แผนการจดั การเรยี นรู้
วชิ า คณติ ศาสตร์
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์
ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 โรงเรยี นบา้ นดอนกลอยดอนอดุ ม
นายคงเยน มน่ั คำศรี
รหสั ประจำตวั นกั ศกึ ษา 61100140219
สาขาวชิ าคณติ ศาสตร์
การฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารสอนในสถานศกึ ษา 1
รหสั วชิ า ED18501 (INTERNSHIP IN SCHOOL 1)
คณะครศุ าสตร์ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั อดุ รธานี
ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2565
ก
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค14101 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เล่ม 1 นี้
จัดทำขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพ และให้นักเรียนบรรลุตาม
มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัด ท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551
(ฉบับปรับปรุง 2560) ผู้จัดทำจึงได้ศึกษาสาระการเรียนรู้ เทคนิค วิธีการสอนการวัดและประเมินผล มา
จดั ทำแผนการจัดการเรียนรู้ในคร้ังน้ี
แผนการจัดการเรียนรู้ในเล่ม 1 นี้ ประกอบไปด้วย ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์ เรียนรู้อะไรใน
คณิตศาสตร์ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์สำคัญ
ของผู้เรียน ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลางชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 คำอธิบายรายวิชาพ้ืนฐาน
โครงสร้างรายวิชา แผนการประเมินผลการเรียนรู้การวิเคราะห์ตัวช้ีวัดเพื่อกำหนดน้ำหนักคะแนน
โครงสร้างกำหนดการสอน แผนการจัดการเรียนรู้หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง จำนวนนับที่มากกว่า
100,000 เพอ่ื ใหผ้ เู้ รยี นบรรลุมาตรฐานการเรียนรูไ้ ดเ้ ต็มศกั ยภาพอย่างแทจ้ ริง
จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแผนการจัดการเรียนรู้ฉบับนี้ จะสามารถนำไปใช้ประกอบการจัดการเรียน
การสอนรายวชิ าคณติ ศาสตร์ นำไปสกู่ ารพฒั นาท่ีถูกตอ้ งและเกิดผลแก่ผูเ้ รียนเป็นอยา่ งดี
คงเยน มั่นคำศรี
- ผู้จัดทำ
ข
สารบญั หนา้
ก
เรอ่ื ง ข
คำนำ ง
ง
สารบญั ง
จ
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบบั ปรบั ปรงุ 2560) ฉ
ฉ
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ช
ฎ
ทำไมต้องเรียนคณิตศาสตร์ ฏ
สาระการเรยี นรวู้ ชิ าคณิตศาสตร์ ต
ถ
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ท
ทักษะกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1
คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ในการเรยี นคณติ ศาสตร์ 7
ตัวชวี้ ัดและสาระการเรียนรแู้ กนกลาง ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4
คำอธิบายรายวชิ า 14
โครงสรา้ งรายวชิ า
ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร 21
การวเิ คราะหต์ วั ชวี้ ดั เพอ่ื กำหนดนำ้ หนกั คะแนน 28
โครงสรา้ งกำหนดการสอน 35
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 1 เรอื่ ง จำนวนนบั ทม่ี ากกวา่ 100,000 42
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรื่อง เตรียมความพร้อมและทดสอบก่อนเรียน 49
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรือ่ ง การเขยี นและการอ่านตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตัวเลขไทย 56
และตวั หนงั สอื (1)
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การเขยี นและการอ่านตวั เลขฮนิ ดูอารบิก ตวั เลขไทย
และตวั หนังสอื (2)
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง หลัก คา่ ประจำหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจำนวน
ในรปู กระจาย
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เรือ่ ง การเปรยี บเทียบและเรยี งลำดับ
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 6 เรอ่ื ง การประมาณค่า (1)
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 7 เรอ่ื ง การประมาณค่า (2)
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 8 เรอ่ื ง การประมาณค่า (3)
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 9 เรอื่ ง การประมาณคา่ (4)
สารบญั ค
เรอื่ ง หนา้
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 เรื่อง การประมาณค่า (5) 63
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11 เรื่อง การนำคา่ ประมาณไปใช้ 70
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 12 เรือ่ ง ทดสอบหลงั เรียน 77
ง
หลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน พ.ศ.2551 (ฉบบั ปรบั ปรุง 2560)
