The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

พันธะโคเวลนต์ 3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ครูสุขใจ, 2019-10-27 03:53:57

พันธะโคเวลนต์ 3

พันธะโคเวลนต์ 3

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขัน้ รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 47

แนวคำ� ตอบกจิ กรรม E1 สงสยั ใคร่รู้

พันธะโคเวเลนต์ 3 : รปู ร่างโมเลกุลโคเวเลนต์

ค�ำส่ัง ให้นักเรยี นตอบคำ� ถามต่อไปน้ี
1. ให้นักเรียนศึกษาโมเลกุลต่อไปน้ี พร้อมทั้งยกตัวอย่างสารโคเวเลนต์ โดยระบุจ�ำนวนอะตอม
กลางและอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง
1.1 1.2

จ�ำนวนอะตอมกลาง = 1 จำ� นวนอะตอมกลาง = 1
จำ� นวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง = 2 จ�ำนวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง = 3
ตวั อย่างสาร CO2 ตวั อย่างสาร COCl2
1.3 1.4

จ�ำนวนอะตอมกลาง = 1 จ�ำนวนอะตอมกลาง = 1
จำ� นวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง = 4 จ�ำนวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง = 3
ตวั อย่างสาร CH4 ตัวอย่างสาร BF3
1.5 1.6

จำ� นวนอะตอมกลาง = 1 จำ� นวนอะตอมกลาง = 1
จ�ำนวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง = 2 จำ� นวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง = 6
ตัวอย่างสาร H2O ตวั อย่างสาร SF6

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชุดที่ 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 48

2. นกั เรยี นคดิ ว่าโมเลกุลโคเวเลนต์แต่ละชนดิ จะมรี ปู ร่างเหมอื นกันหรอื ไม่ อย่างไร
แนวคำ� ตอบ พิจารณาค�ำตอบของนักเรยี น โดยอยู่ในดลุ ยพนิ จิ ของครูผู้สอน โดยมแี นวค�ำตอบ
คอื ไม่เหมือนกัน เนอ่ื งจากการจัดเรยี งอะตอมต่าง ๆ ในโมเลกุลโคเวเลนต์
แต่ละชนดิ จะมลี ักษณะและต�ำแหน่งท่แี น่นอน ท�ำให้โมเลกลุ โคเวเลนต์มรี ูปร่าง
แตกต่างกนั ออกไป
3. นกั เรียนคิดว่ารปู ร่างของโมเลกุลโคเวเลนต์ขน้ึ อยู่กบั ปัจจัยใดบ้าง
แนวคำ� ตอบ พิจารณาค�ำตอบของนักเรยี น โดยอยู่ในดลุ ยพนิ ิจของครูผู้สอน โดยมแี นวค�ำตอบ
คือ ความยาวพนั ธะ จ�ำนวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง และมมุ พนั ธะ ซึ่งเกดิ
จากแรงผลักของอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดย่ี ว
4. จากรูปร่างโมเลกุลข้อ 1.1 และ 1.5 มีจ�ำนวนอะตอมกลางและอะตอมที่ล้อมรอบอะตอมกลาง
เท่ากนั เพราะเหตใุ ดจงึ มีรูปร่างโมเลกลุ ท่ไี ม่เหมือนกนั
แนวค�ำตอบ พจิ ารณาคำ� ตอบของนักเรยี น โดยอยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผู้สอน โดยมแี นวคำ� ตอบ
คอื เนื่องจากอะตอมกลางข้อ 1.1 ไม่มอี ิเล็กตรอนคู่โดดเดย่ี ว ส่วนโมเลกุลข้อ 1.5
อะตอมกลางมี อเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเดย่ี วเหลอื อยู่ ทำ� ให้เกดิ การผลกั กัน จงึ มมี ุมพันธะ
ไม่เท่ากัน ส่งผลให้รูปร่างไม่เหมอื นกนั
5. นกั เรียนคดิ ว่ารูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์เก่ยี วข้องกับลักษณะทางกายภาพและทางเคมอี ย่างไร
แนวค�ำตอบ พจิ ารณาคำ� ตอบของนักเรยี น โดยอยู่ในดุลยพนิ ิจของครูผู้สอน โดยมแี นวคำ� ตอบ
คอื เกยี่ วข้องกบั การวเิ คราะห์สาร โดยสารแต่ละชนดิ มีรปู ร่างแตกต่างกนั ส่งผลต่อ
แรงยดึ เหนยี่ วของสาร โดยเกย่ี วข้องกับลกั ษณะทางกายภาพ คอื การละลาย
จดุ เดอื ด จุดหลอมเหลว สถานะของสาร เป็นต้น และลักษณะทางเคมี เช่น การเกดิ
ปฏกิ ิรยิ า การเปล่ยี นแปลงความร้อน เปน็ ต้น

