การจดั การนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรคข์ องโรงพยาบาลเอกชน
ในประเทศไทย สูค่ วามเป็นเลศิ ดา้ นนวตั กรรม
และผลการดาเนนิ งานขององคก์ าร
Creative innovation management of private hospitals in Thaila
nd to excellence in innovation and Performance of
the organization.
กนกพร กระจา่ งแสง *
วิโรจน์ เจษฎาลกั ษณ์ **
จันทนา แสนสขุ ***
นักศึกษาปรญิ ญาเอก คณะวทิ ยาการจดั การ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร *
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะวทิ ยาการจดั การ มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร **
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. คณะบรหิ ารธุรกจิ และเทคโนโลยสี ารสนเทศ มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลสวุ รรณภมู ิ***
บทนา
จากกระแสโลกาภิวัฒน์ และการแข่งขันทางธุ รกิจทวีความรุนแรงมากขึ้น องค์การ
ต่าง ๆ ต้องมีการปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปล่ียนไป ส่งผลให้การดาเนินธุ รกิจใน
ปั จจุ บันต้องเผชิญกับความท้าทายในหลากหลายรูปแบบ นับเป็นเร่ืองท่ีท้าทาย
ความสามารถของธุรกิจในปัจจุ บนั เป็นอยา่ งมาก ซ่ึงการแขง่ ขันทางธุรกจิ ทเี่ กิดขึ้นนีเ้ ป็นผล
มาจากอทิ ธพิ ลของเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีการพัฒนา จึงทาให้องค์การต้องปรับตัวเพื่อ
ความอยู่รอดขององค์การ ทัง้ นีส้ ิ่งหน่ึงที่ภาคธุ รกิจนิยมใช้เพื่อสร้างข้อได้เปรียบในการ
แข่งขนั กค็ อื การสรา้ งนวัตกรรมใหแ้ กอ่ งค์กร และให้ความสาคัญต่อการนานวัตกรรมใหม่
เข้าสู่ตลาดก่อนคู่แข่งขัน โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือทาให้องค์กรเกิดความได้เปรียบในการ
แข่งขนั และความได้เปรียบนนั้ จะเป็นความได้เปรยี บที่คงอยู่ต่อไปในระยะยาว
จากเหตุผลดังกล่าว ส่งผลให้แนวคิดการบริหารธุ รกิจในยุ คปัจจุ บัน มุ่งเน้นให้
ความสาคัญกับการมีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน แต่ยังไม่มี
องค์การใดที่ให้ความสาคัญกับกระบวนการท่ีก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์เพ่ือสร้าง
นวัตกรรมให้กับองค์การ ดังนนั้ หากองค์การใดสามารถทาใหเ้ กิดกระบวนการทางความคิด
ที่ก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ได้ องค์การนัน้ ก็จะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ออกสู่ตลาดอย่าง
สมา่ เสมอ และสามารถสรา้ งความไดเ้ ปรียบทางการแข่งขนั ได้อยา่ งยงั่ ยนื ตอ่ ไป
บรบิ ท :
ธุ รกิจโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย
จากแผนพัฒนาประเทศตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับท่ี 12
พ.ศ.2560-2564 มีแนวทางกาหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ เพื่อเสริมสร้างขีด
ความสามารถทางการแข่งขันเชิงรุกให้กับอุ ตสาหกรรมการบริการท่ีมีศักยภาพ โดย
ส่งเสริมการลงทุน และการพัฒนาการบริการสุขภาพ เพื่อเสริมสร้างให้ผู้ประกอบการ
สามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงท่ีเกิดขึ้นในปัจจุ บันได้ โดยมีการกาหนดให้มี
มาตรฐานธุรกิจภาคบรกิ ารตามมาตรฐานสากล
ทัง้ นีเ้ นื่องจากโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทยมีอัตราค่ารักษาพยาบาลท่ีถูกกว่า
เมื่อเทียบกบั ประเทศทม่ี ีมาตรฐานการรกั ษาในระดับเดยี วกนั ประกอบกบั มปี ระสทิ ธภิ าพด้าน
การรักษาและคุณภาพการบรกิ ารที่ดีสงู ตดิ อนั ดับโลก จึงทาใหร้ ัฐบาลได้กาหนดนโยบายให้
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการแพทย์แห่งเอเชีย (Medical hub of Asia) ทาให้ความ
ต้องการทางการแพทย์มีเพิ่มมากขึ้นทัง้ จากคนไทย และชาวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการ
รักษาพยาบาลในประเทศ ดังนัน้ ธุ รกิจโรงพยาบาลเอกชนจึงจาเป็นต้องพัฒนาและ
ยกระดบั มาตรฐานการบริการทางการแพทย์ เพื่อใหผ้ ูเ้ ขา้ รับบริการมนั่ ใจในความปลอดภัย
และเช่ือมนั่ ในคุณภาพของการดูแลรักษาพยาบาล ซ่ึงการมีนวัตกรรมนับเป็นสิง่ สาคัญท่ี
ช่วยสรา้ งความเชื่อมนั่ ใหเ้ กิดการตดั สนิ ใจเลอื กเขา้ รับบรกิ าร และนนั้ ก็หมายถึงองค์การจะ
มีผลการดาเนินงานทดี่ ีขนึ้ ด้วย
จะดกี วา่ ไหมถา้ องคก์ ารสามารถผลติ
คิดค้น และสร้างนวัตกรรมใหมๆ่
ไดอ้ ยา่ งตอ่ เน่อื ง ....
