วิจยั ในชนั้ เรยี น 1
(Classroom Action Research)
เรือ่ ง การใช้ชดุ Picture Book
เพ่อื พฒั นาทกั ษะทางภาษาดา้ นการอ่าน
ของนักเรียนระดับช้นั อนบุ าลปีที่ 3/1 โรงเรยี นวัดเวฬุวนั
โรงเรยี นวดั เวฬวุ ัน อาเภอสารภี จงั หวดั เชียงใหม่
ปกี ารศกึ ษา 2564
ช่ือ-สกุล นางสาวธดิ ารตั น์ อิมัง
ตาแหนง่ ครู
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ปฐมวยั
โรงเรยี นวัดเวฬวุ ัน อาเภอสารภี จงั หวดั เชยี งใหม่
สานกั งานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 4
2
รายงานการวิจัยชนั้ เรียน ปกี ารศกึ ษา 2564
ช่อื งานวิจยั เรือ่ ง การใช้ชดุ Picture Book เพ่อื พัฒนาทกั ษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนักเรยี นระดับชัน้ อนุบาลปที ี่ 3/1 โรงเรยี นวดั เวฬุวนั
โรงเรียน โรงเรยี นวดั เวฬวุ นั อาเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
ชื่อผวู้ จิ ยั นางสาวธิดารตั น์ อิมัง
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ปฐมวยั
ทมี่ าความสาคญั ของการวิจัย มี ไม่มี
ออกแบบเก็บขอ้ มูล เสร็จ ไมเ่ สรจ็
เก็บข้อมูลเรียบรอ้ ย เสร็จ ไม่เสรจ็
แปลผลและอภิปรายผล เสรจ็ ไมเ่ สรจ็
สรุปเป็นรูปเลม่ เสร็จ ไมเ่ สรจ็
ลงชอื่ ...................................... ผู้ทาวิจัย
(นางสาวธดิ ารัตน์ อมิ ัง)
ข้อคิดเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ขอ้ คดิ เห็นของฝา่ ยวชิ าการ
.......................................................................... ..........................................................................
.......................................................................... ..........................................................................
.......................................................................... ..........................................................................
ลงชือ่ ............................................. ลงชื่อ .............................................
(นางสาวธิดารัตน์ อมิ ัง) (นายมาโนช นันทา)
รองผอู้ านวยการฝ่ายบรหิ ารงานวชิ าการ
ข้อคดิ เห็นของผู้อานวยการโรงเรยี น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลงช่อื .............................................
(นายจรัล ถาวร)
ผ้อู านวยการโรงเรยี นวัดเวฬวุ ัน
3
ความเป็นมาและความสาคญั ของปญั หา
เด็กทุกคนมีสิทธิที่จะได้รบั การอบรมเล้ียงดูและการส่งเสริมพัฒนาการตามอนุสัญญาว่าด้วย
สิทธิเด็ก ตลอดจนได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเหมาะสม ด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดี
ระหว่างเดก็ กับพอ่ แม่ เด็กกับผู้สอน เด็กกบั ผเู้ ล้ยี งดู หรือผู้ทเ่ี กย่ี วข้องกับการอบรมเลยี้ งดู การพัฒนา
และให้การศึกษาแก่เด็กปฐมวัย เพ่ือให้เด็กมีโอกาสพัฒนาตนเองตามลาดับขั้นของพัฒนาการ
ทุกด้านอย่างเป็นองค์รวม มีคุณภาพ และเต็มตามศักยภาพ (หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย, 2560: 4)
ซึ่งครูปฐมวัยมีบทบาทหน้าท่ีสาคัญในการจัดการเรียนรู้และการอบรมเลี้ยงดูเด็กรวมถึงการ
จัดสภาพแวดล้อม เพ่ือส่งเสริมและเอ้ือใ ห้เด็กเกิดการพัฒนาการในทุกด้านอย่างสมดุล
หน้าที่หรือภาระงานส่วนใหญ่ที่ครูปฐมวัยต้องรับผิดชอบเป็นบทบาทที่เก่ียวข้องกับการพัฒนาด้าน
ร่าง ก าย สัง คม อาร มณ์ -จิตใจ และ สติปัญ ญ าขอ ง เด็ก และ ยัง ก ล่าว ถึง บทบาทข อ ง
ครูอนุบาลในการพัฒนาเด็กปฐมวัยไว้ 5 ประการ คือ การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ให้แก่เด็ก
การสอนท่ีส่งเสริมการเรียนรู้และพัฒนาการของเด็ก การสร้างแผนการสอนท่ีนาไปสู่
เป้าหมายการเรียนรู้ การประเมินผลพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก และการสร้างความสัมพันธ์
กบั ครอบครัวของเด็ก เพอ่ื ใหเ้ ด็กได้รบั การพฒั นาอย่างครอบคลุมทุกมิติของชวี ิต (เยาวพา เดชะคุปต์,
2542: 45) โดยหลักสูตรการศึกษาปฐมวัยได้กาหนดกิจกรรม 6 หลัก ที่ส่งเสริมพัฒนาการ
ให้กับเด็กปฐมวัย ซ่ึงประกอบไปด้วย กิจกรรม 6 หลัก ได้แก่ กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ
กิจกรรมเสริมประสบการณ์ กิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์ กิจกรรมเสรี กิจกรรมกลาง แจ้ง
และกิจกรรมเกมการศึกษา ในกิจกรรม 6 หลักที่เด็กจะได้เรียนรู้ กิจกรรมเสรี ถือว่าเป็นกิจกรรม
ที่มีความสาคัญ 1 ใน 6 กิจกรรมหลัก เพราะ เป็นกิจกรรมท่ีเปิดโอกาสให้เด็กเล่นอย่างอิสระ
ตามมุมการเล่น หรือมุมประสบการณ์ หรือศูนย์การเรียนท่ีจัดไว้ภายในห้องเรียน เช่น มุมบล็อก
มุมหนัง สือ มุมวิ ทยาศาสตร์ มุมธ ร ร มชาติ มุมเครื่อ ง เล่น สัมผัส เป็น ต้น มุมต่าง ๆ
เ ห ล่ า น้ี เ ด็ ก มี โ อ ก า ส เ ลื อ ก เ ล่ น ไ ด้ อ ย่ า ง อิ ส ร ะ ต า ม ค ว า ม ส น ใ จ แ ล ะ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ข อ ง เ ด็ ก
ซง่ึ ในการเล่นตามมุ นี้เด็กอาจจะเล่นคนเดยี ว หรอื เล่นเป็นกลุม่ ยอ่ ยกไ็ ด้
นอกจากน้ีการเล่นกิจกรรมเสรียังช่วยส่งเสริมพัฒนาเด็ก ๆ ในหลาย ๆ ด้าน เช่น
ส่งเสริมพัฒนาการด้านกล้ามเน้ือใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และประสาทสัมพันธ์ระหว่างมือกับตา
ส่งเสริมให้เด็กพัฒนาความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ ฝึกและส่งเสริมให้เด็กรู้จักคิดแก้ปัญหา
การคิดอย่างมีเหตุผล ส่งเสริมพัฒนาการด้านภาษาและให้เด็กมีนิสัยรักการอ่าน เป็นต้น
การพัฒนาภาษา เป็นการพัฒนาให้เด็กใช้ภาษาสื่อสารถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ความรู้
คว ามเข้าใจใน สิ่ง ต่าง ๆ ที่เด็ก มีปร ะ สบก ารณ์ โ ดยสามาร ถตั้ง คาถามในสิ่งท่ีสงสัย
ใคร่รู้จัดกิจกรรมทางภาษาให้มีความหลากหลายในสภาพแวดล้อมท่ีเ อื้อต่อการเรียนรู้
มุ่งปลูกฝังให้เด็กได้กล้าแสดงออกในการฟัง พูด อ่าน เขียน มีนิสัยรักการอ่าน และบุคคลแวดล้อม
4
ต้องเป็นแบบอย่างท่ีดีในการใช้ภาษา ท้ังนี้ ต้องคานึงถึงหลักการจัดกิจกรรมทางภาษาที่เหมาะสม
กบั เดก็ เปน็ สาคัญ (หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวัย, 2560: 43)
เด็กหลายคนรจู้ ักหนงั สือและตัวหนังสือกอ่ นท่ีจะได้รับการสอนอย่างเป็นทางการในโรงเรยี น
เพราะพ่อแม่และคนอ่ืนๆ เคยอ่านหนังสือให้เด็กฟัง เด็กจะเลียนแบบพฤติกรรมการอ่าน
และอ่านหนังสือเล่มโปรดจากความจา ซึ่งเด็กจะอ่านได้อย่างอัศจรรย์ (อารี สัณหฉวี, 2543: 1)
