1
ก คำนำ นิเรื่องสั้นเรื่องนี้สร้างขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น และถ้ามีชื่อหรือสถานที่ใดไปตรงกับบางสิ่งเป็นแค่ความบังเอิญ เท่านั้น เรื่องสั้นเรื่องนี้มีเนื้อหาแฟนตาซี และได้รับแรงบัลดาลใจมาจากเกม D&D ทางนักเขียนต้องการให้มีคน สนใจเกีย่วกับเกมนี้มากขึ้นเท่านั้น ไม่มีเจตนาจะคัดลอกใดๆทั้งสิ้น คนปลงคนหนึ่ง
ข สารบัญ ค ำน ำ............................................................................................................................................................ก สารบัญ........................................................................................................................................................ข Prologue / บทนำ......................................................................................................................................1 บทที่ 1 .........................................................................................................................................................3 บทที่ 2.........................................................................................................................................................5
1
2 Prologue ฝันแปลก เสียงนาฬิกาปลุกได้ดังขึ้นในห้องที่เงียบสงัดหลังจากที่เสียงมันร้องขึ้นไปได้ไม่นานก็เงียบลงไป ทำให้คนคน หนึ่งที่อยู่บนเตียงข้างๆนั้นได้หันมาดูเวลาที่โชว์อยู่บนตัวหน้าจอดิจิตัล “ตีสองแล้วหรอเนี่ย” คำพึมพำของคนที่นอนอ่านนิยายอยู่บนเตียงนั้นไม่ได้มีความง่วงแม้แต่น้อย เพราะเป็นช่วงที่พระเอกกำลังเปิดเผย ความหลังของตัวเองให้กับกลุ่มนักผจญภัย ถึงจะดึกยังไงก็อยากอ่านให้จบก่อน ที่จริงแล้วนิยายนี้ก็ไม่ได้ดีอะไรมาก ที่ซื้อมาเพราะว่า คำโปรยของหนังสือดูแปลกใหม่เท่านั้นเอง นิยายที่ ชื่อว่า “ผจญภัยหลังจากแสงสว่าง” ที่แปลมาจากภาษาอังกฤษอีกทีเป็นนิยายแฟนตาซีที่มีอยู่ล้นตลาดทั่วไป แต่ จากคำโปรยปกหลังใช้คำใบ้เนื้อเรื่องไม่เหมือนที่เขาเคยเจอ พล็อตเรื่องเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นหลังจากโลกที่ฮีโร่นำแสง สว่างกลับมาหลังจากราชาปีศาจพยายามใช้อำนาจมืดมาครองโลก และกลุ่มนักผจญภัยก็ค้นพบความลับหลังจากที่ แสงสว่างกลับมา