The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ศาสนาฯ ม.3 หน่วยที่ 2 พระธรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by TigSpwd Maroengsit, 2021-10-02 02:10:45

ศาสนาฯ ม.3 หน่วยที่ 2 พระธรรม

ศาสนาฯ ม.3 หน่วยที่ 2 พระธรรม

๓. หลักธรรมในการพัฒนาตนเพือ่ เตรยี มพรอ้ ม
สาหรบั การทางานและการมคี รอบครวั

การมีคครอลบคิกรัวเนพั้นเือ่ ป็นแกการไ้ใชข้ชีวสิตไร่วตมลกัน์ชอื่ เร่อื งตน้ แบบ

เขจอรงิญสาจมาี-เภปร็นรยต้าองกราู้จรักท่ีกจะานราปคครรัลบอิกปเบพรค่อื ุงแรแักว้ไลไขปะสสพไตู่คัฒลว์ชนาอื่ มเาร่ืองรองตน้ แบบ
ตนเองตามหลักคาสอนของพระพุทธศาสนา

02/10/64 51 สงั คมศึกษา ศาสนา แ5ล1ะวัฒนธรรม ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓

๓.๑ การปฏบิ ตั ิตนตามหลกั ธรรมในการพฒั นาตนเพอ่ื เตรียมพร้อมสาหรบั การทางาน

หลักธรรมทางพระพุทธศาสนาท่ีช่วยให้คนทางานประสบความสาเร็จได้ คือ
หลกั อิทธิบาท ๔ และ พรหมวหิ าร ๔

๑) อิทธิบาท ๔ คอื หลกั ธรรมท่นี าไปสคู่ วามสาเรจ็ ๔ ประการ ดังนี้

๑ค.ลฉันิกทเะพค่อืือ แควกาม้ไพขอสใจไตหมลาย์ชถื่อึง เพรออ่ืใจงท่ีจตะน้ทาแมบีใจบรักท่ีจะทา

กรูส้ากึรทสนางุกากนบั ใงดานๆไกม็ตร่ ูส้าึกมวหา่ ถากูกคบเลกบีกิ ิดเบพจงัื่อาคแกับกใ้ไหจขรสรอืไักตตกล้อ็จ์ชงื่อะทเทราื่อาเงใพรหอร้มงาตีคะ้นควแวาบามบมสจุขากเปับน็การได้ทางานน้ัน

๒. วิริยะ คือ ความเพียร หมายถึง มีความพยายาม ตั้งใจทา เม่ือมี
ความสุขกบั การไดท้ างานนน้ั กจ็ ะทาอย่างตัง้ ใจ โดยไมย่ ่อทอ้ ตอ่ อุปสรรค

02/10/64 52 สังคมศกึ ษา ศาสนา แ5ล2ะวัฒนธรรม ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๓

๓. จติ ตะ คือ ความเอาใจใส่ จดจ่อกับงาน ทางานอย่างตั้งใจ จิตก็จะจด
จอ่ อยูก่ บั งานท่ที าจนสาเร็จ

คลกิ เพ่ือแก้ไขสไตลช์ ่ือเรื่องต้นแบบ

๔. วิมังสา คือ ความใคร่ครวญ ไตร่ตรอง หมายถึง ใช้สติปัญญาคิด
ทบทวน ไตร่ตรองงานทท่ี า หคาลกกิ พเพบ่ือจแุดกบไ้ ขกสพไตรลอ่ ์ชงอ่ื เกร่ือ็ปงรรบัองปตรน้ ุงแแบกบ้ไขจนสาเรจ็ ลุลว่ งไป

หลักธรรมอีกประการหนึ่งท่ีทาให้คนทางานร่วมกันอย่างสันติสุขและ
ประสบความสาเรจ็ ได้ คือ พรหมวิหาร ๔

02/10/64 53 สังคมศึกษา ศาสนา แ5ล3ะวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓

๒) พรหมวหิ าร ๔ หลกั ธรรมอันเปน็ เคร่อื งประพฤติปฏิบัติเกือ้ กลู แก่ผอู้ ื่น ๔ ประการ ดังน้ี
๑. เมตตา คือ ความปรารถนาดีให้ผู้อ่ืนมีความสุข การทางานร่วมกันต้องอาศัย

