์ต่าง ๆ ใช่ดอกมะลิให้เป็นดอกไม้ของวันแม่แห่งชาติ เพราะ มีกลิ่นหอมและยังมีสีขาวบริสุทธิ์ ใช่ทำเป็นพวงมาลัยไหว้พระ รวมถึงใช้ในอุตสาหกรรมน้ำมันหอมระเหย และใช้แต่งกลิ่นใบชา,ใช้อบขนมต่าง ๆ เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ในทางสุคนธ บำบัด (Aromatherapy) หรือการบำบัดโดยการใช้กลิ่นหอม จะใช้น้ำมันหอมระเหยของดอกมะลิในการกระตุ้น ระบบประสาทสำหรับผู้ที่มีภาวะอ่อนล้าทางจิตใจ เฉื่อยชา อ่อนเพลีย ง่วง ช่วยปรับอารมณ์และสภาพสมดุลของ จิตใจให้ดีขึ้น หรือจะใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไปที่ให้นั้นหอม สามารถออกดอกได้ตลอดทั้งปี และเป็นพันธุ์ไม้หอมที่ ปลูกได้ง่ายและ เมื่อดื่มน้ำลอยดอกมะลิให้ความรู้สึกสดชื่นอีกด้วย ในปัจจุบันน้ำมันหอมระเหยจากดอกมะลิ ซึ่ง ได้รับการขนานนามว่าเป็น King of essential oils (ส่วนกุหลาบเป็น Queen of essential oils) จัดว่าเป็นน้ำมัน หอมระเหยที่มีราคาแพงที่สุด นำมาใช้แต่งกลิ่นน้ำหอม เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอางต่าง ๆ ใช้ในธุรกิจสปา และใช้เพื่อสุคนธบำบัด ที่มา https://www.disthai.com/มะลิ ภาพที่ 2.3 มะลิ https://www.disthai.com/มะลิ
7 2.4 ทฤษฎีความพึงพอใจ การสร้างแบบสอบถามเพื่อสำรวจความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูล และสถิติที่ใช้ การวิเคราะห์ผลการ ประเมินประสิทธิภาพของ ผลิตภัณฑ์อาหารน้ำพริกปลาร้าเขียวหวาน ดำเนินการดังนี้ 1. หาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของข้อมูลการตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอม ระเหย 2. นำค่าเฉลี่ยที่ได้ จากแบบสอบถามของกลุ่มตัวอย่าง เปรียบเทียบกับเกณฑ์ และแปลความหมาย โดยมี เกณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ยของข้อมูล ดังนี้ (บุญส่ง นิลแก้ว, 2541 : 99-100) ค่าเฉลี่ย 4.50 – 5.00 หมายถึง ความพอใจดีมาก ค่าเฉลี่ย 3.50 – 4.49 หมายถึง ความพอใจดี ค่าเฉลี่ย 2.50 – 3.49 หมายถึง ความพอใจปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.50 – 2.49 หมายถึง ความพอใจน้อย ค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.49 หมายถึง ความพอใจน้อยที่สุด นำผลการประเมินประสิทธิภาพข้อที่ต่ำกว่าระดับมากและข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย 2.5 งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง (นิจศิริเรืองรังสี , 2550) น้ำมันหอมระเหย (essential oil) เป็นผลิตภัณฑ์ธรรมชาติขั้นทุติยภูมิ ซึ่งส่วน ใหญ่มีกระบวนการชีวสังเคราะห์มาจากหน่วยไอโซพรีน (isoprene unit) 2-3 หน่วย เกิดเป็นสารกลุ่มโมโน เทอร์ พีน (monoterpene) เซสควิเทอร์พีน (sesquiterpene) และสังเคราะห์มาจากกรดชิคิมมิค เกิดเป็นสารกลุ่มฟีนิล โปรเพน (phenylpropane) พืชบางชนิดเก็บสะสมน้มันหอมระเหยไว้ในขนต่อมน้ำมัน เช่น วงศ์โหระพา (Labiatae) พืชบางชนิดเก็บสะสมไว้ในท่อน้ำมัน เช่น วงศ์ผักชี(Umbelliferae) พืชบางชนิดเก็บสะสมไว้ในช่อง วางของเนื้อเยื่อขนาดใหญ่ เช่น วงศ์ส้ม (Rutaceae ) พืชบางชนิดเก็บสะสมไว้ในเซลล์พาเรนไคมา เช่น ดอก กุหลาบ และ ดอกมะลิ เป็นต้น การศึกษาความหลากหลายของพืชที่สร้างน้ำมันหอมระเหยสะท้อนให้เห็นว่าน้ำมัน หอมระเหยที่พืชสร้างขึ้นและกระจายในบรรยากาศทำให้มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของระบบนิเวศบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งยังมีผลให้เกิดการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานของสัตว์บางชนิด รวมทั้งการเจริญเติบโตของพืชบางชนิดด้วยอย่าง เช่น กรณีศึกษาป่าสน เป็นต้น การที่พืชสร้างสารเคมีที่เป็นองค์ประกอบของน้ำมันหอมระเหยและทำให้เกิดกลิ่นต่าง ๆ กันในแต่ละต้น (species) ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทางเคมีต่าง ๆ ที่มารวมกันเข้าซึ่งแตกต่างกันทั้งชนิดและปริมาณ
8 ทำให้เกิดกลิ่นที่แตกต่างกันชนิดและปริมาณขององค์ประกอบต่าง ๆ ในแต่ละพืชจะคงที่จึงทำให้เกิดเป็นกลิ่น เฉพาะตัว เช่น กุหลาบ กระดังงา ราชาวดี เป็นต้น