ไม่ได้มีอะไรมากแต่ก็ยังทำให้อยากอ่านให้จบเล่มได้ แต่เพราะในตอนเช้าต้องมีคลาสตอนเก้าโมงจึงต้องจำใจวางหนังสือลงแล้วปิดโคมไฟข้างเตียงนอนไป แต่ความมืดก็ ไม่ได้ช่วยให้หลับง่ายขึ้นเลย แต่กลับทำให้อยากรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไปด้วยซ้ำ ฉากที่อยากให้เกิดขึ้นต่อไปก็ผุด ขึ้นมาในหัวเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็เผลอหลับไป พอรู้ตัวอีกทีฉากที่อยู่ตรงหน้าก็คือโต๊ะที่มีของประดับตกแต่งวางประดับอยู่เกือบเต็มโต๊ะ พอมองลงไปก็ เห็นลูกเต๋าเจ็ดลูกวางอยู่ใกล้มือ และร่างของเขาที่กำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ “ยินดีต้อนรับสู่เซสชั่นนี้” เสียงที่ทุ้มแต่ฟังแล้วลื่นหูได้เอ่ยขึ้น อยู่ๆมุมมองก็ถูกเปลี่ยนกลับเข้าร่างที่อยู่บนเก้าอี้ในทันที เมื่อเขามองไปที่หัว โต๊ะจึงเห็นคนคนหนึ่ง นั่งอยู่หลังอะไรบางอย่างที่เขารู้สึกว่าคุ้นตามาก เป็นเหมือนกระดาษแข็งรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ ดูมีรอยสามารถพับได้ บังหน้าของต้นเสียงนั้นไว้
3 “กรุณาบอกชื่อของตัวละคร” ‘ตัวละคร?’ คำว่า ตัวละคร ทำให้คิ้วของเขาขมวดลง เป็นการใช้คำแทนเขาที่ค่อนข้างแปลกมาก แต่ถึงจะคิดอย่างไรก็ไม่ สามารถหาคำอื่นที่เหมาะสมมาแทนที่ได้ “กิตติโชจน์ดุจรวิวรรณ” “งั้นคุณกิตติโชจน์กรุณา -” “เรียกผมว่า ทด เถอะครับ” คนที่นั่งอยู่หัวโต๊ะถอนหายใจ คงจะไม่พอใจที่ทดไปเสียมารยาทขัดคำพูดของเขา “งั้นคุณทดช่วยทอยลูกเต๋า D20 ที่อยู่ตรงหน้าด้วย” ทดหยิบลูกเต๋าที่วางอยู่ขึ้นมาทั้งหมดมาอยู่ในมือ และเจอลูกเต๋าที่มียี่สิบหน้าหลังจากใช้นิ้วเขี่ยหามันไม่ถึงนาที อีก อย่างหนึ่งที่แปลกสำหรับทดคือ นอกจากฉากบังหน้าของคนคนนั้น ลูกเต๋าชุดนี้รู้สึกดูคุ้นตากับทดเช่นกัน ถึงจะไม่ แน่ใจว่าเคยไปเห็นที่ไหนก็ตาม แต่ตอนนี้คงจะต้องเก็บความรู้สึกนี้ไปก่อนและทอยลูกเต๋านี้ไป ลูกเต๋าที่ถูกทอยออกไปจากมือของทดก็ลอยไปตกตรงหน้าของทด หลังจากที่หมุนไปไม่นานจึงไปหยุดที่ เลข 12 ไม่ได้แย่มาก แต่ก็ไม่ได้ดีมากเหมือนกัน ทดชำเลืองไปที่คนที่นั่งเยื้องๆกับเขาถึงเขาจะไม่เห็นหน้า เพราะว่า ฉากกันหน้าบังอยู่แต่เขารู้สึกได้ว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มก่อนที่จะเอ่ยประโยคภาษาอังกฤษขึ้นมา “Welcome, player” หลังจากที่เสียงของอีกฝ่ายเลือนหายไปภาพตรงหน้าทดหมุนและขดเป็นวงกลม