The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by warinchamrapchalermrajkumari, 2021-02-22 00:01:35

9789744436290PDF

9789744436290PDF

ตวั อยา่ ง

สารบญั

บทท่ี 1 3 วลีเดด็ มดั ใจหญิง

“อมื อืม” “จรงิ ดว้ ยนะ” “ออ๋ อยา่ งนนี้ ีเ่ อง”

• เหตแุ หง่ ความไม่เข้าใจกนั มาจากสไตล์การสนทนา

ท่ตี ่างกันของผชู้ ายและผู้หญงิ 5
ัตวอ ่ยาง
• ผ้ชู ายเปน็ ฝา่ ยถาม แล้วค่อย ๆ รบั ฟงั ดว้ ยสีหนา้ ยมิ้ แยม้ 7

• ถา้ ขาด “ความรู้สึกรว่ ม” กแ็ ปลว่า ไมไ่ ด้ “กำ� ลงั ฟังอย”ู่ 9

• เหตผุ ลที่ผ้ชู ายขาด “ความร้สู กึ รว่ ม” 11

• เพยี งการสนทนา กส็ านสัมพนั ธใ์ หร้ าบรืน่ ได้ 13

• เวลาที่ต้องปฏเิ สธ ไมใ่ ช่ “รสู้ ึกร่วม” 17

• ถา้ ไม่เปน็ ผล จะทำ� อยา่ งไรดี 18

บทท่ี 2 คำ� พดู ของผหู้ ญิงท่จี ริงแล้วมีความหมายอยา่ งนี้ !

มาหดั แปลความหมายเบื้องหลงั คำ� พดู ของผู้หญิง
ใหเ้ ชย่ี วชาญกนั เถอะ

• “เมือ่ กลางวนั กินพาสต้าอร่อยมากเลย” 26

• “จะได้เวลาไปเท่ียวทะเลแลว้ สินะ” 29

• “ฉนั น.่ี ...สินะ” 32

• “สกั วนั หนง่ึ อยากไป....ให้ไดจ้ งั ” 36
• “ช่างไมเ่ ข้าใจฉันเอาเสียเลย” 39
• “วันน้ที ำ� อะไรบา้ งเหรอ” 43
• “นี่ คิดว่าชดุ ไหนเหมาะกับฉันน่ะ 46
• “นี่ รกั ฉันจริงหรือเปลา่ ” 50
• “แหม ! เบ่ือจรงิ จรงิ๊ ” 53

ัตวอ ่ยาง
บทที่ 3 ไม่ต้องกลัวอีกแลว้ ! 60
64
พจนานกุ รมแปล “คำ� พูดนา่ กลวั ของผ้หู ญงิ ” 68
71
• “น่ี มเี ร่ืองอยากจะคยุ ด้วยสักหนอ่ ย...” 74
• “ทำ� ไมเงียบไปละ่ !?” 78
• “ท�ำไมไม่ปรึกษากนั บ้างเลยล่ะ ?” 81
• “มใี ครอยดู่ ้วยนะ่ ?” 85
• “ทำ� อยา่ งนไ้ี ม่ดีกวา่ หรือ ?” 89
• “หมนู่ ไี้ ม่ค่อยได.้ ...เลยนะ” 92
• “นใ่ี สใ่ จคดิ บา้ งหรอื เปล่าน่ะ ?” 96
• “ก็เมือ่ เรว็ ๆ นนี้ ะ่ ”
• “ทำ� ใหเ้ อาไหม / ทำ� ให้นะ”

• “ไมต่ อ้ งใช้วิธีพูดอยา่ งน้นั กไ็ ดน้ ่ีนา”

• “เปน็ อะไรไปหรอื / เกิดอะไรขึน้ หรอื ”

ตวั อยา่ ง

ัตวอ ่ยางพดู แบบนผี้ ู้หญงิ “ถูกใจ” ผู้ชายทราบแล้ว “เปลีย่ น”