9 บทที่ 3 วิธีการดำเนินการโครงงาน การจัดทำโครงงานในครั้งนี้เป็นการดำเนินการเพื่อพัฒนาถึงประโยชน์ของ น้ำมันหอมระเหย liptus Malika ผลิตภัณฑ์ความหอมเพื่อการผ่อนคลาย ตรวจสอบประสิทธิภาพ และ อุปโภคเพื่อศึกษาความพึง พอใจ และเพื่อให้การดำเนินการจัดทำโครงงานเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ผู้ดำเนินงานจึงได้กำหนดวิธีดำเนินการ จัดทำโครงงานเป็น 4 ขั้นตอนนี้ดังนี้ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์และส่วนผสม ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการดำเนินการทดลอง ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนการบรรจุขวดโหล ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการทดลองคุณภาพของชิ้นงาน น้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์เพื่อ ความผ่อนคลาย ภาพที่ 3.1 ผังการดำเนินงาน สรุปการวิจัย ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์และส่วนผสม ส่วนผสม การดำเนินการทดลอง ขั้นตอนการบรรจุขวด การทดสอบความพึงพอใจ ขั้นตอนที่ 1 ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนที่ 3
10 ขั้นตอนที่1 ขั้นตอนการจัดเตรียมวัสดุ อุปกรณ์และส่วนผสม ผู้จัดทำโครงงานมีขั้นตอนการดำเนินการ ดังนี้ ส่วนผสม 1. หัวเชื้อใบยูคาลิปตัส 2. หัวเชื้อดอกมะลิ 3. แอลกอฮอร์สำหรับใส่น้ำหอม อุปกรณ์ 1. ขวดแก้ว 2. ไซลิ้งสำหรับหัวเชื้อ 3. ฝาปิดขวด 4. สติ๊กเกอร์สำหรับติดข้างขวด 5. ไซลิ้งสำหรับหยดแอลกอฮอร์ 6. ถุงมือ ขั้นตอนที่ 2 ขั้นตอนการดำเนินการทดลอง วิธีทำ น้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์ เพื่อช่วยความผ่อนคลาย มีดังนี้ 1. นำขวดแก้วที่เราเตรียมมาจัดวางเพื่อความสะดวกต่อการใช้งาน 2. นำไซลิ้งทั้ง 2 อัน มาดูดน้ำยาหัวเชื้อทั้ง 2 อันขึ้นมาตามประมาที่พอดี 3. นำหัวเชื้อทั้ง 2 ใส่ขวดแก้วที่เราเตรียมไว้ ในประมาณ cc ละ เท่ากัน 4. เพื่อให้กลิ่นหอมติดทนนานใส่แอลกอฮอร์ หยดไปในประมาณ 10 – 20 หยด 5. จากนั้นน้ำฝามาปิด และทิ้งพักไว้ 6. เช็คกลิ่นที่เราผสมไปว่าได้ตามที่ต้องการหรือไม่ 7. ใส่ถุงมือทุกครั้งที่ปฏิบัติงาน ขั้นตอนที่ 3 ขั้นตอนการบรรจุขวด 1. นำน้ำมันหอมระเหย liptus malika ใส่ขวดแก้วที่เตรียม 2. ติดฉลากให้สวยงาม 3. บรรจุกล่องเพื่อเพิ่มมูลค่าในการค้า
11 ขั้นตอนที่ 4 ขั้นตอนการสำรวจความพึงพอใจ กลุ่มประชากร ประชากรที่ใช้ตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลาย ได้แก่ พนักงานที ปฏิบัติงานในบริษัทด้านโรงแรม ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี จำนวน 55 คน กลุ่มตัวอย่าง พนักงานโรงแรมสองพันพี่น้อง จำนวน 25 คน และพนักงานโรงแรมดาราปุระวังยางรีสอร์ท จำนวน 20 คน รวมทั้งหมด 45 คน เครื่องมือและการสร้างเครื่องมือ เครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์เพื่อ ความผ่อนคลายเป็นแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญต่อความเหมาะสมของน้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายที่ประดิษฐ์ขึ้น เป็นแบบตราประมาณค่า 4 ระดับ ซึ่งขั้นตอนการ สร้างแบบตรวจสอบประสิทธิภาพ มีขั้นตอนดังนี้ 1. ศึกษาแนวคิดทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการประเมินประสิทธิภาพของวัสดุและอุปกรณ์ที่นำมาใช้ 2. กำหนดองค์ประกอบของประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์เพื่อ ความผ่อนคลาย โดยคำนึงหลักความปลอดภัย คุ้มค่า ประหยัดและประโยชน์ 3. กำหนดชนิดของแบบสอบถาม องค์ประกอบของข้อความให้ครอบคลุม การประเมิน ประสิทธิภาพสร้างข้อคำถามเพื่อประเมินประสิทธิภาพของส่วนผสม วัสดุ อุปกรณ์ เป็นแบบมาตราประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ 4. ให้ผู้เชี่ยวชาญดานการวัดและประเมินผลตรวจสอบแบบประเมินด้านความถูกต้องของเนื้อหา และการใช้ภาษา 5. นำแบบประเมินที่ผ่านการพิจารณาความเหมาะสมแล้วมาปรับปรุงข้อคำถามตามความ คิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปใช้จริง