จุดดำปรากฏขึ้นมาในสายตาทด และค่อยๆขยายใหญ่ขึ้น ภาพตรงหน้าที่ทำให้ทดเวียนหัวอยู่แล้วเริ่มกระพริบ และจังหวะมืดก็บ่อยขึ้นและนานขึ้น เรื่อยๆ จนสุดท้ายทุกอย่างหายไปพร้อมกันทั้งหมด ก่อนที่จะรู้สึกว่าตนเองลอยขึ้นมา ประสาทสัมผัสของเขาเริ่ม กลับมา จนสุดท้ายเขาลืมตาขึ้นมากับแสงอาทิตย์ที่ส่องตาเขาอยู่ ทดนอนแช่บนเตียงอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพลิกตัวไปดูนาฬิกาข้างเตียงของเขา 8.30 คือเวลาที่นาฬิกาโชว์ให้เขาเห็น ‘......*ิบหาย’
4 1 “จะเป็นยังไง ถ้า...” ทดกระโดดขึ้นมาจากเตียงของเขาแล้วทำกิจวัตรตอนเช้าของเขาอย่างเร่งรีบ วันนี้เขามีสอบเต้นตอน 9.40 ถึงจะมีเวลาอีกเกือบหนึ่งชั่วโมงครึ่งก็ตาม แต่ทดยังต้องรีบไปม. เพราะก่อนที่จะสอบจริงๆยังต้องไปเช็คซาวน์กับ พร็อพก่อน แล้วกว่าจะเสร็จก็ไม่รู้ว่าจะเหลือเวลาเท่าไหร่ก่อนจะเริ่มสอบจริงๆ หลังจากที่ทดแต่งตัวและกินข้าวเช้าเสร็จก็ไปรอรถโดยสารที่จะพาเขาไปมหาลัย โดยระหว่างรอนั้นทดเปิดพอด แคสต์เกม TTRPG โปรดของเขาขึ้นมาฟัง วันนี้เป็นวันที่กลุ่มในพอดแคสต์เล่นเกม T&T “สวัสดีคร้าบ ยินดีต้อนรับนะครับผม กลับมาเล่น T&T อีกแล้วนะครับ คราวเรานี้จะต่อจากที่เราทิ้ง ท้ายคราวที่แล้วไว้นะ” “คือคราวที่แล้วเราจบไว้ยังไงก่อนอ่ะ เล่นหลายเกมเกิ้นจำไม่ได้ละ” “พี่โน้ตเป็น GM นิต้องมีโน้ตไว้อยู่แล้วป่ะ” “เออจริง...ลืมไปละ” “สภาพน้าาา นี่ตังเมไม่ได้ลืมวิธีเล่นไปด้วยใช่มั้ย” เสียงเฮฮา ของเมมเบอร์ก็ดังขึ้นตั้งแต่ยังไม่เริ่มเกม ทดอดยิ้มให้กับบทสนทนานี้ไม่ได้ นี่แหละเป็นสิ่งที่พอดแคสต์ ของกลุ่มนี้เป็นพอดแคสต์ที่ทดเลือกที่จะฟังบ่อยๆ นอกจากจะโรลเพลย์เป็นตัวละครได้สนุกแล้ว บทสนทนานอก บทบาทก็ฟังได้ไม่เบื่อ แต่ทดก็อิจฉากลุ่ม T&T นี้อยู่นิดๆ เพราะเขาก็อยากจะเล่นเกมนี้กับเพื่อนๆเหมือนกัน แต่ เสียดายที่เพื่อนทุกคนที่ทดสนิทด้วยไม่มีใครมีตารางว่างตรงกันซักคนเลย เลยต้องจำใจยอมรับสถานการณ์ แล้ว ล้มเลิกความคิดนี้ไป “เรามาเริ่มกันเลยนะ อ่ะจากความเดิมตอนที่แล้ว กลุ่มเราพึ่งจะทำเควสตามหาฆาตกรต่อเนื่องของ เมืองแก้วมรกตได้สำเร็จเนอะ แล้ว...เอิ่มคุณเทอร์เรสคุณได้มิมิกเป็นสัตว์เลี้ยง”