กลุ่มสาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
ทำไมตอ้ งเรียนคณติ ศาสตร์
คณิตศาสตร์มีบทบาทสำคัญย่ิงต่อความสำเร็จในการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 เน่ืองจาก
คณิตศาสตร์ช่วยให้มนุษย์มีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผล เป็นระบบ มีแบบแผน สามารถ
วิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถ่ีถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ
แก้ปัญหาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากน้ี
คณิตศาสตร์ยังเป็นเคร่ืองมือในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่น ๆ อันเป็นรากฐาน
ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ทัดเทียมกับ
นานาชาติ การศกึ ษาคณติ ศาสตรจ์ งึ จำเปน็ ต้องมีการพฒั นาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทนั สมัยและสอดคล้องกับ
สภาพเศรษฐกิจ สังคม และความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ท่ีเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็วในยุค
โลกาภวิ ตั น์
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช
2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ฉบับน้ี จัดทำข้ึนโดยคำนึงถึงการส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะที่
จำเป็นสำหรับการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี 21 เป็นสำคัญ นั่นคือ การเตรียมผู้เรียนให้มีทักษะด้านการคิด
วิเคราะห์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ปัญหา การคิดสร้างสรรค์ การใช้เทคโนโลยี การสื่อสารและ
การร่วมมือ ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียนรู้เท่าทันการเปล่ียนแปลงของระบบเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และ
สภาพแวดล้อม สามารถแข่งขันและอยู่ร่วมกับประชาคมโลกได้ ท้ังนี้ การจัดการเรียนรู้คณิตศาสตร์ท่ี
ประสบความสำเร็จนั้น จะต้องเตรียมผู้เรียนให้มีความพร้อมท่ีจะเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ พร้อมท่ีจะประกอบ
อาชีพเม่ือจบการศึกษา หรือสามารถศึกษาต่อในระดับที่สูงขึ้น ดังนั้นสถานศึกษาควรจัดการเรียนรู้ให้
เหมาะสมตามศักยภาพของผู้เรียน
สาระการเรยี นรวู้ ชิ าคณติ ศาสตร์
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์จัดเป็น 4 สาระ ได้แก่ จำนวนและพีชคณิต การวัด และ
เรขาคณิต สถิตแิ ละความนา่ จะเป็น แคลคูลสั ดงั ตอ่ ไปนี้
1. จำนวนและพีชคณิต : ระบบจำนวนจริง สมบัติเก่ียวกับจำนวนจริง อัตราส่วน ร้อยละ การ
ประมาณค่า การแก้ปัญหาเกี่ยวกับจำนวน การใช้จำนวนในชีวิตจริง แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน เซต
ตรรกศาสตร์ นิพจน์ เอกนาม พหุนาม สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ดอกเบ้ียและมูลค่าของเงิน
เมทริกซ์ จำนวนเชิงซ้อน ลำดับและอนุกรม และการนำความรู้เกี่ยวกับจำนวนและพีชคณิตไปใช้ใน
สถานการณต์ า่ ง ๆ
จ
2. การวัดและเรขาคณิต : ความยาว ระยะทาง น้ำหนกั พ้นื ที่ ปริมาตรและความจุ เงนิ และเวลา
หน่วยวัดระบบต่าง ๆ การคาดคะเนเก่ียวกับการวัด อัตราส่วนตรีโกณมิติ รูปเรขาคณิตและสมบัติของรูป
เรขาคณิต การนึกภาพ แบบจำลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณิตในเรือ่ ง
การเลื่อนขนาน การสะท้อน การหมุน เรขาคณิตวิเคราะห์ เวกเตอร์ในสามมิติ และการนำความรู้เก่ียวกับ
การวัดและเรขาคณติ ไปใชใ้ นสถานการณต์ ่าง ๆ
3. สถติ ิและความน่าจะเป็น : การตัง้ คำถามทางสถติ ิ การเก็บรวบรวมข้อมลู การคำนวณคา่ สถิติ
การนำเสนอและแปลผลสำหรับข้อมูลเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณ หลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเป็น
การแจกแจงของตัวแปรสุ่ม การใช้ความรู้เกี่ยวกับสถติ ิและความน่าจะเป็นใน การอธิบายเหตุการณ์ต่าง ๆ
และช่วยในการตดั สินใจ
4.แคลคูลัส : ลิมิตและความต่อเน่ืองของฟังก์ชัน อนุพันธ์ของฟังก์ชันพีชคณิต ปริพันธ์ของ
ฟงั กช์ ันพชี คณิต และการนำความร้เู กยี่ วกับแคลคลู สั ไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ
สาระและมาตรฐานการเรยี นรู้
1. สาระท่ี 1 จำนวนและพชี คณิต
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวนระบบจำนวน การดำเนินการ
ของจำนวน ผลทเี่ กดิ ขน้ึ จากการดำเนนิ การ สมบัตขิ องการดำเนนิ การ และนำไปใช้
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ ฟังก์ชัน ลำดับ และอนุกรม และ
นำไปใช้
มาตรฐาน ค 1.3 ใช้นิพจน์ สมการ อสมการ และเมทริกซ์ อธิบายความสัมพันธ์หรือช่วย
แก้ปัญหาท่กี ำหนดให้
2. สาระท่ี 2 การวัดและเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เขา้ ใจพื้นฐานเก่ียวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงทตี่ ้องการวัดและ