การจัดการนวัตกรรมเชิงสรา้ งสรรค์
โดยทวั่ ไปหากพู ดถงึ ความคิดสร้างสรรคม์ ักเป็นความแปลกใหม่หรือผลลัพธ์
ที่เกดิ ขึน้ จากความคดิ ซ่ึงผลลัพธ์ที่เกิดขนึ้ จากความคดิ นนั้ สง่ ผลในแง่ต่าง ๆ เช่น เกิดสิง่
ใหม่ท่ีพฒั นาขึน้ จากความรูค้ วามสามารถ ทักษะ ประสบการณ์ ความคิดสรา้ งสรรค์ และ
นาเอาเทคโนโลยีมาปรบั ใช้ในงานให้เหมาะสมเทา่ นัน้
แต่สาหรับการจัดการนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการ
จดั การโดยรวมขององค์การ ในการสร้างและปรับเปลี่ยนแนวคิดเพื่อสร้างสรรค์สิง่ ใหม่ ๆ
เพื่อให้เกิดนวัตกรรมที่ส่งผลต่อผลการดาเนินงานขององค์การ รวมถึงเป็นการเพิ่ม
ความสามารถในการสรา้ งความได้เปรียบทางการตลาด และเพือ่ ตอบสนองความต้องการ
ของลูกค้า โดยการจัดการนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ไม่ได้จากัดอยู่ท่ีการคิดค้นสิ่งใหม่
นวัตกรรมท่ีเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ หรือการบริการท่ีแตกต่างจากเดิม แต่การจัดการ
นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์สาหรับโรงพยาบาลเอกชน ยังรวมถึงการนาเอาเทคโนโลยีมา
บูรณาการปรับใช้เพ่ือแก้ปัญหา และส่งเสริมกระบวนการทางานในส่วนต่าง ๆ เพ่ือสร้าง
ความพึงพอใจให้กับผูเ้ ขา้ รับบริการ
องค์ประกอบของ
การจัดการนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์
การเปลย่ี นแปลงเชิงรุก
การจดั หลักสูตรอบรมให้พนกั งานในองคก์ ารให้มีแนวคิด วสิ ัยทศั น์
คิดไปข้างหนา้ คิดนอกกรอบ และช่วยกนั สรา้ งนวตั กรรม
การเรยี นรูส้ งิ่ ใหมอ่ ยา่ งตอ่ เนอื่ ง
การกระตุ้นใหพ้ นักงานทุกระดบั พรอ้ มท่จี ะเรียนรูอ้ ยู่ตลอดเวลา
ไม่ว่าจะเป็นการจดั อบรม หรอื จดั กจิ กรรมเพ่ือสง่ เสริมความรูต้ ่าง ๆ
การเชื่อมโยงอย่างสร้างสรรค์
การมองเห็นถึงความสัมพันธ์ของสิ่งต่าง ๆ และความสามารถใน
การจัดการข้อมูลของท่ีมีการคิดเป็นระบบ คิดอย่างบูรณาการ
ตลอดจนความสามารถเชื่อมโยงข้อมูล ข่าวสาร ความรู้และ
เทคโนโลยี
การบูรณาการเทคโนโลยี
การนาเอาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาบูรณาการกบั หน่วยงาน
ต่าง ๆ เพอื่ การจัดการทีม่ ปี ระสทิ ธิภาพมากขนึ้
ผลลัพธข์ องการจดั การนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์
1. ความเป็นเลศิ ด้านนวตั กรรม
การนาเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาใช้ในการให้บริการเพื่อให้การทางานมีประสิทธิภาพ
ทัง้ นี้เพ่ือตอบสนองความต้องการของผู้รับบริการ ทาให้ผู้รับบริการมีความสะดวกมากขึ้น
นอกจากนี้การที่องค์การมีความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมด้านต่าง ๆ ก็เป็นเครื่องมือท่ีช่ วยให้
องคก์ ารไดเ้ ปรียบในการแข่งขันไดอ้ ีกด้วย
นวัตกรรมการบริการ
ช่วยอานวยความสะดวกใหก้ บั ลกู ค้าทีใ่ ช้บริการ สร้างประสบการณ์
การบริการใหม่ท่ีมีคุณค่า แตกต่างจากคู่แข่ง แต่ตรงตามความ
ตอ้ งการของลกู ค้า และท่สี าคญั ไปกว่านนั้ คอื สร้างความพงึ พอใจ
ให้เหนือความคาดหมายให้กบั ลูกค้า
นวตั กรรมทางการแพทย์
เพ่ือลดความยุ่งยากในการทางานของแพทย์ พยาบาลและเจา้ หน้าที่
สง่ ผลใหก้ ารการรักษามปี ระสทิ ธิภาพมากขนึ้ และเพอื่ อานวยความ
สะดวกให้กับผูป้ ่ วย เช่น เพอื่ ประหยัดเวลาในการเดินทางมารกั ษา
ประหยัดคา่ ใช้จา่ ยในการรักษา
นวัตกรรมทางการตลาด
เพ่ืออานวยความสะดวก ในการเข้าถึงขอ้ มูล นาเสนอสนิ ค้า
และการบรกิ ารในรูปแบบต่าง ๆ และประหยัด
คา่ ใช้จ่ายหรือตน้ ทนุ การในการทาประชาสมั พันธ์
ผลลัพธข์ องการจัดการนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์
2. ผลการดาเนนิ งาน
ผลการดาเนินงานนัน้ แบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ผลการดาเนินงานที่เป็น
ตัวเงิน และไมใ่ ช่ตัวเงนิ หากเป็นตัวเงนิ ก็หมายถงึ ผลการดาเนินงานท่ีเป็นลักษณะของมูลค่า
จากการขายสินค้าหรือบริการ สาหรับผลการดาเนินงานท่ีไม่ใช่ตัวเงินจะวัดกันท่ีความพึง
พอใจของลูกค้า ภาพลักษณ์ขององค์การ การจดจาแบรนด์หรือชื่อเสียงในแง่ท่ีดี หรือใน
แงข่ องการเป็นผู้นาด้านนวัตกรรม
ผลการดาเนนิ งานทเ่ี ป็นตวั เงนิ
รายได้ท่ีเพิม่ ขึน้ อยา่ งต่อเนือ่ ง การรกั ษาส่วนแบ่งทางการตลาดไวไ้ ด้ และยงั
มอี ตั ราการเจริญเตบิ โตของส่วนแบ่งตลาดทม่ี ีแนวโนม้ สูงขึน้ อกี ดว้ ย
ผลการดาเนนิ งานท่ไี ม่เป็นตวั เงนิ
ความพงึ พอใจของผู้เขา้ รบั บรกิ าร และภาพลกั ษณ์ในการให้บรกิ ารทาง
การแพทย์ที่มี มาตรฐาน ทาให้เกดิ การกลบั มาใช้บรกิ ารซ้า
หากนวัตกรรม คอื ขององคก์ ารของคณุ
และคณุ คือ องคก์ ารทอ่ี ยากอยูร่ อดในสถานการณก์ าร
แข่งขันนคี้ ณุ ควรลงมอื ทา.....
