1
ประวัติคุณแม่กัลยา แซ่จัง โดยสังเขป คุณแม่กัลยา เกิดเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2471 ที่อ�ำเภอ เมือง จังหวัดพิจิตร เป็นบุตรีของคุณตาตงเฮง แซ่เล้า และคุณยายเช็งไน้ แซ่เอ็ง โดยท่านเป็นลูกคนที่ 3 ของพี่น้องทั้งหมด 12 คน คุณแม่กัลยาได้สมรสกับคุณพ่อเม้งชุน (จื่อเจีย) มีบุตรธิดา รวม 4 คน ดังนี้ 1. แพทย์หญิง นิภาพร เธียรชัยพงษ์ 2. นางสุนันทา สุขุมธนากุล 3. นายเหรียญ เธียรชัยพงษ์ 4. นายจรูญ เธียรชัยพงษ์ มีหลาน รวม 7 คน ดังนี้ 1. นางสาวพรพรรณ นิตยานุภาพ 2. นายไพริชน์ นิตยานุภาพ 3. นายกมล เธียรชัยพงษ์ 4. นายสมิทธิ์ เธียรชัยพงษ์ 5. นายชินวิชญ์ เธียรชัยพงษ์ 6. นายณัฐวัฒน์ สุขุมธนากุล 7. นายรัฐกร เธียรชัยพงษ์ และมีเหลน รวม 3 คน ดังนี้ 1. เด็กชายณคุณ เธียรชัยพงษ์ 2. เด็กชายพิชญ์ เธียรชัยพงษ์ 3. เด็กชายนริฎฐ์ เธียรชัยพงษ์ 2
ส�ำหรับประวัติการท�ำงานของคุณแม ่ด้วยความวิริยะอุตสาหะ ซื่อสัตย์สุจริต และประหยัดมัธยัสถ์ ท่านเริ่มจากอาชีพเลี้ยงเป็ดเลี้ยงไก่ และขายขนมครก ต่อมาได้เปิดร้านตัดเย็บเสื้อผ้า ขายเครื่องเขียน จนมา ปัจจุบันนี้ คุณแม่ได้เปิดร้านขายอาหารเจที่ซอยเซนต์หลุยส์ 3 ถนนสาทร ใต้ชื่อร้าน “ครัวเจเซนต์หลุยส์” คุณแม ่เลี้ยงดูลูกๆ ด้วยความรักที่ท ่วมท้น และมีความใส ่ใจที่ เต็มเปี่ยม คุณแม่ไม่เพียงปลูกฝังเรื่องคุณธรรม จริยธรรม ในการด�ำเนินชีวิต ให้กับลูกหลาน ยังส่งเสริมการศึกษาและการดูแลสุขภาพเป็นอย่างมาก จึงเป็นผลให้ลูกหลานทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาเล่าเรียนที่ไม่น้อยหน้าใคร อีกทั้งยังมีสุขภาพที่ดีเสมอมา ในบั้นปลายชีวิตของคุณแม่ ช่วงก่อนที่คุณแม่จะจากไปประมาณ 3-4 ปีสุขภาพของคุณแม่เริ่มเสื่อมถอยลง และก็ได้อ�ำลาจากโลกนี้ไป เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 13.10 น. ที่โรงพยาบาลสมิติเวช สิริอายุ 96 ปี การจากไปของคุณแม่กัลยา นับเป็นความสูญเสียที่ใหญ่หลวง ของครอบครัว ญาติมิตรและทุกๆ คนที่รู้จักท่าน ด้วยกุศลผลบุญและคุณ งามความดีทั้งหลายของคุณแม ่ที่ได้สร้างสมไว้มากมายและไม ่อาจ บรรยายได้หมด จงเป็นอานิสงส์ให้ดวงวิญญาณอันบริสุทธิ์ของคุณแม่ไปสู่ สุคติสัมปรายภพเทอญ 3
#หนึ่งชีวิต Mission Complete แด่...คุณแม่ผู้ประเสริฐ ร่างของหญิงที่ก�ำลังนอนนิ่งสงบอยู่ในโลง ณ ขณะนี้ เคยได้รับ การขนานนามจากผู้คนว่าเป็น “หญิงเหล็ก” และในช่วงที่ท่านเจ็บป่วย ติดพัน 3-4 ปีมานี้ คุณหมอผู้รักษาก็ยังได้กล ่าวด้วยความฉงนใจว ่า ท ่านเหมือน “แมว 9 ชีวิต” เพราะสามารถฟื้นคืนชีวิตกลับมาได้อย่างน่า มหัศจรรย์หลายครั้งหลายคราด้วยพลังภายในกายของตัวท่านเอง ท่านผู้นี้มีชื่อว่า “กัลยา แซ่จัง หรือ 劉木花 (หลิวมู่ฮวา)” ท่านเป็นคุณแม่ของพวกเรา 4 คน ท่านมีหลานทั้งหมด 7 คน และเหลน 3 คน ท่านเป็นศรีภรรยา เป็นคู่บุญคู่ชีวิตของคุณพ่อ จวงจื่อเจีย ซึ่งได้จาก พวกเราไปแล้วเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556 ในสายตาและความรู้สึกของลูกๆ คุณแม่เป็นหญิงเหล็กทั้งกาย และใจ ท่านไม่เคยกลัวความความทุกข์ยากล�ำบากใดๆ ท่านเป็นนักสู้ชีวิต เผชิญปัญหาต่างๆ ด้วยความเด็ดเดี่ยวอย่างไม่สะทกสะท้าน ท่านเป็นผู้ที่ มีความอดทนในสิ่งที่ยากทน เป็นผู้ที่มีความประหยัด มัธยัสถ์และอดออม ท่านเดินเคียงคู่กับคุณพ่อมายาวนานถึง 65 ปี จนท�ำให้ครอบครัวและ ลูกๆ ทุกคนมีความสุขสบายขึ้น แต่ตัวท่านเองกลับไม่เคยรักความสบาย ท่านเกิดมาเพื่อท�ำงาน เพื่อท�ำให้คนอื่น และเพื่อช่วยเหลือผู้คน มากมาย ท่านจึงเปรียบเสมือนพระโพธิสัตว์เดินดิน ที่เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม ของการเป็นผู้ให้เป็นการให้ด้วยจิตที่เมตตาและเป็นสุข ท่านมักจะให้ แนวคิดในการด�ำเนินชีวิตและการดูแลสุขภาพ โดยเน้นกับพวกเราเสมอว่า 4
“กิน นอน ออกก�ำลังกาย ต้องดูแลให้ดี” นอกจากนี้ท่านยังให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้ที่มาขอความช่วยเหลือ ตามวาระโอกาสและความเหมาะสมอย่าง ไม่เคยเหนื่อยหน่าย เนื่องจากคุณแม่เป็นผู้ที่ให้ความส�ำคัญเรื่องสุขภาพเป็นพิเศษ จึงได้ยอมเสียค่าเรียนวิชาชี่กงกับครูชาวจีน แล้วฝึกหัดเรียนรู้อย่างตั้งใจ และเพื่อให้ทุกคนได้มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วย ท่านจึงเปิดสอนการ ออกก�ำลังกายชี่กงฟรีที่สวนลุมฯ มาอย่างยาวนาน ท่านเป็นผู้ที่มีวินัยใน ตนเองมาก ทุกเช้าตี5 ครึ่งก็จะนั่งรถยนต์คันเก่าๆ ไปกับคุณพ่อเพื่อไป สวนลุมด้วยกันอย่างไม่เคยว่างเว้น คุณแม่น�ำออกก�ำลังกายบนเนินหญ้า เล็กๆ ส่วนเทปที่เปิดคลอดนตรีนั้นก็เป็นเสียงภาษาแต้จิ๋วต้นฉบับชาวจีน แท้ๆ ของคุณพ่อที่คอยอธิบายท่วงท่าไปตั้งแต่ต้นจนจบ ภาพเหล่านั้นยังคง ตราตรึงอยู่ในความทรงจ�ำ และด้วยอานิสงส์จากการที่ท่านให้วิชาชี่กงเป็น วิทยาทาน จึงท�ำให้ท่านมีร่างกายที่แข็งแรงและแข็งแกร่งตลอดมา ท�ำงาน หนักได้อย่างต่อเนื่องทุกวัน จนคนหนุ่มสาวยังอดทึ่งไม่ได้ นอกจากนั้น ท่านยังให้ความส�ำคัญเรื่องของอาหารการกินเพื่อ สุขภาพ อีกทั้งเนื่องจากท่านเป็นแม่ครัวที่ฝีมือดี ในปีพ.ศ. 2545 คุณแม่ จึงได้ตัดสินใจเปิดร้านอาหารเจ “ครัวเจเซนต์หลุยส์″ ซึ่งในยุคนั้น อาหารเจ ยังไม่ได้รับความนิยมและการยอมรับมากนัก แต่ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ อย่างแรงกล้า ที่ต้องการส่งเสริมให้คนได้รู้จักอาหารเจ และได้ทานเจเพื่อ สุขภาพ คุณแม่จึงยืนหยัดเพื่อให้ร้านอาหารเจนี้สามารถคงอยู่และผ่านพ้น วิกฤตเศรษฐกิจมาได้จนถึงปัจจุบัน เนื่องจากคุณแม่เกิดในครอบครัวที่ยากจนที่จังหวัดพิจิตร จึงท�ำให้ ท ่านมีโอกาสได้เรียนจบแค ่ชั้นประถมต้น แต่ด้วยพรสวรรค์ที่ท่านมีมา 5