และเป็นส่ิงสาคัญส่ิงหน่ึงในการเพราะการอ่านจะมีส่วนช่วยสร้างความสาเร็จในการดาเนินชีวิต
ผู้ท่ีมีความสามารถในการอ่านมักจะมีโอกาสในการเจริญก้าวหน้าในชีวิตมากกว่าคนที่อ่านหนังสือ
ได้น้อยและอ่านช้า โลกปัจจุบันเรียกได้ว่า เป็นโลกของการอ่าน เพราะการอ่านแทรกอยู่ในกิจกรรม
ทุกประเภททุกแห่ง (กานต์มณี ศักด์ิเจริญ, 2543: 83) ซ่ึงมีความสอดคล้องกับแนวคิดของ (ฉวีวรรณ
คูหาภินันท์ 2542: 1) ที่กล่าวว่าโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การคิดตามข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ
มีความจาเป็นอย่างยิ่ง เพื่อให้เป็นคนทันสมัย ประสบการณ์ด้านการอ่านก็เป็นเคร่ือง มือ
ในการแสวงหาความรู้ ความเข้าใจทีถ่ กู ตอ้ ง มีความคิดกว้างไกล มีความทันสมยั เสรมิ สร้างบคุ ลกิ ภาพ
ท่ีเหมาะสม มีความคิดสร้างสรรค์ รู้จักใช้ข้อมูลในการตัดสินใจ รู้แนวทางในการแก้ปัญหา
และรู้วธิ กี ารคน้ คว้าต่อไป ตลอดจนแสวงหาความสนุกสนาน เพลิดเพลนิ และเด็กท่ีมีนสิ ัยรกั การอ่าน
จะเป็นเด็กท่ีฉลาด รอบรู้ และมีความสามารถในการเรียนรู้ สามารถนาประสบการณ์
ที่ได้รับจากการอ่านไปพัฒนาตนเองได้อย่างรอบด้านท้ังด้านร่างกาย อารมณ์ -จิตใจ สังคม
และสติปัญญา โดยสภาพการอ่านนั้น (อรัญญา สุธาสิโนบล 2544: 19 -20) ได้กล่าวไว้ว่า
เด็กส่วนใหญ่จะไม่สนใจในการอ่านหรืออ่านอย่างไม่เต็มใจมีปฏิกิริยาทางลบ มีเจตคติท่ีไม่ดี
ต่อการอ่านจึงควรสร้างแรงจูงใจให้เด็กหันมาสนใจการอ่านเพิ่มมากข้ึนจากหนังสือที่มีเน้ือหาสนุก
น่าสนใจ เหมาะกับวุฒิภาวะและวัย โดยเฉพาะหนงั สือท่ีมีภาพสวยงามจะเป็นสิ่งดึงดูดใจในการอา่ น
เห็นคุณค่าของการอ่านและมีจิตสานึกที่คงทนต่อการอ่าน เห็นว่าการอ่านเป็นเรื่องสนุก น่าสนใจ
ซง่ึ แนวทางทจ่ี ะทาให้เดก็ มีความสามารถในการอา่ นมีหลายวิธี เช่น การจัดมุมในหอ้ งเรียน มุมหนงั สือ
การจดั สือ่ วัสดุอุปกรณ์ บรรยากาศที่เอื้อตอ่ การอ่าน การจดั กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ฯลฯ
ดงั นนั้ ผู้ใหญ่จงึ จาเป็นตอ้ งสอื่ ความหมายน้ันด้วยภาษาการอ่านหนงั สือให้เดก็ ฟงั ทุกวนั เป็นส่ิง
จาเป็นในการให้โอกาสเด็กเรียนรู้เพ่ือพัฒนาภาษา การอ่านสามารถทาได้ตลอดเวลา ความรู้
ของ เด็ก จะ เพิ่มพูน ขึ้น เม่ือเด็ก ไ ด้รับโ อ ก า สใน ก า ร ท ากิ จก ร ร ม ท่ี เกี่ ย ว กั บก า ร อ่ า น
ร่วมกับผู้ใหญ่และกิจกรรมท่ีจัดให้เด็กอ่านกับเพ่ือนเพื่ออภิปรายร่วมกัน เพ่ือรับฟังและตรวจสอบ
ความคิด ความเข้าใจ โดยเฉพาะการอ่านจากสิ่งที่ครูและเด็กเขียนร่วมกัน เป็นการอ่านที่ดีที่สุด
ของเด็ก (สถาบันแห่งชาติเพ่ือการศึกษาของเด็กปฐมวัย, 2543: 20-21) ในการสอนภาษาให้กับเด็ก
(นฤมล เนียมหอม 2545: 1) ได้กล่าวว่าการสอนภาษา ควรให้เด็กได้มีโอกาสสื่อความหมาย
โดยมีพ้ืนฐานจากประสบการณ์จริงที่มีความหมายต่อเด็ก ต้องจัดเวลาให้เด็กมีโอกาส
อ่านอย่างมีจุดหมาย ไม่ใช่เพียงกิจกรรมที่จัดขึ้น เพื่อการฝึกหัด และให้เด็กใช้เวลาในการอ่าน
5
ตลอดท้ังวัน โดยต้องไม่กาหนดว่าต้องอ่านช่วงเวลาใดท่ีต้องอ่าน ซึ่งการอ่านของเด็กน้ันจะค่อย ๆ
เปล่ียนแปลงไปตามวยั เชน่ เดยี วกบั พฤติกรรมของเขา เด็กวยั อนุบาลศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษา
จะมีความสนใจในการอา่ นแตกตา่ งกันไป ในช่วงวยั อนบุ าลจะชน่ื ชอบหนงั สือ รปู ภาพ เรอ่ื งราวใกล้ตัว
มีโลกแห่งความฝันและจินตนาการ การอ่านเป็นวิธที ่ีเด็กแปลและถ่ายทอดความหมาย เพ่ือให้ตัวเอง
เรียนรู้และให้ผู้อ่ืนรับรู้ความหมาย พฤติกรรมการอ่านของเด็กน้ันทาให้เกิดพัฒนาการด้านการอ่าน
ซ่งึ นักการศกึ ษาหลายท่านได้กล่าวถงึ พฒั นาการการอ่านและลาดับขน้ั พฒั นาการดงั นี้ กูด๊ แมน (1984
อ้างถึงใน สถาบันแห่งชาติเพ่ือการศึกษาของเด็กปฐมวัย, 2543: 23-24 ) ได้กล่าวถึงขั้นพัฒนาการ
ในการอ่านไว้ ดังนี้ ข้ันแรก คาแรกท่ีเด็กอ่านเป็นคาท่ีมีความหมายต่อชีวิตเด็ก เช่น ช่ืออาหาร ถนน
ในข้ันพฒั นาการน้ีเป็นรากเหงา้ ของการอ่านเขียน ขนั้ ทส่ี อง ผู้เรยี นจะผกู พันกับตัวอกั ษรเพิ่มมากข้ึน
เรียกช่ือได้หรืออ่านได้ถูก เรียนรู้ท่ีอยู่ (ตาแหน่ง) ของตัวอักษร ข้ันท่ีสาม เด็กแยกแยะได้ว่า
การใช้ตัวอักษร ระเบียบแบบแผนของตัวอักษรเร่ิมเขียนจากซ้ายไปขวา เป็นพ้ืนฐานพัฒนาการอา่ น
ในเด็กปฐมวัย ในขณะเดียวกันเด็กจะรู้จักรูปร่างและระบบของตัวอักษรด้วย ขั้นสุดท้าย
ระบบของตวั อกั ษร คือ เปา้ หมายปลายทางสุดทา้ ยของการอ่าน
เนื่องจากการจัดการเรียนการสอนวิชาภาษาไทยของนักเรียนระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 3/1
โรงเรยี นวดั เวฬวุ ัน พบวา่ นักเรียนยงั ขาดทกั ษะการอ่านภาษาไทยคาพนื้ ฐาน แมว้ า่ จะผ่านการฝึกฝน
ดว้ ยกิจกรรมตา่ ง ๆ นักเรยี นยงั ไมส่ ามารถพฒั นาการอ่านในระดบั คาได้ดเี ท่าทคี่ วร การนาชดุ Picture
Book มาช่วยส่งเสริมทักษะทางภาษาด้านการอ่านมีความสาคัญอย่างมาก คือ การใช้ภาพ
เ ป็ น อุ ป ก ร ณ์ ก า ร ส อน ที่ มีป ร ะ โ ยช น์ มา ก อ ย่ า ง ห น่ึง ภ า พ มี ลั ก ษ ณ ะ เ ป็ น ภ า ษา ส าก ล
ไม่ว่าผู้เรียนจะเป็นผู้ใหญ่ ภาพประกอบมีส่วนสาคัญในการจูงใจให้เกิดความรู้และความคิด
อย่างรวดเร็ว โดยใช้ภาพบรรยายให้ทราบถึงเหตุการณ์น้ัน ๆ ถ้าหนังสือเล่มน้ันไม่มีภาพ
ผู้อ่านก็จะอ่านคาบรรยายในหนังสืออย่างต้ังใจและอาจต้องอ่านซ้าหลาย ๆ คร้ังจึงจะเข้าใจได้ดี
เพราะฉะนั้นภาพในหนังสือจะช่วยเร้าความสนใจของผู้อ่านอย่างได้ผล ภาพจะช่วยแปล
ความหมายของเนอ้ื หาในหนังสอื และชว่ ยใหผ้ ู้อา่ นจดจาเนื้อหาได้ดยี งิ่ ขนึ้ บุษบง ตันตวิ งศ์ (2535: 1)
ได้กล่าวว่าการอ่านเป็นกระบวนการท่ีต้องเริ่มต้นต้ังแต่เด็กอยู่ในวัยทารก และเด็กน้ันพร้อมจะอ่าน
ตั้งแต่อยู่ในวัยเกือบจะแรกเกิด โดยเร่ิมด้วยความสนใจในรูปภาพที่เร้าใจ ก่อนเริ่มอ่านอักษร
หรืออ่านสัญลักษณ์ ลักษณะการอ่านจะเป็นการอ่าน จากสิ่งแวดล้อมในชีวิตประจาวัน
หรืออ่านจากหนังสือภาพแล้วพัฒนาเป็นการอ่านประกอบคา อ่านพยัญชนะ หรืออ่านประโยค
โดยรคู้ วามหมายมากขน้ึ ตามลาดับของพัฒนาการเดก็
จ า ก ค ว า ม เ ป็ น ม า แ ล ะ ค ว า ม ส า คั ญ ข อ ง ปั ญ ห า ที่ ก ล่ า ว ม า ข้ า ง ต้ น แ ส ด ง ใ ห้ เ ห็ น ว่ า
การอ่านเป็นทักษะทางภาษาที่ม่ีความสาคัญอย่างมาก และปัจจุบันการใช้บัญชีคาพ้ืนฐาน
ทางการอ่านที่มีความเหมาะสมสาหรับเด็กต้ังแต่ระดับปฐมวัยมีความสาคัญและจาเป็นมาก
เนื่องจากจะทาให้เด็กอ่านได้จากจานวนคาที่เด็กคุ้นเคยเป็นคาที่มีความหมายต่อชีวิต ประสบการณ์
6