(ปัจจยั แหง่ ความสาเรจ็ ของการจดั การนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์)
1 การรับรูค้ วามรุนแรงในการแขง่ ขัน
การทราบถึงสถานการณ์การแข่งขันในภาคอุ ตสาหกรรมเป็นอย่างดี ทัง้ จาก
คู่แข่งทางตรง และทางอ้อม ดังนัน้ เพื่อให้องค์การสามารถอยู่รอดในสภาวะการณ์ที่มีการ
แขง่ ขันสงู ผูบ้ ริหารสามารถปฏิบตั ิดงั นี้
การรับรู้แรงกดดนั ในภาคอุ ตสาหกรรม
การรับรู้ถึงความรุนแรงในการแข่งขัน และมีการปรับตัวโดยทีมผู้บริหารควรมี
การประชุมเพ่ือหารือเกี่ยวกับปัญหาการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา เพื่อระดมความ
คิดเห็นจากทุกหน่วยงานมากาหนดกลยุ ทธ์การแข่งขันใหม่ ๆ สร้างความ
แตกตา่ ง และพยายามสรา้ งนวัตกรรมหรอื นาเอาเทคโนโลยใี หม่ ๆ เขา้ มาใช้ในการ
สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าหรือผู้เข้ารับบริการ เพื่อรักษาความได้เปรียบ
ทางการแขง่ ขนั
การประเมนิ คแู่ ขง่
การตระหนกั รู้ถงึ สถานการณข์ องคแู่ ขง่ เป็นอย่างดี ไมว่ า่ จะเป็นคแู่ ข่งทางตรงและ
ทางออ้ ม และควรติดตามพรอ้ มวเิ คราะห์สถานการณข์ องคูแ่ ขง่ ขนั ตลอดเวลา
การรับรู้แรงกดดนั จากอานาจการตอ่ รองของผู ซ้ ื้อ
การรับรู้ถึงพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าในปั จจุ บันนั้นมีการ
เปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว เพราะในปัจจุ บันทุกคนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร
ต่าง ๆ ได้จากทกุ ท่ี ทกุ เวลา ดังนนั้ จงึ ไม่แปลกท่ีจะเกิดการเปรียบเทียบ ด้วยเหตุ
นี้จึงทาให้ผู้บริหารต่างต่ืนตัว ลุกขึ้นมาวางกลยุ ทธ์ใหม่ ๆ พร้อมทั้งพัฒนา
คุณภาพการบริการให้มีคุณภาพมากขึ้น เพ่ือตอบสนองความต้องการของ
ผูร้ ับบริการ และเพอื่ สร้างความแตกตา่ งจากคูแ่ ขง่ และเพื่อสร้างความได้เปรียบ
ทางการแขง่ ขัน
ปัจจยั แหง่ ความสาเรจ็ ของการจัดการ
นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์
2 ผูน้ าการเปลย่ี นแปลง
ผู้บริหารควรกระตือรือร้นในการรุกขึน้ มาปรับตัวเองให้เท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลง
ของสังคม และพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุ บัน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เรื่องเทคโนโลยี การเอา
เทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้เพ่ือแก้ปัญหาในงานที่มีอยู่ แต่ต่อให้ผู้นาหรือผู้บริหารเปล่ียนตัวเองมาก
เท่าไหร่แต่ถ้าผู้ตามหรือคนในองค์การไม่เปลี่ยนตาม การเปลี่ยนแปลงคงไม่เกิดประโยชน์ ดังนัน้
เพอ่ื ให้การเปลี่ยนแปลงนีเ้ กดิ ประโยชน์สงู สดุ กับองคก์ าร ผูน้ าหรอื ผูบ้ ริหารควรมีคณุ สมบัตดิ ังนี้
การมอี ทิ ธพิ ลอยา่ งมอี ุ ดมการณ์
ควา มสา มา ร ถขอ ง ผู ้บริหา รอ ย่า งหน่ึง ท่ี มีควา มจ า เ ป็ น
