The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by warinchamrapchalermrajkumari, 2020-06-22 23:32:53

ประวัติสุนทรภู่

หอ้ งสมดุ ประชาชน"เฉลมิ ราชกุมารี "อาเภอวารนิ ชาราบ

ถ้าเอย่ ชอ่ื "สนุ ทรภ"ู่ เชอ่ื ว่าน้อยคนนักที่จะ
ไม่รู้จกั กวีชาวไทยทม่ี ชี ่ือเสียงกอ้ งโลก โดยเฉพาะ
กลอนนิทานเรอื่ ง "พระอภยั มณ"ี จนได้รบั ยกยอ่ ง
จากองคก์ ารยูเนสโกใหเ้ ป็นบุคคลสาคัญของ
โลก ด้านงานวรรณกรรม หรอื "มหากวแี หง่
รัตนโกสินทร์" หรือ "เชกสเปียรแ์ หง่ ประเทศ
ไทย" และคงเป็นทท่ี ราบกนั ดอี ยูแ่ ล้ววา่ "วนั ท่ี
26 มถิ ุนายน" ของทุกปี คอื "วนั สุนทรภ่"ู ซึ่ง
มกั จะมีการจดั นิทรรศการ ประกวดแต่งคากลอน
เพื่อแสดงถงึ การราลึกถึง เพราะฉะนัน้ วนั น้ี
หอ้ งสมดุ ประชาชน “เฉลมิ ราชกุมาร”ี อาเภอวา
รนิ ชาราบ จงั หวดั อุบลราชธานี จึงไมพ่ ลาด ขอ
พาไปเปดิ ประวตั ิ "วนั สนุ ทรภ่"ู ใหม้ ากขน้ึ ครับ...

ชีวประวตั ิ "สนุ ทรภู่"

สนุ ทรภู่ กวสี าคญั สมยั ตน้ รตั นโกสนิ ทร์
เกิดวันจนั ทร์ เดอื น 8 ข้ึน 1 คา่ ปมี ะเมีย จุล
ศักราช 1148 เวลา 2 โมงเช้า หรอื ตรงกับวันที่
26 มถิ นุ ายน พ.ศ. 2329 เวลา 08.00 น.
น่นั เอง ซึง่ ตรงกับสมัยรัชกาลท่ี 1 แหง่ กรุง
รตั นโกสนิ ทร์ ณ บรเิ วณด้านเหนอื ของพระราชวงั
หลงั (บรเิ วณสถานีรถไฟบางกอกน้อยปจั จบุ ัน)

บิดาของท่านเป็นชาวกร่า อาเภอแกลง
จังหวัดระยอง ชอื่ พ่อพลบั สว่ นมารดาเป็น
ชาวเมอื งฉะเชิงเทรา ชอ่ื แม่ชอ้ ย สันนษิ ฐานว่า
มารดาเปน็ ขา้ หลวงอย่ใู นพระราชวังหลงั เชือ่ ว่า

หลังจากสนุ ทรภู่เกิดได้ไมน่ าน บดิ ามารดากห็ ย่า
ร้างกัน บิดาออกไปบวชอย่ทู ีว่ ดั ป่ากรา่ ตาบล
บ้านกรา่ อาเภอแกลง อันเป็นภูมิลาเนาเดิม ส่วน
มารดาไดเ้ ข้าไปอย่ใู นพระราชวังหลงั ถวายตวั
เป็นนางนมของพระองคเ์ จ้าหญงิ จงกล พระธิดา
ในเจา้ ฟา้ กรมหลวงอนุรักษ์เทเวศร์ ดงั นั้น สนุ ทร
ภูจ่ งึ ได้อยู่ในพระราชวังหลังกบั มารดา และได้
ถวายตัวเปน็ ข้าในกรมพระราชวงั หลัง ซง่ึ สนุ ทรภู่
ยงั มีน้องสาวตา่ งบดิ าอกี สองคน ชอ่ื ฉมิ และนิ่ม

"สุนทรภ"ู่ ไดร้ ับการศกึ ษาในพระราชวัง
หลังและทวี่ ดั ชปี ะขาว (วัดศรสี ุดาราม) ต่อมาได้
เขา้ รบั ราชการเป็นเสมยี นนายระวางกรมพระ
คลงั สวน ในกรมพระคลังสวน แต่ไม่ชอบทางาน

