จัดทำโดย
นางสาวญาสมีน ยามิน ม.5/1 เลขที่ 8
กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึ กษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ประเทศจีนเป็นประเทศที่มีอารยธรรมยาวนานที่สุดประเทศหนึ่งโดยหลักฐานทาง
ประวัติศาสตร์ที่สามารถค้นคว้าได้ มีข้อบ่งชี้ว่ามีอารยธรรมกว่า 5000ปี รากฐานที่สำคัญ
ของอารยธรรมจีน คือ การสร้างระบบภาษาเขียน และการพัฒนาแนวคิดลัทธิขงจื๊อ เมื่อ
ประมาณ ศตวรรษที่ 2 ก่อน ค.ศ. ประวัติศาสตร์จีนมีทั้งช่วงที่เป็นปึกแผ่นและแตกเป็นหลาย
อาณาจักรสลับกันไป ในบางครั้งก็ถูกปกครองโดยชนชาติอื่น วัฒนธรรมของจีนมีอิทธิพล
อย่างสูงต่อชาติอื่นๆในทวีปเอเชีย ซึ่งถ่ายทอดในด้านการอพยพ การค้า และการยึดครอง
สมัยก่อนประวัติศาสตร์
อารยธรรมจีนสมัยก่อนประวัติศาสตร์ มีแหล่งอารยธรรมที่สำคัญ 2 แหล่ง คือ
ลุ่มแม่น้ำฮวงโห เกิดวัฒนธรรมหยางเชา พบหลักฐานเป็นเครื่องปั้ นดินเผาลายเรขาคณิต
พืช นก สัตว์ต่างๆ สีที่ใช้เป็นสีดำหรือสีม่วงเข้ม
ลุ่มน้ำแยงซี อยู่บริเวณมณฑลชานตุง เกิดวัฒนธรรมหลงซานขึ้น พบหลักฐานเป็น
เครื่องปั้ นดินเผา มีเนื้อละเอียดสีดำขัดมันเงา คุณภาพดี เนื้อบางและแกร่ง เป็นภาชนะ 3 ขา
สมัยประวัติศาสตร์ของจีน
สมัยประวัติศาสตร์ของจีน แบ่งได้ 4 ยุค
- สมัยโบราณ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ชาง สิ้นสุดสมัยราชวงศ์โจว
- สมัยจักรวรรดิ เริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์จิ๋น จนถึงปลายราชวงศ์ชิงหรือเช็ง
- สมัยใหม่ เริ่มปลายราชวงศ์เช็งจนถึงการปฏิวัติเข้าสู่ระบอบสังคมนิยม
- ประวัติศาสตร์ร่วมสมัย เริ่มตั้งแต่จีนปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองเข้าสู่ระบอบ
สังคมนิยมหรือคอมมิวนิสต์จนถึงปัจจุบัน
อารยธรรมจีนในสมัยราชวงศ์ต่างๆ
ราชวงศ์เซี่ย (2070-1600 ก่อนคริสตกาล) (470 ปี)
-เป็นราชวงศ์แรกของจีน
-มีการปกครองแบบพ่อสืบทอดให้ลูก
-มีการพัฒนาการปกครองแบบระบอบทาส
-มีการแย่งชิงอำนาจราชบัลลังก์
-กษัตริย์ไม่ได้ปกครองดูแลบ้านเมือง
ราชวงศ์ชาง (1600-1046 ก่อนคริสตกาล) (554 ปี)
-มีการปกครองแบบนครรัฐ
-มีการประดิษฐ์ตัวอักษรขึ้นใช้เป็นครั้งแรก
-พบจารึกบนกระดองเต่าและกระดูกวัว เรื่องที่จารึกส่วน
ใหญ่เป็นการทำนายโชคชะตา“กระดูกเสี่ยงทาย”
-มีความเชื่อเรื่องการบูชาบรรพบุรุษ
-มีการทำเครื่องใช้ต่างๆ ด้วยสำริด
-นับถือเทพเจ้าแห่งการเพาะปลูก เรียกว่า ชางตี้