อย่างมาก คือ ความสามารถในการพลิกวิกฤตให้เกิดเป็นโอกาสของ
ผู้บริหาร เพราะหากผู้บริหารสามารถทาสิ่งนี้ได้ทีมหรือผู้ตามก็จะมี
กาลงั ใจและมนั่ ใจในตัวผูบ้ ริหาร นอกจากการเป็นผู้บริหารที่เก่งแล้ว การ
ยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผูร้ ว่ มงานดว้ ยกนั กเ็ ป็นอีกหน่ึงสิง่ ท่ีผู้บริหาร
ควรมี นอกจากนี้คาช่ืนชมท่ีมาจากใจของผู้บริหาร บางครั้งก็เป็น
กาลงั ใจสาคัญที่จะทาใหพ้ นักงานทุกคนพรอ้ มที่จะเดนิ และตอ่ สไู้ ปดว้ ยกัน
การกระตุ้นทางปัญญา
การกระตุ้นให้ผู้ร่วมงานได้คิดหาวิธีการใหม่ ๆ ในการทางาน พยามคิดนอก
กรอบใหม้ าก และไม่ตอ้ งกลัวกับผลลัพธ์ทจี่ ะเกดิ ขนึ้ เพราะถงึ แม้ว่าผลลัพธ์ของความคิดนัน้ จะ
สาเร็จหรือไม่ก็ตาม เพราะผู้บริหารจะไม่มีการตาหนิผู้ร่วมงานแต่จะช่วยกันเอาผลลัพธ์ที่เกิด
ขึ้นมาหาทางแก้ไขเพ่ือไปให้ถึงเป้าหมายที่วางไว้ นอกจากนีก้ ารยกย่องช่ืนชมผู้ที่คิดหาวิธีการ
ใหม่ ๆ หรือมีการสร้างนวัตกรรมในการทางาน และลองนาสิ่งที่คิดนัน้ มาปฏิบัติให้เกิดเป็น
รูปธรรม หรือเอาผลลัพธ์ท่ีได้จากการปฏิบัตินัน้ มาช่ วยกันพัฒนาต่อยอด เพื่อให้ได้มาซ่ึง
ความสาเร็จขององค์การ
ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ ของการจดั การ
นวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์
การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ
ผู้บรหิ ารควรมวี ธิ กี ารกระต้นุ และสร้างแรงจูงใจให้ผู้ร่วมงานคิดหรือสร้างสรรค์
เพือ่ ให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงในหนว่ ยงานทแี่ ตกต่างกันไป คาช่ืนชมที่ผู้บริหารมอบให้พนักงานที่
ทาดี มีความคิดสร้างสรรค์แล้ว นอกจากนี้การเรียกประชุ มเพื่ออธิบายให้พนักงานใน
องค์การได้เห็นภาพรวมของสถานการณ์ขององค์การ พร้อมกับสร้างความมั่นใจแก่
ผู้ร่วมงานว่าทุกคนสามารถท่ีจะทางานให้บรรลุเป้าหมายได้ พร้อมทั้งแสดงให้ผู้ร่วมงาน
มองเห็นภาพความสาเร็จในอนาคตได้อย่างชดั เจนแค่เพียงทุกคนปฏิบัติตามแนวทางหรือกล
ยุทธ์ทที่ างทมี บรหิ ารวางไว้ กจ็ ะทาให้ทุกคนในองค์การสามารถอยู่รอดและบรรลุความสาเร็จ
ตามเป้าหมายท่ีองคก์ ารวางไว้ได้
การคานงึ ถึงความเป็นปัจเจกบุคคล
การเปิ ดโอกาสให้ผู้ร่วมงานได้ใช้ความสามารถของตนเองในการทางานอย่าง
เต็มท่ีก่อน ก็นับเป็นอีกวิธีหน่ึงที่ผู้บริหารมักนามาใช้ และหากประสบปัญหาในการทางานก็
สามารถขอรับการสนับสนนุ ได้ นอกจากนผี้ ู้บรหิ ารยังมีการสนับสนุนให้ผู้ร่วมงานได้เรียนรู้สิ่ง
ใหม่ท่ที ้าทายความสามารถอย่างต่อเน่ือง เพ่ือไม่เกิดความเบ่ือหน่ายในการทางาน และยังให้
ความสนใจและเอาใจใสค่ วามกงั วล ความต้องการของพนักงานหรอื ผู้ร่วมงานอยูต่ ลอดเวลา
พร้อมส่งเสริมใหผ้ ู้รว่ มงานมีการพฒั นาตนเองอยา่ งสมา่ เสมอ โดยจะคานึงถึงความแตกต่าง
ระหว่างบุคคลทงั้ ดา้ นความตอ้ งการและความสามารถของแต่ละบุคคลดว้ ย
ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ ของการจัดการ
นวตั กรรมเชิงสร้างสรรค์
1 การรบั รูค้ วามรุนแรงในการแข่งขนั
การรบั รูแ้ รงกดดนั การประเมนิ คแู่ ขง่ การรบั รูแ้ รงกดดนั
ในภาคอุ ตสาหกรรม จากอานาจการตอ่ รองของผูซ้ ือ้
2 ผูน้ าการเปลยี่ นแปลง
การมีอิทธิพลอย่างมอี ุ ดมการณ์ การคานึงถงึ ความเป็นปัจเจกบุคคล
การกระตุ้นทางปัญญา การสรา้ งแรงบนั ดาลใจ
ปัจจัยแหง่ ความสาเรจ็ และผลลพั ธ์
ของการจัดการนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์
ผลการดาเนนิ งาน
ความเป็นเลิศดา้ นนวตั กรรม
นวตั กรรมการบรกิ าร นวัตกรรมทางการแพทย์ นวตั กรรมทางการตลาด
การจดั การนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์
การเรยี นรู้ การเชื่อมโยง
การเปลย่ี นแปลงเชิงรุก สงิ่ ใหมอ่ ยา่ งตอ่ เนอ่ื ง อยา่ งสรา้ งสรรค์ การบูรณาการเทคโนโลยี
ปัจจยั แหง่ ความสาเรจ็ ของการจดั การนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์
การรบั รูค้ วามรุนแรงในการแขง่ ขนั ผูน้ าการเปลยี่ นแปลง
ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบาย
1. หน่วยงานภาครัฐสามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการกาหนดยุ ทธศาสตร์ระดับชาติในการพัฒนา
ส่งเสริมให้โรงพยาบาลมุ่งเน้นการสร้างการจัดการนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ในระดับองค์การหรือ
หนว่ ยงาน เพอื่ นาไปสู่การสร้างความสามารถทางนวัตกรรม และขับเคลื่อนให้ประเทศเดินหน้าไปสู่
เป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติ และขบั เคลอื่ นด้านเศรษฐกิจและสังคมใหเ้ กดิ มัน่ คง มงั่ คงั่ และยัง่ ยนื ต่อไป
2. หน่วยงานภาครัฐสามารถนาไปใช้เป็นแนวทางในการกาหนดนโยบายกระทรวง ในการพัฒนาให้
รูปแบบของการจัดการนวัตกรมเชิงสร้างสรรค์ให้เป็นเป็นเคร่ืองมือ หรือมาตรฐานท่ีจะนามาใช้ใน
การประเมนิ คุณภาพการให้บรกิ ารของโรงพยาบาล และทาให้เครื่องมือดังกล่าวได้รับการยอมรับใน
ระดับชาติ หรือระดับนานาชาติในอนาคต เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ เป็นท่ียอมรับจากลูกค้าหรือ
ผู้ป่ วยท่ีเข้ามารบั บรกิ าร
3. หน่วยงานภาครัฐสามารถนาไปเป็นแนวทางสาหรับยกระดับความรู้และทักษะของแรงงาน นาไป
กาหนดนโยบายในการพัฒนาและยกระดับฝี มือแรงงานให้มีทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ให้
สอดคล้องกบั การเปล่ยี นแปลง เพ่อื เป็นการเตรียมความพรอ้ มและยกระดบั ทักษะ ขีดความสามารถ
ศกั ยภาพ และฝีมือแรงงานไทยให้มคี ุณภาพสงู ขึน้ อยา่ งตอ่ เน่อื ง
4. หน่วยงานภาคธุ รกิจสามารถนาไปเป็นแนวทางในการกาหนดนโยบาย และแผนในการเร่งพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ให้มีทักษะความรู้ เท่าทันต่อการเปล่ียนแปลงและเท่าทันต่อเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยพฒั นาทักษะ ความรู้ความสามารถให้สอดคลอ้ งกันทัง้ ในเชิงวิชาการและเชิงปฏิบตั ิ