5 “อ้อ อันนี้คือที่สุดท้ายฆาตกรต่อเนื่องคือ มิมิกที่ปลอมตัวเป็นม้านั่งแล้วกินคนเข้าไปใช่ม้าาาา” “ใช่ๆ แล้วตอนนี้….” ฟังๆพอดแคสต์โรลเพลย์ไป ทดก็จินตนาการจะเป็นยังไงถ้าเขาได้ไปสวมบทบาทให้ตัวเองไปอยู่ในกลุ่มนั้น ถ้าได้เล่น ขึ้นมาแล้วตัวเองจะทำตัวละครอะไร ‘ตัวละคร...หรอ’ คำที่คุ้นหูทำให้เขาเอะใจ อยู่ๆทดก็นึกถึงฝันของเขาเมื่อคืน ‘เป็นตัวละคร’ ‘ทอยลูกเต๋า...’ ‘หมายความว่าอะไรนะ...คนน่าสงใส...เราเป็นตัวละคร...เหมือนเป็นลางร้ายเลย’ ทดพยายามนึกถึงความฝันเมื่อคืนก่อน พยายามขุดหาภาพที่เขาจำได้ในสมอง ระหว่างมองออกไปนอกหน้าต่าง หลังจากที่เขาขึ้นนั่งในรถแล้ว ‘ลูกเต๋า...จะต้องเสี่ยงโชคในเร็วๆนี้หรอ? ไม่สิแต่ว่าถ้าเรากลายเป็นตัวละครคนอื่น ลูกเต๋าไม่น่าให้เราเสี่ยงโชคสิวะ’ ‘แล้วคนอีกคน......ทำไมถึงมาอยู่ในฝันล่ะ คนที่ยังไม่ได้เจอหรอ? คนที่ไม่ถูกกับเราวะ ทำไมจำอะไรกับคนคนนั้น ไม่ได้เลยวะ’ ‘ตัวละคร...หรือเราเป็นหุ่นเชิดวะ ไม่ดิมันน่าจะมีอะไรมากกว่านี้สิ’ แต่ก่อนที่ความคิดของทดจะไปได้ไกลมากกว่านี้ รู้ตัวอีกทีทดก็มาถึงถนนหน้าม.ซะแล้ว อยู่ๆเหตุการณ์ทุกอย่างก็ เกิดขึ้นในพริบตา เหมือนกับหุ่นเชิดที่ถูกตัดเชือกไป รู้ตัวอีกทีเขาก็ไปนอนอยู่บนพื้นผิวยางมะตอย ของเหลวอุ่นๆ สี แดงไหลออกมาจากร่างกาย ทั้งแขนและขาไม่รู้สึกอะไรเลย ทดเหมือนจะได้ยินเสียงแว่วๆ พยายามจะบอกอะไร เขาอยู่ แต่ดูจากที่ต้นเสียงเหมือนจะพูดเร็วและร่างของเขาที่เหมือนจะโดนสะกิดอยู่ตลอด เหมือนคนคนนั้นจะดู เดือดร้อน ลกลนซะทีเดียว ทดอยากที่จะลุกขึ้นมา ลุกขึ้นแล้วรีบวิ่งเข้าไปเตรียมตัวก่อนที่จะสอบแดนซ์ เหลือเวลา อีกไม่มากแล้ว เขายังไม่ได้แม้แต่เทสซาวน์ของวันนี้เลย นั่นสิถึงซาวน์จะทำงานวันนี้แต่เขาอาจจะลืมท่าเต้นตอน สอบก็ได้ ต้องไปซ้อมซักสามครั้งหลังเช็คซาวน์ด้วย แล้วพร๊อพเขากลัวมีคนแอบเอาไปใช้แล้วไม่คืน แล้ว.... สุดท้ายทุกอย่างก็ละลายหายไปในความมืดก่อนที่ทดจะมีโอกาสได้กังวลกับอะไรไปมากกว่านี้อีก
6 2 “ทำไมผมถึงกลายเป็นรางวัลเควสล่ะ?!” เสียงการต่อสู้สะท้อนไปตามทางโถงทางเดินของดันเจี้ยน บ้างก็มีเวทมนตร์ หรือ ลูกศร หลงออกมาฝังใน กำแพงมาพร้อมกับเสียงอาวุธที่ปะทะกันทุกๆไม่กี่วินาที ฝ่ายหนึ่งเป็นกลุ่มนักผจญภัยอีกฝ่ายหนึ่งเป็นมอนสเตอร์ที่ อยู่ในดันเจี้ยนนี้อยู่แล้ว ตอนนี้การต่อสู้กำลังจะสิ้นสุดแล้ว คนที่ใส่เกราะที่หนาที่สุดในกลุ่มปาร์ตี้ ออกคำสั่งให้ นักบวชของกลุ่มให้ใช้เวทมนตร์รักษานักเวชในกลุ่ม หลังจากนั้นนักเวชก็ร่ายคาถาทำให้น้ำแข็งฟอร์มตัวอยู่ใน อากาศ และเมื่อนักเวชสะบัดแขนลง น้ำแข็งกลายเป็นหอก และ พุ่งเข้าหามอนสเตอร์กลุ่มสุดท้าย หลังจากที่การต่อสู้จบลง หัวหน้ากลุ่มที่ออกคำสั่งก่อนหน้านั้นขอบคุณนักบวชที่ช่วยรักษานักเวช “ขอบคุณเจ้ามาก บทเวทรักษาของเจ้าช่วยพวกเราไว้ได้เยอะเลย” “ไม่เป็นไรหรอก...