The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ปีงบประมาณ พ.ศ.2567

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 335ed000045, 2023-10-25 04:38:29

คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ปีงบประมาณ พ.ศ.2567

คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ปีงบประมาณ พ.ศ.2567

คำนำ ห้องสมุดประชาชน เป็นแหล่งเรียนรู้ทางเลือกหนึ่งของประชาชนที่จะส่งเสริมให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ ตลอดชีวิต ด้วยเหตุที่ห้องสมุดประชาชนเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูล ข่าวสาร ความรู้ทางด้านวิชาการต่างๆ ที่สามาร ค้นคว้าได้ อย่างหลากหลายตามความสนใจและความต้องการของประชาชน ภาระงานที่สำคัญของบรรณารักษ์ และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดประชาชน จึงมีความสำคัญซึ่งต้องนำนโยบายดำเนินงานห้องสมุดประชาชนไปปฏิบัติให้บัง เกิดผล ก่อให้เกิดความสร้างสรรค์ การบริการสื่อทุกประเภทได้อย่างหลากหลายและที่สำคัญยังต้องทำหน้าที่ กิจกรรมส่งเสริมการอ่านอย่างต่อเนื่องอีกประการหนึ่งด้วย ในงบประมาณ พ.ศ. 2567 ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ จังหวัดยโสธร จึงได้พัฒนาคู่มือการจัดโครงการ/กิจกรรมส่งเสริมการอ่านขึ้น โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุน บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดประชาชน ได้นำไปศึกษาเป็นแนวทางในการดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการ อ่าน ในเอกสารประกอบไปด้วยรูปแบบกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน, ลักษณะกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน บทบาทหน้าที่ ภารกิจหลักของบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้รับนโยบายและแนวทางการดำเนินงานการจัดกิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน จากผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดยโสธร และความร่วมมือของผู้บริหารศูนย์ ส่งเสริมการเรียนรู้ทั้ง 9 อำเภอ ตลอดจนภาคีเครือข่ายในพื้นที่ พร้อมบุคลากรในสังกัด ร่วมในการจัดทำคู่มือการ จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จึงขอขอบคุณไว้ณ ที่นี้ กลุ่มการศึกษาตามอัธยาศัย ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว


สารบัญ เรื่อง หน้า คำนำ ก สารบัญ ข ตอนที่ 1 บทนำ 1 ประวัติความเป็นมาศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว 1 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว 2 ประวัติความเป็นมาห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”จังหวัดยโสธร 6 ห้องสมุดกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต 10 บทบาทหน้าที่ของห้องสมุด 11 บทบาทหน้าที่ของบรรณรักษ์ 15 ตอนที่ 2 การอ่านและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 18 การอ่านและความสำคัญของการอ่าน 18 แนวคิดในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน 21 ขั้นตอนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 22 ประเภทของการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 19 แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 23 เทคนิคการจัดป้ายนิเทศ 25 เทคนิคการเล่านิทาน 27 ตอนที่ 3 แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 28 โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่สำหรับชาวตลาด 29 โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ร่วมกับอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ 30 โครงการบ้านหนังสือชุมชน 31 โครงการวันเด็กแห่งชาติ 32 โครงการ 2 เมษามหกรรมการอ่าน 33 โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ “หนังสือดี ปลุกสมอง” 34 โครงการห้องสมุดเคลื่อนรูปแบบส่งเสริมการอ่านเชิงรุก 35 โครงการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ 37


กิจกรรม หนังสือดี 38 ภาคผนวก จรรยาบรรณของบรรณารักษ์และผู้ปฏิบัติงานห้องสมุด 40 บรรณานุกรม 42 คณะผู้จัดทำ 43


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 1 | 44 ตอนที่ 1 บทนำ ข้อมูลพื้นฐานศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว ชื่อสถานศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว ที่ตั้ง/การติดต่อ หมู่ที่ 1 ถนนแจ้งสนิท ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร รหัสไปรษณีย์ 35110 โทรศัพท์ 045-791098 โทรสาร 045-791098 E-mail : [email protected] Website : http://yaso.nfe.go.th/khamkhuankaeo/ สังกัด สำนักงานส่งเสริมส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้วจังหวัดยโสธร กรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ประวัติความเป็นมาของสถานศึกษา ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว เดิมเป็นศูนย์ประสานงานการศึกษานอกโรงเรียน (ศปอ.) เริ่ม ดำเนินการมาเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2532 โดยใช้อาคารเก็บวัสดุของอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นที่ทำการชั่วคราวจัด ร่วมกับการให้บริการห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้จัดตั้งเป็น “ศูนย์บริการการศึกษานอกโรงเรียนอำเภอ (ศบอ.)” ตั้งแต่วันที่1 มิถุนายน 2536 เป็นต้นมา และได้รับการต่อเติมอาคารสถานที่เพื่อจัดกิจกรรมเพิ่มเติมทุกปี ปี 2551 เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว” จนถึงปัจจุบัน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นสถานศึกษาในสังกัด สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงศึกษาธิการ เป็นศูนย์กลางการให้บริการการศึกษานอกโรงเรียนและการศึกษาตลอดชีวิต สำหรับ นักศึกษาและประชาชนทั่วไปในเขตอำเภอคำเขื่อนแก้ว ปัจจุบันมี นายมนตรี เวียงอินทร์ เป็นผู้อำนวยการ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว อาณาเขต ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอเมืองยโสธร และ อำเภอป่าติ้ว จังหวัดยโสธร ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอมหาชนะชัย จังหวัดยโสธร ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอเขื่องใน จังหวัดอุบลราชธานี ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเมือง จังหวัดยโสธร และอำเภอพนมไพร จังหวัดร้อยเอ็ด


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 2 | 44 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ประวัติห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้วตั้งอยู่บริเวณ หลังที่ว่าการอำเภอคำเขื่อนแก้ว หมู่ 2 ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 35110 โทรศัพท์ 045-791098 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว จัดตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2494 อาศัยบ้านนายอ่อนตา มาลัย เป็นอาคารชั่วคราว ต่อมาได้อาศัย ครูช่วยงานแผนกศึกษาธิการอำเภอ ทำหน้าที่บรรณารักษ์ห้องสมุด นายอำเภอ ซึ่งเป็นประธานกรรมการโดยตำแหน่ง ได้ประชุมหารือคณะกรรมการและประชาชน ได้รับเงินบริจาค 2,000 บาท เก็บเงินจากสมาชิกห้องสมุดจำนวน 3,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 5,000 บาท ตั้งแต่ พ.ศ. 2505 เพื่อจัดสร้าง ห้องสมุดประชาชน แต่ยังไม่มีบรรณารักษ์ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2515 จังหวัดจึงแต่งตั้งบรรณารักษ์ห้องสมุด ประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ปี พ.ศ. 2539 ได้จัดสร้างห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ที่มีลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียว (อาคาร หลังปัจจุบัน) และมีบรรณารักษ์ดูแลอยู่ประจำ ปี พ.ศ. 2551ได้รับการสนับสนุนงบประมาณในโครงการพัฒนาห้องสมุดประชาชนมีชีวิตจากบริษัท หลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) จำนวน 240,000 บาท ปี พ.ศ. 2551 ได้รับคัดเลือกเป็น “ ห้องสมุดประชาชนดีเด่น ” รองอันดับ 3 ของภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ประจำปี 2551 ปี พ.ศ. 2551 ได้รับคัดเลือกเป็นห้องสมุดประชาชนดีเด่นระดับกลุ่มสามเหลี่ยมมรกต ประจำปี พ.ศ. 2551 ปี พ.ศ. 2552 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาห้องสมุดประชาชนมี ชีวิตของสำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยได้รับงบประมาณสนับสนุน โครงการจำนวน 150,000 บาท ปี พ.ศ. 2552 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้เข้าร่วมโครงการตามแผนปฏิบัติการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด จังหวัดยโสธร ตามยุทธศาสตร์และกลไกการ้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของรัฐบาล (5 รั้วป้องกัน/7 โครงการหลัก) ประจำปี พ.ศ. 2552 (เมษายน – กันยายน 2552) ของศูนย์ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อ เอาชนะยาเสพติดจังหวัดยโสธร (ศตส.จ.ยส.) ในโครงการบ้านหลังเรียน ซึ่งได้รับเงินสนับสนุนโครงการ จำนวน 2,500 บาท ปี พ.ศ.2553 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้รับการจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาลในงบ โครงการไทยเข้มแข็ง 2555 สำหรับจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ในชุมชน จำนวน 100,000 บาท


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 3 | 44 ปี พ.ศ.2553 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาห้องสมุดให้ เป็น “ห้องสมุด 3 D” ตามนโยบาย ห้องสมุด 3 D ของสำนักงาน กศน. จำนวน 450,000 บาท เพื่อจัดหาหนังสือ สื่อการเรียนรู้สำหรับห้องสมุด ปี พ.ศ.2555 ได้เข้าร่วมโครงการอบรมและประกวดห้องสมุดมีชีวิต ครั้งที่ 4 สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ TK Park โดยได้รับเงินสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จำนวน 30,000 บาท สถานที่ตั้ง ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ในสังกัดศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 2 ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 35110 โทรศัพท์ 045-791539 โทรสาร 045-791098 E-mail [email protected] เว็บไซต์ http://yaso.nfe.go.th/khamkhuankaeo/library/ ลักษณะอาคาร ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นอาคารเอกเทศ อาคารคอนกรีต 1 ชั้น จำนวนพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 27 ตารางวา ระยะเวลาดำเนินการ ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว เปิดบริการทุกวัน ระหว่างเวลา 08.30 น. ถึง เวลา 16.30 น. (ปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์) จำนวนผู้ปฏิบัติงาน จำนวนผู้ปฏิบัติงานในห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว มีจำนวน 2 คน คือ 1. นางสาววิราพร คำวิไชย ตำแหน่งบรรณารักษ์ 2. นางสาวจินตหรา หงษา ตำแหน่งพนักงานบริการ วิสัยทัศน์ มุ่งส่งเสริมการอ่าน ทำงานร่วมกับเครือข่าย เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ อย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของคนในชุมชน พันธกิจ 1. พัฒนาห้องสมุดประชาชนให้เป็นห้องสมุดมีชีวิต 2. พัฒนาห้องสมุดประชาชนให้เป็นแหล่งการเรียนรู้ในชุมชน มุ่งเน้นการประสานความร่วมมือกับแหล่ง การเรียนรู้ต่างๆ ในชุมชน เพื่อจัดทำฐานข้อมูลแหล่งการเรียนรู้


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 4 | 44 3. พัฒนาห้องสมุดประชาชน มุ่งเน้นให้เป็นแหล่งการศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเองของนักศึกษาตลอดจน ส่งเสริมให้สถานศึกษาพัฒนารูปแบบและวิธีการเรียนรู้การศึกษาตามอัธยาศัย ให้มีความหลากหลาย ปรัชญาห้องสมุด หนังสือคือสื่อนำทาง หนังสือคือสารเสริมปัญญา นำพาแสงสว่างสู่ชีวิต เป้าหมาย 1. เป็นศูนย์กลางการอ่าน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการได้อ่านหนังสือโดยเสรี และสามารถพัฒนาทักษะ ได้เป็นอย่างดี 2. เป็นศูนย์ปฏิบัติการในอำเภอเพื่อศึกษาและค้นคว้าวิจัยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้บริการได้ค้นคว้าหาความรู้ ตามลำพังหรือการทำรายงานเป็นกลุ่มและคอยให้คำแนะนำในการค้นหาข้อมูล 3. เป็นศูนย์กลางในการผักผ่อนหย่อนใจ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถพักผ่อนได้ตามอัธยาศัย ผ่อนคลาย ความเครียด 4. เป็นศูนย์การในการบริการสารสนเทศ เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลสารสนเทศตามความ ต้องการของผู้ใช้บริการ 5. เป็นแหล่งบริการความรู้ทางด้านศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และข้อมูลอำเภอคำเขื่อนแก้ว 6. เป็นแหล่งบริการความรู้สาธารณะแก่ผู้ใช้บริการ และมีข้อมูลเพียงพอในการจัดให้บริการประชาชน เป้าหมายการให้บริการ กลุ่มเป้าหมายในระบบโรงเรียนและศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว และประชาชนทั่วไป 1. นักเรียนในระบบโรงเรียนในเขตคำเขื่อนแก้ว และกลุ่มเป้าหมายพิเศษ ได้แก่ 1.1 โรงเรียนคำเขื่อนแก้วชนูปถัมภ์ 1.2 โรงเรียนอนุบาลลุมพุก (วันครู 2503) 1.3 โรงเรียนคำเขื่อนแก้ว 1.4 ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กในเขตพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว 2. นักศึกษานอกโรงเรียนศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว ทั้ง 13 แห่ง ได้แก่ 2.1 ศกร.ตำบลลุมพุก 2.2 ศกร.ตำบลย่อ 2.3 ศกร.ตำบลสงเปือย 2.4 ศกร.ตำบลโพนทัน 2.5 ศกร.ตำบลทุ่งมน 2.6 กศน.ตำบลดงแคนใหญ่ 2.7 ศกร.ตำบลกู่จาน


