The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การเต้นระบำ รำ ฟ้อน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ปฐมพร แดงขาว, 2024-06-28 10:10:14

นาฏศิลป์ตะวันออก

การเต้นระบำ รำ ฟ้อน

นาฏศิลป์ เรื่อง นาฏศิลป์ตะวันออก ครูผู้สอน ครูสุดา


นาฏศิลป์อินเดีย 1.ภารตนานาฏยัม เป็นนาฏศิลป์ของอินเดียตอนใต้มีลีลาการใช้จังหวะเท้าที่ รวดเร็ว มีความหมายในท่ารำ ใช้ศิลปะการร่ายรำ ตาม ตำ รานาฏยศาสตร์ของพระภรตฤาษีเป็นการฟ้อนรำ เพื่อ บูชาเทพเจ้า 2.กถัก เป็นนาฏศิลป์ของอินเดียตอนเหนือนิยมแสดงเดี่ยว ผู้ แสดงอาจเป็นหญิงหรือชายก็ได้เป็นการผสมระหว่าง วัฒนธรรมและมุสลิม ลักษณะเด่นคือ การเต้นหมในตัว มี ลีลาท่ารำ รวดเร็ว มีบทร้องเกี่ยวกับเทพเจ้าของฮินดูและ เรื่องราวจากวรรณคดี 3.กถกฬิ หรือกถักกฬิ เป็นนาฏยศิลป์พื้นเมืองของอินเดียตอนใต้ ส่วน ใหญ่จะเล่นเป็นเรื่องแบบละครซึ่งส่วนมากเป็น มหากาพย์ เช่น มหาภารตะรามายณะและเรื่องจาก นิยายปูราณะ ใช้ผู้ชายแสดงล้วน ใช้ภาษาซับซ้อน มีการแต่งหน้าที่ประณีตใช้สีธรรมชาติเขียนลงบน ใบหน้า การแต่งกาย หญิงจะสวมเสื้อเข้ารูป คอกว้าง แขนสั้น ตัวสั้นถึงใต้อก ห่มส่าหรี เกล้ามวยตํ่าหรือสูงประดับด้วย ดอกไม้และเครื่องประดับผม เจิมหน้าจุดสีแดงกลางหน้า ผาก ตัวละครผู้หญิงสวมเสื้อคอกว้าง แขนสั้น เอวลอย ห่มส่าหรี เกล้าผม มวย ใช้ว่าหรีคลุมผมแล้วปล่อยชายยาวลงล่าง ตัวละครผู้ชายแต่งกาย คล้ายกันใช้ผ้าโพกศรีษะ การแต่งกาย จะนุ่งกระโปรงยาว คาดริ้วตามขวางที่ชายกระโปรง ใส่สู่มด้านใน สวมเสื้อแขนยาวเครื่อง ประดับศีรษะเป็นมงกุฎใหญ่ มีรัศมี วงกลมใหญ่อยู่ด้านหลัง


นาฏศิลป์ญี่ปุ่น 1.ละครโนะ เป็นละครที่เก่าแก่ที่สุด ละครโนะเกิดขึ้นจากศาสนา แต่ เดิมจัดแสดงตามวิิหารมีกฎข้อบังคับในการแสดง เคร่งครัดมาก แสดงเรื่องเกี่ยวกับเทพเจ้า การแต่งกาย งดงามผู้แสดงจะสวมหน้ากาก การเคลื่อนไหวแล้วนมี ความหมายั้งสิ้นแต่เดิมแสดงใต้ร่มไม้ ต่อมาทำ เวทีอย่าง ง่ายๆ จัดฉากง่ายๆที่สำ คัญเลยคือเขียนรูปต้นสนและไม้ ไผไว้ห่างๆ 2.ละครคาบูกิ เป็นละครที่ได้รับความนิยมมาก ผสมผสานระหว่างละคร โนะกับละครหุ่นบุนรากุ มีทั้งการร้องและพากย์ การ แสดงมีแบบแผนที่เคร่งครัด เรื่องที่แสดงเป็นเรื่อง ประวัติศาสตร์ ศาสนาและเทพนิยาย ใช้ชายแสดงล้วน การแต่งหน้ามีแบบแผนตายตัว ว่าสิใดเป็นของตัวละคร ใด เช่น ผู้ร้ายหน้าสีนํ้าเงิน พระเอกหน้าสีขาว เวทีละคร สร้างอย่างวิจิตรงดงาม 3.ละครเคียวเง็น เป็นการแสดงละครตลกศลับฉาก ลักษณะคล้ายกับ จำ อวดไทย สะท้อนให้เห็นความเรียบง่ายของมนุษย์ เป็น ละครเสียดสี เรื่องราวชวนหัวทั้งคำ และการแสดง เนื้อ เรื่องที่แสดงไม่มีการฝึกซ้อมใช้ความรู้สึกตามธรรมชาต


