• เลือกเรื่องทีเ่ หมาะสม ต้องระวังอย่างยิ่งที่จะไม่ใช้เรื่องเล่าแบบสองแง่
สองมุมที่ไม่สุภาพเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ เพราะถึงแม้มีเสียงหัวเราะ
บ้าง แต่เมื่อเสียงหัวเราะผา่ นไปเสียงวิพากษ์วจิ ารณ์ก็จะเขา้ มาแทนที่
ซึง่ เป็นการบน่ั ทอนภาพลักษณข์ องตัวเราเอง
จำไว้ว่า การเลา่ ประสบการณ์ที่เกดิ ขึ้นกบั ตัวเราเอง หลายครั้งนั้นดีกว่ายกเร่ือง
เล่าของคนอื่น เพราะเรื่องของเรานั้นจะเป็นเรื่องใหม่สำหรับผู้ฟังเสมอ ดังนั้น
ถ้าเป็นเรือ่ งที่น่าสนุก เข้ากับเรือ่ งที่เรากำลังสื่อสาร รวมทั้งเราสามารถเล่าเร่อื ง
นั้นได้อย่างสนุกสนาน คนฟังเห็นภาพ มีอารมณ์คล้อยตาม เรื่องเล่าของเรา
ย่อมเปน็ เครื่องดงึ ดดู ผ้ฟู ังไดด้ ี
• เล่าอยา่ งรู้จังหวะจะโคน ประการแรกในการเริ่มต้นเล่าเรื่อง เราต้อง
เล่าด้วยสีหน้าปกติ ต้องระวังอย่าหัวเราะหรือขำก่อนข้อความตลกจะ
กล่าวออกมา เพราะนั่นเท่ากับเป็นการทำลายจุดดึงดูดที่สุดของเรื่อง
ลง เช่นเดียวกับเวลาดูหนัง หากคนที่นั่งข้าง ๆ เล่าจุด climax ให้ฟัง
เมื่อหนังฉายมาถึงจุดน้ัน ความรู้สึกตื่นเต้นของเราย่อมหมดลง และ
จะรู้สึกไม่สนกุ เทา่ ที่ควรจะเป็น
• การหยดุ 1 – 2 วนิ าที กอ่ นแลว้ คอ่ ยปล่อยหมดั เดด็ ออกมา และการใช้
คำพูดใหห้ กั มมุ
• เราจะต้องพูดในสิ่งที่คนไม่คาดคิดมาก่อน เพราะจะทำให้คนฟังเกิด
ความรู้สึกแปลกใจ และขบขนั ทเ่ี รากลา่ วออกมา
เพ่ิมเตมิ ว่า เมือ่ เราเริม่ ตน้ จะเล่าเร่ืองตลก อย่าเกรน่ิ ดว้ ยคำวา่ “ผมมีเรอื่ งตลกจะ
เล่าให้ฟัง” เพราะจะทำให้คนฟังคาดหวังว่ามันต้องตลกมาก แต่เมื่อเรื่องเล่าจบ
กลับไม่ตลกอย่างที่คิด จะยิ่งสรา้ งความผิดหวัง หรือผู้ฟังอาจจะส่ายหนา้ ก็เป็นได้
แต่อาจจะขึ้นด้วยคำว่า “ผมมีเรื่องหนึ่งอยากจะเล่าให้ฟัง เช่อื วา่ หลายท่านยังไม่
เคยฟังมาก่อน” รวมไปถึงปล่อยหมัดเด็ด หากเราทำหน้าตายเท่าไร จะยิ่งเพิ่ม
ความขบขันได้มากข้ึนเท่านั้น
47
ช่วงเวลาในการพูดมีผลต่อประสิทธิภาพการฟัง ซึ่งในเรื่องนี้ได้ทำให้ผู้พูด
ล้มเหลวในการพูดมาแล้ว แมจ้ ะเตรียมตัวเปน็ อยา่ งดี
หากต้องการให้การพูดของเราประสบผลสำเร็จ เราควรเรียนรู้ชว่ งเวลาที่จะพดู
เพือ่ เตรยี มบทพดู และเตรยี มความพรอ้ มในการพูดอย่างเหมาะสม โดยอาจแบ่ง
เวลาเป็น 5 ช่วง
1. ช่วงแรก ช่วงเช้า 09.00 – 10.30 น. ช่วงน้นี ับเปน็ ชว่ งเวลาท่ีผฟู้ ังมี
สมาธมิ ากทส่ี ดุ เพราะทุกคนมาดว้ ยความคาดหวังท่ีจะฟัง ดังนั้น จึงมี
ความตั้งใจ สนใจ ขณะเดียวกัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่คนเราพักผ่อนมา
อยา่ งเตม็ ที่ จึงมคี วามสดชื่น เหมาะกบั ทร่ี ับรู้ขอ้ มูลขา่ วสารใหม่ ๆ
2. ชว่ งสาย หลงั เบรก เวลา 10.31 – 12.00 น. ชว่ งนม้ี ีมีประสิทธิภาพ
