The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเลี้ยงกุ้งทะเลระบบน้ำหมุนเวียนแบบสมดุลชีวภาพ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by warong56, 2021-11-09 05:50:37

การเลี้ยงกุ้งทะเลระบบน้ำหมุนเวียนแบบสมดุลชีวภาพ

การเลี้ยงกุ้งทะเลระบบน้ำหมุนเวียนแบบสมดุลชีวภาพ

Cï =.H0Q@-

";H0

.;%%$QU=6,$C H2-ĥ $
I%%5, C0ý2Ĉ +=)

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลยี้ งสัตวน้าํ ชายฝง
กรมประมง



โครงการระบบส‹งเสรมิ เกษตรแบบแปลงใหญ‹

การเล้ียงกุŒงทะเล
ระบบนาํ้ หมุนเวยี นแบบสมดุลชวี ภาพ

ถอดองคค วามรู...อ.วศนิ ธนภิรมณ

คํานํา

ตามนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณท ม่ี อบหมาย

ใหห นวยงานภายใตส ังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ ดาํ เนนิ การสงเสรมิ
และถายทอดเทคโนโลยีการเกษตร สงเสริมการผลิตสินคาเกษตรใหมี
คณุ ภาพไดม าตรฐาน เพ่ิมขีดความสามารถในการแขงขนั ของสนิ คา เกษตร
และเพ่ิมรายไดของเกษตรกร ตลอดจนดูแลคุณภาพชีวิตของเกษตรกร
โดยจัดทําโครงการระบบสงเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ เพื่อใหเกษตรกร
สามารถเพิ่มศักยภาพการผลิต ลดตนทุนการผลิต เพิ่มมูลคาสินคา และ
เชอ่ื มโยงสกู ารตลาดไดอ ยางยัง่ ยืน

กรมประมงโดยกองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ียงสัตวนํ้าชายฝง
ไดดําเนินงานโครงการระบบสงเสริมเกษตรแบบแปลงใหญ ซ่ึงสวนใหญ
เปน สนิ คา กงุ ทะเล กองฯ จงึ ไดด าํ เนนิ การถอดองคค วามรกู ารเลยี้ งกงุ ทะเล
ของนายวศิน ธนภิรมณ ซ่ึงเปนเกษตรกรท่ีเขาโครงการฯ และเปน
ผูประสบความสําเร็จในอาชีพเพาะเล้ียงสัตวนํ้า จนไดรับรางวัลเกษตรกร
ดีเดนแหงชาติ สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตวนํ้ากรอย ประจําป 2561
โดยหวงั วา หนงั สอื ฉบบั นจ้ี ะเปน ประโยชนต อ หนว ยงานภาครฐั ภาคเอกชน
และผทู ีส่ นใจท่ัวไป

กองวิจยั และพฒั นาการเพาะเลยี้ งสตั วน ํา้ ชายฝง กรมประมง
มีนาคม 2562

การเล้ยี งกงุŒ ทะเลระบบนาํ้ หมนุ เวยี นแบบสมดลุ ชวี ภาพ 3

กุงŒ ทะเลการเล้ียง
ระบบน้ําหมนุ เวยี นแบบสมดลุ ชวี ภาพ

บทนาํ

จากปญ หาวกิ ฤตโรคตายดว นหรอื โรค EMS ในกงุ ขาวแวนนาไมและ
กุงกุลาดํา ท่ีเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรียชนิด Vibrio parahaemolyticus
(AHPND) สายพนั ธรุ นุ แรงทสี่ ามารถสรา งสารพษิ เขา ทาํ ลายระบบทางเดนิ อาหาร
ของกุงทะเล โดยเฉพาะสวนของตับและตับออน (hepatopancreas)
เปน ผลใหใ นชว งทผี่ า นมาผลผลติ กงุ ทะเลของไทยลดลงอยา งมาก เกษตรกร
ประสบภาวะขาดทุน รวมถึงตนทุนการผลิตท่ีสูงข้ึนจากความพยายาม
ทจี่ ะแกป ญ หาโรค EMS ซงึ่ จากการศกึ ษาพบวา การเพมิ่ จาํ นวนของเชอ้ื EMS
มคี วามสมั พนั ธก บั สารอนิ ทรยี ท เี่ กดิ ขนึ้ จากสง่ิ ขบั ถา ยของกงุ และเศษอาหารเมด็
สาํ เรจ็ รปู ทตี่ กคา งอยใู นบอ เลยี้ ง ทง้ั ในรปู สารละลาย หรอื เปน เศษชน้ิ สว นเลก็ ๆ
ปนเปอ นอยใู นบรเิ วณพนื้ บอ ทาํ ใหม กี ารพยายามพฒั นารปู แบบและเทคนคิ
การเลี้ยงใหมีประสิทธิภาพ เพือ่ ลดความเสย่ี งของการเกิดโรค ซึง่ สวนใหญ
จะใชตนทุนในการดําเนินการท่ีคอนขางสูง ซึ่งจะกระทบตอรายไดของ
เกษตรกร ดังน้ันการนํารูปแบบการเลี้ยงกุงทะเลระบบน้ําหมุนเวียนแบบ
สมดุลชีวภาพ เนนเตรียมนํ้าใหมีคุณภาพเหมาะสมกับการเลี้ยง โดยใช
จุลินทรียในการบําบัดสารอินทรียที่สะสมบริเวณพ้ืนบอ การสรางอาหาร
ธรรมชาติมีชีวิตโดยเฉพาะชวงแรกของการปลอยลูกกุงลงเล้ียงในบอ

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวน ํา้ ชายฝง

4 การเลย้ี งกŒุงทะเลระบบนํ้าหมนุ เวียนแบบสมดลุ ชีวภาพ

เพ่อื ใหล ูกกงุ กินเปนอาหาร สง ผลใหลูกกุงแข็งแรง มภี ูมติ านทานโรค และ
มีอัตรารอดตายสูง รวมท้ังควบคุมและบําบัดคุณภาพนํ้า โดยการนํา
หัวเชอ้ื จุลินทรยี  ปม.1 (กรมประมง) ท่ีประกอบดวย Bacillus subtilis,
B. megaterium และ B. licheniformis ซ่งึ เปน จุลินทรยี ใ ชบ าํ บดั คุณภาพดนิ
และนํ้า รวมถึงสามารถควบคุมเช้ือแบคทีเรียกอโรคไดดี ทดแทนการใช
สารเคมใี นทุกขนั้ ตอนตัง้ แตเ ตรยี มนํ้า ระหวางการเลี้ยงจนถึงวันจับ โดยมี
เคลด็ ลบั คอื การสรา งอาหารธรรมชาติ การใชจ ลุ นิ ทรยี ค วบคมุ คณุ ภาพนาํ้
การเสรมิ อาหารหมกั ชวี ภาพเพอ่ื สรา งความแขง็ แรงของกงุ ทะเล และการเลย้ี ง
ปลานิลในบอบําบัดนํ้า บอพักน้ํา และในบอเล้ียง ซ่ึงปลานิลจะทําหนาท่ี
คยุ ตะกอนพนื้ กน บอ และกนิ เศษอาหารเหลอื จากนาํ้ ทห่ี มนุ เวยี นจากบอ เลย้ี ง
มาเขา บอ บําบัด กอ นจะถกู สง เขา บอ พกั นํา้ หมนุ เวยี นกลบั ไปเล้ียงกุง ทะเล
อีกครั้ง ซึ่งการหมุนเวียนเปล่ียนถายนํ้าทุกวันจะไปกระตุนการลอกคราบ
ของกงุ ทะเล เมือ่ กงุ ทะเลไดรับแรธาตจุ ากน้ําใหมตลอดเวลาจึงโตเรว็ และ
มีความแข็งแรง ลดตนทุนในการเติมแรธาตุ เทคนิคการเล้ียงกุงทะเลแบบ
สรา งสมดลุ ธรรมชาติ จงึ ลงทนุ นอ ยกวา เลย้ี งกงุ ทะเลแบบเดมิ แตใ หผ ลผลติ สงู
โดยไมต อ งพงึ่ ยาหรอื สารเคมี จนชาวบา นเรยี กตดิ ปากวา “เลย้ี งกงŒุ สตู รคนจน”
ประกอบกับความมีจิตสาธารณะ และความมุงม่ันเพ่ือจะถายทอดความรู
และประสบการณใ นการชว ยเหลอื เกษตรกรผเู ลย้ี งกงุ ทะเล ใหม คี วามยงั่ ยนื
ตอไป จงึ เปน ทีม่ าซงึ่ ทาํ ให นายวศิน ธนภริ มณ ไดร บั การคัดเลอื กใหเ ปน
เกษตรกรดเี ดน แหง ชาติ สาขาอาชพี เพาะเลย้ี งสตั วน าํ้ กรอ ย ประจาํ ป 2561

