กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
ความเป็นมาของอาเภอ
เมื่อข้าศึกได้โจมตีเมืองถลางแตกในปี พ.ศ.2352 พญาถลางเจ๊ะมะเจิมได้ย้ายเมืองถลางจากบ้าน
เคียน (ตาบลเทพกระษัตรี อาเภอถลาง) มาตั้งท่ีทาการอยู่ที่บ้านท่าเรือ (ตาบลศรีสุนทร อาเภอถลาง) และบุตรชาย
คือพญาวิชิตสงคราม (แก้ว) เป็นเจ้าเมืองภูเก็จอยู่ที่บ้านเก็ตโฮ่ (ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ พระยาวิชิตสงคราม (ทัด)
ย้ายเมืองภูเก็ตไปต้ังอยู่ที่บ้านทุ่งคา ปากคลองบางใหม่ เพื่อเป็นคลังแร่ดีบุกท่ีขนย้ายมาจากเมืองภูเก็จท่ีเก็ตโฮ่ และ
ส่งไปต่างประเทศจากท่าเรือท่ีสะพานหิน เมืองภูเก็จท่ีเก็ตโฮ่เป็นงานแร่ดีบุกที่ท่ีต้องใช้กุลีจานวนมาก เพราะเหมือง
แร่พัฒนาจากเหมืองแร่บ่อเป็นเหมืองหาบ กุลีชาวจีนฮกเกี้ยนจึงจึงเข้ามาในสมัยรัชกาลท่ี 4 – 5 เม่ือรัชกาลที่ 5
ทรงปรับปรุงระบบกระบวนการได้แบง่ เมืองภเู ก็จไปเป็นอาเภอทุ่งคา และเมอื งภูเก็จ บา้ นเกต็ โฮ่ เปน็ อาเภอกะทู้
อาเภอกะทู้จัดต้ังเป็นอาเภอมาก่อน พ.ศ. 2453 โดยแบ่งการปกครองออกเป็น 4 ตาบล คือ
ตาบลกะทู้, ตาบลปะตอง (ป่าตอง), ตาบลกามะรา (กมลา) และตาบลกะรน ต่อมาได้ยกตาบล กะรนไปข้ึนกับ
อาเภอเมืองภูเก็ต อาเภอกะทู้คงเหลือตาบลในเขตปกครองเพียง 3 ตาบล ดังเช่นปัจจุบัน และเคยมีการยุบจาก
อาเภอเป็นกง่ิ อาเภอมาครง้ั หนึ่งในปี พ.ศ. 2481 ตอ่ มาในปี พ.ศ. 2502 กไ็ ด้ยกฐานะเป็นอาเภอจวบจนทุกวนั น้ี
คาขวัญอาเภอ เลือ่ งลือประเพณีกนิ ผัก
ถน่ิ กาเนดิ ศาลเจา้ ชาวไทยจนี
หาดสวยงามลื่อชื่อ
อนรุ ักษ์วัฒนธรรมล้าเลิศ
ขอ้ มูลสภาพทั่วไปและสถานการณ์ในปจั จบุ นั
1. ลักษณะทีต่ ้ัง
อาเภอกะทู้ต้ังอยู่ทางทิศตะวันตกของจังหวัดภูเก็ต ทางด้านฝั่งทะเลอันดามัน เป็นอาเภอที่เล็ก
ท่ีสดุ ในจงั หวดั ภูเกต็ อยูห่ า่ งจากตวั จังหวดั ภเู กต็ ประมาณ 10 กิโลเมตร หา่ งจากกรุงเทพฯ ประมาณ 870 กโิ ลเมตร
อาณาเขตตดิ ต่อ จด ตาบลเชิงทะเล อ.ถลาง
อาเภอถลาง
ทิศเหนือ อ.กะทู้
ทิศใต้ จด ตาบลกะรน, ตาบลฉลอง อ.เมอื ง
ทศิ ตะวันออก อาเภอเมืองภูเก็ต
ทิศตะวันตก จด ตาบลรัษฎา, ตาบลวิชิต,
ตาบลเกาะแกว้
อาเภอเมืองภูเก็ต
จด ทะเลอันดามัน
มหาสมุทรอินเดยี
กรมการปกครอง
ที่วา่ การอาเภอกะทู้
เนื้อที่
อาเภอกะทู้ มีเน้ือท่ีประมาณ 42.819.25 ไร่ หรือ ประมาณ
68.51 ตารางกิโลเมตร แบ่งเปน็
ตาบลกะทู้ 21,756.25 ไร่/
34.81 ตร.กม.
ตาบลป่าตอง 10,250.00 ไร/่
16.40 ตร.กม.
ตาบลกมลา 10,813.00 ไร/่
18.90 ตร.กม.
ลักษณะภมู ิประเทศ
สภาพพื้นที่มีลักษณะเป็นควนเขาและท่ีราบ แบ่ง
ออกเป็น 3 ส่วน สอดคล้องกับการแบ่งพื้นท่ีปกครองของ
ตาบล โดยมีแนวภูเขาเป็นเส้นแบ่งพ้ืนที่ธรรมชาติ ไม่มี
แมน่ า้ สายใหญม่ ีเฉพาะคลองเล็กๆ เช่น คลองบางใหญ่ ซ่ึงมี
ต้นน้าท่ีน้าตกกะทู้ (เทือกเขากมลา) ไหลลงสู่ท่ีราบ ตาบล
กะทู้ เข้าสู่ท้องทอ่ี าเภอเมืองภูเก็ต นอกจากนั้นมีแหล่งน้าท่ี
เรียกว่า “ขุมเหมือง” ซึ่งเกิดขึ้นจากการทาเหมืองแร่
ปัจจบุ นั ใช้เป็นแหล่งน้าอุปโภค
ลกั ษณะภูมิอากาศ
อาเภอกะทู้ มลี ักษณะภมู อิ ากาศแบบเขตศูนย์สูตร อยู่ในเขตอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้
และลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือ มีอากาศรอ้ นช้นื ตลอดปี มี 2 ฤดู ประกอบดว้ ย
ฤดูฝน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ เริ่มต้ังแต่เดือนพฤษภาคม – เดือน
พฤศจิกายน
ฤดูร้อน ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ เร่ิมตั้งแต่เดือนธันวาคม – เดือน
เมษายน
โดยเดือนมีนาคมเป็นเดือนท่ีมีอุณหภูมิเฉล่ียสูงสุด คือ 33.4 องศาเซลเซียส และเดือนมกราคม
เป็นเดอื นทมี่ ีอุณหภมู ิเฉล่ียตา่ ท่ีสุดคือ 22 องศาเซลเซยี ส มีปรมิ าณนา้ ฝนเฉลย่ี ปีละ 248 เซนติเมตร
2. การปกครอง
อาเภอกะทู้ มีเขตปกครอง 3 ตาบล ประกอบดว้ ย
1. ตาบลกะทู้ ประกอบดว้ ย 19 ชุมชน ต. ต.กะทู้
2. ตาบลปา่ ตอง ประกอบดว้ ย 7 ชมุ ชน
3. ตาบลกมลา ประกอบด้วย 6 หม่บู ้าน
ต.ปา่
กรมการปกครอง
ทีว่ ่าการอาเภอกะทู้
การบรหิ ารราชการส่วนท้องถิ่น ประกอบดว้ ย
1. เทศบาลเมืองป่าตอง
2. เทศบาลเมืองกะทู้
3. องค์การบรหิ ารส่วนตาบลกมลา
**การบริหารราชการส่วนท้องถ่ินสอดคล้องกับการแบ่งเขตการปกครอง**
ตาบล พนื้ ที่ ตร.กม. หม่บู ้าน/ชุมชน จานวน การปกครอง
ครวั เรือน
เทศบาลเมือง
กะทู้ 34.81 19 21,188 องค์การบริหารส่วนตาบล
เทศบาลเมือง
กมลา 18.90 6 6,651
ปา่ ตอง 16.40 7 4,562
รวม 70.11 6 หมู่บา้ น 32,401
26 ชุมชน
* ในพน้ื ที่เทศบาลเมืองป่าตอง ใช้คาวา่ “ชุมชน” ตงั้ แต่ปี พ.ศ.2539
* ในพืน้ ที่เทศบาลเมืองกะทู้ ใชค้ าว่า “ชุมชน” ตง้ั แต่ปี พ.ศ.2552
ทีม่ า : สานกั ทะเบียนกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
3. ส่วนราชการต่างๆ ในพื้นทอี่ าเภอกะทู้
หน่วยงานราชการ/รัฐวสิ าหกิจ
1. ทีท่ าการปกครองอาเภอกะทู้
2. สานักงานพฒั นาชุมชนอาเภอกะทู้
3. สานักงานเกษตรอาเภอกะทู้
4. สานักงานสาธารณสุขอาเภอกะทู้
5. สานักงานสสั ดีอาเภอกะทู้
6. สานักงานสรรพากรพ้ืนที่ สาขากะทู้
7. สานักงานท่ีดินอาเภอกะทู้
8. สานักงานปศสุ ัตว์อาเภอกะทู้
9. สานักงานประมงอาเภอกะทู้
10. สถานีตารวจภธู รป่าตอง
11. สถานีตารวจภูธรกะทู้
12. สถานตี ารวจภธู รกมลา
13. ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั อาเภอกะทู้
14. การประปาส่วนภูมิภาค
15. สานักงานประกนั สังคมจังหวดั ภเู ก็ต สาขาอาเภอกะทู้
16. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตภูเก็ต
17. โรงพยาบาลป่าตอง
18. เทศบาลเมืองปา่ ตอง
19. เทศบาลเมืองกะทู้
20. องค์การบริหารสว่ นตาบลกมลา
ธนาคารหรอื สถาบันการเงิน
1. ธนาคารไทพาณชิ ย์ จานวน 6 แห่ง
กรมการปกครอง
ทีว่ ่าการอาเภอกะทู้
2. ธนาคารกรุงไทย จานวน 4 แห่ง
3. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จานวน 5 แห่ง
4. ธนาคารออมสิน จานวน 3 แห่ง
5. ธนาคารกสิกรไทย จานวน 6 แห่ง
6. ธนาคารกรุงเทพ จานวน 5 แห่ง
7. ธนาคารยูโอบี จานวน 1 แห่ง
8. ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์ จานวน 2 แห่ง
9. ธนาคารธนชาต จานวน 1 แห่ง
4.ประชากร
จานวนประชากรอาเภอกะทู้ ณ เดือนกันยายน 2563 มีจานวน 63,780 คน แยกเป็นชาย
29,475 คน หญงิ 34,305 คน ความหนาแน่นของประชากร 771.29 คนต่อตารางกิโลเมตร จานวนครัวเรือน
ท้งั หมด 30,392 ครวั เรอื น ดงั ตารางและแผนภูมิ
ตาบล ชาย จานวนประชากร รวม จานวนประชากร(คน)
ต่อพ้ืนท่ี ตร.กม.
1. ตาบลกะทู้ 17,531 หญิง 39,306
2. ตาบลปา่ ตอง 8,584 17,405 768.88
3. ตาบลกมลา 3,360 21,775 7,069 1,249.69
29,475 8,821 63,780 360.58
รวม 3,709 771.29
34,305
7,069
17,405
39,306
ท่ีมา : สานกั ทะเบยี นกลาง กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
ประชากรแฝง
จานวนประชากรแฝง ประมาณ 118,954 คน คิดเป็น (38.8%) (คิดจากฐานคาดการณ์ สคช.)
