บันทึกข้อความ ส่วนราชการ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน ที่ พิเศษ /2564 วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 เรื่อง ส่งโครงงานคุณธรรมประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เรื่อง สมาธิมา พาเจริญ เรียน ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน ตามที่ท่านผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน ได้มีคำสั่งในที่ประชุมบุคลากรครูให้คณะครู ดำเนินการจัดทำโครงงานคุณธรรมท่านละ 1 โครงงาน เพื่อเป็นการพัฒนาส่งเสริมนักเรียนและสถานศึกษาให้มี คุณภาพทางด้านคุณธรรมความดีซึ่งนำไปสู่การพัฒนาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่พึงประสงค์อย่างยั่งยืน บัดนี้ ข้าพเจ้า นางสาวนฤมล จินดาพร ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ได้ดำเนินการจัดทำโครงงาน หัวข้อเรื่อง สมาธิมา พาเจริญ ประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ เรียบร้อยแล้ว จึงขอนำส่งโครงงานเรื่อง สมาธิมา พาเจริญมา พร้อมกับหนังสือฉบับนี้ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาทราบ ลงชื่อ ............................................................ ( นางสาวนฤมล จินดาพร) ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะ ...................................................................................................................... ................................................................ ............................................................................................................................. ......................................................... ................................................................................................................................................... .................... ลงชื่อ ............................................................ ( นางสาวสยุมพร อินทศรี) ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน
โครงงานคุณธรรม เรื่อง สมาธิมา พาเจริญ ที่มาและความสำคัญของปัญหา การฝึกสมาธิในวัยเด็ก เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเป็นการช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียน การฝึกสมาธิใน วัยเด็ก ไม่ใช่การฝึกเพื่อให้ได้สมาธิในระดับลึก แต่หมายถึงการฝึกเพื่อให้ได้สมาธิในระดับต้นถึงระดับกลาง ร่วมกับ การมีสติสัมปชัญญะ (ความรู้ตัว) เพื่อให้เกิดความสนใจ ความจดจ่อ และความมุ่งมั่นให้อยู่กับเรื่องๆ เดียว ตาม ระยะเวลาที่ต้องการ พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติไทย ที่มีคนนับถือมากที่สุด การประพฤติปฏิบัติตนตามหลักพุทธ ศาสนาให้ถูกต้องนั้น จำเป็นต้องได้รับการฝึก และได้รับความรู้ที่ถูกต้อง จากสภาพปัญหาที่พบเป็นประจำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน พบว่า นักเรียนชอบคุยกัน เล่นกัน ในเวลาเรียน ขาดสมาธิในการเรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ จึงเล็งเห็นว่า การฝึกให้มี สติอยู่กับตนเอง ตอนเช้า – ตอนบ่าย ก่อนเข้าเรียน นักเรียนทุกคนมีความตั้งใจดี มีความสงบ สามารถนำไป แก้ปัญหาดังกล่าวได้ จึงจัดทำโครงการคุณธรรม เรื่อง “สมาธิ พาเจริญ” ขึ้น