ทางด้านการก่อสร้าง โดยเฉพาะการต่อเติมซ่อมแซมอาคาร หลังจากที่ได้ กราบรับวิถีธรรมในปีพ.ศ. 2526 และเริ่มปฏิบัติงานธรรมด้วยความศรัทธา จริงใจ คุณแม่จึงมีโอกาสได้ควบคุมการก่อสร้างต่อเติมสถานปฏิบัติธรรม หลายแห่งเช่นที่กรุงเทพฯ พิจิตร นครศรีธรรมราช (ต.จันดี)และนครราชสีมา มีอยู่ครั้งหนึ่ง หลังจากที่ท่านผ่าตัดกระดูกสะโพกได้เพียง 2-3 สัปดาห์ในวัยประมาณ 65 ปีท่านก็จะนั่งรถไฟชั้น 3 เพื่อไปดูงานก่อสร้าง ที่ จ.นครศรีธรรมราช (ต.จันดี) เพียงล�ำพังคนเดียว แม้ลูกๆ และทุกคน จะทัดทานอย่างไรก็ไม่เป็นผล จึงได้ให้หลานของท่านคนหนึ่งนั่งรถไฟติดตาม ไปด้วย เมื่อไปถึงที่จันดี ท่านก็ตรงไปที่พื้นที่ก่อสร้างทันที เมื่อท่านดูงาน และสั่งงานเสร็จ จึงค่อยทานข้าวแล้วนั่งรถไฟชั้น 3 กลับกรุงเทพฯ ใน วันเดียวกัน ท่านได้ท�ำหน้าที่และเจริญปณิธานของการเป็นผู้ให้และบริการ ผู้อื่น ในด้านที่ท่านถนัดและเต็มใจอย่างสุดจิตสุดใจ โดยลืมห่วงแม้กระทั่ง กายสังขารของตัวเอง นับได้ว่า คุณแม่เป็นผู้ที่มีกายใจแข็งแกร่งอย่างยิ่งมาโดยตลอด แม้ความเจ็บป่วยใดๆ ที่เริ่มย่างกรายเข้ามาในยามสูงวัย ท่านก็ไม่เคยมองว่า เป็นปัญหาใหญ่หรือเดือดร้อนใจ มีแต่นึกถึงสิ่งที่ต้องท�ำ คนที่ต้องช่วย และ ความเป็นไปของคนรอบข้าง จนในระยะหลัง ท่านเริ่มเจ็บป่วยจากโรคติด เชื้อทางเดินหายใจในปีพ.ศ. 2562 แต่ก็อยู่ในความดูแลอย่างใกล้ชิดจาก ทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (โรงพยาบาลพญาไท 2 และ โรงพยาบาล สมิติเวช) มาโดยตลอด ด้วยความเป็นอนิจจังของสังขาร จึงไม่อาจทนต่อการเจ็บป่วยได้ ตลอดกาล มีวันต้องเสื่อมไปและดับไป บัดนี้ คุณแม่ได้จากพวกเราไป แล้วในวัย 96 ปีเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2566 แม่ลูกจากไกล ไม่อาจเรียกคืน 6
ลูกๆ ขอกราบขอบพระคุณเบื้องบนเมตตา พระอาจารย์เมตตา ที่ให้ลูกได้เกิดมาเป็นลูกของคุณแม่กัลยา นับว่าเป็นบุญวาสนาและโอกาสที่ ยากยิ่งที่จะได้มา ที่ผ่านๆ มาลูกๆ ยังไม่อาจตอบแทนพระคุณอันยิ่งใหญ่ ของคุณแม่ได้หมดสิ้น และยังไม่อาจท�ำให้คุณแม่มีความสุขกายสบายใจ อย่างแท้จริง นับว่าเป็นความบกพร่องของลูกๆ ขอคุณแม่ได้โปรดให้อภัย ลูกๆ ด้วย ลูกๆ ใคร่กราบวอนขอต่อฟ้าเบื้องบนเมตตา พระอาจารย์เมตตา พุทธโพธิสัตว์ทุกพระองค์ได้โปรดเมตตาเปิดทางสว่าง ทางสะดวก ให้จิตญาณ อันบริสุทธิ์ของคุณแม่ได้กลับคืนสู่ความสงบ ความพ้นทุกข์ความเป็นอิสระ และความว่างอย่างแท้จริง...ตราบนิจนิรันดร์ด้วยเทอญ ด้วยความอาลัยรักยิ่ง และขอกราบส�ำนึกพระคุณอย ่างที่สุด ตลอดกาล จากหัวใจลูกๆ ทั้ง 4 ของคุณแม่ (ซิ่วหลิง ซู่หลิง กวงเลี่ยง กวงเอี้ยว) 7
บทกลอนร�ำลึกอาลัย แด่อาม่า หนึ่งสมองสองมือและสองเท้า ด�ำเนินยาวชีวิตนี้มีค่ายิ่ง “เก้าสิบหก” เพื่อผู้คนอย่างแท้จริง ไม่เคยมีแม้เพียงสิ่งท�ำเพื่อตน ทั้งในบ้านและนอกบ้านดูแลให้ แม้เรียนน้อยเพียรขวนขวายสู้ทุกหน ลูกหลานได้มีกินใช้ไม่ทุกข์ทน ร�่ำเรียนจนเติบใหญ่มาสง่างาม แม้พูดหนักจริงจังแต่จริงใจ อาจดูเหมือนเคร่งวินัยน่าเกรงขาม แต่ในใจลึกลึกแท้มีแต่ความ บริสุทธิ์และงดงามเปี่ยมเมตตา เปลือกไม่สวยแต่แกนกลางคือหยกใส กาลผ่านไปจึงซึ้งในความล�้ำค่า พลีสละสุขส่วนตนเพื่อธรรมา คอยห่วงใยคนถ้วนหน้าไม่แชเชือน ทั้งชีวิตมีแต่ค�ำว่าท�ำให้ เหนื่อยแค่ไหนไม่เคยบ่นไม่อิดเอื้อน “ขยันประหยัด ซื่อสัตย์อดทน” ค�ำย�้ำเตือน จิตเที่ยงตรงไม่เอียงเคลื่อนจนวางวาย อาม่าเหนื่อยมามากแล้วจนวันนี้ เป็นวันที่ได้กลับคืนแดนมุ่งหมาย เป็นหญิงแกร่งสู้ชีวิตอุทิศมากมาย ขออาม่าหลับผ่อนคลายสุขนิรันดร์ ด้วยรักและอาลัย ขอกราบส�ำนึกคุณจากใจ...หลานๆ ทุกคน (กุง เฉิง เคี้ยง ปิง ชิ่ง จวิ้น ไท่) 8
แบบอย่างฐันจู่ผู้บุกเบิก ปฏิปทายิ่งใหญ่ จุดเทียนไขจากใจ ตลอดเวลา 40 ปีแห ่งการบุกเบิกแพร ่ธรรมในวงการธรรม หากจะคิดถึงนักธรรมอาวุโสผู้ที่เป็นแบบอย่างแห่งความกล้าหาญ มุ่งมั่น อดทน เที่ยงตรง ไม่ย่อท้อ ภาพของหลิวฐันจู่มู่ฮวา ก็จะเป็นอันดับต้นๆ ที่ผู้น้อยขอคารวะและยกย่อง ตั้งแต ่ปีพ.ศ. 2526 ที่ท ่านได้รับธรรมะในยุคต้นๆ ที่ท ่าน เฉียนเหยินหลี่เอวี๋ยนผูซ่าได้เมตตาให้หลินเหล่าเตี่ยนฉวนซือพาคณะนักธรรม อาวุโสมาบุกเบิกธรรมในประเทศไทย ท่านหลิวฐันจู่ก็เป็นอาวุโสรุ่นแรกๆ ที่ได้รับรู้วิถีธรรมและอาศัยความรู้ด้านชี่กง ซึ่งทั้งท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียน และหลิวฐันจู่มีความช�ำนาญ และมีเมตตาจิตสอนผู้คนที่ไปออกก�ำลังกาย ที่สวนลุมพินีกรุงเทพ ณ ที่นี้เอง ที่ทั้งสองท่านได้เชิญชวนสมาชิกฝึกชี่กง ทั้งหลายได้มารับธรรมมากมายนับไม่ถ้วน รวมทั้งท่านฮว๋าเอวี๋ยนต้าเซียน (หลินเตี่ยนฉวนซือสูฮว๋า)ด้วย สร้างเรือธรรม เมื่อครั้งที่สถานธรรมไท่อินยังเป็นบ้านเช่าในระหว่างปีพ.ศ. 2525 ท่านหลิวฐันจู่และครอบครัวเป็นหนึ่งในกลุ่มนักธรรมรุ่นบุกเบิกในสมัยนั้น ได้ทุ่มเทสุดความสามารถ ทั้งการร่วมวางแผน ลงแรงกายแรงใจอุทิศเงิน สร้างกุศล และบริหารจัดการจนสามารถตั้งสถานธรรมถาวรจากตึกเซ้งที่ ซอยสะพานหัวช้าง(ราชวิถี)จนถึงซื้อตึกทาวเฮ้าส์ที่ถนนสมเด็จพระเจ้าตากสิน 37 (ที่หลี่ฐันจู่กิมเซี้ยได้พัฒนาโครงการขึ้นมา) เป็นสถานธรรมถาวรใหม่ ของไท่อิน (ปัจจุบันคือสถานธรรมฉือหัง) รวมทั้งช่วยระดมเงินจากนักธรรม 9
ทั้งหลายในยุคนั้นซึ่งรวมทั้งเงิน 500,000 บาท จากท่านเฉียนเหยินหลี่ เอวี๋ยนผูซ ่าที่ได้เมตตาเสียสละอันยิ่งใหญ ่ขายอพาร์ทเม้นท์ส ่วนตัวที่ นครเกาสยงร่วมสมทบ อีกทั้งเป็นก�ำลังหลักที่ทุ่มเทบากบั่น จัดการก�ำกับ ดูแลตั้งแต่การสร้างฐานรากตึก การสร้างตึก การตกแต่ง ท�ำให้อาคาร สถานธรรมมีความแข็งแรงคงอยู่จนถึงปัจจุบัน ทุ่มเทบุกเบิกไม่ย่นย่อท้อถอย ด้วยพระมหากรุณาธิคุณฟ้าเบื้องบน พระคุณพระอาจารย์และ ความเมตตาส่งเสริมจากท่านเฉียนเหยิน จึงเริ่มมีโองการแต่งตั้งเตี่ยนฉวนซือ ในไทยรุ่นแรกน�ำโดยอู๋ชิงจินเตี่ยนฉวนซือ ฮวั๋งเตี่ยนฉวนซือเฉี่ยวเสียน และตามมาด้วยจวงเตี่ยนฉวนซือ(ชาย)ท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียน ท่านหลิวฐัน จู่ได้เป็นคู่ทุกข์คู่ยากในการเริ่มบุกเบิกงานธรรมจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัด พิจิตร (สถานธรรมจินจงในปัจจุบัน) ต�ำบลจันดีจังหวัดนครศรีธรรมราช (สถานธรรมฉือฮุ่ยในปัจจุบัน) เป็นต้น ท่านขึ้นเหนือล่องใต้ติดตามท่าน เจียเอวี๋ยนเจินเซียนบุกเบิกงานธรรมจนเป็นเครือธรรมฉือเซวียนใน ปัจจุบัน อริยคุณธรรมต่างเกื้อหนุน หลิวฐันจู่นอกจากเป็นก�ำลังส�ำคัญที่สนับสนุนหัวหน้าครอบครัว ในการบุกเบิกงานธรรม ยังสนับสนุนส่งเสริมสมาชิกในครอบครัวให้บ�ำเพ็ญ ปฏิบัติและสนับสนุนจวงเตี่ยนฉวนซือซิ่วหลิง จนเป็นแบบอย่างครอบครัว ผู้บ�ำเพ็ญธรรมสี่รุ่น และเนื่องด้วยทั้งครอบครัวท่านและครอบครัวของ ฮวั๋งเตี่ยนฉวนซือ(คุณแม่ของผู้น้อย) เป็นครอบครัวที่ร่วมบุกเบิกงานธรรม ในยุคเดียวกัน ดังนั้น พอจะกล่าวได้ว่าเตี่ยนฉวนซือทั้งสองครอบครัวเป็น คู่ปรึกษางานธรรมที่ช่วยให้ก�ำลังใจซึ่งกันและกันดั่งพี่น้องในครอบครัว เดียวกัน ต่างร่วมกันดูแลสารทุกข์สุกดิบความเป็นอยู่ซึ่งกันและกัน 10