อ่นื นอกจากแตง่ บทกลอน ซึง่ สามารถแต่งได้ดี
ต้ังแตย่ งั รุ่นหนุม่ เพราะตงั้ แต่เยาว์วยั สุนทรภมู่ ี
นิสัยรกั แต่งกลอนยิง่ กว่างานอืน่ คร้ังรุ่นหน่มุ กไ็ ป
เปน็ ครูสอนหนังสอื อยู่ทวี่ ัดศรีสดุ าราม ในคลอง
บางกอกน้อย ได้แตง่ กลอนสภุ าษิตและกลอน
นิทานขน้ึ ไว้ เมือ่ อายุราว 20 ปี

ตอ่ มาสนุ ทรภ่ลู อบรกั กบั นางข้าหลวงใน
วังหลงั คนหนึ่ง ช่อื แมจ่ ัน ซึ่งเปน็ บตุ รหลานผ้มู ี
ตระกูล จึงถกู กรมพระราชวังหลังกร้ิวจนถงึ ให้
โบยและจาคกุ คนท้ังสอง แตเ่ มอ่ื กรมพระราชวัง
หลังเสด็จทวิ งคตในปี พ.ศ. 2349 จึงมกี ารอภยั
โทษแก่ผู้ถูกลงโทษทั้งหมดถวายเป็นพระราชกศุ ล
หลังจากสนุ ทรภอู่ อกจากคกุ เขากบั แมจ่ นั ก็
เดินทางไปหาบิดาทอ่ี าเภอแกลง จังหวัดระยอง
และมบี ตุ รด้วยกัน 1 คน ชื่อ "พอ่ พดั " ไดอ้ ยู่ใน

ความอุปการะของเจา้ ครอกทองอยู่ สว่ นสนุ ทรภู่
กบั แมจ่ ันก็มเี รือ่ งระหองระแหงกันเสมอ จน
ภายหลงั กเ็ ลกิ รากันไป

หลงั จากน้นั สนุ ทรภู่ ก็เดนิ ทางเขา้ พระราชวงั
หลัง และมีโอกาสไดต้ ิดตามพระองคเ์ จา้ ปฐมวงศ์
ในฐานะมหาดเลก็ ตามเสด็จไปในงานพธิ ี
มาฆบชู า ทอ่ี าเภอพระพทุ ธบาท จังหวดั สระบรุ ี
เม่อื ปี พ.ศ. 2350 และเขาก็ได้แต่ง "นริ าศพระ
บาท" พรรณนาเหตุการณ์ในการเดินทางคราวน้ี
ด้วย และหลังจาก "นิราศพระบาท" ก็ไม่
ปรากฏผลงานใด ๆ ของสุนทรภู่อกี เลย

จนกระทัง่ เข้ารับราชการในปี พ.ศ.
2359 ในรชั สมยั รชั กาลที่ 2 สนุ ทรภไู่ ด้เข้ารบั
ราชการในกรมพระอาลักษณ์ และเปน็ ทโี่ ปรด

ปรานของพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหลา้
นภาลัย จนแตง่ ตัง้ ให้เป็นกวที ่ปี รกึ ษาและคอยรับ
ใช้ใกล้ชิด เนอื่ งจากเม่ือครั้งทพี่ ระบาทสมเด็จ
พระพุทธเลศิ หล้านภาลัยทรงแต่งกลอนบทละคร
ในเรอื่ ง "รามเกยี รต"ิ์ ตดิ ขัดไม่มีผูใ้ ดต่อกลอน
ไดต้ ้องพระราชหฤทยั จึงโปรดให้สนุ ทรภู่
ทดลองแตง่ ปรากฏว่าแต่งได้ดเี ปน็ ที่พอพระ
ราชหฤทยั จงึ ทรงพระกรณุ าฯ เลื่อนใหเ้ ป็น
"ขุนสุนทรโวหาร"

ต่อมาในราว พ.ศ. 2364 สุนทรภูต่ อ้ ง
ติดคุกเพราะเมาสุราอาละวาดและทาร้ายท่าน
ผูใ้ หญ่ แตต่ ดิ อยไู่ ม่นานกพ็ ้นโทษ เนอ่ื งจาก
พระบาทสมเดจ็ พระพุทธเลศิ หล้านภาลยั ทรง
ตดิ ขดั บทพระราชนพิ นธ์เร่ือง "สงั ข์ทอง" ไม่มี