นาฏศิลป์จีนเกิดจากพิธีกรรมทางศาสนา การบูชากราฉลองชัยและ พิธีการขอความอุดมสมบูรณ์ในการเกษตรก่อนการแสดงทุกครั้งจะ ต้องมีการเคารพบูชาพระบรมรูปของพระจักรพรรดิมิ่ง ฮ้วง เพราะ ถือว่าพระองค์ทรงเชี่ยวชาญการละครและดนตรี งิ้วเป็นการแสดงที่ผสมผสานการขับร้องและการเจรจาประกอบกับ ลีลาท่าทางของนักแสดงให้ออกมาเป็นออกมาเป็นเรื่องราวโดยนำ เหตุการณ์ต่างๆ ในพงศาวดาร รวมทั้งความเชื่อทางประเพณีและ ศาสนาแสดงเป็นเรื่องราว งิ้วที่ยอมรับว่าเป็นงิ้วที่สมบรูณ์แบบชนิดแรก คือ ละคนใต้(หนานซี) ของสมัยราชวงศ์ซ่งใต้ แถบเมืองเจินโจจนกระทั่งสมัยราชวงศ์ชิง จึงเกิดงิ้วปักกิ่งซึ่งถือเป็นศิลปะประจำ ชาติที่มีความโดดเด่นมาก ลักษณะเด่นของงิ้ว นอกจากการร่ายรำ และการเคลื่อนไหว เสื้อผ้า เครื่อวแต่งกาย และการแต่งหน้าก็เป็นส่วนสำ คัญ ทำ ให้มีเอกลักษณ์ เฉพาะตัว สีสันของการแต่งหน้าจะบอกถึงบุคลิกและอุปนิสัยของตัว ละคร เช่น สีแดงหมายถึง ความศักดิ์สิทธิ์ ความกล้าหาญ สีดำ หมายถึง ความโกรธ สีเหลืองหรือสีทอง หมายถึง ความดีและพระ นาฏศิลป์จีน


นาฏศิลป์อินโดนีเซีย 1.การแสดงเชิดหุ่นเงา หรือว่ายัง เป็นนาฏศิลป์ประจำ ชาติที่เก่าแก่ที่สุด แต่เดิมหุ่นเชิดทำ ด้วยหนังสัตว์จึงเรียกว่า วายังกุลิต นอกจากนี้ยังมีการ แสดงวายังในรูปแบบอื่น เช่น วายัง เบเบร์ (ตัวหุ่นเป็น ภาพวาดเหมือนภาพการ์ตูนบนกระดาษ) วายัง (เป็นหุ่นตุ๊กตา 3 มิติ ทำ จากไม้แกะสลัก) และมีวายังที่ใช้ คนแสดงจริง เช่น วายัง โตเป็ง วายัง โอรัง เป็นต้น 2.นาฏศิลป์สุมาตรา ลักษณะการแสดงจะแสดงเป็นเรื่องราวของนิทานพื้น บ้านและเรื่องราวในราชสำ นักจะไม่แสดงเรื่อวรามายณะ และหมาภารตะ เพราะประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนา อิสลาม นอกจากนี้ยังมีระบำ ชุดต่างๆ ซึ่งท่าเต้นจะนิ่ม นวล ทำ นองเพลงไพเราะ 3.นาฏศิลป์ชวา เป็นการแสดงที่มีพื้นฐานมาจากการรำ ในราชสำ นัก มี ลีลาร่ายรำ ที่นุ่มนวล ประณีต จังหวะที่ใช้ในการร่ายรำ จะ ช้า มีผ้าสไบเป็นส่วนประกอบสำ คัญในการร่ายรำ เวลา แสดงตาจะตกตลอดเวลา ไม่ใช้สายตาไปยังคนดู วง ดนตรีที่ประกอบการแสดงเป็นวงดนตรีประจำ ราช สำ นักตั้งแต่สมัยโบราณ โดยใช้บรรเลงในงานพิธีต่างๆ ปัจจุบันใช้เป็นวงดนตรีสำ หรับการฟ้อนรำ เรียกว่า กาด มอลัน การแต่งกาย มีความงดงาม ผ้านุ่งที่ใช้มักเป็นลายยกทองและยกเงินใส่เสื่อกำ มะหยี่แขนยาว ตัวยาว คลุมสะโพก ผมเกล้าผมวยตํ่า เสียบปิ่นปันผมสีทองหรือใช้เครื่องประดับศีรษะสีทอง จะนุ่งผ้าถุงรัดรูป แบบยอกยา การ์ตาโดยปล่อยทิ้งชายยาวไว้ ด้านข้างหรือแบบสุราการ์ตา คือ นุ้งผ้าถุงจีบหน้านางเล็กๆด้าน หน้า ชายผ้ากรอมข้อเท้าทิ้งชาย ยาวไว้ด้านหลังผูกผ้าสไบไว้ที่ เอว สวมเสื้อแขนยาวหรือเสื้อ แขนกุดตัวยาว ใส่เสื้อเกาะอก กำ มะหยี่สีเข้มปักลวดลายสีทอง ที่หน้าอก สวมกะบังหน้าทอง ประดับเลื่อม ประดับมวยผมด้วย ปิ่นปักผมใส่เครื่องประดับ