ราชวงศ์โจว (1046-256 ก่อนคริสตกาล) (790 ปี)
-มีแนวความคิดด้านการปกครอง เชื่อเรื่องกษัตริย์เป็น “โอรสแห่งสวรรค์ สวรรค์มอบ
อำนาจให้มาปกครองมนุษย์เรียกว่า “อาณัตแห่งสวรรค์''
-เริ่มต้นยุคศักดินาของจีน
-เกิดลัทธิขงจื๊อ
เป็นแนวคิดแบบอนุรักษ์นิยม
เน้นความสัมพันธ์และการทำหน้าที่ของผู้คนในสังคม
ระหว่างจักรพรรดิกับราษฎร
เน้นความกตัญญู เคารพผู้อาวุโส ให้ความสำคัญกับครอบครัว
เน้นความสำคัญของการศึกษา
-เกิดลัทธิเต๋า
เน้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่ายไม่ต้องมีระเบียบแบบแผนพิธีรีตอง
เน้นการปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ
เน้นให้ทุกคนเป็นคนดี
ราชวงศ์ฉิน (221-207 ก่อนคริสตกาล) (14 ปี)
-เป็นราชวงศ์ที่สามารถรวมดินแดนของจีนให้เป็นจักรวรรดิ
เป็นครั้งแรก พระเจ้าชิวั่งตี่ เป็นผู้ให้สร้างกำแพงเมืองจีน
-มีการใช้เหรียญกษาปณ์ มาตราชั่ง ตวง วัด
ราชวงศ์ฮั่น (202 ปีก่อนคริสตกาล–ค.ศ. 8) (209 ปี)
-เป็นยุคทองด้านการค้าของจีน มีการค้าขายกับอาณาจักรโรมัน อาหรับ และอินเดีย
โดยเส้นทางการค้าที่ เรียกว่า เส้นทางสายไหม
-ลัทธิขงจื๊อ คำสอนถูกนำมาใช้เป็นหลักในการปกครองประเทศ
-มีการสอบคัดเลือกบุคคลเข้ารับราชการเรียกว่า จอหงวน
ราชวงศ์สุย (ค.ศ. 581-ค.ศ. 618) (37 ปี)
-เป็นยุคแตกแยกแบ่งเป็นสามก๊ก
-มีการขุดคลองเชื่อมแม่น้ำฮวงโหกับแม่น้ำแยงซี เพื่อประโยชน์ในด้านการคมนาคม
ราชวงศ์ถัง (ค.ศ. 618-ค.ศ. 907) (289 ปี)
-ได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของอารยธรรมจีน นครฉางอานเป็นศูนย์กลางของซีกโลกตะวันออก
ในสมัยนั้นพระพุทธศาสนามีความเจริญรุ่งเรือง พระภิกษุ (ถังซำจั๋ง) เดินทางไปศึกษา
พระไตรปิฎกในชมพูทวีป
-เป็นยุคทองของกวีนิพนธ์จีน
-ศิลปะแขนงต่างๆมีความรุ่งเรือง
ราชวงศ์ซ่ง (ค.ศ. 960-ค.ศ. 1279) (319 ปี)
-มีความก้าวหน้าด้านการเดินเรือสำเภา
-รู้จักการใช้เข็มทิศ
-รู้จักการใช้ลูกคิด
-ประดิษฐ์แท่นพิมพ์หนังสือ
-รักษาโรคด้วยการฝังเข็ม
ราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1271-ค.ศ. 1368) (97 ปี)
-เป็นราชวงศ์ชาวมองโกลที่เข้ามาปกครองจีนฮ่องเต้องค์แรกคือ กุบไลข่าน (หงวนสีโจ๊วฮ่องเต้)
-ชาวตะวันตกเข้ามาติดต่อค้าขายมาก
ราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-ค.ศ. 1644) (276 ปี)
-นิยมการเขียนนวนิยายที่ใช้ภาษาพูดมากกว่าการใช้ภาษาเขียน