แค่รู้ไว้ว่าหลังจากนี้น่ะ ฉันเหลือบทเวทรักษาแค่สองบทแล้วนะ คราวหลังหัดระวังตัวเองกันบ้าง สิ” ทันที่ที่นักบวชทำท่าที่จะบ่นไปมากกว่านั้น ทุกคนในกลุ่มพร้อมใจกันหัวเราะแหะๆๆ เหมือนกับว่ารู้ความผิดของ ตัวเอง “คร้าบๆท่านแม่” “ขอโทษษษษ ไปบ่นตรงอื่นต่อได้แต่อย่าพึ่งในดันเจี้ยนนี้นะ” “จะระวังตัวให้มากขึ้นเยอะๆคร้าบ” หลังจากได้ยินคำสัญญาของสมาชิกในกลุ่มแล้ว นักบวชที่ขี้บ่นก็เหมือนกับพอใจในสิ่งที่ตัวเองได้ยินแล้วปล่อยเรื่อง นี้ผ่านไป
7 นักเวชที่เงียบมาตลอดการสนทนาของทั้งกลุ่มกับนักบวชหยิบหินหลากสีออกมาจากกระเป๋าของเธอแล้ว เริ่มเดินรอบวงพื้นที่ที่ทั้งกลุ่มยืนอยู่ เธอวางหินลงไปทีละก้อนจนกลายเป็นรูปวงรี หลังจากที่หินก้อนสุดท้ายแตะกับ พื้น พลังงานบางอย่างแผ่ออกมาจากหินแต่ละก้อน และรวมกันกลายเป็นแผ่นบางๆห่อหุ้มทุกอย่างที่อยู่ภายใน นักเวชที่เห็นว่าเกราะป้องกันได้ผลก็พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในเกราะก่อนที่จะร่ายคาถาใส่เกราะแล้วจึงเดินกลับไป หาเพื่อนร่วมกลุ่มที่กำลังคุยกันอย่างสนุกสนาน และสะกิตหัวหน้าเบาๆ “เกราะป้องกันเสร็จแล้วนะ นายไม่ต้องทำหน้าที่เป็นแทงค์ไปได้พักนึง” “อ๋า ขอบคุณเจ้ามาก” “ไม่เป็นไร” “เธอก็พักผ่อนเถอะ” นักเวทพยักหน้าและไปหาที่นั่งเพื่อที่จะนั่งพักก่อนที่จะไปต่อสู้กับบอสของดันเจี้ยนนี้ ทุกคนต่างแยกย้ายกันไปที่นั่ง พักภายในเกราะไม่นานหลังจากที่คุยกันเสร็จ หลังจากผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ทุกคนที่พักผ่อนกันก็ลุกขึ้นมาเครียมตัวที่จะต่อสู้ครั้งที่ยากที่สุดและครั้งสุดท้าย ในดันเจี้ยนนี้ หลังจากที่นักเวชไปสะกิดแทงค์หลังจากที่เธอเห็นเกราะป้องกันกระพริบ ทุกคนล้วนตื่นเต้นและกลัวสำหรับการต่อสู้นี้ ตื่นเต้นเพราะถ้าพวกเขาสามารถฆ่าบอสนี้ได้ กลุ่มผจญภัยของพวก เขาจะมีชื่อเสียงรำลือไปทั่งอาณาจักร และ สมบัติพวกทองและเพชรพลองที่บอสสะสมไว้จะเป็นของพวกเขา กลัว เพราะว่าพวกเขามีโอกาสที่จะตายในดันเจี้ยนที่ไม่มีแสงอาทิตย์นี้ นอกจากนี้ถ้าพวกเขาตายที่นี่วิญญาณของพวก เขาทุกคนจะโดนดันเจี้ยนกลืนกิน ไม่มีทางได้เห็นโลกหน้าแน่นอน “ทุกคนพร้อมกันมั้ย” “....อืม” “พร้อมสิ!” “ฉันจะพร้อมถ้าพวกนายไม่โง่วิ่งเข้าไปแบบไม่คิดถึงชีวิตตัวเองนะ” “พร้อมมมมม” “ถ้าไม่พร้อมพวกเราจะไม่มาถึงจุดนี้หรอก”