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลยี้ งสัตวนํ้าชายฝง

การเลย้ี งกงุŒ ทะเลระบบนา้ํ หมนุ เวียนแบบสมดุลชีวภาพ 5

ความเปนš มา

นายวศิน ธนภิรมณ ขาราชการบาํ นาญ ตาํ แหนง รองผอู ํานวยการ
สํานักงานการศึกษาเขตพื้นที่ จังหวัดปตตานี มีความสนใจและเร่ิมเลี้ยง
กงุ กลุ าดาํ ตง้ั แต ป พ.ศ. 2532 โดยลงทนุ รว มกบั ญาตใิ นการเลย้ี งกงุ กลุ าดาํ
จาํ นวน 1 บอ การเลย้ี งครงั้ แรกประสบผลสาํ เร็จ จนสามารถพฒั นาระบบ
การเลี้ยงและขยายฟารม ไดเ พิ่มขึ้น ระหวา งป พ.ศ. 2535-2537 การเลยี้ ง
กุงกุลาดําในพ้ืนที่เกิดโรคหัวเหลืองระบาดอยางรุนแรง จึงเขารวมกลุมกับ
ผูเลี้ยงกุงทะเลจัดต้ังชมรมผูเล้ียงกุงจังหวัดปตตานีขึ้น เพื่อแกปญหาและ
ปอ งกนั การแพรร ะบาดของโรคหวั เหลอื ง ไดใ ชว ศนิ ฟารม เปน แหลง ทดลอง
และเรียนรูจนสามารถแกปญหาการระบาดของโรคและสามารถเล้ียง
กงุ กลุ าดาํ ไดป ระสบผลสาํ เรจ็ อยา งตอ เนอ่ื ง จนกระทง่ั ป พ.ศ. 2546
เริ่มมีการระบาดของโรคตัวแดงดวงขาวในกุงกุลาดํา ทําให
ชะลอการเลย้ี งกงุ ไประยะหนงึ่ ในป พ.ศ. 2547-2555 มกี ารนาํ
กงุ ขาวแวนนาไมเขา มาเลย้ี งในประเทศไทย จงึ พฒั นาเทคนคิ
การเลย้ี งกงุ ขาวขนึ้ ในวศนิ ฟารม และขยายการเลย้ี งไปในพน้ื ที่
จังหวัดปตตานี จนทําใหอาชีพการเล้ียงกุงทะเลกลับมา
ไดร บั ความสนใจอกี ครงั้ ประกอบกบั เกษยี ณอายรุ าชการ
ในป พ.ศ. 2555 จึงมีเวลาสาํ หรบั การเลย้ี งกงุ ทะเล
อยางเต็มที่ แตเปนชวงท่ีมีการแพรระบาดของ
โรค EMS ในภาคตะวันออก และภาคกลาง
เกิดภาวะวิกฤตการณของการเล้ียงกุงทะเล
ทําใหเกิดความเสียหายตออาชีพการเลี้ยง
กงุ ทะเลทว่ั ประเทศ วศนิ ฟารม ประสบปญ หา
ขาดทนุ อยา งตอ เนอ่ื ง จนถงึ ป พ.ศ. 2557 จงึ เรม่ิ

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเล้ียงสัตวนํ้าชายฝง

6 การเล้ียงกงŒุ ทะเลระบบนํา้ หมนุ เวยี นแบบสมดุลชวี ภาพ

ศกึ ษาดงู านตามฟารมตางๆ เพอ่ื แลกเปล่ยี นการเรียนรูกบั นกั วชิ าการและ
เกษตรกรผเู ลยี้ งกงุ ทะเลทว่ั ประเทศ แลว นาํ ความรตู า งๆ จากอาจารย 10 ทา น
มาบรู ณาการรว มกนั จนสามารถออกแบบระบบการเลยี้ งกงุ ทะเลทเี่ หมาะสม
กับวศินฟารม คือการเลี้ยงกุงทะเลแบบสรางสมดุลธรรมชาติ (สูตรคนจน)
หรอื ระบบการเลยี้ งกงุ ทะเลระบบนาํ้ หมนุ เวยี นแบบสมดลุ ชวี ภาพในปจ จบุ นั

ระบบการเลยี้ งเนน การใชป นู มารล เตรยี มบอ ใชจ ลุ นิ ทรยี  (ปม.1) ของ
กรมประมงตลอดการเลยี้ ง ใชน าํ้ ปลาหมกั นาํ้ สบั ปะรดหมกั และอาหารหมกั
การบําบัดคุณภาพน้ําดวยปลาพ่ีเล้ียง และการทยอยปลอยลูกกุงลงเล้ียง
ทลี ะบอ หา งกนั ประมาณ 15-30 วนั ปรมิ าณผลผลติ กงุ ขาวเฉลย่ี ตอ ปป ระมาณ
100 ตนั มลู คา 18 ลา นบาท พื้นทฟ่ี ารม 63 ไร ขนาดบอเลยี้ งเฉลย่ี 3.4 ไร
จํานวน 8 บอ ผลผลิตเฉลี่ย 2.9 ตันตอไร ตนทุนรวมเฉลี่ยประมาณ
100 บาทตอ กโิ ลกรมั ไดก งุ ขาวขนาด 40-50 ตวั ตอ กโิ ลกรมั อตั รารอดเฉลย่ี
รอยละ 96.0 และอัตราแลกเนื้อ 1.3 อีกท้ังไมมีการใชยาตลอดการเลี้ยง
ทาํ ใหวศินฟารม ประสบความสาํ เร็จในการเล้ียงกุงทะเลมาจนถงึ ปจ จุบัน

กลัวที่จะตŒองขาดทนุ อกี :
เนื่องจากฟารมเสยี หายจาก
ภาวะโรคระบาดจากเชอื้ ก‹อ

โรค EMS

โดยใชŒสารเคมใี หŒนอŒ ย สสเตูแลตู นร้ียรวคงกคนกาดิ จุŒงรน เตรียมการทกุ อยา‹ ง
ปล‹อยกงุŒ ลงบางๆ : ใหŒพรŒอมที่สดุ และลงทุน
นŒอยทีส่ ุด : ในการเลยี้ งกŒุง
ลงเลย้ี งทลี ะบ‹อ
ในรอบใหม‹

ทาํ ใหŒธรรมชาติสามารถบําบดั
คุณภาพนํา้ และดนิ ไดŒทนั : นํ้าเสยี ตอŒ ง
เกิดข้ึนไม‹พรŒอมกนั ปลานลิ ที่เล้ียงไวกŒ ิน

เศษซากอาหารในบ‹อไดŒหมด

แนวคิดสูตรการเล้ียงกุŒงสูตรคนจน

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวนาํ้ ชายฝง

การเลีย้ งกงุŒ ทะเลระบบนํา้ หมุนเวียนแบบสมดุลชีวภาพ 7

หลกั การของสูตรการเลย้ี งกุงŒ ทะเล

ระบบนา้ํ หมนุ เวียนแบบสมดุลชวี ภาพ
(5 ส. และ 10 อ.) คือ การนาํ เทคนคิ และความรŒู

ทไ่ี ดรŒ บั จากอาจารยมาปรบั ใชใŒ หเŒ หมาะสม

5 ส. : 5 สะอาด

ส. ที่ 1. ใชวŒ ธิ ีกําจัดเช้ือ ปปนูรับมปารรลงุ ดเตนิ มิ โจดลุ ยนิ ใชทŒ รยี  ส. ท่ี 2.
โดยใชŒนํ้าจืดเติม
บ‹อสเละอ้ียางดกุŒง: ปในลบาอ‹นแลิ ลละงปเลลอ‹้ยี ยง

รแใชลว‹ Œวมะธิปกกีลับาากรกเาตราํ รจใชยีดั จŒ มพลุ นาิน้าํหทใะหรนŒยี า น ปม.1 ลงในบอ‹ และใชŒ สพะ้นื อบาด‹อ :
หธใสนราลบรหังม‹อรจช‹าาเยกาพตเต่อืแิเลกใรหะยีิดแŒอมขพานึ้บหลใอ‹ านงรอกบยต ‹อ‹าองนดี บวิธรีลเิ วาณกโพซเ‹ น้ืพกอื่ Œนพบรว‹อนดนิ
ส. ท่ี 3.
มปรคี าณุ ศจภาากพเชแือ้ ลกะมอ‹ โี รค ส. ท่ี 4.
เตสระียอมาดน้ํา:

กออมนหถเกตาอาŒามาีกาํ้ มิหกรรจกานุ ลสเะาุŒงรปซถเรกงังวคเิลูกขบเจยีนิวกี่ยอนบอ‹ นบอตงนลาํตกาคกสบถะหลลุมลงŒุีขดั‹าอาแอบัาคยรโลดยดงมณุมนะนกนยาปา้ําภาํ้าย้าํกวกรราังิธกมิ็มเพบลีชาาา‹อวีนี้ยรณกกภเํ้างลโินาดีย้ พยงและ กหานรงั ตสรอื วรจบั จราอกงหŒอง ลสูกะอกาŒุงด :
ปฏบิ ตั กิ ารท่นี า‹ เชอื่ ถือ
ส. ที่ 5.