5. หน่วยงานภาคธุ รกิจสามารถนาไปใช้เป็นแนวทางของหน่วยงานท่ีมีหน้าท่ีสนับสนุนและมีส่วน
เก่ียวขอ้ งกบั การสง่ เสรมิ นวตั กรรม ควรกาหนดนโยบายเพ่ือเป็นแนวทางนาผลการวิจัยไปต่อยอด
พฒั นา หลกั สตู รเพื่อพฒั นาผู้บรหิ ารองค์การ และหลักสตู รพัฒนาบุคลากรเพ่อื สร้างนวตั กรรม
ข้อเสนอแนะเชิงการจดั การ
1. ผู้บริหารนาไปปรับใช้กับหัวหน้างาน และพนักงานของในองค์การ โดยมุ่งเน้นให้ทุกคนเข้าใจและ
รับรู้ถึงสภาวะความรุ นแรงในการแข่งขันของตลาดโรงพยาบาลเอกชนท่ีนับวันยิ่งทวีคูณความ
รุนแรงมากขึ้น ทัง้ นี้เพ่ือให้พนักงานในองค์การลุกขึน้ มาปรับแนวคิดโดยเร่ิมจากการกระตุ้นให้
พนักงานทกุ คนร่วมเป็นเป็นผูน้ าการเปล่ยี นแปลง เข้าใจและยอมรับนาเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อ
อานวยความสะดวกในองค์การ
2. ผูบ้ ริหารใช้เป็นแนวทางในการจัดการนวตั กรรมเชิงสร้างสรรคใ์ นองค์การ โดยมุ่งเน้นให้พนักงาน
ทกุ คนในองคก์ ารมกี ารปรับเปล่ียนพฤติกรรมการทางานใหเ้ ป็นเชิงรุก และพร้อมท่ีจะเรียนรูส้ ่งิ ใหม่
อย่างต่อเนื่องเพื่อให้เท่าทันการเปล่ียนแปลงท่ีเกิดขึน้ อย่างรวดเร็วในสภาวะท่ีมีการแข่งขันสูง
อย่างในทุกวนั นี้
3. ผูบ้ รหิ ารใช้เป็นแนวทางในการปรับทัศนคตแิ ละแนวคิดใหก้ บั พนกั งานในองค์การ
4. ผู้บริหารนาข้อมูลไปปรับใช้เพ่ือทาให้เกิดความเป็นเลิศทางด้านนวัตกรรม และนามาซ่ึงผลการ
ดาเนินงานท่ดี ีขึน้
5. ผู้บริหารนาไปเป็นแนวทางในการวางแผนกาหนดนโยบายให้มีความเหมาะสม และสอดรับกับ
พฤตกิ รรมผู้บริโภคท่ีเปล่ียนแปลงไป อีกทัง้ ยังเป็นตัวอย่างของการพัฒนาธุ รกิจด้านสุขภาพท่ี
นาเอาเทคโนโลยีมาสรา้ งความสามารถ ความได้เปรยี บทางการแขง่ ขัน
6. เป็นข้อมูลใหผ้ ูบ้ รหิ ารได้ตระหนกั ถงึ ความสาคัญของการสร้างความรู้ท่ีเกิดจากการเปล่ียนแปลง
เชิงรุก คิดนอกกรอบ ค้นคว้า เรียนรู้ส่ิงใหม่ และการเช่ือมโยงอย่างสร้างสรรค์ มาพัฒนา
เทคโนโลยีทางการแพทยต์ ่าง ๆ เพ่อื ก่อใหเ้ กิดนวัตกรรมแก่องค์การ
คู่มอื ฉบบั นพี้ ัฒนาขนึ้ จากวิทยานพิ นธป์ ริญญาปรชั ญาดุษฎบี ัณฑติ
สาขาการจดั การ มหาวิทยาลยั ศิลปากร ปี การศึกษา 2562
เร่อื ง : การจัดการนวตั กรรมเชิงสรา้ งสรรค์ของโรงพยาบาลเอกชนในประเทศไทย
ส่คู วามเป็นเลศิ ดา้ นนวตั กรรมและผลการดาเนินงานขององคก์ าร ขอขอบพระคณุ
• คณาจารย์ คณะวิทยาการจดั การ มหาวิทยาลัยศิลปากร
• บัณฑิตวิทยาลัย มหาวทิ ยาลัยศิลปากร
• ผูน้ พิ นธ์ผลงานทางวชิ าการทุกรูปแบบทัง้ ภาษาไทย และภาษาตา่ งประเทศ
ผูส้ นใจหรอื ตอ้ งการรายละเอียดเพมิ่ เติม สามารถติดตอ่
นางสาวกนกพร กระจ่างแสง
[email protected]
065-429-9295
Scan เพอ่ื อา่ น E-Book