ความมีน้าใจใหก้ นั จงึ จะทางานรว่ มกันอยา่ งมีความสขุ
๒. กรุณา คือ ความสงสาร คิดช่วยให้พ้นทุกข์ การทางานเม่ือประสบปัญหา

คลิกเพือ่ แกไ้ ขสไตล์ชอ่ื เรื่องต้นแบบหรอื อปุ สรรคกต็ อ้ งร่วมมอื กันแกไ้ ข

๓. มุทิตา คือ ควคาลกิมเยพิือ่นแดกีไ้เขมสื่อไตผลู้อ์ช่ืือ่นเรม่ือีสงรุของมต้นอแงบโบลกในแง่ดี ยอมรับและช่ืนชม
ในความสามารถของผู้รว่ มงานอย่างจริงใจ ไม่คิดอิจฉาริษยาเมอื่ ผู้อ่ืนได้รับคายกยอ่ งสรรเสริญ

๔. อุเบกขา คือ ความวางใจเป็นกลาง มีจิตเที่ยงธรรม ไม่ยินดียินร้าย ไม่เอนเอียง
ด้วยรักและชัง รวมทั้งรู้จักวางเฉยสงบใจ โดยมองว่าทุกคนเป็นเจ้าของกรรมของตน คนจะสุข
หรอื ทกุ ขก์ ็เน่ืองจากการทาดี ทาชว่ั ของตน

02/10/64 54 สงั คมศึกษา ศาสนา แ5ล4ะวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี ๓

๓.๒ การปฏบิ ัตติ นตามหลกั ธรรมในการพัฒนาตนเพ่อื เตรียมพรอ้ มสาหรับการมคี รอบครัว
หลักธรรมท่ีใช้สาหรับการครองเรือนท่ีควรนามายึดถือปฏิบัติต่อกันของผู้ครองเรือน

คอื ฆราวาสธรรม ๔

๒. ทมะ คือ การฝึกฝน
การข่มใจ การปรับปรุงตน จะต้อง
รู้จักปรับตัวเข้าหากันเม่ือเกิดปัญหา
ความไม่เข้าใจ ขัดแย้งกันก็ต้องรู้จัก
๑. สัจจะ คือ ความ
จริงใจ เป็นรากฐานสาคัญของการใช้

คลิกเพือ่ แก้ไขสไตล์ช่ือเรอ่ื งตน้ แบบชีวิตคู่ซึ่งจะต้องมีความไว้เน้ือเช่ือใจ

กันซื่อสัตยแ์ ละซื่อตรงต่อกนั คลกิ เพ่อื แก้ไขฆสไรตาล์ชว่อื าเสรื่องรองตน้ แรบะบงบั สติอารมณ์

๔ . จ า ค ะ คื อ ก า ร ธรรม ๔ ๓. ขันติ คือ ความ
เสียสละ คนสองคนเมื่อมาอยู่ร่วมกัน อดทน อดกล้ัน การอยู่ร่วมกันจะต้อง
ต้องรู้จกั เสยี สละมนี า้ ใจให้กัน และเผื่อ รู้จักอดทนอดกลั้น ร่วมกันแก้ไข
แผ่ไปถึงญาติสนิทมิตรสหาย หรือผู้ที่ ปัญหาต่าง ๆ ซึ่งจะทาให้ครอบครัวมี
ใกลช้ ิดดว้ ย ความมนั่ คงอยูร่ ่วมกันได้อย่างยืนยาว

02/10/64 55 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ5ล5ะวัฒนธรรม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓

๔. การพัฒนาจิตเพือ่ การเรยี นรแู้ ละดาเนินชีวิตดว้ ยวิธีคิด
แบบโยนโิ สมนสกิ าร

การฝคึกฝลนกิ ตนเใพห้เือ่ ป็นแผกู้คิด้ไเขป็นสคไิดตดีลคิด์ชถ่อืูกวเิธรี ื่องต้นแบบ

คิดอย่างมีระเบียบ หรือการคิดโดยแยบคาย ซ่ึงในทาง
พระพุทธศาสนา เรียกว่า โคยลนกิ เิโพสือ่ มแนกไ้ สขิสกไาตรลช์ ม่ือีเร๑อื่ ง๐รอวงติธ้นี แบบ
ในช้ันน้ีจะศึกษาวิธีคิดแบบอริยสัจ และวิธีคิดแบบ
สืบสาวเหตปุ จั จยั