ส่วนใหญ่เป็นประชากรทัว่ ไปอพยพเข้ามาตามคู่สมรส และกลุ่มแรงงานทุกประเภท
- คนต่างชาติทีเ่ ข้ามาในจงั หวดั ภูเก็ต จานวน 12,600 คน
- แรงงานต่างด้าว จานวน 75,023 คน
- นักท่องเท่ียวเข้ามาเฉล่ียเดือนละ 0.99 ลา้ นคน
กรมการปกครอง
ทวี่ า่ การอาเภอกะทู้
การประกอบอาชีพ
การสารวจภาวะการทางานของประชากร พบว่า จังหวัดภูเก็ต มีจานวนประชากรท่ีมีอายุ 15 ปี
ขึ้นไป จานวน 445,207 คน ซ่ึงอยู่ในกาลังแรงงานรวม มีจานวน 316,148 คน คิดเป็นร้อยละ 71.0 ของผู้มี
อายุ 15 ปขี น้ึ ไป โดยประกอบดว้ ยกาลังแรงงานปัจจบุ ัน แยกเป็น
- ผ้มู งี านทา จานวน 312,297 คน หรอื รอ้ ยละ 98.8 ของผู้อยูใ่ นกาลังแรงงาน
- ผู้ว่างงาน จานวน 3,851 คน หรือคิดเป็นอัตราการว่างงาน เท่ากับ 1.2 ของผู้อยู่ในกาลัง
แรงงาน
- ส่วนผู้ท่ีไม่อยู่ในกาลังแรงงานมีจานวน 129,059 คน หรือคิดเป็นร้อยละ 29.0 ของผู้มีอายุ
15 ปขี ้นึ ไป
5.การศกึ ษา
สถานศกึ ษา (ของรัฐ/เอกชน) มี 6 ประเภท ดังนี้
1) สถานศึกษาในสังกัด สพป.ภูเก็ต จานวน 5 โรงเรียน เปิดสอนต้ังแต่ระดับอนุบาล 1 –
ประถมศึกษาชัน้ ปีท่ี 6 จานวน 4 แหง่
1. โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 29 (กะทู้) นักเรยี น 439 คน ครู 26 คน
2. โรงเรียนบา้ นบางทอง นักเรยี น 180 คน ครู 11 คน
3. โรงเรยี นวัดเก็ตโฮ่ นักเรยี น 130 คน ครู 11 คน
4. โรงเรยี นบา้ นกะหลิม นกั เรียน 109 คน ครู 10 คน
เปิดสอนต้ังแตร่ ะดับ อนุบาล 1 – มัธยมศกึ ษาตอนต้นช้ันปที ี่ 3 จานวน 1 แหง่
1. โรงเรยี นวดั สุวรรณครี ีวงศ์ นกั เรียน 606 คน ครู 44 คน
2) สถานศกึ ษาเอกชน จานวน 2 โรงเรียน
1. โรงเรยี นขจรเกียรตนิ านาชาติภูเก็ต (กะทู้) นักเรียน 1,246 คน ครู 60 คน เปิดสอน
ระดับช้ันอนบุ าล 1 – มัธยมศึกษาตอนปลายช้นั ปที ี่ 6
2. โรงเรียนนานาชาติ คิว.เอส.ไอ.ภูเก็ต นักเรียน 111 คน ครู 16 คน เปิดสอน
Grade1 – 12
3) สถานศกึ ษาในสงั กัดการศกึ ษาพเิ ศษ จานวน 1 โรงเรียน
1. โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 36 จังหวัดภูเก็ต นักเรียน 744 คน ครู 51 คน เปิด
สอนระดบั ช้ันอนุบาล 1 – มัธยมศกึ ษาตอนปลายชัน้ ปีท่ี 6
4) สถานศกึ ษาสงั กดั สพม.14 จานวน 1 โรงเรียน
1. โรงเรียนกะทู้วิทยา นักเรียน 1,079 คน ครู 54 คน เปิดสอนระดับชั้น
มัธยมศกึ ษาตอนต้นช้ันปีท่ี 1 – มัธยมศกึ ษาตอนปลายชัน้ ปที ี่ 6
5) สถานศกึ ษาสงั กัดเทศบาล จานวน 3 โรงเรียน
1. โรงเรียนเทศบาลบ้านไสน้าเย็น นักเรียน 539 คน ครู 35 คน เปิดสอนระดับช้ัน
ประถมศึกษาปีที่ 1 – ช้ันประถามศึกษาปีที่ 6
2. โรงเรียนเทศบาล 2 บ้านกะทู้ นักเรียน 514 ครู 22 คน เปิดสอนระดับชั้น
ประถมศึกษาปที ี่ 1 – ชัน้ ประถามศึกษาปีท่ี 6
3. โรงเรียนอนุบาลเทศบาลเมืองป่าตอง นักเรียน 631 คน ครู 28 คน เปิดสอน
ระดับชน้ั อนบุ าล 1 – อนุบาล 3
กรมการปกครอง
ท่ีวา่ การอาเภอกะทู้
6) สถานศึกษาสังกัด อบจ. จานวน 1 แห่ง
1. โรงเรียน อบจ. บ้านไม้เรียบ นักเรียน 554 คน ครู 24 คน เปิดสอนระดับชั้น
อนบุ าล 1 – ประถมศึกษาชนั้ ปีท่ี 6
หอ้ งสมุด มจี านวน 1 แหง่ คือ ห้องสมุดเฉลมิ พระเกยี รติ 50 พรรษา ต้งั อย่ใู กลก้ ับวดั กะทู้
การจัดการศึกษาและแนวโน้มการศึกษาของเด็กและเยาวชน จานวนครูในเขตอาเภอกะทู้ จานวนครู
พอดีเกณฑ์ แต่เม่ือพิจารณาคุณภาพการจัดการศึกษาปรากฏว่า ผลการทดสอบระดับชาติทั้งประถามศึกษาปีท่ี 6
และ มัธยมศึกษาตอนต้นชั้นปีที่ 3 เป็นปัญหามาในกลุ่มสาระ ภาษาต่างประเทศ คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์
หากจะพัฒนาคุณภาพเด็กและเยาวชนในอาเภอกะทู้ ความมุ่งเน้นโครงการที่พัฒนาเด็กและเยาวชนด้าน
ภาษาองั กฤษ คณติ ศาสตร์ และ วิทยาศาสตร์ นาไปส่งเสริมระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา และแนวโน้ม
การศกึ ษาต่อของเด็กและเยาวชนปรากฏว่ามีแนวโน้มจะศึกษาต่อเพ่ิมมากข้ึน
6. สาธารณสุข
สถานบรกิ ารสาธารณสุข
ตาราง สถานบรกิ ารสาธารณสุขท้ังภาครฐั และเอกชน ในเขตอาเภอกะทู้
ประเภทสถานบริการ ตาบลกะทู้ ตาบลกมลา ตาบลปา่ ตอง รวม
1. โรงพยาบาลชมุ ชนขนาด 60 เตยี ง - - 1 1
2. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สุขภาพตาบล 1 1 - 2
1 - - 1
3. ศูนย์สขุ ภาพชุมชนเมอื ง
6 2 21 29
4. คลนิ กิ เอกชน 4 - 2 6
- สาขาเวชกรรม 4 - 22 26
- สาขาเวชกรรมเฉพาะทาง - - 1 1
- สาขาทนั ตกรรมชัน้ หนึง่ - - 1 1
5. คลินิกเทคนิคการแพทย์ 19 8 140 159
- - 1 1
6. สหคลินิก
7. รา้ นขายยา
- แผนปัจจุบนั
- แผนปัจจุบันบรรจุเสร็จ
ที่มา : กลุ่มงานคุ้มครองผู้บรโิ ภคและเภสัชสาธารณสุข , สสจ.ภเู กต็ (29 กุมภาพนั ธ์ 2562)
หลกั ประกันสขุ ภาพของประชาชน
ในปัจจุบัน ประชาชนในพื้นท่ีอาเภอกะทู้มีอัตราการเข้าถึงบริการสาธารณสุขในรูปแบบต่างๆท่ี
สงู ขึ้น โดยทางเครอื ขา่ ยบริการสขุ ภาพโรงพยาบาลปา่ ตอง ได้จัดบริการสุขภาพทั้งเชิงรับและเชิงรุกเพ่ือให้ครอบคลุม
การเข้าถึงประชากรทุกกลุ่มเป้าหมาย ตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ซึ่งขณะน้ีสามารถดาเนินการได้
ครอบคลุมประชากรร้อยละ 99.80 ดังตาราง
กรมการปกครอง
ท่ีวา่ การอาเภอกะทู้
ตารางความรอบคลมุ ของการเข้าถึงบริการของประชาชนในพ้ืนทีอ่ าเภอกะทู้
ลาดบั ประเภท ตาบลกะทู้ ตาบลกมลา ตาบลปา่ ตอง
1 ไมใ่ ช่คนไทย (21,007) (5,670) (19,052)
2 คนไทยในตา่ งประเทศ 49 29 780
3 ประกันสงั คม/ทหารผา่ นศึก/ข้าราชการ 6 34
4 ข้าราชการ 30 8 28
5 ข้าราชการทอ้ งถนิ่ 155 346
6 ประกนั สงั คม 1,014 61 165
7 ประกันสังคม/ครูเอกชน 253
8 ทหารผ่านศึก/ขา้ ราชการ 1,199 3,481
9 ประกันสงั คม/ทหารผา่ นศึก 5,834 11
10 ครูเอกชน 3 27
11 บัตรประกันสุขภาพ 5 11 35
12 ครูเอกชน/ข้าราชการ 27 75
13 ประกนั สังคม/ครเู อกชน/ข้าราชการ 17
14 ประกันสังคมและข้าราชการ/รัฐวสิ าหกจิ 5,203 14,641
15 ประกนั สงั คม กรณที ุพพลภาพ 15,823 20
16 ประกนั สงั คม/ข้าราชการท้องถิ่น 4 00
17 บุคคลทีม่ ีปัญหาสถานะและสทิ ธิ 1 8 35
18 สิทธวิ ่าง 63 00
6 2 12
รวมทั้งหมด 23 8 110
ร้อยละความครอบคลุม 20 1 19
40
5,669 19,033
23,218 99.92 99.90
99.81
อตั ราการเข้าถึงหลักประกันสุขภาพของประชาชนในเครือข่ายบริการสุขภาพโรงพยาบาล
ป่าตอง 3 อันดับแรก พบว่าสิทธิประกันสุขภาพมากที่สุด จานวนประกันสังคม 31,816 คน คิดเป็นร้อยละ 59
รองลงมากสิทธิประกันสังคมจานวน 10,693 คน คิดเป็นร้อยละ 20 สิทธิอ่ืนๆ 9,525 คน คิดเป็นร้อยละ 17
และสิทธิขา้ ราชการจานวน 4 ตามละดบั ภาพดังกล่าว
4% 17%
20%
59%
ประกันสุขภาพ ประกันสังคม ข้าราชการ อ่ืนๆ
ที่มา : โรงพยาบาลป่าตอง (30 ม.ี ค. 2563)
กรมการปกครอง
ทวี่ ่าการอาเภอกะทู้
โรคและภยั สขุ ภาพทต่ี ้องเฝา้ ระวังทางระบาดวิทยาในพื้นที่
อาเภอกะทู้ เป็นพ้ืนท่ีท่องเที่ยวท่ีสาคัญของประเทศไทย และมีสภาพเศรษฐกิจดีทาให้ประชากร
ย้ายเข้ามาพกั อาศัยและทางานเป็นจานวนมาก ส่วนหนึ่งจะเข้ามาในช่วงฤดูกาลท่องเท่ียว (High Season) และย้าย
กลบั ออกไป แตล่ ะปมี ีนกั ทอ่ งเท่ยี วทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาในพื้นที่เป็นจานวนมาก รวมท้ังแรงงานต่างด้าว
ท่ีเข้ามาทางาน ซึ่งทาให้เกิดความเสี่ยงที่จะทาให้เกิดโรคท่ีเป็นปัญหาสาคัญในพื้นที่ได้ เช่น โรคไม่ติดต่อเร้ือรัง
โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคติดต่อสาคัญต่างๆ เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ โรคไข้เลือดออก
โรควัณโรค โรคเอดส์ โรคลิเจยี นแนร์ และอุบตั เิ หตุต่างๆ ท้งั ทางบกและทางทะเล ดงั ตาราง