ใน การสนทนากับผู้หญิง มีอยู่ 3 วลีท่ีแสนจะธรรมดา

แตห่ วั ใจหลกั ทอ่ี ยเู่ บอื้ งหลงั วลเี หลา่ นนั้ ถา้ เขา้ ใจอยา่ ง
ถ่องแท้แล้วก็สามารถสนทนากับผู้หญิงได้อย่างราบรื่นขึ้นอย่างเห็นได้
ชัด

กล่าวได้ว่าในหนังสือเก่ียวกับจิตวิทยาผู้หญิงแทบทุกเล่มจะ
เขยี นไว้ตรงกนั หมดวา่ รูปแบบการสนทนาของผ้หู ญงิ เปน็ แบบ “ความ
รสู้ กึ รว่ ม” ถ้าคุณลองฟังผหู้ ญงิ คยุ กนั เองจะเข้าใจดีขน้ึ วา่ ตา่ งฝ่ายต่าง
กแ็ สดงความรู้สกึ ร่วมตอ่ กัน เชน่ “ใช่ ใช่” “มี มี” “เขา้ ใจ เขา้ ใจ” “ฉันดว้ ย
ฉนั ดว้ ย”

“น่ี ๆ เมอ่ื วนั กอ่ นไปกนิ อาหารอติ าเลย่ี นแถวกนิ ซา่ มาละ ! ” “เปน็
ไงบา้ งละ่ ” “อรอ่ ยสดุ ๆ เลย” “เหรอ ! อะไรอรอ่ ยนะ่ ” “อยา่ งแรกนะ

2

ัตวอ ่ยาง บทที่ 1 : 3 วลเี ดด็ มัดใจหญิง

ออร์เดิร์ฟนะ เป็นออร์เดิร์ฟเย็นกุ้งอิเสะอบในภาชนะดินเผา กุ้งง้ี
ว้านหวาน อร่อยอย่าบอกใคร” “เหรอ ! น่ากินจัง” “แล้วก็
เมนคอร์สนะ....” การสนทนาเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ แล้วจบลงด้วย
“วนั หลงั ไปดว้ ยกนั นะ” “ใชๆ่ ไปกนั ๆ นะ” “จะไปเมอื่ ไรละ่ ” “วนั อาทติ ย์
หนา้ เป็นไง ?” “วา้ ว ! อดใจไมไ่ หวแลว้ !”

รูปแบบการสนทนาของผู้หญิงจะเป็นแบบนี้ ผลัดกันเล่า
ประสบการณ์หรือความรู้สึกแล้วผลัดกันฟัง มีความรู้สึกร่วมกัน ย่ิงไป
กว่านั้นยังเป็นประเด็นท่ีมุ่งไปสู่จุดหมายเดียวกันอีกด้วย น่ีคือพ้ืนฐาน
รปู แบบการสนทนาของผหู้ ญิง

ส่วนผู้ชายจะไม่ค่อยสนทนากันแบบน้ี “วันก่อนไปกินราเมน
ที่ร้านแถวเอบิสึมาละ” “เหรอ” แล้วการสนทนาก็จบลงแต่เพียงเท่านี้
ถ้าหากจะมตี อ่ ไป “แล้วไง ๆ ? เป็นไง ? รสชาตเิ ป็นไง” ละก็ ชกั จะ
น่ากลัวขึ้นมาแล้วละ ถ้าหากไม่ใช่ข่าวหรือเร่ืองใหญ่โตจริง ๆ
ในการสนทนาจะไม่มีการซักถาม ล้วงลึก หรือแสดงความรู้สึกร่วม
เพราะฉะนน้ั เวลาผชู้ ายคยุ กบั ผหู้ ญงิ จงึ เปน็ การสนทนาทจ่ี ดื ชดื ไรร้ สชาติ
เปน็ รูปแบบการสนทนาทผ่ี ู้ชายถกู เหมน็ เบื่อได้ง่ายทสี่ ดุ