02/10/64 56 สังคมศึกษา ศาสนา แ5ล6ะวฒั นธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓

๔.๑ วธิ ีคิดแบบอรยิ สัจ

การคิดแบบอริยสัจ เป็นการคิดแบบแก้ปัญหา แก้ทุกข์ คือ การพิจารณาทุกข์
(ปญั หามีอะไรบ้าง) สมุทัย (เหตอุ ยทู่ ใ่ี ด) นโิ รธ (แนวทาง/เป้าหมายของการแก้ปัญหาที่ตั้งไว้)
มรรค (พิจารณาวิธีการดาเนินงานเพ่ือบรรลุเป้าหมาย) ซึ่งเราสามารถใช้เป็นหลักยึดในการ
พจิ ารณากสาิ่งรตคค่าิดงแลๆบกิบไดอเ้ รพิยส่ือัจ แพูดกถึงไ้ กขารสแกไ้ปตัญลหาช์ ขอื่องเชรีวิตื่อตงั้งตแต้น่ปัญแหบาเลบ็ก ๆ จนถึงปัญหา
ใหญ่ เทว้ังียปนัญว่หายาทอยางู่ใกนาสยังสปาัญรควหลัฏาิกทนเพาี้ ื่อกงแใากจร้ไคขโสิดดไยแตสลบช์รบือุ่ปโเรแยือ่ ลนง้วริโอสปงมัญตนน้ หแสาบิกทบาี่ใรหญเป่ท็น่ีสกุดารคคือิดกหาารเเหกติดุผแลกอ่ ยเจ่า็บง
ตาย
แยบคาย โดยการใช้เหตุปัจจัยภายนอก คือ ความรู้จากภายนอก เช่น การศึกษา การอ่าน
การเขียน การเรียนรู้ต่าง ๆ แล้วนาความรู้น้ันไปกลั่นกรองให้เป็นความรู้ภายในท่ีเราเรียกว่า
โยนิโสมนสิการ

02/10/64 57 สงั คมศึกษา ศาสนา แ5ล7ะวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓

๓. การเลอื กรับและตใัชว้ขอ้อยม่าูลงขา่ แวทสานรไทท่ีเหมมาาทะาสงมานสาย จึงถูกเจ้านายตาหนิ
ข้อมูลข่าวสารเใทขห่ีถา้เ่าเรปย็วท็นขอทึ้ดนุกหขรม์ใือาจนทาวเาสิตงนกาอกนมังาแวจตลา่กเตชแ่อ้หามลเ่งาจขเข้้อามานูลไาดตย้ป่ากงร็ไับๆมปท่ตร่ีมาุงีอตหยัวู่มนเาิออกีงกมาโจยดะยแเกลหะา็นมรีวตวิธื่น่าีการ

คลกิ เพื่อแกไ้ ขสไตล์ชื่อเรื่องต้นแบบนาเสนอทห่ี ลากหลายสิ่งถสูากคเญัจ้ทาน่ีควารยนตามาาหพนจิ ิาเรปณ็นาในทกุการขเ์ลมือการทบั าแงลาะนใสชข้า้อยมลูเปข่า็นวสสารมุมทดีัยังนเ้ีจ้านาย

ไม่ตาหนคลิ เิกปเพ็นอ่ื แนกิโ้ไรขธสไกตาลรช์ ปอ่ื เรรบัื่องปรรอุงมต้นาแทบาบงานแตเ่ ช้าเปน็ มรรค

02/10/64 58 สงั คมศึกษา ศาสนา แ5ล8ะวัฒนธรรม ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓

๔.๒ วธิ คี ิดแบบสบื สาวเหตุปัจจัย

เป็นการคิดท่ีพิจารณาเหตุการณ์ท่ีเป็นผลให้รู้จักสภาวะท่ีเป็นจริง คือ พิจารณา
ปัญหาและหาแนวทางแก้ไขด้วยการค้นหาสาเหตุและปัจจัยต่าง ๆ ท่ีสัมพันธ์ส่งผล

สืบต่อกันซ่ึงอคาลจเรกิ ียเกพได้วื่อ่าแวิกธีค้ไิดขแบสบไปตฏิจลจสช์ ม่อืุปบเารทอ่ื วงิธีตคิด้นแบแบบสืบบสาวเหตุปัจจัย