เตี่ยนฉวนซือทั้งสองท่านรวมทั้งท่านหลิวฐันจู่ล้วนเป็นแบบอย่างแก่ ลูกหลานทั้งสองครอบครัวว่าเป็นผู้มีเมตตาจิตอันยิ่งใหญ่ ซื่อตรง เที่ยงธรรม ทุ่มเท บากบั่นไม่ย่อท้อ ถือได้ว่าเป็นบุญอันยิ่งใหญ่ที่สมาชิกทั้งสองครอบครัว ได้รับบุญบารมีของท่านทั้งสามที่ปกแผ่และคุ้มครอง น้อมกราบส่งดวงญาณ ในช ่วงสิบปีหลังที่ท ่านหลิวฐันจู ่เริ่มเจ็บป ่วย ด้วยสังขารชรา เข้าออกโรงพยาบาลหลายครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีพ.ศ. 2565-2566 หลายครั้งที่ท่านเริ่มดีขึ้น จวงเตี่ยนฉวนซือซิ่วหลิงก็จะโทรมานัดว่าท่าน หลิวฐันจู่อยากมาเยี่ยมฮวั๋งเตี่ยนฉวนซือ ภาพที่ท่านมาเยี่ยมคุณแม่ผู้น้อย ทั้งๆ ที่นั่งรถเข็นมาที่บ้านและพูดคุยกันอย่างสนิทสนมด้วยความห่วงใย ซึ่งกันและกันและเป็นกันเอง เป็นที่ซาบซึ้งใจของลูกๆ ที่อยู่รอบข้างเป็นอย่างยิ่ง ในปีนี้ท่านเริ่มทรุดหนัก และเมื่อไม่นานมานี้ที่ท่านอยู่ในโรงพยาบาล สมิติเวชสุขุมวิท ฮวั๋งเตี่ยนฉวนซือได้ไปอยู่ห้องติดกัน คุณแม่ผู้น้อยก็ก�ำชับ ผู้น้อยว่าให้ไปเยี่ยมหลิวฐันจู่ ขณะที่ผู้น้อยได้เข้าไปในห้อง ICU ของท่าน ได้เรียนท่านว่าผู้น้อยเป็นตัวแทนคุณแม่มาเยี่ยม ท่านเริ่มลืมตาขึ้นและ จับมือผู้น้อยแน่น ซึ่งผู้น้อยสามารถสัมผัสได้ถึงความ เมตตาของท ่านที่มีต ่อคุณแม ่และครอบครัวผู้น้อย แม้ภาพนี้จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ผู้น้อยได้พบท่าน แต่จะอยู่ ในความทรงจ�ำของผู้น้อยและครอบครัวตลอดไป ขอน้อมส่งดวงญาณหลิวฐันจู่สู่อนุตตรภูมิด้วย ความเคารพ ผู้น้อย หวังลี่ชิง ในนาม ฮวั๋งเตี่ยนฉวนซือและครอบครัววงจันทร์ศิลป์ 23 ธันวาคม 2566 11
ช ่วงแรกที่ผู้น้อยได้มีโอกาสรับธรรมะแล้วได้ฝึกฝนเรียนรู้ที่ สถานธรรมบ้านสกุลจวง ซึ่งมีพื้นที่ไม่กว้างนัก บริเวณนอกห้องชั้นสาม ซึ่งจัดเป็นโต๊ะพระส�ำหรับกราบไหว้พระ และจัดเป็นที่นั่งเรียนพุทธระเบียบ ต่อมาด้วยความเมตตาของทั้งสองท่านคือท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียน และ หลิวฐันจู่ ท่านได้สละห้องของท่านชั้นบนขยายเป็นห้องพระใหม่ กว้างขวาง ขึ้นกว่าเดิม จนในวันที่ 12 มีนาคม 2543 พระอาจารย์จี้กงเมตตา “อาจารย์เห็นทุกคนเหนื่อยและลงแรงกันจริงๆ เพราะฉะนั้น อาจารย์ขอให้ชื่อสถานธรรมที่บ้านว่า “ฉือเซวียน” ตอนนี้มีชื่อสถานธรรม แล้วเราก็ท�ำให้ดีๆ ความตั้งใจที่เรามีอาจารย์บอกว่าขอให้ขีดเส้นตรงไป ให้จนสุดเลย” ดังกล่าวว่าผู้เป็นวิญญูชนนั้น ความคิดหน้าที่ การกระท�ำไม่ออก นอกเหนือบทบาทหน้าที่ของตนเอง เมื่อไม่อยู่บทบาทนั้นไม่ท�ำนอกหน้าที่ มีบทบาทใดท�ำหน้าที่ให้ดี ส�ำหรับผู้น้อยแล้ว หลิวฐันจู่ท่านตั้งใจเป็นพุทธบริกรของฟ้า ท่าน ท�ำได้อย่างสมบูรณ์ ท่านนั้นเป็นคู่บุญบารมีของท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียน ท ่านเป็นต้นแบบของผู้น้อยที่ท�ำให้เห็นถึงพลังความมุ ่งมั่นที่เด็ดเดี่ยว กล้าหาญ มีความชัดเจนในทุกการแสดงออกของท่านที่เปี่ยมด้วยความจริงใจ และเมตตา รักและห่วงใยผู้น้อยของท่านอย่างทั่วถึง เสมอต้นเสมอปลาย เมื่อย้อนร�ำลึกถึงสมัยที่ท่านยังแข็งแรง ท ่านทุ ่มเทกายใจให้กับ งานธรรมอย่างสุดจิตสุดใจ ประหยัด มัธยัสถ์รู้ถนอมบุญวาสนา เหล่าผู้น้อยได้รับรู้ว่า แม้การเดินทางไปต่างจังหวัด เพื่อประหยัด การใช้เงิน ท่านจะนั่งรถไฟชั้นสามไปสถานธรรมจินจงเพื่อดูแลเรื่องการ ก่อสร้างต่อเติมสถานธรรม สถานธรรมที่จันดีจังหวัดนครศรีธรรมราช ท่านก็นั่งรถไฟ แทนการเดินทางโดยเครื่องบิน อีกทั้งสถานธรรมจินเอวี๋ยน 12
ท ่านก็เมตตาห ่วงใยดูแลเรื่องการปรับปรุงต ่อเติมสถานธรรมให้กว้าง ขวางขึ้น แม้ท่านไม่ได้ส�ำเร็จการศึกษาระดับวิศวกรหรือสถาปนิกระดับ ปริญญาที่มีในโลก แต ่เหล ่าผู้น้อยล้วนกล ่าวเป็นเสียงเดียวกันว ่าท ่าน เปรียบเสมือนวิศวกร สถาปนิกของฟ้าที่เบื้องบนเมตตาส่งมาให้ ถ้าไม่ได้ไปต่างจังหวัด ท่านก็อยู่ที่ครัวเจ ด้วยความตั้งใจและทุ่มเท เพื่อส่งเสริมการทานเจและอาหารเจให้คนรู้จักเมนูอาหารเจที่อร่อยๆ ที่ขึ้น ชื่อคือก๋วยเตี๋ยวที่มีน�้ำซุปที่เลิศรส เมื่อผู้น้อยน�ำไปให้เพื่อนหรือซื้อกลับบ้าน ล้วนได้รับค�ำชมว่าอร่อยจริงๆ ติดอกติดใจกันทุกคนที่ได้รับประทาน ภาพที่เห็นจนคุ้นตาคือท่านยืนอยู่หน้าเตาไฟ ท�ำกับข้าวปรุงอาหาร โดยตัวของท่านเองยืนเดินเกือบตลอดเวลา จนขาสองข้างท่านบวมแข็งมาก จนคุณหมอแนะน�ำให้ท่านพักการเดินการยืนนานๆ ยามนั่งท่านก็ท�ำงานไม่ปล่อยเวลาผ่าน ท่านนั่งประจ�ำที่โต๊ะเก็บเงิน บางขณะก็เด็ดผักเตรียมท�ำอาหารมื้อต่อไป วันที่สถานธรรมมีชั้นเรียนหรือวันไหว้พระ ประตูสถานธรรมจะ เปิดตลอดเวลาเพื่อรอรับญาติธรรม หลิวฐันจู่จะนั่งรอที่เก้าอี้ รอต้อนรับ เหล่าผู้น้อย บนโต๊ะมีอาหาร จาน ชาม ช้อน จัดรอวางไว้อย่างเรียบร้อย พร้อมน�้ำดื่ม แก้วน�้ำ เมื่อมีญาติธรรมมา ท ่านจะเรียกให้ทานอาหาร คอยดูแลบอกให้ทุกคน ทานเยอะๆ ทานให้อิ่มๆ ผู้น้อยเรียนเชิญฐันจู่ ทานข้าวค่ะ ท่านมักจะตอบว่า ท่านยังไม่ทาน ท่านยังไม่หิว เชิญให้ผู้น้อย ทานก่อน ท่านเพิ่งทาน ยังอิ่มอยู่ มีของทานเยอะแยะเลย ทานทั้งวันแล้ว จะมีรอยยิ้มบนใบหน้าท่าน สายตาที่อ่อนโยน เวลาที่หลิวฐันจู่ยิ้มนัยน์ตา ท่านก็จะยิ้มไปด้วย ท่านจะเมตตาคอยเติมอาหารที่พร่องให้เต็ม 13