ทส่ี ามารถพัฒนาทางภาษาดา้ นการอ่านอย่างหนงึ่ ทีน่ า่ สนใจ ผวู้ จิ ัยจึงมีความสนใจทจ่ี ะศึกษาผลการใช้
ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 3/1
โรงเรียนวัดเวฬุวนั
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
ศึกษาผลการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียน
ระดับช้ันอนบุ าลปที ี่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬวุ ัน
สมมติฐานของการวจิ ัย
หลังการใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน ทาให้นักเรียน
ระดับช้ันอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน มีพัฒนาการทางภาษาด้านการอ่านเพิ่มขึ้น
ก่อนไดร้ บั การใชช้ ุด Picture Book เพอ่ื พฒั นาทักษะทางภาษาด้านการอา่ น
ขอบเขตการวิจัย
การวจิ ัยคร้ังนี้มขี อบเขตการวิจัยดงั ตอ่ ไปนี้
ขอบเขตด้านประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี เป็นนักเรียนชาย-หญิง อายุระหว่าง 5-6 ปี ท่ีกาลังศึกษา
อยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1 จานวน 25 คน ภาคเรียนท่ี 2 ประจาปีการศึกษา 2564 โรงเรียน
วดั เวฬุวัน สังกดั สานกั เขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาเชยี งใหม่ เขต 4
ขอบเขตดา้ นเนอื้ หา
เน้ือหาท่ีใช้ในการวจิ ัยคร้ังนีป้ ระกอบไปด้วย ชุด Picture Book และพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้านการอ่านของนักเรียนอายุระหว่าง 5-6 ปี ท่ีกาลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1
โรงเรยี นวัดเวฬวุ ัน
ตัวแปรของการวจิ ยั ครงั้ นี้
ตวั แปรตน้ คอื การใช้ชดุ Picture Book
ตวั แปรตาม คือ พฒั นาทกั ษะทางภาษาด้านการอ่านของนกั เรียนระดับช้นั อนบุ าลปที ่ี 3/1
นิยามศพั ทเ์ ฉพาะ
ชุด Picture Book หมายถึง หนังสือภาพประกอบคาพ้ืนฐาน ที่มีทั้งภาพและ
คาพ้ืนฐานเพ่ือให้เด็กทราบถึงความหมายภายในภาพน้ัน ๆ ภาพในหนังสือจะช่วยเร้า
7
ความสนใจของเด็ก ซ่ึงทาให้เด็กมีความต้ังใจ ทาให้เด็กเกิดความคิด จินตนาการได้
และช่วยให้เดก็ จดจาเน้อื หาได้ดียง่ิ ขึน้
ทักษะทางภาษา หมายถึง ความสามารถในการใช้ภาษาได้อย่างถูกต้อง ภาษาเป็นเครอ่ื งมือ
ถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจซึ่งกันและกันในสัง คม ดังนั้นทุกคนในสังคมจะต้องรู้จัก
พูดจาสื่อความหมายและใช้ภาษาของตนใหถ้ กู ต้อง
การอ่าน หมายถึง การแปลความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิด
และเกิดความเขา้ ใจคาหรอื เร่ืองราวที่อ่านตรงกบั เร่ืองราวหรือความคิดของผูเ้ ขยี น
ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั จากการวจิ ยั
1. เด็กปฐมวัยระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 3/1 มีพัฒนาการทางภาษาด้านการอา่ นท่ีดีข้ึน เมื่อไดร้ ับ
การใช้ชดุ Picture Book
2. ครูได้รับชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน มาเป็นสื่อ
และนวตั กรรมในการจัดการเรยี นการสอน
3. โรงเรยี นไดร้ บั นวตั กรรมใหม่ในการจัดการเรยี นการจัดการเรยี นการสอนใหก้ ับเดก็ ปฐมวัย
8
เอกสารและงานวจิ ยั ท่ีเกี่ยวข้อง
การวิจัยเรื่อง การใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน ผู้วิจัยได้รวบรวมเอกสาร
และงานวจิ ยั ทเี่ กี่ยวขอ้ ง ดังต่อไปนี้
1. เอกสารทเ่ี กี่ยวขอ้ งกับหนังสือภาพ
1.1 ความหมายของหนงั สอื ภาพ
1.2 ความสาคัญของหนังสือภาพ
1.3 ประเภทของหนังสอื ภาพ
1.4 ประโยชน์ของหนังสอื ภาพ
2. เอกสารที่เกยี่ วข้องกบั ทกั ษะทางภาษา
2.1 ความหมายของทกั ษะทางภาษา
2.2 ความสาคัญของทกั ษะทางภาษา
2.3 พัฒนาการทักษะทางภาษา
3. เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ งกับการอ่าน
3.1 ความหมายของการอ่าน
3.2 ความสาคัญของการอา่ น
3.3 ลักษณะของการอ่าน
3.4 องค์ประกอบของการอา่ น
3.5 พฒั นาการด้านการอ่าน
4. งานวจิ ัยทีเ่ กย่ี วข้อง
9
วธิ ดี าเนินการวจิ ยั
การวจิ ัยเร่อื ง การใช้ชุด Picture Book เพอ่ื พฒั นาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรยี น
ระดบั ช้นั อนุบาลปที ี่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬวุ นั ซง่ึ ผูว้ ิจยั มีวิธดี าเนนิ การวจิ ัย ดังต่อไปน้ี
1. ประชากร
2. แบบแผนการวจิ ยั
3. เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการวิจัย
4. การสรา้ งเครอื่ งมือที่ใช้ในการวจิ ยั
5. วธิ ีการดาเนินการวจิ ยั
6. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มูล
7. การวเิ คราะห์ข้อมูลและสถติ ิทใี่ ช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล
ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยคร้ังน้ี เป็นนักเรียนชาย-หญิง อายุระหว่าง 5-6 ปี ที่กาลังศึกษา
อยู่ในระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 3/1 จานวน 25 คน ภาคเรียนท่ี 2 ประจาปีการศึกษา 2564 โรงเรียน
วัดเวฬุวนั สงั กดั สานักเขตพืน้ ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเชยี งใหม่ เขต 4
แบบแผนการวิจัย
ก าร วิ จัยใน ครั้ง นี้ เป็น ก าร ศึก ษาแบบก าร ทดลอ งก ลุ่มเดียวกั นมีก ารวัดก่อน
และหลังการจัดกิจกรรม (The One Group Comparison Pretest-Posttest Design) (เกตุมณี
มากมี, 2550) มีรายละเอยี ดดงั ตอ่ ไปนี้
ตารางที่ 3.1 ตารางแสดงแบบแผนการวิจัยเร่ืองการใช้ชุด Picture Book
เพือ่ พฒั นาทักษะทางภาษา
ดา้ นการอ่านของนกั เรยี นระดบั ชนั้ อนบุ าลปที ่ี 3/1 โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน
กล่มุ ตัวอยา่ ง สอบก่อน วิธีสอน สอบหลงั
E T1 X T2
เม่ือ E หมายถึง กลมุ่ ตวั อย่าง
X หมายถงึ แผนการวจิ ยั เรือ่ งการใช้ชดุ Picture Book เพ่ือพฒั นาทักษะทางภาษาด้าน
10
การอา่ นของนกั เรียนระดบั ชัน้ อนบุ าลปีที่ 3/1 โรงเรียนวดั เวฬวุ นั
T1 หมายถงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมพัฒนาทกั ษะทางภาษาดา้ นการอ่านของนักเรียน
ระดบั ชนั้ อนุบาลปีท่ี 3/1 กอ่ นการเรยี นรู้ (Pre-test)
T2 หมายถงึ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียน
ระดบั ชนั้ อนุบาลปีท่ี 3/1 หลังการเรียนรู้ (Posttest)
เครอ่ื งมอื ที่ใช้ในการวจิ ัย
เคร่ืองมอื ทใี่ ชใ้ นการวิจยั ในคร้งั น้ี ได้แก่
1. แ ผ น ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร ใ ช้ ชุ ด P i c t u r e B o o k เ พื่ อ พั ฒ น า ทั ก ษ ะ
ทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน จานวน 16 แผน