นำไปใช้
มาตรฐาน ค. 2.2 เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์
ระหวา่ งรปู เรขาคณิตและทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.3 เข้าใจเรขาคณิตวเิ คราะห์ และนำไปใช้
มาตรฐาน ค 2.4 เขา้ ใจเวกเตอร์ การดำเนินการของเวกเตอร์ และนำไปใช้
(หมายเหตุ : มาตรฐาน ค 2.3 และ มาตรฐาน ค 2.4 สำหรับผู้ท่ีต้องการเรียนคณิตศาสตร์
เป็นพ้นื ฐานในการศกึ ษาต่อ)
ฉ
3. สาระท่ี 3 สถติ แิ ละความนา่ จะเป็น
มาตรฐาน ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใช้ความรทู้ างสถติ ใิ นการแก้ปัญหา
มาตรฐาน ค 3.2 เขา้ ใจหลักการนับเบื้องต้น ความน่าจะเปน็ และนำไปใช้
4. สาระที่ 4 แคลคูลัส
มาตรฐาน ค 4.1 เข้าใจลิมิตและความต่อเนื่องของฟังก์ชัน อนุพันธ์ของฟังก์ชัน และปริพันธ์
ของฟังก์ชันและนำไปใช้
(หมายเหตุ : มาตรฐาน ค 4.2 สำหรบั ผูท้ ตี่ อ้ งการเรียนคณติ ศาสตร์เปน็ พ้นื ฐานในการศึกษาตอ่ )
ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์
ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์เป็นความสามารถท่ีจะนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ส่ิง
ต่าง ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งความรู้ และประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพทั กษะ และ
กระบวนการทางคณิตศาสตร์ในท่ีนี้ เน้นท่ีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ท่ีจำเป็น และต้องการ
พฒั นาให้เกิดขึ้นกับผเู้ รียน ไดแ้ ก่ความสามารถต่อไปน้ี
1. การแก้ปัญหา เปน็ ความสามารถในการทำความเข้าใจปัญหา คิดวิเคราะห์ วางแผนแกป้ ญั หา
และเลือกใช้วิธีการท่ีเหมาะสม โดยคำนึงถึงความสมเหตุสมผลของคำตอบ พร้อมท้ังตรวจสอบความ
ถกู ต้อง
2. การส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ เป็นความสามารถในการใช้รูปภาษาและ
สัญลักษณ์ทางคณติ ศาสตร์ในการสือ่ สาร สอ่ื ความหมาย สรปุ ผล และนำเสนอไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ชดั เจน
3. การเช่ือมโยง เป็นความสามารถในการใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์เป็นเครื่องมอื ใน การเรยี นรู้
คณิตศาสตร์ เน้อื หาตา่ ง ๆ หรือศาสตรอ์ น่ื ๆ และนำไปใชใ้ นชีวติ จรงิ
4. การให้เหตุผล เป็นความสามารถในการให้เหตุผล รับฟังและให้เหตุผลสนับสนุน หรือโต้แย้ง
เพอื่ นำไปสูก่ ารสรปุ โดยมีข้อเท็จจรงิ ทางคณติ ศาสตร์รองรับ
5. การคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการขยายแนวคิดท่ีมีอยู่เดิม หรือสร้างแนวคิดใหม่
เพอ่ื ปรับปรุง พฒั นาองคค์ วามรู้
คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงคใ์ นการเรยี นคณติ ศาสตร์
ในหลักสูตรกลุ่มสาระการเรยี นรู้คณติ ศาสตร์ (ฉบับปรบั ปรุง พ.ศ.๒๕๖๐) ตามหลักสตู รแกนกลาง
การศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้กำหนดสาระและมาตรฐานการเรยี นรู้ ทักษะและ
กระบวนการทางคณติ ศาสตร์ ตวั ชีว้ ัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง เพอ่ื ใหผ้ ้เู รียนมคี ณุ ลักษณะอันพึง
ประสงค์ในการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ ดังต่อไปนี้
1. ทำความเข้าใจหรือสรา้ งกรณที ั่วไปโดยใช้ความรทู้ ี่ได้จากการศึกษากรณีตัวอย่าง หลายกรณี
2. มองเห็นว่าความสามารถใช้คณิตศาสตร์แกป้ ัญหาในชีวิตจรงิ ได้
ช
3. มีความมุมานะในการทำความเข้าใจปัญหาและแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์
4. สรา้ งเหตุผลเพือ่ สนับสนนุ แนวคิดของตนเองหรือโต้แย้งแนวคิดของผ้อู นื่ อย่างสมเหตุสมผล
5. ค้นหาลักษณะทเี่ กดิ ขนึ้ ซ้ำ ๆ และประยุกตใ์ ช้ลกั ษณะดังกล่าวเพ่ือทำความเขา้ ใจหรือ
แกป้ ญั หาในสถานการณต์ ่าง ๆ
ตัวช้ีวัดและสาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4
สาระที่ 1 จำนวนและพีชคณิต
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลที่เกดิ ข้ึนจากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
จำนวนนบั ที่มากกวา่ 100,000 และ 0
◆ การอา่ น การเขยี นตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลข
1. อ่านและเขียนตวั เลขฮนิ ดูอารบกิ ตัวเลข ไทยและตวั หนงั สอื แสดงจำนวน
ไทย และตัวหนงั สือแสดงจำนวนนับที่ ◆ หลัก คา่ ประจำหลักและค่าของเลขโดดในแต่
มากกว่า 100,000 ละหลกั และการเขียนตวั เลขแสดงจำนวนในรูป
2. เปรยี บเทียบและเรียงลำดบั จำนวนนบั ที่ กระจาย
มากกวา่ 100,000 จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ ◆ การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั จำนวน
◆ ค่าประมาณของจำนวนนบั และการใช้
เครอ่ื งหมาย ≈
เศษสว่ น