8 “งั้น...” แทงค์ยืนที่หน้าประตูห้องบอสแล้วแง้มประตูเข้าไป ในห้องที่ไม่มีอะไรเป็นต้นกำเนิดแสง แต่ยังสว่างเหมือนมีโคม ไฟติดอยู่ มีอะไรบางอย่างเป็นเงามืดหนึ่งเดียวอยู่ที่มุมห้อง ใช่แล้วนี่คือบอสของดันเจี้ยนที่กลุ่มนักผจญภัยจะต้อง กำจัดนั่นเอง ตัวมันเป็นเหมือนกับเจลลี่ จะว่าเป็นของเหลวก็ไม่ได้เหลวไปซะทีเดียว เพราะจับตัวกันเป็นก้อนกลม แล้วบอสตัวนี้ไหลไปมาเวลาที่มันขยับ บอสที่พูดถึง คือ สลาม แทงค์พยักหน้าให้นักเวชให้เริ่มร่ายมนต์น้ำแข็งของเธอ แต่เวทมนตร์น้ำแข็งก็ยังไม่สามารถทำให้สลามตัวนี้ กลายเป็นน้ำแข็งได้ทั้งตัว ทุกคนในกลุ่มถึงกับอึ้งไปพักหนึ่งแต่สุดท้ายก็ต้องตั้งสติ แล้วเปลี่ยนแผนใหม่ เพราะชีวิต และ ชีวิตหลังความตายของทุกคน จะพึ่งอยู่ที่การต่อสู้นี้ สลามเป็นบอสที่ยากมาก การปะทะกับบอสดันเจี้ยนทำให้ทุกคนในกลุ่มนี้จะบาดเจ็บสาหัส แต่สุดท้าย พวกเขาก็สามารถเอาชนะบอสสลามได้ หลังจากที่การต่อสู้จบลง นักบวชใช้ยาวิเศษและคาถารักษาลดอาการ บาดเจ็บของทุกคนก่อน แต่ก็ยังรักษาให้ทุกคนหายขาดไม่ได้ถึงจะเป็นอย่างนั้นไม่มีใครโทษเธอเลย เพราะ จิตใจ ทุกคนอยู่ที่สมบัติของบอสหลังประตูลับในห้อง อย่างที่ทุกคนคิดห้องสมบัติของบอสเต็มไปด้วยทอง เพชรพลอย และ ของล้ำค่าอีกมากมาย อัญมณีเสริม พลัง สมุดเวทที่สูญหาย ล้วนอยู่ในห้องสมบัตินี้หมด แต่ระหว่างที่คนอื่นกำลังกอบโกยทุกอย่างเข้ากระเป๋า แทงค์ก็ เหลือบไปเห็นหีบเก่าๆหีบหนึ่ง หีบนี้ดูค่อนข้างเรียบง่าย แต่ในความเรียบง่ายของหีบนี้ยังดูหรูหรา ด้วยลายสลัก ทองที่ประดับตกแต่งหีบนี้อยู่นอกจากนี้หีบนี้แปลกแยกจากหีบอื่นๆเพราะนอกจากจะดูเหมือนถูกวางซ่อนไว้หลัง ทองกับของมีค่าต่างๆ ยังมีแม่กุญแจล็อกหีบไว้ตั้งสามขนาด แทงค์เรียกสมาชิกในกลุ่มที่สะเดาะกลอนและแม่ กุญแจต่างๆมาใกล้ๆแล้วชี้ไปที่หีบที่เขาเห็น “เจ้าเห็นนั่นมั้ย” “เห็น......อยากให้ฉันเปิดให้ใช่ม้า” “ใช่แล้ว ดูท่าจะมีของล้ำค่าอยู่ในนั้นนะ” “งั้นเริ่มเลย” ทุกคนรวมตัวกันหน้าหีบสมบัติหลังจากที่แทงค์เรียกรวม และรอจนล็อกอันสุดท้ายร่วงลงจากหีบแล้วจึง เปิดหีบขึ้นมา แต่ก่อนที่พวกเขาจะเห็นว่าขางในมีอะไร ทุกๆอย่างก็หยุดอยู่กับที่คล้ายๆกับซีดีที่เสียหายจะทำให้ หนังดูบิดเบี้ยว ทุกอย่างรวน เหมือนบางอย่างที่ไม่ควรที่จะเกิดขึ้นก็ได้เกิดขึ้นเรียบร้อยแล้ว