-มีนวนิยายที่สำคัญ ได้แก่ สามก๊ก ไซอิ๋ว
-ส่งเสริมการสำรวจเส้นทางเดินเรือทางทะเล
-สร้างพระราชวังหลวงปักกิ่ง (วังต้องห้าม)
ราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1636-ค.ศ. 1912) (276 ปี)
-เป็นราชวงศ์เผ่าแมนจู เป็นยุคที่จีนเสื่อมถอยความเจริญทุกด้าน
-เริ่มถูกรุกรานจากชาติตะวันตก เช่น สงครามฝิ่ น ซึ่งจีนรบแพ้อังกฤษ ทำให้ต้องลง
นามในสนธิสัญญานานกิง
-ปลายยุคราชวงศ์ชิง พระนางซูสีไทเฮาเข้ามามีอิทธิพลในการบริหารประเทศมาก
จีนยุคสาธารณรัฐและยุคคอมมิวนิสต์
ปลายยุคราชวงศ์ชิง ดร.ซุนยัตเซ็น จัดตั้งสมาคมสันนิบาต เพื่อล้มล้างราชวงศ์ชิง โดย
ประกาศ ลัทธิไตรราษฎร์ ประกอบด้วย นโยบายปฏิวัติ คือ โค่นล้มราชวงศ์แมนจู และ
จัดตั้งรัฐบาลประชาชน จัดตั้งรัฐบาลตามระบอบสาธารณรัฐ จัดสรรที่ดินให้แก่
ประชาชน และก่อตั้งพรรคชาตินิยม หรือพรรคก๊กมินตั๋ง ขึ้นในที่สุด
ต่อมา ซุนยัตเซ็นได้ร่วมมือกับ ยวน ซีไข ทำการปฏิวัติล้มราชวงศ์ชิงได้สำเร็จเปลี่ยนการ
ปกครองเข้าสู่ระบอบสาธารณรัฐ (จักรพรรดิปูยี เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายของจีน) มีการ
แย่งชิงอำนาจของผู้นำทางทหารเรียกว่า ยุคขุนศึก
ซุนยัตเซ็นได้เสนอให้ ยวน ซีไข เป็นประธานาธิบดีของสาธารณรัฐจีน
ยวน ซีไข คิดสถาปนาตนเองเป็นจักรพรรดิและรื้อฟื้ นระบบศักดินา
ดร.ซุนยัตเซ็น ตั้งพรรคก๊กมินตั๋ง
เมื่อ ยวน ซีไข เสียชีวิตลง ดร.ซุนยัตเซ็นเป็นประธานาธิบดี แต่เป็นได้ไม่นานก็เสียชีวิต
หลังจาก ดร. ซุนยัตเซ็น เสียชีวิต เจียงไคเช็ค ขึ้นเป็นผู้นำพรรคก๊กมินตั๋งและผู้นำจีน
แต่รัฐบาลเจียงไคเช็ค ประสบปัญหาฉ้อราษฎร์บังหลวง กดขี่ราษฎร
จีนเกิดการปฏิวัติอีกครั้ง โดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน ภายใต้การนำของ เหมา เจ๋อตุง
รัฐบาลเจียงไคเช็ค ต่อสู้กับพรรคคอมมิวนิสต์แต่แพ้
เหมา เจ๋อตุง สถาปนา “สาธารณรัฐประชาชนจีน” ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ มี
การจัดระเบียบสังคมใหม่ เรียกว่า การปฏิวัติทางวัฒนธรรม เพื่อต่อต้านจารีตศักดินา
แบ่งชนชั้น
หลังจาก เหมา เจ๋อตุง เสียชีวิต เติ้งเสี่ยวผิงขึ้นเป็นผู้นำจีนแทน ประกาศพัฒนา
ประเทศด้วย นโยบายสี่ทันสมัย คือด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม การทหาร
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายในประเทศ รวมทั้ง
