เด็กเลี้ยงแกะกับ
หมาป่า
THE SHEPHERD BOY AND THE WOLF
คำนำ
เรื่องราวของเด็กเลี้ยงแกะ
ผู้ทำหน้าที่ต้อนฝูงแกะออกไปกินหญ้า
แต่วันหนึ่งเขาเกิดนึกสนุก กลั่นแกล้งคนในหมู่บ้าน
จนทำให้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในที่สุด
ครั้งหนึ่ง มีเด็กเลี้ยงแกะซึ่งอายุยังน้อยผู้หนึ่ง
ทำการดูแลฝูงแกะของเขาอยู่ที่เชิงเขาใกล้กับป่าทึบ
เขารู้สึกค่อนข้างจะเหงาใจอยู่ตลอดวัน
ดังนั้นเขาจึงคิดแผนการณ์ขึ้นอย่างหนึ่ง
ซึ่งแผนการณ์นี้จะช่วยให้เขามีเพื่อนแก้เหงา และมีความสนุกได้บ้าง
เขาแกล้งร้องตะโกนออกไปว่า
"ช่วยด้วยจ้า! ช่วยด้วยจ้า! หมาป่ามากินแกะของผมแล้ว!!"
พร้อมวิ่งหนีอย่างตื่นตระหนกเข้าไปในหมู่บ้าน
เมื่อชาวบ้านได้ยินดังนั้น ก็พากันรีบหยิบอาวุธต่าง ๆ
ทั้งจอบ มีด และขวานเพื่อออกมาช่วยไล่หมาป่า
แต่เมื่อพวกเขาวิ่งไปที่เนินเขา ก็พบว่าฝูงแกะกำลังกินหญ้าอย่างสบายใจ
ไม่เห็นว่าจะมีหมาป่าออกมากินแกะสักตัว
เจ้าเด็กเลี้ยงแกะเห็นเหล่าชาวบ้านวิ่งกระหืดกระหอบมาที่เนินเขา
ก็หัวเราะเยาะและพูดว่า "ฮ่า ๆ ๆ ได้แกล้งหลอกคนนี่มันสนุกจริง ๆ"
แต่พวกชาวบ้านที่โดนหลอกต่างรู้สึกโมโหเป็นอย่างมาก
และด้วยความสนุกสนานคึกคะนอง เด็กเลี้ยงแกะจึงยังแกล้งหลอกแบบ
เดิมอีกหลายครั้ง และพวกชาวบ้านก็วิ่งออกมาช่วยทุกครั้ง
แต่ก็พบว่าเป็นเพียงแผนของเด็กเลี้ยงแกะเท่านั้น
จนมาวันหนึ่ง ได้มีหมาป่าออกมาทำร้ายและไล่กินฝูงแกะของเขาจริง ๆ
เด็กเลี้ยงแกะตกใจมาก รีบวิ่งออกไปตามชาวบ้านพร้อมกับร้องตะโกนว่า
"ช่วยด้วยจ้า! ช่วยด้วยจ้า! หมาป่ากำลังกินแกะของผม!!"
เขาร้องตะโกนให้คนมาช่วยจนเสียงแหบเสียงแห้ง
แต่ก็ไม่มีชาวบ้านคนไหนยอมออกไปช่วยเด็กเลี้ยงแกะเลยสักคน
ทั้งยังตอบเขากลับไปว่า
"คราวนี้เจ้าหลอกพวกข้าไม่ได้อีกแล้วล่ะ ไม่มีใครเชื่อเจ้าอีกต่อไปแล้ว"
เด็กเลี้ยงแกะรู้สึกเสียใจมากที่ไม่มีใครเชื่อเขาเลย
ทำให้ฝูงแกะของเขาถูกหมาป่ากินจนหมดฝูง
เด็กชายร้องไห้สะอึกสะอื้ นพร้อมกับพู ดว่า
"เพราะข้าไม่ดีเอง ข้าชอบพูดโกหก
แกล้งหลอกคนอื่ นเพราะเห็นว่าเป็นเรื่องสนุก
แต่สุดท้ายการพูดโกหกของข้ากลับทำให้ข้าเดือดร้อนเสียเอง"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
คนที่ชอบพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่พูดความจริงก็จะไม่มีใครเชื่อ
ซึ่งมีความหมายตรงกับสุภาษิตที่ว่า "เด็กเลี้ยงแกะ"
หมายถึงคนที่พูดโกหกจนเป็นนิสัย กระทั่งไม่มีใครเชื่อถือ
หรือให้ความสนใจกับคำพูดนั้น ๆ
หากทุกคนอยากให้ตัวเองเป็นคนน่าเชื่อถือ ก็ควรพูดแต่เรื่องจริง
ไม่พูดโกหก และไม่แต่งเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงขึ้นมาเพื่อหลอกแกล้งผู้อื่น
เพราะหากพูดโกหกเป็นประจำ เมื่อถึงคราวที่เราพูดความจริงหรือต้องการ
ความช่วยเหลือ ก็จะไม่มีใครเชื่อเรา ดังเช่นเรื่องราวในนิทานอีสปเรื่องนี้
นิทานอีสปเรื่องอมตะ
ที่ให้คำสอนแก่เด็กๆ ทั่วโลก
ผ่านเรื่องราวแห่งความคึกคะนอง
คำโกหก
และ การหลอกลวง