วัตถุประสงค์ - ด้านความรู้ (Knowledge) เพื่อให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีความรู้และความเข้าใจ ด้านความมีระเบียบวินัย มี สติปัญญา - ด้านกระบวนการปฏิบัติ(Process) เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเชิงบวกนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ให้นักเรียนมีสมาธิในการเรียน และการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆมากขึ้น - ด้านเจตคติ (Attitude) เพื่อปลูกฝัง สร้างความตระหนักให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ มีระเบียบวินัย สามารถดำเนิน ชีวิตประจำวัน และอยู่ร่วมในสังคมได้อย่างเป็นสุข ปัญหา นักเรียนชอบคุยกัน เล่นกัน ในเวลาเรียนขาดระเบียบวินัย ไม่ตั้งใจเรียน ขาดสมาธิในการเรียนหรือ ปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ สาเหตุของปัญหา - นักเรียนอยู่ในวัยที่มีความคิดเป็นของตัวเอง ชอบการเข้าสังคมและเห็นเพื่อนเป็นสำคัญ - นักเรียนยังขาดสมาธิ สติในการควบคุมพฤติกรรมของตนเอง - นักเรียนมีพฤติกรรมขาดระเบียบวินัย
กลุ่มเป้าหมาย - เชิงปริมาณ : นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน จำนวน ๓๓ คน - เชิงคุณภาพ : นักเรียนร้อยละ 100 ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน มีระเบียบวินัย ตั้งใจเรียน มีสมาธิในการเรียนหรือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดีขึ้น - เป้าหมายระยะสั้น (ระยะเวลา 1 เดือน ) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน จำนวน ๓๓ คน มีระเบียบวินัย ตั้งใจเรียน มีสมาธิในการเรียนหรือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดีขึ้น ร้อยละ 80 - เป้าหมายระยะยาว (ระยะเวลา ๓ เดือน) นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน จำนวน ๓๓ คน มีระเบียบวินัย ตั้งใจเรียน มีสมาธิในการเรียนหรือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ดีขึ้นทุกคน วิธีการแก้ไขปัญหา 1. สร้างความตระหนักและจิตสำนึกในการมีระเบียบวินัย ตั้งใจเรียน มีสมาธิในการเรียน หรือปฏิบัติ กิจกรรมต่าง ๆ 2. ครูและนักเรียนระดมความคิด ชี้แจงปัญหาเพื่อหาแนวทางในการแก้ปัญหา ๓. นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ นั่งสมาธิก่อนเข้าเรียนทั้งในช่วงเช้าและช่วงบ่าย ๔. ครูประจำชั้นสังเกตพฤติกรรม ของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ขณะนั่งสมาธิ สังเกตและ ควบคุมการนั่งสมาธิของนักเรียน ๕. ยกย่องชมเชยให้รางวัลกับนักเรียนที่ทำดีเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ๖. ประเมินผลและสรุปผลการดำเนินการ หลักธรรมที่นามาใช้ หลักแห่งการปฏิบัติธรรม ๕ ประการ : ข้อที่ ๒ สมาธิ ระยะเวลาที่ใช้ในการดำเนินการ วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึง วันที่ 31 มีนาคม 2565 ความเชื่อมโยงสู่คุณธรรมอัตลักษณ์ จากโครงงานคุณธรรม สมาธิมา พาเจริญ ได้สอดคล้องกับคุณธรรมอัตลักษณ์ของ โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน เชื่อมโยงกับคุณธรรมเป้าหมาย : ความมีวินัย พฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก : นักเรียนมีระเบียบวินัย ตั้งใจเรียน มีสมาธิในการเรียนหรือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ
วิธีการวัดและประเมินผล วิธีการวัดผล - การจดบันทึกการนั่งสมาธิ - การสังเกตพฤติกรรมนักเรียน เครื่องมือการวัดผล - เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน : แบบจดบันทึกการนั่งสมาธิและแบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน ช่วงระยะเวลา - ช่วงเวลาการประเมิน : ทุกวันที่นักเรียนมาโรงเรียน ผลที่คาดว่าจะได้รับ - นักเรียนนั่งสมาธิได้นิ่ง - นักเรียนมีจิตใจสงบ มีสมาธิในการเรียน ไม่คุยกัน ไม่เล่นกันในเวลาเรียน - นักเรียนปฏิบัติตนเป็นผู้ที่นั่งสมาธิดีจนติดเป็นนิสัย ผู้รับผิดชอบโครงงาน - นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ครูที่ปรึกษาโครงงาน นางสาวนฤมล จินดาพร
แบบสังเกตพฤติกรรมนักเรียน โรงเรียนวัดเกาะแก้วเวฬุวัน (พินิจค้าประชาสรรค์) เรื่อง การนั่งสมาธิ คำชี้แจง ให้ทำเครื่องหมาย ✓ ลงในช่องรายการสังเกตพฤติกรรมที่นักเรียนปฏิบัติ เลขที่ ชื่อ - สกุล รายการ สรุปผล การ ประเมิน ( คะแนน ) นั่งสมาธิได้ ถูกต้องทุก ขั้นตอน และ ปฏิบัติอย่าง สม่ำเสมอ (3) นั่งสมาธิได้ ถูกต้องเกือบ ทุกขั้นตอน และปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอ (2) นั่งสมาธิไม่ ถูกต้องตาม ขั้นตอน และ ปฏิบัติไม่ สม่ำเสมอ (1) เกณฑ์การประเมิน ผ่านตั้งแต่ 2 รายการ ถือว่า ผ่าน ผ่าน 1 รายการ ถือว่า ไม่ผ่าน ลงชื่อ ผู้ประเมิน ( ) / / /
ภาคผนวก
วิธีการฝึกสมาธิอย่างง่ายๆ ที่ครูควรแนะนำให้นักเรียนทำ 1. จัดท่าทางให้ถูกต้อง การนั่งที่ถูกต้องคือ ต้องนั่งตัวตรง หัวตรง เพราะร่างกายของเราสัมพันธ์กับจิตใจ หากนั่งตัวงอ จิตใจก็จะ ล่องลอยไป ไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ไม่ต้องนั่งเกร็งมาก ให้นั่งเหมือนเรากำลังผ่อนคลายดีที่สุด 2. เปิดตานั่งสมาธิ บางครั้งการนั่งสมาธิ ไม่จำเป็นต้องหลับตาเสมอไป สามารถเปิดตาไว้ แต่ปรับระดับสายตาให้มองต่ำลง โดย กำหนดจุดให้เพ่งรวบรวมสมาธิไว้ เพราะบางคนเมื่อปิดตาแล้วกลับรู้สึกฟุ้งซ่าน ในหัวสมองเต็มไปด้วยเรื่องราวต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนว่าวิธีใดทำแล้วได้ผลมากกว่ากัน 3. กำหนดรู้ลมหายใจ การกำหนดลมหายใจเข้า-ออก เป็นการกำหนดที่ตั้งของสติ เพื่อให้จิตเราอยู่กับสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ไม่ ฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น ๆ แต่เราไม่จำเป็นต้องไปบังคับการหายใจ แค่ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ 4. นับลมหายใจเข้า-ออก การนับลมหายใจเข้าออก เป็นวิธีปฏิบัติสมาธิมาตั้งแต่โบราณ โดยเมื่อหายใจออกให้เริ่มนับหนึ่งในใจ ต่อไปก็ เป็นสองสามสี่ตามลำดับ แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกว่าความคิดของเรากำลังล่องลอยออกไปที่อื่น ให้กลับมาตั้งต้นนับ หนึ่งใหม่อีกครั้ง เพื่อนำจิตกลับมาที่เดิม 5. ควบคุมความคิดไม่ให้เข้ามารบกวน เมื่อรู้สึกว่ากำลังมีความคิดเข้ามารบกวนจิตใจ ค่อย ๆขจัดความคิดเหล่านี้ออกไป โดยหันมาสนใจกับการ กำหนดลมหายใจ อย่าพยายามหยุดความคิดในทันที เพราะมันจะทำให้คุณฟุ้งซ่านและไม่สามารถกลับเข้าสู่สมาธิได้ อีก 6. ความเงียบบ่อเกิดแห่งความสงบ การนั่งสมาธิควรจะนั่งในที่เงียบ ๆ เพื่อทำจิตให้ว่าง ไม่ใส่ใจถึงบุคคล เสียง หรือสิ่งอื่นที่อยู่โดยรอบ เพราะ ความเงียบจะนำมาซึ่งความสงบเยือกเย็น และความรู้สึกมั่นคง เมื่อไหร่ก็ตามที่ความเงียบภายนอกและภายใน ประสานกันได้ ก็จะรู้สึกได้พักกายพักใจ ผ่อนคลายจากความคิดที่รบกวนอยู่ตลอดมา