ผ่อนปรนวิถีการดำเนินชีวิตของประชาชนให้คลายความเข้มงวดลง
จิตรกรรม
มีวิวัฒนาการมาจากการเขียนตัวอักษรจีนจารึกบนกระดูกเสี่ยงทายเพราะตัวอักษรจีนมี
ลักษณะเหมือนรูปภาพ งานจิตรกรรมจีนรุ่งเรืองมากในสมัยราชวงศ์ฮั่น มีการเขียนภาพและ
แกะสลักบนแผ่นหิน ที่นิยมมากคือ การเขียนภาพบนผ้าไหม ภาพวาดเป็นเรื่องเล่าในตำราขงจื๊อ
พระพุทธศาสนาและภาพธรรมชาติ
สมัยราชวงศ์ถัง มีการพัฒนาการใช้พู่กันสีและกระดาษ ภาพส่วนใหญ่ได้รับอิทธิพลจาก
พุทธศาสนาและลัทธิเต๋า
สมัยราชวงศ์ซ่ง มีจิตรกรรมที่เด่นมาก ภาพวาดมักเป็นภาพมนุษย์ ธรรมชาติ
ทิวทัศน์ ดอกไม้
ประติมากรรม
ส่วนใหญ่เป็นเครื่องปั้ นดินเผามีอายุเก่าแก่ตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ ทำจากดินสีแดง
มีลวดลาย แดง ดำ และขาวเป็นลวดลายเรขาคณิต
สมัยราชวงศ์ชาง มีการแกะสลักงาช้าง หินอ่อน และหยกตามความเชื่อและความนิยม
ของชาวจีน ที่เชื่อว่า หยก ทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล ความสุขสงบ ความรอบรู้ ความ
กล้าหาญ ภาชนะสำริดเป็นหม้อสามขา
สมัยราชวงศ์ถัง มีการพัฒนาเครื่องเคลือบดินเผาเป็นเคลือบ 3 สีคือ เหลือง น้ำเงิน
เขียว
สมัยราชวงศ์หมิง เครื่องเคลือบได้พัฒนาจนกลายเป็นสินค้าออก คือ เครื่องลายคราม
และลายสีแดง เครื่องเคลือบจะนิยมสีสันสดใส เช่น เขียว แดง ชมพู
สถาปัตยกรรม
-กำแพงเมืองจีน สร้างในสมัยราชวงศ์ฉิน เพื่อป้องกันการรุกรานของมองโกล
-เมืองปักกิ่ง สร้างในสมัยราชวงศ์หยวน โดยกุบไลข่าน ซึ่งได้รับการยกย่องทางด้าน
การวางผังเมือง
-พระราชวังปักกิ่ง สร้างในสมัยราชวงศ์เหม็ง
-พระราชวังฤดูร้อน สร้างในสมัยราชวงศ์ชิง เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่าง
ยุโรปและจีนโบราณ
วรรณกรรม
สามก๊ก สันนิษฐานว่าเขียนในคริสต์ศตวรรษที่ 14 เป็นเรื่องราวของความแตกแยกในจีน
ตั้งแต่ปลายสมัยราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ฮั่น
ซ้องกั๋ง เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับความทุกข์ของผู้คนในชนชั้นผู้ปกครอง สะท้อนความทุกข์
ของชาวจีนภายใต้การปกครองของพวกมองโกล
ไซอิ๋ว เป็นเรื่องราวการเดินทางนำพระสูตรจากสวรรค์ทางตะวันตกมายังประเทศจีน
จินผิงเหมย หรือ ดอกบัวทอง แต่งขึ้นในราวคริสต์ศตวรรษที่16-17 เป็นนิยายเกี่ยวกับ
สังคมและชีวิตครอบครัว สะท้อนถึงการมีชีวิตที่ร่ำรวย มีอำนาจมากแต่ชอบทำชั่ว