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 49

แนวคำ� ตอบแบบบันทกึ ผลกิจกรรม E2

พนั ธะโคเวเลนต์ 3 : รูปรา่ งโมเลกุลโคเวเลนต์

กิจกรรมท่ี 1 สืบคน้ ขอ้ มลู รปู รา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์
จดุ ประสงค์
สืบค้นวเิ คราะห์ข้อมูลและอธบิ ายรปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ได้
แบบบันทึกผลการทำ� กจิ กรรม
แนวคำ� ตอบ รปู รา่ งโมเลกลุ โคเวลนต์ เปน็ การจดั เรยี งอะตอมตา่ ง ๆ ในโมเลกลุ โคเวเลนตม์ ตี ำ� แหนง่
และทิศทางทแ่ี น่นอนจงึ ทำ� ให้โมเลกุลโคเวเลนต์ของสารต่าง ๆ มีรูปร่างแตกต่างกัน ส่งิ ท่ใี ช้บอกรูป
ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ คอื การจดั เวเลนต์อเิ ลก็ ตรอนรอบอะตอมกลางของธาตใุ นโมเลกลุ โคเวเลนต์
นอกจากนนั้ ความยาวพนั ธะและมมุ ระหวา่ งพนั ธะยงั สามารถใชบ้ อกรปู รา่ งโมเลกลุ ไดด้ ว้ ย มมุ เปน็ มมุ
ระหวา่ งพนั ธะในโมเลกลุ และมมุ ระหวา่ งพนั ธะจะกวา้ งหรอื แคบขน้ึ อยกู่ บั แรงผลกั ระหวา่ งอเิ ลก็ ตรอน
คู่โดดเดย่ี วและอเิ ลก็ ตรอนคู่ร่วมพันธะรอบ ๆ อะตอมกลาง โดยถอื หลักว่าโมเลกุลทเ่ี สถยี รจะต้อง
มีพลังงานตำ่� นน่ั คือ อะตอมในโมเลกลุ ต้องจดั เรยี งตวั กันเพอ่ื ให้มีแรงผลกั ของคู่อเิ ล็กตรอนให้น้อย
ท่สี ุด จงึ เกิดการคาดคะเนรูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ โดยพจิ ารณาจาก
1. จ�ำนวนอเิ ลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะรอบอะตอมกลาง
2. จ�ำนวนอเิ ล็กตรอนคู่โดดเด่ยี วรอบอะตอมกลาง
ดงั นนั้ การทำ� นายรปู รา่ งโมเลกลุ ใหเ้ ลอื กอะตอมกลาง ซงึ่ เปน็ อะตอมทส่ี รา้ งพนั ธะไดม้ ากทสี่ ดุ
กอ่ น และนบั จำ� นวนพนั ธะทอี่ ะตอมกลางสรา้ งได้ และจำ� นวนอเิ ลก็ ตรอนคโู่ ดดเดยี่ วรอบอะตอมกลาง
นน้ั แรงผลกั ทงั้ หมดของคอู่ เิ ลก็ ตรอนทเี่ กดิ จากการสร้างพนั ธะ และไม่ได้สร้างพนั ธะจะทำ� ใหเ้ กดิ รปู
ร่างโมเลกุลท่แี ตกต่างกัน

แนวค�ำตอบข้นึ อยู่กับความคิดเห็นของ
นกั เรียน และจะนำ� แนวความคดิ ของ
นักเรยี นในการทำ� กจิ กรรม นำ� ไปใช ้
เพือ่ การปรับปรงุ และทำ� วจิ ัยต่อไป

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 50

แนวคำ� ตอบแบบบนั ทกึ ผลกจิ กรรม E2

พันธะโคเวเลนต์ 3 : รูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์

กิจกรรมท่ี 2 รูปร่างโมเลกุลกบั ลกู โป่งสเี ดยี วกนั

จุดประสงค์
1. อธบิ ายและเขียนแสดงรปู ทรงเรขาคณติ ของลูกโป่งท่ผี กู ขัว้ ตดิ กนั
2. คาดคะเนรปู ร่างโมเลกุลโคเวเลนต์จากการเปรยี บเทียบกบั รปู ร่างของลูกโป่งท่ขี ั้วตดิ กัน

แบบบันทกึ ผลการทำ� กจิ กรรม

จ�ำนวนลกู โป่ง ภาพลูกโปง่ รูปทรงเรขาคณติ มุมระหว่าง ชอื่ รูปทรง
(ลูก) แกน เรขาคณิตของ
รปู รา่ งโมเลกุล

2 180 เส้นตรง

3 120 สามเหลีย่ ม
แบนราบ

4 109.5 ทรงส่ีหน้า

5 120 กบั 90 พีระมดิ คู่ฐาน
สามเหลย่ี ม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขน้ั รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 51

แบบบันทึกผลการทำ� กจิ กรรม(ตอ่ )

จำ� นวน ภาพลกู โป่ง รูปทรงเรขาคณติ มมุ ระหว่าง ชือ่ รูปทรง
ลกู โปง่ (ลูก) แกน เรขาคณติ ของรปู

ร่างโมเลกลุ

6 90 ทรงแปดหน้า

อภิปรายผลการทำ� กจิ กรรม
จากกจิ กรรมลกู โปง่ ใชแ้ ทนกลมุ่ หมอกอเิ ลก็ ตรอนครู่ ว่ มพนั ธะระหวา่ งอะตอมกลางกบั อะตอม
ล้อมรอบ เมื่อน�ำผูกข้ัวติดกัน พบว่าลูกโป่งแต่ละลูกผลักกันเกิดการจัดตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ ที่มี
สมมาตร โดยจ�ำนวนลูกโป่งมีผลต่อรูปร่าง แสดงว่าเม่ือจ�ำนวนลูกโป่งล้อมรอบมากขึ้นจะมีจ�ำนวน
พันธะมากขน้ึ ซึ่งอเิ ลก็ ตรอนในพันธะจะผลกั กนั ท�ำให้รปู ร่างมที ศิ ทางของพันธะอยู่ห่างกนั มากที่สดุ
เมอื่ เปรียบเทียบกับรูปทรงเรขาคณติ สรปุ ได้ว่า ลูกโป่งท่ีพันตดิ กนั 2 3 4 5 และ 6 ลูก มรี ูปร่างเป็น
เส้นตรง สามเหล่ยี มแบนราบ ทรงสห่ี น้า พีระมิดคู่ฐานสามเหลย่ี ม และทรงแปดหน้า ตามล�ำดบั
สรปุ ผลการท�ำกจิ กรรม
รปู รา่ งโมเลกลุ โคเวเลนตท์ อี่ ะตอมกลางไมม่ อี เิ ลก็ ตรอนคโู่ ดดเดยี่ ว มรี ปู รา่ งโมเลกลุ แบบไมส่ ม
มารต ท�ำให้ให้รปู ร่างโมเลกุลต่างกัน
คำ� ถามหลังการทำ� กจิ กรรม
1. จากกิจกรรม รปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์แต่ละชนดิ มมี ุมพันธะไม่เท่ากัน ขน้ึ อยู่กับปัจจัยใด

แนวคำ� ตอบ ความยาวพนั ธะ พลงั านพนั ธะและจำ� นวนอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง
2.ให้นกั เรยี นยกตัวอย่างรูปร่างโมเลกุลทเ่ี กดิ จากการจำ� ลองลกู โป่งสเี ดยี วกัน 2 ลูก