ถา้ เพยี งแคถ่ กู “เหมน็ เบอ่ื ” กย็ งั ดี สง่ิ ทแี่ ตกตา่ งกนั อยา่ งสนิ้ เชงิ
กบั การสนทนาของผหู้ ญงิ กค็ อื เปน็ รปู แบบการถกเถยี งแสดงความคดิ เหน็
ตัวอย่างเชน่ เวลาทีผ่ ู้ชายมีเพื่อนสาวๆ มาปรกึ ษาปญั หา

3

ัตวอ ่ยางพดู แบบนี้ผหู้ ญงิ “ถกู ใจ” ผชู้ ายทราบแล้ว “เปลี่ยน”

“แฟนฉนั นะ บอกแต่วา่ งานยุ่ง ๆ ไมค่ ่อยโทร.มาเลย...”
“ถา้ เป็นเรอื่ งงานกช็ ว่ ยไม่ได้จรงิ ๆ นี่ ใชไ่ หมละ่ ?”
นี่คือเส้ียววินาทีที่ไปคนละทิศละทางกันแล้ว ส�ำหรับผู้หญิง
ก่อนอ่ืนเลยเธอต้องการความรู้สึกร่วม “อย่างง้ันเหรอ ? ก็น่าจะเหงา
อยหู่ รอกนะ” แต่ผ้ชู ายกลับตัดบทสนทนาดังฉับ ท�ำใหร้ ู้สึกว่า “กลุ้มใจ
อะไรกันนักหนา เธอนั่นแหละเพ้อเจ้อใหญ่แล้ว มาโวยเป็นเร่ืองใหญ่
เรื่องโตอะไรกนั ”
แต่ถ้าเร่ืองเดียวกันนี้คุยกับผู้หญิงด้วยกันแล้วละก็ ก่อนอ่ืน
เพ่ือนจะ (ทำ� หน้าเศร้าเล็กนอ้ ย) แลว้ ถามกลับนิดหน่งึ ว่า “เหรอ ! จรงิ
เหรอ ?” อย่างแน่นอน
ไม่เฉพาะตอนท่ีผู้ชายเป็นที่ปรึกษาปัญหาให้เพ่ือนผู้หญิง
ยังมีกรณีที่แฟนสาวของตัวเองบ่นว่า “หมู่นี้เอาแต่ท�ำงาน ๆ ไม่ค่อย
ได้เจอหน้าเจอตากันเลย” แล้วแฟนหนุ่มก็ตอบว่า “ช่วยไม่ได้จริง ๆ
กเ็ รอ่ื งงานนนี่ า” อยา่ งนเี้ ปน็ การตดั รอนความรสู้ กึ ของเธออยา่ งไมม่ ชี น้ิ ดี
หรือจะเป็นกรณีท่ีตอบด้วยการยกเหตุผลมาเสริมอย่างหนักแน่นว่า
“กต็ อนนเ้ี ปน็ ชว่ งปลายปี งานกเ็ ยอะ เรอ่ื ง...แลว้ ยงั เรอ่ื ง...เลยยงุ่ ๆ อกี
ช่วยไม่ได้จริง ๆ นะ” น่ีก็ไม่ได้ต่างกันเลย เพราะดูยังไง ๆ ก็เป็น
“แบบถกเถียง” “แบบแพ้ชนะ” ไปเสียแล้ว จะพูดให้เป็นแบบแสดง
ความรสู้ กึ รว่ มชา่ งไมไ่ ดเ้ สยี เลย