ใครแต่งไดต้ ้องพระราชหฤทัย ทรงใหส้ ุนทรภู่
ทดลองแต่งก็เป็นทีพ่ อพระราชหฤทยั ภายหลัง
พน้ โทษ สนุ ทรภู่ได้เปน็ พระอาจารย์ถวายอักษร
สมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศ์เธอ เจา้ ฟา้ อาภรณ์ พระ
ราชโอรสในรชั กาลที่ 2 และเชื่อกนั ว่าสุนทรภู่
แตง่ เร่ือง "สวัสดิรักษา" ในระหวา่ งเวลานี้ ซ่งึ ใน
ระหว่างรับราชการอย่นู ้ี สนุ ทรภู่แตง่ งานใหม่กับ
แม่น่มิ มีบุตรดว้ ยกนั หน่ึงคน ชอ่ื "พอ่ ตาบ"

"สนุ ทรภ"ู่ รับราชการอยเู่ พยี ง 8 ปี เมอ่ื
ถงึ ปี พ.ศ. 2367 พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธเลิศ
หลา้ นภาลยั เสด็จสวรรคต หลงั จากน้ันสุนทรภู่ก็
ออกบวชท่ีวดั ราชบูรณะ (วดั เลียบ) อยู่เปน็ เวลา
18 ปี ระหว่างน้นั ได้ย้ายไปอย่วู ดั ตา่ ง ๆ หลาย
แห่ง ได้แก่ วดั เลียบ, วัดแจง้ , วดั โพธ,ิ์ วัด

มหาธาตุ และวัดเทพธดิ าราม ซึง่ ผลจากการท่ี
ภกิ ษภุ ่เู ดินทางธุดงคไ์ ปทตี่ า่ ง ๆ ท่วั ประเทศ
ปรากฏผลงานเป็นนิราศเรอ่ื งตา่ ง ๆ มากมาย
งานเขยี นช้นิ สดุ ท้ายทภี่ ิกษภุ แู่ ต่งไว้กอ่ นลาสิกขา
คอื "ราพนั พลิ าป" โดยแต่งขณะจาพรรษาอยู่ท่ี
วดั เทพธดิ าราม พ.ศ. 2385

ทัง้ น้ี ระหวา่ งทอ่ี อกเดินทางธดุ งค์ ภกิ ษุภู่
ได้รบั การอปุ การะจากพระองค์เจ้าลักขณานุคุณ
จนพระองค์ประชวรส้นิ พระชนม์ สนุ ทรภจู่ ึงลา
สิกขา รวมอายุพรรษาที่บวชไดป้ ระมาณ 10
พรรษา สนุ ทรภู่ออกมาตกระกาลาบากอยู่พกั
หนง่ึ จึงกลับเขา้ ไปบวชอกี ครั้งหน่ึง แตอ่ ยไู่ ดเ้ พยี ง
2 พรรษา กล็ าสิกขา และถวายตวั อยู่กบั เจา้ ฟา้
น้อย หรือสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑามณี กรมขนุ อศิ เรศ

รังสรรค์ พระราชวังเดมิ รวมทั้งไดร้ บั อปุ การะ
จากกรมหมน่ื อปั สรสดุ าเทพอีกดว้ ย

ในสมยั รชั กาลท่ี 4 เม่อื พระบาทสมเด็จ
พระจอมเกลา้ เจ้าอยูห่ วั ไดค้ รองราชย์ ทรง
สถาปนาเจ้าฟ้า กรมขนุ อิศเรศรงั สรรค์ เปน็
พระบาทสมเด็จพระปิ่นกล้าเจ้าอยู่หวั ประทับอยู่
วังหนา้ (พระบวรราชวัง) สุนทรภูจ่ ึงได้รับ
พระราชทานบรรดาศักดเิ์ ป็น "พระสนุ ทร
โวหาร" ตาแหนง่ เจ้ากรมพระอาลกั ษณ์ฝา่ ยบวร
ราชวงั ในปี พ.ศ. 2394 และรับราชการต่อมา
ได้ 4 ปี กถ็ งึ แกม่ รณกรรมใน พ.ศ. 2398 รวม
อายุได้ 70 ปี ในเขตพระราชวงั เดิม ใกล้หอนัง่
ของพระยามนเทยี รบาล (บวั ) ทเ่ี รียกชือ่ กัน
วา่ "หอ้ งสุนทรภ"ู่