12 การเก็บรวบรวมข้อมูล 1. การจัดนิทรรศการร่วมกับโครงการต่าง ๆ เพื่อทดสอบการพึงพอใจ น้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลาย ขอความร่วมมือไปยังกลุ่มตัวอย่างที่ตรวจสองประสิทธิภาพของ น้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์เพื่อความผ่อนคลายในการกรอกแบบสอบถาม 2. ผู้จัดทำโครงงานและคณะนำแบบตรวจสอบประสิทธิภาพให้พนักงานที่ปฏิบัติในสถาน ประกอบการด้านโรงแรม ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี 3. ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของผลการประเมิน 1. หาค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของข้อมูลการตรวจสอบประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหยนำค่าเฉลี่ยที่ได้ จากแบบสอบถามของกลุ่มตัวอย่าง เปรียบเทียบกับเกณฑ์ และแปล ความหมาย โดยมีเกณฑ์การแปลความหมายค่าเฉลี่ยของข้อมูล ดังนี้ (บุญส่ง นิลแก้ว, 2541 : 99-100) ค่าเฉลี่ย 4.50 – 5.00 หมายถึง ความพอใจดีมาก ค่าเฉลี่ย 3.50 – 4.49 หมายถึง ความพอใจดี ค่าเฉลี่ย 2.50 – 3.49 หมายถึง ความพอใจปานกลาง ค่าเฉลี่ย 1.50 – 2.49 หมายถึง ความพอใจน้อย ค่าเฉลี่ย 1.00 – 1.49 หมายถึง ความพอใจน้อยที่สุด นำผลการประเมินประสิทธิภาพข้อที่ต่ำกว่าระดับมากและข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญมาปรับปรุงผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika
บทที่ 4 ผลการวิจัย ผลจากการดำเนินโครงงานมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาขั้นตอนน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) มาจากขั้นตอนการปฏิบัติโครงการและการดำเนินการวิจัยซึ่งสามารถสรุปผลได้ดังนี้ 4.1 ผลการพัฒนาโครงงาน ผลการศึกษาข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) ผลการศึกษากลุ่มตัวอย่าง จำนวน 68 คน พบว่า ตารางที่ 4.1 แสดงร้อยละของเพศผู้ตอบแบบสอบถาม เพศ จำนวน (คน) ร้อยละ ชาย 14 31.82 หญิง 30 68.18 รวม 44 100 จากตารางที่ 4.1 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 44 คน เป็นเพศชาย จำนวน 14 คน คิดเป็น ร้อยละ 31.82 เพศหญิง จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 68.18 ตารางที่ 4.2 แสดงร้อยละของอายุของผู้ตอบแบบสอบถาม อายุ(ปี) จำนวน (คน) ร้อยละ 17-21 ปี 19 43.18 25-30 ปี 16 36.36 35-40 ปี 9 20.46 รวม 44 100 จากตารางที่ 4.2 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 44 คน มีช่วงอายุ 17-21 ปีจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 43.18 อายุ 25-30 ปีจำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 36.36 และ35-40 ปีจำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 20.46
14 ตารางที่ 4.3 แสดงร้อยละของระดับการศึกษาของผู้ตอบแบบสอบถาม อาชีพ จำนวน (คน) ร้อยละ จบการศึกษาปวช./ปวส. 25 56.82 ปริญญาตรี 9 20.45 ปริญญาโท 10 22.73 รวม 44 100 จากตารางที่ 4.3 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 44 คน มีจบการศึกษาปวช./ปวส.จำนวน 25 คน คิดเป็นร้อยละ 56.82 ปริญญาตรี จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 20.45 และปริญญาโทจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 22.73 ตารางที่ 4.4 แสดงร้อยละของอาชีพของผู้ตอบแบบสอบถาม ระดับการศึกษา จำนวน(คน) ร้อยละ ผู้จัดการ 2 4.55 ข้าราชการ 5 11.36 แม่บ้าน 10 22.73 พนักงานบริษัท 15 34.09 รับจ้างทั่วไป 12 27.27 รวม 44 100 จากตารางที่ 4.4 พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 44 คน มีอาชีพผู้จัดการ จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.55 ข้าราชการ จำนวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 11.36 แม่บ้านจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อย ละ 22.73 พนักงานบริษัทจำนวน 15 คน คิดเป็นร้อยละ 34.09 และรับจ้างทั่วไปจำนวน 12 คนคิดเป็น ร้อยละ 27.27
