การพฒั นาทกั ษะเพอ่ื การศกึ ษาค้นคว้า
การศึกษา
หมายถึง การเสาะแสวงหาความรูเ้ พ่ือใหเ้ กิดความเขา้ ใจในเร่ือง
ตา่ งๆ อยา่ งถอ่ งแทจ้ นสามารถนาความรูน้ ้ันมาปรบั ปรุงตนให้
ดารงชีวิตอยูใ่ นสงั คมไดอ้ ยา่ งมีความสุข
ความสาคัญของการศึกษา
การศึกษาเป็นรากฐานท่ีสาคญั ท่ีสุดในการพฒั นาประเทศใหม้ ีความ
เจริญไปในทิศทางท่ีพึงประสงค์ ทง้ั น้ีเพราะเป้าหมายในการจดั
การศึกษามุง่ จดั ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของสงั คมปลูกฝงั ให้
ประชากรมีความรูค้ วามสามารถในการทางวิชาการในดา้ นตา่ งๆ
วธิ ีการศึกษาหาความรู้
พืน้ ฐานการศึกษาหาความรู้ มี 4 วิธี คือ
1.การอ่าน
2. การฟัง
3. การไต่ถาม
4. การจดบนั ทึก
การอ่าน
การเป็นนักอ่านท่ีดี หมายถึง
ผอู้ ่านสามารถเข้าใจเนื้อหามากท่ีสดุ และ
ใช้เวลาน้อยท่ีสดุ
การอา่ น แบง่ ออกเป็ น 4 ประเภท
1.การอ่านอย่างครา่ วๆ (skimming)
2.การอ่านอย่างเฉพาะเจาะจง (Scanning)
3.การอ่านเพ่ือศึกษารายละเอียด (Through Reading)
4. การอ่านอย่างวิเคราะห(์ Critical Reading)
การฟัง
เป็นเครอ่ื งมอื ในการศึกษาเล่าเรียนอย่เู ป็นประจา มี
ขอเสนอแนะในการฟัง ดงั นี้
1.เตรียมตวั ให้พร้อม
2.มีสมาธิในการฟัง
3. ติดตามคาบรรยาย
การไตถ่ าม
เป็ นการเรียนรู้อย่างหนึ่ง ซงึ่ เป็ นวธิ ีเรียนอยา่ งฉลาด โดย
สอบถามผู้รู้โดยตรง
การจดบนั ทึก
จดเฉพาะใจความสาคญั ใช้คาย่อตามสมควร ผจู้ ดท่ีดี
ต้องเป็นผทู้ ่ีมีวิธีอ่าน วิธีฟัง และวิธีซกั ถามท่ีดีด้วย
แนวทางในการพัฒนาทกั ษะการคน้ ควา้ และศึกษาดว้ ยตนเอง
เพอื่ รองรับ AEC
ณรงค์ ข้มุ ทอง (2558) หลกั การพฒั นาทกั ษะการศึกษายดึ 5 หลกั คือ
1.หลกั การฝึ กให้ผเู้ รียน ร้จู กั หาประเดน็ มาตงั้ คาถาม ตงั้ สมมติฐาน
2.หลกั การฝึ กให้ผเู้ รียน ร้จู กั สืบค้นเรียนรจู้ ากแหล่งเรียนรตู้ ่างๆ
3.หลกั การฝึ กให้ผเู้ รียน รจู้ กั สรปุ เนื้อหาและองคค์ วามรู้
4.หลกั การฝึ กให้ผเู้ รียน ร้มู ีทกั ษะในการส่ือสาร ในการนาเสนอองคค์ วามร้ทู ี่
หลากหลาย
5.หลกั การฝึ กให้ผเู้ รียน ร้มู ีทกั ษะ ร้จู กั ให้บริการสงั คมและมีจิตสาธารณะ (Public
Service)
แนวทางในการพฒั นาทกั ษะการคน้ ควา้ และศกึ ษาด้วยตนเอง
เพอ่ื รองรับ AEC
การพฒั นาทกั ษะการศึกษาค้นคว้าด้วยตวั เองช่วย
พฒั นาผเู้ รียนได้ 3 ทกั ษะ
1.ทกั ษะการค้นควา้ และสรา้ งองคค์ วามรู้
2.ทกั ษะการสื่อสารและการนาเสนอ
3.ทกั ษะการนาองคค์ วามรไู้ ปใช้บริการสงั คม (Social
Service Activity Skill)
ทกั ษะการค้นคว้าและสรา้ งองคค์ วามรู้
(Research and Knowledge Formation Skill)
กาหนดประเดน็ ของปัญหา ตงั้ สมมติฐาน เทคนิคการค้นคว้า เทคนิคการแสวงหาความรู้ เทคนิค
การคิด วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และสร้างองคค์ วามรู้ ==ทกั ษะStepladder Technique เป็นวิธีให้
ผเู้ รียนรว่ มกบสมาชิกมีส่วนรว่ มในการคิด การทางาน คิดวางแผนสร้างองคค์ วามรู้ ซ่ึง Stepladder
มี 5 ขนั้ ตอน
ขนั้ ตอนท่ี 1 ก่อนทางานให้ผเู้ รยี นวางแผน
ขนั้ ตอนที่ 2 ผเู้ รียนนาปัญหาหรือองคค์ วามร้มู าวิเคราะห์
ขนั้ ตอนที่ 3 ผเู้ รียนนาองคค์ วามร้จู ากการค้นคว้ามาสรา้ งทางเลอื กให้การนาไปใช้
ขนั้ ตอนท่ี 4 ผเู้ รียนนาข้อมลู มาสงั เคราะหแ์ ละสรา้ งองคค์ วามรใู้ หม่
ขนั้ ตอนท่ี 5 ผเู้ รียนนาขอ้ มลู มาประมวล แล้วตดั สินใจขนั้ สดุ ท้าย นาไปใช้
ทกั ษะการสื่อสารและการนาเสนอ
Communication and Presentation
เป็นทกั ษะมงุ่ ให้ผเู้ รียนนาความรทู้ ี่ได้รบั มาวางแผน
ใช้วิธีการและเทคนิ คในการถ่ายทอดวิธีการสื่อ
ความหมาย แนวคิดใหมๆ่ เสนอด้วยวิธีใหม่ๆ ท่ี
หลากหลายและรดั กมุ