แผนละ 20 นาที จานวน 4 สปั ดาห์ สปั ดาหล์ ะ 4 ครง้ั ประกอบดว้ ย
1. แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยใช้ชดุ Picture Book หมวดผลไม้
2. แผนการจัดกจิ กรรมเสรมิ ประสบการณโ์ ดยใช้ชดุ Picture Book หมวดผลไม้
3. แผนการจดั กิจกรรมเสรมิ ประสบการณโ์ ดยใช้ชดุ Picture Book หมวดผลไม้
4. แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยใช้ชุด Picture Book หมวดผลไม้
5. แผนการจัดกจิ กรรมเสริมประสบการณ์โดยใชช้ ุด Picture Book หมวดผกั
6. แผนการจัดกิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์โดยใชช้ ดุ Picture Book หมวดผกั
7. แผนการจดั กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณ์โดยใช้ชุด Picture Book หมวดผัก
8. แผนการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์โดยใชช้ ุด Picture Book หมวดผัก
9. แผนการจัดกจิ กรรมเสริมประสบการณโ์ ดยใช้ชดุ Picture Book หมวดสัตว์
10. แผนการจัดกจิ กรรมเสริมประสบการณโ์ ดยใชช้ ดุ Picture Book หมวดสัตว์
11. แผนการจดั กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์โดยใช้ชดุ Picture Book หมวดสัตว์
12. แผนการจัดกิจกรรมเสรมิ ประสบการณโ์ ดยใช้ชดุ Picture Book หมวดสตั ว์
13. แผนการจดั กิจกรรมเสรมิ ประสบการณ์โดยใชช้ ุด Picture Book หมวดอาหาร
14. แผนการจดั กจิ กรรมเสรมิ ประสบการณโ์ ดยใชช้ ดุ Picture Book หมวดอาหาร
15. แผนการจดั กจิ กรรมเสริมประสบการณ์โดยใช้ชุด Picture Book หมวดอาหาร
16. แผนการจดั กจิ กรรมเสริมประสบการณ์โดยใชช้ ดุ Picture Book หมวดอาหาร
2. ส่ือชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียน
ระดบั ชน้ั อนุบาลปที ่ี 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน จานวน 4 ชดุ
11
ตารางท่ี 3.2 คาพ้นื ฐานในหมวดต่าง ๆ ท่ีใช้ในการดาเนนิ กิจกรรม
หมวด คาพ้ืนฐาน
ผลไม้ มะขาม ลาไย กลว้ ย ส้มโอ แตงโม สม้ มะมว่ ง มะพรา้ ว เงาะ มะละกอ
ผัก ผักกาด คะนา้ ผักบุ้ง ถ่วั หญ้า มะเขอื ผักชี ผกั พริก กะหล่าปลี
สตั ว์ ปู แมว นก ม้า ไก่ กงุ้ งู หมู ปลา เตา่
อาหาร นา้ ตาล กว๋ ยเตีย๋ ว ขนม แกง น้าปลา นา้ ข้าว ขา้ วสาร น้าส้ม ไข่
ตารางท่ี 3.3 ภาพประกอบคาพน้ื ฐานในหมวดตา่ ง ๆ ทใ่ี ช้ในการดาเนินกิจกรรม
12
ตารางท่ี 3.3 ภาพประกอบคาพนื้ ฐานในหมวดต่าง ๆ ทใี่ ช้ในการดาเนินกิจกรรม (ตอ่ )
13
ตารางท่ี 3.3 ภาพประกอบคาพน้ื ฐานในหมวดตา่ ง ๆ ท่ใี ช้ในการดาเนนิ กจิ กรรม (ต่อ)
3. แบบฝึกหัดหลังการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้านการอา่ นของนักเรยี นระดบั ชั้นอนบุ าลปที ี่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน จานวน 4 ชดุ
4. แบบสังเกตพฤติกรรมพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านก่อนการจัดกิจกรรมและ
หลังการจัดกจิ กรรมของนกั เรียนระดับช้นั อนบุ าลปีที่ 3/1
การสร้างเครือ่ งมอื ทใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั
การสร้างแผนการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้านการอ่านของนกั เรยี นระดบั ช้ันอนุบาลปที ี่ 3/1 โรงเรียนวดั เวฬุวันมีขัน้ ตอนดังน้ี
1. การสร้างแผนการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะ
ทางภาษาด้านการอ่านของนักเรยี นระดบั ชน้ั อนบุ าลปีท่ี 3/1 โรงเรยี นวัดเวฬุวัน มดี งั นี้
1.1 ศึกษาเอกสาร ตารา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดประสบการณ์ทักษะ
ทางภาษาดา้ นการอา่ นสาหรบั เดก็ ปฐมวัย
1.2 ศกึ ษาเอกสาร ตารา และงานวิจัยท่ีเกยี่ วข้องกับการจดั ประสบการณ์ทีม่ ีการใช้ส่ือชุด
Picture Book
14
1.3 ผู้วิจัยจัดทาแผนการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา
ดา้ นการอา่ น จานวน 16 แผน (4 สปั ดาห์) ซึ่งขัน้ ตอนการดาเนนิ กจิ กรรมประกอบดว้ ย
1. ขั้นนา เป็นการนาเด็กเข้าสู่การจัดกิจกรรม โดยการท่องคาคล้องจอง
การเล่านิทาน หรือร้องเพลง ที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับนิทานแต่ละเรื่อง พร้อมทาท่าทางประกอบ
และสนทนา เก่ียวกับคาคล้องจอง หรือเพลงนั้น ๆ เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนใจ
และมีความพร้อมก่อนทากิจกรรม
2. ข้ันดาเนินกิจกรรม เป็นจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนา
ทักษะทางภาษาด้านการอ่าน โดยมีการฝึกเด็กอ่านคาพ้ืนฐาน สะกดคา มีการใช้รูปภาพเรียง
เป็นประโยคเพ่ือให้เด็กได้มีโอกาสสังเกต คิดค้นหาคาตอบ และมีการฝึกอ่านประโยค
จากคาพื้นฐานในหมวดนัน้ ๆ
3. ข้ันสรุป เป็นการให้เด็กร่วมกันสนทนาสรุปเก่ียวกับกิจกรรมการใช้ชุด
Picture Book เพื่อพัฒนาทกั ษะทางภาษาดา้ นการอ่าน
1.4 วิเคราะห์การจัดประสบการณ์ทักษะทางภาษาด้านการอ่านสาหรับเด็กปฐมวัย
เพ่อื เปน็ แนวทางกาหนดการเขียนแผนการจดั ประสบการณ์ และกาหนดจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1.5 นาจุดประสงค์การเรียนรู้ที่ตั้งไว้มาวิเคราะห์การพัฒนาทักษะทางภาษา
โดยการจัดประสบการณ์ สื่อการสอน และการประเมินผลในแตล่ ะแผน มรี ายละเอียด ดงั น้ี
1.5.1 สาระการเรียนรู้
1.5.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1.5.3 ประสบการณ์สาคญั
1.5.4 กจิ กรรมการเรียนรู้
1.5.5 สอ่ื การเรียนรู้
1.5.6 แบบบนั ทึกหลังการจัดกจิ กรรม
1.6 นาแผนการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้านการอ่านของนักเรยี นระดบั ชน้ั อนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนวดั เวฬุวันไปใหผ้ ้เู ชย่ี วชาญตรวจสอบ
1.7 นาแผนการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้านการอ่านของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวันท่ีได้ให้ผู้เช่ียวชาญตรวจสอบ
และให้ขอ้ เสนอแนะ ไปปรบั ปรุงแกไ้ ขใหถ้ ูกตอ้ ง
1.8 นาแผนการจัดกิจกรรมการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้าน ก าร อ่าน ของ นัก เรียน ร ะ ดั บช้ัน อ นุบ า ล ปีที่ 3 / 1 โ ร ง เรียน วั ดเว ฬุวั น ท่ีไ ด้ แ ก้ ไ ข
ตามขอ้ เสนอแนะของผูเ้ ช่ียวชาญไปทดลองใช้ในงานวิจัย
1.9 บันทึกผลหลังการจัดประสบการณ์
15
2. ขน้ั ตอนการจัดทาแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรยี น มีดังน้ี
2.1 ศึกษาเอกสาร ตาราและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดประสบการ ณ์
ทกั ษะทางภาษาดา้ นการอ่านสาหรับเด็กปฐมวยั
2.2 ออกแบบแบบทดสอบก่อนและหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ โดยนา
คาพ้นื ฐานในแต่ละหมวดมาใช้