ผิดศีลธรรมจนในที่สุดต้องได้รับกรรม
หงโหลวเมิ่ง หรือ ความฝันในหอแดง เด่นที่สุดในคริสต์ศตวรรษที่ 18 เรื่องราวเต็มไป
ด้วยการแก่งแย่งชิงดี อิจฉาริษยากัน ผู้อ่านจะรู้สึกเศร้าสลดต่อชะตาชีวิตของพระเอก
นางเอกเนื้อเรื่องสะท้อนให้เห็นสังคมศักดินาของจีนที่กำลังเสื่อมโทรมก่อนการ
เปลี่ยนแปลงสังคมเข้าสู่ยุคใหม่ บันทึกประวัติศาสตร์ ของ สื่อหม่าเฉียน
พัฒนาการอารยธรรมจีนด้านการเมืองการปกครอง
1. ระบบกษัตริย์ เชื่อว่าจักรพรรดิเป็น “ โอรสแห่งสวรรค์ ” มีอำนาจเด็ดขาด แต่พระ
มหากษัตริย์ที่ไม่อาจปกครองให้เกิดความสงบสุข เที่ยงธรรม ก็อาจมีการยึด อำนาจเปลี่ยนผู้
ปกครองได้
2. ระบบศักดินา เริ่มต้นใน “ ราชวงศ์โจว ” จักรพรรดิเป็นโอรสแห่งสวรรค์ และมี
ขุนนางช่วยเหลือในการทำสงคราม
3. สมัยจักรวรรดิ เริ่มต้นใน “ ราชวงศ์ฉิน ” จิ๋นซีฮ่องเต้ ทรงรวบรวมจีนเป็นจักรวรรดิมี
อำนาจเด็ดขาดควบคุมดูแลดินแดนโดยตรง แต่ปกครองด้วยการยึดหลักกฎหมาย
4. ระบบสาธารณรัฐชาติตะวันตกต้องการขยายอิทธิพลในจีน เกิดความกดดันทาง
การเมืองภายในการเกิดสงครามฝิ่ น ระหว่างจีนกับอังกฤษ จีนแพ้ต้องทำ “ สนธิสัญญา
นานกิง ” จีนต้องเปิดเมืองท่าให้ชาวต่างชาติเข้าอยู่อาศัยและทำการค้า จีนต้องยอมยกเกาะ
ฮ่องกงให้อังกฤษทำการเช่า และยังเกิดปัญหามากมาย ดร.ซุนยัตเซ็น ก่อการปฏิวัติล้มล้าง
ราชวงศ์แมนจู จัดตั้ง ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐ โดยให้ ยวน ซีไข ขึ้นเป็น
ประธานาธิบดี ต่อมามีการเปลี่ยนแปลงเป็นระบอบคอมมิวนิสต์ โดย เหมา เจ๋อ ตุง ใช้
นโยบาย “ ก้าวกระโดดไกล” ผู้นำคนต่อมาคือ เติ้ง เสี่ยว ผิง ใช้นโยบายพัฒนาประเทศ
ที่เรียกว่า “ นโยบายสี่ทันสมัย ” ซึ่งจีนได้เปิดเสรีทางเศรษฐกิจมากขึ้น
พัฒนาการอารยธรรมจีนด้านเศรษฐกิจ
1. พื้นฐานเศรษฐกิจจีนโบราณ เป็นเกษตรกรรม
2. สมัยราชวงศ์ฮั่น เริ่มมีการติดต่อค้าขายกับชาติตะวันตก ทำให้เกิด “เส้นทางสายไหม”
ซึ่งเป็นเส้นทางการค้าจากจีน ไปอินเดีย อียิปต์ และโรม
3. คริสต์ศตวรรษที่ 19 เหมา เจ๋อ ตุง ใช้นโยบาย “ ก้าวกระโดดไกล ” แต่ไม่ประสบ
ผลสำเร็จ
4. ยุคเติ้งเสี่ยวผิง ใช้นโยบาย “ สี่ทันสมัย ” คือ ด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม
การทหาร วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยอนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนภายใน ประเทศ มี
ลักษณะผ่อนปรนมากขึ้นทำให้จีนเจริญขึ้นอย่างรวดเร็ว