แม้หลิวฐันจู ่ท ่านเป็นนักธรรมอาวุโสรุ ่นแรกที่มีการบุกเบิก ธรรมะของประเทศไทย แต่ที่ผู้น้อยสัมผัสได้ในความเด็ดเดี่ยว เข้มแข็ง และเข้มงวดของท่าน ท่านมีความอ่อนน้อมถ่อมตนไม่โอ้อวด เคารพให้เกียรติ เอื้ออาทร และมีความจริงใจให้กับทุกคน ช่วงเวลาที่สุขภาพท่านยังแข็งแรง ขนมของว่างของนักเรียน ท่านจะ จัดเตรียมเอง ยกมาตักใส ่ถ้วยเรียงไว้เครื่องดื่ม น�้ำล�ำไย น�้ำเก็กฮวย น�้ำเต้าหู้ ท่านจะต้มเอง น�้ำเต้าหู้ของท่านจะอร่อยมาก คุณแม่ผู้น้อยจะ พูดถึงบ่อยๆ เวลาไปทานน�้ำเต้าหู้ที่อื่นว่าไม่อร่อยเหมือนที่หลิวฐันจู่ท่านท�ำ วันไหว้พระท่านจะเป็นผู้ไปจัดซื้อ คัดเลือกผลไม้ด้วยตัวท่านเองทุกครั้ง ด้านสุขภาพ ท่านเป็นผู้ที่รักษาสุขภาพได้ดี ผู้น้อยได้มีโอกาส ใกล้ชิดท่าน มือของท่านแข็งแรงมาก สัมผัสได้ถึงพลังความแข็งแรงของท่าน กอปรกับท่านเป็นผู้ที่มีความอดทนสูง ตัวผู้น้อยและคุณแม่ได้รับโอกาสจากท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียน และหลิวฐันจู่ฝึกออกก�ำลังกาย ชุดฉางโซ่วชี่กง กับท่านที่สวนลุมพินีใน ตอนเช้าก่อน 7.00 น. ทุกวันช่วงหนึ่ง หลิวฐันจู่ท่านเป็นเหล่าซือของญาติ ธรรมหลายๆ ท่าน น�ำพาการออกก�ำลังกาย ซึ่งท่าการออกก�ำลังกายของ ท่านชุดนี้ คุณแม่ของผู้น้อยชอบมาก ท่านน�ำไปฝึกต่อเมื่อกลับไปอยู่ที่ บ้านแล้ว ท่านบอกว่าดีมากๆ ช่วงที่ท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียนยังอยู่ ทั้งสองท่านจะสนับสนุนให้ โอกาสเหล่าผู้น้อย ฝึกฝนท�ำกิจกรรม กิจกรรมสันทนาการนอกสถานที่ ทั้งชั้นเรียนในกรุงเทพและต่างจังหวัดที่ท่านรับผิดชอบอยู่ เริ่มจัดชั้นเด็ก ครั้งแรกที่สถานธรรมฉือเซวียนแล้วขยายออกไปต่างจังหวัด วันเวลาช่างผ่านไปอย่างรวดเร็ว เมื่อหลิวฐันจู่ท่านสูงวัยขึ้น และ หลังจากท ่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียนกลับคืนเบื้องบนแล้ว สุขภาพท ่านก็ 14
เปลี่ยนแปลงไปตามวัย มีความเจ็บป ่วยที่ท ่านต้องเข้าออกโรงพยาบาล บ่อยขึ้นและนานขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 สุขภาพ ของหลิวฐันจู่ท่านอ่อนแอลง ช่วยเหลือตัวเองได้น้อยลง ด้วยความกตัญญู ของลูกๆ ท่านได้จัดหาโรงพยาบาล ทีมแพทย์และพยาบาลอย่างดีมาคอย ดูแลท่านตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง จวบจนวาระสุดท้ายที่ท่านมรรคผลสมบูรณ์ พร้อมกลับคืนเบื้องบน ผู้น้อยขอน้อมกราบส ่งทิพย์ญาณหลิวฐันจู ่กลับคืนสู ่เบื้องบน ด้วยความเคารพรักและอาลัยยิ่ง แด่หลิวฐันจู่ผู้เป็นแบบอย่างอันดีงามสมดังค�ำกล่าวที่ว่า “มนุษย์ใช้ตนประกาศธรรม มิใช่ใช้ธรรมประกาศตน” ด้วยจิตเคารพรักและส�ำนึกคุณ ผู้น้อย จังเพ่ยหลิน 23 ธันวาคม 2566 15
“21 ธันวา 2566 เป็นวันโศกเศร้าเสียดายแสน หลิวฐันจู่คืนกลับแดนฟ้าเบื้องบน กราบรายงานองค์มารดารับมรรคผล อยู่บนโลกเป็นเสาหลักค�้ำธรรม ให้ผู้น้อยได้ต่อยอดสืบทอดไป เครือฉือเซวียนได้ขยายไปกว้างไกล ด้วยจิตศรัทธาแรกไม่ขาดสาย แม้กายสลายจิตกลับคืนฝากชื่อไว้บนโลกา” โฮ่วเสวียได้รับข่าวกลับคืนฟ้าเบื้องบนของหลิวฐันจู่ขณะที่ก�ำลัง เดินทางกลับจากรพ.หัวเฉียว ซึ่งก็มีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นแต่ตัวเองรับรู้ไม่ได้ แม้จะมีความเศร้าโศกเสียดายกับการจากไปของหลิวฐันจู ่แต ่ก็แฝงไว้ ด้วยความปิติยินดีที่ท่านจากไปอย่างสงบและมรรคผลสมบูรณ์พูนผลดังที่ หลินเหล่าเตี่ยนฉวนซือเมตตา หลิวฐันจู่เป็นอาวุโสท่านแรกที่ท�ำให้โฮ่วเสวียรับธรรมได้ส�ำเร็จ เพราะโฮ่วเสวียก�ำลังจะขอกลับ วันนั้นมีโฮ่วเสวียคนเดียวมารับธรรม เพราะ ด้วยความไม่เข้าใจและสภาพแวดล้อมให้คอยนาน พอดีเป็นช่วงจังหวะที่ หลิวฐันจู่ยกเหยือกน�้ำส้มคั้นเย็นๆ มาพร้อมกับท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียนหรือ จวงเตี่ยนฉวนซือ(ช.)ในขณะนั้น ท่านเทน�้ำส้มคั้นใส่แก้วยกมาให้โฮ่วเสวีย ดื่มด้วยความเมตตาเอาใจใส่ ท�ำให้โฮ่วเสวียเกิดความประทับใจ จึงอยู่ต่อ จนรับธรรมได้ส�ำเร็จ ท่านจะปฏิบัติอย่างนี้กับผู้น้อยทุกคนที่มารับธรรม จะให้ทานอาหารก่อน ถ้าไม่ตรงมื้ออาหารก็จะมีผลไม้หรือของว่าง ถ้ามี 16
ชั้นเรียนโต๊ะอาหารจะไม่ว่าง ท่านจะเตรียมของกินไว้รองรับญาติธรรม อย่างสม�่ำเสมอ แม้ช่วงหลังท�ำเองไม่ไหวก็จะก�ำชับผู้มีหน้าที่ให้จัดเตรียม ซึ่งเป็นแบบอย่างของฐันจู่ผู้ดูแลสถานธรรมที่สมบูรณ์ หลิวฐันจู่ยังเป็นเสาหลักค�้ำธรรม เป็นสถาปนิกไร้ปริญญาแต่มาก ด้วยประสบการณ์และพรสวรรค์ทุกสถานธรรมที่ท่านออกแบบก่อสร้าง จะใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้เป็นประโยชน์ใช้สอย และสะดวกกับการใช้งาน หลิวฐันจู่ยังเป็นอาจารย์ผู้ฝึกสอนวิชาชี่กง ให้ผู้คนได้มีสุขภาพ พลามัยที่แข็งแรง มีลูกศิษย์มากมายที่สวนลุม ช่วงหลังด้วยสูงวัยไม่อ�ำนวย ให้สอนได้ท่านก็ได้ถ่ายทอดให้ลูกศิษย์สานต่อเจตนารมณ์ของท่าน ตลอดเวลาที่อยู่บนโลกใบนี้ท่านได้สั่งสมบุญกุศลไว้มากมาย ท่านได้เจริญกุศลเจริญปณิธาน บุกเบิกแพร่ธรรมช่วยงานพระอาจารย์ พระอาจาริณีฉุดช่วยเวไนย ท่านท�ำเพื่อส่วนรวมมาโดยตลอดชีวิต สถาน ธรรมจินไท่เป็นสถานธรรมสุดท้ายที่ท่านรอคอยการเปิดสถานธรรมให้ เสร็จเรียบร้อยจึงพร้อมกลับคืนฟ้าเบื้องบน ฝากชื่อไว้บนโลกใบนี้ โฮ่วเสวียขอน้อมจิตส�ำนึกในพระคุณของหลิวฐันจู่และขอน้อม ส่งดวงญาณอันบริสุทธิ์ของท่านกลับคืนฟ้าเบื้องบนกราบองค์มารดา ด้วยความเคารพรักและอาลัยยิ่ง โฮ่วเสวีย หลันเพ่ยเจิน 23 ธันวาคม 2566 17