3. บอก อ่านและเขยี นเศษส่วน จำนวนคละ ◆ เศษส่วนแท้เศษเกนิ
แสดงปริมาณสง่ิ ต่าง ๆ และแสดงสิง่ ตา่ ง ๆ ◆ จำนวนคละ
ตามเศษส่วน จำนวนคละท่ีกำหนด ◆ ความสมั พนั ธร์ ะหว่างจำนวนคละและเศษเกิน
4. เปรยี บเทียบ เรยี งลำดบั เศษส่วนและ ◆ เศษสว่ นทีเ่ ทา่ กนั เศษสว่ นอยา่ งต่ำ และ
จำนวนคละทีต่ ัวส่วนตัวหนึ่งเปน็ พหุคณู ของ เศษสว่ นที่เท่ากบั จำนวนนับ
อกี ตวั หนึง่ ◆ การเปรยี บเทยี บ เรยี งลำดบั เศษส่วน และ
จำนวนคละ
ซ
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
ทศนยิ ม
5. อ่านและเขยี นทศนยิ มไมเ่ กิน 3 ตำแหน่ง ◆ การอ่านและการเขียนทศนยิ มไม่เกนิ 3
แสดงปรมิ าณของสงิ่ ตา่ ง ๆ และแสดงสงิ่
ตา่ ง ๆ ตามทศนิยมท่ีกำหนด ตำแหนง่ ตามปริมาณท่ีกำหนด
◆ หลกั คา่ ประจำหลัก ค่าของเลขโดดในแต่ละ
6. เปรียบเทยี บและเรยี งลำดับทศนยิ มไมเ่ กิน
3 ตำแหนง่ จากสถานการณ์ต่างๆ หลกั ของทศนยิ ม และการเขียนตัวเลขแสดง
ทศนยิ มในรปู กระจาย
7. ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การลบ ◆ ทศนยิ มท่เี ท่ากนั
การคณู การหารจากสถานการณต์ า่ ง ๆ ◆ การเปรยี บเทยี บและเรียงลำดบั ทศนิยม
อยา่ งสมเหตุสมผล การบวก การลบ การคณู การหารจำนวนนบั
ทม่ี ากกวา่ 100,000 และ 0
8. หาค่าของตวั ไม่ทราบค่าในประโยค ◆ การประมาณผลลพั ธข์ องการบวก การลบ การ
สญั ลกั ษณแ์ สดงการบวกและประโยค คูณ การหาร
สัญลักษณแ์ สดงการลบของจำนวนนับที่ ◆ การบวกและการลบ
มากกว่า 100,000 และ 0 ◆ การคูณและการหาร
◆ การบวก ลบ คูณ หารระคน
9. หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค ◆ การแก้โจทยป์ ัญหาและการสรา้ งโจทย์ปญั หา
สัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวนหลาย พร้อมทงั้ หาคำตอบ
หลัก 2 จำนวนทมี่ ผี ลคูณไม่เกิน 6 หลัก
และประโยคสัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัว การบวก การลบเศษสว่ น
ตงั้ ไมเ่ กนิ 6 หลัก ตวั หารไม่เกิน 2 หลัก ◆ การบวก การลบเศษส่วนและจำนวนคละ
◆ การแก้โจทย์ปัญหาการบวกและโจทยป์ ัญหา
10. หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนของ
จำนวนนบั และ 0
11. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2
ข้ันตอนของจำนวนนบั ที่มากกว่า 100,000
และ 0
12. สร้างโจทยป์ ญั หา 2 ขัน้ ตอนของจำนวนนับ
และ 0 พร้อมทั้งหาคำตอบ
13. หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและจำนวนคละ
ทต่ี วั สว่ นตวั หนง่ึ เป็นพหคุ ูณของอกี ตวั หนง่ึ
14. แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก
และโจทย์ปัญหาการลบเศษสว่ นและจำนวน
ฌ
ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
คละท่ีตวั สว่ นตัวหนงึ่ เปน็ พหคุ ณู ของอีกตัว การลบเศษสว่ นและจำนวนคละ
หนึ่ง
15. หาผลบวก ผลลบของทศนยิ มไม่เกิน 3 การบวก การลบทศนยิ ม
ตำแหน่ง ◆ การบวก การลบทศนยิ ม
◆ การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบทศนยิ ม
16. แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก ไม่เกนิ 2 ข้ันตอน
การลบ 2 ข้นั ตอน ของทศนยิ มไมเ่ กิน 3
ตำแหน่ง
มาตรฐาน ค 1.2 เข้าใจและวิเคราะห์แบบรูป ความสัมพันธ์ฟังก์ชัน ลำดับและอนุกรม และ
นำไปใช้
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
(มีการจดั การเรียน การสอน แบบรปู
เพื่อเป็นพ้ืนฐาน แต่ไม่วดั ผล) ◆ แบบรูปของจำนวนทเี่ กิดจากการคูณ
การหารดว้ ยจำนวนเดียวกัน
สาระท่ี 2 การวดั และเรขาคณิต
มาตรฐาน ค 2.1 เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการวัด และ
นำไปใช้
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
เวลา
◆ การบอกระยะเวลาเป็นวินาที นาที ชั่วโมง
1. แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับ วัน สัปดาห์ เดอื น ปี
เวลา ◆ การเปรียบเทียบระยะเวลาโดยใช้
ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งหนว่ ยเวลา
◆ การอา่ นตารางเวลา
◆ การแก้โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับเวลา
การวดั และสรา้ งมมุ
2. วัดและสร้างมุมโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์ ◆ การวดั ขนาดของมุมโดยใชโ้ พรแทรกเตอร์
◆ การสร้างมุมเมือ่ กำหนดขนาดของมุม
ญ
ตวั ชว้ี ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
รปู สเ่ี หลย่ี มมมุ ฉาก
3. แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั ◆ ความยาวรอบรูปของรูปสเ่ี หลีย่ มมุมฉาก
ความยาวรอบรปู และพื้นท่ขี องรปู สเ่ี หลีย่ ม ◆ พื้นทีข่ องรปู ส่เี หลีย่ มมมุ ฉาก
มมุ ฉาก ◆ การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ยี วกับความยาวรอบรปู
และพ้นื ท่ีของรปู สเ่ี หลยี่ มมุมฉาก