พัฒนาการอารยธรรมจีนด้านสังคมวัฒนธรรม
1.สังคมจีนประกอบด้วยกลุ่มบุคคลแยกเป็นชนชั้น ดังนี้
ชนชั้นขุนนาง ปัญญาชน เป็นกลุ่มผู้มาจากการสอบผ่านเข้ารับราชการเพื่อให้ได้ผู้มี
ความรู้และมีคุณธรรมเมื่อผู้ใดได้เป็นขุนนาง จะได้รับสิทธิยกเว้นการเกณฑ์แรงงาน
ยกเว้นภาษี มีชีวิตสะดวกสบาย
ชนชั้นชาวนา มีจำนวนมากกว่าชนชั้นอื่นสังคมจีนเป็นสังคมเกษตรกรรม สมัยราชวงศ์
โจว ชนชั้นชาวนาได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ผลิต แต่กลับถูกเรียกเก็บภาษี ถูกเกณฑ์
แรงงานและเกณฑ์ทหาร
ชนชั้นพ่อค้าและทหาร ตามความคิดของขงจื๊อชนชั้นนี้ไม่น่ายกย่อง เพราะมิใช่เป็นผู้ผลิต
แต่พ่อค้าเป็นกลุ่มที่ร่ำรวย และการทำสงครามระหว่างเจ้าผู้ครองนคร ในสมัยราชวงศ์
โจวทำให้ทหารมีความสำคัญในการป้องกันสังคมให้ปลอดภัย
2. ครอบครัวจีน สังคมจีนยุคแรกสร้างอารยธรรม ถือว่าครอบครัวเป็นหน่วยทางสังคม
ที่เล็กที่สุด ผู้นำครอบครัว คือ บิดา เป็นผู้รับผิดชอบต่อการดำรงชีวิตของครอบครัว และ
รับผิดชอบต่อราชการ เช่น การเกณฑ์ทหาร การเสียภาษี คนในครอบครัวจึงต้องให้ความ
เคารพยำเกรงผู้นำครอบครัว นอกจากนี้คนในครอบครัวผู้น้อยต้องเคารพ
ผู้อาวุโส
3. ประเพณีและความเชื่อ คนจีนแต่โบราณจะเคารพบูชาบรรพบุรุษซึ่งเป็นคนใน
ตระกูลที่เสียชีวิตไปแล้ว นอกจากนี้ยังนับถือเทพเจ้าธรรมชาติ ในสมัยราชวงศ์ชาง
มีประเพณีการใช้ “กระดูกเสี่ยงทาย” โดยการเขียนตัวอักษรบนกระดูกวัวหรือสัตว์ชนิดอื่น
หรือบนกระดองเต่า เพื่อทำนายเกี่ยวกับการสร้างเมือง การสงคราม และเรื่องอื่น ๆขงจื๊อ
ได้วางหลักปฏิบัติต่อครอบครัว พิธีกรรม ปรัชญาและจริยศาสตร์ เช่น การใฝ่หาความรู้
ความกตัญญู ความจงรักภักดี คุณธรรมเหล่านี้มีอิทธิพลต่อชาวจีนอย่างลึกซึ้ง
4. ศิลปะและหัตถกรรม ภาชนะสำริดที่เก่าแก่ที่สุด พบในสมัยราชวงศ์ชาง ตอน
ปลายของราชวงศ์ชาง ถือว่าเป็นยุคทองของเครื่องสำริดช่างจีน มีฝีมือในการแกะสลักหยก
5. ภาษาและวรรณกรรม การพบกระดูกเสี่ยงทายที่มีตัวอักษรจารึก ทำให้ทราบว่าใน
สมัยราชวงศ์ชางมีภาษาเขียนใช้แล้ว เรียกว่าอักษรภาพ วรรณกรรมที่สำคัญ ได้แก่
คัมภีร์ทั้ง 5 ของขงจื๊อ วรรณกรรมสื่อจี้ (บันทึกประวัติศาสตร์) บันทึกโดยสื่อหม่าเฉียน ใน
สมัยราชวงศ์ฮั่น
1.สมัยประวัติศาสตร์ของจีนแบ่งได้กี่ยุคสมัย
1) 2ยุคสมัย 2) 3ยุคสมัย
3) 4ยุคสมัย 4) 5ยุคสมัย
2.ราชวงศ์จีนราชวงศ์ใดปกครองได้นานที่สุด