มีหลักการคดิ ๒ แนวทาง ดังนี้
๑. คิดแบบปัจจัยสัมคพลกิันเพธ์อ่ื คแืกอ้ไขคสิดไตพลิจ์ชาอื่ เรรณอื่ งารถองึงตค้นวแาบมบสัมพันธ์หรือความเก่ียวข้อง

ต่อเนื่องของเหตุปัจจัย ดังท่ีพระพุทธองค์ตรัสว่า “เม่ือส่ิงน้ีมี สิ่งนี้จึงมี เพราะสิ่งน้ีเกิด
สิง่ นจี้ งึ เกิด เมื่อสง่ิ นไี้ ม่มี ส่ิงนจี้ งึ ไม่มี เพราะสง่ิ นี้ดบั ส่งิ นีจ้ ึงดับ”

02/10/64 59 สังคมศึกษา ศาสนา แ5ล9ะวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓

๒. คดิ แบบสอบสวนสืบสวน หรอื ตัง้ คาถาม คือ คดิ วา่ สง่ิ นีเ้ กิดเพราะอะไรเปน็ เหตุ

ตัวอย่าง แม่ค้าขายอาหารขาดทุนเพราะทาอาหารไม่อร่อยและไม่สะอาด ต่อมาเขาจึง

คลิกเพือ่ แกไ้ ขสไตล์ชื่อเร่อื งต้นแบบปรบั ปรงุ ฝีมือใหด้ ีข้ึน และทาอาหารใหส้ ะอาด คนจงึ เข้ามาอุดหนุนเพ่ิมมากขึ้น แม่ค้าจึงไม่

ขาดทนุ อกี ตอ่ ไป เพราะทุกคนตอ้ งการความอร่อยและสะอาด

คลกิ เพื่อแก้ไขสไตล์ชื่อเรือ่ งรองตน้ แบบ

การฝึกคิดด้วยวิธีคิดแบบอริยสัจและวิธีคิดแบบสืบสาวเหตุปัจจัยน้ี จะทาให้
ผู้ปฏิบัติรู้จักคิดอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เช่ือมโยงสิ่งต่าง ๆ ท่ีเป็นเหตุเป็นผลกัน ทาให้
มองเห็นสง่ิ ตา่ ง ๆ วา่ มีทม่ี าหรอื เหตอุ ยา่ งไร

02/10/64 60 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ6ล0ะวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓

๕. การสวดมนต์ แผ่เมตตา บรหิ ารจิต และเจรญิ ปญั ญา

การสวดมนต์ไหว้พระแผ่เมตตาเป็นการบริหารจิตและเจริญ

คลปกิ ัญเญพาขือ่ นั้ เแบื้อกงต้ไ้นขทสาใไหต้ผูป้ ลฏิบ์ชัตมิื่อจี เติ รใจ่อื สงงบตเกน้ิดสแมาบธิ บ

คลกิ เพอ่ื แกไ้ ขสไตลช์ อ่ื เรอื่ งรองต้นแบบ

02/10/64 61 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ6ล1ะวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี ๓

๕.๑ สวดมนตแ์ ปลและแผเ่ มตตา

คลกิ เพอื่ แก้ไขสไตลช์ ่ือเรอื่ งต้นแบบ

คลกิ เพ่ือแกไ้ ขสไตล์ช่อื เรือ่ งรองตน้ แบบ

02/10/64 62 สงั คมศึกษา ศาสนา แ6ล2ะวฒั นธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ ๓

คลกิ เพ่อื แก้ไขสไตล์ชือ่ เร่ืองต้นแบบ

คลิกเพือ่ แกไ้ ขสไตล์ชื่อเรื่องรองตน้ แบบ

02/10/64 63 สังคมศกึ ษา ศาสนา แ6ล3ะวัฒนธรรม ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓

คลกิ เพือ่ แกไ้ ขสไตลช์ ่อื เรอ่ื งต้นแบบ

คลิกเพื่อแกไ้ ขสไตล์ชอ่ื เรอ่ื งรองตน้ แบบ

02/10/64 64 สังคมศกึ ษา ศาสนา แ6ล4ะวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๓

คลกิ เพอื่ แกไ้ ขสไตลช์ ่ือเรื่องต้นแบบ

คลิกเพ่อื แกไ้ ขสไตล์ชือ่ เรอ่ื งรองตน้ แบบ

02/10/64 65 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ6ล5ะวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓

คลกิ เพอื่ แกไ้ ขสไตลช์ ่ือเรื่องต้นแบบ

คลิกเพ่อื แกไ้ ขสไตล์ชือ่ เรอ่ื งรองตน้ แบบ

02/10/64 66 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ6ล6ะวัฒนธรรม ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓

๕.๒ วิธปี ฏิบัติและประโยชนข์ องการบริหารจิตและเจรญิ ปัญญา

การบริหารจิต เป็นการฝึกฝนอบรมจิตใจให้ดีงาม

ฝึกจติ ใหเ้ ปน็ สมาธิ เรยี กวา่ สมาธิภาวนา

การเจริญปัญญา เป็นการฝึกให้รู้จักคิด ฝึกให้คิดเป็น

คลกิ เพอื่ แกไ้ ขสไตลช์ ื่อเรื่องต้นแบบแก้ปัญหาเป็น ฝึกให้เกิดปัญญา เรียกว่า วิปัสสนาภาวนา
กมีคารวบามรสิหงาบรมจีสิตมแาลธะิ มเจีสรติญิอยปู่กัญับญตคัวาลอิกยทเพู่ตาอ่ื ลใแอหกดไ้้เขกเสวิดไลตคลาว์ชไื่อามเมร่ต่ือผ้ังง่รอออยงงู่ใใตนส้นแบบ

ความประมาท ทาให้เกิดปัญญาหรือความรอบรู้มองเห็นสิ่ง การบริหารจติ
ท้ังหลายอย่างถูกต้องและเป็นจริง เพิ่มประสิทธิภาพในการ

เรียน และการทางานใหด้ ีข้ึน

02/10/64 67 สงั คมศึกษา ศาสนา แ6ล7ะวฒั นธรรม ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓

๕.๓ การบรหิ ารจติ และเจริญปญั ญาตามหลักสตปิ ัฏฐานเน้นอานาปานสติ

สติปัฏฐาน คือ ธรรมเป็นที่ต้ังแห่งสติ หมายถึง การใช้สติพิจารณาสิ่งทั้งหลายให้รู้
เท่าทนั และเหน็ ตามความเป็นจริง มี ๔ ประการ ดังน้ี

๑. กายานุปสั สนาสตปิ ฏั ฐาน คือ การพิจารณากาย

คลิกเพอื่ แกไ้ ขสไตลช์ อ่ื เรื่องตน้ แบบ๒. เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน คือ การพิจารณาเวทนา (ความรู้สึกสุข ทุกข์ และ

ความร้สู ๓ึกเ.ปจน็ ิตกตลาานงุป)สั สนาสติปัฏคฐลากิ นเพคอื่ อืแกกไ้ ขาสรไพตลิจ์ชา่อืรเณร่อื างจรอติ งตสน้ ่ิงแปบรบงุ แต่งจติ ฝา่ ยกศุ ลและอกศุ ล
๔. ธัมมานุปสั สนาสติปัฏฐาน คือ การพจิ ารณาธรรม

02/10/64 68 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ6ล8ะวัฒนธรรม ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓

หลักอานาปานสติ คือ การบริหารจิตด้วยการกาหนดลมหายใจเข้า-ออก ให้สติอยู่กับ
ลมหายใจเข้า-ออก ซึ่งมแี นวการปฏิบัติ ดังนี้

๑. ขั้นเตรยี มการ

ค๑ล) เิกลอื เกพเวลอ่ื าแและกสถไ้ าขนทสที่ ไี่เหตมาละส์ชมือ่ เรือ่ งตน้ แบบ

๒) ตดั ปลิโพธ หรือตัดความวติ กกังวล
๓) ไหวพ้ ระ สควลดกิ มเพน่อืตแ์แกป้ไขลสไแตผล่เช์ ม่อื ตเรต่ือางรเอพงื่อตทน้ แาสบบมาธิในข้นั เบ้อื งตน้
๒. ขนั้ ปฏบิ ัติ
๑) ผูป้ ฏบิ ัตจิ ะตอ้ งน่งั ขัดสมาธิราบหรือขดั สมาธิเพชร
๒) ต้งั สตใิ หม้ น่ั หลับตาลง ทาจติ ใจใหเ้ บิกบาน