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 5 | 44 2.8 ศกร.ตำบลนาแก 2.9 ศกร.ตำบลกุดกุง 2.10 ศกร.ตำบลเหล่าไฮ 2.11 ศกร.ตำบลแคนน้อย 2.12 ศกร.ตำบลดงเจริญ 2.13 ศกร.ตำบลนาคำ 3. ประชาชนในเขตอำเภอคำเขื่อนแก้ว และพื้นที่ใกล้เคียง กลยุทธ์ 1. พัฒนารูปแบบ และวิธีการเรียนรู้การศึกษาตามอัธยาศัยให้มีความหลากหลาย 2. พัฒนาระบบการให้บริการและเทคโนโลยีสารสนเทศให้ทันสมัย 3. พัฒนาบุคลากร พัฒนางาน ประสานความร่วมมือกับแหล่งการเรียนรู้ต่างๆ และภาคีเครือข่าย 4. พัฒนารูปแบบ และวิธีการในการดำเนินการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 6 | 44 ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ความเป็นมาห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร อำเภอคำเขื่อนแก้ว เป็นพื้นที่ดำเนินการก่อสร้าง ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ซึ่งได้รับพระราชทานพระราชานุญาต ให้ก่อสร้างในปี พ.ศ. 2559 เป็นลำดับที่ 111 การระดมทุนก่อสร้าง โดยการนำของ นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร ได้เงิน บริจาคจากการจัดทำผ้าป่ามหากุศล เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2559 จำนวน 9,841,134.12 บาท (เก้าล้านห้า-แสนสี่ หมื่นหนึ่งพันหนึ่งร้อยสามสิบสี่บาทสิบสองสตางค์) ในปี พ.ศ. 2560 จังหวัดยโสธร ได้จัดทำสัญญาจ้างโครงการ ก่อสร้างห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร โดยได้จัดทำสัญญาจ้างโครงการก่อสร้าง กับ ห้าง หุ้นส่วนจำกัด มุกดารุ่งเรืองก่อสร้าง เป็นเงินจำนวนทั้งสิ้น 7,076,000 บาท (เจ็ดล้านเจ็ดหมื่นหกพันบาทถ้วน) ควบคุมดูแลการก่อสร้าง โดยโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดยโสธร ในวันเสาร์ที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2560 ได้มีการทำพิธียกเสาเอกห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร โดย นายบุญธรรม เลิศสุขีเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร เป็นประธานในพิธียกเสาเอก ซึ่งเป็น ห้องสมุดลำดับที่ 111 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ พ่อค้า และประชาชนทั่วไปเข้าร่วมงาน ประมาณ 700 คน ถวายแผ่นศิลาฤกษ์ ห้องสมุด ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร วันศุกร์ที่ 8 ธันวาคม 2560 สมเด็จพระ กนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานวโรกาสให้ นายอุดม คชินทร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธรและคณะ ได้ เข้าเฝ้าทูลละอองพระบาททูลเกล้าทูลกระหม่อม ถวาย แผ่นศิลาฤกษ์ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร เพื่อทรงพระสุหร่าย และทรงเจิม สำหรับ นำไปประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ประชาชนในพื้นที่ วันพฤหัสบดีที่ 21 ธันวาคม 2560 นายนิกร สุกใส ผู้ว่าราชการ


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 7 | 44 จังหวัดยโสธร ได้เป็นประธาน ในพิธีวางศิลาฤกษ์ ณ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร อำเภอ คำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร เมื่อปี พ.ศ. 2561 ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี”จังหวัดยโสธรได้รับการจัดสรรงบประมาณจาก สำนักงาน กศน. กระทรวงศึกษาธิการ จำนวน 516,700 บาท (ห้าแสนหนึ่งหมื่นหกพันเจ็ดร้อยบาทถ้วน) ในการ จัดซื้อครุภัณฑ์ เพื่อใช้ในห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ปัจจุบัน ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ได้ดำเนินการก่อสร้างและตกแต่งภายนอกภายในแล้วเสร็จประมาณ 90% โดยเป็น อาคาร 2 ชั้น ชั้นบนประกอบด้วย ห้องทรง งาน ห้องมัลติมีเดีย ห้องฮุ่งเฮืองเมืองยศ ห้องประเพณีวัฒนธรรม ชั้นล่างประกอบด้วย ซุ้มพระฉายาลักษณ์ มุมติดต่อประชาสัมพันธ์ มุม ICT มุมเด็กและครอบครัว มุมหนังสือ พระไตรปิฎก มุมหนังสือทั่วไป และปัจจุบัน ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร เปิดให้บริการทุกวันจันทร์-วันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 08.00- 16.30 น. หยุดทุกวันนักขฤต ภายใต้การบริหารงานโดย นายมนตรี เวียงอินทร์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการ เรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว ทำเนียบผู้บริหาร ลำดับที่ ชื่อ-สกุล ตำแหน่ง รวมระยะเวลา 1 นางนลิน เรืองบุตร ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2536 - 2543 2 นายสุทธิชัย บุญทัย ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2543 - 2548 3 นางกรรณิการ์ รอบคอบ ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2548 - 2554 4 ว่าที่ ร.ต.สานิตย์ เจือจันทร์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2554 - 2557 5 นางมาลี พิญญศักดิ์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2557 - 2559 6 นายชัยพร บุญปัญญา ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2559 - 2564 7 นายมนตรี เวียงอินทร์ ผู้อำนวยการสถานศึกษา พ.ศ. 2564- ถึงปัจจุบัน


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 8 | 44 สถานที่ตั้ง ถนนแจ้งสนิท ตำบลลุมพุก อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร 35150 วันเวลาเปิดให้บริการ วันจันทร์-วันอาทิตย์ เวลา 08.30 น. – 17.00 น. (วันหยุดนักขัตฤกษ์) วิสัยทัศน์ “มุ่งส่งเสริมการอ่านทำงานร่วมกับเครือข่าย เพื่อสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ อย่างสอดคล้องกับวิถีชีวิต และความเป็นอยู่ของคนในชุมชน” พันธกิจ 1. จัดกระบวนการเรียนรู้ให้ผู้รับบริการอย่างต่อเนื่อง 2. ส่งเสริมนิสัยรักการอ่านให้ประชาชนในชุมชนทุกกลุ่มเป้าหมาย 3. สร้างบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการอ่านและการเรียนรู้ 4. ส่งเสริมสนับสนุนเครือข่ายให้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน 5. จัดหาหนังสือและสื่อการเรียนรู้ที่สนองต่อนโยบายและตรงตามใจผู้รับบริการ 6. จัดกิจกรรมแบบเชิงรุก เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ยุทธศาสตร์การดำเนินงาน 1. จัดทำแผนปฏิบัติงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร 2. จัดให้มีคณะดำเนินงานกิจกรรมโครงการ 3. จัดโครงการ/กิจกรรมและการบริการแบบเชิงรุก 4. พัฒนาคุณภาพงานของห้องสมุดที่มีประโยชน์และตรงตามความต้องการของผู้รับบริการ 5. จัดหาทรัพยากรสารสนเทศภายใต้นโยบายของสำนักงาน กศน.และการเสนอแนะของผู้ใช้บริการ 6. ศึกษาและประเมินความพึงพอใจของผู้รับบริการอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง 7. สนับสนุนส่งเสริมให้บุคลากรได้เพิ่มพูนความรู้ความสามารถทางวิชาชีพและความรู้ด้านอื่นๆ 8. จัดทำสรุปผลการปฏิบัติงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร เพื่อการ


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 9 | 44 หน้าที่ความรับผิดชอบ กิจกรรมที่ 1 การศึกษาต่อเนื่อง ❖ การศึกษาเพื่อพัฒนาอาชีพ ❖ การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะชีวิต ❖ การศึกษาเพื่อพัฒนาสังคมและชุมชน ❖ จัดกระบวนการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมที่ 2 การศึกษาพื้นนอกระบบ ❖ ระดับประถมศึกษา ❖ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ❖ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ศกร.ตำบลและศูนย์การเรียนชุมชนที่รับผิดชอบ ❖ ศกร.ตำบลลุมพุก ❖ ศกร.ตำบลย่อ ❖ ศกร.ตำบลสงเปือย ❖ ศกร.ตำบลโพนทัน ❖ ศกร.ตำบลทุ่งมน ❖ ศกร.ตำบลดงแคนใหญ่ ❖ ศกร.ตำบลกู่จาน ❖ ศกร.ตำบลนาแก ❖ ศกร.ตำบลกุดกุง ❖ ศกร.ตำบลเหล่าไฮ ❖ ศกร.ตำบลแคนน้อย ❖ ศกร.ตำบลดงเจริญ ❖ ศกร.ตำบลนาคำ การศึกษาตามอัธยาศัย ❖ ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ❖ ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ❖ หน่วยบริการการศึกษาทางไกล ❖ บริการสืบค้นข้อมูล Internet และบริการข้อมูลแหล่งเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 10 | 44 ห้องสมุดกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต การเรียนรู้ตลอดชีวิต “การเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ การเรียนรู้ที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการ ศึกษาในระบบ การศึกษา นอกระบบ และการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้สามารถ พัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต” การเรียนรู้ ตลอดชีวิตจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาบุคลากรในองค์กรต่างๆ เนื่องจากสังคมปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงใน หลากหลายแง่มุมของชีวิต มนุษย์ผู้คนในสังคมแห่งการเรียนรู้จึงควรนำการศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิตเพื่อ พัฒนาปรับปรุงตนเองอย่างต่อเนื่องและเพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเองในการ ปรับปรุงคุณภาพการปฏิบัติงาน การติดตามการเปลี่ยนแปลงทางด้านวิทยาการต่างๆ อยู่สมอ อันนำไปสู่คุณภาพการปฏิบัติงานและการบริการที่ เป็นเลิศ อย่างไรก็ตามการเรียนรู้ตลอดชีวิต การมีค่านิยมที่ถูกต้องในเรื่องการเรียนรู้จะทำให้ คนไทยสามารถ ปรับตัวอยู่ในโลกปัจจุบันได้ ซึ่งการเรียนรู้ลอดชีวิตประกอบด้วย หลักสำคัญ ๔ ประการ คือ 1. การเรียนเพื่อรู้ 2. การเรียนรู้เพื่อปฏิบัติได้จริง 3. การเรียนรู้ที่จะอยู่ร่วมกัน 4. การเรียนรู้เพื่อชีวิต จะเห็นได้ว่าการเรียนรู้ตลอดชีวิตมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ แหล่งการเรียนรู้ มีหลากหลาย รวมถึงห้องสมุดที่เป็นแหล่งรวมองค์ความรู้ เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ต่อยอดความรู้ และ เป็นฟันเฟืองสำคัญในการสร้างเติมกระบวนการเรียนรู้ตลอดชีวิต ห้องสมุดกับการเรียนรู้ตลอดชีวิต ในโลกยุคปัจจุบัน เป็นยุคข่าวสารข้อมูลที่ทั่วโลกสามารถที่จะรับรู้ข่าวสารได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว จึงมี ผลต่อการพัฒนาประเทศให้เจริญทัดเทียมกับอารยประเทศทั้งหลาย ดังนั้นในการพัฒนาประเทศให้มีความ เจริญก้าวหน้า จึงมีความจำเป็นที่จะต้องพัฒนาคนในประเทศให้เป็นคนรักการอ่าน รักการเรียนรู้ และพัฒนา สังคมไทยให้เป็นสังคมที่มีความรู้เป็นพื้นฐาน ซึ่งในปัจจุบันการแสวงหาความรู้นั้นหาได้ไม่ยาก เนื่องจากความรู้มี มากมายหลากหลาย และมีเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้จากแหล่งความรู้ต่างๆ ได้ อย่างไม่จำกัด จนทำให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ในการเรียนรู้ได้ตลอดชีวิต ห้องสมุดจึงเป็นทางเลือกหนึ่งใน การส่งเสริมให้เกิดการเรียนรู้ตลอดชีวิต เพราะเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารความรู้ และวิชาการต่างๆ ที่ ทันสมัย ทันต่อเหตุการณ์ สามารถศึกษาค้นคว้าหาความรู้ได้อย่างหลากหลาย ตามความสนใจและความต้องการ ของตนเองและบุคลากรที่ขับเคลื่อนการส่งเสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัยคือ บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด นั่นเอง ภาระงานของบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดถือเป็นบทบาทที่สำคัญในการดำเนินงานห้องสมุด