ตารางอตั ราป่วยดว้ ยโรคในข่ายงานเฝ้าระวังทางระบาดวิทยา 10 อนั ดบั แรก ปี 2562
ลาดบั ช่อื โรค ปว่ ย อัตราป่วย
(ราย) (ต่อแสนประชากร)
1 อุจจาระร่วง 3,037 5,616.27
2 ไข้ หรอื ไข้ไม่ทราบสาเหตุ 666 1,231.62
3 ปอดบวม 145 268.14
4 ตาแดง 144 266.29
5 ไข้เลือดออก 128 236.70
6 ไขห้ วัดใหญ่ 83 153.49
7 สุกใส 55 110.71
8 หนองในเทยี ม 1 1.84
9 ไข้มาลาเรยี 1 1.84
10 อาหารเป็นพษิ 00
ที่มา : สานักงานสาธารณสขุ อาเภอกะทู้
7. ศาสนาและวัฒนธรรม
ประชาชนในอาเภอกะทู้ ร้อยละ 67 นับถือศาสนาพุทธ โดยมีวัด จานวน 3 แห่ง สานักสงฆ์
จานวน 2 แห่ง นับถือศาสนาอิสลาม ร้อยละ 30 มีมัสยิด จานวน 7 แห่ง นับถือศาสนาอื่น ๆ ร้อยละ 3 มี
โบสถ์คริสต์ จานวน 1 แห่ง และศาลเจา้ จานวน 6 แห่ง
ดา้ นประเพณี และวฒั นธรรม
ประเพณีและวัฒนธรรมที่สาคัญของอาเภอกะทู้ ได้แก่ ประเพณีกินผัก, ประเพณีพ้อต่อ (ไหว้
ป้ายวิญญาณบรรพชน), ประเพณีตรุษจีน ส่วนใหญ่ประเพณีดังกล่าวจะยังคงยึดถือปฏิบัติกันอยู่ในพ้ืนที่ตาบลกะทู้
สาหรับตาบลกมลา ซ่ึงประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม ประเพณีและวัฒนธรรมจะเกี่ยวกับชาวมุสลิมโดย
พน้ื ฐานอยใู่ นกรอบของศาสนาอิสลาม ได้แก่ ประเพณีถือศีลอดในเดือนรอมฎอน, การทาสุนัตของเพศชาย, การออก
กรมการปกครอง
ท่ีวา่ การอาเภอกะทู้
บวช เรยี กวา่ วัน ตรุษอิดิลฟิตรี, วนั ตรษุ อิดิรอัฎฮาร์ สาหรับตาบลป่าตองจะเป็นประเพณีที่เหมือนกันกับภาคอื่น ๆ
ของประเทศ เชน่ ประเพณลี อยกระทง, ประเพณสี งกรานต์, ประเพณีกนิ เจ เปน็ ตน้
ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงรักษาวัฒนธรรมของคนไทยในชนบทอยู่ แต่เนื่องจากการเป็นเมือง
ท่องเท่ียวทาให้สภาพทางสังคมเปล่ียนไปเป็นสังคมเมือง โดยบางส่วนเป็นสังคมแบบตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณที่
เป็นแหลง่ บนั เทงิ เพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวต่างชาติ
8. การคมนาคม
ทางบก มีทางหลวงแผน่ ดินตัดผ่านพืน้ ที่ จานวน 3 สาย คือ
1. ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4020 ตอนเขตเทศบาลกะทู้ – เกต็ โฮ่
2. ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 4029 ตอนกะทู้ – ป่าตอง
3. ทางหลวงแผน่ ดินหมายเลข 4233 ตอนหาดสุรนิ ทร์ – หาดราไวย์
9.ด้านเศรษฐกิจ
ด้านการเกษตรกรรม ในพ้ืนท่ีอาเภอกะทู้ ส่วนใหญ่จะกระจัดกระจายในทุกพื้นที่ ส่วนใหญ่
ประกอบอาชีพด้านการทาสวนยางพารา ทุเรียน สับปะรด แต่มีประมาณไม่มากนักเนื่องจากภาคอุตสาหกรรมการ
ทอ่ งเที่ยวมีการเจริญเติบโตอยา่ งรวดเรว็ ทาให้เกษตรกรปรับเปล่ียนมาดาเนนิ การด้านการท่องเที่ยวแทน
ประเภททาการเกษตรและจานวนพื้นที่เกษตรในเขตพื้นท่ีอาเภอกะทู้ ปี 2561 – 2562 มี
พืน้ ทที่ ้งั หมด 70.11 ตารางกิโลเมตร หรือ 43,818.75 ไร่ มี 3 ตาบล ได้แก่
กรมการปกครอง
ท่วี า่ การอาเภอกะทู้
ตาบลกะทู้ มีพื้นที่ 34.81 ตารางกโิ ลเมตร หรือ 21,756.25 ไร่
ตาบลกมลา มีพื้นที่ 18.90 ตามรางกิโลเมตร หรือ 11,812.50 ไร่
ตาบลป่าตอง มีพืน้ ท่ี 16.40 ตารางกโิ ลเมตร หรอื 10,250.00 ไร่
มพี นื้ ที่เกษตรกรรมท้ังหมด 21.25 ตารางกโิ ลเมตร หรือ 13,282.00 ไร่ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 30.31 ของพ้นื ที่ท้งั หมด
ตาบลกะทู้ มีพ้ืนท่ีเกษตรกรรม 7.496 ตารางกิโลเมตร หรือ 4,685.00 ไร่ คิดเป็นร้อยละ
21.53 ของพ้ืนท่ีทั้งหมด
ตาบลกมลา มีพน้ื ทีเ่ กษตรกรรม 9.237 ตารางกิโลเมตร หรือ 5,773.00 ไร่ คิดเป็นร้อยละ
48.87 ของพนื้ ท่ีทง้ั หมด
ตาบลป่าตอง มีพ้ืนที่เกษตรกรรม 4.518 ตารางกิโลเมตร หรือ 2,824.00 ไร่ คิดเป็นร้อย
ละ 27.55 ของพืน้ ท่ที ั้งหมด
การข้ึนทะเบียนเกษตรกรอาเภอกะทู้ ข้อมูล ณ วันท่ี 24 มิถุนายน 2563 จานวน 914 ราย 762 ครัวเรือน
1,757 แปลง 10,066.81 ไร่
ข้อมูลทางการเกษตรอาเภอกะทู้ ปี 2562
ต.กะทู้ ต.ปา่ ตอง ต.กมลา
เนือ้ ท่ี
ชนดิ พชื เนอ้ื ท่ี เน้อื ที่ เกษตรกร เน้อื ที่ เนือ้ ที่ เกษตรกร เนอื้ ท่ี เก็บเกี่ยว เกษตรกร
ปลูก เกบ็ เกยี่ ว (ราย) ปลกู เกบ็ เกย่ี ว (ราย) ปลูก (ไร)่ (ราย)
รวม(ไร่) รวม(ไร่) รวม(ไร่)
(ไร)่ (ไร)่ 3,945 231
2,182 4,026 - -
1. ไม้ยืนต้น 100 - 68 35
66 75
1.1 ยางพารา 3,138 2,940 224 121 1,994 156 511 158
100 1 524
1.2 ปาลม์ นา้ มัน 45 45 2 19 58 28 31 15
112 103 52 32 527 184
1.3 มะพร้าวแก่ 125 112 48 122 604 170 106
17 198 98 58
1.4 สะตอ 372 342 127 12 116 47 32
8 49 12 6
2. ไม้ผล 5 12 12 52
12 12
2.1 กลว้ ยนา้ วา้ 27 26 9 15 10 - -
48 101 32 -
2.2 ทะเรียน 462 437 124 - 114 52 121 72
- 15 8 121 - -
2.3 ลองกอง 154 132 70 - 12 10 - - -
2,824 85 - 4 3
2.4 มงั คดุ 92 80 33 5 14 4 719
12 2 5,546
2.5 เงาะ 40 40 42 5,773
2.6 จาปาดะ 35 35 8
2.7 ส้มแขก 10 10 28
2.8 ส้มโชกนุ 20 20 3
3. พืชผกั
3.1 ผกั เหลยี ง 132 132 85 48 22
- -
3.2 พรกิ 12 8 - - -
- -
3.3 มะเขือ 86 - 2,585 302
3.4 พชื ผักอื่น ๆ 11 9 9
รวม 4,685 4,374 592
ทมี่ า : สานักงานเกษตรอาเภอกะทู้
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
การปศุสัตว์ ในเขตพ้ืนที่อาเภอกะทู้มีการเลี้ยงโคเน้ือ 167 ตัว เกษตรกร 13 ราย ,
กระบือ 16 ตัว เกษตรกร 2 ราย , สุกร 209 ตัว เกษตรกร 3 ราย , ไก่ 7,923 ตัว เกษตรกร 212 ราย , เป็ด
1,400 ตัว เกษตรกร 47 ราย , แพะ 167 ตัว เกษตรกร 7 ราย , แกะ 14 ตัว เกษตรกร 1 ราย , สุนัข 845 ตัว
เกษตรกร 381 ราย , แมว 329 ตัว เกษตรกร 175 ราย และสัตว์เล้ียงอ่ืนๆ 2,209 ตัว เกษตรกร 378 ราย ใน
อนาคตจะมแี นวโน้มในภาคปศุสัตวล์ ด ลงเน่อื งจากที่ดนิ ในจังหวัดภูเกต็ มีราคาแพง
ปัญหาและอปุ สรรค
- ขาดแคลนแหล่งวัตถุดิบ พันธ์สัตว์ อาหารสัตว์ แรงงาน รายได้ในภาคการท่องเท่ียวดีกว่า
ภาคเกษตร คนหนั ไปทางานภาคอื่นมากกว่า
- เลี้ยงปศสุ ตั วใ์ นเขตเมือง ปัญหาเรื่องร้องเรยี น สถานทเี่ ลีย้ ง กลิ่นเหม็น
- ส่วนคนที่ทาอาชีพปศุสัตว์ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ส่วนมากเป็นคนท่ีมีใจรักหรือชอบเท่านั้น
ถ้าทาฟาร์มปศสุ ัตวใ์ หญ่ๆในพนื้ ทีจ่ ังหวัดภูเก็ตต้นทนุ จะสูงกว่างต่างจังหวัด
ด้านผลิตภัณฑ์ชุมชนและท้องถ่ิน OTOP ผู้ผลิต ผู้ประกอบการผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP
อาเภอกะทู้ จังหวัดภูเต แยกเป็นกลุ่มผู้ผลิตชุมชน 8 กลุ่ม และผู้ประกอบการรายเดียว 5 ราย ซึ่งแยกตามประเภท
ผลติ ภณั ฑ์ ดังนี้
1. ประเภทอาหาร 15 ผลิตภณั ฑ์
2. ประเภทเครื่องด่ืม 1 ผลติ ภัณฑ์
3. ประเภทผ้าและเคร่ืองแต่งกาย 11 ผลติ ภัณฑ์
4. ประเภทของใชข้ องตกแต่งและของท่รี ะลึก 1 ผลิตภณั ฑ์
5. สมุนไพรทไ่ี ม่ใช่อาหาร 1 ผลติ ภัณฑ์
และมีการจดั กลุ่ม Quadrant ดังน้ี
1. กลุม่ A ดาวเดน่ สู่สากล 4 ผลติ ภัณฑ์
2. กลุ่ม C พัฒนาสู่การแข่งขนั 5 ผลติ ภณั ฑ์
3. กล่มุ D ปรบั ตวั สกู่ ารพัฒนา 20 ผลิตภณั ฑ์
สาหรับยอดจาหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP ท่ีลงทะเบียนไว้ ได้ประมาณการรายได้จาการ
จาหน่ายผลิตภัณฑ์หนึ่งตาบล 4 ราย ผลิตภัณฑ์ตามตัวชี้วัดร้อยละที่เพิ่มข้ึนของรายได้ จากการจาหน่ายผลิตภัณฑ์
OTOP เฉล่ีย 3 ปีย้อนหลัง ในปี 2559 ยอดการจาหน่ายเพ่ิมขึ้นร้อยละ 14 ของมูลค่าการจาหน่ายผลิตภัณฑ์
(23,070,290 ล้านบาท)
ผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ต้องหาตลาดจาหน่ายภายนอกจากการออกบูทจาหน่ายของ
สว่ นราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และงานประเพณีทั่งภายในและภายนอกชุมชน และโอกาสท่ีจะได้ออกบูท