9 สุดท้ายหลังจากระยะหนึ่ง ทุกอย่างกลับมาเป็นปกติแต่ที่ไม่ปกติคือ แทนที่จะเป็นสมบัติหรืออะไรที่ไม่ ควรจะมีชีวิตอยู่ในหีบ กลายเป็นคนนอนอยู่ในหีบแทน กลุ่มนักผจญภัยอึ้งจนไม่สามารถทำอะไรได้ จนคนที่อยู่ในหีบลืมตาตื่นขึ้นมาเห็นพวกเขา “พวก-พวกคุณเป็นใครน่ะ” “ทำไมถึงแต่งตัวแบบนั้นล่ะ” “เดี๋ยวนะ ทำไมผมมาอยูที่นี่ได้ล่ะ ผมจะต้องอยู่หน้ามหาลัยของผมสิ ผมมีสอบในอีกไม่กี่นาทีนะ” สุดท้ายก็มีเสียงตอบรับจากใครซักคนของฝ่ายตรงข้าม “นี่เจ้า.....เจ้าคือสมบัติที่ลำค่า หรือ ปีศาจกันแน่ที่ต้องถูกผนึกไว้แน่นหนาขนาดนั้น” ทดที่หลังจากเจอประสบการณ์ใกล้ความตายมาแล้ว และยังคิดมากกับการสอบเต้นที่เขาคิดว่ากำลังจะมาถึงใน เร็วๆนี้ มาเจอคำที่คนตรงหน้าเขากล่าวหา อารมณ์ของเขาก็พุ่งปรี้ด ไปทันที “นี่พวกคุณจะลักพาตัวผมแล้วมาทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไม่ได้นะ คอสเพลย์ได้ดีมากมั้งเหมือนผมจะไม่รู้ว่าพวกคุณเป็นคน ทำอะ นี่คิดว่าตัวเองแป็นตัวเอกในนิยายรึไง......” หลังจากที่ใส่อารมณ์ไปกับฝ่ายที่อยู่ตรงหน้าไปแล้วหลายครั้ง ทดมาดูลักษณะรูปร่างเขาอีกครั้ง ‘ทำไมถึงดูเหมือนตัวเอกเรื่องนั้นเลย’ ส่วนกลุ่มของนักผจณภัย แทงค์ก้าวขึ้นมาต้องการที่จะคุยกับทดที่ตอนนี้เหมือนจะอยู่ในโลกของตัวเองอยู่ “เจ้าคือใคร แล้วสิ่งที่เจ้าพูดถึงคืออะไร แต่ละคำ มหาลัย คอสเพลย์ อะไรก็ไม่รู้ที่เจ้าพูดมาเมื่อกี้คืออะไรกันแน่” “ห้ะ” “ในเมื่อเจ้าดูสับสนเหมือนกับพวกข้า ข้าจะเห็นว่าเจ้าไม่ใช่ปีศาจอะไรแล้วกันนะ เจ้าอาจจะเป็นเหยื่อของเวท มนตร์ชั่วร้าก็ได้ ทางที่ดีเจ้าควรจะมาที่นี่กับพวกข้าดีกว่า” “......*ิบหายวายวอดแล้วว่ะ”
10 ทุกคนเก็บสมบัติที่พบในห้อง ก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องไป ทดสังเกตเห็นว่ามีบางอย่างดังขึ้นในสมองของเขา "การตรวจสอบการรับรู้" ก่อนที่เขาจะรู้ตัวว่าโลกรอบตัวเขาหยุดนิ่ง ทุกอย่างยังคงอยู่อย่างสมบูรณ์และในมือของเขามีลูกเต๋า มันคือ d20 ที่ เขาจำได้ “ทอยลูกเต๋า” เสียงในหัวของเขาดังขึ้นอีกครั้ง เขาทำตามที่พูดในขณะที่เขารู้ว่าบางทีวิธีเดียวที่จะทำให้โลกรอบตัวเขา เคลื่อนไหวได้อีกครั้งเขาทำตามที่เสียงพูดในขณะที่เขารู้ว่าบางทีวิธีเดียวที่จะทำให้โลกรอบตัวเขาเคลื่อนไหวได้อีก ครั้ง แทนที่จะตกลงบนพื้น