114 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568 นายทัศนัย สุธาพจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สด เนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ประจ าปี 2568 โดยมีรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดอ่างทอง ข้าราชการตุลาการ ทหาร ต ารวจ นางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจ และเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัครฝนหลวงเข้าร่วมร่วมพิธี ณ หอประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดอ่างทองจังหวัดอ่างทองร่วมร าลึก \"วันพระบิดาแห่งฝนหลวง\" น้อมส านึกในพระมหากรุณาธิคุณ \"ในหลวง รัชกาลที่ 9\" ผู้ทรงแก้ภัยแล้งด้วยพระอัจฉริยภาพในการนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทองได้น าวางพานพุ่มดอกไม้สด พร้อมกล่าวถวายราชสักการะ น้อมร าลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงมีพระราชด าริน าความรู้ทางวิทยาศาสตร์ มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝน เกิดเป็นโครงการพระราชด าริฝนหลวง ช่วยขจัดความทุกข์ยากจากภัยแล้ง และบริหารจัดการทรัพยากรน้ าของประเทศจวบจนปัจจุบัน หลังเสร็จพิธี รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง ได้เยี่ยมชมนิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการฝนหลวง ซึ่งจัดแสดงโดยหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง เพื่อเป็นการเผยแพร่และตอกย้ าถึงความส าคัญของพระราชกรณียกิจนี้ให้ประชาชนได้รับทราบทั้งนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2545 คณะรัฐมนตรีได้มีมติก าหนดให้ วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น \"วันพระบิดาแห่งฝนหลวง\" เพื่อให้พสกนิกรชาวไทยได้ร่วมกันแสดงความจงรักภักดีและน้อมร าลึกถึงพระอัจฉริยภาพ ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงริเริ่มและพัฒนา \"ฝนหลวง\" รวมถึงโครงการในพระราชด าริอีกมากมาย เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศให้มีความอยู่ดีกินดีมาจนถึงทุกวันนี้
1พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ลงพื้นที่เชิญสิ่งของพระราชทาน และถุงพระราชทานมอบแก่ราษฎรและครอบครัวเด็กที่ประสบอุทกภัย17 พฤ ศ จิ ก า ย น 2568 พ ร ะบ าท สม เ ด็ จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนต รี ร่วมกับ มูลนิธิ ราชประชานุเคราะห์ เชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัย และเชิญสิ่งของพระราชทานส าหรับเด็ก ณ จังหวัดอ่างทอง โดยมี นายนที มนตริวัต ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยผู้พิพากษา หัวหน้าศาลจังหวัดอ่างทอง รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง หัวหน้าส่วนราชการ นายอ าเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับโดยในเวลา 07.35 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์จากศูนย์การบินทหารบก มายังโรงเรียนปาโมกข์วิทยาภูมิ อ.ป่าโมก จ.อ่างทอง และไปยังห้องประชุมดวงจินดา หงส์ศิริไพบูลย์ เพื่อรับฟังบรรยายสรุปเสถานการณ์อุทกภัย ตลอดจนการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง จากผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และหัวหน้าส านักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอ่างทองในการนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ประสบภัยพิบัติ / ให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือ เพื่อให้การช่วยเหลือราษฎรเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและ มีป ร ะสิ ท ธิ ภ าพ จ ากนั้ น องคมนต รี มอบสิ่งของพระราชทานส าหรับเด็ก จ านวน 100 ชุด ณ ห้องศรีโสภา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้ าอยู่ และสมเด็จพระนางเจ้ า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยเด็กเล็ก ที่ผู้ปกครองอาจดูแลได้ยากล าบากในห้วงภัยพิบัติจากนั้น องคมนตรี ได้เดินทางไปยังหอประชุม โรงเรียนปาโมกข์วิทยาภูมิ เพื่อมอบสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยจ านวน 1,997 ชุด พร้อมเชิญ พระราชกระแสความห่วงใยจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ที่ทรงเป็นห่วง และได้พระราชทานสิ่งของเป็นน้ าพระทัยแก่ผู้ประสบภัยทุกคน และให้ประชาชนช่วยกันใช้แรงกาย แรงใจ ด้วยจิตอาสา ก าลังทรัพย์ช่วยเหลือกันในยามเกิดภัย เช่นเดียวกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ รวมถึงทรงให้ช่วยกันดูแลคนป่วย คนพิการ ผู้สูงอายุ ที่เคยร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองมา และดูเรื่องการศึกษาของบุตรหลานที่จะดูแลบ้านเมืองต่อไปต่อจากนั้น พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ได้ลงพื้นที่หมู่ที่ 3 ต าบลโผงเผง อ าเภอป่าโมก เพื่อเชิญสิ่งของพระราชทานมอบแก่ประชาชนผู้ประสบอุทกภัยน้ าท่วมจ านวน 3 ชุด และเชิญพระราชกระแสที่ทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวแก่ราษฎรด้วย
1ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ต าบลโผงเผง อ าเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง12 พฤศจิกายน 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายภราดร ปริศนานันทกุล รัฐมนตรีประจ าส านักนายกรัฐมนตรี, พลโท อดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม, นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะ พร้อมด้วย นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง ลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดอ่างทอง เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ต าบลโผงเผง อ าเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง โดยได้มอบถุงยังชีพให้แก่ประชาชนจ านวน 1,500 ชุด ระหว่างการลงพื้นที่ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้ก าลังใจผู้ประสบอุทกภัยว่า “ขอขอบคุณประชาชนด้วยหัวใจ ที่เสียสละพื้นที่ให้เป็นที่รับน้ า ผมขอสัญญาว่าจะดูแลทุกคนอย่างดีที่สุด รับฟังทุกเสียงสะท้อน และจะพยายามหาทางระบายน้ าให้มากที่สุด พร้อมน างบประมาณมาดูแลผู้ที่เสียสละพื้นที่ทางการเกษตรเป็นรายเดือน จนกว่าสถานการณ์จะบรรเทาลง” และกล่าวเพิ่มเติมว่า “ขอใช้อ านาจของนายกรัฐมนตรีในการจัดสรรงบประมาณมาทดแทนโอกาสของชาวไร่ชาวนาที่เสียสละพื้นที่ให้เป็นพื้นที่รับน้ า รัฐบาลจะดูแลเป็นรายเดือนจนกว่าน้ าจะหมดไป”ในการนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบเกียรติบัตรให้แก่อาสาสมัครที่ให้ความช่วยเหลือในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง เพื่อเป็นขวัญและก าลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้านนายชวนินทร์วงศ์สถิตจิรกาล ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง รายงานสถานการณ์อุทกภัยว่า ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2568 จังหวัดอ่างทองมีพื้นที่ได้รับผลกระทบทั้งหมด 4 อ าเภอ ได้แก่ อ าเภอเมืองอ่างทอง อ าเภอวิเศษชัยชาญ อ าเภอป่าโมก และอ าเภอไชโย โดยได้ประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 45 ฉบับ ครอบคลุมพื้นที่ 31 ต าบล 147 หมู่บ้าน 14 ชุมชน รวม 3,024 ครัวเรือน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 11,572 รายจังหวัดอ่ างทองได้ให้ความช่ วยเหลือตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 แล้ว จ านวน 2,845 ครัวเรือน วงเงิน 25,605,000 บาท และด้านการเกษตร 71 ราย วงเงิน 505,000 บาท รวมทั้งสิ้น 26,110,000 บาท ขณะนี้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ าในอัตรา 2,900 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
1ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ านวน 500 ถุง ณ วัดอัมพวัน ต าบลนรสิงห์ อ าเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง 10 พฤศจิกายน 2568 นายนเรศ ธ ารงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ลงพื้นที่วัดอัมพวัน ต าบลนรสิงห์ อ าเภอป่าโมก จังหวัดอ่างทอง เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยและ มอบถุงยังชีพให้กับผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จ านวน 500 ถุง โดยมี น า ยช ว นิ น ท ร์ วง ศ์ ส ถิ ตจิ รก า ล ผู้ ต ร ว จ ร า ช ก า รกระทรวงมหาดไทย รักษาการในต าแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายทัศนัย สุธาพจน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง และนางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วย หัวหน้าส่วนราชการ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับโดยนายนเรศ ธ ารงค์ทิพยคุณ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้กล่าวให้ก าลังใจพี่น้องประชาชนชาวอ่างทองที่ประสบอุทกภัย ยืนยันว่า รัฐบาล โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และท างานอย่างเต็มที่และไม่ทอดทิ้งประชาชน ทั้งนี้ หากภาพรวมหากไม่มีฝนตก และหากมวลน้ าเหนือลงมาเติม มองว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ประกอบกับวันที่ 10-20 พ.ย.นี้ น้ าทะเลหนุนจะลดระดับลง วางแผนว่าจะรีบระบายน้ าลงทะเลต่อไป คาดว่าสถานการณ์จะบรรเทาลง พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ของกรมชลประทานนั้นได้บริหารจัดการน้ าเข้าพื้นที่ที่สามารถรองรับได้แล้วทั้งหมดรมช.เกษตรฯ ย้ าว่า ขอให้หน่วยงานในพื้นที่ต้องท าความเข้าใจกับประชาชนและให้ก าลังใจ ส่วนเรื่องเงินเยียวยา ผู้ประสบอุทกภัยรอบที่สามนั้น นายกรัฐมนตรีได้มีการก าชับให้ติดตามการด าเนินงานโดยไม่ล่าช้า
1\"มะม่วงเขียวเสวย” อ่างทอง คุณภาพมาตรฐานสากล ส่งออกญี่ปุ่นลอ็ตใหญ่กว่า 1 ตัน7 พฤศจิกายน 2568 นางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง นายสุรพงษ์เนตรพระ เกษตรจังหวัดอ่างทอง พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สวนของนายก าไร เชยชม เกษตรกรอ าเภอวิเศษชัยชาญ จังหวัดอ่างทอง เพื่อดูการจัดเก็บมะม่วงเขียวเสวยที่จะส่งออกไปยังตลาดญี่ปุ่น จ านวนกว่า 1 ตัน โดยมะม่วงดังกล่ าว ต้องน าไปผ่ านกร ะบ วนก า รอบไอน้ า ร้อน (Vapor..Heat..Treatment) เพื่อก าจัดแมลงศัตรูพืชก่อนการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่น โดยผลผลิตมะม่วงเขียวเสวยล็อตนี้จะถูกส่งออกไปทางเครื่องบิน ใช้เวลาในการเก็บเกี่ยว การอบไอน้ า การส่งออก และจ าหน่ายถึงมือผู้บริโภค ประมาณ 8 –..10 วัน โดยการจ าหน่ายผ่านตัวแทนจ าหน่ายในประเทศญี่ปุ่น และการบริการส่งตรง ถึงหน้าบ้าน (Delivery)ส าหรับผลการเจรจาในครั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้สั่งซื้อมะม่วงเขียวเสวยคุณภาพ จ านวน 1 ตัน ก าหนดส่งมอบผลผลิตในวันที่ 7 พฤศจิกายน 2568โดยมะม่วงดังกล่าวได้ผ่านกระบวนการตรวจสอบสารเคมีตกค้าง ได้แก่ คลอร์ไพริฟอสและโพรพิโคนาโซล กับกรมวิชาการเกษตร ตามเงื่อนไขด้านความปลอดภัยอาหาร “สารเคมีตกค้าง” ของกระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการ ของประเทศญี่ปุ่น ท าให้ผลผลิตของเกษตรกรอ่างทอง พร้อมส าหรับการส่งออกในทันที ทั้งนี้ นายก าไร เชยชม เคยมีการส่งออกมะม่วงเขียวเสวยไปยังประเทศญี่ปุ่น และปัจจุบันได้มีการส่งออกมะม่วงเขียวเสวยไปยังสาธารณรัฐเกาหลี และราชอาณาจักรภูฏาน อีกด้วยจากการลงพื้นที่ เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 โดยนางวินดา เหลี่ยมสมบัติ เกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง นายสุรพงษ์ เนตรพระ เกษตรจังหวัดอ่างทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้น าผู้แทนจาก บริษัท พีแอนด์เอฟ เทคโน จ ากัด ลงพื้นที่สวนมะม่วงของ นายก าไร เชยชม เกษตรกรผู้ปลูกมะม่วงเพื่อการส่งออก ต.