15 4.2 ผลการดำเนินการวิจัย ผลการศึกษาโครงการการศึกษาความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอม ระเหย (Liptus Malika) ภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก ตารางที่ 4.5 ผลแสดงความพึงพอใจของผู้ใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) รายการ ระดับความคิดเห็น แปลผล S.D 1. ขั้นตอนวิธีการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 3.66 0.49 ดี 2. ความพึงพอใจบรรจุภัณฑ์สวย ดึงดูดความน่าสนใจ 4.43 0.58 ดี 3. ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย 4.02 0.80 ดี 4. ราคาต้นทุนต่อการผลิต 1 ชิ้น มีความเหมาะสม 2.41 0.65 น้อย 5. ความพึงพอใจในกลิ่นของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 3.62 0.39 ดี 6. สรรพคุณของส่วนผสมที่นำมาทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 3.11 0.65 ดี 7. ความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 4.60 0.49 ดีมาก 8. ระยะเวลาในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 2.70 0.31 ปานกลาง 9. คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 3.10 0.63 ดี 10. ความรู้ที่ได้จากการทดสอบผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 3.32 0.20 ดี รวม 3.50 0.52 จากตราราง 4.5 พบว่าความพึงพอใจของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) ในภาพรวมอยู่ในระดับดี ( = 3.50 S.D= 0.52) และเรียงตามลำดับค่าจากมากไปหา น้อยได้ดังนี้ ผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหยในระดับดีมาก ( = 4.60 S.D=0.49) ,ความพึงพอใจบรรจุภัณฑ์สวย ดึงดูดความน่าสนใจ ( =4.43 S.D=0.58), ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย ( =4.02 S.D=0.80) ขั้นตอนวิธีการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.66 S.D=0.49), ความพึงพอใจในกลิ่นของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.62 S.D=0.39), ความรู้ที่ได้จากการทดสอบผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.32 S.D=0.20), สรรพคุณของส่วนผสมที่นำมา ทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.11 S.D=0.65), คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.10 S.D=0.63), ระยะเวลาในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =2.70 S.D=0.31) และ ราคาต้นทุนต่อการผลิต 1 ชิ้น มีความเหมาะสม ( =2.41 S.D=0.65) ตามลำดับ
16 บทที่ 5 สรุปผลการวิจัยอภิปรายผลและข้อเสนอแนะ จากการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) สามารถสรุปผลการวิจัย อภิปรายผลการวิจัยและข้อเสนอแนะดังต่อไปนี้ สรุปผลการวิจัย 1. ผลการทำน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) คณะผู้วิจัยได้ทำการผลิตน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) โดย มีงบประมาณที่ใช้ในการจัดทำ ประมาณ 103 บาท ต่อขวด ราคาขาย 139 บาท สร้างกำไรขวดละ 30 บาทต่อการลงทุน เป็นการลงทุน ต่ำแต่ใช้ประโยชน์สูง 2. ผลการศึกษาน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) ผลการประเมินคุณภาพของน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) พบว่าโดยรวม มีประสิทธิภาพใน การให้ความหอม ช่วยผ่อนคลายของกลิ่นยูคาลิปตัสและกลิ่นมะลิซึ่งจะช่วยในเรื่องให้ความสดชื่น ที่มีราคาย่อมเยา เป็นการช่วยสร้างมูลค่าให้กับวัสดุอุปกรณ์ รวมไปถึงเป็นแนวทางการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อ สร้างรายได้ให้กับผู้ที่สนใจ และเป็นการนำ ความรู้สู่ครอบครัว ชุมชนและท้องถิ่นที่อยู่อาศัยได้ในอนาคต 3. ผลการศึกษาความพึงพอใจในการทดลองใช้น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) ผลการสอบถามความพึงพอใจในน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) พบว่าโดยรวมมีความ พึงพอใจในระดับดีมาก อภิปรายผลการวิจัย จากผลการการศึกษาข้อมูลทั่วไปของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) พบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 44 คนพบว่าผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด 44 คน เป็น เพศชาย จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 31.82 เพศหญิง จำนวน 30 คน คิดเป็นร้อยละ 68.18 มีช่วงอายุ17-21 ปีจำนวน 19 คน คิดเป็นร้อยละ 43.18 อายุ 25-30 ปี จำนวน 16 คน คิดเป็นร้อยละ 36.36 และ35-40 ปี จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 20.46 มีจบการศึกษาปวช./ปวส.จำนวน 25 คน คิด เป็นร้อยละ 56.82 ปริญญาตรี จำนวน 9 คน คิดเป็นร้อยละ 20.45 และปริญญาโทจำนวน 10 คน คิด เป็นร้อยละ 22.73 และมีอาชีพผู้จัดการ จำนวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 4.55 ข้าราชการ จำนวน 5 คน คิด