ลูกเต๋ากลับตกลงกลางอากาศเหมือนมีโต๊ะล่องหนอยู่ข้างหน้าเขา d20 หมุนจนหยุดนิ่ง หน้าลูกเต๋ามีเลข 13 ให้เขาเห็นลูกเต๋าหายไปและมีบางอย่างปรากฏขึ้นในนิมิตของเขา 'เค้าโครงของบางสิ่ง' เขาไม่รู้ว่ามันคืออะไร แต่ก่อนที่เขาจะได้ทำสิ่งใด โลกรอบตัวเขาก็กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง ดังนั้นเขาจึงตะโกนว่า "มีบางอย่างอยู่ตรงนั้น!" และเขาชี้ไปที่โครงร่าง นักเวทย์ทำท่าว่องไวและร่ายเวทย์น้ำแข็ง จากนั้นให้น้ำแข็งที่เธอเสกแทงทะลุโครงร่างที่เขา ชี้ไป กลุ่มนักผจญภัยเริ่มระแวดระวังเขาทันที "คุณรู้ได้อย่างไร" ทดพยายามอธิบายว่าตัวเองไม่รู้จริงๆ ได้อย่างไร แต่เขาเห็นเค้าโครงของสิ่งที่กำลังวางแผนที่จะโจมตีพวก เขาทั้งหมด ภายในใจเขารับรู้ถึงระบบที่เขาประสบอยู่ในขณะนี้ 'ฉันไม่สามารถพูดได้เพียงแค่ว่า โอ้มันเป็นระบบเกมที่ฉันทอยลูกเต๋าเพื่อตัดสินว่าฉันสามารถมองเห็นและทำสิ่ง ต่างๆ ได้หรือไม่ในตอนนี้ตอนนี้ฉันสามารถ?' ทดหวังว่าอย่างน้อยเขาก็สามารถอธิบายได้ "การหลอกลวง" เสียงที่ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ลูกเต๋าออก 8 ให้เขา
11 “โอ้เพราะฉันมาจากต่างโลก บางครั้งเราก็รู้สึกได้” ‘อืมดีกว่าเก่ามากเล้ย’ “ทอยลูกเต๋าเพื่อโน้มน้าวใจ” ครั้งนี้เขาหวังอย่างสุดกำลังว่าจะได้ตัวเลขที่สูงในครั้งนี้ลูกเต๋าแสดงให้เขาเห็นหมายเลข 15 คำโน้มน้าวที่ น่าเชื่อถือออกมาจากปากของเขา โชคดีที่คนกลุ่มนั้นดูไร้เดียงสาพอที่จะเชื่อเหตุผลของเขา ดังนั้นยินดีต้อนรับเขาสู่ กลุ่มนักผจญภัยตัวน้อย พวกเขาทั้งหมดได้ออกจากดันเจี้ยน แทงค์ของกลุ่มแนะนำตัวเองและเพื่อนของเขาให้ทด และด้วยสิ่งนั้นมันได้รับการยืนยันในทด ใจ 'ใช่ฉันเข้ามาในโลกในนิยายจริงๆ' แต่สำหรับทดมันอาจเป็นการเริ่มต้นใหม่ในโลกใบใหม่สำหรับเขา 'ฉันเดาว่ามันจะต้องไม่เป็นไร' และการผจญภัยครั้งใหม่ก็เริ่มต้นขึ้นสำหรับทด กับเพื่อนใหม่ระหว่างทาง
12 จากใจผู้เขียน เรื่องสั้นเรื่องนี้แต่งยากมากกกกก ตอนแรกพยายามใช้คำดีๆแต่ก็ต้องยอมใช้คำที่รู้จักดีกว่าไปแทน แล้วสุดท้ายคือ ทนไม่ไหวจนไม่แต่งเป็นภาษาไทยแล้ว แต่อังกฤษแล้วให้เว็บแปลภาษาแปลเอา
13 ประวัติผู้เขียน ชื่อ ธนภรณ์ เครือหงษ์ ชื่อเล่น มายด์ ศึกษาที่ โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัยชลบุรี ชั้น ม.6 / 6 เลขที่ 20 อายุ 18 ปี งานอดิเรก วาดรูป ออกแบบตัวละคร
14
15