มาตรฐาน ค 2.2 เข้าใจและวิเคราะหร์ ูปเรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณิต ความสัมพันธ์ระหว่าง
รปู เรขาคณิต และทฤษฎีบททางเรขาคณติ และนำไปใช้
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
รปู เรขาคณิต
◆ ระนาบ จดุ เสน้ ตรง รงั สีสว่ นของเสน้ ตรง
และสญั ลกั ษณแ์ สดงเสน้ ตรง รังสีส่วนของ
1. จำแนกชนดิ ของมุม บอกชื่อมุม ส่วนประกอบ เส้นตรง
ของมุมและเขียนสัญลกั ษณแ์ สดงมุม
◆ มุม
2. สรา้ งรูปส่ีเหล่ียมมุมฉากเมื่อกำหนดความยาว • ส่วนประกอบของมุม
ของด้าน • การเรยี กชื่อมุม
• สัญลกั ษณแ์ สดงมุม
• ชนิดของมมุ
◆ ชนิดและสมบตั ขิ องรปู สีเ่ หลีย่ มมุมฉาก
◆ การสรา้ งรูปสเ่ี หลีย่ มมมุ ฉาก
สาระท่ี 3 สถติ ิและความนา่ จะเปน็
มาตรฐาน ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิและใช้ความรู้ทางสถิตใิ นการแก้ปัญหา
ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง
การนำเสนอขอ้ มลู
1. ใชข้ ้อมูลจากแผนภูมแิ ทง่ ตารางสองทางในการ ◆ การอา่ นและการเขียนแผนภูมแิ ท่ง
หาคำตอบของโจทย์ปัญหา (ไม่รวมการยน่ ระยะ)
◆ การอ่านตารางสองทาง (Two-Way
Table)
ฎ
คำอธบิ ายรายวชิ า
รหสั วชิ า ค 14101 กลมุ่ สาระการเรียนร้คู ณิตศาสตร์
ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นที่ 1/2565 เวลา 80 ชวั่ โมง
ศึกษาเรียนรูเก่ียวกับเรื่องของจํานวนนับท่ีมากกวา 100,000 การอานและการเขียนจํานวนนับ
ทีม่ ากกวา 100,000 คาประจําหลัก และการเขียนตัวเลขแสดงจํานวนในรูปกระจาย การเปรียบเทียบและ
เรียงลําดับ การประมาณ การบวกและการลบจํานวนนับท่ีมากกวา 100,000 การคํานวณโดยใชเคร่อื งคิด
เลข การหาคาของตัวไม่ทราบคา โจทยปญหา การสรางโจทยปญหา การคูณ การหาร การคูณ การหาร
การหาคาของตวั ไมทราบคา โจทยปญหา การสรางโจทยปญหา การบวก ลบ คูณ หารจาํ นวนนบั การบวก
ลบ คณู หารระคนแบบมวี งเลบ็ การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบไมมวี งเล็บ การบวก ลบ คูณ หารระคนที่
มีและไมมีวงเล็บ โจทยปญหา การสรางโจทยปญหา แบบรูป คาเฉลี่ย เวลา การบอกระยะเวลา การ
เปรยี บเทียบระยะเวลา การอานตารางเวลา โจทยปญหา
โดยจัดประสบการณ กิจกรรมหรือโจทยปญหาท่ีสงเสริมการพัฒนาทักษะกระบวนการทางคณิต
ศาสตรในการแกปญหา การสื่อสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร การเช่ือมโยง การใหเหตุผล
และการคดิ สรางสรรค
เพ่ือใหเกิดความรูความเขาใจ ความคิดรวบยอด ใฝรูใฝเรียน มีระเบียบวินัย มุงมั่นในการทํางาน
ซ่ือสัตย มีวิจารณญาณ รูจักนําความรูไปประยุกตใชในการดํารงชีวิตไดอยางพอเพียง รวมทั้งมีเจตคติท่ีดี
ตอ่ วชิ าคณิตศาสตร
มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2, ป.4/7, ป.4/8, ป.4/9, ป.4/10, ป.4/11, ป.4/12
ค 1.2 ป.4/1
ค 2.1 ป.4/1
รวมทง้ั หมด 10 ตวั ชวี้ ดั
ฏ
โครงสรา้ งรายวชิ า
รายวชิ าคณิตศาสตร์พนื้ ฐาน รหสั วชิ า ค 14101 กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์
ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1 เวลาเรียน 80 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน 2 หนว่ ยกติ
ลำดบั ที่ ชอื่ หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน
1 จำนวนนับ ค 1.1 ป.4/1, - การเขียนตวั เลขแสดงจำนวนนบั ท่มี ากกวา่ 12 5
ท่ีมากกวา่ ป.4/2 100,000 เลขโดดทางซ้ายของหลกั แสนอยู่ใน
100,000 หลักล้าน หลักสิบลา้ น หลกั รอ้ ยล้าน หลกั
พันลา้ น หลกั หมนื่ ล้าน หลักแสนลา้ น หลกั
ลา้ นลา้ น … ตามลำดับ
- ค่าประจำหลักของหลกั ทอี่ ยู่ทางซ้ายเป็น
10 เท่า ของคา่ ประจำหลกั ของหลกั ที่อยู่
ติดกันทางขวา
- เลขโดดในหลกั ตา่ ง ๆ มีค่าตามคา่ ประจำ
หลัก
- การเขยี นตวั เลขแสดงจำนวนในรูปกระจาย
เป็นการเขยี นในรปู การบวกของจำนวนในแต่
ละหลกั
- จำนวน 2 จำนวน เมอื่ นำมาเปรียบเทียบกัน
จะเท่ากัน มากกวา่ กนั หรอื น้อยกวา่ กนั อยา่ ง
ใดอยา่ งหน่งึ เพยี งอย่างเดียวเทา่ น้นั
- การเปรียบเทยี บจำนวนนบั 2 จำนวน ให้
เปรยี บเทียบคา่ ของเลขโดดในหลักซ้ายสุด
ของแต่ละจำนวนก่อน ถ้าไมเ่ ท่ากัน จำนวน
นบั ที่มีค่าของเลขโดดมากกวา่ จำนวนนั้นจะ
มากกวา่ ถ้าเท่ากนั ใหเ้ ปรียบเทียบค่าของเลข
โดดในหลักถดั ไปทางขวาทีละหลกั ถ้าพบว่า
คา่ ของเลขโดดของจำนวนใดมากกวา่ จำนวน
ฐ
ลำดบั ที่ ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน
นน้ั จะมากกวา่
- การเรียงลำดบั จำนวนหลาย ๆ จำนวน ทำ
ไดโ้ ดยการเปรียบเทยี บจำนวนทลี ะคู่ แล้ว
เรยี งลำดับจากน้อยไปมากหรือจากมากไป
นอ้ ย
- การหาค่าประมาณของจำนวนนับให้เป็น 5
จำนวนเต็มสิบ จำนวนเต็มร้อย จำนวนเต็ม
พัน ... เป็นการหาจำนวนเต็มที่ใกล้เคียง
จำนวนท่ีต้องการประมาณ เพื่อสะดวกในการ
นำไปใช้
2 การบวก ค 1.1 ป.4/7, - การหาผลบวกจำนวนทม่ี หี ลายหลัก ทำได้ 12