แนวค�ำตอบ คาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)

แนวค�ำตอบข้นึ อยกู่ ับความคิดเห็นของ
นกั เรยี น และจะนำ� แนวความคดิ ของ
นกั เรียนในการท�ำกจิ กรรม น�ำไปใช ้
เพือ่ การปรบั ปรงุ และท�ำวจิ ัยตอ่ ไป

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชุดที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 52

กิจกรรมท่ี 3 รปู รา่ งโมเลกลุ กับลกู โปง่ สตี ่างกัน
จุดประสงค์
1. อธบิ ายและเขยี นแสดงรูปทรงเรขาคณติ ของลูกโป่งทผ่ี กู ขว้ั ตดิ กัน และลูกโป่งท่เี ปน็
แรงผลัก
2. คาดคะเนรูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์จากแรงผลกั ของอเิ ล็กตรอน

แบบบนั ทกึ ผลการท�ำกจิ กรรม

จำ� นวน ภาพลูกโปง่ รปู ทรงเรขาคณติ มุมระหวา่ ง ชื่อรปู ทรง
ลกู โปง่ (ลกู ) แกน เรขาคณิตของ
รูปรา่ งโมเลกุล

สีทหี่ นึ่ง 2 ลูก < 120o มุมงอ
สีทสี่ อง 1 ลูก

สีท่หี นง่ึ 2 ลูก < 109o มมุ งอ
สีท่สี อง 2 ลูก
สที ห่ี น่งึ 2 ลูก 180o เส้นตรง
สีท่ีสอง 3 ลูก

สที ่ีหนึ่ง 3 ลกู < 109o พรี ะมดิ ฐาน
สที ่ีสอง 1 ลกู สามเหลี่ยม

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 53

แบบบนั ทกึ ผลการท�ำกจิ กรรม (ต่อ)

จ�ำนวน ภาพลกู โปง่ รปู ทรงเรขาคณติ มมุ ระหว่าง ชอ่ื รปู ทรง
ลูกโป่ง(ลกู ) แกน เรขาคณิตของ
รูปรา่ งโมเลกลุ

สที ี่หนึ่ง 3 ลกู < 90o รูปตัวที
สที ส่ี อง 2 ลกู

สที ห่ี น่ึง 4 ลูก < 90o ทรงสหี่ น้าบดิ
สีทสี่ อง 1 ลูก และ <120o เบย้ี ว
สที ี่หนง่ึ 4 ลกู
สีท่สี อง 2 ลกู หรือไม้กระดก
หก

90o สเี่ หลย่ี มแบน
ราบ

สีทห่ี น่ึง 5 ลกู < 90o พีระมิดฐาน
สที ่ีสอง 1 ลกู และ 90o ส่เี หล่ยี ม

อภปิ รายผลการทำ� กจิ กรรม
ลกู โป่งต่างสใี ช้แทนอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดย่ี วและอเิ ล็กตรอนคู่ร่วมพันธะ ซง่ึ รปู ร่างโมเลกลุ
พจิ ารณาจากตำ� แหน่งของอะตอมทงั้ หมด และไม่น�ำต�ำแหน่งของอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดย่ี วมา
พิจารณา โดยแรงผลักท่เี กิดจากอิเลก็ ตรอนคู่โดดเด่ยี วจะส่งผลต่อมมุ ระหว่างพนั ธะและ
รูปร่างโมเลกลุ ซง่ึ โมเลกลุ ท่ปี ระกอบด้วยอะตอมล้อมรอบ 2 อะตอม และอเิ ล็กตรอนคู่โดด
เดี่ยว 2 คู่ รปู ร่างโมเลกลุ ไม่เป็นแบบเส้นตรง แต่เป็นมุมงอ (มมุ พันธะน้อยกว่า 180o) เพราะมี
แรงผลักจากลกุ โป่งท่ใี ช้แทนอเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเด่ยี ว

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 54

สรปุ ผลการท�ำกิจกรรม
เมื่อใช้ลูกโป่งแทนอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยวและอิเล็กตรอนคู่ร่วมพันธะ เม่ือน�ำมาผูกข้ัวติดกัน
พบว่าลูกโป่งแต่ละลูกผลักกันเกิดการจัดตัวเป็นรูปร่างต่าง ๆ ท่ีมีสมมาตร โดยเมื่อจ�ำนวนอะตอม
ลอ้ มรอบหรอื จำ� นวนอเิ ลก็ ตรอนคโู่ ดดเดย่ี วมากขนึ้ จะมจี ำ� นวนพนั ธะมากขน้ึ ซงึ่ อเิ ลก็ ตรอนในพนั ธะ
จะผลกั กนั ทำ� ใหร้ ปู รา่ งโมเลกลุ มที ศิ ทางของพนั ธะอยหู่ า่ งกนั มากทสี่ ดุ ดงั นนั้ รปู รา่ งโมเลกลุ ขน้ึ อยกู่ บั
จ�ำนวนอเิ ล็กตรอนคู่โดดเด่ยี วรอบอะตอมกลาง

คำ� ถามหลังการท�ำกจิ กรรม
1. รปู ร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ท่มี อี ิเลก็ ตรอนคู่โดดเดย่ี ว ทอี่ ะตอมกลางต่างจากรปู ร่างโมเลกลุ
โคเวเลนต์ทไ่ี ม่มีอเิ ล็กตรอนคู่โดดเด่ยี วท่ีอะตอมกลางอย่างไร
แนวคำ� ตอบ รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ท่มี ีอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดย่ี วที่อะตอมกลาง มมี มุ พันธะท่ี
น้อยกว่ารปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์ท่ไี ม่มอี ิเลก็ ตรอนคู่โดดเดย่ี ว เนอ่ื งจากอเิ ลก็ ตรอน
ทอ่ี ะตอมกลางเกดิ การผลักกันทำ� ให้มุนพนั ธะน้อยลง
2.ลูกโป่งสีที่สองเปรยี บเสมอื นสงิ่ ใดในรูปร่างโมเลกุล
แนวค�ำตอบ อเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเดย่ี ว

3. รปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์มมี ุมพนั ธะเท่ากนั หรอื ไม่ จงอธบิ าย
แนวคำ� ตอบ ไม่เท่ากนั โดยมุมพนั ธะของแต่ละโมเลกลุ ขน้ึ กบั จ�ำนวนอเิ ล็กตรอนคู่โดดเด่ยี วบน
อะตอมกลาง ซง่ึ อเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเด่ยี วบนอะตอมกลางมแี รงผลกั มากกว่า
ทอเิ�ำลให็กต้เกรดิ อแนรคงู่รผ่วลมักพอนั เิ ลธก็ะตเชร่นอนSคOู่ร2่วมมีอพิเันลธก็ ะตรเกอดิ นเคปู่โ็นดดมเุมดงี่ยอวบมนมี อุมะพตันอธมะก1ล1า9ง.51o คู่
โมมมุ เพลกนั ลุธะขอ1ง04H.25Oo และ
มอี เิ ล็กตรอนคู่โดดเดย่ี วบนอะตอมกลาง 2 คู่ เกดิ เป็นมุมงอ มี
พนั ธะไม่เท่ากัน จำ� นวนอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดยี่ วบนอะตอมกลางไม่เท่ากันทำ� ให้มุม

แนวคำ� ตอบข้ึนอยู่กบั ความคดิ เหน็ ของ
นักเรยี น และจะนำ� แนวความคดิ ของ
นกั เรยี นในการท�ำกจิ กรรม นำ� ไปใช ้
เพ่ือการปรบั ปรุงและท�ำวจิ ยั ตอ่ ไป

ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขน้ั รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 55

แนวคำ� ตอบแบบบันทกึ ผลกจิ กรรม E2

พันธะโคเวเลนต์ 3 : รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์

กจิ กรรมท่ี 4 จากกระดาษสรู่ ูปร่างโมเลกุล 3 มติ ิ
จุดประสงค์
1. เพอ่ื พับกระดาษให้เป็นรูปร่างโมเลกุล 3 มติ ิ
2. เพือ่ สร้างแบบจำ� ลองของโมเลกลุ แบบ VSEPR หกแบบจากกระดาษ จ�ำนวน 6 แบบ
โดยใช้เทคนคิ การพบั กระดาษ
แบบบนั ทึกผลการทำ� กจิ กรรม

สูตรท่วั ไป รูปทรงเรขาคณติ ทพ่ี ับได้ ช่อื รูปทรงเรขาคณติ
ของรูปรา่ งโมเลกลุ

AB3E พีระมดิ ฐานสามเหล่ยี ม

AB4 ทรงสีห่ น้า

AB5E พรี ะมดิ ฐานสเ่ี หลี่ยม

ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้แู บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขั้น รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 56

แบบบันทกึ ผลการท�ำกจิ กรรม (ต่อ)

สตู รทวั่ ไป รปู ทรงเรขาคณติ ทพ่ี บั ได้ ชอ่ื รูปทรงเรขาคณติ ของ
รูปรา่ งโมเลกลุ

AB5 พีระมดิ คู่ฐานสามเหล่ยี ม

AB4E ทรงสีห่ น้าบดิ เบยี้ วหรอื
ไม้กระดานหก

AB6 ทรงแปดหน้า

อภปิ รายผลการท�ำกจิ กรรม
จากกิจกรรมการพบั กระดาษให้เปน็ รูปร่าง 3 มติ ิ เป็นการจัดเรยี งสมมาตรที่เกดิ ข้นึ ของ
คู่อิเล็กตรอนรอบ ๆ อะตอม สามารถนำ� มาใช้เพอ่ื ทำ� นายรูปทรงเรขาคณติ ของโมเลกุล พบ
ว่า วงกลมดำ� ตรงกลาง คอื อะตอมกลาง และอะตอมท่ลี ้อมรอบ เส้นทบึ คือ เส้นแนวแกนของ
อะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง และเส้นประ คอื เส้นท่เี กดิ จากอเิ ลก็ ตรอนคู่ร่วมพนั ธะระหว่าง
อะตอมกลางและอะตอมท่ลี ้อมรอบอะตอมกลาง โครงสร้าง 3 มติ ิรูปทรงเรขาคณติ ท�ำให้เหน็
การจัดตัวของอะตอมในโมเลกลุ แต่ละมมุ พันธะได้ชดั เจนขน้ึ
สรปุ ผลการทำ� กิจกรรม
การพบั กระดาษเปน็ รปู ทรงเรขาคณติ และรปู ร่างโมเลกลุ 3 มิติ ท�ำได้เพยี งรูปทรงต่าง ๆ ทม่ี ี
สมมาตรกนั โครงสร้างและรปู ร่างของโมเลกุลมผี ลต่อคณุ สมบัตทิ างกายภาพและมผี ลต่อสารเคมี
ตรวจสอบโครงสร้างของโมเลกุลโดยการสร้างรูปทรงเรขาคณิตของพวกเขาจากการใช้กระดาษ
ทฤษฎี VSEPR น�ำเสนอแบบจำ� ลองท่มี ีประโยชน์สำ� หรับการแสดงโครงสร้างของสารโคเวเลนต์

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขนั้ รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 57

ค�ำถามหลังการท�ำกจิ กรรม

1. รปู ร่างโมเลกุลโคเวเลนต์ท่แี ตกต่างกนั ข้นึ อยู่กับปัจจยั ใดบ้าง
แนวคำ� ตอบ ความยาวพนั ธะ และมุมพนั ธะ ซง่ึ เกิดจากแรงผลกั ของอเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเด่ยี