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 11 | 44 บทบาทหน้าที่ของห้องสมุด ห้องสมุดประชาชนมีบทบาทหน้าที่เป็นองค์กรหลักในชุมชน เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ของประชาชน กล่าวคือ 1. เป็นแหล่งความรู้ตลอดชีวิตของประชาชน โดยแบ่งเป็นแหล่งวิทยาการและสถานที่คนทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะจะมาใช้บริการ เพื่อการเรียนรู้และพัฒนาความรู้อย่างอิสระ 2. เป็นแหล่งที่ประชาชนจะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้อย่างกว้างขวาง นอกเหนือไปจากการส่งเสริมการเรียนรู้จากสื่ออิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ 3. เป็นแหล่งที่กระตุ้นและตอบสนองความกระหายใคร่รู้ของประชาชนในชุมชน ซึ่งจะรับรองการ เปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ในชุมชนและขณะเดียวกันก็จะเป็นปัจจัยที่จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาขึ้นในชุมชนด้วย 4. เป็นแหล่งรวมความรู้ ข้อมูล มรดกทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ ฯลฯ ซึ่งเป็น ทรัพยากรของชุมชน ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร แบ่ง โครงสร้างองค์กรและการบริหารของห้องสมุด แบ่งส่วนการบริหารงานเป็น 3 งาน คือ 1. งานบริหารจัดการ 2. งานพัฒนาและวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ 3. งานบริการและกิจกรรม โดยมีผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้เป็นผู้บริหารสูงสุด และมีบรรณารักษ์เป็นผู้กำกับดูแลและ ปฏิบัติงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ภารกิจของห้องสมุดประชาชน เพื่อให้สอดคล้องกับบทบาทหน้าที่ดังกล่าว ห้องสมุดประชาชนจึงมีภารกิจหลัก ดังนี้ 1. การให้บริการ โดยจัดบริการความรู้ ข่าวสารข้อมูลจากสื่อหลัก 2 ประเภท คือ 1.1 สื่อหนังสื่อ 1.2 สื่อเทคโนโลยีสารสนเทศ 2. การส่งเสริมการให้บริการ โดยการสร้างระบบเครือข่ายเชื่อมโยงห้องสมุดประชาชนเข้ากันกับ หน่วยงานอื่นๆ เพื่อกระตุ้นเร่าเร้า ให้มีส่วนร่วมในการให้บริหารความรู้ที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ตามอัธยาศัยของ ประชาชนโดยการสร้างเครือข่ายท้องถิ่น เครือข่ายระดับภูมิภาค ตลอดจนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต 3. การส่งเสริมการใช้บริการ ซึ่งเป็นการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมการศึกษาต่างๆ เช่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การจัดเวทีแลกเปลี่ยนความรู้ กิจกรรมพัฒนาทักษะการเขียนฯลฯ ตลอดจนการสร้าง ความเข้าใจต่อการเรียนรู้อย่างอิสระ การส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การนำความรู้ที่ได้จากการศึกษาตามอัธยาศัย ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 12 | 44 งานบริหารจัดการ ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร มีการจัดทำ แผนปฏิบัติงานประจำปีงบประมาณ 2566 ของห้องสมุดห้องสมุดประชาชนอำเภอคคำเขื่อนแก้ว เพื่อเป็นแนวทาง ในการดำเนินงานตามภารกิจตามดังกล่าว ดังนั้น เพื่อให้การปฏิบัติงานตามภารกิจด้านต่างๆ ดำเนินไปอย่าง ถูกต้อง และสมบูรณ์อย่างดีและมีประสิทธิภาพ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้ 1. เพื่อใช้เป็นคู่มือในการปฏิบัติงานของบุคลากรตามภารกิจและเป้าหมายที่วางไว้ 2. เพื่อใช้เป็นคู่มือในการติดตามและประเมินผลการดำเนินภารกิจด้านต่างๆ ของห้องสมุด 3. เพื่อใช้เป็นกลไกในการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานของบุคลากร บทบาทหน้าที่ของห้องสมุดประชาชน มีหน้าที่ในการประสานงานกับบุคลากรและหน่วยงานภายใน และภายนอก สนับสนุนด้านวัสดุอุปกรณ์ เพื่อการปฏิบัติงานภายในของห้องสมุด รวมทั้งการซ่อมบำรุงครุภัณฑ์ และควบคุมการเบิกจ่ายวัสดุ โดยมีภารกิจดังนี้ 1. งานงบประมาณและแผน 2. งานสารบรรณ 3. งานการประชุม 4. งานพัสดุ 5. งานบุคคล 6. งานอาคารและสถานที่ 7. งานประกันคุณภาพการศึกษา งานพัฒนาและวิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว ห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร มีการจัดหา ทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภททั้งรูปแบบสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศนวัสดุ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ โดยวิธีการจัดซื้อ หรือรับ บริจาคหลังจากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์หมวดหมู่ทรัพยากรสารสนเทศ เพื่อความสะดวก รวดเร็วในการ บริการ โดยมีภารกิจหลัก ดังนี้ 1. จัดหาทรัพยากรสารสนเทศทุกประเภท 2. จัดเตรียมทรัพยากรสารสนเทศ 3. วิเคราะห์ทรัพยากรสารสนเทศ 4. บำรุงรักษา และซ่อมแซมทรัพยากรสารสนเทศ 5. สำรวจทรัพยากรสารสนเทศ 6. จำหน่ายทรัพยากรสารสนเทศ


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 13 | 44 ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว และห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร มีการ จัดหมวดหมู่หนังสือตามระบบทศนิยมดิวอี้ แบ่งออกเป็น 10 หมวดใหญ่ คือ 000 – เบ็ดเตล็ดทั่วไป 100 – ปรัชญาและจิตวิทยา 200 – ศาสนา 300 – สังคมศาสตร์ 400 – ภาษา 500 – วิทยาศาสตร์บริสุทธิ์ 600 – เทคโนโลยี 700 – ศิลปะและนันทนาการ 800 – วรรณกรรม 900 – ประวัติศาสตร์และภูมิศาสตร์ มีการจัดซื้อหนังสือทรัพยากรสารสนเทศ เข้าห้องสมุดโดยมีการสำรวจความต้องการสื่อของประชาชน ผู้รับบริการ มีความต้องการหนังสือประเภทไหนมากที่สุด และคำนึงถึงหนังสือสื่อที่ทันสมัย โดยผลการสำรวจความ ต้องการพบว่าผู้รับบริการมีความต้องการหนังสือประเภทนวนิยาย, การทำอาหาร และได้จัดซื้อหนังสือ สื่อ เพื่อให้บริการ งานบริการและกิจกรรม ห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว และห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร เป็น แหล่งรวบรวบข้อมูล ศูนย์สารสนเทศระดับอำเภอ มีบทบาทหน้าที่ในการจัดกิจกรรม/โครงการ เพื่อส่งเสริมการ อ่านสำหรับนักเรียน, นักศึกษา และประชาชน เพื่อปลูกฝังนิสัยรักการอ่านเพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ โดยมี ภารกิจในการให้บริการทรัพยากรสารสนเทศทุกรูปแบบ และมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านต่างๆ มากมาย เพื่อให้ตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ ทั้งในห้องสมุดและในพื้นที่ หมู่บ้าน ชุมชน โดยมีภารกิจหลัก ๆ ดังนี้ 1. บริการการอ่าน เป็นบริการหลักของห้องสมุดที่จัดหาและคัดเลือกหนังสือ สิ่งพิมพ์ต่างๆ มาไว้เพื่อ ให้บริการ และจัดเตรียมสถานที่ให้อำนวยความสะดวกต่อการอ่าน เพื่อตอบสนองความต้องการ และความสนใจ ของผู้ใช้มากที่สุด 2. บริการยืม – คืน ทรัพยากรสารสนเทศประเภทต่างๆ ตามระเบียบการยืมของห้องสมุด 3. บริการแนะนำการใช้ห้องสมุด เป็นบริการเพื่อแนะนำผู้ใช้ให้ทราบว่า ห้องสมุดจัดบริการอะไรบ้าง ให้กับผู้ใช้ เช่น ประวัติของห้องสมุด ระเบียบการยืม - คืนทรัพยากรสารสนเทศ มารยาทในการใช้ห้องสมุด บริการ และกิจกรรมต่างๆ ของห้องสมุด เป็นต้น


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 14 | 44 4. บริการตอบคำถามและช่วยการค้นคว้า เป็นบริการที่บรรณารักษ์ จะช่วยให้คำแนะนำและบริการ ตอบคำถามแก่นักเรียนและผู้ใช้ ทั้งคำถามทั่วไปเกี่ยวกับการใช้ห้องสมุด และคำถามที่ต้องค้นหาคำตอบจาก ทรัพยากรสารสนเทศต่างๆ ในห้องสมุด 5. บริการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการแนะแนวการอ่าน เป็นบริการสำคัญที่ห้องสมุดจัดขึ้น เพื่อส่งเสริมการอ่าน พัฒนานิสัยรักการอ่าน และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ นอกจากนี้ยังเป็นการช่วยเหลือผู้ใช้ ห้องสมุดที่มีปัญหาในการอ่าน ผู้ที่ไม่อยากอ่านหนังสือ หรือเลือกหนังสืออ่านไม่เหมาะสมกับความต้องการ ของตน 6. บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ใช้บริการสามารถสืบค้นข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่สนใจได้ทั่วโลก ซึ่งทำให้ผู้ใช้ สามารถเข้าถึงสารสนเทศที่ทันสมัยได้มากขึ้น ตรงตามความต้องการและสะดวกรวดเร็ว 7. บริการห้องสมุดเคลื่อนที่ เป็นบริการส่งเสริมการอ่านที่ห้องสมุดร่วมกับภาคีเครือข่ายในการจัด กิจกรรมส่งเสริมการอ่านในพื้นที่ บริการให้กับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล อำนวยความสะดวก ประชาสัมพันธ์งาน ห้องสมุดและ งาน สกร.อำเภอ ให้ประชาชนในพื้นที่ได้ทราบข้อมูล


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 15 | 44 บทบาทหน้าที่ของบรรณารักษ์ บรรณารักษ์คือ ผู้นำของห้องสมุดประชาชนแต่ละแห่ง ภารกิจของบรรณารักษ์คือ การนำนโยบายการ ดำเนินการห้องสมุดประชาชนไปปฏิบัติให้บังเกิดผล ก่อให้เกิดการบริการที่หลากหลาย เป็นไปตามความต้องการ ของกลุ่ม เป้าหมาย บรรณารักษ์เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบห้องสมุดประชาชนทางด้านกายภาพ หรือที่เรียกว่าโครงสร้าง พื้นฐานทั้งภายในและภายนอกห้องสมุด มีหน้าที่จัดเตรียมสร้างสรรค์การบริการสื่อทุกประเภท และจัดกิจกรรม ส่งเสริมการอ่านให้ห้องสมุดมีชีวิตชีวา เจ้าหน้าที่ห้องสมุด คือ บุคคลสำคัญที่เป็นผู้ช่วยเหลือ หรือปฏิบัติหน้าที่ แทน ในกรณีที่ไม่บรรณารักษ์ หรือมีบรรณารักษ์แต่บรรณารักษ์ไม่สามารถปฏิบัติ หน้าที่ได้กล่าวได้ว่า ทั้งบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด ต่างก็มีความสำคัญในฐานะผู้ขับเคลื่อนนโยบายการดำเนินการห้องสมุดประชาชนให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย นั้นเอง โดยมีภาระงานหลักๆ ได้ 6 ด้าน ดังนี้คือ 1. บริการยืม-คืนหนังสือและสื่ออื่นๆ เป็นกิจกรรมที่ประชาชนสามารถยืม หนังสือและสื่อต่างๆ ไปอ่านและไปศึกษา และนำกลับมาคืนตามกำหนด 2. บริการช่วยค้นคว้าและตอบคำถาม เป็นกิจกรรมที่บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดจะช่วยเหลือ ประชาชนผู้มาใช้บริการให้ศึกษาค้นคว้าได้ง่ายขึ้น โดยมีบรรณารักษ์หรืออุปกรณ์ในการอำนวยความสะดวกในการ สืบค้น เช่น บัตรคำ โปรแกรมการสืบค้นจากคอมพิวเตอร์ 3. บริการส่งเสริมการอ่านและการใช้สื่อ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการอ่านและการใช้สื่อ เช่น การแนะนำหนังสือที่น่าสนใจและสื่อใหม่ๆ การเชิญผู้เขียนหรือผู้ประพันธ์ไปพบสมาชิกในบางโอกาส 4. บริการตามความต้องการเฉพาะ เป็นกิจกรรมที่จัดขึ้นภายในห้องสมุด เพื่อบริการกลุ่มเป้าหมายที่ มีความหลากหลาย เช่น มุมเด็ก มุมสืบค้นอินเทอร์เน็ต มุมดูหนัง ฟังเพลง มุมกาแฟ ห้องคาราโอเกะ เป็นต้น 5. บริการนอกห้องสมุดหรือชุมชน เป็นกิจกรรมที่จัดบริการให้บริการในรูปแบบห้องสมุดเคลื่อนที่ โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่ดึงชุมชนเข้ามาเป็นเจ้าภาพร่วมการจัดกิจกรรม ดังนั้นจะเห็นได้ว่า บรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุด มีความสำคัญในฐานะผู้ขับเคลื่อนนโยบายการ ดำเนินงานห้องสมุดประชาชนให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยวิธีการต่างๆ ดังนั้น บรรณารักษ์ยุคใหม่ควรมีแนวคิดที่ เปิดกว้าง กล้าคิดกล้าทำสิ่งใหม่ๆ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ของงานห้องสมุดที่สอดคล้องกับบริบทของชุมชน ความ ต้องการของผู้ใช้บริการ บรรณารักษ์จึงควรมีคุณลักษณะ ดังนี้ 1. เป็นนักคิด บุคคลที่ชอบคิดและวางแผนสิ่งต่างๆ ให้เกิดการเรียนรู้และจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน อย่างไม่จำกัดอยู่เพียงภายในห้องสมุดเท่านั้น ตรงกันข้าม ภายนอกห้องสมุดหรือสถานที่ห่างไกลออกไปก็สามารถ จัดกิจกรรมได้รู้จักคิดที่จะนำกิจกรรมต่างๆ ไปต่อยอดให้เกิดการเรียนรู้ต่อเนื่องตลอดชีวิต 2. นักแสวงหาและสร้างเครือข่าย สามารถสร้างเครือข่ายการให้บริการได้กว้างขวางยิ่งขึ้น จากการ จัดกิจกรรมสามารถสร้างทีมงาน ที่มีคุณภาพทั้งภายนอกและภายในห้องสมุดที่มีความเข้มแข็ง เพราะได้ร่วมงาน