สเะตอมิาดน้ํา:

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน ํ้าชายฝง

8 การเลีย้ งกŒุงทะเลระบบนาํ้ หมุนเวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ

10 อ. : 10 อาจารย

อ.1 : การใชนŒ ้าํ จดื ฆ‹าเชือ้ EMS (หมกั นํา้ จดื และปลอ‹ ยปลา)
โดย อ.เดชา ศริ เิ ตชะวงศ (ปฐวีฟารม ฉะเชงิ เทรา)


อ.2 : การเตรียมบ‹อโดยลงปนู มารล
โดย ดร.ประพนั ธศักด์ิ ศีรษะภูมิ (มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร)


อ.3 : การใชจŒ ลุ นิ ทรยี  ปม.1 หมกั และการใชนŒ ้าํ หมกั สบั ปะรด
โดย ดร.ชยั วุฒิ สดุ ทองคง (กรมประมง)


อ.4 : การทําฟลอก สตู รประยุกต
โดย น.สพ.สุวรรณ ยมิ้ เจริญ


อ.5 : อาหารธรรมชาติและการทําฟลอ ก สตู รประยกุ ต
โดย น.สพ.สายันต คงเพชร


กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน ํ้าชายฝง

การเลี้ยงกุงŒ ทะเลระบบนา้ํ หมุนเวยี นแบบสมดลุ ชวี ภาพ 9

อ.6 : อรว‹าหมากรบั หนมาํ้ กั หมขักŒาวสตับŒมปะ(รกดาแฟดาํ ตราด) นํามาประยุกตใชŒ
โดย อ.วีระ มารนี


อ.7 : การใชนŒ า้ํ ปลาหมักผสมอาหาร นํามาประยุกตกบั น้ําหมกั
โสดับยปอะร.สดทุ ิน คุมŒ ชนม


อ.8 : ถา‹ ยน้ําเทา‹ อาหารท่กี นิ และวัดคุณภาพนาํ้ ตาม DOC
โดย อ.ไพโรจน อภริ กั ษน สุ ทิ ธิ์ และ อ.ไพโรจน นมิ ติ กลุ ไพบลู ย



อ.9 : ปลาพเี่ ลยี้ ง
โดย น.สพ.วชิ ยั ลาภจตุพร และ อ.ณัฐวัฒน สุขศรี



อ.10 : การเลีย้ งกงุŒ สูตรคนจน นําเทคนคิ ต‹างๆ มาประยุกตใชŒ
เปนš สตู รสาํ เรจ็
โดย อ.วศนิ ธนภริ มณ (ประธานสหกรณผ เŒู ลย้ี งกงŒุ จงั หวดั ปต˜ ตานี จาํ กดั )

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน้าํ ชายฝง

10 การเลี้ยงกงŒุ ทะเลระบบนา้ํ หมุนเวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ

ปจ˜ จยั ความสําเร็จ

ของสตู รการเล้ยี งกงุŒ ระบบนา้ํ หมุนเวยี น
แบบสมดลุ ชีวภาพ

นํ้าดี กุŒงดี วธิ ดีกีาร
ดวงดี
สาํ เร็จ ตอวัาหเสารรมิ กดŒุง ี

จัดกดการี าร เลค้ียนงดี

การเตรียมบ‹อเลี้ยงกุงŒ ทะเล

กรณบี อ ทเี่ ลยี้ งกุงทะเลไมผ าน (มกี งุ ตายระหวางการเลี้ยง) เสียหาย
จากโรคระบาด EMS ใหสูบนํ้าในบอเลี้ยงไปเก็บไวที่บอตกตะกอนหรือ
บอบาํ บดั ใหห มด แลว เติมนา้ํ จืดหรือน้ําความเคม็ ตํ่ากวา 5 ppt ใหทวมดนิ
ประมาณ 30-50 เซนตเิ มตร ใสห วั เชอื้ จลุ นิ ทรยี  ปม.1 ทข่ี ยาย 24-36 ชวั่ โมง
ใหท ั่วบอ จํานวน 100 ลติ รตอ ไร พรอ มทาํ การลากโซท ุกวนั นาน 5-7 วนั
หรือจนกวาจะตรวจไมพบเช้ือ EMS (ตรวจดวยเทคนิค PCR) เม่ือบําบัด
สารอนิ ทรยี แ ละควบคมุ เชอ้ื EMS ไดแ ลว จงึ เรม่ิ เตรยี มบอ เพอ่ื การเลย้ี งกงุ ทะเล

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน ้ําชายฝง

การเลี้ยงกงุŒ ทะเลระบบนา้ํ หมุนเวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ 11

โดยสบู นาํ้ จดื ออกแลว นาํ ไปเกบ็ ในบอ พกั นาํ้ ตากบอ ใหแ หง เพอ่ื กาํ จดั พาหะ
ทห่ี ลงเหลือในบอ ทาํ โครงเชอื ก หรือตาขายกนั นก กนั ปู และส่งิ มชี ีวิตอน่ื ๆ
ที่อาจเขา มาในบอ พรอ มท้ังตดิ ต้งั เครอ่ื งตีนํ้า

กรณีพบหอยเจดียในบอ ใหกําจัดโดยนําน้ําเขามาในบอใหพอทวม
ตวั หอยเจดยี  ใชจ ลุ นิ ทรยี  ปม.1 ทข่ี ยาย 24-36 ชวั่ โมง จาํ นวน 200 ลติ รตอ ไร
ฉดี หรือสาดใหท ่ัว ทิง้ ไว 7 วนั คราดเก็บเปลือกหอยออก

การเตรยี มดินพื้นบ‹อ

ลงปนู มารล บรเิ วณหนา ใบพดั 500-1,000 กโิ ลกรมั ตอ ไร ตามสภาพ
ความเปนกรดและดางของดินบริเวณพื้นบอ ตากบอท้ิงไวนาน 1-3 วัน
จึงสบู นาํ้ เขา บอ

ตากบอ‹ ใหŒแหงŒ พรŒอมกาํ จัดพาหะ ถาŒ มี
แอ‹งนํ้า/หลุม ใหลŒ งกากชา และปนู มารล

500-1,000 กโิ ลกรัม/ไร‹ พรอŒ มทง้ั
ทาํ โครงเชือก หรือตาขา‹ ยกันนก กันปู
และสง่ิ มชี ีวติ อ่นื ๆ ทอ่ี าจเขŒามาในบอ‹

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน้ําชายฝง

12 การเลีย้ งกŒุงทะเลระบบนา้ํ หมนุ เวยี นแบบสมดลุ ชีวภาพ

การเตรียมน้าํ

สูบนา้ํ ความเคม็ ไมตํ่ากวา 5 ppt ผานอวนมงุ ฟาใสผาใยฟเู ปนวัสดุ
กรองนํ้าเขา บอ เล้ยี งใหไดระดบั นา้ํ 50-60 เซนติเมตร เปด เครือ่ งตีน้าํ ทุกตัว
นาน 1-2 ชว่ั โมงตอ วนั เพอื่ ใหต วั ออ นหรอื สปอรข องเชอื้ ตา งๆ ในบอ ฟก ตวั
หลังจากนน้ั ใหปด เคร่ืองตีนํ้าทงั้ หมด