17 เป็นร้อยละ 11.36 แม่บ้านจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 22.73 พนักงานบริษัทจำนวน 15 คน คิดเป็น ร้อยละ 34.09 และรับจ้างทั่วไปจำนวน 12 คนคิดเป็นร้อยละ 27.27 การสรุปผลความพึงพอใจของกลุ่มตัวอย่างที่ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) โดยภาพรวมอยู่ในระดับดีผู้ตอบแบบสอบถามมีความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหยในระดับดีมาก ( = 4.60 S.D=0.49) ,ความพึงพอใจบรรจุภัณฑ์สวย ดึงดูดความน่าสนใจ ( =4.43 S.D=0.58), ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย ( =4.02 S.D=0.80) ขั้นตอนวิธีการทำ ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.66 S.D=0.49), ความพึงพอใจในกลิ่นของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.62 S.D=0.39), ความรู้ที่ได้จากการทดสอบผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.32 S.D=0.20), สรรพคุณของส่วนผสมที่นำมาทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.11 S.D=0.65), คุณประโยชน์ของ ผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =3.10 S.D=0.63), ระยะเวลาในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( =2.70 S.D=0.31) และราคาต้นทุนต่อการผลิต 1 ชิ้น มีความเหมาะสม ( =2.41 S.D=0.65) ตามลำดับ ข้อเสนอแนะในการนำผลการวิจัยไปใช้ 1. ควรมีการพัฒนาต่อยอดให้เป็นสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐาน 2. ควรพัฒนารูปแบบบรรจุภัณฑ์ให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพมากขึ้น 3. พัฒนาสูตรน้ำมันหอมระเหย (Liptus Malika) ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ความหอมให้หลากหลายใน ภาคธุรกิจเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้มีประสบการณ์ และเป็นการ กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ 4. นักเรียนนักศึกษาสามารถหารายได้จาก ผลงานทางวิชาการที่คิดค้น
บรรณานุกรม กัลธิมา เหลืองอร่าม, นิธิวดี เหลืองอ่อน และปัญญา มั่นบำรุง (2545) ความพึงพอใจต่อการ ให้บริการและการจูงใจ. กู๊ด (Good,1973) ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ. กรองแก้ว อยู่สุข (2542) ความหมายความพึงพอใจในการทำงาน. เคลิร์ก (Quirk,1987). ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ ชาญชัย อาจินสมาจาร (2541) ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ. เชลลี่ (Shelli, 1995, p. 9 อ้างถึงใน ปราการ กองแก้ว, 2546,หน้า17) ได้ศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับ ความพึงพอใจ. ฐาปนีย์ หงส์รัตนาวรกิจ (2550) น้ำมันหอมระเหยและการใช้ในสุคนธบำบัด กรุงเทพฯ : คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. บุญชม ศรีสะอาด (2543 : 99-100) การแปลความหมายค่าเฉลี่ยของข้อมูล. นิจศิริ เรืองรังสี(2550) น้ำมันหอมระเหย (essential oil). นิวคูเมอร์ (Newcumer,1995:2). ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ นิจศิริ เรืองรังสี (2550) ศึกษาวิจัยเรื่องน้ำมันหอมระเหย (essential oil). พรทิพย์ โกเทศโสภา (2544) ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ. รัตนา บูรพากุล (2545) ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ. วิทย์ เที่ยงบูรณธรรม, 2546 ; วิทยา บุญวรพัฒน์, (2554) การใช้ประโยชน์ทางยาพื้นบ้าน. โวลแมน (Wolman,1973). ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ วิชัย แหวนเพชร (2543) ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ. สุริยะ วิริยะสวัสดิ์ (2530, หน้า 42 อ้างถึงใน ปราการ กองแก้ว,2546,หน้า 17) ความพึงพอใจหลัง การ ให้บริการของหน่วยงานของรัฐ สุรพล เย็นเจริญ (2543) ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ. อเดย์ และแอนเดอร์สัน (Aday & Anderson, 1975, p.4) ทฤษฎีความพึงพอใจ. โอลิเวอร์ (Oliver,1997). ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ ฮอร์นบี้ (Hornby,2000). ความหมายทฤษฎีความพึงพอใจ Mcguinness H., 2003, ฐาปนีย์หงส์รัตนาวรกิจ (2550) วิธีการสกัดน้ำมันหอมระเหย (Methods of Extraction) สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย.