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 16 | 44 หลายขั้นตอน และได้ร่วมมือกับหลายหน่วยงานหลายระดับ มองเห็นช่องทางและสามารถสร้างเครือข่ายได้มากขึ้น ตลอดจนการเรียนรู้ที่จะอยู่และทำงานร่วมกัน 3. นักประชาสัมพันธ์ นักประชาสัมพันธ์เป็นเสมือนหน้าตาขององค์กร เช่น เกี่ยวกับบรรณารักษ์ เปรียบเสมือนหน้าตาของห้องสมุดซึ่งการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของห้องสมุดส่วนนึงต้องใช้ความสามารถของ บรรณารักษ์มีบุคลิกภาพเป็นมิตรยิ้มแย้มแจ่มใส ทักทายช่วยเหลือ ไม่รอให้ผู้ใช้บริการร้องขอ 4. เป็นนักพัฒนา บันนารักต้องมีการพัฒนาตนให้มีความรอบรู้ไปหาความรู้ตลอดเวลามีความคิดดี เริ่มสร้างสรรค์มีการพัฒนาตนเองให้มีทักษาในการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการ ดำเนินงานให้ทันต่อสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงไป 5. เป็นนักการตลาด บรรณารักษ์ในปัจจุบันจะต้องเป็นผู้ที่ทำหน้าที่ในการให้บริการเชิงรุกแทนการ ตอบสนองผู้ใช้ในเชิงรับ ต้องรู้ความต้องการของผู้ใช้ว่าผู้ใช้ต้องการอะไรแล้วดำเนินการจัดหาและกระตุ้นส่งเสริม ให้เกิดการใช้บริการเพื่อให้ห้องสมุดเป็นแหล่งการเรียนรู้ที่สำคัญที่อยู่ในใจของผู้ใช้เสมอ 6. เป็นนักบูรณาการ บันนารักต้องมีความสามารถในการนำความรู้มาผสมผสานกับระบบเทคโนโลยี พี่แนะนำมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานมากที่สุด 7. มีจิตบริการ หัวใจสำคัญของงานห้องสมุดคือ งานบริการ บรรณารักษ์จึงต้องมีจิตใจฝ่ายบริการ ให้บริการด้วยความเต็มใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส ให้ความเสมอภาคเท่าเทียมกันต่อผู้ใช้บริการทุกคน จากคุณลักษณะของบรรณารักษ์และเจ้าหน้าที่ห้องสมุดที่เป็นนักพัฒนา มีการพัฒนาตนเองให้มีทักษะใน การนำความรู้ที่ทันสมัย แปลกใหม่ และนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำเนินงาน เทคโนโลยีจึงเป็นเครื่องมือที่ จำเป็นในการพัฒนางานงานห้องสมุดให้เป็นห้องสมุดยุคใหม่ เทคโนโลยีกับการบริหารงานห้องสมุด ห้องสมุดเกี่ยวข้องกับการจัดการและการบริหารสื่อการเรียนรู้ทั้ง 3 ประเภท คือ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อโสตทัศน์ และสื่ออิเล็คทรอนิกส์ โดยมีคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือในการจัดเก็บ ดังนั้นการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหาร ห้องสมุดจึงมีความจำเป็น รจะเห็นได้จากเทคโนโลยีรวมถึงระบบโปรแกรมคอมพิวเตอร์มาสนับสนุนการดำเนินงาน บริการด้านห้องสมุด รรองรับการให้บริการของประชาชน เช่น 1. ระบบบริการยืม – คืน ทรัพยากรด้วยแถบรหัสบาร์โค๊ด 2. ระบบบริการสืบคืนข้อมูลทรัพยากร 3. ระบบตรวจเช็คสถิติการใช้บริการห้องสมุด 4. ระบบตรวจเช็คสถิติการยืม – คืนทรัพยากร จากการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริการ ส่งผลให้การเนินงานเป็นไป อย่างรวดเร็ว ลดขั้นตอนและ ระยะเวลาในการบริการ ซึ่งรวมถึงประโยชน์ที่ผู้ใช้บริการได้บจาการใช้เทคโนโลยี ในการเรียนรู้เช่น การเรียน ศิลปะโดยการหัดวาดรูปใช้โปรแกรม Microsoft Word โปรแกรม Microsoft Excel โปรแกรม Microsoft Power


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 17 | 44 Point และผู้ใช้บริการ ใช้คอมพิวเตอร์ในการสืบค้นข้อมูลทาง อินเทอร์เน็ต ศึกษาค้นคว้าข้อมูลข่าวสารทาง วิชาการ รวมถึงการติดต่อสื่อสาร ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์(Electronic) หรือ (E-mail) เพื่อใช้รับส่ง ข่าวสาร ข้อมูล รูปภาพและส่งงานต่างๆ ได้


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 18 | 44 ตอนที่ 2 การอ่านและการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การอ่าน (reading) ราชบัณฑิตยสถานนิยามว่า “อ่าน” หมายถึงว่าตามตัวอักษร ส่วน “การอ่าน” หมายถึงการแปล ความหมายของตัวอักษรที่อ่านออกมาเป็นความรู้ความคิดและเกิดความเข้าใจเรื่องราวที่อ่านตรงกับเรื่องราวที่ ผู้เขียนเขียน ผู้อ่านสามารถนำความรู้ความคิดหรือสาระเรื่องราวที่อ่านไปใช้ในการอ่านและการจัดกิจกรรมส่งเสริม การอ่านประโยชน์ได้ซึ่งมีความหมายในลักษณะเป็นการรับแล้วถ่ายทอดโดยใช้ตัวอักษรสัญลักษณ์เพื่อสื่อความคิด และความหมายนั้น ความหมายของการอ่าน การอ่านเป็นทักษะอย่างหนึ่งของมนุษย์เราที่ต้องนำไปใช้ในการดำรงชีวิตทักษะการอ่านนี้เราสามารถ พัฒนาหรือฝึกฝนไปได้เรื่อยๆ ไม่มีที่สิ้นสุดเพราะการอ่านนั้นจะเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของคนเรามากการอ่าน นั้นอาจจะช่วยให้ผู้อ่านเกิดความสดใสสบายใจหรือสนุกสนานไปกับการอ่านได้ถ้าเราขาดการอ่านไปเราก็จะเป็นคน ที่ไม่สมบูรณ์ในชีวิตดังคำกล่าวของนักปราชญ์ชาวอังกฤษกล่าวไว้ว่า “การอ่านทำให้คุณเป็นคน โดยสมบูรณ์” การอ่าน พี่เป็นพฤติกรรมการรับสารที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการฟังและการพูดปัจจุบันมีผู้รู้ นักวิชาการและนักเขียนนำเสนอความรู้ข้อมูลข่าวสารและงานสร้างสรรค์ตีพิมพ์ในหนังสือและสิ่งพิมพ์ต่างๆ มาก ความสามารถในการอ่านจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและจำเป็นยิ่งต่อการเป็นคนที่มีคุณภาพในสังคมปัจจุบันจะเห็นได้ว่า องค์การระดับนานาชาติเช่นองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) จะใช้ ความสามารถในการรู้หนังสือของประชากรประเทศต่างๆ รเป็นดัชนีวัดระดับการพัฒนาของประเทศนั้นๆ รเกี่ยว กับการอ่านมีนักวิชาการทั้งในและต่างประเทศได้ให้ความหมายของการอ่านที่คล้ายคลึงกันพอสรุปได้ว่า 1. การอ่านเป็นกระบวนการค้นหาความหมายในสิ่งที่เราได้อ่าน 2. การอ่านเป็นกระบวนการเรียนรู้ที่ทำให้เกิดความรู้ความเข้าใจ 3. การอ่านเป็นกระบวนการจับใจความจากสิ่งที่เราได้อ่าน 4. การอ่านเป็นกระบวนการที่ทำให้เราเข้าใจภาษาเขียน 5. การอ่านเป็นกระบวนการถอดความจากตัวอักษร ออกมาเป็นความคิดเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ 6. การอ่านเป็นทักษะที่รวมทักษะต่างๆ เข้าด้วยกัน ได้แก่ทักษะในการคิด และทักษะทางไวยากรณ์ 7. การอ่านเป็นกระบวนการค้นหาความหมายในสิ่งพิมพ์ หรือข้อเขียนตีความเพื่อพัฒนาตนเองทั้งด้านสติปัญญาอารมณ์และสังคม


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 19 | 44 สรุปได้ว่า การอ่านเป็นกระบวนการทางความคิดในการรับสารเป็น พฤติกรรมทางการใช้ภาษาที่มี ลักษณะเฉพาะตัว เป็นการถ่ายทอดความหมายของตัวอักษร สัญลักษณ์ ภาพที่ได้ดูออกมาเป็นถ้อยคำ และ ความคิด ทำความเข้าใจสิ่งที่อ่าน แล้วนำไปใช้ประโยชน์เพื่อพัฒนาตนเอง ทั้งด้านสติปัญญา สังคม และอารมณ์ ความสำคัญของการอ่าน การอ่าน เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นได้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นเพราะการอ่านเป็นปัจจัยใน การพัฒนาบุคคลช่วยให้เกิดความงอกงามของสติปัญญาทำให้เรารู้จักคิดเปิดโลกทัศน์ให้กว้างและทำให้ผู้อ่านได้รับ ความรู้และความบันเทิงทางจิตใจการอ่านยังสามารถทำให้คนนำความรู้ที่ได้พัฒนาตนเองพัฒนาชุมชนรวมถึงนำไป พัฒนาประเทศด้วย การอ่าน ทำให้ผู้อ่านในคลังข้อมูลอยู่ในสมอง เพราะการอ่านเป็นการรับสาร ผู้อ่านจะได้รับสาระความรู้ ทำให้เป็นผู้ที่ทันโลก ทันเหตุการณ์อยู่เสมอ ข้อมูลนี้เป็นพื้นฐานแห่งความรู้ ที่จะนำไปสู่การคิดให้คิดเป็นในโอกาส ต่อไป การอ่านทำให้ผู้อ่านได้พัฒนาความคิด เนื่องจากการอ่านเป็นพฤติกรรมการรับสารที่มีความคิดเป็นแกนกลาง ขณะที่ผู้อ่านจะต้องใช้สมองขบคิดพิจารณาค้นหาความหมาย และทำความเข้าใจข้อความที่อ่านไปตามระดับ ความสามารถ การอ่านนี้เป็นผลมาจากการฝึกสมอง ขณะที่อ่านทำให้เกิดพัฒนาการทางความคิด ผู้ที่อ่านหนังสือ มากจึงมักเป็นปราชญ์หรือนักคิด การอ่านหนังสือจึงทำให้ผู้อ่านได้พัฒนาการใช้จินตนาการ เพราะการอ่านทำให้ ผู้อ่านได้ใช้ความคิดอย่างอิสระ สามารถสร้างภาพในใจของตนเอง โดยการตีความจากภาษาของผู้เขียน ดังนั้นแม้ จะอ่านหนังสือเล่มเดียวกัน แต่ผู้อ่านก็สามารถมีภาพในใจที่แตกต่างกันไปตามจินตนาการของแต่ละคน นัก การศึกษาต่างเห็นตรงกันว่า ประสบการณ์ครั้งแรกในการอ่านนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปรับตัวของเด็ก ความสำเร็จในการเรียนตลอดจนทัศนคติของเด็กที่มีต่อการอ่านหนังสือ และเป็นหนทางนำไปสู่ความสำเร็จของ การศึกษาสืบไป (กรมวิชาการ 2546 : 11) ได้ให้ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการอ่านว่า คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือหรือไม่มี นิสัยรักการอ่านจะเป็นสิ่งบั่นทอนความก้าวหน้าทางด้านวัตถุและจิตใจ (จารุดีผโลประการ 2538 : 6) เห็นว่าการ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่านให้เด็กจะส่งเสริมให้เด็กเป็นคนดีพร้อมทั้งทางกายวาจาใจและสติปัญญาอันประกอบไปด้วย มีความรู้ดีความประพฤติดีมีพลานามัยสมบูรณ์ดีสามารถแก้ปัญหาต่างๆได้ด้วยตนเองและนำความรู้นั้นไปใช้ ประโยชน์ต่อตนเองครอบครัวชุมชนประเทศชาติตลอดจนมนุษยชาติทั้งมวล (สวัสดิ์ เรืองวิเศษ 2523 : 5) และ การสร้างเสริมนิสัยรักการอ่านควรเริ่มตั้งแต่วัยเด็ก เพราะเมื่อเด็กรักการอ่านตั้งแต่เด็กๆ แล้วเวลาที่เติบโตขึ้น นิสัย รักการอ่านจะติดตัวต่อไปเรื่อย ๆ เป็นผลดีต่อการเรียนและการปรับปรุงตัวให้เข้ากับสังคมและสิ่งแวดล้อมของเด็ก ได้เป็นอย่างดี


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 20 | 44 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงบรรยายถึงความสำคัญของการอ่านหนังสือใน การประชุมใหญ่สามัญ ประจำปี พ.ศ. 2530 ของสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย (อ้างถึงในสำนักงานการ ประถมศึกษา จังหวัดเชียงราย, 2543, หน้า 4) ไว้ดังนี้ 1. การอ่านหนังสือทำให้ได้เนื้อหาสาระความรู้มากกว่าการศึกษาหาความรู้ด้วยวิธีอื่นๆ เช่น การฟัง 2. ผู้อ่านสามารถอ่านหนังสือได้โดยไม่มีการจำกัดเวลาและสถานที่สามารถนำไปไหนมาไหนได้ 3. หนังสือเก็บได้นานกว่าสื่ออย่างอื่น ซึ่งมักมีอายุการใช้งานโดยไม่จำกัด 4. ผู้อ่านสามารถฝึกคิดและสร้างจินตนาการได้เองในขณะอ่าน 5. การอ่านส่งเสริมให้สมองมีสมาธินานกว่าและมากกว่าสื่ออย่างอื่น ทั้งนี้เพราะขณะอ่านจิตใจ จะต้องมุ่งมั่นอยู่กับข้อความพินิจพิเคราะห์ข้อความ 6. ผู้อ่านเป็นผู้กำหนดการอ่านได้ด้วยตนเองอ่านละเอียดอ่านข้ามหรืออ่านทุกตัวอักษรเป็นไปตามใจ ของผู้อ่านหรือจะเลือกอ่านหนังสือเล่มไหนก็ได้เพราะหนังสือมีมากสามารถเลือกอ่านเองได้ 7. หนังสือมีหลากหลายรูปแบบและมีราคาถูกกว่าสื่ออย่างอื่น จึงทำให้สมองผู้อ่านเปิดกว้างสร้าง แนวคิด และทัศนะได้มากกว่า ไม่ยึดติดอยู่กับแนวคิดใดๆ โดยเฉพาะผู้อ่านเกิดความคิดเห็นได้ด้วยตนเอง 8. วินิจฉัยเนื้อหาสาระได้ด้วยตนเองรวมทั้งหนังสือบางเล่มสามารถนำไปปฏิบัติได้ด้วยเมื่อปฏิบัติแล้ว เกิดผลดี