ทาํ การลงนา้ํ หมักจลุ นิ ทรยี  สตู ร 1 ในเวลา 08.00-09.00 น. โดยเปด
เครอ่ื งตนี า้ํ ทกุ ตวั เฉพาะเวลาลากโซเ ทา นนั้ (ในชว งแรกทย่ี งั ไมช าํ นาญในการ
บังคับแพหรือเรือลากโซ ใหปดเคร่ืองตีน้ําในบริเวณที่ลากโซ เพื่อปองกัน
อันตราย หลงั จากชาํ นาญแลว ใหล ากโซพ รอ มเปด เคร่อื งตนี ํา้ ทุกตวั ในบอ)

เติมน้าํ เขาŒ บอ‹ ใหไŒ ดรŒ ะดับ
50-60 เซนตเิ มตร เพอ่ื
สราŒ งอาหารธรรมชาติ

เตมิ นํ้าโดยผา‹ นการกรอง
ดŒวยผŒาใยฟู

เปด เคร่ืองตีน้าํ 100% เพอื่ รวมตะกอน
และใส‹น้าํ หมักจุลินทรีย (ปม.1)

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลยี้ งสัตวน ้ําชายฝง

การเลยี้ งกุงŒ ทะเลระบบนํา้ หมุนเวยี นแบบสมดลุ ชวี ภาพ 13

ใส‹นาํ้ หมกั จุลนิ ทรยี  ปม.1 ตลอดการเล้ยี ง

ขยายจุลินทรยี 
ตามสตู ร 2
ใส‹ในบอ‹ 100 ลติ ร/ไร‹

ใสน้ําหมักจลุ ินทรีย ตามสตู ร 2 วันละ 100 ลติ รตอไร
ตั้งแตวนั ท่ี 1-5 และใสวนั ละ 50 ลติ รตอ ไร ตง้ั แตว ันท่ี 6-10
ทง้ั น้ี ใหใ สน า้ํ หมกั จลุ นิ ทรยี  ตามสตู ร 3 วนั ละ 50-100 ลติ รตอ ไร
ตลอดการเลย้ี ง โดยเปด เครอ่ื งตนี า้ํ เฉพาะเวลาลากโซ (ประมาณ
2 ชั่วโมงตอ วนั ) สุมวัดความเปน กรดเปนดา ง (pH) ซง่ึ ชว งเชา
ควรมีคา pH ประมาณ 7.3-7.4 และ pH ชว งเย็น มีคา หา งจาก
ชวงเชาไมค วรเกนิ 0.3

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน้ําชายฝง

14 การเลยี้ งกŒุงทะเลระบบนํา้ หมนุ เวยี นแบบสมดุลชวี ภาพ
การลากโซเ‹ พื่อเพ่มิ ประสิทธภิ าพการยอ‹ ย

สลายสารอนิ ทรียของแบคทีเรียบริเวณพ้ืนบ‹อ

เรอื ทีใ่ ชŒในการลากโซ‹ วธิ กี ารลากโซใ‹ นบอ‹ เล้ยี งกุŒง

การปลอ‹ ยลกู กŒงุ ทะเล

ปลอ ยลกู กงุ ทะเลทแ่ี ขง็ แรง ไมพ บตวั ตาย ไมแ ตกไซส หลงั จากปลอ ย
กุงทะเลได 3 วัน ใหเร่ิมเติมน้ําผานการกรองดวยผาใยฟู เติมทีละนอยๆ
ทกุ วนั ใหอ าหารหมกั หรอื อาหารเหลว 15 วนั (ตามสตู ร 2) และเมอื่ เชก็ ยอได
จงึ เรม่ิ ใหอ าหารเมด็ ทผี่ สมกบั อาหารหมกั ตามสตู ร 5 และ สตู ร 6 ตลอดการเลยี้ ง

การปล‹อยลูกกŒุงจะสุ‹มเก็บตัวอย‹าง
เพื่อส‹งตรวจคณุ ภาพและสุขภาพของกŒงุ

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน ํ้าชายฝง

การเลีย้ งกงุŒ ทะเลระบบนํา้ หมุนเวียนแบบสมดลุ ชีวภาพ 15

ระหวา‹ งการเลยี้ งใหŒตรวจเชก็ กุŒงสมํา่ เสมอ
สังเกตดูสีของตับโดยใชกŒ ะละมงั สีขาว

การตรวจวดั คุณภาพนํา้

โดยการตรวจวัดคุณภาพนํ้า ปริมาณออกซิเจนละลายนํ้า (DO)
ตลอดทัง้ วัน ไมควรตา่ํ กวา 4 มิลลกิ รัมตอ ลิตร (ppm) สุมวัด pH ชว งเชา
ประมาณ 7.3-7.5 และ pH ชวงเย็น 7.6-7.8 ตลอดทั้งวัน pH ไมควร
แตกตา งกนั เกนิ 0.3 ตลอดการเลยี้ งปรมิ าณแอมโมเนยี ไมค วรเกนิ 0.1 ppm
ไนไตรทไมเกิน 0.01 ppm และมีปริมาณแคลเซียม 150-250 ppm
แมกนเี ซยี ม 400-500 ppm โพแตสเซียม 120-150 ppm

เมอ่ื พบปรมิ าณแอมโมเนยี หรือไนไตรทในนาํ้ สงู เกนิ คาท่ีเหมาะสม
แสดงวา มกี ารตกคา งของสารอนิ ทรยี ใ นบอ เชน อาหารทใ่ี หก งุ ทะเลกนิ เหลอื
ส่ิงขับถายในรูปที่ละลายอยูในน้ํา เปนตน ซ่ึงสงผลตอสุขภาพของกุง
การตกคา งของสารอนิ ทรยี ใ นบอ จะทาํ ใหป รมิ าณออกซเิ จนละลายนา้ํ ลดลง
pH ลดลง กา ซคารบ อนไดออกไซดเ พม่ิ ขนึ้ และสารอนิ ทรยี ค ารบ อนจะเปน
แหลง อาหารของแบคทเี รยี ซง่ึ เปน สาเหตขุ องโรคกงุ ทะเล การควบคมุ ระดบั
สารอินทรียในบอจึงมีความสําคัญตอการเลี้ยงกุงทะเล ซ่ึงทําไดโดย
การตรวจเช็กปริมาณอาหารใหเหมาะสมกับความตองการของกุงทะเล
ณ ชวงเวลาน้ัน เพ่ิมการเติมอากาศ เพิ่มปริมาณจุลินทรียที่ดี และ
การหมนุ เวยี นนา้ํ ใหม ากข้นึ

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวนํ้าชายฝง

สรปุ

เคลด็ ลับ

100%กใหาŒปรรเละสย้ี บงกคŒงุวทาะมเลสาํ เร็จ

การเตมิ น้ําและหมุนเวียนนาํ้ ตลอดการเลยี้ ง

1. ชวยใหมนี าํ้ สะอาดเตมิ ลงในบอตลอดเวลา
2. กุง ทะเลไดรับน้าํ ใหมจ ากการหมุนเวยี นน้ํา ทําใหเ กดิ การละลาย
ของแรธาตุ ท่ีสะสมอยูในระบบบอบําบัด บอพักน้ํา และหมุนเวียนน้ํา
กลบั มาใชต ลอดเวลา ไมต องซอื้ แรธาตมุ าใสเ พม่ิ
3. การเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดจากความแตกตางของคุณภาพนํ้า
มนี อยมาก ทาํ ใหกงุ ทะเลไมเครียด
4. กงุ ทะเลลอกคราบตลอดทง้ั กลางวันและกลางคนื โดยทก่ี ุง ทะเล
ยังแขง็ แรง
5. ไมเกิดการสะสมของสารอินทรียในนํ้าในปริมาณที่สูงเกินไป
สขี องนาํ้ คอ นขา งนง่ิ (หากมสี ารอนิ ทรยี ท ลี่ ะลายอยใู นนาํ้ มาก จะเปน สาเหตุ
ใหก งุ ทะเลปว ยเปนโรคขขี้ าว หรือโรค EMS)
6. กุงทะเลแข็งแรง จึงมคี วามตา นทานตอโรคสงู