สาหรับทายาทของสนุ ทรภู่น้นั เชอ่ื กันว่า
สนุ ทรภูม่ ีบุตรชาย 3 คน คือ "พ่อพดั " เกดิ จาก
ภรรยาคนแรกคือแม่จัน, "พ่อตาบ" เกดิ จาก
ภรรยาคนท่ีสองคอื แมน่ มิ่ และ "พอ่ นิล" เกิดจาก
ภรรยาที่ชอ่ื แมม่ ว่ ง นอกจากนี้ ปรากฏช่ือบุตร
บุญธรรมอีกสองคน ช่อื "พอ่ กล่ัน" และ "พ่อ
ชุบ" อย่างไรกต็ าม ในรัชสมัยพระบาทสมเดจ็
พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยูห่ ัว (รัชกาลท่ี 6) ทรง
ตราพระราชบัญญัตินามสกุลขน้ึ และตระกูล
ของสนุ ทรภไู่ ดใ้ ช้นามสกุลต่อมาวา่ "ภู่เรอื หงส์"

ผลงานของสนุ ทรภู่

หนังสอื บทกลอนของสนุ ทรภ่มู อี ยมู่ าก
เทา่ ทปี่ รากฏเร่อื งที่ยงั มฉี บบั อยู่ในปัจจบุ ันนคี้ อื ...

ประเภทนิราศ

- นิราศเมอื งแกลง (พ.ศ. 2349) - แต่ง
เมือ่ หลงั พน้ โทษจากคุก และเดินทางไปหาพอ่ ท่ี
เมอื งแกลง

- นริ าศพระบาท (พ.ศ. 2350) - แตง่
หลังจากกลบั จากเมืองแกลง และตอ้ งตามเสด็จ
พระองคเ์ จา้ ปฐมวงศ์ไปนมัสการรอยพระพทุ ธ
บาททีจ่ ังหวดั สระบรุ ี ในวันมาฆบชู า

- นริ าศภูเขาทอง (ประมาณ พ.ศ.
2371) - แตง่ โดยสมมุตวิ า่ เณรหนูพดั เป็นผู้
แตง่ ไปนมัสการพระเจดียภ์ ูเขาทอง ที่จังหวดั

อยธุ ยา

- นริ าศสุพรรณ (ประมาณ พ.ศ.
2374) - แตง่ เมื่อครง้ั ยงั บวชอยู่ และไปค้นหายา
อายุวัฒนะทจี่ งั หวัดสพุ รรณบรุ ี เป็นผลงานเรอ่ื ง
เดยี วของสนุ ทรภูท่ แี่ ต่งเป็นโคลง

- นริ าศวัดเจ้าฟา้ (ประมาณ พ.ศ.
2375) - แต่งเมอ่ื คร้งั ยงั บวชอยู่ และไปคน้ หายา
อายุวฒั นะตามลายแทงทีว่ ดั เจ้าฟา้ อากาศ (ไม่
ปรากฏวา่ ทีจ่ รงิ คอื วดั ใด) ทีจ่ งั หวดั อยธุ ยา

- นิราศอเิ หนา (ไม่ปรากฏ, คาดวา่ เป็น
สมยั รัชกาลที่ 3) แต่งเป็นเนือ้ เรื่องอเิ หนาราพนั
ถึงนางบษุ บา

- ราพนั พลิ าป (พ.ศ. 2385) - แต่งเมอ่ื
คร้งั จาพรรษาอย่ทู ่วี ัดเทพธิดาราม แลว้ เกิดฝนั
ร้ายว่าชะตาขาด จึงบันทึกความฝนั พร้อมราพัน
ความอาภพั ของตัวไวเ้ ป็น "ราพนั พิลาป" จากน้นั
จงึ ลาสกิ ขา

- นิราศพระประธม (พ.ศ. 2385) - เชอ่ื
วา่ แต่งเมอื่ หลังจากลาสิกขาและเขา้ รับราชการใน
พระบาทสมเดจ็ พระปิน่ เกลา้ เจา้ อยู่หัว ไป
นมัสการพระประธมเจดยี ์ (หรอื พระปฐมเจดยี )์
ที่เมอื งนครชัยศรี

- นิราศเมอื งเพชร (พ.ศ. 2388) - แต่ง
เมื่อเขา้ รบั ราชการในพระบาทสมเดจ็ พระป่ิน

เกล้าเจ้าอยหู่ วั เช่อื วา่ ไปธุระราชการอยา่ งใด
อย่างหนง่ึ นิราศเรือ่ งนี้มฉี บับค้นพบเนอื้ หา
เพม่ิ เตมิ ซึ่ง อ.ล้อม เพ็งแกว้ เชื่อวา่ บรรพบุรษุ
ฝ่ายมารดาของสุนทรภูเ่ ปน็ ชาวเมืองเพชร