ภาคผนวก
19 ภาคผนวก ก แบบอนุมัติโครงงาน SP 1
วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี แบบขออนุมัติโครงงาน ประจำปีการศึกษา ….. / 2565. วันที่ ….. เดือน ……………………. พ.ศ ………… เรื่อง ขออนุมัติโครงงาน เรียน ครูประจำวิชา สิ่งที่แนบมาด้วย แบบเสนอโครงงาน ข้าพเจ้า นางสาวพัชรี ระรวยทรง นักเรียนหลักสูตร ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ สาขาวิชาการโรงแรม ชั้นปีที่ 3 กลุ่ม/ห้อง 2 . มีความประสงค์จะทำโครงงาน เรื่อง น้ำมันหอมระเหย Litus Malika ชื่อผู้ร่วมโครงงาน 1. นางสาวพัชรี ระรวยทรง 2. นางสาวฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์ 3. นางสาวณัชธิชา แซ่เด่น ชื่อครูที่ปรึกษา 1. นางสาวธนวรรณ ไหมอ่อน 2. นางสาวสินาภรณ์ สุขเรื่อย จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาอนุมัติ ….…………………………………. ( นางสาวพัชรี ระรวยทรง ) ผู้จัดทำโครงงาน ………………………………….. ……………………………………… ( นางสาวธนวรรณ ไหมอ่อน ) ( นางสาวสินาภรณ์ สุขเรื่อย ) ครูที่ปรึกษาโครงงาน ครูผู้สอนวิชาโครงงาน sp1 อนุมัติ ไม่อนุมัติ ( นางสาวสินาภรณ์ สุขเรื่อย ) ครูผู้สอนวิชาโครงงาน ความคิดเห็น ( นางสาวศิริภา จิตผ่อง ) หัวหน้าสาขาวิชาการโรงแรม ความคิดเห็น ( นายสุรเชษฐ์ แก้วปาน ) รองผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ
21 ภาคผนวก ข แบบเสนอโครงงาน SP 2
22 วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี แบบเสนอโครงงาน ประจำปีการศึกษา ….. / 2565 1. ชื่อโครงงาน น้ำมันหอมระเหย liptus malika ผลิตภัณฑ์ เพื่อความผ่อนคลาย 2. ชื่อนักเรียน ระดับชั้น ปวช. 3 / ห้อง 2 สาขา การโรงแรม 2.1 ชื่อ-สกุล นางสาวพัชรี ระรวยทรง รหัสประจำตัวนักศึกษา 63207010047 2.2 ชื่อ-สกุล นางสาวฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์ รหัสประจำตัวนักศึกษา 63207010038 2.3 ชื่อ-สกุล นางสาวณัชธิชา แซ่เด่น รหัสประจำตัวนักศึกษา 63207010039 3. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา น้ำมันหอมระเหย เป็นผลิตผลจาการสกัดจากพืชสมุนไพรนานาชนิดซึ่งอาจสกัดมาจาก ส่วนใดส่วนหนึ่งของพืชนั่น ๆ เช่น สกัดมาจาก ผล ดอก ใบ เมล็ด เปลือก ก้าน วิธีสกัดที่นิยิมใช้ ในปัจจุบัน คือ การสกัดด้วยไอน้ำและการใช้ในสารเคมีเป็นตัวทำลายหลังจาการสกัดน้ำมันหอม ระเหยที่ได้ถูกนำมาสังเคราะห์ เพื่อกลั่นแยกหาสารต่าง ๆที่มีกลิ่นหอม สารเหล่านี้เองที่จะถูก นำมาคัดเลือก ผสมผสานและสร้างขึ้นมาเป็นกลิ่นใหม่ ๆ น้ำมันหอมระเหยที่สกัดได้จากพืช ธรรมชาติปลอดภัยรักษสิ่งแวดล้อมเนื่องด้วยอโรมา-เธราปี เป็นการรวมศาสตร์และศิลป์ของ กลิ่น-และน้ำมันหอมระเหยเป็นการนำเอาวิธีต่าง ๆมาประยุกต์ใช้รวมกับกลิ่นหอมที่อยู่ในสาร หอม หรือน้ำมันหอมระเหยจึงเป็นอีกหลายทางเลือกที่มนุษย์ค้นคว้าเรื่องมาตลอดระยะเวลา หลายพันปี จวบจนกระทั่งปัจจุบันนี้ น้ำมันหอมระเหยมีประโยชน์สามารถนำไปได้หลายประเภทเช่น การนวด เป็นวิธีที่ได้ผล วิธีหนึ่งที่ได้ผลมากที่สุดเพราะสรรพคุณของน้ำมันระเหยสามารถช่วยบำบัดโรคได้การอาบเป็นวิธี ง่ายๆที่สามารถทำด้วยตัวเองได้สามารถนำน้ำมันหอมระเหยหยดลงน้ำแช่ตัวลงไปในน้ำประมาณ 20 นาทีช่วยให้รู้สึกสดชื่นขึ้น การประคบ จะทำให้รู้สึกดีขึ้นตรงจุดที่เราประคบ การสูดดม การ Sp 2
23 สูดไอน้ำสามารถช่วยในการฆ่าเชื้อโรคจะช่วยกำจัดเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจได้การเผา-อบ ห้องเพื่อฆ่าเชื้อโรคในโรงพยาบาลก็ใช้หลักการนี้เช่นกันเพราะน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจะ ถูกอบอวลในห้องที่ปิดมิดชิดสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ ปันจุบันมีการนำสมุนไพรหลากหลายชนิดมาสกัดน้ำมันหอมระเหยกันมากมายไม่ว่าจะ เป็นพืชสมุนไพรจากธรรมชาติหรือสังเคราะห์มาจากสารเคมีหรือจะประกอบสร้างขึ้นมาจากสัตว์ แต่วิธีสกัดจากพืชธรรมชาติเป็นวิธีที่ง่ายและปลอดภัยมากที่สุด ดังนั้นทางผู้จัดโครงงานเกิดแนวคิดพัฒนาผลิตภัณฑ์สารหอมระเหยที่สกัดมาจาก ส่วนผสมของใบคายูลิปตัสและดอกมะลิที่มีสรรพคุณใช้ถูที่บริเวณร่างกายหรือใช้การสูดดมเพื่อ การผ่อนคลายแก่ผู้บริโภค เช่น เด็ก ผู้ใหญ่ที่มีอายุ หรือวัยรุ่น ใช้ในการดมหรือทาเพราะมี สารสำคัญที่อาจมีฤทธิ์ต้านการอักเสบฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการปวดบวม รักษาอาการของโรค ในระบบทางเดินหายใจ เช่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ไอ ปวดศีรษะ 4. วัตถุประสงค์ 4.1 เพื่อศึกษาดำเนินการสร้างผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 4.2 เพื่อศึกษาความพึงพอใจจากการทดลองใช้ น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 4.3 เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของ น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 5. ขอบเขตของโครงงาน 5.1 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 5.1.1 ประชากร ที่ใช้ในครั้งนี้ได้แก่ พนักงานที่ปฏิบัติงานในสถานประกอบการด้าน การให้บริการด้านโรงแรม ด้านการบริการอาหารและเครื่องดื่มและด้านสุขภาพทั้งหมด 50 คน 5.2.2 กลุ่มตัวอย่าง พนักงานเชื่อมสนิท จำนวน 7 คน พนักงานบลูสกายราฟท์ 5 คน พนักงานไทรโยคมันตรา 4 คน พนักงานอากาศคาเฟ่ 16 คน และพนักงานพรีเมียมบาร์ 12 คน รวม ทั้งหมด 44 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีระบุวิธีการเลือกกลุ่มตัวอย่าง 5.2 ด้านเวลา ระยะเวลา เดือนตุลาคม 2565 ถึง เดือน มกราคม 2566 - ตัวแปรต้น น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) - ตัวแปรตาม ความพึงพอใจจากผู้ทดลองใช้น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika )
24 6. วิธีดำเนินโครงงาน (กล่าวถึงขั้นตอนการดำเนินงานโดยย่อ) 6.1 ศึกษาความสำคัญ ความสนใจ ปัญหา และเทคโนโลยีที่จะต้องจัดทำโครงงาน 6.2 เขียนเค้าโครงงาน 6.3 นำเสนอเค้าโครงแผนกวิชาการและขออนุมัติคณะกรรมการ 6.4 วิธีดำเนินการตามโครงงานที่ได้รับอนุมัติ โดยเขียนตามลักษณะขั้นตอนการพัฒนา เช่น การวางแผน การเตรียม การผลิต การประเมิน 6.5 เขียนเอกสารรายงานการจัดทำโครงงาน 6.6 นำเสนอรายงานการจัดทำโครงงานต่อคณะกรรมการสอบโครงงาน 7. ระยะเวลาดำเนินการ (ระบุกิจกรรมสำคัญและกำหนดตารางเวลาของแต่ละกิจกรรม ปรับเปลี่ยนตาม ความเหมาะสม) ระยะเวลา ขั้นตอนการดำเนินงาน ตุลาคม พฤศจิกายน – ธันวาคม มกราคม 1 2 1 2 3 4 1 2 3 4 1. เสนอหัวข้อโครงงาน เสนอ ผู้บริหาร 2. ดำเนินงานวิจัยตามกรอบ โครงงาน 3. สรุปงานวิจัย นำเสนอ 8. งบประมาณ 8.1 ค่าวัตถุดิบ 100 บาท 8.2 ค่าบรรจุภัณฑ์ 100 บาท 8.3 ค่าวัสดุอุปกรณ์ 300 บาท 9. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 9.1 ได้ศึกษา ค้นคว้า และวิจัยการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ( Liptus Malika ) 9.2 สามารถนำมาใช้ได้จริงได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ทดลองใช้ 9.3 สามารถนำมาใช้ได้จริงได้รับการยอมรับจากกลุ่มผู้ทดลองใช้
25 ภาคผนวก ค แบบสอบถาม
26 แบบสอบถามความพึงพอใจ Scanตอบแบบสอบถาม โครงการ น้ำมันหอมระเหย (Liptus Maluka) คำชี้แจง : โปรดทำเครื่องหมาย √ ลงในช่องที่ตรงกับระดับความพึงพอใจของท่านมากที่สุด ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไป 1. 1. เพศ ( ) ชาย ( ) หญิง 2. อายุ ( ) 17-21 ปี ( ) 25-30 ปี ( ) 35-40 ปี 3. ระดับการศึกษา ( ) จบการศึกษาปวช/ปวส ( ) ปริญญาตรี ( ) ปริญญาโท 4. อาชีพ ( ) ผู้จัดการ ( ) ข้าราชการ ( ) แม่บ้าน ( ) พนักงานบริษัท ( ) รับจ้างทั่วไป ตอนที่ 2 ความพึงพอใจต่อโครงการ หัวข้อ ระดับความพึงพอใจ 5 4 3 2 1 1 ขั้นตอนวิธีการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 2 ความพึงพอใจของผลิตภัณฑ์สวย ดึงดูดความน่าสนใจ 3 ประสิทธิภาพของน้ำมันหอมระเหย 4 ราคาต้นทุนต่อการผลิต 1 ชิ้น มีความเหมาะสม 5 ความพึงพอใจในกลิ่นของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 6 สรรพคุณของส่วนผสมที่นำทำผลิตภัณฑ์น้ำมัหอมระเหย 7 ความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้ผลอตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 8 ระยะเวลาในการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 9 คุณประโยชน์ของผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย 10 ความรู้ที่ได้จากการทดสอบผลิตภัณฑ์น้ำมันหอมระเหย ตอนที่ 3 ข้อเสนอแนะ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ......................................................................................................................................................... .......