การเลีย้ งกŒุงทะเลระบบนํ้าหมนุ เวยี นแบบสมดลุ ชีวภาพ 17

การใชŒนํา้ หมกั จลุ ินทรยี ในการเล้ียงกŒุงทะเล

1. นํ้าคุณภาพดี pH ไมแกวง และสีของนํ้าไมมีการเปล่ียนแปลง
อยา งรวดเรว็

2. น้าํ ไมเสียเพราะใชอ าหารนอย ไมเกดิ การเนา เสียของอาหาร
3. เกดิ อาหารธรรมชาตทิ เ่ี ปน อาหารของลูกกงุ ทะเล
4. เช็กยอไดเร็ว (13-15 วนั ) เมื่อเชก็ ยอไดจ ึงใหอ าหารเม็ด รวมกับ
นํ้าปลาหมัก และนํ้าสับปะรดหมกั ทุกวัน
5. ประหยัดไมต อ งเปดเคร่ืองตนี ํ้าในเวลากลางวัน
6. การเปดเครอื่ งตีน้าํ ในเวลากลางคนื

• เปด 3 ตัว เม่อื ลงกงุ ทะเล
• เปด 4 ตวั เมอื่ กงุ ทะเลอายุ 15 วัน
• เปด 5 ตัว เม่ือกงุ ทะเลอายุ 30 วัน
• เปด 6 ตวั เม่ือกุงทะเลอายุ 40 วนั
• เปด ทกุ ตวั จนจบั กงุ

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ียงสัตวน้ําชายฝง

18 การเล้ยี งกุงŒ ทะเลระบบนํา้ หมุนเวียนแบบสมดุลชวี ภาพ

การใชŒอาหารหมกั ในการเลี้ยงกงุŒ ทะเล

1. ชวยแกอาการตับอักเสบ เซลลตับหลุดลอก (ATM) โรคข้ีขาว
ลดการเกดิ หรอื เพมิ่ จาํ นวนเชอื้ แบคทเี รยี โปรโตซวั (EHP) ในตบั และตบั ออ น
ของกุง ซ่ึงทาํ ใหก งุ ปวยหรอื โตชา

2. กุงโตดี เพราะกินอาหารธรรมชาติ ท่ีเกิดจากการใชอาหารหมัก
ซง่ึ สามารถดดู ซมึ ไปใชป ระโยชนไ ดด ี กงุ จงึ แขง็ แรง และมคี วามตา นทานโรคสงู

3. เพิ่มภูมิคุมกัน ลดอาการตับและตับออนตายเฉียบพลันจากเช้ือ
แบคทเี รยี (EMS) และโรคตัวแดงดวงขาวได

4. ลกู กงุ ทรี่ ะบบทางเดนิ อาหารยงั ทาํ งานไดไ มด ี การยอ ยอาหารเมด็
สําเร็จรูปอาจไมสมบูรณ ทําใหมีสวนท่ียอยไมไดถูกขับออกมามาก และ
สะสมในบอ ซงึ่ สง ผลใหเ ชอ้ื แบคทเี รยี กอ โรคเพมิ่ จาํ นวนมากขน้ึ จนกระทบตอ
สขุ ภาพของกงุ ทาํ ใหก งุ ปว ยดว ยโรค EMS หรอื โรคขขี้ าว การใชอ าหารหมกั
จงึ ชวยใหก ุงดดู ซมึ สารอาหารไดดียงิ่ ข้ึน

5. นา้ํ คุณภาพดี และ pH ไมแกวง
6. กงุ มีอัตรารอดสงู โตเรว็ แข็งแรง และมคี วามตานทานโรค
การใหอŒ าหาร จะตŒองเชก็
จากยอ หากอาหารหมด
ทุกยอจงึ จะปรับเพ่ิม
ซึ่งจะทาํ ใหŒ FCR ดี

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน า้ํ ชายฝง

การเลี้ยงกงุŒ ทะเลระบบนาํ้ หมนุ เวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ 19

กกงุŒารทใะชเลŒนํ้าปลาหมัก และนํ้าสับปะรดหมักในการเล้ียง

1. กุงไดรับโปรตีนเพิ่มเน่ืองจากการกินอาหารท่ีผสมน้ําหมัก
ซ่ึงยอยสลายโปรตีนออกมาจากการหมักปลา และสับปะรด (สับปะรด
มเี อนไซมโ บรมเี ลน ทย่ี อ ยโปรตนี ไดด )ี

2. การใชนาํ้ หมกั สบั ปะรดท่ีอุดมไปดวยแรธาตุ และวิตามิน รวมท้ัง
มี pH ตา่ํ ชว ยแกปญหาการตายของกุงทะเลจากโรคไวรัส และโรค EMS
ทเ่ี กดิ จากเชื้อแบคทเี รยี ได

3. กุงแขง็ แรง และมคี วามตานทานโรคสงู

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน ้ําชายฝง

20 การเลยี้ งกงุŒ ทะเลระบบน้าํ หมนุ เวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ

หลงั ปลอ‹ ยกŒงุ ใหอŒ าหารหมัก 15 วัน
(ตŒมราํ ละเอยี ดกบั ปลาป†น)

หลงั จากกงŒุ อายุ 15 วนั ใหอŒ าหารเม็ด
คลุกน้าํ ปลาหมกั ผสมนาํ้ หมัก

น้าํ หมักสบั ปะรด นํา้ ปลาหมัก

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน ้ําชายฝง

การเลีย้ งกุŒงทะเลระบบนาํ้ หมุนเวยี นแบบสมดุลชวี ภาพ 21

การปล‹อยปลาพเ่ี ล้ียงในบ‹อ

1. ในบอ พกั นา้ํ ควรเลย้ี งปลานลิ เพอื่ ชว ยในการปรบั ปรงุ คณุ ภาพนา้ํ
2. ในบอ เลย้ี งกงุ ทะเลควรปลอ ยปลานลิ ในคอกบรเิ วณมมุ บอ ทเี่ ตมิ นา้ํ
3. หลังจากปลอยกุงทะเล 15 วัน ปลอยปลานิลขนาดใบมะขาม
ลงไปอยูรวมกับกุงทะเล อัตราปลอยปลานิลจํานวน 400-500 ตัวตอไร
(ปลานิลตองมีขนาดเล็กกวา กุงทะเล)
4. ปลานิลจะชวยกนิ เศษอาหารทเ่ี หลือตกคา งอยูพ้นื บอ

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลีย้ งสัตวน ํ้าชายฝง

22 การเล้ยี งกงŒุ ทะเลระบบนา้ํ หมุนเวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ

ส่ิงสาํ คัญในการเล้ียงกงŒุ ทะเล

1. กอ นปลอ ยกงุ ตอ งเตรยี มนา้ํ ใหพ รอ ม ตรวจการปนเปอ นเชอ้ื EMS
ในนา้ํ และดิน ตอ งไมมีเช้ือกอโรค และเนน การสรางอาหารธรรมชาติ

2. การเลีย้ งกุงในชว ง 1-15 วันแรก ใหอาหารหมกั เทา นนั้ เพ่อื เปน
การสรา งอาหารธรรมชาติ สามารถแกป ญ หาโรค EMS ได

3. ตรวจหาเชอ้ื กอ โรค EMS ดว ยเทคนคิ PCR โดยเฉพาะชว งกงุ อายุ
นอ ยกวา 1 เดือน

4. คาอัลคาไลนตอ งได 100 ppm ขึน้ ไป pH ตอ งน่งิ โดยคา pH
ในชว งเชา และเย็นตางกันไมเกนิ 0.3

5. สีของนํา้ ในบอเล้ียงจะตองไมใส หรอื ไมเขมจนเกินไป
6. เมอื่ ทําการปลอ ยกงุ ลงเลยี้ ง ใหแบงกงุ ประมาณ 500-1,000 ตัว
เล้ียงไวในกระชัง สําหรับเปนตัวแทนกุงในบอ เพื่อเช็กสุขภาพและ
การเจรญิ เติบโตของกงุ จนถงึ ระยะท่ีกุงเขา มากนิ อาหารในยอ
7. เม่ือทําการเช็กกุงในยอ ใหสังเกตดูตับและลําไสกุง ซ่ึงตับและ
ลาํ ไสควรมีสีดํา
8. หากกงุ กนิ อาหารมาก ควรถา ยนา้ํ ใหม าก และเตมิ นา้ํ ทกุ วนั เพอื่ ลด
ปริมาณสารอนิ ทรยี ละลายในนํ้า และปอ งกนั การเกดิ โรคขี้ขาว
9. การใหอาหารไมควรใหเต็มรอยเปอรเซ็นต การใหอาหารขาด
ดีกวาใหอาหารเหลือ เพราะอาหารเหลือตกคางจะละลายในน้ํา ทําใหมี
สารอินทรียล ะลายในนา้ํ สงู เปน สาเหตขุ องโรคขี้ขาว และโรค EMS
10. ใหความสาํ คัญกบั การเช็กยอ เพราะการใหอ าหารในปริมาณท่ี
แมนยําสามารถปอ งกันโรคขขี้ าวและโรค EMS ได