จาหน่ายในงาน OTOP ภูมิภาค งาน OTOP Midyear ของกรมการพัฒนาชุมชน/พาณิชย์หอการค้า และ
อตุ สาหกรรม
การท่องเท่ียว จังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางแห่งการท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงในระดับ
โลก ซึ่งอาเภอกะทู้ เป็นอาเภอหน่ึงในจังหวัดภูเก็ตที่มีแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเท่ียวมากมายหลาย
ประเภท สามารถจาแนกแหล่งท่องเที่ยวและกิจกรรมการท่องเที่ยวได้ดงั นี้
แหลง่ ท่องเทย่ี วประเภทธรรมชาติ แบ่งเป็น
1. แหล่งท่องเท่ียวประเภทชายหาด อาเภอกะทู้มีชายหาดอยู่หลายแห่งซ่ึงดึงดูด
นักทอ่ งเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศจานวนมากในแต่ละปี ชายหาดท่ีสาคัญ ไดแ้ ก่
กรมการปกครอง
ทวี่ ่าการอาเภอกะทู้
- หาดป่าตอง เป็นหาดทรายขาว มีกิจกรรมท่องเที่ยวที่คึกคัก
ตลอดทั้งวันทั้งกิจกรรมชายหาด กิจกรรมกีฬาทางน้า กิจกรรม
บนั เทงิ และนนั ทนาการรปู แบบต่างๆ
- หาดกมลา หาดกะหลิม หาดนาคาเล เป็นชายหาดท่ีไม่ยาวนัก มี
กจิ กรรมการท่องเทยี่ วทค่ี ึกคักน้อยน้อยกว่า 3 หาดแรก
2. แหล่งท่องเที่ยวประเภทน้าตก อาเภอกะทู้ มี น้ าตกอยู่ หลายแห่ ง
ดงั นี้
- ตาบลกะทู้ มีน้าตก 2 แห่ง คือ น้าตกกระทู้ และน้าตก ร.6 ซ่ึงเป็น
น้าตกขนาดเล็ก ร่มร่ืนด้วยแมกไม้นานาพันธุ์ อยู่ห่างจากที่ว่าการอาเภอ
กะทู้ ประมาณ 4 กโิ ลเมตร
- ตาบลกมลา มีน้าตกกมลา น้าตกวังขี้อ้อน น้าตกบางช้างตาย และน้าตกบางหวาน เป็นน้าตกขนาดเล็ก
เช่นเดียวกัน
3. แหล่งท่องเที่ยวประเภทประวัติศาสตร์ ได้แก่ พิพิธภัณฑ์เหมือแร่ ตั้งอยู่ ถนนสาย
กะทู้-เกาะแก้ว ห่างจากตัวเมืองประมาณ 15 กิโลเมตร ภายในพิพิธภัณฑ์ จัดแสดงประวัติการประกอบอาชีพของ
ชาวกะทู้ในด้านการทาเหมืองแร่ นอกจากนน้ั จะมีการแสดงประเพณกี ารแต่งกายของชาวกะทู้ในอดีตดว้ ย
4. แหล่งท่องเที่ยวท่ีมนุษย์สร้างข้ึน ในอาเภอกะทู้ มีการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่
มนุษย์สร้างข้ึนท้ังในรูปสถานบันเทิง การแสดงโชว์ต่างๆ สวนสาธารณะลักษณะพิเศษ เพ่ือดึงดูดนักท่องเท่ียวท่ี
กระจายกนั อยู่ทั่วไปตามชายหาดทส่ี าคัญและทางตอนในของเกาะ เช่น ภูเกต็ แฟนตาซี ไซม่อนคาบาเร่ย์
กรมการปกครอง
ท่วี ่าการอาเภอกะทู้
5. แหล่งท่องเท่ียวประเภทกิจกรรมและความสนใจพิเศษ มหี ลายประเภทที่เป็นจดุ ขาย
ทางการท่องเที่ยวทสี่ าคัญของอาเภอ ไดแ้ ก่
- แหล่งทอ่ งเท่ยี วเชงิ กีฬา เช่น สนามกอล์ฟ แหล่งตกปลา เคเบิลสกี จ๊ัมพ์
- แหล่งท่องเท่ียวเชิงสุขภาพ ได้แก่ สปาท่ีให้บริการตามโรงแรมที่พักระดับ 4-5 ดาว
ศนู ย์บริการทางการแพทย์ เปน็ ตน้
10. ดา้ นสังคม
สถานบริการ
สถานบริการตาม พ.ร.บ. สถานบริการ 2509 จานวน 102 แหง่
สถานประกอบการท่ีมีลักษณะคลา้ ยสถานบริการ จานวน 208 แห่ง
โรงแรม ท่ีพัก รสี อร์ท
- โรงแรม/ท่พี ัก ท่ีไดร้ ับอนญุ าต จานวน 200 แหง่ 23,428 หอ้ ง
- โรงแรม/ที่พัก ทีย่ ื่นคาร้องขออนุญาตตามกฎกระทรวงฯ จานวน 482 แห่ง
11. ด้านการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
แหล่งนา้ ในจังหวดั ภูเก็ต ประกอบดว้ ย แหล่งน้าใหญ่ๆ 2 ประเภท คือ
1. แหล่งน้าผิวดิน จังหวัดภูเก็ตอยู่ในพื้นที่ลุ่มน้าภาคใต้ฝ่ังตะวันตก ประกอบด้วยลุ่มน้าเล็กๆ
24 ลุ่มนา้ กระจายอยู่ทั่วไปจังหวัด มีพ้ืนที่รับน้าฝน 1,244 ตารางกิโลเมตร และมีปริมาณน้าต่อหน่วยพ้ืนที่เท่ากับ
17.92 ลิตรต่อวินาที ต่อตารางกิโลเมตร แหล่งน้าผิวดินจะประกอบด้วยแหล่งน้าผิวดินตามธรรมชาติ คือ ลาน้า
สานสั้นๆ จานวน 188 สาย ไหลลงสู่ทะเลด้านตะวันออก และ 63 สาย ไหลสู่ทะเลด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก
ประกอบด้วย คลองสายสาคัญ 9 สาย คอื
- คลองบางใหญ่ ไหลลงสู่ทะเลด้านตะวันออกท่ีอ่าวภูเก็ตมีความยาวประมาณ
8,000 เมตร
- คลองบางลา ไหลลงสู่ทะเลด้านทิศตะวันตกท่อี ่าวป่าตอง
- คลองบางโรง ไหลลงสู่ทะเลด้านทิศตะวันออกที่อ่าวบางโรงมีความยาวประมาณ
4,800 เมตร
- คลองทา่ เรอื ไหลลงสู่ทะเลดา้ นทศิ ตะวันออกที่อา่ วท่าเรอื
- คลองท่ามะพร้าว ไหลลงสู่ทะเลด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่อ่าวมะพร้าวมีความ
ยาวประมาณ 7,200 เมตร
- คลองบ้านหยิด ไหลลงสู่ทะเลด้านทิศตะวันออกที่คลองท่านุ่นช่องแคบปากพระมี
ความยาวประมาณ 7,750 เมตร
- คลองพมา่ หลง ไหลลงส่ทู ะเลด้านทศิ ตะวนั ตกที่อ่าวทุ่งหน๋งุ อาเภอถลาง
- คลองกมลา ไหลลงสู่ทะเลด้านทิศตะวันตกที่อ่าวกมลามีความยาวประมาณ
3,750 เมตร
- คลองโคกโตนด ไหลลงสูท่ ะเลดา้ นทศิ ตะวันออกเฉียงใตท้ ี่อ่าวฉลอง
กรมการปกครอง
ที่วา่ การอาเภอกะทู้
ส่วนแหล่งผิวน้าดินจากพื้นที่พรุ ซ่ึงส่วนใหญ่จะกระจายตัวอยู่ในเขตอาเภอถลาง
ได้แก่ พรุเจ๊ะสัน พรุจิก พรุแหลมหยุด พรุยาว พรุไม้ขาว และพรุทุ่งเตียน เป็นต้น มีพื้นที่โดยรวมประมาณ
570 ไร่ นอกจากนี้ ในพื้นท่ีอาเภอกะทู้ยังมีแหลง่ ผิวดินจากเหมืองร้างจานวน 34 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ประมาณ
635 ไร่ มปี ริมาณนา้ เก็บกักประมาณ 11,181,250 ลูกบาศก์เมตร
2. แหล่งน้าใต้ดิน ศักยภาพแหล่งน้าบาดาลของจังหวัดภูเก็ต จากการประมวนผลข้อมูล
พบว่า แหล่งน้าบาดาลที่มีศักยภาพสูงสุดในพ้ืนที่จังหวัดภูเก็ต คือ แหล่งน้าบาดาลในหินตะกอนก่ิงหินแปร
บริเวณตาบลเทพกระษัตรี อาเภอถลาง สามารถพัฒนาน้าบาดาลได้ท่ีระดับความลึก 20 – 40 เมตร ปริมาณ
น้าอยู่ในเกณฑ์ 10 – 30 ลบ.ม./ชม. แหล่งน้าบาดาลท่ีมีศักยภาพรองลงมาได้แก่ แหล่งน้าบาดาลในชั้น
ตะกอนรว่ นประกอบด้วย แหล่งนา้ บาดาลในช้นั ตะกอนทราบชายหาดที่สามารถพฒั นาแหล่งน้าได้ที่ระดับความ
ลกึ 2 – 4 เมตร ปรมิ าณ 5 -10 ลบ.ม/ชม. รวมท้ังตะกอนเศษหินเชงิ เขาที่สามารถพัฒนาแหลง่ น้าได้ท่ี
ความลึก 20 – 30 เมตร ปริมาณน้า 5 – 15 ลบ.ม./ชม. คุณภาพน้าบาดาลส่วนใหญ่เป็นนาจืดคุณภาพดีแต่
ปริมาณเหล็กในน้าค่อนข้างสูง บริเวณท่ีติดกับชายฝั่งทะเลด้านทิศตะวันออกและด้านทิศเหนือของจังหวัด มี
สภาพเป็นป่าชายเลนพบว่า เป็นทแ่ี หลง่ น้าบาดาลเค็มทเ่ี กิดจากการรุกลา้ ของน้าทะเลแหล่งน้าบาดที่มีศักยภาพ
ต่าได้แก่ แหล่งน้าบาดาลในหินแกรนิต ความลึกของชั้นน้าบาดาลอยู่ในช่วง 25 – 34 เมตร ปริมาณน้าส่วน
ใหญ่น้อยกว่า 2 ลบ.ม/ชม. คุณภาพน้าบาดาลเป็นน้าจืดคุณภาพดีแต่ปริมาณเหล็กในน้าสูงนอกจากน้ัน ความ
แรงและความเร็วของคล่ืนท่ีนาต้นไม้ ทรัพย์สิน สิ่งก่อสร้างขัดกระแทกเข้าสู่ฝั่งได้สร้างความเสียหายแก่บ่อน้า
ตืน้ บอ่ บาดาล ระบบประปาทีต่ อ้ งได้รับการซ่อมแซมปรับปรงุ หรือก่อสร้างใหมซ่ ง่ึ จะส่งผลให้มีการปนเป้ือนของ
แบคทีเรียน้ามัน ส่วนบ่อน้าท่ีได้รับการเป่าล้างแล้วหากไม่มีน้าฝนไหนทดแทน (Recharge) จะส่งผลให้เกิด
ปญั หาการขาดแคลนท่ีมคี ุณภาพเหมาะสมต่อการอุปโภค-บรโิ ภค
ป่าไม้
ประเภทของป่าสงวนแหง่ ชาตทิ ่ีเป็นป่าบก ได้แก่
1. ป่าเทือกเขากมลา ตั้งอยู่ท้องที่ตาบลป่าตอง ตาบลกะทู้ ตาบลกมลาอาเภอกะทู้
ตาบลเชิงทะเล ตาบลศรีสุนทร อาเภอถลาง ตาบลเกาะแก้ว ตาบลรัษฎา อาเภอเมือง เน้ือที่ 29,600 ไร่ ประกาศ
โดยกฎกระทรวงฉบับที่ 401 (พ.ศ.2512) มีการบุกรุกแผ้วถางเพ่ือปลูกยางพาราบางส่วน สานักงานปฏิรูปท่ีดิน
ดาเนินการออก ส.ป.ก. จานวนเนื้อท่ี 21,480 ไร่
2. ป่าเทือกเขานาคเกิด ต้ังอยู่ท้องที่ตาบลป่าตอง ตาบลกะทู้ อาเภอกะทู้ ตาบลวิชิต
ตาบลฉลอง ตาบลกะรน ตาบลราไวย์ อาเภอเมืองภูเก็ต เนื้อที่ 24,750 ไร่ ประกาศโดยกฎกระทรวงฉบับที่ 621
(พ.ศ.2516) สานักงานปฏิรูปที่ดินดาเนินการออก ส.ป.ก. จานวนเนื้อท่ี 19,005.50 ไร่> พ้ืนท่ีต้นน้า อาเภอกะทู้
