1
2
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
3
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
๑. โครงสร้างและสาระโดยสังเขปของพระไตรปฎิ ก
พร ะไ ตร ปิ ฎ ก คือ คัม ภี ร์ขอ ง พ ร ะพุ ทธศา สน า ที่ ร ว บร ว ม พ ร ะธร ร ม คา สอ น ขอ ง
พระพุทธเจา้ แบง่ เปน็ ๓ ส่วน โดยมี โครงสรา้ งและสาระสังเขป ดังน้ี
4
สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
5
สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
๒. พระรัตนตรัย
พระรัตนตรัย เป็นองค์ประกอบสาคัญของพระพุทธศาสนา หมายถึง แก้วหรือส่ิงมี
ค่าสูงสุด ๓ ประการ ได้แก่ พระพุทธ หมายถึง พระพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้ธรรมด้วยพระองค์เอง
พระธรรม หมายถึง คาส่ังสอนของพระพุทธเจ้าท้ังหลักความจริงและหลักความประพฤติ
และพระสงฆ์ หมายถึง ผู้สืบทอดพระธรรมคาสอนของพระพุทธเจา้
6 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
๓. ธรรมคณุ ๖
ธรรมคุณ ๖ คอื คณุ ลักษณะของพระธรรม ๖ ประการ มดี ังน้ี
๑. สวากขาโต ภะคะวะตา ธัมโม พระธรรมเป็นธรรมที่พระผู้มีพระภาคเจ้า
ตรสั ไวด้ ีแล้ว
๒. สันทิฏฐโิ ก พระธรรมเปน็ สิ่งที่ผู้ศึกษาและปฏิบัติพึงเห็นได้ด้วยตนเอง
๓. อะกาลิโก เป็นคาสอนท่ีไม่จากัดเวลาปฏิบัติเม่ือใดสามารถเห็นผลได้เมื่อ
นั้น ทกุ เวลาทุกโอกาส
๔. เอหิปสั สิโก เปน็ ส่ิงท่ีควรบอกกล่าวกับผู้อื่นให้มาศึกษาและปฏิบัติ
๕. โอปะนะยิโก เปน็ คาสอนท่ีควรน้อมนามาไว้ในใจและยดึ ถือปฏิบัติ
๖. ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญูหีติ เป็นคาสอนที่ผู้รู้หรือผู้ที่บรรลุเข้าถึงแล้ว
เท่าน้ันจึงจะเข้าใจได้
7 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
การฟงั พระธรรมเทศนาผู้ฟงั จะไดข้ ้อคิดจากหลักธรรม
เพื่อนาเปน็ แนวทางในการดาเนินชวี ิต
8 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒
๔. อริยสัจ ๔
อริยสัจ ๔ เป็นหลักธรรมท่ีสาคัญในพระพุทธศาสนาหมายถึง ความจรงิ อันประเสริฐ ๔
ประการ (อริยะ แปลว่า “ประเสริฐ” สัจจะ แปลว่า “ความจริง”) เป็นหลักการสาคัญในการ
แก้ปัญหาชวี ิต มี ๔ ประการ
9 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
๔.๑ ทกุ ข์ (ธรรมที่ควรรู้)
ทุกข์ คือ ความไม่สบายกาย ไม่สบายใจ
เช่น การเกิด แก่ เจ็บ ตาย และความโศกเศร้า
เสียใจ ผิดหวัง คับแค้นใจ ความทุกข์ดังกล่าวน้ี
เกิดจากการยดึ มั่นในขันธ์ ๕ หลักธรรมแห่งทุกข์
ท่ีควรรูไ้ ด้แก่ ขนั ธ์ ๕ และอายตนะ
ความตายเป็นทกุ ข์อยา่ งหน่ึง
ที่ทกุ คนไมส่ ามารถหลีกเล่ยี งได้
10 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ ๒
๔.๒ สมุทัย (ธรรมท่ีควรละ)
สมุทัย คือ เหตุแห่งทุกข์ เกิดจากกิเลสที่
เรียกว่า ตัณหา ๓ ได้แก่ ความอยากได้ (กามตัณหา)
เช่น อยากได้ โทรศัพท์ราคาแพง ๆ ความอยากมี
หรอื อยากเป็น (ภวตัณหา) เชน่ อยากเป็นผู้มีชอ่ื เสียง
และอานาจ และความไม่อยากมีหรือไม่อยากเป็น
(วิภวตัณหา) เช่น ไม่อยากเจ็บป่วย สิ่งที่ควรละเว้น
เพื่ อ มิ ใ ห้ เ กิ ด เป็ น ค ว า ม ทุ ก ข์ ไ ด้ แ ก่ ห ลั ก ก ร ร ม
อกศุ ลกรรมบถ ๑๐ และ อบายมุข ๖
11 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒
๔.๓ นิโรธ (ธรรมที่ควรบรรล)ุ
นิโรธ หมายถึง สภาวะท่ีทุกข์ดับไปเมื่อดับ
สาเหตุของความทุกข์ได้ ความทุกข์ก็จะสิ้ นไป
อันเกิดจากการปฏิบัติธรรม ธรรมที่ควรบรรลุ คือ