และการ ป.4/8, โดยนำจำนวนทอ่ี ยใู่ นหลกั เดยี วกนั มาบวกกัน
ลบจำนวน ป.4/11, ถ้าผลบวกในหลักใดครบสบิ หรอื มากกวา่ สิบ
นับ ป.4/12 ให้ทดจำนวนทค่ี รบสบิ ไปรวมกับผลบวกใน
ที่มากกว่า หลักถดั ไปทางซ้าย
100,000 - การหาผลลบจำนวนที่มีหลายหลัก ทำได้
โดยนำจำนวนทีอ่ ยใู่ นหลักเดยี วกันของตัวต้งั
ลบดว้ ยจำนวนท่ีเป็นตวั ลบ ถ้าในหลกั ใดตัวตงั้
น้อยกวา่ ตัวลบ ใหก้ ระจายตัวตง้ั ในหลักถดั ไป
ทางซา้ ยรวมกบั ตัวตั้งในหลักน้ันก่อนแลว้ จึง
หาผลลบ
- การหาผลบวกหรอื ผลลบของจำนวนทม่ี ี
หลายหลักโดยใช้ค่าประมาณ อาจทำได้
โดยประมาณจำนวนใดจำนวนหน่งึ หรือ
จำนวนทงั้ หมดให้เป็นจำนวนเตม็ สบิ เตม็ รอ้ ย
เตม็ พัน เต็มหมนื่ ... แล้วจงึ นำมาบวกหรอื ลบ
กัน
ฑ
ลำดับท่ี ชอื่ หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน
- การหาค่าของตวั ไมท่ ราบค่าของประโยค
สัญลักษณ์การบวก และประโยคสญั ลักษณ์
การลบ อาจทำไดโ้ ดยใช้ความสัมพนั ธ์ของ
การบวกและการลบ
- การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก และโจทย์
ปัญหาการลบ อาจเริ่มจากทำ ความเข้าใจ
ปญั หา วางแผนการแกป้ ญั หา ดำเนนิ การตาม
แผน และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ
คำตอบ
- การสร้างโจทย์ปัญหาการบวก โจทย์ปัญหา
การลบ ต้องพิจารณาสถานการณ์ที่สร้างข้ึน
ให้สมเหตุสมผลสอดคล้องกับความเป็นจรงิ
3 การคูณ ค 1.1 ป.4/7, - การคูณจำนวน 1 หลกั กบั จำนวนมากกวา่ 24 9
การหาร ป.4/9, 4 หลกั หาผลคณู ได้โดยนำ จำนวน 1 หลกั ไป
ป.4/11, คูณจำนวนท่ีมากกวา่ 4 หลัก โดยเริม่ จาก
ป.4/12 หลักทางขวาไปหลักทางซ้ายทีละหลัก
- การคูณจำนวนมากกว่า 1 หลกั กับจำนวน
มากกว่า 2 หลกั สามารถหาผลคณู ได้โดย
กระจายจำนวนจำนวนหนึ่งตามคา่ ประจำ
หลกั แลว้ นำจำนวนในแตล่ ะหลกั คณู กับอีก
จำนวนหนงึ่ จากน้นั นำผลคณู ทไ่ี ด้มาบวกกนั
- การหารทตี่ วั หารไม่เกนิ 2 หลกั สามารถหา
ผลหารได้โดยหารตัวตง้ั จากซ้ายไปขวาทลี ะ
หลัก ซ่ึงผลหารแต่ละหลกั หาไดจ้ าก
ความสัมพันธ์ระหวา่ งการคูณกับการหาร
- การหาค่าตัวไม่ทราบคา่ ในประโยค
ฒ
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั (ชว่ั โมง) คะแนน
สัญลกั ษณ์การคณู และการหาร ตอ้ งใช้
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งการคูณกับการหาร
- การแก้โจทยป์ ญั หาการคูณ และโจทย์
ปัญหาการหาร เร่มิ จากทำ ความเขา้ ใจปญั หา
วางแผนการแกป้ ัญหา ดำเนนิ การตามแผน
และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
- การสร้างโจทย์ปัญหาการคูณ และโจทย์
ปญั หาการหาร ต้องพจิ ารณาสถานการณ์ท่ี
สรา้ งขึ้นให้สมเหตสุ มผลสอดคลอ้ งกับความ
เปน็ จริง
4 การบวก ค 1.1 ป.4/10, - การบวก ลบ คณู หารระคนที่มากกวา่ 1 19 6
ลบ คณู ป.4/11, ขัน้ ตอนใหด้ ำเนนิ การ ดงั น้ี
หาร ป.4/12 ขน้ั ที่ 1 คำนวณในวงเลบ็ (ถา้ มี)
จำนวนนับ ขน้ั ที่ 2 คณู หรือ หาร โดยคำนวณจากซา้ ย
ไปขวา
ขน้ั ท่ี 3 บวก หรอื ลบ โดยคำนวณจากซา้ ยไป
ขวา
- การแก้โจทย์ปญั หาการบวก ลบ คณู หาร
ระคน 2 ขัน้ ตอน มีขนั้ ตอน ดังนี้
1) ทำความเขา้ ใจปัญหา
2) วางแผนแก้ปัญหา
3) ดำเนนิ การตามแผน
4) ตรวจสอบ
- การสรา้ งโจทย์ปญั หาจากประโยค
สญั ลักษณ์ ควรคำนึงถึงความเปน็ ไปได้ และ
ณ
ลำดบั ที่ ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชวั่ โมง) คะแนน
ความสมเหตสุ มผลระหว่างสถานการณ์กับ
จำนวน
- การสรา้ งโจทย์ปัญหาจากภาพ เปน็ การนำ
ข้อมูลจากภาพมาสรา้ งสถานการณ์ โดยอาจ
เพมิ่ เติมข้อมลู อน่ื ทีเ่ กยี่ วข้อง ท้ังนคี้ วร
คำนงึ ถงึ ความเปน็ ไปได้ ความเหมาะสม และ
ความสมเหตุสมผลของสถานการณ์
- การหาค่าเฉลีย่ ทำไดโ้ ดยนำผลรวมของ
ขอ้ มูลท้ังหมดหารดว้ ยจำนวนขอ้ มลู ทั้งหมด
- ค่าเฉลีย่ ของข้อมูลชุดหน่งึ จะอยู่ระหว่าง
จำนวนทน่ี ้อยท่สี ดุ และจำนวนท่ีมากที่สดุ
ของขอ้ มลู ชดุ นน้ั
- การแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ียวกบั คา่ เฉลี่ย อาจทำ
ไดโ้ ดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างการคูณกับการ
หาร
5 เวลา ค 2.1 ป.4/1 - การบอกเวลาเปน็ นาฬกิ าและนาที ใช้ 12 5
มหัพภาค (.) หรือ ทวภิ าค (:)
- ระยะเวลา หมายถึง ชว่ งเวลาท่ีตอ่ เน่ืองจาก
เวลาหนึ่งถึงอีกเวลาหน่ึง เครื่องหมายวรรค
ตอนทใ่ี ช้คือ ทวภิ าค (:)
- 60 วินาที เท่ากบั 1 นาที
- การเปรยี บเทียบระยะเวลา อาจเปลี่ยนให้
เปน็ หน่วยเดียวกัน โดยใช้ความสัมพันธข์ อง
หน่วยเวลา
- การอ่านตารางเวลาต้องพจิ ารณาจาก
ความสมั พนั ธ์ระหว่างช่องแสดงรายการใน
ด
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ย มาตรฐานการ สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด เวลา นำ้ หนกั
การเรยี นรู้ เรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั (ชว่ั โมง) คะแนน