2. รูปร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์มมี ุมพันธะเท่ากันหรอื ไม่ จงอธบิ าย
แนวคำ� ตอบ ไม่เท่ากนั โดยมมุ พันธะของแต่ละโมเลกุล ข้นึ กบั จ�ำนวนอเิ ลก็ ตรอนคู่โดดเดย่ี วบน
อะตอมกลาง ซง่ึ อเิ ล็กตรอนคู่โดดเดย่ี วบนอะตอมกลางมแี รงผลักมากกว่า
อทเิ�ำลใหก็ ต้เกรดิ อแนรคงู่รผ่วลมักพอนั เิ ลธ็กะตเชร่นอนSคOู่ร2่วมมีอพเิ ันลธ็กะตรเกอดิ นเคปู่โน็ ดดมเุมดงย่ี อวบมนมี อมุ ะพตันอธมะก1ล1า9ง.51o คู่
และ
มโมุมเพลกันลุธะขอ1ง04H.25Oo มอี เิ ล็กตรอนคู่โดดเด่ยี วบนอะตอมกลาง 2 คู่ เกดิ เป็นมมุ งอ มี
พนั ธะไม่เท่ากัน จำ� นวนอเิ ล็กตรอนคู่โดดเดีย่ วบนอะตอมกลางไม่เท่ากนั ทำ� ให้มุม

3. ถ้าโมเลกุลประกอบด้วยอะตอมล้อมรอบ 3 อะตอม และอิเล็กตรอนคู่โดดเดี่ยว 1 คู่ มีรูปร่าง
โมเลกุลเปน็ อย่างไร พร้อมยกตวั อย่างโมเลกุล
แนวค�ำตอบ รูปร่างโมเลกุลเปน็ แบบพรี ะมดิ ฐานสามเหลย่ี ม ตวั อย่างโมเลกุล เช่น NH3, PH3
4 .แ เน ห วต ค ุใ ด�ำ มต ุมอ รบ ะ ห เคนว่อืู่โ่าดงงดจพเาันดกธย่ี โะวมใเเนหลโลกมือุลเล1CกHคลุ 4ู่ขซไอ่งึมงแ่มรNอี งHเิผล3ลก็ จักตึงรรมะอคี หน่าวคน่าู่โ้องดอยดเิกลเวดก็ ่าย่ี ตมวรุมอสรน่วะนคหโู่โวมด่าเดงลพเกดนั ลุ่ยี ธวะNกใHับน3อโมมเิ ลเีอล็กิเกลตุลก็ รตอCรนHอค4นู่
รใ่วนมโพมเันลธกะลุ ในCโHม4เลจกึงลุส่งNผHล3ใหจะ้โมมเคี ล่ากมุลากNกHว3่ามแมี รมุงผระลหกั วร่าะงหพวัน่าธงอะนเิ ล้อ็กยตกรวอ่านโมคเู่รล่วกมลุ พนัCHธะ4

แนวคำ� ตอบขึน้ อยกู่ ับความคิดเห็นของ
นกั เรียน และจะน�ำแนวความคดิ ของ
นักเรยี นในการท�ำกจิ กรรม นำ� ไปใช ้
เพอ่ื การปรับปรุงและท�ำวจิ ัยต่อไป

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 58

แนวคำ� ตอบ
บตั รกจิ กรรม E3 ตกผลกึ ความรู้ มุ่งสูข่ อ้ สรปุ

พนั ธะโคเวเลนต์ 3 : รูปรา่ งโมเลกลุ โคเวเลนต์
ค�ำส่ัง ให้นักเรียนสรุปความคิดรวบยอด เร่ือง พันธะโคเวเลนต์ 3 รูปร่างโมเลกุลโคเวเลนต์
ในรปู แผนทค่ี วามคิด

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขน้ั รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 59

แนวคำ� ตอบ
บตั รกจิ กรรม E4 เปิดกรอบความคดิ เพ่ิมพนู ความรู้

พันธะโคเวเลนต์ 3 : รปู ร่างโมเลกลุ โคเวเลนต์

คำ� สงั่ จงตอบค�ำถามจากสถานการณ์ท่กี �ำหนดให้
1. จงคาดคะเนรปู ร่างโมเลกลุ และมุมพนั ธะ ของสารท่มี ีสูตรโครงสร้างต่อไปน้ี

ภาพที่ 13 โมเลกลุ สารโคเวเลนต์
(ทมี่ า : สุขใจ สงิ สาโร, 2558)

แนวคำ� ตอบ หมายเลข 4 คอื ทรงส่ีหน้า
หมายเลข 1 คอื สามเหลีย่ มแบนราบ หมายเลข 5 คอื มมุ งอ
หมายเลข 2 คอื พีระมิดฐานสามเหล่ยี ม หมายเลข 6 คอื มุมงอ
หมายเลข 3 คอื สามเหล่ียมแบนราบ

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 60

2. ให้นักเรียนน�ำรูปร่างโมเลกุลท่ีได้จากในกิจกรรมท่ี 2 กลุ่มละ 2 โมเลกุล โดยการออกแบบ
เทคโนโลยที น่ี ำ� เอาภาพเสมอื น 3 มติ ิ Augmented reality (AR) จำ� ลองเขา้ สโู่ ลกจรงิ ผา่ นกลอ้ งโทรศพั ท์
เคลือ่ นทีส่ ่งงานครผู ่าน google classroom
แนวคำ� ตอบ ตัวอย่างผลงานทีน่ กั เรยี นแต่ละกลุ่มสร้างข้นึ ในกจิ กรรมเปิดกรอบความคดิ เพิม่ พูน
ความรู้

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขนั้ รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 61

2. ใหน้ กั เรยี นนำ� รปู รา่ งโมเลกลุ ทไ่ี ดจ้ ากในกจิ กรรมที่ 2 กลมุ่ ละ 2 โมเลกลุ โดยการออกแบบเทคโนโลยี
ทน่ี ำ� เอาภาพเสมอื น 3 มติ ิ Augmented reality (AR) จำ� ลองเข้าสู่โลกจรงิ ผ่านกล้องมอื ถอื ส่งงานครู
ผ่าน google classroom
แนวค�ำตอบ ตัวอย่างผลงานท่นี กั เรยี นสร้างขน้ึ ในกจิ กรรมเปิดกรอบความคดิ เพ่มิ พูนความรู้

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขน้ั รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 62

แนวค�ำตอบบัตรกจิ กรรม E5 ประเมินความรู้
พันธะโคเวเลนต์ 3 : รปู ร่างโมเลกุลโคเวเลนต์