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 21 | 44 การอ่านไม่ใช่ทักษะเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติดังนั้นจึงต้องคอยกระตุ้นส่งเสริมสนับสนุนโดยการจัดให้ มีกิจกรรมส่งเสริมการอ่านไม่ว่าจะเป็นการศึกษาในระบบการศึกษานอกระบบระดับชั้นเพื่อที่ประชาชน จะได้เห็น ความสำคัญของการอ่านอย่างต่อเนื่องไปตลอดชีวิตไม่ใช่เพียงช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งของชีวิตอันจะส่งผลให้เกิด การเรียนรู้ได้อย่างกว้างขวางมากยิ่งขึ้นซึ่งการอ่านนั้นจะช่วยในเรื่องต่างๆ ดังนี้ 1. ช่วยในการเพิ่มความรู้ให้แก่ตนเองไม่แคปอยู่กับเฉพาะเรื่องส่วนตัวของตนเอง 2. ช่วยพัฒนาความคิดให้เกิดความคิดมากยิ่งขึ้นเพราะประสบการณ์ของการอ่านจะช่วยเสริมสร้าง ความรู้ด้านสติปัญญาและช่วยในการพัฒนาสื่อความคิดในด้านต่างๆ 3. ช่วยให้สังคมยอมรับเรามากขึ้นในการอ่านนั้นจะช่วยให้เราปรับตัวของเราเองเข้ากับสังคมได้ดี เพราะในหนังสือที่เราอ่านจะมีประสบการณ์ต่างๆ ของผู้อื่นให้เราได้คิดแล้วนำมาปรับใช้กับตัวเรา 4. ช่วยในการเสริมประสบการณ์ชีวิตให้ประสบผลสำเร็จเพราะในหนังสือจะมีประสบการณ์ของผู้อื่น ให้เรามาศึกษาและปรับปรุงแก้ไขของตัวเองให้ดีกว่าคนอื่น 5. ช่วยให้เรามีความบันเทิง และสนุกสนานถ้าเราเป็นคนชอบอ่านเราก็จะสนุกแต่ถ้าเราไม่ชอบอ่าน เราก็จะรู้สึกเบื่อดังนั้นเราควรจะอ่านให้มากจะได้มีความสนุกและความบันเทิงในตัวของเราเองมากขึ้น จากความสำคัญของการอ่านที่ได้กล่าวมาข้างต้นจะเห็นได้ว่าการอ่านมีคุณค่าต่อชีวิตมนุษย์อย่างมาก หลายทางทางสติปัญญาอารมณ์และสังคมทำให้เราได้คิดได้รู้แล้วนำมาเป็นข้อมูลในการตัดสินใจปรับใช้ให้เป็น ประโยชน์ต่อตัวเราได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับผู้อ่านด้วยว่ามีความตั้งใจในการอ่านมากน้อยเพียงใดถ้าอ่านยังไม่ตั้งใจผู้อ่านจะ ไม่รู้เรื่องในสิ่งที่ตนอาจทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ซึ่งควรจะเอาเวลานั้นไปทำอย่างอื่นจะดีกว่าฉะนั้นลองถาม ตัวเองดูว่าวันนี้คุณอ่านหนังสือ แล้วหรือยัง แนวคิดในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน พัฒนาการในด้านต่างๆ ของเด็กย่อมขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม การส่งเสริมอย่างถูกต้อง และ ความรักความเข้าใจเป็นพื้นฐาน ก่อนที่เราจะพูดถึงการปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน ให้แก่เด็กเราควรต้องศึกษาวิธีการ แนวคิด และแนวปฏิบัติที่ส่งเสริมลูกหลาน เด็กนักเรียนให้อ่านหนังสือได้อย่างไร บางคนอาจเข้าใจว่า นิสัยรักการอ่านขึ้นอยู่กับสถานภาพทางเศรษฐกิจ และสังคมของครอบครัวก็คือ ครอบครัวต้องมีการอ่านเรื่องนี้ได้มีการสำรวจ และวิจัยดูแล้วพบว่า ฐานะทางเศรษฐกิจสังคมมีผลกระทบต่อการ อ่านน้อยมาก ไม่ว่าครอบครัวจะมีฐานะร่ำรวยหรือฐานะยากจน เด็กจะพัฒนาขึ้นมาได้ด้วยเหตุผลปัจจัยอื่นๆที่ คล้ายกันโดยไม่ได้ขึ้นอยู่กับฐานะเท่าใดนัก (ยกเว้นในกรณีที่ครอบครัวมีฐานะยากจนเด็กขาดพัฒนาการในขั้น พื้นฐานทางร่างกายและสติปัญญา) แต่ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปว่า พ่อ แม่ ผู้ปกครองที่มีฐานะดีย่อมสามารถ สนับสนุนเด็กได้มากกว่าผู้ปกครองที่มีฐานะยากจน แต่ก็ปรากฏว่าเด็กยากจนที่รักการอ่านจะสามารถแสวงหา หนังสือและสิ่งอื่นๆ ขอที่อยู่รอบตัวมาอ่านอย่างกระตือรือร้นได้ ในขณะที่เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยและ ผู้ปกครองจะซื้อหาหนังสือมาให้มากมายเพียงใด ก็ยังไม่สนใจหนังสือเท่าใดนักซึ่งกลุ่มครอบครัวลักษณะเช่นนี้มีอยู่


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 22 | 44 ไม่น้อยทีเดียว อีกทั้งการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรมที่ไม่แพร่หลาย แม้ในหมู่ผู้รู้หนังสือแล้วโดยเฉพาะการ อ่านหนังสือที่ดี และมีสาระยังมีน้อย แต่เห็นมีอยู่หลายประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีจำนวนหนังสือ ไม่เพียงพอ และตรงกับความต้องการของผู้อ่านการ ขาดแคนแหล่งหนังสือที่สามารถเตรียมไปอ่านได้ซึ่งเหล่านี้ทำ ให้ผู้อ่านขาดแรงจูงใจ และแรงกระตุ้นในการอ่าน ดังนั้น หากต้องการให้การอ่านหนังสือจนเกิดเป็นนิสัยจำเป็นต้อง มีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจในการอ่านอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอดังนั้นการจัดกิจกรรมส่งเสริมนิสัยรัก การอ่านจึงควรมีลักษณะดังนี้ 1. เร้าใจให้เกิดความอยากอ่านหนังสือ 2. ให้เกิดความพยายามที่จะอ่านและเสริมแรงให้อยากรู้เรื่องราวที่มีอยู่ในหนังสือ 3. แนะนำ กระตุ้นให้อยากรู้อยากเห็นเรื่องน่ารู้ต่างๆ เกิดความรอบรู้คิดว่ามีการอ่านต่อเนื่อง จนเป็นนิสัย 4. สร้างบรรยากาศที่น่าอ่านรวมทั้งให้มีวัสดุการอ่านที่ดีมีแรงการอ่านที่เหมาะสมและเพียงพอ ขั้นตอนการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การจัดกิจกรรมที่ดีต้อง แต่ควรเกิดจากการร่วมมือหลายฝ่าย ซึ่งต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ กิจกรรมและมีความเข้าใจถึงวิธีการร่วมกัน เพื่อให้บรรลุผลตามเป้าหมายที่วางไว้ ดังนั้นการจัดกิจกรรมทุกครั้งควร ต้องคำนึงถึงขั้นตอนการจัดดังนี้ 1. มีกำหนดวัตถุประสงค์ในการจัดให้ชัดเจน กิจกรรมมีลักษณะแตกต่างกัน เช่น เพื่อส่งเสริมการอ่าน การใช้ห้องสมุดเพื่อการศึกษาค้นคว้าให้ความรู้เรื่องต่างๆ ในวันสำคัญ เป็นต้น 2. คำนึงถึงกลุ่มเป้าหมายว่าเป็นคนกลุ่มใด เพื่อกำหนดประเภท และลักษณะกิจกรรมรูปแบบเนื้อหา ได้เหมาะสม สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ร่วมกิจกรรม


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 23 | 44 3. วางแผนการจัดกิจกรรมทางด้านวิชาการและการบริหารจัดการประกอบไปด้วยหลายงาน เช่น การจัดทำแผนการเรียนรู้ (เนื้อหา วัตถุประสงค์ วิธีการ สื่ออุปกรณ์ต่างๆ เวลา ผู้รับผิดชอบ การวัดและประเมินผล) งานประชาสัมพันธ์ สถานที่สื่อ การวัดผลประเมินผล เป็นต้น 4. การดำเนินการจัดกิจกรรม เป็นขั้นตอนการปฏิบัติจริงตามแผนเรียนรู้ที่กำหนด ทั้งนี้งานทุกอย่าง ต้องจัดเตรียมไว้เป็นอย่างดี มีความพร้อม กิจกรรมอาจจะต้องมีการซักซ้อม หรือทดลองกันต่อข้อบกพร่องจะได้ แก้ไขได้ทันก่อนจัดกิจกรรม 5. การวัดผลและประเมินผลการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สามารถวัดได้ทั้งการจัดการศึกษานอก ระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย โดยบูรณาการเนื้อหาในสาระความรู้พื้นฐาน และสาระการพัฒนาสังคมให้เข้ากับ กิจกรรม ถ้ากิจกรรมเป็นลักษณะนี้ต้องมีการวัดความรู้ตามเนื้อหา และวัตถุประสงค์ที่กำหนด รวมทั้งต้องจัดทำ แบบเมินความพึงพอใจด้วย ประเภทของกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เป็นงานที่ห้องสมุดจัดขึ้นเพื่อชักจูงส่งเสริมให้ผู้มาใช้ห้องสมุดเกิดนิสัยรัก การ อ่าน ซึ่งการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ควรจัดกิจกรรมให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยความร่วมมือของ ครอบครัว ครู และองค์กร ที่เกี่ยวข้องรัฐบาลให้ความสำคัญ และกำหนดเป็นนโยบายให้แต่ละหน่วยงาน ร่วม ขับเคลื่อน และจัดสรรเงินงบประมาณในการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ จัดสิ่งอำนวยความสะดวกในการส่งเสริม การอ่านที่เหมาะสมทั่วประเทศ อาทิเช่น มุมรักการอ่านในหน่วยงานในสถานประกอบการต่างๆ บ้านหนังสือ อัจฉริยะที่สำนักงาน สกร. จัดขึ้นตลอดจนแหล่งเรียนรู้ต่างๆ ดังนั้นการจะกิจกรรมส่งเสริมการอ่านจึงเป็นเรื่องที่คน ในชาติทุกระดับ ครอบครัว ชุมชน และประเทศต้องมีเป้าหมายร่วมกันอย่างจริงจัง กิจกรรมส่งเสริมการอ่านมีหลายประเภท แต่ละประเภทมีหลายวิธีดังที่แม้นมาส ชวลิต (2543 : 80) นายกสมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ได้กล่าวไว้ว่ากิจกรรม เพื่อส่งเสริมการอ่านมีหลายแบบ สามารถจัดกลุ่มตาม ลักษณะกิจกรรมที่ดึงดูดความสนใจ โดยทางประสาทสัมผัส อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกันก็ได้ เช่น 1. กิจกรรมที่เราชวนให้ฟังใช้เสียงคำพูดเป็น หลักกิจกรรมประเภทนี้ได้แก่เสียงได้แก่การเล่านิทานให้ฟัง เล่าเรื่องจากหนังสืออ่านหนังสือให้ฟังการแนะนำหนังสือ ด้วยปากเปล่าการบรรยายการอธิบายการโต้วาทีเกี่ยวกับ หนังสือการบรรเลงดนตรีและร้องเพลงตามบทละครร้องทำ ให้เกิดความเพลิดเพลิน ในอัดถะรดถ้อยคำนั้นซึ่งนอกจาก ฟังเพราะแล้วยังทำให้มองเห็นภาพและให้ความรู้สึกต่างๆ เช่น เสียใจ ดีใจ เกลียดชัง รัก โกรธ แช่มชื่น สงบ