นาฏศิลป์เขมร การแสดงของเขมรดั้งเดิมใช้ผู้หญิงแสดง เพราะเป็นการแสดงภายในราช สำ นักเท่านั้น การแสดงมาตรฐานของเขมรจะแสดงเรื่องเรียมเลอ ซึ่งมีรากฐานมาจากรามายณะของอินเดีย ละครที่ได้รับความนิยมอีกชนิดหนึ่ง คือ ละครบาสสัก (Bassas) เป็นละครพูดมี เนื้อเรื่องเกี่ยวกับความรัก ซึ่งละครชนิดนี้ได้รับอิทธิพลจากเวียดนาม การแสดงของเขมรจะมีการเคลื่อนไหวที่นุ่มนวล สง่า ย่อเข่ามากกว่าไทยและไม่ อ่อนช้อยเท่าของไทย มีทั้งการแสดงละครนอกเรื่อง พระอภัยมณีละครในเรื่องอิเหนา โขนเรื่องรามเกียรติ์ ลักษณะการแต่งกาย มี ความใกล้เคียงกับไทยมาก


การแสดงของชาวพม่า จะแสดงในงานพิธีการต่างๆ เกี่ยวกับศาสนา และประเพณี นาฎศิลป์ที่เก่าแก่พม่าได้แก่ ระบวงสวรงเทพเจ้า และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ส่วนการแสดง ประเภทโขน ละคร ปรากฏใน สมัยพระเจ้ามังระ เมื่อไทยเสียกรุงศรีอยุธยาให้กับพม่า นาฏศิลป์ไทยได้ถูก กวาดต้อนไปด้วย พระเจ้ามังระโปรดให้สอนโขนและละครไทยในพม่า เล่นเรื่อง รามเกียรติ์และอิเหนา พม่าเรียกว่า อินทรวงศ์ เป็นละครในราชสำ นัก นอกจากนี้ยังมีการเล่นละครนอกเรื่องสังข์ทองและสังข์ศิลป์ชัย พระเจ้ามังระโปรดมากทรงให้ รวมพวกละครและปี่พาทย์ไว้ในราชสำ นักและพระราชทานบ้านเรือนให้เรียกว่า “ตำ บลโยธาราช” และพวกละครไทยที่แสดงเรียกว่า “โยธยาสัตคยี” ต่อเมื่อละครไทยในราชสำ นักได้เสื่อมความนิยมลง “ละครนิพัตขิ่น” กลับเฟื่องฟูขึ้นเป็นละครที่ผูกเป็นเรื่อง มีท่าทางและบทเจรจาประกอบ ภายหลังได้เพิ่มบทตลกลงไปด้วย การแต่งกาย ชายใส่เสื้อแขนยาว นุ่งโสร่งหรือกางเกงคลุมเข่า ประดับด้วยเลื่อม ดิ้นคล้ายของไทย ส่วนหญิงใส่เสื้อรัดอก สวมเสื้อแขนยาวไม่มีกระดุม เปิดให้เห็น เสื้อตัวใน ชายเสื้อโค้งงอน นุ่งผ้าถุงกรอมเท้าเกล้ามวยสูงปล่อยชายผมยาวมาด้านขวา ถ้าเป็นตัวเอกจะสวมเครื่องประดับศีรษะ นาฏศิลป์พม่า


จัดทำ โดย ด.ญปวีกรณ์ บุษบก ม.2/7 เลขที่29


Click to View FlipBook Version