แนวตง้ั กบั แนวนอน 1 20
80 50
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ยี วกบั เวลา อาจใช้
ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งหน่วยเวลา
สอบปลายภาค
รวมภาคเรยี นที่ 1
ต
ตารางวเิ คราะหห์ ลกั สตู ร
กลมุ่ สาระการเรยี นรคู้ ณติ ศาสตร์ ปกี ารศกึ ษา 2565
รหสั วชิ า ค14101 คณิตศาสตร์พน้ื ฐาน ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นท่ี 1
เวลา 4 ชว่ั โมง/สปั ดาห์ เวลา 80 ชวั่ โมง
สาระหลัก หนว่ ยการเรยี นรู้ มาตรฐาน/ตวั ชว้ี ดั
ลำดบั ที่ ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้
สาระท่ี 1 1 จำนวนนับทม่ี ากกวา่ 100,000 ค 1.1 ป.4/1, ป.4/2
จำนวนและพชี คณิต
สาระท่ี 1 2 การบวก การลบจำนวนนบั ที่ ค 1.1 ป.4/7, ป.4/8,
จำนวนและพีชคณติ มากกว่า 100,000 ป.4/11, ป.4/12
สาระท่ี 1 3 การคูณ การหาร ค 1.1 ป.4/7, ป.4/9,
จำนวนและพชี คณติ ป.4/11, ป.4/12
สาระที่ 1 4 การบวก ลบ คณู หารจำนวนนับ ค 1.1 ป.4/10,
จำนวนและพชี คณติ ป.4/11, ป.4/12
สาระท่ี 2 5 เวลา ค 2.1 ป.4/1
การวดั และเรขาคณิต
ถ
การวเิ คราะหต์ วั ชวี้ ดั เพอื่ กำหนดนำ้ หนักคะแนน
รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 ภาคเรยี นท่ี 1
จำนวน 2 หนว่ ยกติ
รหสั วชิ า ค14101 เวลา 80 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น
คะแนนเกบ็
ลำ ัดบที่
ตวั ชว้ี ดั
ลำดับ ั่ชวโมง ่ีทสอน
จำนวน ่ัชวโมง ่ีทสอน
คะแนน ัตว ้ีชวัด
้ดานความรู้(K)
ด้าน ัทกษะ (P)
คุณลักษณะ (A)
ปลายภาค
1 ค 1.1 ป.4/1 อ่านและเขียนตัวเลขฮินดูอารบิก 1-4, 11 4 2 1 1
ตัวเลขไทย และตัวหนังสือ แสดงจํานวนนับที่
มากกว่า 100,000 6-12
2 ค 1.1 ป.4/2 เปรียบเทียบและเรียงลำดับจำนวน 5 1 1100
นับที่มากกวา่ 100,000 จากสถานการณ์ตา่ ง ๆ
3 ค 1.1 ป.4/7 ประมาณผลลัพธ์ของการบวก การ 13-16, 20 6 2 2 2
ลบ การคูณ การหาร จากสถานการณ์ต่าง ๆ อยา่ ง
สมเหตสุ มผล 24-38,
48
4 ค 1.1 ป.4/8 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค 17-19 3 1 1 0 0
สัญลักษณ์ แสดงการบวกและประโยคสัญลักษณ์
แสดงการลบของจำนวนนับที่มากกว่า 100,000
และ 0
5 ค 1.1 ป.4/9 หาค่าของตัวไม่ทราบค่าในประโยค 39-43 5 2 1 1 0
สัญลักษณ์แสดงการคูณของจำนวนหลายหลัก 2
จำนวน ที่มีผลคูณไม่เกิน 6 หลัก และประโยค
สัญลักษณ์แสดงการหารที่ตัวตั้งไม่เกิน 6 หลัก
ตัวหารไม่เกิน 2 หลัก
6 ค 1.1 ป.4/10 หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หาร 49-57, 8 5 2 2 1
ระคนของจำนวนนับ และ 0
64-67
7 ค 1.1 ป.4/11 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปญหา 20-22, 15 6 2 3 1
2 ขั้นตอนของจำนวนนับท่ีมากกว่า 100,000 และ
0 44-46,
58-61
8 ค 1.1 ป.4/12 สร้างโจทย์ปญหา 2 ขั้นตอน ของ 23, 47, 4 2 1 1 0
จำนวนนบั และ 0 พร้อมทั้งหาคำตอบ
62-63
9 ค 2.1 ป.4/1 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 68-80 12 3 1 1 1
เก่ียวกับเวลา
สอบปลายภาค 1 20
รวม 80 80 30 13 11 6 20
ท
โครงสร้างกำหนดการสอน
รายวชิ าคณติ ศาสตร์พน้ื ฐาน ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ 1
จำนวน 2 หนว่ ยกติ
รหสั วชิ า ค14101 เวลา 80 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น วนั ทส่ี อน หมายเหตุ
17 พฤษภาคม 2565
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ / หนว่ ยยอ่ ย จำนวน
ของแผน คาบ 18 พฤษภาคม 2565
1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 จำนวนนบั ทมี่ ากกวา่ 1 19 พฤษภาคม 2565
100,000 20 พฤษภาคม 2565
เตรยี มความพร้อมและทดสอบกอ่ นเรยี น 24 พฤษภาคม 2565
25 พฤษภาคม 2565
2 การเขียนและการอ่านตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลข 1 26 พฤษภาคม 2565
27 พฤษภาคม 2565
ไทย และตัวหนงั สือ (1) 31 พฤษภาคม 2565
1 มิถุนายน 2565
3 การเขยี นและการอ่านตวั เลขฮนิ ดอู ารบิก ตวั เลข 1 2 มถิ นุ ายน 2565
7 มถิ นุ ายน 2565
ไทย และตวั หนังสือ (2) 8 มิถนุ ายน 2565
4 หลัก คา่ ประจำหลกั และการเขยี นตัวเลขแสดง 1 9 มิถนุ ายน 2565
10 มิถุนายน 2565
จำนวนในรูปกระจาย 14 มถิ นุ ายน 2565
15 มิถุนายน 2565
5 การเปรียบเทียบและเรียงลำดับ 1
16 มิถนุ ายน 2565
6 การประมาณค่า (1) 1
7 การประมาณค่า (2) 1
8 การประมาณค่า (3) 1
9 การประมาณค่า (4) 1
10 การประมาณค่า (5) 1
11 การนำค่าประมาณไปใช้ 1
12 ทดสอบหลงั เรยี น 1
13 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การบวก การลบจำนวนนบั 1
ทีม่ ากกวา่ 100,000
เตรียมความพรอ้ มและทดสอบกอ่ นเรยี น
14 การบวกจำนวนนบั ทม่ี ากกวา่ 100,000 1
15 การลบจำนวนนบั ทมี่ ากกวา่ 100,000 1
16 การบวก การลบ โดยใชค้ ่าประมาณ 1