4

ัตวอ ่ยาง บทท่ี 1 : 3 วลีเดด็ มดั ใจหญงิ

เหตุแห่งความไมเ่ ข้าใจกัน
มาจากสไตลก์ ารสนทนาทต่ี ่างกนั
ของผู้ชายและผ้หู ญงิ

ผู้ชายมักยึดม่ันใน “ทฤษฎีตัวข้า” คือ “ข้าคิดของข้าแบบน้ี”
และมีแนวโน้มคิดว่าจะต้องพูดตามทฤษฎีท่ีถูกต้องหรือแสดงความ
คดิ เห็นตามทีค่ นท่ัว ๆ ไปคิด “ทฤษฎที ีถ่ ูกต้อง” นัน้ เป็นเรือ่ งของนิสยั
แตใ่ นการสนทนาแบบผหู้ ญงิ ตอ้ งยกเรอื่ งนเี้ อาไวก้ อ่ น สง่ิ สำ� คญั ประการ
แรกคือ การเข้าใจความรู้สึก ถ้าเป็นผู้หญิงด้วยกัน เวลามีเพื่อนมาคุย
เรอ่ื งความรกั หรอื เรอ่ื งงาน แมใ้ นใจจะคดิ วา่ “เธอออ้ นเกนิ ไปหรอื เปลา่ ?”
แตป่ ากก็พูดว่า “เข้าใจ เขา้ ใจเลย” น่ีแหละคอื รปู แบบการสนทนาแบบ
ผหู้ ญงิ

สำ� หรบั ผชู้ ายแลว้ แทบไมเ่ ชอ่ื เลยวา่ มกี ารสนทนาแบบปากอยา่ ง
ใจอยา่ งแบบนดี้ ว้ ย เพราะผชู้ ายคดิ วา่ ความสมั พนั ธท์ ด่ี มี าจากการพดู
คุยกันทกุ เรือ่ งด้วยความจริงใจ ในเร่อื งเกยี่ วกบั งานหรอื ลูกคา้ แมจ้ ะ
พดู แบบปากอยา่ งใจอยา่ งไดก้ ต็ าม แตย่ งิ่ เปน็ เพอ่ื นสนทิ แฟน ภรรยา หรอื
คนใกล้ชิดแล้วจะพยายามพูดจากใจจริงเสียมาก “ไม่ใช่หรอกเธอ
ไมใ่ ชอ่ ยา่ งนน้ั ”

5

ัตวอ ่ยางพูดแบบนี้ผู้หญิง “ถกู ใจ” ผู้ชายทราบแลว้ “เปลีย่ น”

แตผ่ หู้ ญงิ กลบั ตรงขา้ ม ถา้ เปน็ ผชู้ ายทเี่ ธอไมไ่ ดม้ ใี จให้ แมจ้ ะถกู แยง้
หรอื ไมเ่ หน็ ดว้ ยอยา่ งไร กเ็ พยี งแคค่ ดิ วา่ “นายนน่ั ชา่ งไมเ่ ขา้ ใจอะไรเลย”
แล้วจบลงเพียงเท่าน้ัน แต่ถ้าอีกฝ่ายยิ่งเป็นคนที่ไว้เน้ือเช่ือใจ
เป็นคนท่ีตัวเองรักด้วยแล้วก็ย่ิงอยากให้รับฟังและเข้าใจความรู้สึก
ของตวั เอง แตผ่ ้ชู ายน้ัน ยิง่ เปน็ คนทีร่ ักก็ยง่ิ ตอ้ งพูดความจริง ต้องถก-
เถยี ง ตอ้ งแสดงความคดิ เหน็ อยา่ งตรงไปตรงมา จดุ นเ้ี องทำ� ใหเ้ กดิ ความ
ขัดแยง้ อยา่ งมากในใจผชู้ าย

อนั ที่จรงิ แล้ว ความแตกตา่ งน้ีได้หยั่งรากลกึ มาก และมีความ
เกี่ยวโยงกับวิธีการเลี้ยงดูในวัยเด็กของผู้ชายและผู้หญิง ตาม
ขนบธรรมเนียม เด็กผู้หญิงจะถูกอบรมเล้ียงดูให้เป็นมิตรกับทุกคน
พยายามทำ� ตวั ให้เป็นทรี่ ักของคนอืน่