การรับรู้มากกว่าช่วงแรก และจะต่อย ๆ ลดลงในช่วงใกล้พักกางวัน
ดังนั้น เราควรพูดเรื่องสำคัญ ๆ ในช่วงแรก และ พูดเรื่องเบา ๆ
ในช่วงทา้ ย
3. ช่วงหลังอาหารกลางวัน ระหว่าง 13.00 – 15.00 น. ช่วงนี้เป็น
ช่วงเวลาที่ “โหดร้าย” มากที่สุดสำหรับผู้ฟัง หรือบางคนเรียกว่าเป็น
ช่วงเวลา “ปราบเซียน” เพราะเมือ่ หนังทอ้ งตงึ หนังตาก็จะหย่อนตาม
ไปด้วย จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องคิดหาวิธีที่จะปลุกอารมณ์ผู้ฟังไม่ให้
ง่วง อาจเป็นการพูดท่ีแทรกเรือ่ งขำขัน การพูดที่ออกท่าทางหรือเดนิ
ไปเดินมาไม่อยู่กับท่ีแต่ตอ้ งไม่เรว็ หรอื บอ่ ยเกนิ ไป
48
4. ช่วงกอ่ นอลบั บา้ น 15.00 – 17.00 น. ช่วงนีเ้ ปน็ ชว่ งทีน่ ่าหนกั ใจอกี
ช่วงหนึ่งของผู้พูด เพราะผู้ฟังจะจดจ่อได้ไม่ถึงเวลา 17.00 น.
เนื่องจากมีภารกิจที่ต้องทำต่อ หากต้องพูดในช่วงเวลานี้ เราควร
พยายามพูดในประเด็นสำคัญ ๆ ให้หมดใน 1.5 ชั่วโมง หลังจากนั้น
อาจเป็นการอธิบาย การทบทวน การซักถาม และเลกิ ให้ตรงเวลา
5. ช่วงหลังอาหารค่ำ ประมาณ 19.30 น. หากเราได้พูดในช่วงเวลานี้
ตอ้ งใชเ้ วลาพูดให้ส้นั ทีส่ ุด ไมใ่ หเ้ กนิ 15 นาที หากเราต้องการพูดอย่าง
ประสบความสำเร็จ และหากมีผ้พู ูดหลายคน ใหเ้ ราพยายามเลอื กที่จะ
พดู เป็นคนแรกจะดที สี่ ุด
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะต้องพูดช่วงไหน เราอาจจะทำการตกลงกับทีป่ ระชุมให้ชัดเจนก่อน
ว่า เราจะพดู ถงึ เวลากโ่ี มง จะเบรกชว่ งไหน ก็ชว่ ยใหเ้ กดิ ความสบายใจทั้ง 2 ฝา่ ย
เพราะได้มมี ติรว่ มกนั แลว้ และต่างคนตา่ งเคารพในขอ้ ตกลง
49
เราสามารถสรปุ ได้วา่ การพูดในทช่ี มุ ชนตามโอกาสต่างๆ จำแนก เป็น
3 ประเภท ดังน้ี
1. การพดู อยา่ งเปน็ ทางการ
เปน็ การพูดในพธิ ีตา่ ง ๆ มีการวางแผนแนวปฏบิ ัตไิ ว้อย่างชัดเจน เช่น
การปราศรยั ของนายกรัฐมนตรี การให้โอวาทของผู้อำนวยการโรงเรียนในวนั
ปฐมนิเทศการพูดสุนทรพจน์ของรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ การ
อภิปรายในรัฐสภา ฯลฯ
2. การพดู อย่างไมเ่ ป็นทางการ
เป็นการพูดที่ให้บรรยากาศเป็นกันเอง เช่น พูดเพื่อนันทนาการใน
กจิ กรรมต่าง ๆ การพูดสังสรรคง์ านชมุ นุมศิษยเ์ ก่า การพดู เร่อื งตลกในที่ประชุม
การกล่าวอวยพรตามโอกาสต่าง ๆ ในงานสงั สรรค์
3. การพดู กง่ึ ทางการ
เปน็ การพดู ทล่ี ดความเปน็ แบบแผนลง เชน่ พูดอบรมนักเรียนในคาบ
จรยิ ธรรม การกลา่ วต้อนรบั ผู้มาเย่ยี มชม การกล่าวขอบคุณผู้ช่วยเหลือกิจกรรม
กล่าวบรรยายสรปุ แก่ผู้เข้าชมตามสถานทีต่ ่าง ๆ อนึ่ง การพูดในที่ประชุมแต่ละ
ครั้งจะเปน็ การพดู ประเภทใด
ผู้พูดต้องวิเคราะห์โอกาสและสถานการณ์ แล้วเตรียมศิลปะการใช้ภาษาให้