มีพ้ืนที่ต้นน้า (ลุ่มน้าตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันท่ี 7 พฤศจิกายน 2532) ดังน้ี ลุ่มน้าชั้น 1A ชั้น 1B และช้ัน 2
ที่อยู่ในพ้ืนที่ลกู เดียวกนั มี เขาควนหวา้ เขาเก็ตหนี เข้าไม้เท้าสิบสอง , ลุ่มน้าชั้น 1B มีควนนาคาเล , ลุ่มน้าช้ัน 2 มี
เขานาคา เขาคอ้ เขาปากบาง
ปา่ ชาเลน ในทอ้ งที่อาเภอกะทู้ ไมม่ พี น้ื ท่ปี ่าชายเลนทีเ่ ป็นป่าสงวนแห่งชาติ
สภาพพื้นท่ีป่าคงเหลืออยู่ระหว่างการตรวจสอบพ้ืนที่ AO ของหน่วยงานท่ีรับผิดชอบ
พื้นทโ่ี ดยตรงของหน่วยป้องกันรักษาปา่ ท่ี ภก 2 (ภเู กต็ )
วิเคราะห์แนวโน้มการลดลงของพื้นท่ีป่า พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในเขตอาเภอกะทู้
บริเวณโซน E กรมป่าไม้ได้มอบให้ ส.ป.ก. รับไปดาเนินการปฏิรูปท่ีดินบางส่วน ปัญหา
บริเวณโซน C บางส่วนได้มีราษฎรบุกรุถือครองเปล่ียนสภาพเป็นสวนยางพารา สวน
ผลไม้ มีการซื้อขายท่ีดินป่าไม้เปลี่ยนมือ ลักลอบตัดไม้ การออกเอกสารสิทธิ์ซ้อนทับ
พนื้ ท่ีปา่
กรมการปกครอง
ที่ว่าการอาเภอกะทู้
แนวทางรักษาและเพ่ิมพ้นที่ปา่ ไม้ และการแก้ไขปัญหาอย่างยง่ั ยืนในอนาคต
- หยดุ ย้งั การบงุ รกุ พ้นื ท่ปี ่าไมท้ ุกประเภทอย่างเร่งดว่ น
- หยุดย้ังการลกั ลอบตัดไม้ทาลายป่า
- จัดทาแนวเขตปา่ ไม้ให้ชดั เจน
- สร้างจติ สานกึ และหวงแหนทรัพยากรป่าไม้อย่างจรงิ จังและต่อเนื่อง
- ขบั ไล่ ร้ือถอน จบั กุมเอาผดิ กับผู้เขา้ ครอบครองพื้นทีป่ ่าโดยผดิ กฎหมาย
- ปอ้ งกนั การบุกรแุ ล้วถางปา่ ของราษฎรรายใหม่ในเขตพื้นที่รกรา้ งหรือเส่ือมโสม
- ปรบั ปรงุ กฎหมายท่มี ีความขัดแย่งกันทาใหเ้ กิดช่องว่าง หรืออปุ สรรคในการพิทักษ์
ทรพั ยากรป่าไม้
- ฟื้นฟสู ภาพปา่ ทเี่ ส่ือมโสม
- ปรบั ปรงุ ระบบการดูแลและรักษาโดยให้ทุกภาคสว่ น มสี ่วนรว่ มอยา่ งจริงจังและ
ตอ่ เนอื่ ง
ขยะมลู ฝอย
จังหวัดภูเก็ต มีพ้ืนที่ 570.034 ตารางกิโลเมตร มีประชาชนประมาณ 356,737 คน
นักท่องเที่ยวปีละ 10 – 12 ล้านคน ประชากรแฝงจากแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวประมาณ
200,000 คน และแรงงานต่างด้าวประมาณ 120,000 คน ทาให้ปัจจุบันมีปริมาณขยะมากกว่า 7,000 ตันต่อ
วนั และมอี ตั ราเพมิ่ ของขยะมูลฝอยมากกว่า ร้อยละ 7 ต่อปี การกาจัดขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ต เป็นการบริหาร
จัดการขยะแบบรวมศูนย์ โดยได้มอบเทศบาลนครภูเก็ตรับผิดชอบจัดต้ังศูนย์กาจัดขยะมูลฝอยรวม ภายใต้การ
กากับ ดูแล ของคณะกรรมการบริหารจัดการขยะมูลฝอยและน้าเสียจังหวัดภูเก็ต และเร่ิมดาเนินการมาตั้งแต่ ปี
พ.ศ.2540 ในบริเวณพ้ืนที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าเลนคลองเกาะผี หมู่ท่ี 1 ตาบลวิชิต อาเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต เน้ือ
ที่รวม 291 ไร่ 2 งาน 70 ตาราง ใหบ้ ริการกาจัดขยะมูลฝอยจากทุกท้องถิ่นและเอกชน ผู้ท่ีนาขยะมูลฝอยมากาจัด
จะต้องชาระค่าธรรมเนียมการกาจัดขยะมูลฝอยในราคา ตันละ 520 บาท ระบบกาจัดขยะมูลฝอยหลัก
ประกอบด้วยโรงงานเตาเผาขยะ ขนาด 250 ตัน/วัน(ปัจจุบันชารุด) และโรงงานเตาเผาขยะ ขนาด 700 ตัน/วัน
หากมีส่วนเกินจะนาเข้าพ้ืนท่ีฝังกลบซ่ึงมีอยู่ 5 บ่อ ขณะน้ีได้ใช้พื้นที่เต็มครบทุกบ่อแล้ว และมีปริมาณขยะฝังอยู่
มากกว่า 1 ลา้ นตนั
จากการวิเคราะห์องค์ประกอบของขยะมูลฝอยของจังหวัดภูเก็ต โดยศูนย์กาจัดขยะมูลฝอย
เทศบาลนครภูเก็ตพบว่า มีปริมาณขยะอินทรีย์ประมาณ 57% กระดาษและผ้าประมาณ 21% และโลหะประมาณ
4% ของปริมาณขยะมูลฝอยท่ีเกิดข้ึนท้ังหมด ซ่ึงค่าพลังงานความร้อนของขยะมูลฝอย แยกเป็น ค่าความร้อนต่าอยู่
ทป่ี ระมาณ <2,000 กิโลแคลอร่ี/กโิ ลกรัม และค่าความร้อนสงู อยู่ทปี่ ระมาณ <4,000 กิโลแคลอร/่ี กโิ ลกรัม
12. ด้านความม่ันคงและความสงบเรียบรอ้ ย
หนว่ ยงานรักษาความสงบและกองกาลังในพื้นท่ีพร้อมอตั รากาลงั มจี านวน 4 แห่ง ดังน้ี
1. กองร้อยอาสารักษาดินแดน แห่งท่ี 2 อาเภอกะทู้ มีอัตรากาลงั พลท้ังหมด 17 นาย
2. สถานตี ารวจภธู รกะทู้
- อตั ราอนุญาต 93 นาย แยกเปน็ ชั้นสญั ญาบัตร 22 นาย ช้ันประทวน 71 นาย
- อัตราตัวจริง 81 นาย แยกเป็นชนั้ สญั ญาบตั ร 29 นาย ชน้ั ประทวน 53 นาย
- ไปช่วยราชการ 6 นาย แยกเปน็ ช้ันสญั ญาบัตร 2 นาย ช้ันประทวน 4 นาย
- มาชว่ ยราชการ 4 นาย แยกเปน็ ช้นั สญั ญาบัตร 3 นาย ช้นั ประทวน 1 นาย
- อัตราวา่ ง 2 นาย แยกเปน็ ชั้นสญั ญาบัตร 1 นาย ช้ันประทวน 1 นาย
- นายร้อย 53 จานวน 8 นาย
กรมการปกครอง
ท่ีวา่ การอาเภอกะทู้
ปัญหาการจราจร
- ปญั หาการจราจรติดขัด ไมม่ ี
- ปญั หารถยนต์รบั จ้างสาธารณะ และรถจักรยานยนตร์ ับจ้าง ไม่มี
- ปญั หาการไมส่ วมหมวกนริ ภยั ของผู้ขับขี่และผู้ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ ยงั มีอีกมากที่ต้อง
ดาเนินการแก้ไข กวดขัน จับกุม
3. สถานีตารวจภูธรปา่ ตอง
- อัตราอนุญาตทั้งหมด 221 นาย แยกเป็นชน้ั สัญญาบัตร 52 นาย ชั้นประทวน 169 นาย
- อตั ราตัวจริง 131 นาย แยกเปน็ ช้นั สญั ญาบัตร 50 นาย ช้ันประทวน 81 นาย
- อัตราวา่ ง 90 นาย แยกเป็นชั้นสญั ญาบัตร 2 นาย ชั้นประทวน 88 นาย
ปัญหาการจราจร ในเขตพืน้ ท่ี สภ.ป่าตอง
- ปัญหาจานวนรถมีปริมาณมาก เกินกวา่ ท่ีถนนรองรับได้
- ปัญหาการเข้ายึดครองที่จอดรถของรถรับจ้างสาธารณะและประชาชน ที่มาประกอบอาชีพใน
พ้ืนที่หาดป่าตอง นายานพาหนะมาจอดบนถนน
- ปญั หาการเดินข้ามถนนของนักท่องเที่ยว และประชาชนในหลายๆจดุ พรอ้ มๆกนั
แนวทางการแก้ไข
- กระจายการเดินรถไปในถนนต่างๆ และปรับระบบการเดินรถในบางถนน เช่น ถนนร่วมใจ ถนน
ประชานเุ คราะห์ให้สอดคล้องกับสภาพการจราจรในปัจจุบัน
- จดั ระเบียบการจอดรถรับจ้างสาธารณะ นักท่องเที่ยวและประชาชน ที่เข้ายึดครองทางสาธารณะ
ร่วมถึงประชาชนที่มาประกอบอาชีพในพ้ืนท่ีหาดป่าตอง ให้นายานพาหนะไปจอดในที่ส่วนบุคคล หรือในที่ที่ทาง
เทศบาลเมืองป่าตองกาหนดให้จอดรถได้ การดาเนินการต้องมีการบูรณาการหน่วยงานที่เก่ียวข้องเข้าไปดาเนินการ
ร่วมกนั เช่น อาเภอกะทู้ เทศบาลเมืองป่าตอง และเจ้าหนา้ ท่ีตารวจ
- กาหนดจุดข้ามถนน จุดทางม้าลาย โดยการติดตั้งสัญญาไฟเดินคนข้ามถนนในส่วนที่ห้ามเดิน
ข้ามถนนให้ติดตั้งแผงเหล็กรมิ ฟุตบาทป้องกนั การฝ่าฝนื การเดนิ ขา้ มถนนไมต่ รงจุดที่ได้กาหนดให้
- ปรับปรุงก่อสร้างขยายถนนและท่ีสาหรับจอดรถ โดยการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการ
นาเอาวิศวกรรมการจราจรมาปรับปรุงผิวการจราจร ลดทางโค้ง ทางลาดชันจุดท่ีมักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้งหรือมี
ปัญหาการจราจรติดขัด เพ่ือให้การจราจรสามารถเคล่ือนตัวได้เรว็ ข้นึ
- ลดปริมาณรถในพน้ื ผิวการจราจร
จากัดประเภทรถที่จอดในถนนสาธารณะ โดยกาหนดจุดจอดไว้เฉพาะรถสาธารณะหรือ
รถยนตเ์ พื่อการพาณชิ ย์เท่านน้ั และกาหนดจุดจอดรถของรถยนตส์ ว่ นตวั ให้น้อยลง
สร้างระบบขนส่งมวลชนขนาดใหญ่ที่มีความปลอดภัยสามารถขนคนได้ปริมาณมาก มี
เสน้ ทางเดินรถที่เหมาะสม สะดวก รวดเร็ว และราคาประหยดั
จากัดปริมาณรถในช่วงช่ัวโมงเร่งด่วน โดยเฉพาะถนนพระบารมีช่วงเขาป่าตอง ซึ่งปัจจุบันได้มีการห้ามรถต้ังแต่สิบ
ลอ้ ขนึ้ ไปวงิ่ – สง่ ซึ่งจะพจิ ารณากาหนดเพมิ่ ขึ้นในถนนอื่นๆต่อไป
การจากัดจานวนรถยนต์ส่วนบุคคลแต่ก็เป็นไปได้ยาก เนื่องจากรัฐบาลมีนโยบายท่ีจะ
ส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ในย่านเอเชีย แนวทางนี้จึงไม่มีทางเป็นไปได้แต่อาจจะต้องกาหนด
คุณสมบัติผทู้ ี่จะจดทะเบียนรถยนต์สว่ นบุคคลใหม่