สว่ นเดก็ ผชู้ ายจะถกู อบรมแบบแฝงนยั วา่ แพใ้ ครไมไ่ ด้ ตอ้ งเปน็
เลศิ กวา่ ใคร ๆ ไมพ่ งึ่ พงิ ใครทงั้ สนิ้ โดยพนื้ ฐานแล้ว ผู้ชายจึงมีแนวโน้ม
ทจี่ ะไดร้ บั การอบรมใหต้ ดั ขาดจากการมมี นษุ ยสัมพนั ธ์ได้ง่าย

ไมม่ ใี ครบอกเดก็ ผหู้ ญงิ หรอกวา่ “ถา้ ไมช่ นะไมต่ อ้ งกลบั มาใหเ้ หน็
หนา้ นะ” ถา้ หากตอ้ งแสดงอารมณค์ วามรสู้ กึ หรอื ความคดิ เหน็ ทต่ี อ้ งปะทะ
กบั ใครแลว้ ละก็ ผหู้ ญงิ มกั ไดร้ บั การอบรมวา่ “เปน็ ผหู้ ญงิ ไมค่ วรพดู อะไรอยา่ ง
นน้ั พยายามเปน็ มติ รกบั ทกุ ๆ คนนะ” ดงั นน้ั จงึ ทำ� ใหเ้ กดิ รปู แบบการ
สนทนาของผู้หญิงที่อยู่บนพ้ืนฐานของการแสดงความรู้สึกร่วมกันว่า

6

ัตวอ ่ยาง บทที่ 1 : 3 วลเี ด็ดมัดใจหญิง

“เราพวกเดยี วกนั นะ เปน็ มติ รกนั นะ เขา้ ใจกนั ดนี ะ” ตรงกนั ขา้ มกบั ผชู้ าย ที่
คำ� พดู ทวี่ า่ “สจู้ นชนะใหไ้ ด”้ ไดก้ อ่ ตวั เปน็ ความคดิ พนื้ ฐานรวมทงั้ รปู แบบ
การสนทนาของผชู้ ายตงั้ แตเ่ ดก็ ๆ

ในที่น้ี เราไม่ได้มาถกเถียงกันว่า แบบไหนดี แบบไหนไม่ดี
เพราะไม่ว่าแบบใดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย อยากจะบอกว่ารูปแบบ
การสนทนาของผชู้ ายและผหู้ ญงิ ทแี่ ตกตา่ งกนั นเี้ องทที่ ำ� ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจ
กันไปคนละทิศคนละทาง เพียงเท่านี้ก็ท�ำให้ผู้หญิงจ�ำนวนมากรู้สึกต่อ
ปฏกิ ริ ยิ าของผชู้ ายวา่ “ชา่ งไมเ่ ขา้ ใจความรสู้ กึ ของฉนั เลย” และเลยเถดิ ไป
จนถงึ ขนาดวา่ “ไม่รกั ฉนั เลย” ไดเ้ ชยี วล่ะ

ผชู้ ายเปน็ ฝ่ายถาม
แล้วคอ่ ย ๆ รับฟงั ด้วยสหี นา้ ยมิ้ แย้ม

หากเราจบั ประเด็นทก่ี ลา่ วมาแล้วลองตคี วามดี ๆ กอ่ นอน่ื ถ้า
อยากส่อื สารเก่ง ๆ กับผ้หู ญงิ สิง่ ทส่ี �ำคญั อยา่ งยงิ่ กค็ ือการเป็น “ฝ่ายต้งั
คำ� ถาม”

ผู้ชายนั้น หากชอบอีกฝ่ายก็มักจะเริ่มบทสนทนาประเภท
“ผมนแ่ี หละ เกง่ ทซ่ี ดู้ ” คอื เปน็ การพดู ฝา่ ยเดยี วเสยี มาก แตผ่ หู้ ญงิ ถา้ ชอบ
เขาเสยี แลว้ จะมที า่ ทางบง่ บอกวา่ “อยากรเู้ รอื่ งเกย่ี วกบั คณุ ใหม้ ากกวา่ นนี้ ะ”

7


Click to View FlipBook Version