เกณฑ์การแปลผลคะแนนเฉลี่ย ไดแ้ บ่งการใหค้ ะแนนเปน็ 3 ระดบั (อุเทน ปัญโญ,
2553) ดงั น้ี
คะแนนระหวา่ ง 2.50 – 3.00 หมายถงึ อยู่ในระดบั ดี
คะแนนระหวา่ ง 1.50 – 2.49 หมายถึง อยใู่ นระดบั ปานกลาง
คะแนนระหวา่ ง 0.00 – 1.49 หมายถึง อย่ใู นระดับไมด่ ี
ในการวิจัยคร้ังนี้ผูว้ จิ ัยไดน้ าขอ้ มูลทไ่ี ด้จากการทดลองไปวิเคราะห์ดว้ ยวธิ ีทางสถติ ิ โดย
แ ป ล ค่ า ค ว า ม ห ม า ย จ า ก เ ก ณ ฑ์ ก า ร แ ป ล ผ ล ค ะ แ น น เ ฉ ล่ี ย ก า ร อ่ า น ค า พ้ื น ฐ า น ใ น ภ า ษ า ไ ท ย
แบ่งการให้คะแนนเป็น 3 ระดบั (อุเทน ปญั โญ, 2553) ดงั นี้
คะแนน 3 หมายถงึ สามารถอา่ นได้อย่างถกู ตอ้ งได้ 7-10 คา
คะแนน 2 หมายถึง สามารถอา่ นได้อย่างถูกต้องได้ 4-6 คา
คะแนน 1 หมายถึง สามารถอ่านไดอ้ ยา่ งถูกต้องได้ 1-3 คา
2.3 นาแบบทดสอบที่สร้างแล้วเสนอต่อผู้เช่ียวชาญเพือ่ ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
2.4 จัดพมิ พ์แบบทดสอบเพอ่ื ใชใ้ นงานวิจัยต่อไป
วิธีการดาเนินการวจิ ัย
ในการวิจัยคร้ังนผ้ี ้วู ิจยั ได้ทาการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ดังนี้
1. กาหนดหัวข้อวิจัยและเก็บรวบรวมข้อมูลเสนอต่อครูพ่ีเลี้ยงให้ได้รับการอนุมัติ
วิจัยในชั้นเรียนเรื่อง การใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนกั เรยี นระดับชั้นอนุบาลปที ่ี 3/1 โรงเรยี นวัดเวฬวุ ัน
2. ประสานงานกับทางโรงเรียนวัดเวฬุวัน ตาบลยางเนิ้ง อาเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่
เพ่ือกาหนด วัน เวลา ในการดาเนินการจัดประสบการณ์ตามแผนการจัดประสบการณ์
เ รี ย น รู้ โ ด ย ใ ช้ ชุ ด สื่ อ P i c t u r e B o o k เ พื่ อ พั ฒ น า ทั ก ษ ะ ท า ง ภ า ษ า ด้ า น ก า ร อ่ า น
ของนกั เรียนระดบั ช้ันอนบุ าลปที ่ี 3/1 โรงเรยี นวดั เวฬุวนั
3. นาแบบทดสอบก่อนการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ (Pre-test) โดยใช้ชุดส่ือ Picture
Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียน
วดั เวฬวุ ัน ทดสอบกับเดก็ เป็นรายบคุ คล
16
4. ดาเนินการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์และชุดส่ือ Picture Book
เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับช้ันอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียน
วดั เวฬวุ ันจานวน 16 แผน แผนละ 20 นาที จานวน 4 สปั ดาห์ สัปดาหล์ ะ 4 ครั้ง
ตารางท่ี 3.4 การดาเนินการทดลองวิจัยเร่อื ง การใชช้ ดุ Picture Book เพอ่ื พฒั นาทักษะทางภาษา
ดา้ นการอ่านของนกั เรียนระดับชนั้ อนบุ าลปีท่ี 3/1 โรงเรยี นวัดเวฬวุ นั
ครง้ั ท่ี วนั /เดอื น/ปี เคร่ืองมือที่ใช้ในการวิจัย ดาเนินการทดลอง/
Pre-test 26 พ.ย. 2564 - คาช้แี จงแนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมการเรียนรู้
8 ธ.ค. 2564 - ดาเนนิ การประเมนิ ทักษะทางภาษา - แบบทดสอบกอ่ น
1 9 ธ.ค. 2564 ด้านการอา่ น โดยใชแ้ บบทดสอบกอ่ น การจัดประสบการณ์การ
2 10 ธ.ค. 2564 การจัดประสบการณ์การเรียนร(ู้ Pre-test) เรยี นรู้ (Pre-test)
3 11 ธ.ค. 2564 - ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมเรียนรู้ โดยใช้ชดุ
4 Picture Book หมวดผลไม้ ครั้งท่ี 1 - แผนการจัดกิจกรรม
- บันทกึ ผลหลงั การจดั กิจกรรม คร้งั ท่ี 1 การใชช้ ดุ Picture Book
หมวดผลไม้ ครงั้ ที่ 1
- ดาเนนิ การจดั กิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชุด - ชดุ สื่อ Picture Book
Picture Book หมวดผลไม้ ครงั้ ท่ี 2 หมวดผลไม้
- บันทกึ ผลหลังการจัดกิจกรรม ครั้งท่ี 2 - แผนการจดั กิจกรรม
การใชช้ ุด Picture Book
- ดาเนินการจดั กิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชดุ หมวดผลไม้ ครง้ั ที่ 2
Picture Book หมวดผลไม้ คร้ังท่ี 3 - ชุดสื่อ Picture Book
- บันทกึ ผลหลงั การจัดกิจกรรม คร้ังท่ี 3 หมวดผลไม้
- แผนการจดั กิจกรรม
- ดาเนนิ การจัดกิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชุด การใชช้ ุด Picture Book
Picture Book หมวดผลไม้ ครัง้ ที่ 4 หมวดผลไม้ ครง้ั ที่ 3
- บันทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรม ครัง้ ท่ี 4 - ชดุ สอ่ื Picture Book
หมวดผลไม้
- แผนการจัดกิจกรรม
การใช้ชุด Picture Book
หมวดผลไม้ ครัง้ ท่ี 4
- ชดุ สื่อ Picture Book
หมวดผลไม้
17
ครงั้ ที่ วัน/เดือน/ปี เครื่องมือที่ใชใ้ นการวิจยั ดาเนินการทดลอง/
กจิ กรรมการเรยี นรู้
คร้งั ที่ วัน/เดอื น/ปี เครือ่ งมอื ท่ีใช้ในการวิจยั ดาเนนิ การทดลอง/
กิจกรรมการเรยี นรู้
- ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ โดยใช้ชุด -
Picture Book หมวดผกั ครง้ั ที่ 1 แผนการจัดกจิ กรรมการใ
5 14 ธ.ค. 2564 - บันทึกผลหลงั การจดั กิจกรรม ครง้ั ท่ี 1 ชช้ ุด Picture Book
หมวดผัก คร้ังท่ี 1
- ชดุ สอ่ื Picture Book
หมวดผกั
- ดาเนินการจัดกิจกรรมเรยี นรู้ โดยใช้ชดุ -
Picture Book หมวดผัก ครง้ั ที่ 2 แผนการจดั กจิ กรรมการใ
6 15 ธ.ค. 2564 - บันทึกผลหลังการจัดกิจกรรม ครั้งที่ 2 ชช้ ุด Picture Book
หมวดผัก คร้งั ท่ี 2
- ชุดส่อื Picture Book
หมวดผัก
- ดาเนนิ การจดั กจิ กรรมเรียนรู้ โดยใช้ชดุ -
Picture Book หมวดผกั ครั้งที่ 3 แผนการจัดกจิ กรรมการใ
7 16 ธ.ค. 2564 - บนั ทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรม ครง้ั ท่ี 3 ชช้ ุด Picture Book
หมวดผกั คร้งั ท่ี 3
- ชุดส่อื Picture Book
หมวดผกั
- ดาเนินการจัดกจิ กรรมเรียนรู้ โดยใช้ชดุ -
Picture Book หมวดผกั ครง้ั ที่ 4 แผนการจัดกิจกรรมการใ
8 17 ธ.ค. 2564 - บันทกึ ผลหลังการจัดกิจกรรม ครั้งที่ 4 ช้ชดุ Picture Book
หมวดผกั คร้ังที่ 4
- ชดุ ส่ือ Picture Book
หมวดผัก
- ดาเนนิ การจัดกจิ กรรมเรยี นรู้ โดยใช้ชดุ -
9 20 ธ.ค. 2564 Picture Book หมวดสตั ว์ ครง้ั ท่ี 1 แผนการจดั กจิ กรรมการใ
- บนั ทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรม คร้งั ที่ 1 ช้ชุด Picture Book
หมวดสัตว์ ครงั้ ท่ี 1
18
- ชุดสือ่ Picture Book
หมวดสัตว์
ครงั้ ท่ี วัน/เดือน/ปี เครอื่ งมือทใ่ี ชใ้ นการวิจยั ดาเนินการทดลอง/กิจก
รรมการเรียนรู้
- ดาเนนิ การจดั กิจกรรมเรยี นรู้ โดยใช้ชดุ -
Picture Book หมวดสตั ว์ ครัง้ ที่ 2 แผนการจดั กิจกรรมการใ
10 21 ธ.ค. 2564 - บนั ทกึ ผลหลังการจดั กิจกรรม ครั้งท่ี 2 ชช้ ดุ Picture Book
หมวดสัตว์ ครงั้ ที่ 2
- ชุดสื่อ Picture Book
หมวดสตั ว์
- ดาเนินการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้ โดยใช้ชดุ -
Picture Book หมวดสัตว์ ครง้ั ท่ี 3 แผนการจัดกจิ กรรมการใ
11 22 ธ.ค. 2564 - บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรม ครั้งท่ี 3 ช้ชุด Picture Book
หมวดสตั ว์ ครง้ั ที่ 3
- ชุดสื่อ Picture Book
หมวดสัตว์
- ดาเนินการจัดกิจกรรมเรยี นรู้ โดยใช้ชุด -
Picture Book หมวดสตั ว์ คร้งั ท่ี 4 แผนการจัดกิจกรรมการใ
12 23 ธ.ค. 2564 - บนั ทกึ ผลหลังการจัดกิจกรรม ครัง้ ที่ 4 ช้ชุด Picture Book
หมวดสัตว์ ครงั้ ท่ี 4
- ชดุ สื่อ Picture Book
หมวดสัตว์
- ดาเนนิ การจัดกิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชุด -
Picture Book หมวดอาหาร ครั้งที่ 1 แผนการจดั กจิ กรรมการใ
13 24 ธ.ค. 2564 - บนั ทึกผลหลงั การจัดกิจกรรม ครั้งท่ี 1 ช้ชุด Picture Book
หมวดอาหาร คร้ังที่ 1
- ชุดส่อื Picture Book
หมวดอาหาร
- ดาเนินการจดั กิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชุด -
14 27 ธ.ค. 2564 Picture Book หมวดอาหาร ครั้งที่ 2 แผนการจัดกจิ กรรมการใ
- บนั ทึกผลหลังการจดั กิจกรรม คร้งั ที่ 2
19
ครัง้ ท่ี วนั /เดือน/ปี เครอื่ งมอื ทใี่ ช้ในการวิจัย ดาเนินการทดลอง/กิจก
รรมการเรียนรู้
15 28 ธ.ค. 2564 - ดาเนนิ การจัดกิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชุด
16 29 ธ.ค. 2564 Picture Book หมวดอาหาร คร้งั ที่ 3 ช้ชุด Picture Book
Posttest 30 ธ.ค. 2564 - บันทึกผลหลังการจัดกิจกรรม ครงั้ ท่ี 3 หมวดอาหาร ครง้ั ท่ี 2
- ชุดสอ่ื Picture Book
- ดาเนนิ การจัดกิจกรรมเรียนรู้ โดยใช้ชุด หมวดอาหาร
Picture Book หมวดอาหาร ครั้งท่ี 4 - แผนการจัดกิจกรรม
- บนั ทกึ ผลหลงั การจัดกิจกรรม ครั้งที่ 4 การใชช้ ดุ Picture Book
หมวดอาหาร ครง้ั ที่ 3
- คาชแ้ี จงแนวการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ - ชดุ ส่อื Picture Book
- หมวดอาหาร
ดาเนนิ การประเมนิ ทกั ษะทางภาษาดา้ นก
ารอ่าน -
โดยใชแ้ บบทดสอบหลังการจดั ประสบการ แผนการจัดกจิ กรรมการใ
ณ์การเรียนรู้ (Posttest) ช้ชุด Picture Book
หมวดอาหาร ครัง้ ที่ 4
- ชุดสือ่ Picture Book
หมวดอาหาร
-
แบบทดสอบหลงั การจัด
ประสบการณ์การเรยี นรู้
(Posttest)
5. วิเคราะห์ผลแบบทดสอบเชิงปฏิบัติการทักษะการอ่านสาหรับเด็กปฐมวัยก่อน
และหลังการจัดกิจกรรม โดยการนาคะแนนของการทดสอบก่อนและหลังการจัดทากิจกรรม
มาวิเคราะห์หาคะแนน เฉล่ยี และมีการนาเสนอรูปแบบตารางและแผนภมู ิประกอบคาบรรยาย
6. สรุปผลการวจิ ยั ในรปู แบบตารางประกอบคาบรรยาย
7. รายงานผลการวิจัย ด้วยตารางและการบรรยายประกอบ
การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
การทดลองคร้ังนี้ดาเนินการในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 เป็นเวลา 4 สัปดาห์
สปั ดาหล์ ะ 4 วนั ใชเ้ วลา 20 นาที คอื เวลา 13.30 - 13.50 น. โดยมีขั้นตอนดังนี้
20
1. ท ด ส อ บ ก่ อ น ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เ รี ย น รู้ โ ด ย ใ ช้ แ บ บ ท ด ส อ บ ก่ อ น
การจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ (Pre-test)
2. จัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้แผนการจัดประสบการณ์และชุดส่ือ Picture Book
เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน
ดาเนินการ ในภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564 โดยใช้ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมคร้ังละ 20 นาที
รวมเวลา 4 สปั ดาห์ สัปดาห์ละ 4 วัน จนส้ินสดุ การจดั กิจกรรม
3. ท ด ส อ บ ห ลั ง ก า ร จั ด กิ จ ก ร ร ม ก า ร เรี ยน รู้ โ ด ย ใ ช้ แ บ บ ท ด ส อ บ ห ลั ง ก าร จัด
ประสบการณ์การเรียนรู้ (Posttest)
4. วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสังเกตพฤติกรรมพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิ จกรร มของนัก เรียนระ ดับชั้นอนุบาลปีที่ 3/1
กบั เด็กเปน็ รายบุคคล โดยคะแนนของเดก็ แต่ละคนมาหาผลรวมหาคา่ เฉลยี่ และคา่ ร้อยละ
5. วิเคราะห์ข้อมูลสถิติที่ใช้ในการวิจัย โดยนาคะแนนมาหาผลรวม แปลผลเป็นค่าเฉลี่ย
และร้อยละ จากนั้นนาคะแนนกอ่ นและหลังการจัดกิจกรรม โดยมีการแสดงข้อมลู เป็นรูปแบบตาราง
และแผนภมู ปิ ระกอบคาบรรยาย
การวิเคราะห์ข้อมูลและสถิติท่ีใชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมลู
ในการวจิ ยั ครง้ั นีผ้ ู้วิจยั ได้นาขอ้ มลู ทไ่ี ดจ้ ากการทดลองไปวเิ คราะห์ดว้ ยวธิ ีทางสถติ ิ ดังน้ี
1. สถิติ ิพ้นื ฐานท่ีนามาวิเคราะห์ขอ้ มูล
1.1 การหาคา่ เฉลย่ี (Mean) (ล้วน สายยศ และองั คณา สายยศ, 2538)
=
เมอื่ แทน คา่ เฉลย่ี เลขคณิต
แทน ผลรวมของคะแนนทง้ั หมด
แทน จานวนกลุม่ ตัวอย่าง
1.2 การหาคา่ ส่วนเบ่ียงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) (ลว้ น สายยศ และอังคณา
สายยศ, 2538)
2 − ( )2
= √ ( − 1)
เม่ือ แทน ความเบีย่ งเบนมาตรฐาน
แทน จานวนนกั เรียนในกลุ่มตัวอย่าง
แทน ผลรวมของคะแนนทัง้ หมด
2 แทน
ผลรวมของคะแนนนักเรียนแตล่ ะคนยกกาลังสอง
21
1.3 สูตรการหาค่าร้อยละความกา้ วหน้า (พชิ ติ ฤทธ์จิ รูญ,2550: 78)
= 2 − 1 100
เมอ่ื D แทน ค่ารอ้ ยละความกา้ วหนา้
1 แทน ค่าเฉล่ียของคะแนนกอ่ นเรยี น
2 แทน คา่ เฉลีย่ ของคะแนนหลังเรยี น
N แทน คะแนนเต็ม
22
ผลการวิเคราะหข์ ้อมลู
การวิจัย การใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนักเรียนระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน โดยการศึกษาการวิจัยในคร้ังน้ี
เป็นนักเรียนชาย-หญิง อายุระหว่าง 5-6 ปี ที่กาลังศึกษาอยู่ในระดับช้ันอนุบาลปีท่ี 3/1 จานวน 25
คน ภาคเรียนท่ี 2 ประจาปีการศึกษา 2564 โรงเรียนวัดเวฬุวัน สังกัดสานักเขตพื้นท่ีการศึกษา
ประถมศึกษาเชียงใหม่ เขต 4 โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาผลการใช้ชุด Picture Book
เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับช้ันอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน
ผู้วจิ ยั ไดน้ าเสนอผลการวิเคราะหข์ อ้ มลู ดังน้ี
ตารางที่ 4.1 แสดงคะแนนค่าเฉล่ีย และผลการพฒั นาความก้าวหนา้ กอ่ นการจดั กิจกรรมและหลัง
การจัดกิจกรรม โดยใชช้ ดุ Picture Book เพอ่ื พฒั นาทกั ษะทางภาษาดา้ นการอ่านของ
นักเรียนระดับช้ันอนบุ าลปที ี่ 3/1 โรงเรียนวดั เวฬวุ นั
คนที่ คะแนนกอ่ นการจัดกิจกรรม คะแนนหลงั การจัดกจิกรรม คา่ ร้อยละความ
(Pre-test)
(Posttest) กา้ วหน้า (D)