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวน ้ําชายฝง

การเลย้ี งกงุŒ ทะเลระบบนํ้าหมุนเวียนแบบสมดุลชวี ภาพ 23

กเพา่ือรใใชหสŒŒปูตรระสกบารคเวลาี้ยมงสกาํ ุŒงเทร็จะเลของนายวศนิ ธนภิรมณ

1. พนื้ บอ สะอาด-ไมม เี ชอื้ ทก่ี อ ใหเ กดิ โรค (โดยการใชส ตู ร 1 และสตู ร 2)
2. นา้ํ สะอาด-ไมมีเชอื้ ท่ีกอ ใหเ กดิ โรค (โดยการใชส ูตร 1 และสตู ร 2)
3. นาํ้ ไมใ สหรอื มสี อี ะไรกไ็ ด แตส นี า้ํ ตอ งไมเ ปลยี่ นแปลงอยา งรวดเรว็
(โดยการใชสตู ร 1 และสูตร 2)
4. pH ไมแ กวง และคา อลั คาไลนเ กนิ 100 ppm (โดยการใชป นู มารล )
5. สขี องนํา้ ไมเขม และไมเปลีย่ นแปลงอยา งรวดเร็วตลอดการเลีย้ ง
(โดยการใชส ูตร 3)
6. ใหกุงทะเลกินอาหารธรรมชาติ จะทําใหกุงแข็งแรง มีความ
ตานทานโรค (โดยการใชส ูตร 4)
7. ใหก ุง ทะเลกนิ โปรตนี และโปรไบโอตกิ เพิม่ ทาํ ใหก ุงทะเลแข็งแรง
และมคี วามตานทานโรค (โดยการใชสูตร 5 และสูตร 6)

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลยี้ งสัตวนํ้าชายฝง

24 การเลย้ี งกŒุงทะเลระบบนํ้าหมุนเวยี นแบบสมดุลชวี ภาพ

ผลงานและความสาํ เรจ็ ของ
นายวศิน ธนภริ มณ

(เกษตรกรดเี ด‹น สาขาอาชพี เพาะเลีย้ งสตั วนํา้ กรอ‹ ย ป‚ 2561)
1) ปริมาณผลผลิตกุงขาวเฉล่ียตอปประมาณ 100 ตัน มูลคา

18 ลานบาท พื้นทฟี่ ารม 63 ไร ขนาดบอ เล้ยี งเฉล่ีย 3.4 ไร จาํ นวน 8 บอ
ผลผลติ เฉลย่ี 2.9 ตนั ตอ ไร ตน ทนุ รวมเฉลย่ี 100 บาทตอ กโิ ลกรมั อตั รารอด
เฉล่ียรอยละ 96.0 โดยกุงมีขนาดประมาณ 50 ตัวตอกิโลกรัม และ
อัตราแลกเน้อื (FCR) 1.3

2) เปนผูคิดคนเทคนิคการเล้ียงแบบสรางสมดุลธรรมชาติ หรือ
“สูตรคนจน” ซึ่งใหค วามสําคัญกบั 4 ปจ จัย คอื

2.1) พน้ื บอ เล้ยี งตองสะอาด โดยใชจ ุลินทรีย ปม.1
2.2) การบําบดั นํา้ ที่ใชเลีย้ งกุงโดยใชป ลานิล
2.3) กุง ท่ีเลี้ยงสะอาด แขง็ แรง มภี มู ติ า นทานและปลอดเช้ือโรค

เน่ืองจากมีการเติมน้ําปลาหมักและน้ําสับปะรดหมักผสม
ในอาหารท่ีใชเลีย้ งกุง
2.4) นํ้าจากการเลี้ยงกุงที่ปลอยสูแหลงนํ้าธรรมชาติมีความ
สะอาด เพราะไมมกี ารใชยาปฏชิ วี นะตลอดการเล้ียง
3) ไดรับมาตรฐาน Good Aquaculture Practice (GAP) จาก
กรมประมง
4) ไดรับการคัดเลือกใหเปนเกษตรกรดีเดนคนกุงใตลาง คร้ังท่ี 5
ป 2559
5) ไดรับการแตงตั้งเปนที่ปรึกษาสหกรณผูเลี้ยงกุงจังหวัดปตตานี
จาํ กดั (ป 2559-2560)

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน า้ํ ชายฝง

การเล้ียงกุงŒ ทะเลระบบนา้ํ หมุนเวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ 25

6) ไดรับเชิญเปนวิทยากรบรรยายเทคนิคการเล้ียงกุงขาว
ในงานสัมมนากงุ ตา งๆ ระดับประเทศ

7) เปนคณะกรรมการสมาพันธเกษตรกรผูเล้ียงกุงไทย โดยมี
สว นรว มวางแผนแกไ ขปญหา ปอ งกันดานโรคระบาดกงุ ท้ังโรค EMS ขขี้ าว
และ ATM ตลอดจนการนาํ เสนอแนวทางแกปญ หาราคากงุ ตกต่าํ

สูตรการเลยี้ งกงŒุ ทะเลของ
นายวศิน ธนภิรมณ (บ‹อขนาด 4-5 ไร)‹

สูตร 1 การเตรียมบอ‹ ดนิ พ้ืนบอ‹ และนาํ้

การเตรียมบอ
กรณีบอเล้ียงเสียหายจากโรค EMS ใหสูบน้ําในบอเดิมออก

ใหห มดและเติมนาํ้ จืดความเคม็ ตาํ่ กวา 5 ppt หมักไวน าน 3-4 เดอื น
หรือใชจุลินทรีย ปม.1 บําบัดสารอินทรีย และควบคุมเช้ือพรอมท้ัง
การลากโซ จนกวา จะตรวจไมพ บเชอ้ื (5-7 วนั ) กรณยี งั ไมท าํ การเลย้ี งกงุ
อาจปลอยปลานิลลงไปบําบัด (ไมตองใหอาหาร) เริ่มเตรียมบอ
เพ่ือการเลี้ยง โดยสูบนํ้าจืดในบอออก และนําไปเก็บในบอพักนํ้า
ตากบอใหแ หง กาํ จัดพาหะและทาํ ท่ีกันนก กนั ปู และสง่ิ มีชีวติ อ่นื ๆ
ท่ีจะเขามาในบอ ถา มีหลุมหรือแองนํ้า ใหใ สกากชาและปนู ขาว และ
ตดิ ตั้งเครอ่ื งตนี าํ้ ใหพรอม 100%
การเตรยี มดนิ พนื้ บอ

ใสป นู มารล ไรล ะ 500-1,000 กโิ ลกรมั โดยขนึ้ อยกู บั pH ของดนิ
ใสบรเิ วณหนา ใบพดั เครอื่ งตนี ้าํ ตากทง้ิ ไว 1-3 วนั จงึ สบู นํ้าเขา (หาก
ลงปนู แลว ฝนตกใหส บู น้ําเขาไดท นั ท)ี

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวนาํ้ ชายฝง

26 การเลีย้ งกงŒุ ทะเลระบบนํา้ หมนุ เวยี นแบบสมดลุ ชีวภาพ

การเตรียมน้ํา
เม่ือเตรียมบอและดินพื้นบอพรอมแลว จึงสูบนํ้าเขาบอ โดย

สูบน้ําผานการกรองดวยมุงฟา ใหไดระดับน้ํา 50-60 เซนติเมตร
เปดเครอื่ งตีน้าํ ทุกตัว นาน 1-2 ช่วั โมง กาํ จดั พาหะตางๆ สาหราย
หอย และควบคุมปริมาณแพลงกต อน

หลังจากน้ันใหปดเคร่ืองตีนํ้าทั้งหมดหมักน้ําท้ิงไว 7-10 วัน
เมื่อครบกําหนด จึงเริ่มใสน้ําหมักจุลินทรีย ตามสูตร 2 (ชวงเวลา
08.00-09.00 น.) โดยเปด เครอื่ งตนี ํา้ ทกุ ตวั เฉพาะเวลาลากโซเทา นั้น