02/10/64 69 สงั คมศึกษา ศาสนา แ6ล9ะวฒั นธรรม ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓

๓) ผ่อนลมหายใจเข้า-ออกยาว ๆ ๓ คร้ัง ก่อนที่จะกาหนดลมหายใจด้วย

วธิ ีการตา่ ง ๆ ดังน้ี
วธิ ที ี่ ๑ การกาหนดลมหายใจแบบสนั้ -ยาว

วธิ ีที่ ๒ การกาหนดลมหายใจแบบบรกิ รรม สามารถปฏบิ ตั ิได้ ๒ แนวทาง คือ

บ๑ร)ิกกรารรมคบวรลา่ ิกร“ิกรโมธเ”แพบบื่อ“แพุทก-โธ้ไ”ขคสอื ไขณตะลหา์ชยใ่อืจเขเา้รบื่อรกิงรตรมน้ว่าแ“พบทุ ”บหายใจออก
ให้บริกรร๒ม)วก่าา“รพบอรงิกหรนรมอแ”บแบละ“คเมพลิกอื่อเหพงหาื่อยแนใกอจไ้ ข-อยสอุบไกตหลทน์ชอ้่ืออเง”รจื่อะคงมรืออีลงขกัตณษน้ แณะบหะบายยบุ ใใจหเบ้ ขร้าิกทรร้อมงวจา่ะม“ีลยักบุ ษหณนอะ”พอง

วิธีท่ี ๓ การกาหนดลมหายใจแบบนับเลข เป็นการนับลมหายใจเข้า-ออก

เป็นคู่ ๆ คอื หายใจเข้า ใหน้ บั ๑ หายใจออกนบั ๑ หายใจเขา้ นบั ๒ หายใจออกนับ ๒ อย่างน้ีไป

เป็นชุดไปจนถึง ๕ ๕ แล้วต้ังต้นใหม่ท่ี ๑ ๑ จนถึง ๖ ๖ แล้วตั้งต้นใหม่ทีละคู่ ไปจนครบ ๑๐ ชุด

แล้วยอ้ นกลบั ไปที่ ๕ อย่างนเ้ี รอื่ ย ๆ ไป ซ่งึ เขียนเปน็ ผงั ไดด้ งั น้ี

02/10/64 70 สงั คมศกึ ษา ศาสนา แ7ล0ะวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓

คลกิ เพือ่ แกไ้ ขสไตลช์ ่อื เรอ่ื งต้นแบบ

คลิกเพื่อแกไ้ ขสไตล์ชอ่ื เรอ่ื งรองตน้ แบบ

02/10/64 71 สังคมศกึ ษา ศาสนา แ7ล1ะวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ ๓

๕.๔ การนาวิธีการบรหิ ารจิตและเจริญปัญญาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวัน

การบริหารจิตและเจริญปัญญาน้ันสามารถนาไปใช้
ในชีวิตประจาวนั ได้ ดงั นี้

ก็สามารถ๑ค.วดบ้คาุมคนจกลิตาใหกิร้มคเัน่วพคบงอื่คสุมงแบจิกนตงิ่ ใไ้ จขแสมไ้ปตระลสช์ บปื่อัญเรหาือ่ งตน้ แบบ

ได้รับรู้แ๒ล. ดะ้าเนขก้าาใรจศบึกษทาเเรลียา่ เนรคยีไลดนกิ ้ไเถพมา้ื่อ่ยจแติกาไ้ทกข่ีมสทไสี ตามลใาช์ หธอ่ื ้ิเกรกือ่า็ยงรอ่รอเมรงทตียี่จ้นนแะบบ
มปี ระสทิ ธิภาพ

๓. ด้านการทางาน การทางานด้วยความมีสมาธิ
ยอ่ มจะทาใหง้ านนั้นสาเรจ็ ลลุ ว่ งไปได้ด้วยดี ไม่มีข้อผิดพลาด

02/10/64 72 สังคมศึกษา ศาสนา แ7ล2ะวัฒนธรรม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓

๖. การเปน็ ศษิ ย์ทด่ี ีตามทิศเบื้องขวาในทศิ ๖

ความหมายของทศิ ๖

ทิศ ๖ ในทางพระพุทธศาสนา มีความหมายเป็นการเปรียบเทียบบุคคลแต่ละคนที่เรา

ต้องเกี่ยวข้องสมั คพลันธกิ์ ดุจเทพิศทอื่ ีอ่ แยรู่ กอบ้ไตขวั เสราไ๖ตทลศิ ์ชไดอื่้แกเ่ รือ่ งตน้ แบบ
๑. ทศิ เบ้ืองหน้า (ปุรตั ถมิ ทสิ ) หมายถึง บิดามารดา
๒. ทศิ เบอ้ื งขวา (ทักขณิคลทกิ ิสเพ)่ือหแมก้ไาขยสถไตึงลค์ช่อืรเูอรา่ือจงราอรงยต์น้ แบบ
๓. ทศิ เบื้องหลัง (ปจั ฉมิ ทสิ ) หมายถงึ บตุ ร ภรรยา หรอื สามี
๔. ทศิ เบ้อื งซา้ ย (อุตตรทิส) หมายถงึ มติ รสหาย
๕. ทิศเบอ้ื งล่าง (เหฏฐมิ ทิส) หมายถึง ผอู้ ยใู่ ตบ้ ังคบั บญั ชาและลูกจ้าง
๖. ทิศเบอื้ งบน (อุปริมทิส) หมายถงึ พระภิกษุ

02/10/64 73 สังคมศึกษา ศาสนา แ7ล3ะวัฒนธรรม ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓

ในชนั้ นจ้ี ะกล่าวถงึ ทศิ เบอ้ื งขวา (ทกั ขณิ ทสิ ) คอื ครูอาจารย์ ซงึ่ พงึ ปฏบิ ัติต่อกันดังน้ี

ครูอาจารยท์ ดี่ พี งึ ปฏบิ ัตติ นต่อศิษย์ ดงั น้ี

คลกิ เพ่ือแกไ้ ขสไ๒๑ต.. สฝลอึกนฝช์ นใหแอื่ ้เนขเะา้ นรใจาอื่แใหจง้เ่มปตแน็ จคน้ง้ นดแี บบ

คลิกเพือ่ แกไ้ ขส๔๓ไต..ลสย์ชกอื่อเยนรอ่อ่ืศงงลิ รใปอหงว้ปตทิ ้นรยาแากบใฏบหใ้สนน้ิ หเมชเู่ งิ พอ่ื น

๕. สร้างเครื่องคุ้มกันภัย คือ สอนให้ศิษย์ปฏิบัติ

ได้จริง สามารถนาวิชาความรู้ไปประกอบ

ครอู าจารยท์ ดี่ ีพงึ ปฏบิ ตั ติ นตอ่ ศษิ ย์ สมั มาอาชพี

02/10/64 74 สงั คมศึกษา ศาสนา แ7ล4ะวัฒนธรรม ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓

ในชนั้ นจ้ี ะกล่าวถงึ ทศิ เบ้ืองขวา (ทักขณิ ทิส) คอื ครูอาจารย์ ซงึ่ พึงปฏบิ ตั ิต่อกนั ดังน้ี

ศิษย์ท่ดี พี ึงปฏิบัตติ นตอ่ ครอู าจารย์ ดงั นี้

๑. ลุกต้อนรบั แสดงความเคารพ

๒. เ ข้ าคไปลหิกาเเพพื่อปอ่ื รแึกษกาไ้ ซขักสถาไมตแลละ์ช่อื เรอื่ งต้นแบบ
รบั คาแนะนา

ฟังเป็น ๓. ใฝ่ใจเรียน คือ ตั้งใจคฟลังกิ คเพร่ือูสแอกนไ้ ขสดไ้วตยลช์กอ่ืาเรรอื่ งรองตน้ แบบ
ฟังให้เกิดปัญญา

๔. ปรนนิบัติรับใช้และช่วยเหลือกิจของครู

อาจารย์ด้วยความเตม็ ใจ ศษิ ยท์ ีด่ ีพึงปฏบิ ตั ติ นดว้ ยการเข้าไปปรกึ ษา
๕. เรียนศิลปวิทยาโดยเคารพอย่างเอาจริง ซกั ถามข้อสงสัยจากครูอาจารย์ดว้ ยความเคารพ

เอาจงั และเต็มความสามารถ

02/10/64 75 สงั คมศึกษา ศาสนา แ7ล5ะวฒั นธรรม ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓


Click to View FlipBook Version