1) ราชวงศ์ฉิน 2) ราชวงศ์ชาง
3) ราชวงศ์โจว 4) ราชวงศ์สุย
3.กำแพงเมืองจีนสร้างในสมัยราชวงศ์ใด
1) ราชวงศ์ฉิน 2) ราชวงศ์โจว
3) ราชวงศ์ฮั่น 4) ราชวงศ์ถัง
4.ในสังคมจีนมีการแบ่งกลุ่มบุคคลเป็นชนชั้นได้แก่ชนชั้นใดบ้าง
1) ชนชั้นกษัตริย์,ชนชั้นขุนนาง,ชนชั้นไพร่,ชนชั้นทาส
2) ชนชั้นกษัตริย์,ชนชั้นขุนนาง,ชนชั้นชาวนา,ชนชั้นพ่อค้าและทหาร
3) ชนชั้นขุนนาง,ชนชั้นชาวนา,ชนชั้นพ่อค้าและทหาร
4) ชนชั้นกษัตริย์,ชนชั้นชาวนา,ชนชั้นพ่อค้าและทหาร
5.ราชวงศ์ใดได้ชื่อว่าเป็นยุคทองของอารยธรรมจีน
1) ราชวงศ์ถัง 2) ราชวงศ์โจว
3) ราชวงศ์ฮั่น 4) ราชวงศ์สุย
6.เรื่องสามก๊กเป็นการพูดถึงเรื่องราวแบบใด
1) เป็นเรื่องราวของความแตกแยกในจีนตั้งแต่ปลายสมัยราชวงศ์ฉินจนถึงราชวงศ์ฮั่น
2) เป็นเรื่องราวของความแตกแยกในจีนตั้งแต่สมัยราชวงศ์โจวจนถึงราชวงศ์ฉิน
3) เป็นเรื่องราวของการเดินทางไปนำพระสูตรจากสวรรค์ทางตะวันตกมายังประเทศจีน
4) เป็นเรื่องราวของการแก่งแย่งชิงดี อิจฉาริษยากันในราชวงศ์ฮั่น
7.ลักษณะเศรฐกิจจีนโบราณเป็นเเบบใด
1) อุตสาหกรรม 2) เกษตรกรรม
3) อุตสาหกรรม 4) การทหาร
8.ราชวงศ์ใดเริ่มเป็ที่รู้จักการใช้ลูกคิดในการคำนวณ
1) ราชวงศ์เซี่ย 2) ราชวงศ์ฉิน
3) ราชวงศ์ซ่ง 4) ราชวงศ์โจว
9.ลัทธิเต๋ามีแนวทางในการดำเนินชีวิตเป็นแบบใด
1) เน้นการดำเนินชีวิตที่เรียบง่าย 2) เน้นปรับตัวเข้าหาธรรมชาติ
3) มีคำสอนที่เป็นที่พึ่งทางใจของผู้คน 4) ถูกทุกข้อที่กล่าวมา
10.ราชวงศ์ใดมีการใช้เหรียญกษาปณ์ มาตราชั่ง ตวง วัด
1) ราชวงศ์ฉิน 2) ราชวงศ์โจว
3) ราชวงศ์ฮั่น 4) ราชวงศ์เซี่ย
พรรวี วิจิตรโรทัย และคณะ. (2560). แหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชีย.
สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2564, จาก https://cutt.ly/pTkzrOZ
โรงเรียนโพธิ์ไทรพิทยาคาร. (2560). ประวัติราชวงศ์จีน. สืบค้นเมื่อ 11
พฤศจิกายน 2564, จาก https://cutt.ly/yTkznbM
วิกิพีเดีย. (2564). ประวัติศาสตร์จีน. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2564,
จาก https://cutt.ly/3TkzO4U
อาจารย์หทัยณัฐ แก้วบัวดี. (2559). ประวัติศาสตร์สากล. สืบค้นเมื่อ 11
พฤศจิกายน 2564, จาก https://cutt.ly/cTkz1w9
Dreammerland. (2562). อารยธรรมจีน. สืบค้นเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2564,
จาก https://cutt.ly/wTkz7IK