การใสน ้ําหมกั จุลินทรยี  ตามสูตร 2 บอ ขนาด 4-5 ไร วนั ท่ี 1-5
ใสน ้าํ หมักจุลินทรีย ตามสตู ร 2 วันละ 2 ถัง (400 ลิตร) และลากโซ
(รวม 5 วัน ใชนํ้าหมักจุลินทรียจํานวน 10 ถัง หรือ 2,000 ลิตร)
จนสามารถลงกุงได หรือตามความพรอมของสภาพนํ้า

การเปดเครื่องตีน้ําจะเปดเฉพาะเวลาลากโซเทาน้ัน (เปด
2 ชวั่ โมง ปด 22 ชั่วโมง) ทําแบบนีท้ กุ วนั เพ่อื ปรับสมดลุ จลุ ินทรยี 
และแพลงกต อน โดยสมุ วดั pH เชา และเย็น ซึง่ ชวงเชาควรมีคา pH
ประมาณ 7.3-7.5 (ไมเกิน) และชวงเย็น pH ควรหางจากชวงเชา
ไมเ กิน 0.3

สูตร 2 การเตรยี มน้ําหมักจลุ ินทรยี สําหรับสรŒางอาหาร
ธรรมชาติในบ‹อ

1. นํา้ 200 ลติ ร
2. กากน้าํ ตาล 5 กิโลกรัม
3. ราํ ละเอยี ด 3 กิโลกรมั
4. แปง มนั 3 ถุง (รวม 1.5 กโิ ลกรมั )
5. ปม.1 แบบนํ้า (300 มิลลิลิตร) หรือแบบผง 3 ซอง
6. เปดระบบใหลมผานหวั ทราย นาน 36 ชั่วโมง (ปดฝาไมต อ งแนน)

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ียงสัตวน ้าํ ชายฝง

การเล้ยี งกŒุงทะเลระบบนาํ้ หมนุ เวยี นแบบสมดุลชวี ภาพ 27

สตู ร 3 การเตรียมน้ําหมักจุลินทรยี สําหรับใชŒขณะทมี่ กี Œงุ
อย‹ใู นบอ‹

1. นา้ํ 200 ลิตร
2. กากนํ้าตาล 3 กโิ ลกรมั
3. ปม.1 แบบนํา้ (300 มลิ ลลิ ติ ร) หรอื แบบผง 3 ซอง
4. เปดระบบใหล มผา นหวั ทราย นาน 36 ชวั่ โมง (ปดฝา)
***รําละเอยี ดและแปง ไมตองใชห ลงั จากลงลกู กุง***
(วันท่ี 11-40 ใสน ํา้ หมกั ตามสตู ร 3 วันละ 100 ลิตร
ตั้งแตวันที่ 41 เปนตนไปจนถึงวันจับกุง ใสน้ําหมักตามสูตร 3
วันละ 50-100 ลิตร) โดยดูสีของนํา้ ในบอประกอบ

สตู ร 4 การเตรยี มอาหารหมัก

1. รําละเอยี ด 6 กโิ ลกรมั
2. ปลาปน 3 กิโลกรัม
3. นาํ ราํ ละเอยี ดและปลาปน มาตม รวมกนั และทง้ิ ไวใ หเ ยน็ จงึ นาํ มาหมกั
4. นา้ํ หมักสบั ปะรด 5 ลิตร
5. อาหารกุงเบอร 1 จํานวน 2 กโิ ลกรมั
6. กากนํ้าตาล 1 กโิ ลกรัม ละลายน้ํา
7. เติมจุลินทรีย ปม.1 ที่ขยายแลว 24-36 ช่ัวโมง (BS และ BL)

ใหทว มอาหารกงุ เบอร 1
8. นาํ ขอ 1-7 มาหมักรวมกนั เตมิ นาํ้ ใหเหลวหมกั ไว 2 คืน
9. ชดุ นรี้ วมกนั ได 1 ถงั ใชเ ลยี้ งกงุ จาํ นวน 5-8 แสนตวั ตอ วนั โดยแบง

ใหกนิ 3 ม้อื
10. ควรหมกั ไวก อ นปลอ ยกงุ สองวนั และทาํ การตม ทกุ วนั ๆ ละ 1 ถงั

กินติดตอ กนั แทนอาหารเมด็ สําเรจ็ รูป นาน 15 วนั

หมายเหตุ : อาหารกุงทีน่ ํามาใชหมัก ใหใ สเ พมิ่ วนั ละ 1 กิโลกรมั จนครบ 15 วนั เชน
วนั ที่ 2 ใหเพิ่มอาหารกงุ เปน 3 กิโลกรัม และวันท่ี 3 ใหเพ่ิมเปน 4 กิโลกรมั เปนตน

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวน า้ํ ชายฝง

28 การเลยี้ งกงŒุ ทะเลระบบน้ําหมุนเวยี นแบบสมดลุ ชวี ภาพ

สตู ร 5 การเตรยี มนา้ํ ปลาหมกั

1. ปลา 3/4 ถัง (200 ลิตร)
2. เกลือ 5 กิโลกรมั
3. กากนา้ํ ตาล 20 กโิ ลกรัม
4. นํา้ หมักสับปะรด 40 ลิตร ใสจนทว มปลา
5. ปดถังหมักดวยถุงอาหารกุงท้ิงไว นาน 3-4 เดือน คนเดือนละ

1 ครงั้

สตู ร 6 การเตรียมน้าํ หมักสบั ปะรด

1. สับปะรดสกุ (สบั ท้ังเปลือก) 3/4 ถัง (200 ลติ ร)
2. กากนาํ้ ตาล 20 กิโลกรัม
3. ใสนํา้ จนเตม็ หมัก 1-2 เดอื น
4. ปดถงั หมกั ดว ยถงุ อาหารกงุ เพอ่ื ไมใ หนา้ํ เขา

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน าํ้ ชายฝง

การเลยี้ งกŒุงทะเลระบบนา้ํ หมุนเวียนแบบสมดุลชีวภาพ 29

การเตรียมบ‹อ

กรณบี อเลย้ี งเสียหายจากโรค EMS ใหสูบนํ้าในบอ เดมิ ออกใหหมดและ
เตมิ น้ําจืดความเคม็ ตํ่ากวา 5 ppt หมกั ไวนาน 3-4 เดอื น พรอมทั้งปลอย

ปลานลิ ลงไปในบอ เพือ่ บําบัด (ไมตอ งใหอ าหาร)
หลงั จากนั้นสูบน้ําออก ตากบอใหแหงหรอื จนมั่นใจวา ไมม พี าหะของเชือ้
กอ โรคตกคางในบอ กรณีทีพ่ บหอยเจดยี ในบอเลี้ยง ใหก าํ จดั โดยนาํ น้าํ
เขา บอ พอทว มตัวหอย ฉดี หรือราดดว ยนาํ้ ขยายหวั เชื้อจลุ ินทรีย ปม.1
ปริมาณ 200 ลติ รตอ ไร ใหท วั่ บรเิ วณที่มหี อย ท้งิ ไวป ระมาณ 3-7 วัน

หรอื จนกวาหอยตาย
หวา นปูนมารล ปรมิ าณ 500-1,000 กโิ ลกรมั ตอ ไร (ข้ึนกับคา pH ของดนิ )

พรอ มติดตง้ั โครงเชอื ก หรือตาขา ยกนั นก กนั ปู และส่งิ มีชวี ิตอ่นื ๆ
ทอ่ี าจเขา มาในบอ และติดตง้ั เคร่อื งตีน้ํา

หลงั จากใสปนู 3 วัน นาํ น้ําท่มี คี วามเค็มไมน อยกวา 5 ppt เขา บอ
โดยใหมีความสูงของนา้ํ 50-60 เซนติเมตร

เปดเครอ่ื งตนี า้ํ เต็มท่ี ประมาณ 1-2 ช่วั โมง พรอมกําจดั พาหะตางๆ
สาหราย และแพลงกตอน

ปดเครือ่ งตีน้ําทิ้งไว 7-10 วนั จงึ เรมิ่ ขนั้ ตอนการเตรยี มอาหารธรรมชาติ
ตอไป

หมายเหตุ : กรณีการเตรยี มบอ ปกติใหด าํ เนินการตามข้นั ตอนท่ี 2 (การตากบอ) เปน ตน ไป