- กวดขันจับกุมผู้กระทาความผิดตามกฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะที่ก่อให้เกิดปัญหา
การจราจรติดขัด เช่น จอดรถในท่ีห้ามจอด ขับรถ/หยุดรถในลักษณะกีดขวางการจราจร กลับรถในท่ีคับขัน ข้าม
ถนนไม่ตรงทางมา้ ลายซ่ึงในระยะ 100 เมตร มีทางม้าลายอยู่
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
- ประสานกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในการจัดระเบียบผู้ประกอบการท่ีบุกรุกพ้ืนผิวการจราจร การ
จดั การปญั หาเร่ืองการรุกล้าทสี่ าธารณะจาเปน็ ต้องอาศัยความร่วมมือจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาร่วมมือใน
การแก้ไขปัญหาแบบบรู ณาการ ไม่ว่าจะเปน็ องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ และฝ่ายปกครอง
สถานการณส์ ภาพการจราจรปัจจบุ ัน
- การเพิ่มขึ้นของปริมาณยานพาหนะ ปริมาณรถชนิดต่างๆ เพิ่มข้ึนตามความต้องการของ
ประชาชนโดยเฉพาะในประเทศที่มีระบบการขนส่งสาธารณะไม่ดีพอ ทาให้ประชาชนนิยมท่ีจะใช้รถยนต์ส่วนตัว
มากกว่าใช้ระบบขนส่งมวลชนหรือการขนส่งสาธารณะ รวมทั้งนโยบายของรัฐบาลที่มุ่มส่งเสริมให้มีการย้ายฐานการ
ผลติ รถยนต์มาอยู่ในประเทศไทย ทาใหป้ ริมาณรถยิ่งเพิ่มมากข้ึนเร่ือยๆ อีกทั้งยังไม่มีข้อบังคับใดๆมากาหนดการเพ่ิม
มากข้ึนของจานวนรถ จากสถิติของสาหนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต ปรากฏว่า ในปี พ.ศ.2561 มีจานวนรถยนต์น่ัง
สว่ นบคุ คลย่นื ขอจดทะเบียน จานวน 7,649 คัน รถจักรยานยนต์ จานวน 25,735 คัน คิดเป็น 20.9 และ 70.5
คนั ต่อวัน และ ปี พ.ศ.2549 เดือนมกราคม กันยายน จานวน 6,690 คัน และ 18, 143 คัน คิดเป็น 24.5 และ
64.5 คันต่อวัน ตามลาดับ เห็นได้ว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่สอดคล้องกับปริมาณผิวการจราจรท่ีถูกจากัดด้วยปัจจัยต่างๆ
จงึ เปน็ เร่ืองต้องไตร่ตรองให้หนักว่าในอีก 5 – 10 ปี ข้างหน้า ซึ่งการจราจรในจังหวัดภูเก็ตและท่ัวประเทศจะอยู่ใน
ภาวะใด หากไม่มีมาตรการใดใด มาควบคุมเก่ียวกับ การซื้อ – ขายรถ และคุณสมบัติเบ้ืองต้นของผู้ท่ีจะสามารถซ้ือ
รถได้
- สภาพแวดล้อมทางกายภาพ ที่ตั้งของเมืองป่าตองมีลักษณะเป็นหุบเขาผสมพ้ืนท่ีราบมีถนนท่ี
สามารถเชื่อมติดต่อกับพื้นที่ภายนอกสามทาง ซ่ึงล้วนแล้วแต่จะต้องผ่านเส้นทางภูเขา ถนนบางช่วงมีความลาดชัน
โดยเฉพาะถนนพระบารมีซึ่งผ่านเส้นทางเขาป่าตอง ซึ่งเป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางมายังพื้นที่ป่าตองที่
สะดวกท่ีสุด เส้นทางดังกล่าวมีความลาดชันและเป็นทางโค้งที่อันตราย จุดที่เกิดเหตุบ่อยคร้ังคือบริเวณโค้งหักศอก
ทางลงเขามาป่าตองและบรเิ วณแยกวัดสุวรรณคีรีวงศ์
นอกจากน้ีสภาพภูมิอากาศที่มีฝนตกบ่อยคร้ังยังมีส่วนให้เกิดอุบัติเหตุเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะถนน
พระบารมีช่วงเขาป่าตอง เม่ือมีฝนตกทาให้ถนนที่มีน้ามันตกหล่นอยู่แล้วเกิดลอยตัวขึ้นมา หากฝนตกมีปริมาณไม่
มากพอทีจ่ ะชะล้างคราบน้ามันไปได้ ทาใหถ้ นนลื่นและเกิดอุบัติเหตุไดง้ ่าย
- สภาพถนน เมืองป่าตองมีพ้ืนที่จากัด ในการสร้างถนนเพื่อให้ได้พื้นผิวการจราจรมากท่ีสุดทาให้
ท่อระบายน้าบางส่วนอยู่บนถนน ซึ่งหากระดับของท่อกับผิวของถนนไม่เท่ากันจะทาให้เกิดอุบัติเหตุได้ และท่อ
ระบายน้ายังอุดตันบ่อยครั้งหากเกิดกรณีฝนตกมากๆ ถนนในพ้ืนที่ป่าตองมีลักษณะแคบ ทาให้การจราจรไม่ค่อย
คล่องตวั หากมรี ถจอดกีดขวางหรือเกิดอบุ ตั ิเหตุ ทาใหเ้ กิดปัญหาการจราจรติดขัดในวงกว้างตามมา
- การรุกล้าพ้ืนท่ีสาธารณะของผู้ประกอบการ ราคาที่ดินสูงมากประกอบกับการดาเนินกิจการ
ต่างๆในพื้นท่ีป่าตองสามารถสร้างรายได้อยู่ในเกณฑ์สูง ทาให้ผู้ประกอบการบางส่วนเลือกที่จะรุกล้าพ้ืนที่สาธารณะ
ในการประกอบกิจการ ทาให้เสียพืน้ ผิวการจราจรและพื้นที่ทางเท้าไป
- ระบบการขนส่งสาธารณะ พ้ืนที่เมืองป่าตองขาดระบบขนส่งสาธารณะ มีระบบขนส่งสาธารณะ
เพยี งสองอย่าง คือ รถต๊กุ ตุ๊ก กบั รถจกั รยานยนต์รับจ้าง ซึ่งมีปริมาณรถมากเกินความจาเป็น แทนที่จะช่วยลดปัญหา
การจราจรกลับทาให้เกิดปัญหากับระบบการจราจรเพราะรถตุ๊กตุ๊กท่ีมีปริมาณจานวนมากวิ่งวนไปเวียนมาตามถนน
ต่างๆ ทาให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด การหยุดรถรับส่งผู้โดยสารของรถตุ๊กๆท่ีนานักท่องเที่ยวมาส่งในซอยบางลา
ทาให้เกดิ ปัญหาการจราจรติดขดั บรเิ วณแยกต้นซอยบางลาและท้ายซอยบางลา โดยเฉพาะหากมีการจอดรถซ้อนคนั
- ที่จอดรถไม่เพียงพอ เน่ืองด้วยในพื้นที่ตาบลป่าตองที่ดินมีราคาสูงมาก ทาให้ผู้ประกอบการ
ตา่ งๆ พยายามใช้ประโยชน์จากท่ีดินให้มากที่สุด โดยไม่ได้มีการจัดท่ีจอดรถไว้สาหรับตนเองและลูกค้า ทาให้ต้องมา
จอดในทางหลวง นอกจากนี้ราคาท่ีดินมีราคาสูงและส่วนใหญ่อยู่ในมือของนักธุรกิจทาให้รัฐไม่สามารถจัดหาท่ีจอด
รถไว้บริการประชาชนและนักท่องเท่ียวได้ เม่ือที่จอดรถไม่เพียงพอ แต่ประชนชนและนักท่องเท่ียวมีความจาเป็นที่
กรมการปกครอง
ทว่ี า่ การอาเภอกะทู้
จะต้องจอดรถเพ่ือทากิจกรรมต่างๆ ทาให้ต้องจอดรถและทาผิดกฎหมายจราจรเมื่อจอดรถนานๆทาให้เกิดปัญหา
การจราจรตดิ ขัดตามมา
- การจัดกจิ กรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวต่างๆ ซ่ึงจะมีรถเข้ามาในงานปริมาณมาก ไม่ว่าจะเป็นรถผู้
จัดงาน รถผู้ร่วมงาน เพราะพื้นที่ป่าตองไม่มีท่ีจอดรถไว้รองรับเพียงพอทาให้มีกี่จอดรถผิดกฎหมายตามมาและการ
จดั งานมกั มีการปิดถนนซึ่งกระทบกบั พื้นผวิ การจราจร ทาให้การจราจรเคล่ือนตวั ได้ชา้ และติดขัด
- วินัยของผู้ใช้รถใช้ถนน มีความเห็นแก่ตัวไม่ปฏิบัติตามกฎจราจร ซ่ึงเป็นกฎแห่งความปลอดภัย
ทาให้เกิดอุบัติเหตุหรือเกิดการจราจรติดขัด ซ่ึงหากไม่มีเจ้าหน้าท่ีตารวจคอยควบคุมอย่างเข้มงวดมักมีการกระทา
ผิดกฎหมาย
- สัญญาณและเคร่ืองหมายจราจร การจัดทาและบารุงรักษาสัญญาจราจรเป็นเจ้าหน้าที่ของ
หน่วยงานอ่ืนไม่ว่าจะเป็นเทศบาลหรือแขวงการทางหลายครั้งท่ีมีการเปล่ียนแปลงประกาศเจ้าพนักงานจราจรแต่
ต้องรองบประมาณจากหน่วยงานอื่นในการทาสัญญาณป้ายจราจร ทาให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปด้วยความ
ยากลาบาก
- คนเดินเท้า เนื่องจากมีปริมาณนักท่องเท่ียวเข้ามาจานวนมาก ทาให้บริเวณต้นซอยบางลาและ
ท้ายซอยบางลามีนักท่องเที่ยวข้ามถนนเป็นจานวนมาก ในปัจจุบันมีการก่อสร้างถนนทวีวงศ์และทางเท้าใหม่ทาให้
นกั ท่องเท่ยี วต้องลงเดินเท้าบนถนนก่อให้เกดิ ปัญหาการจราจรติดขดั
- การปรับปรุงภูมิทัศน์จากเหตุการณ์สินามิท่ีล่าช้า กระทบถึงช่วงเทศกาลท่องเที่ยว ซ่ึงมี
นักท่องเท่ียวเข้ามาปริมาณมาก ขณะท่ีการปรับปรุงภูมิทัศน์และการก่อสร้างถนนไม่แล้วเสร็จ ซึ่งการก่อสร้าง
กอ่ ให้เกดิ ผลกระทบกบั ปญั หาการจราจร โดยเจ้าหน้าที่ตารวจได้พยายามที่จะควบคุมไม่ให้ทาการก่อสร้างในช่วงท่ีมี
การจราจรหนาแนน่ ซึ่งปัญหาดังกลา่ วนา่ จะหมดไปหลงั การปรบั ปรุงภมู ทิ ัศนเ์ สรจ็ สิ้นลง
การเพิ่มขึ้นของถนนสายจากป่าตองฮิวล์ถึงถนนพระบารมี ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงเส้นทาง
หลกั การเดินรถจากถนนราษฎร์อทุ ิศ 200 ปี และอาจจะต้องปรับเปล่ียนจุดปฏิบัติหน้าท่ีของตารวจจราจรและถนน
ราษฎรอ์ ทุ ศิ 200 ปี เพือ่ ลดจุดตดั ของถนนท้ังสองทางและเพื่อเพ่ิมท่ีจอดรถในอนาคต ซ่ึงจะส่งผลดีต่อการจราจรใน
ภาพรวม
แนวโน้มและการแกไ้ ขปัญหา
- สร้างสะพานลอยให้สาหรับคนข้ามถนนในจุดท่ีไม่กระทบกับภูมิทัศน์ เช่นบริเวณหน้าวัด
สวุ รรณคีรีวงก์ หน้าโรงเรียนวัดสุวรรณครี ีวงศ์ นอกจากจะสร้างความปลอดภัยให้กับคนเดินเท้าแล้ว ยังช่วยลดภาระ