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 24 | 44 2. กิจการที่เราจะชวนให้ดูเพ่งพินิจ อ่านความหมายของสิ่งที่เห็น กิจกรรมประเภทนี้ได้แก่ การจัด แสดงภาพชนิดต่างๆ เช่น ภาพถ่ายภาพที่ตัดเก็บรวบรวมจากวารสาร หรือปฏิทินเป็นเรื่องเป็นชุด ภาพเขียน ภาพประกอบหนังสือราชการ หนังสือการแสดงภาพ หนังสือและสิ่งของจะมีคำอธิบายบรรยาย สิ่งที่แสดงสรุป ข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการแสดงให้ผู้ชมใช้สมาธิในการชม 3. กิจกรรมที่ เร าจั ก ษุ ปร ะ ส า ท ใ น ขณะเดียวกัน ได้แก่กิจกรรมที่ชวนให้ดูและฟังไปพร้อม กันประสาททั้งสองส่วน จะประสานและทำงานร่วมกัน กิจกรรมที่จัดส่วนใหญ่จะเป็นการเล่านิทาน ภาพประกอบ และหูฟังเรื่องราวจากการเล่า สื่อที่ใช้ นอกจากหนังสือแล้ว ยังใช้สื่ออื่นได้ เช่น ภาพนิ่ง ประกอบ คำบรรยายกิจกรรมอื่นๆ นอกจากนี้ เช่น การ จัดนิทรรศการสาธิต 4. กิจกรรมให้กลุ่มเป้าหมาย หรือผู้ร่วม กิจกรรม มีส่วนร่วม กิจกรรมประเภทนี้จะช่วยให้ผู้ร่วม กิจกรรมมีความเพลิดเพลินและรู้สึกมีความภาคภูมิใจที่ตนเองได้แสดงความสามารถ ในการเล่า วาดภาพประกอบ ร้องเพลง การแข่งขัน หรือให้เขียนนิทานโดยแต่งขึ้นใหม่ มีการตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่ได้ฟัง การแสดงออก ทางความคิดเห็น และได้แสดงกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น จะทำให้ผู้ร่วมกิจกรรมเลือกกลุ่มเป้าหมาย ประทับใจและ จดจำเหตุการณ์เกิดความสนใจอยากจะทำต่อเนื่อง กิจกรรมส่งเสริมการอ่านแต่ละประเภทที่กล่าวมานั้น บรรณารักษ์สามารถนำมากำหนดเป็นโครงการเพื่อ จัดกิจกรรมให้แก่กลุ่มเป้าหมายที่เหมือนหรือแตกต่างกัน เช่น กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเชิงรุก กิจกรรมส่งเสริมการ อ่านและการเรียนรู้ตามอัธยาศัยบ้านหลังเรียน กิจกรรมส่งเสริมการอ่านสาระน่ารู้ผ่านสื่อออนไลน์ กิจกรรมส่งเสริม ห้องสมุดเลื่อนที่ เป็นต้น แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน บรรณารักษ์ควรมีแผนการจัดกิจกรรมตลอดปีตามความเหมาะสม และความสนใจของผู้ใช้บริการทั้งในและนอกห้องสมุดทั้งนี้เพื่อส่งเสริมการอ่านและการศึกษาค้นคว้าเพิ่มพูน ความรู้ซึ่งการจัดกิจกรรมในห้องสมุดจะเป็นจุดสนใจให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการมากยิ่งขึ้นซึ่งการจัดกิจกรรม ส่งเสริม การอ่านมีขั้นตอนในการดำเนินงานคือ สำรวจความต้องการของกลุ่มผู้ใช้บริการจัดทำแผนการจัด กิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้มีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องออกแบบกิจกรรมให้เหมาะสมกับกลุ่มผู้ใช้บริการ จัดให้มีการ ประชาสัมพันธ์ ทั้งเชิงรุกทั้งในและนอกห้องสมุด ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผน และให้มีการนิเทศติดตามผลการ จัดกิจกรรมเพื่อ นำผลที่ได้ไปพัฒนาปรับปรุงให้ตรงตามความต้องการของผู้ใช้บริการ โดยกระบวนการดังกล่าว เน้นกิจกรรมพัฒนาความสามารถใน การอ่านและสร้างนิสัยรักการอ่าน นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึง ความสอดคล้อง


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 25 | 44 กับสถานการณ์ ปัจจุบันและสภาพปัญหาของสังคม มีการบูรณาการการอ่านกับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน การศึกษา ต่อเนื่อง และการศึกษาตามอัธยาศัย ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้ามาจัดและหรือมีส่วนร่วมในการจัด กิจกรรม ส่งเสริมการอ่าน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน จะทำให้กลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์ในทางตรงคือการพัฒนาทักษะการ อ่านจนเป็นนิสัยรักการอ่าน และประโยชน์ทางอารมณ์ที่มีต่อการพัฒนาบุคลิกภาพและความสามารถ ในการช่วยจูงใจและเร้าความสนใจต่อหนังสือและการอ่าน ฝึกทักษะทางภาษา ฟัง พูด อ่าน เขียน พัฒนาความคิด มีเจตคติที่ดีต่อการอ่าน เพลิดเพลินและผ่อนคลายความตึงเครียด ส่งเสริมให้เกิดความสามัคคี เอื้อเฟื่อช่วยเหลือกัน การจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านให้ประสบ ผลสำเร็จ ต้องคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ วัยและความสนใจ ของ กลุ่มเป้าหมาย งบประมาณ บุคลากร ลักษณะของกิจกรรม เวลา สถานที่และ ขั้นตอนในการจัดกิจกรรม บรรณารักษ์จึงควรศึกษาให้รอบรู้ในเรื่องต่างๆ ดังกล่าวและการจัดกิจกรรมอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้รู้ปัญหาและหา วิธีแก้ไขเพื่อให้กิจกรรมนั้นดำเนินการต่อไปประสบผลสำเร็จวัตถุประสงค์ที่วางไว้ เทคนิคการจัดป้ายนิเทศ การจัดป้ายนิเทศหรือจัดนิทรรศการให้ความรู้ในเรื่องที่สำคัญ ประเด็นที่น่าสนใจ และในวันสำคัญต่างๆ ซึ่งบรรณารักษ์จะต้องจัดอย่างสม่ำเสมอตามปฏิทินวันสำคัญตลอดทั้ง เพื่อให้ผู้ใช้บริการห้องสมุดได้ศึกษาหาความรู้ ส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ดังนั้นการจัดป้ายนิเทศนั้นจะดึงดูดความสนใจมากน้อยเพียงใดบรรณารักษ์จะต้องมี เทคนิคในการจัดป้ายนิเทศดังกล่าววิธีง่ายๆ มีดังนี้ 1. วัตถุประสงค์ของการจัดป้ายนิเทศต้องการเน้นอะไร เช่น เพื่อค้อยตาม ต่อต้าน หรือตระหนัก 2. ตั้งหัวเรื่องให้สัมพันธ์กับเนื้อหาเพียงแต่อ่านหัวเรื่องก็ต้องการติดตามอ่านจนจบโดยมีรูปแบบ สีสัน ของตัวอักษร ภาพประกอบ ที่กลมกลืนกัน ไม่ควรใช้สีสะท้อนแสง 3. การจัดวางหัวข้อเรื่องเนื้อหา ภาพประกอบ โดยทดลองวางรูปแบบก่อนแล้วพิจารณาความ เหมาะสมตรวจสอบอีกครั้งหนึ่งว่าถูกต้องหรือไม่ จึงติดอย่างถาวรภายหลัง ควรมีจุดเด่นในป้ายนิเทศเพียงจุดเดียว 4. จัดตกต่างบริเวณรอบ ๆ ป้ายนิเทศให้มีบรรยากาศเชิญชวน น่าอ่าน เช่น ประดับด้วยต้นไม้และ ควรจัดวางป้ายนิเทศในสถานที่เข้าถึงได้สะดวก และสะดุดตา อยู่ในระดับสายตาของผู้อ่าน แสงสว่างเพียงพอ


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 26 | 44 ภาพการจัดบอร์ด


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 27 | 44 เทคนิคการเล่านิทาน การเล่านิทาน เป็นกิจกรรมส่งเสริมการอ่านที่เด็ก ชอบกิจกรรมหนึ่ง ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวโดยใช้เสียง และ ประโยคที่ชวนให้ผู้ฟังติดตามเรื่องราวจินตนาการ ภาพและเกิด ความรู้สึกคล้อยตามเสียงที่เล่า การเล่านิทาน แต่ละประเภท มี เป้าหมายหลักในการเล่าเหมือนกัน คือส่งเสริมให้เด็กเกิด จินตนาการ มีสมาธิเกิดความคิดและกล้าแสดงออกการมี เทคนิคในการเล่านิทาน เป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับ บรรณารักษ์ที่จะสร้างแรงจูงใจให้เด็กมีส่วนร่วมในกิจกรรม เทคนิคง่ายๆ ในการเล่านิทานมีดังนี้ 1. บรรณารักษ์แนะนำตนเองก่อนเล่า และบอกชื่อเรื่องนิทานที่จะเล่า 2. เริ่มเล่าช้าๆ อย่างชัดถ้อยชัดคำ มีการแสดงท่าทางประกอบการเล่าได้อย่างกลมกลืน 3. สร้างบรรยากาศและอารมณ์ตามท้องเรื่อง ดัดเสียงตามบุคลิกของตัวละคร ทำเสียงตื่นเต้น หัวเราะ ร้องไห้ดีใจ ให้ร้องตามคล้อยตามเหมือนอยู่ในเรื่องจริง 4. แทรกข้อคิด คำคม คติเตือนใจสรุปการเล่าเพื่อสร้างความประทับใจให้ผู้ฟัง 5. เชิญชวน แนะนำให้ผู้ฟังติดตามอ่านนิทานในห้องสมุดประชาชนบ่อยๆ ครั้ง เป็นประจำหรือ ชักชวนพ่อ แม่ ให้อ่านร่วมกัน


ตอนที่ 3 แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน ลำดับ ที่ โครงการ/กิจกรรม เป้า หมาย (คน) ต.ค.661 โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่สำหรับชาวตลาด 600 2 โครงการบ้านหนังสือชุมชน 2,000 3 โครงการวันเด็กแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2566 100 4 โครงการ 2 เมษาการอ่าน สืบสานคุณค่าสารานุกรม ไทยสำหรับเยาวชน 100 5 โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ “หนังสือดี ปลุกสมอง” 200 6 โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ร่วมกับอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ 2,000 7 โครงการห้องสมุดเคลื่อนรูปแบบส่งเสริมการอ่านเชิง รุก กิจกรรมการอ่านและการเรียนรู้ (Read & Learn) 1,000 8 โครงการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ 1,000 รวม 7,000


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 28 | 44 แนวทางการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านโครงการ/กิจกรรม ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดยโสธร ประจำปีงบประมาณ 2567 ระยะเวลาดำเนินการ หมายเหตุ พ.ย. 66 ธ.ค. 66 ม.ค 67 ก.พ 67 มี.ค 66 เม.ย 67 พ.ค 66 มิ.ย. 66 ก.ค. 66 ส.ค .66 ก.ย. 66


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 29 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่สำหรับชาวตลาด” แนวคิด โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่สำหรับชาวตลาด ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราช กุมารี ทรงเน้นหลักการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วน มีเป้าหมายให้ชุมชนชาวตลาด ได้มีหนังสืออ่านเป็นประจำ สร้าง วัฒนธรรมการอ่าน และทรงเล็งเห็นช่องทางในการพัฒนาอาชีพสู่การมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ได้มอบหมายให้ กระทรวงศึกษาธิการ โดยกรมส่งเสริมการเรียนรู้ สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดยโสธร ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอคำเขื่อนแก้ว จัดหามุมใดมุมหนึ่งในตลาดจัดเป็นห้องสมุดประชาชนสำหรับชาวตลาดอำเภอคำเขื่อนแก้ว จัดตั้งขึ้นเพื่อให้คนที่มาจับจ่ายซื้อของในตลาดและแม่ค้า พ่อค้า ในตลาดระหว่างรอการจับจ่ายซื้อของได้อ่าน หนังสือ ซึ่งส่วนหนึ่งจะเป็นหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องอาชีพของตัวเอง เพื่อจะได้เสริมอาชีพของตัวเองให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น ระหว่างรอลูกค้ามาซื้อของด้วย ทั้งนี้ จุดเด่นสำคัญของห้องสมุดสำหรับชาวตลาดก็คือ ในเรื่องของความร่วมมือ ซึ่ง เป็นจุดหนึ่งที่เป็นเสน่ห์ของห้องสมุดประชาชนชาวตลาดก็คือให้เจ้าของตลาด ผู้นำชุมชนหรือ และผู้ที่มีส่วน เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการในตลาดได้มีส่วนร่วมในการจัดห้องสมุดชาวตลาด โดยช่วยกันจัดสถานที่ จัดหาสื่อ อุปกรณ์ "การบริหารจัดการ ของ กศน.ไม่จำเป็นต้องมีงบประมาณลงไปมาก ไม่จำเป็นต้องจัดหาบุคลากรเพิ่มเติม เพราะเรามีชุมชนเจ้าของตลาดบริหารจัดการ ซึ่งหลายแห่งประสบความสำเร็จอย่างน่าพอใจ วัตถุประสงค์ 1.เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้รับบริการจากสื่อสิ่งพิมพ์ ที่หลากหลาย 2. เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของชุมชน การจัดกิจกรรม 1.กิจกรรมหมุนเวียนสื่อ 2.กิจกรรมเล่านิทาน 3. กิจกรรมภาพระบายสี 4. กิจกรรมนั่งที่ไหนอ่านที่นั่น 5. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านเชิงรุก ระยะเวลา ตลอดปีงบประมาณ การวัดและประเมินผล 1. แบบสำราจความต้องการสื่อ 2. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 3. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 30 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ร่วมกับอำเภอยิ้มเคลื่อนที่” แนวคิด โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ร่วมกับอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ การอ่านหนังสือเป็นการพัฒนาตนเองและใช้เวลา ว่างให้เกิดประโยชน์ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากในการพัฒนาคนและพัฒนาสังคมการอ่านหนังสือของคนไทยเป็นกิจกรรม ที่ไม่แพร่หลายแม้ในหมู่ผู้รู้หนังสือแล้วโดยเฉพาะการอ่านหนังสือที่ดีและมีสาระยิ่งมีน้อยขึ้นไปอีก สาเหตุมีอยู่หลาย ประการ นับตั้งแต่การขาดแคลนหนังสือที่ดีและตรงกับความต้องการของผู้อ่าน การขาดแคลนแหล่งหนังสือที่จะ ยืมอ่านได้ รวมทั้งขาดการชักจูง การกระตุ้นและการสร้างนิสัยรักการอ่าน ถ้าจะให้การอ่านหนังเกิดเป็นนิสัย จำเป็นต้องมีการปลูกฝังและชักชวนให้เกิดความสนใจการอ่านอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ อำเภอคำเขื่อนแก้ว ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการอ่านที่เป็นจุดบ่มเพาะและสร้างนิสัยรักการอ่านที่เกิดขึ้นใน ชุมชนจึงได้จัดทำโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ร่วมกับอำเภอยิ้มเคลื่อนที่ เพื่อสนับสนุน ส่งเสริมการอ่านที่เกิดขึ้นใน ชุมชนและบริการประชาชนในพื้นที่โดยการขับเคลื่อนของห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว, ห้องสมุด ประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธรและกศน.ตำบล เป็นกลไกในการขับเคลื่อนการเสริมสร้างการรักการ อ่านในชุมชน ตลอดจนเสริมสร้างภาคีเครือข่ายให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของชุมชน ได้อย่างยั่งยืน วัตถุประสงค์ 1.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน มีนิสัยรักการอ่าน 2. เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทุกคน ทุกช่วงกลุ่มอายุ ได้เข้าถึงและอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น 3.เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินการจัดกิจกรรมการศึกษา ตามอัธยาศัย การจัดกิจกรรม 1. กิจกรรมบริการหนังสือ/สื่อ 2. กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน เช่นการเล่านิทาน,วาดภาพระบายสี 3.กิจกรรมส่งเสริมอาชีพ เช่น การทำผ้าใยบัว, สาธิตการทำการบูร , สาธิตการทำเหรียญโปยทาน ระยะเวลา ตลอดปีงบประมาณ การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ –


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 31 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการบ้านหนังสือชุมชน” แนวคิด โครงการบ้านหนังสือชุมชน กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีนโยบายดาเนินงานด้านการส่งเสริมการอ่านของ ประชาชนทุกกลุ่มเป้าหมายโดยมุ่งหวังให้คนไทยมีนิสัยรักการอ่าน ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว โดย การขับเคลื่อนของห้องสมุดประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว และห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ลงพื้นที่ร่วมกับครู กศน.ตำบลและภาคีเครือข่าย รพ.สต. สร้างแหล่งการเรียนรู้อยู่ใกล้บ้านให้มากที่สุดในรูปแบบ ของบ้านหนังสือชุมชน ณ. รพ.สต. ทั้งที่ 13 แห่งในอำเภอคำเขื่อนแก้ว โดยมีบทบามเป็นแหล่งการอ่าน การจัด กิจกรรมส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นในชุมชน เป็นสถานที่พบปะพูดคุย แลกเปลี่ยนความคิดเห็น สามารถเข้าใช้บริการได้สะดวกมความเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่และชุมชน โดยมีเจ้าของบ้าน หรืออาสาสมัคร ทำหน้าที่ดูแล ให้บริการ และจัดกิจกรรมสร้างเสริมการอ่านและการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนใน ชุมชน วัตถุประสงค์ 1.เพื่อส่งเสริมให้ประชาชน มีนิสัยรักการอ่าน 2. เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนทุกคน ทุกช่วงกลุ่มอายุ ได้เข้าถึงและอ่านหนังสือเพิ่มมากขึ้น 3.เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสนับสนุนการดำเนินการจัดกิจกรรมการศึกษา ตามอัธยาศัย การจัดกิจกรรม 1.เพื่อให้ประชาชนทั่วไป ได้รับบริการจากสื่อสิ่งพิมพ์ ที่หลากหลาย 2. เพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของชุมชน ระยะเวลา ตลอดปีงบประมาณ การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 32 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการวันเด็กแห่งชาติ” แนวคิด โครงการวันเด็กแห่งชาติ ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว โดยการขับเคลื่อนของห้องสมุด ประชาชนอำเภอคำเขื่อนแก้ว และห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญ และเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับ ประชาชน โดยห้องสมุดประชาชนเภอคำเขื่อนแก้ว เล็งเห็นว่าการบริหารจัดการ ห้องสมุดที่ดี หรือกิจกรรม ที่เหมาะสมสำหรับประชาชน ทุกเพศ ทุกวัย ให้มีทางเลือก ทางออกที่ดี ที่สร้างสรรค์ ใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ จึงเห็นสมควรจัดทำโครงการวันเด็กแห่งชาติ โดยให้เด็กได้รู้ถึงความสำคัญของตนเอง ได้แสดงความสามารถของตนเอง และส่งเสริมให้เด็กมี นิสัยรักการอ่านเพื่อให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ กล้าคิด กล้าแสดงออก อย่างเต็มศักยภาพ และรู้ถึงความมี ระเบียบวินัย ความรู้จักสิทธิหน้าที่ความรับผิดชอบต่อตนเอง และสังคม เพื่อจะได้ประพฤติปฏิบัติตนให้สมกับ เป็นผู้ที่มีความสำคัญของประเทศชาติต่อไป วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้เด็กและเยาวชนได้ตระหนักในระเบียบ วินัย สิทธิ หน้าที่ มีความรับผิดชอบ ต่อตนเองและชุมชน 2. เพื่อให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสแสดงความสามารถในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิด ความภูมิใจ เชื่อมั่นใน ตนเองและได้รับความรู้ การจัดกิจกรรม 1. กิจกรรมส่งเสริมพัฒนาการด้วยศิลปะการระบายสีปูนพลาสเตอร์ 2. กิจกรรมสอยดาวมหาสนุก 3.กิจกรรมการพัฒนาทักษะด้านการวาดภาพระบายสี 4. กิจกรรมไหความรู้ ระยะเวลา มกราคม 2567 การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 33 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการ 2 เมษามหกรรมการอ่าน” แนวคิด โครงการ 2 เมษามหกรรมการอ่าน ตามที่นโยบายของรัฐบาล ได้กำหนดให้ วันที่ 2 เมษายน ของทุกปีเป็น วันรักการอ่าน และเป็นวันอนุรักษ์มรดกไทย และที่สำคัญเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของสมเด็จพระกนิษฐาธิ ราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ซึ่งพระองค์เป็นเจ้าฟ้าแห่งนักอ่าน “การอ่านเป็นสิ่ง ที่ต้องปลูกฝัง ต้องอาศัยการฝึกฝนด้วยตนเอง ต้องได้รับการแนะนำสั่งสอน ต้องมีตัวแบบในการอ่าน มีหนังสือที่ ถูกใจ มีบรรยากาศที่ส่งเสริมและมีโอกาสได้อ่านเพราะการอ่านคือพื้นฐานของการสร้างคนและคนคือพื้นฐานของ การสร้างชาติ” ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว โดยการขับเคลื่อนของห้องสมุดประชาชนอำเภอคำ เขื่อนแก้ว และห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” จังหวัดยโสธร ได้จัดทำโครงการ 2 เมษามหกรรมการอ่าน สืบสานคุณค่าสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยเชื่อว่าการอ่านเป็นจุดเริ่มต้น ของชีวิตมนุษย์ และต้องการสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้และสร้างนิสัยรักการอ่านให้เกิดขึ้นกับ นักศึกษา กศน. และประชาชนทุ่งช่วงวัย อีกทั้งส่งเสริมการอ่าน เพื่อสืบสานคุณค่าสารานุกรมไทยสำหรับเยาวชน โดยมุ่งหวังเพื่อเพิ่มพูนและพัฒนาความคิด สติปัญญา กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้จากการรักการอ่าน เพื่อนำพื้น ฐานความรู้ไปใช้ในการดำเนินในชีวิตประจำวันของนักศึกษา กศน.ได้ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2. เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนอ่าน เขียน เรียน ค้นคว้าจากหนังสือและสื่อต่างๆ 3.เพื่อส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษาและประชาชนมีนิสัยรักอ่าน การจัดกิจกรรม 1.นิทรรศการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 2.กิจกรรมแข่งตอบปัญหาสารานุกรมไทย 3.กิจกรรมส้มตำลีลา 4.กิจกรรมลาบรสเด็ด 5.กิจกรรมประกวดร้องเพลง ระยะเวลา 2 เมษายน 2567 การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 34 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ “หนังสือดี ปลุกสมอง” แนวคิด โครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ “หนังสือดี ปลุกสมอง”ห้องสมุดประชาชน มีภารกิจในการให้บริการด้าน การศึกษาตามอัธยาศัยและการศึกษาตลอดชีวิตให้กับประชาชนในพื้นที่อำเภอคำเขื่อนแก้ว โดยมีสื่อบริการที่ หลากหลาย เช่น หนังสือ วารสารนิตยสาร สื่อนวัตกรรมส่งเสริมการอ่านต่าง ๆ พร้อมทั้งให้คำแนะนำข้อมูล สารสนเทศแก่ประชาชนในพื้นที่ ขณะเดียวกันการบริการประชาชนนอกสถานที่ก็เป็นสิ่งสำคัญในปัจจุบัน เนื่องจาก สภาพปัจจุบันประชาชนส่วนใหญ่ไม่ชอบอ่านหนังสือ อีกทั้งบทบาทหน้าที่ของกรมส่งเสริมการเรียนรู้คือส่งเสริม สนับสนุนให้ประชาชนทุกช่วงวัยรักการอ่าน สามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต และการที่จะพัฒนาคนให้มี นิสัยรักการอ่านต้องเริ่มต้นและปลูกฝังตั้งแต่ยังเล็ก เพื่อให้เกิดนิสัยรักการอ่านมากขึ้น และกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญ ในการส่งเสริมให้เกิดรักการอ่านโดยเฉพาะเด็กปฐมวัย การปูพื้นฐานทางการศึกษาที่ดี มีการกระตุ้นและส่งเสริม เปิดโลกความคิด และจินตนาการของเด็กได้อย่างกว้างไกล ย่อมจะพัฒนาไปในทางที่ดีและจะเป็นกำลังของชาติ ต่อไป ให้ได้ให้มีโอกาสอ่านหนังสือที่เหมาะสมกับวัยและความสนใจ ส่งเสริมปลูกฝังให้มีนิสัยรักการอ่านและสร้าง ทักษะในการอ่านรวมทั้งส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้แก่เด็ก เยาวชน เพื่อส่งเสริมนิสัยรักการอ่านและเห็น ความสำคัญของการเรียนรู้ตลอดชีวิต ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้วได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงได้ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการจัดโครงการโครงการห้องสมุดเคลื่อนที่ “เติมหนังสือสู่สมอง”ขึ้น เพื่อยกระดับ ความสามารถในการอ่านของเด็ก เยาวชน ให้เกิดการเรียนรู้ต่อไป วัตถุประสงค์ 1.เพื่อส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน และประชาชน มีนิสัยรักการอ่าน สามารถศึกษาค้นคว้าได้ด้วยตนเอง กล้า คิดกล้า แสดงออก และใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ 2. เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรม/งานศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอคำเขื่อนแก้ว ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง การจัดกิจกรรม 1. กิจกรรมพี่เล่าน้องฟัง 2. กิจกรรมตุ๊กตากระดาษ 3. กิจกรรรมเกมแก้วหรรษาพาเพลิน 4 กิจกรรมห้องสมุดคาเฟ่ ระยะเวลา กรกฎาคม - กันยายน 2567 การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 35 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการห้องสมุดเคลื่อนรูปแบบส่งเสริมการอ่านเชิงรุก กิจกรรมการอ่านและการเรียนรู้ แนวคิด “โครงการห้องสมุดเคลื่อนรูปแบบส่งเสริมการอ่านเชิงรุก กิจกรรมการอ่านและการเรียนรู้ (Read & Learn)”การอ่านมีความสำคัญต่อชีวิตมนุษย์ตั้งแต่เล็กจนโต เพราะการอ่านทำให้มนุษย์มีความรู้ที่ใช้ในพัฒนา อาชีพ การศึกษา การเรียนรู้ การอ่านเป็นประจำช่วยให้สติปัญญาของมนุษย์ตื่นตัว รับรู้จดจำได้เป็นอย่างดี ประชาชนทุกวัยจึงควรได้รับการส่งเสริมการอ่านอย่างทั่วถึงมีคุณภาพตรงความต้องการอ่านของแต่ละวัย โดยเฉพาะวัยเด็กก่อนวัยเรียนเป็นวัยที่สมองมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ถ้าได้รับการส่งเสริม การอ่านที่ถูกต้อง ย่อมช่วยให้สมองได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเตรียมความพร้อมในการศึกษาเรียนรู้ในระดับที่สูงต่อไปได้ดียิ่งขึ้น และเป็นกำลังสำคัญของชาติในการพัฒนาประเทศในอนาคตที่สำคัญยิ่ง ในขณะที่ประชาชนวัยทำงานเป็นวัยที่ จำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสังคม เศรษฐกิจ การเมืองการปกครอง และความเจริญก้าวหน้าขอเทคโนโลยีที่นพมาปรับประยุกต์ใช้ทั้งด้านการประกอบอาชีพและการดำเนินชีวิต การ ส่งเสริมการอ่านให้กับประชาชนวัยทำงานจึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการส่งเสริมการอ่านให้ตรงกับความต้องการ อ่านของประชาชนกลุ่มนี้ด้วย สำหรับผู้สูงอายุซึ่งเป็นเพราะประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งถึงแม้ว่าบางคนได้เกษียณอายุ จากการทำงานแล้วแต่มีผู้สูงอายุบางคนยังคงต้องประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองอยู่ เพราะฐานะความเป็นอยู่ไม่ดี ประชาชนกลุ่มนี้จึงเป็นประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งมีความจำเป็นต้องดำเนินชีวิตให้รู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของสภาพ สังคม เศรษฐกิจ การเมือง การปกครอง และความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีควบคู่กับการประกอบอาชีพและ การใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข จึงเป็นประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งที่ควรได้รับการส่งเสริมการอ่านที่ตอบสนองความ ต้องการอ่านของผู้สูงอายุได้อย่างแท้จริง ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอคำเขื่อนแก้ว จึงได้จัดทำโครงการห้องสมุดเคลื่อนรูปแบบส่งเสริมการอ่านเชิงรุก “การอ่านและการเรียนรู้” (Read & Learn) เพื่อสนับสนุนให้ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ได้เข้ากิจกรรมส่งเสริมการอ่านเชิงรุกเพื่อให้เกิดกระบวนการเรียนรู้ อย่างต่อเนื่องและตลอดชีวิต วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะการอ่านและเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 2. เพื่อส่งเสริมให้ภาคีเครือข่ายมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน การจัดกิจกรรม 1. กิจกรรมเล่านิทาน 2. กิจกรรมสุภาษิตคำพังเพย 3. กิจกรรมทายคำจากภาพ ระยะเวลา มกราคม - มีนาคม 2567