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวนํ้าชายฝง

30 การเลยี้ งกุŒงทะเลระบบนา้ํ หมนุ เวียนแบบสมดุลชีวภาพ

การเตรียมอาหารธรรมชาตแิ ละการปลอ‹ ยกงŒุ ลงเลี้ยง

นาํ นาํ้ หมักตามสตู ร 2 ใสล งในบอชวงเวลา 08.00-09.00 น. พรอ มเปด
เครอ่ื งตนี าํ้ ประมาณ 2 ชวั่ โมง และทาํ การลากโซใ นระหวา งเปด เครอ่ื งตนี า้ํ
จนทว่ั บอ ไมน อ ยกวา 2 รอบ (ในชวงแรกหากยงั ไมชํานาญในการบังคับ

แพหรอื เรือลากโซ ใหปดเคร่ืองตีน้ําในบรเิ วณท่ีลากโซ เพอ่ื ปองกัน
อันตราย หลังจากชาํ นาญจงึ ใหล ากโซพรอมเปด เครอ่ื งตนี ้ําทกุ ตวั ในบอ )
ตง้ั แตว นั ท่ี 1-5 ใสน าํ้ หมกั ตามสตู ร 2 วนั ละ 100 ลติ รตอ ไร พรอ มทาํ การลากโซ

เตรยี มอาหารหมกั ตามสูตร 4 กอนปลอยกุง 2 วนั
ปลอ ยกุง ขนาด P12 ขึ้นไป จาํ นวน 100,000-150,000 ตัวตอไร
(ข้ึนกบั ความสามารถในการจัดการ และปริมาณน้าํ สะสมท่ีมใี นบอพกั )
ใสนาํ้ หมกั ตามสูตร 3 จํานวน 50 ลิตรตอ ไร ทกุ วนั ตลอดการเล้ียง

เพือ่ ควบคมุ คุณภาพนํา้ ในบอ
ใหอ าหารหมักตามสูตร 4 ทดแทนอาหารเม็ดจนถงึ กงุ อายุ 15 วัน
สมุ วัด pH ชว งเชาและเยน็ ตลอดการเลย้ี ง โดย pH ชว งเชา ประมาณ

7.3-7.4 pH ชว งเยน็ ประมาณ 7.6-7.7 และตลอดทัง้ วัน pH
ไมค วรแตกตางกันเกนิ 0.3

หลงั จากกุงอายุ 15 วนั ใหอาหารเม็ดที่คลกุ ผสมเขา กันดกี บั นํา้ หมักตาม
สตู ร 5 และ สูตร 6 ตลอดการเลี้ยง

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลยี้ งสัตวน ํา้ ชายฝง

การเลยี้ งกŒงุ ทะเลระบบนํ้าหมุนเวียนแบบสมดลุ ชวี ภาพ 31

การเตรียมอาหารธรรมชาตแิ ละการปลอ‹ ยกงŒุ ลงเลย้ี ง (ตอ‹ )

กุง อายุ 20 วัน และกุง เขายอดี ใหป ลอ ยปลาพ่เี ล้ียง (ลกู ปลานิล)
ท่มี ขี นาดเลก็ กวากงุ จาํ นวน 500 ตวั ตอ ไร ลงในบอเลย้ี ง

ใหอาหารผสมนํา้ หมักตามสตู ร 5 และ สตู ร 6 ผึ่งพอหมาดๆ วันละ 3 มอ้ื
โดยการหวานมอื (เวลา 07.30 น., 11.30 น. และ 16.00 น.)

กรณที ี่กุง กินดี โตดีและอากาศดเี พิม่ เปน 4 มอ้ื ในเวลา 20.30 น.
โดยใหอ าหารครง่ึ หน่ึงของมือ้ 16.00 น.

เตมิ นาํ้ จากบอ พกั นํา้ ตดิ ตอ กนั 3 ชวั่ โมง (ทอ 3 นิ้ว) ในชวง 2 สปั ดาหแรก
ของการเลยี้ ง ใหร ะดบั นาํ้ ในบอ มคี วามสงู 100-120 เซนติเมตร

นํ้าสว นเกนิ จะไหลออกจากดานลางบรเิ วณพนื้ บอผา นทางทอ PVC
ขนาด 8 นว้ิ ทีฝ่ ง อยูใตค นั บอ ตอไปยังบอบําบัด และหมุนเวียนไปยัง

บอพักนาํ้ กอ นจะกลบั เขา สูบอ เลี้ยง
เพิม่ ระยะเวลาการเตมิ นํ้าในบอ เล้ยี ง เพือ่ ใหเ กิดการหมนุ เวยี น

ทุกๆ 3 วัน โดยเพิ่มข้ึนคร้ังละ 3 ชัว่ โมง
เมอื่ กงุ กนิ อาหารสะสม 1,000 กิโลกรัม ใหเตมิ นา้ํ ตลอด 24 ชั่วโมง
เพื่อใหเกดิ การหมนุ เวยี นของนํ้าระหวางบอเลี้ยง บอบาํ บดั และบอ พกั น้าํ
เมือ่ กงุ กนิ อาหารสะสมครบ 6,000 กโิ ลกรัม ใหเ ตมิ น้าํ 24 ชว่ั โมง

โดยเพิ่มทอ 3 น้ิว เปนจํานวน 2 ทอ
ในระหวางการเลยี้ งใหตรวจสอบคุณภาพน้ําและเสริมแรธาตุที่จําเปน

ใหอยูในเกณฑท เ่ี หมาะสมกับกงุ

กองวิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตวน ้ําชายฝง

32 การเลี้ยงกุŒงทะเลระบบนํา้ หมนุ เวียนแบบสมดลุ ชีวภาพ

กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี งสัตวน้ําชายฝง
รูปภาพแสดงระบบหมนุ เวียนนาํ้ แบบสมดุลชวี ภาพ

บอ‹ เล้ียง บ‹อพักนํา้

ท‹อ PVC 3 นิ้ว ท‹อ PVC 8 นิ้ว

ทอ‹ PVC 8 น้วิ บอ‹ บําบดั

ทปี่ รกึ ษา

ดร.สทุ ธนิ ี ลม้ิ ธรรมมหศิ ร ผูอ าํ นวยการกองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเลย้ี ง
สตั วน ํา้ ชายฝง

ดร.พุทธ สอ งแสงจนิ ดา ผูเ ชี่ยวชาญดานการเพาะเลยี้ งกงุ ทะเล
นายยงยทุ ธ ปรีดาลมั พะบุตร ผเู ชย่ี วชาญดา นการเพาะเลี้ยงสตั วน ํ้าชายฝง

ผูจŒ ดั ทาํ หวั หนา กลมุ วจิ ยั เทคโนโลยกี ารเพาะเลย้ี งสตั วน า้ํ ชายฝง
กองวิจยั และพฒั นาการเพาะเล้ียงสตั วนา้ํ ชายฝง
ดร.ชัยวฒุ ิ สุดทองคง นกั วชิ าการประมงปฏบิ ตั กิ าร
นายสมาน กูจิ ศนู ยว จิ ยั และพฒั นาการเพาะเลยี้ งสตั วน า้ํ ชายฝง ปต ตานี
นางสาวประภาพร ดมี าก นักวิชาการประมงปฏบิ ัติการ
นางสาวอญั ชลี ตันไชยฮะ กองวิจยั และพฒั นาการเพาะเลย้ี งสัตวน ํ้าชายฝง
นักวิชาการประมงปฏบิ ัติการ
กองวจิ ัยและพฒั นาการเพาะเลยี้ งสัตวน้าํ ชายฝง

ขอขอบคุณ ประธานสหกรณผูเ ล้ียงกุง จังหวดั ปตตานี จํากัด
จังหวดั ปตตานี
อ.วศนิ ธนภิรมณ

ติดตอ สอบถามขอมูลเพ่ิมเติมไดท ี่

กลมุ วจิ ัยเทคโนโลยกี ารเพาะเล้ียงสัตวน ้ําชายฝง
กองวจิ ัยและพัฒนาการเพาะเล้ยี งสัตวน าํ้ ชายฝง

ช้ัน 2 อาคารกองวจิ ยั และพฒั นาการเพาะเลี้ยงสัตวน ํา้ ชายฝง
กรมประมง เขตจตจุ ักร กรงุ เทพมหานคร 10900
เบอรโทรศัพท 0 2562 0552 , 0 2562 0588
โทรสาร 0 2561 0786
E-mail : [email protected]


Click to View FlipBook Version