สุข ๒ ได้แก่ สามสิ สุข และ นิรามสิ สุข
นิรามสิ สุข เป็นความสุขของ
ผู้ประพฤติปฏิบตั ิธรรม
12 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๒
๔.๔ มรรค (ธรรมท่ีควรเจริญ)
มรรค คือ ข้อปฏิบัติ วิธีหรือหนทาง
ท่ี น า ไ ป สู่ ค ว า ม ดั บ ทุ ก ข์ เป็น ทา ง สา ย ก ล า ง
( มั ช ฌิ ม า ป ฏิ ป ท า ) เรี ย ก อี ก อ ย่ า ง ห น่ึ ง ว่ า
ม ร ร ค มี อ ง ค์ ๘ ไ ด้ แ ก่ เ ห็ น ช อ บ คิ ด ช อ บ
เ จ ร จ า ช อ บ ก า ร ง า น ช อ บ เ ล้ี ย ง ชี พ ช อ บ
เพียรชอบ ระลึกชอบ ต้ังจิตม่ันชอบ หลักธรรม
ท่ีพึงปฏิบัติเพื่อนา ไปสู่ความดับทุกข์ ได้แก่
บุพพนิมิตของมัชฌิมาปฏิปทา ดรุ ณธรรม ๖ การตั้งใจใฝ่หาความรูแ้ ละฝกึ ฝนอยู่เสมอ
กุ ล จิ รั ฏ ฐิ ติ ธ ร ร ม ๔ กุ ศ ล ก ร ร ม บ ถ ๑ ๐ ทาให้กลายเป็นผู้รูแ้ ละผูเ้ ชย่ี วชาญ
สติปฏั ฐาน ๔ และมงคล ๓๘
13 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
๕. พุทธศาสนสุภาษิต
พุทธศาสนสุภาษิต เป็นภาษิตหรือถ้อยคาที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ เพ่ือเป็นแนวทาง
ในการดาเนินชวี ติ มดี ังนี้
๕.๑ กมฺมุนา วตตฺ ตีโลโก สัตวโลกยอ่ มเป็นไปตามกรรม
๕.๒ กลฺยาณการี กลยฺ าณํ ปาปการี จ ปาปกํ ทําดีได้ดี ทําช่วั ได้ชวั่
๕.๓ สุโข ปุญฺญสฺส อุจฺจโย การสั่งสมบุญนําสุขมาให้
๕.๔ ปูชโก ลภเต ปูชํ วนฺทโก ปฏิวนฺทนํ ผูบ้ ูชาเขายอ่ มได้รับการบูชาตอบ ผู้ไหวเ้ ขาย่อม
ได้รับการไหว้ตอบ
14 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒
๖. การพัฒนาจิตเพื่อการเรียนรู้และดําเนิ นชีวิตด้วย
วิธี คิดแบบโยนิ โสมนสิ การ คือ วิธี คิดแบบอุบาย
ปลุกเร้าคณุ ธรรมและวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์
15 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
โยนิโสมนสิการ หมายถึง การคิดโดยแยบคาย คือ คิดดี คิดเป็น คิดถูกต้องและ
รอบคอบ ซ่ึงการคิดแบบโยนิโสมนสิการน้ีเป็นวิธีคิดที่ควรแก่การฝึกฝนและพัฒนาให้
เกิดข้ึน เพื่อให้ชีวิตของเราดาเนินไปสู่ความสุข การคิดแบบโยนิโสมนสิการมี ๑๐ วิธี
ใ น ชั้ น นี้ นั ก เ รี ย น จ ะ ไ ด้ ศึ ก ษ า ๒ วิ ธี คื อ วิ ธี คิ ด แบ บ อุ บ า ย ป ลุ ก เ ร้ า คุ ณ ธ ร ร ม
และวธิ คี ดิ แบบอรรถธรรมสัมพนั ธ์
16 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี ๒
๖.๑ วิธีคิดแบบอุบายปลกุ เร้าคุณธรรม
วิธีคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรม หมายถึง การคิดในทางที่ดี คิดในเชิงบวก
คิดในทางที่เปน็ กุศล หรอื ท่ีเรยี กว่า การมองโลกในแงด่ ี เป็นวิธคี ิดท่ีนาไปสู่การพฒั นาชวี ติ
ท่ีดีงามและเปน็ ประโยชน์เพราะผู้ที่มองโลกในแงด่ ี มักมจี ิตใจท่ีผ่องใส มคี วามสุข
การคิดแบบอุบายปลุกเร้าคุณธรรมจึงมีความสาคัญในการท่ีจะทาให้เกิดความคิด
และการกระทาที่ดีงาม เป็นประโยชน์ ในขณะน้ัน ๆ และช่วยขจัดความคิดอกุศลที่มีอยู่
ในจิตใจให้ลดน้อยลงหรือหมดไป ในขณะเดียวกันก็ฝึกฝนจิตใจให้เป็นผู้ท่ีมองโลก
ในแงด่ ีด้วยเชน่ กัน
17 สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒
๖.๒ วธิ ีคิดแบบอรรถธรรมสัมพนั ธ์
วิธีคิดแบบอรรถธรรมสั มพันธ์ คือ การคิดท่ีเป็นเหตุเป็นผลกันของหลักการ
และผลของการกระทานั้น ๆ ว่าการกระทาดังกล่าวทาเพ่ือใครหรอื อะไร แล้วผลที่ตามมา
ของการกระทาน้ัน คืออะไร เป็นประโยชน์ หรือเป็นโทษอย่างไร เม่ือคิดได้ดังนี้แล้วก็