12 3 3.33
22 3 3.33
32 3 3.33
41 2 3.33
51 2 3.33
61 2 3.33
71 2 3.33
82 3 3.33
91 3 6.66
10 2 3 3.33
11 1 3 6.66
12 1 3 6.66
23
คนที่ คะแนนกอ่ นการจัดกิจกรรม คะแนนหลงั การจดั กจิกรรม ค่ารอ้ ยละความ
(Pre-test) (Posttest) ก้าวหน้า (D)
13
14 1 2 3.33
15 1 2 3.33
16 1 2 3.33
17 1 3 6.66
18 1 3 6.66
19 1 3 6.66
20 1 3 6.66
21 1 2 3.33
22 2 3 3.33
23 1 2 3.33
24 2 3 3.33
25 2 3 3.33
รวมคะแนน 1 3 6.66
33 66 109.89
1.32 2.64 44.00
6.60 13.20
-
จากตารางที่ 4.1 แสดงคะแนนคา่ เฉล่ยี และผลการพัฒนาความกา้ วหน้ากอ่ นการจัดกิจกรรม
และหลังการจัดกิจกรรม โดยใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนักเรยี นระดบั ชั้นอนุบาลปที ่ี 3/1 โรงเรยี นวดั เวฬวุ ัน พบวา่ กอ่ นการจดั กิจกรรมมคี ะแนนคา่ เฉลี่ย
( ) 1.32 และหลังการจดั กิจกรรมมีคะแนนคา่ เฉลีย่ เฉลยี่ ( ) 2.64
24
แผนภูมิท่ี 4.1 แสดงคะแนนค่าเฉลยี่ กอ่ นการจดั กิจกรรมและหลงั การจดั กิจกรรม โดยใช้ชดุ Picture
Book เพือ่ พฒั นาทักษะทางภาษาดา้ นการอ่านของนกั เรียนระดบั ช้ันอนบุ าลปีท่ี 3/1
โรงเรียนวัดเวฬุวัน เปน็ รายบุคคล
คะแนนค่าเฉลยี่ กอ่ นและหลังการจดั กิจกรรมรายบุคคล
3.5
3
2.5
2
1.5
1
0.5
0
คนท่ี คนท่ี คนที่ คนท่ี คนท่ี คนท่ี คนท่ี คนท่ี คนที่ คนที่ คนท่ี คนท่ี คนที่ คนท่ี คนที่ คนท่ี คนที่ คนที่ คนท่ี คนที่ คนที่ คนที่ คนท่ี คนที่ คนท่ี
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 21 22 23 24 25
ก่อนการจัดกิจกรรม หลงั การจดั กิจกรรม
จากแผนภูมิท่ี 4.1 แสดงคะแนนค่าเฉลี่ย ก่อนการจัดกิจกรรมและหลังการจัดกิจกรรม
โดยใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับชั้นอนุบาล
ปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน รายบุคคล พบว่า นักเรียนทุกคนมีพัฒนาทักษะทางภาษา
ด้านการอ่านสูงข้นึ มากกวา่ ก่อนการจัดกจิ กรรม
25
แผนภูมิท่ี 4.2 แสดงคะแนนค่าเฉลีย่ กอ่ นการจดั กิจกรรมและหลังการจดั กิจกรรม โดยใช้ชดุ Picture
Book เพ่ือพัฒนาทกั ษะทางภาษาดา้ นการอ่านของนักเรียนระดับชั้นอนบุ าลปีท่ี 3/1
โรงเรียนวัดเวฬุวนั
คะแนนค่าเฉลยี่ กอ่ นและหลังการจดั กจิ กรรม
3
2.5
2
1.5
1
0.5
0
กอ่ นการจดั กิจกรรม หลังการจดั กจิ กรรม
จากแผนภูมิที่ 4.2 แสดงให้เห็นว่า ทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียนระดับช้ัน
อนุบาลปีที่ 3/1 หลังการจัดกิจกรรมโดยใช้ชุด Picture Book มีคะแนนค่าเฉลี่ย ( ) 2.64
สงู กวา่ ก่อนการจดั กจิ กรรมโดยใชช้ ุด Picture Book มีคะแนนค่าเฉลี่ย ( ) 1.32
26
สรปุ อภปิ รายผล และขอ้ เสนอแนะ
การวิจัยคร้ังนี้มีวัตถุประสงค์เพ่ือศึกษาผลการใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนา
ทักษะทางภาษาด้านการอา่ นของนกั เรียนระดับชนั้ อนุบาลปีท่ี 3/1 โรงเรียนวดั เวฬวุ ัน ผู้วจิ ยั ได้สรุปผล
อภปิ รายผลและใหข้ ้อเสนอแนะ ไวด้ ังน้ี
สรปุ ผลการวจิ ยั
จากการวิจัยการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของนักเรียน
ระดับชั้นอนุบาลปีท่ี 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน ผลการวิจัยพบว่า คะแนนหลังการจัดประสบการณ์
(Posttest) มีคะแนนค่าเฉล่ีย ( ) 2.64 สูงกว่าคะแนนแบบทดสอบก่อนการจัดประสบการณ์
(Pre-test) มีคะแนนค่าเฉล่ีย ( ) 1.32 โดยเด็กปฐมวัยมีความก้าวหน้าของทักษะทางภาษาสูงข้ึน
มีความก้าวหน้า (D) คิดเปน็ คะแนนค่าเฉลี่ยอยูท่ ี่ 44.00
อภปิ รายผล
จากการศึกษาผลการใช้ชุด Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนกั เรยี นระดับช้นั อนุบาลปที ี่ 3/1 โรงเรียนวดั เวฬุวัน สามารถอภปิ รายผล ไดด้ งั นี้
ผลที่เกิดขึ้นจากการใช้ชุด Picture Book เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
ของนักเรียนระดับช้ันอนุบาลปีที่ 3/1 โรงเรียนวัดเวฬุวัน พบว่า หลังการจัดกิจกรรม
เด็กมีพัฒนาการทางด้านทักษะทางภาษาด้านการอ่าน สูงข้ึนก่อนการจัดกิจกรรม ซ่ึงการใช้ชุด
Picture Book เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่านของเด็กปฐมวัย มีความน่าสนใจต่อเด็ก
เป็นอย่างมาก สอดคล้องกับเอกสารท่ีเกี่ยวข้องกับหนังสือภาพสาหรับเด็กของอัจฉรา ประดิษฐ์
(2556) ได้กล่าวถึงความสาคัญของภาพประกอบไว้ดังน้ี หนังสือภาพเป็นก ารผสมผสานภาพ
และคาเข้าด้วยกันเพื่อนาเสนอเนื้อหา ใช้หน้ากระดาษเพ่ือนาเสนอภาพมากกว่าเนื้อหา
เล่าเรื่องด้วยภาพต้ังแต่หน้าแรกถึงหน้าสุดท้าย สามารถสร้างความเพลิดเพลินในการอ่าน
ให้แก่คนได้ทุกวัยมักแต่งให้เด็กเล็กหรือเด็กปฐมวัยอ่านจึงมักใช้ภาษาง่ายๆ เพ่ือช่วยพัฒ นา
การอ่านให้เด็ก เม่ือเด็กยังอ่านไม่ออก ผู้ใหญ่ก็จะอ่านหรือฝึกอ่านให้เด็กฟัง ขณะท่ีเด็กดูภาพ
และเม่ือเด็กอ่านหนังสือออกแล้ว เด็กสามารถอ่านเองได้ด้วยความเพลิดเพลิน ซ่ึงช่วยสร้างทักษะ
การอา่ นควบคูก่ ับการสรา้ งจินตนาการแกเ่ ด็กได้ ภาพประกอบใชเ้ ทคนคิ หลากหลาย เช่น ภาพดิจิตอล
ภาพสนี ้ามัน ภาพสนี า้ ภาพขาวดา ภาพเสก็ตช์ดินสอ ภาพปะติด ภาพสพี ลาสติค ภาพประดษิ ฐจ์ ากผ้า
ภาพดินป้ัน ภาพตัดกระดาษ ฯลฯ แม้ภาพประกอบจะเป็นหลักสาคัญของหนังสือ แต่เนื้อเรื่อง
27
ก็ ส า คั ญ เ ช่ น กั น เ พ ร า ะ เ ป็ น แ ร ง บั น ด า ล ใ จ ใ น ก า ร ส ร้ า ง ภ า พ ป ร ะ ก อ บ
ดั ง นั้ น ท้ั ง เ รื่ อ ง แ ล ะ ภ า พ จึ ง ต้ อ ง ส อ ด ป ร ะ ส า น ก ล ม ก ลื น กั น
และช่วยเอ้ือกันและกันในการสร้างความหมายให้เนื้อเร่ืองบางกรณี ภาพอาจช่วยเน้นเร่ืองให้เดน่ ขึน้
และมีพลังในการส่ือสารมากกว่าเน้ือเร่ือง และสอดคล้องกับเอกสารที่เกี่ยวข้องกับพัฒนา
ทักษะทางภาษาของบรรพต พรประเสริฐ (2556) ได้กล่าวถึงความสาคัญของทักษะทางภาษา
ไวห้ ลากหลาย ดังนี้
1. ภาษาเป็นสง่ิ สาคญั ในการดารงชวี ิตทีต่ ้องติดต่อสร้าง ความสมั พนั ธ์ทางสังคมทตี่ นดารงอยู่
2. ภาษาเปน็ กจิ กรรมสาคัญในการจดั การเรยี นการสอนท้งั ในและนอกระบบโรงเรยี น
3. ภ า ษ า เ ป็ น สื่ อ ส า คั ญ ที่ ช่ ว ย ใ ห้ม นุษ ย์ ส า มา ร ถแ ล ก เ ป ล่ี ยน ค ว า ม รู้ค ว ามคิด
เรียนรดู้ ้วยตนเองจากส่อื
4. ภาษาเป็นส่วนหน่งึ ของวฒั นธรรมท่แี ตล่ ะเผ่าชน ชนชาติท่ีแสดงให้เหน็
5. ภาษาเป็นเอกลักษณป์ ระจาชาติ 6. ภาษาเปน็ เครอ่ื งมอื ในการประกอบอาชีพ
7. ภาษาเป็นสิง่ ทใ่ี ช้แสดงออกเพ่อื ระบายอารมณ์จากการไดส้ นทนาพูดคยุ
8. การใช้ภาษาของมนุษยเ์ ป็นเคร่ืองบ่งบอกถึงบุคลิกภาพของผพู้ ูด
9. ภาษาเป็นเครื่องมือสาคัญท่ีจะใช้โน้มน้าวใจคนและยังสอดคล้องกับงานวิจัยของ รตี