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 36 | 44 การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 37 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม “โครงการส่งเสริมการอ่านและการเรียนรู้ แนวคิด ห้องสมุดเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าหาความรู้ที่สำคัญแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งสร้างสรรค์และสร้างความบันเทิง จากการอ่านหนังสือ เป็นแหล่งเพิ่มพูนประสบการณ์ตลอดทั้งเป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจซึ่งในปัจจุบันนี้การศึกษา ในระดับประถมศึกษาได้มีการพัฒนากระบวนการเรียนรู้เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพให้กับผู้รับบริการมากยิ่งขึ้น ด้วย วิธีการสอนที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางทำให้นักเรียนต้องเรียนรู้ด้วยตนเอง รู้จักศึกษาค้นคว้า แต่สภาพความเป็น จริงแล้วในปัจจุบันห้องสมุดยังขาดหนังสือที่ดีและวัสดุครุภัณฑ์ที่เอื้ออำนวยความสะดวกตลอดจนบรรยากาศการ เรียนรู้ที่มีชีวิตซึ่งส่งผลและปลูกฝังให้นักเรียนมีนิสัยรักการอ่าน การค้นคว้าหาความรู้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด ห้องสมุดจึง เป็นคลังสะสมหลักฐานและความก้าวหน้าแห่งเทคโนโลยีผสมผสานกับอารยธรรมในยุคอดีตอันเป็นบ่อเกิดแห่ง ความคิดที่มีอิทธิพลเหนือสิ่งใดในโลก ห้องสมุดจึงเป็นแหล่งบ่มเพาะประสบการณ์สถานที่ฝึกอบรมให้นักเรียนได้ แสวงหาความรู้เพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาและเป็นเครื่องมือในการศึกษาและแสวงหาความรู้ของนักเรียนที่จะขาดเสีย มิได้การพัฒนาคุณภาพห้องสมุดจึงเป็นการพัฒนาที่ตอบการสนองการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านตามนโยบายของ กระทรวงศึกษาธิการโดยมุ่งเน้นให้นักเรียนรู้จักใช้ประโยชน์จากห้องสมุดและศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง นอกเหนือจากการเรียนการสอนในห้องเรียน ฉะนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องจัดเตรียมห้องสมุดอันเป็นแหล่งเรียนรู้ให้มี ความพร้อมทั้งในด้านหนังสือดีมีคุณภาพเหมาะสมกับผู้รับบริการรวมถึงสร้างบรรยากาศ ความสะดวกสบายแก่ ผู้ใช้บริการและมีบรรณารักษ์อยู่ประจำห้องสมุด วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนมีทักษะการอ่านและเกิดการเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง 2. เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนมีนิสัยรักการอ่าน 3. เพื่อเสริมสร้างภาคีเครือข่ายให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการส่งเสริมนิสัยรักการอ่านของ ประชาชนและพัฒนาห้องสมุดอย่างยั่งยืน การจัดกิจกรรม 1. กิจกรรมบ้านหลังเรียน 2. กิจกรรมส่งเสริมการอ่านรูปแบบออนไลน์ 3. กิจกรรมพัฒนาทักษะ DIY 4. กิจกรรมหนังสือดี ระยะเวลา ตลอดปีงบประมาณ การวัดและประเมินผล 1. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ 2. สรุปผลการจัดกิจกรรม ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 38 | 44 แผนการจัดกิจกรรม ชื่อกิจกรรม หนังสือดี แนวคิด กิจกรรมหนังสือดี เป็นการแนะนำหนังสือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในห้องสมุดทุกแห่งและเป็นกิจกรรมอันเป็น สากลที่ทั่วโลกกระทำกันอยู่เสมอ ห้องสมุดสำหรับเด็กก็ละเว้นกิจกรรมนี้ไม่ได้เพียงแต่จะต้องช่วยชี้ประเด็นที่พบใน หนังสือและศึกษาความเป็นมาของหนังสือพอ สมควร ทั้งภาพ ภาษา การออกแบบทางศิลปะ (เพราะหนังสือภาพ ทุกเล่มผ่านการคัดและทดลองมาทั้งสิ้น หากเป็นหนังสือที่ดี) ที่ต้องทำอย่างนั้นเพราะผู้ใหญ่ส่วนมากมักไม่ค่อย เข้าใจคุณสมบัติของหนังสือ ภาพสำหรับเด็ก จึงมองรวมไปว่าเป็นหนังสือประเภทเดียวกับการ์ตูนช่อง ซึ่งทำให้ คุณค่าของหนังสือภาพถูกลดลงไปอย่างน่าเสียดายการแนะนำหนังสืออีกวิธีหนึ่งที่น่า สนใจคือการจัดทำป้ายให้ สมาชิกลงความเห็น โดยถ่ายเอกสารปกของหนังสือไปปิดเอาไว้ ซึ่งจะได้ความเห็นหลากหลายและสามารถเก็บ บันทึกทำเป็นงานวิจัยเล็กๆได้หาก ต้องการกิจกรรมการพูดคุยเกี่ยวกับหนังสือ (Book Talk) ก็เป็นกิจกรรมที่ดี ด้วยการรวมกลุ่มสนใจมาร่วมพูดคุย โดยส่วนใหญ่ผู้พูดก็มักจะเป็นพ่อแม่ที่อ่านหนังสือให้ลูกฟัง หรือหากเป็น หนังสือประเภทวรรณกรรม การพูดคุยก็จะทำได้มากขึ้น การเชิญนักเขียนหรือผู้มีชื่อเสียงมาพูดคุยถึงหนังสือที่ตน เขียน หรือหนังสือที่ชื่นชอบเป็นกรณีพิเศษสามารถกระตุ้นความอยากอ่านได้อย่างดีการแนะนำหนังสือสามารถทำ ได้หลากหลายวิธีทั้งวงเล็กๆ วงใหญ่และเป็นกิจกรรมต่อเนื่องของห้องสมุด วัตถุประสงค์ เพื่อจัดซื้อ จัดหาสื่อความรู้ทุกประเภท โดยให้มีคุณภาพทันสมัยตรงตามความต้องการของประชาชน การจัดกิจกรรม 1. จัดซื้อ/จัดหาหนังสือและสื่อสารสนเทศทุกประเภท 2. แนะนำหนังสือใหม่ 3. แนะนำหนังสือน่าอ่าน ระยะเวลา ตลอดปีงบประมาณ การวัดและประเมินผล 1. แบบสำรวจความต้องการหนังสือ 2. สำรวจความพึงพอใจผู้ใช้บริการ ข้อเสนอแนะ -


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 39 | 44 ภาคผนวก


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 40 | 44 จรรยาบรรณของบรรณารักษ์และผู้ปฏิบัติงานห้องสมุด ห้องสมุดเป็นสถาบันที่มีเกียรติและเป็นแหล่งบริการความรู้ที่มีคุณค่า ในสังคม ดังนั้น เพื่อประโยชน์ต่อ การพัฒนาห้องสมุด เพื่อสร้างความมั่นคงแก่สถาบันห้องสมุดและเพื่อให้สถาบันห้องสมุด เป็นที่เชื่อถือของ ประชาชน สมาคมห้องสมุดแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เห็นสมควรกำหนดจรรยาบรรณ สำหรับบรรณารักษ์และ ผู้ปฏิบัติงานห้องสมุดทุกตำแหน่งไว้ดังต่อไปนี้ หมวดที่ 1 จรรยาบรรณต่อผู้ใช้ 1. ให้คำนึงถึงความสะดวกสบายของผู้ใช้ก่อนสิ่งอื่น 2. ให้ผู้ใช้บริการได้ศึกษามให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ใช้อย่างเต็มความสามารถ 3. ให้ความเสมอภาคแก่ผู้ใช้โดยไม่คำนึงถึง ฐานะ เชื้อชาติศาสนา สังคม หมวดที่ 2 จรรยาบรรณต่อวิชาชีพ 1. ไม่ประพฤติหรือกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เสื่อมเสียเกียรติศักดิ์ ในวิชาชีพแห่งตน 2. ต้องศึกษาและแสวงหาความรู้เพื่อให้ตนมีวุฒิเข้าขั้นมาตรฐานที่สถาบันวิชาชีพกำหนดไว้และหมั่นเพียร ฝึกฝนทักษะ ตลอดจนหาวิธีการใหม่ๆ มาใช้ในการปฏิบัติงาน 3. ให้ความร่วมมือในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อส่งเสริมเกียรติคุณของวิชาชีพผู้ร่วมอาชีพและเพื่อพัฒนาวิชาชีพ 4. ไม่ฝึกใฝ่ในการเพิ่มพูนฐานะทางเศรษฐกิจส่วนตนจนเป็นการบั่นทอนการปฏิบัติงานในหน้าที่รับผิดชอบ หมวดที่ 3 จรรยาบรรณต่อผู้ร่วมงาน 1. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อผู้ร่วมงาน และผู้ร่วมอาชีพ 2. ใความเคารพและยอมรับในข้อตกลงที่เป็นมติของที่ประชุม 3. รักษาและแสวงหามิตรภาพระหว่างผู้ร่วมงานและผู้ร่วมอาชีพ 4. ในกรณีที่เป็นผู้บังคับบัญชา จะต้องยึดมั่นในคุณธรรมในการปฏิบัติต้อ ผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่มีอคติในการ แต่งตั้ง การพิจารณาความดีความชอบและการลงโทษ หมวดที่ 4 จรรยาบรรณต่อสถาบัน 1. รักษาประโยชน์และชื่อเสียงของสถาบันที่ห้องสมุดสังกัดอยู่และไม่กระทำการอันใดที่จะเป็นทางทำให้ เกิดความเสื่อมเสีย 2. ร่วมมือและปฏิบัติงานด้วยดีตามนโยบายที่ผู้บังคับบัญชาได้รับมา เพื่อความก้าวหน้าของสถาบันโดย ส่วนรวม 3. ไม่พึงใช้ชื่อและทรัพยากรของสถาบันเพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือเพื่อหมู่คณะโดยมิชอบ


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 41 | 44 หมวดที่ 5 จรรยาบรรณต่อสังคม 1. ควรเป็นผู้นำอย่างเข้มแข็ง เพื่อแสดงให้เห็นถึงบทบาทของภาระหน้าที่ที่มีต่อการพัฒนาท้องถิ่น และ การพัฒนาประเทศ 2. พร้อมที่จะอุทิศตนเพื่อประโยชน์ของชุมชนด้วยการชั้วิชาชีพโดยสุจริตและไม่ให้เป็นการเสียหายต่อ ภาระหน้าที่ที่ปฏิบัติอยู่ 3. พร้อมที่จะผดุงรักษาไว้ซึ่งเสถียรภาพและความมั่นคงของสังคม


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 42 | 44 บรรณานุกรม กรมวิชาการ. กิจกรรมส่งเสริมการอ่าน. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว, 2546 ฉวีวรรณ คูหาภินันทน์. การอ่านและการส่งเสริมการอ่าน. กรุงเทพฯ : ศิลปาบรรณาการ, 2545 น้ำทิพย์ วิภาวิน. การบริหารห้องสมุดยุคใหม่. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : เอสอาร์พริ้นติ้งแมสโปรดักส์, 2550. วีระวรรณ วรรณโท. การจัดกิจกรรมห้องสมุด. กรุงเทพฯ : บรรณกิจ, 2545. ศูนย์ส่งเสริมการศึกษาตามอัธยาศัย. แนวทางการพัฒนาห้องสมุดประชาชนให้เป็นศูนย์กลางการ เรียนรู้ตลอดชีวิต ตาม ม.25. กรุงเทพฯ : สหมิตรพริ้นติ้ง, 2547. สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ. คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริม การอ่าน. ลำปาง : สถาบันฯภาคเหนือ, 2552. สถาบันพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยภาคเหนือ. แนวทางการพัฒนาห้องสมุด ประชาชน 3 ดี. ลำปาง : สถาบันฯ, 2553. สำนักงาน กศน. กรอบแนวทางการดำเนินงาน “ห้องสมุด 3 ดี”. กรุงเทพฯ : รังสีการพิมพ์, ม.ป.ป. สุเชาว์ รักษ์วงศ์. เทคนิคการจัดบอร์ดหรือป้ายนิเทศ. ลำปาง : ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนภาคเหนือ, ม.ป.ป.


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 43 | 44 คณะผู้จัดทำ ที่ปรึกษา นายมนตรี เวียงอินทร์ ผู้อำนวยการ ผู้จัดทำ/เรียบเรียง/พิมพ์ตรวจอักษร นางสาวชลภัสสรณ์ บุญอาจ บรรณารักษ์ปฏิบัติการ นางสาวชลธิชา อุ่นเจริญ บรรณารักษ์ นางสาววิราพร คำวิไชย บรรณารักษ์ ออกแบบปก/รูปเล่ม/รวบรวม นางสาวชลธิชา อุ่นเจริญ บรรณารักษ์


คู่มือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่าน สกร.อำเภอคำเขื่อนแก้ว ห น ้ า 44 | 44


Click to View FlipBook Version