ปฏิบัติตามนั้น การคิดด้วยวิธีคิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์นี้จึงเป็นการคิดแบบรอบคอบ
ก่อนท่ีจะตัดสินใจกระทาส่ิงใดสิ่งหน่ึง
สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
๖.๒ วธิ ีคิดแบบอรรถธรรมสัมพนั ธ์
นักเรยี นมคี วามต้ังใจศึกษาเล่าเรยี น โดยมีเป้าหมายเพอ่ื ศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา
เป็นวธิ คี ิดแบบอรรถธรรมสัมพันธ์
19 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ ๒
๗. สวดมนต์แปล แผเ่ มตตา บริหารจติ และเจริญปัญญา
ด้วยอานาปานสติ
การบริหารจิตและเจรญิ ปัญญาควรเรม่ิ ด้วยการสวดมนต์ แผ่เมตตา ก่อนฝึกสมาธิ
ตามหลักสติปัฏฐานเน้ นอานาปานสติ โดยการสวดมนต์ ผู้ชายจะนั่ งท่าเทพบุตร
ผู้หญิงนั่งท่าเทพธดิ า ประนมมอื อยู่ระหวา่ งหน้าอก สารวมกาย วาจา ใจ
20 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๒
๘ . ก า ร ป ฏิ บั ติ ต น ต า ม ห ลั ก ธ ร ร ม ท า ง พ ร ะ พุ ท ธ
ศาสนา เพ่ือการดํารงตนอย่างเหมาะสมในกระแส
ค ว า ม เป ล่ี ย น แป ล ง ข อ ง โ ล ก แ ล ะ ก า ร อ ยู่ ร่ ว ม กั น
อยา่ งสันติสุข
พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องของการปฏิบัติ หลักธรรมคาสอนในพระพุทธศาสนา
จึงเป็นข้อปฏิบัติที่สามารถนามาใช้ ในชีวิตประจาวันได้ ไม่ว่าโลกจะมีการเปล่ียนแปลงไป
อย่างไร ท้ังในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต พระพุทธศาสนาจะช่วยวางแนวทางปฏิบัติ
ที่มนุษย์พงึ มที ั้งต่อส่ิงแวดล้อม และระหวา่ งมนุษยด์ ้วยกันเอง เพ่อื ให้ โลกเกิดสันติสุข
21 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๒
๘.๑ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพื่อการดํารงตนอยา่ ง
เหมาะสมในกระแสความเปล่ียนแปลงของโลก
โ ล ก มี ก า ร เ ป ล่ี ย น แป ล ง อ ยู่ ต ล อ ด เ ว ล า ก า ร เ ป ล่ี ย น แป ล ง ข อ ง โ ล ก
หากเป็นไปในทางดีย่อมเกิดประโยชน์ แก่ชาวโลก แต่หากเป็นไปในทางร้าย
ห รื อ ม นุ ษ ย์ ไ ม่ ส า ม า ร ถ ป รั บ ตั ว แ ล ะ แ ก้ ปั ญ ห า กั บ ก า ร เป ล่ี ย น แป ล ง ไ ด้ ผู้ ค น
ย่ อ ม ป ร ะ ส บ กั บ ค ว า ม ทุ ก ข์ ท ร ม า น ดั ง น้ั น ม นุ ษ ย์ จึ ง จ า เป็ น ต้ อ ง แ ส ว ง ห า
แน ว ท า ง ใ น ก า ร ด า เนิ น ชีวิ ต เพ่ือ ใ ห้ ส า ม า ร ถ ด า ร ง ต น อ ยู่ ไ ด้ อ ย่า ง มีค ว า ม สุ ข
หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาสามารถนามาประยุกต์ใช้เพ่ือแก้ปัญหาดังกล่าว
ได้แก่ อรยั สัจ ๔
22 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๒
๘.๒ หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาเพ่ือการอยู่ร่วมกันอย่าง
สั นติสุข
การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข หมายถึง การท่ีมนุษย์มาอยู่รวมกันเป็นสังคม และ
สามารถปฏิบัติตามกฎเกณฑ์การอยู่ร่วมกันได้ ทั้งกฎเกณฑ์ ในรู ปของกฎ ระเบียบและ
กฎหมาย รวมถึงการมีคุณธรรม จริยธรรมเป็นกรอบหรือแนวทางในการประพฤติ
ปฏิบัติตน อันจะทาให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข ในทางพระพุทธศาสนามี
หลักธรรมที่จะทาให้คนในสังคมอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขหลายประการ ดังเช่น กุศล
กรรมบถ ๑๐
23 สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๒