บทท่ี รบั ขน
7
สาระการเรยี นรู้
1. บทนา
2. รบั ขนของ
- ลักษณะการขนของ
- หน้าทข่ี องผู้ขนส่ง
- ความรบั ผิดชอบของผู้ขนสง่ สิ้นสดุ ลง
3. รบั ขนคนโดยสาร
- ลักษณะของสัญญารบั ขนคนโดยสาร
- หน้าทแี่ ละความรบั ผิดชอบของผูข้ นส่ง
1. บทนา
รับขน เป็นเอกเทศสัญญาลักษณะหน่ึง คือ สัญญาที่คู่สัญญาฝ่ายหนึ่ง
เรยี กว่า ผ้ขู นส่ง ตกลงว่าจะทาการให้อีกฝ่ายหน่ึงด้วยการรบั ขนของ และรบั ขน
คนโดยสารจากท่ีหน่ึงไปยังอีกที่หนึ่ง เพอ่ื บาเหน็จทางการค้าปกติของตน
ดังน้ัน เอกเทศสัญญาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ลักษณะรบั ขน
ได้ระบุไวม้ ภี ารกิจ 2 ประการ คือ
1. รบั ขนของมีคูส่ ัญญา 2 ฝ่ายได้แก่ ฝ่ายผู้ขนสง่ (Carrier) และผู้สง่ (Sender)
2. รบั ขนคนโดยสาร มคี ูส่ ญั ญา 2 ฝา่ ยเช่นเดียวกนั กับรบั ขนของ
2. รบั ขนของ
ลักษณะการรบั ขนของ
1. เป็นสัญญา 2 ฝ่าย คือฝ่ายผู้ขนส่ง (Carrier) ผู้รบั
ดาเนินการขนของส่งให้กับฝ่ายผู้ส่ง หรือผู้ตราส่ง (Sender)
เป็นผนู้ าของมาสง่ ใหก้ บั ผขู้ นส่งเพื่อสง่ ไปถงึ ผรู้ บั ปลายทาง
2. สัญญาสมบูรณ์ทันทีเม่ือการแสดงเจตนาตกลง
ตรงกนั โดยไม่ตอ้ งมีแบบแหง่ สัญญา หรอื ต้องมีหลักฐานเป็น
หนังสือหรอื ต้องส่งมอบของใหแ้ ก่กนั ก่อน สัญญาทาเกิดขึ้น
สมบรู ณ์แล้ว
3. งานท่ีตกลงเป็นสัญญารบั ขนของจากที่หน่ึงไปยงั
อีกท่ีหน่งึ คือใหถ้ งึ ผรู้ บั เรยี กวา่ ผรู้ บั ตราส่ง
2. รบั ขนของ
ลักษณะการรบั ขนของ
4. การรบั ขนของมไิ ดท้ าใหเ้ ปล่า หากแต่ผูข้ นส่ง
จะไดร้ บั ค่าตอบแทนเป็นทางการค้าปกติของตน ในการ
ขนของนั้น ๆ เรยี กวา่ ค่าระวางพาหนะ
5. เป็นสัญญามุ่งเอาความสาเร็จของการขนส่ง
เป็นสาคญั
6. ถา้ ผขู้ นส่งเรยี กเอาใบกากบั ของ ผู้ส่งต้องทาให้
ถา้ ผขู้ นสง่ ไมข่ อผสู้ ่งไมต่ อ้ งทากไ็ ดใ้ บกากบั ของ
2. รบั ขนของ
หน้าทข่ี องผขู้ นส่ง
1. หน้าที่ขนของจากที่หน่ึงไปยังอีกที่หนึ่งตามท่ีกาหนดใน
สัญญา เมื่อผู้ขนส่งรับของท่ีจะส่งไปยังปลายทางจากผู้ส่ง
แล้วต้องดาเนินการ
- ออกใบตราส่ง
- ต้องบอกกล่าวแก่ผรู้ บั ตราส่ง
2. หน้าท่ีตอ้ งประกันความสูญหายและบุบสลายที่อาจเกิดข้ึน
แก่ของทีร่ บั ขนน้ัน
- ต้องรบั ผิดต่อผ้สู ง่ หรอื ผู้ตราสง่