ค�ำส่งั ให้นักเรยี นตอบค�ำถามต่อไปน้ี

1. ระบจุ ำ� นวนอะตอมลอ้ มรอบ จำ� นวนอเิ ลก็ ตรอนคโู่ ดดเดยี่ ว สตู รทว่ั ไป และรปู รา่ งโมเลกลุ ของสารท่ี
มสี ูตรโมเลกุลต่อไปน้ี (5 คะแนน)

ข้อ สตู รโมเลกุล อะตอมล้อม อิเล็กตรอน สูตร
รอบ คโู่ ดดด่ยี ว ทัว่ ไป รูปรา่ งโมเลกุล
(อะตอม) (คู่) เส้นตรง
1.1 N2O 2 0 AB2

1.2 NO3- 3 0 AB3 สามเหล่ียมแบนราบ

1.3 CH3Cl 4 0 AB4 ทรงสี่หน้า

1.4 I3- 2 3 AB2 E3 เส้นตรง

1.5 IO3- 3 1 AB2 E พรี ะมดิ ฐานสามเหล่ยี ม

2. เปรียบเทยี บมุมพันธะในโมเลกุลแต่ละคู่ต่อไปน้ี (2 คะแนน)
แนวคำ� ตอบ
2.1 SiH4 กบั BH3 SiH4 < BH3
2.2 H3O+ กับ H2O H3O+ > H2O
2.3 NH3 กบั H2S NH3 > H2S
2.4 OCl2 กบั SCl2 OCl2 > SCl2

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 63

3. จงเรยี งล�ำดบั มุมระหว่างพนั ธะของอะตอมกลางของโมเลกลุ H2S SiH4 และ PH3 จากมากไปน้อย
พร้อมอธบิ ายเหตุผล (3 คะแนน)
แ นว ค ำ� ต อบ PอNPHะHท3ต3ำ� อแมใลมหาะก้กกลลกNาุ่วมHง่าห3มมPมาHอีรก3กปู กอเรวน่าเิ่าล่ืองจโ็กงมจงึตเมารลกีแอกNรนุลงค เผปู่รลมน็่วักมคีพรพ่ารี ะอะันหิเมธวลดิะ่า็กใฐงโนกาทโนลรมสุ่มเเนลาหกมกมาเลุ อหตขกลวิ ออติย่ี งเิมสี ลNงู ็กแHกตต3วร่ม่าออุมแยนลรู่ใคะกะหมู่รล่ววขี้กม่านับงพาพNดันันเธลซธะง่ึก็ะเกขปอวน็ ่าง
อสดิเ้่ววลนย็กกHตัน2รมSอานมกคีอกิเู่โวลด่าก็ดใตนเดรโ่ยีมอวเนลค2กู่รุลค่วขู่มมอพคีงัน่าPธมHะา3ก2กควู่แ่าแลระงอผเิ ลลก็กั ตระรหอนว่าคงู่โอดเิดลเ็กดต่ยี รวอ2นคคู่รู่ แ่วรมงพผันลธักะจามกุม


ระหว่างพนั ธะ H-S-H จงึ มีค่าน้อยกว่ามมุ ระหว่างพนั ธะ H-P-H และ H-N-H

ชุดกิจกรรมการเรยี นรูแ้ บบสบื เสาะหาความรู้ 5 ขัน้ รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ที่ 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 64

เกณฑ์การประเมนิ
บตั รกจิ กรรม E5 ประเมนิ ความรู้

ขอ้ ท่ี เกณฑก์ ารให้คะแนน 1 คะแนน
ตอบคำ� ถามถูกต้อง และเนอ้ื หาสอดคล้องกบั เรอ่ื งที่เรยี น 0 คะแนน
1 คะแนน
1.1 ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบค�ำถาม 0 คะแนน
ตอบคำ� ถามถูกต้อง และเน้อื หาสอดคล้องกบั เร่อื งทเ่ี รียน 1 คะแนน
0 คะแนน
1.2 ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบค�ำถาม 1 คะแนน
ตอบค�ำถามถูกต้อง และเน้อื หาสอดคล้องกบั เรอ่ื งทเี่ รยี น 0 คะแนน
1 คะแนน
1.3 ตอบไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบค�ำถาม 0 คะแนน
ตอบคำ� ถามถกู ต้อง และเน้อื หาสอดคล้องกับเร่อื งที่เรยี น 0.5 คะแนน
0 คะแนน
1.4 ตอบไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบค�ำถาม 0.5 คะแนน
ตอบค�ำถามถูกต้อง และเน้อื หาสอดคล้องกบั เร่อื งท่เี รยี น 0 คะแนน
0.5 คะแนน
1.5 ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบค�ำถาม 0 คะแนน
ตอบถกู ต้อง 0.5 คะแนน
0 คะแนน
2.1 ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบคำ� ถาม 3 คะแนน
ตอบถูกต้อง 2 คะแนน
1 คะแนน
2.2 ตอบไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบคำ� ถาม 0 คะแนน
ตอบถูกต้อง

2.3 ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบคำ� ถาม
ตอบถกู ต้อง

2.4 ตอบไม่ถูกต้อง หรอื ไม่ตอบคำ� ถาม
ตอบถกู ต้อง เปรยี บมุมพันธะถกู ต้องทงั้ 3 โมเลกุล อธบิ ายชดั เจน
ตอบถกู ต้อง เปรยี บมุมพันธะถกู ต้อง 2 โมเลกลุ อธบิ ายชดั เจน

3. ตอบถูกต้อง เปรยี บมุมพันธะถูกต้อง 1 โมเลกลุ อธบิ ายชดั เจน
ตอบไม่ถกู ต้อง หรอื ไม่ตอบค�ำถาม

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 65

แบบทดสอบหลังเรยี น
ชุดกิจกรรมการเรยี นร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขัน้