ประเภทนทิ าน
เรื่องโคบุตร, เรื่องพระอภยั มณ,ี เรอื่ งพระ

ไชยสุริยา, เรื่องลักษณวงศ์, เรอื่ งสงิ หไกรภพ
ประเภทสุภาษติ

- สวัสดริ กั ษา คาดว่าประพนั ธใ์ นสมยั
รชั กาลที่ 2 ขณะเปน็ พระอาจารยถ์ วายอกั ษรแด่
เจา้ ฟ้าอาภรณ์

- สภุ าษติ สอนหญิง เปน็ หนงึ่ ในผลงาน

ซึง่ ยังเป็นท่ีเคลือบแคลงว่า สนุ ทรภู่เปน็
ผู้ประพันธจ์ ริงหรอื ไม่

- เพลงยาวถวายโอวาท คาดว่า
ประพนั ธใ์ นสมัยรัชกาลท่ี 3 ขณะเปน็ พระ
อาจารยถ์ วายอักษรแดเ่ จ้าฟา้ กลางและเจา้ ฟา้ ปว๋ิ

ประเภทบทละคร

- เร่ืองอภยั ณุรา ซ่งึ เขียนขน้ึ ในสมัย
รัชกาลท่ี 4 เพอื่ ถวายพระองค์เจา้ ดวงประภา
พระธิดาในพระบาทสมเด็จพระปิ่นเกลา้
เจา้ อยู่หวั

ประเภทบทเสภา

- เรือ่ งขุนช้างขนุ แผน (ตอนกาเนิด

พลายงาม)

- เรอื่ งพระราชพงศาวดาร

ประเภทบทเหก่ ลอ่ ม

แต่งข้ึนสาหรับใชข้ ับกล่อมหมอ่ มเจา้ ใน
พระองคเ์ จ้าลักขณานุคุณ กับพระเจ้าลกู ยาเธอใน
พระบาทสมเด็จพระปิน่ เกลา้ เจา้ อยู่หวั เทา่ ทพี่ บ
มี 4 เร่ือง คอื เหจ่ ับระบา, เหเ่ รอ่ื งพระอภัยมณ,ี
เห่เร่อื งโคบุตร และเห่เรือ่ งกากี
ตวั อยา่ งวรรคทองท่มี ชี ือ่ เสียงของสนุ ทรภู่

ดว้ ยความทส่ี นุ ทรภู่เป็นศิลปนิ เอกท่ีมี
ผลงานทางวรรณกรรม วรรณคดีมากมาย ทา
ให้ผลงานหลาย ๆ เร่ืองของสนุ ทรภู่ ถกู นาไปเป็น

บทเรียนให้เด็กไทยไดศ้ กึ ษา จงึ ทาใหม้ หี ลาย ๆ
บทประพันธ์ทีค่ นุ้ หู หรอื "วรรค
ทอง" ยกตัวอย่างเช่น

บางตอนจาก นริ าศอิเหนา

จะหักอ่นื ขืนหักก็จกั ได้
หักอาลัยนีไ้ ม่หลุดสดุ จะหัก
สารพัดตดั ขาดประหลาดนกั
แต่ตดั รักนีไ้ ม่ขาดประหลาดใจ

บางตอนจาก พระอภยั มณี

บดั เด๋ยี วดังหงัง่ เหงง่ วงั เวงแว่ว
สะดงุ้ แลว้ เหลยี วแลชะแงห้ า

เหน็ โยคขี ่รี งุ้ พงุ่ ออกมา
ประคองพาขน้ึ ไปจนบนบรรพต

แล้วสอนว่าอย่าไวใ้ จมนษุ ย์
มนั แสนสดุ ลกึ ล้าเหลือกาหนด
ถงึ เถาวัลยพ์ ันเกี่ยวท่เี ลย้ี วลด
ก็ไมค่ ดเหมอื นหนง่ึ ในนา้ ใจคน

(พระฤาษีสอนสดุ สาคร)

ทม่ี าของวันสุนทรภู่

องค์การการศึกษา วทิ ยาศาสตร์ และ
วัฒนธรรมแหง่ สหประชาชาติ (UNESCO) ซ่ึงเปน็
ผูท้ ีม่ ีหนา้ ท่ีส่งเสรมิ และเผยแพร่ผลงานดา้ น
วัฒนธรรมของประเทศสมาชิกตา่ ง ๆ ทั่วโลก
ด้วยการประกาศยกย่องเชดิ ชูเกียรติบคุ คลผู้มี
ผลงานดีเด่นทางวัฒนธรรมระดบั โลก ในวาระ
ครบรอบ 100 ปขี นึ้ ไปเปน็ ประจาทุกปี โดยมี
วตั ถุประสงคค์ ือ เพือ่ เผยแพรเ่ กียรติคุณและ