ร่วมไว้อาลัยแด่...หลิวมู่ฮวาฐันจู่ที่เคารพ แล้ววันที่สูญเสียนี้ก็มาถึง ตั้งแต่วันที่ผู้น้อยได้รับทราบข่าวการ เจ็บป่วยของท่าน ผู้น้อยก็รู้สึกห่วงใยและคอยเอาใจช่วยให้ท่านกลับมา แข็งแรง เพื่อเป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับเหล่าผู้น้อยฉือเซวียนอีกครั้ง ผู้น้อย ทราบว่าการเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องที่มนุษย์ทุกคนล้วนหนีไม่พ้น ท่านเป็น ผู้ที่มีความอดทน แม้ร่างกายนี้ต้องนอนอยู่บนเตียงมานานหลายปีแต่ท่าน ก็ยอม ยอมที่จะชดใช้ให้เจ้ากรรมนายเวร เพื่อให้มรรคผลนั้นพร้อมสมบูรณ์ กลับคืนไปโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ที่เสียสละและอดทน เพียงเพื่อที่ต้องการส่งเสริมเหล่า ผู้น้อยให้ทานเจ งานร้านอาหารเจนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะกับท่าน ที่เป็น ผู้สูงวัยแล้ว แต่ท่านก็มีแต่ความเมตตาแม้ในครัวจะมีอากาศที่ร้อนอบอ้าว ท่านก็ขอเป็นผู้ที่ลงมือปรุงอาหารแต่ละกระทะๆ ด้วยตัวของท่านเอง เพื่อ ให้ผู้ทานเจได้มีอาหารทาน ท่านคือครูคนแรกในด้านการท�ำอาหารของผู้น้อย เมื่อตอนที่ผู้น้อย ผ่านประชุมธรรม ก็มีความเข้าใจทันทีว่าผู้บ�ำเพ็ญต้องฝึกจิตเมตตา ผู้บ�ำเพ็ญ ต้องไม่เกี่ยวกรรม จึงได้ตัดสินใจที่จะฝึกหัดทานเจในทันทีแต่ด้วยความ ที่เป็นคนท�ำครัวไม่ค่อยเป็น อีกทั้งอาหารที่นับต่อแต่นี้ไปจนตลอดชีวิต คือ อาหารเจ ผู้น้อยจึงได้ไปที่ครัวเจเซนต์หลุยส์ขอหลิวฐันจู่เมตตาสอนการ ท�ำอาหารเจให้ผู้น้อย ท่านได้เมตตาสอนการท�ำอาหารให้ผู้น้อยในระยะเวลา 1 เดือน จนผู้น้อยสามารถท�ำเมนูต่างๆ ได้มากมาย และเกิดความมั่นใจ ว่าตลอดชีวิตการบ�ำเพ็ญของผู้น้อย สามารถทานเจได้ตลอดรอดฝั่งแน่นอน 18
อีกทั้งสถานธรรมจินเอวี๋ยน ที่เมื่อช่วงเริ่มต้นเป็นเพียงสถานธรรม เล็กๆ แต่ท่านได้เมตตาสละทรัพย์จากการขายอาหารเจของท่าน เพื่อให้ น�ำมาก่อสร้างต่อเติมปรับปรุงส่วนต่างๆ ให้สมบูรณ์ครบถ้วนจนกลายมา เป็นสถานธรรมจินเอวี๋ยนที่พร้อมให้เหล ่าเวไนยได้เป็นที่ศึกษาปฏิบัติ ธรรมร่วมกัน ดั่งเช่นปัจจุบันนี้ ผู้น้อยขอน้อมส่งท่านด้วยจิตส�ำนึกคุณ ที่ท่านเป็นแบบอย่างอัน ดีงามให้แก่ผู้น้อย และเหล่านักธรรมรุ่นหลัง ทั้งความเมตตา ความเสียสละ และความอดทน ต่องานธรรมะและฉุดช่วยผู้คน อันเป็นแบบอย่างที่ดี ซึ่งผู้น้อยจะขอเจริญรอยตามท่านตลอดไป ด้วยจิตส�ำนึกคุณและอาลัยยิ่ง ผู้น้อย หลินหมิ่นฮว๋า 23 ธันวาคม 2566 19
หนึ่ง ชีวิตสู่ ”โลกศรีอาริย์” หนึ่ง เมล็ดข้าวหอมกรุ่นอุ่นไอรัก หนึ่ง ประจักษ์ความห่วงใยให้คิดถึง หนึ่ง รสมือสลักจิตยังติดตรึง คือ “คนหนึ่ง” กร�ำงานหนักมิพักกาย คือ คนที่คอยแอบซ่อนอยู่เบื้องหลัง คือ พลังรังสรรค์สร้างมิห่างหาย คือ ชีวิตอุทิศชนจนวางวาย เพื่อ “หญิงชาย” ได้พากเพียรเรียนธรรมา เพื่อ วันนี้มีสถานธรรมน�ำชี้ เพื่อ โลกนี้บัวขาวบานก้านหน่อกล้า เพื่อ ชนนี้ธรรมพรั่งพร้อมจริยา สู่ “คุณค่า” หนึ่งชีวิตได้ฝากไว้ สู่ ความดีล้านความดีมีแบบอย่าง สู่ แนวทางโพธิสัตว์จรัสไสว สู่ ดับทุกข์ของปวงชนทุกใกล้ไกล “โลกศรีอาริย์” บังเกิดไซร้ในแดนดิน ก้มกราบส่ง หลิวมู่ฮวาฐันจู่ คืนฟ้า เหล่าผู้น้อย ผู้ปฏิบัติงานธรรม สถานธรรมจินทง 21 ธันวาคม 2566 20
กัล ปพฤกษ์ บุปผา อันสวยสรรพ ยา จิตนับ หมื่นเวไนย คลายลุ่มหลง แซ่ ซ้องเกียรติเทิดคุณธรรม งามด�ำรง เล้า วานวงศ์ระบือก้อง ผองแดนดิน หลิวฐันจู่ ท่านบุกเบิก สร้างรากฐาน ด้วยวิญญาณ วีรสตรีดุจผาหิน เป็นเสาหลัก ค�้ำธรรม ให้ยลยิน มิเคยหมิ่น โชคชะตา กล้าเผชิญ ท่านแพร่งาน สร้างสถานธรรม ไว้มากมาย อุทิศกาย ใจเป็นหนึ่ง น่าสรรเสริญ ส่งเสริมบุตร หลานในบ้าน ให้ด�ำเนิน และเชื้อเชิญ คนมากมาย ให้รับธรรม กายไม่ไหว ใจยังสู้ไม่รู้เหนื่อย แม้ปวดเมื่อย มิเคยบ่น แม้ใครข�ำ เป็นตัวอย่าง อันดีงาม ให้คนจ�ำ เป็นผู้น�ำ แห่งศรัทธา อย่างแท้จริง ท่านจากไป ใจผู้น้อย เศร้าโศกนัก คิดถึงรัก เมตตาท่าน มากล้นยิ่ง เป็นแบบอย่าง การบ�ำเพ็ญ อย่างแท้จริง ท่านคือสิ่ง ที่เบื้องบน ประทานมา ขอน้อมส่ง วิญาณท่าน กลับสู่ฟ้า เทพน�ำพา ใจผู้น้อย ถึงท่านหนา จะด�ำเนิน ตามรอยแห่ง ปฏิปทา หลิวมู่ฮวา เคารพท่าน นิรันดร… 21
ด้วยความระลึกถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของหลิวฐันจู่ ที่เปรียบเสมือน ครอบครัวและคุณยายที่เมตตาผู้น้อยมากว่า 21 ปีที่ได้พึ่งใบบุญ และได้รับ ความเมตตาสั่งสอนเหมือนลูกหลานของท่าน ในสถานธรรมฉือเซวียน และครัวเจเซนต์หลุยส์สถานที่เล็กๆ แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักความอบอุ่น ผู้น้อยจะด�ำเนินตามรอยแห่งความเมตตา ปัญญา กล้าหาญ ของหลิวฐันจู่ ตลอดชีวิตนี้ขอให้หลิวฐันจู่ กลับคืนสู่แดนอนุตตรภูมิไปอยู่กับ เฉียนเหยริน ทั้งสามท่าน และท่านเจียเอวี๋ยนเจินเซียน.... น้อมส่งท่านกลับคืนฟ้าเบื้องบน ด้วยรักและอาลัยยิ่ง ผู้น้อยหลิวชุนเต๋อ (ติ๊ก สุวิทยา มหาแดง) ตัวแทนกลุ่มสถานธรรม จินเต๋อ จินไท่ จ.แพร่ และ สถานธรรมชั่วคราวศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย 22
หลิวฐันจู่ท่านเป็นผู้มีพลังอันยิ่งใหญ่ จุดมุ่งหมายแน่วแน่ชัดเจน ไม่เคยเปลี่ยนแปลงท่านไม่เคยย่อท้อ มีลมหายใจที่เปี ่ยมไปด้วยธรรม เพื่อธรรม ครัวเจเซนต์หลุยส์เป็นอีกสถานที่หนึ่งที่หลิวฐันจู ่ท ่านได้วาง รากฐานไว้ เพื่อวงการธรรมและญาติธรรมให้ได้มีอาหารเจที่บริสุทธิ์ทาน ผู้น้อยกราบขอบพระคุณหลิวฐันจู่มากๆค่ะ เบื้องบนเมตตาท ่านได้บรรลุปณิธานกลับสู ่เบื้องบนอ้อมกอด องค์มารดา และพระอาจารย์แล้ว ผู้น้อยรู้สึกส�ำนึกคุณและร่วมน้อมส่ง หลิวฐันจู่ ด้วยความเคารพรัก ผู้น้อย ระหง ตาลัย 23
รักเจ้สุดหัวใจ (กัลยา แซ่จัง) ร่มโพธิ์ใจ ได้จากลา อาลัยรัก สอนเย็บจักร ท�ำอาหาร หวานคาวได้ เป็นนายจ้าง ดั่งแม่รัก ถักสายใย ผูกพันใจ สี่สิบปีที่ดูแล สอนกันไป ทะเลาะไป ในวันนั้น เติมความฝัน ที่ซวนเซ เจ้คือแม่ ให้ความรัก ให้แรงใจ ไม่ผันแปร คอยดูแล กันและกัน ถึงวันลา ตะวันลับ เหมือนนอนหลับ กลับสวรรค์ ที่แห่งนั้น สุขสงบ สู่ภพหน้า ขอบคุณเจ้ทุกคืนวัน ที่ผ่านมา ส่งนางฟ้า สู่สวรรค์ นิรันดร... - ภา - 24