ชุดที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3

คำ� ช้ีแจง
1. แบบทดสอบเปน็ แบบปรนยั มที ง้ั หมด 10 ข้อ 4 ตัวเลอื ก คือ ก ข ค และ ง ใช้เวลาทำ�
10 นาที คะแนนเตม็ 10 คะแนน
2. ให้นักเรยี นเลอื กคำ� ตอบทถ่ี กู ทส่ี ดุ เพียงคำ� ตอบเดียว แล้วท�ำเครอ่ื งหมายกากบาท (X) ทบั
ตวั อกั ษร ก ข ค ง ลงในกระดาษคำ� ตอบ

1. ข้อใดเรยี งลำ� ดบั มมุ ระหว่างพนั ธะได้ถูกต้อง
ก. CHHCO2O2OO22 > CNHCHHO2O432>>>> NCCCHHHH3444 > HNCN2HOHO323
ข. > >
ค. > >
ง. > >

2. เหตใุ ดโมเลกุลของน�้ำ มุมระหว่าง H2O จงึ ไม่เท่ากบั 180 องศา แต่กลับมมี มุ พนั ธะเท่ากับ
104.5 องศา
ก. ออกซเิ จนมอี ิเลก็ ตรอนคู่โดดเด่ยี ว 2 คู่ จงึ พยายามผลักกับคู่ทีส่ ร้างพนั ธะให้ห่างกนั
มากทส่ี ดุ
ข. เพอ่ื ลดระยะห่างระหว่างอะตอมของไฮโดรเจนและออกซเิ จนให้น้อยทส่ี ดุ
ค. เพอื่ ให้อเิ ล็กตรอนคู่ทส่ี ร้างพนั ธะกบั ไฮโดรเจนทง้ั สองอะตอมมีโอกาสแลกเปล่ยี นกันได้
ง. เพ่อื ลดขนาดของโมเลกลุ ให้โมเลกลุ อยู่เบยี ดเสยี ดกนั ให้มากทส่ี ดุ

3. พจิ ารณาข้อความต่อไปน้ี
123 ... SNSพiiCHFรี l463ะ-เมมปเดิปีอน็ ฐ็นิเโลามไก็อนเลตอสกรอาอมลุนนเโทหคค่มี ลเู่รวีรี่ย่วเปู มลมรนพ่าตงันโ์ทธมี่ไะเมล3่มกีขคลุ วัู้่ เแปมล็นรีะทูปอรรเิ ลง่าแ็กงปโตมดรเอหลนนกค้าุลอู่โเดปะดตน็ เอทดมร่ยี งกวสล1่หี านคงม้าู่ รีปปู รระ่าจงุเโปมน็ เลลกบลุ เป็นแบบ
ข้อใดถกู ต้อง
ก. 1 เท่านน้ั
ข. 1 และ 2 เท่านนั้
ค. 1 และ 3 เท่านนั้
ง. 1 2 และ 3

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขัน้ รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 66

4. มมุ ระหว่างพันธะในโมเลกลุ ใดมคี ่ามากที่สดุ
ก. CBONFFFF4332
ข.
ค.
ง.

5. โมเลกุลใดมรี ูปร่างโมเลกุลเช่นเดยี วกบั CCl4
ก. CCHPHOC2O3l23C l
ข.
ค.
ง.

6. โมเลกุลในข้อใด มรี ปู ร่างเหมอื นกัน
ก. HNHB2HC2OS3l3 กับ OSCBOOFe232Cl2
ข. กบั
ค. กบั
ง. กบั

7. ข้อใดประกอบด้วยโมเลกุลทม่ี ีรูปร่างเป็นมมุ งอทงั้ หมด
ก. CCHCO2l22HS2O2,,,,SCHCilO2O2OS22
ข.
ค.
ง.

8. ข้อใดเปน็ รปู ร่างโมเลกุลของ SเสO้น3,ตCรง2N2 ได้ถกู ต้องตามลำ� ดับ
ก. สามเหลย่ี มแบนราบ ,
ข. สามเหล่ยี มแบนราบ , มุมงอ
ค. พรี ะมิดฐานสามเหลย่ี ม , เส้นตรง
ง. พรี ะมดิ ฐานสามเหล่ยี ม, มมุ งอ

9. การที่มมุ Cl-O-Cl ใหญ่กว่า Cl-S-Cl ข้อใดไม่ใช่เหตุผล
ก. ขนาดอะตอมของ S ใหญ่กว่าของ O
ข. Cl มอี เิ ล็กโทรเนกาตวิ ติ ีสูงกว่าทัง้ O และ S
ค. ผลต่างระหว่างค่าอเิ ลก็ โทรเนกาตวิ ติ ีของ O และ Cl มากกว่าในกรณขี อง S และ Cl
ง. อเิ ลก็ ตรอนครู่ ว่ มพนั ธะในโมเลกลุ OCl2 อยใู่ กลก้ บั อะตอมกลางมากกวา่ ในโมเลกลุ ของ SCl2

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 67

1 0 . โโมดกเยล.ใกชส้อลุ าเิขมลอเก็ หงตนลร้ำ�ีย่ อ ม(นHแค2บOู่โนด) รดมาเีรบดูปย่ี รว่าขงอเปง็นOมมุจะงอไดถ้ H้า3โOป+รตมอรี ปูนร(่าHง+ต) รสงรก้าับงพข้อนั ใธดะกับอะตอมของ O ใน H2O
ข. พรี ะมิดฐานสามเหล่ยี ม
ค. ทรงส่หี น้า
ง. ทรงแปดหน้า

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 68

กระดาษคำ�ตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชุดกิจกรรมการเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขนั้

ชุดที่ 4 พันธะโคเวเลนต์ 3
จำ�นวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 10 นาที

ชือ่ -สกลุ ............................................................เลขที.่ .............. ช้ัน..................

ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้
10 ( ) ผา่ น ( ) ไมผ่ า่ น

ผลการประเมนิ

ผา่ นเกณฑ์ตอ้ งได้คะแนนรอ้ ยละ 70 หรือ 7 คะแนน

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชุดที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 69

กระดาษคำ�ตอบแบบทดสอบหลังเรียน
ชดุ กิจกรรมการเรียนร้แู บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขัน้

ชดุ ที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3
จำ�นวน 10 ขอ้ คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 10 นาที

ชือ่ -สกลุ ............................................................เลขที.่ .............. ชั้น..................