เจา้ หนา้ ทตี่ ารวจเพื่อให้สามารถจัดกาลังไปปฏบิ ัติหนา้ ทีใ่ นจดุ อื่นๆได้
- การจัดงานหรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว จะต้องจัดเตรียมระบบขนส่งและ
สถานท่จี อดรถไว้ให้บริการนักท่องเท่ียวอยา่ งเพียงพอ และจะตอ้ งมีการประชาสัมพันธ์ให้ทราบ
- การนาเอากาลังส่วนอื่นเข้ามาร่วมในการจัดการจราจร โดยเฉพาะช่วงมีกิจกรรมพิเศษ ซ่ึงใน
ปัจจุบัน สภ.ป่าตองได้ฝึกอบรมอาสาสมัครจราจรจานวน 17 คน มาเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของตารวจจราจรในช่วง
ปกติได้จัดกาลังไปปฏิบัติหน้าท่ีหน้าโรงเรียน และจุดเร่งด่วนวัดสุวรรณคีรีวงศ์ หากมีกิจกรรมงานต่างๆจะมีการ
เรยี กกาลังท้งั หมดมาเสริมการปฏบิ ตั ิตามความเหมาะสม
- การนาเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการควบคุมการจราจร เช่นระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งมีเซนเซอร์คอย
ตรวจสอบปริมาณรถในแตล่ ะจุดที่มีสัญญาณไฟจราจร เช่น ทางร่วมทางแยกให้เป็นไปตามความเหมาะสมตามสภาพ
การจราจรในขณะน้ันๆ การติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตามแยกต่างๆ เพ่ือให้สามารถดูสภาพการจราจรได้
ตลอดเวลาการนาเอาสัญญาณภาพตามแยกต่างๆ ถ่ายทอดสดเผยแพร่ทางสื่อ เช่น อินเตอร์เน็ตเพื่อให้ประชาชน
สามารถตัดสนิ ใจในการเลือกใชเ้ ส้นทางหรือเวลาการเดินทางได้
กรมการปกครอง
ทว่ี า่ การอาเภอกะทู้
สถานตารวจภูธรกมลา
- อัตราบรรจุ 77 นาย แยกเป็นชั้นสญั ญาบัตร 25 นาย ชนั้ ประทวน 52 นาย
- อัตราตัวจรงิ 72 นาย แยกเป็นช้นั สัญญาบตั ร 24 นาย ชัน้ ประทวน 48 นาย
- ไปชว่ ยราชการที่อน่ื 6 นาย แยกเป็นชน้ั สัญญาบัตร 2 นาย ช้ันประทวน 4 นาย
- เข้ามาช่วยราชการ 1 นาย แยกเป็นชน้ั สัญญาบัตร 1 นาย
แนวทางการแกไ้ ขปัญหา
ในแหล่งท่องเที่ยวสาคัญ เช่น ภูเก็ตแฟนตาซี หาดกมลา สถานีตารวจภูธรกมลาได้จัด
เจา้ หนา้ ทต่ี ารวจสายตรวจเดนิ เท้าดแู ลรักษาความปลอดภัยทุกวันที่มีการแสดงร่วมกับพนักงานรักษาความปลอดภัย
ของทางภูเก็ตแฟนตาซี และได้จัดเจ้าหน้าที่ตารวจสายตรวจจักยานวันละ 2 นาย ออกตรวจดูแลความปลอดภัย
นกั ทอ่ งเท่ยี วรว่ มกับสายตรวจรถจักรยานยนต์ของสถานีตารวจภูธรกมลา
ปญั หาความม่นั คง
- เรื่องยาเสพติด ส่วนใหญ่ผู้ต้องหาท่ีถกู จับกุมน้ันได้ซื้อยาเสพติดจากพ้ืนที่อ่ืนเพ่ือนามาเสพ
- ไม่มีการคา้ มนุษย์ในพื้นที่
- ไม่มีการค้าแรงงานเด็กในพื้นที่
กรมการปกครอง
ท่วี า่ การอาเภอกะทู้
ประเด็นปญั หาและความต้องการเชิงพ้นื ท่ี
ตาบล ประเดน็ ปัญหา/ความต้องการ สาเหตขุ องปัญหา/ความ แนวทางแกไ้ ข
ตอ้ งการ
กะทู้ 1. ปัญหาการขาดแคลนอุปโภคและ - ประชาชนไม่มีนา้ อุปโภคบริโภค -ตอ้ งขยายระบบประปาเพ่ือให้
บริโภค เพยี งพอในชว่ ยฤดูแลง้ เน่อื งจาก ประชาชนในพืน้ ท่ีมีนา้ ใช้
นา้ ประปาไม่เพยี งพอ อปุ โภคบรโิ ภคเพียงพอ
- ประชาชนไม่มีท่เี ก็บน้าไวใ้ ช้ในฤดู - การสรา้ งถังเกบ็ นา้ ใหแ้ ก่
แลง้ หรอื ฝนท้งิ ช่วง ชมุ ชนที่ขาดแคลนน้า
2. ปญั หาเร่อื งสาธารณปู โภคและ - ประชาชนต้องการความปลอดภยั - ปรบั ปรุงทางเทา้ ในพื้นที่
โครงสร้างพ้ืนฐาน และต้องการใหม้ ีทางเท้าในการ ตาบลกะทูท้ กุ เส้นทาง
เดนิ ทางสัญจร
3. ปัญหาด้านขยะ มลภาวะและ - ตอ้ งการใหข้ จดั สิง่ กดี ขวางการ - ขุดลอกคลอง
สงิ่ แวดลอ้ ม ไหลเวียนของนา้ - จดั หารถขยะมาบริการ
- ตอ้ งการใหม้ ีการจัดเก็บขยะอยา่ ง ประชาชนอย่างพอเพียง
ทั่วถงึ และมปี ระสิทธภิ าพ - รณรงคป์ ระชาชนใหช้ ว่ ยกนั
ลดขยะ
4. ปัญหาเร่อื งสังคม - ปัญหายาเสพติด ต้องการใหร้ ฐั - จดั อบรมเยาวชนเพ่อื สร้าง
แก้ไขอย่างจริงจัง จิตสานกึ ในการปอ้ งกันและ
- ปัญหาหน้นี อกระบบ แกไ้ ขปญั หายาเสพติด
- ปัญหาความแตกแยกทางความคดิ - จดั ต้งั ศนู ยป์ อ้ งกนั ปัญหายา
ของคนในชมุ ชน เสพตดิ ในชมุ ชน
- จัดต้งั ศูนยป์ อ้ งกนั ปญั หายา
เสพติดนอกโรงเรยี น
- จัดอบรมความรแู้ ก่ผูท้ วงหน้ี
นอกระบบ
- จัดใหม้ ีงานประเพณี เพือ่
สานความสามคั คใี หเ้ กิดใน
ชุมชน
กรมการปกครอง
ทว่ี ่าการอาเภอกะทู้
ตาบล ประเด็นปญั หา/ความต้องการ สาเหตุของปัญหา/ความ แนวทางแกไ้ ข
ต้องการ
5. ปญั หาดา้ นความปลอดภยั ในชีวิตและ - การเพม่ิ ขึ้นของประชาชนและ - จดั อบรมใหค้ วามรู้แก่สมาชกิ
ทรพั ย์สิน ความเจรญิ เตบิ โตอยา่ งรวดเร็วทา อาสาสมคั รพทิ กั ษ์ชุมชน
ให้เกดิ ปญั หาความไม่ปลอดภัยใน - จดั อบรมสร้างความเขา้ ใจแก่
ชีวิตและทรัพยส์ นิ ผ้นู าชุมชน ใหม้ จี ติ สาธารณะ
ในการปกป้องและดแู ลชุมชน
6. ปัญหาแรงงานต่างดา้ ว - แรงงานตา่ งดา้ วขาดความรคู้ วาม - จดั อบรมให้ความร้แู ก่
เข้าใจในกระบวนการกฎหมายและ แรงงานตา่ งดา้ ว
ระเบยี บการประพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม
กฎหมายไทย
ป่าตอง 1. ปัญหาเศรษฐกิจโลกสง่ ผลต่อการ - เศรษฐกิจโลกตกตา่ ทาใหเ้ กดิ ผล - จดั งานเทศกาลทอ่ งเที่ยว ณ.
ตัดสินใจเดนิ ทางของนักทอ่ งเทยี่ ว กระทบนกั ท่องเท่ยี วลดลง หาดปา่ ตอง
- จัดอบรมผ้ปู ระกอบการ
ธุรกจิ โรงแรม เร่ืองการต้อนรับ
ดูแลนกั ทอ่ งเท่ยี ว
ปา่ ตอง 2. ปัญหาด้านขยะ มลภาวะและ - ขาดการดแู ลบารงุ รกั ษาระบบ - จัดจ้างเอกชนทม่ี ี
ส่ิงแวดล้อม บาบัดน้าเสยี ประสบการณ์มาดูแลเรอื่ ง
ระบบบาบดั นา้ เสยี
- ตรวจสอบกระบวนการและ
ประสทิ ธภิ าพการบาบดั น้าเสีย
- ดาเนนิ การจ้างเหมาเอกชน
เข้ามาเก็บขยะมลู ฝอย
- รณรงคส์ รา้ งความรู้ให้
ประชาชนในพื้นทมี่ คี วาม
เขา้ ใจด้านการรักษาความ
สะอาดการรว่ มอนรุ กั ษ์
สิ่งแวดลอ้ ม
- จัดกจิ กรรมฝึกอบรมให้
ความรดู้ า้ นผลกระทบจาก
ภาวะโลกร้อนและมาตรการ
ลดใช้พลังงานใหแ้ ก่
ผู้ประกอบการโรงแรม
- จดั กิจกรรมรณรงค์ปดิ ไฟ 1
ช่ัวโมง เพอ่ื ลดภาวะโลกร้อน
3. ปญั หาการจราจร - ปัญหาการจราจรติดขัด - นาการศกึ ษาออกแบบ
- ปัญหาการขับรถทฝี่ ่าฝนื กฎหมาย เก่ยี วกบั เสน้ ทางการจราจร
ของเขตปา่ ตอง
- จดั อบรมใหค้ วามรู้และสรา้ ง
จิตสานกึ ด้านการจราจรให้
เยาวชน
- จัดจุดจอดรถและจุดหา้ ม
จอดและดาเนินการใช้
กฎหมายอย่างจรงิ จัง
กรมการปกครอง
ทว่ี ่าการอาเภอกะทู้
ตาบล ประเด็นปัญหา/ความต้องการ สาเหตขุ องปญั หา/ความ แนวทางแกไ้ ข
ต้องการ
4. ปัญหาน้าทว่ ม - ฝนตกหนัก ระบายน้าไมท่ นั ทาให้ - ศกึ ษาออกแบบพัฒนา
เกดิ ปัญหานา้ ทว่ ม ระบบการป้องกนั นา้ ท่วม
การระบายนา้ ให้มีคณุ ภาพ
- ตรวจสอบครู ะบายน้าให้
ปลอดจากสง่ิ กีดขวางเพอ่ื ให้
นา้ ไหลสะดวกอย่างสมา่ เสมอ
ปา่ ตอง 5. ปัญหาดา้ นการรกั ษาความปลอดภยั - ประชาชนตอ้ งการใหภ้ าครฐั ดแู ล - ติดต้ังระบบ CCTV ให้ครบ
ตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ของประชาชน ความปลอดภัยดา้ นชวี ติ และ ทกุ จดุ เส่ยี ง
ทรัพย์สิน - อบรมใหค้ วามรแู้ กส่ มาชิก
อาสาปอ้ งกนั และบรรเทาสา
ธารณภัย
- จดั กิจกรรมป้องกนั และลด
อุบตั ิเหตทุ างถนน
กมลา 1. ปญั หาการขาดแคลนนา้ เพ่ือใชอ้ ปุ โภค - เกิดจากภาวะฝนท้ิงช่วงและฤดู - จดั กอ่ สรา้ งถังเกบ็ น้า
บริโภค และการเกษตร แลง้ - จดั สร้างฝ้ายชะลอนา้
- เกดิ จากการไม่มที ่ีเก็บกักนา้ ในชว่ ง - ปรบั ปรุงขยายเขตประปา
ฤดแู ลง้ และในภาวะฝนทิง้ ชว่ ง
- ไมม่ ีนา้ ประปาใช้ในชว่ งฤดแู ล้ง
2. ปัญหาสาธารณปู โภคและโครงสร้าง - ถนนบางสายชารดุ เนอ่ื งจากนา้ - ซอ่ มแซมปรบั ปรุงถนนทุก
พ้ืนฐาน หลาก สายในตาบล
- น้าไหลไม่สะดวก ทอ่ นา้ อุดตัน - จดั ทางบประมาณเพอ่ ขดุ
เนือ่ งจากไม่มกี ารปรับปรุงหรือขดุ ลอกและปรับปรงุ ขยายทอ่
ลอกคูระบายน้า ระบายนา้
- ประชาชนไมไ่ ดร้ ับความปลอดภยั - จดั ตงั้ งบประมาณเพ่ือ