17 การหาค่าของตัวไมท่ ราบคา่ จากประโยค 1
สญั ลักษณ์การบวก
18 การหาคา่ ของตวั ไมท่ ราบคา่ จากประโยค 1
ธ
ลำดับท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ / หนว่ ยยอ่ ย จำนวน วนั ทสี่ อน หมายเหตุ
ของแผน คาบ
สัญลักษณ์การลบ
19 การหาเลขโดดในหลักต่าง ๆ 1 17 มิถนุ ายน 2565
20 โจทยป์ ญั หา (1) 1 21 มถิ นุ ายน 2565
21 โจทยป์ ญั หา (2) 1 22 มถิ ุนายน 2565
22 โจทยป์ ัญหา (3) 1 23 มถิ ุนายน 2565
23 การสรา้ งโจทยป์ ญั หา 1 24 มิถุนายน 2565
24 ทดสอบหลังเรยี น 1 28 มิถุนายน 2565
25 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 3 การคณู การหาร 1 29 มถิ ุนายน 2565
เตรียมความพรอ้ มและทดสอบกอ่ นเรยี น
26 การคูณจำนวน 1 หลกั กับจำนวนมากกว่า 4 1 30 มถิ ุนายน 2565
หลกั
27 การคณู จำนวน 2 หลกั กับจำนวนมากกวา่ 2 1 1 กรกฎาคม 2565
หลกั (1)
28 การคณู จำนวน 2 หลกั กับจำนวนมากกว่า 2 1 5 กรกฎาคม 2565
หลัก (2)
29 การคูณจำนวน 2 หลัก กับจำนวนมากกวา่ 2 1 6 กรกฎาคม 2565
หลัก (3)
30 การคณู จำนวนมากกวา่ 2 หลกั กับจำนวน 1 7 กรกฎาคม 2565
มากกวา่ 2 หลัก (1)
31 การคูณจำนวนมากกว่า 2 หลัก กับจำนวน 1 8 กรกฎาคม 2565
มากกว่า 2 หลกั (2)
32 การหารทต่ี วั ตง้ั มีมากกวา่ 4 หลกั และตัวหารมี 1 1 12 กรกฎาคม 2565
หลัก (1)
33 การหารทต่ี ัวตงั้ มีมากกว่า 4 หลกั และตัวหารมี 1 1 19 กรกฎาคม 2565
หลกั (2)
34 การหารท่ตี ัวตั้งมีมากกวา่ 4 หลัก และตัวหารมี 1 1 20 กรกฎาคม 2565
หลัก (3)
35 การหารทต่ี วั ต้งั มีมากกวา่ 4 หลกั และตวั หารมี 1 1 21 กรกฎาคม 2565
หลัก (4)
น
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ / หนว่ ยยอ่ ย จำนวน วนั ทส่ี อน หมายเหตุ
ของแผน คาบ
36 การหารทตี่ ัวหารมี 2 หลัก (1) 1 22 กรกฎาคม 2565
37 การหารทตี่ วั หารมี 2 หลัก (2) 1 26 กรกฎาคม 2565
38 การหารท่ีตัวหารมี 3 หลกั 1 27 กรกฎาคม 2565
39 ความสมั พนั ธ์ระหว่างการคูณกับการหาร (1) 1 2 สงิ หาคม 2565
40 ความสมั พันธร์ ะหวา่ งการคูณกับการหาร (2) 1 3 สิงหาคม 2565
41 ความสมั พันธร์ ะหว่างการคูณกับการหาร (3) 1 4 สงิ หาคม 2565
42 แบบรูปของการคูณ 1 5 สงิ หาคม 2565
43 แบบรูปของการหาร 1 9 สงิ หาคม 2565
44 โจทย์ปญั หา (1) 1 10 สงิ หาคม 2565
45 โจทย์ปัญหา (2) 1 11 สงิ หาคม 2565
46 โจทย์ปัญหา (3) 1 16 สิงหาคม 2565
47 การสร้างโจทยป์ ญั หา 1 17 สิงหาคม 2565
48 ทดสอบหลังเรยี น 1 18 สงิ หาคม 2565
49 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 การบวก ลบ คณู หาร 1 19 สิงหาคม 2565
จำนวนนบั
เตรยี มความพรอ้ มและทดสอบกอ่ นเรยี น
50 การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบมีวงเลบ็ (1) 1 23 สงิ หาคม 2565
51 การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบมีวงเล็บ (2) 1 24 สิงหาคม 2565
52 การบวก ลบ คณู หารระคนแบบไมม่ ีวงเลบ็ (1) 1 25 สิงหาคม 2565
53 การบวก ลบ คณู หารระคนแบบไม่มีวงเล็บ (2) 1 26 สิงหาคม 2565
54 การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบไม่มีวงเล็บ (3) 1 30 สงิ หาคม 2565
55 การบวก ลบ คูณ หารระคนแบบไม่มีวงเลบ็ (4) 1 31 สงิ หาคม 2565
56 การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีมีและไม่มวี งเลบ็ (1) 1 1 กันยายน 2565
57 การบวก ลบ คณู หารระคนท่ีมีและไมม่ ีวงเลบ็ (2) 1 2 กันยายน 2565
58 โจทยป์ ญั หา (1) 1 6 กนั ยายน 2565
59 โจทย์ปัญหา (2) 1 7 กันยายน 2565
60 โจทย์ปัญหา (3) 1 8 กนั ยายน 2565
61 โจทย์ปัญหา (4) 1 9 กนั ยายน 2565
62 การสร้างโจทยป์ ญั หา (1) 1 13 กันยายน 2565
บ
ลำดบั ท่ี ชอ่ื หนว่ ยการเรยี นรู้ / หนว่ ยยอ่ ย จำนวน วนั ทสี่ อน หมายเหตุ
ของแผน คาบ
14 กนั ยายน 2565
63 การสร้างโจทย์ปัญหา (2) 1 15 กนั ยายน 2565
16 กันยายน 2565
64 ค่าเฉลย่ี (1) 1 20 กนั ยายน 2565
21 กันยายน 2565
65 คา่ เฉลีย่ (2) 1 22 กนั ยายน 2565
66 คา่ เฉลยี่ (3) 1 23 กนั ยายน 2565
27 กันยายน 2565
67 ทดสอบหลงั เรยี น 1 28 กนั ยายน 2565
29 กันยายน 2565
68 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เวลา 1 30 กันยายน 2565
4 ตลุ าคม 2565
เตรียมความพร้อมและทดสอบก่อนเรยี น 4 ตุลาคม 2565
5 ตุลาคม 2565
69 การบอกระยะเวลา (1) 1 5 ตลุ าคม 2565
5 ตลุ าคม 2565
70 การบอกระยะเวลา (2) 1 6 ตุลาคม 2565
7 ตุลาคม 2565
71 การบอกระยะเวลา (3) 1
76 วนั
72 การเปรยี บเทยี บระยะเวลา (1) 1
73 การเปรยี บเทียบระยะเวลา (2) 1
74 การอ่านตารางเวลา (1) 1
75 การอา่ นตารางเวลา (2) 1
76 โจทยป์ ญั หา (1) 1
77 โจทยป์ ัญหา (2) 1
78 โจทย์ปญั หา (3) 1
79 ทดสอบหลงั เรียน 1
80 บูรณาการท้องถ่ินวฏั จักรของกบกับการบอก 1
ระยะเวลา
รวม 80
สอบปลายภาค