วันที่ 21 ธันวาคม 2566 ผู้น้อยได้รับข่าวการจากไปของ หลิวฐันจู่ (มู่ฮวา) สร้างความตกใจกับเหล่าผู้น้อย ท่านเปรียบเสมือนต้นไม้ใหญ่ ที่บังเงา ให้กับเหล่าผู้น้อย ในสถานธรรมฉือเซวียน และแตกกิ่งก้านเติบโต ไปยังอีกหลายสถานธรรม มีจินจง จินเอวี๋ยน จินโจว จินทง จินไท่ ฯลฯ ตั้งแต ่ผู้น้อยได้เข้ามาวงการธรรม ได้เห็นท ่านเป็นแบบอย ่าง ในการบ�ำเพ็ญ ในความเป็นคนขยัน อดทน มีเมตตา แม้ท่านจะสูงวัยแล้ว ก็ยังคงเปิดร้านอาหารเจไว้ส่งเสริมญาติธรรมและผู้คนได้ฝึกฝนทานเจ ผู้น้อยได้มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้การท�ำอาหารเจ ว่าเขาท�ำยังไงก็จากที่นี่ และ ที่ลืมไม่ได้เลยเมื่อคราที่บิดาของผู้น้อยท�ำสถานธรรมชั่วคราว ที่จังหวัดสระบุรี ท่านยังเมตตามอบเงินจ�ำนวนหนึ่งไว้ไปซื้อของอุปกรณ์มาใช้ในห้องพระ ผู้น้อยขอน้อมกราบส�ำนึกในพระคุณท่านเสมอ ที่มีต่อผู้น้อยของท่านทุกคน ขอน้อมกราบส่งดวงจิตธรรมญาณ ของหลิวฐันจู่ (มู่ฮวา) กลับคืน สู่ฟ้าเบื้องบนสู่อ้อมกอดของเหลาหมู่ พระอาจารย์ พระอาจาริณี ด้วยความเคารพรักและอาลัยยิ่ง พรพรรณ สุวรรณพงษ์ 25
แบบอย่างที่ดีมีค่ากว่าค�ำสอน หลิวฐันจู่ เป็นแบบอย่างให้ผู้น้อยเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ และ ลงแรงในการปฏิบัติบ�ำเพ็ญธรรมอย่างสุดจิตสุดใจ แรกๆ ผู้น้อยจะมาชั้น ศึกษาธรรมสาย พอจบชั้นก็รีบกลับบ้านเลย แต่เพราะเห็นท่านมาคอย ดูแลใส่ใจเรื่องอาหารการกินให้เหล่าผู้น้อยทุกครั้งที่มีชั้นเรียน และมีการ ถ่ายทอดธรรม ผู้น้อยก็เลยพยายามมาให้เร็วขึ้นเพื่อจะได้ช่วยเตรียมงาน และคอยเก็บงานเมื่อจบชั้นบ้าง หลิวฐันจู่ก็จะคอยส่งเสริม ชี้แนะผู้น้อย ในงานต่างๆ เพื่อจะได้ปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ผู้น้อยชมว่าเสื้อผ้าที่ท่าน สวมใส่ออกแบบตัดเย็บ สีสันสดใสสวยงาม เรียบร้อยเสมอ ท่านตอบว่า เสื้อผ้านี้นานหลายปีแล้วยังใช้ได้ ท่านเป็นผู้ที่มีความมัธยัสถ์ และถนอม รักษาข้าวของเครื่องใช้ได้เป็นอย่างดี ด้วยวัยที่สูงขึ้น แม้มีปัญหาสุขภาพบ้างแต่ท่านก็ไม่เคยย่อท้อ ยังคง ขึ้นบันไดมาไหว้พระที่ห้องพระชั้นสามอย่างตรงเวลาและสม�่ำเสมอ ท่านจึง เป็นแบบอย่างให้ผู้น้อยเห็นถึงความมุ่งมั่นตั้งใจ ด้วยความศรัทธาและวิริยะ ของท่าน วัยหรือสุขภาพก็ไม่เป็นอุปสรรค ผู้น้อยขอน้อมกราบส�ำนึกในความเมตตาที่ท่านคอยดูแลพวกเรา มาโดยตลอด ด้วยจิตส�ำนึกคุณ ผู้น้อย กุนทินี 26
ร�ำลึก หลิวฐันจู่ ผู้ดูแลงานเบื้องหลังสถานธรรม วันสงกรานต์ ปี2534 ได้เริ่มต้นงานประชุมธรรม ที่สถานธรรม ไท่อินแห่งใหม่ ซึ่งเป็นอาคารตึกแถวสามชั้นครึ่ง ย่านดาวคะนอง ฝั่งธนบุรี โดยการลงแรงควบคุมดูแลของ หลิวฐันจู่ (อาอี๊กัลยา แซ่จัง), อาจารย์ จวงเตี่ยนฉวนซือ (เจียเอวี๋ยนเจินเซียน) และญาติธรรมอาวุโสในเวลานั้น.. โดยส่วนตัวของผู้น้อย ได้ เข้าไปอาศัยตั้งแต่วันเปิดสถานธรรม และเติบโตไปพร้อมกับงานธรรม ในยุคทศวรรษที่สอง ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เมตตาว่า “สิบปีสอง ธรรมะเริ่ม ตั้งหลัก เหงื่อน�้ำตาเท่ากัน” เนื่องจาก สถานธรรมใหม ่แห ่งนี้ ได้ใช้เป็น ศูนย์กลางแพร่ขยายงานธรรม ไปยังภูมิภาคต่างๆ อย่างรวดเร็ว ภายในเวลา เพียง 13 ปีก็ไม่เพียงพอกับการรองรับญาติธรรม ที่มีเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย จนต้องย้ายมาที่อ่อนนุชในปัจจุบัน.. ช่วงเวลานั้น หลิวฐันจู่ ยังได้ จัดสร้างสถานธรรมจินจง จ.พิจิตร ซึ่งเป็นทาวเฮ้าส์ขนาดเล็ก แล้วซื้อ ห้องติดกันเพิ่มขึ้นมา ท�ำให้ต้องมี การต่อเติมดัดแปลง เพื่อใช้ประโยชน์ ทุกส่วนอย่างเต็มพื้นที่ นับเป็นต้น แบบให้ผู้น้อยได้ศึกษาเรียนรู้ แล้วน�ำไปปรับใช้กับการสร้างสถานธรรมฮุ่ยจื้อ ซึ่งถูกจ�ำกัดด้วยแบบแปลง ห้องแถวเช่นเดียวกัน.. 27
เมื่อครั้งเริ่มต้นบุกเบิกงานธรรมไปยัง ต.จันดีอ.ฉวางจ.นครศรีธรรมราช ต้องเช่าบ้านไม้สองชั้น ใช้เป็นสถานธรรมชั่วคราว ช่วงนั้นยังไม่มีบุคลากร ช่วยงาน หลิวฐันจู่ท่านต้องจัดการงานเบื้องหลังในทุกเรื่อง รวมทั้งเป็น “พิธีกร” ช่วงที่ท�ำพิธีเปิดสถานธรรมด้วย.. ท่านเป็นครูผู้น�ำการออกก�ำลังกายแบบจีน ในสวนลุมพินีจึงท�ำให้ ท่านมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงมาก ท่านมีลูกศิษย์กลุ่มใหญ่จนตั้งเป็นชมรม ออกก�ำลังกาย ทั้งยังได้ผลิตสื่อวิดีโอ. เพื่อเผยแพร่ส่งเสริมให้คนออกก�ำลังกาย ท่านบอกผู้น้อยเสมอว่า “..ต้องออกก�ำลังกายด้วยนะ จะได้เดินงานธรรม ได้นานๆ..” ท่านได้เปิดร้านขายอาหารเจ ในซอยเซนต์หลุยส์ ซึ่งเป็นย่านธุรกิจ เพื่อจะส่งเสริมให้ญาติธรรม และคนทั้งหลายได้ทานเจสะดวกขึ้น ได้เห็น ท่านที่ร้าน ด้วยใบหน้ายินดีและมีความสุข แม้จะต้องท�ำงานหนัก โดยไม่ได้ ก�ำไรอะไรมากมาย.. ตลอดช่วงเวลา 30 กว่าปีเหล่าผู้น้อยล้วนประจักษ์ถึงความศรัทธา จริงใจ มุ่งมั่นในการแพร่ธรรม เป็นผู้อยู่เบื้องหลังดูแลงานสถานธรรม ส่งเสริม คนในครอบครัว จนมีเตี่ยนฉวนซือถึงสองท่าน ลูกหลานเติบโตขึ้นมาเป็น เจี่ยงซือฐันจู่ ท่านเป็นแบบอย่างของผู้ที่เปี่ยมไปด้วย “ข้อแกร่งแรงมุ่ง” ไม่ท้อถอย แม้พบกับข้อทดสอบมากมาย ท่านข้ามผ่านปัญหาอุปสรรค ด้วย ทัศนคติด้านบวกมาโดยตลอด ทั้งยังส่งเสริมให้ก�ำลังใจ ผู้น้อย และวางรากฐานสร้างสถานธรรมอีกมากมาย หลายแห่ง บุญกุศลมิอาจประมาณ.. ขอน้อมกราบส่งหลิวฐันจู่ ด้วยความอาลัยและ เคารพอย่างสูง ผู้น้อย นงนุช ศุภวิมลพันธุ์ 25/12/66 28
“บันทึกสิ่งล�้ำค่า จากคุณแม่กัลยา (หลิวมู่ฮวาฐันจู่) ส่งต่อแด่อนุชนคนรุ่นหลัง ด้วยความรัก และ ปรารถนาดี” 29
1. ค�ำสอนจากประสบการณ์ชีวิตของท่าน ที่ได้เคยแบ่งปันไว้ในอดีต (ปี พ.ศ. 2549 และ 2551) 30
31
EP1 ฉางโซ่วชี่กงคืออะไร ประโยชน์และค�ำอธิบายแต่ละท่า (15 นาที) EP2 คลิปน�ำเล่นจริงตั้งแต่ต้นจนจบ บทสัมภาษณ์ผู้ที่เล่นจริง และค�ำแนะน�ำ (52 นาที) ค�ำอวยพรจากอาจารย์กัลยา : “ขอให้ทุกๆ ท่านสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว” 2. แนะน�ำการออกก�ำลังกายฉางโซ่วชี่กง 32