เนื่องจากไม่มีทางเทา้ ในการเดนิ ทาง ปรบั ปรงุ ทางเทา้ ให้คน
สัญจร เดินทางไดส้ ะดวก
3. ปญั หาภยั พิบัตธิ รรมชาติ - ประชาชนต้องการขุดลอกคลอง - จัดตั้งงบประมาณเพอ่ื ขดุ
เพอื่ แก้ปัญหานา้ ทว่ ม ลอกคคู ลองทกุ สายทตี่ ้นื เขิน
4. ปญั หาดา้ นขยะ มลภาวะและ - ประชาชนตอ้ งการให้มรี ะบบการ -
สงิ่ แวดลอ้ ม จดั เกบ็ ขยะทม่ี ปี ระสิทธิภาพ
- ประชาชนตอ้ งการให้มีบอ่ บาบัด
นา้ เสยี
5. ปัญหาเรื่องการจดั การและการบรหิ าร - ประชาชนต้องการใหม้ ีการ - การส่งเสรมิ กลุ่มอาชพี การ
ชายหาดให้มคี วามย่ังยืนและสง่ เสรมิ การ จดั ระบบการบรหิ ารชายหาดใหม้ ี สนับสนุนกลุ่มอาชีพใหม้ ี
ทอ่ งเท่ยี ว ความย่ังยนื และเพ่มิ รายไดใ้ ห้แก่ รายไดเ้ พิ่มขน้ึ
ประชาชน - การสง่ เสริมการทอ่ งเท่ียว
- ต้องการใหน้ ักท่องเท่ียวไดร้ ับ
บริการท่ีดเี สมอภาค
6.สนามกฬี าสาหรบั ออกกาลงั กายมไี ม่ - ท่ีดินมีราคาแพง - จัดหางบประมาณเพ่ือ
เพียงพอ - ขาดงบประมาณสนบั สนนุ จัดซ้อื พนื้ ที่สร้างสนามกฬี าให้
เพยี งพอ
กรมการปกครอง
ทีว่ า่ การอาเภอกะทู้
ตาบล ประเด็นปญั หา/ความต้องการ สาเหตขุ องปัญหา/ความ แนวทางแกไ้ ข
ต้องการ
7.เยาวชนยังขาดความรดู้ ้าน - ขาดการสนบั สนนุ จากผู้ท่มี สี ่วน - ส่งเสรมิ ใหเ้ ยาวชนมกี าร
ภาษาต่างประเทศ เก่ยี วขอ้ ง เรยี นรู้ ภาษาตา่ งประเทศให้
- เยาวชนขาดความสนใน มากข้ึนโดยเปิดสอนในชว่ งปดิ
- ขาดผู้สอน ทม่ี ีความชานาญ ภาคเรยี น
- จัดหาผู้มีความชานาญมาเปน็
ผ้สู อน
8. การขนสง่ ผลผลติ ทางการเกษตร - ไมม่ ถี นนเข้าสวน - ตัง้ งบประมาณสาหรับทาถนน
- อยูใ่ นเขตปา่ สงวน - ให้อนุญาตทาถนนในพ้นื ท่ี
ของรัฐ
9. ไมม่ ีการแสดงและจาหนา่ ยสนิ คา้ - ไมม่ ีสถานทจี่ าหนา่ ยสนิ ค้า - ใหจ้ ัดหาสถานทีจ่ าหนา่ ย
OTOP อยา่ งจริงจัง - ขาดการบรหิ าร จัดการท่ดี ี ผลิตภณั ฑ์ OTOP
- ให้หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วข้องมีส่วน
ร่วมในการใหค้ วามรใู้ นการ
บริหารจดั การ
10. พ้ืนที่ชายหาดไมเ่ ป็นระเบียบ - ถูกบุกลกุ จากพอ่ ค้าแมค่ ้าทขี่ าย - เจา้ หนา้ ท่ีผเู้ ก่ยี วขอ้ งและ
ของชาดหาด นกั การเมอื งท้องถนิ่ มมี าตรการ
ทเี่ ข้มงวด บังคบั ใช้กฎหมาย
อย่างจรงิ จัง
- ออกข้อบัญญตั ิท้องถิ่น
เก่ียวกบั การใช้พืน้ ทีช่ ายหาด
- อบต.ต้องสรา้ งหรือจดั สถานที่
ขายของชายหาดใหช้ ดั เจนและ
เป็นระเบยี บ
11. รายไดน้ ้อย - ไมม่ ีอาชพี เสริม - ต้องมกี ารรวมกลุ่ม
- ไมม่ ีการรวมกลุม่ ด้านอาชีพ - ฝกึ อบรมดา้ นอาชีพ
- ไม่มเี งนิ ทุน
12. ความร่วมมือจากภาคประชาชนยังมี - ประชาชนไม่มีเวลาว่าง - ประชาสัมพันธ์ใหป้ ระชาชน
นอ้ ย - ประชาชนไมเ่ ห็นความสาคัญของ เห็นถงึ สาคญั ของการมีส่วนร่วม
การมีส่วนรว่ ม - ในการจัดเวทปี ระชาคมหรือ
- เศรษฐกจิ กิจกรรมตา่ ง ๆควรจดั ในช่วงท่ี
- ขาดการประชาสัมพันธ์ เห็นวา่ ประชาชนสามารถ
มารว่ มกิจกรรมได้ และใหม้ กี าร
แจง้ ใหท้ ราบลว่ งหน้า
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
ตาบล ประเด็นปญั หา/ความต้องการ สาเหตขุ องปญั หา/ความ แนวทางแกไ้ ข
ตอ้ งการ
13. ผูด้ อ้ ยโอกาสที่ไม่สามารถชว่ ยเหลือ - ขาดงบประมาณ - ติดต่อประสานงานกบั
ตัวเองได้ - ขาดการประสานงานอย่างจริงจงั หน่วยงานต่าง ๆ ทดี่ แู ล
- ผดู้ แู ลคนพิการไมเ่ อาใจใส่ สวัสดิการของผู้ดอ้ ยโอกาสเพือ่
ของบประมาณ
- ตอ้ งมกี ารสารวจจานวน
ผู้ด้อยโอกาสและระดับ ความ
จาเปน็ ในการไดร้ ับ
งบประมาณช่วยเหลอื
14. ผ้ดู อ้ ยโอกาส/ผสู้ งู อายไุ มม่ ีงานทา - ไมม่ ผี ้อู ปุ การ - ฝกึ อบรมและสง่ เสรมิ อาชีพ
- พิการทางด้านร่างกาย - สนับสนุนดา้ นอาชีพ
- ไม่มผี จู้ า้ งงาน
15. เยาวชนมคี วามเสี่ยงต่อการตดิ ยา - ผปู้ กครองขาดการเอาใส่ - ผู้ปกครองควรเอาใจใสอ่ ยา่ ง
เสพตดิ - การแพรห่ ลายของยาเสพตดิ มี ใกล้ชิด
มากขึน้ - อบรมให้ความรกู้ บั เยาวชน
- เจ้าหนา้ ทม่ี ไี ม่เพียงพอ เก่ยี วกบั ยาเสพติด
- ประสานงานกบั เจา้ หนา้ ท่ี
เพ่อื จัดมาตรการสอดส่องดูแล
แหลง่ มว่ั สมุ ละจดุ เสี่ยงตา่ ง ๆ
16. โรคตดิ ตอ่ ที่เกดิ จากกลมุ่ แรงงาน - มีที่พักแรงงานตา่ งด้าวอย่ใู น - ตอ้ งจัดโซนทีพ่ ักแรงงานตา่ ง
ตา่ งดา้ ว ชุมชน ดา้ วและอยหู่ า่ งจากชมุ ชน
- ท่ีพกั แรงงานต่างด้าวสกปรกเป็น - ต้องมรี ะบบการจดั การที่พกั
แหลง่ เพาะเชอ้ื โรค แรงงานต่างด้าวใหถ้ ูก
สุขลักษณะอนามัยทดี่ ี
- มกี ารตรวจสอบความเป็น
ระเบียบเรยี บรอ้ ยอย่เู ปน็
ประจา
- ออกกฎระเบียบ บงั คบั
แรงงานตา่ งด้าว
17. ความปลอดภยั ในชีวติ และทรพั ย์สนิ - เศรษฐกิจ - แสงสวา่ งสาธารณะต้อง
- มีประชากรแฝงมาก อยากตอ่ การ เพียงพอ
ควบคมุ - ติดตงั้ ระบบรักษาความ
- เจ้าหนา้ ที่ไมเ่ พยี งพอ ปลอดภัยและสรา้ งความม่ันใจ
ให้กบั ประชาชน เชน่
กล้องโทรทศั นว์ งจรปดิ
(CCTV)
- เพิ่มกาลงั เจ้าหนา้ ท่ีให้
เพยี งพอ
- ประชาชนในพืน้ ท่ีคอย
สอดสอ่ งดูแลตอ้ งเป็นหเู ปน็ ตา
ให้เจ้าหน้าที
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
ตาบล ประเดน็ ปัญหา/ความต้องการ สาเหตุของปัญหา/ความตอ้ งการ แนวทางแก้ไข
18. ภัยธรรมชาติ - ดนิ ถล่ม - ตดิ ตงั้ ระบบเตือนภยั
- นา้ ท่วม - ขยาย ขุด ลอก คคู ลองให้
19. นา้ ท่วมขงั ในหมู่บา้ น - สึนามิ สมารถระบานน้าลงทะเลได้
20. ถนนชารดุ ทัน
- ไม่มคี รู ะบายน้า/แคบ - ใหค้ วามรแู้ ละฝึกซอ้ มการ
21. นา้ ใช้ไมส่ ะอาด - คนู า้ ตื้นเขนิ รับมอื กับภยั ธรรมชาติอยเู่ ปน็
- ท่อน้าประปาชารุด - ถมครู ะบายน้า ประจา
22. ขยะมลู ฝอยและนา้ เสีย - ทาลายทรัพยากรธรรมชาติ
- ตรวจสอบแนวเขตคูระบาย
- รถบรรทกุ มาก น้า
- นา้ ขังบนถนน - ขดุ ลอกคลองเพอื่ ระบายนา้
- ถนนแคบ - เพิม่ ครู ะบายนา้ ใหต้ ลอดสาย
- มสี ิ่งกดี ขวางบริเวณถนน - มมี าตรการในการถมที่
- โครงสร้างถนนผดิ รูปแบบ (ถนนตา่
กวา่ คูระบายนา้ ) - คลมุ ผ้าขณะบรรทุก
- ผูป้ ระกอบการรับผดิ ชอบ
- ไมม่ ีระบบกรองนา้ ล้างถนน
- ขาดการดแู ล บารุงรักษา - กาหนดน้าหนัก
- ท่อนา้ ประปาไมเ่ ป็นระบบ - เสริมผวิ จราจร
- ถงั ขยะไมเ่ พียงพอ - กาหนดกฎเกณฑ์วางวสั ดุบน
- ขาดจิตสานึก ถนน
- ทพี่ กั แรงงานตา่ งด้าว
- สถานประกอบการและโรงแรม - ตดิ ต้งั ระบบกรองน้า
- จดั ระบบบรหิ ารจดั การนา้
ใหม่
- หาถังขยะใหเ้ พยี งพอกับ
ความตอ้ งการ
- คดั แยกขยะกอ่ นท้งิ
- ออกกฎหมายท้องถิน่
ควบคุมการท้ิงขยะและน้าของ
ทพ่ี ักแรงงานตา่ งดา้ วและ
สถานประกอบการ
- ขุดลอกครู ะบายนา้ และทา
ความสะอาดอยู่อยา่ ง
สม่าเสมอ
กรมการปกครอง
ทวี่ า่ การอาเภอกะทู้
ตาบล ประเดน็ ปัญหา/ความต้องการ สาเหตุของปัญหา/ความ แนวทางแกไ้ ข
ตอ้ งการ
23. ขาดนา้ อุปโภค - ป่าตน้ นา้ มกี ารบุกรุก - สรา้ งระบบการบรหิ ารจดั
- ความตอ้ งการการใช้น้ามี กาน้าที่ดี เชน่
- ขาดการบรหิ ารจัดการนา้ ที่ดี สรา้ งฝา่ ยชะลอนา้
- ฝนตกน้อยและไม่ถูกตอ้ งตาม - ตอ้ งมกี ารใช้น้าอยา่ ง
ฤดูกาล ประหยดั
- อนุรกั ษป์ า่ ตน้ นา้ และปลูกปา่
เพ่ิมเตมิ
- หาแหล่งน้าใหม่
- สรา้ งบอ่ กักเกบ็ นา้ เพ่ิมเตมิ
- ใช้น้าจาก การประปาส่วน
ภูมภิ าค
24. เกบ็ ภาษีได้น้อย - ไม่สามารถบงั คับใชก้ ฎหมายอยา่ ง - นาเทคโนโลยสี มยั ใหม่มาใช้
จริงจงั ได้ ในการจดั เก็บภาษี เช่นระบบ
- ขาดรปู แบบการจดั การทด่ี ี แผนทภี่ าษี
- ขาดการสารวจอย่างจรงิ จัง - เพมิ่ เจ้าหน้าทใี่ หม้ ากขึ้น
- เจ้าหนา้ ทีม่ ีนอ้ ยเกินไป - บังคบั ใชก้ ฎหมายอ่างจรงิ จัง
กรมการปกครอง
ทว่ี า่ การอาเภอกะทู้
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้
กรมการปกครอง
ท่ีว่าการอาเภอกะทู้