ขอ้ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10

คะแนนเตม็ คะแนนทไ่ี ด้
10 ( ) ผา่ น ( ) ไมผ่ า่ น

ผลการประเมนิ

ผ่านเกณฑ์ต้องได้คะแนนร้อยละ 70 หรือ 7 คะแนน

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3 70

เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น และหลงั เรยี น
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรูแ้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขน้ั

ชุดท่ี 4 พันธะโคเวเลนต์ 3

ขอ้ คำ� ตอบ
แบบทดสอบก่อนเรยี น แบบทดสอบหลงั เรยี น

1ง ง

2ก ก

3ข ค

4ข ข

5ง ง

6ก ง

7ค ก

8ข ก

9ง ข
10 ง ข

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แบบสบื เสาะหาความรู้ 5 ข้ัน รายวชิ าเคมี 1 ชดุ ที่ 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 71

บรรณานกุ รม

กฤษณา ชุตมิ า. (2556). หลกั เคมที วั่ ไป เล่ม 1. กรุงเทพ ฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
ชยั ยทุ ธ ช่างสาร และเลศิ ณรงค์ ศรพี นม. (2545). เคมสี ำ� หรับวศิ วกร. กรุงเทพ ฯ :
เพช็ รสกลุ จำ� กดั .
ชัยวฒั น์ เจนวานชิ ย์. (2525). หลกั เคมี 1. กรงุ เทพ ฯ : กราฟิคอาร์ต.
ประดิษฐ์ มีสุข. (2548). เคมีพ้นื ฐานสำ� หรบั วทิ ยาศาสตร์สขุ ภาพ. สงขลา : เทมการพมิ พ์.
พงศธร นนั ทธเนศ. (ม.ป.ป.). คู่มอื ครูเคมี ม.4 เล่ม 1. กรุงเทพ ฯ : อักษรเจรญิ ทัศน์.
รานี สวุ รรณพฎษษ์. (2545). เคมที ัว่ ไป เล่ม 1 ฉบบั เสรมิ ประสบการณ์. กรงุ เทพ ฯ : วทิ ยพัฒน์.
วฒั น สุทธศิ ิรมิ งคล และสุพรรฌทพิ ย์ อติโพธิ. (2554). สรุปเคมี ม.ปลาย. กรงุ เทพ ฯ :
ห้างหุ้นส่วนจำ� กดั สามลดา.
วินัย วทิ ยาลยั . (มปป.). เคมี (ม.6 เล่ม 1). กรุงเทพ ฯ : ฟิสกิ ส์เซ็นเตอร์.
วรี ะชาติ สวนไพรนิ ทร์. (2549). เคมี เล่ม 3. กรุงเทพ ฯ : ภมู บิ ณั ฑิตการพมิ พ์.
สถาบันส่งเสรมิ การสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลย.ี (2553). คู่มอื ครรู ายวชิ าเคมีเพ่ิมเติม
เคมี เล่ม 1. กรุงเทพ ฯ : โรงพมิ พ์ สกสค. ลาดพร้าว.
สมพงศ์ จนั ทร์โพธ์ศิ ร.ี (2555). เคมอี นิ ทรยี ์ เล่ม 1. กรุงเทพ ฯ : วทิ ยพฒั น์.
ส�ำราญ พฤกษ์สนุ ทร. (2551). คู่มือสาระการเรยี นรู้พ้นื ฐานและเพ่มิ เติม เคมี ม.4 เล่ม 1.
กรงุ เทพ ฯ : พ.ศ. พฒั นา.
สำ� ราญ พฤกษ์สุนทร. (2551). คู่มือสาระการเรยี นรู้พ้นื ฐานและเพม่ิ เตมิ เคมี ม.4 เล่ม 2.
กรงุ เทพ ฯ : ห้างหุ้นส่วนจำ� กัดเรอื งแสงการพมิ พ์.
สุธาทพิ ย์ ศริ ไิ ฟศาลพิพัฒน์. (2542). เคมีวิทยาศาสตร์. กรุงเทพ ฯ : โอ.เอส.พร้นิ ต้งิ เฮ้าส์.
สุวัฒน์ ธาดาวธุ . (2558). คู่มือเตรียมสอบวชิ าเคมีระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย. นนทบรุ ี :
ธงิ ค์ บยี อนด์ บุ๊คส์ จำ� กดั .
เสกสรร ศริ ิวฒั นวบิ ูลย์. (ม.ป.ป.). สรุปเข้มลยุ โจทย์เคมเี ข้ามหาวิทยาลยั เล่ม 1. กรุงเทพ ฯ :
SCIENCE CENTER.
Brady, J.E. and Holum, J.R. (1993). Chemistry : The Study of Matter and Its Changes.
New York : John Wiley and Sons Ltd.
Brady, J.E. (1990). Genneral Chemistry. New York : John Wiley and Sons Ltd.
Brand, I. and Grime, R. (2002). Chemistry 11-14. Singapore : Pearson Education Ltd.
Briggs. J ,and Heyworth, R. (2012). Elective Chemistry. Singapore : Pearson Education
Ltd. Education Ltd.
Chang, R. (2010). Chemistry. New York : McGraw Hill.
Goldberg, D.E. (1989). Schaum’ s 3000 Solved Problems in Chemistry. New York :
Mc Graw-Hill.
Heyworth, R.M. and Briggs, J.G.R. (2007). Chemistry Insights O level. 2nd edition.
Singapore : Pearson Education Ltd.

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ บบสืบเสาะหาความรู้ 5 ข้นั รายวชิ าเคมี 1 ชุดท่ี 4 พนั ธะโคเวเลนต์ 3 72

บรรณานกุ รมเวบ็ ไซต์

“VSEPR Origami”,[ออนไลน]์ . เขา้ ถงึ ไดจ้ าก : https://1.cdn.edl.io/grkOcayFCyrxVUiGjasK1ZBeIKkOSD
8CIX2AuUQ5IxvleVF4.pdf. [สบื ค้นเมอ่ื 1 มนี าคม 2558].


Click to View FlipBook Version