ยี่ล้น อ.วิเศษชัยชาญ เพื่อเจรจาการซื้อขายมะม่วงเพื่อการส่งออก ทั้งในเรื่องคุณภาพและราคา การซื้อขายตามที่ตลาดญี่ปุ่นต้องการ โดยทางเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง และเกษตรจังหวัดอ่างทอง ท าหน้าที่เป็นตัวกลางในการอ านวยความสะดวกการเจรจาเงื่อนไขการรับซื้อระหว่างเกษตรกรและบริษัทฯ ผู้ส่งออกให้เป็นไปตามมาตรฐานการส่งออกอย่างเคร่งครัด ปัจจุบัน ญี่ปุ่นอนุญาตให้น าเข้าผลไม้จากประเทศไทย (ผลไม้ผลสด) จ านวน 8 ชนิด ได้แก่ มะม่วง 7 สายพันธุ์ (น้ าดอกไม้ โชคอนันต์ มหาชนก แรด เขียวเสวย พิมเสนแดง และหนังกลางวัน) มังคุด ทุเรียน กล้วย ส้มโอพันธุ์ทองดี มะขาม มะพร้าว และสับปะรด โดยในปี 2567 มีปริมาณการส่งออกมะม่วงของไทยไปยังประเทศญี่ปุ่น จ านวน 1,163 ตัน เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีปริมาณการส่งออก จ านวน 978 ตัน หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 18.84 และมีมูลค่าการส่งออกมะม่วง ปี 2567 จ านวน 871 ล้านเยน คิดเป็นมูลค่า 206 ล้านบาท (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยปี 2567ค่าเงิน 100 เยน เท่ากับ 23.6613 บาท)
1น าร่องเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง เข้าร่วมโครงการขยายผลเทคโนโลยีตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU)26 พฤศจิกายน 2568 นางวินดา เหลี่ยมสมบัติ พร้อมด้วยนางสาวกรกนก กวางแก้ว นักวิเคราะห์นโยบายและแผนปฏิบัติการ ส านักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดอ่างทอง เข้าร่วมประชุมหารือแนวทางการด าเนินงานวิจัยและส ารวจศัตรูส้มโอในแปลงเกษตรกรที่ร่วมโครงการขยายผลเทคโนโลยีตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์ เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) ณ แปลงใหญ่ส้มโอ ต าบลวังน้ าเย็น อ าเภอแสวงหา จังหวัดอ่างทอง โดยมี นายสิทธิศักดิ์ แสไพศาล ผู้อ านวยการกลุ่มวิจัยโรคพืช ส านักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร เป็นประธานการประชุม พร้อมด้วยเกษตรอ าเภอแสวงหา และเจ้าหน้าที่จากส านักวิจัยและพัฒนาการเกษตร เขตที่ 5ส านักงานเกษตรจังหวัดอ่างทอง ส านักงานเกษตรอ าเภอแสวงหา และเกษตรกรกลุ่มแปลงใหญ่ส้มโอต าบลวังน้ าเย็น นายสิทธิศักดิ์ แสไพศาล ผู้อ านวยการกลุ่มวิจัย โรคพืช ส านักวิจัยพัฒนาการอารักขาพืช กรมวิชาการเกษตร ได้ชี้แจงแนวทางการด าเนินงานโครงการขยายผลเทคโนโลยี การตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์ เพื่อการส่งออกในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง พร้อมทั้งให้ค าแนะน าเกษตรกรในการจัดการแปลงส้มโอ และการเก็บตัวอย่าง ในแปลงส้มโอเพื่อตรวจโรคแคงเกอร์และแมลงศัตรูในส้มโอ พร้อมทั้งลงพื้นที่ส ารวจแปลงส้มโอ ของเกษตรกรจ านวน 2 ราย ได้แก่ นายสีน้ า แฟงรักษ์ และนายภาณุวัฒน์ ใจสุขโครงการขยายผลเทคโนโลยีตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์เพื่อส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) มีวัตถุประสงค์เพื่อขยายผลเทคโนโลยีการตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์เพื่อการส่งออก ในพื้นที่จังหวัดอ่างทอง มีระยะเวลาด าเนินการ 1 ปี 6 เดือน (ตุลาคม 2568 -มีนาคม 2570) โดยผลผลิตของโครงการนี้ คือ เทคโนโลยีการตรวจรับรองแปลงส้มโอปลอดโรคแคงเกอร์เพื่อการส่งออก ในพื้นที่ จ.อ่างทอง และแปลงต้นแบบในการผลิตส้มโอ ปลอดโรคแคงเกอร์เพื่อการส่งออก ในพื้นที่ จ.อ่างทอง
1
9