- ต้องขนส่งของตามสญั ญา
2. รบั ขนของ
ความรบั ผิดชอบของผูข้ นส่งสนิ้ สุดลง
1. เม่ือผู้รบั ตราส่งรบั ของที่ส่งไว้โดยไม่อิดเอื้อน เมื่อผู้
ขนส่งได้ส่งของท่ีรบั ส่งมาให้กับผู้รบั ตราส่ง และผู้รับตราส่ง
หรอื ผู้รบั ของตามที่ปรากฏในรายชื่อผู้รบั ทาการรบั ของที่ส่ง
มาอยา่ งเต็มใจโดยไมอ่ ิดเอื้อน ความรบั ผดิ ในการส่งของจากผู้
ขนส่งก็สิ้นสดุ ลง
2. เม่ือผสู้ ่งหรอื ผรู้ บั ตราส่งได้ใช้ค่าระวางพาหนะกับท้ัง
ค่าอุปกรณ์เสรจ็ แล้ว กรณีเช่นน้ีจะใช้กบั ผูส้ ่งหรอื ผู้ตราส่งที่ใช้
บริการกับบรษิ ัทผู้ขนส่งเป็นประจา จึงอาจมีการเก็บเงินค่า
ระวางพาหนะ คอื ค่าสง่ ของทปี่ ลายทาง
3. รบั ขนคนโดยสาร
ลักษณะของสญั ญารบั ขนสง่ คนโดยสาร
สัญญารบั ขนคนโดยสาร ประกอบด้วยบุคคล 2 ฝ่าย คือบุคคลซึ่ง
ให้บรกิ ารรบั ขนคนโดยสาร อันเป็นธุรกิจปกติเรยี กว่าผู้ขนส่งกับบุคคลหรอื
กลุ่มบุคคลผู้ใช้บรกิ ารการขนส่ง หรอื คนโดยสารเพ่ือการเดินทางของตน
รวมทง้ั เครอ่ื งเดินทางซึง่ หมายความถึงสมั ภาระที่ผโู้ ดยสารนาติดตัวมาหรอื
จดั หาข้ึนในระหวา่ งการเดินทาง
3. รบั ขนคนโดยสาร
หน้าทีแ่ ละความรบั ผิดชอบของผขู้ นสง่
1. ผขู้ นสง่ ต้องให้บรกิ ารแก่คนโดยสารและเครอื่ งเดินทางของผู้โดยสาร
น้ันเพื่อใหถ้ งึ จดุ หมายปลายทางอันเปน็ ธรุ กิจปกติของผขู้ นส่งโดยไมช่ กั ช้า
2. ผขู้ นส่งต้องรบั ผิดชอบต่อคนโดยสารในความเสียหายใด ๆ อันเป็นผล
โดยตรงจากการชกั ชา้ ในการขนสง่ ของตน เวน้ แต่จะเปน็ เหตุอันสุดวิสัยหรอื
เนื่องจากความผิดของคนโดยสารน้ันเอง
สรุป
สั ญ ญ า รับ ข น เป็ น สั ญ ญ า ท่ี กา ห น ด สิ ท ธิ หน้ า ท่ี แ ล ะ ค วา ม ร ับ ผิด ข อ ง ผู้
ขนส่งในการขนส่งสินค้าหรอื คนโดยสาร เพ่ือมุ่งหมายให้การขนส่งน้ัน ๆ ถึง
จุดหมายปลายทางโดยสวัสดิภาพและไม่ชักช้า หากเกิดความเสียหายหรอื
ความล่าชา้ ผ้ขู นส่งจาต้องรบั ผดิ ชอบ เนื่องด้วยเป็นการประกอบอาชพี ของผู้
ขนสง่ นน้ั ๆ ที่ต้องมีทกั ษะความชานาญเป็นการเฉพาะ
แต่สาหรบั กรณีเหตุสุดวิสัยที่เป็นเหตุ ที่ไม่สามารถควบคุมได้กฎหมาย
จึ ง ให้ สิ ท ธิ แก่ ผู้ข น ส่ ง ไ ม่ ต้ อ ง รับ ผิด ใน ค ว า ม เ สี ย ห า ย ห รือ ก า ร ข น ส่ ง ที่ ถึ ง
จดุ หมายปลายทางล่าชา้