27 ภาคผนวก ง แบบคุณลักษณะ
28 แบบคุณลักษณะ รายวิชา โครงงาน ( Project ) รหัสวิชา 20701 – 8502 ( ท-ป-น ) 0-2-2 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 แผนก วิชาการโรงแรม ชื่อโครงงาน : น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika งบประมาณ : 500 บาท ที่อยู่สถานศึกษา : 279 ถ. พระพนวษา ต. ท่าพี่เลี้ยง อ. เมือง จ. สุพรรณบุรี 72000 ภาพ ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika รายชื่อผู้คิดค้นพัฒนา เลขที่/ชั้น/เบอร์โทรศัพท์ สถานประกอบที่ฝึกอาชีพ 1. น.ส พัชรี ระรวยทรง 7 ปวช.3/2 0984217509 เดือนฉายรีสอร์ท 2. น.ส ฐิตินันท์ คล้ายสุบรรณ์ 1 ปวช.3/2 0632477527 เดือนฉายรีสอร์ท 3. น.ส ณัชธิชา แซ่เด่น 2 ปวช.3/2 0990681614 เดอะวิวแจ้งวัฒนะ14 วัตถุประสงค์ การนำสิ่งธรมมชาติมาใช้ให้เกิดในทางที่เกิดประโยชน์ ใช้ในการทำน้ำมันหอมระเหย และเพื่อการค้าขายในการตลาด คุณลักษณะและ ประโยชน์ : 1. ลดต้นทุนในการสั่งซื้อผลิตภัณฑ์เรื่องการผ่อนคลาย 2. นำของธรรมชาติมาใช้ให้เกิดประโยชน์ 3. เพิ่มมูลค่าให้กับน้ำมันหอมระเหย
29 ภาคผนวก จ ขั้นตอนการผลิต
30 ขั้นตอนการทำผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika การเตรียมวัสดุอุปกรณ์-วัตถุดิบในการทำ น้ำมันหอมระเหย Litus Malika วัสดุอุปกรณ์ที่นำมาใช้ทำ น้ำมันหอมระเหย 1. หัวเชื้อยูคาลิปตัส 2. หัวเชื้อกลิ่นมะลิ 3. ไซลิ้ง 2 อัน 4. ขวดใส่ ขั้นตอนที่ 1 นำไซลิ้งทั้งสองอันดูดหัวเชื้อยูลาลิปตัสและหัวเชื้อกลิ่นมะลิขึ้นมาประมาณ 2 ซีซี
31 ขั้นตอนที่ 2 นำหัวเชื้อยูคาลิปตัสและหัวเชื้อกลิ่นมะลิ ใส่ขวดบรรจุภัณฑ์ที่เตรียมไว้อย่างละ 2ซีซี จะ เท่ากับ 4 ml /ขวด ขั้นตอนที่ 3 ปิดฝาและนำสติ๊กเกอร์มาติดลงขวดบรรจุภัณฑ์ แล้วจัดใส่กล่องและตกแต่งให้สวยงาม
32 VDO ขั้นตอนการทำผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika
33 โฆษณา ผลิตภัณฑ์ น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika
34 ภาคผนวก ฉ หลักฐานการทดลองผลิตภัณฑ์
36 รูปถ่ายบุคคลแสดงให้เห็นถึงการนำผลงานไปใช้ทดสอบ น้ำมันหอมระเหย Liptus Malika
36 ภาคผนวก ช คู่มือผู้บริโภค หรือ คู่มือการใช้งาน ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
37 คู่มือผู้บริโภค หรือ คู่มือการใช้งานจริง ภาษาไทย ภาษาอังกฤษ
38 ภาคผนวก ช แบบรับรองผลงาน