วิธีการออกก�ำลังกาย “ฉางโซ่วชี่กง (ชี่กง หรือ คี้กง)” มี 12 ท่า ทุกท ่าต ่อไปนี้สามารถช ่วยป้องกันและบรรเทาโรคเบาหวาน อัมพฤกษ์ อัมพาต ความดันโลหิตสูง และท�ำให้สมองดีแขนขาเอวหลัง ไม่ปวดเมื่อย เดินเหินสบาย ค�ำแนะน�ำ : ควรดูคลิปโดยสแกน QR code ในหน้า 30ประกอบ จะท�ำให้เข้าใจและเห็นภาพได้อย่างชัดเจน สามารถท�ำตามได้อย่างถูกต้อง และง่ายดาย 1. ท่าคี้กงมาตรฐาน ยืนเท้าห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรง ผ่อนคลายทุกส่วน ของร่างกาย ใบหน้ามีรอยยิ้ม วางมือไว้ที่ข้างสะดือทั้ง 2 ข้างเป็นรูป สามเหลี่ยมคว�่ำ หายใจตามสบาย ส�ำหรับผู้ฝึกใหม่ควรปฏิบัติอย่างค่อยเป็น ค่อยไป ท่านี้เน้นการหายใจ ช่วยบริหารปอดและหัวใจ ช่วยให้ลมปราณ เดินสะดวก เลือดสูบฉีดทั่วร่างกาย 2. ท่าพะกง ยืนให้เท้าห่างกันประมาณไหล่ครึ่ง ปลายเท้าชี้ตรง ย่อเข่าเล็กน้อย สองแขนแกว่งไปมาตามธรรมชาติบิดแต่เอว ขาไม่โยกตาม โดยเหวี่ยงไป ทางซ้ายและขวาข้างละ 30 ครั้ง จากนั้นเหวี่ยงมือขึ้นใช้สันมือสับที่ต้นคอ ซ้ายขวาข้างละ 30 ครั้ง เหวี่ยงตบหลังข้างละ 30 ครั้ง แล้วตบลูบไหล่ลง มาเพื่อตบบริเวณหน้าอกข้างละ 30 ครั้ง ยกมือขึ้นสูงเหนือหัวแล้วทิ้งมือ ลงตบที่ท้องน้อยใต้สะดืออีกข้างละ 30 ครั้ง พักหายใจตามสบาย 33
ท่านี้ช่วยยืดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ป้องกันการเกาะของหินปูน บริเวณหัวไหล่ การอุดตันในเส้นเลือด และความดันโลหิตสูง ช่วยย่อยอาหาร ได้ดีท้องไม่อืด 3. ท่าพะกง (ต่อ) เริ่มตบทุกส่วน ส่วนละ 30 ครั้ง เริ่มตั้งแต่ศีรษะ แก้ม หัวไหล่ ต้นแขนถึงข้อมือแต่ละด้าน ก้มโค้งตบหลังเอวเหนือก้นบริเวณไต จากนั้น ยืนแยกเท้าชูมือขึ้นสูงทิ้งสันมือสับหว่างต้นขาทั้งสองข้าง ก้มตัวใช้หลังมือ ตีที่ข้อพับหลังเข่า แล้วใช้ฝ่ามือตบไล่ขา เข่า น่องลงไปให้ทั่ว พักหายใจ ตามสบาย ท่านี้ช่วยให้สมองปลอดโปร่ง ไตแข็งแรง ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ทั้งตัว ท�ำให้ไม่ปวดเมื่อย เดินเหินคล่องแคล่ว 4. ท่าซงซี้จี ยืนให้เท้าห่างกันประมาณก้าวครึ่ง ย่อเข่ายกมือขึ้นเหนือศีรษะ แล้วทิ้งมือลงตบที่ท้องน้อยใต้สะดือประมาณ 30 ครั้ง ยกเท้าเตะหลังก้น พร้อมกับใช้ปลายนิ้วของทั้งสองมือจิกที่ท้องน้อยเพื่อคลายจุด จากนั้นสั่น เขย่ามือส่วนล่างแล้วค่อยๆ เขย่าขึ้นมาเสมอไหล่ ท�ำขึ้นลง 5 รอบ ชกมือ ไปด้านข้างแรงๆ แล้วถีบเท้าซ้ายขวาไปด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลัง ยกมือขวาขึ้นเหนือคิ้วแล้วเอี้ยวตัววาดมือไปด้านนอก ตามองตามฝ่ามือ แล้วตามด้วยมือซ้ายท�ำเช่นเดียวกันสลับไปมาเหมือนร่ายร�ำประมาณ 10 ครั้ง สุดท้ายสั่นเขย่าทั้งตัว ชูสองมือขึ้นสุดแล้วค่อยๆ หย่อนมือลงด้านข้าง ผ่อนคลายแขนขา พักหายใจตามสบาย ท่านี้บริหารร่างกายทั้งภายในและภายนอก ช่วยลดไขมันตามล�ำตัว ท�ำให้ร่างกายเบาสบาย 34
5. ท่าจ๋วงแก่ หน้าตรงไหล่นิ่ง พับคอไปทางซ้ายขวา ก้มเงย สะบัดหันหน้าไป ทางซ้ายขวา อย่างละ 20 ครั้งจากนั้นถูฝ่ามือให้ร้อน แล้วประคบลูบใบหน้า ให้ทั่ว พักหายใจตามสบาย ท่านี้ท�ำให้เส้นคอไม่ตึงไม่เมื่อย ใบหน้าสดใสดูอ่อนกว่าวัย 6. ท่าไคซัว ยืนเท้าห่างกันประมาณไหล่ครึ่ง ปลายเท้าชี้ตรง ย่อเข่าเล็กน้อย งอข้อศอกยกมือขึ้นเสมอหน้า ก�ำมือหลวมๆ ยกแขนตั้งฉากแล้วแบะออกไป ด้านข้างจนสุด รวม 5 ครั้ง สุดท้ายชูแขนขึ้นสุด แบมือแล้วหย่อนมือลง ด้านข้างล�ำตัว ยกขึ้นลง 5 ครั้ง แล้วพัก ท่านี้บริหารปอด หัวใจ กล้ามเนื้อหลังและสันหลัง ไม่ให้ปวดเมื่อย 7. ท่าไหว้พระ ยืนเท้าห่างกัน 1 ช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรง ยกมือขึ้นพนมหว่างอก ย่อเข่าลง แล้วแขม่วท้องขมิบก้น กระตุกขึ้นพร้อมกับยกหน้าท้องยืดตัวตรง ท�ำประมาณ 60 ครั้ง หายใจเข้าออกตามสบาย สุดท้ายชูแขนขึ้นสุด แล้วหย่อนมือลงด้านข้างล�ำตัว ท่านี้บริหารกระเพาะล�ำไส้และไตให้แข็งแรง ท�ำให้ไม่ปัสสาวะบ่อย การขับถ่ายสะดวก 35
8. ท่าเข่งเทียง ยืนตรงเท้าชิดกัน ประสานมือโดยแขนตั้งเป็นวงไว้ด้านหน้า พลิก หงายฝ่ามือยกขึ้นเหนือศีรษะ ยืดแขนเหยียดให้สุดพร้อมกับเขย่งเท้าค้างไว้ 20 วินาทีท�ำ 5 ครั้ง สุดท้ายแยกมือออกแล้วหย่อนมือลงด้านข้างล�ำตัว หายใจตามสบาย ท่านี้ยืดเส้นเอ็นทั้งตัว ท�ำให้ร่างกายสบายไม่ปวดเมื่อย ผู้สูงอายุ ฝึกแล้วจะไม่เตี้ยลง หลังไม่ค่อม 9. ท่าซงซิง ยืนเท้าแยกกว้างห่างกัน 2 ช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรง ประสานมือ โดยแขนตั้งวงด้านหน้า พลิกหงายฝ ่ามือยกขึ้นเหนือศีรษะ แอ ่นตัวไป ด้านหลังแล้วโน้มตัวลงไปข้างหน้าโดยให้ศีรษะเชิดเงยขึ้น แขนขาเหยียดตรง มือแตะพื้น ท�ำทีละข้าง คือข้างหน้า ข้างขวา และข้างซ้าย ข้างละ 3 ครั้ง สุดท้ายหันหน้าตรง ยืดแขนแอ่นตัวไปด้านหลัง 20 วินาทีแล้วกลับมา ตัวตรง วางมือลง พักหายใจตามสบาย ท่านี้บริหารช่วงเอว หลัง และล�ำตัว ท�ำให้ไม่ปวดเมื่อย แขนขา ไม่ตึง ส�ำหรับผู้ฝึกใหม่ มือแตะไม่ถึงพื้นไม่เป็นไร แต่เข่าให้ตรงไว้ไม่งอ 10. ท่าซงซี้จี (ท�ำเหมือนท่าที่ 4 อีกครั้ง) 36
11. ท่าห่วยส่วง ยืนเท้าห่างกัน 2 ช่วงไหล่ ปลายเท้าชี้ตรง ยืดเข่าให้ตึง วาดแขน ไปทางซ้ายและขวา ค่อยๆ บิดเอว ให้มือข้างหนึ่งแตะพื้นของอีกฝั่ง (เช่น มือซ้ายแตะพื้นตรงเท้าขวา) มืออีกข้างหนึ่งเหยียดตรงชี้ฟ้า แหงนหน้า มองปลายนิ้วที่ชี้ฟ้า ค้างไว้20 วินาทีท�ำสลับขวาซ้าย ข้างละ 3 ครั้ง ท�ำช้าๆ ไม่เกร็ง สุดท้ายหันหน้าตรง ยืดแขนแอ่นตัวไปด้านหลัง 20 วินาที แล้วกลับมาตัวตรง วางมือลง พักหายใจตามสบาย ท่านี้บิดเอวตลอดทั้งตัว จะช่วยยืดเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อ ท�ำให้ ไม่ปวดหลัง รู้สึกสบาย 12. ท่าจ�่ำกง ยืนเท้าห่างกันประมาณไหล่ครึ่ง ปลายเท้าชี้ตรง ย่อเข่าเล็กน้อย พนมมือเสมอหน้าอก มีสมาธิท�ำใจให้สบาย สูดหายใจลึกๆ โดยหายใจ เข้าท้องแฟบ หายใจออกพองลมตามสบาย ประมาณ 30 ครั้ง สุดท้าย ยกมือชูขึ้น คลายฝ่ามือออกหย่อนลงด้านข้างล�ำตัว 5 ครั้ง ท่านี้ท�ำให้เลือดลมเดินสะดวก หายเหนื่อย สบายทั้งกายและใจ 37