ผลงานของผู้มผี ลงานดีเดน่ ทางดา้ นวฒั นธรรม
ระดบั โลกให้ปรากฏแกม่ วลสมาชิกทัว่ โลก และ
เพื่อเชญิ ชวนใหป้ ระเทศสมาชิกมสี ว่ นรว่ มในการ
จัดกจิ กรรมเฉลิมฉลองร่วมกบั ประเทศที่มีผู้ไดร้ บั
การยกย่องเชดิ ชเู กียรติ

ในการน้ี รัฐบาลไทยโดยคณะกรรมการ
แหง่ ชาติวา่ ดว้ ยการศกึ ษา วิทยาศาสตร์ และ
วฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ
กระทรวงศกึ ษาธิการ จะเปน็ ผู้สบื ค้นบรรพบุรุษ
ไทยผมู้ ผี ลงานดีเดน่ ทางวฒั นธรรม เพ่อื ให้
ยูเนสโกประกาศยกย่องเชดิ ชเู กียรติ และได้
ประกาศยกยอ่ ง "สุนทรภู่" ให้เปน็ บคุ คลผมู้ ี
ผลงานดเี ด่นทางวัฒนธรรมระดบั โลก โดยใน
วาระครบรอบ 200 ปเี กดิ เม่ือวันที่ 26

มิถุนายน พ.ศ. 2529

ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2530 นายเสวตร
เปย่ี มพงศ์สานต์ อดตี รองนายกรฐั มนตรี ได้
ดาเนนิ การจัดต้ังสถาบันสุนทรภ่ขู ้ึน เพอ่ื
สนับสนุนการจดั กจิ กรรมเกี่ยวกบั ชวี ติ และงาน
ของสนุ ทรภู่ ให้แพรห่ ลายในหมู่เยาวชนและ
ประชาชนชาวไทยมากยง่ิ ข้ึน ดงั นัน้ ทางรฐั บาล
จึงได้กาหนดให้ วันท่ี 26 มถิ นุ ายน ของทกุ ปี
เป็น "วันสุนทรภ"ู่ ซง่ึ นับแตน่ น้ั เม่อื ถงึ วนั สุนทร
ภู่ จะมีการจดั งานราลกึ ถึงสนุ ทรภู่ตามสถานท่ี
ตา่ ง ๆ เชน่ ทีพ่ ิพธิ ภณั ฑส์ นุ ทรภู่ "วัดเทพธิดา
ราม" และทจี่ ังหวัดระยอง และมีการจดั กิจกรรม
เชิดชเู กียรตคิ ณุ และสง่ เสริมศิลปะการประพันธ์
บทกวจี ากองค์กรต่าง ๆ โดยทว่ั ไป

ทั้งนี้ ผลงานของสนุ ทรภู่ยงั เปน็ ทนี่ ิยม
ในสังคมไทยอยา่ งตอ่ เน่อื งตลอดมาไมข่ าดสาย
และมกี ารนาไปดดั แปลงเป็นสื่อตา่ ง ๆ เชน่
หนังสอื การ์ตนู ภาพยนตร์ เพลง รวมถงึ ละคร มี
การกอ่ สรา้ งอนุสาวรีย์สนุ ทรภู่ ไวท้ ีต่ าบลบา้ น
กรา่ อาเภอแกลง จังหวัดระยอง ซ่ึงเป็นบ้านเกิด
ของบิดาของสนุ ทรภู่ และเปน็ กาเนิดผลงาน
นริ าศเรอ่ื งแรกของท่านคือ นริ าศเมืองแกลง

กจิ กรรมที่ควรปฏิบตั ิ ในวันสนุ ทรภู่

1. มีการจัดนิทรรศการเกีย่ วกบั ประวตั ิ
ชีวติ และผลงาน

2. มกี ารแสดงผลงานประเภทนทิ านของ

สนุ ทรภู่
3. มกี ารประกวด แข่งขนั ประชันสกั วา

ตอบคาถามเกยี่ วกับประวตั ิชวี ติ และผลงานของ
สนุ ทรภู่


Click to View FlipBook Version