งามนิยม (2558) ได้ศึกษาผลวิจัย เร่ืองแนวทางการสร้างหนังสือนิทานภาพสาหรับเด็กปฐมวัย
ผลการวิจัยพบว่า ผู้ปกครอง นักวิชาการ และผู้ผลิตมีความเข้าใจท่ีไม่สอดคล้องกัน กล่าวคือ
ผู้ปกครองเห็นความสาคัญ และเข้าใจคุณสมบัติที่ดีของนิทานภาพรวมท้ังรู้ถึงวิธีการใช้
นิทานกับลูกอย่างถูกต้องตามท่ีนักวิชาการระบุไว้ แต่ก็ยังมีความเข้าใจผิดเก่ียวกับการเลือก
หนังสือนิทานภาพ ซ่ึงผู้ปกครองต้องการหนังสือนิทานภาพที่มีเนื้อหาส่ือสารหลายประเด็น
ในเล่มเดยี วเพ่อื ความคุม้ คา่ ในการซือ้ ท่ีสอดคล้องกับปัจจัยราคา รวมถงึ ไม่ช่ืนชอบนทิ านทมี่ ีเพยี งสีขาว
และดาเท่าน้ันในด้านความเข้าใจที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างผู้ปกครอง และผู้ผลิตคือ
ผู้ผลิตเข้าใจว่าการลดราคา และรางวัลจากการประกวดนิทานมีผลกระตุ้นการตัดสินใจซ้ือ
ของผปู้ กครองเปน็ อยา่ งมากรวมถงึ รายละเอยี ดทางเทคนคิ ในภาพประกอบไมม่ ีผลต่อการตัดสนิ ใจซื้อ
แต่อยา่ งใด
กล่าวโดยสรุปคือหนังสอื นิทานท่ีดคี วรสื่อสารในประเด็นเดียวแต่เสริม พัฒนาการหลายด้าน
ตามวัยของเดก็ สาหรับเดก็ วัย 0-3 ปี สีขาวดาจะช่วยส่งเสริม และเปิดกวา้ งทางจินตนาการไดม้ ากกว่า
และทาให้เด็กสนใจกับรูปทรงของภาพในนิทาน ได้ดีโดยไม่ถูกรบกวนจากสีที่หลากหลาย
นอกจากน้ียังสอดคล้องกับงานวิจัยของ นาถศจี สงค์อินทร์ (2560) ได้ศึกษาผลวิจัย
เร่ืองการพัฒนาหนังสือภาพประกอบคาคล้องจอง Big & Small Book เพื่อส่งเสริมความสามารถ
ด้านการอ่านของเดก็ ปฐมวยั ตามแนวทาง Brain-based learning ผลการวิจยั พบว่า
28
1. ผลการพัฒนาหนังสือภาพประกอบคาคล้องจอง Big & Small Book จานวน 5 เล่ม
ประกอบด้วยเสยี ง ก ข ค ง จ และกระบวนการ AEAE 4 Step เพื่อสง่ เสรมิ ความสามารถดา้ นการอา่ น
ของเด็กปฐมวัยตามแนวทาง Brain-based learning ที่ตรวจสอบคุณภาพโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 5 ท่าน
มีผลค่าเฉลี่ยท่ี 4.83 หมายถงึ มคี วามเหมาะสมในระดับมากที่สุด
2. ความสามารถด้านการอ่านของเด็กประถมวัยตามแนวทาง Brain-based learning
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ 0.01 3. ผลการประเมินความพึงพอใจ
ของครูปฐมวัย หนังสือภาพประกอบคาคล้องจอง Big & Small Book เพ่ือส่งเสริมความสามารถ
ด้านการอ่านของเด็กปฐมวัยตามแนวทาง Brain-based learning มีความพึงพอใจในระดับ
ม า ก ท่ี สุ ด โ ด ย มี ค่ า เ ฉ ล่ี ย ท่ี 4 . 7 3 แ ล ะ จุ ไ ร รั ต น์ ม ณี ฉ า ย ( 2 5 5 8 ) ไ ด้ ศึ ก ษ า ผ ล วิ จัย
ผลการใช้หนังสือนิทานประกอบภาพเพื่อพัฒนาความฉลาดทาง อารมณ์ประกอบกิจกรรม
การเลา่ นิทานของนักเรยี นชัน้ อนบุ าลปีที่ 3
ผลการวิจัยพบว่า ผลของการจัดประสบการณ์ โดยใช้หนังสือนิทานประกอบภาพ
เพื่อพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ประกอบกิจกรรมการเล่านิทาน ของนักเรียนช้ันอนุบาลปีที่ 3
โรงเรียนรีสอร์ทอนุบาลทุ่งสง นักเรียนมีพัฒนาการท่ีดีขึ้น มีประสิทธิภาพเหมาะส ำหรับ
ใช้ส่งเสริมพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ และการพัฒนา ความฉลาดทางอารมณ์มีความเหมาะสม
ที่จะนาไปใช้จัดประสบการณ์สาหรับนักเรียนอนุบาล เพ่ือพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์
กระบวนการคิดเสริมสร้าง และปลูกฝังนสิ ัยรกั การอ่านได้อยา่ งมี ประสิทธิภาพ และ สารินี มูลสถาน
(2555) ได้ศึกษาผลวิจัย เร่ืองผลการใช้บัญชีคาพื้นฐานเพื่อ พัฒนาทักษะการอ่านภาษาไทย
สาหรับเด็กปฐมวัย ผลการวิจัยพบว่า การสอนด้วยกิจกรรมเรียนรู้ โดยการใช้บัญชีพ้ืนฐาน
เพ่ือพัฒนาทักษะการอ่านภาษาไทยของนักเรียนร้อยละ 80 ขึ้นไป มีจานวนนักเรียน 71.05
ซึ่ง เป็น ไ ปตามเก ณฑ์ที่ก าหนดไว้ และ ผู้เรียน มีความสามารถในกิ จกร รมต่าง ๆ คือ
กิจกรรมการเรียนรู้บัญชีคาพื้นฐานและเกมภาษาอยู่ในระดับ 3 คือ ร้อยละ 94.74 ร้อยละ 97.37
ตามลาดับนน้ั อาจเปน็ เพราะวา่ การจดั กิจกรรมไดม้ ีลาดับขนั้ ตอนท่เี ป็นระบบมกี ารเสริมความสามารถ
ของนักเรียนจนสามารถพัฒนานักเรียนในการเรียนภาษาไทย อีกท้ังงานวิจัยของวรรณิษา หาคูณ
อรอุมา เจริญสุข และกุลยา ตันติผลาชีวะ ได้ศึกษาผลวิจัย เร่ืองการส่งเสริมพฤติกรรมการอ่าน
ของเดก็ ปฐมวัย โดยใชก้ ิจกรรมหนังสอื นิทาน ผลการวิจัยพบวา่
1. ศึกษาพฤติกรรมการอ่านของเด็กปฐมวัยเด็กปฐมวัยท่ีได้รับกิจกรรมหนังสือนิทาน
ก่อนการทดลองระหว่างการทดลอง และหลังการทดลองมีค่าคะแนนเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น
อยา่ งมนี ัยสาคญั ทางสถติ ทิ ่ีระดับ .01 มีค่าเปล่ยี นแปลงเพิ่มขึน้ ก่อนการทดลองการสังเกต คร้งั ที่ 1, 2,
3 และการสังเกตครั้งที่ 4 มีค่าคะแนนเฉลี่ย เท่ากับ 5.35, 11.10, 13.75, 14.75 และ 15.65
ตามลาดบั
29
2. การเปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการอ่านของเด็กปฐมวัยท่ีได้รับกิจกรรม
หนังสือนิทานก่อนการทดลอง และหลังการทดลอง แตกต่างอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติท่ีระดับ .01
มคี า่ ระดบั พฒั นาการร้อยละ 64.38
ข้อเสนอแนะ
1. ข้อเสนอแนะทไ่ี ด้จากผลการวจิ ยั
1.1 เม่ือจัดกิจกรรมแล้วพบว่า ควรไปจัดกิจกรรมในช่วงเช้าของวันเพ่ือความสะดวก
ในการจัดการเรยี นรู้
1.2 เมื่อจัดกจิ กรรมแล้วพบว่า ควรมีการกิจกรรมในห้องเรียน เพอ่ื เกิดประสทิ ธิภาพที่ดีข้ึน
1.3 สื่อในการจัดกิจกรรมควรมีความแข็งแรงทนทาน เพ่ือให้ระหว่างการทากิจกรรม
ไมเ่ กดิ การชารดุ เสียหายได้ง่าย
2. ข้อเสนอแนะในการทาวิจยั ครงั้ ต่อไป
2.1 ควรศึกษาชุดสื่อในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
กบั กลุ่มตัวอย่างอ่ืน ๆ ในระดบั ชั้นอนบุ าล 3 ของโรงเรียนอื่น ๆ ทงั้ โรงเรียนรัฐบาลและเอกชน
2.2 ควรศึกษาชุดสื่อในรูปแบบท่ีหลากหลาย เพ่ือพัฒนาทักษะทางภาษาด้านอ่ืน ๆ เช่น
ดา้ นการพดู ดา้ นการฟัง และดา้ นเขยี น
2.3 ควรศึกษาชุดสื่อในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อพัฒนาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
กับกลมุ่ ตัวอย่างอน่ื ๆ ในระดับชั้นอนุบาลตา่ ง ๆ
30
ภาคผนวก
31
ภาคผนวก ก
เครื่องมือทใ่ี ช้ในการเกบ็ รวบรวมขอ้ มูลแบบทดสอบการอ่านคาพนื้ ฐานในภาษาไทย
33
32
33
ภาคผนวก ข
ตวั อย่างแบบฝึกหดั หลังการจัดกิจกรรมการใช้ชดุ Picture Book
เพือ่ พฒั นาทักษะทางภาษาด้านการอ่าน
35
34
36
35
37
36
37
ภาคผนวก ค
ภาพก่อนการจัดกิจกรรม (Pre-test)
และภาพหลงั การจัดกจิ กรรม (Posttest)
38
ภาพก่อนการจดั กจิ กรรม (Pre-test)
39
ภาพหลงั การจัดกจิ กรรม (Posttest)