“รวมบทเพลงร�ำลึกและเทิดพระคุณ” 媽媽好 (มามาห่าว) 作詞:李雋青 作曲:劉宏遠 世上只有媽媽好 ซื่อซั่งจื๋อโหย่วมามาห่าว ทั่วหล้ามีเพียงมารดาดีงาม 有媽的孩子像個寶 โหย่วมาติไหจื่อเซี่ยงเก้อเป่า บุตรใดมีมารดาดังแก้วล�้ำค่า 投進媽媽的懷抱 幸福享不了 โถวจิ้นมามาติไฮว๋เป้า ซิ่งฝูเสี่ยงปู้เหลี่ยว เมื่อได้แนบซบอ้อมอกมารดา มากล้นด้วยวาสนาบุญ 沒有媽媽最苦惱 เหมยโหย่วมามาจุ้ยขูเหน่า ไม่มีมารดาแสนเศร้าตรม 沒媽的孩子像根草 เหมยมาติไหจื่อเซี่ยงเกินเฉ่า บุตรใดไร้มารดาดังหญ้าแห้งเดียวดาย 離開媽媽的懷抱 幸福哪裡找 หลีไคมามาติไฮว๋เป้า ซิ่งฝูหนาหลีเจ่า ไกลอ้อมกอดมารดาที่แสนอบอุ่น วาสนาหาจากที่ใด 世上只有媽媽好 ซื่อซั่งจื๋อโหย่วมามาห่าว ทั่วหล้ามีเพียงมารดาดีงาม 有媽的孩子不知道 โหย่วมาติไหจื่อปู้จือเต้า บุตรใดมีมารดาทว่ารู้ไม่ 要是他知道 夢裡也會笑 เหย้าซื่อทาจือเต้า เมิ่งหลีเหย่ฮุ่ยเซี่ยว ถ้าหากได้เข้าใจ ย่อมยิ้มได้แม้ในฝัน สแกนเพื่อฟังเพลง 38
สแกนเพื่อฟังเพลง 妈妈我爱你 (มามาหว่ออ้ายหนี่) 作詞:李昕融 作曲:李昕融 小小的纸飛機 飛過青草地 เสียวเสี่ยวเตอะจื่อเฟยจีเฟยกว้อชิงเฉ่าตี้ 甜甜的微風下 站着我和你 เถียนเถียนเตอะเหวยเฟิงเซี่ย จั้นเจอะหว่อเหอหนี่ 温暖的目光 笑容多甜蜜 เวินหน่วนเตอะมู่กวง เซี่ยวหยงตัวเถียนมี่ 摘朵花兒把它送给你 ไจตั่วฮวาเอ๋อร์ป่าทาซ่งเก๋ยหนี่ 小小的纸飛機 帶着夢遠行 เสียวเสี่ยวเตอะจื่อเฟยจี เฟยเจอะเมิ่งเอวี่ยนสิง 高高的屋簷下 你等在那里 เกาเกาเตอะอูเหยียนเซี่ย หนีเติ่งไจ้น่าหลี่ 擁擠的人群 奔跑的四季 หยงจี่เตอะเหยินฉวิน เปินเผ่าเตอะซื่อจี้ 你在哪里家就在哪里 หนี่ไจ้หนาหลี่เจียจิ้วไจ้หนาหลี่ 媽媽我愛你 歌聲送给你 มามาหว่ออ้ายหนี่ เกอเซิงซ่งเก๋ยหนี่ 讓我擁抱着你 永遠不分離 ยั่งหว่อยงเป้าเจอะหนี่ หยงเอวี่ยนปู้เฟินหลี 媽媽我愛你 祝福送给你 มามาหว่ออ้ายหนี่ จู้ฝูซ่งเก๋ยหนี่ 願你永遠快樂 永遠都美麗 เอวี้ยนหนี่หยงเอวี่ยนไคว่เล่อ หยงเอวี่ยนโตวเหม่ยลี่ 39
เพลง คือหัตถาครองพิภพ ท�ำนองและเนื้อร้อง แนน วาทิยา สองมือที่ดูนุ่มนวลอ่อนโยน สองมือที่ดูช่างบอบบางอย่างนั้น สองมือที่ดั่งไม่มีความส�ำคัญ คือสองมือที่ท�ำให้โลกหมุนไป แม้เพียงร่างกายนั้นเกิดเป็นหญิง แท้จริงหัวใจนั้นแกร่งยิ่งกว่าชาย ขอเพียงให้เป็นได้ดังที่ตั้งใจ จะทุกข์ทนเดียวดาย ไม่มีความส�ำคัญ บันดาลโลกหมุนเวียนวนไปตามจิตใจ น�ำพาให้เป็นไปตามต้องการ ทุกสิ่งเปลี่ยนแปรไปด้วยมือเธอเสกสรร ดังถ้อยค�ำประพันธ์ เปรียบเปรยพรรณนา ถึงชายได้กวัดแกว่ง แผลงจากอาสน์ ซึ่งอ�ำนาจก�ำแหงแรงยิ่งกว่า อันมือไกวเปลไซร้แต่ไรมา คือหัตถาครองพิภพจบสากล 40
บทเพลงร�ำลึก หลิวมู่ฮวาฐันจู่ ท�ำนองเพลง อี้เจี่ยนเหมย 喚我木花好徒賢 ฮวั่นหว่อมู่ฮวาห่าวถูเสียน 正直常抱性中端 เจิ้งจื๋อฉังเป้าซิ่งจงตวน 巾幗英豪仁不讓 จินกว๋ออิงหาวเหยินปู๋ยรั่ง 頒得青史永留傳 ปันเต๋อชิงสื่อหย่งหลิวฉวน 來臺遊走二月天 ไหลไถโหยวโจ่วเอ้อร์เอวี้ยเทียน 秋高氣爽攜手牽 ชิวเกาชี่ส่วงเสียโส่วเชียน 散心日近回家園 ซั่นซินยื่อจิ้นหุยเจียเอวี๋ยน 收心安放力加鞭 โซวซินอันฟั่งลี่เจียเปียน 借機臨壇勉徒弟 เจี้ยจีหลินฐันเหมี่ยนถูตี้ 鼓勵句句肺腑語 กู่ลี่จวี้จวี้เฟ่ยฝูอวี่ 師徒印心常相聚 ซือถูอิ้นซินฉังเซียงจวี้ 一線牽引回瑤居 อี๋เซี่ยนเชียนอิ่นหุยเหยาจวี 今功果滿登理域 จินกงกั๋วหมั่นเติงหลี่อวี้ 回師身邊團圓聚 หุยซือเซินเปียนถวนเอวี๋ยนจวี้ 德澤子孫福慧被 เต๋อเจ๋อจื่อซุนฝูฮุ่ยพี 不負天恩師德矣 ปู๋ฟู่เทียนเอินซือเต๋ออี่ 41
บทเพลงขับร้องเพื่อร�ำลึกคุณ ในพิธีเคารพศพ เพลง อุทิศเพื่อประชา ท�ำนองเพลง บ้านหลังเก่า เมฆน้อยลอยวนคลุมรอบกายมากมาย อยากคว้าไว้ท้ายคือ มิได้สิ่งใด คงเหลือน�้ำตาพร่างพรูกลางฤทัย ยืนอยู่เส้นเดี่ยวคาบดีชั่วไว้ ใบไม้ถึงครายังต้องมีร่วงรา ผลิชอนไชแทรกใบงดงามเพิ่มล้น ชีวิตทอดสืบสัจธรรมแยบยล ได้กล่าวชื่ออุทิศเพื่อประชา *ชีพไม่อยู่ยาวนาม เร่งรีบสร้างคุณงาม คุณค่าไม่ปล่อยผ่าน ล่วงเลย เพื่อแพร่ธรรมโปรดแผ่ เหนื่อยยากไม่ถอยท้อ แกะยังรอเรา น�ำทางหลากหลาย **มืดหมองราตรีราวดั่งเรามืดมน ธรรมชี้น�ำเห็นทางแสงแทน สลัว เร่งให้เทียนจุด ต่อกันไปทั้งปวง ทั่วหล้าเจิดจ้าเพราะธรรมบันดาล (ซ�้ำ *, **) เร่งใช้ธรรมก่อประกายน�ำทุกสิ่ง ทั่วหล้าเจิดจ้าเพราะธรรมบันดาล 42
劉木花壇主紀念歌 บทเพลงร�ำลึก หลิวมู่ฮวาฐันจู่ 一木一花深心耕 หน่อเนื้อบุปผาจากหัวใจ 調寄:雨中花 ท�ำนองเพลง อวี่จงฮวา (เพลงไตรรัตน์) 師云木花好徒賢 ซืออวิ๋นมู่ฮวาห่าวถูเสียน เมธีศิษย์รักขานเรียกศิษย์มู่ฮวา 正直常抱性中端 เจิ้งจื๋อฉังเป้าซิ่งจงตวน เถนตรงสง่าหัวใจธรรมเที่ยงแท้ 巾幗英豪仁不讓 จินกว๋ออิงหาวเหยินปู๋ยั่ง ศรีสตรีแกล้วแกร่งเพื่อธรรม ไม่ยอมแพ้ 頒得青史永留傳 ปันเต๋อชิงสื่อหย่งหลิวฉวน ทิ้งชื่ออยู่มิแปรนิรันดร์เนิ่นนาน 來臺遊走二月天 ไหลไถโหยวโจ่วเอ้อร์เอวี้ยเทียน เดือนสองจาริกทิวท่องไต้หวันเยือน 秋高氣爽攜手牽 ชิวเกาชี่ส่วงซีโส่วเชียน ฟ้าใสลมเคลื่อนพัดเย็นจูงมือประสาน 散心日近回家園 ซั่นซินยื่อจิ้นหุยเจียเอวี๋ยน รื่นรมย์พักใจผ่อนวันใกล้กลับเรือนคาม 收心安放力加鞭 โซวซินอันฟั่งลี่เจียเปียน ขอตั้งจิตน้อมตามลงแส้ว่องไว 借機臨壇勉徒弟 เจี้ยจีหลินฐันเหมี่ยนถูตี้ ยืมโอกาสพบแรงมอบส่งเสริมเจ้า 鼓勵句句肺腑語 กู่ลี่จวี้จวี้เฟ่ยฝูอวี่ ทุกค�ำที่กล่าวล้วนจริงทุกห้องใจ 師徒印心常相聚 ซือถูอิ้นซินฉังเซียงจวี้ อาจารย์ประทับจิตใจศิษย์โยงใยไว้ 一線牽引回瑤居 อี๋เซี่ยนเชียนอิ่นหุยเหยาจวี สายเชื่อมน�ำชักไปหวนคืนเบื้องบน 遵循恩師的囑咐 จุนสวินเอินซือตีจู่ฟู่ อาจารย์ฝากฝังท่านไม่ลืมสัญญา 賢良返鄉同胞渡 เสียนเหลียงฝั่นเซียงถงเปาตู้ หวนเหย้าเคหะรุดไปชี้ช่วยชน 不分你我全付出 ปู้เฟินหนีหว่อเฉวียนฟู่ชู ไม่มีเขาเราแบ่งสละไม่วอนผล 正義耿直德不孤 เจิ้งอี้เกิ่งจื๋อเต๋อปู้กู เที่ยงธรรมผึ่งผายตนคนเทิดจากใจ 43
一木一花默默耕 อี๋มู่อี้ฮวา มว่อ มว่อเกิง หน่อเนื้อบุปผาไถคราดเบื้องหลังท�ำ 一樹一果累累成 อี๋ซู่อี้กว่อเหลยเหล่ยเฉิง ต้นโตผลตกงดงามสะพรั่งไสว 一份誠心化原人 อี๋เฟิ่นเฉิงซินฮว่าเอวี๋ยนเหยิน พร้อมศรัทธาเต็มเปี่ยมเกลากล่อม เหล่าเวไนย 一線牽引萬眾登 อี๋เซี่ยนเชียนอิ่นวั่นจ้งเติง สายเชื่อมน�ำชักไปชนคืนเบื้องบน 不負天恩愿了還 ปู๋ฟู่เทียนเอินเอวี้ยนเหลี่ยวฮวั๋น ไม่ผิดต่อฟ้าลุล่วงปณิธาน 頒得青史功果滿 ปันเต๋อชิงสื่อกงกว๋อหมั่น ทิ้งชื่อคงอยู่เนิ่นนานสมบูรณ์ผล 德澤子孫福慧沾 เต๋อเจ๋อจื่อซุนฝูฮุ่ยจัน แสงคุณธรรมปรกหลานลูกอิงบุญล้น 道成天上立模範 เต้าเฉิงเทียนซั่งลี่หมัวฟั่น ธรรมส�ำเร็จเบื้องบนแม่พิมพ์สืบไป 44
45
46
47
48