ถูกต้องเหมาะสมกับโอกาสนั้น เพื่อที่จะพูดได้ถูกต้อง ไม่เก้อเขิน เข้ากับ
บรรยากาศไดด้ ี มคี วามประทับใจ
50
ผู้พูดจะเตรยี มตัวอย่างไรบ้าง จงึ ขอเสนอหลกั กวา้ งดังน้ี
1. กำหนดจุดมุ่งหมายให้ชัดเจนว่าจะพูดอะไร เพื่ออะไร มีขอบข่าย
กวา้ งขวางมากน้อย เพียงใด
2. วิเคราะหผ์ ฟู้ งั พิจารณาจำนวนผ้ฟู งั เพศ วยั การศกึ ษา สถานภาพทาง
สังคม อาชีพ ความสนใจ ความมุ่งหวัง และทัศนคติ ที่กลุ่มผู้ฟังมีต่อเรื่องที่พูด
และตวั ผู้พดู เพ่อื นำขอ้ มูลมาเตรยี มพูด เตรยี มวธิ ีการใช้ภาษาให้เหมาะกับผฟู้ งั
3. กำหนดขอบเขตของเรือ่ ง โดยคำนึงถึงเนอื้ เรอื่ งและเวลาทจ่ี ะพดู กำหนด
ประเดน็ สำคัญใหช้ ดั เจน
4. รวบรวมเนื้อหา ต้องจัดเนื้อหาที่ผู้ฟังได้รับประโยชน์มากที่สุด การ
รวบรวมเน้ือหาทำได้ หาได้จากการศกึ ษา ค้นควา้ จากการอา่ นการสมั ภาษณ์ ไต่
ถามผ้รู ู้ ใชค้ วามรู้ความสามารถ แล้วจดบันทกึ
5. เรียบเรยี งเน้ือเรื่อง ผู้พูดจัดทำเคา้ โครงเร่ืองให้ชัดเจนเป็นไปตามลำดบั
จะกล่าวเปิดเรื่องอย่างไร เตรียมการใช้ภาษาให้เหมาะสม กะทัดรัด เข้าใจง่าย
ตรงประเด็น พอเหมาะกับเวลา
6. การซ้อมพูด เพื่อให้แสดงความมั่นใจต้องซ้อมพูด ออกเสียงพูดอักขรวิธี
มีลีลาจังหวะ ท่าทาง สีหน้า สายตา น้ำเสียง มีผู้ฟังช่วยติชมการพูด มีการ
บันทึกเสยี งเปน็ อปุ กรณก์ ารฝึกซอ้ ม ในกรณีเป็นการพดู แบบฉับพลัน ผู้พูดไม่
ร้ตู วั มาก่อน หรอื รลู้ ว่ งหนา้ เพียงระยะเวลาสนั้ ๆ เช่น กล่าวอวยพรในงานมงคล
สมรส กล่าวแสดงความยินดี กล่าวแสดงความคิดเห็นในนาม ของแขกผู้มีเกยี รติ
ผู้พูดส่วนน้อยที่พูดได้อย่างไม่เคอะเขิน ผู้พูดที่มีประสบการณ์สามารถสร้าง
บรรยากาศได้ดี แตผ่ ูพ้ ูดเป็นจำนวนมากยงั เคอะเขินจึงขอเสนอข้อแนะนำในการ
พดู ดงั น้ี
51
เมื่อได้รับเชิญให้พูด อย่าตกใจ จงภูมิใจที่ได้รับเกียรติ ลุกขึ้นเดินไป
อย่างสง่าผ่าเผย กล่าวทักทายต่อที่ประชุมให้เหมาะสมกับที่ประชุม
พร้อมกับสังเกตสถานการณ์ แวดล้อม เริ่มประโยคแรกเพื่อดึงดูด
ความสนใจของผูฟ้ ังใหม้ ากที่สดุ
พูดเรื่องที่ง่ายและใกล้ตัวที่สุด ลำดับเรื่องที่จะพูดก่อนหลัง โดยเสนอ
แนวคิดอย่างกระชับที่สุด พูดไปอย่างต่อเนื่อง พูดบทสรุปในตอนจบ
อย่างประทับใจพยายามรกั ษาเวลาท่กี ำหนดไว้
ในกรณีที่เป็นการตอบคำถาม กล่าวทักทายหรือทำขั้นตอนอย่าง
สั้นๆ แล้วทวนคำถามให้กระชับ จงึ ตอบโดยลำดบั เร่ืองให้ตรงประเด็น
ขยายความให้ชดั เจน
ผู้พูดต้องมีปฏิภาณ ( ความสามารถในการแสดงความคิดที่จะแก้ไข
ปัญหาต่าง ๆ รวมทั้งความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างฉับไว ) เรียบเรียง
เนื้อเรื่องพูดได้ทันที คิดได้เร็ว ฉะนั้น จึงฝึกหัดให้คิดเร็วไว้บ่อย ๆ จะ
ไดช้ ่วยได้มาก
52
53
54